(เรื่องสั้น : Re-post ) Me ,You and Us: ผม เขา และเราคืนนั้น (จบบริบูรณ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น : Re-post ) Me ,You and Us: ผม เขา และเราคืนนั้น (จบบริบูรณ์)  (อ่าน 2247 ครั้ง)

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 13:16:21 โดย Imflector »

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขออนุญาติ re-post เรื่องสั้นที่เคยเขียนไว้ และขออนุญาติตัดฉากเรทออกนะครับ

ใครสนใจเรื่องแบบ unsensored ตามไปที่ link นี้ได้นะครับ

เรื่องใหม่อีกเรื่องขอเกลาภาษาอีกเล็กน้อยนะครับ น่าจะลงไม่เกินคืนนี้ครับ

ช่วยคอมเม้นท์และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ ^_^

https://imflector8.wordpress.com/2015/12/24/me-you-and-us-%E0%B8%9C%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99/






เสียงเพลงค่อยๆบรรเลงขึ้นเบาๆจากจังหวะหนึ่งไปเป็นอีกจังหวะหนึ่งอย่างเชื่องช้า เสียงของผมค่อยๆเอ่ยถ้อยคำแต่ละคำออกมาตามจังหวะเพลงที่มันควรจะเป็น ใช่ครับ ผมเป็นนักร้องประจำของร้านนี้ การร้องเพลงของผมนั้นเกิดขึ้นเพราะว่าเจ้าของร้านที่เป็นรุ่นพี่ของผมนั้นมาเปิดร้านเหล้าเป็นของตัวเองเป็นร้านเล็กๆซึ่งมีทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรเข้ามามากมาย พี่เขาได้ชวนผมให้มาร้องเพลงแลกกับที่อยู่บนชั้นสองของร้าน ถึงแม้ว่าฐานะทางบ้านของผมจะไม่ได้แย่ถึงขั้นต้องร้องเพลงส่งตัวเองเรียน แต่การได้มาร้องเพลงท่ามกลางผู้คนที่สนใจมาฟังการร้องของเรานั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่มากนัก กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำที่มีคนห้อมล้อมเรามากมาย แถมด้วยการดื่มเหล้าในร้านฟรีแบบไม่มีจำกัด ยิ่งทำให้ผมยากที่จะปฎิเสธงานนี้ ตัวผมเองกินเหล้าไม่ค่อยเก่ง จึงไม่แปลกที่พี่เขาเลยให้ผมกินได้ฟรีเพราะคงไม่สิ้นเปลืองเหล้าของเขาเท่าไรนัก

เอาอีกแล้ว ผมสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาอีกแล้ว แม้ว่าการนั่งร้องเพลงบนเวทีจะทำให้ผมตกเป็นเป้าสายตาด้วยหน้าที่แล้ว แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่แฝงไปด้วยความนัยนั้น ไม่แปลกหรอกที่ผมจะรู้สึกได้ ก็เขาเล่นจ้องผมจนผมต้องหลบสายตาหันมองไปทางอื่นบ่อยครั้ง

ผมหน่ะ ไม่ชอบสายตาแบบนั้นเลย

เมื่อผมร้องเพลงเสร็จ เสียงปรบมือก็ดังมาจากทั่วทุกสารทิศ ผมยิ้มอย่างภาคภูมิใจก่อนจะค่อยๆเดินลงจากเวทีและนั่งที่โต๊ะประจำของผมข้างๆบาร์ ผมค่อยๆรินเบียร์ที่สั่งมาลงแก้วแล้วนั่งดื่มเงียบๆคนเดียว ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเรียกชื่อผมและดึงความสนใจไปที่คนตรงหน้าแทน

"ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับ?"ผู้ชายคนนั้นพูดกับผมด้วยสีหน้าท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด

ใช่ครับ หนุ่มที่นั่งจ้องผมมาทั้งคืนนั่นแหละ

ผมยิ้มมุมปากเล็กๆก่อนจะตอบตกลงตามด้วยการยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด

"ผมขอ...เอ่อ...นั่งด้วยได้ไหม?"เค้าพูดอย่างขัดเขินก่อนจ้องมองผมด้วยหน้าตาจริงจังและประหม่า

"ได้สิ"ผมตอบก่อนขยับตัวให้เขานั่งข้างๆ เขาดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ขนาดผมที่เป็นคนดูคนไม่ค่อยเก่งยังมองออกได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนี้ดูเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วๆไป ไม่แปลกที่การกระทำของเขาก็เหมือนคนอื่นๆ  อย่างเช่นการมาขอนั่งด้วยแต่ก็ได้แต่นั่งจิบเบียร์ของเขาเงียบๆและไม่กล้าชวนคุยก่อน

แต่...ผมไม่ยอมนั่งอึดอัดอยู่แบบนี้นานๆหรอก

ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือของเขาเบาๆ แค่การกระทำเล็กๆแค่นี้ก็สามารถทำให้เขาตัวสั่นได้แล้ว หน้าของเขาเริ่มขึ้นสีเล็กน้อย แต่อาจจะเป็นเพราะความมืดของร้านด้วยกระมังที่ทำให้ผมมองเห็นเขาได้ไม่ชัดนักแต่ก็พอดูออกว่าเป็นคนที่จัดว่าหน้าตาดีใช้ได้ทีเดียว เขาดูสูงกว่าผมค่อนข้างเยอะและมีกล้ามเนื้อสมส่วน การแต่งตัวก็คงมีส่วนให้เขาดูหล่อเหลาขึ้น

"นายหน่ะ...อยากทำอะไรสนุกๆหรือเปล่า"

ผมกระซิบข้างๆหูของเขาเบาๆ

__________


ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นเพราะแสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างก่อนใช้เวลาสักครู่ในการปรับสายตา แดดตอนเช้านั้นทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาเจอ ในหัวของผมนั้นรู้สึกวิงเวียนเนื่องจากพิษของแอลกอฮอร์เมื่อคืน ผมเอื้อมมือหวังจะทาบขึ้นมาบนศีรษะก่อนจะรู้ตัวว่ามือของตนนั้นถูกทับไว้ด้วยมือหนาของคนที่นอนอยู่ข้างตัว

ชายนิรนามที่ผมเจอในร้านเมื่อคืน

ผมรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ชวนคนไม่รู้จักขึ้นมานอนบนห้อง แม้จะเมามายมากเพียงใดแต่ภาพเมื่อคืนนั้นก็ยังคงฉายอยู่ในหัวของผมอย่างชัดเจน สิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อคืนนั้นเกิดจากความตั้งใจของผมเองโดยไม่มีฤทธิ์ของเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผมจงใจทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

แม้จะเป็นวิธีหนีความจริงจากเรื่องอื่นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเรื่องที่ผมทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ผมรวบรวมสติก่อนหันหน้าเข้าหาคนข้างตัว ใบหน้าของชายแปลกหน้ายังคงนิ่งไม่ไหวติง เขายังคงหลับตาพริ้มไม่รู้สึกตัวแม้ว่าผมจะพลิกตัวเข้าหาเขาก็ตาม

ผมรู้สึกแปลกใจกับภาพตรงหน้า ชายหนุ่มเบื้องหน้าผมช่างมีใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน จมูกที่เป็นสัน คิ้วหนา บวกกับโครงหน้าที่ได้รูป ถ้าไม่บอกผมอาจคิดว่าเขาเป็นดาราโทรทัศน์สักช่องเป็นแน่ แม้จะเห็นไปแล้วเมื่อคืนทั้งตอนอยู่ในร้านและเมื่อตอนทำกิจกรรมกันบนข้างบน แต่ผมก็ยังอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้

เขาอาจจะเป็นดาราจริงๆก็ได้ ผมอาจจะไม่รู้จักเพราะผมไม่ค่อยได้ดูโทรทัศน์

ผมยิ้มเล็กๆกับความคิดตลกๆของตัวเองก่อนรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ลากเขาเข้ามายุ่งกับชีวิตที่แสนวุ่นวายของผมในตอนนี้

แม้ว่าจะรู้สึกผิดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกละอายใจนานมากนัก สายตาช่างสงสัยของผมยังคงมองภาพเบื้องหน้าอย่างไม่วางตา ผมค่อยๆมองเรือนร่างของคนตรงหน้าอย่างฉวยโอกาส ดวงตาของผมค่อยมองพินิจพิจารณาไปเรื่อยๆ ทั้งลำคอตรงยาวที่ส่งเสียงนุ่มทุ้มชวนหลงไหล แผงอกผึ่งผายได้สัดส่วนที่ผมได้สัมผัส หน้าท้องเป็นลอนแข็งแกร่งที่ผมได้โลมเลียจนทั่ว และส่วนสำคัญที่ผมได้ลิ้มรสและมอบความสุขให้ผมอย่างไม่รู้ลืมเมื่อคืนนี้

"มองมากๆผมก็เขินนะครับ"เสียงทุ้มๆเปล่งออกมาดึงความสนใจของผมให้มองขึ้นมาที่ใบหน้าของเขาแทน เขาหน้าแดงและยิ้มเล็กน้อยทำให้เขายิ่งดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มค่อยๆถอนยิ้มก่อนมองเข้ามาในตาของผมอย่างอบอุ่น สายตาของเขาแสดงความจริงใจจนผมรู้สึกผิด ดวงตาสีดำสนิทของเขามองมาที่ผมอย่างมีความหมาย

"เรา... มาคบกันไหมครับ?"ชายหนุ่มค่อยๆพูดออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหม่า ใบหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นจากตอนแรก

"นายยังรู้จักเราไม่ดีพอหรอก ชื่อเรานายยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เราว่าลองคิดดูให้ดีก่อนดีกว่าที่จะพูดมันออกมาดีกว่านะ"ผมค่อยๆพูดแบบไม่ต้องคิด"มีอะไรกันไม่จำเป็นว่าต้องมีความรักเข้ามาร่วมด้วยเสมอไปหรอก"เมื่อพูดเสร็จผมก็ลุกขึ้นโดยไม่หันไปมอง ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายทันที ผมไม่อยากที่จะรอดูปฏิกิริยาของเขา ไม่ว่าเขาจะพลั้งปากพูดออกมาหรือนั่นจะเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเขาก็ตาม ผมในตอนนี้นั้นยังไม่อยากคิดเรื่องแบบนี้

ไม่อยากคิดเรื่องแบบนี้ตอนนี้

เขาไม่ใช่คนแรกที่ผมเจอและมีอะไรด้วย ในช่วงหลายเดือนมานี้ผมได้เจอคู่นอนมาแล้วหลายคน ต่างคนต่างก็ไม่จริงจัง เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะยกขึ้นมาพูดให้ผิดใจกันด้วยซ้ำ แม้ว่าผมจะเป็นคนเชิญชวนเขา แต่เขาก็ไม่ได้เป็นฝ่ายถูกที่ยอมให้ผมมีอะไรกับเขาเช่นกัน ความสัมพันธ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่มีฝ่ายใดได้ ไม่มีฝ่ายใดเสีย

เมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วและกำลังทำท่าจะเดินออกไป เขาดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ผมจะเคยเจอคนแบบเขาผมก็ยังไม่เคยเจอใครที่ดูเศร้ากับเรื่องแบบนี้เท่าเขามาก่อน หลายคนที่เคยเจอก็เคยขอคบหลังจากมีความสัมพันธ์เหมือนกัน แต่ส่วนมากก็ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะต่างคนต่างก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนมอะไรกันเป็นพิเศษนอกร้านอยู่แล้ว ตัวเขาก็คงไม่ต่างกัน ผมได้แต่หวังให้เขารีบออกไปจากห้องก่อนที่ผมจะพลั้งปากพูดอะไรที่มันรุนแรงยิ่งกว่านั้นออกไป

"ชื่อคุณหน่ะ... ผมรู้ดีอยู่แล้ว..."เขาพูดเบาๆ"แล้วเจอกันนะครับ"ประตูถูกเปิดออกเพราะมือหนานั้นก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปกับเสียงปิดของประตู ห้องทั้งห้องเงียบลงทันทีอย่างกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

เขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่นนั่นแหละ
ผมคิดแบบนั้นก่อนจะแต่งกายและออกไปมหาวิทยาลัย

__________

ผมนึกออกแล้วว่าทำไมผมถึงคิดว่าเขาหน้าเหมือนดารา เพราะผมคิดว่าผมเคยเจอหน้าเขามาก่อนต่างหากหล่ะ และไม่ใช่จากในโทรทัศน์ แต่เพราะว่าเขาเป็นรุ่นน้องของผม ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเป็นรุ่นน้องของเพื่อนผมที่อยู่อีกคณะต่างหาก ผมเห็นเขากับเพื่อนผมวันนี้เลยนึกได้เพราะเขากำลังเล่นบาสกันอยู่พอดี

ผมได้แต่นั่งมองพวกเขาเล่นบาสอยู่ห่างๆ

แม้จะอยากเข้าไปพูดขอโทษที่พูดจาแรงเกินไป แต่ผมก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี

ผมนั่งอยู่บนม้านั่งข้างสนามบาสอย่างเหม่อลอย สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่กับคนเบื้องหน้าที่กำลังเล่นบาสกันอยู่อย่างเพลินตา ผมจำได้ว่าเขาเคยอยู่ปีหนึ่งซึ่งตอนนี้ก็น่าจะกลายเป็นปีสองแล้ว เขาอ่อนกว่าเพื่อนผมปีนึง แต่เพื่อนผมเข้าเรียนก่อนเกณฑ์หนึ่งปี ก็เท่ากับว่าผมกับเขาห่างกันสองปีสินะ

เป็นเด็กนี่มันดีจริงๆ

ความคิดของผมหยุดชะงักเมื่อผมบังเอิญหันไปสบตากับเพื่อนและเขาก็มองตามมา เขาเห็นผมและแสดงความตกใจเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากสดใสตอนที่เล่นกีฬามาเป็นแววตาที่จริงจังแทบจะในทันที เขาโบกไม้โบกมือราวกับขอโทษอะไรเพื่อนผมสักอย่างก่อนที่จะเดินออกมาหยิบสัมภาระของตนเองข้างสนาม

และเดินตรงเข้ามาทางผม

เขามายืนตรงหน้าและจ้องหน้าผมที่นั่งอยู่อย่างไม่วางตา คนที่เล่นบาสอยู่กับเขาก่อนหน้านี้ก็เริ่มมองตามเขามาทางผมแล้วเช่นกัน

"ผม... ลองกลับไปคิดดูแล้ว เรื่องที่พี่พูด..."เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง"ยังไงผมก็ยังชอบพี่อยู่ดี! เป็นแฟนกับผมเถอะครับ!"เขาตะโกนเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองกันหมด ยิ่งเพื่อนผมกับคนในสนามบาสยิ่งแล้วใหญ่ หันมามองและแสดงสีหน้าตกใจกันอย่างออกนอกหน้า

ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าเขาจะจริงจังกับผมมากขนาดนี้ ผมหลุบสายตาลงต่ำอย่างตกใจ ไม่ใช่ว่าผมเขินอายในการกระทำของเขา แต่กลับรู้สึกประหลาดกับสายตาของคนอื่นที่จับจ้องมาที่ผมเป็นสายตาเดียวกันต่างหาก

ผมรีบหยิบกระเป๋าลุกขึ้นยืนโดยพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดหวังจะเดินหนีออกไปจากคนตรงหน้า สายตาของคนรอบข้างเริ่มมองผมจากทั่วทุกทิศทาง สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดกับผมมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมหันหลังให้เขาแล้วพยายามรีบเอาตัวเองออกไปจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุด

"จะหนีอีกแล้วเหรอ! พี่ก็ทำได้แต่หนีนั่นแหละ!"เสียงแข็งกร้าวของเขาดังขึ้นมาตามหลัง ผมหยุดชะงักกับถ้อยคำของเขาอย่างจัง

หนี... อีกแล้ว... งั้นเหรอ

ผมหันกลับไปมองเขาด้วยสายตาที่แข็งกร้าวอย่างไม่รู้ตัว น้ำตาเริ่มซึมออกมาจากตาของผม แต่ผมก็ยังควบคุมมันได้ สายตาของผมหันไปเห็นคนทั้งสนามบาสและเขาได้อย่างชัดเจน

"นายมันจะไปเข้าใจอะไรได้หล่ะ! จะเก็บเรื่องที่ผ่านไปแล้วมาคิดอีกทำไม!"ผมพูดพลางกลั้นน้ำตาก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

ผมมองไม่ผิดใช่ไหม? ที่เห็นสายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด...

__________
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 14:03:48 โดย Imflector »

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เสียงร้องเพลงในร้านยังคงดังกึกก้องไปทั่วเหมือนทุกคืน ผมรู้สึกราวกับว่าเพลงที่แขกขอมากันในวันนี้ดูจะเป็นเพลงเศร้ามากกว่าทุกคืนที่ผ่านมาก เสียงร้องของผมยังคงขับขานออกมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าวันนี้จะเจอเรื่องหนักหนาแค่ไหนก็ตาม แต่เพื่องานที่ผมสามารถพูดได้ว่า"รัก"แล้วนั้น ผมก็ยังคงมีพลังในการร้องเพลงต่อไปได้เสมอ

หลังจากที่ผมร้องเพลงได้สักระยะ รุ่นพี่เจ้าของร้านก็ได้เข้ามาพูดกับผมข้างเวทีว่าวันนี้มีคนรู้จักอยากจะขึ้นมาร้องเพลงขอโทษคนรักบนเวที ผมได้แต่ยิ้มน้อยๆกับความน่ารักนั้น คนบางคนรักใครแล้วก็ยังคงดูแลคนที่เค้ารักเสมอแม้เวลาที่ทะเลาะกัน ผมได้แต่ยิ้มและรู้สึกยินดีไปกับพวกเขาด้วยที่ได้เจอกับคนที่เขารักแล้วทำดีให้กันได้ทุกอย่างขนาดนี้

"เพลงต่อไปจะเป็นเพลงพิเศษที่แขกของเราอยากจะขึ้นมาร้องให้แฟนเขานะครับ น่าอิจฉาจริงน้า..."ผมพูดติดตลกออกไมค์ แขกหลายคนก็หัวเราะและยิ้มน้อยๆตามคำพูดที่ผมพูดไป

"ถ้าผมมีคนร้องเพลงให้บนเวทีแบบนี้นะ ผมจะรีบหายโกรธเลย"ผมพูดต่อ"รีบๆให้อภัยเขาได้แล้วนะครับ ผมอิจฉา..."ผมพูดเล่นอย่างเฮฮา แต่ถ้าทำให้พวกเขาสามารถกลับมารักกันได้ผมก็ยินดี

"แขกท่านที่จะขึ้นมาร้องเพลง เชิญขึ้นมาได้เลยนะครับ"ผมประกาศก่อนเหลือบมองไปรอบร้าน ผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นมากจากที่นั่งเดินตรงมาที่เวที

เขา... อีกแล้วเหรอ...

"ขอบคุณคุณนักร้องด้วยนะครับสำหรับคำอวยพร"

เขายิ้มกว้างก่อนเปล่งเสียงร้องเพลง

_________

ในเวลานี้ผมอยากจะถอนคำพูดที่ผมประกาศออกไมค์ไปเป็นอย่างมากจนสามารถใช้วลีว่า "กัดลิ้นตาย" ตายได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างยิ่งจนน่าขำ ผมต้องนั่งอยู่ข้างๆคนตัวสูงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เวทีนี้ที่ผมเคยมีความสุขเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วกลายเป็นดินแดนลับแลไปในชั่วพริบตา แม้ว่าผมจะพยายามไม่ฟังเสียงร้องของเขามากเท่าไร เสียงของเขาก็ยังคงดังก้องอยู่ข้างหูของผมอย่างช่วยไม่ได้

เพลงที่ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังขับร้องอยู่นั้นช่างไพเราะจนยากต่อการปฏิเสธ น้ำเสียงนุ่มทุ้มของเขาช่างทุ้มกังวาลจนนักร้องมืออาชีพอย่างผมยังนับถือ เขาร้องราวกับนักร้องที่ผ่านการฝึกฝนมานานแรมปี บทเพลงที่เขาเลือกมามีเนื้อหาเกี่ยวกับความเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปและแสดงถึงการขอโทษคนที่ตนรักอย่างตรงไปตรงมา เขาสามารถเข้าถึงบทเพลงได้อย่างน่าทึ่ง ดวงตาของเขาคอยมองมาที่ผมเป็นระยะสลับกับคนดูตลอดบทเพลง ความสามารถรวมกับอารมณ์ร่วมที่เขาสื่อออกมานั้นทำให้บทเพลงดูจะยิ่งไพเราะมากขึ้นเป็นทวีคูณ

นาย... ต้องการอะไรกันแน่...

เมื่อเขาร้องเพลงจนจบท่อนสุดท้าย เสียงปรบมือจากทั่วทุกสารทิศก็ดังขึ้นพร้อมๆกันอย่างมิได้นัดหมาย แขกบางคนส่งเสียงกล่าวชมพลางให้กำลังใจกันอย่างไม่หยุดปาก เขายิ้มน้อยๆและลูบหัวตัวเองเบาๆแสดงความเขินอายก่อนกล่าวขอบคุณ สายตาของเขาหันมากระทบกับผมพร้อมด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นจนผมรู้สึกหวิวภายในอก

ผมไม่รู้ว่าผมสบตากับเขายาวนานเท่าไหร่ แต่สำหรับผมนั้น ผมรู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน

คนๆนี้ ช่างหาเรื่องให้ประหลาดใจได้ตลอดเวลาจริงๆเลยน้า...

__________

เมื่อผมลงจากเวทีหลังร้องเพลงเสร็จ ผมก็นั่งลงที่นั่งประจำของผม ก่อนสั่งเบียร์และยกขึ้นดื่มแก้วต่อแก้วราวกับน้ำเปล่า ปัญหามากมายที่ผ่านเข้ามานั้นดูจะค่อยๆเลือนรางไปเรื่อยๆ ผมยังคงยกแก้วขึ้นดื่มไม่ยั้งด้วยความรู้สึกประหลาดที่คั่งค้างอยู่ภายในใจ

"ดื่มเยอะอีกแล้วนะครับ"เสียงทุ้มดังก้องขึ้น คนตัวสูงพูดก่อนนั่งลงข้างๆตัวผมอย่างไร้ความเกรงใจ เขายิ้มน้อยๆขณะมองหน้าผม มือและแขนของเขาวางราบยาวไปกับพนักโซฟาทั้งสองตัว มืออุ่นของเขาเอื้อมมาโดนไหล่ผมอย่างไม่ตั้งใจ แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะถอนมือออกไป ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก

"นายมันเป็นผู้ชายนิสัยเสีย!"ผมตะโกนเสียงกร้าวใส่คนตรงหน้า เขามีสีหน้าตกใจก่อนแววตาจะค่อยๆปรับกลับมาเป็นดวงตาที่อ่อนโยนและมองผมด้วยแววตาที่อบอุ่นพลางยิ้มเยาะ

"คุณเมาแล้วหล่ะ ผมว่าคุณขึ้นไปนอนดีกว่านะ หน้าคุณแดงมากแล้วด้วย"เขาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง นัยตาของเขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

คนๆนี้ช่างเป็นคนที่แสดงออกทางดวงตาเสียจริง...

"ไม่ได้เมาซะหน่อย! เลิกทำตัวแบบนี้เสียทีเถอะ!"ผมต่อว่าเขาอย่างรุนแรง น้ำเสียงของผมนั้นเต็มไปด้วยโทสะ "ทำตัวเหมือนคนอื่นไม่ได้หรือไงกัน! มีอะไรกันแล้วก็น่าจะพอแล้วนี่! จะเอาอะไรอีกหล่ะ!"ผมพูดเสียงดัง ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ดวงตาพร่าลายคล้ายจะหมดสติ

"คุณ! ไหวหรือเปล่า! เดี๋ยวผม..."ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเขา ผมก็รู้สึกได้ว่าตนเองประคองสติไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ผมเห็นแต่ใบหน้าที่ตื่นตกใจของเขาเท่านั้น...

__________

ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นอย่างประหลาด ร่างกายของผมถูกนอนกอดด้วยอ้อมแขนที่อบอุ่น ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาพบคนตรงหน้า เขาดูมีสีหน้าที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ผมค่อยๆพิจารณาใบหน้าและร่างกายของเขาเหมือนครั้งก่อน ทุกสัดส่วนยังคงดูดีเหมือนที่ผมมองเขาก่อนหน้านี้เว้นเสียแต่เสื้อผ้าของเขาที่ยังอยู่ครบ

นี่คือสิ่งที่แตกต่างสินะ...

ผมลอบยิ้มน้อยๆอีกครั้งกับความคิดของตนเอง ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่างจากรุ่นพี่ให้ลงไปช่วยงาน ผมจึงค่อยๆลุกขึ้นเงียบๆโดยไม่ให้เขารู้ตัวและเดินลงไปยังชั้นล่าง

"สภาพแบบนี้จะช่วยอะไรได้กัน"รุ่นพี่ผมส่งเสียงออกมาจากเคาท์เตอร์บาร์ทำให้ผมต้องหันมามองสภาพร่างกายของตนเอง

ไม่แปลกใจเลยที่เขาทักผมแบบนั้น...

ผมยิ้มก่อนค่อยๆเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าบาร์และพิงหัวลงกับเคาท์เตอร์อย่างอิดโรย

"นี่ก็เป็นปีแล้วสินะที่นายมาทำงานที่นี่ นับตั้งแต่เกิดเรื่องตอนนั้น..."รุ่นพี่พูด น้ำเสียงของเขาเบาลงและทอดถอนหายใจแรง

นั่นสินะ นับจากเรื่องนั้น... ก็น่าจะปีนึงแล้วสินะ...

ผมคิดพลางนึกถึงเรื่องนั้นที่ปรากฏขึ้นมาในความทรงจำ...

ผมย้ายออกมาจากหอพักและย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ปีนึงแล้ว...

สาเหตุหน่ะหรือ... ก็เพราะผมไปหลงรักเพื่อนที่นอนอยู่หอด้วยกันทุกคืนหน่ะสิ...

เขากับผมย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันหลังจบมัธยมปลาย...

เขาเป็นเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกันแต่ดันเกิดหลังผมปีนึง...

ใช่แล้วหล่ะ เพื่อนของผมที่เข้าเรียนก่อนเกณฑ์...

และเป็นรุ่นพี่ในคณะของคนที่นอนอยู่ข้างบนห้องผมนั่นแหละ...

ที่ผมไม่เข้าไปขอโทษเขาตอนนั้นก็เพราะเขาเล่นบาสอยู่กับ "เพื่อน" ของผมหน่ะสิ...

ผมอิจฉาคนที่นอนข้างบนที่เป็นเด็ก... พาลให้ผมนึกไปถึงสมัยก่อนที่ผมและเขาสนิทสนมกันได้อย่างสนิทใจ...

เพราะแบบนี้จึงไม่แปลกที่เมื่อคนบนห้องสารภาพรักแล้วจะทำให้ผมรู้สึกอยากจะหนีออกไปจากตรงนั้นซะ...

เพราะว่า "เพื่อน" ของผมเขามองมาทางผมอย่างไม่ละสายตายังไงหล่ะ...

"เรื่องมันนานมาแล้ว เลิกเก็บมาคิดมากได้แล้วน่า"รุ่นพี่พูดเบาๆก่อนมองมาทางผม สายตาที่เอ็นดูของเค้าทำให้ผมกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

"แล้วคนที่นอนอยู่ข้างบนหล่ะ? ไม่ชอบเขารึ? พี่ว่าเขาชอบแกนะ"รุ่นพี่พูดพลางยิ้มกว้าง

"พี่รู้เรื่องด้วยเหรอ? พี่รู้จักเขารึ?"ผมถามอย่างสงสัยปนตกใจ

"ถ้าไม่รู้จักจะให้ขึ้นไปร้องเพลงรึ"ทำไมผมถึงไม่นึกสงสัยมาก่อนนะ เขาเป็นรุ่นพี่ในคณะของ"เพื่อน"ผม เท่ากับว่าคนบนห้องก็เป็นรุ่นน้องคณะเขาเหมือนกัน

"แกเองยังเคยเมาแล้วเดินไปคุยกับเขาเลย จำไม่ได้หรือ?"รุ่นพี่พูดทั้งใบหน้ายิ้มแย้ม ผมได้แต่นึกสงสัยว่าผมไปทำเรื่องแบบนั้นไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

"ให้โอกาสเขาหน่อยเถิดน่า แล้วแกเอง... ก็ให้โอกาสตัวเองบ้าง"รุ่นพี่พูด น้ำเสียงของเขาทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยิน

"ขึ้นไปนอนเถอะ! อยู่ตรงนี้คงช่วยอะไรไม่ได้!"เขาพูดเสียงดังพลางหัวเราะอย่างมีความสุข ผมได้แต่มองเขาก่อนยิ้มกว้างกับคำพูดของเขา รุ่นพี่ของผมที่เป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน

นี่คงถึงเวลาแล้วสินะ...

ผมได้แต่คิดในใจ...
_________

แสงแดดอ่อนๆในยามเช้ายังคงส่องลงมาจากหน้าตาใบเดิม ต่างกันตรงที่ในครั้งนี้มีชายหนุ่มผู้แสนอบอุ่นนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่าง ใบหน้าได้รูปกับคิ้วหนานั้นสะท้อนกับแสงแดดขับให้ใบหน้าของเขายิ่งชวนมอง ในมือของเขามีถ้วยกาแฟใบหนึ่งซึ่งสร้างไอร้อนสีขาวจางๆออกมา ดวงตาคู่นั้นมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

"ตื่นแล้วหรือ?"ผมส่งเสียงออกไปทักเขา และแทบจะในทันทีที่เขาเองก็หันมามองทางผมด้วยแววตาสื่อความนัย รอยยิ้มของเขาในตอนนี้เหมือนกับว่ามันพยายามจะสื่อความหมายที่แตกต่างออกจากที่ผมเคยเห็นทุกครั้ง

ผมเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวเล็กฝั่งตรงข้ามเขาพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ตัวเขาเองก็ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งเช่นเดียวกันกับผม

"ผมหน่ะ... เคยมีผู้หญิงที่คบด้วย ผมเคยรักเค้ามากจนคิดว่าผมคงจะเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลกถ้าได้อยู่กับเค้าตลอดไป..."ชายนิรนามกล่าว ดวงตาของเขามองเหม่อออกไปเบื้องหน้าอย่างโหยหา

"แต่เค้าหน่ะ... ชอบผมแค่เพราะผมให้ทุกอย่างที่เค้าต้องการได้ วันนึง... พอผมเลือกที่จะปฏิเสธเค้า เค้าก็ไปจากผมไปหาอีกคน... โดยที่ไม่มีความลังเลเลย..."ใบหน้าหล่อเหลานั้นบอกถึงความเศร้าที่คั่งค้างอยู่ในใจได้เป็นอย่างดี

"พอเกิดเรื่องขึ้นวันนั้น ผมก็มากินเหล้าที่ร้านนี้ ก็คงเหมือนคนอื่นๆหล่ะนะ... ที่อยากมาเพื่อให้ลืมเรื่องที่ไม่อยากจำออกไปจากสมอง"เขายิ้ม"แล้วผมก็มาเจอพี่..."เขาเบนสายตาจากภาพนอกหน้าตามาหาผม

"พี่หน่ะเมาไม่รู้เรื่องจนผมรำคาญเลยหล่ะตอนแรก จนพี่มาชนแก้วกับผม...แล้วก็ร้องเพลงให้ผมฟัง"เขาอมยิ้ม

"เราร้องเพลงอะไรไปหรือ?"ผมอมยิ้มและหันมาสบตากับเขา

"ผมไม่บอกพี่หรอก อยากรู้ก็นึกให้ออกสิ ใบ้ให้แค่ว่ามันแทบจะทำให้ผมลืมเรื่องเศร้าทั้งหมดไปได้ในชั่วพริบตาเลยหล่ะ"เขายิ้มกว้างและจ้องหน้าผมไม่หยุด

ผมนี่มันแย่จริงๆ เรื่องสำคัญแบบนี้ก็จำไม่ได้...

ผมหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเขา

"ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็รู้สึกคุ้นหน้าพี่มาก จนมารู้ว่าพี่เป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ผม จะไม่ให้นึกออกได้อย่างไรกันหล่ะ รุ่นพี่ผมแทบพูดถึงพี่ตลอดเวลาเลยหล่ะ ผมฟังเขาพูดบ่อยจนผมรู้สึกได้เลยหล่ะว่า ผมอยากอยู่ข้างๆคนๆนี้และมีความสุขไปด้วยกันกับเขา"เขาพูดติดตลก"แต่เค้าบอกว่ามีปัญหากับพี่นิดหน่อย... เค้ารู้สึกผิดเลยไม่กล้าเข้าไปคุยกับพี่"เขาพูดด้วยสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย

ถึงจะไม่ได้คุยกัน... แต่เพื่อนของผมก็ยังสร้างปัญหาให้ผมไม่หยุดหย่อนเลยสินะ...

เพราะเขาเค้าดันส่งเจ้าหนุ่มคนนี้มาแทนนี่สิ...

ผมได้แต่ยิ้มที่มุมปากเล็กๆ มันช่างเป็นความรู้สึกดีใจปนเศร้าอย่างบอกไม่ถูก...

"เราหน่ะ... ก็เคยรักคนๆหนึ่งถึงขั้นที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีกแล้วเหมือนกัน... ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ... อยู่กันมาตั้งเป็นสิบปี... จะให้ไปมองใครที่ไหนได้หล่ะ..."ผมเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง"แต่คนๆนั้นเขามีอะไรกับเราครั้งเดียวก็เลิกคุยกับเราไปเลยหล่ะ..."ผมยังคงพูดต่อไปแม้จะรู้สึกเจ็บในอก"เค้าไม่อยากมีคนรักเป็นผู้ชายด้วยกัน"ผมได้แต่ทำหน้าเศร้า ผมคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของผมตอนนี้คงรู้สึกถึงได้เหมือนกัน

"ผู้ชายคนนั้นขี้ขลาดนะ..."เขาเอ่ยขึ้น"ไม่กล้าแม้แต่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองด้วยซ้ำ"เขายังคงพูดต่อไป สายตาของเขาจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่วางตา

"ถ้าผมเป็นคนๆนั้น... ผมคงไม่มีวันปล่อยพี่ไปแน่"

ผมรู้สึกหัวใจมันเต้นแรงอย่างผิดจังหวะ ไม่รู้เพราะความเจ็บปวดหรือสุขสม เหมือนกับว่าความรู้สึกของผมมันเอ่อล้นออกมาจนกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาที่เคยควบคุมมันได้มาโดยตลอดกลับไหลรินออกมาอาบสองข้างแก้ม

"นายนี่ตลกดีนะ... ทำเราขำจนน้ำตาไหลได้เลย..."ผมยิ้มขึ้นมาอย่างจริงใจ

กับคนตรงหน้านี้... ผมคงไม่ต้องเสแสร้งทำตัวเข้มแข็งสินะ...

เค้าค่อยๆเอื้อมมือใหญ่ของเขามาจับมือผม สัมผัสที่อบอุ่นราวกับจะปลอบประโลมจิตใจนั้นช่างมีพลังที่แสนมหัศจรรย์เหลือเกิน

"เราคุยอะไรกันมาตั้งนานแล้ว เรายังไม่รู้จักชื่อของนายเลย"ผมยิ้มกว้างถามคำถามที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นคำถามแรกที่ผมควรถามตั้งแต่เจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ

ผมคิดว่า... พวกเราสองคนนั้น... ข้ามขั้นตอนมามากเกินกว่าจะกลับไปได้อีกแล้วหล่ะ...

เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของเรานั้นส่งเสียงดังไปทั่วห้อง กลิ่นอายแห่งความสุขดูเหมือนจะค่อยๆห้อมล้อมตัวของพวกเราสองคนอย่างช้าๆ ผมไม่รู้ผมพูดคุยกับเค้าเนิ่นนานเพียงไร และผมเองก็ไม่สามารถตอบได้เหมือนกันว่าต่อไปพวกเราจะเป็นอย่างไร พวกเราจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนจบของ "เรา" นั้นจะเป็นอย่างไร

แต่ผมเชื่อว่า... "ผม" และ "เขา" คงจะสามารถมีความสุขกันต่อไปได้...

และผมเชื่อว่า... "เรา" จะไม่กลับไปเศร้าเหมือนที่เคยเป็นมาก่อนอย่างแน่นอน...

Finn.








Link ของเรื่องสั้นอื่นๆ:

(เรื่องสั้น) Chain: พันธนาการ... (จบบริบูรณ์)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45384.new;topicseen#new
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 14:16:56 โดย Imflector »

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แอบเศร้านิดๆตรงอดีต  :o12: ดีใจที่เปิดรับ 'เขา' เข้ามาในชีวิตนะคะ :)

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
น่ารักมากเลยเรื่องนี้ :-[

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด