พี่โหดครับ มารักกับผมไหม?
ตอนที่18 คู่หมั้น คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในนิยายรัก
'ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด
เราต้องตั้งสติเพื่อจะมองเห็นแสงสว่าง'
- สุภาษิตจีน -
ดอกไม้
เธอช่างสวยงดงามเหลือเกินเมื่ออยู่ตรงนั้น
อยู่ไกลๆแค่เพียงได้มองเหมือนดั่งความฝัน
ถ้าเก็บเอาไว้ข้างกายก็คงร่วงโรยโดยพลัน
มันช่างคล้ายกับความรัก ในบางที
เธอ
แต่ละวันที่เคียงข้างกันเหมือนอยู่ในฝัน
อาจจะดีถ้าชีวิตเรานั้นหยุดแค่นั้น
ได้รักกันนานๆ.....
แต่เพราะมีบางสิ่งที่เหนือกว่ารักมากมาย
อยากให้เธอได้โปรดเถอะเดินจากฉันไป
ให้เธอเจอใครที่ดีกว่าฉัน
รักของเรามันเป็นไปไม่ได้
สำหรับฉันเธอคือดอกไม้
ที่สวยงามเกินกว่าใครในโลกนี้
และในความจริงที่ฉันก็รู้
แม้ว่าฉันต้องการจะเก็บเธอไว้
ต่อให้รักเธอมากเท่าไรต้องปล่อยเธอไปในวันนี้
รักของเราเป็นแค่ความฝัน ถึงอย่างไรก็ต้องจากกัน ฉัน.......
(ฉันรู้ดี-Spoonfulz)
เพล้ง!!!!
"เฮ้ย!! พี่ซุส"
ผมร้องอย่างตกใจเมื่อพี่แกปาโทรศัพท์ของตัวเองปลิวไปกระแทกกับกำแพงห้อง เพลงกำลังอินเลยนะโว้ยยยย(กูนึกว่ามึงจะห่วงโทรศัพท์)
"เพลงเหี้ยอะไร ห่วยแตก"
ผมหันไปมองพี่ซุส รูดซิปปากที่ทำท่าจะบ่นทันที
"ก็เพราะดีนี่นา"
ผมบ่นอุบ รู้สึกช่วงนี้พี่แกจะมีปมกับเพลงแนวนี้นะเนี้ย(อย่าว่าแต่พี่ซุสเลย ผมฟังเองยังเจ็บจี๊ดๆ)
"เพลงปัญญาอ่อน ไม่คิดบ้างหรอว่าคนที่โดนทิ้งไปจะรู้สึกยังไง"
จึก.........
เหมือนมีอะไรทิ่มเข้ามาที่อกผม เมื่อกี้พี่เขาคงไม่ได้พูดประชดผมหรอกเนอะ ผมแกล้งเนียนเดินไปหยิบมือถือที่ถึงฆาตไปแล้วขึ้นมาสำรวจดู หน้าจอแตกอย่างอเน็จอนาถ พี่ซุสมีมือถือสองเครื่องครับ เครื่องที่อยู่ในมือผม(ที่กลายเป็นศพไปแล้ว)คือไอโฟน และอีกเครื่องก็คือs6 แต่ผมมักจะเห็นคนโทรเข้าเครื่องไอโฟนมากกว่า นานๆถึงจะมีคนโทรเข้าอีกเครื่อง อยากรู้นะ ถามดีไหม?
"เสียดายว่ะ พี่แม่ง"
ผมบ่นแล้วมองน้องไอโฟนที่หน้าจอละเอียดตาละห้อย เอาเข้าจริงคืออีเฮียผมมันก็อยากจะซื้อมือถือใหม่ให้ผมหลายครั้งละ แต่ผมไม่เอา ผมอยากใช้ชีวิตง่ายๆมากกว่า ใช้มือถือฟอสซิล รองเท้าผ้าใบเน่าๆ ชุดเซอร์ๆเก่าๆอะไรแบบนี้ ผมชอบอะไรที่มันเก่า ยิ่งเก่ายิ่งคลาสสิก
"คิดจะตัดผมไหม"
โอ้ยยยยย เป็นปลื้มครับ ท่านเทพเงยหน้าจากไอแพดเพื่อถามกู!!! เยะโด้
"ก็คิด เฮียวาดบอกว่าตัดให้เหลือเลยบ่ามานิดนึง"
พูดถึงเฮียวาดแล้วคิดถึง โทรหาดีกว่า ไม่เอาหรอก กูยิงไป มันรวยมีปัญญาโทรกลับมาอยู่แล้ว
"โทรหาใคร"
แน่ะ ทำเป็นเสียงเข้ม หวงก็พูดม๊าาาา(ความสุขของไอ้ผ้า)
"โทรหาป๋า"
ตอบแล้วยักคิ้วให้ไปสองที พี่ซุสส่ายหัวแล้วก้มลงจ้องไอแพดต่อ กูอยากรู้ว่ามันมีอะไรดีวะ ไอ้ไอแพดน่ะ
[ผ้าน้องรักกกกกกกกกกกกกกกกกก]
เสียงเฮียแม่งดังออกมานอกโทรศัพท์เลยครับสัด!
"เฮีย(เสียงสูง)วาดดดดดดดด กูคิดถึง"
[กูก็คิดถึงมึงแทบใจจะขาด อยากให้มึงกลับมาสักที~~~]
"เดี๋ยวมึงเจอนางชฎา ทำไรอยู่อะ ว่างเปล่า"
[ว่างๆ กูเป็นเจ้าของโรงเรียนนะ หึหึ โอ้ย สบายโว้ยยยย]
ไอ้สัด มีการกวนส้นตีนผมด้วยการพูดดังๆอีกนะ =_=
"ไม่มาหากูแล้วหรอวะ"
ผมอ้อน คิดถึงมันอะ อยากให้มันมาอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะร้องไห้ให้มันเห็นใจ ดีไหม
[อะไรวะ ปิดเทอมก็มาหากูสิ อีกไม่กี่เดือนเอง]
"เอ๊อ กูมันเก่าแล้วนี่ เบื่อกูแล้วล่ะสิ คนหลอกลวงงงงงงงงง ซิก"
"ไอ้ผ้า........"
ชะอุย เสียงต่ำมาเชียว โอ้ยยย ผ้าปลื้มมมมมมมม
[ตกลง......เรื่องไอ้ซุส มึง....?]
"กูไม่รู้วะ ถ้าเจ็บก็ให้มันเจ็บทีเดียว หรือจะเจ็บหลายๆทีก็ได้ กูยอม"
[เชี้ยเอ้ย ฟังแบบนี้แล้วไม่สบายใจเลยวะ มึงอย่าอยู่คนเดียวนะ]
"มึงก็ย้ำกูจัง ไม่อยากให้กูอยู่คนเดียวก็มาอยู่กับกูสิ"
"ไอ้ผ้า......."
"โห ไรวะพี่ซุส นี่ผมคุยกับพี่ชายนะ จะขู่ทำไมนักหนา"
ผมหันไปบ่นกับพี่ซุส แหม อุตส่าห์สละเวลาจากไอแพดมาให้กูแป๊บนึง ไอ้ผ้าปลื้มอีกแล้ว
[เออ เดี๋ยวกูเคลียร์เอกสารแป๊บนึงแล้วจะรีบลงไปหามึงเลยน้องรัก อย่าอยู่คนเดียวนะ!!!]
มันย้ำ
"เออ กูรอนะ มาเร็วๆ"
ไม่อยากวางสายจากมันเลย แต่ก็ต้องวาง อย่าคิดว่าผมตกหลุมรักพี่ชายตัวเองนะ นั่นนิยายน้ำเน่าแล้ว ก็ไม่รู้ดิ ผมเครียดด้วยมั้ง เห็นผมร่าเริงแบบนี้ มันสะสมนะครับ อันตรายกว่าตอนที่ผมร้องไห้ซะอีก เฮียวาดมันรู้ มันเลยไม่ต้องการให้ผมอยู่คนเดียว
"พี่ซุสทำไร"
ผมตัดสินใจถามเมื่อทนไม่ไหวกับการที่พี่ซุสนั่งจ้องไอแพดแบบนี้ หลายวันแล้วด้วย แทบจะตลอดเวลาอะครับ
"เล่นหุ้น"
คำตอบสั้นๆแต่ก็ทำให้ผมเนรเทศตัวเองออกมานั่งไกลๆได้ กูเกลียดธุรกิจ กูเกลียดการใช้สมอง!!!! (เพราะกูโง่ จบ)
"รวยอยู่แล้วยังต้องเล่นหุ้นอีกหรอ"
ถึงมานั่งอย่างไกลแล้ว ก็ยังอดที่จะหันไปตะโกนถามไม่ได้ พี่ซุสชะงักไปแป๊บนึง ก่อนจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"มึงไม่รู้หรอก"
"พี่ก็บอกผมสิ"
"หึ ประวัติชีวิตกู มึงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเรียนรู้เลยล่ะ"
ผมจ้องหน้าเจ้าของประโยค ก่อนจะหันหน้าหนีอย่างเขินๆ มือขวาหมุนกำไลหยกที่ข้อมือเล่นไปมา พี่ซุสนะพี่ซุส รู้ไหมเนี้ยว่ากำลังยื่นเชือกมาให้ผม แล้วผมก็รับเชือกมา เพื่อผูกแขนไว้ตัวเองไว้กับแขนอีกคน แบบนี้ผมจะไปไหนได้วะ
"พี่ผ้าาาาาาาาาาาา ไม่เจอกันนานอีกแล้วววววว"
ไอ้สนวิ่งลงมานั่งข้างๆผม ผมหันไปมองมัน
"ไอ้เห้ กูไม่ได้ว่างขนาดนั้น"
"ผมคิดถึงพี่ผ้า รู้ป่าวว่าเพื่อนผมมันบ่นอิจฉาผมใหญ่เลยที่ได้พี่ผ้าเป็นพี่ระหัส"
เหรออออออออออ กูว่าตอนแรกเหมือนมึงจะโดนสมน้ำหน้านะ
"เออ กูเข้าใจ กูหล่อเหมือนลีมินโฮซะขนาดนี้"
"โห่พี่ผ้า ผมว่าพี่เหมือนนักร้องคนนึงอะ"
"ถ้ามึงจะบอกว่าซิน ซิงกูล่าก็ไม่ต้องพูด กูได้ยินจนกูกลับไปหัดร้องเพลงของพี่แกมาได้ทุกเพลงแล้ว ใช่ซี่ อย่าให้กูหล่อบ้างแล้วกันมึง"
"พี่ผ้าก็หน้าตาดีอยู่แล้วนี่นา แบบนี้แหละ ผมชอบ"
ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ เพราะไม่รู้จะตอบมันไปแบบไหน ผมอาจจะคิดมากไปเองกับคำว่าชอบของมัน มันอาจจะชอบแบบพี่น้องก็ได้ แต่ถ้าเกินเลยกว่านั้น ผมคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม
"ไงเพื่อน ไม่เจอนานเลย คิดถึงจัง"
ไอ้เต้ยักคิ้วจึกๆมาให้ผม คิดถึงจังของมึงนี่น่าหมันไส้มาก
"ไม่เจอนานเหี้ยอะไร กูเจอมึงทุกวันจนเบื่อแล้วปะ"
"พูดจาไม่น่ารัก"
"แต่มึงนี่ชักจะน่าถีบ"
"พี่เต้อย่ามาว่าพี่ผ้าผมไม่น่ารักนะ พี่ผ้าน่ารักจะตายยยยย"
ไอ้สนพูดขึ้นอย่างคนที่อยากมีบท สอดทุกเรื่อง เป็นยาสอดหรอ
"เออ ระวังเหอะ เดี๋ยวฟ้าจะผ่ามึง"
กูรู้ความหมายของมึงนะไอ้เต้ =_=
"เออ กูมีข่าวดีมาบอก"
เห็นสายตาของมึงกูก็พอจะรู้ว่ามันดีประเภทไหน =_= ประเภทไม่มีประโยชน์ใช่ไหม?
"ซินนี่กลับมาแล้ว เมื่อวานกูเจอพี่สาวมัน เลยถามถึง ปรากฎว่ามันกลับมาแล้ว"
"จริงดิ๊!! โถไอ้เหี้ย ไม่โทรหากูเลย เดี๋ยวงอนแม่งให้เข็ด!!!!!"
ผมทำหน้ากระดี้กระด้า
"ใครอะพี่ผ้า"
ไอ้นี่ก็เสือกจังเลย ไม่มีเรียนหรือไงเฮ้ย!
"เสือกว่ะมึง พูดไปมึงก็ไม่รู้จักหรอก เพื่อนกู"
"ก็ผมอยากรู้จักนี่"
ไอ้เต้ทำหน้าเด๋อไปเลยครับ มันมองผมสลับกับมองไอ้สนที่มีท่าทีแปลกๆ ก่อนจะหันไปพูดกับน้องรหัสผมแทน
"ซินนี่เป็นเพื่อนพวกกู เรียนม.ปลายมาด้วยกัน แต่พอเรียนม.ปลายจบมันก็เกิดอุบัติเหตุสมองมันเป็นอะไรไม่รู้ เลยไปรักษาตัวที่เมืองนอก เข้าใจไหมน้องสน"
"เข้าใจครับ แต่อยากให้พี่ผ้าพูดมากกว่า"
ผมแกล้งเอาฟอสซิล(โทรศัพท์)ขึ้นมาเล่นเกมงู ไม่ฟังคำพูดตัดพ้อกระเง้ากระงอดของไอ้สน อย่าให้กูต้องตัดมึงนะสน กูไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย ผมเล่นๆอยู่ก็เกือบสะดุ้งเมื่อมีคนโทรเข้ามา หอยหลอดเอ้ย!!!
"พิซซ่าฮัชสวัสดีครับ"
ผมเอ่ยทักปลายสาย
[คราวที่แล้วยังสูบส้วมอยู่เลย]
ใครคิดเหมือนผมบ้างครับว่าพักนี้พี่ซุสของผมเนี้ย พูดเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
"พอดีมีหลายธุรกิจนี่ครับ พี่ซุสมีไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า"
[เย็นนี้กูไปทำธุระนะ กลับเองได้ไหม]
"................"
ผมเม้มปากแน่น พี่ซุสไปทำอะไร ธุระที่ไหน กับใคร แม่ง ทำไมกูกลายเป็นคนน่ารำคาญแบบนี้วะ!!! ท่องไว้ผ้า มึงไม่ได้เป็นอะไรกับเขา ใจเย็นๆ
[กูไปคุยธุรกิจ กูจะซื้อบริษัทต่อจากคนรู้จัก เงียบทำไมมึง คิดมาก?]
"อะ........อะไร เปล่า ผมกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ ก็ดีแล้ว โชคดีนะพี่"
[อือ กลับบ้านดีๆ]
"คร้าบบบ อย่าลืมทานข้าวนะ"
พี่ซุสเออ ออไม่กี่คำก็วางสายไป ผมแปลกใจนะว่าทำไมพี่เขาถึงเหมือนรีบมีธุรกิจเป็นของตัวเองแบบนี้ ทั้งเล่นหุ้น ทั้งอะไรอีกหลายๆอย่างที่ผมเห็นว่า มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ พี่ซุสอายุแค่21 ฐานะทางบ้านก็ดี ไม่น่าจะรีบอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองขนาดนี้
"พี่ผ้า........."
ช่วงนี้รู้สึกว่าชื่อผมกำลังฮอตมาก ใครๆก็ชอบเรียก ถ้าจะเอาชื่อผมไปตั้งให้ลูกให้หลานผมก็โอเคนะ ตามสบาย
"อะไรมึง"
ผมหันไปตอบรับ
"กับพี่ซุส เป็นไงบ้างพี่"
มันถามผมเสียงแผ่ว ก้มมองมือตัวเอง ผมมองกับไอ้เต้มองหน้ากัน ก่อนผมจะหันมามองน้องระหัสตัวเอง
"ไม่รู้ว่ะ กูชอบพี่เขา ต่อให้เขาไม่ชอบกู กูก็ไม่เปลี่ยนใจ เหมือนว่าตอนนี้ เขาเป็นคนเดียวที่กูจะรัก"
ผมพูดกับมันตรงๆ เหมือนว่าสิ่งที่ผมคิดจะเป็นจริงขึ้นมา แล้วเหมือนไอ้เต้จะรู้เหมือนกัน
สนมันชอบผม แบบที่ผมชอบพี่ซุส........แต่ผมว่า มันเป็นความคิดชั่ววูบของเด็กที่กำลังโตเป็นวัยรุ่นมากกว่า
"มึงจะคิดมากทำไมล่ะสน มึงไม่ต้องไปห่วงกับมันหรอกว่ามันจะอกหักหรือเปล่า เรื่องความรักว่ะ ก็แบบนี้แหละ"
เต้มันทำเป็นไม่รู้ ซึ่งผมเองก็อยากทำแบบนั้น แต่ผมไม่อยากให้มันคิดว่าผมให้ความหวังมัน เพราะคนที่รู้จักกับผม ผมจะทำตัวสนิทมาก แบบแนบชิดกันเลย และถ้าผมทำกับไอ้สน มันคงจะเจ็บ
"เออ ยังไงก็สู้ๆนะพี่ผ้า สนเป็นกำลังใจให้ เดี๋ยวไปเรียนก่อนดีกว่า ว่างๆมากินเหล้ากันนะพี่ผ้า"
ดีที่มันไม่ได้เซ้าซี้อะไร มันไม่ได้งี่เง่าบอกให้ผมให้โอกาสมันแบบที่พระรอง(เพราะมันไม่ใช่พระรองไงคะอีบ้า)หลายๆเรื่องเป็น มันบอกให้ผมสู้ เหมือนกับบอกตัวเองให้สู้ไปด้วย
"เฮ้อ เวรกรรมอะไรของมันวะ ถึงได้มาชอบคนอย่างมึง"
ไอ้เต้บ่นทันทีที่ลับหลังรุ่นน้อง ผมยักไหล่ ถ้ามันมีเวรกรรม ชาติที่แล้วกูคงเป็นคนเผากรุงศรีมั้งถึงได้มาชอบพี่ซุสเนี้ย
ช่วงนี้หลายๆคณะแม่งดูยุ่งๆยังไงไม่รู้ ผมว่าเรื่องงานมหาลัยแน่ๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้ยุ่งด้วย(เพราะขี้เกียจ) ผมก็เอาแต่ทำงานของตัวเอง วาดรูป นั่งติสท์แตกอยู่ริมตลิ่ง เรื่องเหล้าไม่ต้องพูดครับ มีบ้าง ส่วนพี่ซุสหรอ?(ยักไหล่) ก็ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้เจอพี่มันอีกเลย ไม่รู้ตายหรือยัง (ไอ้ผ้า ตบปากสิบที)
ผมนอนมองฟอสซิลของตัวเอง หวังให้มีสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่ผมคุ้นเคย แต่ก็ไม่.........หายไปไหนของเขาวะ โทรหาก่อนดีไหม?
หรือจะไปหา?
โว้ย!! นี่กูกังวลเรื่องของเขาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่(ตั้งแต่แรกแล้วลูก)
ผมคว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์แล้วรีบวิ่งออกมาจากห้อง(ไม่รู้ว่าจะวิ่งทำไม)
"อ้าว พี่ผ้า ไปไหน"
เด็กข้างห้องที่กำลังไขกุญแจห้องอยู่หันมาถาม
"ไปเฝ้าเทพเจ้า"
คำตอบของผมคงทำให้มันสตั้นไปเกือบสิบวิ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ตรงไปที่น้องโน่แล้วควบ(?)มันออกมาทันที ถนนหนทางที่ผมคุ้นเคยปรากฎให้ผมเห็นเรื่อยๆ ก่อนจะเห็นตึกสูงของคอนโดที่คุ้นเคย
"อ้าว น้องงงง เป็นไงบ้าง พักนี้ไม่ค่อยได้เจอเลยนะ"
พี่ยามคนเดิม(ยังไม่โดนไล่ออกอีกหรอวะ)ทักทายผม ผมก็ยิ้มตอบ
"งานเยอะมากครับ แล้วนี่ พี่ซุสออกไปไหนหรือเปล่า"
"โอ้ย วันนี้น้องโชคดี คุณซุสเขาพึ่งกลับเข้ามาเมื่อเช้ามืดน่ะ ปกติไม่กลับหรอก นานๆกลับที คนรวยก็แบบนี้น่ะแหละ บางทีพี่ก็สงสัยนะ ว่าเขาเอาเวลาไหนนอน"
บางทีพี่ก็ขี้โม้ไปนะ แต่คราวนี้ผมให้อภัย เพราะความขี้โม้ของพี่ ทำให้ผมรู้ว่าพี่ซุสไม่ค่อยกลับห้อง
"ขอบคุณครับพี่ เดี๋ยววันหน้าซื้อราดหน้ายอดผักเจ้าอร่อยมาฝาก"
ผมรีบพูดแล้วเดินเข้ามาในตัวอาคาร พนักงานสาวสองคนหันมามองผมแล้วยิ้ม
"ดูเหมือนคุณวรชิตกำลังมีแขกนะคะ"
เธอพูดแล้วยิ้มแย้มเหมือนมีความสุขมากมาย ผมก้มหัวให้เป็นการขอบคุณแล้วเข้าไปในลิฟต์ กดเลขที่22โดยที่สมองไม่ต้องสั่ง พี่ซุสกำลังมีแขก............หลังจากที่หายออกจากบ้านไปไหนก็ไม่รู้หลายวันหลายคืน
คู่นอนหรอ?
เพื่อน?
ญาติ?
พี่น้อง?
พ่อแม่?
ดูเหมือนพี่ซุสจะมีอะไรให้ผมคิดแทนมากมายเลยนะ บางที พี่เขาอาจจะไม่คิดหรอก ผมมันบ้านั่นแหละ(ครั้งนี้ยอมรับ)
ติ๊ง............
ลิฟต์เปิดออกมาพร้อมกับชายหญิงคู่หนึ่ง ผมชะงัก ผู้ชายคนนั้นชะงัก เหมือนสิ่งรอบๆตัวหยุดการเคลื่อนไหว ดวงตาของผมมันเบิกโต แต่ริมฝีปากถูกกัดเอาไว้
"ไม่ลงหรอ?"
ผู้หญิงคนนั้นถาม แม้จะเป็นคำพูดและน้ำเสียงธรรมดา แต่ผมก็สามารถรับรู้ได้ว่าเธอหงุดหงิดรำคาญผมขนาดไหน(กูไปทำอะไรให้?)
"อ๋อ ไม่ล่ะครับ พอดีพี่ที่ผมมาหาเขาออกไปข้างนอกแล้ว"
คำแก้ตัวของผมแสดงให้เห็นว่าคนพูดนั่น ฉลาดมากแค่ไหน =_= ซึ่งเธอก็คิดแบบนั้น ถึงได้เบะปากเป็นคลื่นทะเลให้ผมแบบนี้ ปากผู้หญิงช่างน่ากลัวนัก..........
พี่ซุสเหมือนจะพูดอะไร สุดท้ายก็ไม่ได้พูด
"ซุสก็ลองไปคิดดูนะ เรื่องนั้น"
บรรยากาศดูอึดอัดขึ้นมาทันทีที่อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมา ไม่ต้องพูดจะง่ายกว่า
"................"
"เย็นชาไปก่อนเถอะ แต่สุดท้ายคุณก็ต้องหมั้น........"
"หุบปาก"
"ทำไม! หรือว่าฉันยังพูดไม่ชัดเจนพอว่าคุณจะเจอกับอะไรถ้าไม่หมั้นกับฉัน"
ผมแทบจะเข่าอ่อนเมื่อปากสีสดของผู้หญิงคนนั้นพูดออกมา ผมเม้มปากแน่น คิดในใจว่าทำไมลิฟต์มันถึงได้ลงช้าเสียจริง แค่22ชั้น แม่งนานอย่างกับ200ชั้น
"บอกให้หุบปาก!!!!"
ผมแอบสะดุ้งเมื่อพี่ซุสตวาดเสียงดัง เสียงของเขาดังเหมือนฟ้าผ่า
"ซุส!!! อย่ามาตวาดฉันนะ!!!"
ดูท่าเธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่!!! มึงช่วยไปกัดกันที่อื่นได้ไหม กูไม่ต้องการรับรู้!!!!
ผมมองตัวเลขที่ถอยหลังลงเรื่อยๆ อย่างใจจดใจจ่อ
5
4
3
"ผ้า มึงจะไปไหนต่อหรือเปล่า"
2
ผมหันไปมองพี่ซุสตรงๆ
"ไม่ครับ"ติ๊ง...............
ผมเดินตัวปลิวออกมาเมื่อลิฟต์เปิด แทบจะทันทีที่ประตูลิฟต์มีช่องว่างนั้นแหละ แม่งเอ๊ย! ได้ยินข่าวดีแบบนี้ข้าวเย็นไม่ต้องแดกละ คงได้แดกเหล้าแทน
"ผ้า เป็นไรวะ นานแล้วนะที่มึงไม่โทรเรียกกูให้มาหาแบบไม่บอกเหตุผลแบบนี้"
ไอ้เต้มันตาลีตาเหลือกเปิดประตูห้องผมเข้ามา เพราะก่อนหน้านั้นแค่5นาทีที่ผมโทรบอกให้มันมาหาที่ห้อง ผมหันไปมองเพื่อนรักที่นั่งลงข้างๆแล้วโผกอดมันทันที
"เหี้ย............ใครทำมึง"
มันถามทั้งๆที่น่าจะรู้คำตอบดี แม้ผมจะร้องไห้ง่าย แต่ว่ามีไม่กี่ครั้งที่ผมตั้งใจร้องขนาดนี้
"เต้............อึก กู กูทำเป็นมีความสุขต่อไปไม่ได้แล้ว"
ผมพูดได้แค่นั้นก็เอาแต่ร้องไห้ เต้มันหาสารพัดคำปลอบมาปลอบผม เอาเหล้ามาอ้างแต่ผมก็ไม่หยุด ร้องจนเสียงแห้งไปหมดแล้ว
"ผ้า คุยกับเฮียวาดไหม เผื่อเขาจะปลอบมึงได้ดีกว่ากู"
เต้มันเป็นคนแข็งๆ พูดจากระโชกโฮกฮาก กำปั้นทุบดิน แต่มันก็พยายามนั่งปลอบให้ผมหยุดร้องได้เป็นชั่วโมง
"เปิดกล้องให้กูด้วย"
ผมพูดขอ ไอ้เต้มันยักหน้าแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอยู่ไม่กี่จึก
"ว่าไงเต้ โหสัด สงสัยวันนี้ปูอลาสก้าคงบุกไทยแลนด์ อยู่ๆมึงวิดีโอคอลมาหากูเนี้ย"
เสียงเฮียวาดร่าเริงแจ่มใส ทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม(อ่าวเชี้ย)
"เฮ้ย...........เสียงน้องกูนี่หว่า ไอ้เต้น้องกูเป็นไร!!!"
"เออ จะพูดอยู่นี่ไงเฮีย คือ ไม่รู้ว่ะ เฮียคุยกับมันเอานะ"
แล้วมันก็หันกล้องมาทางผม ผมเห็นหน้าเฮียยิ่งปล่อยโฮหนักกว่าเดิม
"เฮีย..............ฮึก เฮีย กูเจ็บ กูไม่ไหวแล้ว"
ผมพูดคำสะอื้นคำแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ดูจากหน้าเฮียที่ขมวดคิ้วมุ่น กำมือแน่นขนาดนั้นก็เดาเอาว่าเฮียมันเข้าใจ
"ผ้า มึงตั้งสติ เดี๋ยวกูจะรีบลงไปหามึง อย่าอยู่คนเดียวนะสัด ไอ้เต้! มึงเฝ้าน้องกูไว้ อย่าให้มันอยู่คนเดียว แค่นี้นะ"
"อ่าว ไม่รอให้ตอบแล้วจะถามทำแมวอะไรล่ะวะ"
ไอ้เต้เกาหัว
"ขอกอดหน่อยดิ"
ผมบังคับตัวเองให้หยุดร้องไห้ เพราะถ้าผมร้องมากๆ จะปวดหัวครับ ไอ้เต้มันรีบดึงผมเข้าไปกอดตามคำขอ กลัวว่าผมจะร้องอีก
"เฮ้อออออ สงสารมึงว่ะ นี่ถ้ามึงมาชอบกูนะ กูจะรีบให้แม่ยกขันหมากไปขอมึงเลย"
"มึงเว่อร์"
"เออ กูเว่อร์ มึงหยุดร้องก็ดี...........เหล้าปะ?"
"หือ? เล่าเรื่อง?"
"ไอ่สาด กูหมายถึงแดกเหล้าไหม!!!"
"อือ ก็ดี"
ผมได้แต่เออ ออห่อหมกปลาหลดปลาไหลให้มันไป เพราะไม่อยากจะอยู่เฉยๆ ไม่อยากอยู่คนเดียว ผมอยากจะลืม แต่มันน่าหงุดหงิดตรงไหนรู้ไหม
ผมไม่อยากลืม!!!!!!! อีกใจของผมมันไม่อยากลืม และอยากเจอพี่เขาทุกวัน ผมเริ่มเกลียดตัวเองที่กลายเป็นคนโลเลแบบนี้ ทำไมวะ ทำไมพี่ถึงได้มีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้...............
[/font]
Click for Episode 19*************************************************************************
ฮัลโหลววววววววว ตอนนี้เป็นไงบ้าง แฮปปี้อะดิ อิอิ บอกเลยว่าถึงอีผ้ามันจะบ้าบอขนาดนี้ แต่ก็มีมุมน่าสงสารมากไม่น้อยเลยทีเดียว บอกแล้วว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง เฮ้อ รออีพี่เทพมันตบกลับมาแล้วกันนะผ้า ส่วนตอนหน้าใครเป็นแม่ยกอีเฮียบ้าง พอดีอีเฮียมันลดค่าตัว75%คนเขียนเลยรีบไปจ้างมันมาในตอนหน้า ทีนี้จะได้รู้ซะทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน เจอกันวันพุธจ้า
ปล.ติดตามแล้วห้ามเลิกติดตามนะยะ เค้ารักตัวทุกคนเยยยยยยยยยยย