คุณลองคุยกับเค้าตรงๆ ยังครับเรื่องนี้
แต่ถ้าคุณตัดสินใจว่าจะพอแล้ว ก็เคารพการตัดสินใจของคุณครับ
คุยกันตรงๆ แล้วครับ พอจะสรุปประเด็นหลักๆได้ 3 ประเด็นคือ
1. ยุ่งเรื่องบ้าน และงานวิจัย
2. เค้าอยากมีแฟน แต่งงานเพื่อพ่อแม่ ของเขา
3. มีคนในที่ทำงานสงสัยระหว่างผมกับเขาครับ
เค้าบอกผมว่า ตอนนี้ขอให้เป็น "เพื่อนกันไปก่อน" เขาเหนื่อยมากๆ บ้านก็ยุ่งปัญหาก็เยอะ วิจัยก็ยังไม่เสร็จ แล้วค่อยมาว่ากันอีกที ผมบอกจะเลิก เค้าบอกว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอ
ถามเค้าว่า มีใครคนอื่นไหม เค้าบอกว่า ไม่มี จะมีแฟนเป็นผู้หญิงไหม เค้าบอกว่า ไม่รู้
และอีกอย่างเค้าอายที่มีอาจารย์ในที่ทำงานสงสัยว่าผมกับเขาเป็นอะไรกันคับ
เลิกเถอะค่ะ คนอะไรเห็นแก่ตัวชิ๊บหาย
ข้อ 1 .. ยุ่งเรื่องงาน เรื่องวิจัย ก็แค่ข้อแก้ตัว แต่ก็พอรับได้
ข้อ 2 .. อยากแต่งงานเพื่อพ่อแม่ ... เห็นอนาคตแล้วนะคะ ว่าจะเป็นอย่างไร คุณกับเขาไม่มีอนาคตร่วมกันค่ะ
.. นอกจากคุณจะเป็นของเล่นเขา เขาอยากได้อะไร อยากให้คุณอยู่ตำแหน่งไหน ตรงไหน
.. อยู่ในฐานะอะไร คุณอยู่ในฐานะที่ต้องให้ ไม่งั้น คุณไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา
.. วันหนึ่งเมื่อเขาต้องแต่งงานเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แล้วคุณคืออะไรสำหรับเขา ลองคิดสิ
ข้อ 3 .. เขาอายที่จะบอกใคร ๆ ว่าคบกับคุณ สรุป มันไม่รักคุณเลยยยยยยยยยยยยยยยค่ะ
.. ถ้าเขารักคุณจริง แล้วเขาอายอะไร คนรักกันย่อมอยากมีอนาคตร่วมกัน
.. อยากใช้ชีวิตร่วมกัน อยู่ดูแลกันและกันไปตลอด
....
คุณไม่เลิกกับเขาวันนี้ วันหน้าเขาก็จะเลิกกับคุณอยู่ดี เพราะเขาไม่ได้รักคุณ
พี่อาจพูดตรงไปหน่อย แต่ถ้าคิดตาม จะรู้ว่านี่คือความจริง
... วันนี้ ที่เขาลังเลตอนคุณบอกเขาว่า จะเลิกกับเขา ต้องเลิกกันด้วยเหรอ (โพ่งสิ ไม่เลิกแล้วตรูเป็นอะไรสำหรับเมิง ถามมันซิ)
เพราะเขาแค่เสียดายแค่นั้นแหละค่ะ มันก็เหมือนกับเขามีของหนึ่งอย่างอยู่กับตัว
แต่ไม่ได้ใช้ ไม่จำเป็น ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าวันหนึ่งมีคนมาขอไป เขาจะหวง
เพราะเขารู้สึกว่า เอ๊.. หรือมันจำเป็นสำหรับอนาคตนะ เสียดาย เผื่อได้ใช้ เผื่อมีประโยชน์ ทำนองนี้น่ะ
..... เขาอาจเคยรู้สึกดี ๆ กับคุณ แต่ตอนนี้ ... อนาคตเขา ไม่มีคุณอยู่ตรงไหนด้วยเลย