[เรื่องสั้น] : Drunk อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา - จบแล้วครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] : Drunk อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา - จบแล้วครับ  (อ่าน 14856 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

















Drunk
อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา
แฮมสเตอร์ ❤ เขียน

   10:40 PM
   
~It’s time to begin, isn’t it? I get a little bit bigger but then I’ll admit. I’m just the same as I was.~

   ผมชำเลืองมองไอโฟนรุ่นใหม่แกะกล่องที่กำลังเสียบสายชาร์จอยู่ ก่อนจะละความสนใจจากมันและปล่อยให้เสียงเรียกเข้าเพลง It’s Time ของวง Imagine Dragons ดังต่อไปแบบนั้น โดยไม่คิดที่จะกดรับหรือตัดสายใดๆ ทั้งสิ้น

   แน่นอนว่ามันเงียบไปหลังจากนั้น แต่แล้ว...

   ~It’s time to begin, isn’t it? I get a little bit bigger but then I’ll admit. I’m just the same as I was.~

   ...มันก็ดังกลับขึ้นมาใหม่อีกเป็นรอบที่สิบกว่าเห็นจะได้ โอเคไอ้แดน กูจะรับสายมึงเดี๋ยวนี้แหละ!

   “มีอะไร” ผมเปิดคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยสักนิดกับการที่ปล่อยให้คนปลายสายโทรหาซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ในขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนเม้าส์คอมฯ เพื่อเปิดเฟซบุ๊กไปด้วยในเวลาเดียวกัน

   [กว่าจะรับนะไอ้มืด! นึกว่าตายห่าไปแล้ว]

   “ยังครับ กูยังไม่ตาย แล้วนี่สรุปว่ามึงมีเรื่องอะไรไม่ทราบ โทรจิกกูยังกะบ้านไฟไหม้” ผมทำเป็นพูดนั่นพูดนี่ ทั้งที่ตัวเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าไอ้แดนเพื่อนผมมันโทรมาทำไม ไม่งั้นป่านนี้ผมรับสายมันไปนานแล้ว

   อ้อ แล้ว ‘ไอ้มืด’ นี่ก็ไม่ใช่ชื่อผมนะ จริงๆ แล้วผมชื่อ ‘ริว’ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น แต่พอดีดันได้เชื้อผิวเข้มของพ่อที่เป็นคนไทยใต้ไง ก็เลยโดนไอ้พวกเพื่อนๆ มันตั้งฉายาให้ว่าไอ้มืด (ทั้งที่จริงแล้วผมก็แค่ผิวแทน) ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ถือสาอะไรหรอก ขออย่างเดียวคือคนที่ล้อได้มีแค่กลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น ลองเป็นคนอื่นล้อนี่ผมต่อยปากแตกหมดนะครับขอเตือนไว้

   โอเค จบเรื่องไอ้มืด มาเข้าเรื่องกันต่อ...

   [ไม่ต้องมาทำไก๋เลยไอ้มืด มึงก็รู้ดีว่ากูโทรมาทำไม มึงได้ยินเสียงเพลงมั้ยเนี่ย วงเขาเริ่มเล่นแล้วนะมึง พวกรุ่นพี่เขาก็ถามหามึงกันหมด จะไม่มาจริงๆ หรอวะ]

   ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัด เออ ยอมรับก็ได้ว่าผมรู้ดีว่าไอ้แดนมันโทรมาเพราะต้องการโน้มน้าวให้ผมเปลี่ยนใจยอมแต่งตัวออกไปร้านเหล้า เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของพวกรุ่นพี่ปีสี่คณะผม (คณะวิศวกรรมศาสตร์) ก็เลยมีการจัดงานอำลาเกียร์กันตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งจริงๆ ผมก็ควรไปใช่ปะ ถึงจะไม่มีพี่รหัสให้เลี้ยงส่งเพราะมันดันโดนรีไทร์ไปเมื่อปีก่อนก็เหอะ แต่ยังไงผมเองก็ยังมีรุ่นพี่ร่วมคณะที่ควรจะไปอำลาอยู่อีกหลายคน ถ้าไม่ติดว่า...

   “เชี่ยแดน มึงก็รู้ว่าทำไมกูถึงไม่ยอมไป ขอเหอะ อย่าเซ้าซี้กูเลย แค่นี้กูก็ลำบากใจจะแย่”

   ซึ่งตอนที่ผมกำลังตอบไอ้แดนกลับไปด้วยความรู้สึกลำบากใจอยู่นั้น จู่ๆ หน้า New Feeds ของเฟซบุ๊กก็ปรากฏรูปของ ‘รุ่นพี่’ ที่เป็น ‘สาเหตุ’ ให้ผมตัดสินใจไม่ไปงานอำลาเกียร์ขึ้นมาแบบพอดิบพอดี เล่นเอาผมสะดุ้งโหยงอัตโนมัติ!

   เชี่ยยย ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาหน้าตาดีนี่ผมจะใช้คำว่า ‘เฮี้ยน’ จริงๆ นะ!

   คนในรูปที่เพิ่งถูกโพสต์..ดูดีอย่างมากในวันนี้ โดยเฉพาะชุดที่พี่เขาใส่ ถึงแม้จะเป็นแค่เสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน แล้วตบท้ายด้วยผ้าใบเรียบๆ ของ adidas แต่ในเมื่อไม้แขวนมันดี ภาพรวมเลยเป็นอะไรที่พิเศษจนอดจะชื่นชมไม่ได้

   [เออกูรู้ แต่กูแค่คิดว่าอะไรๆ มันไม่น่าจะแย่อย่างที่มึงคิดนะริว ดูดิ ตอนนี้พี่คีย์ก็ดูเฮฮาดี กำลังถ่ายรูปเล่นอยู่เลย แถมก่อนหน้านี้ก็ถามหามึงด้วย มีแต่มึงนั่นแหละที่คิดว่าพี่เขาจะไม่เหมือนเดิมถ้าเจอมึงคืนนี้]

   “เออๆ เอาเหอะ พี่เขาจะยังไงก็ช่าง เอาเป็นว่ายังไงกูก็ไม่ไป อีกอย่างพรุ่งนี้กูยังเหลือสอบอีกตั้งตัวนึง กูนอนล่ะ”

   [เฮ้ย! เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่ง...]

   ติ๊ด!

   โอเค ผมกดวางสายและวางไอโฟนกลับไปที่เดิมเป็นที่เรียบร้อย... เอาจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้แดนจะพูดถึงพี่คีย์ทำไม ในเมื่อผมไม่ได้สนใจเลยสักนิด รู้สึกเฉยมาก จริงๆ นะ... ฉะ...เฉยจริงๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว...

   ...

   ...อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!

   ใครว่าล่ะ! ผมโกหกครับ เพราะว่าความจริงผมนี่โคตรจะรู้สึกเลย! มะ...เมื่อกี้ทุกคนได้ยินเหมือนผมมั้ยว่าพี่คีย์เขาถามหาผมด้วย! ตอนได้ยินไอ้แดนพูดว่า ‘แถมก่อนหน้านี้ก็ถามหามึงด้วย’ นี่ผมถึงกับเนื้อเต้นจนต้องรีบหาเรื่องวางเพราะกลัวจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่เลยนะ ทั้งดีใจ ทั้งเขิน เชี่ยยยย มึงเป็นเอามากจริงๆ นะเนี่ยไอ้ริว!

   แล้วด้วยอะไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่น่าจะเพราะคนชื่อ ‘คีย์’ นั่นแหละ ถึงได้ทำให้ผมที่แอบเครียดก่อนหน้านี้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขระคนเขินอาย พร้อมกับคลิกเม้าส์กดที่รูปพี่เขาให้มันเปิดขึ้นเต็มๆ จอ ใบหน้าชวนฝันของพี่คีย์ที่กำลังยิ้มแย้มก็เลยเด่นชัดขึ้นมาจนผมนี่แทบอยากจะยื่นหน้าเข้าไปจูจุ๊บสักทีสองที ถ้าไม่ติดว่ายังพอจะมีความยับยั้งช่างใจอยู่บ้างน่ะนะ แหะๆ สุดท้ายก็เลยได้แต่นั่งพินิจพิจารณาใบหน้าของพี่คีย์ต่อไป

   เฮ้อออออ~ ดูสิ.. คนอะไรวะ หน้าหวานชิบหาย ตาก็โตยังกับลูกแมว มองแล้วให้ความรู้สึกทั้งน่ารักทั้งขี้อ้อนในเวลาเดียวกัน แถมยังมีไฝเม็ดจิ๋วบริเวณหางตาซ้ายที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เป็นจุดเด่นให้เจ้าตัวพอๆ กับจมูกสูงโด่งที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปอีก แล้วพอเลื่อนลงมาหน่อยก็เป็นปากสีชมพูอ่อนที่โคตรจะน่าจูบ! ผิวก็ข๊าวขาว อา~ อย่าหาว่าผมหื่นเลยนะ แต่ตัวเล็กๆ แบบเนี้ย อยากหิ้วขึ้นเตียงเลยว่ะ -..-

   ตะ..แต่มันก็แค่จินตนาการเท่านั้นแหละ! ในเมื่อความจริงผมไม่มีทางทำอะไรให้พี่คีย์เขาเสื่อมเสียอยู่แล้ว เพราะว่าผมน่ะชอบพี่เขามากนะ มากซะจนอยากได้หัวใจของพี่เขามากกว่าร่างกาย (แต่ถ้าได้ทั้งสองอย่างก็... เฮ้ย! นี่คิดอะไรเนี่ยยยย~) อาจจะฟังเหมือนพูดเอาเท่ห์นะ แต่เชื่อเหอะ ถ้าคุณชอบใครสักคนจริงๆ แล้วคุณจะเข้าใจ

   แต่ก่อนผมก็ไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนี้หรอก เพิ่งจะมาเริ่มเข้าใจก็ตอนได้เจอพี่คีย์เนี่ยแหละ แม้ว่าพี่เขาจะเป็นอดีตเดือนคณะที่มีเกย์จากหลายคณะรุมล้อมก็เถอะ แต่ผมก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าสักวันผมจะมีโอกาสพิชิตใจของพี่เขาให้ได้ ซึ่งมันก็ต้องเริ่มจากการบอกความในใจก่อนใช่ปะ? อืม.. ใช่ มันต้องเริ่มจากจุดนั้น

   แล้วถามว่าผมไปถึงจุดนั้นหรือยัง?

   ครับ ผมทำแล้ว แล้วผลเป็นไงรู้มั้ย? ก็... มุดหัวอยู่แต่ในหอไม่กล้าออกไปไหนแบบนี้ยังไงล่ะ T___T

   โอ๊ยยยยย~ (ทึ้งหัวตัวเอง) ผมรู้นะว่าตอนนี้ผมแม่งดูเวิ่นเว้อมาก! และน่าจะกลายเป็นตัวตลกของใครหลายๆ คนที่พบเห็นเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ผมเองก็อยากให้พี่คีย์เข้าใจว่าผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องน่าขายหน้าแบบนั้นมันเกิดขึ้นเหมือนกัน ฮือ~

   คืองี้ครับ... ทุกคนลองจินตนาการตามที่ผมเล่านะ ...มันเป็นช่วงพักกลางวันในโรงอาหารวิศวะที่คนมีสอบวันนี้กำลังนั่งกินข้าวกันเหมือนในวันปกติที่มีเรียน แต่ที่ไม่ปกติก็คือ...มีผมที่หิ้วช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่เดินเข้าไป!

   ไม่รู้เหมือนกันว่าผมไปรวบรวมความกล้าและบ้าบิ่นมาจากไหนถึงได้ทำอะไรไปโดยไม่แม้แต่จะปรึกษาเพื่อนรักอย่างไอ้แดน! ทุกอย่างที่ผมทำถูกคิดและเตรียมการอย่างลับๆ โดยตัวผมแต่เพียงผู้เดียว และสิ่งที่ผมต้องการจะทำก็คือ...สารภาพความใจให้กับพี่คีย์! อะ...โอเค มันอาจจะฟังดูดีมาก มีทั้งช่อกุหลาบสีแดง มีผมที่แอบชอบรุ่นพี่คณะมานาน กับรุ่นพี่หน้าตาดีที่กำลังจะถูกเซอร์ไพรส์ จนอย่างแย่ที่สุดที่ไอ้ริวคนนี้จินตนาการไว้ก็น่าจะเป็นภาพของพี่คีย์ที่รับช่อดอกไม้ไป ก่อนจะปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าลำบากใจแค่ไหน ทว่า... มันกลับมีอะไรที่เลวร้ายกว่านั้น!

   ผมคิดเสมอว่าผมไม่ใช่คนหล่อ ถึงแม้เพื่อนๆ ในกลุ่มจะไม่คิดแบบนั้น แต่การที่ผมส่องกระจกแล้วพบกับนักศึกษาปีสามผมสั้น มีตาเรียวยาวแต่ชั้นเดียว จมูกก็โด่งปกติ ปากก็ไม่ได้เป็นกระจับอะไรมากมาย แถมผิวก็แทนผิดจากคอนเซ็ปต์ที่คนไทยเขาชอบอีก ผมจึงคิดว่าผมมันก็แค่ลูกญี่ปุ่นผิวสีเข้มธรรมดาๆ เท่านั้น ไม่ได้วิเศษมาจากไหน แถมปกติเวลาไปเรียนก็ชอบใส่เสื้อนักศึกษายับๆ กับกางเกงยีนส์ขาดๆ อีก เรียกว่าแทบจะไม่มีจุดขายเลยแม้แต่จุดเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็เลยปฏิวัติตัวเองโดยการเซ็ทผมเนี้ยบ และเลือกชุดนักศึกษาที่ดีที่สุดในตู้ไปสอบ ก็เลยได้กางเกงที่โคตรจะฟิตสุดๆ เพราะการแต่งกายถูกระเบียบครั้งสุดท้ายเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานมากแล้วจริงๆ

   และเมื่อเสื้อผ้าหน้าผมพร้อมแล้ว ผมก็ขับรถมาสอบในช่วงเช้าพร้อมคำถามมากมายจากกลุ่มเพื่อนที่ยิงตรงเข้ามา แน่นอนว่าผมยังไม่ยอมบอกอะไรกับพวกมัน แค่มาสอบให้เสร็จแล้วรีบออกไปรับช่อกุหลาบที่สั่งทำไว้ไม่ไกลจากหอที่ผมพักอยู่ ก่อนจะขับรถกลับเข้ามายังโรงอาหารของคณะอีกทีตอนเที่ยง หอบหิ้วช่อดอกไม้ช่อนั้นเดินตรงเข้าไปด้วยความกล้าหาญในรอบหลายสิบปี พร้อมกับทุกคนที่หันมามองผมเป็นตาเดียว

   ‘เฮ้ย! นั่นมึงซื้อดอกไม้มาให้ใครวะไอ้มืด?’

   เสียงของไอ้แดนคือคำทักทายแรกที่ผมได้ยิน แต่แน่ล่ะว่าผมต้องทำเมินใส่มัน เพราะไม่อยากเสียความมั่นใจอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ ก่อนจะเดินก้าวยาวๆ เลยโต๊ะประจำของผมและกลุ่มเพื่อนเพื่อไปยังโต๊ะที่อยู่ถัดไปอีก.. หนึ่ง.. สอง.. สาม.. และ..

   ‘อ้าวริว วันนี้แต่งตัวซะหล่อเชียวนะ’ เฮ้อออออ~ คำทักทายแบบนี้สิที่ผมอยากจะได้ยิน อิอิ โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นคำทักทายจากพี่คีย์ที่กำลังนั่งกินข้าวกับพวกรุ่นพี่ปีสี่คนอื่นๆ ผมยิ่งอยากได้ยินเข้าไปใหญ่ ^^

   ตอนนั้นจำได้ว่าผมเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป แล้วขอให้พี่คีย์ลุกขึ้นยืน ส่งผลให้เสียงฮือฮาของคนในโรงอาหารเริ่มดังขึ้น

   ‘พี่คีย์ครับ’

   ‘วะ...ว่าไง?’ ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าพี่คีย์จะต้องประหลาดใจแน่ ที่จู่ๆ ผมก็ขอให้พี่เขาออกมายืนตรงหน้าผมแบบนี้ ในขณะที่ผมเองก็ใจเต้นแรงแทบบ้า!

   ‘ผม... ชอบพี่นะครับพี่คีย์ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะไม่เคยแสดงออกให้พี่เห็น แต่อยากให้รู้ว่าตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่... พี่เป็นคนเดียวที่อยู่ในใจผมนะครับ’ มันเป็นช่วงเวลาที่จะต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการที่จะพูดหรือทำอะไรก็ตามต่อหน้าคนเยอะๆ ขนาดนี้ โดยเฉพาะเมื่อผมตัดสินใจว่าวินาทีต่อจากนี้ผมจะก้าวถอยหลังไปอีกสักนิด แล้วค่อยๆ คุกเข่าลง ก่อนที่พูดจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจเพิ่มเติม

   แต่เพียงแค่ผมก้าวขาขวาถอยไป... เรื่องราวเลวร้ายแสนจะน่าอับอายก็เกิดขึ้น! ให้ตายเหอะ ผมไม่รู้เลยว่าผมแม่งไปทำเวรทำกรรมอะไรกับใครมา ถึงทำให้พื้นที่ก้าวถอยหลังไปมันลื่นได้มากมายขนาดนั้น มากถึงขนาดที่ว่าขาทั้งสองข้างฉีกออกจากกันคนละทิศคนทางอย่างไร้การควบคุม ส่งผลให้เป้ากางเกงที่ฟิตเปรี๊ยะอยู่แล้วมันทำการทรยศผมในเวลาที่แสนจะสำคัญเช่นนั้น...!!

   แควก!

   สะ..เสียงฉีกขาดมาพร้อมกับเนื้อผ้าสองส่วนบริเวณเป้ากางเกงที่แยกออกจากกันอย่างสามัคคี จนเจ้าอันเดอร์แวร์สีเหลืองอ่อนของ Calvin Klein ปรากฏแก่สายตาชาวโลก โดยเฉพาะพี่คีย์ที่ยืนตาโตอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นเนื้อผ้าของ Calvin Klein ที่ผมใส่ได้อย่างชัดเจน!!

   ‘เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!’

   ผมไม่แน่ใจนักว่าเสียงอุทานอันหยาบคายด้านบนนั้นเป็นของใคร แต่ที่แน่ๆ คือมันตรงกับเสียงตะโกนก้องที่อยู่ในใจผมมาก! หน้าผมนี่แม่งชาไปหมด ก่อนที่ร่างกายจะทำการลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ วิ่งสุดชีวิตกลับไปที่รถของตัวเอง แล้วขับกลับหอในทันที!

   ไม่ต้องมาถามถึงละดับความอายของผมนะ บอกตรงๆ ว่าคำว่า ‘โคตรอาย’ ยังฟังดูซอฟต์เกินไปสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่ถ้าผมเอาหัวโขกพื้นจนสมองเสื่อมลืมว่าตัวเองเป็นใครและเคยเป้ากางเกงขาดตอนไหนป่านนี้ผมทำไปแล้ว T___T แต่เพราะผมใจไม่เด็ดพอ สุดท้ายผมก็เลยทำได้แค่หมกตัวอยู่ในห้องตั้งแต่กลับมาจนถึงตอนนี้ ไม่กล้าเอาหน้าออกไปโชว์ให้ใครเห็นทั้งนั้นแหละ!

   ‘We found love in a hopeless place.’

    แล้วในขณะที่ความอายระดับพันล้านจากการนึกย้อนเรื่องราวเมื่อตอนเที่ยงกำลังหวนกลับคืนมาอีกครั้ง สายตาของผมก็เพิ่งจะสังเกตเห็นแคปชั่นของรูปพี่คีย์ที่ผมเองก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนักว่ามันมีความหมายอะไรมากไปกว่าเนื้อเพลง We found love ของ Rihanna มั้ย? แต่ก็แอบเดาว่าคงจะเป็นเพลงที่ดังขึ้นในขณะที่พี่เขากำลังถ่ายรูปนี้ เพราะเวลาผมคิดแคปชั่นที่ร้านเหล้าไม่ออก ผมก็เลือกใช้เพลงที่กำลังเล่นอยู่ในขณะนั้นเหมือนกัน

   แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ... จากแค่แคปชั่นสั้นๆ แคปชั่นเดียว กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นว่าผมเปิดฟังเพลงดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาใน YouTube จนนับครั้งไม่ถ้วน

   เฮ้ออออออ~ เป็นเอามากจริงๆ สินะไอ้ริว!



   
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2015 10:24:15 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
0.59 AM

   ก๊อกๆๆๆ

   ผมที่เพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จถึงกับชะงักเล็กน้อย เมื่อจู่ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นในเวลาแบบนี้

   ใครวะ?

   และเพื่อไม่ให้ความสงสัยทำงานหนักจนเกินไป ผมเลยจัดการเอาผ้าเช็ดตัวที่ใช้เสร็จแล้วแขวนไม้แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรีบเดินไปส่องตาแมวเพื่อดูว่าแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลเช่นนี้เป็นใคร

   ก๊อกๆๆๆ

   บอกตรงๆ ว่าตอนเริ่มส่องนี่ผมไม่มีไอเดียหรือรายชื่อใครอยู่ในหัวเลยนะ เพราะฉะนั้นตอนที่เห็นภาพของใครคนนั้นผ่านตาแมวผมถึงได้... “เฮ้ย!!!”

   ร้อง ‘เฮ้ย’ ออกมาซะดังลั่น!

   มะ...ไม่จริง นี่ผมต้องตาฝาดแน่ๆ จะเป็นไปได้ยังไงที่เจ้าของดวงตาลูกแมวจะมายืนอยู่อีกฟากของประตูแบบนี้!? ภะ...ภาพหลอนสินะ ใช่ แบบนี้ต้องเป็นภาพหลอนแน่...

   ก๊อกๆๆๆ!

   “นี่~ ริวอยู่ม้ายยย~ เปิดประตูให้หน่อยยย~” ตะ...แต่ว่ามันมีเสียงด้วยนะ? ถึงจังหวะการพูดจะดูแปลกๆ ก็เถอะ แต่ฟังจากเสียงนี่มันก็พี่คีย์ชัดๆ แสดงว่าก็ต้องไม่ใช่ภาพหลอนอะดิ

   ละ...แล้วผมควรทำไงดีเนี่ย!?

   ก๊อกๆๆๆ

   “ริว~ นี่พี่คีย์น้าาา~ เปิดหน่อยยย~”

   ก๊อกๆๆๆ

   “ริววว~ ถ้าไม่เปิดพี่จะทุบประตูแล้วนะ!”

   “คะ...ครับๆ จะเปิดเดี๋ยวนี้ล่ะครับ”

   ตอนแรกผมก็ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดีน่ะนะ แต่พอเจอเสียงโหดๆ ของพี่คีย์ที่ไม่ค่อยจะได้ยินบ่อยนัก ผมก็รีบกุลีกุจอเปิดประตูให้คนข้างนอกเข้ามาทันที

   แอ๊ดดด~

   “สะ...สวัสดีครับพี่คีย์ พี่มีอะไร... ฮะ..เฮ้ย!”

   “คิดถึงงงงงง~”

   ยังไม่ทันที่ผมจะพูดในสิ่งที่คิดจนจบเลยด้วยซ้ำ พี่คีย์ที่ยืนเคาะประตูอยู่นานก็โถมเข้ามากอดผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว O_O! กะ...กอดงั้นหรอ นี่ผมกำลังกอดกับพี่คีย์จริงดิ!?

   อา~ แต่จะว่าไปพี่คีย์นี่ก็ตัวนิ่มจังแฮะ

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   แถมพี่เค้ายังทำเอาหัวใจผมเต้นโคตรแรงเลยด้วย นี่เล่นมากอดกันแบบนี้แสดงว่าไม่กลัวโดนผมหิ้วขึ้นเตียงเลยสินะ!!?

   “คิดถึงอะไรกันพี่ ผมว่าพี่เมาแล้วแหละ” ผมทำเป็นหัวเราะปิดท้ายประโยค เพราะไม่อยากจริงจังอะไรกับคำพูดของคนเมา แต่กลับกลายเป็นการทำให้คนที่กำลังกอดผมอย่างไม่มีเหตุผลอยู่นั้นดูจะไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

   “ใครเมา! พี่ไม่ได้เมานะ” ไม่พูดเปล่า พี่คีย์ยังผละออกจากผมแล้วชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง โห~ เสียดายอะ อยากกอดต่อจัง “แล้วที่บอกว่าคิดถึงอะ คิดถึงจริงๆ นะเว่ยยย~ ไหนว่าจะไปเจอกันที่ร้านไง ปล่อยให้พี่รอเก้อ!”

   พอพูดจบ พี่คีย์ก็ทำหน้าเง้าหน้างอเพิ่มเข้าไปอีก แต่... มองแล้วรู้สึกว่าน่ารักเป็นบ้า ไหนจะตาเยิ้มๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้คนร่างเล็กตรงหน้าผมอีก นี่ถ้าผมดึงพี่เขาเข้ามาจูบ..จะผิดมั้ยวะ?

   ตะ..แต่เดี๋ยวก่อน! โฟกัสหน่อยดิวะริว ตอนนี้พี่คีย์กำลังเมานะเว่ย นอกจากมึงไม่ควรจะฉวยโอกาสแล้ว มึงก็ควรหาทางให้พี่เขากลับห้องไปนอนอย่างปลอดภัยด้วย

   “เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกันนะพี่ พี่ก็รู้นี่ว่าทำไมผมถึงไม่ยอมไป (._.)” กรรม แต่ไหงพอนึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันแล้วแม่งต้องหลบตาพี่คีย์ด้วยวะ พี่เค้าเมาอยู่นะไอ้ริว เขาไม่มีสติมานั่งคิดมากเหมือนมึงหรอก

   “รู้อะไร ที่เป้าขาดอะหรอออ~”

   “ชะ...ใช่ครับ เรื่องนั้นนั่นแหละพี่”

   อันที่จริง... ประเด็นมันน่าจะอยู่ที่เรื่อง ‘สารภาพความรู้สึก’ นะ แต่ในเมื่อคนเมาเขาว่าเป็นเรื่องกางเกงขาด ผมก็ต้องยอมเออออไปอะเนอะ เหอะๆ

   “ไม่เห็นต้องคิดมากเลยยย~ สู้ๆ นะ พี่เป็นกำลังใจให้ ฮ่าๆๆๆ~” เอ่อ... พี่คีย์ครับ นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่เมานี่ผมถือว่าพี่หัวเราะ ‘กวนทีน’ ผมได้เลยนะครับเนี่ย =_=

   “ครับ” แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่ถือสาอะไรกับพี่คีย์อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เพราะว่าเขาเมาหรอกนะ คนเมาผมก็เคยต่อยปากแตกมาแล้ว แต่นี่แม่งคนที่ชอบไง ต่อให้พี่คีย์เขาด่าผมผมยังไม่โกรธเลย เพราะฉะนั้น การตอบรับว่า ‘ครับ’ เนี่ย บอกเลยว่าพูดด้วยน้ำเสียงที่โคตรจะจริงใจ..จริงๆ นะ

   “โอเค~ ดีมากกก~ งั้นพี่นอนละนะ ง่วงงง~”

   และเหตุการณ์ต่อจากนั้นก็เป็นอะไรที่ผมทำได้แค่ยืนงงอยู่เฉยๆ เมื่อพี่คีย์เป็นฝ่านหันไปปิดประตูห้อง ก่อนจะสะบัดรองเท้าผ้าใบให้หลุดออกได้ภายในสิบวิ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

   “พี่คีย์” ผมเองก็ไม่รอช้า รีบสะกิดปลุกคนตัวเล็กที่เลือกนอนในท่าคว่ำหน้า แถมไอ้เจ้าชายเสื้อโปโลสีขาวก็เลิกขึ้นเผยเอวคอดขาวเนียนอีก จนผมนี่คือแทบจะน้ำลายหกเลย!

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   โอ๊ยยยย~ ใจเย็นไว้ไอ้ริว หัวใจน่ะเต้นให้มันเบาๆ หน่อย มึงเป็นคนหื่นก็จริง แต่มึงไม่ใช่คนเลว เพราะฉะนั้นมึงจะไม่ล่วงเกินอะไรพี่คีย์เขาเด็ดขาด ตกลงนะ!

   และเมื่อตั้งสติตกลงกับตัวเองได้ ผมก็ค่อยๆ ดึงชายเสื้อโปโลให้ปิดลง ก่อนจะทำการปลุกพี่คีย์ต่อ โดยคราวนี้ใช้วิธีเขย่าตัวเพิ่มเข้าไปด้วย

   “พี่คีย์ครับ ตื่นเถอะครับ เดี๋ยวผมพาพี่กลับห้องเอง”

   “...” ...เงียบ

   โอเค ลองใหม่ๆ

   “พี่คีย์ครับ ตื่นเถอะครับ”

   “อื้อออ~” โอเค เริ่มรู้สึกตัวละ ลองอีกทีน่าจะ... “ทำไม~”

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   ทะ...ทุกคนครับ... ช่วยผมด้วย... หัวใจผมกำลังโดนทำลายล้าง!

   ผมนี่สตั๊นไปสิบวิเลยตอนที่พี่คีย์ครางขึ้นมาแล้วผมตั้งใจจะทำการปลุกพี่เค้าอีกรอบ แต่จู่ๆ... ร่างบางที่กำลังงัวเงียก็ลืมตาตื่นขึ้นมาถามว่า ‘ทำไม~’ ..นั่นสิ ทำไม? ทำไมท่าทางของพี่มันถึงได้มีเสน่ห์จนเวลารอบตัวผมมันหยุดนิ่งได้ขนาดนี้!

   “อะ...เอ่อ... ลุกเถอะครับพี่ เดี๋ยวผมพาพี่กลับไปนอนที่ห้องนะครับ”

   “ไม่! จะนอนที่นี่ อย่ามายุ่ง!”

   ผมไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรกลับไปดี สติที่โดนเสน่ห์ของพี่คีย์ทำลายล้างก็ยังรวบรวมกลับคืนมาไม่ครบ ดังนั้น ปล่อยให้พี่เค้านอนไปก่อน แล้วเดี๋ยวผมโทรหาไอ้แดนให้ช่วยคิดน่าจะดีกว่า

   คิดได้ดังนั้น ผมก็เดินไปหยิบไอโฟนที่ชาร์จจนแบตเต็มแล้วแต่ยังไม่ได้ถอดสายออกขึ้นมากดเบอร์โทรหาไอ้แดน แต่ว่า...

   “เอามานี่เลย!”

   ...กลับโดนคนที่คิดว่าหลับแล้วแย่งไปซะได้!

   “พี่คีย์ เอาไอโฟนผมคืนมานะ”

   “ไม่ให้ จะโทรตามคนมาช่วยพาพี่กลับห้องหรอ ฝันไปเถอะ!” คนเมาแล้วดื้อโวยวายเป็นชุด ก่อนจะกดปิดไอโฟนผมไปเลย กรรม อารมณ์ไหนของพี่คีย์วะเนี่ย!?

   “อะไรกันครับพี่คีย์ ผมงงไปหมดแล้วนะ” ผมพูดไปก็เกาหัวไป นี่ผมงงจริงๆ นะเนี่ย จู่ๆ รุ่นพี่ที่ปกติจะเรียบร้อยน่ารักก็มาบุกห้องผมด้วยอาการเมา แถมยังทำอย่างกับว่าอยากนอนที่ห้องผมอีก ผมควรงงใช่มั้ย ใครก็ได้ช่วยตอบผมทีเถอะ?

   “ไม่ต้องงงเลย~ เปิดแอร์ให้พี่ดีกว่า ใจคอจะให้นอนร้อนๆ แบบนี้หรอ”

   อ้าว... นี่ผมผิดอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย? ก็ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จนี่ครับพี่คีย์ กำลังจะเปิดแอร์นอนพี่ก็ดันมาซะก่อน จะมาว่าผมได้ไงเล่า

   “โอเคครับ เดี๋ยวผมเปิดแอร์ให้” แต่คนมันชอบอะเนอะ ถึงคนเมาจะงี่เง่ายังไงก็คงได้แต่บ่นในใจ เฮ้อออออ~ นี่ถ้าพรุ่งนี้พี่เขาสร่างเมาแล้วจะรู้มั้ยนะว่าทำอะไรหรือพูดอะไรกับผมบ้าง?

   “อ๊ะ เดี๋ยวๆ ไม่ต้องเปิดหรอก พี่เปิดเอง ริวอะ ไปหยิบน้ำมาที พี่คอแห้ง”

   “อา... โอเคครับ น้ำนะครับ เดี๋ยวผมหยิบให้” ผมจะไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้นครับ พี่คีย์อยากให้ทำอะไร ผมจะทำให้หมดเลย (นี่สาบานเลยนะว่าไม่ได้กัดฟันพูด)

   พอเห็นว่าผมเปลี่ยนเป้าหมายจากรีโมทแอร์เป็นตู้เย็น พี่คีย์ก็พาร่างโซเซกับใบหน้าแดงก่ำไปยังรีโมทแอร์ที่เสียบอยู่กับที่วางของมันบริเวณเพดานข้างๆ ประตูห้อง

   ผมที่หยิบน้ำไปก็คอยมองการกระทำของอีกฝ่ายตลอด จะว่าไป... เวลาที่พี่เค้าดูมึนๆ งงๆ จ้องมองรีโมทตาแป๋วเหมือนเด็กนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ กว่าจะกดเปิดแอร์ได้นี่ทำเอาผมลุ้นจนเหนื่อยเลย

   “น้ำครับ” หลังจากการเปิดแอร์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ผมก็เดินเอาขวดน้ำไปแลกกับรีโมทในมือพี่คีย์ เพื่อจะได้เก็บให้เรียบร้อย

   “ขอบคุณน้า~”

   แต่ในขณะที่คนผิวขาวกำลังจะเปิดฝาขวดน้ำ จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อพี่เค้าดังมาจากนอกห้อง...

   “คีย์ มึงอยู่รึเปล่า”

   ปังๆๆ!

   แล้วก็ไม่ได้แค่เรียกอย่างเดียวนะ มีการทุบประตูเสียงดังปึงปังด้วย แต่ไม่ใช่ที่ห้องผมนะ เป็นห้องตรงข้าม ซึ่งก็คือห้องของพี่คีย์นั่นแหละ สงสัยจะเป็นพวกเพื่อนๆ ที่ไม่เมามาตามดูว่าพี่คีย์กลับถึงห้องรึยังล่ะมั้ง

   “สงสัยเพื่อนพี่มา งั้นเดี๋ยวผมไปบอกพวกพี่เขาก่อนว่า... อื้อ!”

   ผมที่กำลังตั้งใจจะบอกว่า ‘งั้นเดี๋ยวผมจะไปบอกพวกพี่เขาก่อนว่าพี่คีย์อยู่ห้องนี้ เพื่อนพี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง’ แต่กลับถูกพี่คีย์ตะครุบปากลากขึ้นเตียงภายหลังจากที่พี่เขากดปิดไฟห้อง!

   “คีย์ เปิดประตูให้พวกกูหน่อย พวกกูเป็นห่วงนะ”

   ปังๆๆ!

   เสียงของคนข้างนอกยังคงเรียกหาพี่คีย์ต่อไป โดยที่พวกเขาไม่ได้รู้เลยสักนิดว่าคนร่างบางที่ตามหาอยู่นั้นกำลังขึ้นคร่อมและกดตัวผมลงกับเตียง

   “ชู่ว~ ห้ามส่งเสียงนะ” ไม่เพียงแค่นั้น พี่คีย์ยังมีการก้มลงมากระซิบข้างหูแบบที่ให้ได้ยินกันแค่สองคนด้วย โอ๊ยยยย นี่มันอะไรกันวะเนี่ย เมื่อก่อนตัวพี่เขาผมยังไม่กล้าโดนเลย แต่ไหงตอนนี้กลับเป็นฝ่ายพี่เขาที่แนบชิดกับผมแทนวะ! แล้วมากระซิบข้างหูใกล้ๆ แบบนี้มันขนลุกนะพี่ ใกล้ขนาดที่ว่าผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของพี่เขาเลย!

   เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวผมอดใจไม่ไหวแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมบ้าง พี่ได้สร่างเมาแน่พี่คีย์~!

   “แม่ง มึงว่ามันจะอยู่ในห้องยังวะ ไหนมึงลองโทรตามมันอีกทีดิ๊ไอซ์ เผื่อจะได้ยินเสียงอะไรจากในห้องบ้าง”

   “เออๆ โอเค”

   ความเงียบภายในห้องทำให้ได้ยินเสียงสนทนาด้านนอกชัดเจน ตอนนี้ผมก็เลยรู้แล้วว่ามี ‘พี่ไอซ์’ เพื่อนสนิทของพี่คีย์อยู่ข้างนอกด้วย คงจะกำลังโทรหาพี่คีย์อย่างที่เขาคุยกันนั่นแหละ

   ครืดดดด~

   แล้วหลังจากที่เสียงด้านนอกเงียบไปสักพัก บริเวณหน้าอกของผมที่แนบชิดอยู่กับหน้าอกของคนด้านบนก็สั่นเป็นจังหวะ จนคนที่ปิดปากผมอยู่ต้องยกตัวขึ้น แล้วใช้มือข้างที่ยังว่างหยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

   โห~ เปิดสั่นแบบนี้พวกพี่ๆ ข้างนอกก็ไม่ได้ยินอะดิ แล้วคืนนี้ผมจะได้นอนกี่โมงวะเนี่ย T___T

   ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้พี่คีย์มาป้วนเปี้ยนในห้องผมนะ แต่การที่เขาเมาแบบนี้มันก็ทำเอาผมเพลียเหมือนกัน นอกจากจะเดาใจไม่ถูกแล้วยังพูดไม่รู้เรื่องด้วย รู้แบบนี้ปล่อยให้หลับไปแต่แรกก็ดีหรอก เฮ้ออออ~

   “ติดนะ แต่ไม่รับว่ะ”

   “เชี่ย ไม่ใช่แม่งโดนลากไปปล้ำแล้วหรอวะ ยิ่งมีคนอยากได้มันเยอะอยู่ งั้นเอาไงดี ลองถามริวดูมั้ย อะ...อ้าว ปิดไฟนอนแล้วนี่หว่า คงไม่รู้เรื่องหรอกมั้ง”

   ยังครับ ผมยังไม่นอน และผมก็รู้เรื่องทุกอย่างเลย แต่ไม่กล้าส่งเสียงหรือขยับตัว กลัวพี่คีย์เขาจะเปลี่ยนจากปิดปากมาปิดจมูกแทนครับ T__T

   “เออว่ะ ปิดไฟแล้วจริงด้วย” เป็นเสียงพี่ไอซ์ที่คอนเฟิร์มการปิดไฟของผมอีกครั้ง สงสัยพวกพี่เขาคงมองผ่านตาแมวแล้วมันมืดสินะ  เฮ้ออออ~ ก็ใช่สิครับ เพื่อนพวกพี่นั่นแหละที่เป็นคนปิด

   “งั้นเราไปลองหาที่อื่นกันต่อเหอะ เผื่อแม่งเมาหลับอยู่ข้างทาง”

   “เออ ไปๆ ไม่ต้องนอนแม่งแล้วคืนนี้ หาไอ้คีย์คนเดียวเนี่ย กูล่ะเบื่อจริงจริ๊งไอ้พวกเมาแล้วเดินกลับเอง” หลังจากที่อีกเสียงที่ไม่ใช่ของพี่ไอซ์พูดจบลง ก็กลายเป็นเสียงฝีเท้าที่พากันเดินจากไป

   ผมทำได้แค่นอนนิ่งๆ ปล่อยให้พี่คีย์ปิดปากต่อไป อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่เขาจะเอายังไงต่อ แต่ที่แน่ๆ ผมวาดแผนในใจไว้ละว่าถ้าพี่คีย์หลับอีก ผมจะปล่อยให้หลับสนิทไปเลย แล้วเดี๋ยวค่อยอุ้มพี่เค้าไปส่งที่ห้อง เพราะเมื่อกี้ตอนที่พี่คีย์ขยับตัว ผมได้ยินเสียงกุญแจด้วย คงอยู่ในกระเป๋ากางเกงนั่นแหละ

   “ฮ่าๆๆๆ~” แต่หลังจากปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่พักใหญ่ ร่างบางบนตัวผมก็ระเบิดหัวเราะออกมา ก่อนจะปล่อยผมให้เป็นอิสระ แล้วลุกขึ้นไปเปิดไฟ

   “หัวเราะอะไรครับพี่คีย์” ผมที่เพิ่งจะลุกขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

   “ก็ขำไอ้พวกนั้น หาให้ตายก็หาไม่เจอหรอก ฮ่าๆๆๆ~”

   “อ้าว แบบนี้นี่ไม่น่ารักเลยนะครับพี่คีย์ พวกเพื่อนๆ เขาอุตส่าห์เป็นห่วง” ผมว่าจะไม่ดุแล้วนะ แต่พอเห็นว่าพี่คีย์ดูจะไม่รู้สึกผิดกับการที่ปล่อยให้เพื่อนๆ ตามหา ผมคงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละ

   “โห~ อย่าบ่นดิ เดี๋ยวส่งข้อความไปบอกก็ได้ว่าถึงห้องแล้ว เนอะๆๆ~”

   ไอ้ลงท้าย ‘เนอะๆๆ~’ นี่เหมือนจะถามความเห็นนะ แต่พี่คีย์กลับเดินตรงเข้ามาจับหัวผมโยกไปมาซะงั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าหน้าตาตัวเองตอนพูดน่ะน่ารักขนาดไหน!

   “กะ..ก็ได้ครับ แต่ต้องส่งตอนนี้เลยนะ ไม่งั้นผมจะโทรหาพวกพี่เขาเอง”

   “อื้ม เดี๋ยวส่งเลย~”

   แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมต้องมากอดอกนั่งลุ้นพี่คีย์พิมพ์ข้อความส่งเพื่อน แต่เอาจริงๆ นอกจากจะลุ้นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้น่ะนะ เพราะเวลาปกติพี่คีย์ไม่ทำตัวเด็กขนาดนี้หรอก เนี่ยน้า เขาถึงเรียกเหล้าว่าน้ำเปลี่ยนนิสัยไง

   “อะ เรียบร้อย” พี่คีย์ส่งไอโฟนของตัวเองให้ผมหลังจากใช้เวลาในการส่งข้อความอยู่เกือบสี่นาที และข้อความที่พิมพ์ไปก็คือ...

   ‘ถึงห้องแล้ว’

   เอ่อ... สี่นาทีนี่ได้ข้อความยาวจังเลยนะครับ =_=

   แต่ก็เอาเหอะ พี่ไอซ์ที่พี่คีย์ส่งข้อความ LINE ไปก็ตอบกลับมาแล้วว่า ‘โอเค’ คงจะได้หายห่วงแล้วกลับไปนอนกันสักที

   มีแต่ผมเนี่ยแหละ ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะได้นอนเมื่อไหร่ เฮ้อออ~

   คลิกๆ~

   และในระหว่างที่ผมกำลังรำพึงรำพันกับตัวเองอยู่นั้น เสียงคลิกเม้าส์ก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

   “พี่คีย์!”

   “โห~”

   มะ...ไม่ทันแล้ว! ตอนนี้พี่คีย์กำลังนั่งอยู่หน้าคอมฯ ของผม ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เค้าเดินไปตอนไหน แต่ที่แน่ๆ คือพี่คีย์กดปิดหน้าจอเฟซบุ๊กที่ผมเปิดค้างไว้ และมันก็ทำให้พี่เขาพบกับ...


   

   

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2


   “นี่มันรูปพี่นี่~ ดูดีจัง~”

   ผมทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่ยืนมองพี่คีย์ที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับรูป Desktop Background คอมฯ ที่เป็นรูปของพี่คีย์หลายๆ รูปนำมาเรียงต่อกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นฝีมือการแอบถ่ายของผมเอง

   เยี่ยม! ทีนี้พี่เขาจะได้รู้สักทีริวว่ามึงน่ะเป็นไอ้โรคจิต!!

   “ครับ ดูดีมาก” ผมตอบกลับด้วยเสียงสำนึกผิด ถึงแม้ว่ารูปแอบถ่ายพวกนั้นมันไม่ใช่ภาพโป๊เปลือย แต่การทำอะไรแบบนี้ยังไงก็ดูโรคจิตชัดๆ! ถึงแม้ความจริง... ผมจะเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ที่แอบชอบรุ่นพี่คนนึงมากๆ ก็ตาม

   “นี่ริวชอบพี่จริงๆ ด้วยสินะ นึกว่าที่พูดไปตอนกลางวันจะเป็นแค่เรื่องอำกันเล่นซะอีก” แต่แล้วพอผมพูดไปแบบนั้น ร่างบางที่นั่งมองรูปตัวเองอยู่สักพัก ก็หันมาตอบกลับด้วยรอยยิ้มแบบที่ทำเอาใจผมสั่นไปเลย... เพราะเมื่อกี้นี้มันเหมือนกับว่าพี่เขาพูดออกมาด้วยสติของคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด แถมยังดูเหมือนว่าพี่เขาจะดีใจกับการที่ผมชอบพี่เขาจริงๆ ด้วย “ฮ่าๆๆๆๆๆ~”

   เอ่อ... แต่ผมคงจะคิดผิดไป เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงห้าวินาทีพี่คีย์ก็ดันระเบิดหัวเราะออกมาและมันก็โคตรจะไม่เข้ากับอารมณ์ที่พูดก่อนหน้านี้เลย นี่สรุปว่าเมาหรือบ้าครับ ตอบ!

   แถมพอหัวเราะเสร็จ พี่คีย์ก็เลิกสนใจผมไปเลย แต่กลับไปเปิดเว็บพิมพ์นู่นพิมพ์นี่แทน ไอ้ผมที่โดนตัดอารมณ์แบบไม่เหลือชิ้นดีก็ขี้เกียจจะห้ามแล้ว อยากทำอะไรทำไปเลยครับพี่ เต็มที่กับชีวิตไปเลยครับผม
   
   Yellow diamonds in the light
   And we’re standing side by side
   As your shadow crosses mine
   What it takes to come alive
   
   แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ละสายตาจากแผ่นหลังของคนที่ผมแอบชอบมาหลายปีเลยด้วยซ้ำ จู่ๆ เสียงเพลงที่ฟังคุ้นหูก็ดังขึ้น ทำเอาแคปชั่นของรูปพี่คีย์วันนี้ฉายชัดกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง

   “ริว~ เต้นกัน!”

   “อะไรนะพี่ เฮ้ย! เดี๋ยวๆ...!”
   
   It’s the way I’m feeling I just can’t deny
   But I’ve gotta let it go

   ผมล่ะอยากจะตีพี่คีย์จริงๆ เลย คนอะไรนะเมาแล้วซนเป็นบ้า ดูดิ อยู่ๆ ก็เปิดเพลง We found love ของ Rihanna แล้วดึงผมไปเต้นกลางห้อง ไม่สิ.. อย่าเรียกว่าเต้นเลย เรียกว่าจับมือแล้วพาหมุนไปรอบห้องดีกว่า

   เฮ้ออออ~ ถ้าหยุดนี่รับรองว่าเวียนหัวแน่!

   “We found love in a hopeless place~ We found love in a hopeless place~”

   ยังครับ พี่คีย์คนดีของผมยังไม่พอแค่หมุนหรอก เพราะพอถึงท่อนฮุกก็ร้องตามไปด้วย ไม่รู้จะชอบอะไรเพลงนี้นักหนา ทั้งๆ ที่มันก็เป็นเพลงเก่าไปแล้วแท้ๆ

   “We found love in a hopeless place~ We found love in a hopeless place~ วู้วววว~ ชอบเพลงนี้เป็นบ้า!”

   “ทำไมถึงชอบอะพี่” แล้วผมนี่ก็ไม่รู้ว่าบ้าหรือเปล่าถึงได้ไปถามหาคำตอบจากคนเมาที่กำลังหมุนอย่างสุดเหวี่ยงแบบนั้น คนถูกถามเลยพาผมหยุดหมุนเอาดื้อๆ

   เอ่อ... ห้องหมุนเลยแฮะ

   “ทำไมถึงชอบเพลงนี้น่ะหรอ~” แต่ถึงห้องจะหมุน ผมก็ยังเห็นรอยยิ้มของพี่คีย์ตอนที่พี่เขาเว้นจังหวะการพูดได้ชัดเจนเลยนะ ไม่สิ ต้องพูดว่า...รอยยิ้มของพี่เขาทำให้ห้องหยุดหมุนถึงจะถูก #โคตรเพ้อ! “ก็เพราะ...”

   “...”

   “...”

   “เพราะ?” ผมถามย้ำอีกทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้านิ่งไป แถมสีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีเลยด้วย

   “ก็เพราะ...”

   “พี่คีย์”

   “ก็เพราะว่า... อุ๊บ!”

   ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากหลังจากนั้น เมื่อพี่คีย์ใช้สองมือตะครุบปากตัวเอง ก่อนจะวิ่งสุดแรงเข้าไปในห้องน้ำ ผมที่เห็นว่าท่าทางไปค่อยดีเลยตามเข้าไปด้วย ปรากฏว่า...

   “อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกก~”

   ...ครับ ตามนั้นเลย =_=;;

   ผมค่อนข้างชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าเวลาไปเมากับพวกเพื่อนๆ ไอ้แดนก็มักจะเกินลิมิตและเกาะชักโครกอ้วกอยู่บ่อยๆ ผมก็เลยเดินเข้าไปนั่งยองๆ ข้างๆ พี่คีย์ ก่อนจะช่วยลูบหลังให้

   “อ้วกออกมาให้หมดเลยพี่ จะได้รู้สึกดีขึ้น”

   ผมลูบหลังไป มืออีกข้างก็ทำหน้าที่กดชักโครกไปอย่างเป็นระบบและโคตรจะมืออาชีพ ฮ่าๆๆ~ ก็บอกแล้วไงว่าไอ้แดนมันทำให้ผมชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว

   “โอเค พี่ดีขึ้นแล้ว” และหลังจากที่อ้วกอยู่สักพัก พี่คีย์ก็ดูท่าว่าจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากสีหน้าตอนที่จะตอบคำถามผมเรื่องเพลงลิบลับเลย แสดงว่าไม่มีอะไรดราม่าเกี่ยวกับเพลง แต่แค่รู้สึกอยากอ้วกเท่านั้นสินะ ฮ่าๆๆๆ~

   แต่เดี๋ยวนะ!

   “เฮ้ยพี่! จะทำอะไร!?”

   “ก็เอาน้ำล้างปากไง”

   “แต่นั่นมันที่ฉีดก้นนะพี่”

   เมื่อกี้ผมเผลอไปแค่แป๊บเดียวเองนะ คนเมาก็เกือบจะคว้าเอาที่ฉีดก้นมาฉีดปากซะแล้ว นี่ถ้าผมห้ามไม่ทันนี่คือผมจะเป็นคนที่รู้สึก ‘อี๋’ ที่สุดในห้องนี้เลยนะครับ

   “ก็เหมือนกันแหละ~”

   “ไม่เหมือนครับ วางลงเดี๋ยวนี้เลย” แน่นอนว่าคนตัวบางๆ อย่างพี่คีย์ไม่มีทางสู่แรงควายๆ ของคนตัวใหญ่อย่างผมได้หรอก เพราะในที่สุดผมก็สามารถแย่งสายฉีดก้นกลับไปเก็บที่เดิมได้สำเร็จ ทว่า...

   ฟู่ว~

   “โอ๊ะ น้ำเย็นจางงง~”

   จริงอยู่ที่แรงคนเมาอาจจะสู้แรงคนปกติไม่ได้ แต่เรื่องความไวนี่ผมยอมแพ้จริงๆ ครับ! เพราะแค่เสี้ยววินาทีที่ผมละความสนใจจากพี่คีย์ คนร่างบางก็ลุกขึ้นไปเปิดฝักบัวล้างหน้าล้างปากซะแล้ว ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ดีกว่าใช้สายฉีดก้นน่ะนะ แต่ยืนเข้าไปทั้งตัวแบบนั้นเสื้อผ้าก็เปียกหมดสิพี่~

   “เปียกหมดแล้วพี่คีย์” ผมแอบใช้เสียงดุนิดนึงตอนที่ลุกขึ้นไปปิดน้ำไม่ให้พี่คีย์เปียกไปมากกว่านี้ แต่กลับกลายเป็นผมที่โดนน็อคซะเองในเวลาต่อมา เพราะว่า...

   “ถ้าเปียกงั้นก็อาบน้ำเลยแล้วกัน~” ทันทีที่พูดจบ พี่คีย์ก็ถอดเสื้อออกอย่างรวดเร็วแล้วโยนไปไว้ที่อ่างล้างหน้าแบบไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ทะ...ท่อนบนเปลือยเปล่าที่...โคตรขาว! ก็เลยกระแทกเข้าตาผมอย่างแรง จนหัวใจผมนี่แม่งเต้นโครมครามประหนึ่งคนตีกลองเพลงร็อคแล้วเนี่ย!!

   “พะ...พี่ ใส่เสื้อเถอะครับ ผมว่าพี่กลับไปอาบที่ห้องดีกว่า จะได้มีเสื้อเปลี่ยน... เฮ้ยพี่คีย์!!”

   “ฮ่าๆๆๆ~!”

   โอ๊ยยยยย เมื่อกี้นี่ทำเอาใจผมตกทะลุตาตุ่มลงดินไปเลยนะ! เพราะแทนที่พี่คีย์จะฟังผมบ้าง แต่พี่เขากลับดึงกางเกงลงพรึบ! จนผมนี่กลับหลังหันแทบไม่ทัน! แถมยังโดนคนเมาหัวเราะเยาะอีก

   ปะ...ไปหยิบผ้าเช็ดตัวกะ...กับเสื้อผ้าให้พี่คีย์เหอะ ขืนยังยืนอยู่แบบนี้ ผมได้หันกลับไปจับคนเมาปล้ำแน่!

   แต่พอไอ้ตอนที่เอาผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้ากลับมาให้เนี่ยดิ...!

   “พี่!!!”

   ผมแม่งรู้สึกได้เลยว่าตอนนั้นอาการ ‘หัวใจจะวาย’ แม่งเฉียดเข้าใกล้ผมไปนิดเดียว! ไอ้ตอนแรกก็เตรียมใจว่าต้องกลับมาเจอกับพี่คีย์กับอันเดอร์แวร์ตัวเดียวไง แต่ที่ไหนได้... ชีเปลือยมาเองเลยครับงานนี้!

   พะ...พี่คีย์ตั้งใจจะยั่วผมใช่มั้ยพี่ พี่อยากให้ผมเป็นคนเลวที่จับพี่ปล้ำจริงๆ ใช่ม้ายยยยย T___T

   “มาอาบด้วยกันมั้ย?” นั่นๆ ยังมีการส่งตาเยิ้มๆ มาเล่นหูเล่นตาอีก!

   เอาไงดีวะริว? จะว่าไปตอนนี้แม่งก็โอกาสทองของมึงแล้วนะเว่ย เห็นในละครเขาปล้ำก่อนแล้วค่อยรักก็มีเยอะแยะ แต่เฮ้ย! ไม่ได้ดิ นั่นมันมีแต่ในละคร ถ้าเกิดเราทำอะไรพี่เขาไปโดยไม่เต็มใจนี่แม่งคือตราบาปติดตัวคนคนนึงไปทั้งชีวิตเลยนะ แถมมึงจะกลายเป็นไอ้ผู้ร้ายข่มขืนที่แม่งมีเกลื่อนสังคมด้วย ไม่ได้ๆ อย่าให้อารมณ์ชั่ววูบมาทำให้ชีวิตของมึงและพี่คีย์ต้องพังลงเด็ดขาด!

   หลังจากเถียงกับตัวเองในหัวจนแน่ใจแล้วว่า ‘ฝ่ายธรรมะ’ ชนะ ‘ฝ่ายอธรรม’ ผมก็เพ่งสมาธิมองที่หน้าของพี่คีย์อย่างเดียว ก่อนจะยื่นของทั้งหมดในมือให้ และตัดสินใจใช้มาตรการจริงจัง

   “พี่คีย์”

   “วะ...ว่าไง” พอเจอโหมดจริงจังของผมเข้า พี่คีย์นี่ถึงกับดร็อปความซนลงเลย แถมยังรับผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าไปอย่างกลัวๆ ด้วย

   “ถ้าพี่ยังไม่เลิกดื้อและอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย จะมาหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ” พูดจบแค่นั้น ผมก็เดินออกจากห้องน้ำโดยไม่ลืมที่จะคว้ากองเสื้อผ้าที่พี่คีย์ถอดโยนไว้ที่อ่างล้างหน้าออกมาด้วย พร้อมทั้งปิดประตูให้เรียบร้อย

   เฮ้ออออออ~ อย่าโกรธผมเลยนะพี่คีย์ แต่ถ้าผมไม่ขู่ให้พี่ทำตัวเรียบร้อย มีหวังพี่ได้ซนจนโดนหมาป่าผิวแทนอย่างผมจับกินแน่เลยครับ T__T ฮือๆ~

   “ได้โปรดอย่าปล่อยมือจากฉันไป~ ไม่ว่าเรื่องใดขอให้อยู่ตรงนี้~”

   ซึ่งก็ดูเหมือนว่าการข่มขู่ที่ทำไปจะได้ผลดีเลยนะ เพราะพอผมนำเสื้อผ้าของพี่เขา (ที่แยกเอากุญแจกับกระเป๋าสตางค์ออกจากกระเป๋ากางเกงแล้ว) ไปใส่ถังที่ระเบียงแล้วกลับมานั่งสงบสติเพื่อระงับความหื่นของตัวเองที่เตียง เสียงอาบน้ำก็ดูจะเป็นไปอย่างสงบ แถมคนเมายังฮัมเพลงไปด้วย

   ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพลง ‘ไม่บอกก็รู้ว่ารัก’ ที่ประกอบละครเรื่อง ‘ขอเป็นเจ้าสาวสักครึ่งให้ชื่นใจ’ นะ ผมเคยฟังอยู่ครั้งนึง เลยพอจะจำได้ แต่จะว่าไป... พอฟังพี่คีย์ร้องเพลงแบบนี้ก็อดทำให้นึกถึงตอนที่เจอพี่เขาครั้งแรกไม่ได้ ตอนนั้น...

   ‘อ้าว เขามาเลยครับน้องๆ ใครสนใจชมรม Music Club เชิญทางนี้เลยคร้าบ~’

   ...จำได้ว่าเป็นช่วงที่ผมเข้ามาปีหนึ่งใหม่ๆ และเฟรชชี่ทุกคนก็จะต้องเข้าร่วมกิจกรรม ‘เปิดโลกกิจกรรม’ ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จักกับชมรมทั้งหมดที่มีภายในมหา’ลัย ถือเป็นการที่รุ่นพี่แต่ละชมรมจะได้โชว์ให้เห็นว่าชมรมของตนนั้นมีดีและน่าอยู่ขนาดไหน ซึ่งก็แน่นอนว่าชมรม Music Club ถือเป็นชมรมที่น่าสนใจที่สุดแล้ว ก็อย่างว่า มีทั้งไมค์ทั้งลำโพง จะพูดอะไรหรือจะประกาศอะไรก็เป็นที่ดึงดูดความสนใจไปซะหมด เวทีก็โคตรใหญ่ เรียกว่ามาเปิดคอนเสิร์ตให้น้องๆ ดูก็คงจะไม่ผิดนัก

   ‘มาก่อนนั่งหน้าเลยครับน้อง’

   ตอนนั้นน่ะพี่ไอซ์เพื่อนพี่คีย์เป็น MC ให้กับทางชมรม พอแกเห็นว่าผมท่าทางสนใจ ก็เลยเรียกให้เข้าไปนั่งแถวหน้า ซึ่งผมก็ไม่เกี่ยง เพราะเป็นคนชอบเล่นกีตาร์อยู่แล้ว ถ้าได้เข้าชมรมนี้ก็คงจะไม่เสียหายอะไร

   สักพัก พอเด็กๆ เริ่มทยอยเข้ามานั่งกันจนเต็มหน้าเวที พี่ไอซ์ก็ประหาศเปิดโชว์แรกของทางชมรม แล้วตอนนั้นแหละ ก็คือครั้งแรกที่ผมได้พบกับพี่คีย์

   ‘ขอสักคนที่มีหัวใจอยู่ในนั้น~ หัวใจตรงกับฉันมาเอาความรักฉันไป~’

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   ผมจำได้แม่นเลยว่าวันนั้นพี่คีย์เดินขึ้นเวทีด้วยเสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงยีนส์สีดำ และเพลงที่ร้องก็เป็นเพลง Event ของวง Season Five

   หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะตลอดเวลาที่ดูพี่คีย์ยืนร้องเพลงอยู่บนเวที บอกตรงๆ ผมไม่สนใจนักดนตรีของ Music Club เลยด้วยซ้ำ เพราะช่วงเวลานั้นเหมือนมีแค่ผมกับพี่คีย์สองคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น

   คนนึงร้องด้วยรอยยิ้ม... อีกคนนั่งฟังด้วยหัวใจ...

   แม่ง ฟินสัดๆ!

   ก่อนที่ผมจะได้รู้รายละเอียดอีกมากมายเกี่ยวกับตัวพี่เค้า ทั้งเรื่องที่เป็นรุ่นพี่คณะ อยู่หอเดียวกัน แถมยังอยู่ห้องตรงข้ามกันอีก ดังนั้นผมเลยมักจะหาโอกาสไปเคาะห้องพี่เขาบ่อยๆ เช่น แลกเหรียญสิบหยอดเครื่องซักผ้าบ้าง ยืมนั่นยืมนี่บ้าง และที่หนักที่สุดก็คือขอให้พี่เขาช่วยติวให้ ทั้งๆ ที่ก็รู้เรื่องแทบจะทุกอย่าง แต่ก็นั่นแหละ ก็คนมันชอบนี่ครับ อีกอย่าง ถึงผมไม่ขอพี่คีย์เขาก็ยินดีจะช่วยอยู่แล้ว ก็พี่เขาน่ะ น่ะ...น่ารักจะตาย...!

   “ให้เอาผ้าเช็ดตากไว้ตรงไหนหรอ?” ละ..ลมหายใจของผมสะดุดไปเลยตอนที่กำลังคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตแล้วจู่ๆ พี่คีย์ที่อาบน้ำเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เดินก้าวออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงบ๊อกเซอร์ที่ผมให้ไปพร้อมกับใบหน้าขาวใสไร้เมคอัพ!

   ถ้าเดินเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ๆ ตอนนี้เลยพี่เขาจะตกใจมั้ยวะ ?


ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
“ตะ...ตากอะไรกันพี่ หัวยังเปียกอยู่เลย เช็ดให้แห้งดิ” แต่ผมก็รวบรวมสติกลับมาได้น่ะนะ ก็เลยไม่มีการเดินเข้าไปขโมยหอมแก้มกันเกิดขึ้น แถมยังเตือนให้คนโตกว่าเช็ดหัวให้แห้งด้วย

   “ขี้เกียจอะ เช็ดให้หน่อยดิ” แต่แทนที่พี่คีย์จะทำตามคำแนะนำ พี่เค้ากลับเดินมานั่งลงตรงปลายเท่าผม แล้วยื่นผ้าให้ช่วยเช็ดผมให้

   ไอ้ผมนี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะดูจากหน้าตาพี่คีย์แล้วก็ยังไม่หายเมา แถมยังดูอิดโรยขึ้นกว่าเดิมด้วย สงสัยคงจะเริ่มเจอฤทธิ์ความง่วงผสมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าแล้วสินะ โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมจะเป็นคนเช็ดให้เองก็แล้วกัน

   “นี่ ถามจริงนะ วันนี้อะ คิดยังไงถึงเอาดอกไม้ไปบอกชอบพี่ อยู่ด้วยกันตั้งนาน ไม่เห็นจะมีวี่แววเลย”

   แต่พอเช็ดไปได้สักพัก จู่ๆ พี่คีย์ก็ถามคำถามที่ทำให้ผมใจเต้นแรงและร้อนไปทั้งหน้า รู้สึกเหมือนว่าในที่สุดเราสองคนก็เริ่มต้นคุยถึงเรื่องนี้กันได้สักที แม้ว่าอีกฝ่ายจะเมาอยู่ก็เถอะนะ แต่ก็เอาเถอะ ดีเหมือนกัน พอรู้ว่าพี่คีย์เมา ความกล้าที่จะพูดความในใจมันก็ยิ่งมีมากขึ้น ต่อให้พรุ่งนี้พี่เค้าอาจจะตื่นมาแล้วลืม ก็ยังถือว่าเป็นการได้ฝึกซ้อมพูดอยู่ดี

   “ก็ไม่ได้คิดยังไงหรอกพี่ จริงๆ แล้วอยากจะเก็บความรู้สึกที่มีต่อพี่เอาไว้คนเดียวตลอดไปเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไงได้ วันนี้พี่ก็สอบวันสุดท้ายแล้ว ส่วนผมก็ยังต้องเรียนต่อที่นี่อีกปี ไม่รู้ว่าอนาคตจะยังได้เจอพี่อีกหรือเปล่า พี่คีย์เองก็ยิ่งเรียนเก่งๆ อยู่ด้วย เกิดได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศขึ้นมา ผมไม่มีปัญญาตามไปหาหรอกนะพี่”

   “แล้ว... ทำไมถึงชอบพี่อะ?”

   “อืม... ตอบยากแฮะ ก็... ผมชอบพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลยอะ แล้วพี่เองก็เป็นคนดี เป็นคนน่ารัก ผมจะไม่ชอบพี่ได้ยังไง”

   เชี่ย เขินว่ะ พูดเองยังเขินเองเลยเนี่ย แหะๆ

   “...”

   “แล้วพี่ล่ะ พี่รู้สึกยังไงบ้างที่ได้รู้ว่าผมชอบพี่”

   “...”

   “พี่คีย์”

   “...”

   พอเห็นว่าถามแล้วเงียบไป ผมเลยเปิดผ้าขนหนูออกดูว่าคนตรงหน้ายังมีสติอยู่มั้ย แล้วก็เป็นไปตามคาด หลับตาพริ้มเลยครับ :)

   “พี่คีย์ครับ ถ้าจะนอนก็ขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะครับ” ผมตัดสินใจสะกิดปลุกพี่คีย์ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะอุ้ม แต่เห็นว่าอยู่ใกล้เตียงนิดเดียวเอง ปีนขึ้นก็น่าจะเรียบร้อย

   “อื้ออออ~ ง่วงอะ พี่ว่าพี่นอนเลยดีกว่า” พูดจบ พี่คีย์ก็ลุกขึ้นมานอนบนเตียงอย่างที่ผมต้องการ ส่วนผมก็เดินไปเอาผ้าเช็ดตัวไปตาก แล้วเดินกลับมาปิดคอมฯ เพราะตั้งใจว่าจะนอนไปพร้อมกับพี่คีย์เลย

   เอ่อ... นอนนี่คือนอนเฉยๆ นะ ห้ามคิดลึกเด็ดขาด!

   “ห่มผ้าด้วยนะพี่” หลังจากที่ผมจัดการ ปิดไฟเรียบร้อย ผมก็คลานขึ้นมานอนบนเตียงฝั่งซ้ายข้างๆ พี่คีย์ ก่อนจะคลี่ผ้านวมผืนแดงเพื่อห่มให้ตัวเองและร่างบาง

   “ขอบคุณนะ ฝันดี~”

   “ครับ ฝันดีครับ”

   จะว่าไป... นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมได้มีโอกาสนอนบนเตียงเดียวกับพี่คีย์ ปกติอย่างมากสุดก็คือได้นั่งไหล่ชนกันเวลาพี่เขาติวหนังสือให้ แต่นี่ถึงขั้นบอกฝันดีกันด้วย แม่ง... รู้สึกดีเป็นบ้าเลยว่ะ

   แถมเสียงลมหายใจของคนข้างๆ ที่ดังขึ้นท่ามกลางความมืดก็ทำเอาผมตื่นเต้นไม่น้อย ไม่รู้เหมือนกันนะว่าตื่นเต้นอะไร รู้แค่ว่าผมนี่นอนไม่หลับเลย ได้แต่นอนมองเพดานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงการพลิกตัวของคนข้างๆ

   เอาไงดี? ผมอยากหันไปนอนมองคนข้างๆ ว่ะ แต่ก็รู้สึกเขินเชี่ยอะไรก็ไม่รู้ เล่นเอาซะตัวแข็งทื่อเลย ฟู่ววววว~ ใจเย็นดิริว มึงแค่หันไปนอนมองหน้าพี่คีย์เอง ไม่ได้จะไปทำอะไรไม่ดีกับพี่เขาสักหน่อย ถ้าพ้นคืนนี้ไปมึงคงไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่อยากทำแล้วนะเว่ย!

   แล้วไอ้ความคิดที่ว่า ‘อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว’ ก็ทำให้ผมตัดสินใจพลิกตัวไปทางพี่คีย์อย่างรวดเร็ว แล้วเป็นไงรู้มั้ย?

   พะ...พี่คีย์ลืมตาอยู่!

   “ยะ...ยังไม่นอนหรอครับ” ผมนี่ปากสั่นเลยนะตอนที่ถามอะ หัวใจแม่งก็เต้นแรงสัด! เพราะไม่คิดว่าจะได้หันมาประสานตากับพี่คีย์แบบนี้ นึกว่าพี่เขานอนหลับไปแล้วซะอีก

   “อื้ม” ไม่ใช่แค่ยังไม่หลับนะ ยังมีการส่งยิ้มให้ผมในความมืดด้วย

   “แล้วทำไมถึงยังไม่...”

   “กอดพี่หน่อยดิ~”

   “หะ...หา!?”

   เดี๋ยวนะ นี่ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย? ทำไมจู่ๆ พี่คีย์เขาถึงขอให้ผมกอดอะ!?

   “ตกใจอะไร~”

   “ก็จู่ๆ พี่มาขอให้ผมกอด ผมก็ตกใจดิ มันเป็นคำขอที่ไม่มีเหตุผลเลยนะ”

   “ก็แค่อยากให้ริวกอด ผิดหรอ?”

   “...”

   “...”

   บางทีนะ ผมก็แอบคิดเล่นๆ ในหัวเหมือนกันว่าพี่คีย์น่ะไม่ได้เมาจริงหรอก แค่แกล้งทำเป็นเมาเพื่อมายั่วผมเหมือนพวกนางร้ายในละครที่ชอบอ่อยพระเอกอะไรแบบนั้น แต่พอคิดอีกที... แล้วพี่เขาจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรวะ อยากได้ผมงั้นหรอ?

   ตลกเหอะ มึงนี่ก็เพ้อไปเรื่อยนะไอ้ริว

   “โอเค กอดก็กอด” หลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่สักพัก ผมก็ตัดสินใจดึงร่างบางๆ ของพี่คีย์เข้ามากอดไว้โดยไม่โต้แย้งอะไรอีก เฮ้ออออ~ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงกล้าได้ขนาดนี้ อาจจะเพราะ...ไฟที่ปิดมืด หรือไม่ก็...คนถูกกอดที่กำลังเมาจนไม่ต้องรู้สึกเขินอายอะไรอีก

   ก็... น่าจะทั้งสองอย่างแหละนะ แหะๆ

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   แต่ถึงจะมีความกล้ามากแค่ไหน ผมก็ไม่อาจจะทำให้ก้อนเนื้อในอกเต้นช้าลงได้จริงๆ ยิ่งเมื่อมีรุ่นพี่ที่ผมชอบนอนซุกหน้าอยู่ที่แผงอกแบบนี้ หัวใจผมมันยิ่งเต้นแรงกว่าเดิมเข้าไปอีก เอาจริงๆ นะ ผมว่ากว่าจะหมดคืนนี้ หัวใจผมอาจจะวายก่อนพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้จะขึ้นก็ได้ ถ้ามันจะเต้นแรงซะขนาดนี้

   หวังว่าคนเมาคงไม่ถือสาหรอกนะ ที่ต้องมานอนฟังเสียงหัวใจเต้นแรงๆ แบบนี้น่ะ

   “อื้ม~” แต่ดูท่าว่าคงไม่ถือสาอะไรหรอก เพราะหลังจากนั้นไม่นาน พี่คีย์ก็ครางออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหลับไป เหลือเพียงผมที่ได้แต่มองพี่เขาอยู่แบบนั้น และบอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่าจะไม่ยอมปล่อยพี่คีย์ออกจากอ้อมกอดเด็ดขาด

   “พี่คีย์ครับ ผมขอโทษนะครับ ผมอดใจไม่ได้จริงๆ จุ๊บ~” แถมยังมีการถือวิสาสะจุ๊บที่หน้าผากนวลเนียนของคนตรงหน้าด้วย เอาใหญ่แล้วนะริว ได้กอดไม่พอยังจะไปจุ๊บหน้าผากพี่เขาอีก มึงนี่มันได้คืบจะเอาศอกชัดๆ!

   “แอบจุ๊บหน้าผากพี่หรอ~”

   “ฮะ...เฮ้ย!” เดี๋ยวๆ เมื่อกี้สาบานเลยนะว่าผมมั่นใจว่าพี่คีย์แกหลับไปแล้ว จนขนาดว่าเสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอแล้วด้วย แล้วไหงถึงได้เงยหน้าขึ้นจากอกผมมาทำตาแป๋วแบบนี้ล่ะ!? “ขะ...ขอโทษครับ ผมก็แค่...”

   ก็แค่อะไรวะ ก็แค่ฉวยโอกาส หรือก็แค่หื่น แม่ง~ อยากทึ้งหัวตัวเองโว้ยยยยยย!

   “นี่” แต่ดูเหมือนว่าคนถูกจุ๊บหน้าผากจะไม่โวยวายอะไรเลย แถมยังพูดในสิ่งที่ทำเอาผมอ้าปากค้างด้วย! “ถ้าชอบพี่มากขนาดเนี้ย เป็นแฟนกันเลยปะ?”

   ฟะ..แฟนเนี่ยนะ? โอ๊ยยยย จะมีใครบนโลกนี้ที่โดนคนเมาชวนเป็นแฟนเหมือนผมอีกมั้ยเนี่ย!

   “พี่รู้ตัวมั้ยว่าพี่พูดอะไรออกมา” ผมไม่ได้ทำเสียงดุอะไรนะ แม้ว่าคำพูดจะดูจริงจังก็เหอะ แต่บางทีก็อยากจะลองถามดู เกิดฟลุ๊คว่าพี่คีย์สร่างเมาแล้วอะไรแบบนี้ มันพอจะ...เป็นไปได้เปล่าวะ?

   “รู้ดิ โธ่~”

   เอ่อ... บอกว่ารู้ แต่เสียงนี่เมาโคตรๆ เลยนะ เฮ้ออออ~ สงสัยไอ้ที่ผมคิดเรื่องสร่างเมาอะไรนั่นอะ แม่งคงไม่มีทางเป็นจริงหรอกว่ะ

   “แล้วทำไมพี่ถึงจะคบกับผมอะ” และด้วยความหมั่นไส้คนที่เอาแต่เมาจนไม่รู้เลยว่าทำให้คนที่ชอบอย่างผมหวั่นไหวไปไกลขนาดไหนแล้ว ผมก็เลยถามกลับด้วยเสียงกวนๆ ซะเลย

   “อืม...” พี่คีย์เองก็ใช่ย่อย เห็นเมาแบบนี้มีการลีลาเว้นจังหวะเหมือนจะคิดหาคำตอบด้วยนะ แต่หน้านี่คืออมยิ้มตลอดเวลาเลย เห็นแล้วอยากเอาคืนโดยการดึงเข้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ๆ เลยว่ะ! “ไม่รู้อะ คิดไม่ออก มึนหัวไปหมด สรุปจะคบไม่คบ?”

   “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่ อีกอย่างนะ จะคบไม่คบก็คงไม่ต่างกันหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็ลืมแล้ว” เป็นไงล่ะ ถึงคราวผมบ้างดิ ในเมื่อดึงมาหอมแก้มแก้ความหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ผมก็ตัดพ้อให้ซะเลย หึหึ (นี่คือภูมิใจ?)

   “ไม่ลื๊มมมม~ พี่แค่เมานะ ไม่ได้ความจำเสื่อมสักหน่อย~”

   จ้าาาา~ ‘ไม่ลื๊ม’ ซะเสียงสูงเชียวนะ เชื่อตายแหละ!

   “ว่าแต่ยอมรับแล้วหรอว่าเมา?” พอเห็นช่องโหว่จากคำบอกเล่าเมาๆ ของพี่คีย์ ผมเลยจัดการขยี้ซ้ำ ทำเอาคนที่ผมกอดอยู่ถึงกับอ้าปากค้างไปหลายวินาที

   “มะ...ไม่รู้แหละ! งั้นสรุปว่าคบนะ จบ!” แต่ก็ยังไม่วายโวยวายเปลี่ยนเรื่องไปได้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเออออว่าผมจะคบพี่เขาเป็นแฟนอีก

   “เฮ้ย อะไรกัน ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย พี่เมาแล้วเพี้ยนว่ะ” จนสุดท้ายผมก็อดหัวเราะออกมาได้ เพราะคิดไปคิดมาผมเองก็เพี้ยนพอกันแหละ มานอนเถียงกับคนเมาแบบนี้เนี่ย ฮ่าๆๆ~

   “ใครเมา!?” กรรม สงสัยพอโดนหัวเราะแล้วของขึ้น พี่คีย์เลยเผลอพูดย้อนแย้งกับประโยคก่อนหน้านี้ ฮ่าๆๆ~ จูนหน่อยมั้ยพี่ เผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น ฮ่าๆๆ~

   “อ้าว ก็พี่นั่นแหละเมา ก่อนหน้านี้พี่ยังบอกอยู่เลย ฮ่าๆๆ~”

   “อะ...เออ! เมาก็เมา ถ้างั้นก็อย่าถือสาแล้วกัน เคยได้ยินเปล่า ที่เขาบอกว่า... วะ...ว่าอะไรนะ?”

   อ้าว แล้วผมจะไปรู้พี่มั้ยเนี่ย!?

   คนเมานอนคิ้วขมวดอยู่ในความมืด สีหน้าดูจริงจังราวกับต้องการจะเค้นคำที่อยากจะพูดออกมาให้ได้ ทำเอาผมนี่กลั้นขำใหญ่เลย เพราะไม่อยากให้พี่คีย์เขารู้สึกเสียเซลฟ์ไปมากกว่านี้ เกิดพี่เขาไม่ให้ผมกอดต่อก็แย่ดิ

   “คิดนานจัง ผมง่วงแล้วนะพี่” แต่พอเห็นว่าเงียบไปนาน ผมเลยแอบมีแซวๆ บ้างเหมือนกัน

   “อย่าเร่งดิ คนเขากำลัง... อ๋อ~ คิดออกแล้ว!” เชื่อเลยว่าคิดออกแล้ว ดีใจซะยังกะถูกหวยแน่ะ “ที่เขาบอกว่าอย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมาไง”

   “อ๋อ~ โอเคๆ” ผมยอมเออออไปในที่สุด เพราะหลังจากที่คุยกันมานี่ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าไอ้ ‘อย่าถือคนบ้า อย่าง่าคนเมา’ นี่มันเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย เอาเป็นว่า... พี่คีย์ว่าไงผมก็ว่าตามกันล่ะนะ ฮ่าๆๆ~

   “ถ้าโอเคงั้นก็สรุปว่าคบนะ”

   “เดี๋ยวๆ นี่ยังจบเรื่องนี้อีกหรอเนี่ย” ผมถามจริงจังเลยคราวนี้ ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจริงจังกับคนเมาไปเพื่ออะไร อันที่จริงนะ ผมควรจะแกล้งหลับแล้วให้พี่เขาหลับตามไปเลยด้วยซ้ำ มาบ้าคุยกันอยู่ได้

   “ช่ายยย~ จนกว่าจะตอบ ถึงจะยอมจบ”

   เฮ้อออออ~ เอาวะ ว่าไงว่าตามกัน ผมก็ชักจะง่วงๆ ละ ผมว่าเรามาจบเรื่องนี้กันเลยดีกว่า

   “ถ้างั้น ผมตกลงคบกับพี่ก็แล้วกันครับ”

   “เออ มันต้องแบบนี้สิ จะได้เป็นแฟนกันสักที”

   นั่นสิ คงได้เป็นแฟนกันสักที ถ้าพี่ชวนผมคบตอนพี่ไม่เมาน่ะนะ ฮ่าๆๆ~

   “โอเคครับ งั้นถ้าพอใจแล้ว ก็นอนซะนะครับ ฝันดีครับ” พอพูดจบ ผมก็ตัดสินใจแกล้งหลับตาลงทันที พี่คีย์จะได้หลับตามผมอย่างที่ตั้งใจไว้

   แต่ทว่า... “เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่งนอนนน~” คนเมายังคงตื๊อไม่เลิก มีการยกมือขึ้นมาบีบแก้มผมด้วย!

   “โอ๊ยยย~ เจ็บนะพี่”

   “เจ็บสิดี จะได้ตื่นไง”

   “แต่ผมง่วงแล้วนะพี่คีย์ แล้วพรุ่งนี้ผมก็มีสอบด้วย” นี่แหน่ะ ทำหน้าหงิกใส่ซะเลย

   “ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้นอน แต่คนเราเป็นแฟนกัน ก่อนนอนมันก็ต้อง...” ผมที่ตอนแรกกำลังทำหน้าหงิกอยู่ถึงกับเปลี่ยนเป็นหน้าเหวอในทันทีที่พี่คีย์เว้นจังหวะการพูดแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้ จนผมที่กอดพี่เค้าอยู่ถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อประมวลผลในสมองได้ว่าเราอยู่ใกล้กันมากเกินไปแล้ว แถมที่พี่เขาพูดต่อจากนั้น มันก็ทำเอาผมขนลุกไปหมดเลย! “จูบฝันดีกันก่อนสิ”

   “เดี๋ยวพี่... อุ๊บ!” แล้วคนเมาๆ อย่างพี่คีย์ก็ไม่เคยมีการพูดเล่น พอบอกว่าจะต้อง ‘จูบฝันดี’ ก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากจูบกับผมเลย หะ...ให้ผมตั้งตัวบ้างสิ!

   มันไม่ใช่แค่การแตะปากกันธรรมดานะ แต่พี่คีย์เลือกที่จะรุกล้ำเขามาในปากของผมด้วย จนผมต้องตอบโต้กลับโดยการตักตวงความหวานจากปากของพี่เค้าบ้าง แขนทั้งสองข้างที่กอดอยู่หลวมๆ ก็ค่อยๆ รัดตัวให้คนร่างบางเข้ามาแนบชิดกันให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โอเค... ผมยอมรับว่าตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรงจนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว และความปรารถนาที่มีต่อจูบของพี่คีย์ก็รุนแรงจนผมอยากจะกลืนกินพี่เค้าเข้าไปทั้งตัวและหัวใจเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่า...

   “...”

   ...จู่ๆ ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็หยุดนิ่งลง

   ผมค่อยๆ ผละริมฝีปากออกอย่างเชื่องช้า เพราะยังอยากจะตักตวงความหวานให้มันมากกว่านี้ แต่ทำไงได้ พี่คีย์นิ่งไปแบบนี้ก็ทำเอาผมคิ้วขมวดเลยเหมือนกันนะ จนกระทั่งพอเห็นคนตรงหน้าหลับตาพริ้มเนี่ยแหละ ถึงได้รู้ทันทีว่า...หลับไปแล้ว

   เยี่ยมมม! คืนนี้นี่ผมได้เจอประสบการณ์ที่โคตรจะแปลกใหม่หลายอย่างเลยจริงๆ ทั้งเรื่องที่โดนคนเมาชวนคบกัน แถมยังโดนคนเมาหยุดจูบเพราะหลับอีก ไม่ทราบว่ามีใครจะให้มากกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย!

   แต่เอาเข้าจริง... ผมว่าผมเองก็ควรจะพอแค่นี้แล้วเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่ที่พี่คีย์มาเคาะห้องจนถึงตอนนี้ ผมรู้สึกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเยอะมาก และการที่พี่เขาหลับไปแล้วจริงๆ แบบนี้ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าเวลาระหว่างผมกับพี่เขาในคืนนี้จบลงแล้ว โอเค อาจฟังดูเศร้านะ แต่ผมก็ต้องยอมรับความจริงว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างอาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้ พี่คีย์อาจจะจำอะไรไม่ได้เลย หรืออย่างแย่ที่สุด...อาจจะจำได้ แต่ไม่สามารถรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เรียกว่า... ไม่มีอะไรที่ตายตัว และทุกอย่างก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

   แต่สำหรับตอนนี้ ผมว่าผมจะขอนอนมองพี่คีย์อีกสักพัก แล้วปล่อยให้ความมืดและความเงียบเป็นพยานว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้เป็นความจริงที่ผมไม่ได้ฝันไป ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้เพราะว่าพี่คีย์เมาก็เถอะ แต่ผมก็ยังรู้สึกขอบคุณมันอยู่ดีที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น เพราะบอกตรงๆ การสารภาพความในใจของผมมันไม่ได้ทำไปเพียงเพื่อหวังให้พี่คีย์ตอบรับความรู้สึกของผมเท่านั้นหรอกนะ ผมน่ะ เตรียมใจมาเยอะแล้ว ไม่ว่าต่อจากนี้ผลจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ผมจะจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ไว้ ซึ่งมันก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่แอบชอบรุ่นพี่คนนึงมาตลอดอย่างผม

   แต่ว่านะ ถ้าหากผมสามารถขอพรได้สักหนึ่งข้อในตอนนี้ ผมก็คง... อยากจะขอให้พี่คีย์เขาคบกับผมเป็นแฟนจริงๆ แบบที่ไม่ได้เป็นไปเพราะว่าฤทธิ์เหล้าเหมือนกันแหละ

   ไม่รู้ว่า..ผมจะขอมากเกินไปรึเปล่านะ?

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
9.00 AM

   ผมลืมตาตื่นขึ้นพร้อมความว่างเปล่า...

   อันที่จริงก็ไม่แปลกในนักหรอกที่พี่คีย์จะหายไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเดินสำรวจไปรอบๆ ห้อง และพบว่าชุดเปียกๆ ในถังที่ระเบียง รวมถึงกุญแจ กระเป๋าสตางค์ และไอโฟนของพี่คีย์หายไปพร้อมกับเจ้าของของมัน เหลือเพียงเสื้อยืดกับกางเกงบ๊อกเซอร์ที่ผมให้พี่เขาใส่นอนเมื่อคืนพาดอยู่บนตะกร้า ทำให้อย่างน้อยผมก็ยังบอกกับตัวเองได้ว่า... ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน แต่เราสองคนได้จูบกันแล้วจริงๆ

   ผมค่อยๆ เดินกลับมานั่งที่เตียงด้วยความเงียบเฉียบ พยายามใช้ทุกวินาทีอยู่กับความทรงจำที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่เลิก เพราะลองพี่คีย์หายไปแบบนี้... ผมว่าพี่เขาคงจะไม่ได้มีความคิดแบบเดียวกับเมื่อคืนตอนที่เมาแน่ๆ เพราะฉะนั้นผมจะต้องจดจำทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อคืนนี้เอาไว้ให้ดี ก่อนที่จะได้เจอกับพี่คีย์เขาอีกครั้ง พี่คีย์...ที่ไม่คิดจะชวนผมคบเป็นแฟนเหมือนเมื่อคืนนี้อีกแล้ว...

   เฮ้อออออ~ พอเถอะไอ้ริว คิดมากไปก็มีแต่จะบั่นทอนจิตใจเปล่าๆ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก ชีวิตคนเรามันต้องเดินหน้าต่อไปเว่ย สู้ๆ

   หลังจากที่ให้กำลังใจตัวเองเสร็จเรียบร้อย ผมก็จัดการอาบน้ำแต่งตัว ตั้งใจว่าจะไปทบทวนก่อนสอบที่ห้องสมุดมหา’ลัย เพราะฉะนั้นออกไปเร็วหน่อยดีกว่า

   แอ๊ดดดดด~ ปึง!

   ใจจริงผมอยากจะเปิดและปิดประตูให้เบากว่านี้นะ เพราะกลัวว่าคนที่อยู่ห้องตรงข้ามจะได้ยิน แต่เพราะลมที่พัดเข้ามาบริเวณทางเดินมันแรงไปหน่อย ประตูก็เลยกระชากปิดซะเสียงดังเลย เยี่ยม!

   แอ๊ดดดด~

   และในขณะที่ผมกำลังจะตัดสินใจเดินต่อ จู่ๆ ประตูห้องตรงข้ามก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ พร้อมกับคนคุ้นเคยที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่เป็นของพี่เขาเอง ดูท่าว่าเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เพราะมีผ้าขนหนูพาดบ่า แถมผมก็ยังเปียกอยู่เลย

   ผมล่ะอยากจะช่วยเช็ดให้เหมือนเมื่อคืนจัง...

   “ริว”

   “อ้าว หายเมาแล้วหรอพี่คีย์ เมื่อคืนนี้มาป่วนห้องผมซะเละเลยนะ ฮ่าๆๆๆ~”

   ...แต่เพราะว่ามันไม่มีเมื่อคืนอีกแล้ว ผมเลยตัดสินใจแสร้งทำเป็นเฮฮาซะ บรรยากาศระหว่างเรามันจะได้โอเคขึ้น ถึงแม้ว่า...เสียงหัวเราะผมมันจะดูไม่ธรรมชาติเลยก็เหอะ...

   “พี่...ขอโทษนะ”

   แล้วยิ่งมาเจอคำขอโทษกับสีหน้าจริงจังของพี่คีย์แบบนี้ ผมนี่ถึงกับหุบยิ้มเลย... แม่งงง เมื่อคืนใจผมยังเต้นแรงเพราะพี่เค้าอยู่เลยนะ ไหงตอนนี้แม่งหล่นวูบไปแล้ววะ...

   หรือเป็นเพราะคำขอโทษกับสีหน้าแบบนั้น... ที่ทำให้ผมแอบเดาว่า...เรื่องเมื่อคืนนี้น่ะ พี่คีย์เขาจำได้ แต่มันน่าจะเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดจากการเมาเท่านั้นเอง...

   เชี่ย... ทั้งที่เตรียมใจมาแล้ว แต่ทำไมใจหายจังวะ!

   “ไม่เป็นไรพี่ ผมโอเค งั้นผมไปมอก่อนนะ วันนี้มีสอบวิชาเสรี ว่าจะไปอ่านทวนที่ห้องสมุดซะหน่อย ไปล่ะ” ผมรีบโบกมือลาเพื่อเป็นการตัดบท อย่างน้อยๆ ถ้าไม่ต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้ ผมอาจจะ ‘โอเค’ ได้อย่างที่พูด อีกอย่าง... ผมไม่อยากแสดงให้พี่คีย์เห็นด้วยว่าผมแม่งโคตรไม่โอเค บอกตรงๆ กลัวทำพี่เขาลำบากใจว่ะ จริงๆ

   “เดี๋ยวดิ” แต่แทนที่พี่คีย์จะยอมปล่อยผมไปง่ายๆ  เขากลับดึงกระเป๋าสะพายผมไว้ซะงั้น ละ...แล้วผมจะฝืนยิ้มได้อีกนานแค่ไหนวะเนี่ย...

   “มีอะไรหรอพี่” (พยายามฝืนยิ้ม)

   “วันนี้สอบวิชาสุดท้ายแล้วใช่ปะ เสร็จกี่โมงหรอ?”

   “ก็...” อะไรวะ จู่ๆ มาถามว่าสอบเสร็จกี่โมง ผมงงนะ หรือว่าพี่คีย์พยายามจะหาเรื่องคุย? “สอบบ่ายโมง หมดเวลาสอบสามโมงอะพี่ แต่คิดว่าผมน่าจะทำเสร็จก่อนเวลาแหละ มีอะไรรึเปล่าครับ”

   พี่คีย์ ปล่อยมือออกจากกระเป๋าผม ก่อนจะค่อยๆ เผยรอยยิ้มแบบที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็นนักบนใบหน้า แต่เพราะมันเบาบางมาก ผมเลยยังตีความรอยยิ้มนั้นไม่ออก?

   “ไม่มีอะไรหรอก แค่จะชวนไปเลี้ยงฉลองน่ะ”

   “ฉลอง?”

   ฉลองเนี่ยนะ? ฉลองอะไรกัน ฉลองที่พี่เขาเรียนจบ หรือฉลองที่ผมสอบตัวสุดท้าย?

   “ใช่ ฉลอง”

   “เนื่องในโอกาสอะไรครับ”

   “ก็เนื่องในโอกาสที่...” พี่คีย์เว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนที่รอยยิ้มประหลาดๆ บนใบหน้าจะค่อยๆ เด่นชัดขึ้นอีก ดะ...เดี๋ยวนะ? ผมไม่ได้มองผิดไปใช่มั้ยว่ามันคือรอยยิ้มแบบคนกำลังเขินน่ะ!? “เราสองคนคบกันไง”

   ฉึก!

   เหมือนมีใครสักคนแผลงศรปักหัวใจทะลุหน้าอกผมจนเกิดเป็นเสียง ‘ฉึก!’ ในหัวแทบจะทันทีที่หูของผมสามารถรับรู้และจับใจความคำพูดของพี่คีย์ได้!

   “พะ...พี่ว่าไงนะ”

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   “บอกว่าจะชวนไปฉลองเนื่องในโอกาสที่...”

   “เราสองคนเป็นแฟนกัน!?” ไม่ต้องรอให้พี่คีย์พูดทวนจนจบ ผมก็พูดต่อประโยคสวนกลับไปในทันทีด้วยความรีบร้อน

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   ตอนนี้หัวใจผมแม่งพองโตพอๆ กับสองข้างแก้มที่ปริเพราะรอยยิ้มบนใบหน้าที่ค่อยๆ กว้างขึ้นแบบที่ไม่อาจจะควบคุมได้ แต่ใครสนล่ะ วินาทีนี้ต่อให้ยิ้มจนปากมันฉีกถึงรูหูก็ยอมแล้วโว้ยยย~!

   “ก็ใช่ไง เมื่อคืนนี้เรายังตกลงคบกันอยู่เลย จำไม่ได้หรอ” ในขณะที่พี่คีย์เองก็ยังคงยิ้มเขินๆ ต่อไปเช่นกัน แม่ง ยิ้มแบบนี้พี่เขาก็น่ารักไปอีกแบบนะผมว่า

   “จำได้พี่ แต่ว่าเมื่อคืนพี่เมาไม่ใช่หรอ?”

   “ก็แค่เมาไง ไม่ได้ความจำเสื่อมสักหน่อย”

   นั่น พูดเหมือนเมื่อคืนนี้เลย แสดงว่าเมาแต่ก็ยังจดจำเรื่องเมื่อคืนได้อยู่จริงๆ สินะ ถ้างั้น...

   “งั้นก็แสดงว่าจำได้ใช่มั้ย ว่าเมื่อคืนพี่แก้ผ้าต่อหน้าผมน่ะ”

   “จะ...จำได้ แต่มันเมาจนคุมตัวเองไม่ได้ไง เพราะฉะนั้นขอร้อง เลิกพูด!” พี่คีย์ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาผมเลยเมื่อได้ยินเรื่องวาบวิวเมื่อคืนที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อทดสอบความจำ

   “ฮ่าๆๆ~ โอเค ผมไม่พูดเรื่องเมื่อคืนแล้วก็ได้” ถึงในใจจะอยากพูดเรื่องจูบต่ออีกก็เหอะ แต่เอาไว้ก่อนก็แล้วกันนะ เพราะยังมีเรื่องคาใจที่ผมยังอยากถามอยู่อีกเรื่อง

   “งั้นสอบเสร็จไปฉลองกันนะ เดี๋ยวแต่งตัวรอ ไปละ”

   “เดี๋ยวดิพี่” ตอนแรกพี่คีย์ตั้งท่าจะพาความเขินอายของตัวเองกลับเข้าไปในห้อง แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมยังมีเรื่องคาใจ เพราะฉะนั้น ผมเลยรีบคว้าแขนพี่เค้าให้หันกลับมา “ผมยังมีเรื่องที่อยากจะถาม”

   “เรื่องอะไรหรอ?” ดูท่าว่าจะยังน่าแดงไม่เลิกเลยนะครับพี่คีย์ ฮ่าๆๆ~

   “ผมยังคาใจอยู่เลย ว่าสรุปแล้ว ใจเรามันตรงกันตอนไหนเนี่ย?”

   นี่ผมถามเพราะงงจริงๆ นะ ทั้งที่ผ่านมาผมเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีออกไป ในขณะที่พี่คีย์นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เคยมีอาการอะไรให้เห็นเลยสักนิด แต่พอผมสารภาพความในใจไปเมื่อวาน พี่คีย์ก็เมามาขอคบผมเลย งั้นก็แสดงว่าพี่เค้าต้องมีใจให้ผมมาก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ

   “ก็... นานแล้วแหละ ตั้งแต่ตอนที่รู้จักกันแรกๆ เลย ยิ่งพอได้มาติวหนังสือให้ ได้ใกล้ชิดกัน พี่ก็ยิ่งชอบ” พี่คีย์แทบจะไม่มองตาผมเลยตอนที่พูด เอาแต่มองพื้นแล้วม้วนชายเสื้อตัวเองไปมา แหมๆ ทีตอนไม่เมาล่ะขี้เขินจังเลยนะครับพี่ :)

   “จริงดิ แล้วทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย”

   “ก็เหมือนที่พี่ไม่รู้ว่าริวเองก็ชอบพี่นั่นแหละ... โอ๊ย! พอๆ ไม่พูดแล้ว เขิน~”

   เป็นอีกครั้งที่ร่างบางจะเดินหนีผมเข้าห้องไป ก็เลยเป็นอีกครั้งเช่นกันที่ผมรั้งพี่คีย์เอาไว้ ทว่าว่าคราวนี้ไม่ใช่แค่คว้าแขนอย่างเดียวนะ ผมคว้าพี่เขาเข้ามาจูบซะเลย!

   “อื้อออ~” คนถูกจูบถึงกับครางเสียงหลงออกมาจากลำคอ คงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวนั่นแหละ แต่ไม่นานพอเจอผมรุกล้ำริมฝีปากเข้าไป อีกฝ่ายก็เริ่มเงียบ ก่อนจะใช้แขนสองข้างโอบรอบคอผมไว้ ในขณะที่ผมเองก็ไม่ยอมน้อยหน้า ใช้สองมือโอบเอวพี่คีย์เอาไว้เช่นกัน

   ...ตึกตักๆๆๆ...

   เราสองคนต่างตักตวงความสุขจากกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใจ จนผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมานอกอก นี่ผมคงต้องชินกับมันใช่มั้ย เพราะต่อจากนี้หัวใจผมมันก็คงจะเต้นแรงแบบนี้บ่อยๆ แน่ ถ้าได้เป็นแฟนและอยู่ใกล้ชิดกับพี่คีย์น่ะ :)

   เอาจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ท้ายที่สุดผมก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ ค่อยๆ ผละออกจากพี่คีย์อย่างอ่อยอิ่ง ทั้งๆ ที่ในใจยังรู้สึกว่าจูบแค่นี้มันยังไม่พอก็ตาม

   “จะไปห้องสมุดหรอ ทบทวนที่ห้องพี่ก็ได้นะ” พอริมฝีปากสีอ่อนของคนตรงหน้าเป็นอิสระ พี่เขาก็ชักชวนให้ผมอยู่ต่อทันทีแบบที่ให้ได้ยินกันแค่สองคน แถมยังมีการเล่นหูเล่นตาส่งมาให้ด้วย หืมมม~

   แต่ก็นะ...

   “ไม่ดีกว่า ขืนอยู่ต่อ ผมไม่เป็นอันได้อ่านหนังสือแน่”

   ...ผมคงต้องขอปฏิเสธ

   ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่ต่อหรอกนะ เพียงแต่ถ้าขืนยังอยู่ใกล้ๆ กันแบบนี้ ผมอาจจะเผลอซนกับพี่คีย์จนเลยเวลาสอบไปเลยก็ได้ ดังนั้น พอถอนริมฝีปากออกมาได้แล้ว คงต้องรีบชิ่ง!

   “งั้นไว้สอบเสร็จเจอกันนะริว”

   “คร้าบ~ คุณแฟน” ผมส่งยิ้มให้เป็นการปิดท้าย ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ทำหน้าเขินท่าเดียว ยิ่งเห็นยิ่งหมั่นเขี้ยว อยากเข้าไปฟัดชะมัด!

   แต่เย็นไว้ก่อนไอ้ริว อย่าลืมว่าบ่ายนี้มึงมีสอบวิชาสุดท้าย เพราะฉะนั้นเรื่องเรียนต้องมาก่อนเป็นอับดับแรก ส่วนเรื่องพี่คีย์น่ะ เดี๋ยวเอาไว้..คืนนี้ ค่อยกลับมาจะจัดเต็มกับพี่คีย์สุดที่รักให้หายหมั่นเขี้ยวไปเลย

   จะได้ แฮป-ปี้-เอ็น-ดิ้ง ไง เนอะ :)


ริว ❤ คีย์
- THE END -


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ

เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรก และเป็นเรื่องแต่งเรื่องแรกที่ผมเอามาลงในนี้ครับ

ยังไงหากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

และหากมีข้อเสนอ ติชมใดๆ เต็มที่เลยครับ

ผมน้อมรับทุกคอมเม้นท์ครับ

ขอบคุณครับ

 :katai5:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
น่ารักดีค่ะ

แต่ต้องลงกฏของเล้าด้วยนะคะ

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
สุดๆเลยครับพี่น้อง

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
น่ารักดีค่ะ

แต่ต้องลงกฏของเล้าด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เตือนนะครับ แก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารักดีจ้า. เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
น่ารักดีจ้า. เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปค่ะ

ขอบคุณครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คีย์นี่เนียยนเมาอ่ะป่าวนิ

น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่านไปก็ยิ้มไป พระเอกของเรานี่ใจเต้นแรงบ่อยจัง  :pig4:

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เรื่องน่ารักดีค่ะ  :katai2-1:
แอบอยากอ่านตอนหลังสอบเสร็จเลยค่ะ

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
น่ารักมากค่ะ อยากอ่านต่ออีกเลย 5555555555

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
คีย์นี่เนียยนเมาอ่ะป่าวนิ

น่ารักอ่ะ

เมาจริงครับ 555

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
อ่านไปก็ยิ้มไป พระเอกของเรานี่ใจเต้นแรงบ่อยจัง  :pig4:

อยากลองเขียนผู้ชายที่แสดงความรู้สึกเยอะๆ ดูบ้างครับ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
เรื่องน่ารักดีค่ะ  :katai2-1:
แอบอยากอ่านตอนหลังสอบเสร็จเลยค่ะ

คงจะไม่มีแล้วครับ 555

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
น่ารักมากค่ะ อยากอ่านต่ออีกเลย 5555555555

เอาไว้เรื่องหน้านะครับ เรื่องนี้คงจบแค่นี้แล้ว :)

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
เรื่องน่ารักดีค่ะ ^^ ทั้งๆที่พล็อตไม่ได้แปลกแหวกแนวอะไรแต่กลับชอบอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนมันอ่านได้สบายๆ แล้วก็หลงรักคาแรคเตอร์ของพระนายไปแบบไม่รู้ตัวเลย
จะรอติดตามตอนพิเศษ/เรื่องต่อๆไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่คีย์กินเหล้าย้อมใจแล้วมาอ่อยริวรึเปล่าเนี่ย น่ารักจัง :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เนื้อเรื่องน่ารักมากเลยค่ะ ทรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ

ขอบคุณจ้า :pig4:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
เรื่องน่ารักดีค่ะ ^^ ทั้งๆที่พล็อตไม่ได้แปลกแหวกแนวอะไรแต่กลับชอบอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนมันอ่านได้สบายๆ แล้วก็หลงรักคาแรคเตอร์ของพระนายไปแบบไม่รู้ตัวเลย
จะรอติดตามตอนพิเศษ/เรื่องต่อๆไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:

ขอบคุณมากนะครับ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
พี่คีย์กินเหล้าย้อมใจแล้วมาอ่อยริวรึเปล่าเนี่ย น่ารักจัง :pig4:

ประมาณนั้นครับ 5555

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
เนื้อเรื่องน่ารักมากเลยค่ะ ทรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ

ขอบคุณจ้า :pig4:

ขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ maruneko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
น่ารักดี สรุปพี่คีย์เมาจริง หรือแกล้งเมากันแน่นะ :katai2-1:

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
เนื้อเรื่องน่ารักอ่า รวดเร็ว กระชับ ฉับไว เข้าใจง่าย ไมซับซ้อนแต่อ่านแล้วไม่มีสะดุดเลย ชอบๆๆๆๆๆ ฟินหมอนขาดตลาดแตกเลยอร้ายๆๆๆๆ ทำไมถึงได้น่ารักกันขนาดนี้ :กอด1: :กอด1: พี่คีย์เมาอ้อยแรงงงงส์จิตใต้สำนึกล้วนๆเลย555 ริวแลดูนางเป็นเมะแบ๊วๆน่าร๊ากก  :impress2:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
น่ารักดี สรุปพี่คีย์เมาจริง หรือแกล้งเมากันแน่นะ :katai2-1:

เมาจริงครับ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
เนื้อเรื่องน่ารักอ่า รวดเร็ว กระชับ ฉับไว เข้าใจง่าย ไมซับซ้อนแต่อ่านแล้วไม่มีสะดุดเลย ชอบๆๆๆๆๆ ฟินหมอนขาดตลาดแตกเลยอร้ายๆๆๆๆ ทำไมถึงได้น่ารักกันขนาดนี้ :กอด1: :กอด1: พี่คีย์เมาอ้อยแรงงงงส์จิตใต้สำนึกล้วนๆเลย555 ริวแลดูนางเป็นเมะแบ๊วๆน่าร๊ากก  :impress2:

ดีใจที่ชอบนะครับ

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
เขินตอนท้ายยยยยยยย พี่คีย์โซคิ้วมากเลย  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด