[เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]  (อ่าน 2794 ครั้ง)

ออฟไลน์ blingsmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2017 01:29:45 โดย blingsmay »

ออฟไลน์ blingsmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅
«ตอบ #1 เมื่อ24-12-2015 16:33:20 »

❅❅❅❅❅❅❅❅❅❅




One More Chance





รอยยิ้มเล็กๆประดับบนใบหน้าจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอม ดวงตาเรียวรียิบหยีหากแต่ดูหม่นหมองเมื่อมองออกไปภายนอกบานหน้าต่างใสที่ตอนนี้กำลังมีเกล็ดหิมะสีขาวโปรยปรายอยู่


กลิ่นหอมของขนมอบที่คนตัวเล็กได้ทำเอาไว้ลอยมาเตะจมูก สองขาก้าวเดินไปยังตู้อบขนมที่อยู่ในครัวก่อนจะถือถาดคุกกี้ออกมาจากเตาแล้ววางไว้บนเคาท์เตอร์ นิ้วเรียวหยิบขนมชิ้นเล็กขึ้นมากัดหนึ่งคำ รสชาติของส่วนผสมต่างๆที่เข้ากันดีบวกกับความกรุบกรอบที่พอดีกันอย่างลงตัวเรียกรอยยิ้มถูกใจจากคนทำ


หวังว่าใครคนนั้นจะชอบด้วยเหมือนกัน


มือเรียวสวยค่อยๆบรรจงเก็บคุกกี้ที่ทำเอาไว้ใส่ในขวดโหลใสใบเล็กๆ พร้อมกับผูกโบว์สีขาวไว้รอบขวดโหลด้วย


ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดึงความสนใจจากคุกกี้ในมือไป หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่


จะเป็นเขาหรือเปล่านะ?


ไม่รอช้า สาวเท้าก้าวอย่างรวดเร็วไปที่หน้าประตู แล้วหมุนลูกบิดประตูเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่มายืนอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับถือซองจดหมายไว้ในมือ


"ของคุณคิมหันต์ครับ"


บุรุษไปรษณีย์ยื่นซองจดหมายให้กับร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มให้กับคนตัวเล็กที่แอบทำสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย


"ขอบคุณครับ"


ก้มหัวให้น้อยๆก่อนจะรับซองจดหมายเข้ามาภายในตัวบ้านอีกครั้ง ทิ้งกายลงบนโซฟาหนังสีขาวที่ตั้งอยู่ในมุมห้องนั่งเล่นแล้วพลิกดูเจ้าของชื่อคนส่งจดหมายนี่มาให้เขา


เหมันต์


คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยเพราะแปลกใจที่เห็นน้องชายตัวเล็กของเขาส่งจดหมายมาให้ภายในเดือนนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ปกติแล้วเหมันต์หรือต้นหนาวมักจะส่งจดหมายมาถึงเขาเพียงหนึ่งฉบับในทุกๆเดือนเพื่อเขียนถามสารทุกข์สุขดิบและเล่าเรื่องต่างๆที่ได้เจอมา แม้ว่ายุคสมัยนี้จะไม่ค่อยมีใครเขียนจดหมายส่งหากันแบบนี้แล้วก็เถอะ แต่คิมหันต์กลับเห็นว่ามันก็เป็นสิ่งที่น่ารักและดูอบอุ่บซึ่งสามารถสัมผัสได้จากลายมือของคนที่เขียนมาให้จึงยังคงเขียนจดหมายตอบกลับไปให้น้องชายของตนที่อยู่ที่ไทยด้วย


มือเรียวใช้กรรไกรตัดด้านข้างของซองจดหมายออกอย่างระวังก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษสีครีมที่มีกลิ่นหอมคล้ายๆกลิ่นกุหลาบพร้อมกับกระดาษสีขาวที่เต็มไปด้วยลายมือเรียบร้อยและอ่านง่ายของเจ้าของจดหมายออกมา คิมหันต์เลือกที่จะอ่านกระดาษสีครีมก่อนพลางจิบกาแฟลาเต้รสนุ่มละมุนที่แอบชงเอาไว้เมื่อกี้

 
ปรมินทร์  ♥ เหมันต์


เมื่อไล่อ่านตามตัวอักษรทำให้ดวงตาเรียวต้องเบิกกว้าง


นี่มันการ์ดแต่งงาน!


ก๊อก ก๊อก


ก่อนที่คิมหันต์จะได้เปิดอ่านจดหมายที่น้องชายเขียนเพิ่มเติมมาอีกฉบับก็เป็นอันต้องพับเก็บไป แล้วเดินมาเปิดประตูด้วยความหวังอีกครา


"สวัสดีครับ"


ชายหนุ่มผู้ซึ่งสวมเสื้อโค้ทตัวหนาพร้อมมีหน้าตาอันหล่อเหลารับกับจมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากอิ่มที่แย้มยิ้มให้กับคนตัวเล็ก ดวงตาคมสีสนิมสบกับดวงตาเรียวสีน้ำตาลเข้มที่เบิกกว้าง ริมฝีปากบางสีชมพูนมอ้าค้างไม่มากนักแต่ก็ทำให้ร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางน่าเอ็นดูของคนตัวเล็กนี่


พลันสายตาก็แอบเห็นฟองนมที่เปรอะอยู่เหนือริมฝีปากบางของคนที่ส่งยิ้มตอบกลับมา ใบหน้าคมหันกลับมามองที่มือของตัวเอง
มือข้างขวาถือร่มกางไว้เหนือศีรษะ มือข้างซ้ายก็ถือช่อดอกทิวลิปสีชมพูและสีม่วงเอาไว้


ไม่ต้องคิดมากให้เสียเวลา ใบหน้าหล่อเคลื่อนจนอยู่ในระดับเดียวกันกับคนตรงหน้าก่อนจะแนบริมฝีปากอิ่มลงบนเหนือริมฝีปากบางเล็กน้อยแล้วใช้ปลายลิ้นละเมียดชิมรสชาติของฟองนมที่เปรอะอยู่ ก้อนเนื้อในอกของคนตัวเล็กเต้นถี่รัวส่งผลให้พวงแก้มใสร้อนผ่าวขึ้นสีแดงเรื่อ


"กินเลอะเทอะจัง แต่ฟองนมที่นายทำยังอร่อยเหมือนเดิมเลยน้า"


เสียงทุ้มเอ่ยออกมาหลังจากผละออกไปยืนเหมือนเดิมแล้ว


"มะ...มาร์ตี้"


นัยน์ตาเรียวรีสีเข้มสบเข้ากับดวงตาคมของร่างสูง แล้วก้มหน้างุดหลบสายตาแพรวพราวที่อีกคนส่งมาให้


"ออกมาแป๊บเดียวหนาวจนแก้มแดงเลยเหรอ ไปๆ เข้าบ้านกัน"


มือใหญ่วางร่มที่ถือไว้หน้าประตูบ้านก่อนจะโอบไหล่บางให้เดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน


การกระทำที่อ่อนโยนและนุ่มนวลนั้นไม่ว่ากี่ครั้งก็เป็นอันตรายต่ออัตราการเต้นของหัวใจมากเหลือเกิน


"อ่ะ ให้"


มาร์ติเนซยื่นช่อดอกทิวลิปที่มีทั้งดอกสีม่วงและดอกสีชมพูอยู่ในช่อให้ร่างบางที่นั่งลงบนโซฟาข้างๆกัน


ดอกทิวลิปสีชมพู แทนความสุขสมหวัง ความรักที่ลึกซึ้ง และความคิดถึง


ดอกทิวลิปสีม่วง แทนความซื่อสัตย์และมั่นคงต่อความรู้สึก


ซื่อสัตย์และมั่นคงในความรักลึกซึ้งที่มีให้คนที่คิดถึงและรักจนหมดหัวใจคนนี้เพียงคนเดียว


"ขอบคุณนะ"


คิมหันต์เอ่ยคำขอบคุณแล้ววางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะกระจกใสที่ตั้งอยู่ตรงหน้าโซฟา ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าสวยประทับจุมพิตลงบนแก้มสากของคนรักแผ่วเบา


"แค่นี้เองเหรอ"


มาร์ติเนซกอดอกแล้วพองแก้มเหมือนเด็กชายตัวน้อยที่งอแงไม่พอใจเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ


"จะเอาอะไรล่ะครับ หืม"


สองมือเรียวนาบลงบนแก้มของคนเอาแต่ใจให้หันมามองหน้ากันตรงๆ


"ตรงนี้"


นิ้วชี้ลงบนริมฝีปากอิ่มก่อนจะยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์


"นี่แน่ะ"


หัวเราะในลำคอก่อนที่ปลายนิ้วเรียวสวยจะตีเบาๆลงบนนั้นแทน


 "อื้อ..."


เมื่อไม่ได้ดังใจ คนเอาแต่ใจเลยยื่นหน้าเข้าไปขโมยจูบอีกคนโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว เรียวปากอิ่มขบเม้มเบาๆลงบนริมฝีปากสีชมพูนมอย่างออดอ้อนให้ช่วยเปิดทางเพื่อจะได้เข้าไปฉกชิมความหวานจากทางด้านในแต่ทว่ามือเรียวกลับดันอกกว้างผละออกมาก่อนจะใช้สองแขนกอดเข้าที่เอวสอบของคนรักแล้วมุดหน้าซบลงบนอกกว้าง


"ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ คิดถึงจังครับ"


มาร์ติเนซเอ่ยยิ้มๆ จมูกโด่งสูดความหอมจากกลุ่มผมนุ่มของร่างบาง


"อื้อ คิดถึงเหมือนกัน ขอบคุณที่มานะ"


คิมหันต์ผละออกมาอีกครั้งแล้วฉีกยิ้มกว้างอย่างรู้สึกขอบคุณจากหัวใจให้มาร์ติเนซ หากแต่นัยน์ตาหวานกลับดูเศร้าลงเมื่อนึกถึงจุดประสงค์ที่เขาเรียกให้อีกคนมาหาแม้ว่าอีกคนจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการบินข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาหาเขาก็ตาม


"ได้หยุดพอดีก็เลยรีบมาหาเลย"


ร่างสูงนอนลงบนตักนิ่มของคิมหันต์ก่อนจะคว้ามือเรียวมากุมเอาไว้


"จะคริสต์มาสแล้วนี่นะ คุณแม่นายสบายดีหรือเปล่า"


เมื่อเอ่ยถามคำถามนี้แล้วต้องพยายามกดเก็บความรู้สึกเอาไว้ กลัวว่าเสียงที่เปล่งออกไปจะสั่นเพราะก้อนสะอื้นที่มันจ่ออยู่ในลำคอขาวนี้


"ก็สบายดี ช่างแม่ฉันเถอะ ฉันอุตส่าห์บินมาหานายเลยนะ เรามาพูดแต่เรื่องของเราดีกว่า"


"ถ้ามันลำบากขนาดนั้น นายไม่ต้องมาก็ได้นี่"


คิมหันต์พูดขึ้นทันทีที่มาร์ติเนซเปลี่ยนเรื่อง หากแต่มาร์ติเนซไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรกลับคิดเสียว่าคิมหันต์คงน้อยใจที่ตัวเองใช้คำว่าอุตส่าห์ล่ะมั้ง


"ไม่หรอก เพื่อคิมหันต์ที่รัก ต่อให้ต้องขึ้นรถลงเรือขี่เครื่องบินจับตั๊กแตน ยังไงก็ต้องมาให้ได้อยู่แล้ว"


"ฮ่าๆ ขี่เครื่องบินจับตั๊กแตนอะไรของนาย ลุกๆ ฉันจะเอาดอกไม้ไปใส่แจกันก่อนที่มันจะเหี่ยวเหมือนหน้าคนที่ให้เสียก่อน"


ร่างบางหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วลุกขึ้นทันทีที่พูดจบโดยไม่ฟังเสียงโวยวายของมาร์ติเนซที่บอกว่าตัวเองไม่ได้เหี่ยวตามที่ว่า ก่อนจะหลบเข้าไปในครัวเพื่อเอาแจกันทรงสูงสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะทิ้งดอกไม้เหี่ยวๆที่อยู่ในนั้นลงในถังขยะ แล้วถือแจกันออกไปวางไว้บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาข้างๆกับช่อดอกทิวลิปสีชมพูและสีม่วง


"นายรู้ความหมายของมันใช่มั้ย"


มาร์ติเนซลุกขึ้นนั่งข้างๆคิมหันต์ที่หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาอีกครั้ง


"ไม่แน่ใจ"


คิมหันต์แอบอมยิ้ม จริงๆแล้วก็รู้นั่นแหละเพียงแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เพราะอยากจะฟังจากปากของคนให้มากกว่า


"ทิวลิปสีชมพูนี่ หมายถึงความสุขสมหวัง ความรักที่ลึกซึ้ง และความคิดถึง ส่วนสีม่วงเนี่ยหมายถึงความซื่อสัตย์และมั่นคงต่อความรู้สึกล่ะ"


มือใหญ่หยิบดอกไม้ต่างสีกันขึ้นมาชูต่อหน้าคนรักแล้วอธิบายให้ฟังด้วยรอยยิ้มและสายตาที่สื่อว่ารู้สึกตามที่ได้พูดไปจริงๆ
"แหวะ เน่าชะมัด"


คิมหันต์ย่นจมูกพร้อมกับเอ่ยอย่างไม่จริงจังนักแค่พอแก้เขินเท่านั้น


"ไม่เน่านะ ดมดูได้"


มาร์ติเนซพองแก้มแล้วยื่นไปใกล้ปลายจมูกโด่งรั้นของร่างบางที่ง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ใส่แจกัน


"ทะลึ่งแล้ว นั่งดีๆ ก่อนที่ปลายกรรไกรมันจะเสียบอยู่ที่พุงของนาย"


คนตัวเล็กกว่าชูกรรไกรตัดแต่งกิ่งขึ้นขู่ร่างสูงที่คอยลักเล็กขโมยน้อยกับร่างกายของเขาอยู่เรื่อย


"โอเค ยอมแล้วครับ"


สองมือยกขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ ก่อนจะนั่งพิงโซฟาแล้วมองดูอีกคนจัดดอกไม้ด้วยความตั้งอกตั้งใจอย่างเงียบๆ รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเพียงแค่ได้นั่งมองคนที่รักและคิดถึงอยู่ตลอดเวลา


"นายไม่คิดจะกลับไปอยู่ไทยบ้างเหรอ ไปอยู่กับฉันไงที่รัก"


มาร์ติเนซเอ่ยถามคำถามนี้ทุกครั้งที่เขาได้มาหาคิมหันต์ที่นี่ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในหุบเขา Val Gardena ประเทศอิตาลี ตอนนี้หุบเขานั้นขาวโพลนเพราะถูกปกคลุมไปด้วยปุยหิมะเมื่อได้ย่างเข้าสู่ฤดูเหมันต์ บ้านหลังนี้ของคิมหันต์เป็นบ้านเช่าชั้นเดียวหลังเล็กๆหากแต่ภายในถูกตกแต่งจนน่ารักเหมาะกับคนตัวเล็กและมีความอบอุ่นอบอวลอยู่เต็มไปหมด


"นายอยากกินคุ้กกี้หรือเปล่า เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ"


คิมหันต์เสียบก้านดอกทิวลิปดอกสุดท้ายลงในแจกัน ก่อนจะทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเพราะยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ในตอนนี้


"เอาสิ ขอโกโก้ร้อนๆด้วยนะครับ"


มาร์ติเนซลอบถอนหายใจออกมาเพราะร่างบางหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ของเขาอีกแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลย คงมีสักครั้งที่คิมหันต์จะตัดสินใจได้เสียที










วันนี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟแต่เหลือเพียงไม่กี่นาทีก็จะเข้าสู่วันคริสต์มาสแล้ว เจ้าของดวงตาคมสีสนิมนั่งมองคนรักที่กำลังจัดตกแต่งต้นสนต้นเล็กๆภายในบ้านเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสในวันพรุ่งนี้ ทั้งต้นถูกประดับประดาไปด้วยตุ๊กตาตัวเล็กๆ ลูกบอลลูกกลมๆหลายสี และหลอดไฟหลอดเล็กๆ ใต้ต้นมีตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวไม่ใหญ่มากอยู่สองตัว


"นายว่ามันโอเคมั้ย"


เมื่อตกแต่งจนพอใจแล้ว คิมหันต์จึงหันกลับมาถามความเห็นของร่างสูงที่นั่งคอยส่งของให้อยู่ข้างๆกัน


"โอเคมากครับ น่ารักมาก"


มาร์ติเนซยิ้มกว้างให้คิมหันต์พร้อมกับฉกฉวยหอมแก้มเนียนไปหนึ่งฟอด


"ตลอดเลย นี่ ออกไปเดินเล่นในหมู่บ้านกันไหม"


คนตัวเล็กเอ่ยชวนพร้อมกับดึงแขนให้มาร์ติเนซลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อโค้ทสองตัวที่แขวนไว้ตรงที่แขวนเสื้อโค้ทข้างประตูหน้าบ้าน


"เตรียมให้พร้อมขนาดนี้ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง ฮ่าๆ ล้อเล่น ไปครับๆ"


มาร์ติเนซรับเสื้อโค้ทที่คิมหันต์ส่งมาให้ก่อนจะเอ่ยแซวคนรัก ทำให้คิมหันต์ยกมือขึ้นตีไหล่กว้างไม่แรงนัก ร่างสูงเกรงว่าอีกคนจะโกรธตัวเองเสียก่อนเลยรีบสวมเสื้อโค้ทแล้วจับจูงมือบางให้เดินออกมานอกบ้านด้วยกันเพื่อไปยังกลางหมู่บ้าน


ทั้งสองเดินเคียงกันไปท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บบาดผิวกายจนปลายจมูกของทั้งสองขึ้นสีชมพูระเรื่อ หากแต่ไออุ่นจากฝ่ามือที่กอบกุมกันไว้ทำให้คลายความหนาวลงได้มาก


ยิ่งเดินเข้าใกล้จุดหมายเท่าไหร่ยิ่งได้ยินเสียงเพลงและเสียงคุยกันครึกครื้นมากเท่านั้น ข้างทางถูกประดับประดาไปด้วยหลอดไฟที่ส่องสว่างระยิบระยับไม่แพ้ดวงดาวที่ส่องแสงอยู่บนท้องนภายามราตรี เมื่อเดินมาถึงกลางหมู่บ้านทั้งสองยิ่งกระชับมือให้แน่นขึ้นเพราะคนที่มาท่องเที่ยวมีเยอะพอสมควร


ภายในบริเวณนั้นมีต้นสนต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางลานซึ่งถูกประดับประดาไปด้วยลูกบอลหลากสี ตุ๊กตาตัวเล็กๆมากมายและหลอดไฟกระพริบหลายดวงเปล่งประกายระยิบระยับ มีโคมไฟรูปดาวสีเหลืองติดไว้บนยอดสุดของต้น ใต้ต้นมีกล่องของขวัญขนาดเล็กใหญ่อยู่ประปรายหากแต่ดูก็รู้ว่าภายในคงไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้นเป็นแน่


มาร์ติเนซจูงมือคิมหันต์ไปยังหน้าต้นสนต้นนั้นแล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาก่อนจะบังคับให้คิมหันต์ถ่ายรูปด้วยกันเพื่อเก็บภาพเป็นความทรงจำเอาไว้ เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ที่เขากับคนรักได้คบกันมาสี่ปีแล้ว และปีนี้ถือเป็นคริสต์มาสปีที่ห้าของทั้งสอง


"ไปเต้นรำกัน"


ร่างสูงชี้ไปยังบริเวณหนึ่งที่มีวงดนตรีบรรเลงเพลงเต้นรำจังหวะช้าๆและมีคู่รักจำนวนไม่น้อยที่เต้นรำอยู่ตรงนั้น คิมหันต์พยักหน้าก่อนจะพากันเดินไปยังบริเวณนั้น


สองแขนแกร่งสอดเข้าที่เอวคอดบางของคนรัก สองมือเรียวสวยวางลงบนบ่ากว้าง สายตาทั้งสองสบประสานกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า เท้าของทั้งสองเคลื่อนไปตามจังหวะโดยที่มาร์ติเนซเป็นคนนำและคิมหันต์ก็ขยับตาม


ตึ๊ง... ตึ่ง...


เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาว่าได้เข้าสู่วันคริสต์มาสแล้ว


"จูบได้ไหม"


มาร์ติเนซกระซิบชิดใบหูของคนในอ้อมแขนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบางสิ่งบางอย่างที่แขวนอยู่เหนือศีรษะของทั้งคู่


ต้นมิสเซิลโท...


คิมหันต์พยักหน้าน้อยๆก่อนจะหลับตา ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนจะประทับจุมพิตลงบนกลีบปากหยุ่นสีชมพูนมอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม


ตามความเชื่อที่ว่าหากคู่รักได้จุมพิตกันใต้กิ่งของต้นมิสเซิลโทจะทำให้ครองรักกันได้นานชั่วนิจนิรันดร์ ซึ่งทั้งสองได้ทำแบบนี้ในทุกๆปีที่คบกันเพื่อหวังว่าความรักของพวกเขาจะเป็นแบบนี้ไปตราบเท่าที่จะตายจากกันไป


หากแต่ความเชื่อนั้นเป็นแค่เพียงความเชื่อ...


ในขณะที่กำลังรับจูบที่ดูดดื่มจากร่างสูงน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ค่อยๆไหลออกมาทางหางตา เมื่อปลายนิ้วของมาร์ติเนซที่ประคองได้สัมผัสกับหยดน้ำตาของคนรักจึงค่อยๆถอนจูบออกมาจากริมฝีปากก่อนจะจูบซับน้ำตาที่ยังคงไหลลงมาเรื่อยๆ ความรู้สึกที่อัดอั้นเอาไว้มานานแรมปีกำลังปะทุออกมาอย่างยากที่จะปิดมันเอาไว้ได้อีกแล้ว


"มาร์ตี้..."


คิมหันต์เอ่ยชื่อของคนรักออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ


"ครับที่รัก เป็นอะไรเนี่ย หืม"


มาร์ติเนซให้คิมหันต์ซุกหน้าไว้ที่ไหล่ของตนก่อนจะโอบพาคนรักออกมาให้ห่างจากบริเวณลานที่มีผู้คนพลุกพล่าน แล้วยืนกอดปลอบคนในอ้อมกอดที่เขาเป็นห่วงว่าเป็นอะไรหรือเปล่า


"เรา...เราเลิกกันเถอะนะ"


ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา หากแต่ประโยคที่ร่างบางเอ่ยออกมานั้นทำให้หัวใจของทั้งสองแทบจะหยุดเต้นไป


"ล้อเล่นใช่มั้ย ฮ่าๆ ไม่เอาสิที่รัก อย่าล้อเล่นกันแบบนี้สิ"



มาร์ติเนซหัวเราะออกมาเสียงแห้ง แล้วปฏิเสธที่จะคิดว่าเรื่องที่คนตรงหน้าพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริง


"มาร์ตี้ฟังฉันนะ ที่ฉันให้นายรีบมาที่นี่ก่อนวันคริสต์มาสหลายๆวันเพื่อที่ฉันจะได้ยื้อเวลาที่จะได้อยู่กับนายให้นานออกไปอีกสักหน่อย แต่ว่ามันยิ่งกลับทำให้ฉันไม่อยากทำแบบนี้เลย ฉันรักนายนะมาร์ตี้ แต่ว่า..."


คิมหันต์พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น แต่หยาดน้ำตายังคงไหลออกมาเลอะใบหน้าหวานอยู่อย่างนั้น


"ฉันลองคิดทบทวนมาตลอดว่าถ้าเราคบกันอยู่แบบนี้ไปนานกว่านี้เราจะทนได้หรือเปล่า เราต้องอยู่ห่างกันแบบนี้ นานๆทีถึงจะได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน ฉันกลัว กลัวไปหมด กลัวว่านายจะมีคนอื่นหรือเปล่า กลัวว่ารักของเราจะจางหายไปหรือยัง เพราะฉันไปอยู่กับนายไม่ได้ แม่ของนายโทรมาหาฉันปีละหลายครั้ง เธอบอกว่าอยากให้นายมีครอบครัว อยากให้นายมีหลานให้เธออุ้ม เธอไม่ได้บังคับให้เราเลิกกันหรอกนะ แต่ว่าฉัน...ฉันคิดดีแล้วว่าเราควรเลิกกัน เผื่อนายจะได้ไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องเทียวบินไปบินมาอยู่แบบนี้ ไม่ต้องทนเหงา ไม่ต้องทนคิดถึงกันอีกแล้ว..."


คำพูดมากมายที่คนตรงหน้าพูดออกมาช่างทำร้ายจิตใจกันเหลือเกิน


"ถ้านายต้องการแบบนั้น...เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้านายคิดว่าเวลาสี่ห้าปีที่เราคบกันมามันไม่มีค่าไม่มีความหมายอะไร และมันไม่ได้พิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันรักนายมากแค่ไหน นายก็ไปเถอะ กลับไปที่บ้านของนายตอนนี้ได้เลย"


มาร์ติเนซก้มหน้าลงพร้อมกับกลั้นความรู้สึกเสียใจที่มันเริ่มตีตื้นขึ้นมา และตอนนี้มันกำลังจะกลั่นเป็นหยดน้ำตาออกมาแล้ว เขาไม่อยากให้คนตรงหน้าเห็นว่าเขาอ่อนแอเพียงเพราะคำพูดที่คล้ายว่าจะดูถูกความรักที่เขามีให้แก่ร่างบางจนทำให้หัวใจของเขารู้สึกเจ็บปวดได้มากมายขนาดนี้


ทั้งๆที่คิดว่ารักกันมากแต่จริงๆแล้วคงเป็นมาร์ติเนซคนเดียวที่รักคิมหันต์มากเกินไป


"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่นายเคยทำให้ฉัน ฉันสัญญาว่าจะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป ขอโทษนะมาร์ติเนซ ฉันรักนาย"


ขาเรียวค่อยๆก้าวถอยหลังออกห่างจากชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก แม้ปากจะเอ่ยถ้อยคำทำร้ายจิตใจหากแต่ใครจะรู้ว่าข้างในคิมหันต์ก็รักมาร์ติเนซไม่ต่างจากที่มาร์ติเนซรักตนเลย


"ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ กลับไปได้แล้ว"


มาร์ติเนซเงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง สายตาเย็นชาและว่างเปล่าถูกส่งให้คนตรงหน้า


สายตาของนาย เย็นยิ่งกว่าหิมะอีกนะมาร์ตี้ เย็นจนหนาวไปถึงขั้วหัวใจของฉันเลย ฉันขอโทษ ฉันรักนาย ฉันไม่ได้อยากจะทำแบบนี้


ทำได้เพียงแค่ร่ำร้องภายในใจ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป ปล่อยให้น้ำตาโง่ๆมันไหลออกมาเสียให้พอ ในเมื่อเป็นคนที่ตัดสินใจที่เลือกให้มันเป็นแบบนี้แล้ว จะให้หันหลังเดินกลับเข้าไปขอร้องอ้อนวอนเขาก็คงไม่รับฟังอีกแล้ว และก็คงไม่มีวันที่จะได้เจอกันอีกแล้ว เพิ่งรู้ว่าแม้คราวก่อนมาร์ติเนซจะกลับไปแต่หัวใจไม่เคยหนาวขนาดนี้ หนาวจนทนแทบไม่ไหว เจ็บปวดเหลือเกิน


เมื่อร่างบางเดินลับสายตาไปแล้ว หมดเรี่ยวแรงที่จะยืนต่อไป น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมา มาร์ติเนซทรุดนั่งลงกอดเข่าบนพื้นก่อนจะปล่อยให้น้ำตามันชะล้างความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการที่คนที่เขารักพูดจาทำร้ายกันขนาดนั้น ทำไมหรือ ความรักที่เขามีให้ไปมันยังไม่มากพออีกหรือไง เขาที่ต้องบินจากไทยมายังอิตาลีทุกครั้งที่มีโอกาสเพื่อมาหานี่ยังเป็นบทพิสูจน์ไม่เพียงพออีกงั้นหรือ จากที่เคยคิดว่าระยะทางไม่ใช่อุปสรรคของความรัก แต่เวลานี้มันคงจะใช่แล้วล่ะ


ทำไมไม่เคยเชื่อใจกันบ้างเลย แต่ถ้านายเลือกแบบนี้ถ้ามันทำให้นายมีความสุขฉันก็คงต้องยอม และในเมื่อหัวใจฉันมันเป็นของนายไปแล้ว ฉันจะไม่ขอคืนมันหรอกนะ ฉันรักนาย...คิมหันต์


ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ หากแต่เมื่อมันถึงจุดที่อารมณ์อ่อนไหวมีมากกว่าความมั่นคงและเชื่อมั่นในความรักเมื่อใด ความสัมพันธ์และความรู้สึกที่เคยมีต่อกันอาจถูกสั่นคลอนจนทำให้เกิดความกลัวขึ้นในใจ กลัวว่าจะกลายเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง...


มนุษย์ก็เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่เห็นแก่ตัว... ยอมละทิ้งจากสิ่งหนึ่งเพื่อไปหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่า...


บางทีมันอาจเป็นความคิดที่ผิด... และเป็นเพียงความเขลาที่คิดว่าคนที่เราทิ้งไปแล้วจะยังรักยังรอเราอยู่เสมอ...


แต่ทว่าความจริงกับความคิดเป็นคนละสิ่งกัน...


จงเชื่อมั่นในความรัก ดูแลและรักษามันเอาไว้ ซื่อสัตย์ต่อกันและเชื่อใจกันให้มาก ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีกแล้ว


โอกาสมันไม่ได้เป็นของเราเสมอไปหรอกนะ...




(มีต่อ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 03:38:17 โดย blingsmay »

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅
«ตอบ #2 เมื่อ24-12-2015 19:40:02 »

 :m16:คิมหันต์คิดอะไรของนาย?!
สงสารพระเอกจัง....

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅
«ตอบ #3 เมื่อ24-12-2015 20:03:21 »

จะเป็นยังไงต่อล่ะทีนี้

ออฟไลน์ blingsmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #4 เมื่อ24-12-2015 22:18:03 »

สายตาว่างเปล่าเหม่อมองไปยังต้นสนต้นใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยลูกบอลหลากสี ตุ๊กตาตัวเล็กๆมากมายและหลอดไฟกระพริบหลายดวงเปล่งประกายระยิบระยับ มีโคมไฟรูปดาวสีเหลืองติดไว้บนยอดสุดของต้น ใต้ต้นมีกล่องของขวัญขนาดเล็กใหญ่อยู่ประปรายหากแต่ดูก็รู้ว่าภายในคงไม่มีสิ่งใดอยู่นั้นเป็นแน่


ใกล้ถึงวันคริสต์มาสอีกแล้วสินะ


ดวงตาเรียวสวยอย่างคนเอเชียละสายตาจากต้นสนตรงหน้าก่อนจะมองบรรยากาศที่ถูกห้อมล้อมด้วยความเงียบเหงารอบๆหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในหุบเขา Val Gardena ประเทศอิตาลี หิมะสีขาวปกคลุมทั่วบริเวณ ดวงไฟที่ห้อยระย้าและหลังคาของตึกรามบ้านช่องก็ถูกปุยหิมะสีขาวปกคลุมไปด้วย

 
เวลาแบบนี้ใครจะออกมาเดินเล่นกัน หนาวออกซะขนาดนี้


ได้แต่คิดในใจแล้วก็พรั่งพรูลมหายใจออกมาทางกลีบปากสีชมพูนมจนเกิดเป็นละอองไอน้ำสีขาวจากความหนาวเย็นของอากาศ


คนตัวเล็กกระชับเสื้อโค้ทตัวหนาเข้าหาตัวก่อนจะออกก้าวเดินเพื่อกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง แต่ทว่าในกรอบสายตากลับเห็นใครบางคนยืนอยู่อีกฝั่งของต้นสนที่เป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสนี้ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย


คงเป็นใครสักคนที่ยังนอนไม่หลับเหมือนเราล่ะมั้ง หรือจะเข้าไปคุยเป็นเพื่อนเขาดี


ครุ่นคิดกับตัวเองเพียงครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมเป็นเดินทอดน่องเพื่อเข้าไปหาคนที่อาจจะเป็นเพื่อนบ้านสักหลังในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้


"I gaze out the window this cold winter's night
ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง สายลมที่หนาวเหน็บในค่ำคืนนี้

At all of the twinkling lights
แสงไฟส่องสว่างพร่างพราวระยับ

Alone in the darkness
เดียวดายในความมืดมิด

Remembering when you were mine...
หวนนึกถึงเมื่อตอนที่คุณเป็นของผม..."


เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยเปล่งคำร้องออกมาเป็นเพลงหากแต่ได้ยินแล้วเจ็บปวดในความรู้สึกเหลือเกิน


"Everybody's smiling
รอยยิ้มของทุกๆคน

The whole world is rejoicing
ทั้งโลกกำลังรื่นเริง

And everyone's embracing
และใครๆต่างโอบกอดกัน

Except for you and I...
ยกเว้นคุณและผมเท่านั้น..."

 
ยิ่งเมื่อเดินเข้าใกล้เจ้าของเสียงที่ร้องออกมามากเท่าไหร่ หัวใจก็ยิ่งเต้นถี่ขึ้นมากเท่านั้น
 

"Baby I miss you
ที่รัก...ผมคิดถึงคุณ

Most at Christmas time
ยามช่วงเวลาแห่งคริสต์มาส

And I can't get you
และผมไม่สามารถ...

Get you off my mind...
ผมไม่สามารถเลิกคิดถึงคุณได้เลย..."

รู้ตัวอีกทีก็หยุดยืนอยู่ข้างๆเขาเรียบร้อยแล้ว น้ำใสๆคลอเอ่อเต็มดวงตาทั้งสองข้าง
 

"Every other season comes along
ฤดูกาลผันเปลี่ยนเวียนกันไป

And I'm all right
และดูเหมือนผมยังสบายดี

But then I miss you, most at Christmas time...
แต่ผมกลับคิดถึงคุณเมื่อยามช่วงเวลาแห่งคริสต์มาสมาถึงอีกครา..."


คิดถึงจับหัวใจ....

นัยน์ตาทั้งสองคู่สบประสานกันในท่อนสุดท้ายที่เสียงทุ้มเปล่งออกมา แต่ทว่าร่างบางกลับก้มหน้าหลบสายตาอีกคนเพราะไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ธารสีใสไหลออกมาอย่างยากที่จะกักกั้นเอาไว้และหยดลงบนพื้นซึมลงในปุยหิมะสีขาวก่อนจะจางหายไปหากแต่หยดต่อไปก็ตกลงมาซ้ำที่เดิม


ร่างสูงที่ยืนมองอีกคนกลั้นเสียงสะอื้นไห้จนตัวสั่น แม้ว่าอยากจะเข้าไปกอดปลอบเหมือนอย่างเดิมแต่เมื่อนึกถึงคำพูดที่คนตัวเล็กเคยบอกเอาไว้ทำให้ต้องหยุดความคิดนั้นลง ทำได้เพียงยืนมองอยู่เงียบๆรออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีๆ


"ไง สบายดีนะ?"

เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าพยายามกลั้นความรู้สึกและเช็ดน้ำตาออกไปจากใบหน้าจนหมด ทิ้งไว้เพียงปลายจมูกรั้นที่ขึ้นสีแดงเรื่อแล้วเงยหน้าขึ้นมองกันได้แล้วจึงเอ่ยปากถามออกไป


"ก็สบายดี คุณล่ะ สบายดีนะ?"
 

โกหกคำโตเลยนะ เพิ่งจะร้องไห้ให้เห็นยังจะปากแข็งบอกมาได้ว่าสบายดี
 

"ก็อย่างที่เห็น ผมยังไม่ตาย"
 

ร่างสูงคิดในใจกับคำตอบที่ได้ยินจากปากของอีกคนแล้วตอบกลับอย่างประชดประชัน


บทสนทนาที่ดูห่างเหินทำให้หัวใจที่แสนบอบช้ำยิ่งอ่อนแอลง


เป็นคนที่เคยทำร้ายเขาเองนี่นะ เขาจะพูดแบบนี้มันก็สมควรแล้ว
 

"มาเที่ยวเหรอ"


ร่างบางแสร้งทำเป็นไม่สนใจประโยคหลังที่แอบประชดตัวเองแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง
 

"ก็ไม่เชิง และไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอคุณด้วยสิ"
 

ยังคงพูดจาทำร้ายจิตใจอีกคนอย่างจงใจ
 

"แล้วมาคนเดียวเหรอ"
 

"เปล่า ผมมากับผู้หญิงอีกคน เธอพักอยู่ห้องเดียวกับผมในโฮเทลแถวๆนี้แหละ"
 

นั่นสินะ... เขาคงมีคนรักใหม่แล้วสินะ แกมันโง่มากคิมหันต์ ทำไมยังงี่เง่าคิดว่าเขาจะยังไม่มีใครเหมือนกันอยู่ได้...
 

ความเจ็บปวดถูกส่งผ่านทางดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่สบอยู่กับนัยน์ตาคมสีสนิม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าร่างบางคงรู้สึกผิดที่เคยทำร้ายเขาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำหากแต่มันมีผลต่อความรักที่เขามีให้ต่อคนตรงหน้านี้ ความรักที่คิดว่ามันมากพอ แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถห้ามความอ่อนไหวที่มีอยู่ในใจของใครอีกคนได้เลย
 

อดีตก็คืออดีต... อดีตที่ส่งผลต่อความรู้สึกในปัจจุบัน...


"มาร์ติเนซ..."


คิมหันต์สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกาลังใจให้กับสิ่งที่จะพูดออกไปให้อีกคนได้รับรู้


"..."


มาร์ติเนซสบตาอีกคนนิ่ง สองมือยังคงล้วงกระเป๋าเอาไว้


"ผมไม่รู้จะพูดมันยังไงนะ แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นที่ผมเป็นคนเดินจากมาเหมือนผมทิ้งความสุขไว้ที่คุณ ผมรู้ว่าผมไม่ควรรู้สึกอย่างนั้นเพราะผมเป็นคนตัดสินใจเอง และผมรู้ว่าคุณก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกัน ในวันนี้คุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรแล้วแต่ผมยังคงรู้สึก ผมยังรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของคุณอยู่..."


"...ตอนที่เรายังคบกันแม้คุณจะกลับไปไทยแล้วแต่ผมก็ยังคงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แต่วันนั้นน่ะ มันหนาวมากเลยนะ หนาวจนแทบทนไม่ไหว จนไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปยังไง จนผมได้แต่หวังได้แต่รอว่าสักวันผมจะมีโอกาสได้เจอคุณอีกครั้ง ผมอยากจะขอให้ผมได้รักคุณอีกสักครั้ง ผมขอโทษนะที่คงจะหวังอะไรมากเกินไป แต่ผมอยากให้คุณรู้เอาไว้ว่าผมยังรักคุณอยู่นะ มาร์ตี้"


พูดมันออกไปแล้ว พูดออกไปหมดแล้วว่ารู้สึกยังไง ขอเพียงนายให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะมาร์ตี้


ร่างบางแทบจะกลั้นหายใจเพื่อรอคาตอบจากปากของคนที่อยู่ตรงหน้า ทั้งสองต่างยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบอยู่นานจนคิมหันต์เกือบจะถอดใจ หากแต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มผู้เป็นที่รักของเขานั้นทำให้หัวใจที่ตายไปแล้วกลับมาเต้นในจังหวะรักได้อีกครั้ง


"นึกว่าจะไม่พูดมันออกมาซะแล้ว วันนั้นน่ะนายใจร้ายมากเลยนะคิม"


มาร์ติเนซเดินเข้ามาชิดร่างบางก่อนจะใช้ปลายนิ้วเช็ดน้าตาที่รื้นขึ้นมาคลอหน่วยตาสวยเบาๆ


"ฉันก็ผิดเหมือนกันที่วันนั้นไม่ยอมฟังนาย ที่รีบบอกให้นายไปเพราะฉันกำลังโมโห ฉันไม่อยากทำร้ายนาย แต่พอฉันกลับไปอยู่คนเดียวแล้วฉันก็เริ่มเข้าใจว่าที่นายต้องการจะสื่อมันคืออะไร นายแค่หวั่นไหวและรู้สึกไม่มั่นคงเพราะฉันไม่ได้มีอะไรเป็นสิ่งแทนคำสัญญาให้นายเชื่อใจได้ว่าฉันจะไม่ทิ้งนายจริงๆใช่มั้ยล่ะ แค่ที่ฉันบินข้ามน้ำทะเลกว่าสิบชั่วโมงแค่บางครั้งบางคราวเพื่อมาหานายที่นี่มันไม่ได้ทำให้นายเชื่อใจฉันได้เลย"


"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ..."


"ชู่ว... ฟังก่อน ฉันยังพูดไม่จบ"


เมื่อคิมหันต์พูดขัดในขณะที่มาร์ติเนซยังพูดไม่จบ จึงใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆลงบนริมฝีปากบาง


"วันนี้ที่ฉันมาหานายก็เพราะว่าฉันเคลียร์กับแม่ของฉันแล้ว ที่นายบอกฉันตอนนั้นว่าแม่ของฉันโทรมาหานาย ฉันก็เลยไปคุยกับเธอว่าฉันรักนาย บอกเธอว่านายเป็นคนรักที่ดีมากแค่ไหน ถ้าแม่อยากจะอุ้มหลานไว้เราค่อยหาลูกบุญธรรมมาเลี้ยงกันก็ได้ เพราะฉันไม่สามารถเปิดใจรักใครได้อีกแล้วตั้งแต่วันที่ฉันได้เจอกับนาย มันอาจจะดูน้ำเน่าแต่นายก็คิดเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ"


ยังไม่ทันที่คิมหันต์จะพยักหน้าตอบรับ ก็มีผู้หญิงดูมีอายุคนหนึ่งเดินเข้ามายืนข้างๆมาร์ติเนซพร้อมกับแย้มยิ้มให้กับร่างบางที่ดูตกใจระคนสงสัยว่าเธอเป็นใครแต่ก็ก้มหัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม


"ใช่แล้วล่ะ ตามาร์ตี้ไม่เป็นอันกินอันนอนเลย เอาแต่ฟูมฟายจนแม่เหนื่อยใจและยอมแพ้ให้กับความรักของพวกเราแล้วจริงๆ ขอโทษด้วยนะหนูคิมที่แม่ทำให้หนูลำบากใจจนต้องตัดสินใจแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่ต้องคิดแบบนั้นแล้วนะ แม่ยินดีจริงๆที่มาร์ตี้ได้รักหนูและหนูเองก็รักลูกของแม่เหมือนกัน"


ทันทีที่ผู้หญิงคนนี้พูดจบทำให้คิมหันต์ได้รู้ว่าเธอเป็นแม่ของมาร์ติเนซที่เคยโทรมาหาเขา ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วเธอกลับใจดีกว่าที่คิดเอาไว้ คำพูดที่เธอเคยบอกเขาตอนนั้นว่าเธอไม่ได้บังคับให้ทั้งสองเลิกกัน แต่กลายเป็นเขาเสียเองที่ตีความผิดจนตัดสินใจพลาดไป


"คุณน้า..."


"เรียกแม่ก็ได้ หนูคิมนี่น่ารักเหมือนที่ตามาร์ตี้เคยเล่าให้แม่ฟังบ่อยๆเลย แค่แม่ได้มาเห็นว่าเรารักกันมากขนาดนี้แม่ก็เบาใจแล้วล่ะ แล้วถ้าคิมจะไปอยู่ด้วยกันกับแม่ที่ไทยแม่ก็ยินดีนะ นี่ของขวัญวันคริสต์มาส เมอร์รี่คริสต์มาสจ๊ะ"


"ขอบคุณครับแม่"


แม่ของมาร์ตี้ยื่นกล่องกระดาษไม่ใหญ่มากนักสีชมพูอ่อนที่ผูกด้วยโบว์สีแดงให้คิมหันต์ ก่อนจะจูบเบาๆที่ข้างแก้มของเขาพร้อมกับหันไปขยิบตาให้กับลูกชายตัวดีของเธอ คิมหันต์รับของเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณพร้อมกับหัวใจที่เต้นถี่รัวเพราะความดีใจ


"พาน้องกลับไปส่งที่บ้านด้วยนะมาร์ตี้ คืนนี้ก็ไปนอนด้วยกันนั่นแหละ แม่ไปนะ"


มาร์ติเนซจูบเบาๆที่ข้างแก้มของแม่ก่อนที่แม่จะเดินไปหาผู้ชายดูภูมิฐานคนหนึ่งที่ยืนโบกมือให้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คิมหันต์เห็นดังนั้นจึงก้มหัวทำความเคารพอีกครั้งเพราะคิดว่าคงจะเป็นพ่อของคนรักแน่ๆ ก่อนที่พ่อและแม่ของมาร์ติเนซจะพากันเดินกลับไปยังโรงแรมในละแวกนี้


"นี่พากันมาหมดบ้านเลยเหรอ"


คิมหันต์ที่ดึงสติตัวเองกลับมาได้แล้วเอ่ยถาม บอกทีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน


"ก็แค่อยากจะมาดูหน้าลูกสะใภ้"


มาร์ติเนซยิ้มกรุ้มกริ่มทำให้คิมหันต์เกือบจะพูดอะไรไม่ออก


"ลูกสะใภ้อะไรของนาย"


คนตัวเล็กกระแอมไอแก้เขินก่อนจะแสร้งตีหน้านิ่งกลบเกลื่อน


"จริงๆแล้วที่ฉันมาหานายที่นี่ เพราะว่า..."


ร่างสูงคุกเข่าลงบนพื้นก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ทแล้วยื่นออกมาตรงหน้า


"แต่งงานกับฉันนะ"


สิ้นคำพูดของมาร์ติเนซ ร่างบางก็ทรุดนั่งลงกอดคนที่อยู่ตรงหน้าเอาไว้แน่นพร้อมกับพยักหน้าแล้วปล่อยโฮออกมาด้วยความตื้นตันใจ นี่มันยิ่งกว่าที่เขาคาดหวังเอาไว้เสียอีก


"ร้องไห้อีกแล้ว ขี้แยเหมือนเดิมเลยนะครับ"


มาร์ติเนซพูดปลอบพร้อมกับที่มือใหญ่ลูบลงบนกลุ่มผมนิ่มของคนที่สะอื้นไห้ในอ้อมกอดเบาๆ


"ขอบคุณนะที่ให้โอกาสฉันอีกครั้ง ขอบคุณจริงๆ ฉันรักนายนะมาร์ตี้"


คิมหันต์ผละออกมาจากอ้อมกอดที่ยังคงอบอุ่นเหมือนอย่างเคยก่อนจะกดจูบเพียงผะแผ่วลงบนเรียวปากอิ่มของร่างสูงแล้วบดเบียดลงไปซ้าๆเพื่อย้ำคำขอบคุณจากใจ


"ยื่นมือซ้ายมา"


หลังจากที่ถอนจูบแล้ว มาร์ติเนซยื่นมือแบตรงหน้าก่อนที่มือบางจะวางลงบนฝ่ามือหนาอีกที มาร์ติเนซค่อยๆสวมแหวนสีนิลเกลี้ยงเกลาลงบนนิ้วเรียวขาวของคิมหันต์อย่างช้าๆ แล้วจุมพิตเบาๆลงบนตำแหน่งที่สวมแหวนให้


"สวมนี่ให้ฉันด้วยสิ"


มาร์ติเนซยื่นแหวนสีเดียวกันให้กับวงที่สวมให้กับคนรัก คิมหันต์รับเอาไว้ก่อนจะค่อยๆสวมลงบนนิ้วนางข้างเดียวกันแล้วจูบลงที่ตำแหน่งนั้นเบาๆด้วยเหมือนกัน หยาดน้ำใสเริ่มคลอที่ดวงตาเรียวสวยอีกครั้งหากแต่คราวนี้มาจากความสุขที่มันได้ล้นปรี่ออกมาอย่างยากที่จะอธิบาย


"รักคิมนะครับ"


เสียงทุ้มเอ่ยย้ำอีกครั้ง มือหนาขยี้เบาๆลงบนกลุ่มผมนุ่มของร่างบางอย่างเอ็นดูก่อนที่ทั้งสองจะพากันจับจูงมือเพื่อกลับไปยังบ้านหลังเล็กของคิมหันต์ แม้ว่าหลังจากที่เลิกรากันไปครบหนึ่งปีเต็มตั้งแต่วันนั้นแล้วก็ตามแต่บ้านหลังนั้นก็ยังคงอบอวลไปด้วยความสุขและความทรงจำที่เคยได้มีร่วมกันมาของคนทั้งคู่อยู่ทั่วทุกอณูบริเวณในที่แห่งนั้น


(มีต่อ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 22:43:50 โดย blingsmay »

ออฟไลน์ blingsmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ (จบ)
«ตอบ #5 เมื่อ24-12-2015 22:20:00 »

"ที่รักครับ แกะของขวัญที่แม่ฉันให้มาสิ"


เมื่อกลับมาถึงที่บ้านของคิมหันต์แล้วมาร์ติเนซก็เอาแต่กกกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตรงมุมห้องนั่งเล่น ตรงหน้าของทั้งสองเป็นกล่องของขวัญที่แม่ของมาร์ติเนซให้มา เมื่อร่างสูงคะยั้นคะยอให้คนในอ้อมกอดเปิดมันคิมหันต์ก็ผละออกมาก่อนจะค่อยๆแกะโบว์สีแดงออกแล้วเปิดฝากล่องออกดูของขวัญที่อยู่ภายในนั้น


"ดะ...เดี๋ยวนะ นี่แม่นายหยิบมาให้ผิดกล่องหรือเปล่าเนี่ยมาร์ตี้"


มือเรียวหยิบของขวัญชิ้นนั้นออกมาก่อนจะทาหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นและคิดว่าแม่ของมาร์ติเนซคงจะหยิบของขวัญสลับกล่องมากับของขวัญที่จะให้คนอื่นอีกหรือเปล่า


"ไม่นะ นี่ไง มีการ์ดด้วย เขียนว่า สำหรับลูกสะใภ้"


คิมหันต์รีบฉวยการ์ดที่คนรักเอาไปมาอ่านเองอีกรอบ


ลูกของแม่รักใคร แม่ก็รักคนนั้นด้วยเหมือนกัน หนูคิมไม่ต้องกังวลแล้วนะจ๊ะ
มีความสุขในวันคริสต์มาสนะ
ปล.หวังว่าจะถูกอกถูกใจกับของขวัญที่แม่ตั้งใจเลือกให้นะ แต่คงจะเป็นลูกชายตัวแสบของแม่ที่ถูกใจมากกว่าล่ะมั้ง คิคิ
แม่



คิมหันต์อ่านข้อความที่ปรากฏอยู่บนการ์ดแผ่นเล็กนั้นซ้ำไปซ้ำมา จะว่าดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอกที่แม่ของคนรักยอมรับเขาแล้ว แต่ทว่าของขวัญที่คุณนายเขาให้มาเนี่ยสิทำเอาหนักใจเสียเหลือเกิน


"เอาไปใส่ตอนนี้เลยนะครับที่รัก"


มาร์ติเนซยิ้มกรุ้มกริ่มพลางยื่นของขวัญให้คิมหันต์ที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แค่เพียงมโนว่าตัวเองจะต้องใส่อะไรแบบนั้นแล้วก็...


ไม่รอดแน่คืนนี้


"จะให้ฉันใส่จริงๆเหรอมาร์ตี้"


ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนเชิงขอร้องว่าไม่ใส่มันได้ไหม แต่ทว่าร่างสูงกลับยัดมันใส่มือเรียวให้อีกคนทำตามที่ตนบอก


"ฉันจะฟ้องแม่ว่านายปฏิเสธของขวัญของเธอ"


"มาร์ตี้~"


คิมหันต์เรียกชื่อมาร์ติเนซเสียงหวานอย่างที่คิดว่าจะทำให้คนรักใจอ่อนยอมตามใจตัวเองเหมือนทุกๆครั้งที่ใช้น้ำเสียงแบบนี้


"ให้เวลาห้านาที ไม่งั้นฉันจะใส่ให้เองนะ"


ร่างสูงบอกออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งหากแต่แววตากลับเป็นประกายดูเจ้าเล่ห์จนทำให้คิมหันต์หวั่นใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็จำใจลุกขึ้นยืนเพื่อเข้าไปใส่สิ่งนั้นในห้องน้ำในห้องนอนของตน คนตัวเล็กยืนสำรวจมันอยู่เพียงครู่ก่อนจะกลั้นใจสวมมันลงบนตัวจนได้


ถือว่าเป็นการไถ่โทษแล้วกัน แต่ฝากไว้ก่อนนะมาร์ติเนซ


ร่างบางก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงสดสั้นเหนือเข่าโชว์เรียวขามีเฟอร์สีขาวประดับอยู่ตรงเนินอกและชายกระโปรง พร้อมกับมีที่คาดผมหูกวางเรนเดียร์สีแดงเข้าชุดกันที่มือบางถือเอาไว้อยู่ในมือคล้ายไม่มั่นใจว่าจะใส่มันดีหรือเปล่า


"มาร์ตี้ มาร์ตี้ มาร์ติเนซ!"


คิมหันต์ส่งเสียงเรียกมาร์ติเนซที่กำลังจ้องมองตัวเองด้วยสายตาที่หื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง


"น่ากิน...เอ่อ...น่ารัก"


เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเพ้อๆ พาตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปใกล้ร่างบางก่อนจะรั้งเอวคอดเข้ามาชิดจนหน้าท้องแนบสนิทกัน


"ชุดอะไรก็ไม่รู้ น่าอายชะมัด แม่นายเลือกให้ หรือว่านายเป็นคนเลือกเองเนี่ย"


ใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะคนที่โอบกอดอยู่หยิบที่คาดผมหูกวางในมือบางขึ้นมาใส่บนกลุ่มผมสีเข้มของตนให้ ก่อนจะทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนความเคอะเขิน อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชายให้มาใส่ชุดแบบนี้ก็อายเป็นเหมือนกันนะ


"เลือกเอง เฮ้ย! แม่เลือกให้จริงๆ โอ๊ย!"


มาร์ตี้เนซเผลอหลุดปากบอกและคิมหันต์ก็เผลอฟาดมือลงบนอกกว้างเสียเต็มรัก ความจริงแล้วเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนเลือกชุดนี้ให้กับมือตอนที่ไปซื้อของขวัญเป็นเพื่อนคุณแม่ที่รัก แล้วให้แม่ทาเพียงเขียนการ์ดให้เฉยๆ ไม่คิดว่าพอร่างบางได้ใส่จริงๆแล้วจะ...เซ็กซี่มากขนาดนี้


"ปล่อยเลย จะไปเปลี่ยนชุดแล้ว อื้อ!"


ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กกว่าจะพูดจบ เรียวปากอิ่มกลับฉกชิมความอ่อนนุ่มและหวานละมุนของริมฝีปากสีชมพูนมของคนในอ้อมกอดทันทีก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง สายตาอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความต้องการบางอย่างทำให้คิมหันต์ไม่อาจทนสบตาด้วยได้ ฟันขาวกัดลงบนริมฝีปากตัวเองแล้วหันหน้าหนี


"ถ่ายรูปกัน จะตั้งไว้เป็นวอลโฟน"


"ไม่มีทาง ไม่เอานะมาร์ตี้"


มาร์ติเนซล้วงโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมากดเข้าแอพลิเคชั่นกล้องถ่ายรูปก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์มาหาตัวเองและคิมหันต์ที่พยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนของคนตัวใหญ่กว่า


มาร์ติเนซกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพื่อล็อกตัวคนที่ดิ้นไปดิ้นมาเอาไว้


"แค่รูปเดียวนะครับ นะ"


เสียงทุ้มออดอ้อนพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน


"ห้ามให้ใครเห็นด้วยนะ"


คิมหันต์ต่อรอง


"สัญญา"


ริมฝีปากหยุ่นจุมพิตเบาๆลงบนพวงแก้มใสที่ขึ้นสีชมพูจัด


"ถ่ายเร็วๆสิ จะได้ไปเปลี่ยนชุดสักที"


โวยวายกลบเกลื่อนอีกครั้งก่อนจะหันหน้าให้อยู่ในเฟรม ใบหน้าหล่อคมคายแกล้งหันหน้าเข้าหากล้องจากโทรศัพท์เหมือนกัน


"หนึ่ง สอง สาม..."


"มาร์ตี้!"


แต่ทว่าทันทีที่ปลายนิ้วกดชัตเตอร์ ริมฝีปากอิ่มกลับกดจูบลงบนแก้มนิ่มอีกรอบ ภาพที่ได้ออกมาจึงกลายเป็นว่ามาร์ติเนซกำลังหอมแก้มคิมหันต์อยู่


"ขออีกรูปได้ปะ ถ่ายนายเดี่ยวๆเลย ยืนข้างๆต้นคริสต์มาสตรงนั้นหน่อย นะๆๆๆ"


มาร์ติเนซทำเป็นไม่สนใจเสียงโวยวายของคิมหันต์ก่อนจะพาคนในอ้อมกอดเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างๆต้นคริสต์มาสที่คนตัวเล็กตกแต่งไว้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา


"แค่รูปเดียวนะ"


คิมหันต์ยืนทำหน้าบูด มาร์ติเนซพยักหน้าก่อนจะให้สัญญาณว่าจะถ่ายรูปแล้วแต่ความจริงแอบกดชัตเตอร์ไปหลายรอบแล้วต่างหาก ก็คิมหันต์ของเขาน่ารักซะขนาดนี้ต้องถ่ายเก็บไว้ดูหลายๆมุมเสียหน่อย


"หนึ่ง สอง สาม"


ร่างบางที่อยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสั้นสีแดงสดที่ประดับไปด้วยขนเฟอร์สีขาวยกยิ้มมุมปากนิดๆ สายตาที่ดูไม่ค่อยมั่นใจกับพวงแก้มนิ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงเห่อร้อนจนแทบสุกเพราะความขวยเขินที่ต้องมาอยู่ในชุดนี้ ถูกกล้องจากโทรศัพท์บันทึกภาพไว้เรียบร้อย คนเจ้าเล่ห์แอบถ่ายอีกรูปสองรูปก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมโดยที่คนถูกถ่ายก็ไม่ได้อยากขอดูรูปพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย


"ไปเปลี่ยนชุดนะ"


คิมหันต์บอกก่อนจะเอาที่คาดผมหูกวางออกจากเรือนผมสีเข้มแล้วกำลังจะเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนชุด แต่ทว่ามาร์ติเนซกลับรั้งเอวคอดเข้ามาใกล้แล้วสวมกอดจากทางด้านหลัง


"พี่ไม่ได้กอดนายมานานแล้วนะ ตั้งแต่วันนั้นพี่ก็ไม่เคยกอดใครด้วย"


มาร์ติเนซกระซิบเสียงแหบพร่าชิดใบหูขาวที่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ


"มาร์ตี้..."


สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้เรียกชื่ออีกคนด้วยเสียงที่เบาหวิวเพราะรู้ว่าเมื่อร่างสูงมีความต้องการจะพูดแบบนี้เสมอ ฝ่ามือที่ซุกซนของมาร์ติเนซเริ่มไล้ไปมาแถวๆสะโพกกลมกลึงของคนในอ้อมกอดและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดแถวๆต้นคอขาว ไม่ทันได้รอคำตอบ เรียวปากอิ่มจู่โจมพรมจูบไล้โลมตามลาดไหล่เนียนขาวขบเม้มเบาๆจนเกิดรอยสีแดงเรื่อ


"อื้อ..."


มาร์ติเนซพลิกให้คิมหันต์หันหน้าเข้าหากันก่อนจะประกบจูบลงบนริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูนม เรียวลิ้นไล้ชิมกลีบปากบางแล้วค่อยๆแทรกสอดเข้าไปกวาดชิมลิ้มรสภายในโพรงปากของคนรักอย่างโหยหา


คิดถึงรสจูบของเราเหลือเกิน


แขนแกร่งอุ้มร่างบางขึ้นลอยเหนือพื้น ช้อนเรียวขาขาวทั้งสองข้างเกี่ยวเข้าที่เอวสอบของตัวเองแล้วก้าวเดินพาไปยังห้องครัวโดยที่จังหวะของการจูบนั้นยิ่งเพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ


"อืม..."


เสียงครางหลุดลอดออกมาจากลาคอของทั้งสอง มาร์ติเนซปล่อยคิมหันต์ให้นั่งลงบนโต๊ะกินข้าวกลางห้องครัวที่มีเครื่องมือสาหรับทำขนมวางอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะ สองแขนเท้าลงบนขอบโต๊ะแทรกลำตัวอยู่ระหว่างเรียวขาทั้งสองข้างของคนตัวเล็ก


"คิดถึงจังครับ"


มาร์ติเนซละริมฝีปากออกมาก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มนวลเนียนของคิมหันต์สูดกลิ่นตัวหอมๆเข้าไปเสียเต็มปอดแล้วกระซิบพร่าบอกว่าคิดถึงคนตรงหน้ามากขนาดไหน


"คิดถึงเหมือนกัน"


ริมฝีปากบางจูบลงเบาๆที่ปลายคางของร่างสูงก่อนจะส่งสองแขนขึ้นคล้องกับต้นคอแกร่งแล้วเอาหน้าผากของตนชนกับหน้าผากของอีกคนเพื่อสบตากัน


สายตาทั้งสองไม่ปิดบังอะไรต่อกันอีกต่อไป ความต้องการมากมายถูกส่งผ่านออกมาจากแววตา ความคิดถึงและความโหยหาอ้อมกอดของกันและกันสื่อออกมาจากดวงตาทั้งสองคู่


"ขออนุญาตนะครับ"


มาร์ติเนซกระซิบบอกเบาๆ ถึงปากจะเอ่ยขอคาอนุญาตหากแต่มือหนากลับลูบเบาๆลงบนต้นขาขาวที่โผล่พ้นออกมาจากชายกระโปรงสีแดงสดที่ถกขึ้นไปเป็นคืบ


"ถ้าบอกว่าไม่อนุญาต จะฟังกันหรือไงครับ หืม"


คิมหันต์ยิ้มมุมปากแล้วเอาคืนบ้าง ยกแขนข้างหนึ่งออกจากคอแกร่งก่อนที่ฝ่ามือบางจะลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งไปมาอย่างต้องการจะยั่วเย้า


"ยั่วกันแบบนี้ พี่จะถือว่าน้องคิมของพี่อนุญาตแล้วนะครับ"


กระซิบชิดใบหูก่อนจะขบกัดใบหูขาวเบาๆแล้วเลื่อนริมฝีปากหนาบดจูบลงบนกลีบปากบางอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน แขนแกร่งโอบรอบเอวคอดบางเอาไว้ในอ้อมแขน เรียวลิ้นเลียไปตามรอยแยกของริมฝีปากบางให้เปิดปราการออกเพื่อจะได้เข้าไปสัมผัสลิ้มรสภายในโพรงปากของกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อ ลิ้นร้อนกระหวัดเกี่ยวพันกันไปมาจนเกิดเสียง


"อืม..."


มือหนาค่อยๆจับชายกระโปรงของชุดเดรสสายเดี่ยวตัวสวยที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเกะกะเหลือเกินให้พ้นออกไปจากร่างบาง ละริมฝีปากออกมาจากกลีบปากสีชมพูนมก่อนจะย้ายตำแหน่งลงมาที่ยอดอกสีหวาน ดูดดุนจนก่อให้เกิดความเสียวซ่านในอารมณ์ เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคออย่างพอใจ นิ้วเรียวขยุ้มเส้นผมนิ่มของร่างสูงเอาไว้แน่น


ริมฝีปากอิ่มพรมจูบจนทั่วลำตัวขาวจนเกิดรอยสีแดงจางๆ แล้วเลื่อนขึ้นไปบดจูบกลีบปากนิ่มตักตวงความหวานอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ มือสากลากไล้ไปตามแนวกระดูกสันหลังลงต่ำไปเรื่อยๆจนถึงบั้นท้ายกลมกลึง ปลายนิ้วถูกส่งเข้าไปในช่องทางรักเพื่อเบิกทาง


"อื้อ! พี่มาร์ตี้! คิมเจ็บอ่ะ มะ...ไม่มีเจลเหรอ"


ยังไม่ทันได้ขยับนิ้ว คิมหันต์ก็สะดุ้งสุดตัวเพราะความเจ็บแล้วเรียกร้องหาเจลหล่อลื่นเพื่อลดความเจ็บลงอย่างทุกครั้งที่ร่วมรักกัน


"รอแป๊บนะครับที่รัก พี่ว่าในกล่องที่คุณแม่ให้มาน่าจะมี"


คุณแม่ให้มาหรือว่าไอ้พี่มาร์ตี้เป็นคนใส่เองกันแน่ครับ


ระหว่างที่มาร์ติเนซรีบเดินออกไปหาเจล คิมหันต์ก็นั่งไขว่ห้างรอ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น...


ที่นวดแป้งกับขวดแยมสตรอว์เบอร์รี่


ยิ้มมุมปากอย่างคนคิดจะทำอะไรสนุกๆเพื่อยั่วอีกคน ไวเท่าความคิดมือเรียวหยิบขวดแยมสตรอว์เบอร์รี่มาเปิดฝาออกก่อนจะละเลงแยมสีแดงรสชาติหวานอมเปรี้ยวลงบนหน้าอกและหน้าท้องแบนเรียบ แล้วหยิบที่นวดแป้งเอามาถือไว้ก่อนจะอมด้ามจับมันเอาไว้จนเปียกชุ่มแล้วกลั้นใจค่อยๆแหย่ปลายด้ามจับเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่ขมิบถี่รัวด้วยอารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่


"อ๊ะ! อื้อ!"


กัดฟันแน่นเพื่อยัดสิ่งแปลกใหม่เข้าไปในตัวเองจนปลายด้ามที่นวดแป้งถูกจุดกระสันจึงค่อยๆขยับเข้าออกเพื่อย้ำๆให้ถูกตรงนั้นซ้ำๆเร้าอารมณ์แล้วครางเสียงหวานออกมา


มาร์ติเนซที่เดินถือเจลเข้ามาอย่างรีบร้อนถึงกับชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นว่าร่างบางที่นั่งอยู่บนโต๊ะกำลังช่วยตัวเองอยู่ ใบหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อกับลำตัวขาวๆที่ตอนนี้พร่างพราวไปด้วยรอยจูบที่เขาเป็นคนทำมันเอาไว้และแยมสตรอว์เบอร์รี่สีแดงฉ่ำที่ดูน่ากิน ไหนจะสายตาที่ปรือปรอยกับน้ำเสียงที่ยั่วยวนขนาดนั้น ร่างสูงไม่รอช้ารีบถอดปราการของตัวเองออกบ้างก่อนจะบีบเจลใส่มือแล้วชะโลมลงบนแก่นกายของตัวเอง รูดรั้งจนแข็งขืนเพื่อเตรียมพร้อม


"ไหนว่าเจ็บไงครับ หืม ไม้มันแข็งกว่าของพี่อีกนะ แล้วของพี่ก็ถึงใจกว่าไอ้ไม้โง่ๆนี่อีก เอามันออกเถอะนะครับที่รัก"


กระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะดึงที่นวดแป้งออกจากมือและช่องทางรักสีหม่นของร่างบางออกแล้วสวนท่อนแกร่งของตัวเองเข้าไปแทนที่รวดเดียวจนสุด


"อื้อ!"


ปลายนิ้วเรียวจิกลงบนไหล่แกร่งของคนรักอย่างแรง เจ็บจนเกือบจุกแต่เพียงไม่นานก็เริ่มรู้สึกดี ภายในช่องทางรักตอดรัดแท่งเนื้อร้อนจนทำให้มาร์ติเนซแทบคลั่ง


"อืม... พี่รักคิมนะครับ"


กระซิบบอกรักชิดใบหูขาวที่ขึ้นสีเรื่ออีกครั้งก่อนจะค่อยๆขยับตัวเข้าออกเป็นจังหวะเนิบๆในตอนแรกก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ของทั้งสอง ลิ้นร้อนลากไล้ชิมแยมสตรอว์เบอร์รี่ที่มีรสชาติหวานกว่าปกติเมื่อมันมาอยู่บนแผ่นอกและหน้าท้องของร่างบางแทนที่จะอยู่บนขนมปังอย่างที่ควรจะเป็น จนเมื่อเพลงรักบรรเลงจนเกือบจะจบเพลงแล้วแต่คนคุมจังหวะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น กลับหยุดเพลงกลางคันก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นทั้งๆที่ส่วนล่างยังคงเชื่อมกันอยู่ สองขาขาวเกี่ยวกับเอวสอบสองแขนก็คล้องกับคอของร่างหนาเอาไว้


มาร์ติเนซพาคิมหันต์ไปยังห้องนอนก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม


"คิมรักพี่มาร์ตี้นะ"


คิมหันต์รั้งคอมาร์ติเนซให้ใบหน้าชิดกันก่อนจะป้อนจูบหวานลึกซึ้งให้กันอีกครั้งและอีกครั้ง มาร์ติเนซเริ่มขยับตัวเองบรรเลงเพลงที่ยังค้างคาเอาไว้ เสียงครางที่เปล่งออกมา เสียงลมหายใจ เสียงเนื้อกระทบเนื้อ และเสียงเตียงที่สั่นไหวตามจังหวะการเคลื่อนไหวดังสอดประสานกันเป็นบทเพลงที่คิดถึง ราตรียังอีกยาวไกลและดูท่าว่าบทเพลงรักนี้จะยังไม่จบลงง่ายๆเป็นแน่










"ขอบคุณที่ให้โอกาสกันอีกครั้งนะมาร์ตี้"


คิมหันต์ยิ้มเต็มปากเต็มตาด้วยความดีใจอีกครั้งให้มาร์ติเนซ


ตอนนี้ทั้งสองเต้นรำอยู่ในงานคริสต์มาสใจกลางหมู่บ้าน ที่ๆเคยมาด้วยกันเมื่อครานั้น ที่ๆเขาเป็นคนบอกเลิกและปล่อยมือจากคนรักที่ดีที่สุดให้หลุดลอยไป


ทั้งๆคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว แต่มาร์ติเนซทำให้เขารู้ว่าเขานั้นโชคดีเหลือเกิน มาร์ติเนซเป็นคนรักที่ดีมากขนาดนี้แท้ๆแต่เขากลับไม่เชื่อใจและคิดมากมายไปเสียเองจนทำให้เกือบต้องตัดขาดกันไปจริงๆ


"คราวนี้กลับไปอยู่ไทยด้วยกันได้แล้วนะ จะได้ไม่ต้องระแวงอะไรอีก แม่ก็ให้แล้วด้วย นะ นะ"


มาร์ติเนซกระชับอ้อมกอดให้คนรักได้เข้ามาชิดกันมากขึ้นอีกจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน


"อื้อ อยู่นี่คนเดียวเหงาจะตายแล้ว"


คิมหันต์พยักหน้ายิ้มรับ น้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตาหากแต่เป็นน้ำตาแห่งความสุขที่มันล้นออกมาจนเก็บไว้ไม่อยู่


"ขี้แยจังเลยน้าน้องคิมของพี่มาร์ตี้ ตายเพราะเหงาดูไม่ดีเลยนะ มาตายคาอกพี่ดีกว่าเนอะ"


มือหนาขยี้กลุ่มผมนุ่มของคิมหันต์เบาๆ ปลายจมูกโด่งก็คลอเคลียบนปลายจมูกรั้นของคนตรงหน้าไปมา


"เนอะอะไร บ้าปะ"


ปากก็ว่าไปแต่ใบหน้าสวยกลับขึ้นสีระเรื่อ ตาเรียวสบกับตาคมอย่างมีความหมาย ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนที่มาร์ติเนซจะแตะกลีบปากอิ่มของตัวเองลงบนริมฝีปากสีชมพูนมของคนรักอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวลแล้วผละออกมา


"รักนะครับ"


"รักเหมือนกัน มิสเซิลโทเป็นพยานแล้วนะ"


ทั้งสองมองขึ้นไปเหนือศีรษะของพวกเขา เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองได้จูบกันใต้กิ่งมิสเซิลโทที่ถูกห้อยเอาไว้


ตามความเชื่อที่ว่าหากคู่รักได้จุมพิตกันใต้กิ่งของต้นมิสเซิลโทจะทำให้ครองรักกันได้นานชั่วนิจนิรันดร์


หากความเชื่อก็เป็นเพียงความเชื่อ...


ถ้าคนทั้งสองไม่ได้ดูแลต้นรักที่ได้ปลูกเอาไว้ด้วยกันแล้วละก็ไม่มีทางที่มันจะยืนต้นอยู่ได้นาน...





- End -


❅❅❅❅❅❅❅❅❅❅

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 22:28:46 โดย blingsmay »

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #6 เมื่อ29-12-2015 21:35:04 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Hinagiku

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #7 เมื่อ29-12-2015 22:16:09 »

 :mew1:

น่ารักมากเลยค่ะ คนเราก็ต้องรักเเละเชื่อใจกันไว้นะคะ อย่าพูดอะไรทำลายความรู้สึกเลย ไม่ใช่แค่คนฟังเจ็บ แต่เราที่เป็นคนพูดเองก็เจ็บด้วย ...

สนุกมากๆเลยค่ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #8 เมื่อ30-12-2015 00:05:51 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #9 เมื่อ30-12-2015 11:10:31 »

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-12-2015 11:10:31 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: [เรื่องสั้น] ❅ One More Chance ❅ [จบ]
«ตอบ #10 เมื่อ30-12-2015 20:01:47 »

น่ารัก ดีใจกลับมาง้อแย้ววว
คุณแม่ก็น่ารักนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด