
กรี้ดดดดดดดด กลับมาแล้ววววววววววว คิดถึงจังค่ะทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

Chapter 14
“กรี้ดด แกร้ ตื่นเต้นมากๆอ่ะ” สาวเจ้าเนื้อของกลุ่มระริกระรี้ที่วันนี้เป็นวันที่สองสาขาพี่น้องใหญ่ของคณะสังคมได้มาออกค่ายสาน
สัมพันธ์กัน โดยมีปีหนึ่งทั้งเอกเศรษศาสตร์และบริหารระว่างประเทศมานั่งรวมตัวกันที่ลานหน้าตึกคณะเพื่อมี่จะเตรียมตัวออกเดิน
ทางไปยังจุดหมายซึ่งพวกปีหนึ่งเอกก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปที่ไหนเพราะมีแค่รุ่นพี่เท่านั้นที่รู้
“มากๆอ่ะครับ” มหาเองก็อดที่จะตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้หันไม่มองเพื่อนต่างสาขาและรุ่นพี่อย่างตื่นเต้น
“เสียดายที่ยัยเกรซ แม่งติดธุระอะ” มดบ่นอุบอิบที่เพื่อนสาวอีกคนติดธุระมาไม่ได้ “ว่าแต่ทำไมคินตายังไม่มาอีกกว่ะเทย์”
“มันบอกว่าเมทตื่นสาย เพราะเขาจะเป็นคนมาส่ง อันที่จริงกูก็ว่าจะไปรับตั้งแต่ที่แรกแล้วแต่มันก็ไม่ยอม”
“แต่นี่ก็ใกล้เวลารถจะออกแล้วนะครับ” มหามองดูนาฬิกาอีกครั้งเพราะอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลารถออกแล้ว
“เอาละคะน้องๆ นี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ ใครที่เพื่อนคนไหนยังไม่มารีบตามด่วนๆเลยค่ะเพราะว่าถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่พวกพี่ไม่รอ
เลยนะเออ” รุ่นพี่คนหนึ่งออกมายืนข้างหน้าประกาศใส่โทรโขงเพื่อแจกแจงรายละเอียด “เดี๋ยวพวกพี่จะให้น้องๆจับฉลากนะว่าจะได้อยู่สีไหนแล้วเราจะเอามันมาไว้ใช้ทำกิจกรรมที่ค่ายกันคะ พี่ๆสวัสดิจัดการเอาฉลากให้น้องๆจับเลย” รุ่นพี่ที่อยู่รอบๆปีหนึ่งทยอยเอาฉลากให้ทุกคนจับจนครบ
“ถ้าน้องๆจับแล้วก็เปิดดูสีของที่ตัวเองไดเลยคะ”
“ผมได้สีเทาครับ” มหาที่เปิดดูสีของตัวเองก่อนใครเพื่อนพูดขึ้น
“ของฉันก็เทา ของแกอะเทย์”
“ฟ้า” เทย์ยื่นกระดาษให้เพื่อนทั้งสองดู
“โฮ่ยย ไรว้า น่าจะได้อยู่ด้วยกันทั้งสามคนเนอะ” มดพูดอย่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่กับเพื่อนของตัวเอง
“เอาละคะน้องๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองอยู่สีไหนแล้ว พี่จะบอกหัวหน้ากลุ่มของแต่ละสีให้รู้นะคะ แล้วแยกกลุ่มไปอยู่ตามที่ตัวเองสังกัดอยู่
ได้เลย” เมื่อรุ่นพี่ปรระกาศออย่างนั้นพวกปีหนึ่งเสียงดังขึ้นมาเพราะว่าใครจะเป็นหัวหน้าของสีตัวเอง “สีแรกเลยนะ สีเทา คนที่จะมาเป็นหัวหน้าของน้องคือ แอ่น แอ้น แอนนนนน พี่หลุยส์หนุ่มอารมณ์ดีเจ้าพ่อฉายาติสไอน์สไตน์ ปีสองเศรษศาสตร์นั้นเอง” เจ้าตัวเองเดินออกมาด้านหน้าด้วยยิ้มเห็นฟันขาวแล้วก้มโค้งสวัสดีแบบเกินเหตุให้กับน้องๆปีหนึ่งที่ส่งเสียงต้อนรับเขาอย่างล้นหลามเพราะเขาเองก็แลดูจะเป็นขวัญใจของน้องๆหลายคนอยู่เหมือนกัน
“สีต่อไปคือสีชมพูค่ะ สีฟรุ้งฟริ้งขนาดนี้ก็ยกให้ดาวมหาลัยปีสองเขาไปดูแลดีกว่าคะและดูเข้าก้านเข้ากัน พี่เดือนจากสาขาพี่น้องเราเอง ”
ทันที่ดาวมหาลัยปีสองออกมาส่งรอยยิ้มทักทายทำเอาหนุ่มนั้นส่งเสียงเฮ้กันยกใหญ่
“แหม่ ที่อย่างนี้ละดีใจกันจังนะน้องผู้ชายอ่ะ อย่าให้ออกนอกหน้ามากนะคะ ที่จริงพี่เดือนเขาไม่ได้เป็นหรอกดาวอ่ะถ้าวันนั้นพี่ไม่
สบายแล้วมาไม่ได้สมัครมาได้ ป่านนี้พี่ก็ได้สวมมงไปนานหละ”
โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห่ และเสียงซาวเอ็ฟเฟคก็ตามมาทันที่ที่พิธีกรจำเป็นของเราพูดจบ
“อะรัยย่ะ!!!!! พวกแกนี่ตาไม่ถึงจริงๆเลย วันนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆนะ พี่เอาจริง ฮ่าๆๆๆ สีต่อไปเลยดีกว่า น้องๆอยากให้ใครมาเป็นหัวหน้าเอ่ยยยยย” พอรุ่นพี่ถามอย่างนั้นทุกคนก็แย่งตะโกนชื่อคนที่เป็นขวัญใจตัวเองทันที
‘พี่คิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง’
‘พี่จองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง’
‘พี่เจี้ยวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว’
“เอ้าๆๆ พอค่ะพอ น้องๆจะได้สมใจอย่างแน่นอน งั้นเอาพี่เจี้ยวหรือฉายาของเขาคือเจี้ยวเหี่ยวแห่งวงการแพทย์ พี่ปีสองของ
สาขาพี่น้องเราอีกเช่นเคย” เธอผายมือไปให้หัวหน้าอีกคน ทำเอาน้องๆหัวเราะเพราะฉายาของเขาแถมตัวเขาเองก็สูงผอม ร่างเก้งก้าง ท่าท่างจะเจี้ยวเหี่ยวอย่างที่บอกจริงๆ
“ไอ้สัสพลอย มึงนี่แม่งเปิดตัวไรให้กูว่ะ” เจี้ยวเองหน้างอให้เพื่อนตัวเองที่เปิดตัวให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกทันทีแต่ไอ้ฉายาที่ได้มากับลักษณะท่าทางของเขาเองก็เข้ากันดีจนมันน่าตลกอยู่หรอก “เฮ้ย น้อง ถึงพี่จะผอมจนเหมือนเจี้ยวจะเหี่ยวจริงแต่ถ้าน้องมาเห็นมันตอนคึกคักแล้วน้องจะร้องว้าวนะคร้าบบบบ”
“ไอ้สัสเจี้ยว ไปไกลๆส้นตีนเลยมึง มาลามกไรแถวนี้มึงเห็นน้องผู้หญิงไหมนะ ไอ้ห่า”
“เอ้า ก็มึงนั่นแหละแนะนำตัวไรให้กูละ”
“พอเลยมึงอะ ไปนั่งประจำที่ตัวเองไป ส่วนน้องๆคนไหนสนใจว่าที่มาของแต่ละคนมาจากไหนบอกเลยว่าค่ายนี้น้องจะมีฉายาที่เฟี้ยวเงาะกันกลับบ้านทุกคนแน่นอน ส่วนสังกัดพี่เจี้ยวอยู่สีม่วงนะคะ เอาละคะสีสุดท้ายแล้วนะคือสีฟ้านะส่วนหัวหน้าของสีนี้บอกเลยว่าเด็ดสุดค่ะ แฟนพี่เองแหละน้องคนนี้”
และคิงก็เดินออกมาด้านหน้าทำเอาสาวๆกรี้ดกันสนั่น “เดือนสุดหล่อหรือพระราชาคิง ปีสองเศรษศาสตร์ของเรานั่นเอง “
“กรี้ดดดด ทำไม่ฉันไม่ได้อยู่สีฟ้าว่ะ มดไม่ย้อมมมมมมมมมมมม ฮืออออออออออออ” มดโอดครวญทันที
“โถ่ คุณมดทำไมถึงอาการหนักอย่างนี้ละครับ น่าสงสารแทนคุณพ่อคุณแม่ท่านนะครับ”
“นี่อิมหา!!!!!!!!” มดฟาดมือไปที่หลังมหาทันที
“พวกมึงนี่อะไรหนักนาเนี้ยหะ แล้วเมื่อไหร่คินแม่งจะมาซะทีเนี่ย” เทย์ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาสองคนที่เถียงกันตลอดเวลา
แล้วชะเง้อมองหาเพื่อนสนิทตัวเองแทนเพราะใกล้จะถึงเวลาที่จะขึ้นรถกันแล้ว
“เอาละคะน้องๆใครที่ได้สังกัดอยู่สีไหนก็เดินไปตามสีที่ตัวเองอยู่นะ เราจะนั่งรถกันตามสีนะคะ หยิบสัมภาระทุกคนแล้วเดินไปเข้าสีตัวเองได้เลย”
เอี้ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงรถมินิคันเดิมที่คอยรับคอยส่งควีนก็มาถึงและเบรกอย่างรุนแรง
จนเกิดเสียงดังเพราะรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแสงทำเอาทุกคนที่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ทำอยู่หันไปสนใจเป็นจุดเดียว และร่างโปร่ง อย่าง
นางพญาก็ก้าวลงมาจากรถด้วยความเร่งรีบพร้อมกระเป๋าเป้ใบเล็กบนหลังวิ่งกระหืดกระหอบมาเพื่อนตัวเองทันที
“ควีน!!!!!!” แต่เจ้าตัวที่วิ่งมาเกือบจะถึงเพื่อนตัวเองแล้วก็ต้องชะงักทันกลับไปตามเสียงเรียกจากไอ้ตัวเล็กที่ขับรถมาส่งเขา และร่างเล็กๆนั้นก็วิ่งตามเขามาทันที
“อะไรครับจูน” ควีนถามขึ้นทันทีที่ไอ้ตัวเล็กวิ่งมาถึงเขาด้วยใบหน้าแดงๆพร้อมเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้านิดหน่อยเพราะร้อนจาการวิ่ง
“อ่ะ” แล้วไอ้ตัวเล็กยื่นถุงกระดาษที่ใส่ของบางอย่างมาด้วย
“อะไรเหรอ”
“ขนม เอาไว้กินระหว่างทางแล้วก็พวกยาแก้เมารถ ยาแก้ปวดหัว แก้ไข้ และยากันยุงเผื่อได้ไปเข้าค่ายที่ป่าแล้วยุงมันเยอะ” ควีน
ยิ้มน้อยๆให้กับความน่ารักของเมทของเขา
“ขอบคุณครับ แต่ไม่จำเป็นต้องเอายามาเยอะขนาดนี้เลยนี่ พี่ๆเขาก็น่าจะมีให้อยู่นะ” ควีนยืนมือไปรับถุงจากจูน
“ก็เอาไปเผื่อไง จูนไม่เห็นพกยาอะไรไปเลยเผื่อเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ใช้ได้ทันไง” แล้วคนตัวเล็กก็ส่งยิ้มน่ารักๆมาให้เขา
“มานี่สิ” จูนเดินมาตามที่ควีนเรียกหยุดอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมยิ้มแฉ่งให้ ควีนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าให้จูน ส่วนไอ้
ตัวเล็กก็ยิ้มอย่างมีความสุขที่ควีนเช็ดหน้าให้แต่ก็ไม่วายทำหน้าเป็นห่วงแล้วบ่นให้ควีนทั้งที่ควีนก็เช็ดหนให้
“ถ้ามันหนักมากหรือถ้าพี่ๆเขาโหดไปควีนโทรมาบอกจูนก็ได้นะ จูนจะไปรับถ้าควีนไม่ไหว พอไปถึงแล้วอย่าลืมโทรมาหาจูนนะ มีอะไรก็พยายามอย่าห่างจากเพื่อนๆตัวเองนะควีน จูนเป็นห่วง”
“ฮึๆ แค่ไปเข้าค่ายเองนะ” ควีนบีบจมูกจูนด้วยความหมั่นเขี้ยวให้กับความเป็นห่วงเป็นใยของคนตัวเล็กที่ออกจะเกินเหตุไปหน่อย
“ก็นั้นแหละ เขาบอกไปค่ายแบบนี้โหดจะตายไป ถ้าควีนเป็นไรมาจะไงอ่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่ได้หรอก ยังไงจูนก็เป็นห่วง แล้วนี้ควีนนั่งรถไปกับใครอ่ะ”
“ยังไม่รู้เลยว่าต้องไปรถคันไหน เห็นเทย์โทรมาบอกว่าต้องจับสีก่อนแล้วไปอยู่กับสีนั้นอ่ะ”
“คนไหนเพื่อนควีนอ่ะ” ควีนชี้ไปยังกลุ่มเพื่อนที่ก็มองมาทางเขาอยู่เหมือนกัน และจูนก็จูงมือควีนไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนๆควีน
ทันที
“เป็นเพื่อนควีน เอ้ย คินกันใช่ป่ะ ยังไงเราฝากดูแลหน่อยนะ อย่าให้เพื่อนเราเป็นอะไรไปนะ” ส่วนเพื่อนๆที่ยังงงกับการมาฝากฝัง
เพื่อนของเขาให้เขาดูแลได้แค่พยักหน้าตอบตกลงไป
“โอ้ะ นั่นพี่คิงนี่ ดีเลยควีน ตามจูนมา” จูนที่ไม่พูดพร่ำทำเพลงลากควีนตามไปทันทีไม่มีโอกาสให้ตั้งตัวเลย
“พี่คิง!! พี่คิงก็ไปค่ายด้วยใช่ป่ะ งั้นดีเลย จูนฝากดูแลควีนด้วยนะ พี่คิงอยู่สีไหนอ่ะให้ควีนอยู่สีนั้นเลยได้ป่ะจะได้มีคนดูแลควีน งั้นจูนกลับก่อนนะควีน โชดดีนะแล้วรีบๆกลับมานะ” ไอ้ตัวเล็กที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวให้ใครได้มีโอกาสพูดเลยส่งยิ้มพิมใจมาให้ก่อนจะกอดควีนก่อนเดินจากไปและขับรถออกไปทันที