:: เสียงแว่วจากทางรถไฟ :: เปิดจอง PRE-ORDER
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: เสียงแว่วจากทางรถไฟ :: เปิดจอง PRE-ORDER  (อ่าน 25019 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงแว่วครั้งที่  7 : เสียงเพลงแผ่วเบา
   
ครืนนน
   
เมฆฝนครึ้มบุกรุกฤดูใบไม้ผลิอย่างกะทะหัน กลิ่นฝนเจือจางในอากาศผสมกับกลิ่นดิน เซนทอร์หนุ่มที่พอดูสภาพอากาศเป็นรีบอุ้มตัวอลันควบไปหาที่หลบฝนใกล้ๆ
   
นึกสบถในใจถึงเมฆฝน
   
อากาศเย็นแบบนี้ มีหวังอลันได้ป่วยกว่าเดิมแน่
   
สเวนเหลือบมองร่างในอ้อนแขนที่ยังคงหอบหายใจเสียงเบาอยู่ แต่อาการของอลันก็ดีขึ้นเป็นพักๆ เมื่อสิ่งที่กินเข้าไปออกฤทธิ์
   
อย่างน้อยอาการอลันก็ดีขึ้น
   
แค่นี้ก็ทำให้ใจข้าชื้นมากแล้วล่ะ
   
ถ้ำโปร่งถูกสเวนใช้เป็นพื้นที่ในการหลบฝน ซึ่งด้วยความโปร่งของถ้ำและสว่างเกินกว่าจะมีค้างคาวมาชุมนุมตั้งสมาคมอยู่กัน ทำให้ถ้ำค่อนข้างที่จะสะอาดเหมาะแก่นอนพัก
   
“ ถ้ำนี่สวยดีนะ ” อลันกวาดสายตามองไปรอบๆ ถึงแม้มันจะไม่มีหินงอกหินย้อยอะไรทำนองนั้น แต่ไม้เลื้อยที่เลื้อยไปตามแนวถ้ำชวนให้นึกถึงโปสเตอร์หนังที่เคยดู
   
เหมือนกับภาพวาดของจิตรกรชั้นเอก
   
ถ้ำนี่อยู่ค่อนข้างสูงทำให้วิวทอดลงไปเป็นป่าไม้ขึ้นชุกชุมสีเขียวตลอดแนวเห็นเส้นขอบฟ้าอยู่ไกลๆ ลำธารเล็กแทรกตัวไปทั่ว นกบินขึ้นสูงสลับกับบินไปเกาะไปตามแนวกิ่งไม้
   
“ สวยสิ ก็ข้าชอบมานอนเล่นที่นี้ ” สเวนค่อยๆ ปล่อยอลันนั่งลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง
   
“ รสนิยมดีไม่เบา ” อลันเลิกคิ้วหัวเราะ
   
อาการหอบดีขึ้นมากหลังจากกินยาแก้แพ้เข้าไปรวมถึงผืนแดงตามตัวที่ไม่ค่อยคันเพราะทายาดักเอาไว้ก่อน
   
ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะรับมือกับโรคที่ตัวเองประสบได้ไว
   
มันเลยไม่อยู่คุกคามนานเหมือนทุกครั้ง
   
อาจจะเพราะม้าบ้านี่ก็ได้มั้ง ?
   
ไหนๆ ก็ไหนๆ ดูเหมือนว่าสเวนจะชอบฟังเพลงที่เขาร้อง
   
ลองให้รางวัลเป็นเพลงสักหน่อยจะเป็นอะไร
   
“ อยากฟังเพลงไหม ฉันจะร้องให้นายฟังสักเพลง ” อลันถอดกระเป๋าโยนลงบนพื้นเอนมันต่างโซฟานุ่ม
   
สเวนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด
   
มีเพลงเพราะๆ ที่เขาชอบมาเสนอทั้งทีใครจะกล้าปฏิเสธ
   
อลันมองหน้าสเวนพลางครุ่นคิด “ อา.. ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้จักชื่อเพลงนี่เนอะ เอาเหอะ เดี๋ยวฉันเลือกให้สักเพลงล่ะกัน ” และเลือกเพลงที่ตัวเองชอบที่สุด
   
น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปาก
   
คำบางคำที่ถึงแม้ไม่เข้าใจถึงความหมายแต่สเวนก็รู้สึกไหลลื่นไปกับเนื้อเพลง
   
จังหวะเนิบช้า
   
เนื้อเพลงที่กล่าวถึงความรักที่ไม่สมหวัง
   
สลับกับท่อนแร็ปแพรวพราวที่อลันร้องด้วยจังหวะสนุก
   
สเวนรู้สึกสนุกไม่น้อยกับการร้องเพลงของอลัน
   
ช่วยไม่ได้
   
เซนทอร์ไม่ได้เกิดมาพร้อมทักษะการร้องเพลงสักหน่อย
   
จะให้ข้าร้องแบบเสียงนกน้อยก็คงไม่เหมาะหรอกมั้ง ?
   
“ จบแล้ว เพลงเดียวพอ ฉันคอแห้ง ” อลันยิ้มเมื่อผู้ฟังอย่างสเวนดูตั้งใจฟังดี แล้วยังดูชอบเพลงที่เขาร้องด้วย ไม่เหมือนพวกเพื่อนเขาที่หัวเราะเยาะกับในวันสอบ
   
น่าเจ็บใจชะมัด
   
สเวนรู้สึกอยากให้เวลาในตอนนี้ยืดยาวยิ่งกว่านี้
   
เขาชอบที่จะเห็นอลันเยิ้มร่าเริงแบบนี้
   
ไม่มีความเศร้าเจือปนอย่างทุกครั้ง
   
แค่เห็นอลันมีความสุข สเวนก็พลอยรู้สึกมีความสุขไปด้วย
   
ข้าชอบอลันจริงๆ นะ
   
สีหน้าพวกนั้น ทุกอย่างที่เป็นอลัน
   
ข้าชอบมัน
   
ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ระยะเวลาที่ยาวนานที่ดำรงอยู่ ข้าเคยพบมนุษย์หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่เขายื่นมือไปช่วยหรือแม้แต่จะให้ความสนใจ
   
อลันเป็นคนแรกและคนเดียวที่ข้าจะสนใจ
   
“ ข้าชอบเพลงที่เจ้าร้อง ฟังแล้วรู้สึกดี ” สเวนฉีกยิ้มประกอบ
   
อลันเลิกคิ้ว มองเม็ดฝนที่ดูเม็ดใหญ่ขึ้นตกหนักกว่าเดิมข้างนอก เสียงเปาะแปะดังกระทบหูแต่ไม่ชวนให้รำคาญ เหมือนเป็นบทเพลงธรรมชาติที่มีอยู่โทนเดียวให้ฟัง หรือถ้าอยากได้โทนสูงต่ำก็ต้องรอนักร้องยิ่งใหญ่มาร่วมวงอย่างพวกกบอะไรพวกนั้น
   
ได้ฟังเป็นวงโอเปร่าเลยล่ะ ถ้าโชคดี
   
“ ชอบก็ดี ถ้านายชอบฉันก็จะร้องให้ฟังบ่อยๆ แล้วกัน ” ถ้าได้แจกลายเซ็นกับสเวนก็คงจะสนุกไปอีกแบบเหมือนกัน
   
แปลว่าข้าอาจจะได้ฟังเพลงที่ข้าชอบสิ
   
สเวนคิดอย่างดีใจ
   
ข้าไม่ต้องลอบแอบฟังเหมือนทุกครั้งอีกต่อไปแล้ว
   
เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
   
ยิ่งเห็นสีหน้าอีกฝ่ายตอนที่ร้องเพลงไม่ใช่แผ่นหลังเหยียดตรงยิ่งทำให้สเวนดีใจจนเนื้อเต้น
   
ระหว่างที่ปล่อยให้สเวนคิดอารมณ์ดีอะไรไปพลางๆ อลันก็ถามไปเรื่อยเปื่อย “ สเวน นอกจากนายแล้วยังมีเซนทอร์คนอื่นอีกหรือเปล่า ? ”
   
“ ไม่มี หรือถ้ามีข้าก็ไม่เคยเจอ ”
   
แปลว่าสเวนที่ฉันเจอก็เป็นของหายากระดับตำนานเลยงั้นสิ
   
อลันมองหน้าสเวนคิดในใจ
   
“ แล้วนายเกิดมาก็โตเลยงั้นเหรอ ”
   
สเวนหยุดคิดไปพักใหญ่ๆ “ ไม่รู้สิ ข้าจำไม่ได้ ”
   
อลันกลอกตา เป็นเซนทอร์ที่งี่เง่าสิ้นดี “ อยากลองกินอาหารมนุษย์ดูไหม  ฉันเอามาเยอะเลยล่ะ ” พูดพร้อมเปิดกระเป๋า ปลากระป๋องยังเหลืออีกมากกว่าครึ่งเพราะอลันกินอย่างละเมียดละไม อลันตัดสินใจหยิบแครกเกอร์แข็งๆ กลิ่นช็อกโกแลตออกมาแกะ
   
“ เอาสิ ข้าเห็นเจ้ากินดูน่าอร่อย ข้าอยากลองกินบ้าง ” สเวนนนอนลงข้างตัวอลัน ตั้งหน้าตั้งตารอเหมือนกับเด็กเจ็บแปดขวบรอแม่ตักข้าวเช้าใส่ถ้วยให้กิน
   
อลันหลุดขำ เมื่อเห็นตาเป็นประกายของสเวนตอนที่มองซองขนมในมือ
   
กลิ่นแปลกๆ นั่นหอมชะมัด
   
รสชาติก็ประหลาดด้วย
   
แต่มันก็อร่อยมากเลยล่ะ
   
สเวนเคี้ยวไปได้สองสามกรุบก็ขมวดคิ้ว ความรู้สึกคล้ายเคี้ยวหินกรวดแข็งตามพื้นปรากฏขึ้นในหัว เหมือนกับกำลังกินหินคลุกกลิ่นประหลาดอะไรสักอย่าง “ มันคืออะไร ”
   
“ แครกเกอร์กลิ่นช็อกโกแลตน่ะ ” อลันรู้สึกดีที่เห็นสเวนดูชอบมัน ยิ่งสีหน้าหลังจากกินทำให้รู้สึกอยากกินบ้าง “ เอามากินบ้าง ” ยื่นมือไปหาสเวนหมายจะขอถุงแครกเกอร์คืน
   
สเวนหันหน้าหนีเคี้ยวกรุบๆ อย่างหวงแหน
   
มันคือของล้ำค่า
   
แครกเกอร์ช็อกโกแลต !
   
มือหนาพยายามยืดหนีมืออลันที่ไล่ชิงซองแครกเกอร์คืน
   
“ เฮ้ ม้าบ้า เอามาแบ่งกันมั้งสิ ” อลันโวยวาย
   
“ ไม่ เจ้าให้ข้ากินแล้ว ” สเวนหัวเราะ ร่างเดิมที่ทิ้งร่างบนพื้นยืนเต็มความสูง ทำให้อลันทำได้เพียงเบ้หน้าใส่ เมื่อเขาหยิบมันใส่ปากเคี้ยวกรุบล้อๆ
   
“ เวร ” อลันสบถ
   
เซนทอร์หนุ่มเห็นอารมณ์ของอลันที่เริ่มจะไม่ค่อนดีก็หยิบแครกเกอร์ออกมาชิ้นนึงจ่อมันเข้าที่ปากอลัน
   
อลันเหลือบมองหน้าสเวน

ดวงตาสีฟ้าจองอลันไม่ได้เจือความหงุดหงิดอะไรอย่างที่สเวนคิด

เพียงแค่ไม่สบอารมณ์นิดหน่อย

แต่นัยน์ตาสีทองที่จับจ้องคืนเต็มไปด้วยคำง้องอนทั้งที่ไม่ได้เอ่ยปาก

แฝงไว้เต็มไปหมด

อลันสบมันนิ่ง

ก่อนจะยอมกัดมันทั้งคำ    
   
เสียงกรุบดังขัดกับเสียงฝนที่ยังคงลงเม็ดอย่างหนักหน่วง
   
เมฆครึ้มดูจะลำพองใจกว่าทุกวันบดบังดวงอาทิตย์ที่เป็นที่พึ่งของทุกชีวิต
   
ความมืดโรยตัวไปตามทางแม้ดวงตะวันยังคั่งค้างอยู่บนท้องฟ้า
   
อากาศหนาวเหน็บพยายามขยับขยายพื้นที่ของมันตามละอองฝนที่กระเด็นไป
   
“ หนาวชะมัด ” อลันบ่น ดึงเสื้อโค้ทที่ถูกยัดในกระเป๋าตั้งแต่ที่เขาหอบออกมาใส่ เหลือบมองร่างสัตว์ในเทพนิยายที่ดูจะเพลิดเพลินกับการกินแครกเกอร์ซะเหลือเกิน
   
ถ้าบอกว่าไอ้ม้านี่มันเป็นพวกเทพธิดาฟันน้ำนมยังดูเข้าท่ากว่าเลย
   
“ ไม่หนาวรึไง สเวน ” เรียกชื่อย้ำอีกครั้งเพื่อให้หันมาสนใจ
   
“ ไม่หนาว แค่นี้เทียบกับตอนฤดูหนาวไม่ได้หรอก ” สเวนยักไหล่ ในหัวเกิดกรรมวิธีในการกินร้อยแปดนอกจากหยิบใส่ปากเฉยๆ อย่างการเอาไปกินคู่กับผลไม้ เนื้อสัตว์อะไรทำนองนั้น
   
ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่เสื้อส่วนบนแท้ๆ
   
อลันนึกอิจฉาอยู่ในใจที่ไม่ต้องมากังวัลกับสภาพอาหารหนาวเย็น มือของอลันเริ่มจะเย็นขึ้นมานิดๆ ตามสภาพอากาศ อลันเป็นคนที่มือเย็นและซีดง่ายมาก อลันมองสเวนกินขนมทีละชิ้นก็รู้สึกเพลิน
   
เผลอยิ้มตามสเวนไม่รู้ตัว
   
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นงุนงง
   
เมื่อสเวนทำสีหน้าเศร้าสุดซึ้ง
   
“ นายเป็นอะไร ? ” อลันตกใจที่จู่ๆ เซนทอร์เซื่องซึมไปกะทันหัน
   
“ มันเหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว ” สเวนยังคงไม่เลิกทำหน้าเศร้า
   
อมแครกเกอร์ชิ้นสุดท้ายในปาก
   
หวังจะซึมซับถึงรสชาติอย่างที่สุด
   
กลิ่นแปลกๆ ที่ข้าชอบกำลังจะหมด
   
สเวนรู้สึกถึงความเศร้าที่กำลังกู่ร้องอยู่ในหัว
   
ข้าไม่อยากกลืนมันเลย
   
อลันถอนหายใจเสียงดัง
   
รู้สึกเสียดายเวลาที่ตกใจ เป็นห่วงจริงๆ
   
“ ไว้ถ้านายทำตัวดี ฉันจะให้กินอีกแล้วกัน ” อลันตบกระเป๋าเชิงว่าในนี้มีอีกเยอะ แต่เยอะที่ว่ามันก็มีไม่ถึงร้อยหรอกนะ เหลือๆ อยู่ห้าหกซองเท่านั้น
   
เพราะอลันไม่ได้ชื่นชอบมันสักเท่าไหร่
   
สเวนกลืนทันทีเมื่อรู้ว่ายังเหลืออีกมากในกระเป๋าของอลัน นึกภาวนาให้อลันอารมณ์ดีแบ่งมันให้เขากินอีก อาหารของมนุษย์อร่อยกว่าผลไม้ที่ข้าเก็บกินมาก “ ปกติข้าก็ดีกับเจ้าอยู่แล้ว อลัน ” สเวนยิ้มจริงใจ
   
ข้าไม่เคยดีกับมนุษย์คนไหนเท่าเจ้าจริงๆ นะ
   
อลันรู้สึกอึดอัดประหม่าน้อยๆ กับสายตาที่ทอดมองมา
   
ก็รู้อยู่ว่าเจ้าม้านี่มันดีกับเขาจริง   
   
แต่ไม่เห็นต้องมองกับด้วยสายตาหวานซึ้งเหมือนคู่รักก็ได้นี่หว่า
   
อลันหลบสายตาไปมองอย่างอื่นแทน ร่างขาวนอนเอนทับกระเป๋าตัวเองอีกรอบมองท้องฟ้าสีดำภายนอกถ้ำเบื่อๆ เมฆฝนนี่ทำให้การเดินทางของเขาช้าลงแต่ก็ทำให้ความคิดของเขาช้าลงเช่นกัน
   
มีเวลาให้ไตร่ตรองความคิดที่ยุ่งเหยิง
   
“ แค่เพียงขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง เดี๋ยวก็ถึง ” ร่างครึ่งอาชานอนแผละข้างๆ อลัน เอาหัวเบียดซุกแย่งเนื้อที่กระเป๋าที่ถูกใช้แทนโซฟา
   
อลันมองสเวนนิ่งๆ ไม่พูดอะไร
   
แต่ก็เผลอยิ้มออกมา
   
อย่างที่ม้าบ้านี่ว่า

เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงเอง
   
ฉะนั้นเขาก็ควรเลิกกังวลเรื่องงี่เง่าอย่างระยะทางได้แล้ว คิดไปมีแต่จะทำให้เครียดซะเปล่าๆ
   
อลันหลับตาแต่ไม่ได้หลับเพียงแค่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับบรรยากาศ
   
นอกจากจะนอนกับคุย
   
ตอนนี้จะทำอะไรได้ล่ะ ?
   
อีกอย่างม้าบ้าก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วยถ้าจะนอนต่ออีกสักรอบ
   
“ เจ้าเคยได้ยินเรื่องราวความรักที่เป็นไปไม่ได้ไหม ? ”
   
เซนทอร์หนุ่มมองหน้ามนุษย์ที่ตัวเองหลงใหลขณะที่พูด
   
ถ้าหากอลันลืมตาขึ้นมาตอนนี้พอดี
   
จะเห็นสีหน้าคาดหวังเต็มเปี่ยมของเซนทอร์หนุ่ม
   
อลันหยุดคิดไปสักพักเพราะยังไม่ค่อยเข้าใจคำถามเท่าไหร่ โจทย์ที่ให้มันกว้างเกินไปตีความได้หลายความหมายเลยทีเดียว
   
“ เป็นไปไม่ได้ยังไง อย่างพวกเทวดารักกับปีศาจอะไรแบบนี้เหรอ ”
   
“ อืม แบบนั้นแหละ เจ้าเชื่อไหมว่าพวกเขาจะรักกันได้ ”
   
อลันหัวเราะเบาๆ “ ได้สิ ความรักมันไม่ใช่เรื่องจำกัดเผ่าพันธุ์หรอกนะ ถ้ารักก็รักสิ ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเป็นตัวอะไร ”
   
สเวนยิ้มกว้าง
   
งั้นข้าก็มีความหวังสิ !
   
แต่ข้ายังให้มันค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า
   
ฉะนั้นข้าจะยังไม่บอกอลัน
   
ว่ามีเซนทอร์คิดไม่ซื่ออยู่
   
“ แล้วถามทำไม ”
   
สเวนสะดุ้ง เพราะไม่ได้เตรียมคำตอบในส่วนนี้ “ ข้าถามเฉยๆ น่ะ ”
   
อลันครางในลำคอเชิงรับรู้ เริ่มรู้สึกง่วงนิดๆ  “ ฉันนอนต่อดีกว่า ถ้าฝนหยุดตกปลุกด้วยแล้วกัน จะได้ไปกันต่อ ” ขยับตัวอีกครั้งซุกหน้าลงกระเป๋าไม่สนใจจะรับรู้อะไรต่อ
   
“ ได้เลย เจ้านอนเถอะ ” สเวนลุกออกจากกระเป๋า ปล่อยให้กระเป๋าใบโตกลายเป็นหมอนของอลันไปเพื่อให้อีกฝ่ายจะได้นอนสบาย เพราะโอกาสนานครั้งที่จะแวะเวียนมา
   
การนอนที่ไม่มีโรคร้ายมารบกวน
   
เซนทอร์หนุ่มนั่งใกล้อลัน ฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอที่ดูจะผิดจากเนื้อเพลงไปมากโข
   
ทอดสายตามองมนุษย์อ่อนแอ
   
ด้วยสายตาอ่านยาก
   
ยิ้มมุมปากเมื่อลมหายใจราบเรียบ
   
สีหน้าผ่อนคลาย
   
สเวนขยับเข้าไปใกล้อลัน ลอบลูบผมนุ่มมือเบาๆ พุ่มไม้สีน้ำตาลที่ถูกหิมะเกาะไปบางส่วน 
   
ข้าจะช่วยเจ้าสุดความสามารถ

อลัน
   
ต่อให้ต้องเสียขาไปสักข้าง ข้าก็จะพาเจ้าไปถึงที่นั่นให้ได้
   
ข้าสัญญา

   
“ อลัน ”
   
อลันขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคุ้นเคย
   
“ อลัน !! ”
   
เสียงนั้นตะคอกเข้าที่ข้างหูจนอลันสะดุ้งตื่นขึ้นมาตาเบิกกว้างและยิ่งกว้างกว่าเดิมเมื่อเจ้าของเสียงไม่ใช่ที่ไหนไกล
   
ลุงวิลเลียม !
   
“ ละ ลุงวิลเลียม ” อลันเรียกเสียงสั่นแววตาอ่อนไหว ความรู้สึกผิดในใจถาโถมเข้ามาทันที สิ่งที่ฉายในหัวเหมือนหนังฟิล์มเก่าๆ ที่พังแล้วเอาแต่ฉายซ้ำไปมา อลันกัดปากตัวสั่น
   
“ เรียกฉันทำไม หืม ? ”
   
“ ผะ ผมขอโทษ ” อลันสบกับดวงตาที่ฉายชัดถึงความผิดหวัง ร่างขาวกุมหัวซุกตัวลงกับเข่า น้ำตาคลอ
   
ถ้อยคำตำหนิติเตียนพร่ำอยู่ข้างหู
   
แกมันไอ้ขี้ขโมย ! ไอ้ขี้โรค
   
เห็นเงียบๆ นึกว่าจะนิสัยดี แต่มันเลวถึงขนาดว่าทรยศความไว้ใจลุงวิลเลียมเลยว่ะ
   
สารเลว !
   
“ ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับฉัน อลัน ” น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาบนหัว
   
อลันขยี้ตาเงยหน้าขึ้นมอง ตาแดงก่ำ
   
คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะฟังคำแก้ตัวของตัวเอง
   
แต่แรงตะคอกกลับกลบความความหวังของอลันจนหมด
   
“ แกทำมันลงไปได้ยังไง ! นี่มันเสื้อโค้ทที่แม่ฉันที่เสียไปแล้วซื้อให้ในวันเกิด ! ” ตะคอกเสียงดังดวงตาแดงก่ำ ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ กำหมัดแน่น บนขมับมีเส้นเลือดปูด
   
อลันถอยกรูด ปัดกระเป๋าทิ้งไม่รู้ตัว  น้ำตาอาบแก้ม
   
ความรู้สึกผิดกระโจนเข้ากัดอลันจนเป็นแผลใหญ่
   
รอยเลือดคำขอโทษที่ไม่ได้เอ่ยลากตามทาง
   
ร่างที่เคยอุปถัมภ์อลันหยุดยืนตรงหน้าอลัน มองอลันด้วยสายตาดุดัน “ ฉันถาม !! ”
   
อลันไม่กล้ารับรู้อะไรอีกต่อไป ซุกหัวอยู่กับเข่าเอามือปิดหู
   
แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
   
เสียงตะคอกถามดังก้องในหู
   
อลันไม่ตอบเพียงนิ่งงันไม่ตอบสนองอะไร
   
มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบจนกางเกงเปียกเป็นวงกว้าง
   
“ อลัน ! อลัน ”
   
สเวนตกใจจนแทบสิ้นสติอาการง่วงหายไปทันควัน
   
อย่างที่รู้ว่าสัตว์โลกต้องพักผ่อนนั่นก็รวมถึงเซนทอร์อย่างเขาด้วย
   
จนกระทั่งเบลอๆ กึ่งหลับกึ่งตื่น   
   
ก็ต้องตื่นเต็มตาเมื่อเห็นอลันพูดคนเดียว ถอยหลังติดผนังถ้ำ น้ำตาอาบใบหน้า
   
เซนทอร์หนุ่มรวบตัวอลันมากอดแน่นลูบหัวลูบหลังพยายามปลอบ “ อลัน เจ้าเป็นอะไร คุยกับข้าก่อน ”
   
สติกระจัดกระจายของอลันถูกเสียงเซนทอร์ดึงกลับมาเข้าที่
   
ร่างของลุงวิลเลียมหายไปถูกแทนที่ด้วยร่างเซนทอร์หนุ่มแทน
อ้
อมกอดอุ่นๆ ทำให้ร่างเย็นเฉียบของอลันอุ่นขึ้นอย่างประหลาด
   
อลันกอดกลับเต็มแรง
   
ซุกหน้าลงกับตัวสเวน
   
ไม่สนใจจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
   
“ ฉันแค่เห็นภาพหลอนน่ะ ไม่มีอะไร ร้ายแรงหรอก ”
   
แต่แรงกอดของอลันนั้นสวนทางกลับที่พูด
   
ในใจอลันกลายเป็นรอยแหว่ง
   
สเวนถอนหายใจ ดึงแขนของอลันออก
   
อลันงุนงงแต่ไม่พูดอะไร ก้มหน้าต่ำ
   
“ มองหน้าข้าอลัน ”
   
สเวนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือหนาหยิบมือของอลันมากุมแน่น บีบเบาๆ ให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเอง
   
อลันเงยหน้าขึ้นสบตาสเวน
   
สีหน้าของอลันซีดจนสเวนรู้สึกจุกในอก
   
เจ้าเห็นอะไรกัน ?
   
บอกเซนทอร์คนนี้ได้หรือเปล่า
   
สเวนเพียงแค่คิดแต่ไม่พูดออกไป กลัวว่าจะทำให้ร่างตรงหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม
   
เรื่องราวในอดีตไม่ควรรื้อฟื้นขึ้นมา
   
รังแต่จะทำให้ทุกฝ่ายเจ็บปวดเปล่าๆ
   
“ เจ้าลืมแล้วเหรอ ว่ายังมีข้าอยู่ ”
   
สเวนยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยความรวดร้าวในใจ
   
“ ไม่นะ ไม่ ฉันไม่ได้ลืมนาย ” อลันตกใจบีบมือสเวนกลับแรง ตาสีฟ้าสั่นระริกเหมือนกลัวสุดหัวใจว่าจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
   
อลันในตอนนี้อ่อนแอ
   
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
   
แต่ไม่ได้ทำให้อลันเข้มแข็งขึ้นมาแต่อย่างใด
   
เป็นสาเหตุที่ทำให้สเวนยิ้ม
   
“ ถ้ายังไม่ลืมข้า ก็จงอย่าร้องไห้ อลัน ” สเวนใช้มือเกลี่ยน้ำตาของอลันออกอย่างแผ่วเบา
   
อลันปาดน้ำตัวเองลวกๆ ออก พยายามฝืนยิ้มให้
   
“ อย่ายิ้มแบบนั้นสิ ” สเวนขมวดคิ้วตำหนิ
   
อลันหน้าเจื่อนลงกะทันหัน
   
“ เจ้าจะร้องไห้อีกกี่ครั้งก็ได้ แต่อย่าลืมว่ามันทำให้เซนทอร์อย่างข้าต้องเสียใจ ” สเวนยิ้มฝืดๆ
   
อลันรู้สึกผิดต่อสเวนจนพูดอะไรไม่ออก
   
ทั้งๆ ที่สเวนอยู่ข้างๆ เขา
   
ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะเข้มแข็งขึ้น
   
ทำไมเขาถึงเอาแต่อ่อนแอแบบนี้วะ
   
“ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย สเวน ” อลันกอดสเวนแน่นซุกหน้าลงกับตัว
   
ขนาดตัวที่ต่างกันมากทำให้อลันรู้สึกอุ่นใจแปลกๆ
   
กวางบาดเจ็บที่หาสิงโตเป็นที่พึ่ง
   
“ ฉันจะพยายาม ”
   
ให้คำมั่นกับอีกฝ่าย
   
ก่อนจะเลียแผลด้วยน้ำตา
   
สิงโตตัวย่อมคอยเฝ้าระวังภัย
   
จนกระทั่งกวางกลับมาหายดีอีกครั้ง

-----------------------

นิยายเรื่องนี้มีแต่บรรยากาศหน่วงๆ ปนหวานซะส่วนใหญ่ คงจะหาอะไรที่หวานล้วนยากค่ะ  :m26: 5555


ตอบคอมเมนต์ ~

คุณ เหนือฟ้ายังมีจักรวาล : ดีใจที่ชอบค่ะ ><

คุณ sinyou : เรื่องนี้แต่งจบแล้วค่ะ ไม่ยาวมาก เลยลงได้ทุกวัน ส่วนบทกระต่ายน้อย...  :call: คงจะเจอในตอนพิเศษแทนค่ะ 55555 หมดบทบาทซะแล้ว เนื่องจากระยะทางที่สเวนกับอลันไปกันมันเกินกว่าที่กระต่ายจะตามทัน

คุณ Celestia : มาลุ้นกันค่ะ  :man1:

คุณ paojijank : นิยายเรื่องนี้แฟนตาซีอยู่แค่สเวน 55555

คุณ Mouse2U : คนเขาเกิดมาคู่กัน อิอิ

คุณ Minnie~Moo : อลันไม่ได้เป็นเทพค่ะ  :mew2: เนื่องจากตอนที่แล้วมีคนทักมาว่าสีผมอลันน่าจะเป็นลูกครึ่งเทพ เราเลยหยอกเล่น แต่เป็นเทพก็ดีน้า น่ารัก แต่เรื่องนี้แต่งจบแล้วสิ  :ling3:

คุณ  lizzii : เรื่องนี่อ่านต้องทำใจค่ะ ต้นเรื่องมุ้งมิ้งปลายเรื่องหน่วง เกือบทุกตอน

   
   
   
   
   
   

   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   
   

   
   
   

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หน่วงอีกแล้วว สงสาร  :o12:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สเวนตอนกินขนมให้ความรู้สึกเหมือนนุ้งดัฟฟเลย 55555
อลันคงรู้สึกผิดกับลุงวิลเลียมมากๆ ถึงได้เก็บมาฝัน งื้อออ สงสารอลัน

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ขอจบแฮปปี้เอนดิ้ง พลีสสสสสสส



ในเรื่องประมาณ ค.ศ. เท่าไหร่คะ?

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สเวนก็ช่างแสนดีนะคะ ขนาดว่าตัวเองกำลังคิดไม่ซื่อกับอลันอยู่แท้ๆ แต่ก็ยังอดทนไม่บุ่มบ่ามทำอะไรที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อลันเสียใจ 

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สเวนแสนดีมาก หวังว่าตอนที่อลันหายแล้ว หรือรู้ว่าสเวนชอบตัวเองอยู่จะไม่ใจร้ายกับสเวนนะ ; w ;

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
เรื่องนี้สนุกมากกก แปลกแต่ดี รออ่านตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงแว่วครั้งที่ 8 : แม่น้ำที่เชี่ยวกราด
   
การเดินทางถูกเลื่อนไปในสายๆ ของวันถัดไปแทน เนื่องจากหลายสาเหตุ หนึ่งคือฝนที่ตกโปรยปรายเกือบค่อนคืนถึงจะหยุด สองอลันที่อาการยังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ สามคือสเวนนอนไม่หลับถ้าเดินทางต่อมีหวังอลันได้ลงไปวัดพื้นแน่ๆ
   
ทำให้ตอนนี้มีร่างมนุษย์เดินเล่นไปตามทางรถไฟกับเซนทอร์หนุ่ม
   
ยิ้มกว้างสดับฟังเสียงดนตรีธรรมชาติอย่างพวกนก
   
ปล่อยให้แสงแดดอ่อนโลมเลีย
   
“ ฉันว่าวันนี้เป็นเช้าที่ดีนะ ” อลันพูดด้วยความอารมณ์ดี การร้องไห้ออกมาเหมือนเป็นการระบายความเครียดของอลันออกมาจนหมดเหลือเพียงความร่าเริงเป็นนิจไว้
   
“ จะดีกว่านี้ถ้าเจ้าแบ่งแครกเกอร์ช็อกโกแลตข้าสักอัน ” สเวนพูดกลั้วหัวเราะ
   
“ เปลืองเกินไป ถ้านายกินหมดแล้วฉันจะกินอะไรล่ะ ม้าบ้า ”
   
สเวนเงียบไปสักพัก ในใจอยากจะตอบผลไม้แต่ความทรงจำล่าสุดที่เอาผลไม้มาให้อลัน มันกับทำให้อาการป่วยกำเริบ สเวนหลุบตาลงต่ำไม่พูดเรื่องนี้ต่อ “ เจ้ากินเถอะ ข้าไม่อยากกินแล้ว ”
   
แม้ว่าจะขัดกับความรู้สึกที่แท้จริงก็ตาม
   
มันอร่อยจริงๆ นะ   
   
อลันเลิกคิ้วงุนงง คำตอบของม้าบ้าไม่ได้ตรงกับสิ่งที่คิดไว้ในใจ ร่างขาวมองหน้าเซนทอร์ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังรู้สึกผิดเรื่องผลไม้สีแดงบ้าๆ นั่น
   
ม้าโง่
   
ใครจะไปโกรธลง
   
อลันตบลงที่ตัวของสเวน
   
สเวนสะดุ้งหันมองอลันทันควัน “ เจ้าทำอะไรน่ะ ? ” แรงฝ่ามืออลันเกรงว่าถ้าไม่มีขนสีดำปกคลุมจะกลายเป็นรอยแดงจางๆ รูปมือ
   
“ มันมียุงป่า ฉันกลัวว่านายจะโดนกัด ” อลันยักไหล่กวนๆ พยายามดึงให้ม้าบ้าเลิกคิดมาก
   
สเวนงึมงำในลำคอ “ งั้นเหรอ.. ทีหลังเจ้าบอกข้าดีๆ ก็ได้นะ ”
   
ร่างขาวถอนหายใจ รู้สึกเซ็งกับสเวนที่ดูจะคิดมากเรื่องเขาไปหมด อย่ามองว่าฉันเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยสิ นายจะใส่ใจฉันมากเกินไปแล้วนะ
   
“ ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า  เรื่องผลไม้ ใครจะไปรู้ว่าฉันจะแพ้ละ ”
   
สเวนไม่ตกใจเมื่อถูกจับได้ว่ากังวลเรื่องอะไร
   
เพราะมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าเขากังวลเรื่องนี้
   
การเป็นสาเหตุให้คนที่ชอบต้องทรมานไม่ใช่เรื่องสนุกหรอกนะ
   
“ ข้าขอโทษจริงๆ ”
   
อลันอมยิ้มเอ็นดูแต่แรงที่ตบตัวสเวนอีกรอบไม่ได้เอ็นดูตามสักนิด
   
เพียะ !!
   
สเวนขมวดคิ้วมองอลันด้วยสายตาที่สื่อถึงคำถาม
   
ตบข้าทำไม
   
“ ก็บอกว่าไม่ต้องใส่ใจๆ จะคิดมากทำไม  ” อลันเริ่มจะยัวะ
   
“ ก็ข้าทำผิดนี่ ” สเวนหันหน้าหนี
   
“ ฉันบอกว่าช่างมันก็ช่างสิ สเวน ” คิ้วบางเริ่มขมวด
   
สเวนไม่ตอบเดินต่อไปเงียบๆ
   
แต่อลันไม่ใช่คนที่มีน้ำอดน้ำทนขนาดนั้น
   
“ สเวน ! ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป ” อลันเร่งฝีเท้าตามสเวน วิ่งมายืนขวางหน้าอีกฝ่ายให้มองหน้าได้ถนัด นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายกร้าว
   
สเวนขยับยิ้มจางยื่นมือไปลูบหัวอลัน
   
“ ก็ได้ ข้าจะปล่อยให้มันผ่านไปก็ได้ ”
   
ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็จะทำ
   
อลัน..
   
แต่ในครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้อีก
   
ข้าจะระมัดระวังทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้า
   
“ งั้นช่วยกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมด้วยแล้วกัน ม้าบ้า ” อลันไม่ได้ขยับตัวหนีมือที่ขยำหัวตัวเองจนยุ่งเหยิง
   
เซนทอร์หนุ่มหัวเราะเสียงเบาในลำคอแต่ก็ต้องชะงักมือที่กำลังเพลิดเพลินกับผมนุ่มของอลัน “ ผมของเจ้ากลายเป็นสีขาวอีกแล้วอลัน ”
   
อลันยักไหล่ “ ช่างสิ ผมสีขาวก็เท่ดีออก หัวเหมือนพุดดิ้งกาแฟที่ราดด้วยนม ”   
   
“ อะไรคือพุดดิ้ง ? ”
   
“ ของอร่อยที่นายไม่เคยกินไงล่ะ ”
   
“ เจ้ามีมันไหม .. ข้าว่าชื่อของมันก็น่ากินดี ”
   
ระหว่างที่ถกเถียงเรื่องพุดดิ้งก็เริ่มต้นเดินทางกันต่อ
   
อลันไม่ได้นั่งบนหลังสเวนเพราะคิดถึงความรู้สึกที่ได้เหยียบบนพื้น
   
สะดุดรางเหล็กบ้างเป็นครั้งคราว
   
ก้อนหินกรวดแหลมที่ชื่นชอบการทักทายกับพื้นรองเท้าด้วยการซุกตัวเข้าไปอยู่ รอให้เจ้าของรองเท้าทักทายกลับด้วยการแกะมันออก
   
หรือจะหญ้าประปรายไล้ตามขา
   
ปล่อยให้ขาติดเกสรดอกไม้ไม่รู้ตัว
   
   
การเดินทางถูกชะงักด้วยแม่น้ำไหลเชี่ยว เส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกันด้วยเหล็กขนาดยักษ์ถูกพาดต่อเติมให้กลายเป็นฐานมั่นแทนพื้นดินอันมั่นคง
   
อลันเริ่มรู้สึกคิดถึงดินเปรอะเท้า หลังรักกลิ่นหญ้า
   
เพราะไอ้ทางข้างหน้านั้นไม่มีอะไรกั้นเลยแม้แต่นิดเดียว !
   
อย่างเหล็กที่พาดๆ ไว้เป็นแกนยึดก็เริ่มผุพังบางส่วนหายไป ทำให้ข้างรางรถไฟเป็นช่องว่างๆ จนถึงขนาดว่าถ้าคุณเผลอล้มไปทางขวาและกลิ้งไปอีกรอบสองรอบก็สามารถตกลงไปกลายเป็นอาหารปลา
   
แน่นอนว่าอลันไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นอาหารปลา
   
รีบปีนขึ้นหลังสเวนทันที
   
รัดแขนเข้าที่ช่วงซิ้กแพ็กของอีกฝ่าย
   
ครืน...
   
ซ่า...
   
น้ำไหลเชี่ยวดังเสียงดัง สีขุ่นๆ ของมันแสดงให้เห็นถึงน้ำป่าที่กำลังแบ่งสันปันส่วนให้พื้นที่ต่ำกว่าอย่างเร่งรีบ ปลากระโจนขึ้นมาเหนือผิวน้ำบางครั้ง
   
จู่ๆ สเวนก็เริ่มต้นพูดท่ามกลางความเงียบงัน “ ข้าเคยเห็นหมีตกลงไป ”
   
“ แล้ว ? ”
   
“มันตะเกียกตะกายขึ้นมาสักพักและข้าก็ไม่เห็นมันอีกเลย ”
   
สเวนพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปสักนิด
   
อลันกลืนน้ำลายเอือกกอดสเวนแน่นกว่าเดิม นึกตำหนิเซนทอร์หนุ่มในใจ ไอ้ม้าบ้าจะมาเล่าอะไรตอนนี้วะ ตอนที่กำลังจะข้ามเนี่ยนะ ถ้าเกิดว่ามันมีลมพายุพัดเข้าพอดีมีหวังพวกเขาไม่กลายเป็นหมีที่หายไปตัวที่ 2 เลยเรอะ
   
“ รออะไรล่ะ ? ข้ามไปสิ ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแรงที่กอดสเวนก็ไม่ลดลงเลย
   
“ อย่ากอดแน่นสิ ข้าหายใจไม่ออก ” สเวนขมวดคิ้ว ทั้งๆ ที่ในใจก็หวั่นๆ เช่นเดียวกับอลัน ปกติถ้าหากเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็จะเลี่ยง เพราะตัวอย่างที่เคยเห็นมีมากแล้ว อย่างหมีตัวเขื่องนั้น กระต่ายอกหักกระโดดลงไปฆ่าตัวตาย แมวป่าหิวจัดกระโจนลงไปจับปลา และจุดจบชองทุกตัวคือหายไปกับสายน้ำ
   
ถ้าหากข้าเป็นรายต่อไปก็คงจะเสียชาติเกิดเซนทอร์น่าดู..
   
อลันหัวเราะแห้งๆ ยอมผ่อนแรงลง
   
สเวนถึงยอมก้าวเดินไปข้างหน้า แสดงท่าทีไม่หวาดหวั่นน่าเกรงขามออกมา
   
กึง กึง กึง
   
เสียงฝีเท้าหนักกระทบเหล็กชวนให้หวาดเสียวว่ามันหักพังลงไปถ้าก้าวต่ออีกก้าว ทั้งๆ ที่เคยเป็นฐานรองให้รถเหล็กหนักเกือบร้อยตันวิ่งผ่านบ่อยๆ สนิทกัดกร่อนเหล็กจนกลายเหลือเพียงความเปราะบางเอาไว้
   
อลันลอบกลืนน้ำลายดังเอือกเมื่อมองลงไปข้างล่าง
   
เสียงน้ำไหลเชี่ยวรุนแรงพัดพาเอาทุกสิ่งที่ขวางหน้าไปกับมัน
   
หลับตาแน่นซุกหน้าลงกับแผ่นหลังหนาของเซนทอร์
   
ถ้าตกลงไป ไม่เหลือซากแน่ๆ
   
สเวนอมยิ้มบาง เอ็นดูร่างที่กอดตัวเองแน่นอีกครั้งไม่น้อย
   
เอาเถอะ กอดก็กอดไป
   
แต่อย่าจั้กจี้ข้าแล้วกัน ไม่อย่างนั้นคงได้ตกลงไปกลายเป็นเซนทอร์ที่ถูกจั้กจี้จนตกลงไปหายไปในน้ำเชี่ยว
   
ถ้ากลายเป็นแบบนั้น สู้ข้ากระโดดลงไปยังดีกว่าเลย
   
เซนทอร์หนุ่มก้าวย่างอย่างมั่นคง ควบคุมสมาธิของตัวเอง จดจ้องเส้นทางข้างหน้า ระมัดระวังในการลงฝีเท้าหนักเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบรางเหล็กเก่าๆ
   
กึง !!
   
เสียงแปลกๆ ทำเอาสเวนสะดุ้ง รีบเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าเดิม พื้นที่เหยียบเกิดการสั่นไหวเหมือนกับแผ่นดินกำลังเคลื่อนที่ไปจากที่ๆ มันเคยอยู่
   
“ ฉันว่านายรีบหน่อยดีกว่า ” อลันพูดเสียงสั่น
   
ไอ้เสียงเหมือนเหล็กจะหลุดออกจากกันมันไม่น่าไว้ใจสักนิด
   
“ ข้าก็ว่างั้น ” สเวนไม่สนใจจะระวังฝีเท้าตัวเองอีกต่อไปรีบวิ่งสุดชีวิตจะข้ามไปอีกฝั่งทันที
   
กึง ! กึง ! กึง !
   
เสียงฝีเท้าดังก้องแก้งดังลั่นผสมรวมกับเสียงโอดครวญของรางเหล็ก
   
อลันหลับตาแน่น หอบหายใจถี่ หัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมา ความกลัวปรากฏตัวเต็มพื้นที่ในหัว แขนพยายามกอดเซนทอร์หนุ่มแน่น
   
แต่กลับพบว่าทำไม่ได้
   
อลันเบิกตากว้างปากคอสั่นพยายามจะพูดขอความช่วยเหลือแต่พูดไม่ออก
   
คำพูดจุกที่อยู่ปลายลิ้น
   
เขาพูดไม่ออก
   
แขนที่เคยรัดคลายออก หมดเรี่ยวแรง
   
การนั่งบนหลังม้าที่วิ่งไวๆ แล้วคุณไม่ได้เกาะตัวเหลือจับตัวม้าไว้ 
   
สถานเดียวที่คุณต้องยอมรับคือ คุณอาจจะตกจากหลังม้า
   
ตึง !
   
อลันเผลอน้ำตาไหลไม่รู้ตัว อาการจุกเสียดตีตื้น ในใจภาวนาให้สเวนรู้ว่าเขาตกลงจากหลัง
   
ทั้งๆ ที่สติแจ่มชัด
   
แต่กลับไม่มีเรี่ยวแร่งขยับตัวสักนิด
   
แววตาสีฟ้าสั่นไหวเพราะถ้าหากขยับตัวไปข้างๆ อีกนิด
   
สายน้ำเชี่ยวกราดต้องพัดพาเขาไปแน่
   
พร้อมกับชีวิตอันเปราะบาง
   
เซนทอร์หนุ่มตกใจเสียงอะไรบางอย่างตกลงบนพื้นเหล็ก แต่ยังไม่หยุดฝีเท้าพอหันมามองก็ต้องอุทานออกมาเสียงดังลั่น “ อลัน ! ” รีบควบกลับมาที่เดิม
   
เหงื่อเย็นผุดเต็มหน้าด้วยความกังวล
   
ดวงตาสีทองสั่นไหวเช่นเดียวกับอลัน
   
มือหนารีบดึงกระเป๋าอีกฝ่ายออกมาสะพายและช้อนตัวขึ้นอุ้ม
   
กึง !!
   
เสียงดังลั่นมาพร้อมกับการสั่นสะเทือนของสะพาน
   
ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากสเวน
   
มีเพียงการเร่งฝีเท้าให้ไวที่สุด
   
แข่งกับเวลา
   
เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่ใช้ข้ามไปยังอีกฝั่งกำลังจะพังทลายลง
   
ตูม
   
เสียงของหนักๆ บางอย่างตกลงไปในสายน้ำและถูกต้อนรับด้วยสายน้ำเชี่ยวกราดนำพาท่องเที่ยวไปกับมัน หายไปจากครรลองจักษุในพริบตา
   
เซนทอร์หนุ่มไม่เสียเวลาหันไปมองอีก รู้ดีว่าสิ่งที่ตกลงไปเป็นชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ตนกำลังเหยียบย่ำ กีบเท้าแทบเป็นรอยสึกจากการกดเท้าทะยานไปข้างหน้า
   
ถ้าหากมีจิตรกรมาชมภาพที่กำลังเกิดในตอนนี้
   
สิ่งที่จะถูกระบายออกมาเป็นรูปคงไม่พ้นร่างอมนุษย์ครึ่งล่างอาชาสีดำดูน่าเกรงขามเหมือนแม่ทัพศึกในสงครามครั้งสำคัญในมือโอบอุ้มร่างสำคัญไว้ในอ้อมกอด ผมบรอนด์ทองสยายไปข้างหลัง หากสเวนมีปีกขาวคู่ยักษ์บนหลังคงไม่พ้นการถูกแต่งแต้มเป็นรูปเทวทูต
   
กุบกับ..   
   
สเวนทะยานครั้งสุดท้ายมาหยุดยืนที่พื้นดินของปลายสะพาน หอบหายใจแฮ่ก จดจ้องสะพานเก่าคร่ำครึที่ส่งเสียงกึงๆ ออกมาครั้งสองครั้งและนิ่งเงียบไป
   
เซนทอร์หนุ่มขมวดคิ้ว
   
รู้สึกเหมือนกับว่าถูกสะพานงี่เง่านี่หลอกยังไงยังงั้น
   
แปลว่าพวกเขาอาจจะอุปมาไปเอง ถึงเหตุร้ายแรงที่สุดที่จะสามารถเกิดได้
   
สเวนถอนหายใจเซ็งๆ ก้มมองร่างในอ้อมอกอด
   
หน้าซีดเผือด ตามตัวมีรอยช้ำเลือด เนื้อตัวเย็นเฉียบ
   
สเวนรีบประคองอลันลงนั่งบนพื้นดินใช้กระเป๋าวางไว้ด้างหลังอีกฝ่ายใช้พิง “ เจ้ากินสิ่งที่ใช้รักษาเจ้าไหม ? อาการของเจ้าไม่ดีเลย ” ในขณะที่พูดกุมมืออีกฝ่ายไว้หลวมๆ
   
ที่อลันตกจากหลังข้า ก็คงจะไม่พ้นอาการป่วยนั่นล่ะ..
   
ต่อไปข้าจะอุ้มเจ้าอย่างเดียวแล้ว
   
ถ้าหากการขี่บนหลังข้าจะทำให้เจ้าพลัดตกลงมาแบบนี้
   
อลันยังพูดอะไรไม่ออก ได้เพียงแค่พยักหน้าเหนื่อยๆ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรสักนิด เหมือนกับกล่องเสียงในลำคอหายไป เหลือไว้เพียงหลอดลมกลวงมีอากาศแล่นผ่านเป็นเสียงวี้ๆ
   
“ งั้นเจ้านั่งพิงต้นไม้ดีกว่า ” สเวนช้อนตัวอลันที่ตอนนี้ดูจะกลายเป็นน้ำที่ไหลไปตามวัตถุที่บรรจุ เดินไปอีกนิดวางไว้ใต้ต้นไม้ต้นยักษ์
   
อลันหลับตาพยายามสูดหายใจลึก หวังจะเอาออกซิเจนพวกนี้เข้าไปเผื่อว่ามันจะไปเผาผลาญพลังงานให้เขากลับมามีเรี่ยวแรงเหมือนเดิม
   
แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรสักเท่าไหร่
   
เซนทอร์หนุ่มหยิบกระเป๋ามาวางไว้ใกล้ๆ เปิดมันออกและหยิบกล่องยาที่เคยหยิบให้อีกฝ่ายออกมา แต่พอจะยื่นมันให้อลัน แววตาสีฟ้าที่สบมองมานั้นบอกทุกอย่างแทนคำพูด
   
แววตาของอลันนั้นเหนื่อยอ่อนจนสเวนรู้สึกได้
   
หัวใจสเวนเจ็บแปลบ
   
อา..
   
ความรักครั้งแรกของข้างคงจะมีโรคนี่เป็นอุปสรรคขนาดยักษ์ล่ะมั้ง
   
ข้าไม่สามารถทำอะไรมันได้ แม้แต่นิดเดียว
   
ได้แต่คาดหวังให้หมอวิเศษจะช่วยรักษาอลัน
   
ให้กลับมาเป็นปกติ
   
ถึงเวลานั้นคงจะยิ้มให้ข้าได้
   
ไม่มีอะไรมาทำลายได้อีก
   
ถ้าหากวันนั้นเป็นวันพรุ่งนี้
   
ก็คงจะดี
   
สเวนจึงพยายามเปิดกล่องที่ว่าอยู่สักพัก พอเปิดมันออกมาได้ ก็ยื่นให้อลันดู “ เจ้าจะกินแบบเดิมไหม ? หรือว่าแบบอื่น ”
   
อลันมองยิ้มบางมองกล่องยาในมือสเวน พลางส่ายหน้าเบาๆ
   
อาการแบบนี้มีแต่จะพักฟื้นเท่านั้น
   
เพราะดูๆ แล้วในกล่องยามันจะไม่มีอะไรเอื้อต่ออาการของเขาสักเท่าไหร่
   
สีหน้าเศร้าๆ ของสเวน ทำให้อลันรู้สึกอยากปลอบให้สงบลง
   
เพราะอลันก็ไม่ได้รู้สึกต่างจากสเวนอะไร
   
เจ็บปวดเช่นเดียวกันที่ต้องทำให้เป็นห่วง
   
สเวนพยักหน้ารับเก็บกล่องยาเข้ากระเป๋าดังเดิม เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีเมฆมากทำให้อากาศไม่ร้อนเท่าทีควร ถ้าหากเดินทางต่ออลันก็จะไม่รู้ร้อนมากนัก สิ่งที่ใช้ปกคลุมอลันนั้นก็อยู่ในกระเป๋า เหลือเพียงเสื้อยืดตัวบางที่เคยใช้คลุมหัวเซนทอร์เล่นเท่านั้น
   
“ เดินทางต่อไปไหม เดี๋ยวข้าจะอุ้มเจ้าเอง ” เซนทอร์หนุ่มถามเสียงอ่อนโยน
   
ถ้าหากข้าอุ้มเจ้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าหลุดจากมือแน่นอน
   
อลันพยักหน้า
   
ไม่สามารถสื่อสารได้ด้วยวิธีที่ดีกว่านี้
   
ปล่อยตัวไปตามแขนของเซนทอร์หนุ่ม
   
หลับตาซึมซับอากาศอุ่นๆ
   
คาดหวังร่างกายจะอุ่นตามเลิกเย็นเฉียบ
   
แว่วเสียงกุบกับดังเข้ามาในหู
   
อลันอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้
   
เสียงกุบกับนี่เป็นสัญลักษณ์ของเจ้าม้าบ้านี่เลยมั้ง
   
สายลมรุนแรงพัดผ่านเนื่องจากความเร็วที่ม้าบ้าวิ่ง
   
อลันเงยหน้าขึ้นมอง
   
เห็นสีหน้าจริงจังกับการวิ่งสักพักพอเห็นว่าเขามองก็ส่งยิ้มให้
   
“ เจ้านอนเถอะ ข้าจะพยายามวิ่งให้ไวที่สุด จะได้ถึงไวๆ ”
   
พูดเสียงนุ่ม สุขุม
   
ทั้งๆ ที่ในใจตรงข้าม
   
ถ้าหากข้ามีปีก คงจะไม่รอช้ากางมันออกโผบินไปข้างหน้า
   
เพื่อให้ทันเวลา
   
ก่อนที่ร่างอ่อนแอในอ้อมกอด
   
จะไม่อยู่ถึงเวลานั้น


---------------------------

หน่วงเช่นเคย ~

ตอบเม้น  :กอด1:

คุณ sinyou : หน่วงทุกตอน 555555555

คุณ lizzii : ลัทธิน้องดัฟฟ์เห็นแก่ของกิน

คุณ BlueCherries :  แฮปปี้ๆ  :hao7: , ที่กะๆ ไว้น่าจะประมาณปี 1990 ทำนองนี้ค่ะ อารมณ์เก่าๆ

คุณ Mouse2U : ตอนนี้ไม่บุ่มบ่ามตอนหน้าก็ไม่แน่  :hao6:

คุณ Celestia : อลันคงใจร้ายกับม้าบ้าไม่ลงหรอกค่ะ น่ารักขนาดนี้ ><

คุณ นอนกินแรง : ขอบคุณค่ะ  :man1:
     
   
   
   
   
   

      

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
หน่วงทุกตอน แต่ก็ซึ้งด้วย ชอบมาก อย่าจบเศร้านะค๊ะ ขอร้อง

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
บีบหัวใจ สงสารอลัน
ส่วนสเวนท่าทางจะติดใจอาหารมนุษย์จริงๆ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารทั้งคู่เลย อยากให้อลันหายเร็วๆแล้ว อาการแต่ละอย่าง แย่มากเลย :mew4:

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจ็บตัวทุกตอนเลย สงสารง่า
ปล.ถามได้ไหม เรื่องนี้จบHappyไหมคะ?

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงแว่วครั้งที่ 9 : หวาดกลัว
   
อลันเผลอหลับไป ปล่อยให้เซนทอร์หนุ่มนำพาร่างของตัวเองไปยังเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
   
การเดินทางโดยมีจุดหมาย
   
แต่กลับไม่รู้ถึงระยะทางชวนให้ปวดใจ
   
สเวนพยายามครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตัวบอกกับอลัน
   
เขาควรมีความหวังสิ
   
พร่ำบอกตัวเองเพื่อนย้ำเตือนถึงสิ่งที่ต้องกระทำ
   
อาการของอลันเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าหากถึงมือหมอช้าไปเพียงนิดอาจจะอันตราย
   
สเวนตระหนักถึงความจริงข้อนั้นจึงยังคงวิ่งไปตามทาง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
   
ทางรถไฟที่มีอายุยาวนานเกือบศตวรรษนั้นตัดผ่านสิ่งที่เหนือความคาดหมายมากมาย หน้าผาสูงที่ด้านข้างก่อเป็นทางรถไฟตัดผ่าน กลางป่าทึบ หรือท่ามกลางหุบเขาแห้งๆ ไร้ต้นไม้ โดยส่วนใหญ่ที่ตัดผ่านนั้นจะไม่ค่อยมีเมืองสักเท่าไหร่หรือถ้ามีก็มีเพียงจำนวนน้อยมาก
   
โชคดีที่ทางของอลันนั้นไม่ได้ตัดผ่านสถานที่อันตรายอย่างริมหน้าผา ซึ่งถ้าหากตกลงไปคงจะไม่มีโอกาสได้แก้ตัวใหม่อีกครั้ง เหยี่ยวหรือนกเขาใหญ่คงกู่ร้องออกมาด้วยความสะใจเมื่อศัตรูร่างยักษ์ได้พลัดตกลงไป
   
ร่างของสเวนมีเหงื่อโซม ทุกสัดส่วนของร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ นับเป็นโชคของสเวนที่เซนทอร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแรงกว่าสัตว์ทั่วไป แต่การเดินทางที่ไม่มีการหยุดพัก ย่อมไม่ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างแน่นอน
   
ร่างกายสเวนนั้นอ่อนล้า
   
เสียงประท้วงครวญครางจากกล้ามเนื้อ
   
อาการปวดเมื่อยตามตัวปรากฎ
   
เซนทอร์หนุ่มเลือกที่จะเมินมันฝืนวิ่งต่อไป
   
อย่างที่เคยว่าไว้
   
ต่อให้ข้าเสียขาไปสักข้าง
   
แต่เพื่ออลันข้าก็จะยอม
   
สเวนยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองกำลังกลัว นัยน์ตาสีทองยังฉายความมุ่งมั่นที่จะวิ่งต่อไปแต่ก็แฝงความหวาดหวั่นไม่น้อย สีหน้าของอลันไม่ได้ดีขึ้นสักนิดเดียว ยังคงซีดเผือด การหายใจก็ดูจะถี่ขึ้นกว่าปกติจนได้ยินเสียงลมหายใจ
   
อาการของอลันแย่ลง..
   
ในยามปกติที่ข้าลอบติดตามอลันอาการของอลันจะกำเริบชั่วเวลาสั้นๆ หลังจากกินยาเข้าไปก็จะกลับมาเป็นปกติ สามารถเดินทางร้องเพลงเบาๆ ออกมา
   
ท้องฟ้าเปลี่ยนสีหลายครั้ง จากสีแสดเป็นสีส้ม
   
จนกระทั่งเป็นสีดำ
   
สเวนถึงต้องหยุดชะงักการเดินทาง
   
ให้ความสนใจกับมือที่บีบข้อมือตัวเองแน่น
   
“ มีอะไรงั้นเหรอ อลัน ? ” สเวนถามด้วยความเป็นห่วง
   
อลันไม่ได้ตอบพยายามฝืนตัวออก มองหน้าสเวนเชิงวอนขอให้เซนทอร์หนุ่มได้ปล่อยตัวเองลง เพราะอาหารที่ตีตื้นขึ้นมาจุกตรงลำคอ อลันน้ำตาคลออย่างทรมาน ร่างกายของเขายังคงไร้เรี่ยวแรง คำพูดสักคำยังไม่สามารถหลุดออกมาจากริมฝีปาก
   
สเวนตีความเอาจากท่าทางอลันมั่วๆ เลิกคิ้วงง

คงจะอยากลงล่ะมั้ง ?

เซนทอร์หนุ่มวางร่างของอลันบนพื้นดินนุ่ม กำลังจะปริปากถามไถ่ถึงสาเหตุที่ปล่อยให้ลง

ก็กลืนคำพูดเข้าไปก่อน

เมื่ออลันค่อยๆ คลานไปอีกทาง กุมท้องแน่น

เศษอาหารที่กินเข้าไปถูกขับออกมาจนหมด

พร้อมกับเลือด..

อลันหน้าซีดเผือด

เช่นเดียวกับสเวน

ร่างขาวเช็ดริมฝีปากลวกๆ พยายามกลั้นน้ำตาที่จวนเจียนจะไหลออกมา คำสัญญาที่ให้ไว้กับสเวนดังแจ่มชัดในหัว
แต่อาการครั้งนี้มันน่ากลัวมาก

เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

อลันหันไปหาสเวน นัยน์ตาสีฟ้าตอนนี้ไม่สามารถใช้คำว่ากระจ่างใสได้อีกต่อไป

มันเต็มไปด้วยความหม่นหมอง หวาดกลัวในสิ่งที่ตัวเองเป็น

สเวนรวบตัวอลันมากอดแน่น ฝังหน้าบนไหล่ของอลัน “ ร้องออกมาเถอะ อลัน ข้าเข้าใจ ” มือหนาพยายามลูบหลังมนุษย์ที่ร้องไห้จนตัวโยน

คำสัญญาแรกระหว่างเซนทอร์หนุ่มกับมนุษย์
   
ถูกทำลายด้วยโรคร้ายอีกครั้ง
   
แต่สเวนไม่ได้สนใจในเรื่องนั้น
   
การปล่อยให้อลันร้องไห้ออกมาดูจะเป็นเรื่องที่สมควรที่สุดในตอนนี้
   
ถ้าหากกักเก็บไว้
   
อลันคงจะแตกสลายเข้าสักวัน
   
ซึ่งมันคนที่จะแตกสลายตาม
   
ไม่ใช่ใครที่ไหน..
   
นอกจากสเวน
   
ท้องฟ้าไร้สายดาว คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด นัยน์ตาสัตว์กลางคืนเป็นประกายแวววาว ฝูงหิ่งห้อยบินขึ้นคล้อยตามพงหญ้านึกย่ามใจเมื่อตัวมันเองสามารถทดแทนแสงจันทร์ที่หนีจาก
   
“ ตรงนั้นมีทะเลสาบเล็กๆ อยู่ เจ้าอยากไปนั่งตรงนั้นไหม ” สเวนปลอบโยนเสียงนุ่ม ประสาทสัมผัสที่ดีกว่าสัตว์ทั่วไปบอกเช่นนั้น จากกลิ่นไอน้ำ
   
อลันอยากตอบกลับไปแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เช่นเดิม เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ
   
ยอมรับการถูกโอบอุ้มอย่างว่าง่าย
   
เพราะมันอาจจะเป็นวิธีสุดท้ายที่จะสามารถพาเขาไปจากที่เคยอยู่
   
ทั้งๆ ที่พักผ่อนไปมาก
   
แต่เรี่ยวแรงที่ปกติมักจะกลับมาทุกครั้งกลับไม่กลับมา
   
อลันเริ่มไม่รู้สึกถึงความหวังที่สเวนว่าไว้
   
อาการของเขาหนักขึ้นทุกวัน
   
ยาที่เตรียมมากินดูจะทำให้โรคนี้ดื้อยามากยิ่งขึ้น
   
และมันก็เหลืออยู่ไม่มาก..
   
เขารู้ตัวดีว่ากินไม่เป็นเวลา กินทุกครั้งที่อาการกำเริบเนื่องจากทนอาการเจ็บปวดไม่ได้ การทนทุกข์ทรมานคร่ำครวญคนเดียวเป็นสิ่งท้ายที่อลันต้องการ
   
ต่อให้มันจะทำให้ทุกอย่างแย่
   
อลันก็จะกินมันอยู่ดี
   
เม็ดยาเม็ดเล็กสีขาวเดิมเคยมีราคาถูกหาซื้อได้ง่ายแต่หลังจากถูกบริษัทหน้าเลือดมายึดขายแทนด้วยราคาขูดเลือดขูดเนื้อ คนที่เดือดร้อนไม่ใช่ใครนอกจาก ผู้ป่วยไร้ปากเสียงอย่างเขา
   
ยอมรับกล้ำกลืนกับราคา
   
เงินที่ตรากตรำเก็บมาอย่างยากลำบาก เคยคิดไว้ว่าจะซื้อบ้านสักหลังให้ตัวเองอยู่พร้อมกับเลี้ยงแมวตัวอ้วน ปลูกดอกไม้สีสดในสวนหลังบ้าน
   
ทุกอย่างพังลงมา
   
เมื่อโรคบ้าๆ กำเริบ
   
ชีวิตของเขามันพังไปแล้ว
   
น้ำตาของอลันไหลออกมาอีกครั้งไม่รู้ตัวทั้งๆ ที่ยังคงยิ้ม แววตาหม่นแสงจดจ้องทะเลสาบนิ่งงัน รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าไม่ใช่รอยยิ้มเลื่อนลอย
   
มันมีต้นเหตุมาจากสเวน
   
สเวนไม่พูดอะไรเมื่อเห็นน้ำตาของอลัน กอดร่างที่ตัวเองหลงรักแน่น
   
เขาเจ็บจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
   
ข้าหวาดกลัวว่าอลันจะแตกสลาย
   
ข้ากลัว..
   
อลัน
   
ข้ากลัว...
   
น้ำตาไหลออกมาจากนัยน์ตาสีทองที่สั่นระริก
   
อลันสะดุ้งทันควัน คาดไม่ถึงว่าสเวนจะร้องไห้ มือสั่นๆ พยายามเกลี่ยน้ำตาของสเวนออกแผ่วเบารวบรวมเรี่ยงแรงที่มีอยู่น้อยนิดเพื่อปลอบประโลมอีกฝ่ายโดยไร้คำพูด
   
อลันยังคงยิ้มจาง
   
อย่าร้องไห้สิ
   
ม้าโง่
   
อลันหลับตาลงสูดหายใจลึกแต่ก็ไม่พอสำหรับร่างกายเขาอยู่ดี เหมือนกับลูกโป่งที่รั่วแม้จะสูบลงเข้าไปมากแค่ไหนก็ไม่มีวันที่มันจะลอยขึ้นไปบนฟ้าได้
   
แต่มันก็เพียงพอให้พูดได้..
   
“ อย่าร้องไห้สิ แค่ก ” พูดไม่ทันจบก็เผลอไอเลือดออกมา
   
“ พูดง่ายแต่ทำยากนะ ” สเวนพูดกลั้วหัวเราะในลำคอ “ แล้วเจ้ายิ้มอะไรน่ะ ? เห็นข้าร้องไห้แล้วดีใจงั้นเหรอ ”
   
อลันเงยหน้ามองเมฆสีครึ้มที่แทบกลืนไปกับท้องฟ้าสีมืด  ซ่อนความเขินอายที่จะพูด
   
เสียงแหบแห้งหลุดออกมาจากลำคอ
   
“ ดีใจที่ฉันยังมีนาย ”
   
สเวนเผลอยิ้มทันควัน “ เจ้าดีใจที่มีข้า ? ”
   
“ อืม.. ” ร่างขาวส่งเสียงอืออาในลำคอ
   
เขาคิดแบบนั้นจริงๆ..
   
การมีอยู่ของเซนทอร์เหมือนของขวัญชิ้นสำคัญของชีวิตเขา
   
ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
   
ทำทุกอย่างให้อย่างจริงใจ
   
มันทำให้เขาดีใจ
   
ความรู้สึกเหมือนได้เป็นคนสำคัญของใครสักคนแจ่มชัด
   
อลันหลงรักอ้อมกอดอุ่นๆ
   
ดีใจที่ไม่ต้องร้องไห้คนเดียว
   
เขายอมรับว่าชอบในสเวนไม่น้อย..
   
อาจจะดูเป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่อีกฝ่ายเข้ามาในชีวิต
   
แต่ระยะเวลาที่อลันอยู่คนเดียวนั้นมากเกินไป การที่สเวนเข้ามาให้อบอุ่น คอยเป็นที่พึ่ง ใส่ใจดูแล ย่อมจะเข้ามาในใจอลันได้ไม่ยาก
   
“ ข้าก็ดีใจที่มีเจ้าเหมือนกัน อลัน ” สเวนกอดอลันแน่น
   
เดิมทีสเวนเหมือนกับต้นไม้ที่แห้งลงทุกวัน
   
พอได้คำพูดของอลัน
   
ทำเอาต้นไม้ต้นที่ว่าฟื้นตัวทันควันแล้วยังออกดอกด้วย
   
อลันหัวเราะ อารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย ลูบหัวเซนทอร์หนุ่ม “ นายนอนเถอะ วันนี้เดินทางมาทั้งวันแล้ว ”
   
ร่างขาวสังเกตถึงความเหนื่อยล้าของสเวน
   
ถึงจะพยายามปกปิดยังไง
   
อลันก็รู้อยู่ดี
   
การเดินทางของเขาอาจจะต้องเร่งแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องทำให้ใครสักคนต้องมาถวายชีวิตให้กับเขาสักหน่อย
   
สเวนยังไม่คลายความกังวล “ ข้ายังวิ่งต่อได้ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ”
   
“ นายเหนื่อยแล้ว นอนเถอะนะ ”
   
“ ... อืม ” สเวนยอมรับคำง่ายๆ คลายกอดจากอลัน นอนลงจริงจัง หมดสภาพความเป็นเซนทอร์สเวนยอมหลับตาลงง่ายๆ ตั้งใจจะนอนฟื้นแรงให้มากที่สุด พรุ่งนี้เขาจะวิ่งขาขวิดเลยทีเดียว
   
อลันอมยิ้มที่สเวนยอมเชื่อฟัง โชคดีที่เรี่ยวแรงตอนนี้กลับมานิดหน่อยพอหยิบจับอะไรได้บ้าง อลันขยับตัวพิงเข้ากับตัวของเซนทอร์หนุ่มดึงกระเป๋าหยิบขวดน้ำออกมาจิบคลายความแสบคอ ก่อนจะหยิบถุงแครกเกอร์มาแกะ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มีเสียงรบกวนสเวน
   
“ ข้าอยากกินบ้าง ” น้ำเสียงทุ้มดังแตกพร่า
   
อลันสะดุ้งเพราะเขาพึ่งจะฉีกซองเสร็จเท่านั้น แต่ก็ยอมหยิบออกมาชิ้นนึงป้อนมันเข้าปากสเวน “ นี่ยังไม่นอนอีก ? ”
   
สเวนเคี้ยวกรุบๆ “ ช่วยไม่ได้กลิ่นมันหอมจนปลุกข้า ”
   
อลันพยักหน้ารับ ส่งแครกเกอร์ชิ้นบางเข้าปากบ้าง เหม่อมองท้องฟ้าสีน้ำหมึกแตะแต้มด้วยใจที่ล่องลอย อดคิดถึงดวงจันทร์กระจ่างไม่ได้ “ สเวน นายเชื่อไหมว่ามนุษย์สามารถขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้ ”   
   
เซนทอร์หนุ่มครุ่นคิดสักพัก “ ไม่รู้สิ อาจจะเหยียบได้ก็ได้มั้ง ขนาดข้ายังมีจริงได้เลย ”
   
“ ไม่ใช่แค่เหยียบนะแต่ขึ้นไปปักธงเลยล่ะ ”
   
“ พวกเจ้าจะขึ้นไปบนนั้นทำไม ? ไม่พอใจกับโลกที่กำลังอยู่งั้นเหรอ ”  สเวนถามออกมาอย่างข้องใจ
   
นับเป็นคำถามที่เข้าเค้าไม่น้อย
   
ไม่พอใจกับโลกที่กำลังอยู่ ?
   
อาจจะจริงอย่างที่สเวนว่า
   
มนุษย์ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
   
“ ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ขึ้นไปสักหน่อย ” อลันตอบคำถามอย่างขอไปที ไม่สามารถให้คำตอบกับเซนทอร์หนุ่มได้
   
สเวนไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะรู้ดีว่ามันคือการพูดตัดบทให้เขาเงียบและหลับใหลเข้าสู่นิทราที่เงียบสงบ
   
แครกเกอร์อีกหลายชิ้นถูกส่งเข้าปาก ลิ้มลองรสชาติจืดๆ กลิ่นช็อกโกแลต แต่ก็เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นก่อนที่อลันจะผะอืดผะอมกินมันต่อไม่ได้
   
ทั้งๆ ที่กินไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
   
อลันถอนหายใจมัดปากถุงเพื่อคงความกรอบไว้
   
ผ่อนคลายตัวที่เหยียดเกร็ง หลับตาลงดื่มดำกับการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย
   
หิ่งห้อยตัวเล็กตีปีกบินล่องลอยขึ้นลงเนิบนุ่ม เหมือนกับกำลังกระโดดเด้งดึ๋ง มันลอยเอื่อยมาเกาะบนมือที่ถูกยื่นออกไปให้เกาะเชิงกิ่งไม้
   
เพื่อนตัวเล็ก
   
อลันให้นิยามมันเช่นนั้น
   
เพราะมันจะอยู่เป็นเพื่อนเขาจนกระทั่งดวงอาทิตย์จะมาเยือนอีกครั้ง
   
ทอดมองท้องฟ้ามืดถูกแสงสว่างกลืนกิน
   
ด้วยแววตาสีฟ้าที่เจือความง่วงงุน
   
แต่ไม่มีที่ท่าว่าจะหลับแต่อย่างใด

   
“ ฮ้าว ~ ” สเวนหาวหวอดยืนขึ้นบิดขี้เกียจไปมาคลายเส้นยึด นัยน์ตาสีทองจดจ้องอลันงุนงงเมื่อเห็นรอยคล้ำใต้ขอบตาอีกฝ่าย

“ ทำไมเจ้าถึงตาดำล่ะ ”
   
เพราะฉันนอนไม่หลับไง ม้าโง่
   
อลันคิดในใจแต่ยิ้มตอบ “ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ช่างมันเถอะ ” อลันหยิบถึงแครกเกอร์ออกมาชู เขย่าดังแกรกๆ เรียกความสนใจ “ กินไหม ? นายยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ ”
   
“ เจ้าไม่กินงั้นเหรอ อลัน ” สเวนไม่ยอมรับมา
   
“ ฉันกินจนอิ่มแล้ว ” ยิ้มบางตอบ
   
อาการหน่วงท้องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อคืนบิดเบาๆ คล้ายประท้วง
   
แต่อลันไม่แสดงทีท่าอะไรออกไป
   
เขาไม่ได้อยากให้สเวนเป็นห่วงนักหรอก
   
สเวนถึงยอมรับไปกินด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ของที่ชอบถูกกินจนหมดในเวลาไม่ถึงนาที ซึ่งดูๆ แล้วไม่น่าจะพอถมที่ว่างในกระเพาะอาหารของเซนทอร์หนุ่มได้พอด้วยซ้ำ
 
“งั้นไปกันต่อเลยไหม ข้าพร้อมจะวิ่งแล้ว ! ” สเวนพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ท้องของสเวนไม่ได้หิวอะไรมากมายอย่างที่อลันคิด ผลไม้เนื้อสัตว์ทุกอย่างถูกสเวนกินกักตุนไว้แล้วเรียบร้อยในระหว่างที่อลันหลับในวันก่อนๆ  เหลือแต่รอนำมาใช้

“ อืม ตามนั้นนั่นแหละ ” อลันรูดซิปกระเป๋าให้เข้าที่ รอสเวนสะพายมันเข้าตัว ปล่อยให้การเดินทางเป็นไปในรูปแบบเดิมที่เคยคิดไว้

เขาแทบไม่มีแรงเหลือแล้ว

อาการแน่นหน้าอกตีตื้นจนหายใจลำบาก

การปั้นหน้ายิ้มแย้มทั้งๆ ที่ร่างกายร้องประท้วงอยากหนัก

เสียงฮึมฮัมเพลงในลำคอของเซนทอร์หนุ่มทำให้อลันไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรออกไป
   
ดวงตาพร่าเลือนจนมองเห็นม้าบ้าเป็นเสียงสีน้ำจางๆ
   
แต่ผมที่สีทองนั่นนับเป็นเอกลักษณ์ได้เลยทีเดียว
   
อึก !!
   
อลันเบิกตากว้าง สีหน้าบิดเบี้ยวน้ำตาคลอหน่วง
   
เขาหายใจไม่อออก !
   
“ อลัน ? อลัน ” น้ำเสียงในช่วงแรกสเวนเป็นน้ำเสียงงุนงงและเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกทันควัน ปล่อยอลันวางบนพื้นทันทีเพื่อดูอาการที่แปลกไปของอลัน
   
“ แฮ่ก.. แฮ่ก.. ” อลันหอบใจหายเสียงดัง ตัวงองุ้มกุมท้องอย่างทรมาน หัวปวดหนักเหมือนมีค้อนมาทุบซ้ำๆ กดย้ำพยายามฝังตะปูเข้าไปในหัว เนื้อตัวสั่นเทา ดวงขึ้นสีแดงก่ำ เล็บเผลอจิกเข้าเนื้อตัวเองจนเลือดซึมออกมาช้าๆ
   
“ อลัน ! อลัน ” สเวนทำอะไรไม่ถูก รีบแกะกระเป๋าดึงเม็ดยาสีขาวออกมาพร้อมกระบอกน้ำยื่นมันให้อลัน
   
แต่อลันไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ
   
เมื่อโรคครอบงำ
   
ครั้งนี้...
   
เป็นครั้งที่ทรมานที่สุด
   
อลันกัดฟันกรอด หัวใจเต้นถี่จนแทบหลุดออกมาจากอก
   
อาการที่ผ่านๆ มา..
   
คือคำเตือนถึงชีวิตของเขา
   
หลายวันที่อาการถี่ขึ้น
   
บอกถึงเวลาที่เหลือน้อยลง
   
และวันนี้คงจะเป็นวันประหารของเขา !!
   
---------------
 :m29:

ตอนเม้นดีกว่า

คุณ winndy :  ไม่รับปากค่ะ TT เรื่องนี้แต่งจบแล้วค่ะ เหลืออีก 2 ตอน ซึ่งต้องมาดูกันว่าจบยังไง  :hao3:

คุณ lizzii : เลี้ยงไว้ในบ้านอาหารหมดตู้เย็นแน่นอน 5555

คุณ นอนกินแรง : กลัวอลันตาย  :ling3:

คุณ sinyou : ขอไม่ตอบค่ะ  :mew2: เหลืออีก 2 ตอน ชี้ชะตากรรมน้องอลัน :mc4:     

   

   
   
   

   
   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :z3: :z3: :z3:


อลันตกลงเป็นโรคอะไร โดนใครสาปมาหรือยังไง

อาการหนักมากแล้วนะ  :ling1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อดทนเอาไว้นะคะอลัน :dont2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ถ้าไม่ใช่ฮาฟบลัดงั้นก็กลายร่างเป็นเซทเทอร์ดีไหม คึคึ

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
หน่วงจังเลยค่ะ
แต่ก็สนุกมากๆ
ขอให้อลันไม่เป็นไร
ขอให้ไปถึงที่หมายเร็วๆ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อยากให้อลันหายแล้วมันหน่วงจริงๆ :mew4:

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
เสียงแว่วครั้งที่ 10 : ความสูญเสีย
   
“ อลัน เจ้ากินยาสิ ทำไมเจ้าไม่กินมันล่ะ ” สเวนพูดเสียงสั่น พยายามประคองตัวอลันขึ้นมานั่ง มือหนาประคองเม็ดยาสีขาวเม็ดเล็ก
   
อลันหอบหายใจ ไม่สามารถตอบรับอะไรได้ทั้งสิ้น อาการตีรวนในท้องผสมกับหัวที่ปวดเกินจะบรรยาย มันทรมานจนเขาไม่สามารถแสดงท่าทีอะไรออกมาได้แม้แต่อย่างเดียว
   
น่าแปลก
   
ที่ครั้งนี้ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวออกมาจากดวงตาของอลัน
   
คล้ายกับว่ายอมรับสภาพอาการแต่โดยดี
   
ว่าเขาอาจจะไม่รอด
   
“ เจ้าไม่ตอบงั้นข้าป้อนเจ้านะ ” สเวนไม่ยอมแพ้ไม่รอแม้แต่จะฟังคำตอบ รอปากเล็กๆ นั่นอ้าและหย่อนเม็ดยาสีขาวเข้าไป เนื้อตัวสั่นเทาของเซนทอร์หนุ่มสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว
   
อลันพยายามกลืนน้ำตามเข้าไป ทั้งๆ ที่ในใจรู้ดีว่าไม่ทันเวลา
   
แต่เพื่อความสบายใจของม้าโง่
   
เขาจะลองดูแล้วกัน
   
แค่ก !!
   
อลันสำลัก เม็ดยาออกมาพร้อมกับน้ำ ไอออกมาอย่างรุนแรงจนตัวโยน
   
สเวนตกใจ รู้สึกโมโหตัวเองที่ทำให้อลันอาการหนักยิ่งขึ้น มือกำแน่น “ อลัน ข้าควรจะทำยังไง ข้าไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้ายังไงแล้ว ” น้ำเสียงสั่นเครือ
   
ไม่กล้าคว้าร่างเข้ามากอด
   
กลัวว่าจะทำให้อาการหนักขึ้นกว่าเดิม
   
ร่างขาวไม่สามารถตอบอะไรได้ เดิมทีที่เพียงไอสำลักน้ำเริ่มมีเลือดติดออกมา จนเปื้อนไปทั้งมือ อลันเบิกตากว้าง จ้องมือสั่นๆ ของตัวเอง
   
เขากำลังจะตาย.. 
   
ไม่ได้ฉันยังไม่ได้บอกชอบเจ้าม้าโง่เลย
   
อลันเงยหน้าขึ้นไปสบตาสเวน พบว่ายังคงเห็นเป็นสีน้ำเจือจาง เสียงที่เล็ดลอดเข้ามากลายเป็นเสียงหึ่งๆ แปลเป็นภาษาไม่ได้ แต่ความตั้งใจยังคงอยู่ในอก..
   
“ ม้าโง่ .. แค่ก ” อลันพูดได้เพียงคำเดียวก็กระอักเลือดออกมา “ ฉันชอบนายนะ ”
   
เห็นเพียงเงาสีน้ำของจิตรกรที่เผลอทำขวดสีหก
   
สีทองๆ นั่นขยับไปมา
   
คำพูดดังแว่วที่เขาแปลไม่ออกดังเข้ามาในหู
   
สเวนจะทำหน้ายังไงนะ ? ถ้ารู้ว่าเขาชอบ อาจจะหัวเราะหึๆ แล้วด่างี่เง่าล่ะมั้ง ไม่ก็อาจจะไม่เชื่อไปเลย
   
อยากเห็นจังนะ
   
...
   
อลันชอบข้า !
   
ความตกใจระลอกใหม่บุกโจมตีหัวของสเวน ความดีใจฟุ้งเต็มอกผสมเข้ากับความเศร้าล้ำลึก สีหน้าที่แสดงออกไปดีใจสลับกับเศร้า
   
แต่ทำไมมันถึงดูเหมือนคำกล่าวลาล่ะ
   
สเวนคิดอย่างข้องใจ
   
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก
   
เมื่ออลันนอนแน่นิ่งไปกับพื้นเสียแล้ว เซนทอร์หนุ่มรีบเข้าไปเขย่าตัวอลัน พยายามปลุกให้ตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราอันยาวนานที่เพิ่งจะเข้าไปโดยกล่าวลาด้วยประโยคที่ไม่ทำให้เขาเข้าใจสักนิด
   
ถ้าหากเจ้าชอบข้าจริงจงตื่นขึ้นมายืนยันคำพูดของเจ้ากับข้าอีกครั้ง !
   
ไม่มีการตอบกลับมาเป็นลมหายใจหนักๆ หรืออะไร
   
น้ำตาหยดลงเสื้ออลันจนเปียกชุ่ม เช่นเดียวกับตอนที่ลักพาตัวมาครั้งแรก
   
ทำไมกัน.
   
การพบกันกับการลาจากของเจ้ากับข้าถึงไวขนาดนี้
   
“ ข้าชอบเจ้า อลัน ข้าชอบเจ้า .. ”
   
ทำไมข้าถึงไม่รีบบอกสิ่งนี้กับอลันตั้งแต่ที่ข้ายังมีเขากัน
   
สเวนพร่ำบอกกับอลันแม้จะรับรู้อยู่กลายๆ ว่าร่างตรงหน้านั้นไร้ชีวิตไปแล้ว
   
อลัน !
   
เซนทอร์หนุ่มเงยหน้าตะโกนคร่ำครวญออกมา
   
เสียงทุ้มต่ำตะโกนดังลั่นจนสัตว์ที่กำลังหากินอยู่อย่างสงบ วิ่งหนีกระเจิงด้วยความตกใจ   
   
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้าโศก หวังจะระบายความอัดอั้นตันใจออกมาอย่างอดไม่ได้
   
ทำไมกัน ?
   
เหตุใดท่านถึงไม่เลือกข้า !
   
สเวนจดจ้องไปบนท้องฟ้า
   
ข้ายอมตายเพื่อเขา ถ้าหากจะทำให้เขามีความสุข มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทุกวันอย่างเดียวดาย
   
ท่านไม่ต้องให้เขาเจอข้าก็ได้
   
ท่านไม่ต้องให้เขารักข้าก็ได้
   
ไม่ได้งั้นเหรอ !!
   
นัยน์ตาสีทองเปลี่ยนเป็นแดงก่ำเนื่องจากน้ำตา สเวนซบหน้าลงบนตัวอลันอย่างสิ้นหวัง ทำอะไรไม่ถูก
   
มันเร็วเกินไปที่เขาจะต้องเสียใครสักคนไป
   
เขาทำใจยอมรับมันไม่ได้
   
ถ้าหากดึงคนที่เขาหลงรักกลับไป
   
ทำไมถึงไม่ดึงข้าไปอีกคนด้วยล่ะ
   
สเวนปล่อยกอดร่างเย็นชืดแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดความร้อนจากตัวเองไปยังร่างขาว
   
แต่ในใจสเวนยังเฝ้าภาวนา
   
กลับมาได้ไหมอลัน
   
ถือว่าข้าขอร้อง..
   
เวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบครึ่งค่อนวัน สเวนยังคงกอดอลันแน่นิ่งอยู่ที่เดิม
   
ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
   
เหมือนกับไร้ชีวิต
   
กอดอลันแน่น
   
สีหน้าของสเวนซีดกว่าอลันเป็นเท่าตัว
   
ซบหน้าลงกับตัวอย่างอ่อนแอ
   
ในหัวยังอื้อๆ คิดอะไรไม่ออกเช่นเดิม
   
“ อึก.... ”
   
เสียงดังในลำคอของร่างที่กอด ทำเอาสเวนสะดุ้งเบิกตากว้าง
   
เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ?!
   
แต่ก็ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งหัวออกจากที่เดิม
   
“ ม้าโง่ ออกไป ฉันหนัก ! ” เสียงเอ็ดมาพร้อมกับแรงตบเข้าที่หัวดังผลั่ก
   
สเวนหลุดเสียงโอ๊ย
   
น้ำตาคลอ
   
จับจ้องอลันจนแทบจะกลืนกินเข้าไป
   
อลัน..
   
“ เจ้ายังไม่ตาย.. ”
   
สเวนพูดขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย
   
อลันหลุดยิ้มตอบห้วนๆ “ เออ ! อย่าแช่งดิ ”
   
“ เจ้าหายแล้วงั้นเหรอ ”
   
ร่างขาวยักไหล่กวนๆ ยืดแขนบิดตัว “ ไม่รู้สิ เมื่อกี้อยู่ๆ ก็สลบไปเลย แต่พอฟื้นมาโครตสดชื่น เหมือนได้เกิดใหม่ยังไงยังงั้น ! ”
   
อลันแทบจะลั้ลลาออกมา
   
ไม่แน่เมื่อกี้อาจจะเป็นคำทิ้งท้ายของโรคเขาก็ได้
   
ตอนนี้อลันรู้สึกแข็งแรงจนคิดว่าตัวเองสามารถไปยกน้ำหนักแข่งกับเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายที่ผันตัวไปเป็นนักยกน้ำหนักไปแล้ว
   
รู้สึกแข็งแรงจนอยากทำทุกอย่างที่สามารถใช้กำลัง
   
พละกำลังล้นเหลือ
   
เหมือนกับหนุ่มสุขภาพดีออกกำลังสม่ำเสมอ
   
งี้เขาก็ทำเหมือนรวยทางลัดนี่
   
อลันคิดด้วยความอารมณ์ดีจนฮึมฮัมเพลงออกมา
   
เลิกคิ้วมองเซนทอร์ที่น้ำตาไหลพรากงงๆ
   
“ เจ้ากลับมาแล้วจริงๆ งั้นเหรอ ” สเวนถามเสียงสั่น
   
นัยน์ตาเจือความข้องใจ
   
“ จริงสิ ” อลันยิ้มยิงฟัน
   
ก่อนที่จะหลุดเสียงร้อง
   
เมื่อถูกม้าบ้าดึงตัวเข้าไปบดจูบดุดันอลันเผลอเผยอปากปล่อยให้รุกล้ำอย่างคุกคาม ความเชี่ยวชาญของสเวนทำให้อลันหน้าแดงก่ำเมื่อผละออกมาได้
   
“ ทำอะไรของนาย ” อลันหน้าแดงยันลำคอ
   
“ ข้าชอบเจ้าอลัน ” สเวนสารภาพด้วยสีหน้าแดงก่ำเช่นเดียวอลัน พร่ำพูดสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูดตั้งแต่แรกให้อีกฝ่ายฟัง “ ข้าชอบเจ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอด้วยซ้ำ ข้าชอบเสียงเพลงของเจ้า มันทำให้ข้ารู้สึกดี ข้าชอบสีหน้าของเจ้า หุ่นขาวๆ เนื้อตัวสมส่วน ทุกอย่างที่เป็นเจ้า ข้าหลงรักทุกอย่าง ข้าไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อน ถ้าถามว่าเคยกับใคร ข้าคงจะตอบว่าเป็นเจ้า มนุษย์อ่อนแอที่เข้ามาเดินทางในป่าโดยไม่เกรงกลัวอันตรายสักนิด ข้าพยายามไล่ภัยอันตรายทุกอย่างไม่ให้มายุ่งกับเจ้า ยอมอดหลับอดนอนเพื่อเฝ้าระวัง ”     
   
อลันเหวอกับคำสารภาพของสเวน
   
คำพูดทุกคำสะกิดความทรงจำของเขาออกมายืนยันทีละอัน
   
ให้ตายเถอะ
   
นี่มันสตอกเกอร์โรคจิตชัดๆ
   
ในร่างเซนทอร์ด้วย
   
ภาพตอนที่ไปจับปลาปรากฏในหัวพร้อมกับสายตาโลมเลียอย่างหยาบโลน
   
ม้าบ้ามันคิดอย่างนี่กับเขาเหรอวะเนี่ย..
   
อลันหน้าแดงก่ำ ไม่อยากจะนึกอะไรต่อยอด
   
" แล้วทำไมวันนี้หมีมันถึงหาฉันได้ล่ะ ถ้านายบอกว่านายเฝ้าระวังให้ฉัน ”
   
หมีงี่เง่าที่ทำเอาเขาแทบหัวใจวายตาย
   
สเวนตอบอ้อมแอ้ม “ กระต่ายงี่เง่ามันตกหลุมข้าเลยไปช่วยมันน่ะ ”
   
กระต่ายป่าสีน้ำตาลกระโดดเล่นในหัวอลัน
   
เจ้ากระต่ายบ้านั่นแน่ๆ
   
ความรู้สึกของเขาบอกเช่นนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา
   
“ แล้วเจ้าว่ายังไง ที่เจ้าพูดหมายความเช่นนั้นจริงเหรอ ” สเวนพูดตาเป็นประกายวาววับ
   
“ คิดว่าโกหก ? ”
   
สเวนยิ้มกว้างดึงตัวอลันเข้าไปกอด
   
ไม่กลัวว่าร่างตรงหน้าจะช้ำแต่อย่างใด
   
“ ข้าตกใจมาก นึกว่าจะต้องเสียเจ้าไปแล้ว ” สเวนพูดขณะที่ยังกอดแน่น
   
“ เออ ฉันก็คิดว่าตัวเองจะตายเหมือนกันนั่นแหละ ”
   
เสียงตอบกลับเป็นน้ำเสียงอ่อนโยน
   
พยายามปลอบโยนเด็กน้อยงอแง
   
ให้กลับมาร่าเริง
   
ด้วยลูกอมรสหวาน
   
ที่มีชื่อว่า การมีชีวิต
   
โครกก..
   
อลันหน้าแดง ท้องกลวงของเขาคร่ำครวญออกมาเสียงดังลั่น ขัดกับบรรยากาศหวานๆ โดยสิ้นเชิง
   
น่าอายชะมัด
   
สเวนอมยิ้มถาม “ หิวแล้วงั้นเหรอ กินอะไรดีล่ะ ” คลายอ้อมกอดลูบหัวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ต่อให้จะกินมังกรข้าก็จะพยายามล่ามาให้เจ้าแล้วกัน แต่ถ้าจะให้ดีเอาแค่ปกติเถอะ
   
“ กินปลาสิ ปลาในแม่น้ำนั่นนะ ไม่ใช่ปลากระป๋องบ้าๆ ในกระเป๋าฉัน ” อลันตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงรสชาติที่ยังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้น
   
ของจากธรรมชาติแท้ๆ อร่อยกว่าไอ้ปลาผ่านกระบวนการจากโรงงานอุตาสาหกรรมนั่นตั้งเยอะ
   
ช่วยไม่ได้
   
เขามันเป็นพวกถังแตกนี่หว่า
   
“ อืม งั้นก็ขึ้นขี่หลังข้าเลยแล้วกัน ข้าพอจะได้กลิ่นลำธารแถวนี้อยู่ ”
   
อลันสะพายกระเป๋าอย่างร่าเริง กระโจนขึ้นหลังสเวนกอดหมับลูบไล้ส่วนที่ชอบลูบเหมือนเดิม
   
“ ข้าถามจริงๆ นะ ”
   
“ ถามว่า ? ”
   
“ เจ้าชอบเจ้าลูกๆ นี่งั้นเหรอ ” สเวนขมวดคิ้วถาม
   
“ ชอบสิ เท่จะตาย ”
   
“ แล้วทำไมเจ้าถึงไม่มีล่ะ ”
   
อลันกล่าวตัดบท ยอมละมือที่ลูบไปเกาะเอวหนาหลวมๆ แทน “ ช่างฉันเถอะน่า รีบๆ ไปได้แล้ว ไส้ฉันจะขาดเป็นชิ้นแล้วเนี่ย”
   
สเวนตอบรับด้วยการออกตัววิ่งทันที
   
อลันเกือบจะพลัดตกหลังสเวน  “ ไอ้ม้าบ้า ! ถึงฉันจะแข็งแรงแต่ไม่ได้หมายความว่าตกหลังนายจะไม่คอหักตายนะ เว้ย ” ต่อยหลังสเวนอักๆ
   
“ ก็จะเจ้ารีบนี่ ” สเวนพูดเสียงกวนโอ๊ย “ ร้องเพลงหน่อยสิ ข้าอยากฟัง ”
   
“ ก็ได้แต่วิ่งให้มันดีๆ แล้วกัน ” ร่างขาวเริ่มขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเซนทอร์หนุ่ม ที่ดูจะกวนขึ้นทุกทีหลังจากที่เขาหาย แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่หายซึมแล้ว
   
ไม่รู้ว่าหายซึมเพราะไอ้จู่โจมเมื่อกี้หรือเปล่า ?
   
เวรเอ้ย นี่มันจูบแรกของเขาเลยนะ
   
ทำบรรยากาศให้มันโรแมนติกไม่ได้รึไงกัน
   
ให้มันเป็นความทรงจำที่ดีสักหน่อยก็ไม่ได้
   
คนเพิ่งฟื้นจากความตายก็จู่โจ่มซะแล้ว
   
วันดีคืนดีเขาไม่ต้องระวังเจ้าม้านี่จู่โจมตอนอาบน้ำเลยรึไง
   
“ ร้องสักทีสิ ” เสียงทุ้มเอ่ยเร่งรัด
   
“ เออ ร้องอยู่แล้วน่า กำลังเลือกเพลงอยู่ ” อลันชักสีหน้าเซ็ง ชื่อเพลงเรียงแถวเป็นลำดับในหัวยาวเหยียด รอให้เขาเลือกออกมาร้อง ที่มีเพลงมากมายขนาดนี้เพราะเขาเป็นคอฟังเพลงตัวยงเลยทีเดียว ฟังมันทุกแนวขอแค่ศิลปินผลิตงานออกมาก็พอ อลันหยิบเพลงที่มีเนื้อเกี่ยวกับการจิกกัดแฟนออกมาอย่างหมั่นไส้
   
เสียงทุ้มนุ่มคลอเบาๆ ในอากาศเพื่อเริ่มต้นเพลง
   
ซึ่งแรกๆ เหมือนจะเป็นเพลงฟังสบาย
   
แต่ช่วงหลังเต็มไปด้วยการแร็ปด่า
   
สเวนขมวดคิ้วหนักขึ้นเรื่อยๆ
   
เมื่อไอ้คำแต่ละคำจิกกัดเขาซะเหลือเกิน
   
หรือว่าข้าคิดไปเอง ?
   
ไอ้โง่ที่ไม่รู้จักไม่แต่คำว่าโรแมนติก พวกนี้มันไม่น่าให้อภัย !
   
โรแมนติก ?
   
มันคืออะไรกัน ชื่อขนมงั้นเหรอ
   
วันๆ จ้องแต่จะจู่โจมไม่สนใจความรู้สึก
   
เซนทอร์หนุ่มนึกอยากจะมองเห็นสีหน้าของคนที่กำลังร้องเพลงตงิดๆ ว่ากำลังสีหน้าอารมณ์ท่าทางแบบใดอยู่
   
ทำไมแค่น้ำเสียงก็ดูมีความสุขแล้ว
   
แต่ก็ดี
   
ข้าชอบให้อลันมีความสุข
   
สเวนเลยฟังวิทยุมีชีวิตต่อไปเงียบๆ พยายามจดจำเนื้อเพลงเผื่อว่าตัวเองจะฝึกร้องบ้าง พลางวิ่งไปเรื่อยจนกระทั่งถึงลำธารที่กว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว โชคดีที่เป็นเพียงน้ำตื้น ปลาตัวเล็กว่ายกันจับกลุ่มกันตามพงหญ้า มีตัวบีเวอร์ตัวเล็กแอบสร้างเขื่อนส่วนตัวอยู่ประปราย
   

อลันค่อยๆ หลังจากหลังสเวนตั้งแต่ยังไม่หยุดวิ่ง พอเท้าเหยียบหญ้านุ่มได้ก็จัดการถอดทุกอย่างออกมาเช่นเคย อุปกรณ์ติดตัวสำคัญๆ กระเป๋า แต่พอจะมาถอดเสื้อก็ชะงักมือเอาไว้ก่อน
   
เจ้าม้าโง่นี่มันคิดจะกินเขานี่กว่า
   
อลันหน้าแดงก่ำ
   
“ สเวน นายคิดแบบนั้นกับฉันทั้งๆ ที่นายเป็นเซนทอร์เนี่ยนะ ”
   
อลันหน้าแดงก่ำกว่าเดิมเมื่อคิดถึงเรื่องลามกที่อาจจะเกิดขึ้น
   
สเวนยักไหล่ “ ข้าเป็นสิ่งมีชีวิตย่อมคิดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาข้าก็ปล่อยผ่านมาตลอด จนกระทั่งเจอเจ้าเนี่ยแหละ ” เซนทอร์หนุ่มจ้องอลันเขม็ง
   
อลันรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวบอกไม่ถูก ไอ้ดวงตาที่มองเหมือนจะมองทะลุเสื้อนี่หมายความว่ายังไงกัน ?  “ แต่ฉันไม่เอาด้วยนะ เฮ้ย กรุณาดูช่วงล่างของนายด้วย ว่ามันคือม้า ”
   
เซนทอร์หนุ่มหลุดหัวเราะ “ จะยากอะไร ข้าก็แปลงเป็นมนุษย์ซะก็สิ้นเรื่อง ”
   
อลันตกใจกับความจริงที่ได้รับสดๆ ร้อนๆ “ แล้วทำไมนายถึงไม่แปลงเป็นมนุษย์มาหาฉันตั้งแต่แรกล่ะ ”
   
สเวนจ้องอลันนิ่ง “ ถ้าหากจะถูกเจ้ายอมรับ ข้าอยากถูกยอมรับในฐานะตัวตนที่แท้จริงของข้า ไม่ใช่ร่างมนุษย์อ่อนแอที่ทำอะไรไม่ได้มาก ”
   
ร่างขาวหัวเราะแห้งๆ ตอบ ถลกขากางเกงขึ้น “ งั้นนายไปหาเหลาไม้เหมือนเดิม แต่ 2 อันนะ เพราะนายต้องลงมาจับปลากับฉัน ! ”
   
สเวนแกล้งเลียริมฝีปาก แต่แววตาที่แสดงไม่ออกไปไม่ได้เสแร้ง “ ขาเจ้าขาวดีนะ ”
   
“ เออ ฉันรู้ตั้งแต่เกิดแล้ว ” อลันตอบเสียงห้วนอายๆ
   
ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิดที่บอกเจ้าม้านี่ไปว่าชอบ
   
เอาเหอะ
   
ของแบบนี้ไม่มีคำว่าคิดผิดหรอก
   
สเวนกลับมาพร้อมกับไม้ปลายแหลมเหลาอย่างดี 2 อัน และวิ่งกระโจนลงไปในน้ำดังตูม ซึ่งในขณะนั้นอลันก็หันหลังอยู่พอดีทำให้เปียกทุกตัวหัวจรดเท้า ไม่มีส่วนไหนที่ไม่เปียก อลันบ่นแต่ไม่ได้ว่าอะไรมาก ความสนใจตกอยู่ที่ปลากลุ่มใหญ่ที่น่าสงสาร
   
ขอโทษนะเจ้าปลาน้อย
   
อลันไล่จ้วงแทงปลา แต่ก็ไม่ได้สักตัว ความหิวโหยจนตาพร่าเป็นอุปสรรคต่อการจับปลา
   
“ อย่าแทงหินสิ มันจะทู่ ” เสียงกลั้วหัวเราะดังจากข้างหลัง
   
“ ก็ฉันจับไม่เก่งนี่หว่า ” อลันถอนหายใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตาโตเมื่อหันมามองไม้ของเจ้าม้าบ้า “ นายมันไม่ใช่ม้าแล้ว ! ไอ้หมีสเวน ”
   
ที่อลันเรียกสเวนว่าหมีก็คงไม่ผิดนัก
   
เมื่อไม้ของสเวนเต็มไปด้วยปลาที่ถูกแทงทะลุเรียงกันเป็นแถว สามารถนำไปย่างกินได้เลย แต่ภาพอาจจะดูโหดร้ายนิดหน่อยที่บางตัวยังคงดิ้นดุ้กดิ้กอยู่
   
“ ข้าไม่ได้อยากเป็นหมีสักหน่อย ”
   
“ ช่างมัน ฉันไม่จับแล้ว ” อลันเดินนำขึ้นฝั่งไปก่อน รอจังหวะที่สเวนขึ้นฝั่งก็จัดการวักน้ำสาดใส่หน้า หัวเราะลั่นวิ่งไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่ยื่นหัวออกมาแลบลิ้นใส่ “ จะเป็นม้าหรือหมีเลือกด้วยนะ ฮ่าๆๆ ฉันจะได้เรียกถูก ”
   
สเวนมองตามด้วยสายตาระเหี่ยใจ ปากอมยิ้มไม่รู้ตัว “ แล้วแต่เจ้าจะเรียกเถอะ ”
   
ควันไฟลอยฟุ้งขึ้นโขมง กลิ่นหอมของปลาย่างอบอวล สีหน้าของคนที่กำลังกินปลาย่างทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผมเปียกลู่ลงแนบตัวไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เนื้อตัวพราวด้วยหยดน้ำที่ไม่มีใครจะเช็ดออก
   
ดื่มด่ำกับความสุขจริงๆ ครั้งแรกของอลัน

--------

ตั้งชื่อตอนได้กำกวมมาก 55555555555555  # กลัวโดนตื้บ

เอาเป็นว่าตอนหน้าก็จบแล้วค่ะ  :mew1:

 :man1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่า
   
   
   
   
   
   


   
   

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:


ขอเฉลย

ตกลงอลันเป็นอะไรรรรรรร


ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ ขอเฉลยตอนหน้านะคะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ดีใจมากที่อลันหาย
แต่ก็สงสัยอยู่ดีค่ะว่าอลันเป็นโรคอะไร
ไม่คิดว่าสเวนจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ด้วย
รอลุ้นตอนจบ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แน่ะ สเวน!!!! แปลงร่างเป็นคนได้ด้วย
ไม่ธรรมดาจริงๆ
ตอนหน้าจบแล้วหรอ เสียดายอ่ะๆ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
นึกว่าจะเป็นอะไรไปเสียแล้วนะคะอลัน :กอด1:

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ๊ยยยยย ตอนนี้มีความสุข
รอเฉลยอยู่นะคะว่าอลันเป็นอะไร

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
แนะนำให้เปิดเพลงนี้ค่ะ >< : https://www.youtube.com/watch?v=f-JBg0ctOZY

เสียงแว่วครั้งที่ 11  : (ไม่มีชื่อตอน )
   
เมื่อท้องอิ่มสิ่งที่เป็นปกติในอันดับต่อไปก็คือการนอน
   
เสื้อผ้าที่เปียกถูกถอดออกมาตาก ทำให้อลันเหลือเพียงชั้นในเพียวๆ อีกครั้ง อลันจ้องหน้าสเวนที่จ้องมาด้วยสายตาโลมเลียซึ่งหารู้ไม่ว่าสเวนเพียงแค่แกล้งเท่านั้น
   
แต่เอาจริงๆ ข้าก็รู้สึกอยู่นะ
   
สเวนลอบคิดในใจ
   
“ นอนๆ ฉันง่วงแล้ว ขอร้องล่ะ สารภาพรักเสร็จอย่าเพิ่งทำอะไรที่มันกระโดดนักเลย ” อลันบ่นอุบล้มตัวนอนบนพื้น หัวหนุนกระเป๋าที่ควรเปลี่ยนชื่อเป็นหมอนใบโต
   
“ ข้ายังไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ” สเวนล้มตัวนอนข้างๆ โดยหันหลังให้อลัน
   
เพราะรู้ดีว่าถ้ามองไปนานๆ
   
เขาอาจจะคืนร่างเป็นมนุษย์
   
แล้วทำอะไรต่อมิอะไรต่อ
   
“ นอนก็นอน ไว้ข้าทำวันหลังก็ได้ ” แต่ก็ไม่ลืมพูดแหย่
   
อลันไม่ตอบเพียงปล่อยให้ความเงียบเห็นสีหน้าเขินอายของตัวเองเท่านั้น
   
ใครจะรู้ว่าม้างี่เง่ามันจะหื่นขนาดนี้วะ
   
ร่างขาวที่ถึงแม้จะรู้สึกง่วงแต่ก็ยังคงคิดอะไรเพลินๆ เรื่อยเปื่อยต่อ อีกครู่ใหญ่จนสเวนหลับไปอย่างจริงจังแล้ว ไม่พอยังส่งเสียงกรนครอกเบาๆ ในลำคอ
   
อลันอมยิ้ม เมื่อม้าบ้ามันหลับไปก่อน
   
กา กา กา
   
เสียงอีกาดังขึ้นใกล้ๆ ทำเอาอลันขมวดคิ้ว ยอมลืมตาขึ้นมาดู
   
เจอเข้ากับอีกาสีดำตัวย่อมในปากคาบดอกไม้สีขาวสะอาด
   
ดอกไม้สำหรับไปงานศพ ?
   
อลันเลิกคิ้วงุนงง
   
อีกาตัวย่อมค่อยๆ เดินเข้ามาหาอลัน ดวงตาสีมันขลับสะท้อนความเห็นใจออกมาโดยไร้คำพูด ค่อยๆ วางมันลงบนมือขาว ขับขาบเสียงของมัน
   
พยายามบอกกล่าวแจ้งเตือน
   
ให้ทำในสิ่งที่อยากทำโดยเร็วไว
   
ก่อนที่เวลาจะหมดไป
   
ขนกาสีดำยุ่งเหยิงบอกถึงความเร่งรีบ ความอ่อนเยาว์ของมันทำให้การทำงานของมันช้า
   
เตือนผู้ใกล้จะวายชนม์ที่ใกล้จะกลับสู่วัฎจักรเต็มทน
   
อลันที่ยังคงไม่รู้ถึงสิ่งที่อีกาต้องการจะสื่อ ในหัวงุนงงกับดอกไม้ในมือ
   
มันให้เขาทำไม
   
ปกติอีกามักจะไม่สุงสิงกับมนุษย์นี่นา
   
หรือมันคิดว่าสวยเลยให้เขา
   
อลันพยายามคิดในแง่ดี “ ขอบคุณนะ ”
   
อีกาตัวย่อมส่งเสียงในลำคอ ก่อนจะตีปีกจากไปอย่างเงียบเชียบ นัยน์ตาของมันแทบจะคลอไปด้วยน้ำตาของความไม่คุ้นชิน
   
ตึก
   
เหมือนกับหัวใจเต้นผิดจังหวะ อลันเสียงการทรงตัวทรุดตัวลงไปหอบหายใจบนพื้น ดวงตาพร่าเลือน
   
เป็นไปไม่ได้..
   
ไม่ใช่ว่าเขาหายแล้วหรอกเหรอ
   
อลันตกใจทำอะไรไม่ถูก หัวพยายามคิดถึงสิ่งที่พอเป็นไปได้
   
ดอกไม้งานศพ ?
   
เจ้าอีกาให้เขาเพราะมีความหมายหรือเปล่า..
   
ตึก
   
ในอกเจ็บยิ่งกว่าครั้งล่าสุดที่อาการกำเริบ เหมือนมีดาบปลายคมแทงจนมิดดาบ เลือดไร้สีไหลอาบตามตัว อลันงองุ้มตัว น้ำตาไหลออกมาไม่อาจสกัดกลั้นอาการเจ็บปวดได้
   
ทำไม..
   
เขาเพิ่งจะมีความสุขไปเท่านั้นเอง ไม่ใช่เหรอ
   
แล้วทำไม
   
มันถึงได้กลับมาอีกครั้ง
   
ไม่ใช่เขาแข็งแรงแล้วเหรอ
   
น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
   
ตึก
   
อลันเอามือกุมอก อ้าปากหอบความรู้สึกเหมือนมีคนเอาเหล็กร้อนมาทุบซ้ำ ดาบที่แทงจนมิดด้ามร้อนฉ่า ในตัวร้อนรุ่มดังสุมกองเพลิง
   
แว่วเสียงแผ่วเบาดังก้องขึ้นมาในหัว
   
ตอนที่เขายังเด็ก
   
ว่ากันว่าอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายจะดีขึ้นผิดปกติก่อนที่จะตายไป
   
ในตอนนั้นเขาไม่อาจเชื่อว่า คนๆ นึงจะอาการดีขึ้นผิดหูผิดตาหลังจากป่วยเป็นโรคร้ายมานานได้
   
แต่ดูเหมือนคำตอบที่ว่านั่นคือตัวเขาเองซะแล้ว
   
คำตอบ ที่ว่าเขากำลังจะตายจริงๆ
   
ไม่ใช่การอุปมาอย่างเลื่อนลอย
   
อีกาเมื่อกับเป็นสาร์นย้ำความคิดของอลัน
   
มนุษย์แสนอ่อนแอกำลังถูกเรียกกลับจากแผ่นดิน
   
โดยไม่สนใจสิ่งที่ล่ามมนุษย์เอาไว้
   
สิ่งเหล่านั้นถูกตัดออกอย่างไร้เยื่อไย
   
ด้วยสิ่งๆ หนึ่งที่เรียบง่าย
   
“ ความตาย ”
   
นั่นเอง
   
อลันร้องไห้สะอึกสะอื้น ในอกปวดตุบ มือขาวหมายจะเขย่าเรียกร่างของเซนทอร์หนุ่ม แต่ก็ไม่กล้าปลุก กลัวว่าจะเห็นสีหน้าเสียใจ
   
เขาไม่เข้มแข็งพอที่จะกล่าวลาสเวน
   
ในหัวกู่ร้องด้วยความเสียใจ
   
ฉันไม่อยากตาย
   
มือสั่นๆ เปิดกระเป๋าล้วงหยิบหนังสือวิทยาศาสตร์เมื่อสมัยม.ปลายออกมา หยิบดอกไม้มากตำนานที่แห้งไปแล้วออกมาถือ
   
กลีบดอกไม้สั่นไหว
   
ราวกับร่ำไห้เช่นเดียวกับผู้ที่ถือ
   
น้ำตาของอลันหยดแล้วหยดเล่า
   
ตกลงบนกลีบดอกไม้
   
ที่ไม่มีทางจะบานใหม่
   
ทำได้เพียงแทนคำสัญญา
   
เช่นเดียวกับอัศวินผู้นั้น
   
อลันคลานเข้าไปหาสเวนดึงมือหนาออกมาวางดอกไม้และบังคับให้กำมันเอาไว้
   
ตึก
   
ร่างขาวคู้ตัวลงอย่างทรมาน พยายามฝืนร่างตัวเอง มือสั่นๆ เกาะแขนของสเวนเอาไว้
   
“ ฉันรักนายนะ สเวน ”
   
ตึก
   
พูดทุกสิ่งที่คิดออกมาก่อนที่จะไม่มีเวลา
   
“ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตฉัน ”
   
ตึก
   
“ อึก ขอบคุณที่นายรักฉัน “”
   
อลันหอบหายใจหนัก เนื้อตัวสั่นเทา กดจูบเบาๆ ลงริมฝีปากหนา
   
“ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง สเวน ”
   
ตึก !!
   
อลันเจ็บจนร้องไม่ออก มือกุมอกล้มตัวกระแทกพื้น
   
ลมหายใจที่มักจะปล่อยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ
   
ค่อยๆ ราบเรียบลง
   
จนกระทั่งหยุดนิ่ง

   
สเวนตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ชื่นมื่น ยิ้มกว้างเมื่อเห็นอลันมานอนใกล้ๆ ตัวเอง เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตะวันเริ่มคล้อยลงอีกครั้ง
   
ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปนานทีเดียว
   
“ ตื่นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะปล้ำเจ้านะ ” สเวนพูดติดตลกเขย่าตัวอลันเชิงปลุก
   
“ อลัน ? ”   
   
สเวนพยายามปลุกอลันอีกครั้งพบว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่นอยู่ดี
   
อาจจะหลับลึกล่ะมั้ง
   
สเวนหาคำตอบให้ตัวเอง
   
เลยปล่อยให้อลันนอนต่อไป ลากอีกฝ่ายมากอดหลวมๆ
   
ข้าอยากเห็นสีหน้าแดงๆ นั่นเขินอาย ตอนที่ตื่นขึ้นมาชะมัด
   
สเวนอมยิ้มในขณะคิด
   
จดจ้องท้องฟ้าสีสวย นึกอยากให้อลันตื่นขึ้นมาเห็นมันด้วยกัน ดวงจันทร์ที่เคยหลบหนีการปฏิบัติหน้าที่ปรากฏลางๆ บนท้องฟ้า เมื่อเบื่อจดจ้องท้องฟ้าก็มองไปตามพื้นเล่นดูบ้าง
   
ดอกฟอร์เก็ตมีนอท ?
   
ทำไมถึงอยู่ที่นี่
   
เดิมทีสเวนไม่ได้สนใจว่าอะไรอยู่ในมือ เลยโยนทิ้งไปไม่รู้ตัว
   
สเวนเบิกตากว้างเมื่อนึกถึงตำนานรักของดอกไม้นี่
   
อัศวินที่ใช้ดอกไม้ยืนยันแทนตัวตนของตัวเอง
   
เซนทอร์หนุ่มจึงพยายามปลุกอลัน ในใจเริ่มร้อนรน หวาดกลัวว่าจะเป็นไปตามตำนาน
   
“ อลัน ข้าไม่ได้อยากเป็นหญิงงามนั่นนะ ตื่นขึ้นมาสิ ”
   
เขย่าตัวอลันจนตัวโยนก็ยังไม่สามารถปลุกอลันขึ้นมาได้
   
อลันอาจจะหลับไป
   
และลึกไปหน่อย
   
ฉะนั้นเขาควรจะพาอลันไปหมอพลางๆ แล้วกัน
   
สเวนพยายามหลอกตัวเอง
   
อลันต้องฟื้นขึ้นมาอีกครั้งสิ
   
อลันไม่ต้องทิ้งข้าไว้คนเดียวแน่
   
สิ้นความคิดสเวนหยิบดอกไม้เก็บ เปิดกระป๋องสอดเข้าหนังสือดังเดิมตามที่อลันเคยสอดไว้ สะพายเป้เข้าหลัง ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งมุ่งไปทางรถไฟสายหลัก ความทรงจำของสเวนในช่วงเวลาที่อลันอยู่ด้วยนั้นอยู่ครบดี ทิศในการวิ่งจึงถูกไม่ใช่ไปในทิศทางตรงกันข้าม
   
สเวนวิ่งด้วยความเร็วสุดที่ตัวเองจะสามารถวิ่งได้
   
ไม่สนใจระยะทาง
   
ไม่สนใจสิ่งที่กีดขวาง
   
เถาหนามแหลมที่สัตว์ส่วนใหญ่มักจะเลี่ยง สเวนไม่แม้แต่หลบ
   
เพียงกระโดดข้ามลวกๆ
   
กล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบเต็มไปด้วยบาดแผล
   
เลือดไหลซึมและอาบในบางช่วง
   
ก้อนเมฆกู่คำราม พร้อมจะอาละวาด
   
ซ้ำเติมลงมาด้วยฝนตกหนัก
   
เลือดที่เดิมแห้งกรังคาตัวสเวนถูกชะล้างออก
   
ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยแผลใหม่
   
ซ้ำไปซ้ำมา
   
นัยน์ตาสีทองเปลี่ยนเป็นแดงก่ำราวกับดวงตาของปีศาจ
   
มีแสงเสี้ยวของสีทองเพียงนิด
   
ความหวังเล็กๆ
   
ที่พอจะสามารถนำพาสเวนกลับมาเป็นคนเดิม
   
ก่อนจะกลายเป็นสัตว์ร้าย ไล่เข่นฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อระบายความเศร้าโศก
   
การที่อลันไม่มีการตอบกลับอะไรสักอย่างกับสเวน
   
ทำให้สเวนคลุ้มคลั่ง
   
เสียงร้องเพลงกลายเป็นทำนองผิดเพี้ยน
   
ฟังดูน่าขนลุก
   
เหมือนกับชายเสียสติ
   
เวลาผ่านไปร่วมอาทิตย์
   
ที่สเวนไม่กินอะไรเข้าไปแม้แต่อย่างเดียว
   
แต่สเวนก็ไม่สนใจมันอีกต่อไป
   
เมื่อจุดหมายของมันได้ตั้งอยู่ข้างหน้า
   
บ้านสร้างจากอิฐแดงหลังใหญ่ที่ถูกดัดแปลงจากสถานีรถไฟ ห้อมล้อมด้วยป่าทึบ มีแสงตะเกียงเล็ดลอดออกมาเล็กน้อย เป็นสัญญาณให้รู้ว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่
   
สเวนไม่ลังเลอีกต่อไปก้าวบุกรุกเข้าไปทันที
   
โฮ่ง ! โฮ่ง กรรรซ   
   
เสียงสุนัขเลี้ยงยืนล้อมรอบสเวน เห่าเสียงดังไล่ผู้บุรุกในยามวิกาล
   
สเวนแสยะยิ้มเดินต่อไปเรื่อยๆ   
   
ก่อนที่จะมีสุนัขใจกล้าพุ่งกระโจนเข้ามา
   
สเวนถีบมันออกจนกระเด็นไปชนกับต้นไม้
   
แต่พวกสุนัขพวกที่เหลือย่อมไม่ยอมให้เพื่อนของมันเจ็บตัวเฉยๆ แน่นอน
   
พุ่งกระโจนเข้ามากัดพร้อมกัน ขู่เสียงดัง
   
กรรซ !!
   
โฮ่ง ! โฮ่ง !
   
เสียงขู่คำรามดังก้อง
   
สุนัขป่าที่กลายเป็นสุนัขเลี้ยงผลัดกันกระโจนกัดแม้จะเสียเปรียบ แต่ละตัวที่โดนสเวนทำร้ายไปแล้วล้วนเจ็บหนักแต่ก็กลับมายืนล้อมกรอบดังเดิม
   
“ นั่นมันตัวอะไรวะ ! ”
   
นั่นมันเสียงมนุษย์
   
สเวนคิดอย่างเลื่อนลอย
   
อลัน อลัน ข้าสามารถช่วยเจ้าได้แล้ว
   
พอปากจะปริปากออกเป็นคำพูด
   
กลับเป็นเสียงเครือคราง
   
เหมือนคำรามในลำคอ
   
ยิ่งทำให้คนที่มาเจอสเวนเข้าตกใจ แต่แววตาไม่มีความลังเลใดๆ ในมือถือปืนยาวสำหรับล่าสัตว์โดยเฉพาะ เขาคุ้นชินกับการถูกหมีบุกรุกบ่อยๆ
   
สิ่งที่เห็นนั้น
   
เหมือนกับปีศาจร้าย
   
ช่วงล่างเป็นอาชาสีดำ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ดวงตาแดงก่ำ
   
นอกจากคำว่า ปีศาจที่มีร่างเป็นม้า
   
ก็ไม่สามารถให้นิยามอะไรที่ดีกว่านี้
   
“ เฮ้ย มันถือคนอยู่ ! แย่แล้วๆ รีบช่วยคนก่อน ”  ชายร่างโตที่ถือปืนอยู่ตะโกนลั่น
   
ปืนนับสิบกระบอกเล็งไปที่ตัวของสเวน
   
เตรียมลั่นไกหากมีการเคลื่อนไหวสักนิด
   
มนุษย์พวกนี่โง่ชะมัด เพิ่งเห็นรึไงว่าควรจะช่วยอลัน
   
สเวนกำลังจะก้าวไปหา
   
ปัง !
   
กระสุนนัดแรกเจาะเข้าที่ตัวของสเวน
   
อาการปวดตีตื้นขึ้นจนอารมณ์แปรปรวน
   
สเวนคำรามออกมา
   
พยายามจะกระโจนเข้าไปทำร้ายคนที่ยิงตัวเอง
   
ปัง ! ปัง ! ปัง !
   
กระสุนอีกหลายนัดฝังเข้าไปในตัว
   
ตอกย้ำถึงความเจ็บปวด
   
สเวนไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป
   
ล้มกองอยู่บนพื้น
   
ในมือยังคงกอดอลันแน่น ไม่กล้าคลาย
   
สติพร่าเลือน
   
   

“ ม้าบ้า ยังจะมัวนอนอะไรอีก ฮะ ! ” เรียกพร้อมเขย่าตัวเบาๆ
   
สเวนลืมตาขึ้นมาดูงงๆ
   
อลัน ?   
   
อลันกำลังฉีกยิ้มให้ข้า
   
อลันจริงๆ งั้นเหรอ
   
น้ำตาคลอหน่วงในดวงตา
   
“ เอ้า เจอฉันแล้วร้องไห้ทำไม ” อลันบ่น ชกเข้าที่ไหล่สเวนไม่จริงจังนัก “ เดินทางกันต่อสักที ไม่เห็นรึไงว่าหัวฉันหงอกหมดแล้ว ” ชี้หัวตัวเองประกอบคำพูด
   
สเวนหลุดหัวเราะ
   
หัวเราะออกมา
   
หาที่มาไม่ได้
   
น้ำตาไหลพราก
   
โถมกอดอลันแน่น
   
“ ข้ารักเจ้าอลัน ข้ารักเจ้า ”
   
อลันเลิกคิ้วงงๆ แต่ก็ยิ้ม “ฉันก็รักนายเหมือนกัน ”
   

สเวนลืมตาที่พร่าเลือน

ตัวของอลันอยู่เยื้องใกล้ๆ

มือหนาที่เต็มไปด้วยเลือดสอดมือเข้ากับมือคู่เล็ก

กระชับมืออีกฝ่ายแน่น

ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไร้สิ้นสุด

.......


 บทนำของเรื่องเป็นเพียงความคิดเพ้อฝันของสเวนเท่านั้น  :เฮ้อ: โรคของอลันอารมณ์เหมือนคนโชคร้ายค่ะ เหมือนกับเกิดมาพร้อมกับโรคประหลาดที่เพิ่งแผลงฤทธิ์เมื่อถึงเวลา สิ่งที่แฟนตาซีเรื่องนี้มีเพียงสเวนค่ะ อย่างอื่นค่อนข้างอิงหลักความจริง

เรื่องนี้จบแล้วค่ะ 

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :L2:   
 

สำหรับคนที่ต้องการติดตามข่าวสารนิยายค่ะ  :mew1: 
   
   
   


   
   
   
   
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2015 06:54:28 โดย Foggy Time »

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮืออออ เศร้า หน่วง สงสาร  :o12: :o12:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แง้ๆๆๆ เศร้าอ่ะแบบนี้

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
:monkeysad: น้ำตานองหน้าเลยค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
...

ขอตัวไปรักษาบาดแผลก่อนนะคะ ช้ำใน ช้ำใจ อย่างแรง


T T

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด