❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณทีมใคร????

ทีมปิญญ์ # หล่อเลวแบบนี้ใช่เลย จัดหนักจัดเต็ม
26 (15.3%)
ทีมขนมผิง # แกมาทำร้ายชั้นเรอะ ไม่ยอม ฉันจะเอาคืน
38 (22.4%)
ทีมแฝดลูกหมู # ปล่อยให้พ่อๆไปเคลียกันเอง มุ้งมิ้งกันสองคน
106 (62.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 170

ผู้เขียน หัวข้อ: ❖กุหลาบซ่อนหนาม❖ Mp+ตบจูบ ❖ บทส่งท้าย : อาลัว บัวลอย ❖ 06-02 ❖  (อ่าน 291766 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
ต่อ
 

              กว่าที่คุณวุฒิจะยอมมาส่งขนมผิงที่คอนโดเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็น ขนมผิงหิ้วขนมถุงใหญ่ยืนมองรถของคุณวุฒิขับออกไปจนลับตา ดูท่าคุณหมอคงจะรู้ดีว่าลูกหมูของเขากินเยอะถึงได้ซื้อขนมมาให้สองถุงใหญ่ขนาดนี้

              ขนมผิงไม่ได้คิดจะนอนค้างที่คอนโดเลยสักนิดเพราะเขาต้องกลับไปหาลูกๆที่บ้าน แต่เขาเลือกให้คุณวุฒิมาส่งที่นี่ก็เพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้จักบ้านก็เท่านั้น ขายาวเตรียมก้าวเดินไปยังลานจอดรถ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอเข้ากับร่างสูงของใครบางคนนั่งอยู่บริเวณล็อบบี้ของคอนโด

              ขนมผิงไม่ได้ค้างที่คอนโดมาพักใหญ่หลังจากที่ปิญญ์ชานนท์บุกเข้ามาในห้องของเขาวันนั้น ดูท่าว่าปิญญ์ชานนท์คงจะมาดักรอเขาและติดสินบนให้กับพนักงานและรปภ.ของที่นี่ ถึงจะไม่พอใจแต่ขนมผิงไม่ได้ติดใจที่จะพาลให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะคนอย่างปิญญ์ชานนท์ เพราะยังไงเขาก็ไม่ค่อยจะได้มาที่นี่อยู่แล้วหากไม่จำเป็น

              ใบหน้านิ่งเฉยหันไปพยักหน้าให้กับชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งรอเขาอยู่อีกฟากของล็อบบี้ ก่อนจะเดินเบี่ยงออกเดินลัดเลาะไปยังด้านข้างของตัวตึกคอนโด

              เป็นเวลาเย็นมากแล้วจนแสงแดดสีส้มค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความมืด ระหว่างที่กำลังสาวเท้าไปข้างหน้า ขนมผิงปรายตามองมายังด้านหลังเล็กน้อย แล้วก็เป็นอย่างที่คิดที่ปิญญ์ชานนท์กำลังเดินตามเขามา

              ดูเหมือนว่าปิญญ์ชานนท์ต้องการที่จะจองล้างจองผลาญเขาให้ถึงที่สุดสินะ ทั้งที่เป็นฝ่ายผลักไสไล่ส่งเขากับลูกในวันนั้น แต่พอมาวันนี้กลับเป็นฝ่ายที่ยัดเยียดเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับชีวิตของเขาไม่จบไม่สิ้น

              ตกลงแล้วปิญญ์ชานนท์ต้องการอะไรจากเขากันแน่!! หรือว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายต้องการที่จะทำให้เขาย่อยยับไปมากกว่าสามปีที่แล้วกัน

              “ไง หายหน้าไปหลายวัน คิดว่าจะจับเหยื่อใหม่ๆได้แล้วซะอีก ทำไมถึงได้กลับมาหาน้องชายฉันซะล่ะ”

              สิ้นเสียงคุกคามแขนของผอมก็ถูกดึงให้หันกลับไปเผชิญหน้า

              “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะครับ…คุณปิญญ์”หันไปตอบด้วยน้ำเสียงยียวนไม่ต่างกัน

              ทั้งขนมผิงและปิญญ์ชานนท์หยุดยืนอยู่ริมสระน้ำของคอนโด  ในเวลาที่เย็นจัดเกือบจะมืดแล้วแบบนี้ยิ่งทำให้ไม่ค่อยเดินผ่านไปมาเลยสักคน

              “เกี่ยวสิในเมื่อนายเป็นเมียฉัน ฉันมีสิทธิทุกอย่างในตัวนาย มีสิทธิที่จะห้ามไม่ให้นายไปอ่อยคนอื่นไปทั่ว”

              คำพูดของปิญญ์ชานนท์ช่างเป็นเรื่องน่าขบขันที่ตอกย้ำให้ขนมผิงรู้สึกเจ็บจนจุก ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มขึ้นมาราวกับกำลังเยาะเย้ยในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด

              “คุณเป็นโรคจิตรึไงคุณปิญญ์ถึงได้ตามราวีผมอยู่ได้ ถ้าว่างนักคุณน่าจะเอาเวลาของคุณไปใส่ใจกับราคาหุ้นที่กำลังจะตกดีกว่านะครับ”

              “นายรู้ได้ยังไง!! อ้อจริงสิ ในเมื่อนายเองก็มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนี่ นายนี่วันหนึ่งได้เหยื่อยกี่รายกันนะ ฉันไม่อยากจะคิดถึงจำนวนเลยจริงๆ”พูดพร้อมกับเหยียดยิ้มดูแคลน

              ไม่เพียงแค่นั้น มือใหญ่ที่กุมแขนของผอมเอาไว้กลับบีบแน่นขึ้น ออกแรงดึงให้ขนมผิงเซเข้าไปหาจนใบหน้าปะทะเข้ากับแผงอก

              ขนมผิงเงยน้าจ้องมองอีกฝ่ายแน่นิ่ง ริมฝีปากยังคงไม่หยุดเหยียดยิ้มโต้ตอบแม้ว่าลมหายใจร้อนผ่าวจะเป่ารดลงมาบนใบหน้าก็ตาม

              “กี่รายผมก็ไม่รู้หรอกนะ…แต่ดูท่าคุณคงอยากที่จะเป็นรายถัดไป ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่ตามผมมา”

              ราวกับต้องการจะเยาะเย้ย ขนมผิงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าคมคาย ค่อยๆเบี่ยงหน้าหลบออกมาแล้วเป่าลมหายใจใส่หูของอีกฝ่ายเป็นการหยอกล้อ

               คนเรามักจะไม่ชอบในสิ่งที่เกลียด…เมื่อขนมผิงแสร้งเป็นในสิ่งที่ปิญญ์ชานนท์เกลียดปิญญ์ชานนท์ย่อมไม่พอใจ มือใหญ่ยอมปล่อยแขนของเขาออกก่อนจะออกแรงผลักจนขนมผิงเซถอยออกมาครึ่งก้าว

              ใบหน้าหล่อเหลาดูถือตัวเมื่อครู่แปลเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด นัยน์ตาคู่ดุจ้องมองมาที่เขาด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่แทนที่ขนมผิงจะกลัวกลับรู้สึกสะใจในโทสะของอีกฝ่ายที่ตัวเองได้กวนจนมันขุ่น

              “ใครบอกว่าฉันตามนายมา!! คนชั้นต่ำอย่างนายอย่ามาหลงตัวเองไปหน่อยเลย คนอย่างนายมันน่าขยะแขยง!!”

              “อ้อ ถ้างั้นคุณจะบอกผมว่าที่คุณมาที่นี่ก็เพราะว่าคุณมาหาคนรู้จักของคุณงั้นสิ อืมมมม น่าเชื่อถือดีนะครับ”ขนมผิงแสร้งพยักหน้า ยิ้มราวกับกำลังสวมใส่หน้ากาก

              “ชะ ใช่ ฉันมาหาคนรู้จักของฉัน เรื่องอะไรฉันจะต้องมาหาคนอย่างนาย!! ฉันไม่มีวันที่จะสนใจคนอย่างนายจนต้องตามนายมาหรอกนะ!!”ช่างเป็นคำพูดที่น่าเชื่อถือดีจริงๆกับใบหน้าที่ดูลุกลี้ลุกลน

              “ถ้างั้นก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องมาคอยระแวง…ว่าคนอย่างคุณจะมาหลงเสน่ห์ผมจนตามผมไปแทบทุกที่แบบนี้”

              “มันจะมากไปแล้วนะขนมผิง!!”ปิญญ์ชานนท์ตวาดกร้าวอย่างไม่พอใจ

              ร่างสูงใหญ่ปรี่เข้ามาหาขนมผิงด้วยความรวดเร็ว แต่นั่นก็ไม่เร็วเท่ากับร่างที่สูงใหญ่พอๆกันเดินเข้ามาประชิดแล้วคว้าแขนที่กำลังยื่นมาหาเขาเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที

              บอดี้การ์ดที่แทนทัพส่งมาให้สามารถแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่แรกเจอจนขนมผิงอดที่จะชื่นชมไม่ได้

              “นายเป็นใคร!!”ปิญญ์ชานนท์ถามด้วยความไม่พอใจเมื่อข้อมือถูกจับเอาไว้แน่นหนำซ้ำยังออกแรงบีบจนต้องนิ่วหน้า

              ดูเหมือนว่าปิญญ์ชานนท์คงจะไม่ค่อยชอบใจนักที่เป็นฝ่ายถูกกระทำซะเอง

              “ไม่รู้สิครับ อาจจะเป็นเหยื่อรายใหม่ของผมก็ได้ ใครจะไปรู้”ขนมผิงพูดพลางสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้ร่างของปิญญ์ชานนท์

              ใบหน้าคมเงยหน้าขึ้นจ้องมองอีกฝ่ายราวกับต้องการจะกวนอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่แล้วให้ปะทุมากขึ้น มือผอมยกขึ้นมาวางทาบลงบนแผงอกแข็งแรงอย่างเบามือด้วยท่าทียั่วเย้า

              เพียงเสี้ยววินาทีที่ปิญญ์ชานนท์กำลังเผลอไผลกับนัยน์ตาคู่โศกที่จ้องมองเข้ามาในดวงตา มือที่ทาบลงมาบนอกก็ออกแรงผลักให้เขาถอยไปยังด้านหลังอย่างไม่ใยดี เป็นจังหวะเดียวกับข้อมือที่ถูกบีบเอาไว้คลายออก

              ตูมมมมม!!

              ไม่ทันตั้งตัว เสียงผืนน้ำตกกระทบก็ดังสนั่นพร้อมกับละออกน้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

              ขนมผิงได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เขากำลังพึงพอใจที่เห็นหมาบ้าอย่างปิญญ์ชานนท์กำลังตะเกียกตะกายอยู่ในสระน้ำ

              ถึงแม้ว่าน้ำในสระนั่นจะไม่สามารถชำระจิตใจอันสกปรกของอีกฝ่ายได้ แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะชำระล้างกลิ่นกายอันกายน่าสะอิดสะเอียนไปได้บ้าง

-----------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 07:09:06 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จัดหนักๆเลยลูกผิง  :angry2:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
พระเอกต้องการอะไรเอ่ย

จะมาตอแยทำไม

ในเมื่อตัวเองเป็นคนผลักไสไล่ส่งไปเอง


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
เมื่อไหร่ ปิญ จะได้รับ ผลกรรมสักที รอมานานแล้ว ใจร้อน เกลียนคนนิสัยแบบปิญมาก ระรานคนอื่น ผิงเอาให้หนักเลยนะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ทำหวงก้าง อยากทำนิสัยเสียๆเองนิ

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
พระเอก? มันแค่คนหวงของที่เกิดเสียดายของที่ทิ้งแล้ว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ก็แค่หมาหวงก้างดีๆ นี่เอง ทำอะไรไวก็รอรับกรรมไปก็แล้วกัน

ปล.นักเขียนค่ะ รีบๆ ให้ปิญญ์ได้รับกรรมไวๆ นะคะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ปกติไม่มีใครเขามาคอยตามติดคนที่ตัวเองบอกว่าเกลียดกันหรอกนะคะปิญญ์

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จัดหนักเลยผิง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
อีคุณปิญญ์นี่ท่าจะโรคจิตนะค่ะ
ตามราวีอยู่ได้ ตกลงเกลัยดเขาหรือว่าอะไรเนี่ย
ท่าจะบ้า แบบว่าอิน นิสัยเสีย ปากร้าย
ซาดิส ให้ผิงสั่งสอนซะให้เข็ด
 :z6:  :z6:  :z6:

ออฟไลน์ white_destiny

  • รักไม่เคยมีจริง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 873
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +378/-199
ปิญญ์ นายเลวมาก
 :z6:

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
10 เจ็บใจ

 

              ภายในห้องทำงานของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงบนตึกสูงระฟ้า ปิญญ์ชานนท์นั่งกุมขมับกับปัญหาที่พึ่งจะเกิดขึ้นด้วยความหนักใจ

              เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาบุคลากรของฝ่ายการผลิตต่างพากันยื่นเรื่องลาออกกันอย่างกะทันหันเป็นจำนวนมากทำให้ทางบริษัทหาคนมาแทนไม่ทัน และถ้าหากว่าสิ้นเดือนพนักงานที่พากันลาออกพ้นสภาพการเป็นพนักงาน กำลังในการผลิตก็จะลดไปเกือบสามสิบเปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่าพนักงานที่ยังเหลืออยู่จะต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะผลิตสินค้าให้ทันออเดอร์ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

              และที่หนักใจที่สุดก็คงจะไม่พ้นคู่ค้าทางประเทศสิงคโปร์ที่กำลังจะดำเนินการต่อสัญญาระยะยาวที่กำลังจะหมดลงภายในอีกสองเดือน ถ้าหากทางฝ่ายนั้นรู้เข้ามีหวังการต่อสัญญาจะถูกเลื่อนออกไปจนกว่าจะหาบุคลากรมาแทนเพื่อเพียงพอต่อกำลังการผลิต หรือไม่หากเลวร้ายกว่านั้นการต่อสัญญาระยะยาวอาจจะถูกปฏิเสธไปก็ได้

              หากการต่อสัญญาระยะยาวถูกปฏิเสธก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือที่ถูกมณีรัตน์ดึงเอาไปเมื่อก่อนหน้านี้  และอาจจะรวมถึงผู้ถือหุ้นรายหลักๆของอนันตไพลินกรุ๊ปเองก็อาจจะไม่วางใจและอาจจะขายหุ้นเข้าท้องตลาดอีกด้วย

              ชายหนุ่มต่อโทรศัพท์เรียกเลขาคนสนิทด้วยท่าทีนิ่งเฉย ไม่อาจรู้ได้เลยว่าภายในของเขาจะร้อนรุ่มแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

              ตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยๆก็ต่างพากันไปซื้อหุ้นของทางมณีรัตน์และมีแนวโน้มว่าจะขายหุ้นของอนันตไพลินทิ้งกันหลายราย การอ่านเกมการตลาดในตอนนี้ดูเหมือนว่าทางฝ่ายนั้นกำลังไฟแรงและผลกำไรมีทีท่าว่าจะเป็นไปในแบบก้าวกระโดดเหมาะที่จะร่วมลงทุมากกว่าทางอนันตไพลิน

              หากเขาปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็ เรื่องนี้จะต้องกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่แน่นอน

              “เรียกผม มีอะไรเหรอครับคุณปิญญ์”

              เลขาหนุ่มเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายด้วยท่าทีระวังตัวกว่าที่เคย ความเคร่งเครียดจากตัวของผู้เป็นนายทำให้ห้องที่ปกติน่าอึดอัดอยู่แล้วกลับอึดอัดมากขึ้นเป็นเท่าตัว

              “ฉันต้องการรู้ว่าทำไมจู่ๆพนักงานของเราถึงได้พากันยื่นลาออกเกือบร้อยคนแบบนี้”คนเป็นเจ้านายโยนเอกสารรายชื่อพนักงานลงบนโต๊ะอย่างไม่พอใจ

              “ตอนนี้เท่าที่ผมทราบมา ทางมณีรัตน์ได้ปรับฐานเงินเดือนของพนักงานฝ่ายการผลิตสูงเพิ่มขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งสวัสดิการกลุ่มที่นอกเหนือจากประกันสังคม แล้วก็โบนัสรายปีที่เพิ่มขึ้นทำให้พนักงานของเราต่างก็พากันสนใจและยื่นใบลาออกกันน่ะครับ”

              “เป็นแค่องค์กรเล็กๆไม่ใช่รึไง ทำไมถึงได้กล้าปรับสวัสดิการพนักงานขึ้นสูงขนาดนั้นกัน”

              “ดูเหมือนว่าเมื่อไตรมาศล่าสุดราคาหุ้นของฝ่ายนั้นจะขึ้นมาสูงเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ทำให้พวกเขาค่อนข้างมั่นใจที่จะเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรของตัวเอง”มาลิศตอบ

              พอได้ฟังสิ่งที่เลขาคนสนิทบอกกล่าวความไม่พอใจของชายหนุ่มก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เขาอยากรู้ว่าประธานคนใหม่ของมณีรัตน์กรุ๊ปเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้กล้าทำในสิ่งที่มันเสี่ยงขนาดนี้

              แล้วอีกอย่าง สิ่งที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่มันเป็นการเย้ยอนันตไพลินอยู่ไม่ใช่รึไง เป็นเรื่องที่กล้ามากที่จะก้าวขึ้นมาเทียบรุ่นกับองค์กรใหญ่อย่างเขาทั้งที่เป็นแค่องการณ์ที่ทำเรื่องสกปรกเมื่อครั้งหลายปีที่แล้ว

              ถึงแม้ว่าปิญญ์ชานนท์จะอยากรู้ว่าว่าที่ประธานคนใหม่ของมณีรัตน์เป็นใคร แต่ต่อให้สืบยังไงก็ไม่มีแม้แต่ข้อมูลเล็ดลอดออกมาให้เขาได้รู้อยู่ดี และที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นก็คือการที่เขาต้องมารับรู้ว่าคนคนนั้นก็เป็นหนึ่งในคนที่ขนมผิงให้ความสนิทด้วย มันทำให้เขายิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเป็นเท่าตัว

              ไม่มีวันที่เขาจะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆเด็ดขาด เขาจะไม่ยอมคนที่เป็นแค่เหยื่อของขนมผิงชนะไปง่ายๆ เขาต่างหากที่มีสิทธิในตัวของขนมผิงคนเดียว…เขาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้าของของขนมผิง

              “เรื่องพนักงาน ติดต่อไปยังบริษัทจัดหางานให้หาคนมาเพิ่มให้ได้มากที่สุด บอกว่าทางเรายินดีจ่ายให้ ฉันต้องการได้คนก่อนที่สัญญาของเรากับคุณเฉียนจะหมดลง”

              “ครับ ผมจะไปจัดการตามที่คุณที่สั่ง”มาลิศรับคำก่อนจะหันหลังเตรียมที่จะเดินออกไป

              “อ้อ แล้วผลตรวจดีเอ็นเอที่ให้ไปตรวจล่ะ ว่ายังไง”ชายหนุ่มถามก่อนที่คนสนิทจะเดินออกไป

              “วันพรุ่งนี้ผลตรวจจะถูกส่งมาครับ ไว้ใจได้ครับ ครั้งนี้เจ้าหน้าที่คนที่ตรวจเขายินดีรับสินบนจากเรา”

              “อืม ไปทำงานของนายต่อเถอะ”ปิญญ์ชานนท์ตอบรับ

              ยังไงซะเงินที่เป็นปัจจัยสำคัญก็สามารถจัดการได้อยู่ดี

 

              หลังจากเลขาหนุ่มออกไปชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นนวดบนขมับด้วยความเคร่งเครียด หลายวันมานี้มีหลายเรื่องที่ทำให้เขาต้องเก็บเอามาคิด อีกทั้งเรื่อที่ขนมผิงทำเอาไว้กับเขาอย่างเจ็บแสบอีก กล้ามาไปแล้วที่ทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าด้วยการรวมหัวกับผู้ชายอื่นผลักเขาตกน้ำ แค่คิดก็หงุดหงิดใจขึ้นมาอีกระรอก

              งานที่รัดตัวในเวลานี้ทำให้เขาไม่สามารถผละออกไปเพื่อที่จะไปดูหน้าอีกฝ่ายได้เลยว่าตอนนี้กำลังอยู่กับใครและกำลังทำอะไร ทั้งที่พยายามจะทุ่มเทความคิดทั้งหมดลงกับงานเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ทว่าสมองกลับมีแต่เรื่องของขนมผิงเต็มไปหมด เขาไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าทำไมคนอย่างขนมผิงมีค่าอะไรถึงได้เข้ามาก่อกวนความคิดของเขา

ทำให้เขาวุ่นวายใจได้ถึงขนาดนี้ ชายหนุ่มส่ายหน้าให้กับความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านของตัวเองอย่างขุ่นเคืองก่อนจะลุกออกจากห้องไป

              ยังไงซะการที่เขาคลุกอยู่กับงานตลอดเวลาโดยที่งานไม่เดินมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย

              “จะไปไหนเหรอครับ”มาลิศถามเจ้านายที่เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีอิดโรยปนหงุดหงิดใจ

              “ฉันจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อย มีอะไรก็โทรตามแล้วกัน”

 

              ---------------------------------------------------------------

 

 

              ไม่นานปิญญ์ชานนท์ก็พาตัวเองมาที่ห้างสรรพสินค้าดังใจกลางกรุงไม่ไกลจากบริษัท เขาเดินไปที่ร้านกาแฟร้านประจำที่เขาเคยมาครั้งสมัยที่เขายังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อ หลายครั้งที่มักจะมานั่งอยู่ที่นี่เวลาที่ตัวเขาเองคิดไม่ออกหรือกังวลใจเพื่อที่จะมองดูผู้คนและเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร ใครจะเป็นอย่างไรโดยคาดเดาจากภายนอก

 

              ย้อนกลับไปเกือบสิบปีที่แล้วหลังจากที่เขาเรียนจบใหม่ๆ เขาได้ถูกพาเข้าไปแนะนำตัวที่บริษัทเพื่อที่จะเรียนรู้งานในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อ

           ในระหว่างที่เขากำลังจะลงไปชั้นล่างของตัวตึกและประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง

           “รอด้วยครับ รอด้วย อย่าพึ่งไป”เสียงตะโกนปนเสียงหอบดังขึ้นทำให้เขาตัดสินใจรีบกดเปิดประตูเพื่อที่จะให้เจ้าของเสียงมาทันลิฟท์

           ไม่นานใบหน้าขาวใสของเด็กผู้ชายในชุดมัธยมปลายก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าลิฟพร้อมกับหายใจหอบจนตัวโยน

           “ขอบคุณครับ”เด็กผู้ชายในชุดนักเรียนบอกก่อนจะก้าวเข้ามาในลิฟและยิ้มอย่างดีใจ

           และประตูลิฟก็ปิดลงโดยที่มีเพียงเขาและเด็กผู้ชายที่ยังคงหอบหายใจอยู่เล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องรอในเมื่อเขาเป็นถึงลูกชายของเจ้าของที่นี่ แต่เขาก็ทำไปแล้ว

           “ขอโทษนะครับ ช่วยบอกชื่อคุณกับผมได้ไหม”เสียงแหบห้าวพึ่งจะแตกหนุ่มเงยหน้าถามทำให้ปิญญ์ชานนท์แปลกใจ

           ทำไมจู่ๆเด็กคนนี้ถึงมาถามชื่อเขากัน หรือว่าต้องการจะตีสนิทกับเขาเพื่อหวังผลประโยชน์เหมือนคนอื่นๆอย่างที่พ่อเคยบอกเอาไว้

           “ทำไมฉันต้องบอกนาย”เขาเชิดหน้าตรงอย่างวางท่าที

           “นะครับ บอกผมหน่อย”เด็กหนุ่มอ้อนวอน

           นายจะรู้ไปทำไม”เขาเริ่มเอะใจ

           หรือว่าเด็กนี่ต้องการจะมาสานสัมพันธ์กับเขาในแบบชู้สาวกัน ถึงได้มีท่าทีอยากจะรู้จักเขาขนาดนี้ มันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่ใช่รึยังไง

           “นะครับ บอกผมหน่อยนะ ผมอยากรู้จักชื่อคุณจริงๆ”เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปหาลูกชายของผู้บริหารก่อนจะจับแขนเสื้อสูทแล้วดึงเบาเบาคล้ายกับเร่งให้ตอบ

           “ฉันชื่อปิญญ์ชานนท์”เขาตอบ แต่ไม่ยอมตอบนามสกุลถึงแม้ว่าการแนะนำตัวพร้อมกับนามสกุลเป็นสิ่งที่พ่อสอนเอาไว้เพื่อแสดงตัวให้เห็นว่าฐานะแตกต่างกับคนอื่นๆ

           “งั้นเหรอครับ แล้วนามสกุลล่ะครับ”เด็กชายถามท่าทีตื่นเต้นและยิ้มกว้างทำให้ปิญญ์ชานนท์นึกหวั่นอยู่ในใจ

           ใช่ว่าเขาไม่เคยมีคนเข้าหาเพราะฐานะ เพียงแต่เขากำลังคิดเข้าว่าเด็กหนุ่มคนนี้กำลังจีบเขาด้วยวิธีที่แปลกในแบบที่เขาไม่เคยเจอ

           “อนันตไพลิน”เขาตอบทั้งที่ยังแสดงออกถึงท่าทีเรียบนิ่ง

           “ใช่จริงๆด้วย ดีจังที่วิ่งมาทัน ไม่อย่างนั้นคุณคงจะแย่”เด็กหนุ่มตอบทำให้เขาเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เด็กหนุ่มพูด

           จนประตูลิฟท์เปิดออกโดยที่เขายังไม่หายสงสัยกับสิ่งที่เจอ

           “คราวหลังก็ระวังหน่อยนะครับจะแย่เอา นี่ครับอยู่ครบทุกบาท ทุกใบ เช็คดูได้ครับ ผมเจอในห้องน้ำ คิดว่าเป็นของคุณไม่แน่ใจเลยถามชื่อดูน่ะครับ”

           มันรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้ตั้งสติ มือของเขาก็ถูกมืออุ่นๆของเด็กคนนั้นดึงไปแล้วยัดกระเป๋าเงินใบคุ้นตาใส่ลงในมือ

           “ไปก่อนนะครับ ผมมีนัดกับเพื่อน เดี๋ยวจะไม่ทันเอา”

           ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร หรือแม้กระทั่งถามไถ่ แต่เด็กคนนั้นก็เดินออกจากลิฟท์และวิ่งหายไปแล้ว ชายหนุ่มเดินตามออกมาจากลิฟท์ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเงินของตัวเองดู ของทุกอย่างอยู่ครบถ้วนดีซึ่งนั้นทำให้เขาค่อนข้างจะไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาได้เจอ

           เขาไม่เข้าใจว่าคนแบบนี้ก็มีอยู่โลกนี้ด้วย ทั้งที่จำนวนเงินในกระเป๋าของเขาก็ไม่น้อยพอที่จะทำให้เด็กที่น่าจะมีวุฒิภาวะที่อยู่ในวัยอยากได้โลภพอที่จะเก็บมันเอาไว้ ทำไมเด็กนี่ถึงได้อุตส่าห์วิ่งกระหืดกระหอบเอากระเป๋าเงินมาคืนเขาทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ หากเก็บเงินเอาไว้ใช้เองน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่า

           หัวใจของเขาเต้นรัวจนต้องยกมือขึ้นกุมอก เขาไม่เข้าใจ มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอคนที่แตกต่างจากคนที่ตัวเองเคยเจอมา มันสวนทางกับความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเด็กของเขา และเขาก็ได้รับรู้ว่าเด็กคนนั้นคือลูกผู้ช่วยเลขาของผู้เป็นพ่อ แต่ก็ไม่นานที่คนเป็นแม่ของเด็กคนนั้นจะถูกวางให้อยู่ในฐานะของผู้หญิงที่ทรยศต่อบริษัทและเป็นคนที่เข้ามาแทรกซึมภายในองค์กร

           และที่สำคัญไปกว่านั้น มันทำให้หัวใจของเขามันร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความอิจฉาที่ไม่อาจอธิบายให้ตนเองเข้าใจได้ เขาได้รับรู้มาทีหลังว่าเด็กผู้ชายคนนั้นสนิทกับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองมากถึงขั้นที่เขาไม่อยากจะคิด ซึ่งนั่นมันทำให้เขาเกิดความสับสนว่าตกลงนิสัยของเด็กคนนี้เป็นยังไงกันแน่

 

              เสียงจอแจของผู้คนที่เดินผ่านไปมาปลุกให้เขาตื่นจากความคิดที่เกิดขึ้นมาชั่วคราว ปิญญ์ชานนท์ล้วงหยิบเอาเงินออกมาวางเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกจากร้าน

              ถึงจะมองภายนอกแล้วไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นยังไง แต่ยังไงซะสิ่งที่สำคัญสำหรับคนพวกนั้นก็คือเงินอยู่ดี…เงินที่สามารถทำได้ในทุกสิ่ง แม้ว่าตอนนี้ความเชื่อของเขาจะกำลังถูกสั่นคลอนบ้างแล้วก็ตาม

              ชายหนุ่มเดินผ่านผู้คนมากมายพลางมองคนแล้วคนเล่าที่เดินผ่านเขาไป ผู้คนหลายประเภทหลายฐานะที่มารวมตัวกันเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองโดยใช้ตัวกลางที่เรียกว่าเงิน

              ในระหว่างที่เขากำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเอง ขากางเกงก็ถูกดึงกระตุกด้วยแรงเล็กๆจากทางด้านหลังทำให้เขาหันไปมองด้วยความแปลกใจ เด็กผู้ชายในชุดหมีรูปร่างจ้ำม่ำผิวสีขาวกำลังยิ้มแก้มปริจนตาหยีส่งมา

              “คุณยุงจริงๆด้วย”เสียงเล็กร้องทักทั้งที่พูดยังไม่ชัดทุกคำดี

              “เดี่ยวสิ สลิ่ม ไปดึงขากางเกงคุณลุงเขาได้ยังไง อะ คุณปิญญ์”หญิงวัยเข้ากลางคนพึมพำชื่อของชายหนุ่มออกมา

              ทำให้ปิญญ์ชานนท์เงยหน้าจากเจ้าตัวเล็กแล้วมองหน้าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงทรยศที่ตนเคยรู้จัก

              “ไม่เจอกันตั้งนานนะค่ะ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตั้งเยอะ”ลำดวนทักลูกชายของเจ้านายคนเก่าด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

              ซึ่งนั้นก็ทำให้คนอย่างปิญญ์ชานนท์มองมันด้วยสายตาที่พยายามจะอ่านรอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้ด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา เขาไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งหรือรอยยิ้มที่แท้จริงกันแน่ ซึ่งถ้ามันเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่มีทีท่าว่าโกรธเกลียดเขาบ้างเลย

              “ครับ คุณก็เหมือนกัน ดูสุขภาพดีขึ้นนะครับ”ปิญญ์ชานนท์ทักกลับด้วยหัวใจที่กำลังเต้นแรง

              ตาคู่ดุจ้องมองไปยังด้านหลังของลำดวนที่มีผู้หญิงวัยประมาณยี่สิบกลางๆอยู่ด้วยอีกสองคน คาดว่าน่าจะเป็นพี่เลี้ยงของเด็กแฝดที่ตอนนี้คนโตกำลังจะปีนลงมาจากพี่เลี้ยงเพื่อที่จะมาทักทายเขา

              “สวัสดีคุณลุงก่อนสิครับปลากริม สลิ่ม”คนเป็นคุณยายสั่ง

              “หวัดดีฮับ/หวัดดีฮับ”เด็กสองคนยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มก่อนจะยกมือไหว้แล้วก้มตัวลงเรียกให้หลายคนที่เดินผ่านมองอย่างน่าเอ็นดู

              “คุณยุงมาคนเดียวเหรอฮับ”เจ้าตัวกลมโตกว่าเดินเข้าไปจับมือเขาด้วยท่าทางดีใจที่ได้เจอ

              “อืม ฉันมาคนเดียว”เขาตอบก่อนจะก้มลงมองมือที่ถูกจับไว้แน่น หากเป็นเด็กคนอื่นเขาจะสะบัดมือนั้นทิ้งไหม เขาได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ

              “ทำไมคุณยุงไม่ไปหาพวกเราเลยฮับ พวกเราคิดถึงคุณยุงมากเลย”สลิ่มเดินไปจับมืออีกข้างอย่างออดอ้อนจ้องมองชายหนุ่มตาแป๋ว

              “รู้จักกับเด็กๆด้วยเหรอค่ะ”คนเป็นยายถามด้วยรอยยิ้ม

              “ครับ เคยเจอกัน”เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ

              “คุณยุง วันนี้คุณยายจะพามากินไอติม คุงยุงไปด้วยไหมฮับ”สลิ่มช้อนตาถาม เขย่ามือเขาเบาเบาคล้ายจะอ้อนวอน

              “นะครับ ไปกินไอติมกัน อาหร่อยมากเลยยยย”ปลากริมช่วยอ้อน

              “เดี๋ยวสิ ได้ยังไงกันปลากริมสลิ่ม อย่าไปรบกวนคุณลุงปิญญ์เขาสิ มาหายายเลย มาเร็ว”

              “ไม่เป็นไรครับ ผมพอมีเวลาเหลือ”

              ทั้งที่ปฏิเสธได้ แต่เขาเลือกที่จะตอบรับ

              “จะดีเหรอค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ยินดีเลยค่ะที่คุณปิญญ์จะไปกับพวกเราด้วย”ลำดวนตอบอย่างดีใจ

              เพราะเธอก็เห็นปิญญ์ชานน์มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหนุ่ม ความผูกพันมันทำให้เธอนึกถึงสมัยอดีตครั้งที่เด็กหนุ่มตามพ่อมาทำงานอีกทั้งยังแอบมาถามหาลูกชายของเธอบ่อยๆ

              ในร้านไอศกรีมของหวานที่ชายหนุ่มไม่ค่อยจะได้แตะมันสักเท่าไรหากว่าไม่จำเป็น เขามองดูเด็กแสบสองคนตักไอศกรีมเข้าปากพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า

              พี่เลี้ยงทั้งสองของเด็กแฝดแยกไปนั่งกันคนละโต๊ะทำให้ตอนนี้ค่อนข้างจะมีความส่วนตัวขึ้นมากพอควร

              “ปากเปื้อนน่ะปลากริม”คุณยายทักจากฝั่งตรงข้ามบอกหลานที่กำลังนั่งอยู่บนข้างๆชายหนุ่ม

              เจ้าตัวกลมผิวเข้มเงยหน้าตาโต หันมากระตุกแขนเสื้อของเขาเบาเบาเรียกให้เขาหันไปมอมใบหน้ากลมที่จ้องมองมาตาแป๋วเป็นการบอกใบ้

              “เช็ดให้หน่อยฮับ เปื้อนแล้ว แหะๆ”ปลากริมว่าพลางยิ้มเผล่จนตาหยี

              ใบหน้ากลมเล็กยื่นเข้ามาใกล้ให้เขาได้หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดคราบไอศกรีมบนริมฝีปากเล็กช่างพูด เจ้าตัวจะหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีก่อนจะถือวิสาสะปืนขึ้นมานั่งบนตักให้คนเป็นยายได้ตกใจ ลำดวนกำลังจะออกปากห้ามกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธเคือง เพราะเป็นคนอารมณ์คาดเดายาก

              “ไม่เป็นไรครับ”

              ทว่าปิญญ์ชานนท์ก็ออกปากห้ามทั้งที่ยังทำสิ่งที่ลำดวนไม่คาดคิดว่าคนเย็นชาติดคนเป็นพ่อนั้นจะยกมือขึ้นลูบผมเด็กด้วยท่าทีอ่อนโยน

              “หลิ่มนั่งมั่ง ขอนั่งด้วย”

              “ไม่ได้นะสลิ่ม เดี่ยวคุณลุงจะหนักเอา”คุณยายรีบห้ามหลานคนเล็กเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะกระโดดลงจากเก้าอี้

              “ไม่เป็นไรครับ ตัวแค่นี้เอง ผมไม่หนักหรอก”

              “แน่ใจเหรอค่ะ เจ้าสองแสบนี่หนักกว่าที่คิดนะค่ะ”

              “ผมเคยอุ้มมาแล้วครับ”เขายิ้มมุมปากแล้วรับเอาเจ้าตัวเล็กผิวขาวที่กำลังกางมือออกแล้วอุ้มให้นั่งตักอีกข้าง

              ลำดวนได้แต่มองอย่างเกรงใจ แต่ก็เลื่อนแก้วไอศกรีมของหลานคนเล็กให้

              “ผมขอถามอะไรสักหน่อยจะได้รึเปล่าครับ”เขาถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปนานทั้งที่มือสองข้างกำลังโอบเด็กๆไว้กันตก

              “อะไรเหรอค่ะ”

              “ทำไมเด็กๆถึงเรียกคุณลำดวนว่ายาย แล้วทำไมคุณถึงแทนตัวเองว่ายายล่ะ”

              “เอ่อ คือ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ อย่าใส่ใจเลย”ลำดวนยิ้ม แต่ใบหน้านั้นซีดลงเล็กน้อย

              “พวกเราออกมาจากท้องปะป๊าฮับ แต่ปะป๊าไม่ให้เรียกแม่ แต่คุณยายให้เรียกคุณยายได้”คนพี่เงยหน้าตอบอย่างอวดรู้

              ทำให้ดวงตาคู่คมกริบเบิกกว้างเล็กน้อย ถึงเรื่องนี้เขาจะรู้มาก่อนหน้าแล้ว แต่การที่ได้รู้จากปากเด็กๆนั้นก็ทำให้เขาค่อนข้างอดที่จะตกใจไม่ได้

              “พูดอะไรอย่างนั้นล่ะปลากริม คุณปิญญ์อย่าถือสาเลยนะค่ะ”ลำดวนรีบแก้ตัว

              “จิงจิงนะฮับ พวกเราออกมาจากท้องปะป๊า ปะป๊ามีแผลตรงนี้ด้วย”สลิ่มทำท่าทาง

              “ใช่ฮับตรงนี้เลย”ปลากริมชี้ไปที่ท้องตัวเองบ้าง

              “นี่ ถ้ากินไปด้วยพูดไปด้วยคราวหลังยายจะไม่พามาแล้วนะ อย่าถือสาเด็กๆเลยนะค่ะ”

              “ไม่เป็นไรครับ เด็กๆก็แบบนี้”เขาตอบรับ

              เขาเริ่มคิดว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที มันทำให้เขาแทบจะอดใจรอผลตรวจดีเอ็นเอที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

              “คุณยายฮับ ถ่ายรูปให้หน่อย จะเอาไปอวดปะป๊า”เจ้าแสบตัวโตว่าทั้งกำลังมีไอศกรีมเต็มปาก

              “กินให้หมดก่อนจะพูดสิ”ปิญญ์ชานนท์อดไม่ได้ที่จะบอกพร้อมกับหยิบทิชชู่มาเช็ดปากของเจ้าสองแสบซ้ำอีกรอบ

              ลำดวนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตามใจหลานถึงแม้จะไม่ค่อยอยากก็ตาม เพราะรู้ว่าลูกชายของเธอนั้นโกรธแค้นปิญญ์ชานนท์แทนเธอมากแค่ไหน

              “ถ้าไม่รบกวน ช่วยถ่ายให้ผมด้วยนะครับ”ปิญญ์ชานนท์ยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้บ้าง

 

              จนผ่านไปพักใหญ่กว่าเด็กๆจะยอมแยกออกจากปิญญ์ชานนท์ และสิ่งที่น่าแปลกก็คือตัวเขาเองก็ยังไม่อยากให้เด็กๆรีบกลับเช่นกัน

              ในระหว่างทางกลับบริษัท เขาแวะที่ร้านถ่ายรูปโดยที่ตัวเองไม่ได้วางแผนเอาไว้เลย เขาจัดการล้างรูปที่พึ่งจะถ่ายออกมาเป็นแบบแผ่นเล็กที่สามารถเก็บใส่กระเป๋าเงินได้

              ตาคู่ดุจ้องมองรูปที่พึ่งจะล้างเสร็จหลังจากนั่งรออยู่พักใหญ่ด้วยคำถามมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องที่เขาไม่เข้าใจเต็มไปหมด ต่อให้เขามีเงินทองมากเท่าไร ยังไงเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเงินทองก็ไม่สามารถช่วยไม่ได้อยู่ดี

              ในวันพรุ่งนี้หากผลตรวจดีเอ็นเอออกมาเขาจะทำอย่างไรหากมันไม่เป็นตามที่เขาคาดหวัง แล้วเขากำลังคาดหวังอะไรอยู่กันแน่!! คาดหวังที่จะให้เด็กๆเป็นลูกของตัวเองหรือว่าเป็นลูกของคนอื่น แล้วถ้าไม่ใช่ลูกของเขาเขาจะทำยังไง

              เขาควรจะทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เขาอยากเป็นเจ้าของทั้งตัวแม่และตัวเด็กๆ

 

              -------------------------------------------------------------------

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2017 07:09:47 โดย Oเด็กหญิงเย็นชาO »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไม่ใช่ว่าแอบดึงผมเด็กๆ กลับไปตรวจ DNA ด้วยหรอกนะคะนั่น เจ้าตัวเขาถึงได้ดูกระหยิ่มยิ้มย่องดีแท้

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
คิดจะทำอะไรนะ

รอตอนหน้าจ้าาาาา ได้เวลาเอาคืน! นี่แหนะๆๆ :katai1:

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
เพิ่งได้อ่าน สนุกดีนะ แต่บางทีคำว่าพระเอกไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะ

ถ้ามีแล้วมันเลวขนาดนี้ เหมือนคนบ้าอ่ะ คนที่เกลียดกันจริงๆแล้วเป็นแบบนี้หรือ

ส่วนผิง บางทีอ่านแล้วก็เบื่อนิดๆ แบบเป็นคนที่ออกจะดีไปทางความคิดและคำพูด

แต่ทำจริงๆไม่เห็นทำอะไรได้เลย บางทีนายเอกจะร้ายบ้างก็ได้ ถ้าพระเอกมันเลวขนาดนี้อ่ะ

นี่เท่าที่อ่านมา ดีแต่ขู่ฟ่อๆๆ แล้วอีกเรื่องเลยคือ เกลียดอิตาปิญ จริงหลอ ความคิดเหมือนคนคร่ำครวญ

ตลอดเวลาอ่ะ แบบทำไมต้องทำแบบนี้ เกลียดกันจริงเจอหน้ากันก็ซัดได้เลย

ปล.ผิงต้องสตรองกว่านี้นะ ตอนนี้อ่อนแอปวกเปียกมากอ่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะจัดการอะไรอย่างไรได้หรือเห็นเถียงส่งเสียงใส่กันอย่างเดียว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เพิ่งได้อ่าน สนุกดีนะ แต่บางทีคำว่าพระเอกไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะ

ถ้ามีแล้วมันเลวขนาดนี้ เหมือนคนบ้าอ่ะ คนที่เกลียดกันจริงๆแล้วเป็นแบบนี้หรือ

ส่วนผิง บางทีอ่านแล้วก็เบื่อนิดๆ แบบเป็นคนที่ออกจะดีไปทางความคิดและคำพูด

แต่ทำจริงๆไม่เห็นทำอะไรได้เลย บางทีนายเอกจะร้ายบ้างก็ได้ ถ้าพระเอกมันเลวขนาดนี้อ่ะ

นี่เท่าที่อ่านมา ดีแต่ขู่ฟ่อๆๆ แล้วอีกเรื่องเลยคือ เกลียดอิตาปิญ จริงหลอ ความคิดเหมือนคนคร่ำครวญ

ตลอดเวลาอ่ะ แบบทำไมต้องทำแบบนี้ เกลียดกันจริงเจอหน้ากันก็ซัดได้เลย

ปล.ผิงต้องสตรองกว่านี้นะ ตอนนี้อ่อนแอปวกเปียกมากอ่ะ

เวลานี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าคอมเม้ท์นนี้อีกแล้ว

แบบว่าตรงประเด็นที่คนอ่านคิด ข้องใจ อยากให้เป็น..สุดๆ

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
เอาคืนตั้งแต่ตอนหน้า จนเกิอบจบเลยนะ เอาใหัหนัง มห้มันทุรนทุรายบ้างนะ เกลียดพระเอกมาก อยากใหัลูกเกลียดมันจัง ไอ้ปิญ โอ้บเกลียด อยากให้นายเอกแรงกว่านี้ แล้วส่งลูดไปอยู่ในที่ ที่ปิญตามไม่เจอ จะได้ทำอะไรสะดบก ไม่งั้น ห่วงหน้า พะวงหลัง อยู่แบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ก็แค่คนเคยเอากัน ต้องยัดเยียดคำว่าผัว เมียให้ตลอดเลยรึไปคุณปิญญ์
รึว่าจริงๆแล้วตัวเองก็อยากอยู่ในสถานะนั้นจะแย่ แต่อ้างเรื่องความแค้นมาบังหน้า หาเรื่องจะข่มเหงผิงอยู่เรื่อย
ผิง ไอ้ความคิดลึกๆที่ว่า ปิญญ์เป็นพ่อเด็กเนียะ มันทำให้ไม่เด็ดขาดซักที
ฉาก...รอไปยาวๆดีกว่าค่ะ ถ้ามีเร็วๆนี้ก็ไม่พ้นข่มขืน ยิ่งทำให้พระเอกดูต่ำตมลงไปอีก ตั้งแต่เปิดเรื่องมายังหาดีไม่ได้เลย เปลี่ยนพระเอกเป็นพี่วุฒิน่าจะดีแก้แค้นปิญญ์ได้สะใจด้วย 555


ออฟไลน์ Lovelyjess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สนุกดี ชอบแนวตบจูบ
แต่จบ happy ใช่มั้ย

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ตอนหน้าพระเอกโดนเล่นงานใช่มั้ย
เยี่ยม จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
รอฉากนี้มานานแล้ว เกลียดอิตาคุณปิญญ์เหลือเกินอ่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รอดูตอนหน้าว่าผิงจะเอาคืนยังไง หวังว่าจะสมน้ำสมเนื้อกับที่พระเอกได้ทำเลวๆ เอาไว้

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราเมนท์ไว้ในธันวลัยนะเรื่องการทิ้งเด็กสามขวบไว้ตามลำพัง

ในเรื่องมีการทิ้งเด็กไว้ตามลำพัง 3 ครั้ง

ที่งานเลี้ยงซึ่งเราไม่เข้าใจว่าเอาลูกไปทำไมเพราะตามมารยาทแล้วไม่ทำกันนะคะ   ทิ้งเด็กไว้ท่ามกลางคนแปลกหน้า  เลขาก็สุดสับเพร่าที่ปล่อยเด็กทิ้งไว้

ครั้งที่ 2 ที่ไปซื้อกับข้าวแล้วปล่อยลูกหลงไปแผนกของเล่น   ปกติแผนกอาหารสดไม่ติดกับแผนกของเล่นนะคะ  ขนาดโลตัสเองก็ไม่ไกล้   แล้วมหาเศรษฐีแบบปิญญ์พาสาวมาเดินโลตัส?   คือถ้าหากว่าเอาลูกมาซื้อของใช้ของเด็กในแผนกเด็กก็ยังใกล้แผนดของเล่นกว่านะคะ  ไม่พูดถึงปล่อยให้ลูกหลงหายไป

ครั้งที่ 3 ลงไปส่งวุฒิปล่อยลูกไว้ตามลำพังอีก  คือขนมผิงคลอดลุกที่อังกฤษก้น่าจะได้การดูแลลุกแบบทางนั้นมาบ้าง    ไม่โอเคค่ะ  ถ้าเกิดอะไรขึ้นผิดกฏหมายนะคะเพราะคุณละเลยปล่อยลูกไว้ตามลำพัง

ข้อที่เราว่าแปลก - คือรวยระดับนั้นแล้วทำไมไม่หาพี่เลี้ยงเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนกลับมาถึง  มันดูแร้นแค้นเกินสำหรับระดับนั้น

ขนมผิงพูดติดปากอยู่ประโยคหนึ่งคือ คืนลูกมาให้ผมนะ  คือนางจะขู่ฟอดๆตลอดเลยตั้งแต่เจอปิญญ์มานี่ ไปนับกันเองแล้วกันว่าพูดออกมากี่ที   คนเป็นแม่นะคะถ้ามีคนที่เราเกลียดมาเอาลุกไปไม่บอกให้คืนลูกมาหรอกค่ะ เข้าไปคว้ามาเลยแหละ

เพื่อนเรามีลูกแฝด(ตอนนี้ 15แล้ว) ตัวนิดเดียวเอง เวลานางอุ้มลูกที่เดินได้แล้วนะคะ  คนหนึ่งอุ้มข้างหน้า อีกคนขี่หลังค่ะ ไม่ก็อีกคนขี่คอนาง เดินไม่ไกลนะคะ

ทำไมคนเลี้ยงลูกมาเองถึงได้ไม่รอบคอบ ลูกร้องไห้ ไม่ตรวจดูลูกก่อน  ต้องให้ปิญญ์ที่ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาบอก คนที่เคยเลี้ยงเด็กจะรู้ว่าจะทำยังไงค่ะ  จะสามารถควบคุมสถาณการณ์ได้เพราะเจอมาจนชินแล้ว  ขนมผิงเหมือนคนไม่เคยเลี้ยงลูกเอง ลนลานไปหมดเข้าใจว่าเพราะปิญญ์อยู่ด้วย  แต่จะกลัวอะไรหนักหนา  ไอ้ความโกรธแค้นที่มันดูถูกดูแคลนทำร้ายทั้งกายและใจมาไม่ได้ช่วยให้ตัวเองแกร่งขึ้นบ้างเลยหรือ?  จะมากลัวเรื่องลูก? ปิญญ์เป็นใครคะ? ตามกฏหมายไม่ได้เป็นอะไรเลย   ตัวเองเลี้ยงลูกมาตั้งสามปีโดยไม่มีมันมาเกี่ยวข้อง เด็กๆก็เป็นคนอังกฤษด้วย(ตรงนี้ไม่รู้ว่าได้ยังไงนะคะ  เพราะพ่อแม่ไม่ใช่คนสัญชาตินั้น)

เราไม่รู้ว่าปิญญ์ขึ้นคอนโดมาได้ไงนะคะ   รปภน่าโดนไล่ออกนัก  ที่บอกว่ารปภไม่มายุ่งเรื่องผัวๆเมียๆหรอก  แล้วรปภจะรู้ได้ไงว่าปิญญ์เป็นผัว?

นี่ขนาดขนมผิงไม่ดี ต่ำทราม สกปรก ร่าน  อิปิญญ์ยังตามติดหนึบๆขนาดนี้เลย

รีบๆลงนามสัญญาเน้อ  กลัวว่าเดี๋ยวปิญญ์มันจับทางทันแล้วตะโดนมันเล่นงานเอาสิ

ไม่ได้มาจู้จี้เพื่อบั่นทอนจิตใจ  แต่มาชี้ให้เห็นจุดบอดที่คนเขียนอาจจะมองข้ามไป  หรือจุดที่เราเห็นต่างนะคะ  รออ่านตอนหน้าที่ปิญญ์โดนเอาคืนค่ะ

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ขออีกเม้นนะ ขนมผิง กลัวอะไรปิญ เงินอำนาจ มีพอๆกัน แล้วเรื่องลูก เอาไปอยู่ที่อื่น หรือหาคนมาดูแลได้แล้ว นางทำอะไรไม่ได้เลย ขนมผิงเขากับตำรา หมาเห่ามักจะไม่กัดมาก ขู่ฟ่อๆๆๆๆๆๆๆๆ มาตลอดทั้งเรืองแต่ยังไม่ทำอะไรเลย อ่านตอนเปิดเรื่องเหนฉลาด มีการอัดเสียงเตรียมการต่างๆนาๆ ไหงไปๆมาๆ นางเริ่มโง่ขึ้น กลัวขึ้นเรื่อยๆ งง กับนางมาก ย้ำอีกครั้งเอาลูกไปไว้กับพ่อก็ได้ บ้านก็มี จะมาอยู่คอนโดทำไม แล้วปิญ หายตัวขึ้นคอนโดไปหรอ ขึ้นง่ายจัง แถมไปโผล่ในห้องเลยด้วย ขนาดอพาตเม้นธรรมดา คนนอกยังเข้าไม่ได้เลย นี่คอนโดระดับนี้ เข้าง่ายมาก  เปลี่ยนนิสัยนะ ขนมผิง แล้วเอาลูกไปให้พ่อกับแม่ตัวเองเลี้ยงสะ จะได้ทำอะไรง่ายขึ้น แล้วช่วยทำจิงๆด้วยนะ เห่าหอน ไม่เอาแล้ว

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ไม่ขอให้ไอ้คุณปิญญ์เป็นพระเอกได้มั้ย. โครตเลวโครตเกลียดเลยสงสารขนมผิงมาก

ออฟไลน์ JY_JRB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ท่าทางคงจะป่วยยังงี้ทั้งเรื่อง จนตอนจบก็ยอมกันทั้งคู่มั่ง

จากเรื่อง ทำให้นึกถึงกุหลาบไร้หนาม หรือไม่ก็ สวรรค์เบี่ยง เวอร์ชั่น yaoi ไหม เอ๊อะ ยิ่งคิดก็ยิ่งใช่เนอะ

ขู่ฟอดๆ........  แค่นั้น.. มันไม่ซ่อนแล้ววว แต่ไม่มีเลยต่างหาก

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ผิง อย่าแค่ขู่ลูก
ทำมันเลย อย่าให้มันทำเราฝ่ายเดียว
เอาให้มันล้มทั้งยืน มันเลวขนาดนี้
เอาลูกไปซ่อนเลยคร่าาาา
อย่าให้มันเจอ จะได้ทำอะไรง่ายๆไม่พะว้าพะวงแบบนี้
เกลียดคนแบบอีตาปิญญ์อ่ะ นี่พูดเลย

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อเน้อ
มาลงบ่อยๆ :z13:
สนุกมาก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด