••••••
หมดรัก....จะใช้คำนั้นก็ต่อเมื่อหมดรักจริงๆ
หากแต่นทียังมีใจ'ต้องการ'อ้ายอยู่
ชีวิตวัยรุ่นคือการได้ลองสิ่งใหม่ๆ อยู่กับเพื่อน อยู่กับแฟน หรืออยู่กับครอบครัว เราก็ควรใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด
นทีคิดว่าตัวเองอยู่กับแฟนและครอบครัวมาตลอดชีวิตเท่าที่จำความได้
เขาไม่เคยห่างอ้าย ไม่เคยคิดว่า...เออ สักวันคงเลิกว่ะ
ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย!
ดังนั้น เมื่ออ้ายคิด...เขาเสียใจเป็นนะ เสียดายความผูกพันที่อยู่ร่วมกันมา อ้ายดูไม่ออก หรือโง่จนคิดไม่ได้เลยหรือไง!
นั่นแหละที่ทำให้เขารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ
นทีจัดสรรเวลาดีเสียยิ่งกว่าประธานบริษัทเจียดเวลาไปหาเมียน้อยซะอีก
แต่คนรักของเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ
แถมยังจับผิดนั่นนี่ หาว่าเขามีกิ๊กบ้างล่ะ เลิกรักกันบ้างล่ะ
น่ารำคาญ!
จากที่ให้มาก ก็ให้น้อยลง
แต่ไม่เคยคิดว่าจะทิ้งเลยสักครั้ง
จนวันที่กลุ่มเพื่อนเขาเอาใบสมัครสอบชิงทุนมาให้ พวกมันปรึกษากันไปกันมาจนสรุปได้ว่าคนที่จะไปได้จริงๆก็แค่เขา แก้ว เนม และชาย
เป็นการสอบที่ทรหดมาก
เขาแทบไม่มีเวลาจี๋จ๋ากับอ้าย แม้กระทั่งจะอธิบายยังขี้เกียจ
ดังนั้นก็ตามคาด...อ้ายอาการหนักขึ้นทุกวัน
ยามเจอกันคือช่วงเวลาที่อึดอัดที่สุดของนที
สีหน้าอ้ายไม่เคยผ่อนคลาย รอยยิ้มเยือกเย็น บางครั้งเศร้าสร้อย
นทีอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข
จึงเป็นการดีถ้าเขาสอบติด จะได้พักกายพักใจ ไม่อยากเครียดเรื่องรักๆใคร่ๆที่ไร้สาระเป็นบ้า
เขาอยู่กับอ้ายมาตลอด อ้ายน่าจะเข้าใจว่าการเผชิญโลกใบใหม่คืออะไร
........
"สอบชิงทุนบ้าอะไรมีแค่ทีกับมัน!!!"
"ก็สอบติดแค่สองคน มันบังเอิญ"
"ไม่เชื่อ! ทีก็มีเงินอ่ะ จะเอาทุนไปทำไม แล้วทำไมไม่ชวนอ้าย ไม่เคยสนใจอ้าย ไม่อยากเห็นหน้ากันแล้วใช่มั้ย ฮึก..ทีเปลี่ยนไปมากนะ"
"เมื่อไหร่จะพูดรู้เรื่องสักทีวะอ้าย"
"ทีสนใจแต่มัน มันคงยั่วล่ะสิ เอากันมานานเท่าไหร่แล้วล่ะ!"
"พูดอะไรหัดคิดก่อนบ้างนะ"
"กูถามมันแล้ว! มันมีรูปนอนกับมึงด้วย! มึงอย่ามาโกหก!!"
"โว้ย! พูดไม่รู้เรื่อง! ห่างกันสักพักเถอะ!"
"ว..ว่าอะไรนะ?"
"ห่างกันเถอะ ลองทบทว--"
"ไม่!!"
"กลับไปคิดดีๆนะอ้าย"
คนอยู่เยอรมันปิดการเชื่อมต่อทันที
เขากุมหัวคิดไม่ตก
แฟนเขาไม่ใช่คนบ้าแบบนี้
เขาต้องหาคนช่วยระบาย คนแรกที่เข้ามาในหัวคือพี่อัฐ
พี่ชายที่เคารพและค่อนข้างเด็ดขาด
พี่แกน่าจะให้คำปรึกษาได้ดี
กว่าจะหมดคาบติวภาษาเยอรมันก็เที่ยงพอดี หญิงมาดลุยอย่างแก้วจึงชวนเพื่อน'รัก'กินอาหารไทยในตัวเมืองหลังจากนทีบ่นโหยหนักมาหลายวัน
"มันจะอร่อยป่าววะ"
"เออน่า"
แก้วยิ้มตอบ แม้เสียงแสร้งรำคาญไปอย่างนั้น
นทีทำอะไรก็น่ารักสำหรับเธอหมดนั่นแหละ
บอกตรงๆไม่ได้คิดจะแย่ง
ของแบบนี้ ....อยู่ที่ใครดีใครได้มากกว่า
"อ้ายทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ"
นทีถอนหายใจ ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ร้านอาหารไทยขึ้นชื่อของเยอรมัน
สีหน้าเซ็งจัดของเขาทำให้แก้วกระหยิ่ม
หล่อนรับสมาร์ทโฟนคู่ใจกลับมา หน้าจอปรากฏแอปชื่อดังในช่องแชท บทสนทนาระหว่างเธอกับคนรักของนที
ในนั้นมีแต่อ้ายทักมาเสียส่วนใหญ่ ส่วนมากก็ไม่มีอะไร แค่เตือนว่าอย่ายุ่งกับนที
มีบ้างที่เธอโมโหหรือเครียดๆก็แกล้งส่งรูปคู่นทีไปยั่วอารมณ์ อย่างรูปแรงสุดก็รูปนอนเตียงเดียวกัน
ไม่อยากจะบอกว่าวันนั้นมีปาร์ตี้บ้านอัลโด้ แล้วทุกคนนอนห้องนั้นกันหมด ไม่มีอะไรเกินเลยหรอก เธอแค่แคปแค่ตัวเองกับนทีที่เมานอนสลบ
แต่รูปนั้นเธอก็ลบก่อนให้นทีดูน่ะนะ
สิทธิ์ของเธอ
ไม่ผิดนี่!
"เราเครียดนะ รู้สึกเหมือนโดนบีบอยู่ตลอดเวลา เราก็คนธรรมดาด้วย กลัวว่าอ้ายจะใช้อิทธิพลอะไรมาบีบเราให้ห่างจากที เราไม่มีปัญญาย้ายมอนะเว่ย"
แก้วน้ำตาตก
"เข้าใจ..."
"เฮ้ยไม่เครียดๆ กินต่อๆ"
คนเศร้าปาดน้ำตา ฝืนยิ้ม
ไม่เครียดแล้วให้กูดูทำไมวะ ...นทีกลอกตา
เขาก็รู้ว่าแก้วแอบชอบ และคิดว่านะ...คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนให้ความหวัง ไม่เคยอ่อย ไม่เคยชอบแก้วในเชิงชู้สาวเลย
แต่กับเรื่องนี้ มันคนละเรื่องกัน
อ้ายไม่ควรระรานคนอื่น มันดูแย่มากๆ ในสายตาเขา
แล้วถ้าแม่อ้ายรู้ล่ะ สงสารคุณนายที่มีลูกบ้าผู้ชายแบบนี้จริงๆ
เขาเบื่อมาก ...แต่เรื่องเลิกกัน...ก็ไม่อยากทำอีกนั่นแหละ
.
.
.
.
นทีใช้ชีวิตเปื่อยๆ พยายามตั้งใจเรียน ไม่คิดถึงอ้าย
เขาอยากคุย แต่ก็ต้องให้เวลาอ้ายทบทวนตัวเองก่อน อ้ายเอาแต่ใจมากไป
หลังเรียนเสร็จ นทีเดินกลับห้องกับเพื่อนตามปกติ ส่วนแก้วอยู่หอหญิงล้วน ซึ่งไปคนละทาง
ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอคนที่อยู่ในห้วงคำนึง
อ้ายยืนปากสั่น หน้าซีด หากแต่ดวงตาแดงก่ำ
ใจหนึ่งคือดีใจ อีกใจหนึ่งคือเหนื่อยหน่ายกับบทสนทนาที่ไม่ไปไหน
สรุปแล้วก็ทะเลาะกัน
สรุปแล้วคือเลิกกัน..
นทีไม่ได้โกรธหรอกนะที่โดนตบ
เขาเสียใจที่พูดไม่ดีออกไป
พูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บที่สุด
เขาสับสน
เขาเซ็ง
บางทีเลิกกันอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุด
"ก็ดีวะที่พูด"
.
.
.
"ไงมายเฟรนด์ อกหักล่ะสิ"
วัลเดน เพื่อนคนที่เห็นเหตุการณ์วันนั้นทักอย่างรู้ดี
ร่างสูงใหญ่ กับแว่นเนิร์ดๆ ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นเด็กเรียน
ไอ้นี่มันตัวจัดปาร์ตี้ แก๊งเดียวกับอัลโด้ นี่ก็คงมาชวนไปบ้านอัลโด้ที่จัดปาร์ตี้ประจำเดือน
"มาถูกเวลาพอดีว่ะวัลเดน โคตรรรรเซ็งเลยตอนนี้"
"โลกเรามันก็เข้าใจยากอย่างนี้แหละ"
"สู้ปลดปล่อยในปาร์ตี้ไม่ได้"
"ถูกต้องครับเพื่อน"
.
.
RRRRRRRR
โทรศัพท์ดังครั้งแรก ไม่น่าสนใจนัก เหล้าข้างหน้าน่าสนใจกว่าขุม
นทียกแล้วยกอีกจนหน้าเริ่มแดง
เขาดื่มย้อมใจ
ใช่....เขาคิดถึงอ้าย ความรู้สึกผิดเกาะกุมจิตใจ แม้แต่เพื่อนยังดูออก ต่างพากันปลอบให้นทีหายเศร้าเร็วๆ
Rrrrrrr
7 โมงเช้า!
ใครวะโทรมาตอนนี้ ร่างสูงลุกขึ้นโงนเงน มือทุบหัวไล่ความมึน
รอบกายมีแต่เพื่อนตัวใหญ่ๆนอนขึ้นอืด ดูสภาพแล้วน่าถีบชะมัด
Rrrrrrrr
เขาสะดุ้ง กดรับโทรศัพท์
"ครับ?"
["ตื่นหรือยัง"]
"ยังมั้งพี่ มีอะไรหรือเปล่าโทรมาแต่เช้า"
["ไม่มีอะไร แค่จะมาบอกว่า...."]
"บอกอะไรครับ"
นทีถามย้ำเมื่ออัฐเงียบไปนาน รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
["อ้ายถูกรถชน"]
"ว่าไงนะ!?!"
["ใจเย็นๆเว้ย ไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องห่วงๆ แค่โทรมาบอก ก่อนที่คนอื่นจะโทร กลัวมึงกังวลจนหนีกลับไทย"]
"ผมว่าผมต้องไปนะ อาการเป็นไงบ้าง โดนชนเมื่อไหร่"
["ขาหักนิดหน่อย เพิ่งชนสองสามวัน"]
สองสามวันที่ว่า ก็พอๆกับเวลาที่อ้ายถึงไทยไม่ใช่เหรอ
"ถ้าผมเคลียร์วันว่างได้ แล้วจะรีบกลับ"
["ไม่ต้องมาหรอก ทางนี้ดูแลได้ อีกอย่างมึงเพิ่งเลิกกัน อ้ายมันคงอยากเห็นหน้าหรอก ตอนนี้มันพาลทุกคนแม้แต่แม่ เอาไม่อยู่หรอก"]
"แต่พี่ว่ามันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ อ้ายเพิ่งกลับไทยนะ อ้ายมีอะไรหรือเปล่า พูดถึงผมบ้างมั้ย"
["เปล่า.....เอางี้ ถ้ามีอะไรจะโทรบอกให้กลับ มึงเรียนไปเถอะ แค่สองปีกว่าเอง แป้บเดียว"]
"เฮ้อ...ผมจะโทรถามอาการเป็นระยะนะพี่"
นทีกุมขมับ ตาสว่างโดยไม่ต้องอาศัยตัวช่วยใดๆเลย
เขากลับห้องไปนอนต่อ แต่ก็นอนไม่หลับ พยายามข่มตา ก็กลับกลายเป็นความทรมานยิ่งกว่าเดิม
ภาพวันนั้นฉายชัด เขามันเลวจริงๆ เขาตบปากตัวเองซ้ำๆ
มึงพูดแบบนั้นได้ไงวะที
ตอนรักกันใหม่ๆ มึงทำดีแค่ไหน ทำไมมึงทำในตอนนี้ไม่ได้วะ ถ้ามึงดีกับอ้าย อ้ายก็ต้องดีตอบอยู่แล้ว
ตั้งแต่วันนั้น นทีก็จะโทรถามอาการจากพี่อัฐเรื่อยๆ
พี่อัฐแกก็ย้ำเหมือนท่องสูตรไว้ว่า อย่ามาๆ หายแล้วๆ
จนผ่านไปแรมเดือน เขาจึงคิดเอาเองว่าคนขาหัก เข้าเฝือกน่าจะหายแล้ว จึงไม่โทรไปอีก กอปรกับเริ่มเข้าสู่ช่วงสอบ
นทีลืมเลือนความเศร้าไปได้ในเวลาสองปี อาจมีบ้างที่คิดถึงคนน่ารักเป็นระยะ แต่เขาก็สู้เรียนจนจบ เพราะอย่างไรเสีย มันก็สำคัญกับชีวิตเขาเหมือนกัน
ก่อนจบ เขาติดต่อบริษัทที่ไทยไว้หลายบริษัท เมื่อเห็นความฝันของตัวเองใกล้จะเป็นจริงก็อดภูมิใจไม่ได้ เขาเช่าคอนโดในตัวเมืองกรุงเทพ เพราะไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากเห็นอ้ายบ่อยนัก ถึงจะแพลนเรื่องง้อไว้บ้าง แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย
ก่อนสัปดาห์ที่เขาจะกลับไทย พี่อัฐก็โทรมา ตอนแรกนทีคิดว่าพี่แกจะโทรมาแสดงความยินดี แต่เปล่าเลย
เป็นวันที่นทีลืมไม่ลง เมื่อได้ยินว่าคนที่เขารักพิการ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมเดิน ไม่มีใครเอาอยู่ และเป็นอย่างนี้มาถึง 2ปี!
โดยที่เขาไม่รู้เนี่ยนะ!
ความหวังเดียวตอนนี้คือนที
พี่แกปรึกษากับแม่แล้ว แม่ก็อยากให้ลองดู อย่างน้อยๆ แม่เชื่อว่า อ้ายยังรักนทีไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แม่เล่าหลายๆอย่างให้เขาฟัง ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด รู้สึกว่า ..เราต้องแก้ไข
ดังนั้น ชีวิตของเขาที่วางแผนไว้ จึงเปลี่ยนกระทันหัน
แต่นทีไม่เคยเสียใจหรอกนะ
ในเมื่อตอนนี้ เขามีทั้งคนรักที่ดี และงานที่ดี ยิ่งกว่าฝันเสียอีก
"ที! ข้าวเสร็จแล้ว นั่งเหม่ออยู่ได้"
คนที่กำลังคิดถึงโผล่มาให้กอดพอดี นทีเลยฉวยโอกาสรวบตัวอ้ายมาไว้บนตัก กอดแน่นเหมือนกอดตุ๊กตา อ้ายตัวนิ่มขึ้นเยอะ อยากกอดทั้งวันเลย
"ทำอะไรกินวันนี้"
"ข้าวผัดเบคอน กับแกงอะไรเนี่ยแหละ"
"น่าอร่อยจัง"
"น่าอร่อยก็ไปกินได้แล้ว อยากอาบน้ำ เหนียวตัว เหม็นข้าว"
"ท้องเหรอ"
"จะบ้ารึไง ท้องแทนหมาน่ะสิ ไอ้ข้าวเหนียวมันขึ้นเมียมันอีกละนะ สงสัยได้ทำฟาร์มหมาจริงๆล่ะคราวนี้"
"หยุดพูดเรื่องหมาเหอะ อิจฉามันว่ะ"
อ้ายขึ้นเสียงเข้ม
"คนอะไร อิจฉาหมา"
"โห่ย แค่นี้ก็ดุ ทีกับหมาไม่เคยดุ"
"ไปกินข้าว หิว!"
"คร้าบบบ"
เอาล่ะ มันก็สนุกดี
ถ้าอ้ายไม่เอาแต่พูดถึงหมา!!
..........
ข้าวเหนียว หมาหล่อ
มีเมียเป็นหมาจร
รักเมียมาก ไม่นอกใจ แถมยังรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านอีก
สามีที่ดี