[เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60  (อ่าน 9159 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
รอเฉลยด้วยคนครับ เป็นเรื่องที่เรียบๆ ง่ายๆ แต่ก็แฝงด้วยเสน่ห์ ผมชอบเรื่องแบบนี้ครับ (ปกติชอบอ่านอะไรเรียบๆ)
ปริศนาระหว่างพิชญ์กับพิชญะ มันยังไงน้าาาา มาต่อเร็วๆ นะครับ

Sarawatta

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
สองวันผ่านไป.......

ออฟไลน์ kritcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
               หลังจากฝ่าฟันกับการจราจรบนท้องถนนมากว่าสองชั่วโมง ในที่สุดพิชญะก็กลับมาถึงบ้านจนได้ เขาจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ของจอมแก้วที่โทรเข้ามา แต่พอถึงบ้านเขาก็ต้องงุนงงปนตกใจเมื่อเห็นคนที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าบ้านของเขา แม้จะไม่ได้เจอกันนานมาก แถมทางนั้นยังมีร่มบังหน้าอยู่ แต่เขาก็จำได้ว่าอีกฝ่ายคือรุ่งรดิศ
   

               พิชญะจอดรถไว้หน้าบ้าน เมื่อล็อครถเรียบร้อยเขาก็เดินจ้ำไปหารุ่งรดิศก่อนจะลากแขนอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน
   

               “มึงมาได้ยังไง มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ก็มากะทันหันอย่างนี้ ไม่โทรมาบอกก่อน”
   

               เขาถามเป็นชุด ยิ่งได้เห็นหน้ารุ่งรดิศแบบเต็มตายิ่งร้อนรน เพราะรุ่งรดิศดูหม่นหมอง เศร้า... และเจ็บปวด
   

               “ผม... คิดถึงพิชญ์”
   

               ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยนั้นมีความวูบไหวอยู่ภายใน
   

               จอมแก้วมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่พี่พิชญ์ของเธอร้อนรนขนาดนี้คือเมื่อไหร่ ยิ่งอีกฝ่ายคือรุ่งรดิศคนนั้นด้วยแล้ว
   

               เธอควรจะหึงไหม? หรือควรจะเป็นห่วงดี?
   

               “พี่พิชญ์คะ” เธอตัดสินใจส่งเสียงขัด “ให้คุณรุ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยคุยกันเถอะค่ะ เปียกขนาดนี้เดี๋ยวจะจับไข้ซะก่อน”
   

               “จริงด้วย” พิชญะเห็นด้วยดังภรรยาว่า ตัวของรุ่งรดิศเย็นเฉียบจากการตากฝนจนน่ากลัว “มึงใช้ห้องเดิมได้เลย กูทำความสะอาดไว้ตลอด เอากุญแจมาใช่ไหม”
   

               “อือ ขอบใจนะ”
   

               รุ่งรดิศเดินขึ้นชั้นสองอย่างคุ้นเคยโดยไม่ต้องให้ใครนำ จอมแก้วมองตามตาแทบถลนเมื่อเห็นเขาล้วงกุญแจมาไขแล้วเข้าไปใน ‘ห้องนั้น’
   

               พี่พิชญ์ห้ามเธอเข้า แต่คนอื่นกลับมีกุญแจห้องนั้นเนี่ยนะ!
   

               “พี่พิชญ์คะ ข้าวเย็น...”
   

               “รอรุ่งลงมาแล้วค่อยกินแล้วกัน ท่าทางเขาคงยังไม่ได้กินเหมือนกัน แก้วกินหรือยัง ทนไหวไหม”
   

               พิชญะถามไถ่อย่างเป็นห่วง จอมแก้วมักจะรอเขาจนดึกดื่นเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน ซึ่งเขาก็มักจะดุว่าให้ทานข้าวเย็นในตรงเวลา แน่นอนว่าจอมแก้วก็มักจะเถียงว่า ‘ทีพี่พิชญ์ยังกินข้าวไม่ตรงเวลาเลย’
   

               “แก้วทานแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้รอ”
   

               โชคดีที่เธอไม่ได้หิ้วท้องรอ นี่มันจะเหยียบสามทุ่มอยู่แล้ว เพราะถ้าทานอาหารตอนดึกบ่อยๆ เดี๋ยวจะอ้วนเอา เธอไม่ยอมหรอก!
   

               “ทานแล้วก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทนหิว” พิชญะลูบหัวภรรยาคนสวยเบาๆ “เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแล้วจะลงมากินข้าวนะ อีกสักสิบห้านาทีฝากไปตามรุ่งด้วยนะคะ”
   

               “ได้ค่ะ”

   








               รุ่งรดิศไขกุญแจเข้ามาในห้อง ความคิดถึงไหลทะลักเข้ามาในใจ ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขากลับเข้ามาในห้องนี้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่มีความรู้สึกหลากหลายเกิดขึ้นในใจมากที่สุด
   

               “พิชญ์ ผมกลับมาแล้ว”
   

               “กลับดึกจัง ไหนมากอดหน่อยดิ๊ คิดถึงว่ะ”
   

               “กอดอะไรล่ะ ห่างกันยังไม่ถึงวันเลย”
   

               “มานี่เลย.. อี๋ เหม็นเหงื่อ ฮ่าๆๆ”

   

               ถ้าวันนั้นรู้ก่อนว่าเราจะต้องจากกัน เขาคงจะกอดพิชญ์ให้แน่นกว่านี้ คงจะมีเวลากอดกันได้นานกว่านี้
   

               แต่ก็ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว... ไม่มีอีกต่อไป
   

               ก๊อกๆ “คุณรุ่งคะ อาบน้ำเสร็จหรือยังคะ เดี๋ยวแก้วจะอุ่นอาหารไว้ให้ เรียบร้อยแล้วก็ลงมาทานข้าวนะคะ”
   

               “อะ ไม่เป็นไรครับคุณแก้ว ขอบคุณมากนะครับ” รุ่งรดิศส่งเสียงตอบกลับไป
   

               “ทานเถอะค่ะ อย่าลืมลงมานะคะ”
   

               ไม่ทันได้ปฏิเสธอีกรอบ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงจอมแก้วเดินลงบันไดไปเรียบร้อยแล้ว เป็นการมัดมือชกที่น่ารักมากจริงๆ
   

               การกระทำของจอมแก้วดึงเขาออกมาจากภวังค์แห่งความหลัง รุ่งรดิศอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย เตือนตัวเองว่าควรจะอาบน้ำได้แล้ว ก่อนที่จะจับไข้จนต้องเป็นภาระให้คนอื่น
   

               แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความห่วงใยของจอมแก้วมีความอยากรู้อยากเห็นสอดแทรกอยู่เต็มเปี่ยม!






















               อาหารมื้อเย็นที่จอมแก้วทำดูไปแล้วค่อนข้างหนักไปหน่อยสำหรับเวลาดึกเช่นนี้ เธอเลยตัดสินใจเอาอาหารทั้งหมดเข้าตู้เย็นแล้วทำข้าวต้มขึ้นมาแทน
   

               “ข้าวต้มร้อนๆ ค่า~ ทานแล้วจะได้อุ่นท้อง”
   

               รุ่งรดิศเอ่ยขอบคุณ ข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้าส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำย่อยในกระเพาะมาก น่าแปลกที่ลำคอของเขากลับตีบตัน แม้ร่างกายจะเรียกร้อง แต่เขากลับไม่อยากอาหารเลยสักนิด
   

               “กินไม่ลงก็ต้องกิน เดี๋ยวโรคกระเพาะก็กำเริบหรอก”
   

               มีการเป็นห่วงกันด้วย!


               ถึงจะหลบไปยืนห่างๆ แต่เธอก็ได้ยินนะ! จอมแก้วหลบกลับเข้ามาในครัว พยายามเงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์ ดีที่คุณสามีของเธอไม่ได้พูดเสียงเบา แต่อีกคนนี่สิ เสียงเบาจนจับใจความแทบไม่ได้แน่ะ


               “...”


               “นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่มาเอาดึกๆ ดื่นๆ นะ นี่นั่งเครื่องหรือนั่งรถทัวร์มา”


               “นั่งรถทัวร์มา เครื่องบินมันแพง แล้วตอนออกมาจากที่นู่นก็ไม่ดึกนะ”


               “แล้วนี่คุณน้ารู้หรือยัง ไม่ใช่ว่าเดินเหม่อๆ อยู่ดีๆ ก็อยู่บนรถทัวร์แล้วนะ”


               “โห รู้ได้ไงน่ะ”


               รุ่งรดิศพูดประโยคที่น่าจะแสดงความแปลกใจนี้ด้วยเสียงเหมือนท่องบท เลยโดนพิชญะสวดเสียยับ


               จอมแก้วแทบจะหลุดขำเสียงดัง เธอได้แต่กลั้นหัวเราะจนปวดท้องเมื่อได้ยินประโยคถัดมา


               “บ่นเป็นพ่อเลย ผมโตแล้วนะ โอ๊ย ยะดีดหน้าผากผมทำไม”


               เดี๋ยวนะๆ ทำไมสถานการณ์มันถึงเหมือนแฟนหยอกล้อกัน พี่พิชญ์ไม่เคยทำอย่างนี้กับเธอด้วยซ้ำ!


               จอมแก้วอิจฉาตาร้อนผ่าว นึกเกลียดเสียงบ่นงึมงำของพิชญะขึ้นมาเสียเฉยๆ อยากจะเดินออกไปแล้วตะโกนใส่หน้าสามีตัวเองว่า ‘มาบ่นเธอบ้างสิ!’


               กลับมาทางด้านของสองหนุ่มที่อยู่ตรงโต๊ะอาหาร บรรยากาศไม่ได้มุ้งมิ้งอย่างที่จอมแก้วคิดแม้แต่น้อย คนหนึ่งพยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ส่วนอีกคนก็เอาแต่แค่นยิ้มฝืนๆ ไม่ว่ารุ่งรดิศจะรู้สึกดีขึ้นมาแค่ไหน ในสายตาของพิชญะแล้วก็ยังดูหดหู่มากอยู่ดี


               “ขึ้นไปพักไป เดี๋ยวกูเก็บจานเอง” พิชญะยอมแพ้ บางทีปล่อยขึ้นไปพักอาจจะดีกว่าบังคับมานั่งคุยกันอยู่ตรงนี้ก็ได้


               “เฮ้ย ไม่ได้ ผมมารบกวน ให้ผมทำเถอะ”


               “กูเป็นเจ้าบ้าน บอกให้ขึ้นไปนอนก็ขึ้นไป เจียมสังขารตัวเองหน่อย”


               “อืม... ขอบใจนะ”


               ในความเป็นจริงพิชญะค่อนข้างฮาร์ดคอร์กับรุ่งรดิศมาก ส่วนรุ่งรดิศก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็เดินตัวลีบๆ ขึ้นบันไดไป แต่ในสายตาจอมแก้วแล้ว... ฉากนี้เหมือนฉากพระเอกนางเอกในหนังเปี๊ยบเลย


               เธอชักจะหึงแล้วนะ!













--------------
ได้สองหน้าเองค่ะ... แต่เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ว่าง เลยมาแปะไว้ก่อน

สารภาพว่าติดการ์ตูนค่ะ นั่งกรี๊ดฉางเกอสิงอยู่  :o8:

ตอนหน้าแต่งได้เยอะๆ แล้วค่อยเอามาลงดีกว่าไหมอะคะ มาขยักขย้อนแบบนี้น่ารำคาญหรือเปล่าเนี่ย....

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :pig4:


-----
มาต่อให้อีกหน่อย จริงๆ กะว่าจะดราม่ายาวๆ แต่พอจะดราม่าทีไรจอมแก้วก็โผล่มาฮาทุกที ดราม่าไม่ออกเลยค่ะ  :laugh:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2015 15:27:53 โดย kritcha »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
จอมแก้วคะ
เราพวกเดียวกันค่ะ!!
ได้ข้อมูลแล้วตั้งกระทู้ต่อเลยนะคะ ดังแน่ค่ะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รักที่ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
มันช่างหดหู่อะไรเยี่ยงนี้

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ไม่ต้องใหญ่ยาวก็ได้ ซอยถี่ๆ ก็พอ >///< #นิยายหน่ะนะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
กำลังลุ้นเลยครับว่าอะไรยังไง สองคนนี้ดูเหมือนคุ้นเคยกันดี สังเกตจากการคุยกัน รุ่งรดิศก็คุ้นกับบ้านหลังนี้
แต่ยังไม่ทันดราม่าเลย อยากอ่านดราม่าจังเลย มาต่อไวๆ นะครับ

Sarawatta

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มาต่ออีกนิดแล้ว
เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วล่ะ
แต่สงสัยว่าทำไมรุ่งรดิศถึงดูเศร้าแบบกระทันหัน
ทั้งที่ในจดหมายก็ดูเหมือนจะดีขึ้นบ้างแล้ว

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ขี้เกียจเดา

ออฟไลน์ kritcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
                เข็มนาฬิกาชี้เวลาเที่ยงคืนตรง รุ่งรดิศแว่วเสียงนาฬิกาเรือนเก่าดังหง่างเหง่งมาจากห้องนั่งเล่นข้างล่าง เขานอนกระสับกระส่ายมาเกือบชั่วโมงแล้ว แม้จะผ่านการเดินทางมาเกือบสิบชั่วโมง ทั้งยังตากฝนจนตัวเย็นเฉียบ แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เขาก็ข่มตาหลับไม่ลง


                ไม่มีกลิ่นที่เคยคุ้น...   


                หรือที่จริงแล้วเขาลืมกลิ่นนั้นไปแล้วกันแน่


                ความรู้สึกขมขื่นมันกลืนอยู่ในอก เขารู้สึกหัวตาร้อนผ่าวแต่พยายามไม่ให้มันกลั่นออกมาเป็นน้ำ รุ่งรดิศลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าทั้งหมดยังแขวนอยู่ในนั้น เขาหยิบเสื้อยืดเก่าๆ ออกมาตัวหนึ่งแล้วกอดมันไว้แนบอก
   

                ไม่ใช่กลิ่นนี้
   

                ไม่ใช่ ไม่ใช่! ไม่ใช่!!

   

                เขาหันไปคว้ากรอบรูปที่วางคว่ำอยู่บนโต๊ะ พยายามเพ่งพิศใบหน้าของคนในภาพ ภาพของพิชญ์ แต่ความมืดก็ทำให้ใบหน้านั้นรางเลือน
   

                เมื่อไฟในห้องสว่างจ้า รุ่งรดิศก็กลับไปจ้องใบหน้านั้นอีกครั้ง ภาพพิชญ์ที่ยิ้มอยู่ข้างๆ เขากับภาพในความทรงจำยังคงเป็นภาพเดียวกัน


                รุ่งรดิศไม่เคยลืมความสุขในตอนนั้น ยังคงจำได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนในวันที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน ยิ้มและหัวเราะให้กันเสมอ แต่เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เขายิ้มได้แบบในรูปคือเมื่อไหร่


                อาจจะเป็นวันที่เขาเดินจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ


                ยิ่งคิดดวงตาของรุ่งรดิศก็ยิ่งร้อนผ่าว สายตานั้นยังคงมองไปที่ใบหน้าของคนรัก... คนที่เขารักเสมอ และจะรักตลอดไป


                แล้วคืนนั้นรุ่งรดิศก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาที่ไม่หลั่งไหล










                รุ่งเช้าวันถัดมาพิชญะไม่ได้ไปทำงาน จอมแก้วเห็นสามีเดินวนไปวนหน้าหน้าประตูห้องห้องนั้นตั้งแต่รุ่งสาง สามีของเธอดูกระสับกระส่ายและเป็นกังวลมาก เธอไม่ได้ขัดอะไรเขาและยังเตรียมอาหารเช้าไปตามปกติ อ้อ ทำเผื่อแขกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งที่


                พิชญะเคาะประตูเรียกรุ่งรดิศเมื่อถึงเวลาแปดโมง แต่จนกระทั่งแปดโมงครึ่งแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ออกมา จึงได้ไขกุญแจเข้าไป


                สิ่งที่เห็นคือรุ่งรดิศนั่งขดตัวอยู่ที่พื้นปลายเตียง กอดรูปถ่ายไว้แนบอก เพียงเข้าไปใกล้ก็บอกได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีไข้ขึ้นสูง ลมหายใจร้อนค่อนข้างถี่กระชั้นกว่าปกติ


                พิชญะจัดแจงอุ้มรุ่งรดิศขึ้นนอนบนเตียงโดยมีจอมแก้วคอยช่วยเหลือ


                “พาไปโรงพยาบาลไหมคะพี่พิชญ์ ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้”


                แต่พิชญะกลับส่ายหน้า


                “ไม่ได้หรอก รุ่งไม่ชอบโรงพยาบาล เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า เดี๋ยวพี่จะเช็ดตัวลดไข้ให้เขาก่อน ถ้าไข้ไม่ลดเราค่อยพาไป”


                “งั้นเดี๋ยวแก้วทำให้”


                “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง สักเก้าโมงกว่าแก้วอุ่นข้าวต้มให้พี่หน่อยดีกว่า จะได้ให้เขาทานข้าวทานยา”


                เห็นท่าทีจริงจังแล้วจอมแก้วก็ไม่กล้าแย้งไม่กล้าขัด แม้ความรู้สึกหึงหวงจะเกิดขึ้นในใจก็ไม่ปล่อยให้มันมาควบคุมตัวเอง นี่ยังไม่ใช่เวลา ท่องไว้จอมแก้ว!


                พิชญะเอาน้ำอุ่นใส่กะละมัง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในตู้เสื้อผ้าออกมาสองสามผืน เขาชุบผ้าลงในน้ำอุ่นแล้วบิดหมาดๆ เริ่มไล่เช็ดจากใบหน้าและซอกคอ รุ่งรดิศครางในคอแล้วพยายามขยับหนี


                “อยู่เฉยๆ สิ”


                “อยู่เฉยๆ สิ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ จะได้หายไข้นะ”


                มือเย็นๆ ของพิชญ์แตะไปตามผิวแก้ม รุ่งรดิศรู้สึกดีกับสัมผัสนั้นจึงพยายามขยับตามมือที่เคลื่อนไปมา พิชญ์ไล้แก้มอีกฝ่ายเบาๆ อย่างเอ็นดู


                “พิชญ์”


                “ครับ?”



                ไม่มีสักครั้งที่เรียกแล้วพิชญ์จะไม่ตอบ ทุกครั้งที่ส่งเสียงเรียกออกไปพิชญ์จะต้องตอบเขาด้วยรอยยิ้มเสมอ


                “พิชญ์”


                “รู้สึกตัวแล้วเหรอ?”


                “รู้สึกตัวแล้วเหรอ?”
 

                เสียงของรุ่งรดิศแหบแห้ง เขาพยายามลืมตา แต่ภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนเหลือเกิน


                “พิชญ์ พิชญ์ใช่ไหม ผมคิดถึงพิชญ์ ผมคิดถึงพิชญ์”


                พิชญะทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นน้ำตาที่พรั่งหรูออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้น เสียงที่พร่ำบอกว่าคิดถึงทำให้เขาไม่กล้าดึงมือออกจากการเกาะกุมของรุ่งรดิศ ยิ่งไม่กล้าหนีเมื่ออีกคนดึงเขาลงไปและโน้มตัวขึ้นมาซุกไหล่


                สุดท้ายแล้วจึงทำได้เพียงประคองศีรษะนั้นไว้และลูบหลังอย่างปลอบประโลม

















----------------
มาแล้ววววว อาทิตย์ที่ผ่านมาวุ่นวายมากเลยค่ะ ปลวกบุกบ้านอีกแล้ว ฉีดปลวกไปเลยต้องไปนอนที่อื่น ส่วนคอมก็ทิ้งไว้ที่บ้านเลยไม่ได้แตะเลยค่ะ = = กลัวปลวกบุกหนังสือนิยายการ์ตูนจังเลย... ตอนนี้ว่างมาเขียนต่อแล้ว  :katai4: มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องจบก่อนสิงหาค่ะ เพราะจะเปิดเทอมแล้ว เปิดเร็วกว่าชาวบ้านเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลย เสียใจ  :o12:

มาเรื่องนี้บ้าง ในที่สุดก็ได้ต้มมาม่าแล้วค่ะ 5555 มันโอเคไหมหว่า กลัวเขียนสื่อออกมาได้ไม่ดีพอ :katai1: ถ้าใครน้ำตาซึมบอกด้วยนะคะ จะดีใจมากกก อัพครั้งหน้าจะเข้าใจถึงสาเหตุที่รุ่งรดิศกลับมาดาวน์แล้วค่ะ ส่วนนี้เขียนยากจัง กลัวไม่สมเหตุสมผล หรือจริงๆ แล้วเรื่องอารมณ์ความรู้สึกนี่ไม่ต้องสมเหตุสมผลก็ได้???

ติชมได้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
หน่วงงงง แต่รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
สงสารนะ คงสะเทือนใจมากในตอนนั้น

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ได้อารมณ์อยู่ ขออย่างเดียว คุณเมียอย่ากลายเป็นนางร้ายบ้าบอวีนแตกนะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รอความกระจ่างในความทุกข์ของรุ่งรดิศนะคะ

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
จะจบสิงหาแล้ววว
คนเขียนมาต่อเร็ววว
เค้าอยากอ่านน

ออฟไลน์ kritcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
          ช่วงสายของวันถัดมา รุ่งรดิศตื่นขึ้นมาเจอพิชญะนั่งจ้องอยู่ข้างเตียงก็สะดุ้งโหยง


          “นอนข้ามวันข้ามคืน ไข้ลดไปเยอะแล้ว เมื่อวานตอนหัวค่ำเพ้อจนจะหามส่งไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว วุ่นวายจริงๆ”


          ถึงพิชญะจะบ่น แถมบอกว่าอีกฝ่ายวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะไม่พอใจหรือหงุดหงิดใจอย่างที่พูดออกมา


          “รบกวนยะกับคุณแก้วมากๆ ซะแล้ว ขอโทษด้วยนะ”


          รุ่งรดิศบอกอย่างรู้สึกผิด ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรผิด ถึงได้โดนมะเหงกจากเจ้าของบ้านประทับมาที่หน้าผาก


          “ขอบคุณสิวะ ขอโทษอะไรล่ะ นี่ก็อีกเรื่องนึง... ไปตามเมียกลับมาให้กูเลย”


          “เอ๋? คุณแก้วไปไหนเหรอ?”


          พิชญะมีสีหน้ายุ่งยากใจ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ให้คิดหนัก





          “พี่พิชญ์คะ แก้วจะกลับไปบ้านแม่นะ”


          จอมแก้วเก็บกระเป๋าเรียบร้อย แถมถือกุญแจบ้านกุญแจรถรอไว้อย่างเตรียมพร้อม


          “อะไรกันแก้ว แก้วจะไปทำไมกัน จะไปเยี่ยมแม่ทำไมไม่บอกพี่”


          พิชญะมึนงง วันนี้ทั้งวันก็ยุ่งกับการดูแลคนป่วยอยู่แล้ว คุณภรรยาเกิดรวนอะไรขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย!


          “ไม่ได้จะไปเยี่ยมแม่ แก้วจะกลับไปอยู่บ้านสักพัก รอพี่พิชญ์เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยแล้วแก้วจะกลับมาเอง”


          “เคลียร์ตัวเอง? เรื่อง?”


          “ถ้าถ่านไฟเก่าจะคุก็บอกแก้วแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มากอดกันให้แก้วเห็น แก้วหึง!”


          “หึงอะไร หึงพี่กับใคร?”


          จอมแก้วเม้มปากแน่น เธอว่าเธอพูดชัดเจนแล้วนะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย!


          “จะใครล่ะคะ ก็พี่พิชญ์กับคุณรุ่งไง เขาเป็นแฟนเก่าพี่พิชญ์ใช่ไหมล่ะ”


          “เฮ้ย! ไม่ใช่ พี่กับรุ่งเนี่ยนะ จะบ้าเหรอ”


          “ไม่รู้ล่ะ! แก้วจะกลับไปนอนบ้าน ถ้าพี่พิชญ์บริสุทธิ์ใจจริงทำไมไม่บอกอะไรแก้วบ้าง แก้วไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง งั้นเอาเป็นว่าวันมะรืนเดี๋ยวแก้วกลับมา ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องเล่าทุกอย่างให้แก้วฟังด้วย ไปนะคะ”


          จอมแก้วพูดรัวเร็วแล้วก็ชิ่งหนีเอาดื้อๆ เธอลากกระเป๋าขึ้นรถแล้วขับออกมาทันที ทิ้งสามียืนเหวอแบบงงๆ อยู่อย่างนั้น


          หึงก็หนึ่งส่วน แต่อีกเก้าสิบเก้าส่วนนี่ข้องใจล้วนๆ พูดง่ายๆ ก็อยากรู้นั่นแหละ!


          จอมแก้วแอบขอโทษพิชญะอยู่ในใจ







          “สรุปก็คือ แก้วคิดว่ามึงเป็นแฟนเก่ากู แล้วก็เกิดหึงขึ้นมา กลัวถ่านไฟเก่าจะคุ เลยหนีกลับไปนอนบ้านตัวเองแล้ว ทำท่าเหมือนจะโกรธมาก แต่ก็ดูแปลกๆ ไงก็ไม่รู้”


          พิชญะไม่ใช่คนโง่ อีกอย่างปกติแล้วจอมแก้วค่อนข้างมีเหตุผล อยู่ๆ ก็ทำตัวไร้เหตุผลขึ้นมามันต้องมีอะไรสักอย่าง เพียงแต่เขายังไม่รู้จุดประสงค์ของภรรยาว่าต้องการอะไร


          “ยะไม่ได้บอกคุณแก้วหรอกเหรอว่าผมเป็นแฟนพิชญ์”


          “แก้วไม่รู้จักพิชญ์หรอก กูไม่ได้เล่าให้ฟัง”


          “สมน้ำหน้า เรื่องสำคัญแบบนี้ไม่เล่าให้ฟังได้ยังไงกัน ผมก็ว่าว่าทำไมคุณแก้วเรียกยะว่าพิชญ์”


          “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตัวมึงเองเถอะ เกิดอะไรขึ้น”


          พิชญะเปลี่ยนเรื่อง ทั้งยังทำหน้าจริงจัง รุ่งรดิศชะงักไปเมื่อโดนถามคำถามที่เขาเลี่ยงตอบมาตลอด


          “ไม่มีอะไรหรอก ผมงี่เง่าไปเองแหละ”


          เจ้าบ้านไม่พูดอะไร เพียงใช้สายตาเค้นหาความจริงจากคนตรงหน้า


          “จริงๆ ยะ ผมแค่เสียศูนย์เหมือนๆ ทุกครั้งแหละ... แต่ครั้งนี้อาจจะหนักหน่อย”


          รุ่งรดิศก้มหน้าลงเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาต้องกลับมายืนที่หน้าบ้านนี้อีกครั้งก่อนกำหนด


          “รุ่ง กูยังยืนยันคำเดิมนะ มีอะไรมึงเล่าให้กูฟังได้ มึงเป็นคนในครอบครัวกู ต่อให้ไม่มีพิชญ์แล้ว เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน”


          น้ำตาหยดหนึ่งหยดลง พิชญะมองคนอมทุกข์ขยุ้มผ้าห่มแน่น


          “ยะ ผมมีแฟนใหม่แล้วล่ะ”


          รุ่งรดิศเริ่มต้นเล่าได้สามสี่คำก็หยุดไป แต่คนฟังก็ไม่ได้เร่งเร้า เพียงรอรับฟังอยู่เงียบๆ


          “เขารู้เรื่องผม รู้เรื่องของพิชญ์ แต่เขาก็ยังบอกว่ารักผม บอกว่าจะรอ ผมเลยตัดสินใจคบกับเขา ห้าปีที่ผ่านมา... นี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดนับตั้งแต่วันนั้น


          ยะ ผมพยายามเปิดใจ พยายามมีความสุขมาตลอด แต่มันไม่เคยสำเร็จ ทุกวันมันช่างยาวนาน ผมไม่อยากจะนับว่าพิชญ์จากเราไปกี่วัน... กี่เดือน... กี่ปี ผมคิดถึงเขาทุกวัน ผมไม่เคยลืมความสุขระหว่างเรา ผมยังจำทุกๆ เหตุการณ์ของเราได้ และผมก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าผมจะไม่มีวันลืม... ผมจะไม่มีวันลืมแม้แต่วินาทีเดียว”


          รุ่งรดิศกลั้นสะอื้น ดวงตาแดงกล่ำนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำคลอหน่วยที่พยายามไม่ให้มันไหลออกมา 


          “ใครเป็นคนบอกว่าการลืมมันยากกัน... ยะ ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งไม่มั่นใจ สิ่งที่ผมจำได้มันคือเรื่องจริงใช่ไหม มันกำลังมีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า มีหลายๆ เรื่องที่เหมือนมันกำลังเลือนไปจากความทรงจำของผม ผมทำได้แค่พยายามจำ...


          การที่เขาเข้ามาในชีวิตมันทำให้โลกของผมสดใสขึ้น ผมมีความสุข ผมไม่จำเป็นจะต้องลืมพิชญ์ ผมยังคงเก็บพิชญ์ไว้ในใจได้ ในขณะเดียวกันผมสามารถเปิดใจรับเขาเข้ามาได้ด้วย


           มันดีมากเลยยะ แต่มันดีเกินไป ผมมีความสุขมากเกินไป มากจนบางครั้งผมลืมพิชญ์ไปจากใจ”


           พิชญะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดกับรุ่งรดิศ เพราะมันก็เกิดกับเขามาแล้วเช่นกัน แต่พิชญะไม่ได้ยืดติดกับพิชญ์... อาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพิชญ์มันไม่ได้ลึกล้ำขนาดนั้นก็ได้... แม้จะเป็นฝาแฝดกันก็ตาม


          “ยะ... ผมยังรักพิชญ์เสมอ แต่มาวันนี้ผมก็รักกานต์ด้วย ผมไม่ได้ต้องการให้กานต์มาแทนที่พิชญ์ แต่พักหลังมานี้ หลายๆ ครั้งคนที่อยู่ในความคำนึงของผมคือกานดิศ ผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา จนกระทั่งผมลืมหน้าของพิชญ์ไป...”


          พูดถึงตรงนี้รุ่งรดิศก็ปล่อยสะอื้นออกมา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินจนผ้าห่มเปียกชื้น


          “ชั่ววูบเดียวที่ผมลืมใบหน้าของพิชญ์ไป ชั่วขณะเดียวที่ผมสงสัยว่าหน้าของพิชญ์ที่ผมจำได้คือใบหน้าไหนกันแน่ ผมก็ให้อภัยตัวเองไม่ได้ ผมให้อภัยตัวเองไม่ได้จริงๆ”


          พิชญะผุดลุกขึ้น หายออกไปจากห้องครู่หนึ่งก็กลับมาผมกับซองจดหมายหลากหลายในมือ...


          “นั่นจดหมายที่ผมส่งมาเหรอ”


          “ไม่ใช่ ที่มึงส่งมากุเผาส่งให้พิชญ์ไปหมดแล้ว”


          จดหมายเหล่านี้มีลายมือหวัดๆ เขียนอะไรบางอย่างไว้ที่หน้าซอง ไม่มีชื่อที่อยู่ผู้รับและผู้ส่ง แต่ทั้งหมดนี้นั้นเขียนขึ้นมาเพื่อคนเพียงคนเดียว... รุ่งรดิศ


          “พิชญ์มันบ้า” พิชญะแค่นหัวเราะ “มันเขียนจดหมายทิ้งไว้เยอะแยะไปหมด ตอนแรกกูก็งงว่าเขียนอะไรเยอะแยะ แต่มันบอกว่าพอถึงเวลาให้กูส่งจดหมายของมันให้มึงแค่ฉบับเดียว... ตามแต่กูจะพิจารณาว่าควรให้ฉบับไหน เมื่อไหร่”


          “อันนี้” เขาชูซองสีเหลือง “มันบอกว่า ถ้ารุ่งมีแฟนใหม่แล้วลืมมัน ให้กูเอาจดหมายฉบับนี้ให้”


          “ส่วนอันนี้” เขาชูซองสีเขียว “มันบอกว่า ถ้ารุ่งไม่ดูแลตัวเอง ให้ให้จดหมายฉบับนี้”


          “ส่วนอันนี้ ถ้ารุ่งไม่ยอมมีแฟนใหม่” พิชญะไม่ได้จำได้ทั้งหมด เขาอ่านลายมือหวัดๆ บนหน้าซองนั้นต่างหาก


          สุดท้ายเขาก็ส่งจดหมายในซองสีฟ้าไปให้ บนหน้าซองเขียนว่า ‘ถ้าพิชญ์เป็นตัวขัดขวางความสุขของรุ่ง’
รุ่งรดิศรับจดหมายนั้นด้วยมืออันสั่นเทา เขาจ้องมองมันอย่างนั้นอยู่นาน เมื่อรู้สึกตัวอีกที พิชญะก็หายไปแล้ว แต่ก็ทิ้งจดหมายที่เหลือเอาไว้ให้โต๊ะ


          เขาเปิดจดหมายในมือออกอ่าน ใช้เวลาอ่านไม่นานก็จบ รุ่งรดิศอ่านจดหมายซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น แม้น้ำตาจะยังคงหลั่งไหล แต่รอยยิ้มบางๆ ก็แต่งแต้มขึ้นบนในหน้าในรอบหลายวัน












สวัสดีครับ ที่รักของพิชญ์


          จดหมายฉบับนี้ ผมอยากจะเขียนถึงรุ่งก่อนที่ผมจะไม่มีแรงเขียน เพราะผมไม่รู้ว่าผมจากหายจากโรคร้ายที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือไม่ ผมอยากเขียนหารุ่งเยอะๆ ผมเลยเวิ่นเว้อไปแล้วหลายฉบับ แต่ถ้ารุ่งได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมอยากบอกรุ่งว่าผมเสียใจจริงๆ ที่ต้องทิ้งรุ่งให้อยู่คนเดียวบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ เพราะถ้าผมยังอยู่ รุ่งจะไม่มีทางได้อ่านจดหมายฉบับนี้เด็ดขาด


          ผมบอกให้ไอ้ยะมันเลือกจดหมายที่จะให้รุ่งอ่านหลังผมไม่อยู่แล้วก่อนหน้าที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้น แต่ผมรู้ว่าถึงเวลามันคงเอาให้รุ่งทุกฉบับ ผมไม่รู้ว่ารุ่งได้อ่านที่ผมเพ้อบ้าบออะไรก็ไม่รู้ในจดหมายบางฉบับหรือยัง แต่ฉบับนี้จะเป็นฉบับที่กลั่นกรองมาจากหัวใจของผมมากที่สุด ถ้ารุ่งอ่านฉบับนี้เป็นฉบับแรก ฉบับอื่นก็ไม่ต้องอ่านหรอกนะ โอเคไหม


          ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณรุ่งที่อยู่ข้างๆ ผมมาตลอด สำหรับผมรุ่งไม่ใช่แค่คนรัก ไม่ใช่แค่แฟน รุ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม เพราะฉะนั้นตอนที่ผมรู้ตัวว่าผมเป็นโรคร้าย ผมจึงทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยรุ่งไป ผมไม่ได้เป็นพระเอกละครที่ชอบไล่นางเอกออกจากชีวิตเพราะตัวเองกำลังจะตาย ผมเป็นคนธรรมดา ผมอยากให้รุ่งอยู่กับผมมากกว่า เพราะฉะนั้นตอนที่ผมบอกรุ่งแล้วรุ่งตอบตกลง ผมจึงรู้สึกว่าผมโชคดีที่สุดในโลก  แต่ผมก็รู้ว่าผมช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่รั้งรุ่งไว้อย่างนี้


          ผมมักจะบอกรุ่งว่าห้ามลืมผมนะ ร้องขอให้รุ่งรักผมตลอดไป ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงต้องการรั้งรุ่งไว้กับตัว แต่แล้วผมก็คิดได้ว่าเมื่อผมจากโลกนี้ไปแล้ว คนที่จะเป็นทุกข์คือรุ่ง ความเห็นแก่ตัวของผมจะทำให้รุ่งเป็นทุกข์ในภายภาคหน้า ผมไม่ต้องการให้ตัวเองที่จากไปแล้วเป็นตัวขัดขวางความสุขของรุ่ง


          ผมไม่รู้ว่าผมจะไปขัดขวางความสุขของรุ่งยังไงบ้าง เพราะผมรู้ว่าแค่ผมป่วยแบบนี้รุ่งก็เป็นทุกข์มากพอแล้ว ผมจึงอยากจะขอให้รุ่งรักผมจนวันสุดท้ายของผมก็พอ รุ่งไม่จำเป็นของรักผมตลอดไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรักผมแค่คนเดียว มันเห็นแก่ตัวเกินไป ผมขอแค่คิดถึงผมบ้างเป็นครั้งคราว เก็บเรื่องราวของเราไว้เป็นความทรงจำดีๆ ก็พอ อย่าให้มันมารั้งชีวิตของรุ่งเลย ผมอยากให้รุ่งเปิดใจรับคนใหม่ คนที่ดียิ่งกว่าผม คนที่จะดูแลรุ่งได้


          สุดท้ายนี้ขอให้รุ่งรู้ว่าผมรักรุ่งมากและผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารุ่งจะมีความสุขมากๆ


                                                                                                                                      รักรุ่งมากที่สุดในโลก

                                                                                                                                                 พิชญ์
   

          ปล. อย่าลืมพาแฟนใหม่มาแนะนำให้ผมรู้จัก




























----------------
ตอนหน้าน่าจะจบแล้วค่ะ จดหมายของพิชญ์อาจจะมีงงๆบ้าง คือมันเป็นเรื่องของลำดับเหตุการณ์ในอดีตน่ะค่ะ เลยอาจสื่อไม่ดีเท่าที่ควร ถ้ามีเวลาอาจจะเขียนตอนพิเศษเป็นเรื่องของพิชญ์กับรุ่งรดิศให้ แต่ดูแกวแล้วอาจจะไม่ได้เขียน เพราะท่าทางจะยาว 5555

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พิชญ์น่ารักดี...มีการเขียนจดหมายไว้ให้สำหรับสถานการณ์ต่างๆในอนาคตของรุ่งไว้ให้ด้วยอ่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้ก็เคลียร์แล้วค่ะ... ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง
แอบขำจอมแก้วนิดหน่อย ดูจะมีอารมณ์แบบสาววายนิดๆนะเนี่ย (แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงคงฮาไม่ออก) ยะก็กระไรอยู่ ไม่ยอมบอกภรรยาว่าตัวเองมีฝาแฝด...ไงล่ะ เมียหนีกลับบ้านเลย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :mew2: สงสารรุ่งจัง ตอนหน้าคงสดใสขึ้นนะคะ แต่ภรรยายะนี่ตลกจริงๆแหละ แอบเป็นสาววายนิด 555555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ร้องไห้หนักมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
เป็นโรคร้ายแรงอะไรเหรอครับ หรือว่า HIV/AIDS
น่าสงสารรุ่งรดิศจัง แสดงว่าพิชญ์น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
รอตอนต่อไปนะครับ

Sarawatta

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ถ้าผมไม่ลืมนะ ผมจะส่งเรื่องนี้เข้าเซ็งเป็ดอะวอร์ด #แก้วนี่เจ้าเลห์นะเรา

ออฟไลน์ kritcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
          วันถัดมา จอมแก้วกลับมาที่บ้านสามีตอนสายๆ เดิมเธอคิดจะกลับมาตั้งแต่เช้า แต่เมื่อคืนเธอโทรคุยกับวีรดา เลยโดนเพื่อนสาวปรามไว้ วีรดาบอกว่าถ้าเธอกลับบ้านเร็วพี่พิชญ์อาจจะมองว่าเธอไม่ได้โกรธจริงจัง แถมยังจะโดนมองว่าอยู่ใต้อำนาจสามี หนีไปไหนไม่รอดอีกต่างหาก


          จริงๆ จอมแก้วคิดว่าวีรดาก็พูดเกินไป ถึงอย่างนั้นก็แอบคิดอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน สุดท้ายแล้วเลยออกจากบ้านแม่เลทนิดหน่อย กว่าจะถึงบ้านสามีก็สิบโมงพอดี
         

          แหม... ก็มันอยากรู้นี่หน่า แล้วถ้าสองคนนั้นจะกลับมาคืนดีกัน เธอเป็นคนไปมันถูกที่ไหนกัน เธอเป็นภรรยาตามกฎหมายนะ!


          จอมแก้วนั่งคิดฟุ้งซ่านอยู่ในครัว สติกลับมาอีกทีก็ตอนที่รุ่งรดิศเดินเข้ามาใกล้นั่นแหละ


          “อรุณสวัสดิ์ครับคุณแก้ว ผมขอโทษด้วยนะครับที่มาสร้างความลำบากให้”


          หญิงสาวมองผู้ชายตรงหน้า อีกฝ่ายส่งยิ้มจางๆ เจือความสำนึกผิดมาให้


          “คุณแก้วไม่ต้องกังวลเรื่องผมหรอกครับ ผมเป็นคนรักของพิชญ์... ผมหมายถึงพิชญ์ ที่ไม่ใช่พิชญะน่ะครับ”


          “คุณ... พิชญ์?”


          “ผมว่าผมต้องเล่ายาว เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะครับ”


          รุ่งรดิศยิ้มให้ เชื้อเชิญจอมแก้วให้ไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น


          วันนี้เป็นวันเสาร์ พิชญะไม่ต้องไปทำงาน ตอนนี้เขาเลยนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา พอภรรยากับเพื่อนเดินเข้ามาก็อัปเปหิตัวเองไปอยู่ที่อื่นแทนด้วยตกลงกับรุ่งรดิศไว้ว่าจะให้รุ่งรดิศเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้จอมแก้วฟัง ส่วนตัวเขาเองจะไปคุยกับจอมแก้วทีหลัง


          ถ้าเป็นปกติจอมแก้วคงโมโหที่สามีไม่ยอมมาคุยกับเธอด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ในตอนนี้จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!


          “ก่อนอื่นผมคงต้องทำความเข้าใจกับคุณแก้วก่อนว่าพิชญะกับพิชญ์คือคนละคนกันนะครับ


          คุณแก้วรู้ไหมครับว่ายะมีน้องชายฝาแฝด” 


          “แก้วรู้ว่าพี่พิชญ์มีน้องชายค่ะ แต่ไม่ทราบรายละเอียด... เห็นบอกว่าแยกกันตั้งแต่เด็ก”


          จอมแก้วนิ่งอึ้ง นี่หรือเปล่าสาเหตุที่พิชญะไม่ยอมให้เธอเรียกเขาว่าพิชญ์ในทีแรก... เป็นเธอเองที่ดื้อดึงจะเรียกจนอีกฝ่ายอ่อนใจ


          “พิชญ์เป็นน้องชายฝาแฝดของยะ คุณลุงคุณป้าแยกกันตอนอายุได้ห้าหกขวบ ยะย้ายตามคุณแม่ไปอยู่ที่อื่น ส่วนพิชญ์ก็ยังอยู่กับพ่อที่นี่” รุ่งรดิศพยักหน้าเมื่อจอมแก้วเลิกคิ้วสงสัย “ครับ บ้านหลังนี้แหละ ส่วนบ้านผมก็อยู่ข้างๆ นี่เอง แต่ว่าโดนขายทิ้งไปแล้ว”


          “แล้วคุณพิชญ์...” หายไปไหน?


          “พิชญ์เสียไปได้ห้าปีแล้วครับ” รุ่งรดิศยิ้มเศร้า เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นก็รู้สึกเจ็บอยู่ในใจ หลังจากที่พิชญ์จากไป เขาแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เรียนเกือบไม่จบเสียด้วยซ้ำ ต้องดรอปเรียนไปหนึ่งปี “ตอนอายุสิบเจ็ด... พิชญ์ก็เป็นมะเร็งกระดูก”


          “มะ มะเร็งกระดูกเหรอคะ”


          “ครับ เราพยายามรักษาทุกวิถีทาง ถึงพิชญ์จะพบช้าไปหน่อย... แต่เราก็คิดว่ายังพอไหว การรักษาต้องใช้รังสีร่วมกับเคมีบำบัดก็ต้องผ่าตัดเอากระดูกขาบางส่วนออกแล้วทำการปลูกถ่ายกระดูกเข้าไป... โชคดีที่พิชญ์ไม่เป็นจำต้องตัดขาทิ้ง เหลือแค่รอให้กระดูกใหม่มันพัฒนาขึ้น ทำกายภาพบำบัด เฝ้าระวังไม่ให้มะเร็งเกิดซ้ำ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีใช่ไหมครับ”


          “ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไม...”


          “คุณแก้วรู้ไหมครับว่ามะเร็งแพร่กระจายตามกระแสเลือด พิชญ์กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งตอนอายุสิบเก้า สุดท้ายแล้วเราพบว่ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ปอด... หลังจากนั้นสามเดือน พิชญ์ก็จากผมไป”


          “ตอนคุณพิชญ์เสีย... เขาคงทรมานมากนะคะ”


          “ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน มันชั่วพริบตาเดียวเอง” รุ่งรดิศพูดเหมือนจะติดขำ แต่ไม่ใช่เลย “พิชญ์ประสบอุบัติเหตุ... เขาโดนรถชน มีเด็กหกล้มตอนข้ามถนน พิชญ์พุ่งตัวเข้าไปช่วยไว้...”


          วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกพรำๆ ทั้งวัน รุ่งรดิศพาพิชญ์กลับจากโรงพยาบาล ขณะที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ก้าวออกไป... พร้อมๆ กับมัจจุราชสีดำที่พุ่งเข้ามา


          พิชญ์เสียชีวิตหกชั่วโมงหลังจากนั้น


          แม้ว่ารุ่งรดิศจะทำใจไว้อยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนรักจะจากไปเร็วขนาดนี้... จากไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ร่ำลากันด้วยซ้ำ


          จอมแก้วมองผู้ชายตาโศก แผ่นหลังนั้นงุ้มลงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง


          “งั้นที่พี่พิชญ์... พี่ยะเผาจดหมายที่คุณส่งมานั่นก็...”


          “ครับ เป็นคำขอของผมเอง ผมคิดเอาเองว่าถ้าเผาส่งไปพิชญ์อาจจะได้อ่านแล้วก็ไม่เหงาเท่าไหร่ ผมเลยให้ยะช่วยเผาให้ บางส่วนผมเผาเองที่นู่น ไปบางส่วนก็ส่งมานี่ พิชญ์จะได้ไม่ลืมบ้านตัวเอง”


          หลังจากเรียนจบ รุ่งรดิศก็ย้ายไปอยู่กับแม่ ยังไงซะบ้านนี้ก็เป็นบ้านของคุณลุง ซึ่งจะตกเป็นของทายาทก็คือพิชญะต่อไป ถึงยะจะบอกเขาว่าไม่ต้องย้ายก็ได้ แต่เขาจะมาอยู่ตลอดไปไม่ได้ แค่ทางนี้เก็บห้องของพิชญ์เอาไว้ให้เขาก็ซึ้งใจมากแล้ว อีกอย่าง... เขาควรจะไปดูแลแม่ด้วย


          เรื่องของพิชญ์บอกกับเขาว่าจงใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคนที่รัก...


          “แก้วขอโทษนะคะที่เข้าใจคุณรุ่งผิด” จอมแก้วยกมือไหว้ “ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณรุ่งรดิศต้องนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดแบบนี้”


          “ทุกความทรงจำระหว่างผมกับพิชญ์มีค่าเสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม” รุ่งรดิศรีบโบกไม้โบกมือให้ภรรยาเพื่อนลดมือลง “อีกอย่างคุณแก้วก็ควรจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณแก้วแต่งงานกับยะแล้วก็ควรจะรู้เรื่องในครอบครัว คุณแก้วอย่าโกรธยะที่ไม่เล่าให้ฟังเลย เรื่องนี้ผมกับยะเหมือนตกลงกันอยู่กลายๆ ว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง เขาคงไม่กล้าเล่าเพราะไม่รู้จะพูดยังไงด้วยแหละ”


          พิชญะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้หลังจากเรียนจบ ซึ่งตอนนั้นรุ่งรดิศเรียนอยู่ปีสี่เพราะดรอปเรียนไป ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่บ้านหลังเดียวกันเป็นเวลาหนึ่งปี เรื่องเกี่ยวกับพิชญ์ ยะรู้จากปากรุ่งรดิศ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกจึงไม่เล่าเรื่องของน้องชายฝาแฝดให้ใครฟังนอกจากรุ่งรดิศจะเอ่ยปากเอง


          ไม่ทันที่จอมแก้วจะได้เอ่ยตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น พิชญะเดินออกจากที่ซ่อนไปดูว่าใครมาเยี่ยมเยือน


          “รุ่ง... ผมมารับรุ่งกลับบ้าน” เสียงนั้นตะโกนมาจากหน้าประตูรั้ว รุ่งรดิศผุดลุกขึ้นแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันทีโดยมีจอมแก้วตามมาติดๆ


          คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือผู้ชายร่างสูง... อย่างน้อยก็สูงกว่าพิชญะเกือบห้าเซนติเมตร รูปร่างหน้าตาราวกับหลุดออกมาจากนิตยสาร... ถ้าผมไม่ยุ่งเป็นรังนกแล้วก็แต่งตัวสักหน่อยน่ะนะ


          “กานต์... กานต์มาที่นี่ได้ยังไง”


          เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนรู้จักกันจริง พิชญะจึงเปิดประตูให้ผู้มาเยือนเข้ามา


          “คุณน้าบอกผมว่ารุ่งน่าจะอยู่ที่นี่ ผมเลยมารับรุ่งกลับ”


          กานดิศดูกังวลใจ ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ในเมื่อรุ่งรดิศหายตัวไปเกือบสามวัน ไม่ติดต่อมา ไม่รับโทรศัพท์


          “ผมทำอะไรให้รุ่งไม่พอใจหรือเปล่า รุ่งบอกผมนะ อย่าหายตัวไปแบบนี้ ผมเป็นห่วง” 


          “ขอโทษนะกานต์ ผมเสียหลักนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”


          “งั้นกลับบ้านกันนะครับ”


          เขายื่นมือออกมา


          รุ่งรดิศมองมือนั้นแล้วก็มองตาของกานดิศ ดวงตาคู่นั้นสั่นไหวด้วยความกลัว เขาเห็นดังนั้นก็ยิ้ม เอื้อมไปจับมันอย่างยินดี


          “ครับ กลับบ้านกันเถอะ”










สวัสดีพิชญ์


          พิชญ์เห็นไหม นี่กานต์ แฟนใหม่ผมนะ


          จากนี้ไปผมต้องมีความสุขแน่นอน ผมสัญญา 


                                                                                                                                            รักเสมอ


                                                                                                                                             รุ่งรดิศ





          รุ่งรดิศเขียนข้อความนี้ใส่กระดาษทิ้งไว้บนโต๊ะก่อนไป พิชญะหยิบมันจะไปเผาเหมือนเคย แต่สายตาดีๆ ก็เหลือบไปเห็นลายมือที่ไม่คุ้นตาเขียนประโยคหนึ่งทิ้งไว้อยู่ท้ายกระดาษเข้าเสียก่อน พิชญะอมยิ้มเมื่ออ่านประโยคนั้น
         


          คุณพิชญ์ ผมสัญญา ผมจะดูแลรุ่งให้ดีที่สุด จะทำให้เขามีความสุขที่สุด ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอกนะ         


                                                                                                                                            กานดิศ
















---END---






------------
จบแล้วค่ะ /ปริ่ม เป็นเรื่องแรกเลยที่แต่งจบแบบเป็นเรื่องเป็นราว รวมเนื้อหาทั้งหมด 20 หน้า คนอื่นอาจจะมองว่าเขียนช้าจัง แต่สำหรับเราแล้วนี่เร็วมากแล้วค่ะที่แต่ง 20 หน้าได้ในเวลาประมาณ 1 เดือน (เป็นจอมอู้นั่นเอง)

ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมาเลยคือ จะเกิดอะไรถ้าคนๆ หนึ่งอยากที่จะจดจำเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ ไม่ต้องการที่จะลืม แต่ความจำของคนเรานี่คะ ไม่มีทางที่จะจำทุกอย่างได้หมด ขนาดตัวเราเองบางครั้งยังนึกหน้าบางคนไม่ออกเลยทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่ทุกวัน ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดความคิดนี้คือเรื่อง NG life ค่ะ คนเคยอ่านน่าจะรู้ เพราะมันเป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์เราที่สุดเลย

มีหลายๆ อย่างในหัวของเราที่ถ่ายทอดลงมาในเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ ตอนแรกวาดภาพไว้ว่าจะเขียนให้มีฉากรุ่งรดิศเปิดอัลบั้มภาพความทรงจำของเขากับพิชญ์แล้วร้องไห้ให้มันสะเทือนอารมณ์มากๆ แต่ก็ทำไม่ได้ แถมตอนแรกว่าจะไม่ให้รุ่งรดิศร้องไห้ ฉากกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลนั่นจึงออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องเขียนให้ร้องไห้จนได้(หลายรอบด้วย) ไหนจะเรื่องของรุ่งกับพิชญ์อีก คือวางเหตุการณ์ไว้เยอะมากว่าในอดีตเกิดอะไรบ้าง คบกันได้ยังไง อะไรยังไง ถ้าโชคดีอาจคลอดตอนพิเศษออกมา(ซึ่งจะเปิดเทอมแล้ว ท่าทางจะไม่ได้เขียนค่ะ) ว่าแต่จบแบบนี้นี่เหมือนตัดฉับไหมคะ เราว่าไม่เนอะ ไม่อยากเวิ่นเว้อพารุ่งรดิศกลับบ้าน จบแบบนี้คิดว่าสมบูรณ์แบบแล้วค่ะ คิดเห็นยังไงบอกกันได้นะคะ

ตอนนี้สิ่งที่ยากคือการหาว่าพิชญ์เป็นโรคอะไร คืออันนี้หาข้อมูลคร่าวๆ มาหลายวันแล้ว แต่พอวันนี้มาเขียนจริงก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มค่ะ ถึงกับต้องไปอ่านแบบพวกเนื้อหาวิชาการไรงี้เลย ซึ่งใช้เวลานานมากกกกก เพื่อเนื้อหาประมาณสี่ห้าบรรทัดนั่นแหละค่ะ แต่นั่งเทียนเขียนเองก็ไม่สบายใจ (Osteosarcoma นี่ก็แอบเอาเรื่องเหมือนกัน คือหาข้อมูลไม่ยาก แต่มันยากที่จะทำความเข้าใจค่ะ... ถ้าใครมีความรู้เรื่องนี้ เห็นมีจุดที่ผิดตรงไหนอะไรยังไงแจ้งได้เลยนะคะ)

แล้วก็หากใครมีข้อสงสัยหรือจุดไหนที่ไม่เข้าใจถามได้นะคะ จะมาอีดีท reply นี่ตอบให้

สุดท้ายนี้... ขอขอบคุณทุกท่านๆ ที่ติดตาม คอยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้มากเลยค่ะ เราก็เฝ้ารอที่จะอ่านคอมเม้นนะ เห็นทุกคนชอบก็ดีใจค่ะ ขอบคุณที่อดทนในการอัพน้อย อัพถี่บ้าง หายไปเลยบ้าง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ  :กอด1: แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :pig4:

ปล. ทอร์คยาวกว่านิยายอีกค่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ได้ใจจริงๆ เรื่องนี้

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ขอบคุณมากค่ะ เราอ่านแล้วน้ำตาซึมเลย ทั้งเศร้า ทั้งยินดีไปกับรุ่ง มีชีวิตที่ดีต่อไปนะ พิชญ์ก็คงมีความสุขบนสวรรค์แล้วล่ะ :hao5:
ชอบจอมแก้วนะคะ ดูเป็นผู้หญิงที่ดีนะ มีสติ ไม่โวยวาย น่ารักดีค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ร้อนในอารมณ์     :sad4:
ร้อนเพราะดีใจนะ  ขอให้เดินต่อไปให้ได้นะรุ่ง
กานน่ารักมาก

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ร้องไห้เลย  :o12:

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
โหย เศร้าอ่ะ เป็นแค่ความฝันคงดีไม่น้อยเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ลืมมันยาก แต่วันหนึ่งพบว่าลืมมันไปก็ใจหาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด