ช่วงเวลาตั้งแต่สามทุ่มจนถึงสี่ทุ่มจะเป็นช่วงพักผ่อนหย่อนใจของคู่รักลูกครึ่งต่างวัย สองหนุ่มวัยยี่สิบต้นกับสามสิบกลางๆ จะนั่งเอกเขนกบนโซฟาตัวใหญ่ดูโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย อลันด์อดคิดไม่ได้ว่าช่างเป็นชีวิตที่สงบสุขอะไรเช่นนี้ ถึงจะน่าเบื่อไปสักหน่อยแต่การได้อยู่ใกล้กับทิวากานต์ก็ทำให้เขามีความสุขมากพอ
กระทั่งวันหนึ่งหลังจัดการมื้อค่ำเสร็จ พวกเขาแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวก่อนจะมารวมกันอีกครั้งที่ห้องนั่งเล่น ทิวากานต์เดินออกมาจากห้องทำงาน ในมือถือกระดาษเอสี่ยับๆ สองสามใบติดมือมา ร่างสูงนั้นเหลือบมองมายังอลันด์ที่นอนตะแคงดูละครหลังข่าวท่าทางอึกอักดูมีพิรุธ พอชายหนุ่มถามว่ามีอะไรคุณหมอรูปหล่อจึงยอมเดินมาหาก่อนนั่งแหมะที่พื้นข้างโซฟาทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมแบมือขาวยื่นมาตรงหน้า
“อัลจ๋า พี่ขอเงินหน่อยสิ”
“หืม?” เสียงแหบต่ำครางดังในลำคอ ตาสีน้ำข้าวหรี่จ้องทิวากานต์เขม็ง มาขอกันแบบนี้ต้องไม่ใช่สิบยี่สิบบาทแน่ๆ
แหงล่ะ ถึงทิวากานต์จะยกเงินเดือนทั้งหมดให้เขาเป็นคนจัดการแต่ใช่ว่าเขาจะทำตัวเหมือนผู้หญิงไทยคนอื่นๆ ที่ให้เงินผัวไปทำงานวันละร้อย เขาน่ะให้เงินเดือนคนรักเป็นเงินเดือนของเจ้าตัวเอง(ไม่รวมเงินพิเศษอยู่เวร)ตั้งครึ่งหนึ่ง ซึ่งนั่นมากกว่าเงินเดือนของเขาต่อเดือนด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นที่มาขอแบบนี้มันไม่ธรรมดาแน่ๆ
“เท่าไหร่”
“เอ่อ...แปดล้านจ้ะ”
“!!!” อลันด์เกือบหลุดกรี๊ดออกมาแล้ว ดีว่าทิวากานต์ยื่นมือมาอุดปากได้ทัน ไม่งั้นข้างห้องคงได้เดินมาด่าแน่ๆ ทว่าพอมือใหญ่หลุดเสียงบ่นก็กระหน่ำใส่คนขอเงินแปดล้านทันที “นี่จะเอาเงินแปดล้านไปทำอะไร ห๊ะ! วา! ตอบมาเดี๋ยวนี้นะ ตอบไม่ดีมีเคลียร์ยาว”
“เอ่อ...อัลจ๋า ใจเย็นๆ ฟังพี่ก่อนนะ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ” ทิวากานต์ตีหน้าหงอย กุลีกุจอทำทีเป็นห่วงคนรักกลัวอีกฝ่ายจะความดันขึ้น หากพอจะประคองอีกคนกลับถูกตีมือดังเพี๊ยะ
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย บอกมาเดี๋ยวนี้จะเอาเงินไปทำอะไร”
มาถึงตรงนี้แล้วประวิงเวลาไปคงไม่มีอะไรดีขึ้น คุณหมอคนหล่อจึงอ้อมแอ้มบอกความจำนงออกไป “คือช่วงนี้ฝนมันตกบ่อยใช่ม้า แล้วน้ำก็ท่วมประจำเลย”
“แล้ว?”
“แล้วทีนี้อัลก็รู้ใช่ไหมว่ารถบ้านเราน่ะมันมีแต่คันเตี้ยๆ อย่างน้องกบงี้ก็โหลดซะต่ำ ไหนจะเบนท์ลีย์สวยๆ กับซีรีส์เจ็ดนั่นอีก เอาไปจมน้ำได้ยังไง มินิของหนูยิ่งแล้วใหญ่เลย ดับตั้งแต่ลงน้ำแน่ๆ”
อ้อมโลกเสียขนาดนี้แต่อลันด์เข้าใจทันทีว่าคนรักต้องการอะไร “ก็เลยอยากได้รถใหม่ว่างั้น”
“สมกับเป็นฮันนี่ของพี่ ฉลาดมากจ้า”
“ฮืมมม...” คนตัวเท่าไหล่ถอนหายใจระอา แล้วสูดลมหายใจเข้าออกทำสมาธิอยู่หลายที ไม่ทันให้ทิวากานต์ตั้งตัว นิ้วสวยเรียวยาวก็คว้าหมับเข้าที่ใบหูคุณหมอ จัดการบิดบี้อยู่หลายทีจนคนโดนประทุษร้ายร้องโหยหวนลั่นห้อง
“ที่พูดมาเนี่ยคิดบ้างไหมห๊ะวา แค่รถสี่คันก็แทบไม่มีที่จะจอดแล้ว แล้วอยู่กันแค่สองคนถามจริงทุกวันนี้ขับได้ครบทุกคันไหม จอดจนหยากไย่ขึ้นแล้วยังคิดจะหามาเพิ่มอีกเหรอ ไม่ต้องหาข้ออ้างจะซื้อรถเลยนะ ถ้าถูกๆ คันไม่กี่แสนจะพิจารณาให้อยู่หรอก นี่รถบ้าอะไรตั้งแปดล้าน ถ้าน้ำมันท่วมจนขับรถไม่ได้ก็ไม่ต้องขับ! ให้มันรู้ไปว่าด็อกเตอร์ นายแพทย์ทิวากานต์นั่งรถสาธารณะไม่เป็น!!”
“โอ๊ย ฮันนี่ อัลจ๋า พี่เจ็บ เจ็บแล้ว ยอมแพ้แล้วค่ะ ไม่เอารถแล้วก็ได้ แต่เหลือหูให้พี่ด้วย”
“ไม่เอาจริงๆ แน่นะ”
“จ้ะ”
ตาสีอ่อนจ้องคนรักเขม็ง เห็นผู้ชายอายุสามสิบกว่าๆ เบะปากทำหน้าจะร้องไห้กลับยิ่งรู้สึกน่าหมั่นไส้อยากจับบิดให้หูขาด แต่เขาไม่ใช่เมียใจร้ายหรอกนะ ในเมื่อคุณผู้ชายเขาบอกว่าไม่เอาแล้วจะยอมเชื่อก็ได้
“ถ้าบอกเอาเงินแปดล้านไปซื้อที่สวยๆ จะไม่ว่าเล้ยยย”
“จิ๊ ไอ้เด็กแก้มสุขภาพดี”
“ว่าไงนะ!”
“เปล่าจ้า”
“อย่าให้รู้นะว่าว่าผมหน้าเลือดน่ะ” อลันด์สะบัดหน้างอนๆ รออีกคนมาง้ออย่างทุกที แต่ผ่านไปสามสิบวิฯ แล้วยังเงียบก็เริ่มรู้ตัวว่าทำเกินไป เหลือบมองไปเห็นหน้าหมาหงอยแล้วใจก็อ่อนยวบ ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานยอมแบมือยื่นไปหาทิวากานต์ “เตรียมข้อมูลมาเสนอด้วยใช่ม่ะ ไหนดูหน่อยซิ ว่าไอ้แปดล้านน่ะมันคุ้มหรือเปล่า”
“ดูไปก็ไม่ให้ซื้ออยู่ดี ไม่ต้องดูหรอก” บทจะเล่นตัวหมอศัลย์หน้าดุกลับทำทีสะบัดสะบิ้งได้น่าถีบน่าชัง เห็นแล้วขามันกระตุกแปลกๆ อยากเอาไปแนบบนหน้าอกคุณหมอเล่นสักที ถ้าไม่ใช่ว่าทำแล้วจะงอนกว่าเดิมอลันด์คงจัดการตามใจคิดทันที
“นี่งอนเหรอ”
“สนใจพี่ด้วยเหรอ”
อุ๊ย! คนแก่น้อยใจเว้ย “ไม่สนได้ไงล่ะ นี่ใคร นี่ทิวากานต์นะ ผู้ชายที่ทำให้ผมยอมทิ้งบ้านเกิดมาอยู่ที่นี่ด้วยเลยนะเว้ย”
“เหรอ... แค่นั้นเหรอ”
“เป็นคนที่ผมรักมากที่สุดด้วย” พูดแล้วแถมจุ๊บที่แก้มให้หนึ่งที เท่านี้คุณหมอถึงยอมยิ้มออกมา
“ถ้ารักที่สุดงั้นตามใจพี่บ้างได้เปล่าคะ”
“ก็บอกเอามาดูก่อน รถลุยน้ำบ้าอะไรตั้งแปดล้าน ราคานี้แพงกว่าซีรีส์เจ็ดอีกนะ เอามาดูๆ อย่าลีลา” กระดิกนิ้วเรียกอยู่สองสามที แผ่นกระดาษเอสี่ยับๆ ที่ทิวากานต์ถือติดมือมาก็ถูกวางบนมือของอลันด์
ตาสีอ่อนกวาดดูรูปและชื่อรถก่อนไล่อ่านรายละเอียด หากยิ่งอ่านยิ่งระอาจนต้องเอื้อมแขนไปบิดหูคนรักอีกสักทีแก้มันเขี้ยว แค่จะหารถลุยๆ ช่วงน้ำท่วมพี่แกขอล่อ Hummer H2 ราคาเกือบแปดล้าน ถ้าคุณทิวากานต์เป็นทหารหรือชอบไปเดินป่าลุยๆ จะไม่แปลกใจเลย แต่นี่เป็นหมอวันๆ อยู่แต่ในร่มริจะขับรถสะเทินน้ำสะเทินบก
“ไฮลักซ์ วีโก้เอาไปแต่งยกสูงพอ” หลังอ่านข้อมูลที่คนรักหามาโน้มน้าวขอเงินในกระเป๋าไปหาเมียน้อยรายใหม่เข้าบ้านจนครบถ้วน อลันด์ถึงสรุปออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย เล่นเอางานนี้มีร้องเสียงหลง จากรถนอกราคาแปดล้านเหลือรถญี่ปุ่นราคาไม่กี่แสน จิตใจคุณชายอลันด์ทำด้วยอะไร กระซิกๆ
“อัลจ๋า แลนด์โรเวอร์ยังดีกว่านะ”
“แค่ขับช่วงน้ำท่วมไม่ใช่หรือไง ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นมันขายต่อง่าย พวกรถแพงๆ ปล่อยยากจะตาย”
“ใจร้าย”
ชิ้ง! โดนสายตาพิฆาตไปหนึ่งที
“สรุปถ้าไม่เอาวีโก้ก็ไม่อนุมัตินะ ถ้าอยากได้ไปเก็บเงินซื้อเอาเอง ผมให้เงินวาใช้เดือนนึงน้อยสักทีไหน”
“อัลจ๋า แบบนั้นไม่ต่างจากผ่อนบ้านยี่สิบปีเลยนะ”
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงเรื่องนี้ผมก็ไม่เห็นด้วย ถ้าอยากได้ไปหาเอาเอง”
ในเมื่อเมียว่าอย่างนี้ พ่อบ้านใจกล้าอย่างทิวากานต์จะทำอย่างไรได้นอกจากทำใจ ต่อให้ร่ำร้องคร่ำครวญไปแค่ไหนเขาก็ไม่เห็นใจเราอยู่ดี
“ไม่ต้องมาทำตอแหลร้องไห้เลย ซื้อมาเดี๋ยวก็เห่อขับอยู่ไม่กี่วัน ผมรู้หรอกน่า ถึงจะมีเงินแต่คิดหนักๆ ก่อนใช้ได้ไหม อีกอย่างวาไม่คิดถึงใจผมเลยใช่ไหมถึงได้หาเมียน้อยเข้าบ้านอีกแล้ว ทั้งอีกบ อีเบนท์ อีเจ็ดที่มียังไม่พอใจอีกหรือ ฮือออ” ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ก็บีบน้ำตาใส่ซะเลย ให้มันรู้ไปว่าทิวากานต์จะกล้าหาญน้ำใจคนรักได้ลง
แน่นอนว่าเจอไม้นี้เข้าไปคนตัวโตถึงกับลิ้นจุกปาก อยากจะบีบน้ำตาแข็งแต่เกรงว่าจะโดนงอนคืน เรื่องรถกับอลันด์นี่เป็นอะไรที่แสลงกันจริงๆ ให้ตายเถอะ!
“แล้วดูนะ รอบนี้จะเอาเมียเมกาตัวใหญ่ล่ำกล้ามบึ้กมาเย้ยกันอีก ไม่ชอบตัวเล็กๆ น่ารักแบบหนูแล้วใช่ไหม พี่วาคนบ้า”
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ พี่จะรักใครมากกว่าอัลลี่เป็นไม่มี” แค่เห็นน้ำตาเม็ดเล็กๆ กลิ้งลงมาบนแก้มใส คุณหมอตัวใหญ่หน้าดุก็ทำอะไรไม่ถูก ถ้ารถเป็นของแสลงของอลันด์ น้ำตาคนตรงหน้าก็เป็นของแสลงของทิวากานต์เช่นกัน
“เพราะฉะนั้น...”
ริมฝีปากบางสั่นระริก ต้องกลั้นใจสุดๆ พูดประโยคทำร้ายจิตใจตัวเองออกไป “เค้าไม่เอารถแล้วก็ได้...จ้ะ”
“หึ ก็แค่นั้นแหละ ต้องให้เสียน้ำตาตลอด”
“โธ่เว้ย!” ทิวากานต์ถึงกับทรุดนั่งคุกเข่าแล้วเอากำปั้นตีพื้นรัวๆ ด้วยความเจ็บใจ “ทำไมกูต้องแพ้เมียตลอดเลยวะ”
“ให้มันรู้ไปสิว่าบ้านนี้ใครใหญ่”
ไม่รู้ทำไมทิวากานต์รู้สึกเหมือนตนเองกับคนรักกำลังยืนอยู่บนสังเวียนแล้วเขาถูกไอ้ตัวกระเปี๊ยกนี่อัพเปอร์คัทใส่ตั้งแต่ระฆังเริ่มยกดังยังไงก็ไม่รู้ งานนี้บอกได้แค่ว่ารักเค้าไปแล้วก็เป็นได้แค่ลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด
ฮือออ กูไม่น่ามีเมียเลยENDโปรดลืมภาพพี่วาคนโหดในรักผิดคิวไปค่ะ
ทิวากานต์ตัวจริงเสียงจริงอยู่นี่ ก๊ากๆๆๆๆๆ
แต่งเนี่ยจากช่วงนี้แถวบ้านฝนตกแล้วมีน้ำรอการระบายบ่อยค่ะ
รถงี้วิ่งแทบไม่ได้ คนรักรถแบบพี่วาก็คงคิดเหมือนกัน
แต่จากฮัมเมอร์กลายเป็นวีโก้นี่ก็นะ... #น่าสงสารเขานะคะ
เตรียมฟังข่าวดีการเปิดจองเร็วๆ นี้นะคะ
แล้วเจอกันค่า ^^