Chapter 37 : ค่ำคืนในหอสองหนุ่มเดินเคียงคู่กันไปตามทางเดินในหอสิบ ขึ้นไปยังชั้นสามซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักเด็กหนุ่ม
เมื่อมาถึงหน้าห้อง น้ำยืนรออยู่ทางด้านนอก ส่วนเมฆวิ่งเข้าไปหยิบขวดแชมพูและสบู่เหลวมาส่งให้อีกฝ่าย “พี่น้ำเข้าไปอาบน้ำก่อนนะครับ นี่ผ้าเช็ดตัวครับ อันนี้ถุงพลาสติกเอาไว้ใส่เสื้อผ้าที่เปียก ส่วนเสื้อผ้าเปลี่ยนเดี๋ยวผมเอาไปให้ ขอรื้อตู้ก่อน แล้วก็ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น...”
รุ่นพี่ส่ายหน้าไปมา “เดี๋ยวค่อยมารื้อเสื้อผ้าก็ได้ เอาแค่ผ้าเช็ดตัวก่อน เข้าไปเอามาเร็วๆ พี่จะรอ”
“อ๋า เอ่อ...”
“เร็วสิ!”
“ครับๆ” เมฆวิ่งกลับเข้าไปในห้อง พุ่งตรงออกไปยังระเบียง ดึงผ้าเช็ดตัวลงมาจากราวตากผ้า แล้วรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาหาชายหนุ่ม เขากะว่าจะรีบไปอาบน้ำให้เสร็จๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยกลับมาหาเสื้อผ้าให้รุ่นพี่ใส่
เด็กหนุ่มสาวเท้ายาวๆ พารุ่นพี่ไปจนถึงห้องอาบน้ำรวมของหอ ซึ่งภายในนั้นแบ่งเป็นห้องน้ำห้องเล็กๆ อีกนับสิบห้อง เขาชี้บอกให้อีกฝ่ายเข้าไปในห้องข้างๆ กัน
“เดี๋ยวพี่น้ำใช้แชมพูกับสบู่เสร็จแล้วค่อยส่งมาให้ผม”
“ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ” คนถามยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง ใบหน้าซับสีเลือด เขายังไม่ได้ทำใจเลย จู่ๆ จะให้คลุกวงในคงไม่ไหว “ยะ... อย่าเลยครับ เอ้อ... ห้องมันแคบ”
น้ำหัวเราะพลางส่งขวดสบู่เหลวคืนให้ “งั้นเมฆอาบน้ำไปก่อน พี่จะสระผม แล้วเดี๋ยวค่อยสลับกันละกัน”
“คะ... ครับ” เมฆยืนกะพริบตาปริบๆ ขณะที่ชายหนุ่มก้าวเข้าห้องอาบน้ำไป สายตาเคลื่อนต่ำลงมาตรงช่องว่างของบานประตูซึ่งสูงเกือบหนึ่งฟุต ทำให้เขามองเห็นหน้าแข้งของรุ่นพี่ได้ชัดเจน อีกฝ่ายกำลังถอดเสื้อผ้าออกแล้ววางกองไว้บนพื้น
ดูจากจำนวนชิ้นส่วนเสื้อผ้า แปลว่าตอนนี้พี่น้ำโป๊หมดทั้งตัวแล้ว อา... ทำไมจมูกร้อนๆ ชอบกล
เสียงน้ำจากฝักบัวร่วงหล่นลงกระทบพื้นกระเบื้อง รุ่นพี่เริ่มสระผมแล้ว ส่วนตัวเขา... ก็ยังคงยืนจินตนาการไปถึงอะไรต่อมิอะไรอยู่ที่ด้านหน้าห้อง
“เมฆ ไม่อาบน้ำเหรอ”
“อะ... ครับ อาบครับ” เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เขารีบรุดเข้าไปในห้องข้างๆ กัน เร่งถอดเสื้อผ้าออกแล้วถูสบู่อย่างว่องไว หากเมื่อนึกถึงว่าพี่น้ำของเขาอาบน้ำอยู่ที่ห้องติดกันนี่ จิตใจเขามันก็ไม่สงบเอาเสียเลย
“เมฆ”
“ครับ!”
น้ำส่งขวดแชมพูผ่านมาทางช่องว่างเหนือศีรษะ “อาบน้ำเสร็จรึยัง”
“เสร็จแล้วครับ” เมฆรีบหยิบขวดสบู่เหลวส่งให้ พร้อมกับรับขวดแชมพูมา แต่แค่ข้อมือเปียกๆ ของรุ่นพี่ก็ทำให้เขาจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนได้ ไม่นานเลือดที่ไหลมาจ่อรวมอยู่ที่ปลายจมูกก็ค่อยๆ หยดออกมาประจานความคิดของเขาช้าๆ ก่อนจะหยดลงบนพื้นห้องน้ำ
ฉิบหายแล้ว! เดี๋ยวพี่น้ำคิดว่าเขาเมนส์มาล่ะแย่เลย!
เด็กหนุ่มรีบเอื้อมมือไปเปิดฝักบัว เร่งสระผมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอล้างฟองสบู่ออกแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างเอาไว้ “พี่น้ำรอก่อนนะ เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน อย่าเพิ่งออกมานะครับ”
“เมฆ เดี๋ยว...” ไม่ทันเสียแล้ว ประตูห้องน้ำของห้องข้างๆ กันเปิดออกและปิดเรียบร้อย เขาอาบน้ำเสร็จแล้วเช่นกัน และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องอยู่รอในห้องอาบน้ำ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบสะโพกไว้หลวมๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องอาบน้ำไป
น้ำเปิดประตูเข้าไปในห้องของเมฆอย่างเงียบเชียบ เอาขวดสบู่เหลววางไว้บนโต๊ะข้างๆ ขวดแชมพูที่เด็กหนุ่มวางไว้อยู่ก่อน ส่วนเสื้อผ้าเปียกในถุงพลาสติกเขาวางไว้กับพื้นข้างโต๊ะตัวเดียวกัน จากนั้นจึงเดินเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังคนที่กำลังก้มงุดรื้อเสื้อผ้าในตู้
“เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงเลก็ได้”
“เย้ย!” เมฆร้องลั่นพลางลุกขึ้นพรวด เขาหยิบเสื้อผ้ามาไว้ในมือ ตั้งใจจะส่งให้รุ่นพี่ หากพอประจันหน้ากับชายหนุ่มแล้วกลับขยำมันเอาไว้แน่น “พี่น้ำ! ผมบอกให้รอที่ห้องน้ำก่อนไง รีบออกมาทำไมกันครับ!” แต่ดวงตาเจ้ากรรมพอได้เห็นผิวเนื้อขาวๆ แล้วก็ไม่อาจละสายตาไปได้ เขาจ้องมองหยดน้ำที่กลิ้งลงมาตามลำคอ ผ่านแผ่นอก หน้าท้องและซึมหายเข้าไปในผ้าขนหนูที่อีกฝ่ายมัดรอบเอวไว้ พี่น้ำของเขาตัวไม่ผอมอย่างที่คิด มองไปทางไหนก็ดูมีกล้ามเนื้อแบบคนมีสุขภาพดี
แต่เดี๋ยวสิ เมื่อกี้ตอนมองผ่านแผ่นอก ดวงตาของเขาพร่ามัวจนเหมือนจงใจเซนเซอร์ติ่งไตสีชมพูของรุ่นพี่ไป เด็กหนุ่มจึงค่อยๆ เคลื่อนสายตากลับขึ้นมายังท่อนบน ใจหนึ่งก็อยากดูเก็บเอาไว้ฝันถึง แต่อีกใจ... สุภาพบุรุษอย่างเขา ทำแบบนี้จะดีแล้วหรือ
ทว่าสัญชาตญาณของเด็กหนุ่มมาแรงกว่า 4G ของทุกบริษัทในประเทศไทย เขาจึงพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายมารของตนเอง
อา... พี่น้ำขาวน่าจับจัง
พอได้มองเต็มๆ ตาแบบนี้แล้ว เขาเห็นชัดเลยว่าของพี่น้ำน่ะ สีชมพูเจิดจ้าไม่ต่างกับสาวๆ ในหนังเอวีของไอ้คะน้าเลยสักนิด
“เมฆ”
“ครับ”
“จ้องพอรึยัง”
“ยังครับ เย้ย!” เมฆสะดุ้งโหยง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมารอบกรอบหน้าอย่างต้องการจะประจานความคิดร้ายๆ ในศีรษะตน “ขอโทษครับพี่ นะ... นี่ครับ เสื้อกับกางเกง”
น้ำยิ้มมุมปาก เขาเอื้อมมือออกไป ไม่ได้รับเสื้อผ้ามาจากเด็กหนุ่ม แต่คว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ “แค่มองพอเหรอ อยากลองจับดูบ้างมั้ยล่ะ”
นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “จับ! จับอะไรครับ!”
“ก็เห็นจ้องอยู่ตั้งนาน” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ
“จะ... จับ... ได้เหรอครับ” ใบหน้าของเมฆเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ควันแทบจะพุ่งออกหู นึกต่อว่าตัวเองที่เมื่อครู่จับจ้องอยู่แค่ท่อนบนของรุ่นพี่ ทำไมเขาไม่จ้องแม่งให้ทั้งตัว จะได้จับให้ทั่วสมใจ
“ถ้าเมฆอยากจะจับ ก็จับได้ แต่...”
“แต่...” ไม่ทันแล้ว สายตาของเด็กหนุ่มไม่อาจเคลื่อนไปจากร่างกายท่อนบนที่เปล่าเปลือยได้ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ใจนึกอยากจะสัมผัสผิวกายรุ่นพี่สักครั้งจนความหื่นโหยนั้นแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน “แต่... อะไรเหรอครับ”
“ต้องแลกกันนะ”
“หือ?”
น้ำดึงมือรุ่นน้องเข้าหาตัว หยิบเสื้อผ้าออกวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วจึงนำมือข้างนั้นมาวางบนแผ่นอกตน “เอ้า อยากจับอะไรก็จับ”
เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งเป็นหิน รุ่นพี่วางมือเขาไว้ที่ไหนก็คาอยู่ที่นั่น เขาอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง “.....”
ฉิบหายแล้ว! ตื่นเต้นจนไม่รู้สึกอะไรเลย จะขยับมือก็ไม่กล้า โอ้ย... กูอยากจะบ้า!
แต่แล้วรุ่นพี่ก็ก้าวขาเข้าไปจนประชิดตัวเด็กหนุ่ม เขาวางมือลงบนแผ่นอกที่ไม่ได้มีอาภรณ์อะไรปิดบังของอีกฝ่ายบ้าง จากนั้นจึงค่อยๆ ลูบขึ้นอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วไล้ไปมาบนกระดูกไหปลาร้าเพียงแผ่วเบา แล้วจึงเคลื่อนขึ้นไปสัมผัสลำคอ
น้ำสบประสานสายตากับนัยน์ตาสีดำขลับซึ่งสั่นไหวอยู่น้อยๆ เขาเคลื่อนมือไปวางบนต้นคอของเด็กหนุ่มพร้อมกับกดเข้าหาตัว
ริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน เมฆรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ตกกระทบลงบนผิวแก้ม เขาหรี่ตาลงทีละน้อยเมื่อชายหนุ่มเพิ่มแรงบดเบียดเรียวปากเข้าหา
อา... ริมฝีปากของพี่น้ำร้อนจัง
ฝ่ามืออุ่นของรุ่นพี่เคลื่อนลงจากท้ายทอยไปช้าๆ จากนั้นจึงลากปลายนิ้วลงไปตามแนวยาวของกระดูกสันหลัง ลงไปถึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวของเด็กหนุ่มไว้
ทว่าในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะลั่นพร้อมกับเสียงฝีเท้าจากทางหน้าห้องดังขึ้นแทรก ส่งผลให้ทั้งสองคนผละออกจากกันทันที ก่อนคนกลุ่มใหญ่นั้นจะเดินผ่านหน้าห้องพักของเด็กหนุ่มไป
สีหน้าของเมฆตื่นตกใจจนรุ่นพี่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“แย่จังเลยนะ โดนขัดจังหวะซะได้” เขาใช้ปลายนิ้วโป้งเช็ดเบาๆ บนริมฝีปากอีกฝ่าย เสร็จแล้วจึงดึงมือตนเองกลับมาเลียตรงที่ปลายนิ้วที่เพิ่งได้สัมผัสกับกลีบปากของเด็กหนุ่ม
โอมายบุดดา มายพระเจ้าพระสงฆ์องค์ลูกเทพ พี่น้ำแม่งเซ็กซี่เกินไปแล้วโว้ย!
เมฆอ้าปากค้าง หัวใจเต้นระส่ำ เขาไม่น่าชวนพี่น้ำให้มาที่หอพักที่มีคนอยู่มากมายแบบนี้เลย น่าจะชวนให้ไปที่คอนโดมิเนียมของพี่น้ำมากกว่า แต่เพราะชายหนุ่มเนื้อตัวเปียกปอนแบบนั้น
ฮื้ยยยย~ เสียดายจังโว้ย!
เด็กหนุ่มมัวแต่คิดเสียดายโอกาสจนลืมที่จะสนใจไปว่าสายตาของรุ่นพี่ที่จ้องมองมาที่ตัวเขานั้นน่ะ ทั้งจาบจ้วงและหวานฉ่ำขนาดไหน เขาหันไปหยิบเสื้อผ้ามาส่งให้ชายหนุ่มอีกครั้ง “พี่น้ำใส่เสื้อผ้าก่อนละกัน” ก่อนจะหันไปหยิบเสื้อยืดกับกางเกงเลขายาวมาใส่บ้าง
น้ำผ่อนลมหายใจออกยาว พลางเอื้อมมือออกไปรับเสื้อผ้ามาใส่อย่างเสียไม่ได้ แม้อะไรๆ จะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้สักเท่าไหร่ จะว่าไปถ้าหากเขายังดึงดันก็น่าจะยังเดินหน้าต่อได้ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยพวกเขาก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกนิดแล้วล่ะมั้ง
“เอ้อ... ถ้าพี่น้ำจะกลับเดี๋ยวผมจะขี่มอไซค์ไปส่งที่รถ...”
“เมฆเหนื่อยแล้วเหรอ”
“เปล่าครับ ผมบอกพี่ไว้ก่อนเฉยๆ”
“พี่ยังไม่อยากกลับ” น้ำยิ้มบาง เขารู้ดีว่าเมฆไม่มีทางปฏิเสธเขาแน่ๆ ชายหนุ่มก้มลงรื้อในถุงใส่เสื้อผ้าเปียก หยิบเอากล่องใส่เกียร์ออกมาแล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงที่มีพวงกุญแจปลาฉลามแขวนไว้ตรงหัวเตียง ส่วนเจ้าของห้องก็เดินตามไปนั่งลงข้างกัน
ชายหนุ่มยกกล่องใส่เกียร์ขึ้นพิจารณาพร้อมกับยกชายเสื้อขึ้นเช็ดรอบๆ กล่อง จากนั้นจึงค่อยๆ เปิดออกอย่างระมัดระวัง เขาหยิบสร้อยหนังที่คล้องเกียร์ไว้ขึ้นมาดูใกล้ๆ บนตัวโลหะของเกียร์นั้นมีชื่อย่อของมหาวิทยาลัยกับรุ่นของเด็กหนุ่มจารึกไว้
น้ำอมยิ้มเมื่อนึกย้อนไปถึงว่ารุ่นน้องต้องใช้ความพยายามมากเพียงไหนเพื่อให้ได้เกียร์นี้มา และทั้งหมดนั้นก็เพื่อมอบให้กับเขา
“นั่นเสื้อช็อปผม เท่มั้ยล่ะพี่น้ำ” เมฆชี้ไปยังเสื้อสีน้ำเงินซึ่งมีตราของมหาวิทยาลัยบนกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายซึ่งเขาแขวนไว้หน้าตู้
“อือ เท่ก็เท่”
“พี่น้ำอะ พูดไม่จริงใจเลย”
“งั้น... เท่ก็ได้”
“ก็ยังไม่จริงใจอยู่ดี”
“อืม... ถ้าจะให้ตอบตรงๆ พี่ว่าเมฆใส่อะไรก็ดูจะน่ารักซะมากกว่า” ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
เมฆขมวดคิ้ว “แต่ผมอยากเท่ในสายตาพี่น้ำมากกว่านะ” เด็กหนุ่มลดสายตาลงมองเกียร์ในมือรุ่นพี่ เขาเสตาหลบพร้อมกับกัดริมฝีปาก ก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นมาจิ้มกัน “เอ้อ... คือ...”
“หือ”
“พี่น้ำ... ใส่ให้ผมถ่ายรูปไว้ดูหน่อย... ได้มั้ย”
“จะเอาไว้ดูตอนไหน”
ใบหน้าของรุ่นน้องซับสีเลือดทันควัน “ตอนคิดถึงพี่น้ำสิครับ!”
“งั้นใส่ให้หน่อย”
เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง รีบรับสร้อยมาแล้วบรรจงสวมให้กับรุ่นพี่ สร้อยนั้นยาวเลยคอเสื้อลงมาเล็กน้อย เขาจับตัวโลหะของเกียร์ให้วางอยู่บนตัวเสื้อดีๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมากดถ่ายรูปไว้ “พี่น้ำยิ้มหน่อย... หนึ่ง สอง สาม เสร็จแล้วครับ”
น้ำหยิบโทรศัพท์มือถือมาจากมือของรุ่นน้อง โอบไหล่ให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ “เอ้ายิ้มกว้างๆ” จากนั้นจึงกดถ่ายรูปพวกเขาไว้ด้วยกันอีกครั้ง แล้วก็จัดการส่งภาพนั้นเข้าโทรศัพท์มือถือของตนเองไว้ด้วย “เอาไว้เมื่อไหร่ที่อยากจะดู ก็ดูรูปนี้ดีกว่านะ”
พี่น้ำแม่ง... รู้ใจชะมัดเลย เมฆรับโทรศัพท์มือถือคืนมาพร้อมกับจ้องมองรูปบนจอมือถือไปอย่างปลาบปลื้มใจ
“ง่วงจัง”
“หือ?” พอเด็กหนุ่มหันไปมอง รุ่นพี่ก็เอนตัวลงนอนบนเตียงเขาเรียบร้อยแล้ว
“พี่ง่วงจัง สงสัยจะขับรถไม่ไหว ขอนอนกับเมฆด้วยได้มั้ย”
ดวงตาสีนิลเบิกโพลง “พะ... พี่น้ำ”
“พี่นอนไม่ดิ้นหรอก เบียดกันหน่อยก็ได้” ชายหนุ่มพูดพลางตบลงตรงที่ว่างบนเตียง
“แต่... แต่ห้องผมไม่มีแอร์... พี่จะไม่ร้อนเหรอ”
“คืนนี้อากาศออกจะดี ไม่ร้อนหรอก แค่เปิดพัดลมก็พอแล้ว”
เมฆทำตาล่อกแล่ก แต่ก็เอื้อมมือไปเปิดพัดลมตามที่รุ่นพี่บอก “....”
“เดี๋ยวเพื่อนเมฆกลับมาพี่ค่อยกลับละกัน ตอนนี้นอนลงมาก่อน เร็วๆ”
“คะ... ครับ” เด็กหนุ่มเหลือบมองดูนาฬิกาซึ่งบอกว่าเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ไอ้พวกรูมเมตของเขาคงไปเมาแอ๋อยู่ที่ไหน คืนนี้ไม่น่าจะกลับมาหรอก “งั้นผมปิดไฟนะ” พอไฟในห้องดับมืดลงแล้ว เขาจึงค่อยๆ เอนตัวลงนอนเคียงข้างอีกฝ่าย
น้ำเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มผืนบางมาคลุมตัวพวกเขาทั้งสอง แล้วหันไปโอบเด็กหนุ่มไว้หลวมๆ “อืม... ดีจัง”
เมฆอมยิ้ม พลางเคลื่อนมือไปวางประกบบนหลังมือของรุ่นพี่ มีความสุขจนเขาอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แบบนี้ไปอีกนานๆ เลย ถึงจะแค่นอนกอดกันเฉยๆ แต่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบเหมือนกันนะ
“นี่ พี่น้ำครับ เรียนจบแล้วจะทำไรต่ออะ”
“หือ?”
“พี่น้ำจะเรียนต่อหรือทำงาน”
“ทำไมจู่ๆ ก็ถาม...”
“ก็แบบ... ผมว่าเวลามันผ่านไปเร็วจัง เดี๋ยวก็จะสอบไฟนอลแล้ว ผมจะเหลือเวลาอยู่มหาลัยเดียวกับพี่น้ำอีกแค่เทอมเดียวเอง”
“......”
“ถ้าพี่น้ำไปทำงานหรือเรียนต่อแล้วเราจะได้พบกันบ่อยๆ เหมือนตอนนี้มั้ยนะ”
“พบสิ” น้ำกระชับอ้อมแขนของเขาให้แน่นเข้า
“ถ้าเราต้องอยู่ไกลกัน ผมคงคิดถึงพี่น้ำมากเลย” เด็กหนุ่มตัดพ้อ
รุ่นพี่อ้ำอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะกระซิบบอก “ยังไม่ต้องคิดมากหรอกน่ะ”
“เสียงพี่น้ำเหมือนคนง่วงชะมัดเลย”
“ก็ง่วงน่ะสิ”
เมฆหัวเราะเบาๆ “งั้นก็ราตรีสวัสดิ์ครับ”
“อือ”
นัยน์ตาสีนิลกะพริบปริบในความมืด ในตอนนี้มีความสุขมากก็จริง แต่ลึกลงไปแล้ว เขาก็หวั่นใจกับความสัมพันธ์นี้ เมื่อเรียนจบแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ เขากับพี่น้ำจะยังเหมือนตอนนี้หรือเปล่า
เมฆนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานก็หลับไป
..
……
..
อากาศยามเช้าเย็นสบาย ในตอนสายๆ มีฝนตกลงมาปรอยๆ ส่งผลให้สองหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงกกกอดกันแนบแน่น เมฆซุกใบหน้าเข้าหาแผ่นอกของรุ่นพี่ มีผ้าห่มปิดคลุมขึ้นมาถึงครึ่งศีรษะ ส่วนชายหนุ่มนั้นก็นอนหลับไม่รู้เรื่อง ท่อนแขนโอบรุ่นน้องไว้ไม่ให้ห่างกาย
รูมเมตของเมฆทั้งสามคนไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง สองหนุ่มในนั้นไปเที่ยวต่อกับเพื่อนในกลุ่มจากในคณะเดียวกัน อีกหนึ่งหนุ่มไปนอนค้างกับแฟน จึงไม่มีใครเข้ามารบกวนให้เมฆและน้ำตื่นขึ้น พวกเขาจึงหลับยาว จนกระทั่งถึงเวลาสิบโมงกว่าๆ
หน้าจอโทรศัพท์ของเมฆสว่างขึ้นอยู่พักใหญ่ ไม่นานก็ดับไปเนื่องจากไม่มีใครรับสาย แต่แล้วก็สว่างขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มปิดเสียงไว้เนื่องจากไม่อยากให้ใครรบกวนเวลานอน
เสียงฝีเท้าจากทางหน้าห้องดังขึ้นเป็นพักๆ พวกนักศึกษาที่เพิ่งกลับมาส่วนใหญ่ก็ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วนอนต่อ บางคนก็พุ่งตรงไปที่เตียงเลย
นัยน์ตาเรียวลืมขึ้นทีละน้อย ก่อนจะก้มลงมองศีรษะที่ก้มงุดอยู่บนแผ่นอกตน เมื่อเปิดผ้าห่มดูก็เห็นว่ามือของอีกฝ่ายขยุ้มเสื้อของเขาไว้แน่น เขายิ้มมุมปากแล้วนอนหนุนหมอนต่อไปอย่างเงียบเชียบ
เสียงฝีเท้าถี่ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ตรงมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องแล้วตามมาด้วยน้ำเสียงคุ้นหู
“ไอ้เมฆมึงตายไปยังวะ โทรศัพท์ก็ไม่รับ” ตำลึงร้องถาม ในขณะที่แหนมเคาะประตูแรงๆ แล้วเปิดผลัวะเข้าไปภายในห้อง พอพวกเขาเห็นว่ามีคนนอนอยู่บนเตียงของเพื่อนรักก็ปราดเข้าไปหา
“ไอ้เหี้ย นอนรอพ่อ...” ผู้มาเยือนทั้งสองประสานเสียงด่า หากเมื่อเห็นว่าเป็นใครผงกศีรษะขึ้นมาก็รีบเบรกกันตัวโก่ง “พี่น้ำ!”
น้ำยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก “ชู่ว เมฆยังหลับอยู่เลย”
แหนมและตำลึงเบิกตาโพลงพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปาก พวกเขาหันมองไปรอบๆ ห้องซึ่งก็ไม่ได้มีใคร แปลว่าเมื่อคืนนี้รุ่นพี่กับเพื่อนรักของพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง อุต๊ะ! ในคืนเสียตัวซะด้วย
“ฮื่อ” เมฆเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วพลิกตัวนอนราบไปกับเตียง เขากะพริบตาปริบๆ ให้เข้ากับแสงสว่าง จากนั้นจึงลุกขึ้นนั่ง
“เฮ้ย! ไอ้แหนม ไอ้ตำลึง กี่โมงแล้ววะเนี่ย” เด็กหนุ่มลืมนึกถึงคนที่เขานอนซุกมาตลอดทั้งคืนไปเสียสนิท เขาทำท่าจะก้าวลงจากเตียง ทว่าพอสบสายตากับเพื่อนรักทั้งสองแล้วก็ชะงัก ก่อนจะหันไปมองคนที่นอนเอนตัวเท้าแขนลงบนหมอนหนุนอยู่ข้างๆ เขา
“พี่น้ำ!”
น้ำลุกขึ้นนั่งบ้าง พร้อมกับยกมือขึ้นลูบเส้นผมที่ยุ่งเหยิงบนศีรษะ เขาอมยิ้มเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง
ฝ่ายแหนมกับตำลึงพอเห็นว่าทั้งสองคนยังใส่เสื้อผ้าอยู่ครบก็เบาใจ ผ่อนลมหายใจออกยาวแล้วทรุดตัวลงนั่งพับเพียบตรงข้างเตียง
“พวกมึงลงไปนั่งทำอะไรบนพื้นวะ เกะกะ ไปนั่งบนเตียงนู่น”
“กูเกรงใจ” ตำลึงพูดเสียงเบา สายตาลอบพิจารณาหาร่องรอยตามลำคอและท่อนแขนของเพื่อนรัก บางทีเขาอาจจะเจอแจ็กพ็อตแบบคราวที่แล้วอีกก็ได้
รุ่นพี่ยืดแขนบิดขี้เกียจ เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองมาดู มีสายโทรเข้าจากเพื่อนรักของเขานับสิบสาย เนื่องจากเขาไม่ได้กลับไปนอนคอนโดมิเนียมเมื่อคืน แล้วไม่ได้รับโทรศัพท์อีก ไอ้พวกเพื่อนของเขาคงเป็นห่วงแย่แล้ว ชายหนุ่มจึงรีบก้าวลงจากเตียง “ผมไปคุยโทรศัพท์แป๊บ”
พอคนพูดก้าวออกไปบนระเบียงแล้ว แหนมกับตำลึงจึงถลาเข้าไปประกบเพื่อนรัก “ไอ้เหี้ยเมฆ ก๋ากั่นนะมึง พาผู้ชายมานอนกก”
“พี่เขาใส่เสื้อผ้ามึงด้วยนี่ ไปทำไรกันมาวะ ไอ้ห่า แก่แดดฉิบหาย”
เมฆตบศีรษะเพื่อนทั้งสองคนไปเบาๆ “ไอ้พวกเวร คิดอะไรอกุศลจังวะ เมื่อตอนเย็นไปลอยกระทงแล้วเสื้อผ้าเปียก กูเลยพาพี่เขามาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แต่มันดึกมากแล้ว พี่เขาก็เลยนอนค้างก็แค่นั้น”
“ลอยกระทงยังไงให้เสื้อผ้าเปียกวะ มึงมุดน้ำลงไปลอยใต้น้ำเหรอ”
“แล้วทำไมต้องนอนกกกันด้วย เตียงว่างตั้งสามเตียง”
“พวกมึงเป็นแม่กูรึไงเนี่ย” เมฆบ่นพึมพำ
ตำลึงคืบคลานขึ้นไปนั่งข้างๆ เจ้าของห้อง แล้วตรวจสอบต้นคออีกฝ่าย “อืม...”
“มองหาอะไรวะ” เมฆส่งสายตาดุๆ ใส่ พลางยกมือขึ้นลูบตามลำคอ “กูนึกว่าไอ้พวกนั้นจะกลับห้อง แม่งก็เสือกไม่กลับ”
“เออ มึงอยู่รอดปลอดภัยก็ดีแล้ว บ่ายนี้มีนัดเก็บทำความสะอาดโรงยิมนะมึง เดี๋ยวไปหาอะไรกินแล้วจะได้เตรียมทำงาน”
“อือ รู้แล้ว”
เสียงบานประตูบนระเบียงเปิดออก ก่อนน้ำจะก้าวเข้ามาภายในห้องแล้วถาม “วันเสาร์นี้ว่างกันรึเปล่า รุ่นพี่พวกคุณฝากมาถามน่ะ ถ้าจะนัดเจอกันที่ใต้ตึกเรียนตอนบ่ายสาม พอจะไหวมั้ย”
“เสาร์บ่ายสาม” สามหนุ่มหันขวับไปทางต้นเสียง จากนั้นจึงหันกลับมามองหน้ากัน “ว่างนะครับ มีอะไรเหรอครับพี่”
“เห็นว่าจะชวนทุกคนไปค่ายอาสาสั้นๆ ตอนปิดเทอมน่ะ”
เมฆเลิกคิ้วขึ้น “แล้วพี่น้ำจะไปรึเปล่าครับ”
“มันเป็นงานของคณะวิศวะนะ แต่พวกไอ้ตั้งใจมันขอให้ไปช่วยถ่ายรูป ก็เลยว่าจะไป”
“ถ้าพี่น้ำไปผมก็จะไป” เด็กหนุ่มตอบทันควัน
ตำลึงกับแหนมหันไปมองเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ ถ้ารุ่นพี่กับไอ้เมฆไป พวกเขาก็จะตามไปเป็นก้างเหมือนกันโว้ย “ถ้าไอ้เมฆไปพวกผมก็จะไปครับ”
“ดีๆ งั้นวันเสาร์ก็ไปประชุมเตรียมงานกันนะ” น้ำยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา แล้วเงยหน้าขึ้นถาม “วันนี้เมฆว่างรึเปล่า”
เมฆส่ายหน้าไปมา “เดี๋ยวผมกับเพื่อนต้องไปทำความสะอาดโรงยิมน่ะครับ แล้วก็มีนัดกับพวกชมรมบาสด้วย”
“อ้อ... งั้นเหรอ”
“วันนี้พี่น้ำว่างเหรอ”
“ก็ไม่เชิง พรุ่งนี้พี่มีนัดเคลียร์งานกับองค์การนักศึกษาน่ะ เดี๋ยววันนี้ต้องเร่งทำรูปที่ถ่ายขบวนนางนพมาศให้เสร็จ”
“น่าเสียดาย” เด็กหนุ่มทำหน้าสลด ชวนให้เพื่อนรักที่นั่งอยู่ด้วยกันแอบเบะปาก
“งั้นไปกินข้าวด้วยกันก่อนสิพี่ พวกไอ้คะน้ามันเตรียมมื้อเที่ยงไว้แล้ว” แหนมเอ่ยชวน
รุ่นพี่ขมวดคิ้ว ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป แต่ว่า... เสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่น่ะ มันขาดไปหนึ่งชิ้น จะออกไปเดินโทงๆ ให้อะไรแกว่งไปแกว่งมาก็รู้สึกแปลกๆ “คงไม่ล่ะ ผมกลับคอนโดฯ เลยดีกว่า”
“งั้นเดี๋ยวผมขี่มอไซค์ไปส่งพี่ที่รถ” เมฆลุกขึ้นพรวด แล้วหันไปบอกกับเพื่อนรัก “พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวเจอกันที่ห้องไอ้แหนม”
“เออ รีบไปรีบมา”
ใช้เวลาไม่นานเด็กหนุ่มก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์พารุ่นพี่มาจอดอยูที่ข้างรถคันหรู
“ขอบใจนะ” น้ำยิ้มบาง พออีกฝ่ายถอดหมวกกันน็อกออกมาแล้วเขาก็ยกมือขึ้นลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน “แล้วไว้เจอกัน เมฆว่างวันไหนบ้างล่ะ”
เมฆคว้ามือรุ่นพี่ไว้ทันควัน “อาทิตย์หน้านี่ผมมีนัดติวหนังสือกับซ้อมบาสแทบทุกวันเลย แต่ว่าวันอาทิตย์ผมว่างนะพี่ เราไปดูหนังกันมั้ย”
“โอเค”
“เย้!”
ใบหน้าของเด็กหนุ่มแสดงความดีใจออกมาอย่างชัดเจน ส่งผลให้น้ำหัวเราะออกมาเบาๆ น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากอย่างที่ต้องการ แต่เขาก็เข้าใจนะ เมฆเรียนวิศวะก็หนักหนาสาหัสมากอยู่แล้ว และปีหนึ่งก็มีงานกิจกรรมตั้งมากมาย แถมเหลือเวลาอีกไม่มากก็จะสอบไฟนอลอีก ซึ่งตรงข้ามกับเขา พอขึ้นปีสี่แล้วก็เหลือวิชาเรียนเพียงไม่กี่ตัว
แต่เดี๋ยวปิดเทอม พวกเขาคงจะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นล่ะมั้ง
น้ำเคลื่อนมือลงมาวางประกบบนหลังมือรุ่นน้อง “กลับดีๆ นะ แล้วพี่จะโทรหา ส่วนเสื้อผ้านี่เดี๋ยวซักแล้วจะเอามาคืนให้”
“ครับ พี่น้ำก็เหมือนกัน ขับรถกลับคอนโดฯ ดีๆ นะครับ”
เด็กหนุ่มนั่งรอบนมอเตอร์ไซค์ของเขา จนกระทั่งรุ่นพี่ก้าวขึ้นไปนั่งในรถแล้วขับออกไป
TBC~กรีสสสส หายหัวไปนาน (สองอาทิตย์เอง) มีใครคิดฮอดเค้าม้อยยยยย
ไปเที่ยวชาร์ตพลังมาแล้ววว จะปั่นพี่น้ำน้องเมฆต่อให้แข็ง(?)เลยน้าาาา
ขอบคุณทุกคนที่ยังรอค่าาาา