“ผม... ไม่ได้เกลียดคุณมากขนาดนั้นสักหน่อย” บท17เสียงของป้ายุพินเอ่ยเร่งแม่ครัวที่ง่วนกันอยู่ในครัวดังขึ้นอีกระลอกเมื่ออาหารยังไม่เสร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ แม่ครัวสองสามคนต่างวุ่นวายกับการหยิบจับอุปกรณ์ในครัวรวมไปถึงเครื่องปรุงและวัตถุดิบจนมือแทบจะพันกัน ด้านนอกก็ได้ยินเสียงของสาลี่เอ่ยบอกกับคนงานผู้ชายหลายคนให้ช่วยกันยกโต๊ะไปกางในสวน เตรียมยากันยุงแบบกลิ่นหอมเอาไว้ด้วยป้องกันยุงกัด ถ้าถามถึงสาเหตุที่ทำให้แม่ครัวของตระกูลบริสตัน และเหล่าคนงานในบ้านนี้วุ่นวายกันขนาดนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนบ่ายแก่ๆ ที่ควอตซ์และน้ำเหนือกลับมาถึงบ้าน
ภายในห้องนั่งเล่นคุณหญิงมรกตกำลังนั่งคุยอยู่กับลินเลขาคนสนิทของควอตซ์ที่พ่วงด้วยตำแหน่งคนในอุปการะของตระกูลบริสตัน
“คุณแม่กลับมาแล้วเหรอครับ อ้าวพี่ลิน…” ควอตซ์เอ่ยทักทายคนเป็นแม่ก่อนจะร้องทักเมื่อเห็นพี่สาวคนสนิท
“พี่เอางานเข้ามาให้ค่ะ คุณควอตซ์ลืมเอาไว้ที่บริษัท สงสัยจะรีบมากน่าดูเลยสินะคะ” ลินยิ้มก่อนจะชูแฟ้มเอกสารที่ว่า
“ครับ มีคนโทรบอกว่ามีเด็กดื้อบางคนหนีไปโรงพยาบาลคนเดียวผมเลยรีบจนลืมไป ขอบคุณที่ลินนะครับที่เอามาให้” ควอตซ์ว่าไม่วายแอบกัดเด็กดื้อที่เดินอยู่ข้างๆ
น้ำเหนือแทบจะยกมือขึ้นหยิกคนตัวสูงกว่าแต่ก็ไม่ทำแบบนั้นเพราะถ้าทำมีหวังนอกจากจะโดนคนขี้บ่นดุแล้วยังโดนคุณหญิงมรกตดุอีกต่างหาก เจ้าตัวเลยหันไปทักทายคุณหญิงแล้วก็ลินแทน
“ไปตรวจมาเป็นยังไงบ้างลูก เรียบร้อยดีไหม” คุณหญิงมรกตถามเมื่อทั้งลูกชายและลูกสะใภ้เดินมานั่งร่วมวงสนทนาด้วยกันแล้ว
ทั้งสองคนหันมองหน้ากันทันทีที่ได้ยินคำถามของคุณหญิงแต่เพราะยังไม่มีคำตอบให้คุณหญิงมรกตเลยเริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รวมไปถึงลินด้วยเช่นกัน
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าน้ำเหนือ” คุณหญิงถามอีกรอบ
“ม ไม่ครับ ไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ลูกแข็งแรงดีครับ” น้ำเหนือเป็นฝ่ายหันไปตอบก่อนจะหันกลับมามองคนข้างๆ อีกรอบ “แต่มีอยู่เรื่อง…”
พอได้ยินคำว่าแต่คุณหญิงมรกตที่เพิ่งจะสบายใจก็ทำหน้าเครียดอีกรอบ ตัวลูกแข็งแรงดีแล้วตัวคนแม่แข็งแรงดีหรือเปล่า
“ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงครับคุณแม่พี่ลิน” ควอตซ์พูดเมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคน “เป็นเรื่องดีครับ ดี… ดีมากทีเดียว”
“ก็แล้วมันเรื่องอะไรกันละ บอกแม่มาสักทีสิ” คนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะร้อนใจ
“ลูก… ลูกแฝดครับคุณแม่ น้ำเหนือท้องลูกแฝด!”ทั้งสองคนที่ได้ยินถึงกับชะงักไปทันที ดวงตาทั้งสองคู่เบิกกว้างก่อนที่ทั้งคุณหญิงมรกตและลินจะร้องออกมาด้วยความดีอกดีใจ
“ลูกแฝด! ตายแล้ว! จริงหรือเปล่าลูกแม่ได้หลานแฝดเหรอเนี่ย ลิน...ป้าฟังไม่ผิดใช่ไหมลูก”
“ค่ะ! ไม่ผิดค่ะ ลินก็ได้ยินว่าลูกแฝด แฝดจริงๆ นะเหรอ สองคนน่ะนะ”
น้ำเหนือยิ้มขำกับท่าทางของทั้งสองคนก่อนจะพยักหน้ารับพร้อมส่งเสียงยืนยันอีกรอบว่าสิ่งที่ทั้งสองคนได้ยินนั้นไม่ผิด “ครับ แฝดจริงๆ ฝาแฝด สองคน”
“ตายเล้ว! แม่ละอยากจะกรี๊ดให้หมดมาดคุณหญิงเลยลูก บทจะได้หลานก็ได้ตั้งสองคน! แม่ดีใจมากเลย แบบนี้ต้องฉลองแล้วสิ สาลี่! สาลี่” คุณหญิงมรกตว่าเสียงตื่นเต้นก่อนจะร้องเรียกสาวใช้
สาลี่กุลีกุจอเข้ามาในห้องนั่งเล่นทันที “ขา ขาคุณหญิงมีอะไรหรือคะ”
“เตรียมสถานที่ในสวนนะสาลี่วันนี้เราจะมีงานเลี้ยงกันภายใน ไปบอกป้ายุพินให้เตรียมอาหารค่ำมื้อใหญ่ไว้ด้วย! ฉันจะฉลองที่ได้หลานแฝด!” คุณหญิงมรกตหันไปสั่งสาลี่แบบที่น้ำเหนือเองก็เอ่ยห้ามไม่ทัน
“คือคุณแม่…”
“ไม่ต้องห้ามหรอก ห้ามไปก็เท่านั้นแหละปล่อยให้คุณแม่ทำอย่างที่อยากทำนั่นแหละ” ควอตซ์เป็นฝ่ายห้ามน้ำเหนือแทน
“ค่ะ… คะ! หลานแฝด คุณหนูใหญ่ได้ลูกแฝดเหรอคะ ว้ายตายแล้ว! หนูจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ป้ายุพิน ป้า ป้าจ๋า คุณหนูใหญ่เธอได้ลูกแฝดแหละป้า” สาลี่รับคำเสียงสูงก่อนจะวิ่งออกจากห้องนั่งเล่นพร้อมตะโกนเสียลั่นบ้าน หากเป็นเวลาปกติคงโดนคุณหญิงเรียกมาอบรบไปแล้ว แต่เวลานี้… เวลาที่ทุกคนกำลังดีอกดีใจคุณหญิงจึงปล่อยผ่านแล้วหันมาเรียกน้ำเหนือไปนั่งคุยใกล้ๆ แทน
และเพราะเหตุนี้นี่แหละที่ทำให้บ้านบริสตันวุ่นวายกันตั้งแต่เย็นเพื่อเตรียมงานฉลองที่กำลังจะได้ลูกแฝดหลานแฝดของบ้าน แบบที่น้ำเหนือก็พึมพำเสียงเบาว่ายังไม่คลอดเสียหน่อย…
แสงไฟสีนวลส่องสว่างไปทั่วสวนข้างบ้านที่เชื่อมบ้านสองหลังที่อยู่ในรั้วเดียวกันเอาไว้ เสียงพูดคุยสนุกสนานดังขึ้นไม่ได้มีแค่เพียงครอบครัวบริสตันเท่านั้น ครอบครัวของหมอวิรัชเองก็มาร่วมฉลองด้วย แล้วก็ยังมีลินกับลูกชายที่คุณหญิงมรกตเป็นฝ่ายเอ่ยปากให้อยู่ด้วยกัน แม้กระทั่งโอ๊ตเองก็มาร่วมงานด้วยในฐานะพี่ชายที่สนิทสนมของน้ำเหนือ
“ทำไมคึกคักกันจังคะวันนี้” ลาพิสที่เพิ่งเดินเข้ามาถึงร้องถามด้วยความสงสัย “วันนี้วันเกิดใครเหรอคะถึงได้มีเลี้ยงฉลองกันแบบนี้”
“ไม่ใช่งานวันเกิดใครหรอกค่ะคุณลาพิส” ลินเป็นคนตอบคำถามก่อนจะยิ้มแล้วหันมามองทางควอตซ์และน้ำเหนือ
แบบที่หมอวิรัชก็พูดเสริมขึ้น “แต่เป็นการฉลองที่บ้านนี้กำลังจะได้หลานฝาแฝดน่ะ”
“อ๋อ...ค่ะ” ลาพิสพยักหน้ารับก่อนจะตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าได้ยินอะไร “
ว่ายังไงนะคะ!! หลานแฝด หมายความว่า… หมายความว่า กรี๊ด! จริงเหรอคะพี่ควอตซ์พี่น้ำเหนือได้ลูกแฝดเหรอคะ”
“จะโกหกทำไม” ควอตซ์ว่าเสียงกลั้วหัวเราะนึกขำกับท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ของน้องสาวตัวเอง ทำตัวเหมือนเด็กๆ ทั้งๆ ที่ก็อายุยี่สิบแล้วแท้ๆ
“กรี๊ด! พี่ควอตซ์เยี่ยมมากเลย เก่งสุดๆ อะ ทำลูกแฝดได้ด้วยอะ ดีใจด้วยนะคะพี่ควอตซ์พี่น้ำเหนือ” ลาพิสร้องไปก็กระโดดไปก่อนจะวิ่งมาจับมือพี่ชายและพี่สะใภ้ไปเขย่าๆ อย่างดีใจ
งานเลี้ยงฉลองยังคงดำเนินไปอย่างสนุกสนานโดยมีลาพิสคอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน ส่วนน้ำเหนือตอนนี้เลี่ยงมานั่งอยู่ริมสวนกับโอ๊ตแล้วก็ลินพร้อมมองน้องทินลูกของลินวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ
“น้องทินเลี้ยงยากไหมครับพี่ลิน” น้ำเหนือถาม
“ไม่ยากหรอกค่ะ โชคดีของพี่ที่ลูกไม่ดื้อไม่ซนแต่เลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน แต่มันก็มีความสุขมากเช่นกันนะคะ” ลินตอบ “ให้อธิบายความรู้สึกก็พูดไม่ค่อยถูกอีกเดี๋ยวน้ำเหนือก็จะเข้าใจเองแหละค่ะ”
“เลี้ยงลูกแฝดวุ่นทั้งวันแน่น้ำเหนือ” โอ๊ตว่ายกมือยีผมรุ่นน้องเล่นอย่างเอ็นดู “จากนี้ไปก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ รู้ไหม ลูกสองแล้วนะตอนนี้”
“รู้แล้วครับบบ” น้ำเหนือรับคำเสียงยาวให้ทั้งโอ๊ตและลินหัวเราะ
“เดี๋ยวพี่ไปดูน้องทินก่อนนะคะ” ลินบอกก่อนจะลุกเดินไปหาทินที่โบกมือเรียกอยู่
“พี่ลิน… เก่งจังนะครับ” น้ำเหนือพูดขึ้นหลังจากที่ลินลุกไปแล้ว
“อือ... พี่รู้จักพี่ลินมาก็หลายปีเหมือนกันนะตั้งแต่น้องทินยังเล็กกว่านี้ ทั้งเลี้ยงลูกทั้งทำงานหาเงิน พี่ลินนี่เก่งจริงๆ แต่ก็คงเหนื่อยมากไม่แพ้กัน” โอ๊ตตอบทั้งๆ ที่สายตาของเจ้าตัวยังไม่ได้ละไปจากผู้หญิงคนที่พูดถึงเลย
น้ำเหนือหันมองพี่ชายคนสนิทก่อนจะหันกลับไปทางลินและลูกชายที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้วก็หันกลับมามองคนข้างๆ อีกรอบก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง “พี่โอ๊ต... พี่ชอบพี่ลินใช่ไหม”
“เฮ้ย!! บ้าแล้ว” คนโดนทักร้องเสียงดังลั่นจนคนอื่นๆ หันมามองก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหัวเชิงขอโทษแล้วหันมาคาดโทษน้องชายต่างสายเลือดแต่สนิทสนมกันจนเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ แทน “หยุดหัวเราะน่าเหนือ”
“ชอบพี่เขาแล้วทำไมไม่ไปจีบพี่เขาละ ให้น้องช่วยไหม เอาไหม” น้ำเหนือถามพร้อมกับขยับเข้ามากระแซะคนเป็นพี่ เอานิ้วจิ้มแขนอย่างหยอกล้อ
โอ๊ตได้แต่ส่ายหน้ายกมือปัดป้องนิ้วของน้ำเหนือที่เข้ามาจิ้มไม่หยุดไม่ได้รำคาญอะไรหรอกนึกเอ็นดูกับท่าทางเด็กๆ ของน้ำเหนือเสียมากกว่าจนสุดท้ายก็ต้องยื่นมือไปยีผมนุ่มๆ นั้นเล่นอย่างหมั่นไส้ปนๆ กับมันเขี้ยว แต่แล้วมือที่กำลังสัมผัสกับกลุ่มผมนุ่มก็ชะงักรับรู้ถึงสายตาแปลกๆ ที่จ้องมาจนต้องหันไปมอง มือของโอ๊ตค่อยๆ ละออก
“ให้น้องช่วยไหมๆๆ” คนไม่รู้เรื่องยังกระแซะไม่เลิก
“ช่วยตัวเองก่อนเถอะ ดูท่าพ่อของลูกจะขี้หึง!” โอ๊ตว่าก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินเลี่ยงไปทางลินและน้องทินที่มองมาอยู่พอดี
“อ้าว พี่โอ๊ต! อ่ะ... คุณ” น้ำเหนือตั้งท่าจะลุกตามแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นควอตซ์เดินหน้านิ่งเข้ามาเสียก่อน น้ำเหนือเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อเห็นสีหน้าที่ติดจะนิ่งเฉยของคนตรงหน้า แต่อีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
“อิ่มหรือยัง ได้เวลากินยาแล้ว”
น้ำเหนือพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืน “อิ่มมากเลยครับ มื้อนี้เป็นมื้อที่ผมกินเยอะที่สุดแล้วตั้งแต่ท้องมา”
“กินได้เยอะก็ดีแล้ว มีตั้งสองคนจะได้ไม่ต้องแย่งกัน อย่างนั้นไปกินยา อาบน้ำนอนได้แล้วละงานเลี้ยงใกล้จะเลิกแล้ว” ควอตซ์พูดซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แม้ชายหนุ่มจะนึกแปลกใจนิดหน่อยกับอาการพูดง่ายของน้ำเหนือแต่เขาก็ไม่คิดจะทักขึ้นมาให้ได้เถียงกันอีก ควอตซ์จึงเอ่ยย้ำเร่งให้อีกคนเดินเข้าบ้านไป
งานเลี้ยงฉลองเลิกแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอนโดยที่สีหน้ายังคงเป็นปลื้มกับข่าวดีที่ได้รับ โดยเฉพาะลาพิสที่ก่อนจะแยกเข้าห้องของตัวเองยังวิ่งมาเคาะห้องนอนของควอตซ์แล้วชูนิ้วโป้งให้พร้อมพูดเสียงทะเล้นว่าพี่ชายของเธอนี่เก่งสุดๆ ทีเดียวแท้ๆ แต่ได้ถึงสอง ทำเอาคนที่เป็นฝ่ายท้องและบังเอิญไว้ยินตอนก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำถึงกับหน้าร้อนวูบ อยู่ๆ ก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ในคืนแรกขึ้นมาเสียได้จนต้องรีบสะบัดหน้าแล้วหนีเข้าห้องน้ำไป
น้ำเหนือเดินออกจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมอาบน้ำพอดีกับที่เจ้าของห้องเดินสวนเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อ คนตัวเล็กที่ตอนนี้เริ่มอวบขึ้นเพราะกำลังท้องเดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกบานสูงแล้วมองตัวเองในกระจกนั้น มือขาวยกขึ้นวางบนหน้าท้องที่เริ่มนูน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรั้งสาบชุดคลุมอาบน้ำลง น้ำเหนือไม่ใช่คนที่หลงใหลในรูปร่างของตัวเอง แต่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังมองภาพที่สะท้อนอยู่ตรงหน้าแบบไม่วางตา ไม่อยากจะเชื่อว่าในร่างกายของคนเราจะมีเด็กอีกคน สองคนหรือบางครั้งมีถึงสามคนอยู่ข้างในนั้นได้
“ต่อไป... ท้องก็คงจะโตกว่านี้สินะ...” ได้แต่พูดกับตัวเองก้มลงมองหน้าท้อง ไม่รู้ว่าเพราะตัวเขาเล็ก หรือเพราะร่างกายภายนอกที่เป็นผู้ชายกันแน่ถึงทำให้ขนาดของท้องยังไม่ใหญ่นัก
ถ้าเป็นผู้หญิง... คนมักจะเปรียบว่า ท้องสาวมักจะไม่ใหญ่มากนัก
อย่างน้ำเหนือจะเป็น... ท้องหนุ่มเลยไม่ใหญ่ อย่างนั้นเหรอเจ้าตัวได้แต่ส่ายหน้ากับความคิดของตัวเองที่ช่างนึกเปรียบเทียบกันได้ และเพราะอาการที่มัวแต่สนใจกับขนาดท้องของตัวเองน้ำเหนือจึงไม่ทันได้มองว่าเจ้าของห้องที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำนั้นเดินออกมาแล้ว
ควอตซ์เดินไปพาดผ้าเช็ดตัวของเขาเอาไว้ที่ราวไม้ก่อนจะหันกลับมามองคนที่ยังไม่ยอมแต่งตัวเสียทีจนจะเอ่ยปากดุเพราะกลัวว่าจะไม่สบาย แต่ก็เปลี่ยนใจและเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังคนที่ยืนอยู่หน้ากระจกแทน
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ควอตซ์ได้เข้าไปในห้องอัลตาซาวด์ แน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลูก ลูกของเขา...มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งดีใจและกังวลใจไปพร้อมๆ กัน แม้ก่อนหน้านี้เขาจะยังไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานหรือเรื่องของลูก ชีวิตของเขามีแต่งานและเปลี่ยนคู่ควงไปเรื่อยๆ แต่อยู่มาวันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เขาได้เจอกับน้ำเหนือ... และเขากำลังจะมีลูกกับผู้ชายคนนี้
ชีวิตตัวคนเดียว เพิ่มมาเป็นสอง และตอนนี้ก็เพิ่มมาเป็นสี่ ภายใต้ความดีใจของคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคนก็มาพร้อมกับความเป็นกังวล เขาจะทำหน้าที่ของพ่อได้ดีหรือเปล่า และเขาจะทำหน้าที่ดูแลน้ำเหนือได้ดีแค่ไหน
มือหนาเอื้อมไปสัมผัสกับหน้าท้องของน้ำเหนืออย่างแผ่วเบาจนอีกฝ่ายถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่ออย่างนึกอาย มือหวังจะดึงชุดคลุมให้เข้าที่แต่ก็ช้าไปเมื่อร่างของน้ำเหนือถูกดึงมาชิดกับแผ่นอกของควอตซ์ มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มโอบมาจากด้านหลังวางทับอยู่บนหน้าท้องนูนนั้น
“ลูกอยู่ในนี้สินะ”
น้ำเหนือไม่ได้ตอบคำ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการคำตอบหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าควอตซ์ไม่ได้ต้องการคำตอบเพราะเขาก็พูดต่อ “วันนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นลูก... มันทั้งตื่นเต้น มันทั้งดีใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าฉันกำลังจะมีลูก แถมมีถึงสองคน”
“คุณควอตซ์...”
“ตลอดที่ผ่านมาฉันไม่เคยวาดฝันถึงคำว่าครอบครัวเลยสักนิด ฉันคงใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้แต่งงานด้วยหรือเปล่า แต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป... พร้อมๆ กับความคิดของฉันที่เปลี่ยนไปทุกๆ วันที่รู้ว่าเธอท้อง”
คนฟังได้แต่หลุบตาลงไม่แม้แต่มองผ่านกระจกไปสบตาคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง เพราะน้ำเหนือไม่แน่ใจว่าคำพูดของควอตซ์หมายถึงอะไร ในแง่ดี หรือแง่ลบ และเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเงยหน้าขึ้นมอง เพราะลึกๆ ในใจก็กลัวว่าสายตาของควอตซ์ตอนที่พูดนั้นจะแสดงออกถึงความเสียใจ
“น้ำเหนือ...”
“ครับ” น้ำเหนือรับคำเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยเรียก
“ฉันรู้ว่าจุดเริ่มต้นของเรามันไม่ได้สวยงามและน่าจดจำ ฉันจะไม่ขอให้เธอยกโทษหรือให้อภัยแต่ถ้าหากเธอไม่ได้เกลียดฉันมากจนเกินไป...
เราสองคนลองมาเปิดใจให้กันดีไหม”
“ครับ?!” น้ำเหนือเงยหน้าขึ้น ตาโตทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนที่ยังโอบเขาเอาไว้อยู่ ดวงตากลมโตมองเข้าไปในกระจกบานตรงหน้า สบเข้ากับดวงตาสีสวยของควอตซ์
“ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูกฉันคิดมาตลอดว่าฉันจะเป็นพ่อคนได้ไหม คนนิสัยแย่ๆ อย่างฉันจะไปสอนอะไรลูกได้ ฉันไม่มีความมั่นใจอะไรเลย...” ควอตซ์จับคนที่ยังทำตาโตให้หันกลับมาหาเขา
“ฉันไม่ใช่ผู้ชายดีที่ แต่ฉันอยากจะเป็นพ่อที่ดี อยากจะเป็นที่พึ่งที่ดีให้กับเธอได้ ถ้าเธอไม่ได้เกลียดฉันมากนัก เรามาเปิดใจให้กันดีไหม สักวันเราอาจจะได้เป็นครอบครัว... ที่เป็นครอบครัวจริงๆ”นั่นคือความคิดที่อยู่ในใจของควอตซ์จริงๆ แม้ว่าทุกวันนี้เขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับน้ำเหนือได้โดยปราศจากคำว่า “รัก” แต่ชีวิตของคนสองคนที่ต้องอยู่ด้วยกัน มีลูกด้วยกันแต่ไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเลยมันจะอยู่ด้วยกันได้นานแค่ไหน... มันเป็นความคิดที่เข้ามารบกวนความรู้สึกบ่อยๆ แต่เขาก็ทำเป็นมองข้ามมันมาตลอดจนกระทั่งวันนี้...
วันที่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งได้มองเห็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองเติบโตขึ้น... วินาทีนั้นหัวใจของเขาเต้นแรง ความรู้สึกทั้งรักและหวงแหนมากมายถาโถมเข้ามา นี่สินะความรู้สึกของ “คนเป็นพ่อ”
“คุณ... ล้อผมเล่นหรือยังไงกัน” น้ำเหนืออดไม่ได้ที่จะมองอย่างระแวง ทั้งๆ ที่ใบหน้านั้นขึ้นสีระเรื่อกับคำพูดพวกนั้นไปแล้วเรียบร้อย
“เธอคิดว่าฉันจะเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นหรือยังไง ฉันคิดแบบนั้นแล้วก็พูดจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น เธอไม่ต้องตอบฉันก็ได้ฉันเข้าใจว่ามันอาจจะยากสักหน่อยกับเธอ ที่ต้องเจอและโดนอะไรมาเยอะ แต่เอาเป็นว่า... ลองคิดดูนะ”
สิ่งที่เขาพูดกับน้ำเหนือทุกคำ ทุกประโยคมันคือความจริง ไม่ใช่เพียงแค่พูดเพื่อตัวเอง หรือเพื่อต้องการให้ลูกอยู่กับเขา แต่เขาคิดและพูดเพื่อคำว่า
“ครอบครัว”มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มนั้นแล้วลูบไปมาเบาๆ “ไปแต่งตัวแล้วเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
“อือ...” น้ำเหนือได้แต่รับคำเบาๆ ก่อนจะหันหลังแล้วตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้า คว้าเอาชุดนอนมาถือเอาไว้แล้วก้าวตรงไปที่ห้องน้ำทันที เสียงประตูห้องน้ำปิดดังปัง! แต่น้ำเหนือก็ไม่ได้สนใจ เพราะหลังจากที่วางชุดนอนลงบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแล้วก็ได้แต่ยกมือขึ้นจับหน้าอกตรงเองหัวใจมันเต้นเร็วและแรงจนน้ำเหนือกลัวว่ามันจะหลุดออกจากอก ความรู้สึกแปลกๆ ที่วิ่งเข้ามาไม่หยุดหย่อน
“ผม... ไม่ได้เกลียดคุณมากขนาดนั้นสักหน่อย”
************************************************
รอกันอยู่ใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะที่รอกัน วันนี้ฟางมาอัพให้แล้วค่ะ ตอนนี้คือแบบ... ดีงามอะ คนพี่คือดี มานั่งคุยแบบเปิดใจกัน เรามาลองเปิดใจให้กันดูดีไหม คือความเป็นผู้ชายแบดๆ ของพี่หายไปไหน... อันนี้คงต้องเป็นที่ฟางเองแล้ว แต่งแบดไม่ขึ้นต้องวนเข้ามาเป็นผู้ชายอบอุ่น (นี่พี่ควอตซ์อบอุ่นแล้วนะ)
หลังจากนี้ไปก็คงมีความฟินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามถนัดของฟางแหละจ้า ยังมีโมเม้นน่ารักๆ อยู่อีกสำหรับคู่นี้ อันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองจ้า ส่วนจะฟินขนาดไหนก็ต้องรอดูกันไป ฟินในระดับที่คนพี่ยังทำหน้าตายแล้วก็ดุน้องได้ตลอดๆ นั่นแหละ ฮ่า อารมณ์แบบ... น้องอ้อน พี่ทำนิ่ง แต่ถ้าน้องทำให้หึง คนพี่นี่ออกอาการเต็มพี่ ประมาณนั้น รอลุ้นกันไปค่ะ
หวังว่าทุกคนจะไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้ไปไหนนะคะ ช่วยรอกันหน่อยนะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ