“อาทิตย์นี้ก็ไม่กลับลอนดอนอีกแล้วเหรอ” คุณหมอวัยสามสิบสองหมาดๆ กรอกเสียงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยอาการเซ็ง เขาเดินไหลไปตามฝูงชนเข้าไปในทิวบ์ (tube) หรือรถไฟใต้ดินของลอนดอนเตรียมตัวกลับที่พักหลังอยู่ทำวิจัยจนดึก
‘อื้อ พอดีต้องอยู่อภิปรายกับทีน่าน่ะ’
“ทีน่า?”
“ใช่ เพื่อนผมไง วาจำไม่ได้เหรอ”
ไม่ใช่ว่าจำไม่ได้แต่เพราะได้ยินจนจำได้ทั้งที่ไม่อยากจะจำต่างหากพักหลังมานี้เวลาคุยกับอลันด์ทีไรต้องมีชื่อทีน่าหลุดมาตลอด บางทีก็นึกสงสัยว่ายัยทีน่านี่เป็นใครทำไมถึงดูมีอิทธิพลกับคนรักของเขามากมาย ไม่ว่าอลันด์จะทำกิจกรรมอะไรต้องขึ้นอยู่กับผู้หญิงคนนี้เสมอ
“เราไม่ได้เจอกันมาหลายสัปดาห์แล้วนะ” ทิวากานต์โวยวายกลับไปเหมือนเด็กๆ อยากจะบอกด้วยว่าวันเกิดเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะเด็กหนุ่มต้องทำรายงานกับยัยทีน่าแต่มันจะดูงี่เง่าเกินไป เขาเบะปากใส่โทรศัพท์ก่อนทำท่านึกขึ้นได้ “จริงสิ พรุ่งนี้พี่มีเวลาว่าง นั่งรถไปหาที่อ็อกฟอร์ดได้หรือเปล่า จะได้ฉลองวันเกิดพี่ย้อนหลังด้วยกันไง”
ใช่! เผื่อบางทีได้เจอยัยทีน่านั่นด้วย จะได้ถือโอกาสสแกนกรรมกันตรงนั้นเลยว่าหล่อนเป็นตัวอันตรายกับฮันนี่ผู้น่ารักของเขาหรือไม่!
‘เห... จะเอางั้นเหรอ ความจริงก็ได้อยู่นะ ผมพอจะมีเวลาว่างตอนมื้อเที่ยงนิดหน่อย แต่นัดกับทีน่าไปแล้วด้วย เราคงไม่ได้อยู่กันสองคน มันจะคุ้มเหรอวา’ คนปลายสายทำน้ำเสียงไม่เห็นด้วยแต่ไม่ปฏิเสธเด็ดขาด
และมีชื่อยัยทีน่าโผล่มาอีกแล้ว“นี่ถึงจุดที่ตีค่าการได้เจอหน้าแฟนเป็นกำไร-ขาดทุนแล้วงั้นเหรอ” คราวนี้คนวัยสามสิบนิดๆ ชักเริ่มน้อยใจขึ้นมาจริงๆ “สำหรับพี่ เรื่องความรู้สึกมันตีราคาไม่ได้หรอกนะ”
‘เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น ผมเองก็คิดถึงวา แต่มันเปลืองค่ารถนี่นา ได้เจอกันแค่ชั่วโมงเดียวเองนะ’
“ก็นับว่าคุ้มแล้ว อีกอย่างจะแคร์ทำไม พ่อรวยซะอย่าง”
‘ใช่ซี่ มีพ่อเป็นดาราดังนี่นะ’ ไอ้ตัวแสบส่งเสียงงุ้งงิ้งมากตามสาย พวกเขาคุยกันอีกเล็กน้อย(มีชื่อทีน่าหลุดมาอีกสองครั้งกับพฤติกรรมเปิ่นๆ ของเธอ)ก็วางสายแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ทิวากานต์กลับมาถึงห้องเช่าตอนห้าทุ่มพอดี เพื่อนบ้านบางคนกำลังเริ่มจัดปาร์ตี้เสียงดังได้ที่ซึ่งเดี๋ยวคงมีคนโทรไปแจ้งตำรวจให้มาจัดการ เขาถอดเสื้อโค้ทแขวนไว้กับเสาที่หน้าประตู จัดการเปิดไฟแล้วเดินเข้ามาด้านใน
ห้องพักของเขาจัดว่าเป็นห้องธรรมดาไม่ได้หรูเลิศอะไร มีแค่ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นเล็กๆ อย่างละหนึ่งกับเคาน์เตอร์บาร์ กระนั้นค่าเช่าก็ราคากระอักเลือดสมกับเป็นเมืองที่ค่าครองชีพสูง
ปกติแล้วนักเรียนต่างชาติหรือแม้แต่เจ้าถิ่นเองยังนิยมรวมกลุ่มกันเช่าบ้านเพราะราคาถูกแถมอุปกรณ์ห้องหับก็พร้อมกว่า ไม่ค่อยมีแยกมาอยู่คนเดียวแบบนี้มากนักถ้าไม่มีเงินทุนหนาจริงๆ ตอนเขาจะมาเรียนที่นี่ก็มีคนรู้จักในอังกฤษชวนให้ไปอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่เขาปฏิเสธไปเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่า และที่สำคัญ...จะพาอลันด์มาค้างด้วยก็สบายบรื๋อไม่ต้องกังวลกับสายตาหรือคำพูดของใคร
แต่อลันด์ไม่มาค้างด้วยหลายสัปดาห์แล้วนี่สิ เซ็งชะมัดเขาจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็เปิดคอมเตรียมอัพเดทข่าวสารในรอบสัปดาห์เสียหน่อย ในหัววาดแผนการคร่าวๆ ว่าจะช่วงเวลาที่มีอันน้อยนิดกับอลันด์ยังไงบ้าง แม้จะเป็นแค่เพียงหนึ่งชั่วโมงสั้นๆ แต่ถ้าบริหารให้ดีทิวากานต์ว่าคุ้มค่าเกินกว่าที่เด็กเศรษฐศาสตร์คาดแน่ๆ
ปลายนิ้วเรียวยาวนุ่มนิ่มกดบนแป้นคีย์บอร์ดเป็นชื่อเว็บไซต์คอมมูนิตี้ชื่อดังของพี่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กด้วยความรวดเร็ว ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเข้าดูความเคลื่อนไหวผ่านสมาร์ทโฟนครั้งล่าสุดเขาก็ได้รับแจ้งเตือนนับสิบจากคนรู้จักหลายคน มีทั้งสาวๆ ที่มาโพสหน้าวอลล์ว่าคิดถึง เพื่อนที่ฝากซื้อของให้ส่งกลับไปกรุงเทพ ข่าวเมียหมอกวินกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก และแจ้งเตือนโพสใหม่ในกรุ๊ปปิดของหมอศัลย์
ปกติทิวากานต์ก็ไม่ได้ติดตามข่าวสารวงการบันเทิงหรอก ดาราคนไหนเป็นใครถ้าไม่ดังจริงๆ แบบนภแล้วเขาแทบไม่รู้จัก(ถึงจะเคยคั่วสาวในวงการมาบ้างก็เหอะ) ยิ่งมาเรียนต่อที่ลอนดอนเขายิ่งห่างไกลจากวงการบันเทิงไทยแบบสุดชั้ว กระทั่งวันนี้มีคนในกรุ๊ปเฟซบุ๊คของหมอศัลย์แชร์ลิ้งค์ข่าวอันหนึ่งมา ตอนแรกเขาว่าจะมองข้ามมันไปแล้วแต่เพราะตัวเลขคนคอมเม้นต์และท็อปคอมเม้นต์อันดุเดือดนั้นเรียกให้ปลายนิ้วเรียวสวยกดคลิกเข้าไปอ่านไม่ได้
ตาคมดุที่ทำเลสิกแก้สายตาสั้นตั้งแต่ตอนยี่สิบแปดจดจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ ข่าวดาราสาวนางหนึ่งแยกทางกับสามีที่เป็นถึงศัลยแพทย์ชื่อดังทำเอาทิวากานต์ตากระตุก เขาไล่อ่านทุกบรรทัดทุกข้อความไม่เว้นแม้กระทั่งความคิดเห็นอีกนับสิบ สาเหตุหลักๆ เลยก็คืออายุที่ห่างกันมากเกินไปและไลฟ์สไตล์ต่างกัน
ยิ่งอ่านเขายิ่งรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ทำม๊ายทำไมเนื้อหาข่าวมันคล้ายๆ ชีวิตเขายังไงไม่รู้ แต่เขากับอลันด์ยังไม่เลิกกันนะเฮ้ย!
‘ผู้หญิงไม่เข้าใจชีวิตหมอเลย คิดดูทำงานเหนื่อยแทบตาย กลับบ้านมาเจอเมียไปเที่ยวกับเพื่อน แบบนี้จะแต่งงานไปทำแมวอะไรวะ’
‘อายุห่างกันด้วยแหละเลยไม่เข้าใจกัน ผู้หญิงยังเด็กเลยติดเที่ยวก็ไม่แปลก’
‘เฮ้อ ชีวิตศัลย์มันช่างอาภัพ หาคนเข้าใจยากจริงๆ’ชายหนุ่มแอบกดไลค์ความเห็นเหล่านั้นเบาๆ ด้วยความเห็นใจ ชีวิตรักเขายังดีกว่านายแพทย์ผู้โชคร้ายคนนั้นที่อลันด์ไม่ใช่เด็กติดเที่ยว ออกจะแอนตี้ปาร์ตี้ด้วยซ้ำ และค่อนข้างเข้าใจอาชีพของเขาดี กระนั้นยังอดร้อนๆ หนาวๆ ไม่ได้ เกิดวันหนึ่งไอ้ตัวแสบเบื่อผู้ชายแก่ๆ ทำแต่งานแบบเขาขึ้นมา จะไม่ทิ้งเขาไปหาสาว(หรือหนุ่ม)คนอื่นหรอกหรือ ทุกวันนี้ต่อให้เขาบินตามมาเรียนที่ประเทศเดียวกันแต่ก็คนละเมืองอยู่ดี ได้ใช้เวลาด้วยกันไม่เท่าไหร่ เจ้าเด็กนั่นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ อาจจะเจอสังคมใหม่ๆ จนลืมเขาไปแล้วก็ได้...
“แถมตอนนี้ยังมียัยทีน่าอะไรนั่นติดเป็นตังเม ไม่ใช่ว่าอัลกับยัยนั่นจะ...” เขาส่ายหัวไล่ความคิดบ้าๆ ในแง่ร้ายออกจากสมอง “ไม่หรอกน่า เราต้องเชื่อใจอัลสิ”
ใช่แล้ว...คนรักกันถ้าไม่เชื่อใจกันจะยังเรียกว่าคนรักได้ยังไง.
.
.
เมื่อถึงเช้าวันถัดมา ชายหนุ่มตอนปลายตื่นมาจัดการแต่งหล่อแต่เช้า นั่งทิวบ์ออกจากที่พักไปสถานีแพดดิ้งตัน (Paddington) เพื่อจับรถไฟเที่ยวก่อนสิบโมงเช้ากะเวลาให้ไปถึงอ็อกฟอร์ดสิบเอ็ดโมงพอดี
หลังหาที่นั่งเจอทิวากานต์ก็หลับคอพับมาตลอดทางด้วยความเพลียจากการนั่งอ่านความคิดเห็นเรื่องดาราสาวกับอดีตสามีศัลยแพทย์ชื่อดังจนถึงตีสอง ยังดีที่ไม่ได้ขับรถเอง ไม่งั้นวันนี้เขาคงไปหาอลันด์ไม่ถึงที่ แต่พุ่งลงข้างทางไปเสียก่อน
สมัยมาอยู่ลอนดอนแรกๆ ทิวากานต์เคยคิดจะซื้อรถไว้ใช้งานเองอยู่หรอก แต่ด้วยความขี้เกียจจัดการกับเอกสารร้อนแปดเพื่อการขับรถเมืองนอกเล่นแค่สามปี ไหนจะที่พักของเขาก็อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไม่กี่ช่วงตึก รวมถึงจะระบบขนส่งของที่นี่ก็ดีไม่เหมือนกรุงเทพ จึงไม่รู้จะซื้อไปทำไม อีกอย่างถ้าอยากขับรถเล่นเขาก็มีเบนท์ลีย์ มูซานคันหรูของอลันด์อยู่แล้ว โฮะๆๆ
รถไฟมาถึงสถานีปลายทางก่อนสิบเอ็ดโมงเล็กน้อย ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงพอดี หลังจากนั้นก็ต่อบัสไปแถวมหาวิทยาลัยของอลันด์ ใช้เวลาอีกสักพักเดินหาร้านอาหารที่นัดแนะกันไว้ ทิวากานต์เข้าไปรอในร้าน สั่งอาหารไว้ล่วงหน้ากะวางให้เต็มโต๊ะ ไม่ลืมขอเซอร์ไพรส์จากทางร้านเป็นเค้กวันเกิดย้อนหลังให้ตัวเอง
คิดแล้วก็อนาถ ขนาดวันเกิดตัวเองยังต้องเซอร์ไพรส์เอง แต่คิดอีกทีเจ้าตัวแสบเรียนหนักไม่มีเวลามาทำอะไรจุกจิกแบบนี้ให้เขาหรอก เพื่อความสุขในชีวิตรักจะยอมนิดๆ หน่อยๆ เป็นไรไป
พอเข็มนาฬิกาเลยเที่ยงมาได้แค่สามนาทีร่างผอมบางของอลันด์ก็ปรากฏกายขึ้นที่หน้าร้าน ใบหน้าขาวใสพราวไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มสว่างไสว และผู้หญิงชาวตะวันตกหุ่นอวบอ้วนคนหนึ่ง... ทั้งสองเดินเคียงข้างกันมาก่อนที่ร่างเล็กนั้นจะโผเข้าหาทิวากานต์ หอมแก้มสากของคุณหมอฟอดใหญ่
“ฮันนี่”
“คิดถึงจังเลย” เขารวบร่างเล็กเข้ามากอดแน่น โชคดีเหลือเกินที่อังกฤษรักร่วมเพศเป็นเรื่องปกติสามัญ พวกเขาจึงแสดงออกถึงความรักได้อย่างเปิดเผย
“ขอโทษนะ รอนานหรือเปล่า”
“ไม่นานเลย นั่งเถอะ พี่สั่งอาหารไว้แล้ว”
“Great!” อลันด์ชูนิ้วโป้งส่งมาให้ ก่อนเจ้าตัวจะทำหน้านึกขึ้นได้ “Oh! I’m sorry, honey ผมลืมแนะนำให้รู้จัก นี่ทีน่าคนที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ ทีน่า นี่วา คนรักของฉัน”
ทีน่าเป็นคอเคซอยส์สาวผมแดงจินเจอร์ที่สูงเกือบเท่าอลันด์และใหญ่ไปทุกสัดส่วนตั้งแต่หน้าอก เอว สะโพก และท่อนขา! หล่อนโอบเอวอลันด์แน่นก่อนเงยหน้ามาสบตากับทิวากานต์ “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ทิวากานต์กระพริบตาปริบๆ มองสาวเพียงหนึ่งเดียวยิ้มหวานก่อนยื่นมือมาให้คุณหมอจับแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้โดยไม่ต้องให้ใครเชิญ
ตลอดเวลาบนโต๊ะอาหารทิวากานต์พยายามมองข้ามรอยยิ้มแปลกๆ ของทีน่าที่มองตรงมา จะบอกว่าเป็นเรื่องปกติเพราะไม่ว่าผู้หญิงทุกคนล้วนชอบผู้ชายอย่างทิวากานต์ก็คงใช่ แต่ไม่รู้ทำไมคราวนี้เขาถึงคิดว่ามีบางอย่างแปลกไป สัญชาตญาณในร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนดังก้อง แต่ว่า...
ผู้หญิงอย่างทีน่าไม่น่าจะเป็นคู่แข่งเขาได้เลย ถ้าสวยหุ่นดีแบบซาร่าแฟนเก่าอัลก็ว่าไปอย่าง“อัลกินยังไงเลอะเทอะไปหมดเลย ฉันช่วยนะ”
“โอ๊ะ ขอบคุณมากทีน่า” เจ้าเด็กตัวแสบฉีกยิ้มกว้างรอให้สาวเจ้าหยิบผ้ามาซับหน้าให้เหมือนเด็กๆ เสร็จแล้วก็อ้อนสาวหนึ่งเดียวบนโต๊ะด้วยการกอดซุกหน้าอกโตๆ ของหล่อน
แต่บางที...ทิวากานต์อาจประเมินผิดไป
เดี๋ยวสิเฮ้ย! ชอบแบบนมโตๆ ทำไมไม่บอก เขาจะได้ไปทำ #ผิดๆๆๆๆทิวากานต์มองภาพนั้นแล้วยอมเสียมารยาทเท้าแขนบนโต๊ะจ้องอลันด์ตาเขียวปั๊ด อีกฝ่ายเหมือนจะรู้ตัวจึงผละหน้าออกจากอกอวบอัดของสาวอ้วนทีน่า(ขอใช้คำว่าอ้วนเถอะเพราะถ้าส่งตรวจที่โรงพยาบาลหมอร้อยทั้งร้อยก็ต้องบอกว่าเธอเป็นโรคอ้วน!)ส่งหัวเราะแห้งๆ มาให้ นี่เขาไม่ตลกด้วยนะเว้ย!
หลังจัดการอาหารกันหมดเรียบร้อยและพนักงานยกจานใบใหม่มาเปลี่ยนทิวากานต์ก็ห้ามอลันด์ที่ทำท่าจะสั่งของหวาน เขาดึงมือเล็กมากุมไว้ทำเป็นไม่สนใจสายตาแปลกๆ ของทีน่า “พี่มีอะไรจะเซอร์ไพรส์”
“หืม เนื่องในโอกาสอะไรเหรอ”
เขาไม่ได้ตอบคำถามแต่ให้พนักงานที่กำลังยกเค้กมาเป็นคนตอบ เค้กช็อคโกแลตเขียนข้อความสุขสันต์วันเกิดย้อนหลังคุณหมอรูปหล่อพร้อมเทียนเล่มเล็กสามอันถูกวางลงบนกลางโต๊ะ เด็กหนุ่มสาวทั้งสองดูจะตกใจเล็กน้อยโดยเฉพาะอลันด์
“ถึงจะช้าไปหน่อยแต่พี่ก็อยากฉลองวันเกิดกับเรานะ”
“วา... I’m so sorry”
“ขอโทษทำไมครับ”
“ขอโทษที่ไม่ได้ใส่ใจวาเท่าที่ควรเลย” อลันด์ทำหน้าหงอยรู้สึกผิดจริงๆ ที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้คนรักนัก แต่ทิวากานต์อยากบอกเหลือเกินว่าแค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
ทิวากานต์ใช้มือปัดเหนือเปลวไฟให้เทียนมอดลงแทนการเป่าแล้วใช้มีดตักเค้กก้อนเล็กแบ่งเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน ตอนเขาวางเค้กบนจานของทีน่าเกือบเผลอเอามีดกระซวกไส้หล่อนไปหนึ่งทีเพราะยัยฝรั่งเนื้อนมไข่(?)บังอาจอาศัยช่วงเวลานี้เอาแก้มไปถูกับบ่าอลันด์
“กินเยอะๆ นะอัล ผอมเกินไปแล้ว” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบทิวากานต์จึงใช้หลังมือถูแก้มไอ้ตัวแสบเบาๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจับมาจูบโชว์เสียตอนนี้เลย
“ขอบคุณนะวา”
“อะ อัล ฉันช่วยป้อนนะ อ้ามมม...”
สวีทหวานได้ไม่ทันไร ยัยทีน่าเจ้าเก่าก็เริ่มกวนประสาทคุณหมอรูปหล่ออีกรอบ มืออูมๆ ใช้ส้อมตัดเค้กเป็นชิ้นเล็กก่อนยื่นไปจ่อปากหนุ่มน้อย อลันด์ก็ว่าง่ายอ้าปากรับเข้าไปเคี้ยวตุ้ยๆ แล้วยังมีหน้าหันไปยิ้มให้หล่อนจนตาหยี
ชายหนุ่มเหมือนได้ยินเสียงเส้นอะไรบางอย่างในหัวขาดดังผึง
เดี๋ยวก่อนนั่นผู้หญิง ทนไว้ไอ้วา“อ๊ะ เปื้อนอีกแล้ว ฉันเช็ดให้นะ”
ปื๊ด...
เส้นที่สองขาดตามไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ๆ ไอ้วา เอ็งต้องท่องไว้ อัลไม่ได้ชอบผู้หญิง ตอนนี้อัลเป็นเกย์ ชอบผู้ชายเท่านั้น หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ฮึบๆ“ทีน่าอ่า ขอบคุณนะ”
อัล...ไม่นะ ขอบคุณแค่ปากสิ จะโผไปกอดยัยนั่นทำไม แล้วทำไมต้องซุกหน้ากับนม ชอบนม ชอบไขมันมากเหรอ ให้พี่ไปเพิ่มไซส์ไหม ม่ายยย...ปื๊ด- ปื๊ด- ปื๊ด---!!!
“นี่ - มัน - จะ - มาก - ไป - แล้ว - นะ - !!!”
“หือ?”
“ไม่ต้องมาหือเลยไอ้ตัวแสบ อยากเห็นพี่หึงใช่หรือเปล่า แฟนนั่งหัวโด่อยู่นี่ยังอี๋อ๋อกับผู้หญิงให้เห็นตำๆ ตาอีก จิตใจทำด้วยอะไร สะใจมากใช่ไหม ถ้าชอบนมทำไมไม่บอก มาลวงมาหลอกฉันเล่นทำไม ใช่สิ นี่แก่ก็แก่ นมก็แบน จะเอาอะไรไปสู้ยัยทีน่าไขมันหนาสิบนิ้ว ใช้มีดทำครัวจิ้มพุงยังไม่เจอเนื้อ กูไม่ทนแล้วเว้ย!!!”
“วะ วา...”
“ไม่ต้องมาเรียก!” ทิวากานต์กอดอกฉับ เชิดคางสูง ตอนนี้ทั้งหึงทั้งโมโห อย่าเพิ่งเข้ามาใกล้เชียวไม่งั้นถูกกินหัวไม่รู้ด้วย
“ง่า...” เด็กหนุ่มหน้าเจื่อน กระนั้นก็ยังโอบเอวสาวเจ้าเนื้อนามว่าทีน่าไว้อยู่ จนถูกดวงตาคมปรายมองมาถึงยอมปล่อย เดี๋ยวอีกไม่กี่สิบนาทีเขาต้องกลับไปเตรียมอภิปรายที่คณะต่อแล้วนี่สิ แต่ตอนนี้คนรักยังหน้าบูดใส่อยู่เลย พอจะอ้าปากพูดก็ถูกมองจนต้องหุบปาก
ส่วนสาวต้นเหตุเองก็ตัวสั่น ถ้าเป็นไปได้หล่อนอยากจะเหลือตัวเท่าเม็ดถั่วเขียวด้วยซ้ำ แต่มันเป็นไปไม่ได้นี่สิ!
“ไม่ได้อยากใช้เวลาที่มีแค่หนึ่งชั่วโมงมาทะเลาะกัน แต่เหมือนว่า...” ทิวากานต์ชะงักริมฝีปากค้าง “อัลไม่อยากใช้เวลากับพี่แล้วสินะ”
“ไม่ใช่นะวา”
“แล้วทำไมทำกับพี่แบบนี้”
“แบบไหน”
“ก็อย่างที่ทำอยู่นี่ไง อี๋อ๋อกับผู้หญิงเนี่ย ชอบนมใช่ไหมล่ะ พี่เข้าใจเพราะพี่ก็ชอบ”
“เดี๋ยวๆ ผมว่าไม่ใช่ล่ะ” เด็กหนุ่มแกะตัวออกมาจากอ้อมอกสั่นเทาของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวบนโต๊ะอาหาร คิ้วเรียวกระตุกตอนที่ได้ยินอีกคนพูดคำว่านม
“ไม่ใช่ได้ไง ในเมื่ออัลเอาแต่ซุกนมทีน่า”
“ก็มันอุ่น เอ๊ย ไม่ใช่ แต่ก็อุ่นจริงๆ นั่นแหละ” ท้ายประโยคเจ้าตัวงุบงิบพูดคนเดียวแต่ไม่สามารถรอดพ้นหูนรกของคุณหมอไปได้
“เห็นไหมล่ะ” ทิวากานต์ตบโต๊ะดังปังเรียกสายตาทุกคนในร้านให้หันมามองเป็นตาเดียว
“ว่าแต่...นี่วาหึงผมกับทีน่างั้นเหรอ บ้าน่า ถ้าผมชอบนมจริงคงไม่เลิกกับยัยซาร่าหรอก แต่จะว่าไปยัยนั่นไม่ค่อยจะมีหน้าอกนี่นะ อืม...ความจริงผมชอบนมแข็งๆ แบบโธมัสมากกว่า”
“สรุปคือชอบแบบนั้น”
“อือ”
“แล้วทำไมต้องซุกนมทีน่าด้วย”
“มันอุ่นดี วาไม่คิดเหรอว่าคนอ้วนน่ารักจะตาย กอดทีนะอุ่นสุดๆ ยิ่งตอนหน้าหนาวแทบไม่ต้องพึ่งเตาผิงเลย”
ได้ยินคำตอบแล้วทิวากานต์อยากกระชากหัวตัวเองให้หนังหลุด สรุปคือแมวเหมียวตัวนี้นอกจากขี้หนาวแล้วยังติดสัมผัสด้วยสินะ ให้ตายเถอะ ถ้าคู่ต่อสู้เป็นสาวสวยหุ่นดีทิวากานต์ยังคิดว่าเอาชนะได้ แต่พอเป็นผู้หญิงอวบไปทุกส่วนแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะหาชั้นไขมันที่ไหนมาสู้เหมือน
เกิดต้องเลิกกันเพราะมือที่สามแบบยัยทีน่า มีหวังรู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น“ไม่ - สนุก”
แล้วใครสนุก?
“ไม่ - ตลก - ด้วย”
เห็นคนขำป่ะล่ะ?
อลันด์อยากถามกลับไปจริงๆ แต่เหมือนตอนนี้เขากับทีน่าจะทำให้คนแก่โมโหซะแล้ว ก็รู้อยู่หรอกว่าทิวากานต์ขี้หึงแล้วยังหึงโหด แต่ไม่คิดว่ากับผู้หญิงแบบทีน่าก็ยังหึง ดีนะไม่ลุกขึ้นมาล้มโต๊ะ ไม่งั้นเขาคงไม่กล้าเข้าร้านโปรดนี้อีกตลอดชีวิตแน่ๆ
ว่าแต่... ทิวากานต์ทำวิจัยจนเบลอไปแล้วหรือไง
“วา...”
“อะไร”
“ช่วงนี้งานวิจัยหนักเหรอ”
“นิดนึง แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ เรายังคุยกันเรื่องนี้ไม่จบ”
“ผมว่ามันก็เรื่องเดียวกันนี่แหละ วา...ผมเคยเล่าให้ฟังไปตั้งแต่ตอนเปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอว่าทีน่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมที่เรียนอยู่อ็อกฟอร์ดเหมือนกัน เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก หรือว่าแม้กับญาติวาก็หึง”
“หึง เอ๊ะ...” คนปากไวสะดุ้งหลังโก่งเหมือนแมวก่อนเสียมารยาทชี้นิ้วไปที่สาวน้อยทีน่าผู้น่าสงสาร “ลูกพี่ลูกน้อง”
“อื้อ ญาติทางฝ่ายแด๊ด”
ทิวากานต์เหมือนได้ยินเสียงอะไรแตกดังเพล้งก้องอยู่ในหู อย่าบอกนะว่าเขาคิดมากจนตีสายตาของทีน่าเพี้ยนไป เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนแสร้งยกนาฬิกาขึ้นดู “อ้า จะบ่ายโมงแล้วนิ อัลกับทีน่าต้องไปคุยกับโปรเฟสเซอร์ต่อใช่ไหม งั้นคิดเงินเลยแล้วกัน มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”
“แหมวา...”
“คิดเงินด้วยครับ” ทิวากานต์ทำเมินเสียงของคนรักวัยกระเต๊าะที่เปลี่ยนไปยิ้มเจ้าเล่ห์ เชื่อได้เลยว่าไอ้ตัวแสบต้องเอาไปเม้าท์ให้บรรดาพ้องเพื่อนที่เมืองไทยฟังแน่ๆ
โอ๊ย ไอ้วาเอ๊ย หึงไม่ดูตาม้าตาเรือเลย!!!ด้านสาวทีน่าที่โดนลูกหลงสะเก็ดระเบิดใส่แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็มีท่าทีหวาดกลัวทิวากานต์ไปเลย กระทั่งเดินออกมาข้างนอกแล้วก็ยังเอาตัวใหญ่ๆ ไปแอบหลังอลันด์
“ขอบคุณนะวาที่อุตส่าห์มาหา อาทิตย์หน้าผมสัญญาว่าจะกลับลอนดอน”
“อ่า... ไม่ต้องก็ได้”
“ทำไม อายเหรอ”
“เออสิเว้ย” เขาทำโมโหกลบเกลื่อนแต่ไม่สามารถทำอะไรเด็กหนุ่มคนรักได้ อลันด์หัวเราะเสียงดังลั่นก่อนกระโดดเข้ากอดคุณหมอตัวโต
“ขอโทษนะที่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันเท่าไหร่เลย แต่ผมน่ะรักวาคนเดียวจริงๆ ตอนนี้ก็พยายามเพื่อให้เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้อยากให้วาเชื่อใจผมแล้วก็อดทนรอ เหลืออีกแค่สองปีนิดๆ เอง”
“อืม รู้แล้ว ขอโทษเหมือนกันครับ” วงแขนใหญ่สอดกอดตอบอีกคนให้จมเข้ามาในอกแบนๆ แถมยังไม่แข็งแน่นแบบโธมัส
“แล้วถึงแม้ว่าวาจะไม่มีหน้าอกใหญ่ๆ แบบทีน่าหรืออกแน่นๆ แบบโธมัส ผมก็รักวาที่เป็นวามากกว่านมอยู่ดี เหมือนที่วารักผมโดยไม่แคร์ว่าผมจะเป็นผู้ชายไง” เจอเด็กสอนกลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับหมดคำแย้ง ทิวากานต์กอดอลันด์แรงๆ แล้วจูบปากเร็วๆ ก่อนผละออก ตาคมดุปรายมองสาวน้อยทีน่าที่ยังคงมีท่าทีหวาดกลัวอยู่ ขายาวก้าวเพียงทีเดียวก็เข้าประชิดตัวอีกฝ่ายจนสาวเจ้าถึงกับผงะ
“ขอโทษครับ” ตอนนี้เขาชักจำตอนที่อลันด์เล่าเรื่องทีน่าให้ฟังผ่านโทรศัพท์ได้แล้ว เหมือนตอนนั้นเขากำลังยุ่งกับงานวิจัยเลยไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังที่อลันด์เล่าเท่าไหร่ สุดท้ายก็ตายเพราะตัวเองนี่แหละที่ปล่อยโง่ออกไปไม่ดูสี่ดูแปด
“เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ”
“งั้นผมไปก่อนนะเดี๋ยวสาย”
“อื้อ แล้วเจอกันนะ”
“แล้วเจอกันครับ บาย”
อลันด์ยกมือโบกให้ทิวากานต์พร้อมรอยยิ้มกว้างสดใส ความจริงเขาอยากเดินไปส่งอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้คงเข้าหน้ากับทีน่าไม่ติด แยกกันตั้งแต่ตอนนี้เลยคงดีกว่า *ขอเก็บเศษหน้าแป๊บ*
ส่วนเขาหลังเก็บชิ้นส่วนใบหน้าคืนที่เดิมแล้วก็เดินทอดน่องกลับไปที่สถานีรถไฟเตรียมตีตั๋วกลับลอนดอน คาดว่าคงไม่ได้กลับมาเหยียบอ็อกฟอร์ดอีกนาน และไม่เข้าร้านนั้นอีกตลอดชีวิต สารภาพจากใจเกิดมาสิบสิบกว่าฝนยังไม่เคยหน้าแตกอับอายขนาดนี้มาก่อน เพราะความหึงหวงแท้ๆ โทษข่าวดาราสาวเลิกกับสามีหมอด้วยที่ทำให้เขาคิดมาก
อารมณ์หึงเนี่ย...น่ากลัวกว่าที่คิดแหะ แต่ถ้าไม่รักคงไม่หึงจนหน้ามืดแบบนี้หรอกทิวากานต์นั่งเหี่ยวตลอดทางกลับลอนดอน จนเขาถึงห้องพักโทรศัพท์ก็ส่งเสียงข้อความเข้าเป็นช็อตลิงค์ URL เข้าแอพพลิเคชั่นดูวิดีโอออนไลน์ชื่อดัง นิ้วยาวกดเร่งปุ่มลำโพงเมื่อหน้าจอปรากฏภาพมัวๆ ของผู้หญิงใส่ชุดแดงพร้อมดนตรีทำนองญี่ปุ่น
ดวงตาคมเบิกกว้างน้อยๆ เมื่อเห็นตัวคาราโอเกะขึ้นที่หน้าจอ
อย่าโกรธอย่าเกลียดอย่าเครียดอย่าขึ้งเพราะความขี้หึงไปเลยคุณ
อารมณ์เฉียวฉุนวาจาเคืองขุ่นมิชวนฟัง
อย่าทำเป็นเมิน อย่าเก้ออย่าเขินเหมือนคนชิงชัง
ทั้งค้อนทั้งงอนพิลึกจัง ทำเมินหันหลังดังชังกัน
บางทีนึกขันบางทีรำคาญเพราะมึนตึง
ไม่เกลียดที่คุณหึง หึงเพราะรักฉันพึงใจ
อย่าโศกจนเศร้าอย่าเฝ้าระแวงเพราะความกินแหนงแคลงใจกัน
อารมณ์ร้ายนั้นอายุจะสั้นเหมือนดังเปลวไฟ
ต้องวางใจกันจะห่างไกลนั้นสักเพียงใด
รักของเรา เราไว้ใจ จะใครไหนใดมาตอแย
ดวงใจรักแท้เราจะหนักแน่มิคลายแคลง
อย่าเอาแต่ขัดแย้ง ความระแวงจะทำลายคุณหมอวัยสามสิบสองกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตก เพียงเพลงนี้ก็บอกความนัยของอลันด์ให้ทิวากานต์ได้รับทราบครบถ้วนไม่ขาดไม่เกินไปแม้แต่น้อย แต่ที่น่ารักก็คือการที่ไอ้ตัวแสบช่างไปสรรหาเพลงโบราณมาให้เขาฟังนี่แหละ ตอนแรกนึกว่าจะส่งเพลง ‘ขี้หึง’ หรือไม่ก็ ‘จิ๊จ๊ะ’ ของ Silly Fools มาให้ฟังเสียอีก ดันกลายเป็นเพลงรุ่นแม่ไปซะงั้น
เขาก้มหน้ากับจอสมาร์ทโฟนก่อนพิมพ์ข้อความตอบกลับไป ไม่ได้ให้สัญญาหรอกว่าจะไม่หึงอีกเพราะตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของพวกเขาเท่านั้น แต่จะอยู่หึงอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ จนกว่าอลันด์จะเบื่อดีกว่า ก็เพราะ...
‘ที่หึงน่ะเพราะรักมากนี่นา’TBCตอนพิเศษที่คุณ Ploy ผู้ชนะรางวัลรีเควสมาค่ะ
'ขอรีเควสแบบมีผู้หญิงมาตามน้องอัล แล้วให้พี่วาหึงน้องอัลแบบแสดงออกบ้างอะค่ะ ปกติหึงทีไรนิ้งนิ่ง..'ออกป่วงๆ ไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ ขนาดยังหึงยังหึงผิดจนต้องเก็บเศษหน้าแทบไม่ทันเลย
พี่วาเนี่ย...น่าสงสารจริงๆ
ขอบคุณที่ทุกคนให้ความรักกับ HEART ATTACK มาโดยตลอดนะคะ
จุ๊บๆ