จีบครับ...รับรักด้วย : Power of love [ตอนที่ 30] [12 - 9 - 59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จีบครับ...รับรักด้วย : Power of love [ตอนที่ 30] [12 - 9 - 59]  (อ่าน 60960 ครั้ง)

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
วันนี้วิแยังไม่ได้เป็นคนเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ
เขาเจอกันแล้ว ยังไงๆๆ เฉลยด่วย
วิปไม่ใช่นายเอก แอบเสียใจนิดๆๆ หาคู่ให้วิปด้วยน่ะ ชอบวิปจังเลยนางฮ่าได้ตลอด นึกว่าจะคู่กัน มาต่อบ่อยๆๆน่ะ

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
เอ๊ะ นาๆกับกัน รู้จักกับหรอ หรืออะไร ต่ออีกกกกกก

ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
กันๆ กันๆ หมาวิปมันน่ารัก กันๆ ทั้งวัน

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตื่นเต้นๆเค้ารู้จักกันเหรอ55555555
รอติดตามค่าาา

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
 มาต่อแล้ว อย่าหายอีกน้าาา
สองคนนั้นต้องเคยรู้จักกันมาก่อน?

ออฟไลน์ Ranmaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 

 

ตอนที่ 5

 

 

 

 

            ณ ตอนนี้เหมือนยืนเป็นของประกอบฉาก โดยมีตัวหลักเป็นไอ้หน้าโหดกับไอ้นานาเพื่อนเลิฟ พวกมันยืนจ้องกันแบบค้างๆ อยู่อย่างนั้น จนผมเองก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกไปก่อน

 

            คือมึงจะจ้องกันให้ท้องเลยมั้ย เดี๋ยวกูนั่งรอ

 

            สะกิดใจเล็กๆ พวกมันรู้จักกันเหรอ หรือว่ายังไง แต่เดี๋ยวนะ ไม่แน่พวกมันอาจจะเกิดอาการปิ๊งปั๊งกันขึ้นมาทันทีที่สบตาก็ได้ ง้อวววววว แบบนี้ต้องให้เวลาเป็นส่วนตัวนะหื้อ

 

            “อะแน่ะ! ค้างทั้งคู่ กูบอกแล้วกันๆ ว่าเพื่อนกูน่ะสวยโลกตะลึง ไง ยืนค้างเลยนะมึง” ผมเดินเข้าไปเอาไหล่กระแซะแขนไอ้กัน เลยทำให้มันรู้สึกตัว ใบหน้าหล่อๆ พอหันมาหาผมก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าเบื่อๆ แทน

 

            ทำแบบนี้ใจร้าวนะ

            “ไอ้เตี้ย มึง…”

 

            “กูรู้ๆ เดี๋ยวกูออกไปก่อนนะ พวกมึงก็คุยกันไป” ผมสวนขึ้นมันก่อนที่จะมันพูดจบ ก็แหม รู้ๆ อยู่ว่าต้องการอะไร วิปซะอย่าง ไม่เคยขัด จัดให้ตลอด ตบไหล่ไอ้กันอย่างเข้าอกเข้าใจ หันกลับมายักคิ้วให้ไอ้นานา แล้วส่งซิก (ไม่รู้แม่งจะเข้าใจหรือเปล่า) เป็นการบอกให้มันจัดการซะ แล้วตัวผมก็เดินแยกออกมา

 

            พอเดินพ้นออกมาก็หามุมดีๆ แบบที่มันมองผมไม่เห็นแล้วจัดการซุ่ม ฮ่าๆ แหม เราก็ต้องติดตามสถานการณ์นะเออว่าเป็นยังไง แต่เสียดายนิดหน่อย เพราะที่ตรงนี้ไม่ใกล้พอที่จะได้ยินพวกมันคุยกัน

 

            ทั้งสองยืนนิ่งอยู่สักพัก แล้วก็เป็นไอ้กันที่เปิดปากพูดก่อน ผมยิ้มพอใจ ปากบอกไม่เอาๆ แต่มึงก็ชวนเขาคุยก่อนเลยนะพ่อ ร้ายไม่เบานะเราน่ะ

 

            “เฮ้ยวิป!”

            สลิด!!

 

            “ไอ้ตอง! ไอ้ห่า! โผล่มาแบบนี้กูตกใจหมด วันหลังมึงช่วยส่งเสียงมาก่อนด้วย” ผมสะดุ้งแล้วหันไปโวยใส่ไอ้ตอง มันโผล่มาจากไหนไม่รู้มาจับไหล่ผม ตกใจสิแบบนี้ กำลังลุ้นไอ้คู่นั้นอยู่เลย

 

            “ให้กูโทรมาบอกมึงก่อนมั้ยล่ะว่ากูจะเดินเข้ามา แล้วนี่มึงทำอะไรของมึงเนี่ย ซุ่มขโมยของไง” โถเพื่อน หน้ากูนี่ดูเหมือนขโมยขนาดนั้นเลยเหรอวะ ผมส่ายหน้า จากนั้นก็เกี่ยวคอมันมากอดพร้อมกับชี้ให้มันดูสองคนนั่นไปด้วย

 

            “กูกำลังลุ้นอยู่ มึงดูๆ แม่งคุยกันแบบนี้ แสดงว่ามันเข้ากันได้ดีแน่ๆ”

 

            “แต่ที่กูเห็นมันก็คุยกันปกตินะ ไม่เหมือนคนที่จะปิ๊งปั๊งอะไรกันเลย” แต่แล้วความคิดสวยหรูของผมก็ถูกไอ้ตองทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี อินกับกูหน่อยก็ได้ กูไหว้ล่ะ

 

            “มึงแม่งไม่รู้อะไร พวกมันแค่รักษาท่าทีเอาไว้ก่อน”

            “แล้วมึงรู้ได้ไง” มันถามกลับ

            “เดา”

 

            “อื้มมมมม~ ดี” ไอ้ตองหน้าเอือมแล้วก็ผลักหัวผมมาหนึ่งที เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวงับหูแม่งเลย ผมฮึดฮัดใส่ไอ้ตองแล้วเบือนหน้ากลับไปมองคู่รักนั่น อยากรู้ใจจะขาดว่ามันคุยอะไรกัน แต่ถ้าเสนอหน้าเข้าไปเดี๋ยวเขาจะหาว่าเสือก

 

            “มึงว่ามันคุยอะไรกัน” จู่ๆ ไอ้ตองก็ถามขึ้น สีหน้ามันดูแหยงๆ ไงพิกล

 

            “กูไม่รู้ กูก็ยืนอยู่กับมึงเนี่ย ถ้าได้ยินกูก็เทพละ แล้วมึงทำหน้าแบบนั้นทำไม”

 

            “ไอ้ควายนี่! กูหมายถึงว่ามึงคิดว่าพวกมันจะคุยเรื่องอะไรกัน กูไม่ได้ถามว่ามึงได้ยินมั้ย หน้าเหมือนหมางงแล้วยังเสือกโง่อีก” หูยยยสายตาทิ่มแทง พูดแบบนี้ตัดเพื่อนเลยมั้ย ฟันเฉาะหัวแม่ง!

 

            “แต่กูแหยงๆ ว่ะ มึงดูไอ้นานาดิ แหมมมม หน้าตาเรียบร้อยซะจริงๆ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชายเนี่ย มึงลองเปรียบกับตอนที่มันองค์ลงดิ สยอง” ไอ้ตองยกมือขึ้นลูบแขนแสดงอาการขนลุกขนพอง ผมลองนึกภาพตาม

 

            อืม…เห็นด้วยกับมึงเลยตอง

 

            “เฮ้ยวิป! มึงดูๆ” หลอนกับภาพของไอ้นานาได้แป๊บหนึ่งไอ้ตองก็เขย่าตัวผมอย่างแรง มือเล็กๆ ของมันก็ชี้ให้ดูไอ้กันกับไอ้นา ผมมองตามแล้วก็ต้องอึ้งนิดๆ

 

            ไอ้นาแม่งยิ้ม! ยิ้มแบบ…ไม่ใช่แสยะยิ้มชวนขนลุกแบบนั้นอะ

            “นั่นไง! กูบอกแล้วว่าพวกมันต้องได้กัน!” ผมตบหลังไอ้ตองดังอั๊ก เป็นไงล่ะ ฝีมือกู

            หมับ!

            “โอ้ว หมาเป๋าจริงๆ ด้วย มึงมาทำอะไรวะ”

            หืม? ใครวะ

 

            ผมหันไปมองไอ้คนที่โผล่มาจากรูไหนก็ไม่ทราบ เข้ามากอดคอกูเฉยเลย และพอมองดีๆ ก็ระลึกได้ มันเพื่อนไอ้กันนี่หว่า คนที่ใส่แว่นหน้าหล่อๆ มันยักคิ้วทักทายผม

 

            “มึง…ชื่อไรวะ”

 

            “อ้าว ลืมกูซะงั้นอะ” มันพูดยิ้มๆ ดูไม่โกรธอะไรที่ผมจำมันไม่ได้ เอาจริงๆ ผมลืมชื่อมันจริงๆ นะ วันที่เจอมันจำได้อย่างเดียวคือ…กูโดนต่อย เจ็บสาดดด

 

            “เฮ้ยหมาเป๋า!”

 

            เออดี คนแรกกูยังนึกชื่อมันไม่ออก ไอ้คนที่สองก็โผล่มาละ และถามจริง มึงก็ลืมชื่อกูใช่ปะ เรียกหมาเป๋าๆ อยู่นั่นแหละ

            “เอ้อ! หวัดดี เป็นไง สบายดีมั้ย” กูนี่ก็ทักเหมือนรู้จักกันมาเป็นชาติ

 

            “มึงมาทำอะไรที่นี่วะ” ไอ้คนที่สอง (อีกนิดกูจะเรียกพวกมึงบีหนึ่ง บีสองละนะ) มันถาม แล้วมันก็หันไปเห็นเพื่อนรักของตนเองกำลังยืนอยู่กับสาวสวย คิ้วเข้มเลิกขึ้น และมันก็กำลังจะก้าวเข้าไปหา ผมนี่รีบสลัดแขนไอ้คนที่หนึ่งไปตะครุบไอ้คนที่สองไว้เลย

 

            “เฮ้ย อะไรมึงเนี่ย”

            “ไปไม่ได้!”

            “เพราะอะไร เฮ้ย! ปล่อยกูก่อน” มันเซตามแรงดึงของผม แหมภูมิใจเหมือนกันนะเนี่ย ลากควายได้ด้วยกู

            “เพราะกูสั่ง”

            “กูจำเป็นต้องเชื่อหมาเป๋าปะ” มันกอดอกถาม

 

            “พลีสสสส~” ประกบมือเข้าด้วยกัน ทำหน้าอ้อนวอนมันสุดพลัง มึงเห็นมั้ยว่าพวกมันกำลังไปได้สวย (ในความคิดกู) มึงจะเข้าไปขัดมันได้ยังไง

 

            “โอเค ตามนั้น” มันยักไหล่ เอ้อ ยอมง่ายแท้

            “แล้วนี่ใคร” ไอ้แว่นชี้ไปที่ไอ้ตองที่ยืนมึนๆ ไม่มีบทมาสักพัก

            “เพื่อนกูเอง ชื่อตอง พวกมึงไหว้มันดิ”

 

            “เอ๊ะ เหมือนจะไม่ใช่นะหมาเป๋า” ไอ้คนที่สองขัดขึ้น แหมะ เราก็ลืมง่ะ ตอนนี้เลิกสนใจไอ้โหดกับไอ้นาไปสักพัก คุยกับไอ้พวกนี้ก่อน และที่สำคัญ…ยังระลึกชื่อไอ้สองคนนี่ไม่ได้เลย โง้ยยยย~

 

            “ตกลงมีอะไรวะ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ไอ้แว่นถาม

 

            “เพื่อนกูเอง คืองี้ เพื่อนกูชื่อนานา มันยังไม่มีแฟนไง แล้วแบบกูเห็นมันเหงาๆ ก็เลยว่าจะช่วยมันหาแฟน แล้วก็มาเจอไอ้โหดนั่น” ชี้ไปที่ไอ้กัน “กูก็เลยจัดการให้เลย เป็นไง พวกมันดูเข้ากั๊นเข้ากันเนอะ คุยกันไม่หยุดเลย”

 

            “ไอ้กันมันสนใจผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ไอ้แว่นถาม

            “ตั้งแต่กูแนะนำอะ”

            “มึงอย่าเพิ่งเพ้อไอ้วิป” เหี้ยตองนี่ก็ขัดจัง

            “มึงรู้ได้ไงหมาเป๋า” ไอ้คนที่สองถาม

            “เค้าเดา~”

            “อืมมม~” พวกมันพร้อมใจกันส่งเสียงแบบนั้นออกมา หน้าแต่ละคนนี่แบบเดียวกันหมด พวกมึงเป็นแฝดสามเหรอ

            “แล้วถ้าเกิดพวกมันไม่ได้ชอบกันล่ะ” ไอ้แว่นนี่ถามเยอะว่ะ

            “ก็ไม่เป็นไร ให้พวกมันลองคุยกันก่อน ชอบไม่ชอบก็แล้วแต่พวกมัน” แต่กูว่าชอบแน่ๆ กูมั่นใจ

            “อืม มึงนี่คิดบวกดีเนอะ ดูคนดีว่ะ” ไอ้คนที่สองมันชม มีการยื่นมือออกมาลูบหัวผมด้วยไง ให้อารมณ์เหมือนลูบหัวหมาแบบนั้นเลย แล้วหมาที่ว่านั่นก็คือกูเอง

 

            “แน่นอน ดีฝุดๆ อะ” ยกนิ้วให้ตัวเองไปด้วย

 

            “แล้วมึงจะเอาไงต่อชาน เข้าไปหาไอ้กันตอนนี้หมาเป๋าแม่งไม่ยอมแน่” ไอ้แว่นหันไปถามไอ้คนที่สอง มันชื่อชานนี่เองระลึกได้ละ แล้วไอ้แว่นหน้าหล่อนี่ล่ะ

 

            “ช่างแม่งละกัน มึงไปกับกูนี่แหละ เอาไอ้หมาเป๋านี่ไปด้วย” จับกูยัดใส่กระเป๋ามึงด้วยเลยมั้ยจะได้เป็นหมาเป๋าของแท้ไปเลย

            “พวกมึงจะไปไหนกัน”

            “หาข้าวกิน ไหนๆ มึงก็ปล่อยให้ไอ้กันมันอยู่กับเพื่อนมึงแล้วหนิ ไปกับพวกกูนี่แหละ เอาเพื่อนมึงไปด้วย ไปด้วยกันนะน้อง” ไอ้แว่นมันพูดกับผม ส่วนคำหลังหันไปบอกกับไอ้ตองที่ตอนนี้มันย้ายไปนั่งเขี่ยๆ ต้นไม้เล่นแล้ว

 

            “ไม่อะ มีเรียน”

            “อ๋อ เด็กเรียน” ไอ้แว่นยิ้ม

            “เปล่า แค่ไม่ชอบเอาเวลาเรียนไปทำอะไรไร้สาระ” ไอ้ตองหยักไหล่ พูดแบบไม่มองหน้าคนถามด้วยนะ เช้ดเข้ เพื่อนตองเป็นอะไรครับ

            “นี่น้องว่าพี่เปล่าเนี่ย” ไอ้แว่นถามกลับ มันก็ยิ้มๆ ของมันไป ดูไม่โกรธอะไร

            “กูไปนะวิป ค่อยเจอกัน” ไอ้ตองไม่ตอบ หันมาพูดกับผมแล้วเดินออกไปเลย ผมพยักหน้าตามหลังมันไปแบบงงๆ

            “เพื่อนมึงเป็นอะไรวะ” ไอ้ชานมันเองก็งงเหมือนกัน

            “ถ้ารู้จะยืนงงแบบนี้เหรอ ฟาย~”

 

 

           

            และผมก็ถูกไอ้สองคนนั่นลากมากินข้าวด้วยจนได้ จริงๆ ก็มีเรียนนะ แต่พวกมันไม่ฟังอะไรเลย ลากมาแบบงงๆ และผมก็มานั่งอยู่ในร้านแบบงงๆ

 

            “มึงกินไรหมาเป๋า” ไอ้ชานมันหันมาถาม

            “อะไรก็ได้”

            “ตีน?”

            “มิอาววว~”

            ไอ้ชานมันนั่งขำก่อนหันไปจัดการสั่งอาหาร ร้านนี้เคยมากินกับไอ้นานาอยู่สองสามครั้ง ร้านก็อยู่หน้ามอนี่แหละ แต่สวนมากผมกินที่โรงอาหารซะมากกว่า นานๆ มาทีก็ดี แอร์เย็นฉ่ำ อะหื้อออ~

 

            Rrrrrrr

            นั่งไปสักพักโทรศัพท์ของไอ้แว่นก็ดังขึ้น มันหยิบขึ้นมารับ พูดคุยอยู่สองสามประโยคก็วาง มึงเข้าใจกันได้ไงวะเนี่ยคุยแค่นั้น

 

            “เดี๋ยวไอ้กันมา” มันบอก ผมเลิกคิ้ว แล้วไอ้นาเพื่อนผมล่ะ มันคุยกันเสร็จแล้วเหรอ หรือว่ามันจะพามาด้วย แต่เรื่องนั้นช่างมันไปก่อน

 

            “นี่ๆ” จิ้มๆ แขนไอ้แว่นเป็นการเรียก

            “หืม ว่าไง”

            “ชื่ออะไรวะ แบบว่าลืมมม~”


            “กูควรจะดีใจดีมั้ยมึงลืมกูเนี่ย”


            “เฮ้ยอย่าคิดมาก งี้แหละคนสำคัญ” เนียน! บทนี้ต้องเนียนไว้ก่อน จ้องหน้าไอ้แว่นตาแป๋วเลย ไอ้ชานที่นั่งอยู่ตรงข้ามแม่งนั่งขำไปแล้ว ตลกตรงไหน ตอนแรกกูก็ลืมมึงเหมือนกันไม่อยากจะบอก


            “กูชื่ออาร์ค อาร์คนะอาร์ค มึงอย่าลืมกูอีกล่ะหมาเป๋า” ไอ้แว่น (ตอนนี้รู้ชื่อมันแล้ว) เอานิ้วชี้หน้าตัวเองพร้อมกับย้ำชื่อของมันเข้ามาในสมองผม กะว่าไม่ให้ผมลืมมันอีกเลยในชาตินี้


            “อ้ออออ โอเค~ กูวิปนะ” ยื่นมือออกไปตบไหล่มันด้วย เรามีมารยาทนะ แนะนำตัวมาก็ต้องแนะนำตัวกลับ

            “อ้าว มึงไม่ได้ชื่อหมาเป๋าเหรอ”

            เลวละมึง

            “เดี๋ยวกูกัดเลย!” ผมแยกเขี้ยวใส่มัน ทุกวันนี้ไม่ใช่คนแล้วนะ อยู่กับไอ้นาจะเป็นควาย อยู่กับไอ้กันคนโหดจะเป็นเหี้ย อยู่กับไอ้สองตัวนี้จะเป็นหมา เอ้อ! ชีวิตดี๊ดี


            “หมาเป๋ามึงนั่งเฉยๆ ร้านนี้เขาให้เอาสัตว์เข้ามาได้ แต่สัตว์ห้ามซน นิ่งเร็ว!” ไอ้ชานก็เอากับไอ้อาร์คด้วย ปู่อ่า~ ไอ้วิปโดนรุม ทำไรไม่ได้ เบะปากใส่แม่ง!


            และจากนั้นไม่นานไอ้กันมันก็เดินหน้าโหดเข้ามาในร้าน ผมชะเง้อมองไปด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของไอ้นานา มึงมาคนเดียวแล้วเอาเพื่อนกูไปโยนทิ้งไว้รูไหนเนี่ย


            “นานาล่ะมึง” ไอ้กันหย่อนตูดลงนั่งปุ๊บผมก็เปิดปากถามปั๊บเลย พี่แกหันมามอง สายตาทิ่มแทงทำเอาปวดร้าวในใจ มันเหมือนอยากจะพูดว่ามึงมาเสนอหน้าอะไรตรงนี้ กูเปล่านะ~ เพื่อนมึงลากกูมา


            “ไปเรียน”


            “อ้าว แล้วทำไมไม่ชวนมาด้วยล่ะ” ผมถามแบบมึนๆ คือไอ้นามันก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนขนาดนั้นหรอก ชวนมาด้วยมันก็น่าจะมาอยู่แล้ว…มั้งนะ ไอ้กันจ้องหน้าผมนิ่งๆ ริมฝีปากอ้าออกเหมือนกำลังจะตอบ แต่แล้วก็กลับไปเงียบเหมือนเดิม


            “กันๆ” ต้องจี้ครับ

            “ชวนแล้ว แต่ติดเรียน” หูยยยยย แอ๊บเรียนอ่า~

            “แอ๊ะแอ๋~ กันๆ~ สนใจเพื่อนกูแล้วใช่ม้า มีชงมีชวน อะแน่ะๆ” ผมยื่นหน้าเข้าไปล้อมันใกล้ๆ ชี้หน้าจับผิดมันไปด้วย รอยยิ้มหยอกล้อส่งออกไปให้ ไอ้อาร์คที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมสะกิดเรียกให้ผมกลับไปนั่งดีๆ


            มันคงหวังดี กลัวผมโดนไอ้กันมันดีดออกมา

            พี่โหดของเรานั่งจ้องหน้าผมกลับนิ่งๆ ก่อนที่มือหนาจะยื่นออกมา แล้วดีดเข้าที่หน้าผากผมดังเพี๊ยะ!

            “โอ้ย!”

            “นั่งดีๆ ไอ้เหี้ยเตี้ย”

            “ก็ได้~” หน้ามุ่ยหน้าอีกกูเนี่ย ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ เลย เบะปากให้มันอีกหนึ่งสเต็ป ไอ้ชานมันนั่งขำท่าทางของผม ส่วนไอ้คนข้างๆ…ก็ดูเหมือนจะห่วงใยนะ มีการจับศีรษะให้หันไปทางมันเหมือนจะดู แต่แม่งก็นั่งขำอะ!


            กูจะแช่งให้มึงฝันร้าย! ห่า!


            พอสงบศึก กับข้าวก็มาพอดี ผมไม่มีปัญหาเรื่องกินนะ กินได้หมด ไม่ใช่ว่าตะกละ เพียงแต่อยู่กับปู่มาเลยเป็นแบบนี้ เลือกกินไม่ได้ ปู่มีไรให้กินก็ต้องกินอันนั้นแหละ ถ้าไม่กินคือต้องออกไปหาแดกเอง ซึ่งเราจะมิอาว~


            เคร้ง!

            เอิ่ม…

            ผมตวัดสายตาขึ้นไปมองไอ้คนที่เอาช้อนมาชนกับชนของผม พี่กันๆ ของเราก็ตีหน้านิ่งอีกเช่นเคย แต่สายตาแฝงไปด้วยการข่มขู่นิดๆ เหมือนอยากจะบอกว่ามึงหลบไป กูจะตักก่อน


            “ปลาหมึกของกูนะ” ผมเอ่ยจองเอาไว้ก่อน ไอ้กันเลิกคิ้วนิดๆ ท่าทางกวนอารมณ์แต่แม่งเสือกเท่ทำให้ผมรู้สึกเท้ากระตุกยิกๆ และจากนั้น…


            …มันก็เอาปลาหมึกของผมไป ไอ้เช็ดเข้!!


            “ปลาหมึกมึงโดนตบไปแล้วว่ะหมาเป๋า” ถูกขโมยปลาหมึกไปต่อหน้าต่อตายังไม่พอ ยังมาถูกไอ้ชานมันเอ่ยแซวอีกต่างหาก ผมหันไปชี้หน้าเอาเรื่อง ข่มขู่มันไว้ก่อน


            “คืนนี้กูนอนแช่งมึงแน่กัน”

            “เรื่องของมึงเหอะ”

            แม่งไม่กลัวกูเลยสักนิด

            พอกินกันเสร็จผมก็กำลังจะควักตังค์ (ที่ปู่ให้มาอยู่น้อยนิด) ออกมาช่วยพวกมันจ่าย แต่ก็ไม่ทันละ ไอ้ชานจ่ายไปแล้ว

            “แล้วมึงเอาไงต่อกัน”

            “กลับบ้าน”

            “ยังมีเรียนอีกตัวนะเว้ย” ไอ้อาร์คขัดขึ้น เหี้ยโหดนี่! ถ้ามึงไม่ผ่านกูจะไม่สงสัยเลย วันๆ มึงเรียนบ้างมั้ยเนี่ย แต่เอ้อ…ว่าแต่มัน ตัวเราก็เป็น เราขอโทษ~


            “กูขี้เกียจ” เหตุผลมันฟังขึ้นมากเลย เพื่อนมันสองคนทำหน้าแบบแล้วแต่มึงแล้วกัน ผมมองพวกมันสลับกันไปมา ก่อนจะเอ่ยกับไอ้กัน


            “งั้นกูกลับกับมึงด้วยกัน”


            “เสือกละ” ง่ะ เจ็บปวดรวดร้าว ทำไมไม่รักษาน้ำใจกันเลย ผมแกล้งตีมึนทำเป็นไม่ได้ยินที่มันพูด เดินตามหลังมันออกมานอกร้าน ไอ้ชานโบกมือลาแล้วกอดคอไอ้อาร์คเดินแยกออกไปอีกทาง ส่วนพี่กันสุดหล่อโหดของเราก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ ผมก็ดึ๊บๆ ตามไป


            ที่ป้ายรถเมล์มีคนยืนรออยู่สองสามคน โล่งดีคุยสะดวกอยู่ ร่างหนาพอได้ที่เหมาะๆ แล้วมันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เสียบหูฟังฟังเพลงเข้าโลกส่วนตัวไปแล้วเรียบร้อย แวบหนึ่งที่ผมเห็นว่าดวงตาคมของมันเหลือบมามองทางผม จากนั้นริมฝีปากก็ขยับเบาๆ คล้ายจะยิ้ม


            แต่เป็นยิ้มเยาะผมนะ ไอ้เลว!

            พรึ่บ

            “นี่ๆ กันๆ” ถึงแม้ว่าจะใส่หูฟัง แต่ก็ป้องกันไอ้วิปไม่ได้หรอกนะจะบอกให้ ผมเดินเข้าไปยืนข้างๆ แล้วดึงหูออกมาข้างหนึ่ง และก็แทบผงะกับสายตาโหดๆ ของพี่แก


            อย่าฆ่าเก๊านะ

            “เอาคืนมา” น้ำเสียงข่มขู่ถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง ผมส่ายหน้าอย่างจริงจัง

            “กูฟังด้วย นี่ไงๆ” ว่าแล้วก็เอาเสียบหูตัวเองเลย จริงๆ คือหาทางให้มันได้ยินเสียงผมต่างหากล่ะ

            “ไอ้วิป…” โอ้ยยยยย~ น้ำตาจิไหล มันเรียกชื่อผม

            “เฮ้ยๆ อย่ากระชากนะเว้ย เดี๋ยวพังนะ ซื้อใหม่เลยนะ” พอเห็นท่าทางของมันที่จ้องจะกระชากคืนไปผมก็รีบร้องเตือนมันไว้ก่อนเลย ดูท่าทางพี่กันของเราคงจะกลัวเสียตังค์อยู่ไม่น้อย ยืนนิ่งเลยอะตัวเอง


            หรืออีกอย่าง…คือมันรำคาญผม แอ๊ะแอ๋~

            “นี่มึง…”

            พรึ่บ

            อะอ้าว…เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนดิ

            ไม่ให้เวลากูได้พูดคุยอะไรก่อนหน่อยเหรอ เพียงแค่ผมอ้าปากจะพูดเท่านั้นแหละ รถเมล์สายที่ต้องขึ้นก็มาพอดี โอ้ยพ่อคุณ มาได้จังหวะอะไรแบบนี้ แล้วนั่น…เฮียกันเดินขึ้นรถไปแล้วแบบไม่มีรอกันเลย ไอ้ผมก็เลยต้องรีบตะกายขึ้นตามไป


            ที่สำคัญ…คนแน่นมากกกก


            ขยับเบียดๆ เข้าไปยืนใกล้ๆ เพื่อนเลิฟ จ่ายตังค์เสร็จปุ๊บก็ต้องยึดเกาะให้มั่น ไอ้เพื่อนที่ยืนข้างๆ กันนี่ก็ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลย ฟังเพลงสบายอารมณ์เลยนะมึง จะเรียกมันเพื่อคุยก็เกรงใจคนรอบข้าง เขาเงียบกันหมดกูจะมาคุยอะไร เลยได้แต่ใช้ศอกสะกิดท้องแข็งๆ ของมันแทน


            จึ้กๆ

            นิ่ง เมินสาด

            จึ้กๆ

            คราวนี้พี่แกมีการตอบสนอง เลิกคิ้วเข้มๆ ของตนเองขึ้นข้างหนึ่ง แม่งโคตรเท่ หล่อเหลาบนรถเมล์มากเพื่อนกู และผมก็ไม่กล้าออกเสียง เลยทำหน้าทำตาบอกใบ้มันว่าลงรถไปเราคุยกันนะ


            แต่ดูเหมือนกันจะไม่เข้าใจวิป อะหื้ออออ~


            พี่แกทำหน้างงๆ กลับมา และพอมันจับใจความอะไรจากหน้าผมไม่ได้แม่งก็ถอนหายใจใส่แล้วหันหน้าหนีไปเลย ใจร้ายใจดำเป็นที่สุดเลยเพื่อนกู


            และแล้วตอนอยู่บนรถผมก็ไม่ได้คุยอะไรกันมันเลย เพราะคนแน่นจนมาถึงปากซอยบ้านผม พอลงจากรถเมล์ได้ก็ค่อยหายใจสะดวกขึ้นหน่อย และไอ้ขายาวที่มาด้วยกันมันก็เดินนำหน้าไปนู้นแล้ว เดือดร้อนกูต้องรีบก้าวตามอีกไง


            “กันๆ” เมื่อเดินเข้าไปชิดปุ๊บก็กระตุกแขนเสื้อมันเบาๆ


            “มีอะไร”

            “สรุปมึงกับเพื่อนกูนี่ยังไงอะ กูลุ้นพวกมึงอยู่นะเว้ย เอาจริงๆ แล้วกูก็อยากจะแอบดูแอบฟังว่าพวกมึงคุยอะไรกัน…”

            “แล้วมึงไม่ได้แอบดู?” ผมยังพูดไม่จบ ไอ้กันก็ขัดขึ้นมาซะก่อน ท่าทางเหมือนกับรู้เลยว่าผมแอบดูมันอยู่ ผมยิ้มแหยๆ

            “ก็แบบ…เค้าก็อยากรู้~ ไม่เอานะ มิโกรธธธธธ~”

            “ปากมึงเป็นอะไร พูดแบบคนปกติมันจะตายหรือไง” มีปัญหาอะไรกับคำพูดกูนักหนา

            “แล้วสรุปเป็นไงอะ” ถามต่อ ต้องรีบเก็บข้อมูลก่อนที่จะเดินถึงบ้าน เชื่อได้ว่าพี่โหดของเราคงไม่ยอมให้ผมไปบ้านมันแน่ๆ เพราะฉะนั้นก่อนถึงบ้านผมต้องถามให้เรียบร้อย


            “ก็ไม่ยังไง”

            “เอ้า! อะไรวะ เพื่อนกูสวยออกขนาดนั้นนะเว้ย”

            “อือ”

            “มึงก็ชอบใช่มั้ยล่ะ แล้ว…แลกเบอร์แลกไลน์กันยัง” ถามไปก็ลุ้นไป ท่าทางของผมตอนนี้แบบโคตรตื่นเต้น ก็แหม เราเป็นคนจัดการให้เราก็อยากจะรู้ว่าพวกเขารู้สึกยังไง ชอบกันหรือเปล่า


            “ก็...อือ” นั่นไง! กันๆ ก็ใช้ได้เหมือนกันนี่

            “แล้ว…จะโทรคุยกันปะ”

            “เฮ้อ…งั้นมั้ง” ทำไมไอ้คนข้างตัวผมแม่งตอบแบบโคตรไร้อารมณ์เลยวะ

            “งั้น…ขอบใจกูดิ ฮี่ๆ” ผมฉีกยิ้ม ไม่ขอบใจผมแล้วจะไปขอบใจหมาเป๋าที่ไหนล่ะ จริงมั้ย ผมหยุดเดินตามไอ้กัน มันหันมาหาผม จ้องหน้าผมอยู่แบบนั้นสักแป๊บ จากนั้นมือหนาของมันก็วางลงบนศีรษะผม


            แอะ…จะลูบหรา~


            พรึ่บ!


            “กลับบ้านมึงไปซะ ไอ้เหี้ยเตี้ย!”


            แม่งผลักหัวผมเฉยเลย เลวววววววว!!


________________________________


มาแล้วจ้าาาาา นานๆ มาทีอย่าเพิ่งว่าเค้านะนะ อ้อ! มีเรื่องจะบอกอีกด้วย จริงๆ แล้วนุ้งวิปนี่แหละจ้านายเอกของเรา
ที่พูดไปตอนนั้นคือเค้าแค่จะพูดเล่นๆ เอง เพราะหมาเป๋ามันป่วนเกินไป 5555 ไม่ได้หมายความแบบนั้น
ทำให้เข้าใจผิด ข้าเจ้าขออภัย ตกลงมันคือนายเอกนะจ๊ะ ^^



ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เหย...วิป นี่วิปครีมมั้ย...น่ากินจัง อุ่ย!!! หลบทีนกันแปป

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
คุยไรกัน อยากรู้ๆ

พี่กันชอบผู้ชาย?

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ฮ่าๆๆๆๆๆ หมาเป๋าวิป เฮียกันชอบผู้ชายชิมิ
ดีใจจังวิปเป็นนายเอง ป่วนได้ฮ่ามาก โดนตบหัวก่อนเข้าบ้าน คิกๆๆ เฮียชาน อาร์ด น่าสนให้ตองจัง อิอิ

ออฟไลน์ มิวมิว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อิสิปนี่อย่างกวน ส่วนอิพี่กันนี่ก็ดุเกิ๊น รอว่าเมื่อไหร่จะสปาร์คกันสักที

ติดตามคร้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
หูยคาใจจจเรื่องนานา ส่วนพี่แว่นนี่ชอบหมาเป๋าป่ะ แอบเชียร์นะ555 (โดนกันถีบบบ!!)

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
โอ้ยยย ฮาอะ รักเพื่อนมากไปนะบางที

ระวังเพื่อนย้อนกลับนะ แบบ ขายเพื่อน

ยกถวายใส่พานให้อะไรแบบนั้นอะ

ออฟไลน์ Ranmaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 

 

ตอนที่ 6

 

 

 

 

            “ปู่!! กลับมาแล้วววว”

 

            “ทำไมมึงไปเร็วมาเร็วนักวะ มึงได้เรียนมั้ยเนี่ย” โผล่หน้าเข้าไปในบ้านปุ๊บ ปู่สุดที่รักก็ต้อนรับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ปู่ที่นั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ คนแก่ว่างงานก็งี้แหละ ดูทีวี รดน้ำต้นไม้ และ…คอยบ่นผม

 

            “ฮ้อยยยยปู่~ ไอ้เรียนน่ะเรียนอยู่แล้ว แต่มันก็ต้องมีพักบ้างไรบ้าง”

 

            “พักแบบไม่ปรึกษาครูอาจารย์ พักพ่อมึงดิแบบนี้” แค่พูดยังไม่พอ ปู่ยังเอารีโมทมาเคาะหัวผมอีก ทุกคนเป็นอะไรกับหัวกูวะ อีกนิดคงจะโดนเตะเป็นลูกฟุตบอล

 

            “ด่าพ่อทำไม นั่นลูกปู่เลยนะ”

            “เออ กูลืม” แหม ลืมลูกตัวเอง

            “เดี๋ยวมานั่งด้วยนะ ไปล้างหน้าแป๊บนึง” หันไปบอกปู่ ปู่เองก็โคตรสนใจผมเลย ตามองโทรทัศน์ มือโบกไล่ผม ท่าทางเหมือนจะบอกว่ามึงไปไกลๆ ฮ่าๆ ผมเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า แล้วกลับออกมานั่งกับปู่

 

            “เออนี่ วันนี้พ่อมึงโทรมา”

            “อ้าว ยังอยู่อีกเหรอ” ผมหันไปถามอึนๆ

            “นั่นพ่อมึงไอ้วิป”

            “เอ้อออ~ ลืมมมมม~” ผมว่าแล้วยิ้ม จะบ้าเรอะ ใครบ้างจะลืมพ่อตัวเอง ถึงแม้ว่านานๆ จะได้เจอทีก็เหอะ ปล่อยแกมีความสุขของแกไป อยากทำอะไรทำแบบที่ปู่เคยบอกกับพ่อเอาไว้ สบายใจก็ทำไป

 

            “มันก็ถามเหมือนเดิมแหละ แกเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย ห่า! ห่วงลูกแล้วทำไมไม่กลับมาดูเองวะ กูก็นึกว่าตายห่าในป่าไปแล้ว” อ้าวๆ อารมณ์ขึ้นเฉยเลย

 

            “นั่นลูกปู่นะเว้ย”

            “เออ! กูลืม!” พูดจบก็หัวเราะ ตลกมากเลยปู่

            นั่งเล่นกับปู่อยู่นาน จากนั้นก็แวบขึ้นมาหลับไปงีบหนึ่ง ตื่นขึ้นมาฟ้าก็มืดไปแล้ว เข้าห้องน้ำไปล้างหน้า ออกมาก็คว้าโทรศัพท์แล้วโดดขึ้นเตียง กดโทรออกเบอร์เพื่อนรักคนสวยเพื่อเช็คความคืบหน้า ไอ้กันๆ คนโหดบอกว่าแลกเบอร์เรียบร้อย ยังไงพวกมันก็ต้องคุยกันแน่ๆ

 

            [ว่าไง]

 

            รับสายด้วยเสียงอารมณ์ดีแบบนี้ เป็นลางที่ดีที่บอกว่ามึงใกล้จะมีผัวแล้ว กูดีใจกับมึงด้วย

            “คิดถึงงงงงงง~”

            [เอาความจริงอิสัด หน้าอย่างมึงไม่เคยโทรมาบอกคิดถึงส้นตีนอะไรนี่หรอก อย่าตอแหลกู] ปากที่ยิ้มกว้างๆ อยู่หุบลงแทบไม่ทันเลย ทำไมเพื่อนถึงโหดร้ายแบบนี้ จิตใจทำด้วยอะไร กูกลัวมึงนะไม่ใช่ไร

 

            “แหมมมมม ก็แบบว่า…กูอยากรู้ มึงกับไอ้กันโอเคกันใช่มั้ย คลิ๊กใช่ปะ ได้ข่าวว่าแลกเบอร์แลกไลน์กันแล้วด้วย อั้ยยะ! ฟินสิรอไร” ผมส่งเสียงดี๊ด๊าเกินหน้าเกินตาเจ้าตัวเขาอีกนะเนี่ย ได้ยินเสียงหวานๆ ของไอ้นานาหัวเราะกลับมาเบาๆ ถ้าเป็นเวลาปกตินะ มันจะต้องด่าผม หาว่าผมเพ้อเกินไป แต่นี่มันหัวเราะ แสดงว่าไปได้สวย

 

            [ข่าวมึงมาจากไหน ข่าวมั่วเปล่า]

            “มาจากกันๆ เองเลย”

            [เออ ถ้างั้นก็ตามนั้นแหละ] ไอ้นานาตอบกลับมาแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ ผมเบะปากใส่โทรศัพท์ หมั่นน้ำเสียงมึงมากเลยนา

 

            “แล้วคุยกันยัง” ถามต่อสิ กูนี่ลุ้นมากเลยนะ มือบิดผ้าปูที่นอนจนยับไปหมดแล้วเนี่ย ลองคิดภาพไปก่อน ไอ้นากับไอ้กันตอนคุยกัน แม่ง!! แค่คิดก็วิ๊งแล้ว ฝีมือผมเอง

 

            [เออ ก็คุย นี่มึงจะถามทำไมเนี่ย] มันเริ่มจะรำคาญแล้วครับ เชื่อได้เลยว่าอีกนิดมันจะต้ององค์ลงแน่ๆ ทางที่ดีควรรีบตัดบทแต่เพียงเท่านี้ ที่เหลือไว้ไปสืบจากกันๆ เอาก็ได้

 

            “ใจเย็นๆ นะ คำถามสุดท้ายและ ไอ้กันมันบอกอะไรกับมึงเป็นพิเศษปะ” ถามเสร็จก็นั่งลุ้น

            [ก็บอก]

            “อะไร!!”

            [บอกว่ามึงน่ะเป็นไอ้เตี้ยตัววุ่นวาย] และมันก็วางสายไป

            ไอ้กันนนนนน~ ไอ้นิสัยเสีย!!

 

 

 
……………………………

 

 

 

            หลังจากที่ได้ยินไอ้นาพูดแบบนั้นมา ผมก็ตั้งใจแล้วว่าจะต้องไปเคลียร์กับไอ้โหดให้รู้เรื่อง กูช่วยมึงเลยนะหื้อ ทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง แต่นั่นก็ทำได้แค่คิด เพราะผมก็ติดเรียน และมีงานที่ต้องทำส่ง เลยทำให้ไม่มีเวลาโผล่หัวไปหาไอ้โหดหมาบ้าซะหลายวัน จนถึงวันนี้…กูว่างแล้วครับ

 

            เดินลงจากตึกหลังจากเรียนเสร็จ หันมองไอ้นานาที่เดินอยู่ข้างๆ มือเรียวกดโทรศัพท์ ริมฝีปากขยับยิ้มบางๆ ท่าทางดูอารมณ์ดี หรือว่ามันคุยกับไอ้กันอยู่วะ

 

            “นา มึงไปไหนต่อปะเนี่ย”

 

            “ไป จะไปแดกข้าว มีนัดไว้แล้ว” มันตอบกลับมาโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ ผมนี่เบรกเอี๊ยดหันขวับไปหาเพื่อนคนสวย รู้สึกได้แบบที่ไม่ต้องมีใครมาบอก ดวงตาผมนี่เป็นประกายวิบวับ ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

 

            “นัดกับใคร ไอ้กันใช่ปะ”

            “หึ ไม่ใช่ นัดกับแม่กู”

            แสสสสสส~ แล้วให้กูตื่นเต้นเพื่ออะไรเนี่ย ผมห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด ไอ้นานาเหล่มองผมแล้วทำหน้าแปลกๆ จากนั้นมันก็ยิ้มให้ผมแล้วโบกมือลาเดินแยกออกไป ผมยกมือโบกตามหลังมันก่อนจะถอนหายใจ

 

            กูนี่ลุ้นเหมือนกูจะได้ผัวเองเลยว่ะ

 

            เอาวะ! มันไปกับแม่ แสดงว่าไอ้หมาบ้าก็ยังอยู่ คราวนี้ไม่ต้องโทรไปถามไอ้ตองหรอก ที่ประจำมันผมจำได้ขึ้นใจแล้ว พี่แกชอบไปนั่งเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่หน้าบ่อปลา ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล พุ่งตัวไปที่นั่นเดี๋ยวก็เจอ

 

            ไม่เจอแสดงว่ามันกลับบ้าน แอ๊ะแอ๋~

 

            ไม่รอให้เสียเวลา ผมไปหาไอ้กันทันที แต่ก่อนที่จะเดินไปถึง ผมก็เจอไอ้ตัวสูงใส่แว่นเดินหล่อลงมาจากตึกซะก่อน เมื่อมันเห็นผมริมฝีปากก็ยิ้มกว้างแล้วเดินตรงเข้ามาหา

 

            “ไงหมาเป๋า”

 

            “เอ้อ! หวัดดีไอ้อาร์ค” ผมทักมันกลับ กูพัฒนาแล้วนะ กูจำชื่อมึงได้ ไอ้แว่นเมื่อเห็นว่าผมเรียกชื่อมันก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก มึงๆ ระวังปากฉีก เคยดูบุปผาเปล่า ระวังนะมึง

 

            “จำกูได้ด้วย นึกว่ามึงจะลืมกูอีกแล้ว”

            “สมองคนนะหื้อไม่ใช่ปลาทอง นี่ใคร นี่วิ…”

            “หมาเป๋าไง” ไอ้หน้าหล่อมันสวนขึ้นมาแล้วเอามือมาวางบนหัวผม หมาเป๋าพ่องเด่ะ! เดี๋ยวกูงับมือขาด และพอเห็นผมไม่ว่าอะไรมันยิ่งเอาใหญ่ แค่วางมือไม่พอยังขยี้หัวกูอีก เห็นกูเป็นหมาไปแล้วจริงๆ ใช่มั้ย

 

            “แล้วนี่มึงมาทำอะไรที่คณะกูเนี่ย”

            “มาหาหมาบ้า”

            “หมาบ้า? ใครวะ” ไอ้อาร์คทำหน้าสงสัย แสดงว่ามันยังไม่รู้ตัวว่ามีเพื่อนเป็นหมาบ้าอยู่

            “กันๆ ไง บ้าของแท้เลย” ผมเฉลย ไอ้พี่อาร์คของเรานิ่งไปนิด ก่อนที่มันจะยิ้มกว้างแล้วขำออกมา จากที่หล่ออยู่แล้วมันยิ่งดูดีขึ้นไปอีก เห็นใจกูที่ยืนเตี้ยอยู่ข้างๆ มึงด้วย โปรดให้เกียรติส่วนสูงกูนิดนึง แค่นี้ก็ไม่มีคนมองละ

 

            “มันอยู่ที่เดิมของมันนั่นแหละ จำได้ใช่มั้ย” มันถาม ทำไมมึงทำเหมือนว่ากูความจำสั้นแบบนั้นวะ

 

            “เออ จำได้ ไม่ลืมมมมม~”

 

            “ดีแล้ว อ้อ…กูมีรางวัลให้ เพราะมึงจำชื่อกูได้” มันยักคิ้วข้างหนึ่งแบบเท่ๆ ให้ ผมเลิกคิ้ว เกือบจะเอียงคอทำหน้างงแล้ว แต่เดี๋ยวมันจะดูเหมือนหมาเกินไป

 

            “รางวัลอะไรมึง”

 

            “นี่ไง ลูกอม” ไอ้อาร์คแลบลิ้นออกมาให้ผมดูลูกอมสีแดงที่อยู่ในปาก มันโน้มตัวลงมาด้วยนะ กลัวกูมองไม่เห็นหรือไง ผมพยักหน้ารับมึนๆ ไอ้อาร์คยิ้มแล้วล้วงกระเป๋าหยิบลูกอมที่ว่านั่นออกมา ผมยื่นมือออกไปจะรับ แต่มันกลับแกะให้เสร็จสรรพ แล้วยัดลูกอมเข้ามาในปากผม

 

            “เป็นไง ชอบใช่มั้ย”

            ผมพยักหน้า เออ ชอบก็ได้

            “ยิ้มให้กูด้วย”

            ผมยิ้ม

            “กูไปล่ะ” ขยี้หัวผมอีกทีแล้วมันก็เดินจากไป ผมมองตามแผ่นหลังกว้างไปแบบมึนๆ คือกูมีเรื่องจะบอกมึงด้วยแต่บอกไม่ทัน หนึ่ง…ลูกอมมึงเปรี้ยวมาก สีหลอกตากู และอีกอย่าง…นิ้วมึงโดนน้ำลายกูไปแล้วเรียบร้อย ซอรี่นะ~

 

            ผมส่ายหัวแล้วเดินต่อ พอถึงที่หมายก็ยิ้มกว้างลูกอมแทบจะร่วงออกจากปาก ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ไอ้พี่กันของเรายืนอยู่หน้าบ่อปลาพอดีเป๊ะ กูล่ะอยากย่องเข้าไปข้างหลังแล้วถีบมึงตกลงไปมากเลย

 

            เราเป็นคนดี ฮี่ๆ

 

            “กันๆ~” ผมส่งเสียงร้องทักออกไปอย่างร่าเริง เจ้าตัวพอได้ยินก็หันมามอง ก่อนที่ใบหน้าหล่อโหดของมันจะฉายแววเอือมๆ ออกมาอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร เราก็ชินอีกแล้ว โฮะๆ

 

            “มาทำไม”

            “มาหามึง คิดถึงงงงงง~” ตอแหลไม่มีใครเกิน

            ร่างสูงชะงักไปกับคำว่าคิดถึงของผม นั่นไง ซึ้งล่ะซี่~ ผมเดินดุ๊กดิ๊กๆ เข้าไปหามัน แหมกันๆ ยืนที่อันตรายนะ อีกนิดมึงจะร่วงลงไปในบ่อปลาแล้วนั่น เขยิบออกมาห่างๆ หน่อยซี่

 

            “ไม่ได้เจอนานเลย คิดถึงกูบ้างมั้ย” เข้ามาหยุดอยู่ข้างๆ มัน จ้องหน้าอีกคนตาแป๋ว ไอ้คุณพี่แม่งก็ไม่รักษาน้ำใจกันหรอก ถอนหายใจใส่ซะงั้นอะ

 

            “ทำแบบนี้กูใจร้าวนะ”

            “กูต้องสนมั้ยเนี่ย”

            “สน! นี่จริงจังนะเนี่ย” ผมยืดตัวใส่ คนตรงหน้าผมก็เลิกคิ้วกวนตีนกลับมาให้ ผมแอบเห็นนะว่ามันเหมือนจะยิ้ม จากนั้นขายาวๆ ของมันก็ก้าวถอยไปด้านหลัง ผมตาโตขึ้นมานิด จะขยับหนีกูเพื่อออออออ

 

            พอเห็นมันก้าวหนีผมก็ก้าวตาม และในจังหวะที่ผมก้าวขาออกไป ไอ้กันมันก็ยื่นขาออกมาขวางขัดขาผมซะงั้น ทำให้ผมเสียหลัก ร่างโอนเอนเซจะหลบ ผมหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกว่าทรงตัวไม่อยู่แล้ว

 

            พรึ่บ!

            ตูม!!

            สวยๆ ลงบ่อปลา

            “แค่กๆๆ” โผล่ขึ้นมาสำลักน้ำยกใหญ่ รู้สึกได้ว่าปลาที่อยู่บริเวณนี้พากันว่ายหนีไปหมด ผมลูบน้ำออกจากใบหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้ตัวดีที่ตอนนี้…จับท้องตัวเองพร้อมกับชี้นิ้วมาแล้วหัวเราะผมยกใหญ่

 

            เลววววววววว~

            ผมกัดฟันมองไอ้โหดที่ยืนหัวเราะแบบไม่มีคิดที่จะช่วยผมเลยสักนิดด้วยความเครียดแค้น ทำแบบนี้กูใจร้าวอีกแล้วนะ แต่ก็ตกใจนิดหน่อยที่เห็นมันหัวเราะแบบเต็มที่ขนาดนี้ ปกติพี่แกแม่งเก๊กไง


            “มึงแกล้งกู!”

            “มึงโง่ตกลงไปเอง” น่านนน~ ดูมัน มันไม่ยอมรับซะด้วย

            “มึงรอกูก่อน เดี๋ยวกูงับมึงแน่!” ผมชี้หน้าขู่คนด้านบน ขยับตัวจะก้าวขาขึ้นไป แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างเพราะความเจ็บที่แล่นเข้ามา ผมเบ้หน้าแล้วลองขยับขาอีกครั้ง


            โอ้ย! ชัดเลย

            ท่าทางตอนร่วงลงมาจะร่วงผิดท่า ขากูพลิกแน่ๆ งานนี้ เพราะมึงคนเดียวเลยกันๆ นิสัยเสีย!

            ร่างสูงที่เลิกขำไปแล้วเห็นผมไม่ยอมขึ้นไปสักทีก็ขมวดคิ้วมอง

            “ขึ้นมาดิเตี้ย”

            “กูเจ็บขา” ผมบอกเสียงอ่อยๆ แล้วมองมันตาระห้อย หวังลึกๆ ว่ามันจะช่วยดึงผมขึ้นไป ไอ้หมาบ้ามันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อคำพูดของผม กูเบะปากแล้วนะ อีกนิดกูจะงอแงแล้วนะ ดึงกูขึ้นไปเลย~


            “กันๆ~”


            “เฮ้อ มานี่มา” มันว่าอย่างเสียมิได้แล้วขยับมานั่งยองๆ อยู่ข้างบ่อ ยื่นมือออกมาเพื่อให้ผมจับ ผมมองหน้าแล้วด่ามันในใจไปด้วย เลวไง มึงเป็นคนทำให้กูตกลงมาแล้วยังมาถอนหายใจใส่กันอีก


            อยากงับมัน!


            ผมจับมือหนาของไอ้กันไว้ แล้วมันก็ดึงผมขึ้นไปจากบ่ออย่างง่ายได้ เบ้หน้าด้วยความเจ็บ มันพาผมไปนั่งก่อนจะจับขาผมไปพลิกๆ ดู น้ำตาจะเล็ด กูเจ็บนะหื้อออออ~ พลิกเป็นหมูหันเลยไอ้เหี้ย~


            “เดินไม่ได้แน่มึง”


            “อย่าขู่ดิ” แค่นี้กูก็สะเทือนใจพอแล้วนะ ไอ้กันส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืน มันทำท่าเหมือนจะเดินหนีไป ผมตาโตผวาดึงขากางเกงมันไว้ไม่ปล่อย เงยหน้าขึ้นไปมองอย่างเอาเรื่อง


            “มึงจะทิ้งกูเหรอ”

            “ทิ้งบ้าอะไร”

            “กูเจ็บขาเพราะมึงเลยนะ มึงเป็นคนแกล้งกู ทำให้กูต้องตกลงไป แล้วมึงก็ทำให้กูต้องเจ็บแบบนี้ แถมเปียกด้วยดูดิ ดูๆ” ผมว่าแล้วดึงเสื้อนักศึกษาของตัวเองที่เปียกลู่ไปกับตัวให้มันเห็น ไอ้โหดมองนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจรดหัวผม เดี๋ยวก็งับแม่งเลย


            “แล้วจะให้กูทำยังไง”

            “หูยยยย ไม่มีสมอง”

            “ช่วยตัวเองแล้วกัน” มันสะบัดขาแล้วจะเดินหนี ผมนี่แหกปากรั้งมันไว้เลย อย่าทิ้งกูนะหื้ออออออออ~


            “กันๆ กูขอโทษ กูผิดไปแล้ว กลับมาเอากูไปด้วย” ผมค่อยๆ ยันตัวขึ้นยืน ทิ้งน้ำหนักลงไปที่เท้าขวามากๆ ไม่ได้ เจ็บจี๊ดเลย เดินกะเพลกๆ ตามแผ่นหลังกว้างไป มันเดินไปหยิบกระเป๋าของมันมา เหล่กลับมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินนำออกไปแบบไม่สนใจ


            อยากจิครายยยย~

            “มึงมันใจร้าย ใจดำ”

            ยังๆ ยังเดินเฉยไม่สนใจ

            “กูจะร้องแล้วนะ” ผมหยุดเดินแล้วพูดคำนั้นออกไป เอาดี้~ จริงจังมากด้วยไม่ใช่แค่ขู่ ร่างสูงหยุดเดินแล้วหมุนตัวกลับมา ใช้สายตาโหดๆ นั่นจ้องหน้าผมเหมือนกับว่าจะบีบให้ผมหงอแล้วยอมเดินตามไปแบบเงียบๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกความกล้า ตีมึนไม่ยอมเดิน


            “เฮ้อ!!”


            หมับ


            “ฮะ…เฮ้ย! เดี๋ยวๆ”

            “อะไรมึงอีก! อย่าเรื่องมาก” ผมย่นคอหนีเสียงโหดๆ ของมัน ตัวนี่เกร็งสุดๆ เลย ก็เข้าใจว่ารำคาญแล้วง่ะ ก็รู้ แต่แบบ…

            “ไม่ต้องกอดเอวก็ได้มั้ง” ผมพึมพำ


            “แล้วมึงจะเดินยังไง”

            ผมนิ่งแล้วคิดตาม “เออ นั่นดิ”

            “ควาย!” มันด่าออกมาอีกคำก่อนจะกอดเอวผมแน่นขึ้นแล้วพยุงให้ผมเดิน มันก็ไม่อะไรหรอก แบบนี้ก็ดีกว่าเดินด้วยตัวเอง แต่มันไม่ชินอะ มันแปลกๆ แล้วแบบ…มันรัดเอวแน่นมาก


            ระหว่างทางก็ต้องเจอกับสายตาที่มองมา ไอ้ขาเจ็บแล้วต้องพยุงน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ผมบังเอิญเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำด้วยนี่สิเลยทำให้คนเขาสงสัยกัน พอนึกได้ว่าตัวเองกำลังเปียกอยู่ก็ยิ้มเลว มองคนตัวสูงที่พยุงผมอยู่ ดวงตาคมมองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว


            พรึ่บๆ

            ถูไถๆ~

            “เฮ้ย! เล่นอะไรของมึงเนี่ย” ไอ้หมาบ้ามันร้องเมื่อผมเอาหัวถูไถๆ กับเสื้อของมัน ผมหยุดแล้วเงยหน้าขึ้นไปยิ้มกว้างให้ก่อนจะถูๆ ต่อ ไม่มีอะไรมาก วิปแค่แบ่งปันความเปียกเท่านั้นเอง


            “ฮี่ๆ”

            “ถ้าไม่หยุดกูจะทิ้งมึงจริงๆ นะวิป”

            กึก

            “เค้าขอทวด~” ผมเสียงอ่อนเสียงอ่อยเอานิ้วจิ้มๆ แขนหนา เจ้าตัวถอนหายใจก่อนจะพยุงผมเดินต่อแบบไม่พูดอะไร ผมเองก็ไม่กล้าที่จะเล่นอะไรอีก เดี๋ยวมันทิ้งขึ้นมาล่ะแย่เลย


            เดินออกมาหน้ามอไอ้กันก็จะตรงไปที่ป้ายรถเมล์ ผมกระตุกแขนเสื้อมันยิกๆ เลยเมื่อเห็นว่ามีคนยืนรอรถอยู่เยอะแค่ไหน แล้วลองคิดดู กูต้องไปยืนโยกเยกอยู่บนรถด้วยสภาพแบบนี้เนี่ยนะ


            “กันๆ กู…”


            “เออน่า” มันเอ่ยออกมาแบบติดรำคาญ ปล่อยมือออกจากเอวผมก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่ บอกที่หมายไปเสร็จสรรพแล้วเดินมาพยุงผมอีกครั้งไปขึ้นรถ พี่คนขับพอเห็นว่าผมตัวเปียกก็แสดงท่าทางเหมือนไม่อยากจะรับ แต่พอเจอสายตามหาโหดของเฮียกันเราไปก็ปิดปากเงียบ


            ผมนั่งยิ้ม นึกว่ามันจะใจร้ายให้ผมไปยืนโหนรถเมล์ซะแล้ว


            “ยิ้มส้นตีนอะไร”


            “แหมกันๆ~ ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย” ผมกอดตัวเองแล้วหันไปพูดล้อมัน อยู่บนรถกูล้อได้ มันไม่ถีบกูลงจากรถแน่นอนกูมั่นใจ พี่ท่านตวัดสายตาดุๆ มาให้ทันทีที่ผมพูดจบ


            “อย่าโหดซี่~”

            “ปากมึงเป็นอะไรห้ะ พูดแบบคนปกติไม่ได้หรือไง”

            “แล้วมึงจะมามีปัญหาอะไรกับปากกูนักหนา แอะ…เงียบแล้วจ้ะ” ผมยิ้มแห้งๆ แล้วกลับมานั่งเงียบๆ เล่นมาซะดุแบบนั้นกวนตีนมันต่อผมก็ไม่รอดอะดิ รักชีวิตอย่าคิดแหย่หมาบ้า แล้วนี่…แอร์รถพี่จะหนาวเย็นไปถึงไหนครับ เห็นใจคนตัวเปียกบ้างมั้ย


            พรึ่บ


            เอ๋~


            “เลิกสั่นได้แล้ว” ไอ้กันมันโยนกระเป๋าของมันมาให้ผม ถึงจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ช่วยแก้หนาวได้บ้าง ผมกอดกระเป๋ามันไว้แน่นเลย ขนาดกระเป๋ายังเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของพี่ท่าน ผมนี่เผลอสูดดมอยู่นาน


            “กูเพิ่งรู้ว่ามึงเป็นโรคจิต”


            สัด เห็นอีก

            “กูจะสั่งขี้มูกเหอะ บู้ๆ~” ผมรีบแก้ตัว ไอ้กันส่งเสียงหึในลำคอเบาๆ ก่อนจะมองออกไปนอกกระจก เห็นแบบนั้นผมเลยนั่งเงียบมาตลอดทาง ไม่ใช่ไร กูหนาว สั่นเป็นเจ้าเข้าทรงเลย


            พอมาถึงที่ไอ้กันก็บอกให้พี่เขาจอดที่หน้าบ้านผมพอดีเป๊ะ พี่ท่านใจดีอีกหนึ่งสเต๊ปด้วยการจ่ายค่ารถเองคนเดียว ผมเปิดประตู แล้วค่อยๆ กระดึ๊บลงจากรถ และยืนเป็นกระต่ายขาเดียว


            “แต๊งกิ้วมากๆ เลยนะหมาบ้า ส่งถึงหน้าบ้านเลย” ผมหันไปยิ้มให้มัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ตัวเองเผลอเรียกชื่อที่เรียกมันในใจออกมา ไอ้โหดยิ่งโหดเข้าไปใหญ่ ผมยิ้มแหยๆ


            “เค้าเผลอแหละ เค้าขอโทษ~”


            “เข้าบ้านไป” จ้ะ ไม่ต้องเสียงดุใส่แบบนั้นก็ได้ ผมพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ตอนนี้เราต้องทำตัวเป็นเด็กดีเข้าไว้ ค่อยๆ กระโดดขาเดียวจะเข้าบ้าน และเหมือนท่าทางของผมจะไม่ทันใจไอ้โหดข้างหลังมั้ง มันถึงได้ถอนหายใจใส่อีกแล้ว


            หมับ


            “เฮ้ยๆ!! อะไรมึงเนี่ย” ผมร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ก็ถูกอุ้มจนตัวลอย เมื่อกี้แค่กอดเอวพยุงเอง แต่ตอนนี้มันอุ้ม อุ้มอะอุ้ม! กูว่าจะไม่เขินแล้วนะ พอมึงอุ้มเท่านั้นแหละกูเขินเลย เหี้ย ตัวกูเบาขนาดนั้นเลยเหรอวะ


            “นิ่งๆ!” มันดุเมื่อผมดิ้นๆ ไม่ยอมให้อุ้ม พี่แกอุ้มผมเข้าบ้านแบบสบายมากๆ ปู่ที่ได้ยินเสียงผมโวยก็เดินออกมาดู แล้วก็ตาโตตกใจที่เห็นหลานสุดที่รักโดนไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้อุ้มเดินเข้ามาในบ้าน


            “เฮ้ย ไอ้วิป แล้ว…ไอ้หนุ่มเอ็งเป็นใครวะ”


            “สวัสดีครับ” ไอ้กันโค้งให้ปู่ผมเพราะมือไม่ว่าง ไม่แนะนำตัวอะไร ขายาวก้าวขึ้นบันไดมาแบบไม่ขออนุญาตใครเลย ปู่ก็ตกใจและอึ้งพอๆ กับผมนั่นแหละ แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงหลานรักเดินตามขึ้นมาดูแบบติดๆ


            “ไหนห้องมึง”


            “นู้น…” ผมบอกเบาๆ แล้วชี้ไปที่ห้องของตัวเอง มันเปิดเข้าไป ใช้เท้าเกี่ยวเอาเก้าอี้ที่ผมเอาไว้นั่งทำงานมาใกล้ๆ จากนั้นก็วางผมลง


            “มึงเป็นอะไรไอ้วิป” ปู่เดินเข้าชิด มองสำรวจร่างกายผม

            “ตกน้ำง่ะปู่ แล้วขาก็เจ็บ”

            “อ๋อ เพื่อนมึงเลยพามาส่ง” เอ้อ เดาเรื่องได้ง่ายดีหนิปู่

            “ก็…คงจะอย่างงั้น”

            ผมบอกแล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาไปมองเฮียกันที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ มึงจะแดกหัวกูเหรอทำหน้าทำตาซะโหดแบบนั้นอะ


            “เออ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว กูตกใจหมดนึกว่าเป็นอะไร มีอะไรก็เรียกแล้วกัน” ปู่บอกเสร็จก็เดินออกจากห้องไป แล้วมึงน่ะกัน อยู่ทำด๋อยอะไร นู้นประตู


            “บู้ๆ~”

            เพี๊ยะ

            ฮ้อยยยยยย~ แค่บู้ๆ ใส่เอง ทำไมต้องดีดหน้าผากกูด้วยเนี่ย

            “ไปอาบน้ำซะ” มันไล่ เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้เสร็จเลย

            “มึงจะอยู่ใช่มั้ย” ผมถามออกไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองจะใช้คำผิดไปนะ ต้องถามว่ามึงจะกลับแล้วใช่มั้ยต่างหาก ร่างสูงหมุนตัวกลับมาหาผม แล้วมันก็ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าแบบระยะประชิด


            “จะให้กูอาบให้หรือไง”


            ฉิบหาย~ ไม่ใช่แล้ว~



______________________________________

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:





ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
หมาบ้า ก็ใจดีน่ะ หมาเป๋า ฮ่าๆๆๆ วิปมีเขินๆๆแล้วด้วย คืนนี้กันนอนห้องวิปเลยไหม อิอิ
แบบว่าอาร์ทดูมีเสน่ห์หล่อๆๆจัง ยังไงน่ะโผ่ลมาอีกแล้ว

ออฟไลน์ มิวมิว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ชอบนังวิปมันติงต๊อง  :laugh3:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ทำไมเราชอบโมเมนต์อาร์ควิปงะ55555554

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ไมไม่หาหมอ? ขาพลิกต้องจับพลิกกลับป้ะ ต้องพันผ้า?
อาบน้ำให่ก็ดีนะ 55555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ยังดีหมาบ้าไม่ใจร้ายนะ ยังพามาบ้านแต่หมาบ้ารู้จักบ้านหมาเป๋าได้ไงวะ หรือเราอ่านข้ามตอนอะไรไปเนี่ย

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
นั่นไง...กันรอพาวิปไปไหนอีกเปล่า กันอาบน้ำให้วิปเลยๆ

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
อาร์คแกชอบวิปช้ะ? คือชอบโม้เม้นเวลาอยู่กับวิปนะ แต่...นั่นแหละ กันหมาบ้าคงจะไม่ปล่อยหมาเป๋าให้ใครแน่ๆ5555 มาต่ออีกจิตัวเทอออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ usguinus

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เหนื่อยแทนกันๆ :o8:
แอบชอบอาร์คกับวิปเบาๆ 5555 รออยู่นะคะ อิอิ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ชอบวิปนางตลกดี  :jul3:

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
กัน! ถ้านายไม่เอาวิป เราเองนะ! 555
น่ารักมากมาย  :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
วิปกัน ไปเคาว์ดาวที่ไหนอ่า รีบๆๆกลับน่ะ
คิดถึง อิอิ

ออฟไลน์ Ranmaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0


ตอนที่ 7



 

 

            หมับ


            “เฮ้ยเดี๋ยวๆ ไอ้กัน! กูอาบเองได้” ผมพยายามปัดป้องมือหนาที่ยื่นออกมาเหมือนกับว่าจะแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของผม แค่เหมือนนะ เพราะมันยังไม่ได้แกะออกไปสักเม็ด แต่แค่ยื่นมือมาก็น่ากลัวแล้ว


            ผมเอนตัวหนีไปด้านหลังก็แล้ว แต่พี่ท่านก็ยังไม่ละความพยายาม กระชากคอเสื้อผมทีเดียวกลับไปอยู่ที่เดิมเลย ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองหน้าอีกฝ่ายด้วยความหวั่นใจ กำลังสงสัยอยู่ว่ามันเอาคืนผมหรือเปล่า


            “นิ่งได้แล้วไง?” มันเลิกคิ้วถาม


            “ก็…” นั่นดิ กูนิ่งทำไมวะ


            “มึงจะนั่งเป็นหมาเปียกน้ำอีกนานมั้ย หรือจะให้กูอาบให้จริงๆ” กันๆ มันถามย้ำอีกครั้ง สายตาที่จ้องตรงมาบ่งบอกเลยว่ากูไม่ได้ขู่มึงนะ กูเอาจริง ผมล่ะอยากตะโกนเรียกปู่ขึ้นมา ดูมันทำดิ บ้านช่องไม่ยอมกลับมายืนขู่กูหาง้าวกวนอูหรือไง


            “กันๆ มึงอาสาอาบให้เหมือนมึงว่างอะ หรือเห็นกูเป็นหมาแบบที่พูดจริงๆ”

            “ก็เหมือนหมาอยู่” มันตอบหน้าตาเฉย

            “พ่อมึงดิ!”

            “อยากตายใช่มั้ย” แง่ะ ผมหน้าซีด แค่พลั้งปากด่าออกไปนิดเดียวเอง ไอ้โหดตรงหน้าก็เพิ่มเลเวลความโหดขึ้นไปอีก ผมยิ้มประจบเหมือนกับว่าเมื่อกี้เราไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย


            “มึงหูฝาดแล้วกันๆ”

            “กูได้ยินชัดเต็มสองหู” แน่ะ มีเถียง


            “กูขอโทษ~ กูเจ็บขาอยู่นะ อย่าทำอะไรกูเลย กูยอมเป็นหมาเป๋าก็ได้”  รีบเปลี่ยนบทแทบมิทัน คิดดู ถ้าผมหือกับมันมากๆ จะโดนหนักขนาดไหน แค่นี้มันก็สกัดผมตกลงไปในบ่อปลาขาเจ็บอย่างที่เห็น หนักกว่านี้มันไม่ถีบให้รถชนเลยหรือไง ใจร้าย~


 

            พรึ่บ


            “เฮ้ๆ…” ทำเรื่องให้กูประหลาดใจตลอดเลย จู่ๆ ร่างสูงก็ย่อตัวลงไป คุกเข่าอยู่ตรงหน้าแล้วจับขาข้างที่เจ็บของผมไปดู ใจผมเต้นตึกตักด้วยความเสียว กลัวว่ามันจะจับแรงๆ ให้ผมเจ็บเลยต้องก้มลงไปดู ถ้ามันจะทำจริงๆ จะได้ยกเท้าหลบทัน กันๆ มันจับๆ พลิกๆ ดูอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา


            ผมชะงัก เพราะใบหน้าของผมอยู่ห่างจากมันเพียงนิดเดียว


 

            “ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก นวดยาไม่กี่วันก็โอเค”


            “ทำ…ทำไมมึงรู้ล่ะ เป็นหมอหรือไง” เดี๋ยวๆ ทำไมกูติดอ้าง สูญเสียความเป็นไอ้วิปไปชั่วขณะ หมาบ้ามันมองกลับด้วยสีหน้าเบื่อๆ ก่อนจะถอนหายใจใส่หน้าผมแบบเต็มๆ มาอีกหนึ่งที


            ผมหลับตาลง…แล้วหน้าแดง

            มันอุ่นๆ วูบๆ ยังไงก็ไม่รู้

            “มึงยังกระโดดอยู่หน้าบ้านได้คงไม่ใกล้ตายหรอก ไปอาบน้ำ” คราวนี้เสียงโหดๆ ดังขึ้นเหนือหัว แสดงว่ามันลุกออกไปแล้ว แต่ผมยังนั่งมึนอึนอยู่กับที่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่…


            …มันอุ้มกูอีกแล้ว!

 

            “ไอ้เหี้ยกัน!”


            “มึงดิเหี้ย!” มันสวนกลับด้วยเสียงที่ดังกว่า โด่! เสียงดังกว่าคิดว่าข่มกูได้หรือไง ร่างสูงพาผมเข้ามาในห้องน้ำ แล้วลองคิดดู ห้องน้ำบ้านผมใช่ว่าจะใหญ่แบบบ้านมัน เข้ามาสองคนก็แทบจะเต็มแล้ว ขยับก็ลำบาก มันจับผมไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวพิงกำแพงพอดี


            “กูอาบเองได้” ผมยืนยันด้วยเสียงที่จริงจังและจริงใจ มึงออกไปเถอะกันๆ พลีส~


            “เหรอ” แต่พี่ท่านตายด้าน ไม่รับรู้ถึงความจริงใจที่ส่งผ่านไปให้ทางแววตา มันแสยะยิ้มอันน่ากลัวออกมา เห็นแล้วอยากจะร้องไห้


          แกล้งกูแน่ๆ

            “ถ้ามึงแกล้งกูอีกล่ะก็ กูเรียกปู่จริงๆ ด้วย”

            “เด็ก” กระแทกหน้ากูจังๆ เลยคำนี้

            ไอ้กันมันไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยกับคำที่ผมขู่มันออกไป มือหนายกขึ้นมาอยู่ในระดับกระดุมเสื้อเม็ดแรก ผมเบิกตากว้าง ตีมือมันดังเพี้ยะไปหลายที แล้วพี่แกก็เอาคืนด้วยการดีดหน้าผากผมกลับมาอย่างแสบ


            “สัดกัน!”


            “มึงจะโวยวายทำไม มึงคิดว่าน้ำที่มึงตกลงไปสะอาดมากงั้นดิ อยากนอนคันทั้งตัวหรือไง” คำพูดคำจาฟังดูช่างน่าซึ้งในความห่วงใย แต่เก็บไปใช้กับคนอื่นเหอะกูไม่ต้องการ ห่า! แสยะยิ้มทั้งตาทั้งปากแบบนั้นใครจะเชื่อมึงลง คนเลว~


            “กูรู้น่า กูอาบเองได้ เพราะฉะนั้นมึงย้ายตัวเองออกไปจากห้องน้ำได้แล้ว นี่กูห่วงมึงนะ กูกลัวมึงเปียก” ผมดันๆ แผงอกของมัน เห็นมั้ยกูหวังดี กูคนดีที่สุดแล้ว ผมยิ้มเมื่อเห็นว่าไอ้กันมันพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ แบบเห็นด้วย แต่แล้วรอยยิ้มก็เลื่อนหายไปเมื่อมันพูดออกมา


            “นั่นสินะ” อย่าจ้องหน้ากูบ่อย กูใจไม่แข็งพอ อะหื้อออ~


 

            พรึ่บ


            “เฮ้ยๆ! มึงทำอะไรเนี่ย” ผมร้องลั่น คว้ามือมันที่กำลังปลดกระดุมเสื้อตัวเอง มึงร้อนเรอะสาด

            “เดี๋ยวเปียกไง” มันตอบหน้าตาย กูล่ะอยากเอาขวดแชมพูฟาดหัวมึงจริงๆ

            ผมเริ่มดิ้น (กูควรจะดิ้นตั้งนานแล้วนะ) แล้วพยายามห้ามไม่ให้มันแกะกระดุมเสื้อ แต่ดูจากท่าทางของมันแล้วไม่ได้จะถอดจริงๆ หรอก คงจะแค่แหย่ผมเล่น เมื่อผมเริ่มดิ้นหนักเข้าไอ้กันก็คงจะรำคาญ เลยรวบตัวผมไว้ในอ้อมแขนซะเลย


          มึงงง~ กอดอีกแล้ว ไอ้สลิด!

            “มะ…มึง” ใกล้ไปๆ

            ไอ้กันมันก้มลงมาจ้องหน้าผมนิ่งๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่กำลังแกล้งหายไป เหลือเพียงใบหน้านิ่งๆ ตามแบบฉบับเจ้าตัวเท่านั้น ผมกลืนน้ำลายลงคอแบบหวั่นๆ หวั่นใจว่าไม่รู้จะเจออะไรอีก แต่ถึงจะหวั่นผมก็ยังจ้องตามันไม่ยอมหลบ


            ไม่ใช่ว่าไม่อยากหลบนะ แต่มันค้างง่ะ


            ผมใจเต้นตึกตักเมื่อใบหน้าหล่อๆ นั่นเริ่มขยับเข้ามาใกล้ๆ มันเองก็ไม่ได้จ้องไปที่อื่นเลยนอกจากตาผม ผมเม้มปากแน่น รู้สึกรนๆ เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อนดี มันขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ รดรินอยู่ที่ปลายจมูก ทำเอาใบหน้าผมร้อนวูบวาบ


 

          กึก


            ไอ้กันจู่ๆ มันก็ชะงักไป นิ่งค้างอยู่แบบนั้นก่อนจะผละถอยออกไปนิด

            “มึงหน้าแดงทำไม”

            “ห้ะ” ผมเอ๋อแดก

            ไอ้กันปล่อยผมออกจากอ้อมแขน ขยับถอยห่างออกไป ผมกะพริบตาปริบๆ มองอีกฝ่ายแบบตามไม่ทัน มันกลับไปเป็นไอ้กันหน้านิ่งจอมหงุดหงิดคนเดิมแล้ว เบือนหน้าหนีไปอีกทางเหมือนไม่อยากจะมองหน้า


            กันๆ ใจร้าย~

 

            “มึงหน้าแดงทำไม” มันถามย้ำอีกครั้ง

            “หน้าแดง?” ผมทวนคำแล้วยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเอง

            “เออ”

            “กูเหรอ” ถามย้ำอีกครั้ง

            “อาบน้ำซะ” มันสั่งอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป ผมแตะๆ แก้มของตัวเองอีกครั้ง สรุปกูหน้าแดงจริงๆ เหรอ เขินมันเหรอวะ ไม่มั้ง แค่…วูบๆ เอง


            ผมอาบน้ำเสร็จเดินออกมาก็ไม่เจอไอ้กันมันแล้ว สงสัยกลับบ้านไปแล้ว ผมยักไหล่แล้วเดินไปหาเสื้อผ้ามาใส่ อย่างน้อยๆ มันก็ยังมาส่งถึงบ้าน ถึงแม้ว่ามันจะตามขึ้นมากวนตีนต่อก็เหอะ


            เห็นมั้ยนา กูหาคนที่ดีให้มึงเลยนะ ซึ้งมั้ย




………………………




            และก็เป็นอย่างที่ไอ้กันมันบอกจริงๆ ด้วย แค่ไม่กี่วันขาผมก็ไม่เจ็บแล้ว กลับมาเป็นไอ้วิปผู้สนุกสนานกับทุกเรื่อง วันหยุดแบบนี้ปกติก็จะอยู่บ้านดูหนังและทะเลาะกับปู่ แต่ตอนนี้เรามีเพื่อนใหม่แล้ว แถมบ้านอยู่ใกล้ๆ กันอีก เราก็ควรจะออกไปทักทาย


            ผมเดินมาที่บ้านของไอ้หมาบ้า แล้วก็เกือบจะสะดุดฝุ่นเมื่อมองเข้าไปเห็นคุณลุงที่ผมเคยคิดไปว่าเป็นพ่อของไอ้กันกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ผมลูบหน้าลูบตา ทำเนียนว่าลืมเรื่องนั้นไปแล้ว


            “ลุงค้าบบบ~ ลุงๆ สวัสดีครับ” ผมร้องทักแล้วเดินเข้าไปเกาะประตูรั้ว ลุงแกก็หันมามองแบบงงๆ ก่อนจะร้องอ๋อเมื่อระลึกได้


            “เพื่อนคุณกันใช่มั้ย ที่เอ๋อๆ หน่อย”

            เดี๋ยวลุงเดี๋ยว ใช่กูเหรอ

            “แฮ่~” ตอบกลับได้แค่นี้จริงๆ กู

            “มาหาคุณกันเหรอ กำลังออกกำลังกายอยู่มั้ง เข้ามาสิๆ” ลุงแม่งเชื้อเชิญเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ผมยิ้มร่าเดินเข้าไป ลุงบอกมาแค่มันออกกำลังกายอยู่ ผมจะรู้มั้ยว่ามันไปออกอยู่ตรงไหนของบ้าน


            “ลุงทำอะไรอะ ให้ผมช่วยมั้ย” เสนอหน้าได้อีก


            “ไม่เป็นไรๆ ใกล้จะเสร็จแล้ว” ลุงแกโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แต่ผมก็ยังเสนอหน้าอยู่ดี เข้าไปยืนใกล้ๆ ลุงแกก็เหล่แบบเหมือนจะบอกว่าระวังเปียกนะ


            “ลุงครับๆ นี่ต้นอะไรอะ” ผมชี้ไปที่ต้นที่มันมีดอกสีชมพูแดงๆ มองๆ ไปมันก็สวยดี ยื่นนิ้วออกไปแตะๆ ที่กลีบ แอบเห็นนะว่าลุงแกเหล่มองเหมือนกลัวผมเด็ดมันไป โด่ลุง~ เดี๋ยวก็ปั๊ดเด็ดแม่งหมดเลยหนิ


            “ชวนชมน่ะ สวยใช่มั้ยล่ะ ลุงดูแลเองเลยนะ” แน่ะ มีอวด

            “เหรอครับ”

            “แล้วรู้มั้ยล่ะว่าต้นนั้นต้นอะไร” แล้วลุงแกก็ชี้ไปที่ต้นสูงๆ ด้านหลังนู้น

            “ต้นไม้ครับ”

            อ้าว ลุงหน้าอึน ทำไม ตอบผิดเหรอ


            “มึงมาทำไมไอ้เตี้ย” บทสนทนาของผมกับลุงถูกหยุดด้วยเสียงโหดๆ ที่ดังขึ้นด้านหลัง (เอาจริงๆ มันหยุดตั้งแต่ตอบต้นไม้แล้ว) ผมหมุนตัวกลับไปยิ้มแฉ่งให้กับเจ้าของเสียง กันๆ มันยืนกอดอกทำหน้านิ่ง เสื้อกล้ามที่ใส่เปียกชุ่มได้ด้วยเหงื่อ ใบหน้าก็ด้วย


          โอ้ว เซะซี่นะตัว~

            “กันๆ ออกกำลังกายเสร็จแล้วไง” ผมเดินดุ๊กดิ๊กๆ เข้าไปหา

            “มึงมาทำไม” ไม่ตอบแต่ถามกลับมาอีกครั้ง


            “เอาขนมมาฝาก” ผมยิ้มอีกครั้ง ไม่รู้ทำไม แต่พออยู่ต่อหน้ามันแล้วอยากยิ้มให้มันเยอะๆ แบบไม่มีเหตุผล อาจจะเป็นเพราะพี่แกไม่ค่อยยิ้มมั้ง ผมเลยต้องเป็นคนยิ้มแทน


            “อะไร” ผมล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบออกมาให้มันดู


            “ทิวลี่ อร่อยนะ” หยิบมาสดๆ ร้อนๆ จากบ้านเลยด้วย ไอ้กันมองของในมือผมก่อนจะถอนหายใจ มีครั้งไหนบ้างวะที่เจอแล้วจะไม่ถอนหายใจใส่กันเนี่ย แล้วพี่แกก็ยื่นมือออกมาดีดหน้าผากผมอีกครั้ง ผมเบ้หน้า


            “ถ้ามาเพื่อเอาขนมแบบนี้มาให้กู มึงกลับไปเหอะ เกะกะ”


            ดูมัน นี่ของอร่อยเลยนะทิวลี่สีน้ำเงินเนี่ย ผมถูๆ หน้าผากก่อนจะยิ้มกว้างส่งไปให้


            “ขนมน่ะข้ออ้าง จริงๆ คืออยากมาเจอ”

 

            กึก


            กันมันชะงักไป ก่อนจะหรี่ตามองหน้าผมเหมือนจะจับผิด ไอ้ผมก็สเต็ปเดิมเลย ยิ้มร่ากะพริบตาปริบๆ กลับไป กูไม่รู้ กูอารมณ์ดี


            “จะได้รู้ด้วยไงว่ามึงกับไอ้นาไปถึงไหนกันแล้ว”


            “เสือก” มันด่าเสร็จก็หันหลังเดินหนี ผมก็ตามครับ ตามมันมาจนถึงห้องมันนั่นแหละ ไอ้เจ้าของห้องมันก็คงจะเอือมผมไปแล้ว เลยไม่ได้ด่าอะไร พอเข้ามาไอ้กันก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป


            ผมยักไหล่แล้วขึ้นไปกลิ้งบนเตียงของมัน

            ถ้ามันเห็นนะ รับรอง โดนดีดตกจากเตียงแน่ๆ

 

            Rrrrrrr


            กำลังกลิ้งเล่นอยู่โทรศัพท์ก็ดัง หยิบออกมาดูชื่อคนโทรเข้าผมก็ยิ้มกว้างเลย มาได้จังหวะจริงๆ เพื่อนนา


            “ฮัลโหลคนสวย”


            [มึงอยู่ไหนไอ้วิป เมื่อกี้กูโทรเข้าบ้านมึง ปู่บอกมึงออกไปแรดข้างนอก] นั่นคำพูดมึงหรือคำพูดปู่วะเอาดีๆ ถ้าเป็นของปู่นี่ก็ใจร้ายมากเลยนะด่าหลานรักของตัวเองได้


            “ก็มาบ้านไอ้กัน ทำไม มึงมีอะไรหรือเปล่า”


            [หืม? มึงไปทำไม เดี๋ยวมันก็ดีดมึงออกจากบ้านหรอก มันยิ่งไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายอยู่ด้วย] ไอ้นารีบพูดออกมาแบบจะเตือนๆ ผมขมวดคิ้วแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มล้อเลียน เหมือนไอ้นามันจะเห็นเลยเนอะ


            “แอ๊ะแอ๋~ นานา~ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากันๆ มันไม่ชอบให้ใครวุ่นวาย อะแน่ะๆ ไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย รู้อกรู้ใจด้วย” ได้ทีกูต้องแซวนะ


            [มึงนี่เสือกตลอดเลยนะ] ไอ้นานาพูดแบบขำๆ ไม่วีนไม่เหวี่ยงแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ดี ปกติคุยเรื่องผู้ชายแม่คุณจะองค์ลงตลอด แตะต้องไม่ได้เรื่องนี้ แต่ตอนนี้…แม่คุณเปลี่ยนไป หมาบ้ามันก็โอเคเหมือนกันนี่หว่า


            “ก็ๆ…ก็อยากรู้ไง เพราะกูก็เป็นคนแนะนำมึงอะไรแบบนี้”


            [หึๆ วิปเอ้ย]

          อะไรๆ


            “แล้วนี่มึง…รู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างล่ะ” ผมพลิกตัวนอนคว่ำคว้าหมอนใบใหญ่นุ่มๆ ของไอ้กันมากอดแล้วฝังหน้าลงไป สูดกลิ่นประจำตัวของมันเข้าเต็มปอด เปล่าเสพติด แต่แค่ชอบ


            [ก็…หลายอย่างนะ]


            “เหรอ อืมมม กูไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับมันเลย” ผมว่าอย่างหงอยๆ และมันก็ออกไปเองโดยที่ผมไม่ทันคิด มารู้ตัวก็ตอนที่ไอ้นานามันหัวเราะกลับมา


            [หึๆ วิปเอ้ยวิป มึงจะไปอยากรู้เกี่ยวกับกันมันทำไม] เออ นั่นดิ

            “ไม่รู้ว่ะ”

 


            แกร๊ก


            ผมผงกหัวขึ้นมา หมาบ้ามันเดินออกมาจากห้องน้ำแบบเซะซี่อีกแล้ว นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า พี่แกไม่ได้อายสายตาของผมที่จ้องมองไปเลย กลายเป็นผมซะเองที่รู้สึกอายเมื่อมองมัน


            [ไอ้วิป ทำไมเงียบ มึงทำอะไร]


            “ห้ะ อ๋อ…เปล่าๆ”


            “มึงคุยกับใคร” มันเหล่มาถามขณะใส่เสื้อ เหมือนถามไปงั้นแหละไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมเด้งตัวขึ้นมานั่ง ไม่ลืมหยิบหมอนของมันติดมือมากอดไว้ด้วยเหมือนเดิม


            “ไอ้นานา คุยมั้ยๆ” ผมยิ้มแล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้มัน แค่แกล้งมันเล่นเท่านั้นแหละดูอาการ แต่พี่ท่านเอาจริงว่ะ ใส่เสื้อผ้าเสร็จก็คว้าโทรศัพท์ผมไปแนบหูเลย


            “ฮัลโหล” มันกรอกเสียงลงไป เหลือบมามองทางผมแวบหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง ผมอ้าปากค้างหน่อยๆ มือก็ค้างอยู่กลางอากาศท่าเดิมที่ส่งโทรศัพท์ให้


            โด่ว~ ต้องหนีออกไปคุยข้างนอกด้วย


            ผมเบะปากเซ็งๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนต่อ ไอ้กันมันหายไปสักพักใหญ่ๆ เลยกว่าจะกลับเข้ามา โยนโทรศัพท์คืนให้ด้วยใบหน้านิ่งๆ เหมือนเดิม แล้วเดินไปเปิดคอม หันหลังให้ผมแบบสมบูรณ์เลย


           

“นี่ๆ”

            “…” มันเงียบ

            “กันๆ”

            “อะไร”

            “คุยอะไรกันอะ”


            “ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” มันตอบกลับแบบไม่ได้หันมา แหมๆ มึงโตตายแหละฟายยย ผมลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง ไอ้กันตั้งอกตั้งใจทำอะไรวะ ด้วยความสงสัยผมจึงลุกขึ้นไปดู เห็นมันนั่งพิมพ์งานอยู่ผมเลยไม่อยากกวน


            กลับมานอนต่อเหมือนเดิม แฮ่~


            จนเวลาผ่านไป ไอ้กันมันเลิกทำและเปิดเพลงฟังแทนนู้นแหละผมถึงได้กวนมันต่อ


 

            “กันๆ”


            “อะไร”


            “หิวเนอะ” ทิวลี่ที่เอามาฝากถูกผมแดกไปแล้วเรียบร้อย ร่างสูงหันกลับมามองผมด้วยสายตาที่ด่าว่ามึงมันตัวปัญหา คิดว่ามองกูแบบนั้นแล้วกูจะสะเทือนเหรอ ไม่เลย กูสตรองแล้ว


            “มึงไม่หิวเหรอ” ต้องหาแนวร่วมไรงี้


            “กลับบ้านไปดิ” แง่ะ ไม่ตอบแล้วยังไล่กลับอีก ทำแบบนี้กูเสียใจนะเนี่ย

            “กันๆ”

            “…”

            “เฮ้ย อย่าเงียบดิ ใจไม่ดีนะ” มันเหล่ครับ เหล่แบบรำคาญ แต่ปากก็ไม่ยอมตอบ ผมหน้ามุ่ย มึงอย่าให้กูต้องเอาจริงนะกันๆ


            “เฮ้ย! หมาบ้า”


            “แม่งเอ้ย!” ไอ้กันผุดลุกขึ้นด้วยท่าทางหัวเสีย ตรงดิ่งเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าถมึงทึง ผมเหงื่อตกปากสั่น กูจะโดนฆ่ามั้ยเนี่ย พอจะถอยหนีก็ไม่ทันพี่แก มันคว้าตัวผมไว้แล้วหิ้ว ย้ำอีกครั้ง หิ้ว! แรงมึงมีมากมายขนาดไหนกันวะเนี่ย มันกอดที่เอวแล้วยกผมขึ้นแบบง่ายดาย


            “เฮ้ย ปล่อยกูๆ ไม่ปล่อยกูงับนะ!”


            “ถ้ามึงไม่เลิกดิ้นกูจะโยน” แสสสสส นิสัยเสีย แต่มันก็ทำให้ผมนิ่งเหมือนปิดสวิตช์เลย มันพาผมลงมาที่ห้องครัว ในห้องมีคุณป้าคนหนึ่งกำลังยืนล้างจานอยู่


            “อ้าว คุณกันหิวแล้วเหรอ เดี๋ยวป้า…”


            “ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมทำเอง” มันพูดพร้อมกับปล่อยให้ผมลงมายืน ผมยิ้มกว้างไปให้ป้าแก ป้าเห็นผมยิ้มมั้งเลยต้องยิ้มตอบ และพอหันไปมองหน้าไอ้หมาบ้าหน้าโหดนี่ก็ต้องรีบย้ายตัวเองออกไป


            ป้าครับ อย่าทิ้งวิป


            “มึงจะทำอะไรวะ” หันไปถามกันๆ เมื่อมันเริ่มเปิดตู้เย็นหยิบไข่ไก่ออกมา มันไม่ตอบ แต่กลับใช้สายตาดุๆ จ้องเป็นการข่มขู่ว่าถ้ามึงเดินออกไปมึงได้ตายแน่ๆ ผมเบะปากแล้วยอมเดินไปนั่งรอแบบว่าง่าย


            มองดูไอ้กันที่ตอกไข่ใส่ชามแล้วเจียว มันคงจะทำอะไรง่ายๆ แบบไข่เจียวแน่เลย และพอเจียวเสร็จมันก็หันไปเปิดเตา หยิบกระทะออกมา ใส่น้ำมันเตรียมจะทอด


            “เดี๋ยวๆๆ มึงไม่ปรุงหน่อยเหรอ” ผมเตือนด้วยความหวังดี แต่ก็โดนมองแรงอีกแล้ว หัวหดอะเกน~


            แล้วมันก็หยิบน้ำปลามาใส่ เฮ้ยๆ ใส่ลงไปน่ะเกรงใจไตกูบ้างก็ได้ แล้วมันก็หยิบน้ำมันหอย (น่าจะมั้ง) มาใส่อีก จากนั้นก็คว้ากระปุกอะไรสักอย่างที่ข้างในมันเป็นเม็ดสีขาวละเอียด แล้วมันก็จัดการใส่แบบไม่กลัวของหมด


            นั่นน้ำตาลหรือเกลือน่ะบอกกูที

            ปรุงเสร็จเจียวอีกรอบให้มันเข้ากัน จากนั้นมันก็ทอด ไอ้คนที่อยู่หน้าเตาเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่คนที่นั่งดูแบบกูนี่เหงื่อตก

            ฉิบหาย อย่าบอกนะว่ากูต้องเป็นคนกินน่ะ

          ไม่ตายก็ตายแหละกูงานนี้


            มันผละออกไปตักข้าวใส่จาน ผมภาวนาให้มันตักมาสองจาน แต่พี่ท่านไม่ได้ยินคำภาวนาของผม มันตักมาแค่จานเดียว จากนั้นก็เดินไปตักไข่เจียวที่ทอดเสร็จร้อนๆ โปะลงไป


 

            กึก


            ไข่เจียว…ที่โคตรจะไหม้เกรียมถูกนำมาวางตรงหน้า แล้วมีหมาบ้าท่าทางน่ากลัวยืนคุมอยู่ใกล้ๆ ชีวิตเรานี่หนอ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้


            “แฮ่~” ผมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มประจบ

            “กิน” มันสั่ง

            “จริงๆ แล้วกูก็ไม่ได้หิวอะไรมากหรอกนะ จริงๆ นะกันๆ กูทนได้นะ ให้กูกลับบ้านไปกินตอนสี่ทุ่มกูยังทนไหวเลย กูกระเพาะเหล็กนะเว้ยไม่อยากคุย” เบี่ยงเบนเต็มที่


            ตึง!


            “แดก!” ไอ้กันเท้ามือทั้งสองข้างลงมาบนโต๊ะด้วยท่าทีคุกคาม สายตาดุโหดมาเต็มมาก ผมเบะปากแล้วส่ายหน้ารัวๆ แบบว่าเค้าขอโทษที่เร้าหรือ เค้ามิได้ตั้งใจ


            “เฮ้ยมึงงงง~” ผมเริ่มอ้อน

            “แดก!”

            จ้าาาา แดกแล้วจ้า


            ผมค่อยๆ ตัดไข่ (ไหม้ๆ) ด้วยจิตใจที่เต้นรัว พยายามทำให้ช้าที่สุดเพื่อยื้อชีวิตตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันใจพ่อวัยรุ่นใจร้อน มันแย่งช้อนไปจากมือ ตักไข่ชิ้นเบ้อเร่อมา มือหนาอีกข้างก็ยื่นออกมาบีบปากผมให้อ้าออกแล้วมันก็ยัดไข่เข้ามาเต็มๆ ปากผมเลย


            “อื้อๆๆ” ผมร้องในลำคอ ยังไม่ต้องเคี้ยวหรอก แค่นี้แม่งก็เค็มไปทั้งปากแล้ว ผมน้ำตาคลอ ไม่ได้เสียใจอะไร แต่มันเค็มมากเลยอยากจะบอกต่อ


            “ถ้าคายกูเตะ” มันขู่เพิ่ม


            เคี้ยวทั้งน้ำตา~


 

            แปะๆ


            “อร่อยมั้ยล่ะ หมาเป๋า~” มันตบแก้มผมสองสามที แล้วพูดแบบลากเสียงเหมือนที่ผมชอบทำเป็นการล้อ ตอนนี้บอกเลยว่าหลากหลายความรู้สึกมาก เวลาโดนไอ้ชานหรือไอ้อาร์คเรียกมันไม่รู้สึกอะไร แต่พอโดนไอ้กันเรียกแบบนี้แล้วมันเขินๆ ยังไงก็ไม่รู้


            เคยมั้ย เขินทั้งน้ำตาอะ





ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
วิปแม่งโคตรน่ารัก จะซื่อเซ่อซ่าไปไหน ใครจีบใครกันแน่น้ออออ

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สงสารวิปปปป :ling1: :hao7:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
วิปโครตฮาอะ อิออิอิอิ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
วิปฮ่าเอ๋อได้ตลอดเลย สงสารหมาเป๋าเลยกินเกลือล้วนๆๆ หมาบ้าก็เอาคืนซะ หมาเป๋าลิ้นแตกเเน่ๆๆเกลือเป็นกระปุกๆๆ ฮ่าๆๆๆ คู่นี้เขาจะเริ่มรักกันยังไงเนี่ย ฮ่าอย่างเดียว ลุ้นๆๆๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
น่าสงสารรร~  :mew4: :mew4:
ว่าแต่กันๆ กับ นานา เป็นอะไรกันน้า~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด