พิมพ์หน้านี้ - รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: windowbroken ที่ 02-06-2015 15:42:36

หัวข้อ: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 02-06-2015 15:42:36
 ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 02-06-2015 15:50:57
สวัสดีคร้าาาา นักอ่านทั้งหลาย เราเพิ่งจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่แต่เป็นนักอ่านน่าเก่านะจะบอก เนืองมาจากอ่านนิยายมาเยอะมากกกกกกก ก็เลยจะท้าทายตัวเองดูสักครั้งเลยลองเขียนนิยายวายเป็นครั้งแรก หากหลงผิดเข้ามาอ่านแล้วก็ช่วยลองอ่านแล้วติชมกันหน่อยน่ค่ะ
                                                                                 Intro
                                                                         Gravitation of King
                                                                                     .
                                                                                     .
                                                                  When I look in to your eyes
                                                                   Like watching the night sky
                                                                                     .
                                                                                     .

ร่างสูงโปร่งของหนุ่มใบหน้าสวยราวกับนางพญาหงส์ ผมดำนิลยาวพริ้วไหวไปตามสายลมคลอเคลียใบหน้าขาวเนียนเจิดจ้า  นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคาราเมลจ้องมองไปยังหอพักเก่าๆที่คนทั่วไปเรียกว่าหอในที่มีไว้ให้นักศึกษาอันไม่มีจะกินพักอาศัยเพราะค่าเช่าค่อนข้างจะถูก ข้างๆหอมีร้านอาหารอยู่ประปราย ซอยด้านซ้ายมือของหอมองออกไปก็เป็นมหาวิทยาลัยของร่างโปร่งที่กำลังจะเข้ามาศึกษาและใช้ชีวิตที่นี่
‘อืม...ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่แฮะ’ ร่างโปร่งคิดในใจพร้อมกับกระชับกระเป๋าใบใหญ่ถือเดินเข้าไปติดต่อกับพนักงานด้านในหอพักที่นั่งหันหลังในเคาน์เตอร์ดูทีวีอยู่ด้านหลัง
“ขอโทษนะครับ” แล้วชายที่หนุ่มที่นั่งหันหลังให้เคาน์เตอร์ในตอนแรกจึงหันกลับมา
เหมือนกับมีแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างกันร่างโปร่งเหมือนตกอยู่ในพวังอะไรสักอย่างชายหนุ่มตรงหน้าแม้ใบหน้าของเขาจะสงบนิ่งแต่ดวงตาสีฟ้าเขียวใสมรกตคู่นั้นกลับไม่ได้สงบนิ่งตามมันจะพริ้วไหวส่ายไปมาเหมือนคลื่นทะเลที่เคลื่อนที่ไปมาไม่ยอมหยุดนิ่ง ใบหน้าที่บ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าเป็นลูกครึ่งแน่ๆแต่ก็ไมกล้าเสี่ยงเดาว่าจะเป็นชาติใดกันแน่ ถ้าจะให้เขาเดาคงเป็นฝรั่งเศสไม่ก็อิตาลีละมั้ง นานนับนาทีที่ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมีบุคคลที่สามเดินเข้ามา
“ไอ้คิง! ทำไรอยู่วะ” ชายหนุ่มหน้าตาดี ผมสั้นสกินเฮดที่แทบจะติดหนังหัวอยู่แล้วหากแต่รูปไอน์สไตน์ยิ้มแฉ่งบนหัวนั้นกลับบอกได้เลยว่าหนุ่มคนนี้คงจะติสท์และเกรียนน่าดู นั่นทำให้ทั้งสองคนหลุดออกจากภวังค์นั้นได้
ร่างโปร่งที่ได้เพิ่งสติและรู้ว่าจุดประสงค์ที่ตนจะทำคืออะไร
“ผมมาติดต่อเรื่องห้องพัก ชื่อนาย ............... อยู่ห้อง1019ครับ”
“อ้าว! ปีหนึ่งสินะน้องอยู่คณะไหนหรอ” บุคคลที่สามที่เข้ามาใหม่ถามขึ้นใบหน้ายิ้มแย้มที่ตอนนี้เดินไปหลังเคาน์เตอร์อยู่กับคนที่เขาทักเมื้อกี้ที่ตอนนี้ก้มหน้ามองหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์แล้ว
“ธุรกิจระหว่างประเทศ” การตอบสั้นๆห้วนๆไม่ได้มีผลให้เขาฉุนรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่แต่พูดเหมือนไม่ให้ความเคารพกันเลยแถมยังหันไปกระซิบกับเพื่อนข้างๆที่ได้ยินกันหมดทั้งสามคน
“เหยดดดด เด็กคณะนี้แม่งเด็ดสัส” กระซิบเสร็จก็หันมาพูดกับร่างโปร่งด้วยความลื่นไหล “จริงหรอน้อง งั้นน้องก็เป็นน้องของพี่เหมือนกันอ่ะดิ พี่อยู่คณะเศรษศาสตร์ สองคณะนี้เขาเป็นพี่น้องกัน มีไรก็ถามก็ถามได้นะ ว่าแต่น้องชื่อ...” แล้วเขาก็ต้องหยุดพูดไปเพราะเพื่อนข้างๆดันขัดขึ้นมาก่อน
“นี่ครับกุญแจ ห้องของน้องอยู่ชั้นห้านะเดินขึ้นไปสุดทางเดินเลย” เขายื่นกุญแจให้ด้วยสายตาว่างเปล่าผิดกับเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ส่วนร่างโปร่งก็หยิบกุญแจมาโดยไม่พูดอะไรและเดินขึ้นบันไดไปห้องของตนทิ้งไว้แค่สายตาว่างเปล่าเหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
“เฮ้ย! เดียวดิน้อง อย่าเพิ่งไป” หนุ่มผมสั้นไอน์สไตน์ร้องตามร่างโปร่งที่หยิบกุญแจไปและเดินหนีจากเขาทันทีโดยไม่หันมาสนใจเขาเลย “ไอ้คิง ทำไรว่ะกูพูดกะน้องเขาอยู่นะเว้ย มึงนี่แม่งไม่รู้จักของดี เหี้ยเอ้ย” ส่วนคนที่โดนว่าก็ยกไหล่ไม่สนใจหันกลับไปดูทีวีต่อแต่แถมยกยิ้มที่มุมปากเหมือนมีจะเรื่องสนุกให้ทำต่อจากนี้ไป
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ --Chapter 1 --100% เบย^^
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 02-06-2015 16:07:57
มาต่อกันโลดด :mew3: :mew3:





                                                                        Chapter 1
Time to face again
.
.
อีกหนึ่งสัปดาห์ที่มหาวิทยาลัยจะเปิด ร่างโปร่งที่ตอนนี้เข้าห้องของตนจัดของเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องมีรูมเมทด้วยและรูมเมทของเขาก็เข้ามาอยู่ก่อนหน้าแล้ว ดูท่าทางจะเป็นรูมเมทที่ดีเชียวล่ะ
“อ้าว มาแล้วหรอรูมเมทที่น่ารักของเค้า” ผู้ชายร่างเล็ก ผิวขาวพอๆกับเขาแต่ไม่ขาวเท่า ดวงตาโตกลมๆใสๆ ปากเล็กๆ ระเรื่อชมพูนั่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายก็คงคิดว่าเป็นผู้หญิงอ่ะนะ ผู้ชายอะไรน่ารักยังกะตุ๊กตา มองดูครั้งแรกปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกหมั่นเขี้ยวรูมเมทตรงหน้าจังแฮะ ตอนนี้ไอ้ตุ๊กตาพูดได้ ขอเรียกอย่างนี้นะ เหมาะดี เขาคิดในใจ รูมเมทผู้น่ารักเลิกอ่านการ์ตูนในมือแล้วลุกมายืนตรงหน้าเขาแล้วยืนมือมา
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราจูน อยู่คณะมนุษยศาสตร์ เอกฝรั่งเศสนะ”พูดเสร็จก็โชว์ฟันขาวๆในปากที่เรียงรายอย่างสวยงาม นี่ถ้าตอนนี้เขาอยู่ในหนังแล้วรอบข้างรายร้อมไปด้วยต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาพอเจอยิ้มของร่างเล็กแล้วฟื้นคืนชีพจะไม่แปลกใจเลย
“ฮะๆๆ เราคินตา เรียกคินก็ได้  อยู่ธุรกิจระหว่างประเทศ” อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจับมือเล็กๆที่ยื่นมาก่อนหน้า เพราะถ้าเกิดไม่ยื่นไปจับไอ้ตัวเล็กอาจจะร้องไห้ขี้มูกโป่งก็ได้ เดี๋ยวเขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่นิสัยไม่ดีที่รังแกเด็กเอาได้ หลังจากแนะนำตัวเสร็จเขาก็เก็บของโดยมีไอ้ตัวเล็กช่วยไปพูดไปพูดสารพัดเรื่องที่นึกได้จนเขาแทบจะรู้ทุกเรื่องของไอ้ตัวเล็กดีจนสามารถตอบคำถามทุกเรื่องได้เลย แม้จะรู้สึกเหนื่อยแทนคนพูดแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรไอ้ตัวเล็กเลยรู้สึกยิ่งเอ็นดูมากขึ้นสะอีก จนตอนนี้เย็นแล้วและกระเพาะก็เริ่มประท้วงเขาแล้วเพราะวันนี้มัวแต่วุ่นเรื่องย้ายเข้าหอยังไม่ได้กินข้าวเลยทั้งวัน
“จูน หิวไหม ไปกินข้าวป่าว” หันไปชวนไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้นอนอ่านหนังสือการ์ตูนสบายใจอยู่ข้างๆที่ตอนนี้นอนด้วยกันบนเตียงของเจ้าตัว
“พอควีนถามก็หิวเลยอ่ะ” ไอ้ตัวเล็กหน้าหันมาตอบที่ตอนนี้จมูกแทบจะชนกับเขาอยู่แล้ว แล้วไม่ต้องงงนะว่าชื่อควีนมาได้ไง ก็คนข้างๆเขานี่แหละตั้งให้โดยไม่ถามสมัครใจจากเขาเลยบอกว่าคินไม่เหมาะหรอก หน้าสวยๆอย่างเขาต้องควีนสิถึงจะเหมาะ แถมยังบอกอีกว่าตอนปู่ที่ตั้งชื่อให้เขา พ่อกับแม่ฟังไม่ชัดเลยออกเสียงเพี้ยนจากควีนเป็นคิน  แนะ ไอ้นี่ ! มาเปลี่ยนเรื่องประวัติชีวิตคนอื่นเฉย พอดีพูดเรื่องครอบครัวให้ฟังนะว่าปู่เป็นคนอังกฤษส่วนพอแม่เป็นคนไทยทั้งคู่นะแหละ
“เดียวจูนจะพาไปกินของอร่อยๆ รับรองควีนต้องชอบแน่นอน”
“แพงไหม พอดีคินไม่ค่อยมีตังต์อ่ะ ต้องประหยัดเพราะที่บ้านไม่ได้รวยอะไร”
“โอ้ย มื้อนี้จูนเลี้ยงเอง ถือว่าเลี้ยงฉลองพบกันครั้งแรกและก็ห้ามปฏิเสธด้วยไม่งั้นจูนงอนและมื้อต่อไปคินค่อยเลี้ยงกลับโอเคไหม” เขาที่ยังไม่ได้พูดว่าจะปฏิเสธอะไรเลยมองไอ้ตัวเล็กพูดเองเสร็จสับเลยได้แต่ส่ายหน้าแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายอย่างแพรวพราว
“ขอบคุณครับ” พูดเสร็จเคลื่อนหน้าเข้าไปงับจมูกไอ้ตัวเองเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วลุกขึ้นไปแต่งตัว ส่วนอีกคนนั้นนอนแก้มแดงไปทั่วหน้าแถมยังตาแต่ค้างไปแล้วจนเขาต้องเรียกให้ไอ้ตัวเล็กไปแต่งตัวที่เอาแต่หลบหน้าไม่กล้าสบตาเขาจนขึ้นรถ ขับรถมองตรงลูกเดียวเลยแถมยังไม่ชวนคุยอีกต่างหาก นั่งรถมาประมาณ10นาทีก็ถึงที่หมาย
ไอ้ตัวเล็กพารถมินิคูเปอร์น้ำตาลอ่อนๆที่ดูเหมาะกับเจ้าตัวสุด เลี้ยวเข้ามาจอดที่โซนวีไอพี ตอนแรกที่เห็นรถก็แอบตกใจว่าไอ้คนที่มีมินิขับมาทำอะไรที่หอพักซอมซ่อนี้ไอ้ตัวเล็กกลับบอกมาแค่ว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศชีวิต เท่านั้นแหละเขาเลิกถามเลย ร้านที่ไอ้ตัวเล็กพาเข้ามาที่เป็นกึ่งผับกึ่งร้านอาหารแบ่งแยกเป็นโซนชั้นแรกสำหรับพวกรักสนุกมาปลดปล่อยส่วนข้างบนจะเป็นที่สำหรับพวกไม่ชอบความวุ่นวาย ไอ้ตัวเล็กพาขึ้นมาชั้นสองโซนที่ไม่วุ่นวาย
“ควีนเดินไปนั่งที่โต้ะมุมนั้นนะ เดียวจูนไปสั่งอาหารมาให้ อยากดื่มอะไรพิเศษไหม” ก่อนที่จูนจะเดินไปเขาก็คว้ามืออีกคนทันที
“ให้ควีนไปเป็นเพื่อนดีกว่า ตัวเล็กๆน่ารักอย่างจูนเดินไปคนเดียวในที่แบบนี้โดนฉุดพอดี”  เขาสังเกตตั้งแต่เดินเข้าร้านมาแล้วมามีผู้ชายหลายคนมองตามพวกเขามาอย่างหื่นกระหายเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
“โอ๊ย ไม่ต้องห่วงจูนหรอก ที่นี่ไม่มีใครกล้าทำอะไรน้องเจ้าของร้านหรอก พนักงานก็คอยมองดูแลจูนตลอดแระ เดี๋ยวมานะ” พูดเสร็จก็เดินตัวปลิวไปแล้ว ไม่แปลกใจหรอกถ้าบอกจูนบอกว่าเป็นน้องเจ้าของร้านดูจากรถสิ ส่วนเขาก็ได้แต่พาร่างสูงโปร่งของตนไปนั่งที่โต๊ะ แล้วมองผ่านกระจกลงไปดูบรรยากาศด้านล่างของร้านที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวราตรีที่เริ่มทยอยกันเข้ามา  ที่แห่งนี่ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดเพราะมองดูแล้วที่นี่ค่อนข้างหรูเพราะงั้นลูกค้าก็ต้องเป็นคนมีอันจะกินอยู่พอสมควรเรื่องไอ้เรื่องพวกเถื่อนๆอย่างที่เขาเคยเจอมาก็คงไม่มีหรอก สักพักไอ้ตัวเล็กก็เดินควงแขนมากับชายหนุ่มหล่อเข้ม ที่ดูไปก็คล้ายๆไอ้ตัวเล็กอยู่นะ แค่ดูเป็นผู้ชายแท้ มีภูมิฐาน ดูน่าเกรงขามกว่าเท่านั้นเองแล้ว
“นี่ไง รูมเมทของจูน สวยใช่ไหมล่ะ” คนที่ถูกควงแขนมองเขาอย่างอึ้งๆนิดนึงก่อนจะยิ้มให้เขาน้อยๆ “นี่พี่ชายเราเอง ชื่อ จิล นี่รูมเมทของจูนชื่อควีน”
“สวัสดีครับน้องควีน ชื่อเหมาะกับน้องดีนะ” พี่จิลทักทาย
“ใช่ที่ไหนกันละครับ ผมชื่อ คินต่างหาก ควีนนั้นจูนเรียกเองต่างหาก”
“ฮะๆ  หรอครับ” พี่จิลได้แต่ส่ายหน้าให้น้องตัวเองก่อนจะยี้ผมจนฟูฟ่อง “เรานี่นะ ซนจริงๆ แต่พี่ว่าควีนนะเหมาะกว่านะ” ก่อนประโยคสุดท้ายจะหันมาพูดกับเขา พอกันทั้งพี่ทั้งน้องเขาได้แต่คิดในใจ “เราอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ พี่เลี้ยงเองหรืออยากจะลงไม่สนุกข้างล่างก็ได้นะ”
“ได้ไงล่ะ จูนจะเป็นเจ้ามือนะมื้อนี้พี่จิลอย่ามามั่ว” แล้วไอ้ตัวเล็กก็ค้านขึ้นทันที
“ขอบคุณครับ” เขายิ้มมุมปากให้พี่จูนก่อนจะหันไปสนใจบรรยากาศร้านด้านล่างปล่อยให้สองพี่น้องเคลียกันไปก่อน เพราะก่อนหน้าอยู่หอมันเป็นหอพัดลมแล้วผมที่คลอเคลียอยู่ตามไหล่ก็ร้อนเกินไปเขาจึงมัดผมไว้พอเข้ามาให้ร้านอากาศเย็นของแอร์ที่เย็นจับใจทำให้เขาต้องปล่อยผมมาปิดไหล่ที่เผยออกมาตามรอยเสื้อที่ไม่ได้ปกปิด เขาสะบัดผมไปมาเพื่อให้มันเข้าที่เข้าทรงก่อนจะหันกลับไปหาสองพี่น้องที่น่าจะคุยกันเสร็จแล้ว แต่ก็ต้องงงกับปฏิกิริยาของทั้งสองที่ตอนนี้จ้องเขาตาค้างอยู่ก่อนแล้ว
“มีอะไรหรอ”
“สวยยยย” ไอ้ตัวเล็กที่ครางออกมาเบาๆ
“ฮะ?” นี่มันขยายข้อข้องใจได้มากเลยสินะ ก่อนจะหันไปหาพี่จิลแล้วเลิ้กคิ้วให้เป็นเชิงคำถาม
“เอ่ออออ ควีนสนใจมาทำงานกับพี่ไหม”
“เฮ้ย/ฮะ” เมื่อสองประสานขึ้นพร้อมกันทันทีเจ้าตัวที่ถูกถามแค่ส่งเสียงฮะเบาๆผิดกับอีกคนที่ไม่ได้ถูกถามแต่ร้องเสียงดังซะเหมือนโลกจะแตก
“พูดอะไรของพี่นะพี่จิล นี่เพื่อนของจูนนะ” แล้วไอ้ตัวเล็กก็มองพี่ชายตาเขียวปัดเลย
“เอ้า! ก็พูดจริง ก็ควีนสวยขนาดนี้ เอ้ย!! เอ่อ.. พี่แค่อยากชวนมาทำงานด้วยกันไง  ทำงานเยอะๆสนุกออก” เหมือนจะลืมตัวว่าพูดอะไรออกไปทำเอาพี่จิลแถจนสีข้างถลอกเลยแฮะ แต่คินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอกเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินแบบนี้แต่เขาฟังมันจนชินชาแล้วต่างหาก
“ไม่รู้แหละ จูนไม่ให้ทำ”
“จูนจะมาตอบแทนเพื่อนได้ไง”
“ก็มันอันตรายนะสิ จะมาให้ควีนทำได้ไง ถ้าเกิดโดนฉุดขึ้นมาทำไง”
“เฮ้ย นี่พูดอย่างกะร้านพี่เป็นร้านกระจอกๆงั้นแหละ นี่ระดับ 5 ดาวเลยนะโว้ย แล้วงานที่ให้ทำแค่มาเป็นต้อนรับลูกค้าลูกค้าเฉยๆ อยู่โซนชั้นบนด้วย ปลอดภัยจะตายไป สนใจไหมเงินดีด้วยนะ มีทิปด้วยนะ”
“มันก็ใช่..แต่.. แต่... จูนไม่อยากให้ควีนทำอ่ะ” ไอ้ตัวเล็กเถียงหน้าง้ำหงออย่างไม่ยอมแพ้
“ถามเพื่อนเราก่อนสิ ว่าไงควีน สนใจไหม ค่อยตอบพี่ก็ได้ไว้ไปคิดดีๆก่อน”ส่วนคนถูกถามทำหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย
“ห้ามทำนะควีนไม่จูนงั้นงอนจริงๆด้วย”
“ตกลงครับ”
“เฮ้ย/เยี่ยม” คงไม่ต้องบอกนะว่าอันไหนเสียงใคร
“ควีนนนนนนนนน  พูดอะไรออกมา! ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ” ไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้น้ำตาแทบจะคลอเบ้าดูแล้ว เฮ้ออ มันน่านัก!!
“มานี่มา” แล้วก็เขาดึงแขนไอ้ตัวเล็กที่นั่งข้างๆมานั่งบนตักแล้วก่อนจะกอดเอวหลวมๆ
“จูนครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง เด็กเก่งๆเขาไม่ร้องไห้กันหรอก”
“จูนไม่ได้ร้องซะหน่อย” ปากบอกงั้นแต่น้ำตานี่พร้อมจะไหลอยู่ร่อมร่อแล้ว
“ก็พี่จิลเค้าก็บอกอยู่ว่าปลอดภัย แล้วควีนก็กำลังหางานทำอยู่พอดี อันที่จริงควีนก็ทำงานไปเรียนไปอยู่แล้ว จูนต้องเข้าใจนะว่าที่บ้านควีนไม่ได้มีตังค์เยอะขนาดที่จะใช้ชีวิตแบบจูนได้ แล้วนี่ก็เป็นร้านของพี่จิลนะ ไม่เชื่อมือร้านของพี่ชายตัวเองหรือไง”
“ก็ใช่แต่..”
“นะครับ ให้ควีนทำนะ”
“ก็ได้” พูดจบก็ซบหน้าลงบนไหล่เนียนแล้วถูเบาๆ
“ขอบคุณครับ” เขาก้มลงไปหอมที่ศรีษะเบาไอ้คนตัวเล็กเบาๆ
“เอ่อ...”และแล้วบุคคลที่สามก็มีตัวตน “นี่เราสองคนแบบว่าไม่ได้เป็น เอ่อ...เป็นฟะ ......แฟน...กัน.ใช่ไหม” พูดไปเขินไปเพราะการกระทำก่อนหน้าของน้องสองคนทำเอาพี่จิลถึงกับอึ้งไม่ไม่ถูกเลย
“จะบ้าเหรอพี่จิล จูนเพิ่งเจอควีนวันนี้เป็นวันแรกนะ” ไอ้ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาพูดแต่ก็ยังไม่ลงจากตัก
“แล้วที่กำลังทำกันอยู่มันเหมือนคนที่รู้จักกันมานานแล้วนะ พี่ไม่ว่าหรอกจูน พี่เข้าใจไม่เห็นต้องปิดบังกันเลย พี่ก็เคยคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้อยู่นะ ท่านเข้าใจทุกอย่างแล้ว ถึงแม้ว่าบุคลิคของสองคนจะไม่ค่อยเข้ากันก็เถอะ”
“พี่จิล!!!!!!!” ตะโกนลั่นเลยทีนี้ “ควีนนี่ก็อีกคน! มั่วแต่ยิ้มอยู่ได้บอกความจริงไปสิ”
เสียงเขียวเลยทีนี้เล่นเอาคินกลัวจนตัวสั่นเลย
“ อะไรล่ะ มาพาลควีนได้ไง จริงๆแล้วเราเป็นแฟนกันนะครับ” พูดไปยิ้มไปกับตัวสั่นๆเพราะกลั้นขำสุดฤทธิ์
“ควีน!!” พอคินพูดงั้นเสร้จก็ระบบทุบเลยละ
“โอ้ยๆๆ เจ็บครับ พอแล้วๆไม่แกล้งแล้ว บอกแล้วครับ เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกจริงๆครับพี่จิล”
“พี่จะพยายามเชื่อแล้วกันนะ เอาล่ะ พี่ไปทำงานต่อก่อนนะมีไรก็เรียกเด็กก็แล้วกันส่วนเรื่องงานควีนอยากเริ่มวันไหนก็มาเลยนะ พี่จะบอกเด็กที่ร้านไว้ให้หรือโทรหาพี่เลยก็ได้” พี่จิลพูดยิ้มขำๆก่อนจะลุกขึ้นก็ทำให้ไอ้ตัวเล็กพาลไปทุบคินอีกรอบจนได้
“ว่าแต่พี่ถามจริงๆนะควีน คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว”
“พี่จิล!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”



หัวข้อ: Re: รักปอนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2015 05:03:48
ใครจะเป็นพระเอกหนอ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ chapter 2
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 03-06-2015 19:47:19
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  มาอีกล่ะ 5555



                                                                         Chapter 2


วัดถัดไปคินก็เริ่มงานที่ร้านทันที แม้ไอ้ตัวเล็กปากบอกงอนอยู่แต่ก็ตามไปเฝ้าเขาทุกวันแถมยังไปรับไปส่งให้อีกด้วยแต่ก็ยังไม่วายปากแข็งบอกว่าที่ไปส่งเพราะมีธุระกับพี่จิลไม่ได้เกี่ยวกับคินเลย น่ารักเนอะ  งานที่ทำก็ไม่มีอะไรมากแค่ต้อนรับลูกค้าที่เข้ามารับออร์เดอร์และบางทีก็ช่วยเสิร์ฟบ้างเป็นครั้งคราว พี่แถมจิลยังใจดีให้เลือกเวลาทำงานได้ตามใจอยากจะทำแค่ไหนก็ได้ ทิปก็ดีอีกด้วย และวันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกซะด้วย
“เฮ้ย! คินทางนี้ “ กลุ่มเพื่อนสาขาเดียวกันกับเขาส่งเสียงเรียกมาแต่ไกลๆเมื่อเห็นร่างโปร่งของเขาเดินลงมาจากรถมินิคันที่เขานั่งมาเป็นอาทิตย์ “ไม่เจอกันแป้บเดียวเปลี่ยนอาชีพเป็นเด็กเสี่ยแล้วหรอมึง”
“ฮึ! กวนนะมึงไอ้เทย์” เทย์เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานที่ดันสอบติดคณะเดียวกันแถมยังเอกเดียวกันอีกด้วย
“เฮ้ย พวกมึงเพื่อนกูเอง เพื่อนพวกมึงด้วยนะชื่อคินตา  มันอยู่เอกเดียวกันนี่แหละ แต่พอดีมันไม่ได้มารับน้องนะติดงาน” เทย์ไปแนะนำคินให้เพื่อนได้รู้จัก เขาไม่ได้พูดทักอะไรออกไปแค่ยิ้มที่มุมปากนิดหน่อยต่างจากกลุ่มเพื่อนตรงหน้าที่ตอนนี้ทำหน้าอึ้งไปแล้ว
“มึงตอแหลป่ะเทย์ เมียก็บอกมาเหอะ” หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่เป็นผู้หญิงถามขึ้น
“เฮ้ย จะบ้าเรอะ! เพื่อนกันแล้วไอ้คินมันก็เป็นผู้ชาย กูยังไม่หลงผิดไปชอบประตูด้านหลังหรอกโว้ย กูยังชอบเดินเข้าประตูหน้าอยู่” พอเทย์พูดเสร็จเท่านั้นแหละ
“เหี้ย!!!” ร้องเพลงประสานกันเรียกเหี้ยออกมาเป็นฝูงเลย เจ้าตัวที่ถูกกล่าวถึงกลับไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
“เป็นผู้ชายไม่ได้เป็นเหี้ย เข้าเรียนกันเถอะจะสายแล้ว” พูดเสร็จก็เดินนำเป็นนางพญาเข้าห้องเรียนก่อนใครเพื่อนเลย หลังจากนั้นเสียงวิพากย์วิจารกันเซ็งแซ่ก็เกิดขึ้น
“อิเหี้ย! ชะนีไทยไม่มีเพื่อนที่ให้ยืนแล้วค่ะมึ้งงงงงงงงง ฆ่ากูเถอะกูจะได้ไม่เกิดมาแล้วรู้สึกว่าเสียชาติเกิดขนาดนี้ เอ้ดอกกกกก TT”

หลังจากนั้นทั้งวันนางพญาของเราก็กลายเป็นทอล์คอ้อพเดอะทาวของเอกและคณะในทันทีแถมยังดูว่าเที่ยงนี้ก็จะไต่ระดับเป็นมหาวิทยาลัยแล้วเมื่อเขาย่างก้าวเข้าไปในโรงอาหารของมหาลัย
“พวกมึงนั่งนั่งตรงไหนได้ว่ะ คนแม่งหรืออะไร นี่ถ้าไม่ติดว่าจะเรียนภายในเที่ยงครึ่งนะ กูบึ่งรถไปกินนอกมอแหละ” เกรซ สาวมั่นประจำกลุ่มและของเอกด้วยที่ดูเหมือนมีแววจะได้เป็นตัวแทนคณะขึ้นประกวดดาวมหาลัยอีกด้วยพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
“อ้าวน้อง คนสวยวันนั้นนี่” เจ้าของทรงผมเกรียนๆไอน์สไตน์ยิ้มแฉ่งที่จำได้ไม่ยากเลยทักขึ้น
“อ่อ ครับ” เขาได้แต่พยักหน้าและหันกลับไปหาเพื่อนที่หันมาสนใจเขาอีกที “อะไร”
“เฮ้ยน้อง อย่างเย็นชานักสิว่าแต่วันนั้นยังไม่บอกชื่อพี่เลย”
“มีไรว่ะคินตา ทำไมยังไม่หาที่นั่ง” เทย์ที่ตามมาทีหลังพูดขึ้น
“อ้อ น้องชื่อคินสินะ พี่ชื่อหลุยส์นะ อยู่คณะเศรษศาตร์” เขาหันไปยิ้มให้กลุ่มเพื่อนของคินด้วยเหมือนเป็นการแนะนำตัวอีกที “นี่คงหาที่นั่งกันอยู่ใช่ป่าว มานั่งกับพี่ไหมที่ว่างอยู่น่าจะพอนั่งกันอยู่นะ”
“ดีค่ะพี่ เดินนำเลย” และสาวมั่นอีกคนของกลุ่มพูดขึ้นแค่ต่างกันที่ไซต์ตัวแค่นั้นเองแล้วชื่อก็เข้ากับหุ่นซะเหลือเกิน มด - -แล้วเดินตามเพื่อนหน้าสวยของตนที่ถูกรุ่นพี่ลากไปตั้งแต่เธอพูดไม่จบประโยคดีด้วยซ้ำ ส่วนคนอื่นก็ได้แต่เลยตามเลยไปนั่งตาม เมื่อมาถึงโต๊ะก็มีคนนั่งอยู่สองคนแล้ว
“เฮ้ยมึง รุ่นน้องมานั่งด้วยนะ” กลุ่มนี้น่าจะรวมกลุ่มคนหน้าตาดีสินะ สองคนที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างกันเงยหน้าขึ้นมา
“เหี้ย นั่นมันพี่คิงเดือนมหาลัยนี่หว่า”
“นั่นพี่พากย์ เดือนแพทย์นี่หว่า”
“เชดด ชีวิตดีมีเพื่อนเบ้าหน้าสวย” และการพิพากย์พิจารณ์ของกลุ่มเพื่อนก็ตามมา
“พวกกูกินอยู่ ไม่เห็นหรอ ให้น้องไปรอก่อนหรือไม่ก็หาที่นั่งใหม่ เดียวเบียดกัน” หนุ่มผิวแทนหน้าหล่อพอๆกับคนข้างๆหันมาพูดกับหลุยส์
“ไอ้นี่ ไม่มีน้ำใจเลยวุ้ย น้องมากันแค่ห้าคนเอง ที่ก็เหลือตั้งเยอะ เบียดกันๆหน่อยจะเป็นไร เอ้าน้องนั่งเลยๆ” แล้วไอ้หนุ่มไอน์สไตน์ก็จัดแจงน้องนั่งเข้าที่ เทย์และมหาเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่แลดูธรรมะธรรมโมสะพายกระเป๋าย่ามคู่ใจนั่งลงฝั่งรุ่นพี่ส่วนสาวมั่นทั้งสองนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อนตนตามมาด้วยคินตาและหนุ่มไอน์สไตน์จอมติส
“ว่าแต่น้องๆชื่ออะไรกันบ้าง” หลุยส์ถามน้องๆ
“ชื่อเกรซค่ะ” แม้จะเป็นสาวสวยที่โดนผู้ชายหน้าตาดีจีบอยู่บ่อยๆแต่ใช่ว่าภูมิต้านทานอันนั้นแทบใช้ไม่ได้ผลกับหนุ่มตรงหน้านี้เลย ทำเอาเธอตอบด้วยประหม่าเลยทีเดียวผิดกับอีกคนที่ชีวิตเหี่ยวแห้งเป็นแตงล้านเฉาตายไม่เคยแม้แต่คนจะมาจีบกลับกระดี้กระด้ามากเป็นพิเศษ
“ชื่อมดค่ะ ถึงหุ่นจะอวบไปหน่อยแต่ถ้าค่อยๆชิมจะรู้ว่าแซ่บค่ะและที่สำคัญบ้านรวยมากเวอร์ เปย์พวกพี่ได้ ฮิๆ”
“งามหน้ามากมึง เก็บอาการหน่อย ผมเทย์ฮ่ะส่วนข้างๆชื่อมหา” และมหาก็ก้มหน้าเป็นเชิงทักทาย เหมือนจะรอนานเกินไปหรืออย่างไรเพราะคนสุดท้ายที่ต้องแนะนำกับไม่ปริปากพูดซักที
“พี่ชื่อพากย์” หนุ่มหล่อผิวแทนแนะนำ ถ้าไม่บอกว่าเป็นนักศึกษาแพทย์หลายคนคงจะคิดว่าหนุ่มวิศวะเท่ๆดีๆนี่เอง ส่วนคนข้างกันที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวลุกเดียวก็เงยหน้าขึ้นมาจะแนะนำตัว กับเลิกคิ้วขึ้นเมื่อฝั่งตรงข้ามคือหนุ่มหน้าสวยที่เคยเล่นเกมส์จ้องตากันมาก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  มันมาอีกแล้วแรงดึงดูดแห่งจักรวาลเมื่อทั้งคู่สบตากัน
“คิง” สั้นๆง่ายๆ แต่ก็เข้าใจได้แต่ก็ยังคงจ้องตากันไม่วาง “ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยหรอ” คิงยกยิ้มที่มุมปากเมื่อถามเสร็จเหมือนจะเล่นเกมส์ท้าท้ายกันสินะ ส่วนคนตรงข้ามเมื่ออีกฝ่ายถามเช่นนั้นกลับไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวการท้าทายครั้งนี้เลย มิหนำซ้ำดวงตายังเป็นประกายด้วยความสนุกและนุ่มลึกกว่าทุกครั้งหากใครโดนจ้องด้วยสายตาแบบนี้ไม่วายยอมถวายทั้งชีวิตให้แน่ๆ
“คิน....ตา” ช้าๆเน้นๆ เหมือนจะต้องการจะให้ชื่อนี้มันฝังลงไปในใจเหมือนรอยสักที่ยากจะลบออก นานหลายวินาทีที่ทั้งโต๊ะเงียบไปแม้ว่าทั้งสองคนจะแนะนำตัวกันสร็จแล้ว
“เอ่อ....ผมว่าพวกเราไปซื้อข้าวกันก่อนดีกว่า” และเทย์เปรียบเสมือนระฆังปลุกให้ทุกคนรู้ตัวจากนั้นทุกคนก็ลุกพรึบขึ้นเพื่อที่จะไปซื่อข้าว แต่คินตากับโดนหนุ่มหล่อข้างๆกดตัวไป
“เดียวพี่ไปซื้อข้าวให้น้องคินตาเอง น้องคินตาอยากกินอะไรครับ”
“เดี๋ยวผมไปซื้อเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับ เดียวพี่ไปซื้อให้เองเพราะมื้อนี้พี่จะเลี้ยง แล้วก็ห้ามปฏิเสธด้วยเพราะนี้ถือเป็นการไม่ให้เกียรติรุ่นพี่นะครับน้อง”
“งั้นผมขอผัดไทกุ้งสดกับน้ำสตอร์เบอร์รี่ปั่นแล้วกันครับ” แม้ว่าจะอยากค้านเพราะยังไม่ได้สนิทอะไรกันเท่าไหร่แต่เมื่อเห็นสายตาของอีกคนแล้วก็อดสงสารไม่ได้เลยปล่อยเลยตามเลยเพราะยังไงก็ดีที่ได้กินข้าวฟรีๆ
“น่าสนใจนะ” พากย์พูดขึ้นเมื่อทั้งโต๊ะเหลือกันอยู่แค่สามคน คินตาได้แต่ปรายตามองก็ไม่ได้พูดอะไร กวาดสายตามองผู้คนในโรงอาหารไปเรื่อยเพราะกลัวว่าผู้คนแถวนี้จะหัวใจวายซะก่อนถ้าเขาเอาแต่เล่นเกมส์จ้องตากับคนตรงหน้า เมื่อทุกคนเข้านั่งประจำที่ต่างก็กินข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเหลือเวลาอีกแค่สิบห้านาทีที่ต้องเข้าเรียนแล้วส่วนแก๊งค์ปีสองที่กินข้าวอยู่ก่อนเมื่อเสร็จก็พากันแยกออกมาเพราะก็ไม่ได้สนิทอะไรกับรุ่นน้องเลยอีกทั้งยังต่างสาขากันด้วยจะมีก็แต่หนุ่มไอน์สไตน์ที่เหมือนจะอยากนั่งคุยกับคินตาต่อแต่ก็โดนเพื่อนออกไป และแม้ทุกคนในกลุ่มอยากจะเม้าท์มอยเรื่องเมื่อครู่ที่ผ่านมาแต่ก็ไม่เวลามากขนาดนั้นจึงได้แต่รับกินและขึ้นเรียนกันทันที

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 2------
เริ่มหัวข้อโดย: ม่วงระย้า ที่ 04-06-2015 18:58:05
สนุกดีค่ะ มาต่อเร็ว ๆ น๊า

เค้าแอบจิน ควีน จูนเหมือนกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 2------
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 04-06-2015 19:12:00
+เป็ด รอตอนสามน๊า คัยจะสยบควีนได้น๊า ฮอตสะขนาดนี้ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 2------
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-06-2015 00:31:21
คิง ควีน ?
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 2------
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 06-06-2015 20:47:51
ควีนก็ต้องคู่กับคิงซินะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 2------
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 06-06-2015 22:26:31
เดินเรื่องเร็วนะนี่
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 3------
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 08-06-2015 00:27:26
กริ้บกริ้วๆๆๆ มาแล้วจร้า  :impress2: :impress2: อยากจะบอกว่าวันนี้เหนื่อยมากแต่ก็ยังอุตส่าฝืนสังขารตัวเองมาด้วยใจรัก555 แอร้ยย ดีใจจังมีคนอ่านด้วย ขอบคุนมากๆน้า


                                                                        Chapter 3


กริ้ง ๆๆ เสียงโทรศัพท์ซัมซุงฮีโร่กากๆดังขึ้นขณะที่คินกำลังเดินลงจากอาคารเรียนเมื่อเรียนเสร็จ
“โห้ คินนี่มึงใช้โทรศัพท์รุ่นแบบนี้หรอ ” มดถาม ขณะที่เพื่อนๆก็มองตาม บางคนถึงกับมองด้วยสายตาเหยียดๆ เพราะดูเหมือนคินจะไม่ค่อยเป็นที่ปราบปลื้มของกลุ่มเพื่อนผู้หญิงสักเท่าไหร่ แต่กลับฮอตในหมู่หนุ่มๆมากกว่า แต่คินตาหาได้สนใจเรื่องพวกนี้ไม่ เขาแค่ยกไหล่แล้วรับโทรศัพท์แทน
“ว่าไงครับ”
“ควีน เรียนเสร็จยัง” เสียงหวานเจื้อยแจ้วมาตามสาย
“เสร็จแล้ว กำลังเดินลงจากตึกเนี้ย”
“ดีเลย เพราะจูนก็กำลังถึงหน้าคณะควีนพอดีเลย” และเมื่อเขาเดินลงมาจากอาคารเรียนรถมินิคันเดิมเมื่อเช้าก็จอดเทียบพอดี
“โอ๊ะ นั่นเสี่ยที่มาส่งมึงเมื่อเช้านี่หว่า” เทย์ทัก “จะกลับเลยหรอว่ะ”
“อืม พอดีเขามารับไปทำงาน”
“นี่มึงยังทำงานอยู่หรอว่ะ”
“ใช่ ก็ที่บ้านจน มันก็ต้องดิ้นรนอย่างนี้ล่ะ”
“โห้ พูดมาได้นะมึง ว่าจน ชีวิตมีแต่คนมามารักมาหลง เปย์ให้ทุกอย่างอย่างมึงเขาไม่เรียกว่าจนหรอกสัด เงินเก็บจากที่ทำงานเอาไปเก็บไว้หมดล่ะ กูว่าค่าเทอมก็คงไม่ได้จ่ายเองใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆๆ”
“กวนส้นตีนอีกแล้วนะมึงอ่ะ ระวังจะโดนไม่ใช่น้อย ฮึ” คินยื่นหน้าไปใกล้ๆเทย์เมื่อพูดประโยคสุดท้ายอีกทั้งยังใช้สายตาเจ้าเลห์จ้องเทย์อีกแล้วเดินจากไป
“เชี่ย!! มึงจะทำอะไรว่ะ อย่านะเว้ย” จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเทย์ที่รู้จักและสนิทกับคินมากระดับนึงทำให้เขารู้เลยคำขู่ของคินตาว่ามันน่ากลัวแค่ไหน เพราะแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นคนหยิ่งๆแต่ถ้าสนิทกันแล้วละก็จะรู้ว่าคินตาเป็นคนขี้แกล้งมากและวิธีแกล้งแต่ละอย่างมันธรรมดาที่ไหน
“ไอ้เทย์! คินมันเป็นเด็กเสี่ยจริงๆหรอว่ะ ” เกรซถามด้วยความข้องใจ
“ไม่รู้ว่ะ เพราะมันก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่รู้แม่งชาติที่แล้วทำบุญด้วยหลอดไฟหรือไงก็ไม่รู้ชอบมีแมลงมาตอบให้พรึบ มีแต่คนอยากมาเปย์มันอ่ะมึง”
“ผมไม่แปลกใจเลยฮะ ดูเบ้าหน้าคุณคินตาสินี่มันสวยยิ่งกว่านางฟ้าเอวี เอ้ย นารีในวรรณคดีทั้งปวงเลยนะครับ” มหาก็มาร่วมวงสนทนากับเขาเหมือนกัน
“พอเลยมึงไอ้มหา สันดานออกหมด เช็ดน้ำลายมั้งเหอะ” มดแซวขึ้น
“ไหนครับ” มหาลุกลี้ลุกลนเอามือมาเช็ดตามปากไปทั่ว ทั้งที่หน้าเขาก็แห้งสนิท “คุณมดบ้า เรื่องแค่นี้น้ำลายผมไม่ไหลหรอกฮะ ปกติมีอะไรเยอะกว่านี้ผมยังสบายๆเลย มาหลอกกันอย่างนี้ได้ไง”
“โอ้ย อิมหา ยิ่งพูดยิ่งส่อนะมึง แต่ก็อย่างว่าแหละ แม่งเบ้าหน้าเป้ะ ขนาดใช้ซัมซุงฮีโร่แม่งยังดูดียังกะใช้ไอโฟน นี่ถ้าเป็นกูหรือไอ้มหานะ กูว่าแม้ค้าขายส้มตำกะพ่อค้ารับจ้างทุบตึกอ่ะมึง”
“โห้ คุณมด พูดอย่างนี้ดูถูกกันมากนะ ผมนี่โกรธจนไข่สั่นเลย”
“พอเถอะมหา แกหยุดพูดเถอะก่อนที่ฉันจะรู้สึกว่าเรดาร์การเลือกคบคนของฉันมันบกพร่องลงไปเยอะมากขนาดไหน เอ้ดอก”


เมื่อรถมินิสุดหรูเลี้ยวเข้ามาจอกรถในโซนวีไอพี ไอ้ตัวเล็กกระโดดหย๋อยๆมาควงแขนคินเดินเข้าร้านแสดงความป็นเจ้าของทันที
“โอ้ย วันนี้ตื่นเต้นมาเลยอ่ะควีน  วันนี้ได้เจอเพื่อนทั้งคณะเลยมีแต่คนหล่อๆสวยๆทั้งนั้นเลยแต่ก็ไม่มีใครสวยเท่าควีนหรอก และวันนี้รุ่นพี่ก็บอกว่าจะเริ่มการรับน้องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ต้องสนุกแน่ๆ เลยควีนแต่เสียอยู่อย่างเดียวเพื่อนๆชอบแกล้งเราอ่ะ ” แม้ว่าบางคณะจะรับน้องกันไปก่อนหน้าที่จะเปิดเทอมแล้วแต่ก็มีบางคณะที่เพิ่งจะรับน้องกันอย่างเช่นสาขาของจูนที่ตอนนี้แลดูจะตื่นเต้นไปเสียหมด
“ฮึๆ ก็จูนมันน่าแกล้งนี่นา” คิบบีบจมูกจูนด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ควีนอ่ะ ไปแต่งตัวทำงานเลยไป แล้วก็ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วมาที่กินข้าวเป็นเพื่อนจูนที่ห้องทริปเปิ้ลเอด้วยนะ” พูดเสร็จก็สะบัดตูงอนๆจากไป

“อ้าวควีน มาแล้วหรอ” พี่เดี่ยว พนักงานของร้านและเพื่อนคนสนิทของจิลทักขึ้นเมื่อคินเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว
“หวัดดีพี่เดี่ยว แหม่ วันนี้แต่งตัวหล่อเชียว นัดสาวไว้หรอ”
“ฮ่าๆๆ แหม่ควีนชมพี่อย่างนี้พี่เขินนะ พี่ยกเลิกกะสาวที่นัดไว้เปลี่ยนใจออกเดทกะควีนแทนได้ป่ะ” เป็นอันรู้กันดีว่าทั้งร้านพร้อมใจกันเรียกคินตา ว่าควีน เพราะดูยังไงชื่อนี้ก็เหมาะกว่าไอ้ครั้นคินจะไปเถียงคนนับร้อยก็ไม่รู้จะสู้ยังไงไหว
“ถ้าหลังเลิกงานก็พอได้อยู่นะพี่ พอดีคืนนัดกับพี่ชมพู่ไว้ว่าจะหาหนุ่มๆให้แกสักคน”
“โธ่ ควีนอย่าเอาของสูงมาเล่นสิ คนนี้พี่เอาขึ้นหิ้งนะ”
“อ้าวหรอ นึกว่าพี่แกโสด เห็นแกบ่นๆว่าสามีไม่สนใจ”
“ใช่ที่ไหนกันล่ะควีน อันที่จริงวันนี้ที่ร้านจะมีลูกค้าวีไอพีเข้านะ ก็เลยต้องแต่งตัวดีหน่อยเพราะต้องไปดูแลเขา เอ้อ! ควีน วันนี้ควีนใส่ชุดนั้นนะ” พี่เดี่ยวชี้ไปที่ชุดแขวนอยู่หน้าตู้
“อ้าว ทำไมล่ะพี่ คนอื่นก็ใส่ชุดของร้านกันปกตินี่”
“ก็ เอ่ออออ พอดีชุดที่ร้านเขาไปส่งซักหมดนะ”
“อ่อ ครับ” แม้ว่าจะรู้สึกงงๆที่ชุดของร้านจะไม่พอเพราะปกติระเบียบการจัดการของร้านนั้นดีมากแทบจะไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยแต่ก็หยิบชุดเข้าห้องไปเปลี่ยนแล้วเดินไปหาไอ้ตัวเล็กทันที
ครืด เมื่อประตูถูกเลื่อนออกก็เผยให้ไอ้ตัวเล็กที่กำลังออดอ้อนพี่ชายตัวเองอยู่พร้อมด้วยอาหารหรูเต็มโต๊ะ
“อ้ะ ควีนมาแล้ว มาๆนั่งๆ” ตบเบาะข้างตนไม่หยุด “พี่จิล ถอยไปดิ้”
“โห้ ที่งี้พี่ชายหมดความสำคัญเลย” จิลทำหน้างอนแต่ก็ขยับให้
“อ้าว ควีนทำไมใส่ชุดนี้อ่ะ” ไอ้ตัวเล็กถามขึ้นเมื่อคินนั่งลงข้างตน
“พอดีชุดส่งซักนะ”
“หืมมม ชุดส่งซักหมดเนี้ยนะ เป็นไปได้ไง” จูนถามอย่างแปลกใจ
“โทษทีนะพี่จิล พอดีควีนหาผ้ากันเปื้อนไม่เจอเลยอ่ะ ก็เลยไม่ได้ใส่ชุดยิ่งเป็นแบบนี้ ไม่สุภาพมากเลย”
“ฮึๆ ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง ชุดที่ควีนใส่มันก็ไม่ได้ไม่สุภาพอะไร สวยดีออก” แทนที่จะเดือดร้อนมากกว่านี้จิลกลับบอกอย่างสบายใจแถมยังทำสายตาเจ้าเหล์เมื่อเห็นควีนใส่ชุดนี้อีก
“โห้พี่จิล ดุด่าว่าผมบ้างก็ได้นะ พี่ให้สิทธิผมเกินพนักงานคนอื่นมากเลยนะเนี้ย ทั้งกินข้าวแยกห้อง ทำงานก็น้อยกว่าเพื่อนแต่ยังได้เงินเดือนเท่ากันอีก พนักงานคนอื่นเขาหมั่นไส้ผมหมดแล้วมั้ง”
“ฮึๆ ก็เราเป็นเพื่อนสุดที่รักจูนนี่น่า”
“มันไช่ไหมล่ะ”
“เอาๆ กินเถอะจะได้ไปทำงาน” หลังจากนั้นทั้งก็ลงมื้อกินข้าวกันทันที
พอกินเสร็จทั้งสามก็เดินออกมาจากห้องที่เป็นทางเดินติดกับระเบียง
“โอ้ะ! ควีนมีอะไรติดผมควีนก็ไม่รู้ มาเดี๋ยวพี่เอาออกให้” จิลพูดพรางยื่นมือไปที่ผมของควีนแต่พอชักมือกลับมือที่เหมือนจะจงใจไปเกี่ยวกับยางมัดผมของควีนก็หลุดลงไปด้านล่างชั้นหนึ่งเพราะที่ควีนยื่นอยู่มันติดกับราวกั้นทำให้ผมของควีนถูกปล่อยลงมา “เฮ้ย ขอโทษๆพี่ไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่เป็นไรครับพี่”
“เฮีย! เกิดเรื่องแล้วครับ” ในขณะลูกน้องในร้านก็ตะโกนเดินมาหาจิล
“เกิดเรื่องอะไร”
“เด็กที่จ้างไว้เบี้ยวงานครับนาย ก่อนหน้าชั่วโมงหนึ่งบอกว่าจะถึงแล้วแต่ครี่งชม. ก็ยังไม่เห็น พอโทรตามอีกรอบก็ตัดสายหายไปเลย แล้วโชว์ก็จะถึงเวลาเริ่มแล้วด้วยครับ”
“เฮ้ยได้ไงว่ะ! วันนี้แขกคนสำคัญนะเว้ย แล้วหาคนมาแทนได้ไหม”
“ยังไม่ได้หาเลยครับเฮีย ก็เมื้อกี้น้องเขายังติดต่อได้อยู่เลย พอเรื่องเกิดผมก็รีบมาบอกเฮียเลย”
“sh*t! แล้วเด็กในร้านคนอื่นละว่ะ คนที่พอจะทำได้ ให้มันมาทำไปก่อนไป”
“โธ่ เฮียแค่นี้พนักงานก็วิ่งวุ่นไม่มีใครว่างได้หายใจหายคอกันสักคน จะไปหาที่ไหนล่ะครับ ถ้ามีก็มีแต่ผมกับลุงยามแล้วละครับซึ่งนั้นมันเบ้าหน้าไม่ได้ไงครับ”
“เหี้ยเอ้ย!!” ในขณะที่จิลสบถมือก็ปัดไปโดนเข้ากับแก้วน้ำที่พนักงานเดินผ่านมาพอดี
“โอ้ะ” น้ำจากแก้วน้ำก็กระเด็นมาใส่ควีนเต็มๆเสื้อเชิ้ตขาวบางที่ใส่อยู่จึงแนบไปกับเนื้อเผยให้เห็นผิวขาวเนียนด้านใน รอยน้ำที่ลู่ลงไปตามกางเกงสกินนิ้งสีทองโดดเด่น
“เฮ้ย พี่ขอโทษ” ควีนไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าจิลอยู่ในอารมณ์ไหน ส่วนจิลก็หันมาขอโทษควีนทำให้สายตาเขามองมาที่ควีนและนิ่งไปนิดนึงเหมือนคิดหนักและชั่งใจอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นจึงคว้ามือควีนที่กำลังจัดการกับร่างกายตัวเองอยู่พาเดินออกไปทันที
“เฮ้ย อะไรอ่ะพี่จิล” ควีนได้แต่ถามเพราะตอนนี้งงกับสถานการณ์ตรงหน้ามาก
“เฮ้ย พี่จิลจะพาควีนไปไหน” ไอ้ตัวเล็กตะโกนถามอย่างตกใจ จิลไม่ได้พูดอะไรเอาแต่ลากควีนมาถึงชั้นล่างโซนที่มีแขกวีไอพีอยู่และด้านหน้าก็เป็นเวทีและมีบาร์อยู่ด้านบนเหมือนจะจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสพิเศษหรือโชว์อะไรสักอย่าง
“ช่วยพี่หน่อยนะควีน แค่เสิร์ฟน้ำให้ลูกค้าด้านหน้าเวทีแค่นั้นเอง” พอพูดเสร็จก็พลักควีนขึ้นเวทีทันทีโดยที่ควีนยังไม่มีโอกาสได้ทักท้วงอะไรเลย พอผลักเสร็จจิลก็ถอยออกมาจากข้างเวทีแล้วเงยหน้าขึ้นด้านบนชั้นสองพร้อมกับขยิบตาเจ้าเล่ห์ให้เดี่ยวที่ยืนหัวเราะน้อยๆมองเขาอยู่ ส่วนควีนที่ตอนนี้ยังงงไม่หายได้แต่กวาดสายตาไปรอบๆเวทีที่ผู้คนเริ่มส่งเสียงร้องโห่ให้ ด้านบนเวทีที่มีบาร์จัดอยู่ นี่พี่จิลทำอะไรว่ะนี่ ตอนนี้เขาพยายามไตร่ตรองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่จนเหมือนจะเริ่มเข้าใจอะไรสักอย่างขึ้นมาแล้ว จึงหันไปที่บาร์อีกทีก็ต้องตกใจกับบาร์เทนเดอร์ที่อยู่ข้างหน้าเขาเพราะนี่มันคิงนี่นา

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 3------ มาแล้วจร้า
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-06-2015 05:21:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 3------ มาแล้วจร้า
เริ่มหัวข้อโดย: ม่วงระย้า ที่ 08-06-2015 07:26:54
อัยยะ! คิงทำงานที่นี่เหมือนกันเหรอ? พี่ ๆ นี่แผนสูงเนอะ

พระเอกจะใช่คิงหนือเปล่าไม่รู้ แต่เค้าจิ้น ควีนจูนอ่ะ แบบว่ามันดูมุ้งมิ้งเล็ก ๆ ดี 555

รอตอนต่อไปค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 3------ มาแล้วจร้า
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 08-06-2015 09:27:27
กรรมแล้วไหมล่ะ ตอนแรกก็ดูฉลาดๆอยู่หรอก สุดท้ายถูกใส่พานขายจนได้ ตอนแรกก็สนุกๆนะ พอมาอ่านตอนนี้ชักไม่มันใจแร้วสิ อยากจะถามคนแต่งว่าเป็นนิยายแนวไหนครับ ถ้ามาม่าเยอะก็บอกผม ผมจะได้หยุด เพราะไม่ชอบถ้ามีพอกรุบกริบพอได้ คงไม่มีใครทำร้ายจิตใจใครนะ เราไม่ชอบให้คนรักกันมาทำร้ายความรู้สึกกันมันเศร้าเกินไป ไอ้เหี้ยพี่จิลมันแผ่นสู้นะ แบบนี้น่าจัดการมันให้เข็ด จากที่ร่คิดว่าดีแต่มันแอบชั่วอ่ะ เลยเซ็ง เฮ้อ อุส่าชอบนะ ถือว่าแต่งได้ดี แต่เท่าที่อ่านมามีคำพิมพ์ผิดเยอะอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4------
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 09-06-2015 02:19:14
เฮ้ย นายเอกเราไม่ได้โง่นะ นางแค่ไม่มีเวลาตั้งตัว 555555 ส่วนอิพี่จิลมันไม่ได้ชั่วหรอก นางแค่แพรวพรายเจ้าเล่ห์แพรมๆ (ศัพท์อะไรของมึง) ส่วนเรื่องดราม่าน่านนนน บอกเรยว่ามันเป็นเรื่องอนาคตที่แม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังไม่รู้เรยเพราะด้นสดแล้วก็เอาลงเลย55555 คำผิดเลยเยอะเพราะไม่ได้ตรวจทาน ขอโทษด้วยจีๆค่ะ

                                                                            Chapter 4


เอาไงดีว่ะที่นี่ ควีนยืนคิดหนัก มองไปหาไอ้ตัวเล็กก็มองไม่เห็น มองไปหาจิลก็ทำหน้าทำตาพยายามขอร้องสุดฤทธิ์และขยับปากพูดขอร้องควีน ช่วยพี่หน่อยนะ พี่ขอร้อง
ฮึ่ย ให้มันได้อย่างนี้สิ! ทำกันได้นะพี่จิล ตอนนี้ควีนเดาว่าที่บอกให้ควีนเสิร์ฟน้ำให้ลูกค้าวีไอพีโต๊ะด้านหน้าคงจะหมายถึงโชว์ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้สินะ มองไปที่คิงอีกครั้งพรางตัดสินใจเดินหน้าต่ออยากให้ช่วยก็จะช่วย ควีนเสยผมที่ปกหน้าอยู่อย่างหงุดหงิดใจนิดหน่อย และเดินไปที่บาร์ทันที
“ว่าไงคนสวย เจอกันอีกแล้วนะ” คิงทักขึ้นเมื่อควีนนั่งลงบนเก้าอี้หน้าบาร์แล้วเท้าคางมองคิงที่ตาประกายเหมือนขำ
“ฮึ น่าประทับใจจังเจอกันแบบพิเศษเชียว” ควีนนั่งมองคิงที่ตอนนี้เริ่มผสมเครื่องดื่มแล้ว
“ฮึๆ แล้วนี้เปลี่ยนระดับขั้นเป็นเด็กเสิร์ฟระดับวีไอพีแล้วหรอวันนี้”
“หืมม รู้ได้ไง”
“ก็เห็นหน้าอยู่ทุกวัน” คิงพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปทัดผมไว้ที่หูให้ควีน “หน้าสวยๆอย่างนี้หันไปให้ลูกค้าชมบ้างสิ” คิงดันไหล่ให้ควีนพลิกตัวไปด้านหน้าเพราะเก้าอี้เป็นแบบหมุนได้คิงออกแรงนิดเดียวควีนก็หันหน้าไปทางด้านหน้าเวทีแล้ว แต่ควีนก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเอาแขนทั้งสองข้างท้าวที่บาร์ซ้ำยังถามกลับอีกต่างหาก
“ทุกวัน?”
“ก็เป็นบาร์เทนเดอร์ที่นี้ไง” คิงค้อมตัวมาข้างๆควีนที่ใบหน้าแทบจะแนบชิดกันอยู่แล้และแก้วเครื่องดื่มสีสวยก็กูถูกยื่นมาด้านหน้าควีน “ที่นี้ก็ทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟวีไอพีในคืนพิเศษได้แระ” ควีนได้แต่ถอนหายใจแต่ก็ยื่นมือไปรับแก้วน้ำตรงหน้าแล้วมองไปยังโต๊ะลูกค้าด้านหน้าเวที แล้วเดินตรงไปทันทีแม้ว่าควีนจะเดินไปแบบธรรมดาปกติแต่ด้วยชุด ดนตรีบีทเร้าใจ แสงไฟหลากหลายที่ส่องมายังเวทีก็ทำให้บรรยากาศในร้านมันตื่นเต้นเร้าใจได้ไม่ยากเลย ควีนเดินลงขั้นบันไดเล็กจากเวทีที่อยู่ติดกับโต๊ะลูกค้าที่มีดูจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่ไม่น่าจะเกินสี่สิบแถมบางคนดูไปยังเด็กแทบจะเป็นวัยรุ่นเท่าเขาอีกต่างหากส่วนมากจะเป็นผู้ชายมีผู้หญิงแค่เล็กน้อยเท่านั้นควีนเมื่อมาถึงโต๊ะควีนเลือกที่จะนั่งย่อให้ตัวเองอยู่ระดับใบหน้าเท่ากันกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ริมสุดด่านซ้ายมือของโต๊ะแล้วใช้สายตาอันนุ่มลึกจ้องไปที่หน้าเธอและบรรจงใช้ริมฝีปากลงไปที่แก้วเครื่องดื่มพร้อมกับยื่นแก้วน้ำไปให้เธอ แม้ว่าหน้าของควีนจะดึงดูดเพศตรงข้ามแต่เวลาที่ควีนใช้สายตาแบบนี้มองใครสักคนไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถทำให้เขาตรงหน้าหน้าแดงได้ทุกคนแหละไม่เว้นแม้กระทั่งเธอคนนี้ที่เผชิญอยู่ เพราะถึงได้บอกว่าสายตาคู่นี้มีอานุภาพร้ายแรง เธอได้แต่ก้มหน้ากัดริมฝีปากด้วยความเขินเพราะไม่สามารถทนสู้สายตาคู่นี้ได้แล้วยื่นมือไปหยิบแก้วด้วยความสั่นมาจิบ จากนั้นควีนก็เดินกลับไปหาคิงที่ตอนนี้มีเครื่องดื่มอีกแก้วตั้งอยู่ตรงบาร์
“ธรรมดาไปนะเสิร์ฟแบบนี้ เขาเทรนงานกันแย่จัง” ส่วนควีนก็แค่ยกไหล่ตอบกลับ เมื่อควีนไม่ตอบอะไรกลับคิงเลยพยักหน้าไปที่แก้ว “ทายสิมีส่วนประกอบอะไรบ้าง”
“อะไร” ควีนถามอย่างงงๆ “ไม่ทำงานหรือไง”
“ก็กำลังทำอยู่นี่ไง เพราะเด็กเสิร์ฟดูเหมือนจะไม่ค่อยได้เรื่อง” แล้วคิงก็ยกส่วนผสมเครื่องดื่มที่ใส่แก้วเล็กหลากสีสัน ขึ้นมาวางบนบาร์สิบแก้ว “เลือกส่วนผสมมาห้าอย่างที่ผสมกันออกมาเป็นเจ้าตัวนี้”คิงพูดพร้อมชี้มือที่แก้วส่วนผสมยกมือขึ้นมาห้านิ้วแล้วชี้ไปที่แก้วเครื่องดื่มประกอบการอธิบายเหมือนเป็นการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจด้วยเพราะพวกเขาไม่ได้พูดใส่ไมค์
“แล้วทำไมต้องทาย”
“ก็ไม่ทำไม ก็แค่อย่างรู้ว่าหน้าอย่างนี้จะเก่งแค่ทำให้คนอื่นหลงอย่างเดียวรึเปล่า”
“ฮึ เก่งจังนะไอ้เรื่องท้าทายคนอื่นอื่นนะ”
“ชิมชิ” คิงยื่นแก้วเครื่องดื่มไปให้ทั้งที่ควีนยังไม่ทันตกลงด้วยซ้ำ
“ถ้าทายถูกจะได้อะไร”
“อยากได้อะไรล่ะ”
“ถ้างั้นนนน  ไว้จะบอกหลังจากที่ชนะนะ” แล้วควีนก็เอื้อมมือจะไปหยิบแก้วแต่คิงก็ชักมือกลับแล้วยื่นแก้วไปชิมซะเองแต่ก็ไม่ได้กลืนลงไป ควีนที่พอจะเข้าใจเกมส์ที่อีกฝ่ายต้องการจะท้าทายตน จะเล่นอย่างนี้สินะ ในเมื่อถูกผู้ท้าชิงท้าทายมาซะขนาดนี้มันก็ต้องโชว์กันสักหน่อยว่าใครกันแน่ที่คิดผิด แล้วควีนก็เดินไปหาคิงที่รออยู่ด้วยสายตาท้าท้ายสุดๆ ควีนยื่นหน้าไปใกล้จนแทบจะชิด จ้องตาตอบกลับคิงเหมือนจะบอกว่ารับรับท้าแล้วเลื่อนหน้าลงมาที่ริมฝีปากคิงใช้ฝันกัดที่ริมฝีปากล่างแล้วลากลงมาทำให้ปากของคิงเปิด เครื่องดื่มที่ในปากคิงไหลก็ลงมาทันทีแต่ยังไม่ทันทีน้ำจะหยดลงพื้นควีนก็ก้มหน้าลงไปอ้าปากน้อยๆรองรับน้ำทันทีแล้วไหล่ซับจูบขึ้นจากปลายคางจนถึงริมฝีปากเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะย้ำลงไปแรงๆจึงผละหน้าออกมา คิงอึ้งไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำเช่นนี้แต่ก็ก็กลับมาทำหน้าถูกใจสุดส่วนควีนก็ทำหน้าพอใจที่ทำให้อีกฝ่ายอึ้งได้เช่นกัน ก่อนจะหันไปเริ่มเกมส์ต่อ แม้ว่าผู้คนรอบข้างจะแดดิ้นตายกันไปหมดแล้วแต่ทั้งสองหาได้สนใจไม่เหมือนตัวเองเล่นกันอยู่แค่สองคน ควีนเอื้อมมือจะไปหยิบแก้วส่วนเครื่องผสมมาชิมแต่คิงก็จับมือควีนไว้ก่อนแล้ว
“ไม่มีการชิมนะครับ เพราะถ้าจะชิมแล้วละก็” คิงยื่นแก้วส่วนผสมขึ้นมาแล้วแตะไปที่กระดุมเสื้อของควีน “หนึ่งแก้วต่อหนึ่งกระดุม” นั่นทำให้ควีนชะงักไปแต่สำหรับนางพญาอย่างควีนแล้วกลัวซะที่ไหนก้มลงไปชิมน้ำที่แก้วแล้วยกยิ้มให้คิงอีกต่างหาก ส่วนคิงเมื่อเห็นดังนั้นจึงว่างแก้วลงแล้วใช้นิ้วชี้แตะลงบนจมูกควีนไล้ลงมาตามปาก คอ หน้าอกจนถึงกระดุมเม็ดแรกจากนั้นจึงค่อยๆแกะกระดุมออกแล้วพยักหน้าไปยังแก้วส่วนผสมที่เหลือ ควีนจึงมองหน้าแล้วยกยิ้มจัดการแกะกระดุมตัวเองไปอีกสี่เม็ดทำให้ตอนนี้ผิวขาวเนียนของควีนเผยออกมาให้ทุกคนได้แดดิ้นกัน จากนั้นจึงหันไปหยิบส่วนผสมขึ้นมาดมแล้วชิมค่อยๆพิจารณาจนชิมครบสี่แก้ว
“ได้ล่ะ” ควีนจึงชี้ไปสามแก้วที่ชิมและอีกสองแก้วข้างๆกันที่ตนไม่ได้ชิม
“ฮึ มั่นใจหรอ”
“ไม่รู้สิ รู้แค่ว่านายต้องเตรียมตัวมอบของรางวัลให้ผู้ชนะอย่างฉันนะ” คิงจึงหัวเราะน้อยๆแล้วหยิบส่วนผสมที่ควีนเลือกมาผสมและวาดลวดลายของบาร์เทนเดอร์มืออาชีพที่ดูพริ้วไหวจนน่าเคลิ้มตาม จากนั้นจึงเทใส่แก้วแล้วยื่นไปให้ควีนชิมอีกครั้ง
แต่รสชาติกลับแปลกไปนิดหน่อย
“ไม่เหมือนเดิมใช่ไหมล่ะ ฮึๆ นายแพ้แล้วล่ะคนสวย”
“มันไม่เหมือนเดิมเพราะมันขาดตัวนี้ด้วยนะสิ” ควีนยื่นมือไปเอื้อมส่วนผสมอีกแก้วที่ไม่ได้ถูกเลือกมาให้คิง
“เก่งนี่ รู้ด้วยว่ามีส่วนผสมหกตัว”
“ฮึๆ นายผิดแล้วหล่ะที่รักแล้วเพราะจริงๆมันมีเจ็ดตัวต่างหาก” พูดเสร็จควีนก็ล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงคิงหยิบบุหรี่ตัวหนึ่งออกมาแล้วแตะไปที่ริมฝีปากของคิงยิ้มหัวเราะเบาๆอย่างผู้ชนะ



หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-06-2015 05:41:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 09-06-2015 08:26:45
ตัดฉัยแบบนี้เท่ากันฆ่าคนอ่านเต็มๆ รีบๆมาก่อนจะเอาระเบิดไปปาใส่คนแต่งที่ทำกันได้ลง ควีนแพ้จริงๆดิ แบบนี้ไม่มันเลย ควีนต้องชนะเท่านั้น 555
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 09-06-2015 09:41:50
รออออออออออออออออออ

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-06-2015 12:27:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: karuwarn ที่ 09-06-2015 16:24:46
เรื่อง เเซ่บบบบ มาก
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 4--- แบบว่าพกทิชชูมาซับเลือดให้กับตอนนี้ด้วยนะค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pariiza_Rocker ที่ 09-06-2015 19:43:22
อยากได้จูนมาเลี้ยงที่บ้าน

คนอะไรน่ารักเกินไปเเล้วววว    :-[ :-[
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 18-06-2015 01:37:26
 



                     
                                                                           Chapter 5


หลังจากเหตุการณ์การแสดงโชว์คืนนั้นจบลง ทั้งคิงและควีนก็แยกย้ายไม่ได้คุยกันต่อแต่อย่างใดเพราะทันทีที่ควีนลงจากเวทีมาก็โดนจูนลากตัวไปทันทีแม้ว่าควีนจะหงุดหงิดที่โดนพี่จิลลากไปแบบไม่เต็มใจแต่ควีนก็ไม่ได้พูดอะไรจะมีก็แต่ไอ้ตัวเล็กของเขานั้นแหละที่สวดพี่ชายตัวเองยับแถมยังโกรธควีนที่ยอมแสดงโชว์หวาบหวิวแบบนั้นแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องดีต่อร้านของพี่ชายตัวเองเพราะหลังจากเหตุการณ์นั้น ชื่อควีนก็กลายเป็นที่เลื่องลือของร้าน หลายปากต่อปากที่ได้มาดูโชว์แล้วไปเล่าต่อบรรยายสรรพคุณความฮอตของเจ้าตัวจนหลายคนต้องการที่จะมาดูตัวว่าควีนแห่งร้าน jil’s heaven นั้นจะสมคำล่ำลือหรือไม่ ทำให้ที่ร้านมีรายได้เข้ามามากมายจากข่าวที่แพร่ออกไป
“ควีน คืนนี้ไม่ต้องไปทำงานหรอกเพราะจูนไม่ให้ควีนไปทำแล้ว” ไอ้ตัวเล็กที่เดินเข้ามาพันแข้งพันขาควีนที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งที่เตรียมตัวจะออกไปทำงาน
“ได้ไงล่ะ เดี๋ยวพี่จิลก็ไล่คิงออกพอดี”
“ไม่ใช่พี่จิลจะไล่คินออกหรอก เพราะจูนนี่แหละจะไล่คินออก” แก้มป่องๆตาโตที่แถบจะถลนออกมานอกเบ้าจ้องควีนอย่างจริงจัง
“เรามีสิทธิ์อะไร มาไล่คินล่ะ พี่จิลต่างหากที่เป็นเจ้าของร้าน”
“จูนก็เป็นน้องเจ้าของร้านเหมือนกัน เพราะงั้นจูนก็มีสิทธิ์”
“ฮึๆ ตรรกะอะไรของจูนล่ะ หืมมม” ด้วยความหมั่นเขี้ยวจึงบีบจมูกไอ้ตัวเล็กเบาๆที่ทำหน้ากระเง้ากระงอดเต็มที่
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงคืนนี้จูนก็ไม่ให้ควีนไป ดูที่พี่จิลทำกับควีนสิมันใช้ได้ที่ไหนกัน”
“แต่พี่จิลก็ให้ค่าตอบแทนคินมาเยอะนะ” แม้ว่าจะการกระทำแบบนี้มันไม่น่าให้อภัยแต่ค่าตอบแทนหลายหลักที่จิลมอบให้มามันก็แทบจะทดแทนกันให้เป็นเรื่องแฟร์ๆได้แต่ถึงอย่างนั้นไอ้เรื่องแบบนี้เงินมันทดแทนกันไม่หมดหรอก เพราะถึงควีนจะบอกจูนไปเหมือนไม่ติดใจอะไรแต่ใช่ว่าพี่จิลจะไม่ได้รับบทเรียนอะไรจากควีนหรอกนะ
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย ตั้งแต่คืนนั้นที่ควีน เอ่อ.. ทำ..เอ่อ แบบนั้นไปอ่ะ” จูนที่พอจะพูดเรื่องนั้นก็แก้มระเรื่อ พูดตะกุกตะกัก ทันทีที่นึกถึงฉากวันนั้น “มีแต่คนมาถามหาควีนทั้งนั้นเลย” หลังจากคืนนั้นก็เป็นเวลาห้าวันแล้วที่ควีนไม่ได้ไปทำงานเพราะดูเหมือนว่าเงินก้อนที่ได้มาจะทำให้ควีนใช้ชีวิตอยู่ได้สบายโดยไม่ต้องทำงานไปหลายเดือนเลยก็ว่าได้
“แต่ควีนไม่ได้ไปทำงานโซนล่างซะหน่อย”
“มันก็เหมือนกันนั้นแหละ อันตรายจะตายไปมีแต่คนมาถามหาควีนโดยเฉพาะผู้ชาย ที่ชอบมาถามหาควีนดูหน้าก็รู้ว่าต้องการเจอควีนทำไม”
“ฮึๆ” ควีนได้แต่หัวเราะด้วยความเอ็นดูที่ไอ้ตัวเล็กที่เป็นห่วงเขาขนาดนี้
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย ไม่ห่วงตัวเองแล้วยังชอบมาทำให้คนอื่นเป็นห่วงอีก  หวงด้วย”
“ครับ คินรู้แล้วว่าจูนทั้งห่วงและหวงคินแต่คินจำเป็นต้องทำงานนะ อีกอย่างคินจะดูแลตัวเองไม่ให้ใครมาทำอะไรได้หรอก คิน
สัญญา”
“แต่ว่า...”
กริ้งงงงง จูนที่กำลังพูดโต้กลับกับถูกขัดด้วยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ชองตัวเองที่จูนมองหน้าจอเห็นเบอร์แล้วแม้ว่าอยากจะขัดควีนต่อแต่สายที่เรียกเข้าก็สำคัญมากจนจูนต้องรับสายเหมือนกัน
“ฮัลโหล มามี้ คิดถึงจัง ทำไมเพิ่งโทรมาหาจูนล่ะ หายหน้าไปเป็นเดือนไม่โทรหาจูนบ้างเลย” พูดไปก็มองหน้าควีนเหมือนสั่งว่าห้ามควีนออกไปไหนด้วย “ห้ะ! อะไรนะ มามี้แลนดิ่งเครื่องแล้วกำลังจะถึงบ้าน ทำไมไม่บอกจูนก่อนล่ะจะได้ไปรับ งั้นเดี๋ยวจูนจะรีบกลับบ้านนะ...ได้ฮะ เจอกัน แค่นี้ก่อนนะมามี้” วางสายโทรศัพท์เสร็จก็ทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้กินยาขมเข้าไป
“ไปเถอะ ไม่ได้เจอมามี้นานแล้วไม่ใช่หรอ”
“ถ้าจูนกลับควีนก็จะไปทำงานนะสิ” แม้ว่าจะอยากกลับบ้านไปหามามี้สุดที่รักที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนแต่ก็ไม่อยากกลับเพราะกลัวควีนจะไปที่ร้าน
“คินสัญญาว่าจะตัวแลตัวเองให้ดี”
“แต่” ตึ้งงง และจูนก็ถูกขัดด้วยข้อความไลน์จากพี่จิล ที่มีเนื้อความว่าให้รีบกลับบ้าน
เพราะปู่ที่รักของจูนก็กลับมาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน
“ไปเถอะ คินดูแลตัวเองได้จริงๆ” ควันยิ้มน้อยๆให้จูนแทนคำสัญญา
“งั้นจูนแวะไปส่งควีนที่ร้านนะ จะได้ไปกำชับให้พี่เดี่ยวดูแลควีนด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก จูนรีบกลับบ้านเถอะ”
และสายของมามี้ก็โทรตามจูนอีกครั้งให้รีบกลับเดี่ยวนี้เลย จนจูนที่แทบจะร้องให้เพราะทั้งห่วงจูนแต่ก็ต้องรีบกลับเพราะคนสำคัญของจูนก็รออยู่เหมือนกัน
“ไปเถอะ ไม่ต้องไปส่งคินหรอก ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานมันไม่ดีนะ”
“งั้น เดี่ยวจูนเรียกคนมารับไปส่งควีนนะ” ควีนที่ไม่อยากให้ไอ้ตัวเล็กเป็นห่วงเขาจนเกินไปจึงได้แต่เออออ ตกลงเพราะไม่อยากให้จูนเสียเวลาเพราะเขาจึงพากันออกจากห้องตามจูนที่บอกจะเรียกคนให้มารับไปส่งกับเดินไปห้องตรงข้ามแล้วเคาะประตูสักพักก็มีคนมาเปิดประตู
“พี่คิง จูนฝากควีนไปทำงานที่ร้านด้วยนะ ฝากดูแลควีนด้วยห้ามใครมาทำไรควีนได้นะ ถ้าควีนเป็นอะไรไป จูนจะโทษพี่คิง จูนไปก่อนนะรีบกลับบ้านมาก จูนกลับก่อนนะควีนแล้วจะรีบกลับนะ ดูแลตัวเองด้วยนะควีน สัญญาแล้วนะ” จูนที่พูดยาวแทบจะเป็นเพลงแรพแบบที่คนฟังแทบจะไม่ทันตั้งตัว พอพูดเสร็จก็รีบวิ่งออกไปทันทีทิ้งให้คนสองคนเขามองหน้ากันแบบงงๆ
“เอ่อ..คือ” ควีนดูงงๆปนอึ้งที่เห็นว่าเจ้าของห้องตรงข้ามคือคิงทั้งที่เขาก็อยู่ที่นี้มาเป็นอาทิตย์แล้วแต่กับไม่เจออีกฝ่ายเลยตั้งแต่วันแรกที่เข้าหอ
“เข้ามาก่อนสิ แต่งตัวแป้บ” คิงแค่เปิดประตูให้ควีนแล้วเดินนำเข้าห้องไป ควีนที่ยังงงอยู่ได้แต่เดินตามเข้าห้อง มองไปรอบๆห้องก็ไม่ได้แตกต่างจากห้องของเขาสักเท่าไหร่ เตียงสองเตียงคนละมุมเพราะที่ห้องกำหนดให้ต้องอยู่สองคนขึ้นไป โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า ข้าวของนิดๆหน่อย ห้องรกๆ โปสเตอร์นักบาส และ หญิงสาวที่เกือบจะเปล่าเปลือยบนฝาผนังข้างเตียงตามประสาผู้ชาย ส่วนอีกมุมแลดูจะแตกต่างกันอยู่หน่อยๆตรงรสนิยมที่รูปติดตามผนังนั้นเป็นพวกภาพถ่ายตามสถานที่ต่างๆ ที่ดูไปมีทั้งในไทยและต่างประเทศด้วย
“คิดว่าเตียงไหนคือของเตียงของพี่” ควีนที่กำลังมองรูปถ่ายเหล่านั้นอย่างสนอกสนใจเบนสายตาไปหาคิงที่ตอนนี้เปลือยท่อนบนหันหน้าเข้าหาตู้เพื่อหาเสื้อผ้า
“ฮึๆ” เมื่อควีนเห็นภาพตรงหน้าก็ได้แต่หัวเราะน้อยๆ “ถ้าจะตอบให้ถูกต้องก็เตียงนี้” ควีนพยักหน้าไปทางเตียงที่มีรูปถ่ายบอกคิงที่ตอนนี้ใส่เสื้อกล้ามดำอวดกล้ามและกางเกงบ้อกเซอร์แล้วหันหน้ามาหาควีนแล้ว “แต่ถ้าถามว่าใจจริงอยากตอบอันไหนก็จะบอกว่าเตียงนั้น” ควีนพยักหน้าไปอีกเตียงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“ฮึๆ” คิงที่ได้ฟังคำตอบแบบนั้นจากควีนเลยแต่หัวเลยน้อยๆ “หน้าอย่างพี่มันสื่อว่าเป็นคนแบบนั้นจริงๆนะหรอ”
“ก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรอ” ควีนที่ตอนนี้เดินมานั่งที่เตียงแล้วมองภาพถ่ายเหล่านั้นแทบไม่ได้สนใจเจ้าของห้องเลยว่าเดินเข้ามาใกล้จนลมหายใจจะรดต้นคอตัวเองแล้ว
“แล้วเราชอบแบบไหนมากว่ากัน” เสียงนุ่มลึกดังขึ้นข้างๆหู ทำให้ควีนต้องหันหน้ากลับไปจนปลายจมูกโด่งๆทั้งสองเฉียดโดนกันเบาๆ
“ชอบแบบนั้นมากกว่า” ควีนตอบทั้งที่ไม่ได้หลบตาหรือเอี้ยวตัวไปไหนแล้วมองตรงไปยังเตียงอีกฝั่ง
“หรอ แล้วทำไมถึงเลือกนั่งอีกเตียงล่ะ” คิงค้ำมือข้างหนึ่งลงข้างควีนทำให้ระยะห่างของใบหน้าทั้งสองคนที่ใกล้กันอยู่แล้วยิ่งใกล้กันเข้าไปอีก
“แค่ชอบ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลือกที่จะอยู่กับมันซะหน่อย” ควีนช้อนตาขึ้นตอบด้วยความแน่วแน่
“ฮึๆ น่าสนใจนิ” คิงโค้งตัวเองไปใกล้ควีนจนเหมือนเป็นการกอดควีนแต่ก็แค่แป้บเดียวเท่านั้นคิงก็ถอยตัวออกมาพร้อมกางเกงในมือ แถมใส่ยังมันต่อหน้าควีนอีก ควีนได้แต่มองตามแต่ก็ไม่ได้ว่าหรือรู้สึกอะไรเพราะยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน
“อยู่กับใครหรอ” ควีนไม่ได้ตอบกลับแต่เลือกที่จะถามแทน
“ไอ้พากย์ ไอ้เดือนหมอที่เราเจอที่โรงอาหารวันนั้นแหละ”
“อ้อ”
“เสร็จแล้ว ไปกันเถอะ” แล้วทั้งสองจึงเดินออกจากห้องไปยังด้านล่างลานจอดรดมอเตอร์ไซค์ที่เรียงรายกันอยู่ และคิงก็หยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าๆออกมาโทรหาให้สักคนที่ดูเหมือนจะรุ่นเก่ายิ่งกว่าควีนอีกที่สมัยก่อนเขาบอกปาหัวมายังไม่แตก
“ไอ้พากย์วันนี้กุยืมมอไซค์ก่อนนะ” คิงพยักหน้าไปยังบิ๊กไบค์ที่เด่นเป็นสง่าจากเพื่อนอยู่คันเดียว “ใส่หมวกกันน็อคด้วย” คิงหันมาบอกควีนใส่หมวกกันน็อคที่ห้อยอยู่กับตัวรถ “สาวที่ไหนล่ะ เด็กข้างทางแถวนี้แหละ ก็เก็บเขามาด้วยเห็นเดินอยู่คนเดียวน่าสงสาร” ควีนที่เดินไปหยิบหมวกกันน็อคแต่ไม่ได้สวมให้ตัวเองแต่กลับเดินมาสวมให้คิงแทน
“เดี๋ยวผมจะเสียทรง นายใส่ไปเถอะ” เมื่อเสียงของควีนแทรกลอดสายออกไปที่ดูเหมือนทางนั้นจะสปีคเกอร์โฟนหลังจากที่คิงบอกว่าจะไปส่งเด็ก ก็มีเสียงของเพื่อนๆหลายส่งเสียงโฮ่ แซวกันเซงแซ่ผ่านสายมา
‘ฮิ้วววววววว ไอ้คิงมีเด็กใหม่เว้ยพวกมึง’
‘เสียงหวานจังเลยคร้าบบบบบ’
‘เฮ้ย ทำไมเสียงเหมือนน้องคินตาคนสวยของกูจังว่ะ ไอ้คิงมึงไปกับใครว่ะ บอกกูมานะ!!’
คิงไม่ได้ตอบกลับไปแต่ตัดสายแล้วคร่อมขึ้นรถทันที
“ขึ้นมาสิ” แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วทันทีที่ควีนขึ้นรถซ้อนท้าย
 

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-06-2015 03:43:05
จูนเป็นแม่สื่อไม่ได้ตั้งใจ  :-[

มีเรียกชื่อควีนเป็นคิงด้วยค่ะ ช่วงแรกๆ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-06-2015 22:11:33
มีมวลความsexyกันตลอดๆ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-06-2015 01:19:00
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 19-06-2015 07:42:23
อืม ก็ยังดีที่ควินมีภูมิต้านทานดี สรุปเตียงไหนของคิงกันแน่รูปแอ็คชั่นหรือรูปผู้หญิงเกือบเปลือยนั่น คิงกำลังทดสอบอะไรควีนรึเปล่า รอต่อไป โทรศัพท์ไม่ต่างกันเลยทั้งสองคน มีอะไรที่เหมือนกันสองอย่างแหละ 1น่าตาดีทั้งคู่ 2โทรศัพท์ 3การใช้ชีวิตอะนะ รอดูกันต่อไป อ่านแล้วเหมือนมันสั่นๆ รอๆต่อไป
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 17-07-2015 00:43:49
มาแบ้วววววววววววววว  :katai2-1: :katai2-1: หายไปซะนานเลย55555555 คิดถึงคิงกะควีนกันไหมเอ๋ย ตอนนี้ไม่มีไรมากแค่คุยกันงุงิ้  :z2: :z2: :z2:




                                                                            Chapter  6


      บิ๊กไบค์สุดหรูที่ดูโฉบเฉี่ยวดูดีเหมือนทั้งคนขับและคนซ่อนเลี้ยวเข้าไปยังโซนจอดรถของพนักงานทางด้านหลังร้านและทั้งสองก็เดินเข้าร้านไปที่ห้องพนักงาน ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัวพร้อมกันก็เกิดคลื่นมวลประชาชนของร้านแซวทันที
“เฮ้ย! ทำไมพี่คิงมากับพี่ควีนได้หว่ะ” เสียงของประชาชนคนที่หนึ่ง
“เฮ้ย! นี่น้องคบกันหรอ”เสียงของประชาชนคนที่สอง
“คิงกะควีนของร้านมาแล้วเว้ยยยย” ประชาชนคนที่สามก็ตามมา
“ไอ้คิงงงงงง เดี๋ยวนี้มึงหมกเม็ดเหรอว่ะ บอกกูมานะว่ามึงทำอะไรน้องควีนกู” คนที่สี่ก็ไม่ยอมแพ้
“โถว พี่ควีนคนสวยของผม TT”
“เหยดดดดดดดดดดดด”
“โอ้วว ทำไมวันนี้คิงแอนด์ควีน อ้อฟ เดอะ จิลส์ แฮฟเว่น มาด้วยกันได้หว่า” และสุดท้ายเสียงของพี่เดี่ยวถ้าจะเปรียบสถานะในร้านก็คงจะเป็นผู้อาวุโสของบรรดาคณะเจ้าเชื้อพระวงศ์ที่มียศสูงสุดที่ดูแลรักษาเมืองนี้ทักขึ้น  “ว่าไงไอ้แสบ ทำไมวันนี้มาด้วยกันได้ว่ะ หรือว่ามีอะไรบางอย่างระหว่างสองคนนี้” ทั้งสองที่เข้ามายังไม่ได้ตั้งตัวอะไรกะคลื่นเสียงมหาชนล้นหลามอย่างนี้ พอเห็นแบบนี้จึงหันมองหน้ากันต่างยิ้มมุมปากกลั้วหัวเราะขำกับปฏิกิริยาผู้คนตรงหน้า


“ก็ไม่ยังไงหรอกพี่ พอดีอยู่หอเดียวกัน”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว”
“เฮ้ย นี่ถึงขั้นอยู่ด้วยกันแล้วหรอ ไว้ไฟใช่เล่นนะน้องควีน”
“ใช่ที่ไหนหละพี่เดี่ยว” ควีนตอบ “แค่อยู่หอเดียวกันเลยอาศัยรถพี่เขามาพอดีจูนไม่ว่างนะ”
“จริงเหรอหว้า ระดับฝีมือไอ้คิงพระราชาของโคตรเสือเนี้ย จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรอ”
“ฮึๆ บางทีเสือมันก็มีช่วงเวลาที่ต้องซุ่มดูเหยื่อก่อนสิพี่”
“เฮ้ยๆๆ พูดงี้หมายความว่าไงฮะไอ้คิง!.............พูดงี้เหยื่อก้รู้ตัวก่อนดิวะ ฮ่าๆๆๆ” แล้วพี่เดี่ยวก็หันไปพูดกับควีน “พี่ล้อเล่นนะน้องควีน ไม่ต้องเขินจนหนีไอ้คิงมันละ แต่ถ้าน้องควีนกลัวเสืออย่างไอ้คิงหนีมาซบอกแน่นๆของพี่ได้นะ พี่พร้อมปกป้องน้องเสมอ”
“ฮึๆๆ มันก็ต้องดูก่อนแหละพี่ว่าอกใครมันจะแน่นพอที่ผมจะอยากซบได้”
“อู้ววววววววววววววว” และเสียงซาวแทรกทั้งหลายก็ดังขึ้นทันทีที่ควีนพูดจบ
“ซบอกพี่ก็ได้นะคร้าบบบบ น้องควีนถึงอกพี่จะไม่แน่นแต่ก็เร้าร้อนนะคร้าบบบบ”
“ฮิ้ววววววววววว”
“เอ้าๆๆ มั่วแต่เล่นกันอยู่นั่นแหละ ไปแต่งตัวทำงานกันได้แล้วไอ้เด็กพวกนี้ ส่วนน้องควีนวันนี้ไม่ต้องทำงานหรอก”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“วันนี้ไปนั่งพัก นั่งดื่มชิวๆที่ชั้นล่างก็ได้ ไม่ก็ไปนั่งที่บาร์ที่ไอ้คิงประจำอยู่ก็ได้”
“เฮ้ยพี่ ที่ให้ไปนั่งดื่มนี้มีจุดประสงค์อะไรป่ะเนี้ย”
“ป่าววววววว ก็เห็นน้องเหนื่อยทำงานหนักก็อยากให้น้องพักบ้าง เพราะพี่เป็นห่วงหรอกถึงให้ไปพักผ่อน”
“หรออออออออ เฮีย” เสียงของพนักงานในห้องแซวขึ้นด้วยความหมั่นไส้สุดๆ
“เอาดีๆ สิครับ ถ้าไม่บอกเหตุผลที่แท้จริง ผมว่าผมกลับไปพักผ่อนที่หอก็ได้นะ”
“โถ้ววว น้องควีนเห็นพี่เป็นคนยังไงครับเนี้ย”
“ก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ไงเฮีย ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“หุบปากไปเลยไอ้แคน เดี๋ยวจะโดนหักเงินเดือนนะมึงถ้ายังไม่เอาหมาในปากกลับเข้าคอก”
“ชิส์ งอลลล”
“งอนไปเถอะมึง อย่าไปสนใจที่มันพูดเลยครับน้องควีน” ว่าแล้วก็หันยิ้มให้ควีนต่อ
“อย่ามาทำเนียนเปลี่ยนเรื่องนะพี่เดี่ยว”
“โธ่วว น้องควีนก็ ก็พี่เป็นห่วงจริงนี่ครับ ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยนะ         ง่ะ! ไม่เห็นต้องทำหน้าดุเลย บอกแล้วก้ได้ครับ ก็ตั้งแต่ที่น้องควีนขึ้นโชว์วันนั้นก็มีแต่ลูกค้าเข้ามาถามหาน้องกับไอ้คิงกันทั้งนั้น คือพี่ไม่ได้ให้น้องควีนไปบริการลูกค้าอะไรนะ แค่จะให้ไปนั่งสวยๆเป็นราชินีให้ร้านของเราเฉยๆ”
“พูดง่ายๆคือไปเป็นตุ๊กตาให้ลูกค้าชม”
“หุบปากไปไอ้แคนเดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยนะมึง”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ส่วนแคนที่โดนดุก็ไม่ได้กลัวแต่อย่างใดแต่กลับหัวเราะชอบใจที่แหย่เจ้านายตนได้
“เห็นไหมครับ ว่าพี่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ไม่ดีเลยนะ มีแต่ได้กับได้ทั้งสองฝ่ายพี่ก็ได้ทำให้ลูกค้าดีใจที่ได้เจอควีนอ้อฟจิลส์แฮฟเว่นและควีนก็ได้พักผ่อนไง เห็นไหม วินๆกันทั้งสองฝ่าย”
“หรา เฮีย”
“ไอ้แคน!!!!!!!!!!!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” และทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะกับท่าทีของเจ้านายตัวเองรวมทั้งควีนที่รู้สึกขำกับการแถข้างๆคูๆของพี่เดี่ยว
“ว่าไงครับน้องควีน”
“คดีเก่ายังไม่เคลียเลยนะครับพี่เดี่ยว นี่จะเพิ่มคดีใหม่แล้วหรอ”
“โธ่ น้องควีนก็พูดไป ครั้งนั้นมันฉุกเฉินนี่ครับ”
“แล้วครั้งนี้ล่ะครับ”
“ครั้งนี้มันก็.......... โธ่น้องควีนอ่ะ TT”
“ฮึๆ ยอมรับแล้วใช่ไหมครับว่าตั้งใจ”
“ครับ ว่าแต่.........น้องควีนตกลงนะครับ” พี่เดี่ยวที่ทำหน้าสำนึกผิดได้แค่สามวิก็กลับมาแกล้งทำหน้าขอร้องเต็มที่
“ฮึๆ ก็ได้ครับแต่ติดคดีไว้สองกระทงแล้วนะครับ”
“คนสวยอย่าใจร้ายสิครับ”
“ไปกันเถอะราชินีคนสวยเดี๋ยวจะพาไปจะไปพบปะประชาชน ฮึๆๆ” คิงที่นั่งมองทั้งสองคุยกันเมื่อเห็นว่าควีนตกลงจึงเอ่ยปากชวนทันที และเดินนำเข้าไปในร้านไปยังบาร์ประจำตัวของคิง เพราะในร้านค่อนข้างใหญ่และแบ่งเป็นสัดส่วนบาร์จึงมีหลายบาร์เพื่อการบริการลูกค้าอย่างทั่วถึงตามโซนต่างๆ แม้ว่าบาร์ของคิงจะอยู่ในโซนด้านล่างที่เป็นส่วนรองรับลูกค้าทั่วไปแต่ด้วยมุมของบาร์ที่ไม่ได้อยู่กึ่งกลางจนเกินไปอีกทั้งตอนนี้ร้านเพิ่งจะเปิดได้ไม่นานทำให้ลูกค้ายังไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ เมื่อทั้งสองเดินมาถึงบาร์คิงก็เดินอ้อมเข้าไปยังด้านในและควีนก็นั่งลงด้านหน้าบาร์และเท้าคางมองคิงที่เตรียมของเพื่อจะทำงาน
“อยากดื่มอะไร” คิงที่จัดเตรียมอุปกรณ์ของตัวเองหันมาถามควีน
“อะไรก็ได้ ทำมาเถอะดื่มได้หมดแหละ”
“ฮึๆ ถ้างั้นให้ตัวแรงๆไป ก็ไม่เป็นไรสินะ”
“ก็ถ้าไม่แรงจนดื่มแก้วสลบก็ดื่มได้”
“หว้า งั้นว่าจะมอมเหล้าซะหน่อยก็ยากแล้วนะสิ”
“มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมอมไปเพื่ออะไรต่างหาก”
“ฮึๆ” คิงที่ไม่ได้ตอบแค่หัวเราะพอใจแล้วหยิบส่วนผสมนู้นนั่นนี้ที่ควีนก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรมาผสมกันแล้วเขย่าอย่างมีลีลาพร้อมกับเทใส่แก้วยื่นมาให้ควีน
“คอกเทลเบาๆร้องท้องไปก่อน” ควีนหยิบคอกเทลขึ้นมาจิบเพื่อชิม รสชาติหวานนำเปรี้ยวตามเหมือนดื่มน้ำผลไม้ที่เย็นสดชื่นทำให้รู้สึกกระปรี้กระเป่าขึ้นมาได้
“ใช่ได้นิ”
“ถ้าเกิดว่าใช้ไม่ได้นี่สิจะเป็นเรื่อง เสียชื่อบาร์เทนเดอร์ที่สะสมมานานกันพอดี”
“แล้วนี่เป็นบาร์เทนเดอร์มานานแค่ไหนแล้ว”
“5ปี”
“ทำงานที่นี้ตั้งแต่เริ่มเป็นบาร์เทนเดอร์เลยป่าว”
“ป่าวหรอก  เพิ่งเริ่มทำที่นี้ตอนเข้ามาเรียนปีหนึ่งนี่แหละ”
“แล้วทำไมถึงมาเป็นบาร์เทนเดอร์ได้”
“ก็ทำงานหาตังค์ในร้านกลางคืนแบบนี้แหละ พออยู่ไปนานๆมันก็เริ่มรู้เยอะ อีกอย่างก็ชอบด้วยเพราะการได้ผสมนู้นนั่นนี่มันก็สนุกดีเราได้คิดหาสูตรใหม่ๆมาให้คนอื่นชิมพอคนชิมเขาแสดงผ่านสีหน้าบ่งบอกว่ามีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้มันก็มีเสน่ห์ดี”
“อ่อ ขี้เหล้านี้เอง”
“ก็ว่าไปนั่น อ้อ! แล้ววันนั้นที่บอกว่าพี่แพ้ มั่นใจได้ยังไงว่าพี่แพ้จริงๆ”
“ก็หลักฐานมันเห็นอยู่ชัดๆว่าโดนโกงตั้งแต่แรก”
“ฮึๆ เขาไม่ได้โกงแต่มันมีไว้เพื่อพิสูจน์ว่าเราเก่งจริงรึเปล่า”
“แต่ควีนมีหมัดเด็ดไว้น้อคเอ้าท์นะ”
“ไอ้บุหรี่กลิ่นมิ้นต์อันนั้นของพี่อะน้ะ?”
“ใช่”
“ยังไง”
“ก็.............เครื่องดื่มอันนั้นมันมีกลิ่นมิ้นต์ของบุหรี่ตัวนั้นอยู่ที่ตรงนี้นะสิ” ควีนยื่นมือไปแตะเบาๆที่ริมฝีปากล่างของคิงแล้วยิ้มอย่างลึกซึ้ง
“ฮ่ะๆ สงสัยจะแพ้จริงๆว่ะ”

ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันไปก็มีลูกค้าที่เข้ามาแวะเวียนทั้งสอง ทั้งที่เป็นลูกค้าของคิง คนที่ติดตามข่าวเพื่อที่จะมาดูหน้าควีนบ้าง บางคนก็เข้ามาขอถ่ายรูปทั้งสองหรือแม้แต่นั่งมองควีนอยู่ห่างด้วยความหลงไหลก็มีแต่ก็ไม่มีใครที่จะกล้าอยู่คุยกับควีนด้วยนานๆอาจเพราะคิดว่าทั้งสองเป็นแฟนกันหรืออย่างไรเพราะสายตาของคิงที่มองอยู่ตลอดเวลามันแผ่รังสีความน่ากลัวออกมาด้วยแม้ว่าคิงจะยุ่งอยู่กับการทำงานของตน แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกคน
“นี่คงจะเป็นควีนแห่งจิลส์แฮฟเว่นสินะครับ” หนุ่มหลุ่มผิวแทนเข้ม แบบชายไทยทั้งหน้าตาและสีผิวเดินเข้ามาทักควีนที่นั่งอยู่
“อ่อ ครับ” ควีนหันกลับไปตอบและหันหน้ากลับมายังแก้วคอกเทลแก้วที่สี่ที่คิงชงให้ไม่รู้ว่าจะตั้งใจมอมควีนอย่างที่พูดไว้ด้วยรึเปล่า
“สวยอย่างที่เขาล่ำลือจริงๆนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมแทนครับ” แทนยื่นมือมาตรงหน้าควีนแต่ควีนแค่หันมายิ้มให้เฉยๆ เขาจึงแค่ยักไหล่เหมือนไม่ได้ถือสาอะไรและลดมือลงพร้อมกับนั่งเก้าอี้ข้างๆควีน “ผมขอเลี้ยงสักแก้วเพื่อเป็นการแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ได้ไหมครับ” เขาชะโงกหน้าไปดูแก้วเครื่องดื่มของควีนแล้วยื่นหน้าทำเหมือนยื่นเข้าไปดมกลิ่นใกล้ๆควีนนั่นจึงทำให้ควีนชะงักไปนิดหน่อย
“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าระดับควีนแล้วจะดื่มของเด็กๆแบบนี้” เขายิ้มเยาะให้ “ระดับควีนแล้วก็ต้องดื่มอะไรที่เหมาะสมกับชื่อหน่อยสิ” และเขาก็หันไปสั่งเครื่องดื่มจากคิงที่ดูเหมือนจะมองเขาอยู่ก่อนแล้ว “ผมขอเตกีล่าแก้วให้คนราชินีสวยหน่อยนะครับ”
“ไม่คิดว่าจะเลี้ยงสร้างสัมพันธ์ด้วยเครื่องดื่มที่แรงไปหรอครับ” คิงพูด
“ฮึๆๆ ไม่หรอกครับผมดูคนออกว่าคนไหนควรดื่มอะไรและรับมือได้แค่ไหน”
“เก่งจังนะคับ”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ขอแก้วหนึ่งให้ควีนและอีกแก้วของผมนะครับ” คิงที่ไม่ได้มีสิทธิ์จะปฏิเสธลูกค้าได้จึงได้แต่ทำตามหน้าที่
“นี่ครับเครื่องดื่มที่สั่ง” คิงยื่นเครื่องดื่มให้และแทนก็รับมาแล้วส่งให้ควีนที่ยื่นมือรับแต่กลับถูกกุมไว้ด้วยมือแทน ทันทีที่ถูกจับควีนจึงจะชักมือกลับแต่มือของแทนที่จับแน่นเกินไปที่จะหลุด
“ขอบคุณนะครับสำหรับเครื่องดื่มแต่ปล่อยมือผมด้วย”
“เพื่อเป็นการเป็นเกียรติแก่ตัวผมที่ครั้งหนึ่งได้เจอควีนให้ผมเป็นคนป้อนได้ไหมครับ”
“คงไม่เหมาะมั้งครับ”
“นะครับ” เขาพูดพร้อมกับทำหน้าตาขอร้องสุดฤทธิ์และบีบมือควีนที่ถูกกุมอยู่
ควีนได้แต่พ้นลมหายใจด้วยความรำคาญจึงตัดบทให้ทุกอย่างแล้วเสร็จไปด้วยการพยักหน้าตกลงเพราะอยากปล่อยมือออกมาเต็มที ในจังหวะที่แทนกำลังยื่นเครื่องดื่มมาป้อนให้ควีนก็มีคนด้านหลังเดินมาเบียดแทนเบาๆแต่เหมือนแรงส่งผลักแทนไปด้านหน้าดูจะแรงเกินเหตุไปหน่อยทำให้น้ำจากในแก้วกระเด็นโดนควีนจนเปียกชุ่ม
“อุ้ย!! ขอโทษครับ” แทนที่ขอโทษแล้วพยายามเข้ามาเช็ดน้ำตามตัวของควีน แต่ควีนที่ยังไม่ได้พูดอะไรกลับเซไปด้านหลังปะทะกับอกแกร่งของคิงที่กอดเอวควีนเข้ามาหาตัวเอง
“ถ้าเลี้ยงเครื่องดื่มสานสัมพันธ์เสร็จแล้ว ผมขอตัวคนของผมก่อนนะครับ”
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-07-2015 01:48:52
แหมะ มีหวง
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-07-2015 07:04:39
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 17-07-2015 10:19:15
ตัดฉับได้เจ็บปวดมาก ไม่ใช่หวง แต่อ่านเกมออกตั้งหากว่าคนชื่อแทนมีจุดประสงค์อะไร ใช่ไหมคิง กับคนที่สนใจใครจะยอมเสียไปง่ายๆจริงป่ะ คนชื่อแทนนี้แผนสูงเนอะ คึคึ อยากรู้ว่าเป็นใครแล้วมีจุดประสงค์อะไรมากกว่า นายเอกเราต้องเด็ดนะ รอแต่ให้คิงปกป้องบ่อยๆก็คงแย่ รอตอนต่อไปรีบมาเร็วๆเลย
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 01-08-2015 23:24:31
คิดถึงจังเลยยคร้าาาาา ตอนนี้เรายังไม่ได้นิยายนะ แค่แวะมาทักทายเฉยๆช่วงที่ผ่านมายุ่งมากๆเลย55555 แต่หลังจากนี้ไไปเดี๋ยวจะพยายามกลับมาลงให้บ่อยที่สุดเท่าที่สมองเราจะพึงมีได้และคิดออก โปรดอย่าใส่ใจกับตอบนี้ถ้าหากว่าอ่านแล้วมันเป็นโพสที่ไร้สาระเพราะว่าคนเขียนก็ไร้สาระเช่นกัน :hao6: :hao6: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 01-08-2015 23:43:28
 :katai2-1:

แอบเข้ามารอ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 04-08-2015 18:27:14
           

           :impress2: :impress2:มาแล้วนะตัวเองงง ตอนนี้ก็ไม่มีไรมากแค่พูดกันงุงิฟุฟิจิบิก้า :hao3: :hao3: :hao3:
 



                                                                   Chapter 7


   คิงจูงมือพาควีนเดินมายังห้องแต่งตัวของพนักงานพอถึงห้องคิงก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อออกมาตัวหนึ่งแล้วผ้าแล้วยื่นให้ควีน
“ไปล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อสิ” ควีนไม่ได้ปฏิเสธและรับเสื้อมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป สักครู่ผ่านไปควีนจึงเดินออกมาด้วยสภาพตัวเปียกแถวช่วงหน้าท้องที่เคยเลอะเครื่องดื่มและเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้ติดกระดุมสักเม็ดเผยให้เห็นผิวขาวเนียน
“ทำไม่ออกมาสภาพนี้” คิงที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้เอ่ยถาม
“ก็ให้ไปแค่เสื้อแล้วจะเอาผ้าที่ไหนเช็ด”
“อ้อ โทษทีพอดีลืม ฮ่ะๆ” คิงที่อมยิ้มหน่อยๆแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้แล้วยื่นไปตรงหน้าควีนเพื่อให้ควีนเช็ดตัว ในขณะที่ควีนเช็ดตัวก็มองควีนเช็ดตามตัวไปเรื่อยๆตั้งแต่หน้าท้องขึ้นมายังหน้าอกเนียนชมพูเมื่อควีนเช็ดตัวเสร็จ คิงก็ยื่นมือไปรับผ้า
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเก็บเอง”
“ใครบอกจะเก็บ”
“หืมมม แล้วจะทำไร”
“จะเช็ดให้นะสิ”
“อ้าว เช็ดเสร็จแล้วนะ ยังมีตรงไหนอีกหรอ” เมื่อคิงพูดแบบนั้นควีนก็เอาเช็ดไปตามตัว
“เอามานี่มาเดี๋ยวเช็ดให้” พูดเสร็จก็เอื้อมมือไปหยิบผ้ามาแล้วเช็ดไปที่ศรีษะของควีนเบาๆ
“ฟองสบู่นะ” คิงยื่นผ้าที่ติดสบู่มาให้ควีนดู
“แล้วทำไมไม่บอก”
“ก็........” คิงเว้นวรรคพูดนิดนึงแล้วมองตาควีน “น่ารักดี”
“ฮึๆ” ควีนได้แต่อมยิ้มกับคำชมของคิง “จะแกล้งกันสิไม่ว่า แล้วนี่เสร็จแล้วใช่ไหม”
“ยัง” คิงเดินเข้าไปใกล้ควีนกว่าเดิมแล้วยื่นมือหนาไปแตะที่ปลายคิ้วควีนเบาๆและไล้จากหัวคิ้วไปยังหางคิ้ว
“มีสบู่ตรงนั้นด้วย?” ควีนเงยหน้าถามคิงแม้ว่าทั้งคู่ดูเหมือนจะสูงไล่เลี่ยกันแต่คิงก็ยังสูงกว่าควีนอยู่ดี นั่นต้องทำให้ควีนเงยหน้านิดหน่อยเพื่อมองหน้าคิงได้ถนัดเมื่อต้องคุยกันในใกล้ระยะขนาดนี้
“เปล่าหรอก แค่น้ำนะ” มือหนาที่เช็ดน้ำจากหางคิ้วค่อยๆไล้มืออย่างแผ่วเบาลงมายังแก้มขาวที่ระเรื่อชมพูหน่อยๆเพราะฤทธิ์เครื่องดื่มแอลกฮอลล์ที่ควีนดื่มไปก่อนหน้า
“ตรงนั้นไม่ได้เปียกนะ” ควีนบอกแต่ก็ไม่ได้ปัดมือคิงทิ้งส่วนคิงก็แค่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น
“เบื่อไหม” และดูจะไม่ได้สนใจที่ควีนพูดไปเมื่อกี้สักเท่าไหร่
“อะไร”
“ก็ที่วันนี้ต้องนั่งที่บาร์โดยไม่ได้ทำอะไรแถมยังต้องคอยต้อยรับลูกค้าอีก”  ควีนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่คิงถามตนเรื่องนี้
“ก็เฉยๆอ่ะ ไม่ได้ถึงกับเบื่อ”
“รู้ใช่ไหมที่พี่เดี่ยวกับพี่จิลทำอะไรอยู่” ในขณะที่พูดคิงก็ไม่ได้ละมือออกไปจากหน้าควีนเลยหากแต่ไล้ลงมาเรื่อยๆยังริมฝีปากควีน
“รู้” ควีนรู้ว่าที่คิงพูดหมายถึงเรื่องที่พี่จิลกับพี่เดี่ยวให้ตนมาเป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้ามายังร้าน “แต่ถ้าเลือกได้ก็ชอบทำงานในส่วนเดิมมากกว่า”
“ทำไม ไม่ชอบหรอ”
“ก็มันไม่มีอะไรน่าสนใจ”
“แล้วถ้าพี่ทำให้มันน่าสนใจได้ล่ะ” ปลายนิ้วคิงไล้วนที่ริมฝีปากควีนและค่อยๆนวดคลึงริมฝีปากล่างควีนเบาๆ
“ยังไง”
“เอาไว้วันหลังเราไปนั่งที่บาร์พี่อีกแล้วจะบอก”
“ได้ค่าจ้างจากพี่จิลเท่าไหร่เนี่ย”
“ฮึๆ ก็เท่าเดิมไม่เพิ่มไม่ลด แต่ถ้าเป็นค่าจ้างอย่างอื่นค่อยว่าไปอย่าง”
“อะไร”
“ก็........” คิงค่อยๆก้มหน้าลงไปใกล้ควีนจนริมฝีปากทั้งสองแตะกันเบาๆ






“น้องควีนเป็นอะไรรึ..ปะ.......เปล่า” และบุคคลที่สามที่ทั้งสองคุยกันก่อนหน้าก็โผล่แบบพรวดพราดจนทั้งสองผละตัวออกจากกัน “เอิ่ม....พี่เข้ามาผิดจังหวะเปล่าว่ะ” เมื่อเห็นสภาพทั้งสองพี่เดี่ยวดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่าเข้ามาไม่ถูกเวลา
“ไม่ได้เป็นไรหรอกพี่ แค่ตัวเลอะเหล้านะเลยเข้ามาล้างตัว”ควีนตอบพร้อมทั้งติดกระดุมตัวเองไปด้วย
“อ้อ” พี่เดี่ยวตอบพร้อมกับหน้าที่ดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนเจ้าเล่ห์อีกแล้ว “แล้วนี่ ทำไรกันอยู่อ่ออออออออ”
“เช็ดตัว” คิงตอบ
“อื้มมม เช็ดกันเพลินเลยเนอะ”
“แต่เสร็จแล้วครับ”
“พี่ว่าเสร็จอยู่นะถ้าพี่ไม่เข้ามาก่อน ใช่ป่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ถึงพี่จะเข้าหรือไม่เข้ามาผมก็เสร็จอยู่ดีละครับ” ควีนตอบกลับ
“โอ้วววว คริๆๆ” พี่เดี่ยวพอเราะพอใจที่ได้ยินควีนตอบกลับมาอย่างนั้น
“ก็เสร็จจริงนะๆ ดูสิ”
“ครับๆ  เสร็จจริง” พี่เดี่ยวพูดทั้งทำหน้าทำตาเจ้าเล่ห์ใส่คิง
“ถ้าน้องทั้งสองทำเสร็จแล้ว ก็กลับบ้านได้เลยนะไม่ต้องอยู่ต่อหรอก ตอนนี้ลูกค้าก็เยอะมากแล้วอันที่จริงถึงน้องไม่เข้ามาก่อนพี่ก็ว่าจะมาบอกอยู่พอดี เปิดตัววันละนิดละหน่อยพอ ของดีต้องเก็บไว้ดูนานๆเนอะ งั้นพี่ไปก่อนล่ะ จะต่อให้เสร็จก็ได้นะพี่ไม่ว่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”พูดเสร็จก็เดินหัวเราะอารมณ์ดีออกไปเลย
“งั้นก็กลับเลยละกัน”คิงหันมาพูดเมื่อพี่เดี่ยวออกไปแล้วและควีนก็ยักไหล่รับแทนคำตอบ
     เมื่อทั้งสองขับรถมาได้ถึงกลางทางคิงก็ผ่อนรถและจอดเทียบริมฟุตบาทข้างๆร้านข้าวต้มเล็กๆที่คึกคักไปด้วยผู้คนที่ออกมาหาอะไรทานในยามดึกๆ
“อะไร” ควันถามทันทีที่คิงจอดรถ
“หิว” สั้นๆง่ายๆได้ใจความ พูดเสร็จก็นำหน้าไปนั่งโต้ะที่ว่างอยู่ ส่วนควีนก็เดินตามมานั่งลงพร้อมมองบรรยากาศรอบๆ ที่มีร้านอาหารเล็กๆอีกสองสามร้านข้างๆกันแม้จะดูเล็กแต่ก็คึกครื้นพอตัวอาจจะเพราะเป็นร้านอาหารที่ใกล้หอพักนักศึกษาด้วยก็ได้
“กินไร”
“แล้วที่นี่มีไรบ้าง”
“ข้าวต้ม”
“แล้วอย่างอื่นล่ะ”
“ข้าวต้มปลา ขายแค่นี้”
“แล้วจะถามเพื่อ”
“ฮึๆ” แม้หน้าจะนิ่งๆแต่ไอ้ประโยคที่พูดมาเมื่อกี้ของคิงก็ทำให้ควีนรู้สึกว่าคิงนั้นกำลังกวนตนอยู่ “ป้าครับ เอาข้าวต้มสองที่ครับ” คิงหันไปสั่งอาหารแล้วคุยกับควีนต่อ “เคยมากินที่นี่สักทียัง”
“ยังเลย”
“ที่นี่ข้าวต้มอร่อยนะ เมนูที่แนะนำที่ต้องกินเมื่อมาถึง”
“ก็ขายอย่างเดียวไม่ใช่”
“ก็ใช่ไงถึงเป็นเมนูแนะนำให้กินของร้าน อีกอย่างร้านนี้อร่อยสุดแล้วละแวกม.เรา”
“แล้วร้านอื่นอยู่ที่ไหนบ้างอ่ะ ทำไมตั้งแต่เข้ามายังไม่เคยเจอเลย”
“ก็มีร้านเดียวไง” ควีนยังไม่ทันได้ตอบอะไรข้าวต้มปลาร้อนๆก็มาเสิร์ฟพอดี
“นี่จ้ะ ข้าวต้มปลาสำหรับสุดหล่อผัวน้อยของป้า” ป้าเจ้าของร้านเดินมาเสิร์ฟพร้อมทักทายคิงด้วยความสนิทสนม
“ขอบคุณครับ” คิงรับถ้วยข้าวต้มมาแล้วยกให้ควีนก่อน
“ให้มันน้อยๆหน่อยยัยโรส ผัวหลวงยังยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ” ลุงที่เป็นผัวของป้าตะโกนข้ามมาในขณะที่กำลังเก็บจานอยู่อีกโต๊ะใกล้ๆ
“อะไรย่ะ ตาแจ็ค ผัวน้อยฉันหายไปตั้งนานเพิ่งจะเห็นหน้า ความคิดถึงมันก็ล้นทะลักคับอกชั้นนะสิ”
“พูดอะไรก็เกรงใจเมียไอ้เสือคิงมันหน่อย”
“โอ้ย โทษทีจ้ะหนู ป้าแค่หยอกเล่นนะไม่ต้องคิดจริงจังไป แต่ถ้าไอ้เสือคิงมันคิดจะจริงจังป้าก็ยินดี ฮ่าๆๆๆ”
“ฮึๆ ครับ” ควีนได้แต่หัวเราะน้อยให้กลับความขี้เล่นของป้าลุงทั้งสอง
“อ้าว ทำไมครับละหนูเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ” ป้าถาม
“ผมเป็นผู้ชายครับแค่ไว้ผมยาวเฉยๆ”
“ห้ะ นี่เป็นผู้ชายหรอกเหรอ ทำไมสวยอย่างกับผู้หญิงอย่างนี้ละหนู โอ้ย ก็นึกว่าเป็นเมียไอ้เสือคิงมันซะอีก ตอนแรกป้าเห็นมาด้วยกันเสียใจแทบแย่นึกว่าต่อไปนี่จะไม่มีผัวน้อยหล่อให้แทะเล็มซะแล้ว”
“โอ้ยยย  ยัยโรส หัดดูสังขารร่างกายตัวเองมั้งที่พูดมาอายเด็กมัน”
“ทำไมย่ะ ฉันออกจะสวย”
“จ้ะ สวยแต่ไม่เท่าไอ้หนูมัน ถ้าให้เลือกระหว่างยัยป้าแก่ๆหนังเหี่ยวอย่างแกกับผู้ชายที่สวยอย่างกับนางฟ้าอย่างไอ้หนูนี่ ใครต่อใครเขาก็คงเลือกไอ้หนูทั้งนั้นแหละ”
“อุบ้ะ! ตาแจ็คแกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”
“อ้าว ฉันก็พูดเรื่องจริงคนอื่นเขาก็ต้องเลือกไอ้หนูหน้าสวยอยู่แล้วเพราะยัยป้าแก่ๆอย่างแกก็มีฉันแล้วนี่ไงเป็นเจ้าของ”
“อุ้ย แกก็..พูดอะไรอายเด็กมัน” ป้าที่ดูจะเขินกับคำพูดลุงแล้วบิดตัวไปมาแล้วหันมาพูดกับท้งสองคน “ไอ้ตาแจ็คนี่พูดออะไรก็ไม่รู้เนาะ อายพวกแกจัง ยังไงพวกแกไม่ต้องอิจฉาหรอก ป้าเชื่อว่าหนุ่มสาวเมื่อมีความรักอารมณ์รักมันต้องพลุ่งพล่านมากกว่าป้ากับลุงอยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆๆ ป้าไม่กวนแล้ว กินเถอะๆเดี๋ยวข้าวจะเย็นหมด” พูดเสร็จป้าก็เดินไปหอมแก้มลุงดังฟอดเลย
“โอ้ย ยัยโรสทำอะไร อายคนเขาเดี๋ยวก็โดนจัดหนักหรอกคืนนี้ ฮ่าๆๆ”
“ฮิ้ววววววว” เสียงผู้คนในร้านแซวขึ้นเมื่อลุงพูดหยอกเมียตัวเองเช่นนั้น
“ฮึๆๆๆ” ควีนที่ยิ้มและหัวเราะให้กับความน่ารักของลุงป้าทั้งสอง แล้วหันมาหยิบช้อนเพื่อที่จะกินข้าวแต่กับต้องชะงักเพราะคิงที่กำลังจ้องตนอยู่จนต้องถามออกมา
“อะไร”
“ยิ้ม”
“ยิ้มแล้วทำไม”
“เปล่า แค่ ....น่ารักดี ไม่เหมือนตอนที่หน้านิ่งๆแล้วดูหยิ่ง”
“อืม ไอ้ที่ว่าหน้านิ่งแล้วหยิ่งไอ้คนที่ถามนี่ก็ไม่ได้ต่างนะ”
“ยิ้มแล้วน่ารักก็เป็นเหมือนกันนะ ไม่ต่าง”
“เหรอ”
“ไม่เชื่อเหรอ” ควีนยักไหล่ให้คิงแทน
จากนั้นคิงก็ยิ้มให้ควีนดูอย่างที่พูดแม้จะไม่ได้ยิ้มสดใสจนเห็นฟันแต่ยิ้มน้อยๆพร้อมดวงตาที่สื่อออกมามันก็ทำให้ควีนเชื่ออย่างที่คิงบอกจริงๆแถมยังทำหัวใจควีนสั่นน้อยๆด้วยต่างหาก
“ที่นี่เชื่อยัง” พอยิ้มเสร็จก็หันมาหน้านิ่งเหมือนเดิม
“อือ”
“อือ นี่คือเชื่อว่า”
“น่ารัก” พอพูดเสร็จควีนก็ก้มหน้าทานข้าวทันที











หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 04-08-2015 19:24:56
เขาหวานกกันจริงนะ ตอนนี้อ่านแร้วน่ารักอะ รอต่อไปนะ  ทั้งสองคนรีบๆมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 05-08-2015 17:30:28
                          :really2: :really2: มาแย้วๆๆๆๆ เอาครึ่งแรกไปก่อนนะ ตอนนี้เริ่มขยับเลเวลจากคุยกันแบบน่ารักมาเร้าร้อนนิดหน่อยนะตัวเอง กิๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao3: :laugh: :laugh: :pighaun: :pighaun:


                                                                     Chapter 8

 
  หลังจากที่ทั้งคู่ทานข้าวเสร็จและแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใต้หอนิดหน่อยก่อนจะเดินขึ้นห้องกัน
“อร่อยดีนะ” ควีนบอกหลังจากที่ทานข้าวต้มหมดไปสองถ้วย
“ก็ของขึ้นชื่อ”
“ที่มีร้านเดียวและขายแค่อย่างเดียวนะเหรอ”
“อือ” พอทั้งสองมาถึงหน้าห้องก็แยกทางกันโดยไม่ได้เอ่ยลาอะไร คิงก็เปิดประตูเข้าห้องไปส่วนควีนก็กำลังควานหากุญแจในกระเป๋าแต่ก็ไม่พบสักที จนแล้วจนรอดควีนจึงคิดขึ้นมาได้ว่าลืมหยิบกุญแจออกมาด้วยเมื่อคิดได้จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจูนทันที
“ฮัลโหลควีน ว่าไง”
“จูนตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ”
“ตอนนี้หรอ เค้าอยู่สนามบินอ่ะ พอดีมีเรื่องด่วนต้องไปญี่ปุ่นอ่ะ ควีนมีไรป่าว”
“อ้าวหรอ พอดีควีนลืมกุญแจไว้ในห้องอ่ะ”
“อ้าว แล้วจะทำไงที่นี่ คือจูนกำลังจะขึ้นเครื่องอีก15นาทีนี้อ่ะ คงกลับไปไม่ทันแล้ว”
“อือ งั้นก็ไม่เป็นไร”
“ลองไปถามพี่ที่ดูแลหอสิ”
“พอดีพี่เขาไปต่างจังหวัดยังไม่กลับเลย”
“งื้อออออ แล้วที่นี้จำทำไงอ่ะ จูนเลื่อนไฟท์ไม่ได้จริงๆอ่ะTT”
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวควีนไปนอนกับเพื่อนคนอื่นก่อนก็ได้”
“เพื่อนคนไหนอ่ะ มันดึกแล้วไม่ใช่หรอ แล้วควีนจะไปยังไง”
“เพื่อนแถวๆนี้แหละ จูนไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ยังไงก็เดินทางปลอดภัยนะ ถึงแล้วก็โทรมาบอกด้วย”
“งั้นควีนก็ดูแลตัวเองดีๆนะ แล้วเดี๋ยวขากลับจะซื้อของไปฝาก”
“โอเคครับ งั้นแค่นี้นะ” ในขณะที่ควีนกำลังคิดว่าจะไปขอนอนกับใครดีเพราะเพื่อนๆในกลุ่มก็พักคอนโดที่ค่อนข้างไกลจากหอพักพอสมควร จะให้ไปพักกับมด ที่พักอยู่หอข้างๆก็ไม่ได้เพราะเป็นหอหญิง เดือนแพทย์สุดเถื่อนเพื่อนของคิงก็เดินเข้ามาทัก
“ยืนทำอะไรหน้าห้อง ไม่เข้าไปสักที”
“อ่อ พอดีลืมกุญแจห้องนะ เข้าไม่ได้”
“แล้วทำไง”
“ก็ว่าจะไปนอนห้องเพื่อนนะ” คิงเมื่อฟังคำตอบก็ยกนาฬิกาขึ้นมาดูซึ่งตอนนี้ก็ล่วงเวลามาจะเที่ยงคืนแล้ว
“ไปนอนกับไอ้คิงสิ วันนี้ไม่อยู่ เตียงว่าง” ควีนก็คิดหนักไม่รู้จะเอาไงดีเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วรถโดยสารก็ไม่มีแล้วอีกอย่างถ้านอนห้องคิงก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมาแต่ค่อนข้างที่จะเกรงใจรุ่นพี่ทั้งสองอยู่มาก
“อือ” ควีนพยักหน้าตกลงเมื่อตัดสินใจได้ ส่วนพากย์ก็เดินเปิดประตูเดินนำเข้าห้องไปคิงที่เตรียมตัวจะไปอาบน้ำเมื่อเห็นบุคคลที่สามที่ไม่ใช่รูมเมทก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“มีอะไร”
“ห้องเข้าไม่ได้ เลยให้มานอนด้วย” พากย์ตอบ
“แล้วมึงอ่ะ”
“กูจะออกไปข้างนอก คืนนี้ไม่ได้กลับและอาจจะหลายคืนด้วย”
“อืม” บอกเพื่อนเสร็จพากย์ก็เดินไปหยิบหนังสือที่โต๊ะทำงานและเดินออกไป
“ไปแล้วมึง เจอกัน”
  พอพากย์ออกไปก็เหลือแค่คิงกับควีนทั้งสองจ้องหน้ากันเฉยๆอยู่สักพักโดยไม่ได้พูดอะไรจนคิงพูดขึ้นมา
“จะอาบน้ำไหม”
“ก็ดี”
“เสื้อผ้าอยู่ในตู้ เลือกเอาเลย เดี๋ยวพี่อาบก่อนเราค่อยอาบต่อ” ควีนพนักหน้ารับรู้ จากนั้นคิงก็เดินเข้าห้องน้ำไป ควีนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกชุดที่ตัวเองพอจะใส่ได้ สักพักคิงก็เดินออกมาด้วยสภาพใส่แค่กางเกงนอนขายาวตัวเดียวอวดหุ่นน่าปล้ำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนที่ออกกำลังเป็นประจำพร้อมกับผ้าขนหนูพาดบ่า จากนั้นควีนก็เดินเข้าไปอาบน้ำต่อ
“แปรงสีฟันอันใหม่วางอยู่ตรงอ้างล้างหน้านะ” คิงบอกเมื่อควีนเดินเข้าห้องน้ำไป    ควีนมองไปตามที่คิงบอกก็เห็นแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้แกะใช้วางอยู่จริงจึงหยิบมาใช้และวางใส่ในแก้วเก็บแปรงสีฟันที่มีแปรงสีฟันเจ้าของห้องอยู่ก่อนแล้ว แม้จะเป็นผู้ชายทั้งคู่แต่เครื่องสำอางบำรุงผิวก็พอมีอยู่พอประมาณ ควีนที่โดยปกติก็บำรุงผิวพรรณตัวเองเป็นประจำอยู่แล้วเห็นดังนั้นก็เลยลองเปิดดมกลิ่นดูจนไปเจอเซรัมบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมดีเลยเปิดมาใช้ทาไปทั่วหน้าและคอ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาพร้อมทั้งเช็ดผมไปด้วย คิงที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานชำเลืองหน้ามาดูควีนเล็กน้อย แล้วหันกลับไปทำงานตนต่อ
“ทำงานหรอ” ควีนเดินเข้าไปใกล้ๆ ชะโงกไปดูงานที่คิงกำลังทำอยู่
“อือ” คิงตอบพร้อมทั้งจัดองค์ประกอบของภาพไปด้วย
“วิชาอะไรเหรอ”
“ถ่ายภาพนะ วิชาเสรี”
“อ้อ” ยื่นดูไปสักพักควีนก็ก้มหน้าลงไปมองจอใกล้ๆคิงจนรู้สึกลมหายใจที่รดต้นคอตัวเอง “ทำไมไม่ลองเบลอข้างหลังดูล่ะ ภาพจะได้ชัดเจนมากขึ้น มันจะได้แสดงอารมณ์ได้ดีขึ้นนะ” ควีนที่ออกความเห็นเมื่อเห็นคิงปรับสีของภาพไปมาแต่ก็ไม่ได้สักที คิงลองทำตามที่ควีนบอกนั้นทำให้ภาพนั้นสวยขึ้นมาจริงๆอย่างที่ควีนบอก
“แล้วมีอะไรอีกไหม” คิงถามด้วยความสนใจ
“อืมม ลองปรับสีให้มันซอฟลงกว่านี้ไหม” คิงปรับภาพตามที่ควีนบอก “อืมมม มันก็ซอฟลงนะแต่ว่ามันจะมีอีกสีหนึ่งที่อ่อนกว่านี้แต่ไม่ได้ทำให้ภาพมันมืดขนาดนี้
“อันไหน”
“อืม จำชื่อไม่ได้แฮะ” ควีนที่จำชื่อเอ็ฟเฟ็คไม่ได้แต่คุ้นๆอยู่เพราะเคยใช้โปรแกรมแต่งภาพนี้อยู่ด้วยความข้องใจจึงเอื้อมมือไปจับเม้าท์แล้วเลื่อนดูเอง นั่นให้ระยะของใบหน้าทั้งสองใกล้กันมากกว่าเดิมจนแทบจะไม่มีช่องว่าง
“อ่ะ นี่ไงเจอแล้ว อันนี้แหละ อ้ะ!” ควีนหันหน้ามาบอกแต่ด้วยระยะห่างของทั้งสองนั้นน้อยนิดอยู่แล้วทำให้จมูกของทั้งสองชนกันเบาๆ และสายตาก็ประสานกัน เหมือนกับทุกๆที่ถ้าทั้งสองประสานตากันเมื่อไหร่มักจะมีแรงดึงดูดระหว่างกันเกิดขึ้นและครั้งนี้ก็เช่นกัน คิงเอียงใบหน้าเล็กน้อยและค่อยๆประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของควีน คิงค่อยๆละเลียดริมฝีปากไปตามรอยแยกของริมฝีปากควีน และสอดลิ้นเข้าไปแม้จะไม่ได้ลุกล้ำมากในเริ่มแรกแต่ก็จูบที่ล้ำลึกพอตัวกลิ้นมิ้นต์จากควีนที่เพิ่งแปรงฟันมาหมาดๆตลบอบอวลไปทั่วทั้งปากจากที่อ่อนโยนในตอนแรกเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันไปมา ควีนที่ไม่รู้เลยถูกดึงตัวลงมานั่งตักคิงตั้งแต่ตอนไหนและถูกกอดเอวตั้งแต่เมื่อไหร่รู้แค่มือคิงที่เริ่มแตะไต่ไปตามแผ่นหลัง
“อื้อ” ควีนครางออกมาเบาๆเพราะเริ่มรู้สึกมากที่เกินกว่าที่มันควรจะเป็น เสียงลมหายใจของทั้งสองเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทั้งสองจูบกันมาหลายนาทีทำให้ควีนเริ่มอ่อนแรงจนต้องวางมือไปยังน่าอกเปลือยเปล่าของคิง
กริ้ง!!!!! เสียงโทรศัพท์ของควีนดังขึ้น นั่นจึงทำให้ทั้งสองมีสติขึ้นมาแต่ดูเหมือนคิงจะไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่ จนควีนต้องเตือนสติคิงด้วยการทุบอกเบาๆเพราะถ้าปล่อยให้คิงตามใจตัวเองเกินไปกลัวจะเป็นควีนมากกว่าที่จะเผลอไผลไปแล้วตามใจตัวเองไปตามคิงด้วย แม้จะถูกทุบอกแต่คิงก็ไม่ได้ผละออกทันทีกลับเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานแล้วค่อยถอนริมฝีปากออกมาแล้วยื่นโทรศัพท์ที่ยังคงดังต่อเนื่องมาให้ควีน ควีนที่ยังหอบเหนื่อยเล็กน้อยเพราะจูบเร้าร้อนหลายนาทีเมื่อกี้ได้แต่หยิบมือถือมาไว้ในมือมองดูเบอร์ของคนโทรเข้ามาก็พบว่าเป็นไอ้ตัวเล็กของเขานั่นเอง ควีนรอสักพักให้ตนเองปรับสภาพการหายใจให้คงที่มากกว่าเดิมจึงกดรับสายพร้อมกับจะลุกตัวออกจากคิงแต่ก็ถูกชุดลงมานั่งเหมือน ควีนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแต่คิงกลับกอดเอวควีนไว้หลวมๆแทนคำตอบ ควีนจึงไม่ได้ใส่ใจและหันไปคุยโทรศัพท์แทน
“ว่าไงครับ ถึงแล้วเหรอ”
“ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องนะสิไม่ว่า”
“อ้าว ทำไมละครับ”
“ก็เครื่องมันดีเลย์ไปเป็นชั่วโมงเลยนะสิ รู้งี้เอากุญแจกลับไปให้ควีนก็ดี”
“ไม่เป็นไรหรอก มันดึกแล้ว ถึงจูนบอกว่าเครื่องจะดีเลย์เป็นชั่วโมงแต่กว่าจะไปจะกลับมันก็ใช้วลาเกือบชั่วโมงเหมือนกันนั่นแหละ เสียเวลาเปล่า”
“อือ แล้วนี่ควีนไปนอนที่ไหนนะ”
“อ้ะ!” ควีนร้องออกมาเบาๆเมื่ออยู่ๆตนก็ถูกคิงหมุนตัวกลับไปด่านหน้าจอคอมจากเดิมที่หันหน้าเข้าหาคิง
“เป็นอะไรรึเปล่าควีน”
“เปล่าครับ ไม่มีไร” ควีนหันไปมองหน้าคิงเล็กน้อยแต่คิงก็เพิกเฉยนั่งทำงานของตนไปทั้งที่ควีนก็นั่งอยู่บนตักตน
“แล้วสรุป คืนนี้ไปนอนที่ไหน กับใคร แล้วไว้ใจได้รึเปล่าอ่ะ”
“นอนกับพี่คิงนะ”
“อ้าว พี่พากย์ไม่อยู่เหรอ”
“ไม่อยู่ครับ พอดีควีนเห็นมันดึกแล้วไม่อยากเกรงใจพวกเทย์มัน หอมันอยู่ไกล อีกอย่างก็ไม่มีรถด้วย”
“ดีแล้วแหละ ถ้าเป็นพี่คิงจูนก็สบายใจได้ เดินทางตอนกลางคืนมันไม่ดี ยิ่งเป็นควีนยิ่งแล้วใหญ่เลยเดี๋ยวจะถูกใครเขาฉุดเอา”
“ฮึๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะควีน ตอนนี้หิวมากเลยยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนเย็นนู้นแนะ พอมาถึงก็ทักคนโน้นคนนี้ทีแล้วพี่จิลก็เอาแต่เร่งๆๆๆๆจูน ตอนที่ปู่บอกให้กลับญี่ปุ่น นี่แทบจะไม่มีแรงเดินแล้ว นี่มันมหาวิปโยคของจูนชัดๆเลย” ระหว่างที่ปลายสายกำลังบ่นให้ควีนเสียงของบุคคลที่สามที่ถูกจูนพาดพิงก็แทรกขึ้นมาตามสาย
‘อย่าเวอร์ไปจูน พี่แค่ไปเร่งเราทีเดียวเองนะ’
“อะไรเล่า! พี่จิลนั่นแหละ เชอะ น้ำข้าวก็ไม่ยอมหามาให้น้องนุ่งกินเลย”
“ฮึๆ ครับ” ควีนหัวเราะน้อยให้กับความน่ารักของไอ้ที่ตัวเล็กที่บอกว่าจะวางสายแต่กลับพูดบ่นซะยืดยาวทำให้เขานึกออกเลยว่าไอ้ตัวเล็กจะทำหน้าแบบไหนอยู่ คงทำท่างั้นตุ้บป่องแก้มพองลมใส่พี่จิลแน่นอน
“ถ้างั้นฝันดีนะควีน”
“ครับ เดินทางปลอดภัย” ควีนที่คุยโทรสัพท์เสร็จก็หันมาคุยกับคิงต่อ
“อะไร”
“อะไร” คิงถามกลับทั้งที่ควีนก็คิดว่าคิงก็รู้อยู่แล้วว่าตนพูดเรื่องอะไร
“ก็ที่ทำอยู่เนี้ย อะไร”
“ก็ไม่อะไร”
“ถ้าไม่อะไรก็ปล่อยสิ”
“จะให้ช่วยงานก่อน”
“ก็ช่วยไปแล้วไงเมื้อกี้”
“อีกสองสามรูปก็จะเสร็จแล้ว ช่วยหน่อยถือว่าเป็นค่าตอบแทน”
“ค่าตอบจากแทนอะไร”
“ก็เมื่อกี้ไง”
“นี่เดี๋ยวนี้เขานับจูบเป็นค่าตอบแทนได้ด้วยหรอ”
“ไม่รู้สิ อะไรที่มันทำให้รู้สึกดีได้คือถือว่าเป็นค่าตอบแทนได้หมดแหละ”
“อืมม ถ้างั้นก็คงจะนับเป็นค่าตอบแทนไม่ได้”
“ทำไม”
“ก็......ความรู้สึกมันยังไม่ดีพอไง”
“หรอ” คิงยกยิ้มที่มุมปากเมื่อควีนยักคิ้วให้เป็นการตอบรับ และทั้งสองก็หันมาช่วยงานกันจนเสร็จภายในเวลาไม่นานเพราะคิงเองก็เก่งในด้านนี้อยู่แล้ว เมื่องานเสร็จทั้งสองก็เตรียมตัวเข้านอน โดยที่ควีนนอนที่เตียงของพากย์ อาจจะเพราะแปลกที่แปลกเตียงทำให้ควีนนอนไม่หลับได้แต่นอนมองความมืดไปเรื่อยๆ จนอยู่ๆคิงพูดขึ้นมา
“ไม่หลับ?”
“อืม แปลกที่มั้ง”
“แล้วพรุ่งนี้มีเรียนไหม”
“บ่ายนะ ตื่นสายได้”
 “เรียนถ่ายรูปด้วยหรอ”
“เปล่า แค่สนใจเลยเคยศึกษามานิดหน่อย”
“อืม เก่งนะ”
“ไม่ได้จริงจังหรอก เอาไว้เป็นความรู้เฉยๆนะเผื่อเป็นประโยชน์”
“ชอบถ่ายภาพแนวไหน”
“ไม่รู้สิ ธรรมชาติมั้ง อะไรที่มันเป็นธรรมชาติก็ทำให้เราสบายใจได้เสมอแหละ”
“แต่อยู่ในห้องก็ไม่ได้อยู่กับธรรมชาตินะ”
“ก็ใช่ ”คิงจากที่นอนหันหน้าไปอีกทางพลิกตัวหันหน้ามาทางด้านควีนมองร่างโปร่งสง่าแม้ว่าจะอยู่ในความมืดก็ตาม
“แล้วไม่รู้สึกว่าสบายใจ”
“หือ จากอะไร”
“พี่ไง”
“ฮึๆ” ควีนขำน้อยๆกับสิ่งที่ควีนบอก “กล้าพูด คนเดี๋ยวนี้หาได้ยากนะที่จะเป็นธรรมชาติได้จากทั้งหมดที่ตัวเองเป็น โดยเฉพาะคนอย่างนาย”
“คนอย่างพี่ทำไม”
“ไม่รู้สิ ถามใจตัวเองดูสิ”
“ฮึ” คิงยกยิ้มที่มุมด้วยความพอใจจากคำถามของควีน “แล้วไม่คิดว่าธรรมชาติกับพี่มันอาจจะเข้ากันได้ดีบ้างเหรอ”
“ไม่รู้สิ”
“อยากเห็นไหมล่ะ”
“ฮึๆ ถ้ามันมีดีอย่างที่นายบอกนะ นอนเถอะจะหลับแล้ว” ควีนตัดบทสนทนาไปเพราะรู้สึกง่วงแล้ว จากนั้นทั้งสองก็หลับไปจนรุ่งเช้าที่คิงมีเรียนเช้าซึ่งต้องออกไปก่อนพอสิบโมงเช้าควีนตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอคิงในห้องแล้วนอกจากโพสอิทที่แปะไว้ที่โต๊ะทำงาน
‘ใส่เสื้อนักศึกษาของพี่ไปก่อน ส่วนกางเกงพี่ยืมของเพื่อนมาให้ น่าจะใส่ได้แขวนไว้ที่ตู้เสื้อผ้า’
ควีนมองไปที่ตู้ก็มีชุดนักศึกษาแขวนอยู่จริง เขาจึงไปอาบน้ำเตรียมตัวไปมหาลัย









 
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8 ซับเลือดแบบเบาๆไปก่อนนะแกรร
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-08-2015 17:59:36
ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ  :-[
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8 ซับเลือดแบบเบาๆไปก่อนนะแกรร
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-08-2015 20:46:17
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8 ซับเลือดแบบเบาๆไปก่อนนะแกรร
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 05-08-2015 22:44:37
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8 ซับเลือดแบบเบาๆไปก่อนนะแกรร
เริ่มหัวข้อโดย: BBG ที่ 05-08-2015 23:25:13
 :jul1: :pighaun:โอ๊ยๆ!!!ร้อนแรงได้อีก...ติดตามอย่างด่วน!!......แต่ก็ต้องขอติ นิดนึงตรงที่มีคำผิดเยอะมาก มีบางช่วงนี่เกือบจะไม่รู้เรื่องเลย  แต่โดยรวมแล้ว..พ็อตเรื่องน่าอ่านนะ ช่วยให้พอที่จะมองข้ามข้อผิดพลาดไปได้..ยังงัยก็มาต่อไวไวนะ....^^ :sad4: :hao5:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 8 ซับเลือดแบบเบาๆไปก่อนนะแกรร
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 06-08-2015 08:38:26
แหม่จะล่อแรมไปไหน เดียวก็เสดคิงจนได้หรอกควีน  มันยังไม่ถึงเวลา ยังรู้จักกันไม่เท่าไหร่เลย คึคึ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 07-08-2015 21:58:56
 แก้คำผิดให้แล้วน้าาาาาา  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: ขอบคุณมากที่ติงานให้และยังติดตามผลงานกันอีก :mew1: :mew1: ดีใจจังค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็มาต่อกันโลดเนาะ :z2: :z2: :z2:






                                                                            Chapter 9


เมื่อมาถึงมหาลัยร่างโปร่งดั่งนางพญาแทบจะไม่ต้องมองหากลุ่มเพื่อนหรือทำอะไรเลยเพราะเสียงใสดังกัมปนาทของสาวอวบแสนมั่นอย่างมดก็ตะโกนขึ้นมาทันทีที่เห็นควีนเดินเข้ามา
“คินตาทางนี้แก!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ควีนเดินไปตามเสียงเรียกของเพื่อนก็เห็นว่าเพื่อนๆอยู่กันครบทุกคน
“คุณมดจะเสียงดังทำไมครับ” มหาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่หันมาเอ็ดมดที่ตะโกนเสียงดัง
“ก็ฉันกลัวคินตามองไม่เห็นพวกเราอ่ะ”
“คุณคินตาเขาก็มีตานะครับเดี๋ยวเขาก็มองเห็นเราเอง เสียงดังแบบนี้ผมเสียสมาธิหมดนะครับ”
“โอ้ย อิมหากล้าพูดนะแก ทำเป็นมาใช้สมาธงสมาธิหนังสือธรรมะลัทธิไหนของแกฮะ ที่น่าปกเป็นรูปพระแต่ข้างในเป็นรูปโป๊นะฮะ” เมื่อมดพูดอย่างนั้นมหาก็รีบหนังสือพับใส่กระเป๋าย่ามของตัวเองทันที
“คุณมดพูดอะไรนะครับ ไม่ใช่สะหน่อย”
“มันจะไม่ใช่ได้ไง อย่าคิดว่าชั้นไม่เห็นนะว่าข้างไหนมันเป็นรูปเด็กผู้หญิงโป๊นะ”
“จะบ้าเหรอครับ นั่นมันเด็กผู้ชายหน้าหวานต่างหาก”
“นั่นไง ยอมรับแล้วใช่ไหม”
“ที่มันเป็นรูปเปลือยเพราะเขาต้องการจะสอนให้เราเขาใจธรรมชาติของมนุษย์ต่างหากละครับ คนเราถึงแม้จะมีทรวดทรงองเอวสวยงามแค่ไหนสุดท้ายก็แก่ตัวไปเป็นคุณยายคุณตาหนังเหี่ยวๆอยู่ดีนั่นละครับ”
“ฉันไม่เชื่อแกหรอก แกมันพวกนิยมโชตะคอนใช่ไหม ตอบ!”
“โชตะคอนคืออะไร ผมไม่รู้จักหรอกครับ”
“ปากแข็ง งั้นเอาหนังสือมาพิสูจน์สิว่าที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องจริง” มดที่ตอนนี้ย้ายร่างอวบอ้วนของตนไปเกาะคอมหาเพื่อแย่งหนังสือ
“อย่านะครับ” จนเหมือนเกรซจะทนกับการเล่นเป็นเด็กๆของเพื่อนทั้งคู่ไม่ไหว
“โอ้ย พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!!” ทั้งสองไม่ได้สนใจเสียงห้ามปรามของเกรซแต่กลับวิ่งไล่จับกันไปรอบโต๊ะๆอีกต่างหาก
“เล่นไรกัน” ควีนที่เดินมาถึงโต๊ะที่เพื่อนๆอยู่เอ่ยถามเมื่อเห็นมดและมหาวิ่งไล่จับกันอยู่
“แฮ่กๆ ๆๆ คุณคินตาครับช่วยผมด้วย คุณมดกำลังตกมันครับ” มหารีบมาหลบหลังควีนทันทีที่เดินมาถึง
“กรี้ด!! แกว่าใครตกมันย่ะอิมหา”
“ฮึๆ” ควีนขำน้อยๆกับท่าทีของเพื่อทั้งสอง
“เปล่าครับ” มหาตอบพร้อมใช้ควีนเป็นที่กำบังให้ตนเมื่อมดดูเหมือนจะก้าวเข้ามาหาตน
“หน๋อยย อิมหาอิคนบาปหนา ขี้โกหก ออกมาจากหลังควีนเดี๋ยวนี้นะ!!!”
“มหาก็ไปแหย่มดมัน” ควีนเอี้ยวตัวไปพูดกับมหา
“ผมเปล่าทำอะไรเลยนะครับ คุณมดต่างหากที่เริ่ม”
“แกนั่นแหละ ไม่ต้องไปฟ้องควีนเลย นี่ควีน! ฉันจะบอกอะไรให้อิมหาเหมือนชอบโชตะคอนเว้ย”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงครับ”
“ไม่เชื่อก็ดูหนังสือของมันสิ” มดชี้ไปที่หนังสือในมือมหา
“ไหนดูสิ” ควีนเอี้ยวไปทำท่าจะหยิบเอาหนังสือจากมือมหาอย่างที่มดบอกทำให้มหาร้องลั่นและกระโดดอออกจากตัวเขาทันที
“เฮ้ย !” มดเมื่อสบโอกาสเห็นมหาถอยออกมาจากควีนแล้วก็วิ่งไล่จับมหาไปรอบๆโต๊ะอีกครั้ง ควีนได้แต่ส่ายหน้าเบาๆกับการเล่นเป็นเด็กๆของเพื่อนพร้อมทั้งนั่งลงข้างเทย์
“ว่าไงมึง ไม่เจอกันแป้บเดียว ดังเป็นผลุแตกเลยนะ” เทย์ทัก
“ดังอะไร”
“แล้วมึงไปทำอะไรไว้ล่ะ”
“เปล่าทำอะไร” ควีนตอบพร้อมทักยักไหล่อย่างไม่แคร์
“ฮึๆๆ อย่ามาทำไขสือ แล้วนี่จะปล่อยฟีโรโมนดึงดูดผู้ชายไปถึงไหนแค่นี้ก็มีแต่คนมาหลงรักหัวปรักหัวปรำจะแย่แล้ว”
“ฟีโรโมนอะไร” ควีนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจที่เทย์พูด
“น้ำหอมไง กลิ่นใหม่เหรอ ปกติไม่เคยเห็นใส่”
“อ่อ อือ” ควีนพยักหน้าเข้าใจเมื่อรู้ว่าเทย์หมายถึงเรื่องน้ำหอมที่ตนแอบเอาน้ำหอมของคิงมาใช้อย่างถือวิสาสะเพราะเขารู้สึกชอบกับน้ำหอมกลิ่นนี้มากแต่ก็ไม่ได้บอกเทย์ทั้งหมดเพราะขี้เกียจจะตอบคำถามถัดๆไปเพราะเหมือนว่าถ้าคำตอบนี้ออกไปจะกลายเป็นอีกหลายคำถามนะสิ
“แล้วอีกอย่างตอบคำถามก่อนหน้ากูมาก่อน”
“ก็ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วรูปนี้หมายความว่า” เทย์ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปแล้วยื่นให้ควีนดูซึ่งรูปนั้นมีเขาและคิงที่กำลังยื่นแนบชิดกันโดยที่ควีนกำลังกัดปากล่างคิงด้วยสายตาเร้าร้อนทั้งคู่ในคืนนั้นที่ร้านพี่จิล
“ดูไรกันว่ะ” เกรซที่ไม่ได้สนใจบทสนทนาของทั้งคู่ในตอนแรกเพราะกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ชะโงกหน้ามาดูรูปที่เทย์แต่ก็ดูได้เพียงลางๆเพราะเทย์เก็บโทรศัพท์ไปก่อน
“เปล่า” เทย์ตอบ
“สาวที่คลับไหนว่ะ เซ็กซี่ชิบ แอบแซ่บคนเดียวเหรอเทย์?”
“ฮึๆ ว่าไปนู้น คนนี้ไม่กล้าว่ะ อยู่สูงเกิ้น”
“เฮ้ย คนหน้าตาดีอย่างแกไม่สูงไปหรอกถ้าจะแอ้มเขานะ”
“ไม่ว่ะ ไม่ใช่เสป็คนะ ฮ่าๆๆ” เทย์พูดพร้อมทั้งหันไปมองควีนขำๆเมื่อรู้ว่าคนที่เกรซจะให้เทย์ไปจีบคือเพื่อนสนิทของตัวเองที่แค่คิดเขาก็อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงเพราะต่อให้ควีนจะสวยมากแค่ไหนแต่ความเป็นเพื่อนก็มีมากเกินกว่าที่เขาจะคิดแบบนั้นได้ ฝ่าจะผ่าหัวเอานะสิ ฮ่าๆๆ
“เหอะไอ้นี่ สวยๆไม่ชอบ” เกรซยักไหล่ให้เทย์และหันไปเล่นโทรศัพทต่อ
“ว่าแต่มึงเถอะควีน ตอบกูได้ยัง” เทย์ที่เลิกสนใจเกรซแล้วหันมาถามควีนต่อ
“ทำงาน” ควีนตอบอย่างเรียบๆนิ่งๆ
“ทำงานเชี่ยไร ภาพมันถึงเป็นอย่างนี้” เทย์โวยออกมาเบาๆเมื่อควีนตอบอย่างไม่อธิบาย
“ก็ทำงาน”
“งานประเภทไหนว่ะ กัดปากกันได้สยิวมาก”
“มันเป็นเหตุสุดวิสัยนะ”
“ สรุปจะไม่บอกดีๆใช่ไหม”
“ก็มันเป็นเรื่องงานที่มันจบไปแล้วและไม่มีอะไรให้อธิบายไง”
เทย์ได้แต่หรี่ตามองควีนอย่างจับผิด
“อย่าให้กูรู้นะว่ามีอะไรในกอไผ่” ส่วนควีนก็ได้แต่ยักไหล่ให้เทย์โดยไม่ได้สนใจสายตาจับผิดของเพื่อนตน
“แฮ่กๆๆๆๆๆ” เสียงหอบเหนื่อยจากเพื่อนทั้งสองที่เพิ่งผ่านสมรภูมิรบกันมาและของกินมากมายที่สาวอวบหอบพะรุงะรังกลับมาด้วย
“อะไรของพวกแกย่ะ ตอนแรกก็วิ่งไล่จับแล้วไหงตอบกลับถึงได้ของกินกลับมา” เกรซ ถามขึ้นมาเมื่อกองขนมมากมายถูกวางลงบนโต๊ะ
“ก็คนมันมีความผิดแต่กลับปกปิดความชั่วไว้ด้วยสินบนไง” มดตอบ
“อะไรกันครับคุณมด ผมนึกว่าเราจะเข้าใจกันแล้วซะอีก ที่ผมซื้อขนมให้เพราะไม่อยากจะวิ่งไล่จับแล้วต่างหาก มันเหนื่อยนะครับ” มหารีบโวยขึ้นมาทันทีมดตอบอย่างนั้น
“เฮอะ ฉันไม่เชื่อแกหรอก ที่ฉันหยุดเพราะฉันเหนื่อยแล้วต่างหากและก็ไม่ได้เห็นแก่ของกินที่แกซื้อให้ด้วย”
“หรอครับ”
“เออ”
“พอเถอะพวกแกสองคน ทำฉันปวดหัวไปหมดแล้ว เลิกเล่นกันซะที ส่วนแกจะกินก็รีบกินจะได้ไปเรียนสักที” เกรซพูดปราบทั้งสองคนก่อนที่สงครามปัญญาอ่อนของเพื่อนทั้งสองจะเกิดขึ้นอีกรอบ
   

ในคาบเรียนที่ตอนนี้ทุกคนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากเห็นได้จาก นักศึกษาแต่ละคนที่นั่งง่วงหงาวหาวนอน มหาที่ฟุบหลับไปกับโต๊ะ เกรซที่เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์
อ่านหนังสือการ์ตูน มดที่เอาแต่ถอนหายใจและมองเพื่อนคนนู้นคนนี้ที และควีนที่ดูเหมือนจะตั้งใจเรียนสุดเพราะสายตาก็มุ่งไปที่อาจารย์ที่กำลังสอนโดยไม่ได้สนใจนักเรียนแม้แต่นิด มือของเขาที่กำลังขีดเขียนลงบนสมุดจดแต่เนื้อหาให้สมุดกับวางเปล่าไม่มีแม้แต่อักษรเดียว
“โอ้ยแก เมื่อไหร่จะเลิกว่ะ ฉันเบื่อ” มดที่ดูจะกับความน่าเบื่อนี้ไม่ไหวจนต้องร้องครางออกมา
“เอาน่ามึง อดทนหน่อยเดี๋ยวก็เลิกแล้ว พ่อแม่ส่งให้มาเรียนก็ตั้งใจเรียนสิ” เกรซตอบ
“กล้าพูดนะยะแก แล้วไอ้ที่นั่งเล่นโทรศัพท์นี่คือ”
“ฉันกำลังหาข้อมูลที่อาจารย์พูดอยู่ย่ะ”
“หราาาาาาาาาาาาาาาา ข้อมูลอะไรอยู่ในไลน์ย่ะ”
“ยุ่ง” เกรซหันมาตอบแล้วกลับสนใจโทรสัพท์ต่อ
“เออนี่พวกแก วันนี้รุ่นพี่นัดปีหนึ่งช่ะ”
“ใช่ เห็นบอกวันนี้จะให้เราไปตามหาพี่รหัส”  เทย์ที่เงยหน้าออกจากการ์ตูนมาตอบ
“โอ้ยยยย ตื่นเต้นว่ะแกถ้าเกิดว่าเจอรุ่นพี่โหดๆแล้วให้เราทำอะไรแพลงๆจะทำไงว่ะ” มดพูดพร้อมทั้งทำหน้าแสดงออกว่าตื่นเต้นกับสิ่งที่พูดมากแค่ไหน
“ทำใจและทำตามไงครับ” มหาที่เลิกนอนแล้วเข้ามาร่วมวงอีกคน
“นอนไปก็ไม่มีใครว่านะมหา” มดที่อดจะแขวะมหาไม่ได้
“ว่าแต่เสร็จจากงานนี้ เราก็ไปเที่ยวที่ร้าน jil’s heaven ได้แล้วใช่ไหม”เกรซพูด
“เออใช่ เราจะได้ไปเที่ยวเฉิดฉายเป็นผีเสื้อกลางคืนแล้วใช่ป่ะ อร้ายยย ดีใจจังแก” มดพูด
“อ้าว แล้วปกติเราไปไม่ได้เหรอครับ” มหาถาม
“อิบ้านี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรอ ก็ที่รุ่นพี่สั่งห้ามเราไปเที่ยวที่คลับหรือที่ร้านเหล้าก่อนที่จะเฉลยสายรหัสไง” มดพูด
“อ้าวหรอครับ ก็ผมไม่รู้นี่น่า”
“ย่ะ ว่าแต่แกได้ยินข่าวใช่ไหมว่าพนักงานที่นั่นแซ่บมาก เด็ดมากกันทุกคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย” เมื่อเกรซพูดอย่างนั้นทำให้เทย์หันไปมองหน้าควีนทันทีแต่ควีนก็ยักไหล่ไม่สนใจ
“เออได้ยินมาเหมือนกัน นี่พูดแล้วอยากไปว่ะแก อาหารตาคงมีให้ดูเยอะเนาะ ฮิๆๆ” เกรซหัวเราะคิกคักถูกใจเมื่อ
“อร้ายยย เขินอ่ะแก ฉันละอยากจะได้มานอนกอดสักคนจัง” มดทำหน้าเคลิ้มฝัน
“ฝันอยู่รึไงครับคุณมด” มหาพูด
“อ้าว อินี่พูดอย่างนี้ได้ไง”
“ก็ใช่ไงครับ ตราบใดที่คุณมดไปกับสาวสวยอย่างคุณเกรซและนางฟ้าจำแลงอย่างคุณคินตาก็ไม่มีสิทธิได้แอ้มหรอกครับ”
“เอ้ะ อินี่เดี๋ยวตบปากฉีก ว่าแต่แกก็พูดถูกว่ะ แม่ง แค่มียัยเกรซคนเดียวก็ว่าแย่แล้วแต่มีคินตามาด้วยอีกคนคนแดกกันพอดีสินะ ฮือออออออ”
“เวอร์ไปมด เราไม่ได้มีคนมาสนใจมากขนาดนั้นซะหน่อย” ควีนพูด
“น้อยไปนะสิแกนะ” เกรซพูด
“เออ ไอ้เกรซพูดถูก ถ้างั้นขอสั่งห้ามแกถ้าวันไหนพวกฉันจะไปเที่ยวแกไปห้ามด้วย” มดพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่สักพักก็ส่ายหัวไปมาเหมือนคิดอะไรได้ “เฮ้ย ไม่ได้ๆๆๆๆ ถ้าไอ้คินไม่ไปแล้วใครจะเป็นตัวดึงดูดผู้ชายน่าตาดีมาให้ฉันล่ะ ถ้างั้นเอาใหม่นะคินถ้าพวกเราไปเที่ยวเมื่อไหร่แกต้องไปด้วยและที่สำคัญผู้ชายที่จะเข้ามาหาแกฉันจะต้องแสกนก่อนทุกคนโอเคไหม” มดหันมามาหาควีนพร้อมยกมือเป็นเครื่องหมายโอเคเหมือนให้ควีนตกลง
“อืม” ควีนแต่ได้แต่เออออไปตามเพื่อน อะไรที่ทำให้เพื่อนสบายใจได้เขาก็ไม่อยากจะขัดศรัทธาทำให้เพื่อนเสียใจโดยใช่เหตุหรอก ฮึๆๆ
“แอร้ยยยย เริดค่ะ ชีวิตดี้ๆมีเพื่อนเป็นนางฟ้า ฮ่าๆๆ” มดเอามือมาป้องปากแล้วทำท่าหัวเราะแบบดัดจริตอย่างพอใจ เพื่อนๆที่อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้จึงรวมกันเอามือไปพลักหัวมดเบาๆ
“ว้าย อิเพื่อนบ้า ผมฉันเสียทรงหมด” มดที่โดนเพื่อนแกล้งจนหัวฟูฟ่องพยายามจัดทรงผมให้เข้าที่ “เออว่าแต่ฉันได้ยินข่าวมาว่าพี่คิงเดือนคณะเศรษตรศาสตร์ก็ทำงานที่นั่นเหมือนกันนิ”
“ใช่พี่ที่เราไปนั่งกินข่าวที่โรงอาหารด้วยวันนั้นป่ะ” เกรซถาม
“ใช่ๆ เห็นว่าเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นั่นนิ”
“อ่อ”
“เออ! อีกอย่างนะแก มันมีประเด็นฮอตอย่างหนึ่งคือสัปดาห์ก่อนเขาจัดกิจกรรมพิเศษตอนรับลูกค้าวีไอพีเว้ย แล้วมีพี่คิงเป็นบาร์เทนเดอร์และผู้หญิงอีกคนเป็นผู้ช่วย เห็นบอกว่าการแสดงแซ่บและฮอตมาก เร้าร้อนสุดๆ จนหลายคนอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เขาถึงกับยกให้เป็นควีนของร้านเลยนะเว้ย!!! อีกอย่างที่เด็ดกว่านั้นนะแกคือผู้หญิงคนนั้นมาจากคณะเราแต่ไม่รู้สาขาไหนเหมือนกัน นี่เขาก็กำลังสืบๆกันอยู่”
“เฮ้ยจริงอ่ะ” เกรซถามอย่างตื่นเต้นเมื่อฟังที่มดเล่า
“ก็ใช่นะสิ ฉันละอยากจะเห็นหน้าควีนของร้านบ้างจังจะได้รู้ว่ายัยนั่นมีดีแค่ไหนถึงมาทำอะไรต่อมิอะไรพี่คิงของฉันได้”
“พี่คิงเขาไปเป็นของคุณมดตอนไหนกันครับ” มหาพูด
“ตั้งแต่ที่เขาเห็นหน้าฉันครั้งแรก เขาก็ตกเป็นของฉันแบบไม่ต้องพูดอะไรแล้วยะ”
“ขี้มโนจังนะครับ”
“เรื่องของฉันย่ะ แต่ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าควีนอย่างยัยนั่นจะมาสู้นางฟ้านางพญาอย่างคินตาของเราได้ยังไง เนอะคินเนอะ” มดหันมายิ้มให้ควีนและขอความเห็น ส่วนควีนก็ได้แต่ยกยิ้มให้และหันไปยักไหล่ให้เทย์ที่หรี่ตามองควีนอยู่แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เอาๆๆๆ นักศึกษาถ้ามันมีเรื่องจะพูดมากนักโดยที่ไม่มีเวลาฟังฉันมากขนาดนี้ก็กลับไปพูดต่อที่บ้านแล้วกันนะ แล้ววันหลังก็เอามาเล่าให้ฉันฟังด้วยว่าไอ้ที่ฉันสอนไปกับที่พวกเธอพูดมันเอาไปประยุกต์ในข้อสอบที่ฉันจะสอบอาทิตย์หน้าได้รึเปล่า” อาจารย์ที่อธิบายเนื้อหาการสอนเสร็จหันมาพูดกับลูกศิษย์พร้อมข่าวร้ายที่นักศึกษาไม่อยากจะได้ยิน จนเสียงโห่ดังกลบไปคับห้อง
“โหยยยย จารย์”
“ไม่ต้องมาร้องโอดครวญให้ฉันได้ยิน กลับบ้านไปอ่านหนังสือกันได้แล้วไป” เมื่ออาจารย์ประกาศอย่างนั้นทั้งห้องก็แทบจะร้างทันทีที่ยังพูดไม่จบประโยคดีด้วยซ้ำ
“โอ้ย เลิกซักที” มดที่รอโอกาสนี้มานานก็พูดออกมาด้วยความดีใจ “จะได้ไปตามหาพี่รหัสสุดหล่อของฉันสักที”
“แกรู้ได้ไงว่าพี่รหัสแกจะเป็นผู้ชาย” เทย์ถาม
“เพราะฉันจะเอาไง แอร้ยยยย ตื่นเต้นๆๆๆๆ” พูดจบก็เดินกระโดดโลดเต้นออกไปก่อนเพื่อน เพื่อนๆได้แต่มองตามร่างอวบนั่นและส่ายหน้าให้ด้วยความเอือมระอา








หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-08-2015 23:13:27
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 12-08-2015 18:45:01
                                                                               Chapter 10






“เอาล่ะค่ะน้องๆ สำหรับการตามหาพี่รหัสนั้นไม่ยากเลย พี่จะให้คำใบ้น้องๆไปแล้วไปตามหากันเอาเองนะ” พี่ปีสองของสาขาธุรกิจระหว่างประเทศกำลังชี้แจงรายละเอียดกิจกรรมการรับน้องอยู่ ณ ลานจอดรถของคณะโดยที่ชั้นปีที่หนึ่งรวมทั้งควีนและเพื่อนๆก็กำลังนั่งเข้าแถวอยู่ด้วยรุ่นพี่ที่ยืนห้อมล้อมและตอนนี้ก็กำลังแจกกระดาษแผ่นเล็กๆให้พวกเขาแต่ละคน

“เหี้ย! คำใบ้ไรว่ะ” และแต่ละคนที่ได้คำตอบมาก็สบถก็กันระนาว นี่มันคำใบ้ประเภทไหนกันถึงได้ออกมาในรูปแบบนี้

“แกได้อะไรอ่ะมด เอามาดูดิ้” เกรซหันไปถามเทย์ที่นั่งอยู่ข้างๆและชะโงกหน้าไปอ่านคำใบ้ของมด

‘ไก้ ไก่ ไก้ ไก่ ไก่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’

“ของแกอ่ะ” มดถามกลับพร้อมกับอ่านคำใบ้ของเกรซเหมือนกัน

‘ฉันคิดถึงเธอตั้งแต่หัวค่ำจนอุษาสาง’ และทันทีที่อ่านของกันและกันเสร็จทั้งสองก็มองหน้ากันและสบถออกมาพร้อมกัน

“ไอ้เหี้ย!!!!!!!!!!!!!”


“แม่งนี่มันใช่คำใบ้เหรอวะมึง” เกรซพูด

“เออ นั่นดิแล้วแบบนี้เมื่อไหร่กูจะหาเจอละคะ” มดคร่ำครวญก่อนจะหันไปหาเพื่อนๆ

“พวกแกได้อะไรกันว่ะ”

“ของผมเขียนว่า ปากแดงๆจะไว้ใจได้กา หน้าขาวๆจะไว้ใจได้กา”

“ของกู อ้ายคนจนจำต้องทนปั่นรถถีบ” เทย์บอก“แล้วของมึงอ่ะควีน” ควีนไม่ได้ตอบแต่ยื่นกระดาษไปให้เพื่อนแทน

‘น้องรหัสพี่สวยจังครับ เป็นแฟนกันไหม ’

“ชิบหายแล้วมึง ฮ่าๆๆๆ” เทย์พูดแล้วหัวเราะน้อยๆกับคำใบ้ของควีนเพราะดูเหมือนคำใบ้ของทุกคนจะเป็นเพลงมาให้แต่ของควีน
นี่ดูจะแปลกกว่าของเพื่อนๆ

“ทำไมรุ่นพี่กวนส้นตีนอย่างว่ะ แล้วกี่ชาติถึงจะเจอเนี้ย” เกรซพูดอย่างหงุดหงิด

“โห้ ของแกยังง่ายกว่าของชั้นอีกนะ” มดพูด

“ง่ายตรงไหนค่ะ ตอบ! ไอ้เพลงไก้ไก่เนี่ย ง่ายกว่าเพลงวนิดาของแกมากว่างั้น”

“เอ้า อินี่สวยน้อยแล้วยังโง่อีกนะ พี่แกก็คือพี่ไก่ไง”

“แกจะบ้าเหรอ เอกเรามันมีรุ่นพี่ชื่อไก่ซะที่ไหนหละ”

“เออวะลืม เฮ้ย พี่รหัสแกอาจจะชอบกินไก่ก็ได้นะมึง”

“แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ะว่าพี่คนไหนชอบกินไก่ ดอกกกก”

“ไม่รู้ค่ะ เพราะของกูกูยังไม่รู้เลยว่าต้องเริ่มต้นจากตรงไหน ฮืออออ”

“เอาละคะ น้องๆ อย่ามั่วแต่ดีใจเพราะคำใบ้มันง่ายไปนะ น้องๆมีเวลาอีกนานเพราะว่าพวกพี่ให้เวลาน้องๆได้ตามสบายเท่าที่จะหาเจอ จะหนึ่ง หนึ่งสัปดาห์หรือหนึ่งเดือนพี่ก็ไม่ว่าแต่การเลี้ยงสังสรรค์สายรหัสจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อน้องๆสามารถหาพี่รหัสของตัวเองเจอครบทุกคน ย้ำนะค่ะ ครบทุกคน” พอรุ่นพี่ปีสองบอกเสร็จเหล่าบรรดาปีหนึ่งก็โห่ขึ้นมาทันที

“โห่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“ไม่ต้องส่งเสียงดีใจต้อนรับพี่ดีขนาดนี้ก็ได้ พี่ฟังมาเยอะแล้วสำหรับวันนี้ เอ้า!! จากนี้ก็แยกย้ายกันไปหาพี่รหัสตัวเองได้แล้วค่ะ พี่ๆจะอยู่แถวนี้กันจนถึงหกโมงเย็น ถ้าใครยังหาพี่ตัวเองไม่เจอก็ให้ไปหาวันอื่นต่อเพราะถ้าหกโมงทันทีเป้ะ พี่จะไปปุ้บเลยนะคะ เริ่มได้ค่ะ!!!!” พอสิ้นเสียงของรุ่นพี่ ปีหนึ่งก็แตกฮือกันออกไปและต่างวิ่งเข้าหารุ่นพี่ที่คิดว่าจะเป็นพี่รหัสตัวเอง

“แม่งเอ้ย! กูจะเริ่มจากตรงไหนวะที่นี้” มดบ่นและแยกออกไปตามหาพี่รหัสรวมถึงเพื่อนคนอื่นๆด้วย เทย์ที่ยืนอยู่ยังไม่ไปไหนหัน
ไปตบไหล่ควีนเบาๆ

“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม กลัวมึงจะเสียเชิงชายพี่เขาแล้วได้เป็นแฟนเขาจริงๆ ฮ่าๆๆ” เทย์หัวเราะเบาๆ ควีนหันมามองด้วยแววตาค้อนนิดหน่อยแต่สีหน้าก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม

“เปลี่ยนกันไหมล่ะ”

“ไม่วะ กูอยากเห็นมึงโดนม้อ ฮ่าๆๆ ดูสิว่าคนนี้จะมีอะไรเจ๋งพอจะสอยนางพญาเราได้รึเปล่า”

“เดี๋ยวเถอะมึง จะโดนม้อเองเข้าสักวัน”

“ฮ่าๆๆ ถ้าเป็นสาวๆนะกูพร้อมเสมอแหละแต่ถ้ามีไอ้จู๋เหมือนกันคงไม่ไหว”

“ฮึ ให้มัน จริงแล้วไม่ไปหาพี่มึงอ่ะ”

“กูไม่หาหรอก ถ้าอยากจะเป็นพี่กูก็มาหากูเองสิเรื่องอะไรจะต้องเหนื่อยตามหาด้วยว่ะ กูจะรอดูอะไรสนุกๆจากมึงดีกว่า” เทย์
เอื้อมมือมากอดคอควีนแล้วส่งสายตาที่กวนมือกวนเท้าสุดๆมาให้ นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนด้วยกันเทย์คงโดนยำตีนไปแล้ว

“คงจะสนุกหรอกนะ”

“มึงเชื่อกูไหมว่าพี่จองเป็นพี่รหัสมึง” เทย์พนักหน้าไปยังชายหนุ่มหน้าเกาหลี หน้าตาทะเล้น ร่าเริง ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนหน้าม้
ออะไรเทือกนั้นที่จะมาหม้อควีนเหมือนที่เทย์บอกด้วยซ้ำที่ตอนนี้กำลังนั่งจับกลุ่มคุยกันสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนที่กำลังให้รุ่นน้องทำอะไรแพลงๆเพื่อหาพี่รหัสตัวเองอยู่

“มึงรู้ได้ไงว่าพี่จองจะเป็นพี่รหัสกูจริงๆ” ควีนถามทั้งสายตาก็มองพี่รุ่นพี่ที่เทย์กล่าวถึงไปด้วยและเหมือนพี่จองจะหันมาทางควีนที่ซึ่งมองเขาอยู่ก่อนแล้วจึงส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหันไปหาเพื่อนต่อ

“ระดับกูแล้ว ไม่พลาดหรอกมึงพนันกะกูสิ”

“แล้วกูได้อะไรถ้าใช่”

“เฮ้ย มึงจะบ้าเหรอต้องบอกว่าไม่ใช่สิ”

“ใช่แหละถูกแล้ว”

“มั่วแล้วมึง กูพนันกับมึงว่าพี่จองคือพี่รหัส ถ้าไม่ใช่กูถึงแพ้เว้ย”

“งั้นก็คงไม่ใช่”

“เฮ้ย ได้ไงต้องใช่ดิ กูว่ากูไม่พลาดไม่เชื่อมึงลองเข้าไปถามสิ”

“แล้วกูได้อะไรถ้าเข้าไปถาม”

“เอ้า ไอ้นี่ก็จะได้รู้ไงว่าใช่ไม่ใช่”

“ไม่ หมายถึงกูได้อะไรจากมึงถ้าเข้าไป”

“เฮ้ย แล้วทำทำไมกูต้องให้อะไรมึงด้วยว่ะเพราะนั่นมันพี่รหัสมึงเองนะ”

“งั้นก็ไม่ไป”

“ได้ไง มึงจะมาทำเมินเฉยแบบนนี้ไม่ได้นะเว้ย กูว่ากูมองไม่ผิดๆจริงนะ”

“กูก็อยากรู้ว่าที่มึงพูดมันจริงรึเปล่า แต่กูจะได้อะไรจากมึงถ้าไปถาม”

“ไอ้คิน อย่ามาเล่นตลกกับกูนะ มึงก็แค่ไปถามยากตรงไหน”

“มึงก็แค่ตกลงกับกูมามันก็ไม่เห็นยากตรงไหนเหมือนกัน”

“มึงนี่มัน!!!!” เทย์ชี้หน้าควีนด้วยความหมั่นไส้ “เออ ก็ได้วะแม่ง! ตกลงแล้วมึงจะเอาอะไร”

“ฮึๆๆ ติดไว้ก่อน เดี๋ยวบอก”

“เออ ไปซะเสีย! เล่นตัวอยู่นั่นแหละ” เทย์พลักควีนด้วยมือที่กอดคอควีนเบาๆเพราะฉุนเพื่อนตัวเองที่เขาหยอกด้วยตอนแรกดันโดนเล่นกลับเองซะงั้น  ควีนเดินตรงไปยังกลุ่มรุ่นพี่ที่มีแต่ผู้ชายนั่งอยู่รวมถึงพี่เจ้าของคนพี่ทั้งสองเล่นพนันกันอยู่

“วู้ๆๆๆๆๆ น้องคินตาคนสวยมาหาเราแล้วโว้ยยย”

“น้องใครครับน้องใคร เฉลยตัวด่วนๆเลยครับ ถ้าไม่ยอมบอกภายในสามวินาทีนี้ผมจะเป็นพี่รหัสของน้องแล้วนะ”

“พี่คร้าบๆๆๆๆ พี่รหัสของน้องเอง”

“พี่ต่างหากๆๆ” และเสียงแห่งการต้อนรับจากรุ่นพี่ก็ดังขึ้นทันที่ควีนเดินมาถึง


“โห้ย อะไรอ่ะพี่ ทีผมไม่เห็นพูดงี้บ้างเลย ตั้งท่าจะไล่กันอย่างเดียวเลย” เพื่อนร่วมเอกของควีนพูดขึ้นหลังจากโดนรุ่นพี่แต่ละคน
ให้ปั่นจิ้งหรีดคนละสิบรอบและกำลังนั่งพักให้หายเหนื่อย

“โว๊ะ ไอ้นี่พูดอะไรหัดแหกขี้ตาดูมั้ง มึงเป็นใครน้องคินเป็นใคร” พี่จองหันไปพูดกับเขา

“โอ้โห้ โคตรยุติธรรมเลย”

“หุปปากไปมึงอ่ะ หายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อได้แล้วพี่รหัสน้องไม่ได้อยู่ที่นี้”

“เฮ้ย!!! ได้ไงอ่ะพี่ แล้วที่ให้ผมปั่นนจิ้งหรีดนี่คืออะไร ทำไมไม่บอกตั้งแรกอ่ะ”

“เอ้า พวกกูจะบอกทำไมล่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ”

“โห้ย พี่แม่ง”

“อ้าวๆ ไอ้นี่พูดดีๆเดี๋ยวจะโดน นี่รุ่นพี่”

“ชิส์ งอน” พูดจบก็เดินสะบัดตูดไปทำท่าทางเหมือนหญิงสาววัยแรกแย้มที่ทำแล้วน่ารักแต่นี่ดันเป็นผู้ชายถึกๆดำๆทำแล้วมันดู
ขัดกันชอบกล

“ยังจะมาทำท่าทำท่าง กูจะอ้วก! ถ้าเป็นน้องคินคนสวยก็ว่าไปอย่าง” พอพูดกับรุ่นน้องเสร็จก็หันมาเล่นหน้าเล่นตากับควีนทำเอา
เพื่อนๆโห้ร้องแซวกันเป็นแถว


ฮิ้วววววววววววววววววว

“ว่าไงครับน้องควีน เอ้ย น้องคินตา” ควีนชะงักนิดหน่อยที่พี่จองเรียกตนอย่างนั้น แต่คิดไปคิดมามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าพี่
จองจะรู้จักควีนในชื่อนี้เพราะร้านของพี่จิลก็ไม่ได้อยู่ห่างจากมหาลัยอะไรมากมายไม่แปลกถ้าเหล่าบรรดานักศึกษาจะเข้าไปแวะเวียนที่ร้านรวมถึงพี่จองด้วย

“มาหาใครเอ่ย บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถึงจะเป็นน้องคินก็ไม่ได้รับขอยกเว้นที่พี่จะยอมบอกว่าใครเป็นพี่รหัสของน้องง่ายๆหรอกนะ” รุ่นพี่อีกคนที่นั่งข้างๆพี่จองพูดขึ้น

“เอ้าๆๆ เลือกได้เลยครับอยากจะได้คนไหนเป็นพี่รหัส”

“พี่จอง”ควีนพูดและหันไปสบตาพี่จอง

“ว่าไงครับน้องคินตา มีอะไรกับพี่เหรอ” พี่จองตอบด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“พี่ใช่พี่รหัสผมใช่ไหม”

“อืมมมมมม ใช่ดีรึเปล่าน้าาาาา” พี่จองเอามือมาจับคางตนเองแล้วทำเป็นนึกคิด “เป็นจะให้พี่เป็นก็ได้นะแต่พี่ว่าพี่ไม่เหมาะจะเป็นพี่รหัสน้องเลยสักนิด” พี่จองทำท่าคิดหนักกว่าเดิมพรางจ้องใบหน้าของควีนที่ยังนิ่งรอคำตอบเหมือนเดิม “อยากรู้ไหมว่าพี่เป็นพี่รหัสของน้องจริงไหม” ควีนพยักหน้าตอบ “เป็นแฟนกับพี่สิ ฮึๆๆๆ” สิ้นคำตอบของพี่จองเหล่าบรรดาเพื่อนก็โห่ร้องแซวเสียงดัง

“วิ้ด วิ้ววววววววว พี่จองเพื่อนผมครับ เพื่อนโผมมมมมม” ควีนได้แต่หันมองเทย์ที่กำลังมองตนอยู่ด้วยความสนุกสนานและท้าทายตนว่า กูบอกมึงแล้ว ควีนจึงยักไหล่ให้แล้วหันกลับมาหารุ่นพี่ตรงแล้วเดินไปตรงหน้าพี่จองแล้วยื่นหน้าไปใกล้ๆแล้วมองเขาด้วยสายตานุ่มลึกเหมือนทุกครั้งที่ควีนต้องการจะสยบใครสักคน และนั่นทำให้พี่จองชะงักไปและใบหน้าที่ขึ้นสีนิดหน่อย จากนั้นควีนจึงถอยออกมาแล้วส่ายหน้าๆเบา

“อะ.. อะไร” พี่จองพูดติดนิดหน่อยแต่พอสักพักเหมือนได้สติก็ยิ้มเหมือนถูกใจที่ควีนกล้าทำแบบนี้

“ไม่ตกลงครับ”

“ทำไมล่ะครับง่ายๆออก แค่น้องตกลง น้องก็รู้แล้วว่าพี่ใช่พี่รหัสของน้องรึเปล่าแถมถ้าพี่ไม่ใช่พี่จะยอมบอกน้องด้วยว่าพี่รหัสน้องเป็นใคร ถ้าน้องไปถามพี่คนอื่นอาจจะไม่ได้ทำอะไรที่มันง่ายๆ หรืออะไรที่มันเป็นเรื่องน่าภูมิใจอย่างนี้นะครับ ดูเพื่อนคนอื่น”ควีนหันมองไปรอบๆก็เห็นเพื่อนๆแต่ละคนที่โดนรุ่นพี่แกล้ง บ้างคนก็ให้เต้นท่าที่อุบาทสุดๆ หรือบ้างคนก็ให้ไปปีนต้นไม้ และหลายๆอย่างที่จะทำให้รุ่นน้องอับอายได้

“เห็นไหมล่ะครับ น้องคินมีแต่ได้กับได้นะ ได้รู้พี่รหัสแถมยังได้แฟนอีกด้วย ฮ่าๆๆๆ”

“ไม่ละครับ พี่ยังไม่ดีพอ”

อู้วววววววววววววววววววววววววววววววว เหล่าบรรดารุ่นพี่ส่งเสียงโห่ทันทีที่ควีนพูดเสร็จ แต่พี่จองหาได้สะทกสะท้านไม่หากแต่หัวเราะพอใจอีกต่างหาก

“ฮ่าๆๆ หรอครับ แย่จัง แล้วผู้ชายแบบไหนน้าาาาาาาา ที่น้องคินชอบ” พี่จองหันหน้าไปรอบๆแล้วชี้ไปที่เพื่อนแต่ละคน “แบบหล่อเข้มเหมือนไอ้ชิน น่ารักใสๆแบบไอ้ตูน หรือแบบไทยๆอย่างไอ้ชาย หรือจะเป็นลูกครึ่งฝรั่งแบบไอ้จัสตินดี” แต่ควีนก็ส่ายหน้าให้กับทุกคนที่พี่จองชี้ไป “อืมมมม  ถ้าแบบพี่ไม่ชอบแบบไอ้พวกนี้ไม่ชอบ งั้น.............น้องควีนคงจะชอบแบบนิ่งๆแต่ลึกลับน่าค้นหาแถมยังเซ็กซี่เย้ายวนอย่างไอ้คิงเดือนเศรษฐศาสตร์สินะครับ” พี่จองชี้ไปที่คิงที่กำลังเตะบอลอยู่กับเพื่อนๆที่สนามฟุตบอลข้างๆ ควีนได้แต่มองตามนิ้วของพี่จองไปคิง เขายิ้มที่มุมปากแล้วหันมากลับมาตอบ

“ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี”

“เหรอครับ ว้าาาาาา แย่จังคนแบบไหนกันที่จะดีพอเป็นแฟนของน้องได้ ขนาดไอ้คิงที่ดูเหมาะกับน้องยังไม่ใช่ เสป็คน้องนี่เป็นเทวดารึเปล่าครับ ฮ่าๆๆๆ”

“ฮึๆ คงจะใช่มั้งครับ”

“โอ้ นางฟ้าก็ต้องคู่กับเทวดาสินะครับ และราชาอย่างไอ้คิงจะหาควีนที่ไหนมาคู่ด้วยล่ะครับ” พี่จองมองควีนอย่างมีเลศนัยและต้องการจะสื่อความหมายบางอย่างให้ควีน “ถ้าน้องไม่ยอมเป็นแฟนกับพี่  งั้นพี่ขอท้าน้องถ้าน้องทำได้พี่จะยอมบอกเลยว่าพี่รหัสน้องเป็นใครโดยที่ไม่ต้องไปหาพี่คนอื่นอีกถ้าเกิดว่าพี่ไม่ใช่” ควีนยักคิ้วด้วยความสนใจ

“ทำอะไร”

“อืมมม สวยๆอย่างน้องพี่ละอยากจะรู้ว่าเก่งพอที่จะเอาชนะพระราชาอย่างไอ้คิงๆได้รึเปล่า งั้นพี่ขอท้าให้น้องทำยังไงก็ได้แค่ให้ได้อะไรที่มันอยู่ใต้ร่มผ้าของไอ้คิง ไม่ใช่ข้างนอกเสื้อผ้านะ ย้ำ ข้างในเสื้อผ้าและที่สำคัญน้องต้องเป็นคนหยิบออกมาด้วยตัวเองห้ามให้ไอ้คิงมาช่วยเด็ดขาด กล้าไหมครับน้องคินตาคนสวย” เมื่อสิ้นคำท้าของพี่จองควีนจึงหันไปมองร่างสูงของคินที่กำลังวิ่งเตะบอลอยู่กลางสนามและหันไปหาเทย์ที่ตอนนี้ยืนหัวเราะสะใจที่ควีนโดนท้าแถมยังทำหน้าท้าทายให้ควีนอีกต่างหาก ว่าเขาจะป้อดหรือกล้าที่จะทำ ก่อนที่ควีนจะหันไปมองคิงอีกครั้งพร้อมทั้งเสียงเชียร์จากบรรดารุ่นพี่และรุ่นน้องของตัวเองที่เริ่มมาสนใจการท้าทายของควีนและพี่จอง

“ตกลงครับ” พอคำตอบขอควีนถูกเปล่งออกมาเสียงโร้องเชียร์จากผู้คนรอบข้างก็กระหึ่มขึ้นมาทันที

“เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!”

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-08-2015 20:02:20
หยิบอะไรเนี่ยยย   :hao6:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-08-2015 20:29:27
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 13-08-2015 20:10:39
 :hao7: :hao7: :hao7: มาแล้วๆๆ เอาครึ่งแรกมาฝาก555555 คือไม่ใช่ว่าหวงแต่หัวสมองเรากากและที่สำคัญเราพิมพ์ช้ามากกก แต่เราก็อยากจิลง :z2: :z2: :z2: เออแล้วก้มีอีกเรื่องหนึ่ง คือวันนี้เราเข้าไปอ่านนิยายเรื่องหนึ่งมาในเล้าขอเรานี่แหละแล้วที่น่เราก้ไปเห็นว่าให้เรื่องพระเอกนั้นชื่อคิงอีกทั้งในเรื่องน้านนนก็มีตำแแหน่งควีนสำหรับนางเอกด้วย  :a5: :a5: :a5: ซึ่งเราอ่านครั้งแรกก้แอบตกใจที่พระเอกนางเอกดันมีชื่อเหมือนกันซึ่งเราอยากจะบอกไว้เลยว่าอันนี้เราไม่ได้ไปก้อปของเขามานะไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย เราคิดได้เราชอบชื่อนี้ก็เลยตั้งไม่ใช่เพราะอยากจะไปก้อบผลงานที่เขากำลังดังมาเขียน เแต่เอาๆจริงแล้วแนวทางนิยายอะไรมันก็ไม่เหมือนกันหรอกจะไปตรงก้แค่ชื่อพระเอกนางเอกเท่าน้นและดูผลงานของเขาก็ดุจะเขียนดีกว่าของเรามากกกกกกกกก 555555 ถ้าใครหลายคนติดตามก้น่าจะรู้จักเรื่องนี้เนาะ แบบว่าเขาเขียนดีจริงๆค่ะแต่เราก็อยากจะขอโทดเขาด้วยที่บังเอิญชื่อไปซ้ำกันเพราะเราก็เพิ่งจะมาอ่านนิยายของเขาก็วันนี้เอง อยากจะบอกว่าอ่านรวดเดียวจบถึงตีห้าเบาๆอ่ะค่ะ แทบจะไม่ได้นอน :z10: :z10: :z10: ยังไงก็อยากจะให้ทุกคนเข้าใจเราก็ตั้งใจสร้างสรรคืงานเราเหมือนกันไม่ได้ไปลอกเลียนแบบใครมาทั้งสิ้น แค่ทุกคนกดเข้ามาอ่านกระทู้ของเราเราก็ดีใจมากๆแล้ว ขอบคุณค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:





                                                                     Chapter 11


ควีนเดินมุ่งตรงไปที่สนามฟุตบอลพร้อมทั้งเสียงเพื่อนๆพี่ที่เชียร์ตามหลังมา เขาหยุดอยู่ที่ข้างสนาม การมาถึงของนางพญาอย่างควีนไม่จำเป็นต้องป่าวร้องประกาศทุกคนก็พร้อมที่จะสนใจเขาเสมอ เหมือนอย่างที่ทุกคนในสนามเริ่มหันมามองควีนกันจนคิงเองก็หันมาสนใจเหมือนกันเพราะดูเหมือนทุกคนในสนามจะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าที่จะเป็นลูกบอลกลมๆที่กลิ้งไปตามสนาม คิงหันมาสบตากับควีนที่ยื่นนิ่งอยู่ข้างสนามแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหรือเรียกชื่อใคร เหมือนทั้งสองจะโทรจิตกันได้รึเปล่าเพราะแค่สบตาก็เหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรโดยไม่ต้องพูดคิงก็เดินมาหาควีนแล้ว
“อะไร”
“นู้น” ควีนพยักชี้ไปยังกลุ่มรุ่นพี่ “เล่นเกมส์หาพี่รหัสอยู่”
“แล้ว”
“เขาขอให้เอามาเอาของจากนาย” คิงที่ตั้งใจฟังควีนพูดทั้งสะบัดผมไปมาด้วยความรำคาญเนื่องจากเพิ่งเตะบอลมาและเหงื่อก็ออกมาท่วมเปียกไปทั้งตัวรวมถึงผมที่ปรกหน้าอยู่มันจึงทำให้เขารำคาญอยู่ไม่น้อย เมื่อควีนเห็นอย่างนั้นจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบยางมัดผมเส้นเล็กๆขึ้นมาแล้วรวบผมด้านหน้าให้คิง
“เอาอะไร” คิงถามและมองเจ้าตัวที่กำลังมัดผมให้เขาอยู่
“เอาอะไรก็ได้”
“ขอบใจ” คิงพูดเมื่อมัดผมให้เขาเสร็จและยิ้มมุมปากให้
“ที่อยู่ใต้ร่มผ้าของนาย”
“หืม” คิงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจกับคำตอบของควีน “ฮึๆ อยากได้อะไรละ”
“ไม่รู้สิ เจ้าของตัวว่ามีอะไรก็เอาอันนั้นแหละ”
“ฮึๆ งั้นก็คงเป็นอันนี้ได้ใช่ไหม” คิงจับมือของควีนมาสัมผัสกับหน้าท้องของเขาแล้วลากมายังสะดือที่ดูจะต่ำหมิ่นเหม่ไปสักนิดจนกลัวว่าถ้าต่ำไปกว่านั้นอาจจะเจออะไรที่มัน... อย่าต้องให้อธิบายเลย ฮึๆๆๆ จนควีนรู้สึกว่ามีอะไรแข็งอยู่ตรงสะดือ เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเพราะเมื่อคืนที่อยู่ด้วยกันก็ไม่เห็นมีสิ่งแปลกปลอมอะไรอยู่บนร่างกายของคิงเลย เมื่อเห็นหน้าสงสัยของควีนเข้าจึงอธิบายให้ควีนรู้ “พี่ไปเจาะสะดือมานะ ตอนเที่ยงนี้เอง ” ควีนจึงพยักหน้าเข้าใจและหันกลับไปมองกลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังดูเขาอย่างสนุกสนานพร้อมทั้งทำท่าให้ควีนรู้ว่าห้ามคิงช่วยรวมทั้งคิงก็หันไปดูด้วย
“จะดีเหรอ เพิ่งเจาะมาไม่ใช่”
“ไม่เป็นไร เพราะยังไงตอนเย็นก็กะว่าจะไปเอาออกอยู่แล้วเพราะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับพี่เท่าไหร่ ไอ้พากย์มันแค่อยากหาอะไรทำแก้เบื่อนะ” ด้วยการเจาะสะดือให้เพื่อนเนี่ยนะเหรอ เชื่อเขาเลย ควีนส่ายหน้าให้กับการกระทำสุดโต่งของหมอจอมเถื่อน
“ขออนุญาตนะ” ควีนเอื้อมมือไปหมายจะปลดกระดุมเสื้อของคิงแต่ก็ถูกคิงจับมือไว้ก่อน
“แล้วถ้าบอกว่าพี่ไม่ให้ล่ะ” คิงส่งสายตาสีฟ้าเขียวใสมรกตดังคลื่นทะเลที่ซุกซนมาให้เหมือนต้องการจะท้าทาย
“งั้นขอใช้สิทธิ์”
“สิทธ์อะไร”
“ที่ชนะไปครั้งที่แล้วไง” คิงพยักหน้าเข้าใจว่าสิทธิ์ที่ควีนหมายถึงครั้งที่ควีนชนะเขาในการแสดงโชว์ในคืนที่เขาทั้งสองแสดงต้อนรับลูกค้าที่ร้านพี่จิล
“แล้วถ้าพี่จะบอกว่าสิทธ์นั้นจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเรายอมไปที่ๆหนึ่งกับพี่ก่อนละ”
“มันเกี่ยวกันที่ไหน”
“เกี่ยวสิ ถ้าพี่จะให้มันเกี่ยว”
“ฮึ ประสาท” ควีนยกยิ้มเหมือนตลกกับสิ่งที่คิงพูดพร้อมทั้งมองไปยังดวงตาของคิงที่ฉายแววท้าทายเต็มที่ทั้งที่หน้าเขาก็ยังนิ่งเหมือนเดิม “แล้วมันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงไหม”
“ก็ถ้าไม่ลองดูมันก็ไม่ใช่การเสี่ยงสิ จริงไหม”
“งั้นก็ได้” คิงยกยิ้มเมื่อควีนตอบตกลงจากนั้นจึงปล่อยมือควีนออกและผายมือทั้งสองข้างเหมือนบอกควีนว่าอยากจะอะไรก็เชิญตามสบาย ควีนจึงเริ่มปลดกระดุมของคิงไปทีละเม็ดทีละเม็ดเรียกเสียงฮือฮาและกรี้ดกราดจากสาวๆและบรรดาเก้งกวางเมื่อมัดกล้ามสวยๆถูกปรากฏออกมาสู่สายตาสาธารณะ ควีนแกล้งลากมือจากหน้าอกลงมาเรื่อยๆผ่านกล้ามท้องแน่นๆถึงจิลสีเงินที่ถูกเจาะกับสะดือสวยของคิงแต่มือเรียวยาวก็ยังไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้นทั้งที่ตรงนี้คือเป้าหมายกลับค่อยๆลากลงต่ำไปจนถึงหัวเข็มขัดของคิงและมองหน้าคิงแล้วยิ้มขำเพราะรู้สึกว่าสนุกที่ได้แกล้งคนแต่ไม่ใช่กับคนตรงหน้าหรอกเพราะเขารู้ว่ายังไงคิงก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วแต่ที่เขาแกล้งคือคนที่อยู่รอบข้างเขาต่างหากเพราะดูเหมือนบ้างคนจะแดดิ้นไปกับการกระทำของเขาอยู่ รวมถึงพี่จองที่ดูจะอึ้งๆที่ควีนทำแบบนี้อยู่เหมือนกัน
“อยากดังกว่าเดิมรึไง ฮึๆ” คิงขำน้อยๆและก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามการกระทำของควีนเลยแม้ว่ามือของเขามันอยู่ผิดจุดมากไปหน่อย “หรือว่าอยากได้อย่างอื่น”
“ฮึๆ” ควีนแค่ยักไหล่ให้คิงแล้วเริ่มถอดจิลออกมาและที่สะดือของเขาก็มีเลือดซึมออกมานิดหน่อยแต่คิงก็ยักไหล่ให้ควีนเหมือนบอกว่าแค่นี้สบายๆไม่ต้องห่วง เมื่อควีนได้ของที่ต้องการก็พยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณและจะพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหันกลับไปหารุ่นพี่ด้วยสายตาอย่างนางพญาเพราะว่ายังไงเขาก็ชนะใสๆในเมื่อจิลนี้ก็เป็นสิ่งที่อยู่ใต้ร่มผ้าเหมือนกัน


“เดี๋ยวคืนนี้จะไปทำแผลให้ที่ห้องนะ”

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-08-2015 21:10:32
คู่นี้นิ อ่อยกันไปอ่อยกันมา  ทนได้ยังไง
เป็นนิ บุกปล้ำไปแล้ว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-08-2015 21:34:53
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-08-2015 22:44:40
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 13-08-2015 22:53:57
พึ่งอ่านจบ บอกได้คำเดียว....แซ่บมากกกกกกกกกกกก   :haun4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 14-08-2015 08:48:35
โอ้ยชอบอ่ะ  แม้เขาเปิดเผยกัน อยากรู้จริงถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย ยอมรับเลยว่าสองคนนี้เทพมาก  ขอถามคนแต่งนิดหนึ่ง ตกลงคิงอยู่คณะอะไรกันแน่ ผมเห็นว่า มีเกษตร กันนิเทศนะ  ตกลงว่าคณะอะไรครับ   แล้วอีกอย่างช่วยบอกวันที่ลงหน่อยได้ไหม ผมจะได้ตามอ่านได้ถูกว่ามาลงแล้ว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 14-08-2015 13:18:50
ควีนกะคิงขี้อ่อยทั้งคู่

รอตอนต่อไปปปปปปปป

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 14-08-2015 16:02:25
มาแล้วววว  :katai2-1: :katai2-1: ที่ถามกันมาว่าคิงเรียนไร คำตอบคือพี่คิงของเราเรียนเศรษฐศาสตร์ ส่วนควีนเรียนบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ทั้งสองเรียนคณะสังคมเหมือนกันค่ะ สองสาขานี้เขาเป็นคณะพี่น้องกันด้วยนะเออ อาจจะมีโอกาสได้มาป่ะแฮ๋มกันอยู่สักวัน    ส่วนคนอื่นก็มีจูนที่เรียนฝรั่งเศษ หมอเถื่อนอย่างพี่พากย์เรียนหมอ  o13 o13 o13 :z2: :z2: :z2:



หลังจากที่ทำภารกิจของรุ่นพี่เสร็จแล้วสรุปว่าพี่จองนั้นเป็นพี่รหัสของควีนจริงตามความคาดการของเทย์เป้ะๆ ดูเหมือนว่าพี่รหัสคนนี้จะถูกใจน้องรหัสอย่างควีนเป็นอย่างมากเพราะหลังจากที่เฉลยเสร็จแกก็ชวนควีนไปเที่ยวเลี้ยงฉลองทันทีทั้งที่กฎของรุ่นพี่คือจะสามารถไปได้ก็ต่อเมื่อทุกคนรู้พี่รหัสของตัวเองครบทุกคนแต่ควีนก็ปฏิเสธไปเพราะด้วยความขี้เกียจและยังไม่อยากทำให้เพื่อนเดือดร้อนในตอนนี้  หลังจากนั้นควีนก็กลับไปที่หอตนพร้อมกับเทย์เพราะว่าคืนนี้จะไปค้างที่ห้องเทย์ก่อนเพราะผู้จัดการหอยังไม่กลับมารวมถึงไอ้ตัวเล็กของเขาด้วย ควีนเดินไปเคาะห้องคิงแล้วเข้าไปเอาของตัวเองที่ทิ้งไว้และทำแผลให้คิงอย่างที่บอกไว้เสร็จแล้วก็กลับมายังรถที่เทย์จอดรออยู่โดยไม่ได้พูดอะไรกับคิงกันมากมาย

“เมื่อคืนนี้มึงไปนอนห้องใครมาวะ ทำไมไม่บอกกู จะได้ขี่รถมารับ” เทย์ถามทันทีที่ควีนขึ้นรถ

“รุ่นพี่นะ มันดึกแล้วเกรงใจมึง คอนโดมึงก็อยู่ตั้งไกล ไม่อยากรบกวน”

“กูบอกให้มาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อ ยังจะมาอยู่หอร้อนๆไปทำไม”

“ก็กูไม่มีตังค์”

“ไม่มีตังค์เชี่ยไร ตอแหลอีกแล้วนะมึง”

“กูพูดเรื่องจริง”

“เออๆ ไม่อยากเถียงกับมึงเรื่องนี้แล้ว ไอ้เด็กเสี่ย!!” เทย์เอื้อมมือมาพลักหัวควีนเบาๆเพราะความหมั่นไส้แล้วหันไปมองทางข้าง
หน้าต่อ “แล้วโทรศัพท์นะ มึงเปลี่ยนสักทีเถอะ กูขอร้องมันติดต่อยากรู้ป่ะ เวลามีงานมีไรจะได้รู้ทันเวลา คุยกับเพื่อนได้สะดวก กูจะได้ไม่ต้องมาตามงานให้”

“โทรศัพท์เขามีไว้โทร เครื่องนี้มันก็โทรได้กูจะเปลี่ยนทำไม”

“สมัยนี้เขามีทั้งโทร เล่นเฟสเล่นไลน์ได้หมดแล้วโว้ย  อีกอย่างเพื่อนมันก็คุยงานกันในไลน์ตลอด มีแต่มึงอ่ะที่ในเอกยังไม่ได้อยู่ในกลุ่มเพราะแม่งโทรศัพท์กาก”

“กากตรงไหน เกมส์กูก็มี”

“เกมส์เชี่ยไร แม่งเล่นไพรเวตคิงได้ไง้”

“เกมส์งู”

“งูพ่อง!” ควีนขำน้อยๆที่แหย่เพื่อนตัวเองได้

“สนุกดีนะมึง มึงลองเล่นดูสิ ฮึๆ เอาไว้ก่อนละกันถ้ามันทีอะไรที่จำเป็นจริงเดียวกูค่อยซื้อ กูยังไม่อยากซื้อเพราะเครื่องนี้เพิ่งใช้ได้แค่สามปีเอง เสียดาย”

“โอ้ยไอ้คิน เครื่องล่ะไม่ถึงพันเสียดายทำเชี่ยไร กูบอกให้ขอเสี่ยมึงก็จบ”

“เออๆ เดียวกูไปอ้อนขอให้เขาซื้อให้”

“ดี ว่าแต่รุ่นพี่คนไหนว่ะที่มึงไปนอนด้วย กูจำได้ว่าไม่มีรุ่นพี่เอกเราที่อยู่ที่หอสักคนนะ”

“พี่คิง”

“ห้ะ !!” เอี้ยดดดดด  เสียงเบรกรถดังขึ้นสนั่นเพราะเทย์ที่เบรกรถกะทันหันเพราะตั้งใจจะเบรกรถเพราะไฟแดงอยู่แล้วแต่ดันเบรก
แรงไปหน่อยเพราะตกใจที่ควีนพูด จนควีนเองก็เด้งตัวไปข้างหน้าจนเกือบโดนคอนโซลรถ “ไหนมึงบอกไม่มีไรไง” เทย์ถามหันมามองควีนด้วยสายตาจับผิด

“ก็ใช่ไง”

“กูไม่เชื่อ มึงบอกกูมาเลยเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น” เทย์จ้องหน้าควีนอย่างหาคำตอบ

“ก็แค่นอน” ควีนตอบพร้อมทำตามีเลศนัย

“มึงไม่ต้องมาทำตาเจ้าเล่ห์ใส่กูนะ นอนท่าไหนกันว่ะ”

“จะนอนท่าไหน ก็นอนท่าปกติสิ”

“เหอะอย่าให้รู้นะว่า นอนทับกัน ไม่งั้นมึงโดนแน่”

“กูนอนคนละเตียงกัน อีกอย่างกูไม่ชอบโดนทับกูชอบออนท้อป”

“เหี้ยคิน!กูจะฟ้องเสี่ยมึง”

“ฮึๆๆ ไปฟ้องเลยไป” ควีนผลักหัวเทย์โดยความหมั่นไส้แต่ก็โดนผลักกลับมาแรงกว่าเดิมกลับกลายเป็นว่าทั้งคู่เล่นผลักหัวกันจน
รถเกือบจะเสียหลักจนเทย์ต้องหันกลับมาตั้งใจขับรถ

สองวันถัดมาควีนกับเพื่อนๆก็มาเรียนตามปกติและกำลังเลิกเรียน

“โอ้ย แกฉันยังหาพี่รหัสไม่เจอเลยว่ะ ทำไงดีว่ะ” มดบ่นตามประสาคนชอบพูด

“เอาน่าแก เพื่อนตั้งหลายคนก็ยังหาไม่เจอเลย ดูไอ้เทย์สิ แม่งไม่เห็นมันจะกระตือรือร้นอะไรเลย” เกรซหันมาว่าเทย์

“เออ ไอ้เทย์เมื่อแกจะหาพี่แกซะที ฉันอยากจะไปเที่ยวเต็มแก่แล้วเว้ย”

“อ้อ ที่รีบนี่คืออยากจะไปเที่ยวหรอกหรอครับ นึกว่าอยากจะเจอพี่ซะอีก” มหาพูด

“พี่ก็อยากเจอเว้ย แต่อยากไปเที่ยวมากว่า ฉันจะไปหาพี่คิงของฉ้านนนน”

มดพูดพร้อมทำหน้าเคลิบเคลิ้ม “ฉันยังติดตราตรึงใจกับหุ่นล่ำหน้าจับปล้ำของพี่แกวันนั้นอยู่นะเว้ย แม่งอยากจะเป็นไอ้คินที่ได้สัมผัสซิกแพกแน่นๆหน้าอกเนื้อๆ  พูดแล้วมือแม่งสั่นเลยว่ะ แอร้ยยยย”

“ฮึๆ” ควีนหัวเราะน้อยๆกับเพื่อนตัวเองแต่ก็ต้องเบนความสนใจจากเพื่อนตัวเองไปยังบุคคลตรงหน้าที่เพิ่งจะถูกกล่าวถึงไปหยกๆ

“เฮ้ย!! พี่คิงนี่แก อร้ายยย พูดถึงแฟนแฟนก็มา” มดทักขึ้นพร้อมทั้งกรี้ดกราดออกมาเมื่อเห็นคิงยืนพิงรถบิ้กไบค์คันสวยของ
พากย์อยู่ที่หน้าคณะของควีน เทย์หับขวับมาที่ควีนทันที

“ไหนบอกไม่มีอะไรไงไอ้คิน แล้วมาหากันถึงคณะนี่อะไร”

“ก็ไม่มีอะไรไง เขาอาจจะไม่ได้มาหากูก็ได้”

“ไม่ได้มาหามึงแล้วหาใครล่ะ เดินมาทางกลุ่มเราซะขนาดนี้” เทย์มองตามคิงที่เดินมาทางที่พวกเขาอยู่ ควีนยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

“เฮ้ย พี่เขาเดินมาทางนี้แล้วแก” มดตบไปที่ไหล่มหาอยากตื่นเต้น

“ผมเจ็บนะครับคุณมด”

พอคิงมาถึงก็หยุดที่หน้าควีนและยื่นกุญแจมาให้

“กุญแจห้อง”

“เฮ้ย!!!!!!!” เพื่อนๆทุกคนร้องประสานเสียงกันทันทีด้วยความตกใจ

“เฮ้ย อะไรกุญแจห้องกูเอง”

“แล้วพี่คิงเอามาได้ไง” มดถามอย่างคลางแคลงใจรวมถึงเพื่อนคนอื่นที่เหมือนจะคิดเตลิดไปไกลแล้ว

“ก็น้องเขาลืมไว้ในห้องแล้วพอดีผู้จัดการหอเพิ่งกลับมาเมื่อวานแต่โทรหาควีนไม่ติด พี่เลยเอามาให้”

“อ้อออออออ แล้วไปนึกว่า..” มดพูดพร้อมทั้งหน้าแดงเขินอายเมื่อคิดไปถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น

“ขอบคุณ” ควีนขอบคุณพร้อมทั้งยื่นมือไปรับกุญแจมา

“มาขึ้นรถสิ” คิงพยักหน้าไปที่รถจอดอยู่

“ไม่เป็นไร กลับเองได้”

“พี่ไม่ได้จะไปส่ง แต่จะพาไปที่สัญญากับพี่ไว้ไง”

“หืมมมมมมม” ทุกคนร้องออกมาด้วยความแปลกใจแต่ยังไม่กล้าพูดขัดทั้งสองคน ส่วนเทย์นี่มองควีนจนตาแทบจะทะลุแล้ว

“วันนี้เลยหรอ” ควีนถาม

“อืม”

“งั้น..... เราไปก่อนนะเพื่อนๆวันจันทร์เจอกัน”  ควีนหันไปลาเพื่อนๆพร้อมทั้งเดินไปขี่บิ้กไบค์กับคิงโดยไม่ปล่อยโอกาสให้
เพื่อนๆได้สอบสวนเลยว่าคดีมีอะไรยังไงในกอไพ่ระหว่างพวกเขาสองคนรึเปล่า

“ว้อท อิส ดิ้ท?!!!!!!!!!!” เกรซพูดขึ้นออกมาด้วยความแปลกใจอย่างหนัก

“อะไร! นี่มันอะไรกันค่ะ ตอบกูด่วนค่ะ สองคนนั้นมันยังไงค่ะไอ้เทย์ ตอบกูด้วย โอ้ยยยยยยยยยย”

“คุณคินตานี่สวยจริงนะครับ ยิ่งนั่งรถซ้อนท้ายพี่คิงอย่างนี้ยิ่งหาคำมาเปรียบเทียบความดูดีแบบนี้ไม่ได้เลยนะครับ” มหาพูดพร้อม
ทั้งมองตามทั้งสองคนไปด้วยความชื่นชม “ว่าแต่.... เมื่อกี้ถ้าผมฟังไม่ผิดพี่คิงเรียกคุณคินตาว่าควีนใช่ไหมครับ”
ทุกคนหันมามองที่มหาทันที

“เออว่ะ”
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11 ครึ่งหลังจร้า < 14/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-08-2015 17:08:04
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11 ครึ่งหลังจร้า < 14/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 14-08-2015 18:39:23
สำหรับผมก็คำนี้เหมือนกัน  เออว่ะ  ความลับจะแตกไหมน้อ คึคึ ขอบคุณคนแต่งที่ทำตามคำขอนะครับ เนื้อหาโอเคขึ้น คำผิดก็ลดลงไม่ค่อยเจอแล้วครับ อยากรู้เขาจะไปที่ไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11 ครึ่งหลังจร้า < 14/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: leefever ที่ 14-08-2015 19:01:42
น่าสนใจๆ สู้ๆนะคะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 11 ครึ่งหลังจร้า < 14/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 15-08-2015 08:21:42
ตามเข้ามาอ่านนนนนนนน
ชอบพี่คิง 555555
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 < 23/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 23-08-2015 21:21:56
มาแล้วค่ะมาแล้ว หายไปเป็นอาทิตย์เลย ฮือออออออออออออออ :mew6: :mew6: เราเพิ่งเปิดเทอมและยังปรับตัวการเรียนใหม่ไม่ค่อยได้เลยหายไปนาน ตอนแรกกะว่าจะเขียนให้เต็มบทก่อนแล้วค่อยลงแต่ว่าเราไม่ค่อยสบายเลยทำให้ได้แค่นี้ ไม่โกรธกันเนอะ เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะรีบมาต่อให้นะ แอบสปอยก่อนนะว่าตอนนี้ก่อนจะไปสู่ฉากอันเร้าร้อนจัดแบบละมุนนุ่มหัวใจกันไปก่อนนะเออ :hao7: :hao7: :impress2: :impress2:







                                                                     Chapter 12


บิ้กไบค์คันหรูโฉบเฉี่ยวไปตามเส้นทางลาดยาวที่ตอนนี้สองข้างทางเริ่มเป็นต้นไม้ที่ทอดยาวไปตามถนนปลายยอดโค้งงอเข้าหากันคล้ายดังอุโมงค์ต้นไม้ที่สวยงามแทนที่จะเป็นตึกรามบ้านช่องที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ร่างโปร่งที่ซ้อนท้ายคิงอยู่ยืดตัวถอดหมวกกันน็อคออกมาเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ของธรรมชาติ เขาดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสองข้างทางอย่างสงบนิ่งแต่เพราะความเป็นธรรมชาติที่ยากจะหาได้ในเมืองกรุง คิงมองร่างโปร่งที่มีสีหน้าพึงพอใจกับการได้มองธรรมชาติจากสองข้างทางผ่านกระจกรถ เขายกยิ้มเมื่อเห็นควีนดูจะชอบที่ที่เขาพามาไม่น้อยจึงผ่อนความเร็วรถลงเพื่อให้ควีนได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทั้งสองขับรถมาได้ประมาณสองชั่วโมงเส้นทางที่คิงพาควีนมาเขาไม่รู้เลยว่าคือที่ใดและไม่คิดเลยว่าแถวชานเมืองแบบนี้จะมีธรรมชาติที่งดงามซ่อนอยู่ จากอุโมงค์ต้นไม้ที่สวยงามเมื่อสิ้นสุดเส้นทางดูเหมือนปลายทางจะสว่างวาบขึ้นมาภาพตรงหน้าที่ทั้งสองเห็นเป็นดั่งเหมือนสรรค์ที่แอบมาซ่อนตัวอยู่ในโลก ควีนแทบนึกไม่ออกเลยว่าใครกันที่รังสรรค์พื้นที่ตรงนี้ให้งดงามได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจถ้าไม่ใช่นักออกแบบที่เก่งที่สุดในโลกก็เห็นจะเป็นพระเจ้าแล้วละมั้งที่จะทำแบบนี้ได้ ทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่กว้างสุดลูกหูลูกตาปรากฏแก่สายตาทั้งสอง ถ้าจะให้อธิบายว่าดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้านั้นมีดอกอะไรบ้างควีนก็ไม่อาจจะบอกได้หมดเพราะบางชนิดเขาเองก็ไม่รู้จักรู้แค่ว่ามันสวยมากๆ เขารู้สึกเหมือนเป็นผีเสื้อตัวน้อยๆที่กำลังโฉบเฉี่ยวไปมาท่ามกลางทุ่งดอกไม้ มันเหมือนในนิทานที่เขาฟังแล้ววาดภาพไว้ เหมือนเจ้าหญิงที่งดงามวิ่งเล่นไปท่ามกลางทุ่งดอกไม้อย่างมีความสุข ควีนตกอยู่ในภวังค์ความงามของธรรมชาติจนกระทั่งรถคันหรูจอดตรงหน้าบ้านไม้เล็กๆหลังหนึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัวเข้ากับบรรยากาศของที่นี้ไม่ได้หรูหราแต่ความธรรมดาก็แฝงไปด้วยความน่ารักและอบอุ่นอย่างรู้สึกได้ คิงหยิบกุญแจมาไขตัวบ้าน

“ที่นี่ที่ไหนหรอ” ควีนถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่าคิงมีกุญแจบ้านหลังเล็กน่ารักนี้

“บ้านพักตากอากาศของคนรู้จักนะ อืมมมม ไม่ใช่บ้านพักสิน่าจะเรียกว่าสวนของเจ้าของที่นี่มากกว่า”

“แล้วทำไมถึงมีกุญแจบ้านได้ล่ะ”

“ก็.........พอดีรู้จักกับเจ้าของที่นี้และชอบมาเที่ยวที่นี้บ่อยๆ คนที่ดูแลบ้านหลังนี้เขาเลยยกกุญแจให้เพราะบางครั้งเขาก็ไม่ได้มาดูแลบ่อยๆ เลยฝากดูแลทำความสะอาดบ้านแลกกันนะ”

“อืม” ควีนพยักหน้ารับและเดินตามคิงเข้าไปในตัวบ้าน คิงวางกระเป๋าเขาไว้ที่โต๊ะกลางห้อง ภายในห้องไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมาก เป็นเหมือนห้องรับแขกซะมากกว่า มีโต๊ะนั่งเล่นแบบญี่ปุ่นอยู่กลางห้อง ตู้เล็กๆอยู่ริมห้องมีถัดจากห้องนิดหน่อยก็เป็นห้องน้ำ มีเคาน์เตอร์ที่มีตู้เย็นขนาดเล็กและไมโครเวฟตั้งอยู่ ควีนมองไปรอบๆและเดินไปยังกระจกของตัวบ้านที่สามารถมองลอดผ่านเห็นทุ่งดอกไม้ได้

“ชอบไหม” คิงถามควีนที่ยังตั้งหน้าตั้งตาดูสวนดอกไม้อย่างไม่ละสายตา

“ชอบ”

“อยากดูแบบใกล้ไหมๆ”
ควีนเลิกคิ้วอย่างสนใจรีบหันไปมองคิงทันที

“ได้เหรอ”

“ได้สิ” คิงพยักหน้าไปยังประตูบ้านอีกด้านหนึ่งของห้องแล้วเดินนำออกไปเปิดประตูและสิ่งที่ควีนอยากจะสัมผัสก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาแค่เอื้อมมือ คิงเดินนำออกมาส่วนที่เขาพาควีนออกมาเป็นระเบียงจากตัวบ้านที่กว้างพอสมควร เสียงกระทบกันของโมบายน่ารักหลากหลายพลิ้วไหวไปกับสายลมเบาๆมันช่างเข้ากับบรรยากาศตรงหน้าเสียจริง ควีนค่อยๆเดินลงไปตามบันไดเล็กๆจากตัวระเบียงไปสู่สวนดอกไม้ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ควีนเดินไปสัมผัสกับดอกไม้ๆเบาแล้วก้มลงดมความหอมสดชื่นของมัน เขายิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจแล้วอยู่ๆเสียงกดชัดเตอร์ก็ทำให้เขาชะงักและหันไปดูคิงที่ตอนนี้ถือกล้องถ่ายรูปและหันมาทางเขา คิงลดกล้องลงและยกยิ้มให้ควีน

“ดอกไม้สวยๆเมื่ออยู่กับคนสวยๆควรจะเก็บภาพไว้นะ ว่าไหม” ควีนไม่ได้ตอบกลับไปแค่ยิ้มน้อยๆให้คิงแทน เมื่อคิงเห็นดังนั้นก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปแทนภาพที่ควีนยิ้มน้อยๆให้เขาอย่างเป็นธรรมชาติมันสวยงามพอๆกับหมู่มวลดอกไม้ที่อยู่ข้างหลังเขาไม่มีผิด แสงแดดที่ทอประกายมาทำให้ควีนดูสวยงดงามมากๆ ถ้าจะบอกว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นนางฟ้า คิงก็ไม่มีอะไรจะคัดค้านได้ ควีนหันกลับไปสนใจดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าเขาต่อไม่ได้ต่อว่าคิงแต่อย่างใดเพราะถ้าคิงจะถ่ายรูปเขาเป็นค่าตอบแทนที่พาเขามาที่นี่เขาก็เต็มใจจะให้คิงถ่ายอย่างเต็มที่เลยเพราะที่นี้มันถูกใจเขามากๆ ควีนเดินไปตามทางเล็กๆที่ถูกจัดเอาไว้ เขาเดินมาเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจคิงเลยว่าจะทำอะไรอยู่ หรือยังถ่ายรูปเขาอยู่รึเปล่า เขารู้แค่ว่าร่างสูงก็ยังเดินตามเขาอยู่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเพราะดูเหมือนว่าคิงเองก็รู้ว่าเขาต้องการที่จะชื่นชมความงามนี้จึงไม่พูดอะไรขัดเขาแม้แต่น้อย ควีนเดินมาถึงเนินเล็กๆที่มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมให้ร่มเงาอยู่ตรงกลางเนินเขาแถมใต้ต้นไม้ยังมีชิงช้าผูกไว้อีกด้วย ควีนย่อนตัวลงนั่งชิงช้าเบาๆมองไปรอบๆสวนดอกไม้จากนั้นเขาจึงหลับตาลงนั่งฟังเสียงธรรมชาติอย่างผ่อนคลาย ความเงียบสงบทำให้จิตใจเขาสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขานั่งหลับตาอยู่อย่างนั้นสักพักใหญ่ๆ จนมีเสียงมากระซิบที่ข้างหูเขา

“ชอบไหมครับ” น้ำเสียงนุ่มละมุนที่เอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ควีนใจเต้นอย่างแปลกใจเพราะมันต่างจากที่เขาได้ยินจากคิงแทนที่จะเป็นน้ำเสียงนิ่งๆติดเจ้าเล่ห์มากกว่า ควีนลืมตาแล้วหันกลับไปมองคิงที่ตอนนี้ยืดตัวตรงอยู่ข้าหลังเขาแล้ว

“ชอบ” เขาตอบอย่างที่รู้สึกออกไปทำให้คิงยกยิ้มน้อยๆเมื่อได้ฟังคำตอบจากร่างโปร่งและสีหน้าที่แสดงออกมาเหมือนอย่างที่
ตอบจริงๆ “ขอบคุณนะ” ควีนเอ่ยขอบคุณและยิ้มให้คิงอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันเป็นยิ้มที่กว้างกว่าเดิมแม้จะไม่ใช่ยิ้มที่เห็นฟันแต่มันก็ถือว่าเป็นยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่คิงคิดว่าน้อยคนนักที่จะได้เห็นควีนยิ้มแบบนี้ นี่ใช่เหตุผลที่ควีนไม่ค่อยยิ้มรึเปล่านะเพราะถ้าใช้ เขาคิดว่าคนรักคนหลงควีนมันจะเยอะขึ้นกว่าเดิมเป็นพันเท่าเลยล่ะถ้าควีนจะยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นเห็นบ่อยๆ

“อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นบ่อยๆล่ะ  เดี๋ยวชีวิตที่มีแต่คนรักคนหลงจะยุ่งเหยิงไปกันใหญ่”

“ฮึๆ” เมื่อควีนได้ฟังอย่างนั้นจึงหัวเราะน้อยๆ กับสิ่งที่คิงบอก “ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะที่พามาที่นี่”

“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นดีกว่าไหม” คิงเดินอ้อมมาด้านหน้าและนั่งลงบนชิงช้าข้างๆควีนที่ใหญ่พอสำหรับนั่งสองคนและหันไปจ้องตากับควีนอย่างมีเลศนัย

“จะเอาอะไรละ”

“เปลี่ยนจากรางวัลที่เราเป็นผู้ชนะในคืนวันนั้นที่ร้านพี่จิลให้เป็นรางวัลของพี่แทนได้ไหม”

“หืม เล่นอย่างนี้เลยหรอ” คิงยักไหล่ให้ควีนที่มองเขาเหมือนกำลังว่าเขาว่าเป็นคนขี้โกง ที่ขอของเล่นของเขาไปเป็นของตัวเองอย่างซึ่งๆหน้า  “ถ้าไม่ติดว่าชอบที่นี้มากๆ นายคงไม่มีโอกาสได้ของที่มันเป็นของฉันไปหรอก” เมื่อคิงได้ฟังคำตอบจากปากควีนจึงยกยิ้มอย่างพอใจหันไปสนใจธรรมชาติตรงหน้าต่อ สักพักควีนก็เอียงตัวมาซบไหล่คิงเบาๆ คิงไม่ได้หันไปมองควีนและปล่อยให้เจ้าตัวซบไหล่เขาไปอย่างนั้น ทั้งสองไม่ได้คุยอะไรกันเลยในระหว่างที่นั่งมองสวนดอกไม้ตรงหน้า สายลมเย็นสบายแม้ว่าตอนที่พวกเขามาถึงจะเป็นเวลาบ่ายสองโมงเพราะที่นี้รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธ์จึงทำให้บรรยากาศเย็นสบายไม่เหมือนอากาศปกติของเมืองไทยในเวลานี้ที่จะร้อนตับแตกแทบไม่มีที่ให้หลบภัย จนเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งสี่โมงเย็นทั้งสองยังคงนั่งอยู่ท่าเดิมไม่มีผิดเพี้ยน คิงยกนาฬิกาขึ้นมาดูทำให้ควีนเอ่ยปากถามทันที

“จะกลับแล้วเหรอ”

“อืม ขับรถตอนมืดๆมันอันตราย” คิงหันไปมองควีนที่ยังคงซบไหล่เขาอยู่ “ทำไม ยังไม่อยากกลับหรอ”

“อืม” ควีนช้อนตาขึ้นมามองคิงที่แสดงออกว่ายังไม่อยากกลับเลย

“แต่มันอันตรายนะ แล้วอีกอย่างเราไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนะ พี่เอาแค่ขนมปังติดกระเป๋ามาได้แค่ร้องท้องเท่านั้นร้านค้าแถวนี้
ไม่มีเลย เราจะทนหิวได้เหรอ” ใช่ว่าคิงจะไม่เคยขับมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืน เขาไม่เคยกลัวหรอกเพราะไปไหนมาไหนตอนกลางคืนคนเดียวออกจะบ่อย แต่ที่บอกว่ามันอันตรายเพราะมีร่างโปร่งที่มากับเขาต่างหาก

“อืม” ควีนไม่ตอบแต่แค่ส่งเสียงอืมกลับมาเหมือนจะเข้าใจและเปลี่ยนเรื่องคุยไปซะเฉยๆ “ที่นี้กว้างดีนะ ท้องฟ้าโปร่งโล่งไม่มีอะไรมาบดบังเลย” ควีนยังคงพูดไปเรื่อยๆจนประโยคสุดท้ายเขาหันมาจ้องตากับคิง “ถ้าได้ดาวดูตอนกลางคืนคงจะสวยเนอะ” รูปประโยคเหมือนจะแค่เป็นประโยคบอกเล่าแต่สายตานุ่มลึกที่ควีนใช้มองมันกลับไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ได้นุ่มลึกแบบนี้ที่ควีนใช้เล่นเกมส์จ้องตากับคิงอย่างที่เคย แต่มันมีความรู้สึกมากกว่า อ่อนหวานมากกว่านั้น สายตาแบบนี้แถวบ้านเขาเรียกว่าอ้อนชัดๆ!!!!
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาๆ < 23/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 23-08-2015 21:32:46
ก็อ้อนกันเข้าไป คนยิ่งอิจฉาตาร้อนยุ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาๆ < 23/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-08-2015 23:29:44
ใครจะอดใจไหว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาๆ < 23/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-08-2015 02:57:11
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 29-08-2015 00:47:51
คิงหัวเราะน้อยๆพรางจ้องตาอันอ่อนหวานของคนตรงหน้าที่แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นมันเห็นเลยด้วยซ้ำ นางพญาที่เดินเฉิดฉายไปมาด้วยใบหน้าอันเรียบนิ่งแฝงที่ไม่แม่แต่จะสนใจคนรอบข้างจนหลายคนคิดว่าร่างโปร่งนี้หยิ่งและยากที่จะเข้าหา แต่ทว่าเสน่ห์อันร้ายลึกและความเซ็กซี่ที่มีมากมายมันกลับเป็นดึงดูดให้ผู้คนหลงไหลได้เช่นกันรวมถึงตัวเขาเองด้วยแต่ทว่าในอีกด้านที่ควีนจะแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมามันน่าหลงไหลยิ่งกว่าด้านอื่นๆที่เขาเคยสัมผัสมาซะอีก ด้วยความหมั่นเขี้ยวคิงจึงโน้มหน้ากดริมฝีปากไปยังริมฝีปากของคนเบื้องล่างแรงๆแต่ไม่ได้สอดลึกเข้าไปแค่ริมฝีปากแตะริมฝีปากเท่านั้น ทันทีที่คิงทำแบบนั้นเจ้าตัวก็ยิ้มด้วยความพอใจกลับมาให้เพราะการที่คิงทำแบบนี้และสายตาที่สื่อว่าถ้าควีนคิดจะอยู่จริงๆเขาจะห้ามได้หรือ มันก็เป็นการอนุญาตให้เขาอยู่ต่อได้แต่เอาเข้าจริงๆสายตาแบบที่คิงทำอยู่นี้มันบ่งบอกได้ว่าคิงนั้นแพ้ทางลูกอ้อนของนางพญาอย่างเขาเต็มๆ  ถ้าควีนไม่ถูกใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆจริงใครคนนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เห็นการอ้อนของนางพญาเป็นบุญตาหรอกแต่ก็อาจจะรวมถึงตัวบุคคลที่จะอ้อนด้วยว่ามีความน่าสนใจและความพึงพอใจของควีนด้วยว่าคนๆนั้นถูกจัดอยู่ในระดับไหนไม่ได้ ดูเหมือนทั้งสองจะเข้าใจการชมธรรมชาติอย่างแท้จริงเพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกมีเพียงแค่ผมนุ่มๆของควีนที่ซบอยู่บนไหล่คิง แสงอาทิตย์สีทองยามเย็นที่ค่อยๆเคลื่อนต่ำลงยังตามเวลาทอดแสงมายังหมู่มวลดอกไม้หลากสีสัน และความรู้สึกที่ไม่ต้องพูดก็รู้สึกถึงกันและกันได้ปล่อยให้มันอบอวลอยู่รอบๆเหมือนสายลมที่โอบกอดพวกเขาไว้ด้วยกัน จนกระทั่งหกโมงเย็นทั่งคู่จึงเดินกลับมายังบ้านหลังเล็ก ควีนเดินเข้าไปสำรวจของในบ้านอีกครั้งเพื่อที่จะหาดูว่ามีของกินอะไรไหมที่ทั้งคู่พอจะประทังความหิวไปก่อนได้เมื่อเปิดตู้เย็นออกมาเขาก็เห็นว่ามีอาหารแช่แข็งอยู่สองสามอย่าง น้ำดื่มและเบียร์ที่มีอยู่เป็นสิบกระป๋อง ท่าทางคนดูแลที่นี่จะค่อนข้างจัดหนักน่าดูอาหารที่นำมาแช่ไว้มีแค่นิดเดียวแต่ที่เหลือกับเป็นน้ำเมาซะงั้น  เขาจึงเลือกหยิบเบียร์ออกมาหันไปหาคิงที่กำลังค้นอะไรสักอย่างที่ตู้ไม้เล็กๆอยู่แล้วชูเบียร์ไปว่าเชิงถามว่าจะกินไหมเมื่อคิงพยักหน้าว่าตกลงควีนจึงหันไปเอาอาหารออกมาเวฟเพื่อที่จะมาเป็นกับแกล้มได้ จนเมื่อเขาทำเสร็จจึงหันไปหาคิงอีกทีแต่กลับไม่พบเจ้าตัวเขาจึงเดินดูที่ยังระเบียงจึงเห็นว่าคิงนำเอาผ้านวมผืนหนามาปูเป็นที่นอนที่คนสองคนนอนได้รวมทั้งหมอนสองใบและโคมไฟรอบๆที่ถูกเปิดเพราะตอนนี้ค่อนข้างจะมืดแล้วเมื่อควีนเห็นคิงแล้วจึงเดินกลับเข้าไปเสบียงที่เขาจัดไว้ไปออกมายังระเบียงนออกบ้าน ควีนนั่งลงข้างๆคิงและยื่นเบียร์ไปให้คิง และนั่งดื่มรอเวลาที่ให้ท้องฟ้ามืดสนิทพอที่เขาดูดาวได้

“ชอบดูดาวหรอ” คิงถาม

“อืม ก็สวยดี” คิงพยักหน้าเข้าใจและเอื้อมไปหยิบกล้องแล้วยื่นมาให้ควีนดู

“ดูรูปไหม” ควีนพยักหน้าตกลงแล้วเขยิบมาใกล้ๆคิงเพื่อที่จะได้ดูรูปได้ถนัด อากาศที่เริ่มเย็นๆทำให้คนทั้งสองนั่งชิดกันมากขึ้นเพราะที่นี่มีแต่ต้นไม้อากาศจึงค่อนข้างเย็นโดยที่ไม่ต้องพึ่งแอร์เลย โดยส่วนมากก็มีแต่รูปควีนทั้งนั้นที่อยู่ในเฟรม มีรูปธรรมชาติอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้นเพราะที่นี่คิงเองก็มาบ่อยอยู่แล้วภาพที่นี่เขาจึงมีเยอะพอสมควรแล้วแต่ที่ไม่มีเลยคงจะเป็นตากล้องเองนี่แหละที่ไม่มีรูปตัวเองเลย

“ทำไมไม่ถ่ายตัวเองบ้างละ” ควีนถามด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีหน่อยๆเพราะแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปค่อนข้างเยอะแม้จะไม่ได้ทำให้คนทั้งคู่เมาแต่ก็ทำให้เลือดลมสูบฉีดและร่างกายมีอุณภูมิสูงขึ้นได้

“ก็เป็นตากล้อง ถือกล้องถ่าย จะให้ถ่ายยังไงละ อีกอย่างก็ชอบถ่ายมากกว่าที่จะเป็นคนถูกถ่าย”

“ถึงแม้ว่าจะเป็นตากล้องแต่ก็น่าจะมีรูปที่ที่ตัวเองไปถ่ายบ้างนะ”

“ฮึๆ แล้วใครจะถ่ายให้ละ ส่วนมากก็ไปคนเดียวทั้งนั้น”

“เอามาสิจะถ่ายให้” ควีนแบมือขอกล้องจากคิง

“ถ่ายเป็น?”

“เป็นไม่เป็นมันก็ดูที่ผลงานสิ” คิงจึงยอมยื่นกล้องให้ควีน “อยากได้แนวไหนล่ะ”

“ก็ถ้ามีฝือมือจริงก็ถ่ายยังไงก็ได้ให้ตากล้องคนนี้รู้สึกทึ่งได้สิ”

“ฮึ” ควีนยกยิ้มก่อนที่จะจับกล้องขึ้นมาโฟกัสไปยังคิงปรับเลนส์กล้องเล็กน้อยเพื่อให้ภาพและแสงเป็นไปอย่างที่ต้องการส่วนคิงก็ยังคงนั่งอยู่เหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนท่าหรือแสดงสีหน้าอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิมเหมือนเป็นการท้าทายควีนไปในตัวว่าถ้าหากเขาจะนั่งอยู่ในท่านี้เท่านั้นควีนจะมาสารถถ่ายรูปเขาออกมาได้ดีจริงไหม ควีนกดถ่ายไปสองสามรูปก่อนจะหันมาพูดกับคิง

“ปลดกระดุมออกสักสองสามเม็ดได้ไหม” คิงยักไหล่และทำตามที่คิงบอกโดยไม่ขัดขืน แม้ว่าแสงจะน้อยด้วยที่ตอนนี้มืดแล้วและแสงโคมไฟรอบระเบียงที่แค่เป็นแสงนวลส้มอ่อนๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าควีนที่เขามองผ่านเลนส์นี้ดูดีลดน้อยลงเลยแต่ดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่พอใจของควีน เขาเอื้อมมือขยี้ผมคิงเบาๆเพื่อให้ผมดูไม่เป็นการเซ็ตจนเกินไปก่อนจะกดชัตเตอร์อีกครั้งเขาลุกขึ้นไปถ่ายในมุมต่างเพื่อให้ได้ภาพที่หลากหลาย ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงตรงหน้าคิงและปลดกระดุมเสื้อคิงออกหมดจนกล้ามเนื้อแน่นอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำเผยออกมาให้เห็น ควีนตีมือไปยังกล้ามท้องที่เรียงกันตัวสวยงามอย่างหมั่นไส้คนหุ่นดีที่น่าอิจฉา ใช่ว่าเขาอยากจะมีแต่ก็อดอิจฉาไม่ได้ที่คิงมีหุ่นดีน่าหลงไหลได้ขนาดนี้ คิงหัวเราะน้อยๆกับการกระทำของควีน จากนั้นควีนก็ถ่ายรูปต่อก่อนที่คิงถอดเสื้อออกจากหัวไหล่ตัวเองทำให้เสื้อลงมากองที่ศอกทั้งสองข้าง

“เผื่ออยากได้แบบเซ็กซี่” คิงยักคิ้วให้ควีนเหมือนเป็นการช่วยตากล้องมือสมัครเล่นให้ได้ภาพที่ต่างออกไปหรืออาจจะเป็นการกวนๆกันเล่นรึเปล่า แต่ควีนเองก็อดที่จะชื่นชมภาพตรงหน้าไม่ได้เหมือนกันว่าคิงเมื่ออยู่ในท่านี้แล้วดูเซ็กซี่แล้วมีเสน่ห์มากๆถ้าเป็นผู้หญิงคงละลายกันไปหมดแล้วละป่านนี้แต่นี่เป็นควีนเรื่องแบบนี้ใช่ว่าเขาเองจะน้อยหน้าซะทีไหนกัน ควีนปลดกระดุมตัวเองออกจนเผยให้เห็นผิวขาวเนียนก่อนจะวางกล้องไว้ก่อนจะเดินมาหาคิง ที่เลิกคิ้วมองเขาด้วยความแปลกใจว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ ก่อนที่คิงจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็ตอนที่เจ้าตัวนั่งลงเป็นตักคิง เสยผมตัวเองเบาๆและเอามือคล้องคอแล้วจ้องตาไปอย่างเร้าร้อนที่สุดที่คิงเคยเห็นมา และเสียงชัตเตอร์ก็ดังขึ้นรัวๆจึงทำให้เขารู้ว่าควีนตั้งใจถ่ายรูปและคงจะไม่อยากยอมแพ้ที่เขากวนประสาทไปเล่นอย่างนั้นไอ้เรื่องความท้าทายนี่ไม่ได้เลยนะควีนของเรา อย่าให้ได้ถูกท้าเชียว เมื่อคิงเข้าใจแล้วว่าควีนทำอะไรเขาจึงโอบเอวควีนไว้ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆแล้วจ้องควีนกลับด้วยสายตาที่เร้าร้อนเหมือนกัน

“กลัวจะแพ้ขนาดนั้นเชียว” คิงถาม ก่อนที่ควีนจะยักไหล่อย่างไม่สนใจ

“เปล่า ไม่ได้กลัวเพราะยังไงก็ไม่เคยแพ้”

“เหรอ เก่งจังนะ งั้นก็ถอดออกอีกสิจะได้ภาพที่เซ็กซี่กว่านี้” คิงดึงเสื้อควีนลงจากทางด้านหลังจนมันร่นลงมาอยู่ที่ข้อศอกเหมือนคิงและเสียงชัตเตอร์ก็ยังคงดังต่อเนื่องอยู่
ด้วยความไม่ชอบการถูกท้าทายหรืออาจจะมาจากเลือดลมที่สูบฉีดไปทั่วร่างกายเพราะแอลกอฮอล์มารวมกันมันทำให้ความรู้สึกเขาตอนนี้มันพุ่งๆสุด ควีนจึงเปลี่ยนจากนั่งตักมานั่งคร่อมหันหาเข้าหาคิงหันหลังเปลือยเปล่าให้กล้องก่อนจะเอียงหน้าออกมาด้านข้างเพื่อให้กล้องจับภาพแบบที่ตั้งใจและจึงหันกลับมานั่งตักในแบบเดิมคือตัวเขาหันข้างให้กล้องจากนั้นจึงผลักคิงให้นอนราบไปกับพื้นส่วนแล้วก้มตัวลงตามไปทั้งที่อยู่บนตักของคิงอยู่ ควีนไล้ปลายจมูกตัวเองตั้งแต่หน้าผากคิงลงมาเรื่อยๆผ่านลำคอหน้าอกแกร่ง กล้ามท้องจนถึงแอ่งสะดือแต่ก่อนที่ควีนจะลากผ่านไปต่ำกว่านี้ควีนจึงตกตัวขึ้นและเสียงของชัตเตอร์ที่หายไปพร้อมกัน ควีนยกยิ้มให้คิงอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นคิงนอนหายใจเข้าออกแรงขึ้นมองตนเองด้วยสายตามที่แสดงอะไรบางอย่างออกมา ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วจัดเสื้อมาใส่เหมือนเดิมแต่ไม่ได้ติดกระดุมแต่อย่างใดแล้วเดินไปเอาที่ตั้งไว้ริมระเบียงมาเช็คดูรูป เขากลับมานั่งลงข้างๆคิงที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งแล้วยื่นรูปไปคิงดู คิงส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธก่อนจะยกตัวควีนมานั่งตักตัวเองและเอาคางเกยไว้ที่หัวไหล่ของอีกฝ่าย

“อ้ะ” ควีนอุทานเบาๆเมื่ออยู่ก็ถูกยกขึ้นมานั่งบนตักโดยไม่ทันตั้งตัวจะลุกออกคิงก็กอดเอวตัวเองไว้แน่น

“เปิดสิ จะได้รู้ว่าของจริงรึเปล่าที่โม้มา”  คิงบอกควีนที่หันหน้ามาหาเขาที่กำลังขอร้องให้เขาปล่อยตนอยู่ เมื่อเห็นว่าคิงไม่มีทีท่าที่จะปล่อยตัวเองมานั่งบนพื้นจึงกดเลื่อนรูปที่ตนถ่ายให้คิงดูไปเรื่อยๆ คิงเองเมื่อดูรูปแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ว่ารูปที่ควีนถ่ายนั่นค่อนข้างดูดีที่เดียวถ้านำรูปไปแต่งอีกสักหน่อยก็คงเหมือนคนโปรถ่ายรูปเชียวล่ะ

“เป็นไง” ควีนถาม

“ก็ดี” คิงตอบกลับเสียงเรียบ

“แค่นี้”

“รูปสวยดีแม้ว่าแสงจะน้อยไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ดูมีเสน่ห์ ลึกลับน่าค้นหา โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายเซ็กซี่ดี แต่อารมณ์คนกระทำในรูปมันยังไม่ถึง” คิงพลักควีนลงไปนอนแทนที่ตัวเองก่อนหน้านี้และคล่อมควีนไว้ โน้มหน้าลงไปพูดชิดริมฝีปากนุ่มด้วยสายตาเร้าร้อนเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า







“อยากรู้ไหมว่ามือโปรเขาทำกันยังไง อารมณ์มันถึงจะได้”


 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: ning-ning.ja ที่ 29-08-2015 01:55:55
 :o8: :-[น่ารักมากจ้าสู้ๆต่อไปท่าทางจะมีอะไรอีกเยอะ :mew1: o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-08-2015 02:39:38
เว้นบรรทัดหน่อยนะ ตาลาย
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-08-2015 05:13:43
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-08-2015 06:43:34
แหม่....คู่นี้ผลัดกันอ่อยผลัดกันยั่วจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 29-08-2015 07:05:52
 :haun4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาแล้วก็ต้องอ่อยแรงค่ะ แอร้ยยยยยย < 29/08/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 29-08-2015 07:44:59
 :impress3:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาอ่อยแรงแล้วอ่อยอะไรอีกดีน้า <04/09/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 04-09-2015 23:27:43
ไม่ช้าริมฝีปากอ่อนนุ่มก็ประทับลงของอีกคนทันทีตามแรงอารมณ์ หยอกล้อกับริมฝีปากด้านหน้าจนพอใจลิ้นน้อยๆจากร่างใหญ่ก็

ส่งไปทักทายลิ้นร่างโปร่งที่ดูเหมือนจะเบลอกับการถูกจู่โจมอย่าไม่ทันตั้งตัวและโดนมอมเมาด้วยรสจูบที่ทำให้สมองเขาตอนนี้

แทบขาวโพลนนึกอะไรไม่ออกจากที่โดนไล้ตอนลิ้นเล็กจากร่างโปร่งเปลี่ยนมาเกี่ยวกะหวัดสู้อย่างไม่ยอมท้อถ้อย อารมณ์ดิบ

เถื่อนที่ง่ายจะเกิดขึ้นและยากจะหักห้ามใจเมื่ออารมณ์ถูกจุดติดอย่างนี้เนินนานที่ทั้งคู่ใช้ลิ้นต่อสู้กันอย่างไม่ยอมถอยแค่ผละออก

จากกันเมื่อรู้สึกว่าอากาศเริ่มจะหายไปและประทับลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือที่อยู่ไม่สุขเริ่มแตะไต่ไปทั่วร่างโปร่งยิ่งทำคนคนเบื้อง

ร่างถูกมอมเมายิ่งขึ้นไปอีกด้วยริมฝีปากที่ผละมาออกมาแล้วลากไปทั่วคอขาวแล้วกดเม้มลงอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะหันมาเล่น

งานตุ่มไตชมพูทั้งสองข้างจนร่างโปร่งต้องสอดมือมาจับกลุ่มผมของคนตรงหน้าเพื่อระบายอารมณ์ที่มีมากขึ้นจนต้องการหาที่

ระบายและยึดเหนี่ยวไว้ในคราวเดียวกัน คิงแทรกตัวมาอยู่ตรงกลางหว่างขาของควีน ริมฝีปากที่ทำหน้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

แตะไต่ไปทั่วร่างขาวเนียนในขณะที่มือเริ่มถอดกางเกงของอีกฝ่ายไปด้วยโดยที่เจ้าตัวแทบจะครองสติไม่อยู่แล้วตอนนี้ คิงเงย

หน้าขึ้นมองคนใกล้ร่างที่หอบหายใจแรงและใบหน้าแดงก่ำที่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยอารมณ์เสียวซ่านแค่ไหนภาพตรงหน้าเขานี่มัน

ช่างเย้ายวนยิ่งนัก  ใบหน้ายามสุขสมของอีกฝ่ายคงจะเป็นอะไรที่น่ามองยิ่งนักเพราะแค่ที่เจ้าตัวเป็นอยู่นี้ก็สามารถยั่วยวนเขา

โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจทำด้วยซ้ำและใบหน้าแบบนั้นเขาก็ควรจะได้มองในคืนนี้เช่นกัน!! ไม่รอช้าคิงเอื้อมดึงอันเดอร์แวร์ที่ถู

กดุนดึนเนื้อผ้าด้วยแก่นกายที่ขยายเพราะถูกปลุกปั่นอารมณ์เต็มที่ออกมาเผยปะทะกับอากาศด้านนอก ควีนที่ไม่ทันจะร้องทัก

ใดๆกับต้องครางออกมาเบาๆแทนเพราะมือหนาของอีกฝ่ายกอบกุมก็ส่วนอ่อนไหวของเขาทันที


“อื้อ....อืมม”  หนารูดรั้งมือตัวเองตามความยาวของแก่นกายร่างโปร่งสลับช้าเบาตามประสาคนที่มีประสบการณ์โชกโชนที่รู้ว่า

ควรจะทำเช่นไรให้อีกฝ่ายสุขสมได้ มือที่ยังคงหน้าที่ไปสายตาก็มองหน้าของร่างโปร่งที่กำลังสุขสมจนแทบจะทนไม่ไหวจนเขา

ต้องเร่งจังหวะพาร่างโปร่งไปให้ถึงฝั่งฝัน ควีนเองที่ตอนนี้รู้สึกมากไปจนไม่สามารถจะตอบหรือทัดท้านอะไรอีกฝ่ายได้นอกจาก

เสียงครางเบาๆในลำคอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนทำหน้าเช่นไรออกไปคนตรงหน้าจึงแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมา จนร่างของตัวเอง

กระตุกเกร็งและน้ำขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมา “อาา”  เสียงหวานที่ดังขึ้นพร้อมใบหน้าที่สุขสมของควีนตอนนี้เขาแทบจะอยาก

เอากล้องถ่ายรูปมาเก็บไว้ด้วยซ้ำไป นี่มันยิ่งกว่างานประติมากรรมชิ้นไหนในโลกเสียอีก ควีนที่นอนหอบหายใจอย่างหมดแรงแต่

ก็ต้องสะดุ้งเมื้อนิ้วมือเย็นของอีกฝ่ายลูบไล้สะโพกมนมาหยุดที่ช่องทางสีสวยสดเหมือนจะลุกล้ำเข้าไปแต่สายตาของคิงที่มองมา

เหมือนจะเป็นการขออนุญาตและอ้อนขอในคราวเดียวกัน ควีนที่เหมือนจะรู้สึกตัวหลังจากถูกมอมเมาจากที่สิ่งที่ร่างสูงทำให้

ปฏิเสธไม่ได้มามันค่อนข้างรู้สึกดีทีเดียวแต่ใช่ว่าการที่เขาเผลอไผลไปตามแรงอารมณ์อย่างนี้ใช่ว่ามันจะต้องเลยเถิดไปมากกว่า

นี้แววตาที่ส่งกลับทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคงตอบรับคำขออีกฝ่ายไม่ได้ แม้จะรู้สึกสงสารคนตรงหน้าหน่อยๆที่อุตส่าห์ทำให้ตนขนาดนี้

แต่เจ้าตัวเองยังไม่ได้ปลดปล่อยเลย แต่คิงก็ยังไม่ลดละใช้สายตาเหมือนขอร้องอีกครั้งแต่ควีนก็ส่ายหน้าอีกครั้ง

“ใจร้ายจังนะ” คิงพูดพร้อมส่งสายตาไปให้

“ขอโทษนะ มันยังไม่ถึงเวลา”

“งั้นขอใช้สิทธิ์ได้ไหม”

“สิทธิ์อะไร”

“ก็สิทธิ์ที่เราให้พี่ที่แลกเปลี่ยนมาที่นี่ไง”

“ไม่เห็นเกี่ยวเลย”

“ใจร้ายจังนะทิ้งกันกลางทางอย่างนี้เลยหรอ”

“ฮึๆๆ” ควีนหัวเราะขำๆให้กับอาการคนตรงหน้าแม้จะไม่ได้ฉายชัดเจนแต่เขาก็รู้ดีว่าผู้ชายนั้นรู้สึกง่ายเพียงไร คิงที่ตอนนี้เลิก

คร่อมควีนแล้วเอนกายนอนพิงหมอนใบโตมองควีนลุกขึ้นมานั่งมองหน้าเขาอย่างขำขัน “ข้อสัญญานั่นมันไม่มูลค่าขนาดนั้นแต่ใช่

ว่าจะน้อยไปขนาดนั้นซะหน่อย”

“หือ”  คิงเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยว่าที่ควีนพูดมานั่นหมายถึงอะไร เพราะสายตาเจ้าเล่ห์ปนขำที่สงมาให้เขานั้นท่าทางต้องมีอะไร

สักอย่างแน่ๆแต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรเขา กลับต้องเปล่งเสียงนุ่มลึกในคอแทน

“อืมมมมมมมม”

“ทำให้กันแบบไหนก็ตอบแทนให้กันแบบนั้นแหละ ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นซะหน่อย” คิงยกยิ้มอย่างพอใจแม้จะไม่ได้ทำอะไรไป

มากว่านี้แต่การที่ร่างโปร่งยอมทำให้เขาขนาดนี้ก็ถือว่าเขาก็พอใจแล้ว เพราะดูเหมือนการกระทำนี้จะเป็นคำขอบคุณที่ตนยอมให้

เขาอยู่ต่อเพื่อที่จะได้นอนข้างกันที่ดูดาวประกายระยิบระยับของท้องฟ้ากว้างอย่างสบายใจและสบายตัวหลังจากที่อิ่มเอิมกันไป

ทั้งสองฝ่าย
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาอ่อยแรงแล้วอ่อยอะไรอีกดีน้า <04/09/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-09-2015 05:28:39
คนสวยเล่นตัว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาอ่อยแรงแล้วอ่อยอะไรอีกดีน้า <04/09/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 05-09-2015 07:48:55
ไม่เห็นมีอะไรทำไมเค้าเขิน  :-[
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 12 อ่อยเบาอ่อยแรงแล้วอ่อยอะไรอีกดีน้า <04/09/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 13-09-2015 17:56:46
คริๆๆๆ คนสวยก็เงี้ยแหละ เลือกได้ไง5555 ทำไมเราไม่สวยเหมือนควีนบ้างนะอยากได้คิง เอ้ยยย อยากมีแฟนแบบพี่คิง :hao6:

:hao6: :hao6: เจอกันเย็นนี้นะตัวเองงงงงงงง เดี๋ยวขอเวลาแป้บ ปั่นรัวๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: ด้วย

รักมากมาย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 13 <13/10/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 13-09-2015 19:07:48
                                                                              Chapter 13

“นี่ไอ้ควีน ตอบมาเดี๋ยวนี้นะว่ามึงกับพี่คิงนี่อะไรยังไง” ควีนช้อนตามองคนที่ถามและกอดคอตนอยู่
“ก็ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้ววันศุกร์ที่ขี่รถไปด้วยกันนี้คือไปเที่ยวเฉยๆว่างั้น”
“ใช่”
“ไอ้ควีนใช่ของมึงนี่คือมีอะไรของกูนะ”
“แต่สำหรับกูมันไม่มีไรไงเทย์” ควีนยักไหล่แล้วไม่สนใจคนที่พยายามคะยั้นคะยอตนอยู่
“ให้มันจริงเหอะ” เทย์พลักหัวควีนเบาๆก่อนจะมองเพื่อนตัวเองด้วยความห่วงใยที่ดูเหมือนเจ้าตัวไม่ได้สนใจอะไรเลยนั่งมองคนนั้นคนนี่ไปเรื่อย “มีไรอะก็บอกกูละกัน”
“อืม” ควีนตอบทั้งที่ไม่ได้หันหน้ามาตอบ ก่อนที่เสียงเจื้อยแจ้วของแก้งค์เพื่อนจะแทรกมาตามสาย เทย์ก็เลิกกอดคอควีนแล้วกลับมานั่งเหมือนเดิม
“ไอ้เทย์!!!! เมื่อไหร่แกจะตามหาพี่รหัสให้เจอซะทีว่ะ” เสียงแหลมประจำกลุ่มผู้พูดเป็นต่อยหอยในร่างอวบอ้วนถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนตัวเอง
“รีบทำไม พี่เขาบอกให้เวลาเม่าไหร่ก็ได้”
“เออไง ให้เท่าไหร่ก็ได้แต่ทั้งเอกเหลือแค่แกคนเดียวแล้วเนี้ย”
“เออ ไอ้เทย์มึงตามหาพี่เขาสักทีเหอะว่ะ แม่งทั้งสาขาจะพาลเกลียดมึงหมดละเนี้ย” เกรซพูดเสริมเพราะดูเพื่อนคนนี้จะไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรเลยกับการที่เพื่อนทั้งสาขายังไม่ได้ไปเที่ยวสักทีเพราะติดที่เทย์ยังหาพี่รหัสตัวเองไม่เจอหรือเรียกว่าไม่ยังไม่หาเลยจะถูกกว่า
“เกลียดกูเรื่องไร ไม่ได้ทำไรผิด”
“เออ แกไม่ได้ทำผิดหรอกแต่ผิดที่เพื่อนๆแม่งเงี่ยนอยากเที่ยวจนตัวสั่นนี่แหละ” มดตอบด้วยความหมั่นไส้
“เพื่อนๆหรือคุณมดครับที่อยากไป” มหาพูด
“นี่อิมหา ไม่ได้กัดฉันสักวันมันจะตายไหมหะ”
“กัดอะไรละครับ ผมแค่ออกความเห็น”
“เออ! ระวังตัวไว้นะอิมหาวันไหนฉันทนไม่ไหวระวังจะตายไม่รู้ตัว”
“บาปนะครับคุณมดฆ่าคนนะ แต่ตอนนี้ก็เหมือนตายไปแล้วเลยนะครับ”
“ตายอะไรของแกว่ะมหา” เกรซถามด้วยความสงสัย
“ก็มีนางฟ้านั่งอยู่ข้างๆ ก็เหมือนตายแล้วอยู่บนสวรรค์เลยนะสิครับ”
“อร้ายยยย อิบ้ามหาชมกันอย่างนี้ฉันก็เขินนะ” มดทำท่าเขินบิดตัวไปมาพร้อมทั้งฟาดไปที่หลังมหาอย่างแรง
“ผมหมายถึงคุณคินตาต่างหากละครับ”
“เชอะ!!!”
ควีนหัวเราะน้อยๆขำกับมุกเพื่อนตัวเอง “พูดอย่างนี้อยากได้อะไรเหรอมหา”
“ไม่ได้อยากได้อะไรซะหน่อยครับ แค่พูดเรื่องจริงก็คุณคินตาสวยเหมือนนางฟ้าจริงนะครับ” มหายิ้มแป้นแล้นให้ควีนเหมือนหมาที่ดีใจที่ได้เจอเจ้าของตัวเอง “ว่าแต่...ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ”
“หืมมม ถามอะไรเหรอ” ควีนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“คือ....ผมสงสัยว่าคุณคินตากับ พี่.. เออ.. พี่คิง เป็นแฟนกันเหรอครับ”
“ฮึๆๆ” เทย์ที่นั่งข้างๆขำขึ้นมาพร้อมหันไปกระซิบกับควีน “แหม่ ตอบเหล่าบรรดาแฟนคลับให้เขาได้ชื่นใจหน่อยสิครับ” ควีนหันไปมองเทย์ที่ดูเหมือนจะสะใจหน่อยที่พ้นจากตนก็มีคนมาถามควีนต่ออีก
“เออ!!!!! ไอ้ควีนตอบมาเลย แกกับพี่คิงนี่อะไรยังไง” มดที่เหมือนจะคิดขึ้นมาได้ตะโกนตามทันทีก็พยักหน้าตามด้วยความอยากรู้เหมือนกัน
“เปล่า ไม่ได้เป็นไรกัน” ควีนตอบทำหน้าเหมือนตอนที่ตอบกับเทย์เป๊ะๆ
“แล้วทำไมวันศุกร์ถึงไปด้วยกันได้หรอครับ” มหาก็ยังคงถามต่อไป
“ก็..ไปเที่ยวนะ”
“ไปเที่ยว!!!!!!” มดร้องตาโตทันทีที่ควีนตอบบออกมาแบบนั้น “ได้เป็นแฟนกันแต่ไปเที่ยวกันเนี่ยนะ”
“อืม แปลกตรงไหน ก็เหมือนไปเที่ยวกับเพื่อนคนหนึ่งไง”
“มันแปลกเพราะเป็นมึงกับพี่คิงไง” เทย์พูดเสริม
“ใช่ อิเทย์พูดถูก” เกรซพยักหน้าตามทันที
“แล้วเรากับพี่คิงต่างจากคนอื่นตรงไหน”
“ก็ต่างเพราะคุณคินตาคือคุณคินตา ส่วนพี่คิงก็คือพี่คิงไงครับ”
“ก็ไม่เห็นมีอะไรนิ เรากับพี่เขาก็คนทั่วไป”
“โอ้ยยย ธรรมดามากค่ะ กล้าพูดมาได้เนอะไอ้คิน คนธรรมดาไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเล้ยยย” มดร้องพูดทันทีพร้อมแขวะเจ้าตัวที่กล้าพูดว่าตัวเองเป็นแค่คนธรรมดาทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าตัวเขาและคิงนั่นเป็นยังไงในสายตาคนอื่น
“ฮึๆๆ ก็คนธรรมดาจริงๆนะ ไม่เห็นเราจะต่างจากมดตรงไหน”
“โอ้ยยย แกนิ!! ไม่รู้จักเจียวเนื้อเจียมตัวกับความสวยและความฮอตตัวเองเลยนะ แต่ที่คินตาพูดก็ถูกเรามันไม่ต่างกันหรอกความสวยแต่จะต่างก็มีแต่คนมารุมรักแกนี่แหละ”
“ฮึๆๆๆ มดก็พูดไปเราไม่ได้วสวยขนาดนั้นหรอก”
“จ้ะๆๆ ไม่สวยเลยแม้นางฟ้าตกสวรรค์”
“พอๆๆ เลยพวกมึงปล่อยไอ้คินไปเหอะ แม่งมันเป็นดาราไงถามแบบไหนมันก็จะตอบแบบดาราน่าหมั่นไส้เนี่ยแหละ” หลังจากที่ดูเหมือนทุกคนจะลืมประเด็นหลักที่คุยกันไปแล้วจนหันไปพูดเรื่องใหม่อย่างครื้นเครงแทน
“อ้าว ว่าไงครับน้องรหัสสุดสวยสุดที่รักของพี่จอง” น้ำเสียงซุกซนเจ้าเล่ห์เจ้าของใบหน้าใสสไตล์เกาหลีที่พูดขัดเสียงหัวเราะของกลุ่มควีนจนต้องหันมาดู ไม่พูดเปล่าพี่จองยังนั่งลงเบียดเก้าอี้ที่มีคนตัวใหญ่อย่างเทย์และควีนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่างอยู่แล้วกอดคอควีนทันที
“เอ่ออออ” ส่วนคนอื่นๆที่ไม่ทันได้ตั้งตัวกับการมาของรุ่นพี่หน้าหวานขัดกับนิสัยชอบหม้อชาวบ้านไปทั่วที่นั่งมองควีนตาหวานเชื่อม
“หวัดดีค่ะพี่จอง” เกรซพูดทักขึ้นก่อน
“หวัดดีน้องเกรซ” คนถูกถามหันไปเห็นหูเล่นตาใส่เกรซทันทีแต่แขนที่กอดคอควีนยังก็ไม่ได้ขยับไปไหน
“พี่จองมาทำไรหรอ” มดถามด้วยใบหน้าสีแดงระเรื่อทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนถูกมองด้วยสายตาหวานเชื่อมของพี่จองเลย
“ก็หัวใจมันเรียกร้องอ่ะครับ” พี่จองหันกลับมามองหาน้องรหัสตัวเองอีกครั้งส่
วนเจ้าตัวที่ถามก็บิดตัวเขินจนร่างอววบอ้วนนั่นจะแตกอยู่ร่อมร่อแล้ว
“ฮึ” เทย์ที่มองการกระทำของพี่จองอยู่ก่อนจะร้องฮึขึ้นมาเหมือนหัวเราะเยาะ
“หัวเราะอะไรครับน้องเทย์” พี่จองหันไปมองหน้าเทย์อย่างหงุดหงิดที่ดูเหมือนเจ้าตัวทำเสียงเหมือนจะออกมาอย่างไม่น่าประทับใจเอาซะเลย
“เปล่าครับ” เทย์ตอบกลับทำหน้าเหมือนจะกวนประสาทกันหน่อยๆ
“เปล่าแล้วทำไมต้องทำหน้าทำตากวนตีนด้วยครับน้อง”
“กวนตีนอะไรครับพี่ เปล่านี่”
“ไอ้อย่างนี้นี่แหละที่เขาเรียกว่ากวนตีน”
“หรอครับ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้การที่ผมนั่งเฉยๆก็เรียกว่าไปกวนส้นตีนใครเขาได้”
“อ้าวเฮ้ยน้อง ไม่พอใจอะพี่ก็บอกได้นะ”
“เปล่านี่ พี่สำคัญขนาดที่ผมต้องสนใจด้วยหรอ” คนกลางที่นั่งอยู่ระหว่างคนที่เถียงกันรู้สึกแปลกใจกับอาการของเพื่อนรักที่ดูเหมือนจะไปกวนประสาทพี่รหัสเขาเข้าทั้งที่ปกติก็ไม่ค่อยได้เห็นเทย์ทำแบบนี้กับใครบ่อยๆนอกจากตัวเขาเอง เทย์อาจจะไม่ชอบพี่จองก็ได้มั้งเพราะดูจากอาการตาขวางๆไม่พอใจตั้งแต่ที่พี่จองนั่งลงเบียดเขาแล้วกอดคอแล้วเลยทำให้เทย์แสดงอาการแบบนั้นออกมาแต่อาการแบบนี้แหละมันน่าสนใจยิ่งนักเมื่อคนคนนั้นคือเพื่อนรักของเขาเอง ควีนประกายวาววับด้วยความรู้สึกเหมือนจะมีอะไรสนุกให้ดูซะแล้ว






หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 13 <13/10/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-09-2015 05:40:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 13 <13/10/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 14-09-2015 08:44:08
อืม  แม้ถึงขั้นนั้นแล้ว ยังบอกว่าไม่มีอะไรได้ไงควีน  ถ้าไม่เด็ดจริงคงเสร็จคิงไปแล้ว พ่อหนุ่มนักรักนี้เขาร้อนแรงจริงๆ  ส่วนพี่รหัสเหลือแต่เทย์คนเดียวแล้วสิ คึคึ รอต่อไป
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 13 ครึ่งหลังมาเลี้ยว <14/10/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 14-09-2015 21:36:22
“แล้วมือนะ จะเอาออกจากเพื่อนผมเมื่อไหร่” เทย์มองไปที่มือของ ส่วนพี่จองแค่ยกไหล่แบบไม่คิดจะสนใจ

“ก็เจ้าตัวเขาไม่เห็นจะว่าอะไร แล้วน้องเทย์จะเดือดร้อนอะไรหละคร้าบบ”

“ก็นี่มันเพื่อนรักผมครับ ผมมีสิทธิ์จะเป็นห่วงเพื่อนตัวเองไม่ใช่รึไง” เทย์มองมาที่ควีน อย่างกดดันเหมือนบอกทางสายตาว่าให้

เขาเอาแขนพี่จองออกไปให้พ้นตัวเขา ส่วนเจ้าตัวที่ถูกสายตากดดันนะหรือใช่ว่าจะกลัวหรืออะไรกลับส่งยิ้มให้แทน

“ฮึๆ”

“เอ้า นี่ก็น้องรหัสพี่เหมือนกันนะครับ” พี่จองก็เถียงกลับอย่างไม่มีใครยอมใคร

“แค่พี่รหัสไม่ได้หมายความว่าพี่จะสำคัญขนาดนั้นนะครับ”

“แหม่ มาก่อนมาหลังก็ไม่สำคัญหรอกครับน้อง มันอยู่ที่ว่าน้องคินตาเขาจะให้ความสำคัญกับใครมากกว่ากัน” พี่จองพูดก่อนจะ
หันไปมองควีนตาเป็ฯประกาย

“อ้อ นั่นสินะยังไงไอ้คินมันก็รู้ดีว่าใครสำคัญต่อมันมากกว่า ใช่ไหมคินตา”  เทย์พูดเสียงต่ำและสายตาอย่างกดดันส่งมาให้ควีน

ส่วนเจ้าก็ยังนั่งเฉยไม่ได้สนใจซ้ำยังตาเป็นประกายด้วยความสนุกที่เทย์ส่งสายตาไม่พอใจมาให้เมื่อตนไม่ยอมทำตามจนเทย์กด

เสียงต่ำๆมาให้อีกรอบ “ใช่ไหมควีน” เหมือนครั้งนี้การแกล้งเพื่อนรักอาจจะมีปัญหาตามมาถ้าเขายังคงแกล้งเจ้าตัวไม่เลิกก็ดู

สายตาของเพื่อนเขาสิ แหม่ ทำอย่ากะจะตัดความเป็นเพื่อนกันเลยน้า รู้ทันเขาซะจริงๆ

“ปล่อยผมก่อนเถอะครับพี่จอง นั่งเบียดกันอย่างนี้มันร้อน” พอควีนพูดอย่างนั้นเทย์ก็ยกยิ้มไปให้พี่จองที่ดูจะเจ็บใจไม่น้อยที่โดน

ดูถูกอย่างนี้แต่ก็ใช่ว่าเขาจะโกรธควีนเพราะอย่างไรเขาก็รู้ดีว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องที่รุ่นพี่อย่างเขาจะมาแทนพี่เพื่อนที่คบกันมานาน

แต่ที่เขาโกรธคือคนตรงหน้าที่กวนประสาทเขาต่างหาก เขาได้แต่ถลึงตาไปให้เหมือนจะบอกว่าฝากไว้ก่อน แล้วยกมือตัวเอง

ออกจากคอควีนแล้วกลับเข้าร่างมาเป็นไอ้รุ่นพี่ขี้หม้อคนเดิม

“อ้ะ น้องคินตาร้อนเหรอ กินน้ำเย็นให้หายร้อนไหม” ก่อนจะเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะมาป้อนควีน

“เอ่อ... พี่จองครับอันน้ำของมหานะครับ” มหาขัดขึ้นมาเมื่อโดนแย่งแก้วน้ำตัวเองไป

“อ้าวหรอ โทดที ฮ่าๆๆๆ”

“งั้นกินชาเขียวไหม เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ใหม่ นี่รีบมาเพราะความคิดถึงมันทะลักอกอยากจะเห็นหน้าน้องคินเร็วๆ”

“โห่ พี่จองทำไมเลี่ยนงี้ว่ะ” มดที่ดูจะทนไม่ไหวกับมุขเสี่ยวของรุ่นพี่ตัวเอง

“ฮ่าๆๆ พี่ก็เสี่ยวกับเฉพาะคนที่พี่ชอบเท่านั้นแหละครับ” พูดหัวเราะอย่างพอใจและสายตาเจ้าเล่ห์ซุกซนก็ส่งไปรอบๆโต๊ะ

“ฮึๆ หน้าหม้อเอ้ย” เทย์เอ่ยขึ้นมาเบาๆอย่างหมั่นไส้

“อ้าวน้อง พูดอะไรพี่ได้ยินนะ”

“ร้อนตัวรึไงครับ ผมบอกเหรอว่าผมว่าใคร”

“อ้าวไอ้น้องทั้งโต๊ะมันจะมีใครหละว่ะถ้าไม่ใช่พี่ที่หน้า..มอ” เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าไอ้สิ่งที่เขาพูดอยู่นั่นคือการว่าตัวเองซะเองทั้ง

ที่เทย์ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใครออกมาเลย แต่มันก็เหมือนว่าเขาไม่ใช่เหรอก็ทั้งโต๊ะเนี้ยมันมีคนหน้าหม้อแบบเขาเป็นซะที่ไหน ฮึ่ยย

สรุปเขาก็คือคนหน้าหม้อที่ว่าตัวเองหน้าหม้ออยู่นะเอง

“ฮึๆๆ” ทุกคนในโต๊ะอมยิ้มน้อยๆด้วนความขำรุ่นพี่ที่ดูจะปล่อยไก่ออกมาให้ขายหน้ารุ่นน้องตัวเองซะแล้วก่อนจะหันไปส่งสายตา

อาฆาตไปให้เทย์

“พอเลยมึงไอ้เทย์ ไปแกล้งพี่เขา” ควีนหันไปปรามเพื่อนตัวเองเพื่อขัดสงครามย่อมๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้าและช่วยรุ่นพี่เขา

ไม่รู้สึกขายหน้าไปกว่านี้ “ว่าแต่พี่จองมีอะไรรึเปล่าถึงมาหาผม”

“อ้อ ก็คิดถึงคนสวยของพี่ไง” ดูเหมือนทุกคนจะเอือมกับมุกเสี่ยวๆของเขาซะแล้วแม้แต่ควีนเองส่งสายตามาให้ “โธ่ ไม่ต้องทำ

หน้าเขินแบบนั้นก็ได้ครับไอ้คิดถึงนะมันก็เรื่องจริงแต่พี่ก็มีธุระมาบอกน้องๆเหมือนกันนั่นแหละ”

“มีอะไรหรอค่ะ” เกรซถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้หลังจากไอ้ที่พูดๆกันมาก่อนหน้าไม่ได้มีสาระอะไรเลย

“อ๋อ จริงๆพวกพี่ก็ไม่ได้รีบหรอก แต่ไอ้การที่รุ่นน้องไม่สนใจจะหาพี่รหัสตัวเองนี่แหละมันเป็นปัญหา”

“อ้าว ก็ให้เวลาทั้งเทอมไม่ใช่เหรอ” เทย์ถามดูเหมือนจะเป็นเขาเองที่อยู่ในประเด็น

“ก็ใช่ไงแต่ก็ใช่ว่าจะมีรุ่นน้องคนไหนมันไม่สนใจนานขนาดนี้”

“แล้วไหนบอกไม่รีบไงว่ะ”

“ก็ไม่รีบหรอกครับน้อง แต่ใช่ว่าน้องจะไม่กระตือรือร้นหาเลย”

“อ้าว ก็พยายามหาอยู่นี่ไง นี่ยังไม่ครบเดือนด้วยซ้ำ”

“อื้อหื้อ น้องครับใจคอจะใช้เวลาเต็มโควตาเลยรึไง”

“แล้วจะบอกว่าให้เวลามาทำไมว่ะ ถ้าจะมาเร่งกันแบบนี้”

“พี่ไม่ได้เร่งหรอกน้องแต่ทั้งเอกเนี้ย เหลือแค่น้องคนเดียวแล้วครับเพราะปกติเขาจะหากันเจอแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นเองไม่มีปี
ไหนเลยที่ต้องรอนานกันขนาดนี้”

“ก็นี่ไงปีแรก ผมทำให้ดูเป็นบุญตาแล้วไง”

“ไอ้เทย์” พี่จองที่ดูจะทนไม่ไหวกับการพูดการจาของคนตรงหน้าถึงกับเรียกอีกฝ่ายว่าไอ้กันเลยทีเดียว

“โว้วๆ ถึงกับเรียกไอ้เลยเหรอครับ”

“ดีใจแค่ไหนแล้วที่พี่ไม่เรียกไอ้เหี้ยเทย์” พี่จองพูดด้วยความฉุนจัดและเน้นเสียงตรงประโยคสุดท้าย

“เฮ้ยๆ รุ่นพี่ประสาไรว่ะ” เทย์เองก็ขัดขึ้นมาทันทีทำเหมือนจะไม่พอใจที่โดนด่าแต่ในตานี่ซุกซนสนุกสนานเชียว

“ไอ้เทย์พอได้แล้วมึง ต่อปากต่อคำพี่เขาอยู่ได้” มดเองก็ดูจะทนเพื่อนตัวเองไม่ไหวเหมือนกันจึงปรามเพื่อนตัวเองไว้

“สนุกพอยังครับเพื่อนเทย์ถ้าพอแล้วก็หยุด” ควีนที่มองเพื่อนตัวเองสนุกพอแล้วจึงได้พูดขัดขึ้นมาอีกรายเพราะเริ่มสงสารพี่รหัส
ตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว “ขอโทษพี่ด้วยละกันครับ ว่าแต่ไอ้เรื่องเทย์นี่มันมีปัญหาอะไรเหรอ” พี่จองเองก็ยังเคืองๆเทย์อยู่ไม่หายแต่

ก็อยากจะรีบทำธุระให้มันเสร็จๆไปสักที

“อ้อ มันก็ไม่ถึงกับเป็นปัญหาหรอก แต่ปกติเขาจะรับน้องและตามหาพี่รหัสตัวเองเจอตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้วก็ไปเลี้ยงฉลองสาย
รหัสกันไม่เกินสองอาทิตย์ พอพี่รหัสกับน้องพอจะรู้จักกันมาบ้างแล้วพวกเราก็จะไปค่ายของสองสาขาพี่น้องของเรานะ รู้ใช่ไหมว่าสาขาเราเป็นพี่น้องกับเอกเศรษศาสตร์ สาขาของไอ้คิงนะพี่ว่าน้องคินน่าจะรู้นะ” พออธิบายมาถึงท่อนสุดท้ายนี้สายตาของพี่จองก็มองมาที่ควีนอย่างมีเลศนัยก่อนจะพูดต่อ “เราจะไปเข้าค่ายด้วยกันทุกปีและปีนี้ก็เหมือนกันแล้วกำหนดการมันก็จะถึงแล้วด้วยแต่สาขาเรารับน้องมันยังไม่จบเพราะใครบ้างคนแถวนี้!ไม่ยอมทำตามคำสั่งรุ่นพี่สักที พี่ก็เลยจะมาปากว่าเราคงอดไปเลี้ยงสายรหัสก่อนที่จะไปค่ายนะ”

“โห้ยยยยยย ไรว้าาาาาาาาาา” ทันทีที่พี่จอพูดจบเสียงซาวด์เอฟเฟ็คก็ตามมาทันทีจากบรรดาพ้องเพื่อนโดยเฉพาะสาวเจ้าเนื้อที่

ดูจะเดือนร้อนกว่าใครเพื่อน

“ได้ไงอะพี่ เลี้ยงแยกสายไม่ได้เหรอ”

“ได้ครับน้องมด แต่ถ้าจะเลี้ยงร้านเหล้าร้านไรต้องไปพร้อมกันก่อนค่อยไปเลี้ยงกันเองทีหลังได้”

“โหยย ไม่แฟร์เลย อิเทย์เพราะแกคนเดียวเลยเนี้ย” สาวอวบอ้วนโวยวายขึ้นมาด้วยความไม่พอใจทันที

“อ้าว โทดกูได้ไงครับเพื่อนก็พี่เขาบอกเองนี่ว่าให้เวลาทั้งเทอม” ผู้ถูกกล่าวหาก็สวนกลับมาทันที

“เอาละครับสงสัยเป็นความผิดพวกพี่เองจริงๆนั่นแหละที่ไม่คิดว่าจะมีรุ่นน้องใช้เวลาเต็มโควตาที่พวกพี่ให้จริง” พี่จองอธิบาย
พร้อมทั้งแขวะรุ่นน้องตัวดีที่ทำคนอื่นเขาวุ่นไปหมด

“ฮึ” ส่วนเจ้าตัวนะเหรอจะสะสกสะท้านหัวเราะในลำลออย่าเย้ยหยันอีกต่างหาก

“อย่าลืมบอกเพื่อนด้วยนะให้เตรียมตัว ส่วนพี่รหัสน้องเทย์เขาฝากบอกให้รีบตามหาเขาหน่อย มันจนไข่เหี่ยวแล้ว ถ้างั้นพี่ไปก่อน

นะครับน้องๆขืนอยู่ตรงนี้อีกนาทีเดียวพี่กลัวจะมีใครบางคนแถวนี้จะไม่ตายดีเพราะปาก” พี่จองพูดลาและ อดไม่ได้ที่จะแขวะรุ่น

น้องจอมกวนประสาทให้สะใจก่อนจะขยี้ผมควีนเบาๆและยิ้มหวานให้และเดินจากไป ส่วนคนที่ถูกรุ่นพี่แขวะด้วยหมั่นไส้มองตาม

เจ้าตัวไปและอีกคนที่นั่งข้างๆเขาส่ายหน้าด้วยความเอือมแล้วมองตามสายตาเพื่อนตัวเองไปยังแผ่นหลังของหนุ่มซุกซนอารมณ์

ดีที่เป็นพี่รหัสตัวเองก่อนจะพูดขึ้น

“สนุกไหมครับเพื่อนเทย์” ส่วนเจ้าตัวนะแค่ยักไหล่เบาๆก่อนจะหันมากอดควีนแทนแล้วพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“ไม่สนุกเท่ากับการได้แกล้งมึงหรอก”

“ฮึ” ควีนยกยิ้มหน่อยๆให้เพื่อนตัวเองก่อนจะผลักหัวเทย์ออกด้วยความหมั่นไส้
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-11-2015 01:51:21
 :oo1: :oo1: :oo1:
กรี้ดดดดดดดด กลับมาแล้ววววววววววว คิดถึงจังค่ะทุกคนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:



                                                                  Chapter 14





“กรี้ดด แกร้ ตื่นเต้นมากๆอ่ะ” สาวเจ้าเนื้อของกลุ่มระริกระรี้ที่วันนี้เป็นวันที่สองสาขาพี่น้องใหญ่ของคณะสังคมได้มาออกค่ายสาน

สัมพันธ์กัน โดยมีปีหนึ่งทั้งเอกเศรษศาสตร์และบริหารระว่างประเทศมานั่งรวมตัวกันที่ลานหน้าตึกคณะเพื่อมี่จะเตรียมตัวออกเดิน

ทางไปยังจุดหมายซึ่งพวกปีหนึ่งเอกก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปที่ไหนเพราะมีแค่รุ่นพี่เท่านั้นที่รู้

“มากๆอ่ะครับ” มหาเองก็อดที่จะตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้หันไม่มองเพื่อนต่างสาขาและรุ่นพี่อย่างตื่นเต้น

“เสียดายที่ยัยเกรซ แม่งติดธุระอะ” มดบ่นอุบอิบที่เพื่อนสาวอีกคนติดธุระมาไม่ได้ “ว่าแต่ทำไมคินตายังไม่มาอีกกว่ะเทย์”

“มันบอกว่าเมทตื่นสาย เพราะเขาจะเป็นคนมาส่ง อันที่จริงกูก็ว่าจะไปรับตั้งแต่ที่แรกแล้วแต่มันก็ไม่ยอม”

“แต่นี่ก็ใกล้เวลารถจะออกแล้วนะครับ” มหามองดูนาฬิกาอีกครั้งเพราะอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลารถออกแล้ว

“เอาละคะน้องๆ นี่ก็ใกล้ถึงเวลาแล้วนะ ใครที่เพื่อนคนไหนยังไม่มารีบตามด่วนๆเลยค่ะเพราะว่าถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่พวกพี่ไม่รอ
เลยนะเออ” รุ่นพี่คนหนึ่งออกมายืนข้างหน้าประกาศใส่โทรโขงเพื่อแจกแจงรายละเอียด “เดี๋ยวพวกพี่จะให้น้องๆจับฉลากนะว่าจะได้อยู่สีไหนแล้วเราจะเอามันมาไว้ใช้ทำกิจกรรมที่ค่ายกันคะ พี่ๆสวัสดิจัดการเอาฉลากให้น้องๆจับเลย” รุ่นพี่ที่อยู่รอบๆปีหนึ่งทยอยเอาฉลากให้ทุกคนจับจนครบ

“ถ้าน้องๆจับแล้วก็เปิดดูสีของที่ตัวเองไดเลยคะ”

“ผมได้สีเทาครับ” มหาที่เปิดดูสีของตัวเองก่อนใครเพื่อนพูดขึ้น

“ของฉันก็เทา ของแกอะเทย์”

“ฟ้า” เทย์ยื่นกระดาษให้เพื่อนทั้งสองดู

“โฮ่ยย ไรว้า น่าจะได้อยู่ด้วยกันทั้งสามคนเนอะ” มดพูดอย่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่กับเพื่อนของตัวเอง

“เอาละคะน้องๆ ถ้ารู้ว่าตัวเองอยู่สีไหนแล้ว พี่จะบอกหัวหน้ากลุ่มของแต่ละสีให้รู้นะคะ แล้วแยกกลุ่มไปอยู่ตามที่ตัวเองสังกัดอยู่
ได้เลย” เมื่อรุ่นพี่ปรระกาศออย่างนั้นพวกปีหนึ่งเสียงดังขึ้นมาเพราะว่าใครจะเป็นหัวหน้าของสีตัวเอง “สีแรกเลยนะ สีเทา คนที่จะมาเป็นหัวหน้าของน้องคือ แอ่น แอ้น แอนนนนน พี่หลุยส์หนุ่มอารมณ์ดีเจ้าพ่อฉายาติสไอน์สไตน์ ปีสองเศรษศาสตร์นั้นเอง” เจ้าตัวเองเดินออกมาด้านหน้าด้วยยิ้มเห็นฟันขาวแล้วก้มโค้งสวัสดีแบบเกินเหตุให้กับน้องๆปีหนึ่งที่ส่งเสียงต้อนรับเขาอย่างล้นหลามเพราะเขาเองก็แลดูจะเป็นขวัญใจของน้องๆหลายคนอยู่เหมือนกัน

“สีต่อไปคือสีชมพูค่ะ สีฟรุ้งฟริ้งขนาดนี้ก็ยกให้ดาวมหาลัยปีสองเขาไปดูแลดีกว่าคะและดูเข้าก้านเข้ากัน พี่เดือนจากสาขาพี่น้องเราเอง ”

ทันที่ดาวมหาลัยปีสองออกมาส่งรอยยิ้มทักทายทำเอาหนุ่มนั้นส่งเสียงเฮ้กันยกใหญ่

“แหม่ ที่อย่างนี้ละดีใจกันจังนะน้องผู้ชายอ่ะ อย่าให้ออกนอกหน้ามากนะคะ ที่จริงพี่เดือนเขาไม่ได้เป็นหรอกดาวอ่ะถ้าวันนั้นพี่ไม่
สบายแล้วมาไม่ได้สมัครมาได้ ป่านนี้พี่ก็ได้สวมมงไปนานหละ”

โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห่  และเสียงซาวเอ็ฟเฟคก็ตามมาทันที่ที่พิธีกรจำเป็นของเราพูดจบ


“อะรัยย่ะ!!!!! พวกแกนี่ตาไม่ถึงจริงๆเลย วันนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆนะ พี่เอาจริง ฮ่าๆๆๆ สีต่อไปเลยดีกว่า น้องๆอยากให้ใครมาเป็นหัวหน้าเอ่ยยยยย” พอรุ่นพี่ถามอย่างนั้นทุกคนก็แย่งตะโกนชื่อคนที่เป็นขวัญใจตัวเองทันที

‘พี่คิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง’

‘พี่จองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง’

‘พี่เจี้ยวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว’

“เอ้าๆๆ พอค่ะพอ น้องๆจะได้สมใจอย่างแน่นอน งั้นเอาพี่เจี้ยวหรือฉายาของเขาคือเจี้ยวเหี่ยวแห่งวงการแพทย์ พี่ปีสองของ
สาขาพี่น้องเราอีกเช่นเคย” เธอผายมือไปให้หัวหน้าอีกคน ทำเอาน้องๆหัวเราะเพราะฉายาของเขาแถมตัวเขาเองก็สูงผอม ร่างเก้งก้าง ท่าท่างจะเจี้ยวเหี่ยวอย่างที่บอกจริงๆ

“ไอ้สัสพลอย มึงนี่แม่งเปิดตัวไรให้กูว่ะ” เจี้ยวเองหน้างอให้เพื่อนตัวเองที่เปิดตัวให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกทันทีแต่ไอ้ฉายาที่ได้มากับลักษณะท่าทางของเขาเองก็เข้ากันดีจนมันน่าตลกอยู่หรอก “เฮ้ย น้อง ถึงพี่จะผอมจนเหมือนเจี้ยวจะเหี่ยวจริงแต่ถ้าน้องมาเห็นมันตอนคึกคักแล้วน้องจะร้องว้าวนะคร้าบบบบ”

“ไอ้สัสเจี้ยว ไปไกลๆส้นตีนเลยมึง มาลามกไรแถวนี้มึงเห็นน้องผู้หญิงไหมนะ ไอ้ห่า”

“เอ้า ก็มึงนั่นแหละแนะนำตัวไรให้กูละ”

“พอเลยมึงอะ ไปนั่งประจำที่ตัวเองไป ส่วนน้องๆคนไหนสนใจว่าที่มาของแต่ละคนมาจากไหนบอกเลยว่าค่ายนี้น้องจะมีฉายาที่เฟี้ยวเงาะกันกลับบ้านทุกคนแน่นอน ส่วนสังกัดพี่เจี้ยวอยู่สีม่วงนะคะ เอาละคะสีสุดท้ายแล้วนะคือสีฟ้านะส่วนหัวหน้าของสีนี้บอกเลยว่าเด็ดสุดค่ะ แฟนพี่เองแหละน้องคนนี้”

และคิงก็เดินออกมาด้านหน้าทำเอาสาวๆกรี้ดกันสนั่น “เดือนสุดหล่อหรือพระราชาคิง ปีสองเศรษศาสตร์ของเรานั่นเอง “

“กรี้ดดดด ทำไม่ฉันไม่ได้อยู่สีฟ้าว่ะ มดไม่ย้อมมมมมมมมมมมม ฮืออออออออออออ” มดโอดครวญทันที

“โถ่ คุณมดทำไมถึงอาการหนักอย่างนี้ละครับ น่าสงสารแทนคุณพ่อคุณแม่ท่านนะครับ”

“นี่อิมหา!!!!!!!!” มดฟาดมือไปที่หลังมหาทันที

“พวกมึงนี่อะไรหนักนาเนี้ยหะ  แล้วเมื่อไหร่คินแม่งจะมาซะทีเนี่ย”  เทย์ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาสองคนที่เถียงกันตลอดเวลา
แล้วชะเง้อมองหาเพื่อนสนิทตัวเองแทนเพราะใกล้จะถึงเวลาที่จะขึ้นรถกันแล้ว

“เอาละคะน้องๆใครที่ได้สังกัดอยู่สีไหนก็เดินไปตามสีที่ตัวเองอยู่นะ เราจะนั่งรถกันตามสีนะคะ หยิบสัมภาระทุกคนแล้วเดินไปเข้าสีตัวเองได้เลย”

เอี้ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เสียงรถมินิคันเดิมที่คอยรับคอยส่งควีนก็มาถึงและเบรกอย่างรุนแรง
จนเกิดเสียงดังเพราะรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแสงทำเอาทุกคนที่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ทำอยู่หันไปสนใจเป็นจุดเดียว และร่างโปร่ง อย่าง
นางพญาก็ก้าวลงมาจากรถด้วยความเร่งรีบพร้อมกระเป๋าเป้ใบเล็กบนหลังวิ่งกระหืดกระหอบมาเพื่อนตัวเองทันที

“ควีน!!!!!!” แต่เจ้าตัวที่วิ่งมาเกือบจะถึงเพื่อนตัวเองแล้วก็ต้องชะงักทันกลับไปตามเสียงเรียกจากไอ้ตัวเล็กที่ขับรถมาส่งเขา และร่างเล็กๆนั้นก็วิ่งตามเขามาทันที

“อะไรครับจูน” ควีนถามขึ้นทันทีที่ไอ้ตัวเล็กวิ่งมาถึงเขาด้วยใบหน้าแดงๆพร้อมเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนใบหน้านิดหน่อยเพราะร้อนจาการวิ่ง

“อ่ะ” แล้วไอ้ตัวเล็กยื่นถุงกระดาษที่ใส่ของบางอย่างมาด้วย

“อะไรเหรอ”

“ขนม เอาไว้กินระหว่างทางแล้วก็พวกยาแก้เมารถ ยาแก้ปวดหัว แก้ไข้ และยากันยุงเผื่อได้ไปเข้าค่ายที่ป่าแล้วยุงมันเยอะ” ควีน
ยิ้มน้อยๆให้กับความน่ารักของเมทของเขา

“ขอบคุณครับ แต่ไม่จำเป็นต้องเอายามาเยอะขนาดนี้เลยนี่ พี่ๆเขาก็น่าจะมีให้อยู่นะ” ควีนยืนมือไปรับถุงจากจูน

“ก็เอาไปเผื่อไง จูนไม่เห็นพกยาอะไรไปเลยเผื่อเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ใช้ได้ทันไง” แล้วคนตัวเล็กก็ส่งยิ้มน่ารักๆมาให้เขา

“มานี่สิ” จูนเดินมาตามที่ควีนเรียกหยุดอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมยิ้มแฉ่งให้ ควีนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าให้จูน ส่วนไอ้
ตัวเล็กก็ยิ้มอย่างมีความสุขที่ควีนเช็ดหน้าให้แต่ก็ไม่วายทำหน้าเป็นห่วงแล้วบ่นให้ควีนทั้งที่ควีนก็เช็ดหนให้

“ถ้ามันหนักมากหรือถ้าพี่ๆเขาโหดไปควีนโทรมาบอกจูนก็ได้นะ จูนจะไปรับถ้าควีนไม่ไหว พอไปถึงแล้วอย่าลืมโทรมาหาจูนนะ มีอะไรก็พยายามอย่าห่างจากเพื่อนๆตัวเองนะควีน จูนเป็นห่วง”

“ฮึๆ แค่ไปเข้าค่ายเองนะ” ควีนบีบจมูกจูนด้วยความหมั่นเขี้ยวให้กับความเป็นห่วงเป็นใยของคนตัวเล็กที่ออกจะเกินเหตุไปหน่อย

“ก็นั้นแหละ เขาบอกไปค่ายแบบนี้โหดจะตายไป ถ้าควีนเป็นไรมาจะไงอ่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก”

“ไม่ได้หรอก ยังไงจูนก็เป็นห่วง แล้วนี้ควีนนั่งรถไปกับใครอ่ะ”

“ยังไม่รู้เลยว่าต้องไปรถคันไหน เห็นเทย์โทรมาบอกว่าต้องจับสีก่อนแล้วไปอยู่กับสีนั้นอ่ะ”

“คนไหนเพื่อนควีนอ่ะ” ควีนชี้ไปยังกลุ่มเพื่อนที่ก็มองมาทางเขาอยู่เหมือนกัน และจูนก็จูงมือควีนไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนๆควีน
ทันที

“เป็นเพื่อนควีน เอ้ย คินกันใช่ป่ะ ยังไงเราฝากดูแลหน่อยนะ อย่าให้เพื่อนเราเป็นอะไรไปนะ” ส่วนเพื่อนๆที่ยังงงกับการมาฝากฝัง
เพื่อนของเขาให้เขาดูแลได้แค่พยักหน้าตอบตกลงไป

“โอ้ะ นั่นพี่คิงนี่ ดีเลยควีน ตามจูนมา” จูนที่ไม่พูดพร่ำทำเพลงลากควีนตามไปทันทีไม่มีโอกาสให้ตั้งตัวเลย

“พี่คิง!! พี่คิงก็ไปค่ายด้วยใช่ป่ะ งั้นดีเลย จูนฝากดูแลควีนด้วยนะ พี่คิงอยู่สีไหนอ่ะให้ควีนอยู่สีนั้นเลยได้ป่ะจะได้มีคนดูแลควีน งั้นจูนกลับก่อนนะควีน โชดดีนะแล้วรีบๆกลับมานะ” ไอ้ตัวเล็กที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวให้ใครได้มีโอกาสพูดเลยส่งยิ้มพิมใจมาให้ก่อนจะกอดควีนก่อนเดินจากไปและขับรถออกไปทันที






หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-11-2015 11:14:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-11-2015 11:19:49
ทำหน้าที่ได้ยอดมากคุณผู้ปกครอง พูดๆแล้วก็ไปไม่ให้แทรกได้เลย
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-11-2015 12:14:56
ลืมไปแล่วว  :ling1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-11-2015 12:32:59
ไม่ได้ลืมจิงๆนะ :impress3: เค้าแค่ไม่มีเวลาเฉยๆๆง่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-11-2015 23:33:47
“เอ่อ...............เอาไงวะคิง” หลายคนที่ยังงงกับการปรากฎของควีนจนเหมือนพลอยพิธีกรประจำภาคสนามของเราเคาะระฆังให้ทุกคนรู้สึกตัวโดยการหันไปถามความเห็นคิง ส่วนคิงหันไปมองควีนที่ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน

“แล้วแต่เลย”

“เอ่อ งั้นเพื่อเป็นการไม่ให้แตกต่างจากเพื่อนคนอื่นพี่ว่าน้องจับฉลากดีกว่านะ ไอ้เจี้ยวทำหน้าที่ดิ” เธอหันไปพยักหน้าให้เจี้ยว ส่วนควีนก็ล้วงมือไปจับฉลากขึ้นมายื่นให้พลอย

“สีที่น้องได้คือ........................สีฟ้าค่ะ”

“ฮู้ยยยยยยยยยยยยยย” และเสียงหมู่มวลประชากรก็ดังขึ้นมาทั้งสาวๆที่กรี้ดเบาๆด้วยความอิจฉาและผู้ชายที่แอบเสียดายที่นางพญาของเราไม่ได้ไปอยู่สังกัดที่เดียวกันกับตัวเอง

“อุ้ย นี่บังเอิญโลกมันกลมหรือพรมลิต เช็ดเท้ากันค่ะนี่ เอ้าๆๆน้องผู้ชายนี่ก็เก็บอาการบางก็ได้นะน้องแค่คนสวยไม่ได้อยู่สีเดียวกันนี่ไม่ต้องร้องโหยหวนเป็นนางชะนีร้องหาผัวกันขนาดนั้นก็ได้คะ เอาเป็นว่าน้องก็อยู่สีฟ้ากับไอ้คิงเหมือนเดิมละเนาะ ส่วนทุกคนก็ไปเข้าสีที่ตัวเองอยู่แล้วเตรียมตัวขึ้นรถออกเดินทางได้แล้ว”

“มาสิ” คิงเรียกควีนให้เดินตามไปด้วยกันก่อนจะเดินออกตัวไปก่อน ควีนเองที่มาถึงยังไม่ได้เจอเพื่อนตัวเองเลยจึงหันกลับไป

มองแต่ตอนนี้ก็ผู้คนที่เริ่มสลายตัวแยกจากกันทำให้มองไม่เห็นเพื่อนตัวเองเลยสักคนจึงต้องเดินออกไปพร้อมกับคิง

ส่วนอีกฝากของเพื่อนนางพญาที่มองเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้นเรื่องและเกือบจะได้คุยทักทายกับควีนอยู่แล้วยืนมองหลังควีนที่เดิน
เคียงคู่ไปกับคิง

“เฮ้ย เทย์พี่คิงกับควีนนี่มันยังไงกันแน่ว่ะ” มดหันถามเทย์ที่สายตาก็จับจ้องหลังเพื่อนสนิทตัวเองอยู่เหมือนกัน “แม่ง แค่เขาเดินคู่กันไปอย่างกะนางราชินีกับพระราชา เคมีโคตรเข้ากันอ่ะ นี่ถ้าบอกว่าเป็นแฟนกันนี่ฉันเชื่อล้านเปอร์เซ็นนต์เลย”

“ฮึ” แต่เจ้าตัวแค่หัวเราะในลำคอมาให้

“เอ้าอินี่ ถามแล้วไม่ตอบ ฉันว่าเราแยกกันไปขึ้นรถเถอะ ป่ะมหา” มดเลิกสนใจเทย์แล้วหันมาหามหาเพื่อจะไปรวมตัวกับคนอื่น

“เฮ้ย!! อิมหาทำไมแกเลือดกำเดาไหลว่ะ”

“ห้ะ จริงเหรอครับ” มหาที่เหมือนจะตกไปอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่างที่ได้แต่ทำหน้าเคลิ้มยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ไหลซึมออกมานิดหน่อยทางจมูก

“แกเป็นไรมากป่ะเนี่ย หาหมอไหมมึง”

“เอ่อ เปล่าครับผมแค่เห็นคุณคนนั้นเขาน่าระ.......เอ้ย อากาศมันร้อนนะครับเลือดมันก็เลยไหลออกมาง่ายนะครับ แฮ่ๆๆ”

“ห้ะ แกเห็นอะไรนะ นี่อย่าบอกนะว่าเห็นควีน!!”

“จะบ้าเหรอครับมันใช่สะที่ไหนละ สเป็คผมมันใช่แบบนางฟ้าซะหน่อย ผมชอบแบบน่ารักเหมือนตุ๊กตานุ่มนิ่มน่ากอดต่างหาก”

“ฮู้วว เพ้อเจ้อบ้าบออะไรของแกฮะ ไปๆๆ ไปเช็คชื่อแล้วขึ้นรถไปแล้ว ไปก่อนนะเทย์เจอกันที่ค่าย”

“ฮืม” เทย์ขานรับให้เพื่อนสองคนก่อนจะแยกไปขึ้นรถของตัวเองบ้าง




“น้องคินตาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา สุดสวยของพี่หลุยส์” หนุ่มติสแตกอารมณ์ดีที่เป็นแฟนคลับตัวยงของควีนวิ่งเข้าไปหาควีนทันทีที่รถเข้าไปชาร์จทันที่เพราะที่นั่งข้างควีนยังเหลืออยู่ “พี่คิดถึงจังเลยยยยยยยย ดีใจมากๆเลยนะเนี้ยที่ได้มาค่ายด้วยกัน” ส่วนควีนก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป

“เฮ้ย!! ไอ้หลุยส์มึงมาทำไรที่รถคันนี้วะ นี่มันของสีฟ้านะ ทำไมไม่ไปดูแลสีน้องตัวเองวะ” เพื่อนอีกคนทักหลุยส์ที่แอบมาขึ้นรถอีกคันแทนที่เขาควรจะไปทำหน้าที่หัวหน้าสีที่ต้องดูแลน้องๆ

“โห้ย ก็น้องคินตาสุดสวยของกูมาอยู่นี่นี่หว่า กูเปลี่ยนสีได้ป่าววะหรือไม่ก็ให้น้องไปนั่งรถกูแทน”

“มั่วแล้วมึง กลับไปดูแลน้องสีตัวเองเลย”

“ไม่เอาอ่ะ กูจะอยู่นี่ กูฝากให้ไอ้พลอยมันดูแลน้องแทนละ ไว้ใจได้” เขายิ้มแฉ่งเหมือนไอ้ที่เขาทำมันน่าภูมิใจนักหนา

“ไว้ใจได้เหี้ยไรละ แล้วจะหน้าที่ประธานแต่ละสีจะตั้งเอามาแกงเห็ดกินเล่นไง้”

“เออ นั่นแหละแล้วแต่มึงเลย แต่กูจะอยู่นี่แหละ”

“ไอ้ห่าหลุยส์ ไอ้ควาย กลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะมึง รถเขาจะออกกันแล้ว”

“กูไม่ไปโว้ยยยยยยยยยยยยยยย ลุงออกรถเลยครับ” นอกจากเขาจะไม่ยอมไปแถมยังเอียงหัวไปซบกับไหล่ควีนพร้อมหลับตา
ลง

“ไอ้เหี้ยหลุยส์ ไอ้ควายตาลโตนด มึงแม่ง! คิงมาจัดการเพื่อนมึงดิ้”  คิงที่เพิ่งเช็คของให้น้องๆเสร็จแล้วเดินขึ้นรถมาก็เห็นเพื่อน
ตัวดีที่แกล้งเนียนหลับตาซบไหล่ควีนอยู่

“ปล่อยมันไปเหอะ ไล่ยังไงชาตินี้ก็ไม่ไปหรรอก” ดูท่าทางจากเพื่อนตัวเองแล้วก็จะไล่ลงยากเพราะดูจะคลั่งไคล้คนสวยคนนี้ซะเหลือเกินก่อนจะหันไปสั่งให้ลุงออกรถทันที

“อะไรวะ!!! ฮึ่ย!!! จำไว้เลยนะมึง พอถึงค่ายกูจะหมดมึงอ้อกกกกกกกกกก จากปรระธานเอามาเป็นเบ้ทันทีเลย” ส่วนเพื่อนอีกคน
ก็ได้แต่โมโหหนุ่มจอมกวนที่พอได้ยินคิงเข้าข้างตัวเองก็ลืมตาขึ้นมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เพื่อนตัวเองอย่างมีความสุข

“ดีครับ กูขอเป็นเบ้ให้สีนี้นะ กูอยากอยู่กับนางฟ้าของกู”

“เอาน่าส้ม มึงกูรู้นิสัยไอ้หลุยส์มันดี พูดไปก็เท่านั้นแหละ” คิงตบบ่าเพื่อนตัวเองที่ได้แต่กะฟัดกะเฟี้ยดเพราะทำอะไรไม่ได้แล้วเลิกสนใจหลุยส์ไปดูแลน้องต่อ ส่วนคิงก็เลิกสนใจเพื่อนตัวเองแล้วยกโทรโข่งขึ้นมาให้

“เอาละครับน้องๆขอต้อนรับทุกคนจากทั้งสองคณะเลยนะ พี่คิงนะครับมีหน้าที่เป็นประธานของสีฟ้าและคอยดูแลน้องๆตลอดการ
เดินทางนี้ ที่นั่งอาจจะไม่เพียงพอนะเพราะงั้นขอให้ทุกคนเบียดกันหน่อยนะ เบาะสองนั่งสาม เบาะสามนั่งสี่นะครับ อย่ามองว่ามันลำบากนะนี่จะทำให้เราสนิทคนอื่นง่ายขึ้นนะ”

“อยากให้น้องกระชับมิตรหรือไม่มีตังค์เหมารถหลายคันกันแน่ว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” เปนหลุยส์เองที่แซวขึ้นมาทำเอารุ่นพี่และน้องๆหัวเราะไปตามๆกันโดยเฉพาะพวกรุ่นพี่ที่ดูจะโดนใจอย่างจัง

“ถ้าทุกคนไม่โอเค มีโรคประจำตัวหรือรู้สึกว่าเมารถ รู้สึกไม่ดีบอกรุ่นพี่ได้ทันทีเลยนะคนไหนก็ได้ส่วนคนที่นั่งด้วยกันก็อย่าลืมสังเกตเพื่อนตัวเองที่นั่งข้างๆกันด้วยนะ อย่าลืมว่าสาขาเรานั้นเป็นสาขาพี่น้องกันเพราะฉะนั้นเพื่อนที่นั่งข้างๆน้องก็คือเพื่อนน้องอีกคนนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอส่งต่อหน้าที่นี้ในพี่ๆสันทนาการต่อเลยนะครับ” จากนั้นเสียงเพลงจากรุ่นพี่ที่ทำหน้าที่สันทนาการก็เริ่มต้นขึ้นไปความครึกครื้น

“น้องคินตาครับ พี่ขอนั่งติดหน้าต่างได้ไหมอ่ะ พี่ชอบดูข้างทางอะ” หลุยส์หันมาพูดกับควีน

“อ่อ ครับ”

“น่ารักจัง ขอบคุณครับ” พอได้คำตอบที่น่าพอใจ พอเปลี่ยนที่ปุ๊บเขาก็นั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างชมวิวข้างทางทันทีโดยไม่ได้
หันกลับมาสนใจควีนเลยทั้งที่ตอนแรกดูเหมือนอย่างจะมานั่งกับเขาแทบเป็นแทบตาย ควีนได้แต่ส่ายหน้าอมยิ้มเบาๆให้กับความเป็นตัวของตัวเองสูงของรุ่นพี่คนนี้  ส่วนคิงที่เดินจากด้านหลังมารถที่กลุ่มสันทนาการอยู่ขึ้นมายังด้านหน้ารถที่ควีนนั่งอยู่ พอควีนเห็นคิงเดินมาก็ขยับตัวเบียดรุ่นพี่ข้างๆให้มีที่เหลือพอสำหรับอีกคนได้ คิงเห็นดังนั้นก็นั่งลงทันทีเพราะที่นั่งก็เต็มหมดแล้ว

“เหนื่อย” คิงนั่งลงแล้วเอากล้องที่คล้องคอออกแล้วซบไหล่ควีนแล้วหลับตาลง ควีนได้แต่หันมองหน้าหล่อๆของคิงที่ดูจะ

เหนื่อยอย่างที่พูดจริงเพราะหน้าหล่อๆที่เคยใสกลับโทรมลงนิดหน่อยอาจจะเพราะต้องทำงานหนักเพื่อเตรียมงานนี้ก็ได้มั้ง เขา

จึงยอมให้คิงซบไหล่ไปโดยไม่พูดอะไรแล้วยื่นมือไปหยิบกล้องจากตักคิงมาดูรูปโดยไม่ได้ขออนุญาติคิง

“กินน้ำไหม” ควีนถามทั้งที่ในมือก็สนใจกับการดูรูปภาพในกล้องที่ทั้งหมดก็เป็นภาพกิจกรรมที่พวกเขาทำในวันนี้และเบื้องหลัง
การทำงานของรุ่นพี่

“ไม่อ่ะแค่เพลียนิดหน่อย” เขาตอบทั้งที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา

แชะ!! เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นจากการถ่ายรูปของทำให้คิงนั้นต้องลืมตาขึ้นมาดูก็เห็นควีนกำลังถ่ายรูปเพื่อนสนิทตัวเองอยู่ที่ตอนนี้ก็
ยังสนใจการดูวิวข้างทางอยู่เหมือนเดิมโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าตนจะถูกแอบถ่าย คงีนลดกล้องลงมาให้คิงดูรูป

“ฮึๆ สวยดี” คิงยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยกับรูปถ่ายของควีนจากนั้นจึงยกตัวขึ้นหยิบเอาโทรศัพท์และหูฟังยื่นไปให้เพื่อนจอมติส

“มึง”

“อุ้ย! เพื่อนคิงรู้ใจที่สุดอ่ะ” หลุยส์หันยื่นมือมาหยิบแถมยิ้มอย่างมีความสุขให้เขาก่อนจะหันไปมองข้างทางต่อ

แชะ!! ควีนกดชัตเตอร์ทันที่หลุยส์นั้นโชว์ขาวๆมาให้นั้นทำให้ควีนได้รูปภาพที่น่าพอใจมาก

“เอาไปเลยก็ได้นะ จะยกหน้าที่เก็บภาพของค่ายนี้ให้เลย” คิงพูดทั้งที่ก็ยังซบอยู่ที่ไหล่มองดูควีนอยู่

“ฮึๆ ทำได้ด้วยเหรอ” ควีนตอบพร้อมปิดกล้องลงวางไว้หน้าตักแล้วหันไปมองควีน

“ได้ ถ้าพี่จะให้ทำ”

“มีอำนาจเนอะ” ควีนเอื้อมตัวไปหยิบขนมที่จูนเอามาให้แกะแล้วยื่นไปให้คิงแต่คิงแค่เงยหย้าขึ้นมาเท่านั้นพร้อมมองหน้าตาควีน
ไปด้วย

“ฮึ” ควีนที่ดูออกว่าคิงต้องการอะไรเลยได้แต่ยกยิ้มที่มุมปากเท่านั้นและหยิบขนมไปจ่อที่ปากคิง

เขาอ้าปากงับขนมที่ควีนป้อนให้แล้วงับที่ปลายนิ้วของควีนเบาๆพร้อมกับส่งสายตานุ่มลึกไปให้ด้วยทำเอาควีนหัวเราะเบาๆ แต่ก็
ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังป้อนต่อไปจนหมดห่อเลยด้วย

“อยากกินขนมจังเลยน้า” จู่ๆหนุ่มติสแตกที่นั่งข้างๆที่ไม่พูดไม่จาตั้งแต่รถเริ่มทางก็พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มทั้งที่สายตาก็ยัง

มองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ดี “ท่าทางจะหวานอร่อยเนอะ”
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 ครึ่งหลังมาแล้ว <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-11-2015 02:05:56
สร้างโลกส่วนตัวตลอดดสองคนนี้
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 14 ครึ่งหลังมาแล้ว <22/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-11-2015 11:28:34
ตามอ่านทันแล้ว
พี่คิงกับน้องควีนเมื่อไหร่จะเลิกอ่อยกันและกันแล้วขอคบกันเป็นแฟนเสียที
ว่าแต่ป๋าที่เทย์พูดถึงเนี่ยใครกันนะ ส่วนมหานี่ตกหลุมรักน้องจูนใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 27-11-2015 23:16:07
Chapter 15


“กรี้ดดดดดดดดด ทะเลลลลลลลลลลลลลล้ โอ้มายก้อช” ทันที่ถึงที่หมายในช่วงย่ามเย็นที่แสงพระอาทิตย์ส้มอร่ามไล่สีลงมาจนตัดกับขอบเส้นทะเลอันกว้างใหญ่ทะท้อนแสงขึ้นมาจนทำให้ความเหนื่อยการเดินทางแบบแออัดมาหลายชั่วโมงมลายไปทันที ตอนนี้หลายคนทยอยลงมาจากรถยืดเส้นยืดสายชื่นชมทะเลย่ามเย็นบรรยากาศยังไม่เต็มที่ พี่ที่ต้องดูแลน้องก็จัดแจงการเข้าค่ายครั้งนี้ให้ฟัง

“เอาละคะน้องๆ เรายังมีเวลาอีกเยอะเลยในการที่จะชื่นชมธรรมชาติเนอะ เดี๋ยวพวกพี่จะมีช่วงปล่อยฟรีให้

ได้เล่นน้ำกันอยู่ แต่ตอนนี้เย็นแล้วแล้วเราต้องไปจัดแจงที่นอนก่อนเพราะจำนวนคนเราค่อนข้างจะเยอะ

โดยน้องๆต้องแยกไปตามกลุ่มที่สีที่ได้แบ่งไปแล้วนะ โดยอย่างที่พี่ได้บอกไปแล้วค่ายนี้เป็นค่ายสานสัมพันธ์

ทั้งสองสาขาและรุ่นพี่เพราะฉะนั้นรุ่นพี่อีกสาขาหนึ่งก็เปรียบเสมือนรุ่นพี่พวกคุณด้วยเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นเราจะไม่มีการมาแยกว่าสาขานั้นสาขานี้แยกกันเพื่อเป็นการได้รู้จักกันทั่วถึงพวกน้องๆจะต้อง

นอนสลับกับเอกอื่นห้ามนอนติดกันกับสาขาเดียวกันเป็นอันขาดและพวกพี่จะตรวจดูอีกครั้งถ้าใครทำผิด

และถูกจับได้จะมีบทลงโทษอย่างหนักเลยนะคะ และอีกอย่างที่สำคัญการนอนครั้งนี้จะไม่มีการแยกนอน

รุ่นพี่รุ่นน้องและชายหญิงคะ” ทันทีที่เธอพูดจบน้องๆปีหนึ่งก็ฮือฮาการเซ็งแซ่

“กรี้ดด พี่เขาพูดจริงเหรอวะ”

“ฉันอยากนอนข้างพี่คิงอะแก”

“ฉันจองพี่คิงนะยะ”

“เฮ้ย งี้ก็นอนข้างคินตาได้ดิวะ”

“เฮ้ย ก็กูจองแล้วมึงใครแย่งมีเตะอะ”

“อ้าวน้องๆ ฟังพี่พูดก่อนให้จบนะคะ เงียบก่อนใครที่อยากนอนข้างใครอะไรยังไงนั้นห้ามคิดไปไกลคะ

เพราะพวกพี่จะเป็นคนจัดที่นอนให้พวกน้องๆเองจะไม่มีการมาแย่งที่กันเด็ดขาดและอีกอย่างที่สำคัญนะคะ

จะไม่มีเรื่องบัดสีบัดเถลิงเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะตั้งแต่จัดค่ายนี้มาทุกปีไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่าง

แน่นอนเพราะนี่ถือเป็นการให้ความเคารพแก่สถาบันและสาขาน้องเองอีกอย่างถือเป็นการให้เกียรติเพื่อน

ของคุณ รุ่นพี่ของคุณ หรือแม้แต่รุ่นพี่เองก็ต้องให้เกียรติรุ่นน้องเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนสำนึกไว้

ด้วยว่าคนที่นอนอยู่ข้างคุณนั้นเปรียบเสมือนครอบครัวคนหนึ่งของเราที่เรานั้นจะไม่มีทางทำให้พวกเขาต้อง

เสียหายหรือเสียใจเด็ดขาด พี่รู้ว่าการนอนกับผู้หญิงผู้ชายในสมัยนี้เราไม่ค่อยถือกันแล้วใช่ไหมค่ะเพราะถ้า

เป็นเพื่อนกันก็นอนด้วยกันได้คะ ต่อจากนี้ไปพวกพี่จะพาน้องทุกคนไปรกราบไหว้เจ้าที่และทำการสาบาน

ต่อสิ่งศักดิสิทธิ์ว่าจะไม่มีการล้วงเกินกันหรือทำอะไรในทางที่จะทำให้สถาบันต้องเสื่อมเสีย สาขาที่เรียน

ต้องเสื่อมเสีย และครอบครัวบ้านหลังใหม่นี้ต้องเสื่อมเสียนะคะ หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาเราจะตัดคุณ

ออกจากรุ่นทันทีทั้งสองสาขาเลยคะคุณจะไม่มีพี่ เพื่อนหรือน้องทั้งสิ้นจะเป็นแค่คนนอกที่เข้ามาเพื่อเรียน

เก็บหน่วยกิตเท่านั้น  ส่วนน้องๆผู้หญิงคนไหนที่มีปัญหานอนใกล้กับผู้ชาย

ไม่ได้หรือมีเรื่องข้อห้ามทางศาสนาให้มาแจ้งพี่ๆนะคะเดี๋ยวพี่จัดการให้ การนอนครั้งนี้ไม่ได้เป็นการนอนที่

ต้องนอนสลับชายหญิงเท่านั้นนะคะ พี่หมายถึงเราคละกันนอนได้ถ้าน้องผู้หญิงคนไหนไม่สะดวกใจที่จะ

นอนติดกับผู้ชายก็ขอให้บอกพี่ๆที่ดูแลสีกลุ่มนั้นนะคะ แต่สิ่งสำคัญเลยคือห้ามนอนติดกับสาขาเดียวกันคะ

เอาเป็นว่าพี่จะให้น้องๆไปจัดเตรียมที่นอนกันให้เสร็จสรรพ อาบน้ำแต่งตัวกันให้เรียบร้อยแล้วมารวมตัวกัน

ที่ห้องโถงใหญ่ เวลาหนึ่งทุ่มตรงนะคะ ขอบคุณคะ” หลังจากนั้นแต่ละสีก็แยกไปตามสีกลุ่มของตัวเองโดย

แยกเป็นบ้านหลังใหญ่สามารถที่จะจะคนได้เยอะมากทีเดียวทั้งรุ่นน้องเองและรุ่นพี่หลายชั้นปีด้วยโดย
ส่วนมากจะเป็นรุ่นพี่ปีสองซะส่วนใหญ่และปี่สามสี่อีกนิดหน่อย
และตอนนี้ก็เป็นบ้านของกลุ่มสีฟ้าที่กำลังจัดแจงที่นอนกันอยู่โดยการนอนก็จะเป็นลูกฟูกปูนอนเรียงยาวชิดกันไปเลยโดยไม่มีเตียงหรือเฟอร์นิเจอร์ใดๆเลยทั้งสิ้น


“เฮ้ย ไอ้เพื่อนคิงกูขอนอนข้างน้องคินตาสุดสวยของกูนะ ถ้ามึงไม่ทำมีงอนอะ” หนุ่มติสไอน์สไตน์ของเราพูดขึ้นขณะที่คิงกำลังจะจัดเรียงชื่อน้องๆและรุ่นพี่อยู่หันมามองเพื่อนตัวเองแล้วส่ายหัวนิดหน่อยก่อนจะหันไปประกาศรายชื่อน้องๆทุกคนที่ดูจะตื่นเต้นกับมากว่าจะได้นอนข้างใครจนมาถึงชื่อของควีนที่เหมือนจะเป็นที่หมายปองของใครหลายคนอยู่เหมือนกัน

“คนต่อไปเลยนะ น้องคินตาปีหนึ่ง ....................นอนข้างพี่หลุยส์ปีสอง”

“เยส!” พอชื่อตัวเองถูกขานออกมาอย่างที่หวังเขาก็ร้องออกมาเบาๆพร้อมทั้งรอยยิ้มประจำตัวที่ไปมองคิงด้วยความซาบซึ้งใจ

“และอีกคนก็คือ............. น้องพราวปีหนึ่ง”



“โฮยยยยย ไรว้า แม่งเสียดายทำไมเป็นเป็นชื่อกู”

“นั่นดิได้นอนกลับรุ่นพี่เฉยเลย”

“แม่งกูนอนข้างยัยช้างน้ำอะ ทำไมไม่ได้ข้างผู้หญิงสวยๆกว่านี้วะ แม่งกากชิบ” บรรดารุ่นน้องที่รู้ตำแหน่งของตัวเองแล้วก็มีทั้ง
บ่นเสียดายบ้างดีใจบ้างปะปนกันไป และแต่ละคนก็เริ่มทยอยเอาของไปวางและเตรียมตัวอาบน้ำ ส่วนควีนที่กำลังมองไปตามมือของหลุยส์ที่โบกไปมาอยู่ที่นอนของตัวเอง ควีนมองสลับไปหาคิงก่อนจะหันไปหาหลุยส์ทำเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่จนในที่สุดก็หันกลับไปมองคิงที่กำลังจัดของของตัวเองอยู่ตรงมุมห้องที่เป็นที่แคบๆติดพนังของห้องที่เป็นช่องระหว่างห้องโถงที่เปิดไปสู่ระเบียงได้ จากนั้นควีนจึงเดินตรงไปหาคิงทั้งที่หลุยส์นั้นพยายามเรียกเขาอยู่ เมื่อเห็นว่ามีคนมาคิงจึงเงยหน้าขึ้นมามองควีนและเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร



“ขอนอนด้วยได้ป่ะ”



หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-11-2015 23:37:55
พี่หลุ่ยส์ได้ร้องไห้โฮ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 27-11-2015 23:42:15
 ฮ่าๆๆๆๆๆๆ พี่หลุยส์นี่แฟนคลับตัวยงของควีนเลยนะ นางช่างน่าสงสารเสียจริง   :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-11-2015 02:03:20
เอ๊ะๆ ควีนจะรุกหรา
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-11-2015 06:19:44
ควีนอ่อยคิงหรือเปล่าจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 <27/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-11-2015 09:50:01
น่าสงสารพี่หลุยส์อ่ะ อุตส่าห์ขอเพื่อนให้จัดที่ให้ตัวเองนอนข้างควีน  :laugh:
กลายเป็นว่าควีนขอมานอนข้างคิงซะงั้น อย่างว่าคิงกับควีนเขาต้องอยู่ด้วยกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 --100% <29/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 29-11-2015 22:50:18
“หืม ทำไมอะ”

“ก็..........ชอบนอนติดผนังมากกว่า”

“ไม่ต้องหรอก แค่เอาของไปวางไว้ที่ของตัวเองก็พอ” ควีนทำหน้าเสียดายนิดหน่อยที่ได้ยินคำตอบที่ไม่ใช่อย่างต้องการแต่ก็ต้องทำต้องทำอย่างสงสัยกับประโยคสุดท้ายของคิงก่อนจำใจเอากระเป๋าไปวางไว้ที่ของตน “เชื่อเถอะ ยังไงคืนนี้ก็ไม่ได้นอน”

ดูเหมือนสิ่งที่คิงบอกท่าเป็นเรื่องจริงเพราะหลังจากที่นัดรวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ ทานข้าวเย็นกันเสร็จเรียบร้อยหลังจากนั้นก็ทำกิจกรรมสานสัมพันธ์จนตอนนี้ก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว

“น้องๆครับ กิจกรรมสานสัมพันธ์สำหรับวันนี้ก็เสร็จสิ้นลงแล้วครับ ผมขอขอบคุณพวกคุณทุกคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน
หลังใหม่หลังนี้ ค่ายนี้อาจจะไม่ได้ทำให้พวกคุณสนิทกับเพื่อนหรือพี่ต่างสาขามากนักแต่เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการได้รู้จักกันมากขึ้นนะครับ” ท่านเจี้ยวเหี่ยวหรือเจี้ยวหนึ่งในประธานของกลุ่มสีและประธานของค่ายนี้ด้วยกล่าวขอบคุณทุกคนที่ปรบมือให้เขา “แล้วก็พิธีต่อจากนี้ไปจะถือว่าเป็นกันปิดพิธีค่ายสานสัมพันธ์อย่างทางการ เอ้า!!!! กลองมารั่วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮุ้วๆๆๆๆ โว้ววววๆๆๆๆๆ แล้วเสียงจากกลองจากรุ่นพี่ที่รอบล้อมอยู่สามสี่ตัวก็ดังขึ้นรั่วๆพร้อมกับเสียงโห่ร้องของรุ่นพี่ความแปลกใจและตื่นเต้นให้กับน้องๆที่นั่งอยู่เป็นอย่างมาก

“เฮ้ย!!!! ไอ้จองเอาอุปกรณ์มาดิ กูจะตัดโบว์เปิดงาน เอ้ย ! ปิดงาน” จองถือพลุอันเล็กๆยาวๆพอดีมือมาให้เจี้ยวถือไว้ในมือก่อน
จะชี้ไปยังน้องๆ “เอ้า! หลังจากที่ผมจะจุดพลุนี่เสร็จถือเป็นการปิดค่ายอย่างเป็นทางการแล้วนะ พร้อมไหมทุกคน ถ้าพร้อมแล้วนับถอยหลังได้เลย”

3!!!!!!!

2!!!!!!!

1!!!!!!!!

หวี้ดดดดดดด บู้ม!!!!!!!!! พลุอันเล็กๆส่องแสงประกายขึ้นสู่ท้องฟ้าแม้จะไม่ใช่พลุที่ใหญ่มากแต่เมื่อมันส่องประกายในย่ามค่ำคืน

ที่มืดมิดมีเพียงแสงประกายระยิบระยิบของผืนน้ำทะเลอยู่กับดูสวยอย่างไม่น่าเชื่อ และพลุลูกที่สองก็ตามกันไปติดๆแต่ไม่ได้ขึ้น

ฟ้าแต่เจี้ยวกับยิ่งตรงไปนอกโถงสู่พื้นที่โล่งๆข้างนอกของหาดทรายขาวที่ถูกบดบังไปด้วยความมือมิด

หวี้ดดดดดดด บู้ม!!ซู่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ทันที่พลุแตกออก เปลวไฟที่อยู่ด้านนอกเริ่มส่องประกาย โหมแรง


ขึ้นจนก่อรูปมองเห็นเป็นกองไฟ ขนาดใหญ่ที่ส่องให้เห็นพื้นที่ข้างๆขนาดกว้าง

“เอ้า! ขอเสียงรั่วๆให้กับค่ายทางการที่เอาไว้เป็นฉากบังหน้าของการมาค่ายนี้หน่อยเร็วววววววววววว”
กรี้ดดดดดดดดดดด

เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

“น้องๆไม่ต้องงงหรอกว่าพวกพี่ทำอะไรกัน นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของค่ายนี้นะเฮ้ย เอ้าๆๆ ยังทำหน้างงกันอยู่อีก พี่บอกแล้วนะว่าค่ายนี้มันโคตรจะสุดติ่งกระติ่งแมว ทำไมรุ่นพี่ใครต่อใครถึงบอกว่ามันสนุกเพราะความสนุกจริงมันจะเกิดขึ้นจริงๆก็หลังจากนี้
ละ” จากนั้นเหล่าบรรดารุ่นพี่ก็ส่งเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจ

“ไอ้ชื่อค่ายสานสัมพันธ์และกิจกรรมก่อนหน้าแม่งแค่ฉากบังหน้าที่เอาไว้คอยหลอกอธิการเพื่อมีอะไรฉุกเฉินที่ต้องรายงานเกี่ยวกับค่าย ทางมหาลัยเขาจะไม่ได้มาต้องเดือดร้อนและเสื่อมเสียเพราะความเห้ ของนักศึกษา เพราะนั้นขอตอนรับน้องๆเข้าสู่ค่ายแม่งเหี้ย เพราะรุ่นพี่พาน้องเหี้ย เอ้ะ! หรือว่าน้องแม่งก็เหี้ยกันอยู่แล้ว”

ชื่อค่ายนั่นทำเอาหลายคนหัวเราะไปตามๆกันทั้งที่ก็ยังงงงๆกันไม่หาย

“ไอ้กิจกรรมต่อไปนี้พี่บอกเลยนะว่า ไม่บังคับ ใครอยากจะมาก็มา ส่วนใครที่เหนื่อยหรือไม่ไหว ไม่อยากจะเข้าร่วมจริงๆก็กลับไปนอนพักผ่อนกันได้ตามสบาย พี่บอกไว้เลยว่างานนี้ไม่มีว้าก มีแต่เมา และมันส์ มันส์ และเมาอย่างเดียวเท่านั้นและที่สำคัญไอ้ฉายาที่น้องได้ยินที่พวกพี่เรียกกัน น้องจะได้มันกลับไปหลังจากที่มาร่วมค่ายแม่งเหี้ยของเราครั้งนี้  เอาละครับต่อจากนี้ไปขอเชิญคนเหี้ยๆเดินไปตามแสงของเปลวเพลิงอันร้อนระอุที่ร้อนแรงพอกับความฮอตของตัวพี่ได้เลย ส่วนใครที่แม่งกาก หรือเหี้ยไม่พอก็เดินตามแสงนีออนแล้วกลับไปนอนดูดนมแม่ได้เลยนะคร้าบบบบบบบบบ” จากนั้นน้องปีหนึ่งก็ลุกพรึบกันทันที่แล้วเดินออกไปด้านนอกตามแสงเพลิงที่เจี้ยวเราแนะนำด้วยความคึกคักจะมีก็แค่บางกลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่แยกตัวออกไปที่ห้องนอน แน่นอนว่าเรื่องอย่างนี้ไม่มีทางที่สาวเจ้าเนื้ออย่างมดจะพลาดมันไป

“กรี้ด!!!! อิมหาไปกันเร็ว”

“เอ่อ แต่ผมว่าคุณมดเป็นผู้หญิงไม่ควรจะไปนะครับดูท่าทางแล้วมันอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงนะครับ” มหาที่พยายามยื้อยุด
กับมดที่รั้งจะไปร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่อย่างเดียว

“โอ้ย ถ้าเรื่องแบบนี้มันอันตรายสำหรับฉัน แล้วทำไมตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยมีคนคิดจะฉุดฉันเพราะความสวยอันมากล้นของฉันสักที เรื่องแค่นี้เองมหา ฉันนะสตรองอยู่แล้ว!”

“แต่พี่เขาบอกว่าต้องเป็นคนที่มีชื่อเหมือนตัวเงินตัวทองไม่ใช่เหรอครับ”

“โอ้ย อิมหา อิคนดีศรีสังคมแห่งตลาดสดสนามเป้า ไม่ต้องทำมาเป็นพูดเหมือนฉันมันเหี้ยมากก็ได้ เพราะแกมันก็เหี้ยเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องมาตอแหลกับเลยแนดูแกออก”

“เอ่อ .ผะ”

“ไม่ต้องมาตงมาแต่ใดๆทั้งนั้น ตามฉันมาเดียวนี้” พอพูดเสร็จเธอลากมหาไปหาเทย์ทันทีที่กำลังมองหาคนเองเหมือนกัน

“เทย์ คินอ่ะ”

“กูก็กำลังมองหามันอยู่เนี่ย ไม่รู้ถูกหนุ่มที่ฉุดไปแล้ว”

“เออๆงั้นก็ไม่เป็นไรหรอกแก เดินๆไปเดี๋ยวก็เห็นเองแหละเพราะเด่นเป็นนางพญาสะขนาดนั้น”
และก็เป็นจริงอย่างที่มดพูดเลยว่าเจ้าตัวนั้นหาได้ไม่อยากเพราะตอนนี้ควีนกำลังยินอยู่ด้านหน้ากับรุ่นพี่หลายคนพร้อมกับกล้องที่เตรียมสันทนาการ ใกล้ๆกันก็เป็นก็เป็นท่านเจี้ยวเหี่ยวประธานค่าย ส่วนเจ้าคลับตัวยงอย่างหลุยส์ก็ยืนเกาะแขนควีนอย่างกับลูกลิงและจองที่ยืนขนาบข้างพร้อมทั้งเอาแขนพาดบ่าควีนทั้งที่ตัวเองก็ออกจะเตี้ยกว่าไปด้วยซ้ำ และรุ่นพี่อีกสองสามคน

“สวัสดีอีกครั้งค้าบน้องๆๆๆๆๆ พี่เจี้ยวบอกไว้เลยนะว่าค่ายคืนนี้ไม่เมาเหมือนหมาให้คลานกลับท่าหมาอย่างเดียวนะครับผม”

“คุณเทย์ครับ ทำไมคุณคินตาไปยืนอยู่ตรงนั้นละครับ” มหาที่หามี่นั่งข้างกองไฟได้แล้วเอ่ยปากถาม

“บอกแล้วว่ามันจะโดนฉุด” เทย์เองดูเหมือนจะรู้ดีว่าเหตุการณ์แบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเพื่อนของตนเพราะในอดีตที่ผ่านมากับการเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตลอดหลายปีนี้ทำให้เขาพอจะเดาแนวทางได้

“ไม่ไปตามกลับมาเหรอครับ อยู่ตรงนั้นมีแต่รุ่นพี่นะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอก มันเอาตัวรอดได้ถ้าเดี๋ยวเกิดท่าไม่ดีค่อยไปตามมา”

“อ่อ ครับ”

“ว่าแต่ ไอ้หลุยส์ครับ เพื่อนจองครับมึงเอาใครมายืนสวยหน้าข่มพวกไอ้พลอย ไอ้ส้มอยู่ตอนนี้ครับ” เจี้ยวหันไปถามเพื่อนข้างๆ

“เอ้า นี่เพื่อนเจี้ยวง้าวหรือเจี้ยวมันเหี่ยวจนฮอร์โมนมันไม่เจริญเติบโตแล้วไง” หลุยส์ตอบ

“เอ้า ไอ้ห่านี่กูมีตาครับแล้วก็ไม่ได้มาจากหลังเขาถึงจะไม่รู้จักน้องคินตานะ ที่กูถามคือมึงเอาน้องเขามาทำเห้ไรข้างหน้านี่ ส่วน
ไอ้จองก็เหมือนกันมายืนเต้ะท่าอะไรแถวนี้ครับ ยังมาถึงเวลาเลยมึง”

“เอ้า เพื่อนเจี้ยวเหี่ยวครับ คนนี้ผมพราวรี่พรีเซนต์มากเลยนะครับ กูโคตรจะรักเลยนะ อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จัก”

“แล้วมึงอะจอง”

“น้องเขาเป็นน้องรหัสกู กูต้องมาดูแลดิว่ะ”

“หราาาาาาาา” และทุกคนก็รวมใจกันพูดใส่จองทันทีเพราะรุ่นพี่หลายคนนี่รู้จักนิสัยจองดีว่าเป็นอย่างไร

“นี่ๆ น้องรู้ป่ะ ฉายาไอ้จองคือไร มันคือ ไอ้จองเบ ที่อยากเห้กับทุกคนนั่นเอง”

“ไอ้ห่า เสียภาพพจน์กูหมด นี่กูเป็นห่วงน้องหรอก กูไม่เคยมีนิสัยแบบนั่น”

“อย่าไปเชื่อหน้าใสๆวัยรุ่นชอบแบบมันนะครับ เพราะมันแม่งโคตรกะล่อนเลยครับเชื่อป่ะค่ายที่แล้วมันจีบดะตั้งแต่เพื่อนยันรุ่นพี่ มิ
หนำซ้ำแม่งค่ายที่แล้วครับน้อง มันจะปล้ำแม้กระทั่งไอ้ชายที่เป็นกระเทยตัวควายๆของสาขาพี่ด้วย”

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

“เฮ้ย กูแค่เมาหรอกไอ้ห่า ใครเขาจะเหมือนมึงเมาแล้วเจี้ยวน้อยแข็ง พอโดนไอ้ชายแตะนิดแต่หน่อยดันเหี่ยวสโลว์โมชั่นตามแรงโน้มถ่วงสะเป็นทรงพาราโบราเลยมึง” จองตอบกลับด้วยความหมั่นไส้ที่ถูกใส่ความในเรื่องจริง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำเอาทุกคนหัวเราะขึ้นมาจนเจี้ยวเองยังหน้าแดงเพราะอายจนแถบจะโต้ตอบกลับทันที

“ไอ้สัส!!!!! พูดเชี่ยไรของมึงว่ะ มึงเห็นเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ไหมนะ”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ห่าค่ายนี้มันของคนเหี้ยเว้ย ทำมาเป็นคนดีพูดจาสุภาพ เห้ยๆๆ ไอ้ชายเจี้ยวน้อยของมันคืนนั่นเป็นไงว่ะ” ชายที่ถูกกล่าวหาที่ตอนนี้เองเขาก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่แค่ท่าปากแดงๆโป้ะแป้งหน้าขาวมากขึ้นก็เท่านั้นที่ยืนหัวเราะชอบใจอยู่ก่อนจะตอบจองกลับไปแบบบิดตัวเขินอายเล็กน้อย

“ก็นุ่มๆเหี่ยวเหมือนจับเยลลี่อะคะ”

ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ทุกคนส่งเสียงโห้ร้องชอบใจด้วยความสนุกสนาน

“เฮ้ย! ไอ้พวกเชี่ยแม่ง คืนนั้นมันยังไม่ใช่ของจริงครับ มังกรยังไม่ผงาดเต็มที่นะจะบอก ผมนี่ไม่อยากจะโม้”

“เอ้าๆๆ ท่านเจี้ยวเหี่ยวเขาท้าพิสูจน์ซะขนาดนี้ คืนนี้จัดนิทรรศการล้อมผ้าเก็บตังค์คนละห้าค่าเข้าชมผังกรของท่านเจี้ยวกันครับคืนนี้ เอ้า พวกมึงจัดให้ท่านเจี้ยวสักช็อตสิ ขออันเชิญน้ำศักดิสิทธิ์ประจำสาขาเรามาให้พี่เจี้ยวเพื่อเป็นสิริมงคลแกตัวเขาหน่อยเร้ววววว” พอจองพูดเสร็จปุ๊บเพื่อนผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างหลังก็จัดการล็อกตัวเจี้ยวทันที ส่วนชายหญิงสาวที่มีดุ้นประจำค่ายก็เดินถือกระป๋องน้ำเล็กมาโดนในนั่นมีทั่งน้ำแข็งร่วมอยู่ด้วย

“เฮ้ย ทำจะไรวะ ไอ้ชายกูแดกเองได้ไม่ต้องป้อนกูนะมึง” เจี้ยวมองชายด้วยความหวาดหวั่นกับรอยยิ้มอันหยดสยองของชายที่นวยนวดพร้อมทั้งยกถังนั้นขึ้นจ่อที่ปากแล้วเอามือล้อกที่ครางเจี้ยวไว้ไม่ให้สะบัดหนีได้ทันจากนั้นก็กรอกปากน้ำในถังจนเจี้ยวสำลัก

“ไอ่เพื่อนเหี้ยเอ้ยย”

“อ้าว ชายครับปากท่านเจี้ยวยังเลอะอยู่เลยช่วยเช็ดให้พี่เขาหน่อยสิ” ชายยิ้มอย่างพอใจที่จองพูดอย่างนั้นจากนั้นก็ล้อกคอเจี้ยวไม่ไม่ให้ไปไหนทั้งที่ก็เขาพยายามยื้อตัวเองออกมาแต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกล

“เฮ้ย! ไอ้ชายหยุดเดี๋ยวเลยนะเว้ย หยู้ดดดดด...”

อู้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เสียงของเจี้ยวหายไปทันทีที่ชายก้มลงไปเลียเช็ดปากให้เจี้ยวด้วยลิ้นที่ทำหน้าโคตรจะมี
ความสุขผิดอีกคนที่โดนกระทำทรุดฮวบลงพื้นทรายทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างกับโดนสาวโดนพรากพรหมจรรย์

“ฮึก...จำไว้เลยนะไอ้พวกเชี้ย”

“ฮ่าๆๆๆ เฮ้ย เพื่อนเจี้ยวไม่ต้องเสียใจขนาดนั้นก็ได้ มาๆเดี๋ยวหลุยส์จะปลอบเอง ฮ่าๆๆ” เขาก้มตัวลงไปเหมือนจะไปพยุงเจี้ยวขึ้น
มาแต่ก็โดนขัดซะก่อน

“ไม่ต้องเลย!!!!! กูสตรองพอ บอกเลยว่างานนี้เจี้ยวไม่ได้มาเล่นๆ” พอลุกขึ้นตั้งหลักได้เขาก็กลับมาทำหน้าที่ต่อ

“จบประเด็นนี้ไปนะครับจะไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องนี้หลังจบจากค่ายเป็นอันขาด ต่อไปขอเชิญน้ำศักดิสิทธ์ประจำค่ายให้น้องๆพี่ๆมาร่วมกันสาบานด้วยครับ” ถังน้ำเล็กๆถูกกระกระจายไปทั่วโดยทุกคนแทบจะยิ้มแก้มปริด้วยโดนใจอย่างจังเมื่อถูกเฉลยว่ามันก็คือน้ำเมาที่พวกเขาชอบกินกันนั่นเอง

“น้องๆที่ได้ถังไปแล้วอย่าเพิ่งกินนะ รอพวกพี่ก่อน ไอ้ที่พวกพี่แจกไปนี่ถ้าเพิ่งกินเองนะครับ ง่ายๆเริ่มแรกเพื่อเป็นการทำความรู้จักกันก่อน พี่จะให้น้องหรือแม้แต่รุ่นพี่เองที่อยากจะรู้จักใครหรืออยากคุยกับใครแต่ยังไม่มีโอกาสก็ใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่เลยนะโดยให้เอาน้ำในถังที่ตัวเองมีอยู่ให้คนคนนั้นกินโดยที่ตัวถังจะมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่เมื่อเขาคนนั้นกินน้ำของน้องเสร็จ เอ้ย!กินน้ำในถังน้องเสร็จก็แปะสติ๊กเกอร์ไปให้เขาได้เลย หรือคนที่กินก็สามารถติดสติ๊กเกอร์ให้กับคนที่จะเอาน้ำมาให้เรากินได้แต่การที่จะได้สติ๊กเกอร์นี้ไปเราจะต้องตามคำสั่งของคนคนนั้นก่อนและทำให้เขาพอใจให้ได้ โดยสติ๊กเกอร์ที่สะสมได้นี่บอกเลยว่าใครที่เก็บได้เยอะสุดเราจะมีรางวัลให้ตอนสุดท้ายของกิจกรรมนี้นะ มาดูกันว่าใครจะไอ้เป็นแชมเปี้ยน อ้อฟ แม่ง เหี้ย แคมปัสของเราครั้งนี้ ฮ่าๆๆๆๆ เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนมีความกระเหี้ยนกระหือใคร่ที่จะทำกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก เพื่อไม่เป็นการเสียเวลางั้นก็เริ่มกันโลด!!!!!” พอสิ้นเสียงประกาศของเจี้ยวเสียงเป็นบีสหนักๆเร้าใจเหมือนอย่างในผับก็ถูกเปิดขึ้นมาจากเครื่องเสียงที่ถูกต่อมาจากตัวบ้านพักทำเอาบ้านบรรยากาศที่ครึกครื้นอยู่แล้วยิ่งสนุกขึ้นไปอีกทำเอาบางคนนี่ถึงกับถือถังไม่ไปไหนเต้นสุดฤทธ์สุดเหวี่ยง บางก็โยกตัวไปเต้นไปพรางเอาน้ำไปให้คนที่อยากจะให้กินไปด้วย  ไม่แน่นอนว่าไม่ใช่จะมีแค่คนที่อยากจะกินอย่างเดี๋ยวแต่อย่างแกล้งคนอื่นๆด้วย แม้แต่มดเองที่เที่ยวตระเวนไปหาคนหล่อที่เธอชอบก็ยังโดนให้ทำตามคำสั่งของพี่บ้างเหมือนกันแต่นั่นก็ไม่ๆได้ทำให้เธอหมดสนุกแต่อย่างใดเพราะหลังจากนั้นเธอก็ลืมกลุ่มเพื่อนตัวเองไปเลย ส่วนเทย์เองที่ตอนนี้คนที่เข้ามาขอให้เขากินน้ำนั่นเยอะพอสมควรส่วนมากเลยก็เป็นสาวๆทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องจนตอนคนก็เริ่มซาแล้ว เขาจึงหันมองออกไปรอบๆจยไปสะดุดเข้ากับที่ดูจะมีความสุขมากกับการที่แลกเปลี่ยนกินน้ำโดยไม่หอมก็กอดสาวๆแทน ทำเอาเทย์มองด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาจอง

“อะ” เขายื่นถังไปตรงหน้าจองที่เลิกคิ้วมอง

“อะไรครับ น้องเทย์”

“ก็ให้กิน”

“ทำไมต้องกิน”

“ ก็เห็นเป็นพี่สาขาเดียวกัน”

“ฮึ ไม่เป็นไร พี่รู้แล้ว ไปให้คนอื่นกินก็ได้ “

“ทำไมครับ กลัวผมวางยาเหรอ”

“ป๊าว!! เรื่องไรต้องกลัวก็แค่ไม่อยากจะสานสัมพันธ์กับน้อง”

“ฮึ งั้นก็ไม่แน่จริงนี่ครับ เรื่องแค่นี้เองแค่กินไม่ใช่ว่าเรื่องที่ผมต้องพิศวาสพี่รึเปล่านี่”

“เหอะ ปากดีนะครับน้อง ถ้าอยากให้พี่กินจริงๆน้องก็กินในน้ำนี่ให้พี่ดูก่อนสิ”

“ฮึ เรื่องแค่นี้เอง ถ้างั้นผมกินได้เท่าไรพี่ก็ต้องกินเท่าที่ผมกินได้นะ”

พอคนรอบข้างเห็นสองคนเถียงกันไปมาสาวๆที่รุมล้อมจองเองก็มองมาด้วยความสนใจ

“ทำไมต้องทำด้วย”

“อ้าว คนเขาจะได้รู้ไงว่าพี่นะเจ๋งจริงหรือป่าว”

“เฮอะ เรื่องแค่นี้ทำไมพี่จะไม่รู้ตัวเองละครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีคนมาช่วยประกาศให้เลย”

“อ๋ออออ แต่ทำไมผมไม่เห็นรู้เลยละ”

“นี่!! น้อง” จองขึ้นเสียงด้วยความโมโห แล้วจู๋ๆเจี้ยวก็เดินลั้ลลาเข้ามาเมื่อเห็นโอกาสจะเอาคืนจองเพราะตาแบบสุ่มดูอยู่

“เฮ้ย!!! เพื่อนจองเรื่องแค่นี้มึงป้อด เหรอว่ะ แดกแข่งแม่งเลยจะมาให้รุ่นน้องข่มได้ไงว้า”  เสียงดังๆของเจี้ยวที่ไม่รู้ว่าจะกลัว
เพื่อนตัวเองไม่ได้ยินเพราะเพลงดังหรือกลัวคนรอบข้างจะไม่หันมาสนใจมากกว่า ทำเอาจองที่ตั้งท่าจะปฏิเสธอยู่กลับต้องข่มมันลงไปด้วยทิฐิที่กลัวจะเสียหน้าเพราะเพื่อนตัวดีแม่งเรียกให้ผู้คนมาสนใจเขามากขึ้น เพราะคนอย่างจองนั้นต้องดูดีไม่มีใครมาข่มได้โดยเฉพาะรุ่นน้องที่เขาไม่ชอบขี้หน้า

“ก็ได้ตกลง” ทันทีที่ได้ยินเทย์ก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะตอบกลับไปจนประโยคนี่กลายเป็นฉายาที่เขาได้มาติดตัว

“งั้นผมต่อให้ก่อนสามถังแล้วพี่ค่อยกินน้ำผมหนึ่งถังนะครับ”



จนตอนนี้ก็ดึกมากแล้วผู้คนก็เริ่มเมามากขึ้นบางคนนี่ถึงกับนอนเกลื่อนหาดทราย ส่วนคนที่ยังฮอตยังฮิตกันอยู่ก็ยังมีคนมาต่อแถวไม่ขาดสายแม้ว่านี่จะดึกมากแล้วก็ตามโดยเฉพาะขวัญใจสาวๆอย่างคิงที่ก็ยังต้องดื่มอย่างหนักแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเมาอะไรมากมายเพราะก็คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนอีกคนที่ฮอตทั้งในผู้หญิงและผู้ชายดูท่าทางจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนางพญาของเราที่ตอนนี้ถึงกับต้องนั่งเก้ากี้ที่หลุยส์คอยดูแลอยู่ไม่ห่างแต่ก็ไม่ยักกะห้ามคนที่เข้ามากับสนุกสนานไปกับการที่มาดูแลควีนอย่างมากว่า

“น้องคินตาไหวป่ะครับ”

“หืมม ไหวครับแค่นี้เอง”

“ตู้หูวววว คนสวยของพี่หลุยส์แม่งสุดยอดเลยว่ะ แล้วนี่ไม่คิดจะให้คนอื่นทำอะไรให้เลยเหรอ” หลุยส์มองควีนด้วยความ
ปลาบปลื้ม

“ผมนี้โอกาสทำแบบนั้นด้วยเหรอครับ”


“เออ จริง” หลุยส์หัวเราะแห้งๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่เข้ามาต่อแถวไม่ขาดสายพออีกคนอีกคนก็มาต่อเรื่อยๆยังไม่มีเวลาได้เดินไปจากตรงที่ยื่นอยู่เลยด้วยซ้ำ

“ฮึๆ ผมโอเคครับเรื่องแค่นี้เอง ชินแล้ว ไม่เยอะเท่าที่ร้านหรอก”

“หืมมม ไม่เยอะอะไรนะครับพี่ฟังไม่ทัน”

“อ่อ ป่าวครับ” ควีนยิ้มน้อยๆพอเห็นฟันขาวๆให้หลุยส์ได้เคลิ้มเพราะตอนนี้ฤทธ์แอลกอฮอลล์เริ่มทำให้ร่างขาวเนียนแดงหน่อยๆ
แต่นั่นไม่ได้ให้เขาดูดีลดน้อยลงไปเลยกลับทำให้เขาดูเซ็กซี่มากกว่าเดิมซะอีก ไม่แปลกหรอกถ้ายิ่งดึกแล้วจะมีคนเข้ามาหาควีนมากขึ้น พอเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีสี่ก็ดูเหมือนหลายคนจะทนไม่ไหวบ้างก็เข้านอนที่ห้องบ้างก็ยังงัวเงียตามหาดทราย

“ฮัลโหล!!!!!!!! ผู้รอดชีวิตทั้งหลาย พวกนายแม่งโคตรสตรองเลยว่ะพรรคพ้วกกกกก” เจี้ยวที่ดูเหมือนน่าจะสลบไปตั้งแต่โดนกรอกเหล้าครั้งงแรกกลับยังทรงตัวอยู่ได้โดยที่ก็ยังมีสติดีอยู่แค่เดินเสนิดหน่อยๆเท่านั้นเอง

“ถึงเวลาที่เราจะจะมาดูกันแล้วมาใครจะเป็นผู้ชนะในศึกน้ำกายสิทธ์ เอ้ย น้ำศักดิสิทธ์ ครั้งนี้ ขอเชิญทุกคนล้อมวงเข้ามาเลยคร้าบบ เอิ้ก” ใครหลายคนที่ยังคงมีสติอยู่ก็ล้อมวงเข้ามาเพราะก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ได้ดื่มเพราะต้องคอยดูแลความเรียบร้อบให้คนในค่าย “เอ้า นับเลยครับนับเลยใครที่มีสติ๊กเกอร์เยอะๆมั่นใจว่ายังไงก็ไดร้อยขึ้นนี่เดินออกมาด้านหน้าเลยครับ” มีหลายคนที่ได้สติ๊กเกอร์เยอะพอตัว โดยต่างพากันก้าวออกมาด้านหน้าทั้งเทย์ จอง เดือนที่เป็นดาวคณะ รุ่นพี่ปีสูงที่หน้าตาดีๆอีกห้าหกคน

“อ้าวๆ พระราชาคิงแชมป์ปีที่แล้ว เอิ้ก ..ทำไมไม่ออกมาละครับ อย่าถ่อมตัวครับมึง เผยตัวออกมาเดี๋ยวนี้กูรู้มึงได้เยอะครับอย่ากั๊กครับ เอิ้กก” ส่วนคิงที่ถูกคะยั้นคะยอจำเป็นต้องเดินออกมาตามคำเรียกร้องของเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ

“อ้าว สกอร์คีฟเปอร์ ออกมามาทำหน้านับจำนวนสติ๊กเกอร์ด้วยครับ พวกมึงที่สติดีๆอ่ะมาเลยคราบบ”  แล้วเพื่อนๆก็ออกมานับจนเสร็จจนตอนนี้ก็เหลือคนที่คะแนนเยอะที่สุดก็คือเทย์ เดือน และคิง ที่จะเฉลยว่าใครจะได้เป็นแชมป์

“เอาละครับ มาถึงอันดับแรกเลยนะ รองอันดับสองของศึกน้ำศักดิสิทธ์ของค่ายแม่งเหี้ย เพราะรุ่นพี่พาน้องเหี้ย เอ้ะ! หรือว่าน้องแม่งก็เหี้ยกันอยู่แล้วประจำปี 2015 ได้แก่ แท่มๆๆๆ แท้มมมมมม  เดือน หรือเดือนที่เป็นดาวของสาขาเพราะแม่งไม่ใช่ผู้ชายไงถึงได้เป็นเดือน”

ฮิ้ววววววว แปะๆๆๆ

“เอ้าต่อไปเลยนะ อันดับที่สองระหว่างไอ้พระราชาคิงแชมป์ปีที่แล้วและน้องใหม่มาเร็วแรงแซงทางโค้ง นั่นคือน้องเทย์ 3น้ำ โดยมีชื่อสร้อยต่อคือ เทย์3 น้ำเพื่อกินน้ำพี่จอง1น้ำ มาดูกันว่าใครจะได้แชมป์ไปนะคร้าบบบบ เอิ้กก คนที่ได้แชมป์ปีนี้ก็คืออออออ”

“เดี๊ยว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงหล่อๆผสมความสดใสแบบนี้คงมีไม่กี่คนที่จะมีได้ มาเบรกการที่ประกาศของเจี้ยว

“อะไรวะ! ไอ้หลุยส์ คนเขากำลังลุ้นๆอยู่”

“มึงจะมาเฉลยโดยที่จะขาดคนสำคัญไปไม่ได้เลยนะ”

“ใครอีกล่ะ เขาจะเฉลยกันอยู่ละ ละเมื่อกี้กูประกาศอยู่ป่าวๆไมเล่นตัวไม่ออกมาวะ”

“ไอ้ ห่าพวกกูไปห้องน้ำมาเว้ย น้องคิ้นนนนนนน มาเร็วมาประกาศศักดาของเราให้เขาได้รู้กัน” และควีนก็เดินออกมายืนข้าง
หลุยส์ที่ยิ้มแป้นแบบภูมิใจมากที่จะนำเสนอ

“เอ้า มึงมั้นใจได้ไงว่าน้องเขาจะชนะ”

“แล้วคนที่ชนะเขาได้เท่าไหร่ละ”

“200”

“โอ้ย ไอ้เหี้ย แม่งน้องคินกูต้องเป็นแชมป์อีกคนอะ”

“เฮ้ย มึงอย่ามั่วเดะ มึงนับดียัง”

“ไอ้ห่า กุนี่ไม่ได้แตะน้ำศักดิสิทธ์มึงเลยเถอะ นับทุกแต้มทุกครั้งที่คนเข้ามาอ่ะ”

“เออๆ เชื่อก็ได้วะนี่เห็นที่ตัวน้องเขามีสติ๊กเกอร์เยอะหรอก”

“ถ้างั้นคนที่ได้แชมป์ของปีนี้มีสองคนนะคร้าบ ไอ้แกน้องคินตาและ แท่มๆ แท้แด่มมมมมมมม ไอ้พระราชาคิงเจ้าเก่าเดิมเพิ่มเพิ่มคือแก่ขึ้นคร้าบบบบบ ส่งเสียงหน่อยเร้ววววว”

ฮู้วววววว กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

“ขอเชิญทั้งสองท่านก้าวออกมาด้านหน้าด้วยครับ นี่คือโฉมหน้าของแชมป์ปีนี้ครับ” ควีนยิ้มให้เทย์นิดหน่อยที่เขาในขณะที่ขาเดินสวนเทย์ไปด้านหน้าส่วนเทย์แค่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศลัยให้เพื่อนตัวเองเหมือนเดิม

“ว่าแต่ปีนี้เป็นปีแรกเลยนะที่มีแชมป์สองคน มงกุฎที่เตรียมมาก็ไม่พออะดิเอาไงดีว่ะเพื่อน” เจี้ยวหันไปถามความเห็นๆที่ตอนนี้ต่างลงความเห็น

“เฮ้ย ไอ้คิงมึงว่าไงว่ะ”

“อืม งั้นเอามงกุฎมาให้กุ” คิงทำหน้าคิดนิดหน่อยก่อนจะรับมงกุฎมาไว้ในมือก่อนจะสวมมงกุฎนั้นลงบนหัวควีนที่ตอนนี้ก็อึ้งนิดหน่อย สบตาคิงไปด้วยแต่เขาก็แค่ยักไหล่ผมที่คลอเคลียไหล่ควีนไปทัดหู
เสียงกรี้ดเบาของสาวๆที่ร้องด้วยความอิจฉาก็เพราะภาพสองคนตรงหน้านี้มันช่าง มีมวลพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องกรี้อร้องออกมา

“เอ่ออ ไอ้....คิง เอาเป็นว่าพระราชาคิงของเราเสียสละมงให้น้องคินตาไปครองแล้วนะคร้าบ เพราะฉะนั้นแชมป์ปีนี้ก็ต้องตกไปเป็นของน้องคินตาโดยปริยายว่าแต่น้องคินตตาใส่มงแบบนี้แล้วสวยโคตรเลยวะ”

ฮู้ววว!!!!

สวยจังคร้าบบบ

สมัครเป็นแฟนได้ป่าว

บรรดาเหล่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ส่งเสียงแซวควีนด้วยความชอบใจ ขนาดผู้หยิงยังเคลิ้มไปเลยเมื่อเจอความสวยของควีนเข้าไป

“สวย เหมือนไรว่ะ” เจี้ยวยังคงพึมพำหาครับตอบอยู่

“สวยเหมือนราชินีไงพี่!!!!!!” และแล้วเสียงใครคนใดคนหนึ่งก็ตะโกนแทรกมา

“เออใช่!!!!!!!!!!!!!!!! ราชินี ใช่เลยงั้นคืนนี้น้องก็รับฉายาราชินีของพระราชาคิงไปเลยครับน้อง!!!! ฮู้ว ของเสียงหน่อยเร้ววว ว่าแต่เพื่อนคิงเสียสละแบบนี้ก็น่าจะได้รางวัลเหมือนกันนะเพราะยังไงก็ได้คะแนนเท่ากัน อยากได้ไรวะคิง”

“อืมมมม งั้นขอเปนให้คนสวยป้อนน้ำหน่อย” คิงนิ่งคิดทั้งที่มองใบหน้าสวยๆของควีนไปด้วยก่อนจะนึกออกและยื่นถังน้ำที่ยังมีเหลืออยู่นิดหน่อย

“โห้ย ไรว้าเชี่ยคิง แม่งขอแค่เนี้ยเหรอว้า” เสียงเพื่อนๆตะโกนมาอย่างเสียดาย ส่วนควีนก็จับถังนับยื่นไปจ่อที่ปากคิงแต่คิงก็ส่าย
หน้าให้ ควีนเลิกคิ้วสงสัย ก่อนจะหันไปหยิบจากอีกถังที่วางอยู่ใกล้ยื่นไปให้คิงดูดแต่คิงก็ยังส่ายหน้าอยู่ จนควันที่สบตาคิงอีกครั้งจึงได้รู้ความหมายจริงๆว่าเขาต้องการอะไรเพราะสายตาท้าทายแบบนี้แหละที่ทำให้ควีนนั้นรู้สึกอยากจะเอาชนะทุกที ควีนสายหน้าก่อนจะกรอกน้ำใส่ปากตัวเองรั้งท้ายทอยคิงเข้ามาใกล้ๆก่อนก่อนจะปรระกบปากลงไปทันที

เหี้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

และนี่คงจะเป็นรีแอคชั่นที่ทุกคนมีต่อสิ่งที่ได้อยู่ตรงหน้า การป้อนน้ำครั้งนี้เซ็กซี่ไม่ต่างอะไรจากครั้งที่ทั้งสองเคยทำเหมือนครั้งที่
อยู่ร้านของพี่จิล เพียงแค่ครั้งนี้ทุกสองคนแลกลิ้นกันไปมาอย่างเร้าร้อนเพราะแอลกอฮอลที่อยู่ในร่างกายที่สะสมมันเริ่มออกฤทธิ์ จนเหมือนจะทำให้เจี้ยวต้องขายหน้าอีกคราซะแล้ว

“เฮ้ย!! ไอ้เจี้ยว มังกรน้อยมึงผงาดแล้ววะ”

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 --100% <29/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 30-11-2015 00:16:30
คิงควีนอดใจกันยังไงไหวค้า
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 15 --100% <29/11/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-11-2015 10:57:40
พี่เจี้ยว !!!! คิงกับควีนเขาจูบกันไม่ใช่พี่ถูกควีนจูบนะมังกรจะได้ผงาดน่ะ  :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <30/12/2558>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 30-12-2015 22:11:13
 
Chapter 16


        หลังจากที่ค่ายจบจบปิดฉากไปด้วยความสนุกและตื่นเต้นและดูจะมีหลายเรื่องที่ทำให้ทั้งสองสาขานอกจากจะสนิทกันมากขึ้นแล้วยังมีเรื่องให้เม้าท์กันสนุกปากทั้งเรื่องคืนปิดงานก่อนที่ทุกคนจะเข้านอนไปด้วยภาพมังกรน้อยของเจี้ยวผงาดขึ้นมาให้หลายคนได้สนุกกัน แต่เรื่องที่เห็นจะเป็นเรื่องระดับชาติที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงจะเป็นเรื่องของคิงและควีนที่ตอนนี้นอกจากทั้งสองจะเป็นที่ให้ความสนใจจากคนอื่นๆมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลายเป็นว่านี่อาจจะเป็นเรื่องที่คนทั้งมหาลัยดูจะให้ความสำคัญมากทีเดียว

“คินตา สรุปว่าแกกับพี่คิงนี่ยังไง เป็นแฟนกันจริงใช่ไหม” มดจ้องตาควีนเป็นประกายหลังจากที่ถามไปด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมากเพราะหลังจากค่ายคืนนั้นกลุ่มเพื่อนๆเองยังไม่มีโอกาสที่ได้คุยกับควีนเลย เพราะหลังจากค่ายก็เป็นหยุดพอดีทำให้เรื่องที่ควรจะได้สอสวนกลับถูกเลื่อนออกไป

“หมายความว่าไงอะ” เกรซถามด้วยความสงสัยหลังเพราะเจ้าตัวเองพลาดติดธุระไม่ได้ไปค่ายดูเหมือนเธอจะพลาดอะไรหลายอย่างเชียว “อะไรคือใครเป็นแฟนใครนะ”

“เปล่านี่ไม่มีอะไร” เจ้าตัวที่อยู่ในประเด็นตอบกลับแบบสบายๆไม่ได้สนใจจะมองหน้าเพื่อนแต่กำลังพยายามกดข้อความพิมพ์ส่งกับใครสักคนด้วยโทรศัพท์รุ่นเก่าที่ดูเหมือนควีนเองต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพิมพ์

“ไม่มีอะไรได้ไง ที่จูบกันแบบเผ็ดร้อนเท่าสวนพริกคืนนั้นหมายความว่าอะไร”

“ห้ะ! อะไรนะ ใครจูบใคร อธิบายฉันด่วนๆเลยคะ” เกรซที่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจและอึ้งจนอ้าปากค้างไปแล้วตอนนี้

“โห้ คุณเกรซขนาดอ้าปากยังสวยเลยนะครับ” มหาที่พูดขัดขึ้นมาแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้คนที่อึ้งอยู่สนใจห่วงภาพลักษณ์ตัวเองเลยเพราะเรื่องนี้ดูเหมือนเธอจะอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกซะแล้วนอกจากต้องการคำตอบด่วนๆ “เอ่อ ไม่เกี่ยวใช่ไหม ฮ่าๆๆ คือเรื่องมันมีอยู่ว่าคืนนั้นคุณคินตากับคุณคิงเขา...จะ...จูบกันนะครับ” พูดเองก็เขินเองแต่ดูผิดจากคนในประเด็นดูจะไม่รู้สึกอะไรซะงั้น

“ห้ะ!!!!!!!!!!!! นี่ล้อเล่นปะเนี้ย นี่อย่าบอกนะว่าไอ้เรื่องที่เขาเม้าท์ๆกันว่าพี่คิงมีแฟนก็คินอะดิ”

“ก็เออนะสิ! ฉันละอยากให้แกไปเห็นกับตาตัวเอง ตอนที่คินกะบพี่คิงประกบปากเข้าหากันนะแบบว่า อื้อหื้ออออออออ ว้อท เดอะ

เฮล!!!!!!! มันแบบร้อนแรงปรอทแตกมากอะ” มดที่พูดไปด้วยอารมณ์เคลิบเคล้มอย่างหนัก “นี่ถ้าไม่ใช่แฟนกันจริงแล้วจะเป็น

อะไรเหล่า จ้องตากันสะทะเลตอนกลางคืนอันหนาวเหน็บแทบลุกเป็นไฟ”

“เปล่า ไม่ได้เป็นแฟน” ควีนตอบทั้งที่มือก็ยังกดโทรศัพท์

“อย่ามาขี้ปดนะคินตา ถ้าไม่ได้เป็นแฟนแล้วจะเป็นอะไร”

“ไม่ได้เป็นอะไร แค่พี่น้อง”

“โฮ่ ตอบซะเป็นดาราเลยเพื่อนกู” เทย์ที่มาทันฟังคำตอบของควีนดูจะตลกไม่น้อยกับการที่เพื่อนตัวดีตอบคำถามเพื่อนๆ เขานั่ง
ลงข้างควีนแล้วยื่นแก้วน้ำไปให้ควีนและกอดคอควีนแล้วยื่นหน้าไปมองหน้าจอโทรศัพท์ควีน “พวกมึงไม่ต้องไปเค้นมันหรอกถามให้ตายยังไงก็ไม่ร็เรื่องหรอก”

“โห่ววว ไรว้า นี่สรุปจะไม่บอกจริงๆช่ะ” มดถามด้วยความเสียดาย

“ก็ไม่มีไรนี่นา คำตอบก็บอกไปแล้ว” ควีนที่เงยหน้ามามองเพื่อนๆก่อนจะก้มลงมองจออีกครั้ง

“พอเลยมึงหยุดแกล้งเพื่อนได้แล้ว” เทย์ที่แซะเพื่อนตัวเองที่เห็นควีนแอบอมยิ้มด้วยความสนุกเพราะได้แกล้งเพื่อนให้มีอาการ
แบบนี้ “แล้วนี่คุยกับใคร บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เปลี่ยนโทรศัพท์ได้แล้วจะมาทนพิมพ์ไอ้เครื่องปาหัวมานี่ทำไม ส่งข้อความแต่ทีที่
นี่ไม่หมดเงินบานแล้วเหรอ”

“ป๋า” ควีนบอกก่อนพร้อมทั้งอมยิ้มกับข้อความที่ตนอ่าน

“เออ ฝากบอกป๋ามึงด้วยนะว่าถอยโทรศัพท์ให้มึงหน่อยก กูว่ามึงชักจะใช้ชีวิตคุ้มค่าเกินไปแล้ว”

“ก็ไม่อยากรบกวนเขา เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วไม่เห็นต้องพยายามทำตัวรวยเลย”

“เหอะ” เทย์ผลักหัวควีนเบาๆด้วยความหมั่นไส้  “แค่มึงกลับไปให้เขาเห็นหน้าให้หอมสักฟอดสองฟอดแค่นี้ป๋าเขาก็ยอมถวายไอ
โฟนให้มึงสักสิบเครื่องแล้วกูว่า”

“ไม่อะ เงินยังไม่หมด ฮึๆ” ควีมอมยิ้มน้อยๆไม่ใช่อะไรแต่กำลังตลกเพื่อนๆที่ทำหน้างงและอยากรู้อยากเห็นกันสุดๆ

“ป๋าคือใครเหรอครับ” มหาที่ถามขึ้นมาก่อน

“แกเป็นเด็กเสี่ยเหรอคินตา” มดก็ตามมา

“กูจะบอกให้รู้ไว้เลยนะว่ามันนี่แหละเด็กป๋าที่ใครหลายคนต้องอิจฉา” เทย์ตอบด้วยหน้าทีเล่นทีจริง

“พอเลยไอ้เทย์ หยุดแกล้งเพื่อนเลยเห็นกูเล่นก็นิดๆหน่อยๆนี่เอาใหญ่เลยนะ” เขาหันไปเอ็ดเพื่อนก่อนจะหันมาตอบเพื่อน “ไม่มี
อะไรหรอก เขาเป็นผู้อุปถัมภ์คินเองแหละ ไม่มีอะไรหรอก”

“อ้ออออ” เพื่อนๆต่างพยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ใบหน้าที่แสดงออกมามันแทบจะไม่ใช่เขาเลย


“น้องคินตาคนสวยของพี่ คิดถึงจังครับ” ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยหนุ่มอารมณ์ดีที่เป็นแฟนคลับคินตาก็นั่งลงข้าง
พร้อมทักเอ่ยทักทาย

“พี่หลุยส์” ควีนหันไปมองหลุยส์ก่อนจะหันไปมองอีกคนที่ตามหลังหลุยส์มาด้วย

“อ้าว ราชาคิงของเพื่อนคินตาหวัดดีครับ” เทย์ทักทายคิงที่จำใจต้องนั่งลงข้างมดเพราะเพื่อนตัวดีของเขานั้นพอเห็นควีนปุ๊บก็
พุ่งหลาวมาหาควีนทันทีจนเขาเดินตามแทบไม่ทัน ดูเหมือนไม่ว่าเขาจะรีบไปไหนเพื่อนของเขาก็คงไม่สนใจหรอก

“อืม” เขาพยักหน้าตอบเบาๆก่อนจะหันไปมองควีนก่อนจะยิ้มให้คนอื่นๆและมดที่นั่งตัวแข็งทื่อไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆตัวเองแล้วนั่งฟังเพื่อนตัวเองคุยจ้อไม่หยุดปาก

“น้องคินตาเป็นไงบ้างครับ ค่ายสนุกไหม”

“ก็ดีครับ”

“พี่รู้สึกใจสลายมากเลยนะที่น้องคินทำแบบนั้นในคืนนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนคิงพี่ก็พอทำใจได้”

“ครับ” ควีนเออออตอบ พร้อมทั้งมองไปที่คิงก่อนจะดันแก้วน้ำของตนไปข้างหน้าคิง

“ขอบใจ” คิงรับแก้วน้ำไปดื่มด้วยความกระหายเพราะอากาศและระยะทางที่เดินมาทำให้เขารู้สึกกระหายน้ำพอสมควรแต่ก็ไม่ได้มากขนาดที่เขาจะแสดงอาการออกมาให้เห็นขนาดนั้นแต่ควีนก็ยังมองเห็น

“อะไรอะ ทำไมพี่นั่งคุยกับน้องคินตาอยู่แล้วน้องคินตากลับไปสนใจไอ้คิงอะ แล้วน้ำนั่นอะไร ทำไมไอ้คิงได้กิน”


หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 03-01-2016 17:57:53
หลุยส์ทำเสียงกระเง้ากระงอดแต่ควีนแค่ยกยิ้มให้ไม่ได้ตอบอะไร “น้องคินอ่ะ!!!!” เขาสะบัดหน้าหน้าหนีควีนเหมือนงอนจนคิงเอื้อมมือไปผลักด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะหันไปสบตากลับควีนเหมือนจะบอกว่าอย่าสนใจเพื่อนของเลย

“ไปได้ยัง” คิงหันไปถามหลุยส์ที่ทำล้มตัวไปเกาะแขนควีนแบบเนียนๆแล้วเอาหัวเกรียนๆไปคลอเคลียกับแขนนุ่มๆอย่างเพลินๆพร้อมทั้งมองควีนที่ยิ้มน้อยๆแบบสวยมากมายอลังการให้สายตาของเขา

“ไอ้หลุยส์” คิงเรียกชื่อเพื่อนอีกครั้งเพราะหลุยส์นั้นไม่ได้สนใจเขาเลย

“ไม่เอาอะ อยู่ก่อนดิเพื่อนคิงกูอยากอยู่กับน้องคินตานานๆ”

“ไอ้หลุยส์” คิงกดสียงต่ำอีกครั้งจนเพื่อนของควีนเองก็ต่างหัวเราะน้อยๆเพราะตลกท่าทางเหมือนเด็กของเขา

“ไปเถอะครับพี่หลุยส์เดี๋ยวเพื่อนจะรอนานนะ” ควีนที่อมยิ้มเพราะความน่ารักของหลุยส์พร้อมกับทำเสียงหวานหน่อยๆนั้นยิ่งทำให้แฟนคลับอย่างเขาตาโตยิ้มกว้างจนปากจะถึงหูแต่ก็ไม่มีเวลาฟินได้นานเพราะคิงลุกขึ้นมาดึงเขาให้ลุกตาม

“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ” หลุยส์บอกก่อนจะหันไปยิ้มให้คนอื่นๆด้วย

“ครับ/ค่า” ทุกคนขานรับก่อนที่ควีนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้คิงที่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“มันร้อน” เขาตอบเพื่อคลายสงสัยของคนตรงหน้า

“อะไรอะ!!!!!! ทำไมเพื่อนคิง..” ก่อนที่หลุยส์จะอิจฉาตาร้อนตะโกนเสียงดังด้วยความไม่พอใจควีนจึงยื่นลูกอมไปให้หนึ่งเม็ดจนหลุยส์ร้องลั่นเสียงดังกว่าเดิมซะอีก

“กรี้ดด น้องคินตาให้ลูกอมพี่หลุยส์ โอ้ยยยย ดีใจอะไรอย่างนี้ ทำไมน้องคินตาถึงน่ารักอย่างนี้ละครับ พี่สัญญาว่าพี่จะเอาลูกอมเม็ดนี้ไปเลี่ยมทองห้อยคอไว้ไม่กินเลย ขอบคุณนะครับ” พอพูดจบก็วิ่งหนีไปด้วยความดีใจไม่รอคิงเลย คิงส่ายหน้าให้เพื่อนตัวเองก่อนจะเดินไปหาควีนแล้วล้วงเข้าไปในกางเกงเอายางมัดผมมาเส้นหนึ่งแล้วรวบผมของควีนมามัดไว้ก่อนจะถอยกลับไป

“มันร้อน”

“หึ” ควันยกยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะพยักหน้าให้เพื่อบอกลาคิง พอคิงเดินหายเข้าไปในตึกเทย์คว้าคอควีนมากอดแล้วโน้มมาหาตตัวเองแล้วดึงมัดผมข้างหลังที่คิงมัดให้เมื่อกี้เบาๆ

“แรด กูจะฟ้องป๋ามึงว่ามึงแรด”

“ฮึๆ” ควีนยกยิ้มท้าท้ายกลับเหมือนจะบอกว่าถ้ากล้าก็เชิญ

“เอ่อ” นี่คือเสียงของมหาที่ยังอึ้งอยู่หลังจากที่มองเหตุการณ์เมื่อกี้

“กูว่ามันมีหลายเรื่องไปอะ ไม่รู้เลยว่าต้องพูดเรื่องไหนก่อนดี” เกรซพูด

“แก ฉันตายแล้วเหรอวะ ทำไมอยู่ๆก็เหมือนเกิดไปเป็นนางฟ้าแล้วเจอเทวดา มานั่งอยู่ข้างๆ กรี้ดดดดดดดดด ฉันต้องตายแล้วแน่ๆ” คนที่ดูจะสติหลุดสุดก็คงจะเป็นสาวเจ้าเนื้อของเรานี่แหละ





      พอหลังเลิกเรียนต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับควีนเองก็กลับมานอนเล่นที่ห้องเพราะไม่มีอะไรทำเขาจึงหยิบสมุดโน้ตเล็กๆไม่ใหญ่มากขึ้นมาแล้วเอาดินสอมาเขียดๆเขียนเรื่องราวต่างๆในใจคล้ายๆกลับเขียนไดอารี่ พอเขียนอะไรไปได้สักพักทำให้เขานึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมากับใครบางคนที่ดูเขาเข้ามาทำให้เขารู้สึกสนุกและยิ้มได้จนมือที่จับดินสอมันเริ่มวาดเส้นสายเป็นเค้าโครงหน้าของใครบางคน หลังจากนั้นสองชั่วโมงผ่านไปเค้าโครงหน้าของคนๆนั้นก็ชัดเจนมากขึ้น ควีนมองรูปนั้นอย่างพอใจก็ปิดสมุดนั้นเก็บใส่ลิ้นชักไว้เหมือนเดิมเพราะเขาเองก็ใช้เวลาตรงนี้มากพอสมควรและตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว และเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นพอดีเขาจึงเดินไปเปิดก็พบกับหนุ่มหล่อตรงข้ามห้องเขานี่เอง ทั้งสองคนแค่ยื่นมองหน้ากันโดยไม่ได้พูดอะไรเพราะควีนเองก็รอฟังอยู่ว่าเขามีอะไรแต่ก็เงียบ ควีนจึงยักไหล่ก่อนจะเบี่ยงตัวให้คิงเดินเข้าห้องมาแล้วปิดประตู

“จูนละ” ในที่สุดคิงก็พูดขึ้นหลังจากที่กวาดสายตาดูห้องไปรอบๆก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ที่ควีนนั่งวาดรูปเมื่อกี้

“ยังไม่กลับ ไปทำงานกับเพื่อนน่าจะกลับดึกๆ  ทำไมเหรอ”

“เปล่า”

“แล้ว......” ควีนลากเสียงถามเพื่อเขาเข้ามามีอะไร ก่อนที่คิงจะตอบอะไรเขาเอื้อมไปกอดเอวควีนให้มานั่งตักตัวเองแล้วก่อนจะ
กระซิบที่ข้างหูควีน

“คิดถึง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกก่อนจะเป่าลมใส่หูควีนพอให้รู้สึกจั้กจี้

“ฮึๆๆ กวน” ควีนหัวเราะเบาๆ

“พูดจริง” คิงบอกก่อนจะกดจมูกเบาลงไปบนแก้มแต่ควีนก็เบี่ยงบอก

“ฮึๆ” ควีนก็ยังหัวเราะเบาๆก่อนจะหันหน้าไปมองคิงแบบต้องการคำตอบว่าเขาเข้ามาทำอะไร

“กินข้าวยัง” ดูเหมือนคิงจะตอบไม่ตรงคำถามของควีนเท่าไหร่แต่ควีนเองก็ยังตอบเขากลับไปพร้อมทั้งมองหน้าต้องการคำตอบ

“ยัง”

“แล้วอาบน้ำยัง”

“ยัง” ควีนเริ่มแสดงสีหน้าให้ควีนตอบคำถามเข้ามาสักทีเพราะคิงเอาแต่ถามคำถามเขาแทนที่จะตอบเขา

“ฮึๆ” คิงหัวเราะไม่ยอมตอบคำถามแล้วเอื้อมมือไปแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาควีนแทนแต่ควีนเองก็เอามือตะปบไว้ทันพร้อมทั้งบอกผ่านสีหน้าว่าถ้าไม่ตอบก็จะไม่ยอมให้คิงถอดเสื้อเข้าได้สำเร็จ คิงยกยิ้มก่อนจะฉกลงไปจุ๊บปากนุ่มนิ่มของควีนแล้วจึงตอบคำถามด้วยตาเป็นประกายที่สนุกสนาน

“ไปอาบน้ำ พี่จิลเรียกเข้าร้าน” พอรู้คำตอบที่ต้องการจึงปล่อยมือออก ปล่อยให้คิงปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกจนเสร็จและกดจูบ
ลงไปยังตำแหน่งหัวใจที่เปล่าเปือยของควีนก่อนจะยิ้มด้วยสายตาเลศนัย ควีนที่หมั่นไส้คนตรงหน้าจึงเอาหน้าผากไปโขกกับ
หน้าผากของคิงก่อนจะลุกไปอาบน้ำ

“ช่วยอาบไหม” คิงถามก่อนที่ควีนจะเดินเข้าห้องน้ำและเสียงปิดประตูดังๆของควีนก็เป็นคำตอบที่ทำให้คิงหัวเราะออกมาเบาๆ
อย่างมีความสุข  พอควีนอาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาด้วยผ้าขนหนูที่ปกคลุมท่อนล่างเขาไว้เท่านั้น เห็นคิงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ก็เข้าใจได้เลยว่าคงต้องไปพร้อมกันกับเขาจึงเดินไปแต่งตัวทั้งที่ควีนเองก็รู้ตัวเองว่าคิงก็มองตนอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนเสร็จควีนจึงพยักหน้าให้คิงรู้ว่าตนพร้อมแล้วทั้งสองจึงเดินไปพร้อมกัน จนถึงร้านทั้งสองก็เข้ามาทางด้านหลังเหมือนเคยก่อนจะเข้าไปทักทายเพื่อนพนักงานคนอื่นๆที่ก็ยังแซวทั้งคิงและควีนอยู่ว่าทั้งสองนั้นตกลงเป็นแฟนกันแล้ว

“อ้าว มาแล้วเหรอ” พี่จิลเดินเข้าทักเมื่อเห็นควีน

“สวัสดีครับ” ควีนทักตอบ

“อืม แล้วนี่กินไรมายัง” พี่จิลพยักหน้าตอบพร้อมทั้งลูบผมควีนด้วยความเอ็นดู

“ยังครับ”

“งั้นก็ไปหาอะไรกินกันก่อน อันที่จริงคืนนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็ทำงานเหมือนอย่างเคยนั้นแหละควีนอยากจะทำอะไรก็ทำ ขอ
แค่ให้เดินเตร็ดเตร่ให้ลูกค้าพี่ได้เห็นหน้าก็พอแล้วหรือจะตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋กับไอ้คิงก็ได้ หรือจะทำอะไรกันมากกว่านั้นก็จะ
ยิ่งดี” พี่จิลพูดอย่างมีเลศนัยในตอบท้ายทำเอาคิงส่ายหน้าเพราะความเจ้าเล่ห์ของเจ้านายตนทันทีเพราะดูเหมือนจะทำอะไรก็ดูจะหวังผลไปหมด

“ฮ่าๆๆๆ พี่หยอกเล่นนะ” เขาหัวเราะด้วยความพอใจที่ดูเหมือนว่าควีนเองก็ดูรู้ทันว่าเขาคิดอะไร “แต่ถ้าทำจริงๆก็ได้นะ พี่ชอบ ฮ่าๆๆๆๆ อย่าลืมไปโอ๋ไอ้ตัวเล็กมันด้วยหละ หน้าบูดเป็นตูดลิงมาเชียวบอกว่างอนควีนอะไรสักอย่าง”

“จูนมานี่เหรอครับ” พี่จิลพยักหน้าตอบก่อนจะเดินไปตรวจงานที่อื่นต่อส่วนคิงและควีนก็เดินไปยังห้องที่จะไปกินข้าวก็เห็นคนตัวเล็กเป็นอย่างที่พี่จิลบอกจริงๆ

“จูนครับ” ควีนเรียกคนตัวเล็กของเขาที่นั่งเขขี่ยจานข้าวเล่นด้วยใบหน้าเหงาหง่อย

“ควีน!” จูนร้องด้วยความดีใจกำลังจะลุกจากเก้าอี้มาแต่ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้จึงกลับไม่นั่งทำหน้าบึ้งต่อพร้อมกับกอดอกตัวเองแน่น

“เป็นอะไรครับ แล้วนี่มาไมถึงได้มาที่นี่ละ ไหนบอกว่าทำงานกับเพื่อน” ควีนไปนั่งลงข้างๆจูนพร้อมต่อด้วยคิงกลายเป็นว่าเขานั่งอยู่ตรงกลางส่วนคิงพอนั่งลงปุ๊บก็เริ่มนั่งทานข้าวทันทีไม่ได้สนใจควีนที่กำลังพยายามถามจูน ที่ยอมตอบคำถามควีนแถมยัง
ยกมือกอดยกแน่นขึ้นกว่าเดิม

“จูนของควีนเป็นอะไรครับ ไหนบอกควีนสิ” ควีนเอื้อมมือไปประคองหน้าจูนให้หันมาแต่ไอ้ตัวเล็กก็พยายามหันหน้าหนีท่าเดียว จนควีนก้มลงไปเอาหน้าไปแตะหน้าหน้าของจูนจึงยอมหยุด

“ไหนดูสิไอ้ตัวเล็กของควีนเป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า อืมม ตัวก็ไม่ร้อนนี่นาทำไมถึงหน้าแดงละ” ควีนยิ้มให้จูนอย่างนุ่มลึกมองหน้าคนตัวเล็กที่แดงระเรื่อเพราะความเขินแต่ก็พยายามจะทำบึ้งอยู่

“เปล่า” จูนตอบเสียงเบาไม่ยอมสบตากับควีน

“เปล่าเป็นอะไร หรือว่าเขิน” ควีนแกล้งโน้มหน้าลงไปจนปลายจมูกของทั้งสองชนกัน

“ปะ.. เปล่าซะหน่อย” จูนตอบพร้อมเบี่ยงหน้าหนีพร้อมทั้งไปหน้าแดงจัด

“เปล่าแล้วเป็นอะไรละครับ ไหนใครบอกพี่จิลว่ามีคนน่ารักๆตัวเล็กๆที่กำลังนั่งเขินหน้าแดงกำลังงอนควีนอยู่”

“ไอ้พี่บ้า จะไปบอกควีนทำไมกัน” จูนพูดออกมาเบาๆเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน

“ก็ถ้าพี่จิลไม่บอกควีนก็จะไม่รู้นะสิว่าควีนไปทำอะไรให้จูนงอน” แต่คงจะเป็นแค่ความคิดจูนละมั้งที่คิดไปเองว่าการที่ควีนนั่งใกล้ซะขนาดนีดจะไม่ได้ยินที่ตนพูด

“จูนไม่ได้งอนซะหน่อย”

“อ้าว จูนไม่ได้งอนเหรอ แต่ทำไมควีนอยากง้อล่ะ” เมื่อควีนอย่างนั้นจูนถึงกับหน้าแดงจัดและหลุดยิ้มออกมาจนได้

“ควีนอ่ะ!!” จูนทุบมือไปที่อกควีนพร้อมทั้งยิ้ม “เค้าไม่ได้งอนซะหน่อย  หายแล้ว”

“อ้าว ไม่ได้งอนแต่หายแล้วนี่หมายความว่าไง สรุปว่างอนหรือไม่ได้งอน”

“ก็.........ควีนนั้นแหละ!” พอทุบเสร็จก็หันไปซุกอกควีนแทนจนควีนเองก็อดยิ้มออกมาไม่ได้แล้วลูบหัวจูนด้วยความเอ็นดูเบา

“ควีนทำไรอะครับ”

“ก็เพราะควีนไปค่ายไง”

“หืมม ควีนไปค่ายแล้วทำไม”

“ก็วันนี้จูนไปทำงานกับเพื่อนมาแล้วเขาพูดกันว่า...”

“ว่า”

“เอ่ออ” จูนพูดตะกุกตะกักพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้นมามองควีนสลับกับคิง “ว่าควีน เอ่อออ กับพี่คิง................จูบกัน!” พอพูดเสร็จก็หลับตาปี๋ทำเอาคิงและควีนมองหน้ากันก่อนจะยิ้มมองจูนด้วยความเอ็นดูก่อนที่ควีนจะยกจูนให้มานั้งอยู่ด้านหน้าตรงกลางระหว่างขาของตน

“อ้ะ! ควีนทำอะไร” พอหันกลับมาก็เจอทั้งคิงและควีนที่มองตนอยู่ทำเอาก้มหน้าแทบไม่ทัน

“ฮึๆๆ เรื่องนี้นี่เอง แล้วทำไมถึงงอนละ” ควีนถามพร้อมทั้งสัมผัสถึงความอุ่นร้อนแถวเอวแต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะรู้ว่ามันคือมือของคิงที่พาดอ้อมด้านหลังมาจับที่เอวอีกด้านของเขา

“ก็ พี่คิงกับควีนนั่นแหละ จะจูบกันทำไมเหล่า!”

“อ้าว พี่เกี่ยวอะไร” คิงตอบยิ้มๆ

“ไม่เกี่ยวได้ไงพี่นั่นแหละเกี่ยวเต็มๆเลย”

“นี่พี่โดนงอนด้วยอีกคนเหรอ”

“ไม่ต้องมาพูดเลยทั้งสองคนนั้นแหละ”

“ฮ่าๆ ครับ” คิงยกมือขึ้นเหมือนยอมแพ้

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย สรุปว่าเรื่องจริงรึเปล่า” จูนทำท่าจริงจังขึ้นมาอีกครั้ง

“ก็แค่เกมส์เล่นๆกันนะครับ” ควีนตอบ
“งั้นก็เรื่องจริงนะสิ!!!!” จูนทำตาโตด้วยความตกใจ

“จูนจะตกใจทำไม ก็เคยเห็นพี่จูบกันที่ร้านแล้วนี่” คิงตอบพร้อมทั้งมือที่นวดเอวควีนเล่นไม่หยุด

“นี่แนะ!! พี่คิงนิสัยไม่ดี มาจูบอีกทำไมเหล่า!!”

“ฮึๆ นี่พี่กลายเป็นคนผิดเหรอ” คิงแกล้งทำหน้าเจ็บมากมายเมื่อมือเล็กๆทุบมาที่แขนของเขา

“เรื่องแค่นี่เองครับ แล้วทำไมถึงงอนละ” ควีนถาม

“ก็ไม่รู้ละ จูนห่วงของจูนนี่” พอจูนพูดอย่างนั้นควีนจึงจีบจมูกจูบไปมา

“อื้อ ควีนอะ ไม่รู้ละห้ามทำแบบนั้นอีกนั้น ไม่งั้นจูนโกรธจริงๆด้วย”

“ฮึๆ ครับ”

“อ่ะ” คิงจิ้มแฮมยื่นไปตรงหน้าจูน “ง้อ”

“คิกๆๆ” พอเห็นแบบนั้นจูนก็หัวเราะชอบใจเพราะไม่คิดว่าคิงจะง้อคนอื่นด้วยวิธีแบบนี้ก่อนจะอ้าปากงับแฮมไปเคี้ยวอย่างมีความ
สุข

“ทานข้าวเถอะครับ จะได้ไปทำงาน” ควีนพูด

“โอเค หิวมาตั้งนานแล้ว มาทานข้าวกันเถอะครับ” พอหายงอนปุ๊บก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วกระต่ายน้อยของเขา ควีนส่ายหน้าก่อนจะหันไปบอกคิงด้วยสายตาว่าให้เอามือออกจากเอวเขาได้แล้วแตคิงกลับโน้มหน้ามาใกล้ควีนกว่าเดิม

“พี่คิงทำอะไรนะ!!!!!!” พอจูนหันกลับมาเจอแบบนั้นก็กระโดดกอดคอควีนทันที “หยุดเลยนะ จะแอบจูบควีนใช่ไหม”

“เปล่านี่ครับ” คิงตอบพร้อมทั้งทำหน้ากรุ้มกริ่ม แล้วยื่นหน้าเขาไปใกล้ควีน “จูบจริงๆมันต้องแบบนี้”

“หยุดเลยนะพี่คิงงงงงงงง” ก่อนเข้ามาจูบควีนได้จริงเขาก็โดนกระต่ายน้อยที่พยายามจะยื้อเขาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ควีนแต่คิงก็ยังแกล้งยื้อเข้าไปใกล้จนจูนเองหน้าดำหนาแดงเพราะออกแรงเยอะ

“ฮ่าๆๆๆ” ทั้งคิงและควีนก็หัวเราะออกมาเพราะท่าท่างน่ารักน่าเอ็นดูของจูน




 :mew1: :mew1: :mew1:  :mew1: 







หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-01-2016 19:36:54
หนูจูนทั้งอายทั้งหวงควีน ควีนนี่กลายเป็นพระเอกหรือจะเคะชนเคะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-01-2016 22:11:52
 :z2:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-01-2016 23:14:27
อร๊ายยยย. คิงกะควีนนนนน. โอ๊ยย ฟิน เมื่อไหร่จะได้กัน
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 04-01-2016 08:03:58
แอร๊ยยยสองคนนี้มันยังไงกั๊นนนนนนน
ควีนนี่แบบอิมเมจพี่ซินมาแล้วอ่ะ เพลงup 2 u ก็ลอยมา
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 16 <03/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2016 13:07:28
อีมหา แอบหื่นกะจูนอะ เลือดกำเดาไหลเลย 55555  :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <05/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 05-01-2016 19:53:52
,มาอีกหละทีละนิดละหน่อย 55555555


                                                                   
  Chapter 17



“ฮ้าววว” ไอ้ตัวเล็กที่นั่งหาวอ้าปากกว้างเป็นรอบที่สิบแม้จะง่วงจนตาแทบจะปิดก็ยังไม่ยอมห่างจากร่างสูงโปร่งของควีนเลยตั้งแต่พวกเขาทานข้าวเสร็จและตอนนี้ทั้งสองก็นั่งอยู่บาร์ของคิงที่โซนด้านล่าง

“กลับเถอะจูน นี่มันดึกมากแล้วนะ” ควีนหันไปบอกไอ้ตัวเล็กของเขาในขณะที่หันไปชนแก้วกับผู้หญิงที่เดินเข้ามาขอเลี้ยงเครื่องดื่มเขาก่อนจะพูดคุยกันเล็กน้อยแล้วเธอก็เดินจากไป

“ไม่เอาอ่ะ จูนจะกลับพร้อมควีน”

“แต่จูนง่วงมากแล้วนะ” เขาหันไปมองจูนด้วยความเป็นห่วงเพราะแม้ตาจะปิดเพราะความง่วงมากแค่ไหนแต่ไอ้ตัวเล็กของเขาก็ไม่ยอมไปไหนเลย

“ใครว่าจูนง่วง ฮ้าวว” ยังไม่ทันจะพูดถึงไหนก็ดันหาวออกมาซะงั้น จนควีนเองยังยกยิ้มเพราะความดื้อของจูน “นะ..นี่ จูนไม่ได้

หาวเพราะง่วงซะหน่อยจูนแค่แสบตาเฉยๆเลยหาวให้น้ำตามันไหลออกมาเฉยๆเหอะจะได้ตาใสขึ้น แล้วอีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวัน

เสาร์แล้วด้วยเพราะฉะนั้นจูนตื่นสายได้” ฟังคำแก้ตัวของเขาเอาเถอะ จริงๆเลยนะไอ้ตัวเล็ก ฟังขึ้นชะมัดเลย

“แต่ควีนว่าจูนไม่ไหวแล้วนะ กลับบ้านไปพักเถอะ”

“งั้นควีนก็เลิกงานซะสิ เราจะได้กลับกันสักที”

“ไม่ได้หรอกครับ ควีนเป็นพนักงานนะจะมาทำตามใจตัวเองได้ที่ไหนกันละเดี๋ยวพี่จิลได้หักเงินเดือนกันพอดี”

“ถ้ากล้าก็ลองดูสิ นี่ใคร!นี่จูนนะ! พี่จิลก็พี่จิลเหอะ” จูนที่ทำท่ามั่นอกมั่นใจตบมือใส่หน้าอกตัวเองแบบนักเลงขาใหญ่ที่ใครก็ไม่
กล้ามาหือจนควีนยังต้องยิ้มออกมา

“ไงไอ้ตัวเล็ก มากวนอะไรเขาหะ” พี่จิลที่เดินมาจากด้านหลังตวัดแขนกอดคอน้องตัวเองเข้าเต็มรักก่อนจะหันไปถามควีนว่าน้อง

เขามาสร้างความวุ่นวายอะไรให้ควีนหรือเปล่า ส่วนควีนก็ได้แต่ส่ายหัวเป็นคำตอบกับยิ้มเบาๆให้พี่จิลเหมือนรู้กันดี ว่าไอ้ตัวเล็ก

อย่างเขามันจะไปทำอะไรใครเขาได้

“อะไรละพี่จิล สั่งให้ควีนเลิกงานเดี๋ยวนี้นะ! พี่ชักจะใช้งานควีนหนักไปแล้วนะ” จูนทั้งพูดทั้งพยายามดันแขนใหญ่ๆของพี่จิลที่กอดคอตัวเองอยู่ออก

“หนักอะไร แล้วนี่เมื่อไหร่จะกลับสักทีดึกแล้วนะ” ยิ่งเห็นน้องตัวเองพยายามจะเอาแขนเขาออกมากแค่ไหนพี่จิลยิ่งรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม

“พี่จิลก็ให้ควีนเลิกงานสักทีสิ จูนจะได้กลับสักที ง่วงก็ง่วง”

“เอ้า! ไอ้น้องคนนี้นิ คนเขาทำงานจะมาสั่งให้พี่ทำแบบนั้นได้ไง แล้วตัวเองจะมารอกลับพร้อมควีนเขาทำไม”

“ก็จูนจะกลับพร้อมควีนนี่”

“ไม่ต้องเลยนะจูน อย่ามางอแงกลับเดี๋ยวนี้เลยเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เอาจูนจะกลับพร้อมควีน!”จูนพยายามยื้อตัวไว้ทั้งทีพี่จิลเริ่มจะอออกแรงลากเขาให้ไปด้วยกัน “ควีน ช่วยจูนด้วยจูนไม่อยากกลับ”

“ไม่ต้องเลยไอ้ตัวดี กลับเดี๋ยวนี้เลย พี่กลับก่อนนะควีน”

“ครับ เดินทางปลอดภัย” ควีนบอกลาด้วยรอยยิ้มขบขันกับท่าทางของไอ้ตัวเล็กที่พยายามฉุดกระฉากลากถูเพราะงอแงไม่อยาก
จะกลับทั้งโวยวายจนคนอื่นมองตามกันเป็นแถบๆ

“เจอกันอีกแล้วนะครับคนสวย” อยู่ๆควีนก็ต้องละลายสายตามาตามเสียงทุ้มที่เรียกอยู่ด้านหลังของตัวเอง ก่อนจะมองคนตรง
หน้าแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะจำไม่ได้ว่าเคยเจอกันที่ไหนเพราะเท่าที่ปัจจุบันนี้ลูกค้าที่เข้ามาทักเข้าก็มีมากเกินไปจะจำ

“แหม่ ไม่ได้เจอกันก็แค่นี่ ลืมกันลงแล้วเหรอครับ” คนตรงหน้าแกล้งตีหน้าเศร้าหลังจากที่ดูจากอาการของควีนที่ดูเหมือนจะจำ
เขาไม่ได้แต่สุดท้ายเขาก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจที่ตัวเองโดนลืม

“ฮึๆ ไม่เป็นไรหรอกครับเรื่องแค่นี่เอง ผมเข้าใจว่าคุณต้องเจอคนเยอะจะมาให้นั่งจำลูกค้าทั้งหมดก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอกครับ
แต่แหม่ นี่แอบเสียดายเหมือนกันนะครับที่คนสวยจำกันไม่ได้”


“ครับ”

“แหม่  ผมพูดมาซะยืดยาวจะไม่ถามหรือชวนผมพูดอะไรเลยเหรอครับ”

“ครับ” ควีนขานรับแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่มองคนตรงหน้าเองที่ก็เงียบรอเขาจนต้องถอนหายใจและชวนเขาคุย “ชื่อ..อะไร
เหรอครับ”

“โห้ นึกว่าจะไม่ถามแล้วนะครับ ผมชื่อแทนครับ พอจะจำได้หรือยัง”  เขานั่งลงข้างๆควีนแทนที่ที่จูนนั่งก่อนหน้า “ฮึๆๆ ทำหน้า
อย่างนี้คงจำไม่ได้สินะครับ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่ราชินีก็อยู่นี่แล้วราชาของเราไปไหนซะละครับ” เขาทำท่าสอดส่องไปทั่วบาร์
เพราะปกติก็จะเห็นคิงประจำตำแหน่งอยู่ตรงนี้

“ห้องน้ำมั้งครับ”

“เหรอครับ ว่าแต่คืนนี้ผมขอเลี้ยงได้ไหมครับขอเหมาเวลาช่วงยาวๆนี้ไปเลยได้ไหม” แทนทำสายตาแพรวพรายส่งไปให้ควีน

“แล้วถ้าตอบว่าไม่ละครับ”

“หืมม ฮึๆๆ น่าสนใจดีนะครับ” เขาหัวเราะด้วยความชอบใจก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ “แล้วทำยังไงคนสวยถึงจะยอมรับเครื่อง
ดื่มผมละครับ” แต่ควีนก็แค่ยักไหล่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่แทนก็ยังโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆอีก “นะครับ” เขาส่งสายตาที่หวานเชื่อมพยายามอ้อนผ่านทางสายตาจนควีนพยักหน้าตกลงทำให้ยิ้มพอแทนโน้มตัวกลับไปนั่งก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์อีกคน

“แต่ขอเป็นเครื่องดื่มเบาๆนะครับ วันนี้ดื่มเยอะมากแล้ว”

“หึๆ ก็ได้ครับ ว่าแต่แก้วหนึ่งนี่ผมคุยได้นานแค่ไหนกันครับ” เขายื่นเครื่องดื่มไปให้ควีนและจิบเครื่องดื่มตัวเองไปด้วย

“ก็แล้วแต่ครับ”

“แล้วแต่นี่แล้วแต่อะไรครับ ราคาเครื่องดื่ม หรือความพอใจของคนสวยกัน” อยู่ๆตัวของควีนก็โดนโอบเอวจากคนตรงหน้าจนตัวเขาโน้มมาหาแทน

“คนเมานะครับ เกือบชนควีนแนะ” เขายิ้มให้เหมือนโล่งอกที่ช่วยควีนได้ทัน “ว่าแต่เวลาของที่จะได้อยู่กับคนสวยนี่ยังไงกันครับ” ควีนมองไปยังคนเมาที่เขาพูดถึงแต่ก็ลูกค้าคนที่อยู่ใกล้ๆที่ทำท่าไม่ได้สนใจอะไรเขาทั้งคู่อยู่กับกลุ่มเพื่อนเขาเท่านั้นเองก่อนจะหันมามองเอวบางของตัวเองที่โดนโอบอยู่เลื่อนไปยังใบหน้าเจ้าเล่ห์ที่มองเขาอย่างกรุ้มกริ่มอยู่



“ก็........แล้วแต่น้ำยาของคุณนะครับ”
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <05/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 05-01-2016 21:00:58
คิงหายยย กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ควีนจะโดนงาบแล้ว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <05/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-01-2016 21:09:30
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 10-01-2016 14:53:49
 ควีนบอกก่อนจะดันตัวเองออกจากแทนกลับมานั่งในที่ของตัวเองดีๆ

“อื้อหื้อออออ แรงจังนะครับ” แทนที่ดูจะอึ้งที่ควีนตอบกลับมาอย่างนั้นแต่ก็แสดงความพึงพอใจออกมาหลังจากนั้น “ร้อนแรงดี”

“ครับ” ควีนพยักหน้าตอบก่อนจะหันหน้าไปมองบรรยากาศรอบๆในร้านอย่างไม่ได้สนใจๆคนที่อยู่ข้างๆตัวสักเท่าไหร่

“อะไรกันครับ ผมนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคนยังไม่เห็นสนใจกันเลยนะครับ คนพวกนั้นน่าสนใจกว่าคนหล่อๆที่นั่งข้างๆคุณมากกว่าได้ไง” เขาจับปลายคางควีนให้หันมาหาตนอย่างเบามือก่อนจะจ้องมองดวงตาที่ใครต่อใครก็พูดกันว่ามันน่าหลงใหลยิ่งนัก ซึ่งตอนนี้เขาแทบดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายนั้นคิดอย่างไรแต่นี่คงจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดทุกคนที่เข้าหาควีนสินะ น่าสนใจแฮะ น่าสนใจมากๆ

“จะทำอะไรครับ” เขาชะงักใบหน้าที่กำลังเคลื่อนเข้าไปใกล้ควีนอย่างไม่รู้ตัวแต่ก็ไม่ได้ถอยออกไปในทันทีมือหน้าที่จับคางควีนอยู่ก็เลื่อนมาสัมผัสพวงแก้มเนียนนั้นวนไปมา

“แล้วคิดว่าผมควรทำอะไรดีละครับ” ควีนไม่ได้ตอบแต่เลื่อนฝ่ามือไปกุมฝามือหน้าที่สัมผัสหน้าตนอยู่ก่อนจะช้อนตามองแทนและจับมือหน้าออกจากใบหน้าตน “แหม่ ไม่คิดจะเล่นตามน้ำบ้างเลยเหรอครับ” แทนที่เขาจะสำนึกรู้ได้ว่าควรจะปล่อยมือจากควีนกลับประสานมือกันไว้แน่นซึ่งไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าควีนจะกระตุกมือยื้อออกมาเป็นสัญญาณให้ปล่อย

“ปล่อยเถอะครับ”

“ไม่ครับ” แทนตอบอีกทั้งยังโน้มตัวเองไปใกล้ๆควีนด้วยสีหน้าสนุกสนาน “ก็ผมกำลังจะทำให้ดูไงครับว่าผมนั้นมีน้ำยามากแค่ไหน ไม่ลองดูหน่อยละครับเผื่อจะติดใจผมขึ้นมา”

“ฮึ โม้จังนะครับ”


“เปล่านะครับ ถ้าอยากรู้ก็ต้องลอง หลังจากคลับปิดไปกับผมเลยไหมละ”

“แล้วถ้าไม่ละครับ”

“ก็ถ้าไม่ตกลงผมก็จะทำให้ควีนตอบตกลงให้ได้เลยละครับ” เขาเลื่อนมืออีกข้างที่ว่างมาจับเอวควีนเข้ามาใกล้ตัวเอง

“มั่นใจมากเปอร์เซ็นต์แค่ไหนครับที่จะทำให้ผมตอบตกลงได้” แม้ควีนจะไม่ได้ผลักออกแต่ก็ยื้อตัวเองไว้ไม่ให้ไปตามแรงฉุดของคนตรงหน้าเพราะเขารู้ดีว่าร่างหนาที่อยู่ตรงหน้านั้นมีมากแค่ไหน สู้ไปก็เหนื่อยเปล่า ร่างสมส่วนตามสไตล์คนออกกำลังกายแบบนี้และอีกอย่างที่ว่าทำไมจะต้องต้องเหนื่อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วย

“เป็นศูนย์” เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาไม่ใช่ของแทนแต่เป็นเสียงที่ควีนเองคุ้นดี

“อ้าว มาตอบแทนกันอย่างนี้ได้ไงครับคุณคิง” แทนหันไปมองคนตรงหน้าแต่ก็ไม่ยอมผละออกจากควีน

“เพราะผมรู้คำตอบดี” ควีนตอบพร้อมหันไปมองควีนที่ถูกแทนโอบไว้ไม่ยอมปล่อย

“ฮ่ะๆ คุณจะมารู้คำตอบแทนควีนได้ไง ถึงคุณจะเป็นคิงแต่นั่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณนี่ครับ”

“เพราะเป็นคิงไงคับถึงรู้คำตอบของควีนดี”

“แหม่ พูดอย่างกับรู้ใจควีนดีเลยนะครับ ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันไม่ใช่เหรอครับ”

“ผมจำเป็นต้องตอบด้วยเหรอครับ” คิงตอบหน้านิ่ง

“เหอะ ก็ไม่ต้องหรอกครับเพราะยังไงการที่แค่มโนไปเองฝ่ายเดียวมันก็เป็นแค่การมโนนะ ใช่ไหมครับควีน” แทนหันไปมองหน้าควีนอย่างมั่นใจ

“ครับ มันเป็นการมโน” ควีนผลักตัวเองออกจากแทนไปยืนอยู่ข้างคิง ทำเอาแทนนั้นอึ้งไปนิดหน่อยที่ไม่คิดว่าควีนจะมีแรงถึงขนาดนี้ แต่คย่าลืมว่าควีนเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกันเพียงแค่เขายังไม่อยากจะเหนื่อยก็แค่นั้น “ไม่เกิดผลอะไรหรอก อย่ามโนบ่อย
แล้วกันนะครับคุณแทน”

“อะ..อะไรนะครับ ควีนพูดอย่างนี้หมายว่าว่าไงครับ”

“ผมถึงได้ถามไงว่า คุณมั่นใจมากแค่ไหนกัน”

“ทำไมครับ ผมเองก็มีน้ำยาไม่แพ้คุณคิงหรอกครับหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ”

“ครับ แต่สำหรับผมมันเป็นศูนย์”

“เหมือนที่ผมบอกนะครับ” คิงพูดก่อนจะยกยิ้มแล้วโอบเอวควีนเบาๆ “ต้องขอตัวก่อนนะครับเวลาของคุณหมดแล้ว ถ้าอยากจะคุยกับควีนนานๆก็สั่งเครื่องดื่มที่คิดว่ามันคูควรกับควีนกว่านี้หน่อยนะครับเพราะทางร้านอาจจะพิจารณาเวลาที่คุยกับควีนให้ได้นานกว่านี้ ต้องขอโทษทีนะครับหมดเวลาทำงานของควีนแล้ว”

“เดี๋ยวสิครับควีน!! เดี๋ยว เฮ้ย เหี้ยไรวะ!! Shit!!” แทนสบถอย่างหัวเสียตามหลังคิงและควีนที่พูดจบก็เดินจากไปไม่สนใจเสียงเรียกตะโกนของเขาเลยสักนิด

คิงก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือของตนหลังจากที่พาควีนเดินจากแทนมาที่ห้องแต่งตัวพนักงาน
“ตีหนึ่งแล้วเดี๋ยวเลิกเลยก็ได้นะ”

“หืม ยังไม่ถึงเวลาเลิกเลยนะ” ควีนเลิกคิ้วถาม

“ไม่เป็นไรหรอก ไปเปลี่ยนชุดเถอะ” ควีนพยักหน้าก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดกลับหอ

“ป่ะ” ควีนพยักหน้าให้คิงหลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จก่อนจะเดินไปทางด้านลานจอดรถพนักงาน

“โอเคอยู่ใช่ไหม” อยู่ๆในระหว่างที่เดินคิงก็หันมาถามควีน

“หืม โอเคสิ แค่นี้เอง” ควีนหันไปตอบยิ้มน้อยๆให้ก่อนต่างคนต่างเงียบเพราะรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้โดยที่ไม่มีแม้กระทั่ง
คำพูดใดๆเปล่งออกมาก็ตาม คิงหยิบหมวกกันน็อคมาใส่ให้ควีนหันไปสบตาสวยๆคู่เก่าที่เขาชอบมองแม้ใบหน้าจะนิ่งแต่คิงก็รู้ว่าดวงตาคู่นี้มันยิ้มอยู่

“อะไร หลงเสน่ห์รึไง”

“ฮึ” ควีนหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับยิ้มส่งไปให้แทน เชื่อเขาเลย “แล้วนี้พี่พากย์เขาไม่ได้ใช่รถรึไง”

“ไอ้รถคันนี้อะนะ” คิงพยักหน้าไปยังรถของพากย์ที่เอามาใช้อยู่บ่อยๆเวลามาทำงาน “มันไม่สนใจหรอก สาวๆเขาไม่ชอบตาก
แดดตากลมมันเลยชอบขับรถยนต์มากกว่า”

“ฮึๆ แล้วสาวๆของนายเขาชอบเหรอ”

“หืม  ไม่รู้สิ เผชิญคนซ้อนท้ายไม่ใช่ผู้หญิง” คิงมองตรงควีนด้วยแววตาขบขันก่อนชะเลื่อนมือขึ้นไปจับศรีษะของควีนที่เขาเพิ่งใสมองกันน็อคเสร็จ “แล้วก็....ไม่เคยเห็นเขาบ่นนิ”
ควีนยกยิ้มกับมุกที่คิงเล่นมาก่อนจะส่ายหน้าไปมาไม่ใช่ว่าเขาเอือมระอาหรืออะไรก็แค่ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรไปช่วงนี้ที่มันชอบยิ้มอยู่บ่อยๆก่อนจะขึ้นไปซ้อนท้ายคิงที่สตาร์ทเครื่องรอ

“หิว” ควีนกระซิบบอก

“หิวไร ข้าว? หรือพี่?”

“กินไรก็ได้แค่อิ่ม”

“เอาแบบอิ่มกายหรืออิ่มใจ”

“ถ้าอิ่มใจแล้วกายจะอิ่มด้วยป่ะ”

“งั้นก็ต้องใช้ร่างกายทำให้เราอิ่มใจจะได้อิ่มทั้งคู่”

“ฮึๆแล้วแต่เถอะ” ทั้งคิงและควีนต่างยกยิ้มเมื่อควีนพูดอย่างนั้นกลับ ก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย

“งั้นจะพาไปกินตับ ดีไหม ฮึๆ”




หลังจากนั้นควีนกับคิงก็ได้กินตับกันจริงๆ  หมายถึงตับหวานที่อยู่ในถ้วยข้างถ้วยข้าวต้มปลาเนี่ย

“อันนี้พิเศษสำหรับสุดหล่อผัวน้อยของป้าเลยนะ”

“หืม ร้านป้ามีด้วยเหรอครับ” ควีนถามอย่างแปลกใจเมื่ออาหารมาอยู่ตรงหน้าเพราะร้านป้าแกขายแค่ข้าวต้มไม่ช่เหรอ

“อ๋อ อันนี้ป้าทำมากินกันเองแหละ มันเยอะก็เลยเอามาแบ่งหนูกินไง”

“แล้วนี้จะอิ่มกันไหมครับ เก็บไว้กินเองก็ได้นะ ผมกินแค่ข้าวต้มนี่แหละ”

“โอ้ย กินไปเถอะหนู ถือสะว่าเป็นของสนมนาคุณที่คิงมันชอบมากินแล้วทำให้ร้านป้าขายดีขึ้น อีกอย่างนะยิ่งมีหนูมาด้วยทั้งผู้
หญิงทั้งผู้ชายก็มากันเยอะอีก ร้านป้ายิ่งขายดี เห็นอย่างนี้แล้วป้าก็โกรธไม่ลงหรอกถ้าคิงมันจะมีเมีย แต่ยังไงหนูก็เป็นได้แค่เมียน้อยเท่านั้นแหละเพราะยังไงป้าก็มาก่อน ป้าต้องได้เป็นเมียหลวง ฮุๆๆ” ป้าแกเอามือปิดปากหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ขยิบตาให้คิงก่อนจะเดินไปทำงานต่อ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 10-01-2016 15:14:34
ป้าโครตฮาาา ควีนกลายเป็นเมียน้อยไปซ่ะละ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-01-2016 16:02:22
เมื่อไหร่จะได้กันอะ ออิอิอิ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-01-2016 16:35:25
ควีนเป็นเมียน้อยซะงั้น ว่าแต่รอวันเมียน้อยตามมโนป้าเป็นเมียคิงจริงๆซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 24-01-2016 22:19:40
Chapter 18


“นี่น้อง น้องจะเอายังไงกันแน่ห้ะ!!!!” หนุ่มหน้าหม้อร่างเล็กใสๆแบบวัยรุ่นชอบประจำสาขายืนจังก้าประชันหน้ากับเทย์ด้วยใบหน้าตึงเครียด “คนอื่นเขาหากันครบหมดแล้วนะเห้ย สรุปจะไม่เอาใช่ไหมสายรหัสนะ”

“อ้าว ก็ไหนบอกว่ามีเวลาถึงก่อนปิดเทอมไง นี่เพิ่งจะจะผ่านมาได้แค่สองเดือนเองนะ”

“นี่น้อง พี่ไม่ได้อยากจะเร่งหรอกนะเว้ยแต่มันไม่เคยมีรุ่นไหนที่จะมาใช้เวลานานขนาดนี้ครับ” จองถอนหายใจเฮือกใหญ่ จริงๆ
เขาเองก็ไม่ได้อะไรกับเทย์สักนิดในการที่น้องมันจะใช้เวลานานในการตามหาพี่รหัสแต่ที่ต้องจำใจมานี่เพราะโดนเพื่อนๆและรุ่นพี่ต่างหากที่บังคับ เขาอยากจะคุยกับเทย์ตายเลย

“แล้วจะกำหนดเวลามาทำไมตั้งแรกหละ”

“นี่ไอ้น้องเทย์ครับแค่ทำๆตามที่เขาทำไม่ได้หรือไง นี่เขาก็เจอพี่รหัสตัวเองกันหมดแล้วนะก็น่าจะรู้แล้วนี่ว่าเป็นใคร” เฮ้ออ นี่มันเวรกรรมอะไรของเขาวะที่จะต้องมายุ่งกับเด็กคนนี่กัน คิดแล้วจองก็ได้แต่ถอนหายใจ

“ไม่นี่ ผมจะไปรู้ได้ยังไงนี่ก็พยายามอยู่นะ” เทย์ทำหน้าไขสือทำเอาคนที่ฟังอยู่แทบอย่างจะจับทุยๆของเทย์มาโขกกับพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอด

“นี่เทย์! อย่ามาเล่นลิ้นให้มันมากนัก”

“เล่นลิ้นที่ไหนกัน นี่ยังอยู่ในปากอยู่เลย ดูดิ” เทย์แลบลิ้นออกมาโชว์สายดุ๊กดิ๊กไปมา

“ไอ้เทย์!” จองที่เริ่มจะทนไม่ไหวพูดเสียงต่ำ มันอะไรกับเขากันนักหันหนา

“ฮึๆ”

“จะเอายังไงหะ สรุปจะเอายังไงนี่ไม่พี่ก็ไม่อยากจะอยากจะมาเสวนากับน้องเลยสักนิดนะ ถ้าไม่โดนรุ่นพี่กดดันพี่ก็ไม่มาหรอกนะเว้ย”

“อ่ออออ มาเพราะรุ่นพี่สินะ”


“เออ!” จองตอบเสียงแข็ง “กรุณาอย่าเล่นตัวให้มันมากนะครับน้องเทย์ เพื่อนๆพี่ๆเขารอไปเที่ยวกันอยู่”

“อยากเที่ยวว่างั้น” เทย์เองที่ดูจะสนุกเหลือเกินที่ได้ทำให้รุ่นพี่คนนี้ประสาทจะกินทุกครั้งที่คุยกับเขา “ถ้าพี่เขาอยากเที่ยวขนาด
นั้นก็ให้เขามาหาผมดิ”

“แล้วแต่จะทำเหอะ ถ้าจะยังกวนประสาทกันอยู่อย่างนี้ก็พอกันที!” จองไม่ได้รอให้เทย์พูดอะไรแต่เขาสะบัดบ๊อบอย่างอารมณ์เสียไปจากตึกทันที

“ฮึๆ” เทย์หัวเราะอย่างขบขัน

“ไอ้ห่าเทย์โรคจิตไง้ ชอบไปแหย่พี่เขา” มดปาขนมใส่เทย์แต่เขาก็รับไว้ได้ทันทีพร้อมยักคิ้วให้กลุ่มเพื่อนที่ยืนรออยู่ใกล้ๆกัน

“แล้วนี่จะไม่ยอมไปหาพี่เขาหรือไง” เกรซถาม แต่เทย์ก็ไม่ตอบก็ยิ้มให้เพื่อนอย่างมีเลศนัยทำเอาเพื่อนๆมั่นไส้รู้เลยว่าเพื่อนเขาคงจะรอให้รุ่นพี่มาหาเองจริง

“ไม่อ่ะ อยากเจอก็มาหาเองดิว่ะ”

“เล่นตัววะเทย์ ไอ้ห่า!ฉันไหว้แกหละ นี่ฉันอยากอยากเที่ยวเต็มทีแล้วนะเว้ย” มดพูด

“ฮ่าๆก็รุ่นพี่แม่งบอกเองนิว่าถึงก่อนปิดเทอม นี่กูไม่ได้ทำอะไรผิดนะ นี่ก็ยังหาอยู่เลยว่าใครคือพี่สายรหัส”

“อิตอแหล” มดเบะปากให้เทย์ที่หัวเราะชอบใจหันไปกอดเพื่อนสนิทคนสวยของตัวเอง

“ร้ายนักนะเทย์” คินตาผลักหัวเทย์ด้วยความหมั่นไส้

“ไม่เท่ามึงหรอก” เทย์แกล้งล็อกควีนให้แน่นทำเอาควีนต้องตีมือเพราะหายใจไม่ออก

“กูจะฟ้องป๋า”

“โห้ย นี่เล่นถึงป๋าเลยเหรอ ถ้าป๋ามึงเขารู้ว่าคนสวยสุดที่รักโดนแกล้งไม่มาเชิญกูไปภัตตาคารรับประทานยำส้นตีนชุดใหญ่เลยเห
รอ”

“ฮึๆ” ควีนหัวเราะน้อยกับคำพูดคำจาของเพื่อนตัวดี

“งั้นพวกผมกลับก่อนนะครับคุณคินตา คุณเทย์ตกลงจะไปหอสมุดกับเราไหมครับ” มหาบอกลาควีนก่อนจะหันมาถามเทย์

“ไม่ว่ะ กะว่าคืนนี้จะไปกลับไปนอนเล่นโทรศัพท์ที่ห้องซะหน่อย”

“แหม่ ห้องตัวเองหรือสาวที่ไหนกันยะ” มดอดจะแขวะไม่ได้ไม่รู้ว่าช่วงนี้เพื่อนเทยืของพวกเขานั้นไปติดสาวที่ไหนช่วงนี้นี่บอก
อย่างนี้มาอาทิตย์เต็มแล้วแม้แต่เพื่อนสนิทที่แทบจะรู้ทุกเรื่องของเทย์ยังไม่รู้เลยว่าช่วงนี้เขาทำอะไรอยู่

 “งั้นพวกผมไปก่อนนะครับคุณคินตา นี่กลับเหมือนเดิมใช่ไหมครับ” ควีนพยักหน้าตอบ

“งั้นกูกลับเลยละกัน ถ้าผัวมึงเขาไม่ก้โทรหาป๋าเทย์ได้คะคนสวย”

“ผัวบ้าอะไรหละ” ควีนเอาชีทเรียนฟาดที่ไหล่เทย์อย่างแรงในข้อหาที่พูดไม่เพราะ

“เอ้า แล้วไม่ใช่ผัวไง ตัวติดกันยิ่งกว่าปาท่องโก๋”

“ก็ไม่มีไรแค่รุ่นพี่”

“เหรอครับคุนคินตาคนสวย เพื่อนผมนี่เป็นดาราเปล่าวะ ตอบซะ”

“ไปได้แล้วไป เดี๋ยวเด็กที่ห้องรอนาน”

“เออ ไอ้คนสวยเลือกได้งั้นก็รอให้แห้งเหี่ยวไปเลยนะ คนอะไร มากับป๋าเทย์ได้นั่งถึงสปอร์ตแต่ไม่ชอบชอบเป็นเด็กแว้น” เทย์ยี
ผมควีนจนมันฟูฟ่องถึงได้เดินไปที่รถของตน พอเพื่อนๆแยกตัวไปหมดเขาจึงยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา พอเขาเงยหน้าขึ้นมาก็เจอ
กับเด็กสก้อยส์หน้าหล่อที่เขานั่งซ้อนท้ายมาเป็นอาทิตย์

“รอนานไหม” ควีนส่ายหน้าตอบก่อนจะยิ้มให้แล้วถือหมวกไปใส่ก่อนจะขึ้นรถไปนั่งเคียงคู่กับคิงที่ทำให้ทั่งคู่ดูเท่และมีเสน่ห์หน้ามองเหมือนออกมาจากนิตยสารชื่อดังและดูภาพนี้จะเริ่มเป็นที่ชินตาของคนคณะนี้ไปแล้วเพราะช่วงนี้คิงจะมารับควีนไปทำงานทุกวันหลังเลิกเรียน





“พี่เดี่ยวครับลูกค้าโทรมาจองห้องโซนด้านบน ไม่ทราบว่าตอนนี้เต็มหรือยัง” พนักงานคนหนึ่งเดินมาหาเดี่ยวที่กำลังนั่งคุยอยู่กับควีนที่โซนด้านล้างเพราะตอนนี้ร้านเพิ่งเปิดลูกค้าจึงยังไม่เยอะเขาจึงมีเวลามาคุยเล่นกับควีน

“เอ้า!ไอ้นี่แล้วมึงจะมาถามกูทำไมละวะ ก็เห็นอยู่ว่าร้านเพิ่งเปิด วันนี้ก็มีลูกค้าจองแค่ไม่กี่ห้องมันก็ต้องว่างดิวะ นี่ทำงานมากี่เดือนกี่ปีแล้วห้ะยังไม่รู้หน้าที่ตัวเองอีกนะ เดี๋ยวหักเงินเดือนซะนี่” เดี่ยวหันไปดุ

“โถ่ พี่เดี่ยวผมถามแค่นี่เองนะก็เห็นพี่ว่างอยู่นี่นา”

“ไอ้ห่า เดี๋ยวจะได้กินตีนกูข้อหามากวนประสาทหุ้นส่วนรายใหญ่”

“กลัวแล้วคร้าบ อย่าทำอะไรผมเลยก็แค่อยากจะถามให้แน่ใจเพราะลูกค้ามากันเยอะและสั่งรายการอาหารมาด้วย ผมก็เลยจะไปพี่ช่วยดูให้หน่อยแค่นั้นเอง”

“มากี่คนกันว่ะ”

“ร้อยกว่าคนครับ น่าจะเป็นพวกเด็กมหาลัยที่มาเลี้ยงกินกัน”

“อืม งั้นรายการอาหารก็น่าจะเยอะถ้างั้นกูตามไปดู ส่วนมึงก็ไปเตรียมห้องไว้เลย”

“ครับ โอ้ย! พี่เดี่ยวทำไรเนี้ย” เดี่ยวเตะเข้าที่ก้นพนักงานคนนั้นอย่างแรง

“กูหมั่นไส้ไม่มีไร เดี๋ยวเพิ่มค่าทำแผลให้ในเงินเดือนนะ ฮ่าๆๆ” เดี่ยวหัวเราะพอใจ

“โห่ อะไรเนี้ยนี่พี่เป็นเจ้านายประสาอะไรกัน”

“ว่ากูเหรอ จะเอาอีกทีไหมเดี๋ยวจะจระเข้ฟาดหางให้ทีนี่”

“โฮ้ย ไปแล้วครับไปแล้ว” พี่เดี่ยวทำท่าจะลุกขึ้นไปประทุษร้ายลูกน้องตัวเองจริงๆทำเอาเขาวิ่งหนีแทบไม่ทัน

“คืนนี้คนคงจะเยอะน่าดูเลย เหนื่อยหน่อยนะควีน” พี่เดี่ยวหันมาพูดกับควีน

“ครับ” ควีนยิ้มน้อยๆก่อนจะเสยผมที่หล่นมาปิดหน้าเขาไปด้านหลัง

“อืมมมม” พี่เดี่ยวฮึมฮัมในคอทำหน้าครุ่นคิดพร้อมทั้งมองหน้าควีนไปด้วย ไม่ว่าจะมองกี่ที่ๆเขาก็ยังหาที่ติจากใบหน้าสวยๆจาก
คนตรงหน้าไม่ได้สักที ควีนเหมือนเป็นประติมากรรมอะไรสักอย่างที่ยิ่งมองก็ยิ่งชอบยิ่งหลงมันดูงดงามจนไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาพูดดี แต่ดูเหมือนพี่เดี่ยวจะอยู่ในภวังค์นี้นานเกินไปหรือเปล่า ประติมากรรมตรงหน้าเขาจึงต้องโบกมือไปมาเรียกสติพี่
เดี่ยว

“พี่เดี่ยวครับ”

“ครับ”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“อ้อ เปล่าครับ ว่าแต่คืนนี้น้องควีนว่างเปล่า”

“หืม” ควีนยักคิ้วสงสัย

“พี่ว่าเราหาจะหาอะไรสนุกๆทำกันนะคืนนี้”

“กิจกรรม?”









Ps. ทำไมทุกคนถึงเชียร์ให้คิงกะควีนได้เสียกันจัง งั้นจัดเลยดีไหม5555555


 :katai4:   :katai4:    :katai4:







หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 17 <10/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-01-2016 23:52:36
จัดเลยยย เขาอ่อยกันมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 25-01-2016 02:08:13
“อืม คืนนี้ช่วยทำโชว์เล็กๆน้อยๆให้หน่อยสิ” ควีนมองหน้าพี่เดี่ยวอย่างขอคำอธิบาย “ก็แหม่ น้องควีนครับยังไงช่วงที่ผ่านน้องก็

ถือว่าเข้ามาช่วยดึงเข้าลูกค้าให้ร้านเราเข้ามาเยอะมว้ากกกกกกกกกกกกก แล้วช่วงนี้ลูกค้าก็เริ่มบางตาลงบ้างแต่ก็ยังเยอะอยู่นะ

แต่ก็นั่นแหละ พี่ก็อยากจะให้ร้านเรามันมีรายได้เข้ามาเยอะๆน้องๆจะได้เงินเดือนเพิ่มมากขึ้นไงและอีกอย่างนะคืนนี้จะมีพวก

นักศึกษามาที่ร้านด้วยพี่จะได้ทำความรู้จักให้ทุกคนรู้จักควีนไงเพราะพวกเขาน่าจะยังไม่รู้จักควีนอ้อฟเดอะจิลส์แฮฟเว่นนะพี่ว่า

ถ้ากลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้เข้ามาพี่ว่าเข้าจะต้องพูดถึงและโปรโมทได้ออกไปเป็นวงกว้างเลยนะว่าในร้านเรานี้มีคนสวยขนาดนี้อยู่” พี่

เดี่ยวทำหน้าแบ้วขอร้องสุดขีดซึ่งมันไม่ได้เข้ากับหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาเลยสักนิด



“แล้ว”


“โธ่ น้องควีนอะ จะให้พี่พูดอะไรอีก” พี่เดี่ยวเบะปากเหมือนเด็กโดนขัดใจก็เขาพูดมาซะยืดยาวแล้วดูคนสวยทำกับสิ นี่ก็ดูเป็นเจ้า

นายหน้าเลือดเกินพอแล้วนะ “ช่วยพี่เถอะนะ ถือว่าเป็นค่าผ้าอ้อมให้ลูกพี่เถอะ”


“ฮึๆ โอเคครับ” ควีนตอบตกลงทำเอาพี่เดี่ยวนี่ยิ้มแก้มปริ

“เย้ น้องควีนน่ารักที่สุดเลยเดี๋ยวคืนนี้พี่จะทิปให้หนักๆเลย”

“ว่าแต่แอบไปมีลูกน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”

“อ้าว ก็ลูกเทพไง”

“ห้ะ”

“โห้ย น้องควีนนี่ไม่ตามเทรนด์เลยนะครับ ลูกเทพอะๆลูกเทพที่ตอนนี้เขากำลังฮิตเลี้ยงกัน พี่ก็อยากตามเทรนด์บ้างอะเผื่อเงิน

ทองจะไหลมาเทมา นี่พี่ก็กะว่าจะเปิดจองโต๊ะอาหารชุดพิเศษสำหรับลูกเทพอยู่นะเห็นตอนนี้พวกสายการบินเขาทำกันเผื่อมี

ลูกค้าคนไหนเขาจะเอาลูกเทพดริ้งแอนด์แด้นส์ที่ร้านเรานั่นจะทำให้เราได้รายได้เพิ่มไง”


“เอ่อ” ควีนที่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีได้แต่ทำหน้าไม่เข้าว่าไอ้ลูกเทพที่พี่เดี่ยวพูดนี่คืออะไรกันแน่ ดูเหมือนว่าควีนจะต้องเล่นโซเชียลกับเขาบ้างแล้วแหละ


“ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่นครับพี่ไม่บ้าขนาดที่จะเอาตุ๊กตาผีมาอุ้มเล่นไปไหนมาไหนด้วยหรอกนะ สยองตายเลย”


“อ่อ ครับ”


“ถ้างั้นควีนก็ลองไปปรึกษาคิงดูนะว่าอยากทำไรกัน คืนนี้ฟลอเป็นของน้องสองคนเลยเดี๋ยวพี่มากลับมาช่วย” พอสั่งเสร็จพี่เดี่ยวก็

เดินไปเช็คงานอื่นต่อ ควีนเองได้รับงานมาก็เลยต้องไปปรึกษาคิงที่ตอนนี้ก็ประจำอยู่ที่บาร์เดิมของตัวเอง


“เอาไรไหม” คิงถามทันทีที่ควีนนั่งลงด้านหน้าตัวเอง

“ไม่” ควีนส่ายหน้าแล้วเท้าคางมองคิง “คืนนี้พี่เดี่ยวบอกให้ทำโชว์”

“หืม โชว์”

“อืม ทำไรดี”

“เราเหรอ” ควีนพยักหน้าตอบอีกที “แล้วพี่เขาให้ทำไร”

“เขาบอกให้คิดเอง”

“แล้วอยากทำไรละ”

“ไม่รู้” ควีนส่ายหน้าอีกครั้งจนผมบางส่วนหล่นลงมาปิดหน้า คิงจึงเอื้อมมือมาช่วยทัดผมเก็บขึ้นไปอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ละมือออกมา
ทันที

“งั้น............ คืนนี้ศิษย์คนสวยของช่วยเป็นบาร์เทนเดอร์แทนอาจารย์คนนี้หน่อยสิ”

“เอาจริงเหรอ ถ้ากินเข้าไปแล้วตายละ”

“ฮ่ะๆ ถ้าตายด้วยน้ำมือคนสวยก็ยอมนะ”

“ฮึๆ” ทั้งสองคนต่างยิ้มขันให้กันและกันก่อนจะเดินไปบอกรายละเอียดงานกับพี่เดี่ยวก่อนจะเข้าไปเตรียมตัวด้านในเพื่อเตรียมตัว



“กรี้ดด ในที่สุด!!” สาวร่างอวบที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีส่งเสียงดีใจทันทีที่เยื้องย่างร่างอันน่าหม่ำเข้ามาภายในร้านที่เต็มไปด้วย
แสงสี เสียงเพลงและผู้คนที่เริ่มทยอยเข้ามาในร้านเหมือนกัน


“ผมกลับได้ไหมครับไม่ชอบสถานที่อโคจรแบบนี้เลย” และนี่ก็คงจะเป็นอีกเสียงหนึ่งที่เราก็น่าจะเดาออกว่าใคร

“หน็อย อิมหาอย่ามาตอแหลทำแอ้บแบ้วเป็นเด็กดี สามทุ่มนี่นอนปิดไฟ”

“อะไรอะครับคุณมดก็ผมไม่อยากมาจริงนี่ๆครับ ดูชุดผมสินี่ ผมเตรียมเข้านอนแล้วนะครับ” เพื่อนๆต่างมองดูชุดของมหาที่ตอนนี้

ใส่เสื้อยืดย้วยๆลายอาราเล่กับกางกางขายาวสีซีดแต่ยังดีที่เสื้อภายนอกยังเป็นแจ็กเก็ตอำพรางอยู่


“ฮ่าๆๆๆๆๆ” เท่านั้นแหละทุกคนต่างระเบิดหัวเราะออกมาเลย ทำเอามหาทำหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว

“ก็เพราะคุณเทย์นั้นแหละมาแบบไม่ให้ผมทันตั้งตัวเลย”

“เอ้า แล้วนี่ความผิดกูตรงไหนนี่ทำตามคำสั่งยัยเกรซเหอะ”

“ย้ะ นี่แกจะมาโทษฉันได้ไง นู้นน ยัยมดเลยตัวดีโทรศัพท์มายังกับมีคนตายฉันจะทำไรได้นอกจากโทรเร่งแกละ”


“หยุดค่ะ!” มดยกมือขึ้นมาเบรกกลุ่มเพื่อน “ถ้าจะโทษก็ต้องโทษรุ่นพี่ค่ะนี่ไม่ใช่ความผิดดิฉัน” มดบุ้ยปากไปหาพี่ๆที่เป็นคนทำให้

พวกเขาต้องกระเสือกกระสนออกจากบ้านในยามดึกดื่นแบบนี้ก็เพราะว่าสองชั่วโมงก่อนหน้านี่อยู่ดีๆรุ่นพี่ก็มีคำสั่งให้น้องปี1คนมา

รวมตัวกันมหาวิทยาลัยอย่างกะทันหันและห้ามทุกคนขัดคำสั่งเด็ดขาดแล้วรุ่นน้องอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้นอกจากมารวมตัว

กันที่มหาลัยตามคำสั่งและเหตุด่วนเหตุร้านที่ทำให้มหารีบจนต้องใส่ชุดนอนออกมาให้อายคนเล่นอย่างนี้เพราะรุ่นพี่ทนไม่ไหว

กับการที่จะต้องมารอให้เทย์หาสายรหัสตัวเองจึงยอมเปิดเผยตัวออกมาเอง ดูท่าทางรุ่นพี่เองซะมากกว่าที่อยากจะเที่ยวเต็มแก่


ไม่ใช่รุ่นน้องเลยสักนิดหรืออาจจะมีเหตุผลอย่างไรก็แล้วนี่แต่จึงเป็นเหตุผลที่คืนนี้เป็นคืนที่มีการเลี้ยงฉลองสายรหัส

“ว่าแต่แกโทรหาคินตาติดยังวะ” เกรซหันมาถามเทย์เพราะทั่งรุ่นมีแค่ควีนนี่แหละที่มาตามนัดไม่ได้เพราะติดต่อไม่ได้


“ติดแต่มันไม่รับ น่าจะทำงานอยู่”


“แล้วอย่างนี้คินตาก็อดสนุกอะดิ” เกรซทำหน้าเสียดายแทนเพื่อน


“ฮึ ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวมันก็ตามมารับลองว่าสนุกแน่”


“ไปๆพวกเรา ขึ้นข้างบนกันก่อนพี่จองห้อง ลงมาด้านล่างหลังจากนั้นจะรั่วยังไงก็ตามสบายเลยครับน้องๆ วู้”จนถึงตอนนี้ก็ดึก

ประมาณหลายคนก็ลงมากินมาเต้นกันที่โซนล่างแล้ว



“มาเร็วอิมหา ไปเต้นกัน” มดที่พยายามยื้อยุดกับมหาที่ไม่ยอมลงไปโซนด้านล่างที่เพื่อนๆต่างลงไปสนุกกันหมดแล้วท่าเดียว

“ไม่เอาครับ คนเยอะหนวกหู ผมไม่ชอบเลย”

“อย่าคะแกอย่ามา ฉันรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงแกอยากลงไปแกแค่อายชุดแค่นั้นเอง”
“โธ่ ก็รู้นี่ครับอย่าให้ผมลงไปขายหน้าเลย” ในขณะที่ทั้งมดและเกรซช่วยกันดึงมหาไปยังด้านล่างก็เผอิญไปชนเข้ากับร่างเล็กที่เดินผ่านมาเข้า

“โอ้ะ!” ร่างเล็กเสเล็กน้อยก่อนจะหันมามองมหาด้วยตาโตๆใสๆไร้พิษสง “ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่า”

ร่างเล็กถามด้วยความเป็นห่วงทั้งทีเขาเองซะมากกว่าที่น่าจะเจ็บ มหาส่ายหน้าตอบทั้งทีสายตาก็ยังจ้องคนตัวเล็กไม่หยุด

“ดีแล้วครับ ชุดแนวดีนะครับ” คนตัวเล็กมองดูชุดของมหาก่อนจะอมยิ้มให้เขาแล้วรับเดินลงไปด้านล่างที่มีคนรออยู่

“พี่จิล รอด้วย!!”

พอสติฟื้นคืนหาจากที่ดื้อดึงไม่ยอมลงไปด้านล่างก็เดินนำหน้าเพื่อนไปทันที ทำเอาเพื่อนทั้งสองงงจนมองหน้ากันด้วยความไม่
เข้าใจกับอาการผีเข้าผีออกของมหา

“เทย์!” เพื่อนๆเดินไปหาเทย์ที่นั่งอยู่บาร์ด้านล่างก่อนแล้ว

“นั่งสิ เขากำลังจะมีโชว์”

“เฮ้ยจริงป่ะ!” มดตาโตด้วยความตื่นเต้น “โชว์ของควีนกับคิงป่าววะ”

“ใช่มั้ง” เทย์ตอบ

“ฮ้อยยยยย จะได้เห็นคิงกับควีนตัวเป็นๆแล้วเหรอเนี้ย ดูสิว่าจะสมคำล่ำลืออย่างว่าหรือว่า กรี้ดดด” จากนั้นทุกคนก็ต่างให้ความ

สนใจเวทีที่กำลังจะมีโชว์เกิดขึ้น เพลงที่เปิดคลอๆให้ทุกคนได้เต้นเบาๆเปลี่ยนจังหวะรัวเร็วขึ้นสร้างความน่าสนใจให้โชว์บนเวที

ได้อย่างดี

“อ้าวๆๆๆ สวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายนะครับ” เสียงดีเจดังขึ้นท่ามกลางเสียงตอบรับของผู้คนในร้าน แสงไฟในร้านดับลง

แล้วสาดไปยังเวทีจนสว่างจ้า “วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะครับโชว์ดีๆสันทนาการจากทางร้านเราโดยค่ำคืนพิเศษอย่างนี้

คนพิเศษของร้านเราก็มีโชว์พิเศษมามอบให้ทุกคน  ขอเสียงให้คิงและควีน อ้อฟ จิลส์ แฮฟเว่น ด้วยคร้าบบบบบบบ”



ฮู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วิ่ดวิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

จากนั้นสองร่างก็เดินออกมาหน้าเวที คิงเดินไปประจำที่บาร์และควีนเดินมาด้านหน้าในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมทุกเม็ดเผยให้

เห็นผิวขาวเนียนตายใต้ร่มผ้า ขอบตาที่โฉบเฉียวจากการเขียนขอบตาสร้างความน่าดึงดูดให้เขาเพิ่มเป็นสิบเท่า

เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


เสียงประสานด้วยความตกใจจากคนร้อยกว่าดังขึ้นทันทีที่เห็นโฉมหน้าของควีนเพราะในกรณีของคิงนี่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเขาทำงาน

ที่นี่แต่ที่ไม่น่าเชื่อก็คือควีนที่ทุกคนต่างใฝ่หาอยากจะเจอกับเป็นคินตาเพื่อนและน้องในสาขาตนเอง ทำให้ควีนเองก็ตกใจตามไป

ด้วยจึงหันไปมองตามเสียงที่กระจัดกระจายกันในร้านซึ่งคนเหล่านั้นเองก็คือพวกเพื่อนๆและรุ่นพี่ของเขาเองจนเขาหันไปเจอ

กลุ่มเพื่อนๆตัวเองเลยเทย์ที่ส่งยิ้มอย่างสนุกสนานมาให้ แม้ว่าควีนจะไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่เมื่ออยู่ในหน้าที่เขาก็ต้องทำงานก่อน

ไม่มีสิทธิ์ไปวอกแวกอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะหันมาเผยยิ้มนุ่มลึกให้ทุกคนได้เคลิ้มเล่น เขาเดินตรงไปหาคิงที่ยืนอยู่ประจำบาร์และเดิน

ไปเข้าไปใกล้ๆยื่นหน้าไปใกล้แล้วเอื้อมมือไปกุมมือหนาที่กำลังจะทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์แล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมาคั่นระหว่างเขาทั้งสอง

คนแล้วส่ายไปมาเชิงว่าไม่ต้องทำอะไรก่อนที่จะหยิบมาจากคิงแล้วทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์แทนโดยที่ไม่ได้ขยับห่างจากคิง

ไปไหนแค่เอื้อมไปหยิบส่วนผสมด้านหลังคิงมาผสมก่อนที่คิงจะคว้าเอวควีนมาให้มานั่งตักเขาในขณะที่ควีนก็ยังทำหน้าที่ต่อไป

แม้โชว์มันจะไม่ได้หวือหวามากอย่างที่เคยเป็นแต่สายตาที่ทั้งสองใช้จ้องมองกันนั้นมาฆ่าคนอื่นได้หมดเลย คิงหยิบแก้วมาด้าน

หน้าให้ควีนเทเครื่องดื่มลงลงไปยังแก้วใสก่อนทั้งสองจะยิ้มให้กัน จากนั้นดีเจก็ประกาศขึ้นทันที


“สำหรับค่ำคืนพิเศษอย่างนี้ควีนของเราก็อยากจะมอบเครื่องดื่มพิเศษๆให้กับลูกค้าผู้ทรงเกียรติทุกท่านนะครับ แต่โอกาสพิเศษ

อย่างนี้มีไม่ได้บ่อยขนาดนั้นนะครับเพราะเครื่องดื่มแก้วนี้มีเพียงแก้วเดียวเท่านั้นเพราะฉะนั้นในค่ำคืนนี้จะมีเพียงผู้โชคดีเพียงคน

เดียวเท่านั้นครับที่จะได้สิทธ์นั้นครับ และใครที่สงสัยว่าไอ้บัตรสีทองที่มีเลขที่เราแจกไปตอนแรกนั้นมันคืออะไรหยิบมันขึ้นมาเลย

ครับ ใครมีอยู่ในมือเอาขึ้นมาโชว์เลยครับ ใครที่ไม่มีฉกเอาจากคนข้างๆเลยครับฮ่าๆๆเพราะนี่เป็นโอกาสเดียวที่จะได้เครื่งดื่มแก้ว

นี้ไปและที่สำคัญคุณสามารถเลือกได้ว่าอยากจะให้ใครป้อนระหว่างคิงและควีน”


วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงร้องของผู้คนตอนนี้เซ็งแซ่ด้วยความตื่นเต้น


“ เอาละครับตอนนี้เราจะมาหาผู้โชคดีกันนะครับ และผู้โชคดีคนนั้นก็คือออออออออออออออ หมายเลข04588คร้าบบบบ ขอ

เชิญเจ้าของหมายเลขผู้โชคดีขึ้นมาด้านหน้าเวทีเลยครับ”

เสียงโห่ดังสนั่นเพราะต่างล้วนเสียดายที่ตนไม่ใช่ผู้โชคดีได้แต่คอยส่องผู้โชคดีคนนั้นด้วยความอิจฉา และทันทีที่ผู้โชคดีเดินขึ้น

ไปบนเวทีสร้างความแปลกใจให้คิงและควีน


“ดีใจจังครับ” เขายิ้มอย่างมีความสุขให้ทั้งสอง


“คุณแทน” ควีนพูด


“ว้าว ดีใจจังครับที่ควีนจำชื่อผมได้สักที” แทนทำหน้าเหลือเชื่อก่อนดีเจจะประกาศให้เขาโชว์ตรวจสอบหมายเลขบัตรเพื่อความ

ถูกต้อง


“งั้นผมเลือกเลยนะครับ คงเป็นใครไปไม่ได้หรอกถ้าไม่ใช่ควีนที่จะมาป้อนนะฮ่าๆ” เขาหัวเราะชอบใจทำให้ควีนเองต้องเดินออกมาด้านหน้าและหยิบแก้วเครื่องดื่มนั้นขึ้นมาก่อนจะยกไปใกล้ๆริมฝีปากของแทน


“แหม่ เป็นถึงควีนนี่เขาป้อนกันได้ธรรมดาอย่างนี่เหรอครับ” แทนทำหน้ายิ้มเยาะ “ผมขอเปลี่ยนให้ป้อนผมด้วยปากครับ”

นั่นทำให้เสียงฮือฮาจากผู้คนด้านล่าง “ว่าไงครับ ก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าต้องป้อนยังไง ใช่ไหมละครับ” เขายิ้มท้าทายให้ควีนซึ่ง

ควีนเองก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่เดินเข้าไปใกล้ๆแทนก่อนจะดันแก้วไปใกล้ริมฝีปากแทนก่อนจะก้มตัวลงไปงับแก้วด้านล่างที่มีฐาน

ด้านล่างแล้วดันให้เครื่องดื่มไหลเข้าปากแทนและวิธีการนี้ทำทำแทนผงะไปเลยเพราไม่คิดว่าควีนจะมามุกนี้ซึ้งถ้าเขาจะเอาปาก

ออกจากแก้วก็ไม่ได้แล้วจึงได้แต่กลืนมันลงคอควีนป้อนเขาจนหมดแก้วทำเอาเขาส่ายหน้ากับความเจ้าเล่ห์ของควีน


“ร้ายนะครับควีน เล่นเอาผมคาดไม่ถึงเลยนะ แล้วเจอกันนะครับอีกเร็วๆนี้นะครับ” เขากล่าวลาแต่ดูจากสายตาของเขาที่ควีน

ประเมินเลยกับคนนี้ๆต้องหาวิธีรับมือสักหน่อยเพราะดูจากท่าทางคนอย่างเขาแล้วเป็นพวกประเภทที่ชอบเอาชนะซึ่งไม่รู้ว่าแทน

นั้นมีมันมากแค่ไหน หลังจากโชว์จบลงทั้งคิงและควีนก็มาหาเพื่อนๆพี่ๆที่เตรียมรุมสอบสวนเขาอย่าเต็มที่โดยเฉพาะควีนที่ดูจะ

เป็นที่อยากรู้อยากเห็นของทุกมากจนไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเลยสักนิด พอทุกคนเลิกสนใจเขาแล้วควีนจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ


“เจอกันอีกแล้วนะครับ” เสียงทุ้มทักควีนขึ้นเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ

“คุณแทน” แทนยิ้มให้เขาจนตาหยี

“ครับผมเอง”

“ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวนะ” ควีนที่พยายามเดินเลี่ยงออกไปแต่ก็ถูกแทนคว้าแขนไว้ซะก่อน

“อยู่คุยกันก่อนสิครับ”

“ปล่อยผมด้วยครับ”

“ไม่ครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมอยากคุยด้วย”

“แต่ผมไม่มี”

“แต่ผมมีครับ หลังเลิกงานแล้วคุณจะสนใจจะไปต่อกับผมไหม”

“ไม่ครับและกรุณาปล่อยแขนผมด้วย” ควีนเองก็เริ่มยื้อแขนตัวเองออกแต่มือหน้าที่จับไว้มันยิ่งกว่าคีมเหล็กซะอีก

“อะไรกันครับ นี่ผมต้องเสียเงินหลายหมื่นไปเพื่อให้คุณมาป้อนเครื่องดื่มผมแบบที่ป้อนด้วยปากอย่างที่คุณทำอย่างนั้นเหรอครับ
แล้วนี่คุณยังจะมาปฏิเสธคำชวนของผมอีกต่างหาก”

“ผมก็ไม่ได้ทำผิดกฎอะไรนะครับและอีกอย่างคุณเต็มใจที่จะจ่ายเงินซื้อบัตรเองซึ่งเรื่องนี้มันนอกเหนือจากสิทธิ์ที่บัตรจะทำได้
เพราะฉะนั้นผมก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธครับ”

“เฮอะ! ผมไม่สนหรอกว่าจะมีหรือไม่มีแต่สิ่งไหนมอยากได้ผมก็ต้องได้มันหมดทุกอย่างแม้แต่คุณด้วย”ควีนสะบัดตัวออกอย่าง
แรงจนหลุดออกมาได้เตรียมตัวจะเดินหนีแต่ก็ถูกกระชากมาอีกครั้ง

“แต่ผมไม่ต้องการครับ”

“นั่นละครับที่ผมชอบ ชอบที่คุณต่อต้านผมอย่างนี้แหละ”

“นี่คุณแทน!! ปล่อยผมเดี๋ยวนี่” ควีนกดเสียงต่ำเชิงขู่ให้คนตรงหน้าปล่อยแต่ดูถ้าแล้วคงยากพอควีนเห็นว่ามันคงจะไม่มีวี่แววที่

แทนจะปล่อยเขาจึงจะร้องให้คนมาช่วยแต่ยังไม่ทันจะตะโกนก็มีคนเอามือมาปิดปากทำไมให้เขาไม่มีสิทธิ์จะส่งเสียงได้เลยและ

จู่ๆร่างเขาก็ลอยขึ้นเพราะถูกคนที่ปิดปากเขาจากทางด้านหลังนั่นจึงทำให้ควีนดิ้นสู้อย่างแรงแต่ก็สู้คนร่างใหญ่นี่ไม่ได้เลยเพราะ

หุ้นของเขานั่นใหญ่ยักษ์อย่างไม่หน้าเชื่อไม่แปลกใจหรอกถ้าควีนดิ้นแล้วจะไม่หลุดแต่ที่แปลกตรงที่ไม่มีใครสักคนเลยจะเดิน

ผ่านมาทางนี้ซึ่งปกติแล้วห้องน้ำมันเป็นทางที่คนเทียวเข้าออกอยู่แล้ว



“ตุ้บ!!!” ควีนถูกโยนเข้ามาในรถหรูอย่างแรงแม้ว่ารถค่อนข้างจะกว้างและเบาะนั่นก็นุ่มตามราคาของรถแต่มันก็ทำให้เขาจุกได้
เหมือนกัน

“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะคุณแทน” แม้ว่าควีนจะตกใจมากแต่เขาก็ยังจะประครองสติไว้ไม่ให้มันตื่นกลัวจนแตกกระเจิง

“ปล่อยแน่ครับ จะเอาปล่อยนอกหรือปล่อยในดีครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” แทนยัดตัวเข้ามาในรถแล้วจะตัวควีนไปแน่นไม่ให้เขาหลุดได้

“ถ้าคุณทำ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเสียใจไปตลอดชีวิตนะ” ควีนพยายามดิ้นสุดแรงเกิด

“เหอะ ผมไม่หรอกนี่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเลยหละผมจะพาคุณขึ้นสวรรค์จนลืมความทุกข์ไปเลย โว้ยจะดิ้นอะไรนักหนาฮะ” ควีนที่ดิ้นจนทำให้หัวแทนกระแจกกระจกรถอย่างแรง

ตุ้บ!!

“โอ้ย!!” ควีนหันหน้าไปตามแรงส่งขอกระปอกปืนที่แทนฟาดมันมาที่ใบหน้าของเขาอย่างจนมึนหัวไปเลย

“เออดี พูดดีๆไม่ชอบชอบความรุงแรงรึไง!” ควีนที่แม้จะมึนอยู่ก็ยังมีผลักแทนให้หัวเขาไปชนกระจกอีกรอบจนเห็นเลือดไหลออก
มา

ตุ้บ!!

“ไอ้เหี้ยนี่! เจ็บนะครับคนสวย” และแทนก็ฟาดกระบอกปืนไปที่หน้าควีนอีกครั้งจนครั้งนี้ทำเอาเขาตาลายไปหมด “ถ้าผมเจ็บคน
สวยก็ต้องเจ็บยิ่งกว่าผมนะ เมื่อกี้ฟาดไปกี่ทีนะสองทีสินะงั้นก็...”

ตุ้บ!!

ตุ้บ!!

ตุ้บ!!

ตุ้บ!!

ตุ้บ!!




“ว้าว เลือดออกเหมือนกันเลยคนสวย” ควีนที่โดนฟาดไปอีกหลายครั้งทำเอามึนหัวตาลายมองไม่เห็นภาพอะไรเลยทั้งสิ้นแต่ยังรู้สึกตัวว่าร่างหน้าเบื้องบนกำลังทำอะไรกับเขาบ้าง


แคว้กกก!!!! แทนกระชากเสื้อผ้าของเขาออกและดึงกางเกงและอันเดอร์แวร์ของเขาลงไปที่ปลายเท้าก่อนจะแยกขาเขาออก

ก่อนที่ความอุ่นร้อนจะแทรกผ่านเข้ามายังช่องทางสีสดนั่นทำเอาควีนดิ้นขัดขืนอย่างรุนแรงกับสิ่งแปลกปลอมที่แทนพยายามจะ

ยัดเหยียดมันเข้ามาในร่างกายของเขา







Ps. แกรรรร เข้าจะไดกันแล้ว เอ้ะ!!!!! ผิดคู่เปล่า555555 พี่คิงอยู่หน้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 :katai1: :katai1: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-01-2016 02:51:30
คนแต่งใจร้ายยยยย มาต่อด่วนๆ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-01-2016 04:09:10
ง่าาา ควีนจะเสร็จไอ้แทนแล้ว.  คิงอยู่ไหนอะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 25-01-2016 06:48:37
 :serius2:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-01-2016 08:42:32
หยิบปืนไอ้แทนมายิงคนแต่งได้ไหม :katai4: :katai4:
อย่ามาใจร้ายให้ควีนเสียซิงให้คนอื่นที่ไม่ใช่คิงนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 25-01-2016 10:10:24
ค้างงงงงงง
คิงไปไหนมาช่วยควีนหน่อยเร้วววว
มาต่อเถอะๆ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 28-01-2016 00:47:23
Chapter 19


“อ้ะ” ควีนครางออกมาด้วยความเจ็บเพราะบาดแผลช้ำบนใบหน้าถูกร่างหนากำลังทายาให้อยู่


“เจ็บมากไหม” คิงถามไปทั้งสำรวจใบหน้าขาวเนียนที่บัดนี้ถูกบดบังไปด้วยรอยช้ำเต็มใบหน้าซึ่งใบหน้าสวยๆอย่างนี้ไม่ควรจะมี

รอยอะไรมาเขียดขวนด้วยซ้ำ “ขอโทษนะที่มาช่วยช้าไป” ควีนพยักหน้าตอบแต่การตอบรับนี้เป็นเหมือนแค่การที่ร่างกายของ

ควีนตอบสนองกลับมาเพราะแม้ว่าดวงตาคู่สวยจะมองมาที่เขาแต่วันนี้เขากลับไม่เห็นอะไรในดวงตาคู่นี้เลยแม้กระทั่งความลึกลับ

ที่ไม่อาจคาดเดาจากดวงตาคู่นี้ที่เขาเคยมองมันยังรู้สึกแตกต่างเลย


“ขอบคุณนะ”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เขาเอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้าสวยของควีนด้วยรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เจ้าตัวต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้

“นอนเถอะ”

“อือ” ควีนล้มตัวลงนอนบนเตียงและหันมามองเขาอย่างมีความหมายที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“อะไร”

“หิว”

“ฮึ” คิงหลุดขำ ไอ้ที่เงียบๆไปแล้วจากนั้นก็มาใช้สายตามามองเขาอย่านั้นก็คงจะเหนื่อยมากจนหิวข้าวสินะ ก็ปกติหลังเลิกงาน
พวกเขาทั้งสองคนต้องไปกินข้าวต้มปลาร้านประจำนี่นา นี่ก็จะตีสามแล้วไม่หิวก็คงแปลก

“อยากกินข้าวต้มปลา”

“เดี๋ยวไปซื้อมาให้”

“ไม่เอา อยากไปนั่งกินที่ร้าน”

“ไม่ต้องไปหรอก นอนรออยู่นี่แหละ” คิงส่ายหน้าปฏิเสธเพราะไม่อยากจะให้ร่างโปร่งนี้เหนื่อย

“ไม่เอามันไม่ได้ฟีลเหมือนทานที่ร้าน”

“ดึกแล้ว เดี๋ยวขับรถไปแป๊บเดียว” แต่ควีนก็ยังส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว “งั้นเดี๋ยวให้ไอ้พากย์ซื้อมาให้”

ควีนนิ่งไปเหมือนจะยอมก่อนจะกวักมือเรียกคิงไปใกล้ๆแล้วพาดแขนไปคล้องคอร่างหนาเข้ามาใกล้ส่งสายตาอันออดอ้อนตาม
ฉบับของควีนที่ไม่ได้อ้อนแบบน่ารักแต่มันมีเสน่ห์ในแบบที่เขาเป็นไปให้

“นะ”


“ฮึๆ” คิงหัวเราะก่อนจะกดจมูกโด่งๆลงไปบนแก้มช้ำๆทำให้ควีนร้องครางออกมาเพราะความเจ็บ



“ผัวน้อยของป้าทำไมวันนี้มาช้าจัง” ป้าก็ยังคงเป็นป้าร้องทักสดใสเมื่อเห็นลูกค้าประจำวีไอพีเดินเข้าร้านมา

“เลิกงานช้านะครับ” คิงตอบ

“อ่อ สุดที่รักทำงานหนักอย่างนี้ไม่ดีเลยนะ ป้าเป็นห่วง นอนดึกนานๆเดี๋ยวหน้าก็หมดหล่อกันพอดีหรอก”

“ขอบคุณครับ” คิงยิ้มตอบ

“อ้าว แล้วนี่เมียน้อยของผัวป้าเป็นอะไรทำไมปิดหน้าปิดตามาละ แล้วนี่ผมเผ้าก็ปล่อยมารกรุงรังอย่างนี่ละหนู ไม่สวยแล้วมาทำ
แบบนี้ยิ่งจะสวยสู้ป้าไม่ได้นะ” ป้าหันมาพูดกับควีนที่มีมาร์กปิดหน้าไว้เพราะกลัวว่าคนอื่นเห็นหน้าตนจริงแล้วจะตกใจเอา

“ไม่สบายนะครับ” ควีนตอบ

“จริงเหรอ” ป้าตาโต “โถ่เอ้ย แล้วนี่ก็ยังจะพากันออกมากินข้าวดึกๆดื่นๆนะ กลางคืนอย่างนี้ยิ่งอากาศเย็น”

“ผมจะมาเองแล้วละครับแต่เขาดื้อไม่ยอมฟังจะมาให้ได้ท่าเดียว” คิงตอบมองไปยังคนสวยขี้ดื้อที่แม้ว่าลมที่นั่งรถมาจะปะทะหน้า
ช้ำๆจนเจ้าตัวซบคิงมาตลอดทางยังไงไม่ยอมบ่นเจ็บเลยสักนิด

“ก็มันไม่อร่อยเหมือนมานั่งกินแล้วมองหน้าสวยๆของป้าไปด้วยนี่นา” ควีนตอบเอาใจทำเอาป้ายิ้มแก้มปริ

“แหม่ นี่ก็เอาความจริงมาพูดเล่นนะถึงแม้จะมาพูดปากหวานแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้ป้าใจอ่อนเลื่อนขั้นให้เป็นอนุเมียหลวงหรอกนะ”
ทั้งคิงและควีนยิ้มคำกับคำพูดของปากจากนั้นจึงแยกออกมานั่งโต๊ะเพื่อรอทานข้าวควีนนั่งมองบรรยากาศข้างทางไปเรื่อยก่อนจะ
หันมาเจอคิงที่มองตนอยู่

“อะไร”

“ดื้อ”

“ฮึๆ” ควีนยิ้มน้อยๆไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและข้าวต้มปลาชามโตๆควันโขมงก็มาตั้งอยู่หน้าทั้งสองคน

“เอ่อ ทำไมของผมมันปลาเยอะจังครับ” ควีนเงยหน้าไปถามลุงที่ยืนยิ้มแป้นมาให้เขา

“ก็คนสวยของลุงไม่สบายนี่นา ชามนี่เลยพิเศษสำหรับคนป่วยเลย”

“ขอบคุณครับ แต่ผมจะกินไม่หมดเอาสิครับ”

“ไม่ได้ๆ หนูต้องกินให้หมดไม่งั้นลุงจะงอน”

“ฮ่ะๆๆ ได้ครับผมจะกินให้หมด”ควีนหัวเราะอย่างยอมแพ้กับท่าทางของลุงที่ยกมือกอดอกอย่างมุ่งมั่น ใบหน้ากร้านแดดกร้านลม
จาการทำงานและอายุแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันบดบังความหล่อของลุงได้เลยเพราะใจหล่อๆอย่างนี้จึงทำให้ควีนชอบที่จะมานั่งกินพูด
คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองคนนี้ ความน่ารักความเอาใจใส่ที่เขามีให้ตนนั้นมันทำให้ควีนรู้สึกอบอุ่นใจมากๆเลยหละ

“แล้วนี่ก็ยา ลุงเตรียมมาให้ กินข้าวแล้วจะได้กินยา” ลุงยื่นซองยาแก้ปวดมาให้เขา

“ขอบคุณมากๆครับ”

“นี่ตาแจ็ค ถอยไปเลยไป้” ป้าเดินมาผลักลุงออกแล้วยืนแทนที่

“เอ้า ยัยคนนี้นิ นิสัยไม่ดีเลยไม่ดูรึไงว่าฉันคุยกับแม่หนูอยู่”

“จะมาคุยอะไรนานขนาดนั้นห้ะ ลูกค้าก็เยอะกลับไปทำงานของแกเลยนะ”

“เยอะที่ไหน ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาใหม่เลยเถอะ”

“เอ้ะ!แกเถียงฉันเหรอ”


“เอ้า! ยัยคนนี้นิ คนเขาเป็นห่วงลูกห่วงหลาน”

“ห่วงหลานหรือเพราะหลานมันสวยก็เลยห่วง”

“เอ้า ยัยคนนี้หึงได้แม้กระทั่งเด็กผู้ชายเนอะ ที่ฉันหึงแกจะตายกับไอ้หนุ่มคิงนี่ฉันยังไม่เคยว่าอะไรแกเลยนะ”

“อ้ะ ...นี่แก...” พอลุงพูดอย่างนั้น ป้าที่กำลังจะอ้าปากพร้อมเหวี่ยงก็หุบลงทันทีก่อนจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเขินหน้าแดงแทน

“แนะๆๆ เขินละสิ” ลุงเอามือไปจิ้มแก้มของป้า

“เขินอะไรกัน มาพูดอะไรไม่เกรงใจเด็กมันเลยแกนี่” ป้าบิดม้วนไปมาด้วยความเขิน

“เอ้า จะมาอายอะไรกันแค่นี้ ทำมากกว่านี้ยังได้เลย”

“ทำ..ทำอะไร”

“ก็นี่ไง” ลุงยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะยื่นหน้าไปไปหอมแก้มป้าอย่างแรงแล้วหัวเราะพอใจ

“ตาแจ็คคคคคคคคคคคคคคคคคค ทำอะไรอายเด็กมัน” ป้าที่แม้จะบอกอายแต่ก็ไม่ยอมแพ้ลุง หอมแก้มอีกฝ่ายกลับเหมือนกัน
ทั้งคิงและควีนอดหัวเราะกับความน่ารักของทั้งคู่

“ไปๆ กวนเด็กๆมันไปทำงาน” และทั้งสองก็เดินกะหนุงกะหนิงไปเหมือนวัยรุ่นที่มีความรักในวัยแรกแย้ม

“ร้อน” ควีนดันถ้วยของตนไปด้านหน้าคิง ส่วนคิงไม่ได้ตอบกลับแค่ส่ายหัวไปมากับการขี้อ้อนของคนตรงหน้าที่ดูวันนี้จะอยาก
อ้อนเขาเป็นพิเศษ เขาเอาช้อนคนถ้วยข้าวต้มให้มันอุ่นพอดีไม่ร้อนมากเกินไปก่อนจะดันไปหาควีนที่หันไปมองวิวข้างทางไม่ได้
สนใจเขาตั้งแต่ยื่นถ้วยข้าวต้มมาให้

“ควีน”

“หืม”

“ข้าวได้แล้ว”

“อืม”

“อือ แล้วก็หันมาได้แล้ว” ควีนหันกลับมาอ้าปากเอาข้าวต้มที่คิงยื่นมาป้อนก่อนจะหยิบช้อนมากินเองและแล้วเขาก็ทานหมดตามใจคุณลุงแม้ว่าเขาจะอิ่มมากก็ตามแถมยังได้ข้าวต้มมาอีกปิ่นโตหนึ่งอีกต่างหาก ทั้งคู่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเขามากเมื่อรู้ว่าเขาไม่สบายเลยจัดข้าวต้มมาให้เอาไว้กินตอนเช้าอีก น่ารักเนอะ     




ควีนล้มตัวลงนอนบนเตียงของคิงหลังจากที่ทานข้าวต้มกันเสร็จก็กลับมาที่หอทันที หันมามองควีนก่อนจะเดินไปยังเตียงที่อยู่อีก
ซึ่งเป็นเตียงของพากย์โดยไม่ได้ละสายตาจากควีน ควีนหันตะแคงเอามือมาหนุนหัวตัวเองก่อนจะจ้องกันละกันอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที ก่อนที่ควีนจะขยับตัวไปชิดฝาผนังซึ่งเป็นอีกฝั่งของเตียง ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความเพราะต่างคนก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วคิงจึงเดินไปนอนข้างๆควีนแล้วหันตะแคงข้างเอามือลูบผมควีนเบาๆ

“ขอโทษนะ” คิงสื่อสายตาออกไปให้อีกฝ่ายอย่างเปิดเผยเพื่อที่คนตรงหน้าเขาจะได้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ “มาช้าไปไหม”

เขาถามแต่ควีนก็แค่ส่ายหน้าตอบ “โอเคใช่ไหม” ควีนยิ้มบางๆกลับมาเพื่อยืนยันแก่เขาแต่คิงเองรู้ดีว่าจริงๆเจ้าของดวงตาแสน

สวยที่เขาชอบไม่ได้เป็นอย่างที่แสดงออกมาหรอก


“ขอโทษนะ” คิงพูดอีกครั้งก่อนจะประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากนุ่มเพื่อเป็นการถ่ายทอดความความรู้สึกของเขาทั้งให้อีกคนได้รับรู้

และเป็นการปลอบประโลมควีนด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนที่ไม่ได้มีเพียงสัมผัสแต่ความรู้สึกห่วงหามันปะปนอยู่ในนั้นไปด้วย





หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 18 <25/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-01-2016 01:51:26
ไม่สุดเลย  :mew4:
ทรมานใจ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 30-01-2016 01:19:25
เนิ่นนานหลายนาทีที่ทั้งสองแนบชิดจนความรู้สึกต่างๆมันแทรกซึมระหว่างกัน คิงละริมฝีปากออกมามองหน้าควีนก่อนจะประทับ

ลงไปใหม่ ทำซ้ำๆอยู่อย่างนั้นหลายต่อครั้งจนให้มันรู้สึกว่าความรู้สึกทั้งมันทับถมที่ในหัวใจของอีกฝ่ายจนเต็ม


“นี่” ควีนพูดติดขำน้อยๆ หลังจากที่มองหน้าคิงที่ดูจะแสดงความรู้สึกต่อเขาเยอะมากเหลือเกิน


“หืม”


“เวอร์นะ”ควีนรู้สึกอยากนั้นจริงๆจากกระทำของร่างหนา ดูท่าทางจะอาการหนักกว่าเขาอีกมั้ง


“ฮึๆๆ” คิงหัวเราะขำดีใจที่สามารถทำให้ดวงตาที่สดใสและลึกลับดวงเดิมของเขานั้นกลับมาได้แล้ว เขาลูบไปที่เปลือกตาของ

ควีนเบาๆ “ก็ไม่อยากเห็นดวงตาคู่นี้มันหม่นมองไป  ไม่สวย”


“รักกันแค่ที่ดวงตารึไง”


คิงมองกลับไปด้วยสายตาที่สื่อความหมาย “ถ้าไม่รักทั้งตัวและหัวใจก็คงไม่เป็นห่วงและรู้สึกผิดขนาดนี้หรอก”

เมื่อได้ฟังอยากนั้นดูท่าว่าหัวใจของร่างโปร่งจะแกว่งไปมาจนมันเผยให้เห็นรอยยิ้มกว้างจากการที่รู้สึกดีและเอือมระอาคนตรง

หน้าไปพร้อมๆกัน ได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะยืดตัวไปจุ๊บปากร่างหนาทีหนึ่งเป็นการขอบคุณ แค่ที่คิงทำให้ควีนนั้นเขาเองก็รู้สึก

ขอบคุณมากพอแล้วแต่ไอ้การที่ดูร่างหนาจะดูรู้สึกผิดต่อเขามันเกินเหตุไปสักหน่อย เพราะจริงๆเขาไม่ได้มาช้าไปเลยสักนิดแต่

ถ้ามาช้ากว่านี้ละสิจะเป็นเรื่องมากกว่านี้ จริงๆแล้วแทนนั้นใช้แค่นิ้วของเขาเท่านั้นที่ลุกล้ำเขามาในตัวเขาแม้ว่าจะเสียขวัญและ

ตกใจอยู่บ้างแต่การที่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นก็ถือเป็นเรื่องดีแล้ว เพราะคิงเองนั้นแหละตามมาช่วยเขาไว้ได้ทันไม่รู้ว่าเจ้าตัวรู้

ได้อย่างไรแต่ก็นั้นแหละเขาจัดการแทนซะเละเลยแต่ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไรเพราะเรื่องนี้มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่รู้กันและอีกอย่างถ้า

เกิดจะให้ไปแจ้งถึงตำรวจมันจะดูเป็นการใหญ่จนเกินไปและควีนก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันบานปลาย อยากให้จบตรงนี้กันไปเลย

ต่างคนต่างอยู่เพราะเขาไม่ได้ต้องการที่จะมีเรื่องกับใครอยากใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ไปจนกว่าจะทำได้มากที่สุด



“นอนเถอะ” คิงบอกควีนก่อนดึงผ้าห่มมาคลุมตัวของทั้งสองคนไว้


“อืม” ควีนพยักหน้าหันหลังให้ชนกับหน้าอกแน่นๆของคิง ก่อนที่คิงจะสอดมือเขาไปด้านล้างกอดร่างโปร่งไว้แนบชิดและกดจูบ

ไปที่ท้ายทอยของควีนไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงกลางกระม่อมทำให้ควีนหลุดขำออกมา พอเห็นควีนหัวเราะก็ยิ่งอยากจะแกล้งร่าง

โปร่งมากว่าเดิม เขาไล้กดจูบไปทั่วศรีษะควีนก่อนจะถอยลงมาซับจูบตามแผ่นหลัง มือทั้งสองข้างแกล้งเลื้อยเข้าไปในเสื้อของ

ควีนไล้มือไปสัมผัสผิวเนียนนั้นอย่างหมั่นเขี้ยวทำเอาร่างโปร่งต้องพยายามตระครุบมือเขาไว้ไม่ให้ไปสัมผัสสิ่งที่มันไวต่อความ

รู้สึกแล้วเดี๋ยวเรื่องจะเลยเถิดไปกันใหญ่ ควีนจึงหันหน้ากลับมาหาคิง


“นอนได้แล้ว” คิงไม่ตอบแต่อมยิ้มแล้วประทับริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากควีนอย่างรวดเร็วก่อนจะพยักหน้าเหมือนจะยอมแพ้แล้ว

เลิกเล่น พอควีนหันกลับไปคิงก็ทำแบบเดิมอีกครั้งแกล้งซับจูบทั่วร่าง มือก็เลื้อยเป็นปลาหมึกซุกซนไปทั่วร่างเนียนจนควีนต้อง

หันกลับมาปรามอีกครั้งแล้วกลับไปนอนต่อแต่คิงก็ยังเล่นไปเลิกจนควีนเริ่มจะทนไม่ไหวคราวนี้พลิกตัวกลับมาหาคิงอีกครั้งแต่

จ้องหน้าคิงเพื่อที่จะบอกให้ร่างหนาหยุด นั้นแหละคิงถึงได้พยักหน้าเพื่อยอมหยุดแต่คราวนี้ควีนไม่ได้หันกลับคิงจึงกระชับอ้อม

กอดให้ควีนเข้ามาใกล้ตนมากยิ่งขึ้น แต่ควีนก็ยังไม่ยอมหลับตาเพราะถ้าคิงยังไม่เลิกแกล้งเขาจริงๆละก็เขาก็จะไม่ยอมหลับตา

ลงแน่ๆ นั่นดูจะเป็นคำขู่ที่เหมือนจะได้ผลคิงจึงพยักหน้าเหมือนยอมแพ้แล้วจริงๆ ควีนจึงหลับตานอนลงอีกครั้งแต่ดูเหมือน

ท่าทางคืนนี้เขาจะไม่ได้นอนเพราะร่างหนานี้แน่ๆเพราะทันทีที่ควีนหลับตาคิงก็แกล้งก้มตัวลงมาเพื่อที่จะจูบควีนอีกครั้งแต่เขาก็

ไม่มีโอกาสจะแกล้งควีนอีกหนหรอกเพราะควีนจัดการปากหนาๆที่แสนซุกซนด้วยริมฝีปากนุ่มๆของเขาเอง และดูเหมือนครั้งนี้จะ

เป็นคิงซะมากว่าละมั้งที่จะไม่ได้นอนเพราะโดนแกล้งกลับคืน ก็คนสวยของเขาเล่นตะโปมจูบเข้ามาอย่างเร้าร้อนจนเขาเองก็ต้อง

ตอบสนองกลับไปแบบเดียวกัน ลิ้นสองลิ้นที่พลิกผันสลับสับเปลี่ยนกันไปมาอย่างเมามันทำเอาร่างกายของคิงเองก็เริ่มจะร้อนขึ้น

มาทันที แย่ซะแล้วคิงของเรา โดนคนสวยเล่นเข้าให้แล้ว แล้วอย่างนี้จะหยุดเกมส์นี้ได้อย่างไรกันเพราะเห็นทีท่าจะยากซะแล้ว

เพราะมือปลาหมึกที่เคยแกล้งลูบไล้ตัวควีนไปมาตอนนี้ท่าทางมันกำลังจะเอาจริงเพราะสัมผัสที่ลูบไล้ไปมามันแตกต่างจากเมื่อกี้

อย่างสิ้นเชิง สัมผัสที่ชวนวาบหวามลุกไล้ให้ขนอ่อนตามร่างกายของควีนชูชันด้วยความหวาบหวิวอย่างที่เกินจะห้ามไหวอีกทั้ง

มันยังเลื้อยขึ้นไปยอกเย้ากับหน้าอกและตุ่มไตสีชมพูสวยอย่างสนุกสนานทำเอาสติของคนที่กลับมาพลิกเกมส์เริ่มจะคุมตัวเองไม่

อยู่


“แฮ่กๆ” คิงผละออกมาให้ควีนมีโอกาสได้หายใจ ก่อนจะไปทับลงไปใหม่ “อืมมม” หมดกันนี่ตกลงวิธีหยุดการแกล้งของร่างหนา

ของควีนนั้นเท่ากับเปิดโอกาสให้คิงได้แกล้งเขามากว่าเดิมสินะ แม้ว่าอยากจะหยุดหรือแกล้งร่างหนาคืนมากแค่ไหนแต่สัมผัสที่

ควีนกำลังเผชิญอยู่มันทำให้เขาลืมสิ้นทุกอย่างที่อยากจะพูดหรืออยากจะทำ เขาลืมที่จะทักท้วงเมื่อร่างหนาถอดเสื้อของเขา

ออกไป เขาลืมที่จะทักท้วงเมื่อร่างหนาก็ถอดเสื้อตัวเองอออกเหมือนกัน เขาลืมไปทุกอย่างเมื่อสัมผัสกับผิวอุ่นร้อนจากอกแกร่ง

ที่เปลือยเปล่าแล้วทับลงมา เขาลืมและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปมากว่ากว่าครางอื้ออึงในลำคอเมื่อร่างหนาประจูบลงมาที่ตุ่ม

ไตสีชมพูที่ชูชันเพราะความเสียว เขาลืมว่าควรจะจับมือร่างหนาออกเมื่อมันหันมาเล่นงานตุ่มไตอีกข้างที่ยังว่างอยู่เพราะมันรู้สึก

มากเกินไป ลืมไปว่าควรจะผลักไสร่างหนาออกไปไม่ใช่กอดเขาไว้เอามาชิดแนบกาย ลืมไปว่าตัวเองรู้สึกมากแค่ไหนจนต้องแอ่น

อกรับเพื่อเปิดโอกาสร่างหนาได้สัมผัสตนมากขึ้น และเขาคงไม่มีโอกาสอะไรที่จะลืมแล้วเพราะตอนนี้ร่างของเขามันเปล่าเปลือย

ด้วยน้ำมือของร่างหนา มีแต่ช่วงเวลาที่จะต้องจดจำไปตลอดชีวิต เพราะทันทีที่คิงกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเขาไว้ในมือแล้วขยับ

เคลื่อนไหวเขาจึงคิดว่ามันไม่มีอะไรที่เขาควรจะทำมากไปกว่าครวญครางอื้ออึงในลำคอเพราะสุขสม


“อืม....อ่า” คิงมองหน้าควีนอีกครั้ง ประติมากรรมชิ้นเอกที่เขาเคยได้เห็นอย่างนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่ทั้งสองเคยไปเที่ยวมาด้วยกันที่


ภาพนั้นมันยังจำติดตาเขามาถึงจนตอนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าภาพนั้นจะกลับมาอีกครั้งและครั้งนี้ประติมากรรมชิ้นนี้มันต้องเป็นของเขาแค่

คนเดียว!


“อื้อ ..คิง..อ้ะ...” ไม่ทันจะได้หายใจหายคอควีนกลับต้องหวีดเสียงออกมาเพราะความอุ่นร้อนจากโพรงปากของคิงกำลังคลอบ

คลุมยึดพื้นที่ส่วนอ่อนไหวของเขาไว้จนเต็มปาก


“อืม.. ไม่” ควีนส่ายหน้าปฏิเสธแม้ว่าจะรู้สึกดีมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ต้องการให้ร่างหนามาทำให้เขาขนาดนี้และอีกอย่างมันรู้สึก

มากเกินไปและเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว



“ฮืม..อ่าาา” และในที่สุดควีนเองก็ไม่สามารถต้านทานของความรู้สึกนี้ไปได้จนต้องปลดปล่อยมันออกมาเต็มหน้าห้องของคิง

เพราะเขาเป็นคนรับดึงศรีษะคิงออกก่อนก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออกมาแล้วคิงจะกลืนกินมันลงไป ซึ่งเขาไม่อยากจะให้มันเป็น

อย่างนั้น


“ควีน” คิงปัดผมออกจากหน้าให้ควีนที่นอนหอบหายใจแรงด้วยสายตาที่สื่อความหมาย คิงรู้ดีและควีนเองก็รู้ดีว่านี่คือการขอ

อนุญาตจากควีนเพราะเขาอยากจะให้มันออกมาจากความรู้สึกจริงๆไม่ใช่แค่เกรงใจหรืออะไรที่อาจจะทำให้ทั้งสองคนมาเสียใจ

ในภายหลัง และดูเหมือนไม่ต้องพูดอะไรให้มากความควีนตอบคำถามด้วยการยืดตัวขึ้นมาจูบคิงให้เป็นคำตอบทั้งหมด เหมือน

เป็นคำตอบที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวเร็วมากพอๆกับอารมณ์ที่มันทะยานขึ้นสูงปรี้ดแทบทนไม่ไหว คิงเอื้อมไปหยิบเจลที่ข้าง

หัวเตียงมาป้ายที่นิ้วตัวเองและช่องทางสีสดของควีนทั้งที่ยังไม่ยอมละฝีปากออกจากกันแม้ควีนจะสะดุ้งเพราะมีบางอย่างที่เย็น

และผ่านเล็ดรอดเข้ามาในร่างกายตนแต่มันก็ไม่ได้มากไปกว่าสิ่งที่คิงกำลังมอบให้เขาผ่านจูบนี้ไปได้ แต่ดูเหมือนมันไม่ค่อยจะ

ได้ผลกับช่วงหลังๆสักเท่าไหร่เพราะจำนวนนิ้วที่เพิ่มมากขึ้นและมันก็คว้านไปทั่วในช่องอุ่นร้อนจนไปสัมผัสกับจุดที่สามารถทำให้

ควีนสติเลอะเลือนไปเมื่อถูกกดซ้ำๆเข้ามามากๆ


“อ้ะ. คิง.. ไม่ไหว” ควีนรู้สึกว่าเขารู้สึกมันมากไปและมันไปเพียงพอสำหรับเขาเลย นี่มันอะไรกันทำไมเขาถึงกลายเป็นคนแบบนี้

ไปได้นะ เพราะกว่าคิงจะรอให้ช่องทางนี้พร้อมพอที่สามารถรองรับส่วนแข็งแกร่งของเขาได้ก็นานาพอสมควรแต่คิงเองไม่อยาก

จะให้เจ้าตัวต้องมาเจ็บเพราะความอยากของตัวเองหรอกเขาไม่ได้เห็นแก่ตัวขนาดนั้น เมื่อเห็นว่าช่องทางนั้นพร้อมแล้วเขาจึงกด

กายแกร่งเขาเข้าในตัวของควีน


“อ้ะ” ควีนสะดุ้งกลับสิ่งแปลกปลอมที่เขามามันแปลกใหม่และใหญ่เกินไปที่เขาคิดว่าอาจจะไม่สามารถเข้ามาตัวเขาได้เลยแต่คิง


ก็สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ได้ เขาค่อยๆถอดกายแกร่งออกไปแล้วกดเข้าไปใหม่จนมันสามารถเข้าไปได้ทั้งหมด แม้ว่าเขาจะ

พยายามถนอมมากแค่ไหนแต่ควีนก็อดที่จะน้ำตาไหลซึมออกมาเพราะความเจ็บปวดนี้ไม่ได้จริงก่อนที่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดนี้

จะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาแห่งความสุขสมที่คิงนั้นได้พาเขาก้าวเขามันไปและพาเขาไปแต่ยังความรู้สึกที่อยู่สูงจนไม่สารถ

จินตนาการได้เลยว่านี่เขามาถึงจุดนี่ได้อย่างไรกัน


“อื้ออ คิง..” ร่างกายที่สอดประสานเริ่มแรกจากเชื่องช้าจึงกลายเป็นหนักหน่วง กระแทกกระทั้นอย่างรัวเร็วตามความรู้สึกของร่าง

หนา


“ควีน”คิงเรียกชื่อควีนด้วยเสียงกระเส่าตามแรงอารมณ์และยังกระแทกเข้าออกอย่างหนักหน่วงจนควีนต้องยกมือขึ้นกอดกอดเขา

ไว้เพื่อระบายอารมณ์ที่มันมีมากไป มากไปจริงๆ


“อ้า..อ้ะ..อ้ะ..อ้ะ ..อื้อ ...คิง”


มันมีความรู้สึกมากไป มากไปจนทั้งสองลืมนึกถึงไปว่าความรู้สึกส่วนอื่นมันเป็นอย่างไรนอกจากความรู้สึก ณ จุดๆนี้จุดที่เขาไม่


สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากรู้สึกว่าต้องการกันและกันมากยิ่งขึ้น








P.S. กรี้้้้้้้้้้้้้้้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ได้กันแล้วแกรรรร เขาได้กันแล้วววววววววววววววววว ถูกคู่ซะทีเนอะ5555555



 :hao5:       :hao5:        :hao5:

นี่เปนnc แรกในชีวตเลยนะเนี่ย ฮ่อยยยยยย เป็นยังไงกันบ้างอาจจะไม่ดีมากแต่ก็ภูมิใจนะค่ะที่ทุกคนยังติดตามกันอยูู่
ยังไงช่วยคอมเม้นต์ติชมให้เราด้วยนะ จะได้เอาไปแก้ไขปรับปรุงได้ ขอบคุณค่ะ

 :mew1:   :mew1:    :mew1:    :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-01-2016 02:51:17
อร๊ายยยย เขาได้กันแว้วววววว. อีคิงมันเอาจะได้ อิอิ ว่าแต่ควีนเป็นใครอะไรยังไงกันแน่อะ เมื่อไหร่จะเฉลยอะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-01-2016 08:57:50
ได้กันแล้ววววววว :mc4: :m1: :m3: :m4: :mc2: :mc3:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 30-01-2016 20:55:18
ในที่สุดก็เสร็จ555
ข้ามขั้นนะคิง
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 01-02-2016 05:35:24
ในที่สุด ควีนก็โดนกินตับแล้ว...
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 01-02-2016 08:25:14
มาต่อเร็วๆนะคะ สนุกดีคะ รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 01-02-2016 18:16:51
ผลที่ปล่อยไอ้คนชื่อแทนไปมันจะมีผลอะไรภายหลังรึเปล่า. แล้วคำว่าป๋าล่ะ. รอต่อไป
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 07-02-2016 22:54:51
Chapter 20







แกร้ก !!!!


“ไอ้คิง/พี่คิง” พากย์เดินเข้าห้องมาพร้อมกับจูนส่งเสียงเรียกคิงที่เดินถือถ้วยโจ๊กร้อนๆจนควันขึ้นออกมาจากไมโครเวฟ “พี่คิง

เห็นควีนไหม” จูนเดินเข้ามาชะโงกหน้าถามคิง


“ฮึๆ” พากย์หัวเราะฮึๆอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อหันไปเห็นใครอีกคนนอนอยู่บนเตียงของคิงก่อนจะหันหน้ามาหาเพื่อนตัวเองมองตาคิง

อย่างรู้ทัน “ไม่ต้องตามหาหรอก นี่ไงเพื่อนจูน” พากย์พยักหน้าไปหาควีนที่กำลังหลับโดยมีผ้าห่มคุมตัวอยู่

“อ้ะ! ทำไมควีนถึงมานอนกับพี่คิงได้ละ”

“ควีนเขาไม่สบายนะ” คิงหันไปมองพากย์ก่อนจะหันไปตอบจูนแล้วมองไปยังร่างโปร่งของเขา

“จริงเหรอ!” จูนตาโต “ทำไมพี่คิงไม่โทรบอกจูนหละ ถึงว่าติดต่อควีนไม่ได้เลย” จูนเดินเข้าไปชาร์ตตัวควีนทันที เขานั่งลงข้าง
เตียงก่อนจะเอามืออังที่หน้าผากควีนด้วยใบหน้าที่เป็นห่วงอย่างชัดเจน

“อื้อ” ควีนครางในลำคอเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่โดนหน้าผากเขาอยู่ เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา

“จูน”

“ควีนเป็นไงบ้าง”

“เอ่อ....” ควีนที่เพิ่งนอนไปไม่ได้เมื่อกี่ชั่วโมงลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอหน้าคนตัวเล็กของเขาอยู่ในระยะอันใกล้ทำเอาสมองที่ยังไม่
ทำงานอย่างเต็มที่นั้นเอ๋อไปชั้วขณะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นนอนอยู่ห้องคิงเขาจึงหันไปมองด้านหลังตัวเองที่มีทั้งคิงและ
พากย์ยืนมองอยู่

“ไม่สบายทำไมไม่โทรบอกกันหละแล้วนี่ดีขึ้นหรือยัง ไปหาหมอไหม”

ควีนหันไปมองหาคิงอย่างงงๆกับคำพูดของจูนที่ว่าเขาไม่สบายตอนไหนกัน แต่คิงก็แค่หยักไหล่มาให้แทนคำตอบ

“ควีนไม่เป็นอะไรหรอก” เขาตอบก่อนจะลุกขึ้นนั่งโดยที่ลืมไปว่าตัวเองนั้นไม่ได้ใส่เสื้อนอนเพราะมันถูกถอดไปตั้งแต่เมื่อคืน

“ควีน!!! นี่มันรอยอะไรกันนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“หืม” ควีนงงกับอาการตาโตของจูนที่ดูจะตกใจกับการที่มองมายังตัวเขามากก่อนจะก้มมองไปยังลำตัวของตัวเองที่โดนมือเล็กๆ
นั้นลูบอยู่

“เอ่อ” นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ควีนรู้สึกว่าการหาคำตอบมาตอบคนตัวเล็กมันอย่างมากขนาดไหนเพราะเขารู้สึกว่าไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี รอยตามตัวที่มีให้เห็นบ้างปะปรายตามหน้าท้อง หน้าอกหรือแม้แต่ลำคอที่ขึ้นสีอยู่นี่ทำให้ควีนนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนเข้าผ่านอะไรมา และทำอะไรไปบ้างทำให้เขารู้สึกใจเต้นรัวๆเพราะไม่น่าสะเพราลุกขึ้นมาพรวดพราดแบบนี้เลย เพราะมันไม่ใช่แค่จูนเท่านั้นที่อยู่ในห้องนี้แต่คุณหมอเถื่อนอย่างพากย์ก็ยืนมองเขาอยู่ด้วย

“ควีนแพ้นะ เมื่อคืนนั้นเผลอไปกินกุ้งเข้า”

“จริงเหรอ!!” จูนตาโตด้วยความตกใจ “ควีนแพ้กุ้งเหรอ ทำไมจูนไม่รู้เลยงั้นเราไปหาหมอกันเถอะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ควีนกินยาแล้วเดี๋ยวก็หายเพราะกินกุ้งไปแค่นิดเดียวเอง แค่นี้เอง” คีวนบอกจูนที่เหมือนจะเชื่อคำพูดเขาจริงๆ

ก่อนจะหันไปเห็นพากย์ที่แอบยืนหัวเราะมองดูเขาโกหกเด็กน้อยผู้ใสซื่อคนนี้อยู่

“ฮ่ะๆ ท่าทางกุ้งตัวนี้นี่ร้ายใช่เล่นเลย ท่าทางจะเป็นสายพันธ์ใหม่ เพิ่งเคยเห็นว่าเขาแพ้กุ้งแล้วจะเป็นรอยกันแบบนี้” พากย์พูด
พร้อมทั้งหัวเราะทั้งที่ปกติแล้วเขามันเสือยิ้มยากจะตายไป แถมยังไม่ค่อยจะสนใจพูดกับใครได้ยาวๆขนาดนี้เลย

“เออใช่ พี่พากย์ก็เรียนหมอนี่นา งั้นให้พี่พากย์ช่วยดูอาการของควีนให้หน่อยสิ”

“ไม่เป็นไรหรอกจูน ควีนโอเคแล้ว” ควีนตอบจูน

“ไม่ต้องหรอก” พากย์ตอบ

“จะไม่เป็นไรจริงเหรอพี่พากย์”

“แพ้เป็นจุดแบบนี้ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่โดนน้ำ..มันจากหัวกุ้งไม่ร้ายแรง” พากย์พูดเหน็บหน่อยๆด้วยความขบขัน

“อืม ครับ” จูนพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหันไปหาควีนที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกกับการเชื่อสนิทใจว่าเขานั้นไม่
สบายจริงๆ เฮ้อออ น่าเป็นห่วงจริงไอ้ตัวเล็กของเขาเนี้ยแค่นี้ยังดูไม่ออก ตามไม่ทันแถมยังเชื่อคนง่ายขนาดนี้แล้วจะไปเผชิญโลกภายนอกที่แสนโหดร้ายเขาได้ยังไงกัน แม้ว่าเขาเองก็ไม่อยากให้จูนรู้ความจริงว่าเขาเองก็โกหก

“ฮึๆๆ งั้นกูไปก่อนละกัน” พากย์ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะกลับมานอนที่ห้องของตัวเองแต่ดูเหมือนว่าเขาจะมาผิดจังหวะไปหน่อย เขาพยักหน้าให้คิงก่อนจะเดินไปหยิบเอาเสื้อกาวน์ของตัวเองพาดบ่าแล้วหันไปบอกลาจูนและควีน “ตามสบายเลย” และประโยคนี่ก็ดูเหมือนจะเป็นของควีนเต็มๆ นี่มันโดนล้อเต็มๆเลยละ

“บ้ายๆครับพี่พากย์” จุนหันไปยิ้มส่งลาให้

“แล้วนี่จูนมีอะไรรึเปล่าถึงได้ตามหาควีน” ขันมาถามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ

“อ่อ ไม่มีอะไรแล้วหละ จูนนึกว่าควีนหายไปไหนก็เลยตามหา แต่จูนว่าควีนนอนพักผ่อนเถอะจะได้หายเร็วๆ”

“ครับ มานี่มา”ควีนกางแขนเรียกจูนเข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะกอดคนตัวเล็กแล้วลูบหลังเบาๆ  ไม่รู้สิเขารู้ สึกว่าจะต้องกอดคนตัว
เล็กของเขาไว้เพราะมันรับรู้ได้ว่าคนตัวเล็กของเขาต้องการอ้อมกอดนี้

 “ควีน” จูนครางออกมาเบาๆด้วยความแปลกที่อยู่ๆก็โดนกอดแต่สัมผัสอันอบอุ่นจากควีนนั้นก็ทำเอาเขาซุกหน้าลงบนอกเปล่า
เปลือยของควีนแน่นเลย

“นอนเล่นที่ห้องนี่ก่อนไหม”

“จูนมีเรียนนะเดี๋ยวก็จะไปแล้ว แค่รู้ว่าควีนไม่เป็นไรจูนก็สบายใจหละ” เขาส่งยิ้มน่ารักไปให้ควีน

ฟอด!!

“อ้ะ ควีนทำอะไรอ่ะ” จูนเด้งตัวออกมาแล้วเอามือจับแก้มตัวเองที่โดนควีนหอม

“ฮ่ะๆ ก็หอมแก้มไง” เขายักไหล่ทำเอาจูนหน้าแดงด้วยความเขิน “ไม่รู้จักเหรอ  แบบนี้ไง”

ฟอด! ฟอด!

“ควีนอ่ะ เล่นไรก็ไม่รู้ ไม่เล่นด้วยแล้ว!” ก่อนที่เจ้าตัวจะเขินหนักจนทนไม่ไหวไอ้ตัวเล็กก็เลยรีบออกไปจากห้องทันที

“ฮึ” ควีนได้แต่ส่ายหน้าให้กับความน่ารักของกระต่ายน้อยของเขา

ฟอด! ฟอด!

ควีนหันขวับทันทีเมื่อโดนจมูกโด่งๆของคิงสัมผัสเข้าที่แก้มทั้งสองข้าง

“อะไร”

“อ้าวไม่รู้จักเหรอ หอมแก้มไง” คิงทำหน้ามึนใส่ควีนที่รี่ตามองดูคนหน้าหล่อเล่นมุก “แบบนี้ไง..” เขาเคลื่อนหน้าลงไปชิดควีน
ก่อนจะประกบปากลงไปจุ๊บริมฝีปากชมพูระเรื่อของควีน

“ฮึ กวนนะ”
คิงแค่ยักไหล่ก่อนจะส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปให้แล้วเดินไปเอาถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่บนโต๊ะมานั่งลงข้างควีนที่ตอนนี้ล้มตัวลงนอนและ
ยัดตัวเองเข้าผ้าห่มเป็นมัมมี่แล้ว

“กินข้าวก่อน” คิงบอกควีนที่ตอนนี้ปรือตาพร้อมจะคลุมโปรงนอนแล้ว

“เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ ง่วง”

“มันเช้าแล้วกินก่อนแล้วค่อยนอนก็ได้”

“เพิ่งนอนเองนะ”

“แล้วทำไมไม่ยอมนอนหละ” ควีนเลิ้กคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคิงพูดอย่างนั้น ก็ต้นเหตุที่เขาไม่ได้นอนนั้นเป็นเพราะใครกัน

“กวนนะ วันนี้ไม่มีเรียน” ควีนบอกก่อนจะหลับตาลงไม่สนใจคิงว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเพราะตอนนี้เขาต้องการพักผ่อนมากเหลือ
เกิน เพราะเมื่อคืนนี้รู้สึกว่าเขาจะเจออะไรมามากเกินไป หัวใจของเขามันทำงานหนักมากเกินไป

“ฮึๆ งั้นก็นอน” คิงลูบหัวควีนเบาๆก่อนจะลุกเอาข้าวไปเก็บก่อนจะมานอนลงข้างควีน

“อื้อ มันเบียด” ควีนครางออกมาเมื่อโดนคิงกอดจากทางด้านหลังด้วยขนาดเตียงที่เล็กเกินไปสำหรับสองคนจะนอนแบบสบายๆ
ได้

“แล้วเมื่อคืนไม่เห็นบ่น” คิงกระชับกอดให้แน่นขึ้นแล้วซุกหน้าลงบนซอกคอของควีน

“เมื่อคืนไม่ได้นอนแบบนี้ไง”

“งั้นก็นอนแบบเมื่อคืนนี้จะได้สบาย”

ควีนขยับตัวมาจ้องหน้าคนที่พยายามจะกวนเขาเหลือเกินกับการนอนในเช้านี้ของเขา

“นอนแบบนั้นมันสบายตรงไหนกัน”

“อ้าว จริงเหรอพี่ว่าสบายตัวดีออก” 


“เหรอ” ควีนที่ไม่รู้จะตอบอะไรคนตรงหน้านี้ดี เพราะไม่อยากจะพูดถึงมันให้ใจสั่นเล่นเหมือนที่กำลังเป็นอยู่


“ลองดูไหม ถ้าไม่เชื่อ” และคิงก็ยกตัวควีนมาเกยทับตัวเองที่นอนอยู่ข้างล่าง ควีนไม่เข้าใจเลยว่าคิงนั้นยกเขาขึ้นได้ยังไงกันตัว
ไม่ใช่เล็กซะเมื่อไหร่ “เดี๋ยววันนี้จะให้อยู่ข้างบน” ด้วยความหมั่นไส้ควีนจึงยกหัวตัวเองชกไปที่หน้าผากของอีกฝ่ายด้วยความแรงพอประมาณแต่คิงก็ไม่ได้มีสำนึกว่ากำลังกวนคนที่ต้องการจะนอนเป็นอย่างมากแต่กับกดท้ายทอยควีนไว้ให้หน้าผากทั้งสองนั้น
ชิดกัน

“ไม่เอาอะ อยากนอนคนเดียวบนเตียงเดียวแบบสบายๆ”

“นอนแบบนี้อบอุ่นดีออก”

“ร้อนนะสิไม่ว่า” ควีนพูดก่อนจะแกล้งกัดริมฝีปากล่างของคิงเบาๆ

“อืมจริง เร่าร้อนดี”

“ฮึ” ควีนยิ้มก่อนจะพยายามดันตัวเองออกแต่ก็โดนริมฝีปากหน้าประกบจูบไว้ไม่ให้ไปไหนและมือที่กอดท้ายทอยของควีนไว้ก็ไต่
ลงตามหลังอันขาวเนียนไปมา

“นี่ มันง่วงนะ” เมื่อคิงยอมปล่อยปากควีนให้เป็นอิสระเขาจึงพูดสกัดคิงไว้ด้วยน้ำเสียงว่าง่วงเต็มที เขาไม่มีอารมณ์จะมาทำอย่าง
อื่นหรอกนะ

“ฮึๆ ก็นอนสิไม่ได้ห้ามนี่”

“งั้นก็ปล่อย” ควีนถอนหายใจเมื่อคิงไม่มีท่าทางจะเลิกกวนเขาสักทีก็เลยหลับตาลงทั้งใบหน้าทั้งสองยังชิดกันอยู่และมือที่ยัง

ซุกซนอยู่ตามร่างกายเขาก็ยังไต่ไปเรื่อยแต่ควีนก็ไม่สนใจพยายามอดกั้นอารมณ์ของตัวเองไว้แม้ว่ามือมันจะปัดผ่านไปยังที่ที่ไม่

ควรก็ตาม จนคิงเองเป็นฝ่ายพอใจนั้นแหละถึงหยุดแกล้งควีนแล้วเอาตัวเขาลงมานอนดีๆแต่ก็ไม่วายมาทำให้การนอนเช้านี้มันดู

จะอึดอัดและไม่สบายตัวด้วยการตามมากอดเขาไว้แน่นจนควีนเองนั้นแหละที่เป็นฝ่ายหลับไปด้วยความเพลียและความอบอุ่น

จากไอ้ร้อนของแผ่นอกที่แนบชิดหลังเขา

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 19 เหวยๆๆๆจะได้กันยังน้า ฮี่ๆๆๆๆ <30/01/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-02-2016 23:24:29
น่ารัก  แต่คิงนี่เงี้ยบบบเงียบ
กลัวพิกุลจะร่วงเหรอ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 20 <05/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 05-03-2016 00:00:05

ควีนตื่นมาอีกทีก็เกือบบ่ายจากโดยปราศจากร่างหนาที่เคยกอดตน เขาลุกขึ้นมานั่งก็เห็นเปล่าเปลือยของคิงที่หันหลังให้เขาอยู่บนโต๊ะทำงาน

“ทำอะไร” ควีนลุกขึ้นมาซ้อนที่หลังของคิงแล้วเอาแขนคล้องคอชะโงกหน้าไปดูว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่

“บันทึกความทรงจำ” คิงกุมมือของควีนไว้แล้วลูบเบาๆ

“หืม” ควีนที่มองดูแผ่นกระดาษขาวตรงหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำฟ้าอ่อนๆไล่ระดับสีกันมาเหมือนสีท้องฟ้าในวันที่สดใส

“ถึงแม้ว่าความทรงจำบางอย่างมันจะสวยสดงดงามมากขนาดที่ตราตึงใจจนลืมไม่ลงแต่ว่าบางครั้งเราก็ต้องหาอะไรบางอย่างมา
บันทึกไว้ให้ภาพมันชัดเจนเพราะความทรงจำมันจะดีซะจนอยากเก็บรายละเอียดของความรู้สึกในช่วงเวลานั้นไว้หมด” ควีนได้แต่
เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีโมเมนต์ที่จะมานั่งพูดอะไรที่ดูจะเป็นอารมณ์ศิลปินอย่างนี้ได้

“ที่ไหนเหรอ” ควีนยังคงจ้องภาพนั้นไม่วางตาแม้ว่ามันจะเป็นแค่ภาพสีพื้นที่ดูไม่ออกเลยว่าที่ภาพความทรงจำแห่งนี้คือที่ไหนแต่
เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ามันคงต้องสวยมากแน่ๆ คงจะสวยพอๆกันกับสถานที่ในความทรงจำเขาแน่ๆ

“ในใจ”

“ฮึๆ เลี่ยนวะ แล้วไม่คิดว่าถ้าเรามั่นคงในความรู้สึกนั้น ภาพนั้นๆความรู้สึกในช่วงเวลานั้นๆ ไอ้ภาพๆนี้มันจะมีทางหายไปได้ยังไง”

“มันหายไปได้ถ้าคนๆนั้นเลือกที่จะทิ้งความรู้สึกของช่วงเวลานั้นไปภาพความทรงจำที่สวยงามมันก็จะหายไปและแปรเปลี่ยนเป็น
สถานที่ที่สวยงามแต่ไม่มีใครอยากจำ” เมื่อคิงพูดจบทั้งสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพียงแค่จ้องมองภาพตรงหน้าปล่อยให้สีน้ำ
ที่ถูกแต่งแต้มมันค่อยๆแห้งไป

“เฮ้อ นี่ต้องนั่งซึมซับความงามของรูปนี้เหมือนศิลปินไปอีกเมื่อไหร่กัน” ควีนถอยหายใจออกมาก่อนจะเอียงตัวไปซบอกคิงที่นั่ง
ซ้อนเขาอยู่ข้างหลังบนเก้าอี้แคบๆ

“ฮึๆ อ้าวก็นึกว่าชอบซะอีก” เขาตอบพร้อมมองหน้าของร่างโปร่งที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาเหมือนจะไม่ไหวแล้วเต็มทนก็ทั้งสอง
เล่นนั่งมองภาพอย่างติสต์แตกมาเป็นเวลานานพอสมควรเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายก็ชอบเลยไม่อยากจะขัดแต่พอนานเข้าเลยแกล้ง
ทำเป็นหน้าเคร่งครึมอย่างตั้งใจที่จะมองดูรูปทั้งที่ควีนนั้นหันมามองเขาแล้วหลายรอบ

“หิวแล้ว”

“อะไรหายเหนื่อยแล้วเหรอ เซ็กส์จัดนะเรา” คิงแกล้งยอกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“หิวข้าวไหมละ”

“อ้าวเหรอ ก็นึกว่าหิวอย่างอื่น ดูจากสีหน้าเมื่อคืนก็นึกว่าอย่างจะกินอีก” ควีนที่เริ่มจะโมโหหิวได้จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยใจ
แม้จะแอบใจสั่นบ้างกับการที่นึกไปถึงภาพตัวเองเมื่อคืนนี้ก็เหอะ

“ฮึๆ” คิงหัวเราะอย่างงมีความสุขก่อนจะฟัดริมฝีปากนุ่มๆเสิร์ฟให้เจ้าตัวประทังความหิวไปก่อน

“อื้ออ”

“ฮึๆๆ”

“พอเลย จะไปอาบน้ำ”

“ให้อาบให้ป่ะ” คิงยักคิ้วกวนๆให้

“ไม่อ่ะ ไม่ได้พิการ”

“แหม่ คนสวยกลับมาใจร้ายอีกแล้ว ได้เค้าแล้วจะทิ้งเหรอ” คิงแกล้งงับปลายจมูกควีนเบาๆก่อนจะปล่อยเจ้าตัวให้ไปอาบน้ำ

“ปัญาญาอ่อนนะพี่คิง” ควีนผลักหัวคิงอย่างแรงก่อนจะเดินยิ้มไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าริมฝีปากมันกว้าง
มากขนาดไหน ใจมั่นสั่นไหวแรงไปหรือป่าวแต่ที่แน่ๆรอยยิ้มที่สามารถทำให้โลกที่แห้งแล้งของใครบางคนมันสว่างไสวขึ้น
มากมาย โดยเฉพาะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยสง่านั้นละสายตาไม่ได้เลยแม้ว่าร่างโปร่งถูกบดบังด้วยประตูห้องน้ำ     

“ไม่รู้สิ”        อาจจะเป็นคำที่ทั้งสองคิดอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันจะเป็นอย่างไรพวกเขาเพียงรู้ว่านาทีนี้แค่อย่างจะยิ้ม แม้ว่า

ภายใต้รอยยิ้มของคำว่าไม่รู้มันอาจจะเดินสวนทางของความหมายของความคิดของทั้งสองคนอยู่ก็ได้










 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

แหง่มๆๆๆๆๆ เอามาเสิร์ฟแบบกระจิดเดียว 5555555 เค้าไม่มีเวลาเบยยยเสียจุยยย เขียนต่อให้ได้แค่นี้เองงิ้   ว่่่าแต่ว่า พี่คิงกะควีนนี้สวีทกันจังเลยเนอะ อิจเจงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 20 <05/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-03-2016 01:52:54
อะไรๆก็ดีไปหมดเลย   :hao7:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 20 <05/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-03-2016 09:13:43
 :-[ :-[ :-[ :-[

น้องจูนไร้เดียงสามากๆๆๆๆๆๆๆๆ
เหมือนยังมีอะไรบางอย่างที่อาจทำให้มีมาม่าโดยเฉพาะเรื่องป๋าของควีน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--50%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 24-03-2016 00:14:32
Chapter 21






เทย์ทิ้งตัวลงข้างควีนที่นั่งถอดกายอยู่บนเตียงนอนของเขาหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างคอนโดที่เปิดกว้างในเห็นวิวสวยๆยามเย็น แล้ววางมือบนหัวของควีนเบาๆ

“เป็นอะไร” ควีนแค่หันมามองเขาแต่ไม่ได้ตอบอะไร เทย์สังเกตเพื่อนคนนี้มาสักพักว่าแล้วว่าหลังๆเพื่อนเขาเริ่มปฏิกิริยาที่แปลก
ไปเขาเองไม่อยากจะคาดเอาเอาเองหรอกว่าอะไรที่ทำให้ร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างเขาดูแปลกๆไปตั้งแต่ช่วงหลังมานี้ทำตัวติดกับรุ่น
พี่คนสนิทอย่างคิง เขารู้ว่าควีนกับนั้นมีความรู้สึกดีๆแก่กันและไม่แน่ว่ามันอาจจะมากกว่านั้นก็ได้เขาไม่มีปัญหาอะไรหรอกถ้าทั้ง
สองคนจะคบกันเพราะนั้นมันเป็นการตัดสินใจของคนทั้งสองคน เพื่อนสนิทอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะก้าวก่าย แค่เห็นเขามีความสุข
เวลาอยู่กับพี่คิงเขาก็โอเคแต่ไม่รู้ทำไมความรู้สึกๆของเขาถึงบอกว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้นที่แอบซ่อนอยู่ภายในใจของควีน

ควีนเอียงตัวมาซบไหล่ของเพื่อนรักก่อนจะเริ่มพูดสิ่งที่เขารู้สึกเพราะรู้ดีว่าถึงอย่างไรก็ต้องพูดในเมื่อเพื่อนสนิทคนเก่งเขาจับทาง
เขาได้

“ป่าวหรอก ไม่ได้เป็นอะไรแค่สับสนนิดหน่อย”

“เรื่องพี่คิงเหรอ”

“ไม่เชิงอ่ะ”

“ทำไม เขาฟันมึงแล้วทิ้งรึไง” เทย์ถามด้วยน้ำเสียงกวนๆทำเอาควีนเงยหน้าขึ้นมาแล้วชกไหล่เทย์ด้วนความหมั่นไส้ก่อนจะซบ
ไหล่เหมือนเดิม “อะไร พูดแทงใจดำไง ฮึๆๆๆ”

“ก็เปล่า”

“งั้นก็แปลว่ากูพูดถูก”

“ไม่ทั้งหมด”

“งั้นก็แปลว่าควีนอ้อฟจิวส์แฮฟเว่นโดนกินตับแล้วก็เรื่องจริงสินะหรือว่าโดนทิ้งตั้งแต่ไม่โดนกินตับก็เลยเศร้า”

“ใช่ที่ไหนละ”

“ฮ่าๆๆ” เทย์หัวเราะอย่างพอใจที่ได้แหย่เพื่อนตัวเองเล่น

“ก็แค่มีปัญหากับตัวเองนิดหน่อย”

“ยังไง”

“มึงก็รู้”

“เรื่อง?” เทย์แกล้งถามไปงั้นแหละทั้งที่เขาเองก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเพื่อนเขาพูดถึงเรื่องอะไร ก่อนจะหันไปมองตาควีนเพื่อยืนยัน
คำตอบ สายตาที่แน่วแน่แทนคำตอบที่ได้รับทำเอาเขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

“มึงนี่นะคินตา เรื่องแค่นี้เอง”

“กูรู้แต่กูทำไม่ได้”

“มันไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย แค่มึงเปิดใจเองนะ จะปล่อยให้มันเป็นแบบเดิมอีกเหรอ”

“ไม่รู้” ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเห็นใบหน้าสวยๆของควีนแสดงความรู้สึกสับสนสุดๆเหมือนคนหนทางที่หาทางออกให้ตัวเองเจอไม่กี่
ครั้งในชีวิตและครั้งนี้เองเป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นเป็นบุญตาขนาดนี้

“คินตา นี่มึงชอบพี่คิงขนาดนี้เลยเหรอ” เขาอดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่คนที่ทำให้ควีนเป็นได้ถึงขนาดนี้คือพี่คิง

“เปล่า” ถึงเจ้าตัวจะปฏิเสธแต่เอาเป้นว่าเขาจะเข้าใจอย่างที่เขาคิดแล้วกัน

“แล้วถ้าเขาไม่ได้เขามาทำให้มึงเป็นขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งทำหน้าสับสนชวนปวดขี้ขนาดนี้นี่หว่า มึงจะไม่เป็นอะไรเลยถ้า
ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาขนาดนั้นก็แค่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างที่มันเคยเป็น แค่นี้เอง และมึงก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย”

“กูคิดถึงป๋าว่ะ”

“คินตา” เทย์เรียกชื่อควีนอีกรอบที่ดูจะไม่ฟังที่เขาพูดเลยสักนิด “อย่าหนีความรู้สึกและปัญหาของตัวเองอย่างนี้สิ”

“เสาร์อาทิตย์นี้ว่าจะกลับไปหาเขา”

“ให้มันจริงเหอะ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะอย่างอื่นนะ” ป่วยการที่เทย์จะดึงดันกับคนหัวดื้ออย่างคินตา

“อือ”

“นานไหม”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“แล้วพี่คิงมึงล่ะ”

“เรื่องของกูเถอะ”

“เหอะ ใช่ซี่ กูไม่ใช่พี่คิงสุดหล่อของมึงนี่” แกล้งเอามือกกอดอกแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง

“อะไรงอนกูเหรอ” ควีนเอียงหน้ามองเทย์

“เหอะ กูผู้ชายแมนๆเรื่องผู้หญิงอย่างนี้เขาทำกัน”

“อือ อย่างอนเลยมันน่ากลัว”

“ฮ่าๆๆ ไอ้เหี้ย มึงง้อกูบ้างให้ความสำคัญกูบ้างก็ได้นะบางที” เทย์หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจเพราะเขารู้ดีว่าควีนไม่เล่นอะไรตามเขา
หรอกและไอ้ที่ทำไปเมื่อกี้ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวว่าผู้ชายตัวโตอย่างเขาทำแล้วมันทุเรศแค่ไหน

“แล้วนี้ไม่กลับหอหรือไง” เทย์ถามเมื่อเห็นควีนล้มตัวลงนอน

“ไม่อ่ะ”

“แล้วรูมเมทกระต่ายมึงอ่ะ ไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งรอแล้วเหรอป่านนี้”

“วันนี้จูนไม่อยู่ กลับบ้าน ................ทำไม” เทย์พยักหน้าเข้าใจ

“เปล่า” ควีนหรี่อย่างจับผิดเพื่อนตัวดีของเขา

“ก็เห็นติดมึงอย่างกับเป็นลูก”

“ฮึๆๆ” เมื่อนึกถึงคนตัวเล็กของเขาก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มอย่างเอ็นดู “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่กับจูนเท่าไหร่เลย”

“มัวแต่ตัวติดอยู่กับผัวสินะ” ทันทีที่เทย์พูดอย่างนั้นควีนก็ปาหมอนใส่เทย์อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ของเทย์ขึ้น
มาส่องเล่นในขณะที่เทย์แยกตัวไปอาบน้ำ และควีนก็มาสะดุดกับไลน์ส่วนตัวของเทย์ที่อยู่ๆก็มีรายชื่อจูนที่เป็นเพื่อนรวมอยู่ด้วย
แต่ก็ไม่เคยมีประวัติการแชทอะไรเมื่อเขากดเขาไปดูเพื่อให้แน่ใจว่านั่นคือรูปของจูนจริงๆ ควีนยักไหล่อย่างไม่สนใจเพราะไม่ว่า
เทย์จะมีไลน์ของจูนได้อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเพื่อนทุกคนของควีนเทย์มักจะรู้จักและชอบขอเบอร์ไว้ทั้งหมด ที่ทำไปไม่
ได้หมายความว่าเทย์เป็นห่วงอะไรเขาจริงๆหรอก เขาเอาไว้ติดต่อสาวๆต่างหาก ไอ้เพื่อนตัวดีของเขามันร้ายจะตาย จะว่าไปควีน
เองก็รู้สึกคิดถึงคนตัวเล็กของเขาเหมือนกันแฮะช่างนี้ไม่ค่อยมีกระต่ายตัวน้อยมาคลอเคลียเท่าไหร่ ก่อนจะตัดสินใจโทรวิดิโอคอ
ลหาจูนผ่นไลน์ของเทย์ เขาถือสายรออยู่สักพักก่อนที่จูนจะรับสาย

“นั่น.. ควีน!!!!!” จูนที่ตอนแรกเหมือนจะทำหน้างงอยู่ว่าไลน์ของใครที่ทรมาหาเขาก่อนจะตกใจตาโตเมื่อเห็นว่าใครอยู่ในสาย

“ฮึๆ ว่าไงครับ” ควีนยิ้ม

“ทำไมควีนถึงโทรมาได้อะ”

“ไลน์เพื่อนนะ”

“อ่ออออ คิดถึงควีนจัง” จูนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะส่งยิ้มหน้ารักมาให้เขา

“ฮึๆ”

“อ้ะ!!” ควีนชะงักไปเพราะอยู่ดีๆจูนก็เอามือมาปิดตาตัวเอง ก่อนจะเห็นว่ามีร่างเปล่าเปลือยของใครบางคนสะท้อนอยู่ในกรอปรูป
เล็กๆที่โชว์หน้าผู้ถือสายอยู่ใกล้ๆควีน

“ไอ้เทย์! ไอ้ห่า ทำอะไร” ควีนปาหมอนใส่เทย์ที่ทำตัวหน้าไม่อายต่อหน้ากระต่ายน้อยของเขา ถึงจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติของ
เทย์ที่ชอบเปลือยออกมาจากห้องน้ำก็เถอะ เพราะเขานะเห็นจนชินแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าเทย์จะเดินเข้ามาผ่านเลนส์กล้องทั้งๆที่รู้ว่า
เขากำลังคุยกันกับคนอื่นอยู่แบบนี้

“เอ้า ก็ใครจะไปรู้หละว่าคุยวิดิโอคอลอยู่ กูก็ทำตัวปกตินิ”

“รีบไปแต่งตัวเลยนะมึง”

“แหม่ แค่นี้ทำเป็นไล่ ทำกับอย่างไม่เห็นเนอะ กระต่ายน้อยของไอ้คินตา” เทย์โค้งตัวลงไปใกล้ๆหน้าจอเพื่อที่จะคุยกับจูนและ
เป็นจังหวะที่จูนเอามือเปิดตาออกพอดี ทำเอาแก้มใสๆนั่นเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดก่อนจะก้มหน้าลงแทบไม่ทันเพราะความเขิน
อาย เทย์ยกยิ้มอย่างพอใจกับปฏิกิริยาของคนในหน้าจอ “ผู้ชายด้วยกัยทั้งนั้นเปล่าว่ะ”

“ไปเลยไอ้เทย์” ควีนไล่เทย์ที่หัวเราะอย่างพอใจกับการได้แกล้งคนตัวเล็กของเขาให้ไปแต่งตัวก่อนที่เขาจะพูดคุยกับจูนต่อ
อย่างสนุกสนาน






 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--50%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-03-2016 00:40:45
ป๋าเป็นใครหว่าาควีนมีปมอะไรในใจอะ  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--50%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-03-2016 01:17:47
ป๋าเป็นผู้มีอิทธิพลของควีนในรูปแบบไหนกัน
หัวข้อ: รักปอนๆ -----chapter 21--100%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 25-03-2016 14:38:13
เมื่อเย็นวันศุกร์มาถึงเทย์ก็มารับควีนที่หอเพื่อไปส่งเขากลับไปหาป๋าสุดที่รัก  ในที่ขณะรอสัญญาณไฟแดง เทย์จึงหันมาพูดกับควีน

“นี่บอกใครหรือเปล่าว่าจะกลับ”

“เปล่า”

“แล้วพี่คิงมึงจะไม่ตามหาหรือไง”

“ไม่หรอก”

“อืม ว่าแต่เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเหมือนคนไม่มีจะกินสักทีว่ะ”

“แล้วกูผิดตรงไหน ก็ไม่มีจริงๆนี่”

“ไอ้ห่า” เทย์ผลักหัวควีนด้วยความหมั่นไส้ “จะพูดอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ แล้วเงินที่หามาทั้งชีวิตที่เอาไปเก็บไว้ไหนห้ะ ไม่ทับ
มึงตายแล้วเหรอ เอาออกมาใช้บ้างก็ได้นะ เงินนะถึงมันไม่เน่าเป็นแต่ใช่ว่าจะเก็บไว้เกร็งกำไรได้เหมือนที่ดินนะ”


“ทำไมขี้บ่นนักนะ”

“ก็จะไม่ให้กูบ่นได้ไงล่ะ กูติดต่อกับมึงยากเนี่ยเวลามึงไปไกลๆแล้วอีกอย่างนะคือกูรำคาญไอ้พวกที่หนุ่มของมึงที่ชอบเข้ามาขอ
เบอร์ขอไลน์มึงแล้วแม่งกูก็ไม่มีให้แล้วพวกมันก็ชอบถามต่อว่าทำไมนู้นนั้นนี่”

“แล้วไม่ดีหรือไง กูนึกว่ามึงชอบซะอีกที่มีสาวๆเข้ามาคุยด้วยยาวๆมากกว่าสองประโยค”

“ไอ้สาวๆมันก็ดี แต่ประเด็นคือผู้ชายแม่งเยอะไง”

“ก็ปกตินิ” จริงๆควีนก็พอรู้แหละว่ามันน่ารำคาญแต่กูไม่เห็นว่าเทย์จะเดือดร้อนอะไรขนาดนี้

“มึงไม่เข้าใจหรอกว่ามันยุ่งยากยังไง”

“ทำไม แฟนมึงหึงเหรอ”

“เปล่า” เทย์พ่นลมหายใจ ก่อนจะหันไปมองทางเพื่อออกตัวรถ

“ใคร ขี้หึงหรือไง”

“เปล่า”

“เปล่าจะหงุดหงิดเพื่อ”

“กูหงุดหงิดพวกนั้นต่างนั้นตากหาก”

“อ่อ แฟนสวยสินะ”

“ไม่ใช่แฟน”

“แล้ว...... นี่อย่าบอกนะว่า” ควีนเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

“ก็แค่สัตว์เลี้ยงตัวใหม่มึงไม่จำเป็นต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้” เทย์มันมามองควีนที่ดูท่าทางจะแปลกใจมากกว่าปกติของคนหน้านิ่ง

“ตัวไร”


“ต้องบอก?” เทย์ถามอย่างข้องใจ

“ไม่ต้องก็ได้ แต่มึงอย่าลืมนะว่าถึงจะเป็นสัตว์ก็มีความรู้สึกและหัวใจ”

“เออน่า กูรู้ว่าทำไรอยู่”

“ให้มันจริงเหอะ”

“รีบไปเลยมึงนะ แล้วอย่าติดต่อมาบ้างนะ กูไม่อยากจะเข้าทางป๋าหรอกนะถ้าไม่จำเป็น” เทย์รีบไล่ควีนเมื่อถึงที่หมาย

“อือ รู้แล้ว” ควีนยกยิ้มเมื่อเพื่อนสนิทคนนี้นับวันยิ่งทำตัวเหมือนตาแก่ขี้บ่นไม่มีผิด


“อย่าไปนานนะ”

“จะพยายาม” ควีนพยักหน้าตอบก่อนจะสายเป้ใส่หลังหันหลังเดินไปยังจุดปลายก่อนจะโบกมือสองสามครั้งเพื่อบอกลาเทย์ทั้งที่

ยังหันหลังอยู่ เทย์ได้แต่ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับเพื่อนตัวดีก่อนจะหยิบแว่นตากันแดดขึ้นมาใส่แล้วยกยิ้มอย่างมีเลศนัยและ
กระตุกเกียร์เพื่อออกรถไปหาเป้าหมายของตัวเองเหมือนกัน





               เช้าวันจันทร์อันหน้าเบื่อของทุกคนๆที่ต้องขุดตัวออกจากที่นอนหลังจากพักผ่อนและแฮงค์เอ้าท์กันมาอย่างหนักหน่วงแต่ภาระกิจที่ยิ่งใหญ่ที่ส่งผลต่อนาคตอันสดใสที่รออยู่ข้างหน้าทำให้เหล่านักศึกษาของขุดซากศพของตัวเองขึ้นมาให้ได้ไม่ว่าจะเหตุใด
ก็ตาม

“มึง คินตาไปไหนว่ะ” เกรซถามเทย์

“กลับบ้าน”

“ห้ะ! กลับบ้านตอนไหนวะทำไมไม่รู้เรื่องเลย”


“กลับวันศุกร์”

“แล้วจะกลับวันไหนอะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“อ่อ”






“คุณเทย์ครับ เมื่อไหร่คุณคินตาจะกลับครับ นี่คุณคินตาขาดเรียนมาอาทิตย์หนึ่งแล้วนะครับ”  มหาที่นั่งทำงานอยู่บนคอนโดของเทย์กับกลุ่มเพื่อนถามขึ้นเพราะไม่เห็นว่ามีจะวี่แววควีนจะกลับมาเลย จะติดต่อก็ไม่ได้เพราะโทรไปเทย์ก็เอาแต่บอกว่าควีนอยู่ไกลไม่มีสัญญาณ จะติดต่อทางโซเชียลยิ่งแล้วใหญ่ ควีนเล่นของพวกนี้ซะเมื่อไหร่กัน

“แกแน่ใจนะเทย์ว่า คินตาไม่ได้เป็นอะไรหรือมีปัญหาอะไรนะ” มดถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรหรอกน่า พวกมึงอย่าห่วงไปเลย”

“ก็คนมันอดเป็นห่วงไม่ได้นี่ เล่นงีบหายไปแบบไร้ตัวตนขนาดนี้”

“เดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ”

“แล้วเมื่อไหร่จะกลับเล่า ยิ่งสวยๆอยู่ไม่ใช่ว่าโดนจับตัวไปแล้วนะ”

“เวอร์นะมด”เทย์ตอบกลับเหมือนไม่ใส่ใจแต่ใช่ว่าเขาจะไม่เป็นห่วง เพราะตอนแรกเขาก็คิดว่าควีนจะกลับ

เสาร์อาทิตย์เท่านั้น แต่นี่กลับไปหายไปเป็นซะอาทิตย์ซะงั้น แต่ถ้าหายไปนานเกินสองอทาทิตย์เทย์เองก็ต้องพยายามหาทาง
ติดต่อควีนให้ได้เหมือนกัน

กริ้งงงงงง ในระหว่างที่ทุกคนนั่งทานข้าวพักเบรกกันอยู่เสียงกริ้งหน้าห้องก็ดังขึ้น เทย์จึงวางตะเกียบลงทั้งเพิ่งจะนั่งลงและยังไม่
ได้เอาก๋วยเตี๋ยวเข้าปากเลยสักคำแล้วลุกไปเปิดประตู แต่กลับต้องแปลกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือ ลูกน้อยของควีน ก็จะ
ใครซะอีกถ้าไม่ใช่จูนที่ยืนทำหน้าเหมือนอมทุกข์ที่โดนผู้ใหญ่รังแกมายังยังงั้น

“เอ่อ” จูนได้แต่อึกๆอักเมื่อเห็นสายตาของเทย์ที่มองตนอยู่

“มีอะไรเหรอ”

“ควีนหายไปไหนเหรอ ทำไมไม่กลับมาซักที”

“เข้ามาก่อนซิ” เทย์ไม่ทันตอบบคำถามแต่ดึงข้อมือคนตัวเล็กให้ดินตามเข้ามาให้ของเขาที่มีเพื่อนๆรวมตัวกันอยู่

“มะ ไม่เข้า..จูนแค่จะมาถามเรื่องควีน” จูนพยายามยื้อตัวเองออกแต่ก็ไม่สำเร็จ

“กลัวอะไรเพื่อนเยอะแยะ”

เคร้ง!  เสียงตะเกียบเหล็กที่มหาทำหล่นลงเพื่อนหลังจากที่รู้ว่าเทย์พาใครเข้ามา

“เอ่อ สวัสดีครับ” จูนกล่าวทักทุกคนที่ดูจะแปลกใจกับการเข้ามาของเขา

“อ้าว จูนรูมเมทของคินตานี่หนา มานั่งสิกินข้าวกัน” มดยิ้มสดใสทักทาย

“อ่อ ไม่เป็นไรหรอก เราแค่จะมาถามเรื่องควีนนะ”

“ควีน อ้อคินตานะเหรอ” มดทำท่าคิดก่อนจะนึกออกว่าควีนนั้นคือฉายาของคินตาที่หลายคนเรียก

“อื้อ” จูนพยักหนาตอบและยิ้มน่ารักตอบกลับทำเอามดและเกรซยิ้มตามให้กับความน่ารัก ถึงว่าทำไมควีนเวลาพูดถึงเมทตัวเอง
แล้วเขามันจะยิ้มละมุนเหมือนรักเพื่อนคนนี้มากๆ ถ้าใครมาเจอรอยยิ้มบริสุทธิ์ขนาดนี้ก็ไม่แปลกใจเลยที่ควีนมีอาการอย่างนั้น แต่
ดูเหมือนจะมีอีกคนที่ไม่มีอาการเหมือนคนทั่วไปมีต่อจูนก็คงจะเป็นมหานี่แหละ ที่ยังนั้งค้างอยู่ท่าเดิม

“เห้ย มหาเป็นไรเนี้ย” มดทัก มหาถึงสะดุ้งรู้สึกตัว

“อ่อ เปล่าครับ” มหาหันหน้ามาตอบแล้วหันหน้ามามองจูนที่ยังส่งยิ้มค้างให้เขาอยู่ก่อนจะยืนถ้วยก๋วยเตี๋ยวมาด้านหน้าจูน “กิน
ข้าวด้วยกัน เอ่อ .....ไหมครับ

“อ่อ ไม่เป็นไรหรอกเรายังไม่หิว ขอบคุณนะ”

“กินสิ อร่อยนะ” เทย์ยื่นถ้วยก๋วยเตี๋ยวอีกชามที่เป็นของเขาให้จูน

“ไม่ จูนแค่จะมาถามเรื่องควีนเฉยๆ” จูนตอบ

“กินก่อนสิแล้วจะบอก” เทย์ไม่ตอบคำถามแถมยังบังคับให้คนตัวเล็กนั่งลงข้างๆโดยการฉุดมือที่ยังไม่ได้ปล่อยจูนตั้งแต่เดินเข้า
มา

“อ้ะ!แต่จูนจะมาถามแค่เรื่องควีนแล้วจะกลับเลยนะ ไม่อยากรบกวนเพื่อนๆกัน”

“โอ้ย ไม่เป็นไรหรอกจูน นั่งกินด้วยกันก่อนก็ได้นะๆๆๆ ถือว่าเราขอร้อง” เกรซที่ดูเหมือนจะตกเป็นทาสของจูนเหมือนพวกสาวก
น้องแมวทั้งหลายที่แพ้ภัยให้กับความน่ารักของพวกมันไปอีกคน เมื่อคนสวยๆอย่างเกรซขอร้องมาซะขนาดนี้กระต่ายน้อยที่จิตใจ
อ่อนไหวขนาดนี้จะปฏิเสธก็ยากไปใหญ่แม้ว่าเขาเองอยากจะออกไปแล้วก็เหอะ

“เอ่อ” จูหันไปมองหน้าทุกคนที่ดูจะทำหน้าขอร้องเขาสุดฤทธิ์รวมทั่งเทย์ที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่ทำให้เขาเข้ามาอยู่ในห้องนี่ตั้งแต่แรก
แถมยังยกยิ้มเหมือนตลกมาให้เขาอีกต่างหาก “เห้อออ ก็ได้ครับ”

“อะ” เทย์ยื่นตะเกียบไปให้จูน ก่อนจะหยิบจานข้านพัดทะเลของตัวเองที่ซื้อมาเผื่อไม่อิ่มก๋วยเตี๋ยวที่ยกให้จูนไปแล้วออกมาเพื่อ
ที่จะกิน

“เอ่อ” จูนที่ถึงแม้จะบอกว่าไม่หิวในตอนแรกแต่พอเห็นอาหารจริงๆมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหิวขึ้นมา “คือว่า” จูนที่ทำหน้าอึกอัก
แล้วมองไปยังข้าวพัดที่อยู่ในมือของเทย์

“อะไร”เทย์หันมามองจูนในขณะที่เขากำลังจะตักข้าวเข้าปากเลยต้องลดมือลงก่อนจะวางช้อนแล้วเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ตรง
หน้าจูนมาเปลี่ยนกับข้าวพัดตัวเองนั่นจึงทำให้จูนยิ้มกว้างทันที

“ขอบคุณครับ” เทย์พยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปสนใจอาหารตัวเองต่อปล่อยให้คนตัวเล็กได้กินข้าวพัดอย่างสมใจแต่ยังไม่ทัน
จะได้เอาก๋วยเตี๋ยวสักเส้นเข้าปาก เสียงกริ้งหน้าห้องก็ดังขึ้นอีกรอบ เทย์ถึงกลับถอนหายใจแล้วลุกขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วไป
เปิดประตู

“คินตาหายไปไหนเหรอ” และคนประโยคเดิมที่เขาได้ยินจากแขกผู้มาขัดจังหวะการกินข้าวของเขาครั้งที่สองแต่เปลี่ยนบุคคล
และใบหน้าที่บ่งบอกถึงความจริงจังที่มากกว่าคนแรก

“พี่คิง”











หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--100%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-03-2016 16:25:25
หายไปให้คนเขาห่วง  :katai1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--100%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2016 16:58:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--100%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 26-03-2016 22:37:37
Chapter 22


“คินตาไปไหนเหรอ” คิงถามซ้ำอีกรอบ

“ไม่รู้เหมือนกัน คินตาไม่ได้บอกไว้”

“จำเป็นต้องปิดบัง?”

“เปล่าครับ”

“ไม่รู้หรือไม่ยอมบอกกันแน่”

“เดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก”

“แล้วเมื่อไหร่จะกลับ”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“อือ” คิงพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่ยอมกลับไป และยังยืนจ้องเทย์อยู่ เทย์เลยได้แต่ถอนหายใจ

“เดี๋ยวมันก็กลับเองแหละพี่ ไม่ต้องห่วงหรอก มันเป็นแบบนี้แหละ มีปัญหาที่ต้องเคลียร์กับตัวเองก่อน ถ้ามันจัดการความรู้สึกตัว
เองได้เมื่อไหร่เดี๋ยวมันก็กลับมา ไม่นานหรอก พี่จะรอมันหรือเปล่าละ” เทย์ถามเหมือนเป็นประโยคทั่วไปแต่ความหมายที่แฝงอยู่
คิงรู้ดีว่ามันคืออะไร

“เปล่า แค่อยากจะมาบอกว่าพี่อาจจะต้องหายไปสักพักเหมือนกันถ้าหากเขากลับมาแล้วพี่ไม่อยู่ ฝากแกบอกด้วย”  เทย์เลิกคิ้ว
อย่างแปลกใจไม่คิดว่าเขาจะคาดการสถานการณ์ผิดไป

“แล้วไงต่อ”

“ถ้ามันจะเปลี่ยนไป พี่คงทำอะไรไม่ได้หรอก” เทย์พยักหน้ารับรู้ก่อนที่เตรียมปิดประตูแต่มือเล็กๆของคนจูนก็ดันไว้ก่อน

“พี่คิง! มาทำไรที่นี่อ่ะ”

“อ่อ มาหาเทย์นะแต่จะกลับแล้ว แล้วนี่เรามาทำไร”

“จูนตามหาควีน แต่เทย์ไม่ยอมบอกเลยว่าควีนไปไหน เอ่อ” จูนหันไปมองหน้าคนตัวโตกว่าอย่างกล้าๆกลัว “แต่จูนจะกลับแล้ว”

“อ้าว อิ่มแล้วเหรอ ไม่นั่งเล่นอยู่นี่ก่อนหละ” เทย์ถาม

“มะ ไม่ จูนจะกลับแล้ว” จูนส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่คิงรอจูนด้วยสิ”

“ครับ” คิงตอบรับก่อนจะพยักหน้าบอกลาเทย์ที่กำลังจ้องมายังกระต่ายตัวน้อยของควีนที่พยายามจะโบกมือลาเบาๆด้วยมารยาท





.

.

.

.

“ว่าไงคนสวยของป๋า มานั่งตากลมอะไรตรงนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ชายหนุ่มวัยกลางคนหน้าตาดี ดูภูมิฐานเหมือนนักธุรกิจ นั่ง
ลงข้างๆควีนแล้วจูบที่ขมับของเขาอย่างรักใคร่

“เปล่าครับ แค่วิวตรงนี้มันสวยดี”

“แล้วนี่จะกลับไปเรียนเมื่อไหร่”

“ยังไม่รู้เลยครับ”

“เป็นอะไรฮึ มีเรื่องกับเพื่อนที่นู้นเหรอ หรือว่าใครทำอะไรสุดที่รักของป๋า”

“เปล่าครับ แค่ยังไม่อยากกลับยังไม่หายคิดถึงป๋าเลยไม่อยากกลับ” ควีนหันหน้าไปยิ้มเจ้าเล่ห์ตามสไตล์เขาใส่ป๋า


“ฮ่าๆๆ” ฟอด!!! บุคคลที่ควีนเรียกว่าป๋าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและหอมแก้มควีนเป็นรางวัลที่พูดคำหวานหยอดเขาให้ชื่นใจ “อย่า
มาปากหวานใส่ป๋าเลย เดี๋ยวป๋าก็จะเปลี่ยนใจไม่ให้กลับแล้วอยู่กับที่นี่ถาวรซะเลย”
“แล้วภรรยาป๋าเขาไม่ว่าหรือไง ไม่ใช่โกรธป๋าแล้วเหรอป่านนี้เล่นมาหาผมไม่บอกเขาแบบนี้”

“โอ้ย รายนั้นเขาสนใจป๋าที่ไหนกัน มั่วแต่สนใจงานศิลปะบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้”

“นี่” ควีนตีมือป๋าอย่างหมั่นเขี้ยว “ทำไมพูดจาไม่น่ารักอย่างนี้ละครับ เดี๋ยวผมจะไปฟ้องคุณนายซะเลย”

“ไปฟ้องเลย ไม่กลัวหรอก มีแต่เรานั้นแหละที่จะโดนเขาเล่นงานให้”

“ฮึๆ คอยดูละกันครับ” ควีนทำหน้าจริงจังจนป๋าเองเริ่มหน้าเปลี่ยนสี

“อย่ามาขู่ซะให้ยากเลยเรา เดี๋ยวจะโดนฟัดให้ไม่เหลือซาก”

“กล้ารึไงครับ” ป๋าจีบจมูกควีนไปมาด้วยความหมั่นไส้

“อย่ามาท้าทายซะให้ยากเลย” ควีนหัวเราะน้อยๆแล้วโถมตัวไปกอดเอวอย่างเต็มแรงแล้วแกล้งกัดไปตามตัวของอีกฝ่ายจนป๋า
หัวเราะไม่หยุด ทั้งคู่เล่นจนเหนื่อยหอบจึงหยุดแต่ควีนก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวออกจากป๋าแถมยังซกุตัวกับเอวป๋าแน่นกว่าเดิม ป๋าได้
แต่ลูบผมควีนไปมาอย่างเอ็นดู

“ป๋า” ควันพูดเสียงอู้อี้ลอดอออกมา

“ครับ”

“ผมสับสนจัง”

“เรื่อง?”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“อ้าว ไม่รู้ได้ไง ตัวเองเป็นอะไรจะไม่รู้ได้ไง” ป๋าถามเสียงกลั้วตลก

“ก็มันไม่รู้จริงๆนี่นา”

“ทำไม เรื่องผู้ชายเหรอ” เมื่อป๋าพูดแบบนั้นทำให้ควีนเอียงหน้าออกมามองป๋า “หรือว่าแฟน”

“ผมเป็นผู้ชายนะ”

“อ้าว นี่เราไม่ใช่ผู้หญิงหรอกเหรอ” ป๋าแกล้งทำเสียงแปลกใจทั้งทำหน้าตาตกใจเกินเหตุ

“ใช่ที่ไหนกันละ ก็เห็นๆกันอยู่” ควีนตอบแค่นั้นแล้วซุกตัวเข้ากอดเอวป๋าเหมือนเดิม

“อะไร พูดแค่นี้งอนหรือไง ป๋าไม่ง้อหรอกนะ” ควีนไม่ตอบ “ช่วยดูหน้าตัวเองหน่อยนะคินตา ว่าเรามันสวยขนาดไหน ถ้าเราเดิน
มากลับผู้ชายใครก็คิดว่าเรานะเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นทั้งนั้นแหละ”

“พูดไปเรื่อยนะป๋า”

“พูดไปเรื่อยอะไรหละ เรื่องจริงทั้งนั้นแล้วนี่เมื่อไหร่จะเลิกทำงานกลางคืนซะที” ป๋าถามเสียงขุ่น ค่อนข้างไม่พอใจที่รู้ว่าควันยัง
ทำงานนอยู่ทั้งที่เงินที่เขาให้ก็ยังใช้ไม่หมด

“ก็คนมันไม่มีจะกินนี่”

“นี่แนะ” ป๋าเอาหัวโขกอีกฝ่ายอย่างแรง “ตอแหล”

“ป๋า! พูดอะไร ไม่น่ารักเลย”

“พูดไม่น่ารักแล้วรักไหมล่ะ      เออๆ พูดหยอกเล่นไม่ได้หรือไง แค่นี้ทำมาเป็นจริงจังไปได้” เมื่อเห็นว่าควีนเริ่มจะไม่อยากเล่น
กับตัวเองเท่าไร่จึงได้เลิกแกล้งแย่

“ขอทำก่อนอีกหน่อยได้ไหม ยังไม่อยากเลิกเลย”

“ทำนะทำได้แต่มันอันตรายก็รู้นี่ อย่าคิดว่าป่าไม่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรานะ ป๋าเป็นห่วงนะรู้ไหม” สายตาที่แสดงถึงความรักและ
เป็นห่วงถ่ายทอดมายังควีนจนเขารู้สึกได้นั่นทำให้หันใจที่แสนจะวุ่นวายสงบลงได้อย่างน่าประหลาดใจ

“เลิกแล้วผมจะได้อะไร” ควีนส่งสายตาท้าทายไปให้

“อย่ามามีเงื่อนไขกับป๋านะ แค่ที่ให้เรามาทั้งหมดยังไม่พอรึไงกัน จะมีก็แค่บ้านพร้อมที่ดินที่ป๋าอยู่ตอนนี้แล้วหละที่ให้ได้”

“งั้นขอ”

“งั้นรอคุณนายตายก่อนเท่านั้นแหละ เราถึงจะได้บ้านหลังนั้นไป เดี๋ยวป๋าเขียนพินัยกรรมไว้ให้”

“ฮึๆๆ” ควีนหัวเราะเบาๆ

“ว่าแต่ถ้ายังไม่มีกำหนดกลับงั้นไปทำงานให้ป๋าก่อนได้รึเปล่า เดี๋ยวจะสมนาคุณรางวัลให้เยอะๆเลย”

“งานอะไร”

“เอาไว้ลุ้นทีหลังแล้วกัน ว่าแต่ตอนนี้ไปทำอาหารให้กินก่อนได้เปล่า ป๋าหิงง่ะ” ป๋าทำหน้าอ้อนวอนเหมือนเด็กที่หิวข้าวแล้วอ้อน
แม่ของตัวเอง

“ครับ” ควีนตอบรับจากนั้นทั้งสองคนจึงลุกขึ้นและกอดเอวกันตรงเข้าไปในตัวบ้าน





 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 21--100%-- <24/03/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-03-2016 23:12:52
ถ้าคิงหายไป จะดราม่าไหมนิ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <23/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 23-05-2016 13:00:04
หนึ่งเดือนผ่านไป



“นี่....เมื่อไหร่จะกลับ” น้ำเสียงเยียบเย็นกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่เรียบนิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนเลยว่าไม่พอแค่ใจมากแค่ไหน

“เอ่อ.. ยังไม่รู้เลยครับ” ควีนที่ตักข้าวใส่ปากชะงักไว้ก่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าคมสวยของสาวรุ่นใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามตนที่
กำลังส่งสายตากดดันเพื่อรอคำตอบจากควีน

“นี่มันเป็นเดือนแล้วนะที่ยูมาอยู่นี่นะ!” สาวรุ่นใหญ่เสยผมที่รกรุ่งรังชี้ฟูไม่เป็นทรงของเธอขึ้นพร้อมทั้งขึ้นเสียงดังเล็กน้อยแสดง
ความไม่พอใจให้ควีนรับรู้

“ครับ ผมรู้” ควีนถอนหายใจและก้มหน้าลงไปกินข้าวต่อแม้จะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่จะต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้

“นี่ คุณนาย! ให้มันน้อยๆหน่อย เครียดเรื่องงานแล้วจะมาพาลคนอื่นอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน” ป๋าของควีนเอ๋ยขึ้นเมื่อรู้สึกไม่โอเค
กับการที่คนรักของตนจะเครียดเรื่องงานแล้วมาพาลใส่ควีนแบบนี้

“เฮอะ นี่ดาร์ลิง ยูไม่ต้องมาเถียงไอเลยนะ ไอไม่ได้พาลไอแค่ถามคินตาๆเฉย ไม่ได้รึไง”

“เฮอะ” ป๋าร้องออกมาเบาๆหลังจากที่คนรักของเธอตอบกลับมา ทำมาเป็นพูดว่าไม่ได้พาลน้ำเสียงอย่างนี้แหละ ที่คนรักเขาชอบ
ทำประจำเวลาหมกมุ่นเรื่องงานมากจนเครียดแต่จริงๆแล้วการวาดภาพของศิลปินระดับโลกอย่างเขาแล้วมันก็คงเป็นงานที่จิ๊บจ้อย
มาก แต่ที่เป็นอยู่นี่เขาเรียกว่านี่นิสัยส่วนตัวมากกว่า เหมือนอย่างที่คนไทยเขาชอบเรียกกันอะ ผีเข้าผีออกมากกว่านะสิ อารมณ์
ศิลปินที่คนทั่วไปอย่างเขาจะเข้าใจแม้ว่าเขาเองจะใช้ชีวิตกับเธอมาครึ่งค่อนชีวิตแล้วก็ตาม

“ว่าไงละยูอะ จะตอบคำ ถามไอได้ยัง”

“เดี๋ยวก็กลับแล้วครับ” ควีนไม่ตอบเปล่าพร้อมทั้งตักสลัดไปใส่จานให้เธออย่างรู้สถานการณ์ดีว่าควรจะเอาใจเธอไว้ก่อนเพราะยัง
ไงถ้าเรื่องกินที่เธอชอบแล้วถึงจะอารมณ์ขุนมัวมากแค่ไหนก็สามารถกินของโปรดได้แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นก็ตาม

“ยูกลับไปซะทีเถอะ นี่อะไรมาอยู่ที่นี้ไม่เห็นจะทำอะไรนอกจากการที่ยูนอนอยู่บ้านสวยๆรบกวนสมาธิในการทำงานของไอแล้ว
ยังจะมาทำให้คนอื่นคิดว่าผู้หญิงของป๋าคือเธออีกนะ”

“ขอโทษครับ” ควีนได้แต่ยิ้มรับ ก่อนจะตักเบคอนไปให้เธออีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้ตักใส่จานแต่ป้อนใส่ปากให้เธอเลย


“นี่คุณ อย่ามาพูดจาแบบนี้เขาคินตาของผมนะ” ป๋าพูดอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมทั้งตักไข่ดาวป้อนให้เธอจนอาหารนั้นเต็มปากแต่ก็
ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย

“เออๆ ปกป้องกันเข้าไป อย่าให้ถึงทีของฉันนะ นี่ยู! ไอไม่ชอบแตงดองเอาออกเลย เอาแค่เนื้อมาอย่างเดียวพอ” คินตาระบาย
ยิ้มออกมาเมื่อเธอทั้งบ่นควีนไปด้วยแต่ก็ยังมีความสุขกับการที่เขาป้อนอาหารให้ไม่หยุดปาก เอาใจยากจริงๆผู้หญิงคนนี้ “ขาด
เรียนนานๆ ระวังโง่นะ”

“ครับๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับแล้วครับ ไม่อยู่กวนใจคุณนายแน่นอน” ควีนตอบกลับ

“อะไรกัน จะกลับแล้วเหรอคนสวยของป๋า ยังไม่กลับได้เปล่า” ป่าถามเสียงกระเง้ากระงอดคล้ายเด็กโดนขัดใจ

“ฮ่าๆ ไม่ได้หรอกครับ แค่นี้ก็จะโง่เหมือนที่คุณนายบอกแล้วนะ แล้วอีกอย่างนี้ก็ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วด้วย”

“หว้า เสียดายจังว่าจะพาเที่ยวก่อนซะหน่อย”

“เอาไว้ช่วงปิดเทอมแล้วกันครับ”

“อืมม ก็ได้ สัญญากับนะ” ป๋ายกนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์การให้คำสัญญาของเขาและควีน

“ครับ” ควีนยกนิ้วมาเกี่ยวก้อยกับป๋า ยกยิ้มอย่างเอ็นดูคนตรงหน้าที่ทำอะไรช่างไม่เข้ากับอายุของตัวเองเอาซะเลย

“นี่!!!!!! หยุดทำการกระทำแบบนั้นต่อหน้าไอซะที เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย” คุณนายของป๋าเอ๋ยขึ้นเสียงดังพร้อมทั้งชีหน้าทั้งป๋า
และควีนด้วย “เลิกตักนั่นตักนี่มาให้ฉันสักทีฉันจะอ้วกแล้ว  ไอว่ายูคงอิ่มแล้วแหละ ช่วยไปหยิบของหวานในครัวมาให้ไอด้วย”
ควีนที่กำลังจะตักอาหารใส่ปากอีกรอบต้องจำใจวางช้อนลงแล้วพยักหน้าตอบรับคำสั่ง


“นี่คุณนายจะแกล้งคินตาทำไมฮะ เห็นไหมว่าเขากำลังทานข้าวอยู่” ป๋าเอ็ดคนรักของตนแต่เธอหาหาได้สนใจไม


“เอาบัวลอยไข่หวานไหมครับ ผมทำเองเลย” คินตาถาม

“ไม่! อะไรที่ยูทำไอจะไม่กินเด็ดขาด”

“งั้นเดี๋ยวผมเอาบัวลอยมาให้นะครับ” ควีนไม่ได้สนใจแต่ระบายยิ้มให้เธอหน่อยๆ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับการกระทำของเธอเลยสักนิด
เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะโทษเธอหรอกที่เป็นต้นเหตุให้เธอเป็นแบบนี้ ถือว่าเป็นการไถ่โทษเธอละกัน

“นี่!!!! ไอไม่กินของหวานที่ยูทำหรอกนะ หยุดเดี๋ยวนี้นะคินตาาาาาาาา” เธอร้องเรียกตามหลังควีนที่เดินเข้าในครัวอย่างรวด

เร็ว

“นี่คุณนายเลิกโวยวายได้แล้ว ที่ไม่อยากกินเพราะมันอร่อยจนหยุดกินไม่ได้สินะ” ป๋าปรามคนรักของตนโวยวายลั่นบ้านทั้งที่ก็อยู่
กันแค่นี้

“เฮอะ ไอจะไม่กินอะไรที่ทำให้ไออ้วนเพราะหยุดกินไม่ได้ทั้งนั้นแหละ เพราะอย่างนี้ไงไอถึงไม่ชอบเวลาที่คินตามาอยู่กับเรา
ขัดใจชะมัดเลย ฮึ่ย!!!” เธอฟึดฟัดแต่ก็ยังไม่หยุดกินทั้งที่ก็บอกควีนว่าอิ่มแทบจะอ้วกแต่ก็ยังกินไม่กินไม่หยุด ส่วนป๋าได้แต่ส่าย
หน้ากับความเข้ายากของผู้หญิง



วัดถัดมาควีนบอกลาป๋าของเขาก่อนจะกลับมาเจอยักษ์ตัวใหญ่ยืนหน้าง้ำงอไม่สบอารมณ์ของเทย์ที่ยืนรอรับเขาที่ลานจอดรถ
นั่นเองจึงทำให้ควีนระบายยิ้มออกมาด้วยความตลก


“ไง” เขาทักทายเทย์แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับมา “อะไรโกรธกูเหรอ” เทย์ไม่ตอบแต่กลับเดินขึ้นรถพร้อมสตาร์ทเครื่องทันที

“.................................”


“นี่ กูไปแค่เดือนเดียวเอง โกรธไรนักหนาวะ ก็กลับมาแล้วนี่ไง ป๋าเขาฝากความคิดถึงมาให้ด้วยนะมึง” ควีนพูดพร้อมกับคาด
เข็มขัดไปด้วย

“..............................”

“นี่ กูมีของฝากมาให้มึงด้วยนะ หนังโป๋เรื่องโปรดที่มึงอยากได้แบบชุดลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีแค่ห้าชุดในโลกนะ ไม่ดีใจเหรอ”

“เฮอะ! ทำมาเป็นพูดดี หายหัวแม่งไปเป็นเดือนพูดอย่างกับหายไปแค่สองวัน ติดต่อก็ไม่ได้เลยไอ้เหี้ย”

“ฮึๆๆ ขอโทษที่ต้องให้เป็นห่วง แต่กูบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวก็กลับ”

“มึงไม่ต้องมาพูดเลย ติดต่อแม่งก็ไม่ได้ อีกนิดเดียวกูก็จะไปตามหามึงเองแล้วนะ นี่อะไร หายไปอย่างกับถูกลักพาตัว มึงรู้ไหม
ว่ากูต้องลำบากทำงานส่งให้มึงด้วยทั้งที่ของตัวเองก็ยังไม่รอด แล้วไอ้ที่ไฟล์งานแม่งเก็บไว้ไหนก็หาไม่เจอ จะโทรตามก็ติดต่อ
ถามไม่ได้ต้องมานั่งงมหน้าเป็นวันๆ มันใช่เรื่องไหมละ” เทย์บ่นยาวเหยียดก่อนจะถอนหายใจหนักๆออกมา

“กูไม่อยู่แค่เดือนเดี๋ยวนี่กลายเป็นตาแก่ขี้บ่นเลยนะ แล้วอีกอย่างมึงโกรธกูเรื่องแค่นี้อะนะ”

“หยุดพูดไป กูยังไม่อยากได้ยินเสียงมึงให้หงุดหงิด”

“เทย์กูขอใช้สิทธิ์ที่มึงแพ้พนันกูตอนที่ตามหาที่รหัส”

“ทำไม มึงจะขออะไร”


“ใช้ง้อมึง ขอให้มึงหายงอนกูเดี๋ยว”

“ไอ้เหี้ยนี่” เทย์ผลักหัวควีนอย่างแรงด้วยความหมั่น ใครเขาใช้วิธีแบบนี่ง้อเพื่อนกัน ถ้าเป็นคนอื่นนี่มีหวังโกรธยิ่งกว่าเดิม ใช้ไม่
ได้เลยจริงๆ

“ฮึๆ เอ้า น้องนาตาชามึงอ่ะ”  ควีนโยนชุดแผ่นหนังไปให้เทย์เมื่อเขามาถึงหอของควีน

“เออ ขอบใจ รีบๆเคลียงานแล้วก็คนของมึงด้วย จะสอบแล้ว  กูรู้มึงเก่งแต่การช่วยไปจัดการเรื่องหัวใจของมึงด้วย ถ้าร้องไห้ขี้มูก
ขึ้นมาอย่าหาว่ากูไม่เตือน”

“อืม” ควีนพยักหน้าตอบก่อนจะหันหลังเข้าหอไปหลังจากที่มองดูรถของเทย์เคลื่อนออกไปจนลับตา


หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-05-2016 20:05:53
ควีนกลับมาแว้ววว. แล้วพี่คิงจะหายไปอีกปะเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-05-2016 23:33:45
ควีนหายไป ควีนสับสน แล้วเคยนึกถึงใจคิงมั่งมั้ย!
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 21-08-2016 23:49:07
Chapter  23 






“กลับมาแล้วเหรอ” คนตรงหน้าสวมกอดผมทันทีที่เห็นสวยๆของควีนที่หายไปร่วมเดือน

“ครับ”  ควีนระบายยิ้มกอดตอบด้วยความคิดถึง เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้หน้าอกเขาจะเปียกหน่อย เลยดันคนตรงหน้าออกเพื่อดูว่าอีก

ฝ่ายไม่ได้ร้องไห้อย่างที่เขาคิดหรือเปล่า “เป็นอะไร”

“ควีนบ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เสียงเล็กใสๆตะโกนอย่างสุดจะทนพร้อมทั้งหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา “หายไปไหนมา รู้ไหมคน

เขาเป็นห่วง จูนตามหาจนอยากจะบ้าตาย”

“โอ๋ๆๆ นี่ไงควีนกลับมาแล้ว” ควีนยิ้มพร้อมลูบหัวจูนด้วยความเอ็นดู

ปึก!


“โอ้ะ” จูนทุบไปที่อกควีนอย่างแรง

“ควีนบ้า!!”


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” คนตัวเล็กได้แต่โวยวายอยู่ในอ้อมกอดของควีนทั้งดีใจทั้งโกรธควีนแต่ก็คิดถึงมากจนไม่อยากจะปล่อยจากอ้อม
กอดของควีน จนจูนโอเคเขาจึงปล่อยให้ควีนได้หายเหนื่อยและเอาแต่ถามควีนว่าเขาหายไปไหนมาแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร
นอกจากว่ากลับบ้านไปทำธุระ

“ควีน จูนหิวแล้วง่ะ ไปหาไรกินกันปินที่ร้านพี่จิลกัน”

“หื้อ ไปดิ”





“น้องควีนนนนนนนนนนนนนนนน  หายไปไหนมา พี่คิดถึง” พี่เดี่ยวทักทายอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าควีนรวมทั้งคนในร้านต่างก็ทัก
ควีนตั้งแต่เข้าเข้าร้านมาจนตอนนี้ก็เข้ามานั่งกินข้าวในห้อง ทำเอาจูนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกว่าพวกเขาจะเข้ามาถึงห้อง
นี้ได้ต้องตอบคำถามนี้ตลอด

“ทำไมควีนไม่ประกาศใส่ไมค์ทีเดียวให้ได้ยินทั้งร้านเลยไปเลยอะ” คนตัวเล็กพูดหน้าง้ำงอก่อนจะตักข้าวเข้าปาก

“ฮึๆ กลับบ้านนะครับ” ควีนตอบ

“เอ้า โมโหอะไรพี่อะจูน พี่ก็อยากรู้นี่ครับ ว่าแต่จะกลับมาทำงานร้านเราอยู่หรือเปล่า”

“ช่วงนี้คงต้องพักไปก่อนครับเพราะว่าจะสอบแล้ว”

“โอเค งั้นพี่ออกไปดูร้านก่อนนะ เออจริงสิควีนเห็นไอ้คิงบ้างเปล่า” ควีนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

“ไม่นี่ครับ”

“อ้าว แล้วนี่มันหายหัวไปไหนของมัน การงานไม่ยอมมาทำงาน”

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็มันเล่นหายหัวหลังจากที่ควีนหายไปได้ไม่กี่วันก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย พี่ก็นึกว่าหนีตามกันไปซะอีก ฮ่าๆๆ” ควีนเองเลยได้
แค่ยิ้มตอบรับทั้งที่ในใจก็แอบกังวลหน่อยๆที่ได้ยินอย่างนี้ “งั้นพี่ไปก่อนนะ”

“ครับ” ควีนพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินตามจูนไปทานข้าว ทั้งสองคนออกมานั่งเล่นที่โซนด้านหน้าอยู่สักพักก่อนจะกลับหอ

“ฮ่าวว ง่วงจัง” คนตัวเล็กที่ทานอิ่มแล้วก็เกิดอาการท้องตึงหนังตาหย่อนเหมือนเด็กๆ เดินลูบท้องปอยๆตัวเองมาขณะที่ควีน
กำลังไขกุญแจเพื่อที่จะเข้าห้อง

ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงเท้าของใครสักคนกำลังเดินมาทำให้ทั้งวีนจะจูนหันไปมอง

“อ่าว พี่พากย์ สวัสดรครับ” จูนกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มน่ารักตามฉบับของเขา ส่วนพากย์ก็แค่พยักหน้าให้

“กลับมาแล้วเหรอ” พากย์ถามด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

“ครับ” ควีนตอบโดยที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคำถามเมื่อกี้พากย์ถามเขาเอง

“ฮึ” พากย์ยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าควีนที่แม้จะแกล้งทำหน้านิ่งแต่สายตากำลังสอดส่องไปด้านหลังเหมือนมองหาใครสักคน “ฝัน
ดี” เขากล่าวลาทั้งสองคนสั้นๆก่อนจะปิดประตูเขาห้องตัวเองทันที

“ครับ” จูนตอบรับด้วยรอยยิ้มที่เห็นฟันแทบจะสามสิบซี่ก่อนจะเดินเข้าห้องไปอีกราย ส่วนควีนยังไม่ได้เดินเขาห้องไปในทันที
เพราะดูเหมือนเขากำลังรอใครบางคนอยู่ แต่ผ่านไปสักพักก็ดูเหมือนจะไม่มีใครผ่านมาเขาจึงเดินเข้าห้องไปพร้อมกับถอนหายใจ
เบาๆ

หมับ!!! 

ข้อมือของควีนถูกใครบางคนจับไว้ก่อนที่เขาจะปิดประตูห้องพอดี ทำให้ควีนต้องเงยหน้าขึ้นไปดูมือปริศนาที่จับข้อมือเขาไว้
ก่อนจะใจเต้นระรัวเมื่อมือหนาที่จับเขาไว้คือคนที่เขาต้องการเจอมากที่สุด

“คิดถึงจัง”

หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 21-08-2016 23:53:49
อ้าว ค้างเลย55
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-08-2016 00:04:40
เอามาฝากนิดหน่อยเพื่อที่จะบอกว่าเค้ากลับมาแบ้วววววแล้วก้จะหายไปอีกรอบ 5555555 ล้อเล่น!!!!
จะพยายามกลับมาต่อให้จบเร็วนี้แหละ. ... มัง555555
หัวข้อ: Re:รักปอนๆ -----chapter 23--100%-- <27/08/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 27-08-2016 09:27:04
“อื้อ” ร่างโปร่งของควีนถูกกระชากทั้งที่ยังไม่ได้ตอบรับอะไรกับร่างสูงเลย ริมฝีปากอ่อนนุ่มถูกประกบรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัวจึง

ทำให้ลิ้นชื้นนั้นเคลื่อนไหวไปทั่วโพรงปาก แม้ว่าควีนอาจจะยังไม่มีสติพอกับการกระทำที่อุกอาจนี้แต่ร่างกายและริมฝีปากนุ่มก็

จูบตอบรับร่างหนาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนร่างกายของเขาคุ้นเคยกับร่างหนานี้เป็นอย่างดี ควีนเอื้อมมือไปประสานกันที่

ท้ายทอยของอีกฝ่ายและตอบสนองอีกฝ่ายโดยไม่ได้ผละหนีไปไหน ทั้งสองแทบจะไม่หายใจเหมือนความรู้สึกนี้มันเอ่ออ้นออก

มา ยิ่งได้สัมผัสอีกฝ่ายความรู้สึกมันยิ่งกระหายจนอยากจะสัมผัสกันและกันอย่างลึกซึ้ง   ควีนผละออกจากร่างสูงเพียงเล็กน้อย

หอบหายใจอย่างหนักด้วยความเหนื่อย ร่างหนาเอื้อมมือมาปัดปอยผมด้านหน้าที่รกใบหน้าเนียนไปออกเพื่อที่เขาจะได้จ้องตาด

วงสวยคู่เขาชอบมองมากที่สุด ร่างหนาจ้องมองดวงตาคู่สวยที่ตอนนี้แสดงความรู้สึกที่หลากหลายออกมาซึ่งยากเกินกว่าที่จะ

คาดเดาได้ว่าอารมณ์ที่เคลื่อนไหวอยู่นี้มันคืออะไรกัน เมื่อควีนรู้สึกว่าเขาทั้งสองยืนจ้องกันโดยไม่ได้ทำอะไรนานพอสมควรจึง

ปล่อยมือออกจากร่างสูงและขยับเล็กน้อยและนั่นจึงทำให้เขาเห็นบุคคลที่สามยืนพิงประตูจ้องมองเขาอยู่ พากย์นั่นเอง ควีนเองก็

ไม่รู้ว่าพากย์นั้นมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร สายตาของเขามันนิ่งเกินไปที่จะเดาได้ แต่เมื่อฟังจากประโยคถัดไปก็พอจะรู้ได้ว่า

พากย์นั้นเขามาตั้งแต่ตอนไหน

“ห้องว่างนะคืนนี้ เต็มที่เลย” พากย์เดินจากไปพร้อมตบบ่าคิงพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย

“ฮึ” คิงหัวเราะเบาๆก่อนจะจับมือควีนเพื่อจะพาเข้าห้องแต่ก็โดนควีนรั้งไว้ก่อน

“กลับห้องก่อน”

“ทำไม”

“จะไปบอกจูนว่าคืนนี้นี้ไม่กลับห้อง”

“ฮึๆ” คิงยิ้มอย่างขบขันเมื่อได้ฟังอย่างนั้นเลยปล่อยมือควีนเพื่อที่จะไปรอในห้อง

“อื้อ...แฮ่กๆ” เสียงครางหวานเบาๆที่กระเส่าไปด้วยแรงอารมณ์ของทั้งสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงภายในห้องน้ำแคบๆ ที่ถึงแม้จะ

ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ทำกิจกรรมนอกเหนือจะทำกิจกรรมวัตรประจำวันอย่างเช่นอาบน้ำแล้ว ห้องน้ำสำหรับหอพักในนั้นก็ไม่

จำเป็นต้องกว้างอะไรมากมายแต่ก็ยังกว้างพอที่คนสองคนจะเข้ามาได้ อาจจะเพราะห้องน้ำมันเล็กไปเลยทำให้อุณภูมิห้องมัน

ร้อนระอุมากขึ้นกว่าเดิมและร่างกายทั้งสองคนจำเป็นต้องเบียดเสียดด้วยเนื้อที่ความแคบของห้องแต่อาจจะถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง

ก็ได้มั้งเพราะดูทั้งสองคนจะพอใจที่มันเป็นอย่างนั้น

“อืม” คิงที่ตะโปมจูบไปตามตัวของควีนอย่างหื่นกระหายราวกับสัตว์ป่ากำลังกัดกินเหยื่อของมันอย่างเมามันส์หลังจากที่สุ่มดู

เหยื่อมานาน ริมฝีกปากของเขาลากเลียตั้งแต่ใบหน้าของควีนลงมาผ่านซอกคอ ก่อนจะฝากฝังรองรอยก่อนผ่านมาไล้เลียยอด

อกสีชมพูระเรื่อที่ชูชันเพราะแรงอารมณ์ คิงลากเลียยอดอกทั้งสองข้างก่อนจะดูดเม้มจนทำให้ร่างโปร่งสั่นด้วยความเสียว

“อื้อ.” เสียงครางหวานของควีนทำให้คิงพอใจเป็นอย่างยิ่งกับผลงานตัวเองที่สามารถทำให้ร่างโปร่งนั้นมีความสุขเพราะตนได้

เขาเงยหน้ามองใบหน้าสวยที่กำลังมองเขาอยู่เหมือนกันด้วยสายตาแพรวพราวในขณะที่ปลายลิ้นเขาก็ยังทำหน้าที่อยู่ ควีนหลบ

สายตาทันทีเพราะไม่สามารถต้านทานกับสายตาของคิงครั้งนี้ได้เพราะเขาเห็นปลายลิ้นชมพูนั้นเล่นงานร่างกายเขายังไงจน

ทำให้เขาเสียดเสียวไปทั่วท้องน้อย ด้วยความหมั้นไส้คิงที่แม้เขาจะหลบตาแต่ก็ยังรู้สึกว่าร่างหนานั้นยังจ้องเขาอยู่ควีนจึง

กระชากกลุ่มผมที่ท้ายทอยของคิงขึ้นมาประกบจูบด้วยความเร้าร้อน จะเรียกว่าแก้เขินก็ได้มั้งเพราะเขาไม่ชินเลยไอ้ความรู้สึกที่

เหมือนจะเขินนะ สู้ให้เป็นความรู้สึกที่ร้อนแรงยังจะดีซะกว่า และนั้นจึงทำให้คิงยิ้มกว้างให้กับความน่ารักของควีนก่อนจะยอมโอน

อ่อนเล่นตามบทรักที่ควีนอยากจะให้เป็น ในขณะด้านบนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอยู่ด้านล่างส่วนอ่อนไหวทั้งสองก็เบียดเสียดกันไป

มา จนส่วนที่อ่อนนุ่มมันแข็งขืนขึ้นมา คิงเบียดควีนจนไปปิดฝนังห้องน้ำโดยเฉพาะส่วนล่างที่เขาขยับสะโพกไปมาเพื่อให้ส่วน

อ่อนไหวรับรู้ถึงกันและกันมากที่สุดก่อนที่คิงจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวทั้งสองด้วยมือหนาของเขาเข้าไว้ด้วยกันก่อนจะขยับเลื่อน

ขึ้นลงจนควีนสั่นด้วยความกระสัน

“อื้อ.......อื้ออ” คิงเคลื่อนไหวมือไปมาจนปลายหัวนุ่มนั้นปริ่มน้ำ ควีนมองหน้าคิงผ่านสายตาว่าตนนั้นไม่ไหวแล้วถ้าหากว่าคิงจะ

ไม่ทำอะไรไปมากกว่านี้ เขานี้แหละที่จะเป็นคนกอดคิงเอง นั่นแหละคิงจึงยอมปล่อยมือก่อนจะหันกดริมฝากไปจุ๊บควีนหนักๆด้วย

ความรักใคร่ก่อนจะจับควีนหันหน้าเขากับผนังเบียดตัวข้าชิดกับแผ่นหลังของควีนก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของ

ควีนแล้วเคลื่อนไหวไปตามความยาวของมันด้วยความเร็วที่จะทำให้ควีนมีความสุขได้

“แฮ่กๆ อื้ออออ” ในขณะที่ควีนกำลังมีความสุขกับความรู้สึกที่คิงเป็นคนชักจูง จู่ๆเขาก็เกิดความรู้สึกเจ็บเบาๆที่ชิ่งทางอ่อนนุ่ม

ด้านหลังเมื่อรับรู้ว่ามีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวเข้าออกอยู่ แต่ความรู้สึกกับส่วนอ่อนไหวนั้นมันมีมากกว่าที่เขาจะรับรู้ได้แม้ว่านิ้ว

ของคิงจะเข้ามามากกว่าเดิม สักพักผ่านไปเมื่อร่างกายปรับสภาพได้เขาก็รู้สึกได้ถึงความเสียวอย่างหนักหน่วงจากทั้งด้านหน้า

และด้านหลังไปพร้อมๆกัน ใช้เวลาไม่นานควีนจึงปลดปล่อยออกมา

“แฮ่กๆๆๆๆๆ”  ควีนหอบเหนื่อยแต่ก็ต้องตื่นตัวขึ้นมาใหม่เพราะความมโหฬารที่กำลังผ่านช่องทางประตูด้านหลังเขามานั้นช่างจุก

แน่นเหลือเกินแม้ว่าคิงจะใช้เจลหล่อลื่นก็ตาม เพราะความเจ็บแล่นริ้วไปทั่วร่างกายเขา ควีนจึงโค้งตัวลงเล็กน้อยและใช้มือค้ำยัน

กับพนังไว้เพื่อให้ร่างกายรับรองความใหญ่โตของคิงไว้ได้ เมื่อร่างกายปรับสภาพได้คิงก็เริ่มเดินเครื่องเต็มกำลัง โจนจ้วงอย่าง

กระหายจนร่างกายของควีนนั้นสั่นคลอน

“อืม”  คิงฮึมฮัมอย่างพอใจที่เข้าได้เข้าไปยังด้านในอุ่นอ่อนที่เขาเฝ้ารอมานาน มองแผ่นหลังเนียนของอีกฝ่ายที่เปียกชุ่มไปด้วย

เหงื่อของแรงอารมณ์และถูกผมดำยาวสลวยปกปิดประปรายเพิ่มความเซ็กซี่ให้อีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

“จุ๊บ / อ้ะ!!” คิงก้มลงไปจูบแผ่นหลังเนียนจนเกิดเสียงในขณะที่สะโพกเขาก็กระแทกเข้าไปในร่างกายควีนอย่างลึกซึ้งจนควีน

ต้องร้องลั่นออกมากเพราะกระทบจุดกะสันของตนอย่างจัง

“อ่าา....แฮ่กๆ..เบา..เบาๆหน่อ..ย อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ” ควีนได้แต่ร้องบอกให้ร่างหนาลดการกระแทกที่ดุดันนั้นลงแต่ก็พูดได้ไม่ดีนัก

และมันก็มันไปแบบนั้นไปจนค่อนคืน





“แฮ่กๆๆ”ควีนแต่ได้หอบหายใจนอนอยู่บนตัวคิงเมื่อกิจกรรมรักของทั้งคนจบลงบนเตียงนุ่มของคิงเองหลังจากที่ทั้งสองกระทำ

บทรักอันเร้าร้อนไปสองรอบก่อนจะกลับมาต่อที่เตียงจนค่อนเช้า ควีนปรือตามองคิงที่นอนเปลือยกายอยู่ด้านล่างเขาพร้อมกอด

เอวบางของเขาไว้แน่น

“คิดถึงถึงเหมือนกัน” ควีนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงบางเบาแต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่เขามีต่อคิงจนคนที่ฟังรับรู้ได้ถึงได้ยิ้ม

บางๆตอบกลับร่างโปร่งมาพร้อม ควีนจึงยืดตัวไปกดจูบที่หน้าผากของร่างหนาอย่างอ่อนโยนก่อนจะนอนซบอกแน่นแล้วหลับตา

ไปด้วยความเพลียแต่ก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก


หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 22--100%-- <22/05/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-08-2016 09:37:10
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 23--100%-- <27/08/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-08-2016 12:48:48
ร้อนแรงมาก แต่ก็เคลียร์กันด้วยนะ
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 23--100%-- <27/08/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 27-08-2016 18:48:32
คุณป๋ากับคุณนายนี่น่าจะพ่อแม่สิ

ชอบคาแรกเตอร์นะ แต่ล่ะคนดูมีเอกลักษณ์ดี
เวลาอ่านนึกภาพออกตามได้เลย
ทั้งเสน่ห์ของควีน ความเท่ของคิง ความหื่นของมหา ความมั่นหน้าของมด ความมุ้งมิ้งเป็นกระต่ายขาวตาแดงของจูน

มาต่ออีกนะคะ ติดตามอยุ่  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 23--100%-- <27/08/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-08-2016 00:15:22
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 24--100%-- <03/10/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 03-10-2016 00:18:28
หลังจากค่ำคืนอันเร้าร้อนที่ควีนและคิงผ่านมาค่อนเช้าทั้งคู่จึงผละจากการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้วหันมานอนข้างๆกันให้

สบายตัวมากขึ้น  ร่างหนาของคิงผลิกตัวเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายมันตื่นตามตามนาฬิการ่างกายที่ตัวเองเคยตื่น เขาลืมตาช้าๆก่อน

จะกระพริบตาเพื่อปรับแสงก่อนจะให้ไปนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนังที่บ่งบอกเวลาเจ็ดโมงเช้าซึ่งยังถือว่ายังเช้าอยู่สำหรับเช้าวัน

เสาร์ที่ไม่มีเรียนอย่างนี้ คิงพลิกตัวไปด้านข้างที่ซึ่งตอนนี้มีเพียงความว่างเปล่าของคนที่เขานอนกอดก่ายมาค่อนคืน คิงค่อยหยัด

ตัวขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบๆห้องแต่ก็ไร้ร่องรอยของร่างโปร่งของควีนเขาถอนหายใจก่อนจะเดินไปคว้าผ้าจนหนูตรงไปยัง

ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ในขณะที่เขาปล่อยให้น้ำไหลผ่านร่างกายแกร่งความคิดของเขาก็กำลังโลดแล่นเหมือนกัน มันกำลัง

ทบทวนเรื่องราวต่างๆของเขาและควีนตั้งแต่ครั้งแรกที่พบจนถึงตอนนี้มันมีเรื่องราวต่างๆมากมายเกิดขึ้นระหว่างเขาและระยะเวลา

ก็ทำให้ความรู้สึกของเขาชัดเจนมากพอที่เขาตัดสินใจได้ว่ามันคืออะไร แต่ที่เขาไม่สามารถบอกได้ก็คือความรู้สึกของร่างโปร่ง

นั้นเป็นเช่นไร ในระยะหนึ่งเดือนที่ควีนหายไปเขาไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวนั้นมีเหตุผลอะไรถึงหายไปนานเช่นนั้นและเขาเองก็ยุ่งไม่มี

เวลาที่มากพอจะไปหาคำตอบเช่นกันจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยมันไปก่อนจนถึงวันนี้แต่หลังจากวันนี้ไปเขาคิดว่าคงไม่ยอมให้

อะไรมันเลยผ่านไปอีกแน่นอน






“นี่ หอตัวเองก็มีทำไมไม่ไปนอนมาอะไรที่ห้องกูเนี่ย” เทย์มองไปยังร่างโปร่งของเพื่อนรักที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงขออง
เขา

“อื้อ ง่วงอย่าเพิ่งกวนได้ไหม” ควีนตอบกลับเสียงอู้อี้

“ไม่ง่วงก็บ้าแล้ว นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะสำหรับเช้าวันเสาร์ที่กูควรจะได้นอนบนเตียงนุ่มของกูอย่างสบายไม่ใช่มีตุ๊กแกหน้าสวยมา

นอนแทนที่แบบนี่” เทย์มองเพื่อนรักที่แม้จะใส่เสื้อผ้าที่รัดกุมแต่ไอ้เสื้อเชิ้ตขาวบางที่เห็นทะลุไปถึงเนื้อนุ่มด้านในที่บัดนี้มีรอยรัก

เต็มตัวเขาไปหมด นั่นจึงทำให้เทย์พูดออกไปอย่างนั้น “หนักละสิเมื่อคืน”

“อื้อ”

“ฮึๆๆ” เทย์หัวเราะด้วยความพอใจที่เพื่อนตัวเองตอบมาอย่างไม่ใส่ใจ “แล้วมึงจะมานอนห้องกูเพื่ออะไร ทำไมไม่นอนกอดผัวตัว
เองต่อที่ห้อง”

“กูคิดถึงมึง” ควีนตอบพร้อมกับพลิกตัวมานอนหงายเผยให้เห็นผิวขาวเนียนที่ไม่ได้ไม่ได้ถูปกปิดเพราะเจ้าตัวไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ
นั่นจึงทำให้เทย์เห็นรอยรักของควีนชัดยิ่งกว่าอะไร

“อย่ามาตอแหล โห่ ถ้าพวกที่คลั่งมึงมากๆมาเจอรอยพวกนี้เข้าไม่เสียใจหนักมากเหรอวะเนี่ย” เทย์ส่ายหน้าให้ควีนก่อนจะล้มตัว
ลงนอนข้างๆควีน “แล้วนี่สรุปยังไง”

“สรุปเรื่อง?” หันหน้ามาด้านข้างเพื่อตอบคำถามเทย์

“อย่ามาไขสือครับ”

“ก็ไม่รู้เรื่องจริงอ่ะ” ควีนตอบมองเทย์ด้วยสายตาเหมือนลูกแมวน้อยที่ใสสื่อเต็มที่

“ก็เรื่องที่ทำให้มึงมานอนห้องแต่เช้านั่นแหละ” เทย์ขยับตัวไปนอนชิดควีนแล้วยกศีรษะเจ้าตัวมานอนหนุนแขนตัวเอง เพราะเขารู้
ว่าที่เพื่อนตัวเองนั้นทำหน้าทำตาเหมือนแมวน้อยจอมซนที่ดื้อรั้นแต่พยายามอ้อนออกมาให้เขาเห็นซึ่งควีนไม่เคยแสดงให้ใคร
เห็นมาก่อนนอกจากเขาและครอบครัวของควีนก็มีอยู่แค่ไม่กี่เรื่องและเขาคิดว่ามันไม่ผิดไปจากที่คิดแน่นอน

“ก็รู้อยู่แล้วนี่จะถามทำไม”

“ก็อยากฟังจากปากมึงนี่”

“ทำไมต้องให้พูดซ้ำด้วย แทนที่จะช่วยกันคิดหาทางออก” ควีนเอาส่ายเอาหัวกระแทกแขนของเทย์เบาจนผมแตกกระจายเพราะ
เขารู้สึกได้ว่าเทย์นั้นดูหุ่นฟิตมากขึ้นหรือเปล่าหลังจากที่ไม่ได้เจอมาร่วมเดือน

“ทางออกมึงก็รู้อยู่แก่ใจอะไรให้กูพูดอะไรอีก”

“กูไม่รู้”  เทย์ได้แค่ส่ายหน้าให้กับความงี่เง่าของเพื่อนตัวเองเรื่องไม่เรื่องแท้ๆ

“มึงจะเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องส่วนตัวของมึงมาทำลายความรู้สึกของคนอื่นเขาทำไม อีกอย่างมึงก็กำลังทำลายความรู้สึกตัวเองอีก
ต่างหาก ไม่เหนื่อยหรือไงที่เป็นแบบนี้นะปล่อยวางบ้างเหอะแล้วมึงจะมีความสุข”

“มึงก็รู้ว่ามันเป็นนิสัยของกูอะ มันยากนะที่ห้ามไม่ให้มันเกิดอ่ะ”

“เฮ้อ กูไม่รู้จะพูดกับมึงยังไงแล้วนะ ทำไมครอบครัวมึงนี่แปลกกันทั้งบ้านจังว่ะ”

“นี่ด่าถึงคนมีพระคุณของกูเหรอ”

“เออ! เบื่อทั้งบ้านอ่ะ เบื่อมึงด้วยไอ้ครอบครัวประหลาด” ควีนตีไปที่หน้าอกเทย์อย่างแรงที่หาเรื่องมาว่าคนในครอบครัวของเขา

แต่เขาเองก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าเขามันประหลาดแต่มาว่าคนที่มีพระคุณต่อชีวิตเขานี่มันก็น่าเคืองอยู่นะแม้ว่ามันจะมีเค้าโครงเรื่อง

จริงอยู่บ้าง เอาเข้าจริงๆเขาเองก็อายที่จะมาเล่าให้ใครฟังอยู่นะเพราะมันค่อนข้างประลาดมันที่เทย์บอกนั่นแหละ ควีนนะค่อน

ข้างจะมีอารมณ์และนิสัยบ้างส่วนจากแม่ที่มันติสส์แตกตามอารมณ์ของนักศิลปินระดับโลก คงเดากันได้ใช่ไหมว่าใครก็คุณนายที่

เขาไปเยี่ยมมาเมื่อเร็วนี้ไง แม่เขาเป็นศิลปินนักวาดภาพระดับโลกที่ในวงการนี้ใครๆก็รู้จักแต่ยังไม่มีใครทราบว่าท่านนั้นมี

ครอบครัวแล้วเพราะเขาไม่ได้เปิดเผยตัวต่อสาธารณชนบ่อยขนาดนั้น อารมณ์ของแม่เขานั้นขึ้นๆลงตามยิ่งช่วงทำงานใหญ่ๆแล้ว

ไม่มีใครเลยที่จะเขาถึงตัวเขาได้สักคนบางทีหายไปเป็นเดือนๆอย่างไม่ทราบสาเหตุก็มี นั่นจึงทำให้ควีนต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงอีกคน

ที่ควีนชอบเลี้ยงเขาว่าป๋านั้นแหละ ก็จะไม่ให้เขาเรียกว่าป๋าได้อย่างไรก็พ่อเลี้ยงเขานะปฏิบัติต่อเขายังกับเป็นอีหนูซึ่งจริงๆแล้ว

พ่อเลี้ยงเขาแค่เอ็นดูควีนมากก็เท่านั้นเอง โดยส่วนตัวแล้วเขานั่นอยากได้ลูกผู้ชายแต่ไม่สามารถมีได้เพราะแม่ของควีนไม่ยอม

ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากทำตัวให้เหมือนแม่เข้าไปทุกทีแค่มีควีนแต่สยองขวัญมากพอแล้ว พ่อเลี้ยงของควีนจึงชอบที่ควีนจะไว้

ผมยาวเพราะมันทำให้ควีนดูสวยเหมือนผู้หญิงเหมือนควีนมาเติมเต็มความฝันของเขาให้สมบูรณ์โดยไม่ได้มีข้อกังขาเลยว่าควีน

นั่นเป็นผู้ชายตามเพศสภาพที่แท้จริง แม้ว่าส่วนมากควีนจะโตมากับพ่อเลี้ยงแต่แปลกที่นิสัยและความนึกคิดนั้นก็ยังคงเหมือนแม่

ทั้งๆที่ไม่ได้คลุกคลีเขาสักเท่าไหร่ ถ้าจะพูดว่าชีวิตที่ใกล้เคียงคำว่าสมบูรณ์แบบก็ว่าได้มันก็สิ่งที่ควีนนั้นพยายามวิ่งหนีมากที่สุด

ไอ้อาการที่เทย์บอกเขาว่าประหลาดนั้นแหละ เอาจริงๆแล้วเขาเองก็ไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่เพราะว่ามันเป็นอะไรที่งี่เง่า

และน่าอายอย่างมาก มันเป็นจะทำให้เขากลายเป็นตัวตลกขึ้นมาทันทีถ้าหากไปพูดให้ใครเขาฟัง เขาเองก็ไม่อยากจะมีนิสัยที่มัน

งี่เง่าอะไรอย่างนี้หรอก แน่หละใครมันจะไปเปลี่ยนนิสัยตามพันธุกรรมได้ง่ายๆขนาดนั้น เขาเองก็ไม่เข้าใจทำไมถึงมักจะรู้สึกว่า


เขาไม่อยากมีชีวิตที่หรูหรา ชอบที่จะทำให้ตัวเองลำบาก ตั้งแต่เด็กๆมาแล้วที่เขาเริ่มทำงานเงินด้วยตัวเองทั้งที่ฐานะทางบ้านไม่

ยากจน ควีนชอบจะออกไปทำงานอาสานพื้นที่ห่างไกล ยอมที่จะข้ามน้ำข้ามเขาเพื่อไปช่วยเหลือคนที่เขาลำบากในพื้นห่างไกล

อย่างปากีสถาน หรือแม้แต่ไปเดินป่าเป็นเดือนๆกับแม่ของเขาที่ป่าอเมซอน มันคงเป็นนิสัยศิลปินแปลกๆของแม่เขามั้งที่ทำให้

เขาเองเป็นอย่างนี้และที่สำคัญไอ้นิสัยศิลปินแสนงี่เง่านี่กลับมาเล่นเขาอีกรอบ สิ่งที่เขากำลังกลุ้มใจอย่างหนักเพราะกำลังวิ่งหนี

ความรู้สึกของตัวเองอยู่ หนีจากความจริงที่ว่าเขานั้นชอบคิง เขาไม่อยากจะให้ความงี่เง่าของตนมาทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย


เหมือนที่เขาเคยทำ ไม่ใช่ว่าควีนไม่เคยมีความรักแต่เขากลัวเกินกว่าจะรัก ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ทำลายความสัมพันธ์เขากับคนรัก

มาแล้วครั้งหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกของเขาเองที่มันต่อต้านมาจากข้างใน ความที่รู้สึกที่บอกว่าเขาไม่ควรจะมีความสุขมากขนาดนี้

ความรักของคิงมันดูเหมือนจะมากไป มากไปสำหรับคนอย่างเขา ที่เขาหายไปเป็นเดือนๆขนาดนี้ก็เพราะเขาเองยังมีความขัดแย้ง

ในตัวว่ามันยังต้องการผู้ชายคนนี้ จนตอนนี้เขาเองไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีจึงได้ตามานอนโง่ๆให้เทย์นั่นด่าอย่างสะใจอยู่นี่ไง


“นี่ควีน กูจะบอกอะไรให้ ถ้ามึงยไม่ได้ชอบเขามากขนาดนั้นก็ไปเขาไปเถอะ” เทย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“ไม่!” ควีนเองก็ตอบกลับมาแทบไม่คิดเลยด้วยซ้ำ

“งั้นก็รักกันให้มันจบๆไป”

“ไม่เอา”

“เอ้า! เหี้ยนะมึงอ่ะ จะกั๊กเขาไว้เพื่อ”

“ก็กู....” ควีนนิ่งไปไม่รู้ว่าจะต้องตอบเทย์ว่าอย่างไรดี

“เชื่อกูเถอะ ว่าถ้ามึงไม่ได้ชอบเขาขนาดนั้นมึงจะไม่เป็นถึงขนาดนี้เลย กูเชื่อว่าถ้าเขาทำให้โรคประหลาดของมึงกำเริบได้เขาก็
ต้องสามารถทำให้มันหายไปได้เหมือนกัน” ควีนได้แต่นิ่งเงียบแล้วคิดตามที่เทย์พูดอย่างถี่ถ้วน


“มึงก็ลองเมคเลิฟกับเขาทุกวันดูสิจะได้ไม่มีแรงมาคิดเรื่องไร้สาระ”
“ไอ้ห่าเทย์” จากนั้นเทย์ก็โดนหมอนฟาดไปตามระเบียบจากที่กำลังพูดเรื่องที่ดูมีสาระอยู่แล้วแท้ๆ

“ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องมาทำเป็นรับไม่ได้ ก็รู้ว่าพี่คิงต้องเด็ด หรือไม่จริง” เทย์พูดด้วยหน้าตากวนขั้นสุดแต่ก็ได้แต่หัวเราะกับคำตอบที่
ของควีน

“อือ ก็เร้าร้อนดี”



“คุณคินตาาาาาาาาาาาาาา คิดถึงจังครับ” ทันทีที่ควีนโผล่หน้าสวยๆไปที่มหาวิทยาลัยก็ถูกบรรดาเพื่อนต้อนรับอย่างอุ้นหนาฝา
คั่ง อย่างตอนนี้ที่มหากอดเขาเข้าเต็มรัก

“สวัสดีครับ มหา” ควีนตอบยิ้มๆ

“กรี้ดดดด คินตาของเรากลับมาแล้ว” มดกระโดดเข้ามากระชากมหาออกอย่างรุนแรง

“เฮ้ย คุณมดอะไรเนี้ย” มหาบอกอย่างไม่พอใจ

“หยุดเลยแกอิมหา อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกกำลังแตะตั๋งคินตาอยู่”

“คุณมดจะมาใส่ร้ายกันอย่างนี้ไม่ได้นะครับ”

“อย่าไม่ตอแหล ฉันเห็นนะว่าแกพยายามจะดมหน้าอกคินตาอ่ะ”

“เฮอะ คุณมดมองผมในแง่ร้ายมากเกินไปแล้วนะครับ”

“ฉันมองถูกต่างหากละ” มดสะบัดหน้าหนี ก่อนจะหะนมายิ้มฉ่งในควีน

“ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นเยอะเลยนะมด” ควีนตาบอกมดยอ้มๆ

“อุ้ย จริงเหรอนี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ คินตาก็เวอร์ไป” มดทำท่าม้วนเขิน “ว่าแต่หายไปใหนมาเหรอ พวกเราติดต่อไมได้เลย อิ
เทย์ก็ไม่ยอมบอกเราสักที”

“กลับบ้านนะ เราขอให้เทย์ไม่บอกใครเอง ขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนห่วงนะ เพื่อเป็นการไถ่โทษก็เลยเอาของฝากมาฝากทุก
คน” แล้วควีนก็ยกถุงของฝากขึ้นมาโชว์ ทำเอามดนั้นยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน

“ฮ่อยย นี่นอกจากเราจะมีเพื่อนสวยเราจิตใจดีด้วยอ่ะ นั้ลร้ากอ่ะ” และทุกคนก็หันไปสนใจของฝากของควีนก่อนจะเดินขึ้น
ห้องเรียน พอถึงช่วงพักเที่ยงควีนจึงเดินไปยังโรงอาหารกับกลุ่มเพื่อนในขณะที่พวกเขากำลังมองหาที่นั่ง ร่างโปร่งของควีนถูก

แตะโอบที่ไหล่จนทำให้เขาต้องหันไปมองมือปริศนาที่แสนคุ้นเคย

“โต๊ะนู้นว่าง” คิงนั่นเอง เขาพยักหน้าไปยังโต๊ะที่ตอนนี้หลุยส์แฟนคลับตัวยงของคินตาและเพื่อนๆของเขาอีกสองคนนั่งอยู่ คิง

ดันควีนให้เดินไป ส่วนเขาได้แต่มองไปยังเพื่อนๆที่ตอนนี้รู้แล้วว่าคงหนีไม่พ้นได้นั่งร่วมทานข้าวกับรุ่นพี่แน่ๆแต่นั่นคงจะไม่เป็น

ปัญหาอะไรเท่าไหร่เพราะตอนนี้คนในโรงอาหารก็ค่อนข้างเยอะ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีสำหรับใครบางคนในเพื่อนซะอีก อย่าง

เช่นมดที่ตอนนี้วิ่งตัวปลิวไปนั่งก่อนใครเพื่อนเลย

“น้องคินต้าาาาา” หลุยส์ร้องเสียงสูงทันทีที่เห็นร่างโปร่งนั่งลงตรงข้าม “คิดถึงจังครับ” ก่อนจะจับมือควีนมาจูบที่หลังมือด้วย
สายตาหลงไหล

“ครับ” ควีนยิ้มตอบไม่ได้ว่าอะไรที่ถูกจูบที่หลังมือ ออกจะขบขันที่แม้ว่าเขาจะหายไปป็นเดือนพี่หลุยส์คนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลย

“หายไปไหนมารู้ไหม พี่เป็นห่วง แล้วนี่กินอะไรยัง คนสวยของพี่อยากกินอะไรครับเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้” จากนั้นเขาก็แร็พยาวไม่
เว้นที่ว่างให้ควีนตอบเลย

“เยอะนะมึง” คิงที่นั่งข้างๆควีนแต่ได้ส่ายหัวให้เพื่อนตัวเอง

“อะไรครับคุณเพื่อน หุบปากคุณเพื่อนไปเลยนะครับ ปล่อยให้ติ่งน้อยๆคนนี้เขาได้พูดคุยกับไอดอลที่เขาชื่นชอบมั้ง ใช่ซี่มึงมัน

ที่รักของน้องคินตาคนสวยนิ ทำอะไรเขาก็คงจะไม่ว่า แต่!!!! เดี๋ยวก่อนครับเพื่อนแม้ว่าดูจากการกระทำและสายตาที่ทั้งสองมีให้

กันอาจจะดูเหมือนทั้งสองคนนั้นจะมีซัมติงบางอย่างก็กันก็จริง ในฐานะหัวหน้าแฟนครับน้องคินตาก็อยากจะฟังความจริงจากปา

กน้องคินตาจริงๆ เพราะฉะนั้นน้องคินตาช่วยยืนยันอีกทีได้ไหมครับว่าน้องคินตาไม่ได้คบกับไอ้ราชาคิงคนนี้จริงๆใช่ไหม” ทันทีที่


เขาแร็พยาวให้คิงแล้วตบท้ายด้วยคำถามที่ทำเอาทุกคนทั้งโต๊ะและโต๊ะข้างเคียงเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ

ส่วนควีนก็ได้แต่นิ่งเงียบเมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป เขาหันไปมองเทย์ที่แค่เลิกคิ้วให้เขาเหมือนบอกว่าเขาจะไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น

เพราะเขาเองก็รอฟังคำตอบเหมือนกัน ก่อนหันมาสบตากับคิงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาจ้องลึกไปในดวงจาของคิงจ้องอยู่อย่างนั้น ทั้ง

สีหน้าและแววตางควีนที่ไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรเลยสักอย่าง จนมันพาลให้บรรยากาศในโต๊ะมันแปลกๆไป มันอึมครึมและดูน่า

อึดอัดเป็นอย่างมากจน ทั้งที่มันก็เป็นเรื่องที่ทุกคนคาดคำตอบไว้อยู่แล้วและคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะพูดออกมาแต่ควีนกลับ

ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่มั่นใจในคำตอบเอาซะเลย กระทั่งควีนเผยอริมฝีปากขึ้นมานิดหน่อยเหมือนกำลังจะพูด


“ควีน” เสียงเล็กๆใส ดังขึ้นขัดมาทำให้ทุกคนมองไปยังร่างเล็กเป็นจุดเดียวกัน “จูนมาเอาของที่จูนฝากไว้กะควีนอะ” พูดเสร็จร่าง

เล็กก็แบมือไปหาควีน

“อ่อ แป้บนะ เราทิ้งเอาไว้ในรถเทย์อ่ะ เดี๋ยวไปเอามาให้” พูดเสร็จควีนก็ลุกขึ้นแต่ก็ถูกเทย์ห้ามไว้ก่อน

“เดี๋ยวกูไปเอาให้เอง มึงอยู่นี่แหละ” เทย์ลุกไปพร้อมกับลากแขนร่างเล็กติดมือไปด้วย

“เดี๋ยวดิ เฮ้ย อะไรเนี่ยยย” เสียงเล็กร้องโวยวายที่ถูกลากตัวไปแบบอย่างงงๆ ได้แต่หันมองเทย์สลับกับควีนที่มองตามเขาอยู่
เหมือนกัน ก่อนที่ควีนจะหันกลับมาหาทุกคนบนโต๊ะ

“ไปซื้อข้าวกันเถอะครับ หิวแล้ว” พูดเสร็จเขาก็ลุกไปต่อแถวซื้ออาหารแล้วก็ปล่อยให้บทสนทนานั้นค้างไว้และไม่ได้คุยสานต่อ
อะไรอีก มีเพียงแต่สายตาของคิงที่คอยแอบมองควีนอย่างสื่อความหมายบางอย่างในขณะที่ควีนนั้นทานข้าวอย่างไม่สนใจใคร เอาแต่ฟังที่หลุยส์โม้อย่างเดียวแทบจะไม่มองคิงเลยด้วยแม้ว่ามือของทั้งสองจะจับกันอยู่ก็ตาม


หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 24--100%-- <03/10/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-10-2016 02:16:30
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 24--100%-- <03/10/2559>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-10-2016 09:11:41
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 มาม่าเหรอ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-05-2017 01:53:30

“คุณคินตาครับ มีใครเห็น หนังสือของผมบ้างรึเปล่า”  มหาที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับการมองหาหนังสือเรียนท่ามกองหนังสือและชีท

เรียนมากมาย และกลุ่มเพื่อนๆที่ก่ายกองกันอยู่ทั่วห้องแทบเรียกได้ว่าเป็นกองทัพซอมบี้กันเลยทีเดียว


“โอ้ย  ไม่ไหวแล้วนะเว้ย” เกรซบ่นในขณะที่มือชีทแต่ดวงตานั้นใกล้จะปิดเต็มที่

“ไอ้คินตาเมื่อไรคุณมึงจะลุกออกจากตัวสักทีว่ะครับ” เทย์ถามคินตาที่นอนหนุนตักเขาอยู่โดยที่เขาเองก็นั่งพิงตัวอยู่ขอบเตียง

นอน

“อื้อ” คินตาแค่อตอบกลับด้วยเสียงเหนื่อยอ่อนแต่ก็ไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด

“อิมหา! อิเด๋อ” เสียงมดที่อู้อี้เพราะมีของกินเต็มปากลอดผ่านมาจากห้องครัว “ นี่แกเบลอหนักขนาดที่เอาหนังสือมาแช่ตู้เย็นเลย
รึไง”

ปึก มดโยนหนังสือของมหาลงพื้นพร้อมทั้งนั่งลงอย่างรุนแรงด้วยสภาพที่เรียกว่าดูไม่ได้ขั้นสุด

“นี่ทุกคนนอนกันเถอะ ฉันไม่ไหวแล้วนะพวกแกจะเอาเกรดไปทำไรวะ ต้มกินเหมือนของกินได้ไหม ฮืออออ” มดคร่ำเอาชีท

ครวญปิดหน้าตัวเองแล้วก็หลับไปเลย แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้สำหรับเด็กมหาวิทยาลัยหลายคนคงรู้แล้วว่ามันคือช่วง

โศกนาฏกรรมอะไร แน่นอนว่ามันก็คือการสอบนั่นเอง คนส่วนใหญ่มักจะจับกลุ่มติวกันและอยู่อ่านหนังสือดึกดื่น อดตาหลับขับตา

นอนเพื่อให้มันสมองน้อยๆนั้นเตรียมพร้อมสู้รบรบกับวิชาอันมหาโหด  จนตอนนี้ภายในห้องนั้นเหลือผู้รอดอยู่แค่ควีนและเทย์ที่ยัง

คงอ่านหนังสือต่อไป แม้ว่าควีนเองจะพยายามโฟกัสที่หนังสือเรียนมากแค่ไหนแต่จิตใจเขาก็มักจะหลุดออกไปหาเรื่องอื่นอยู่

บ่อยๆจนเทย์เองก็จับผิดความผิดปกตินี้ได้


“คินตา”


“หืม” คววีนเงยหน้าจากหนังสือขึ้นไปมองหน้าเทย์

“กูรู้ว่ามึงเก่ง”

“แล้ว”

“มึงหยุดอ่านสักทีเถอะ เชี่ยนี่จะกดดันกูเหรอ กูอยากนอนแล้วนะเว้ย”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”  ควีนระเบิดหัวเราะแม้ว่าเสียงจะแหบแห้งเพราะว่าร่างกายขาดการผักผ่อนอย่างหนักก็ตาม “แล้วมึงจะมาขึ้นอยู่กับกู
ทำไม ก็ไปนอนสิ”

“นอนได้ไงละ เดี๋ยวมึงคะแนนดีกว่ากู กูไม่ยอมอ่ะ”

อืมๆๆ นอนก็นอนแต่ขออีกครึ่งเล่มนะ”

“คินตา” เทย์กดเสียงต่ำด้วยความเหนื่อยใจ จริงๆแล้วเทย์ไม่ได้กลัวควีนจะได้คะแนนเยอะกว่าหรืออะไรเขาแค่ยังยังเป็นเพื่อนคิน

ตาอ่านหนังสือเท่านั้น นั่นจึงทำให้คินตาอมยิ้มอย่างเอ็นดูเพื่อนสนิทตัวเองที่ชอบทำอะไรที่ขัดกับหน้าตาอย่างแรง

“อะๆ ยอมก็ได้ งั้นเดี๋ยวอีกสองบท”

“คินตา” เทย์กดเสียงต่ำยิ่งกว่าเดิมและมองแรงควีนด้วยความขัดใจ นั่นจึงทำให้คนที่นอนตักอยู่อมยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้ง
เพื่อนตัวเอง



เมื่อวันวันสอบวันสุดท้ายมาถึงทุกคนต่างทยอยออกมาจากห้องสอบด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากศพเดินได้เลย แต่ก็มีบรรยากาศอัน

แสนโล่งใจปะปนอยู่ด้วยเพราะกิจกรรมอันหฤโหดมันได้ผ่านพ้นไปแล้

 “โอ้ยยยยย เสร็จสักทีอีเหี้ย” มดตะโกนเสียงดังทันทีที่เดินออกมาจากห้องสอบ

“ไปฉลองกันเว้ยยยยยยยยยยยย” ตามมาด้วยเกรซ

“วู้หู้” แม้แต่มหาเองก็หันไปไฮไฟวกับมดด้วยอารมณ์ร่าเริง

“ว่าไงมึง” เทย์หันไปถามควีนที่ยื่นอยู่ข้างๆ “ฉลองกะเพื่อนหรือผัวดี”

“ถามมาได้ เห็นกูเป็นคนยังไง” ควีนตอบ

“ฮึๆ ก็แค่คนเหี้ยคนหนึ่ง”

“เออ กูมันเหี้ย งั้นไปละ” ควีนหันโบกมือลาเพื่อน  ก่อนจะยักคิ้วให้เทย์

“นี่แนะ” เทย์ผลักหัวควีนด้วยความหมั่นไส้ “ให้มันได้เรื่องนะมึง จะทำไรก็ทำ ถ้ายังจะทำตัวอย่างนี้เป็นแม่หม้ายผัวตายกูก็ไม่สน
แล้วนะจะบอกให้”

  “อือ” ควีนตาผลักหัวเทย์กลับคืนก่อนจะยิ้มให้ก่อนลา “ไปละ”

ควีนเดินมาจากอาคารที่ตนสอบมายังอาคารที่อยู่ใกล้กัน เขายืนรอใครบ้างที่ไม่ได้เจอหน้ามาสองอาทิตย์เต็ม คนที่เขาเลี่ยงความ

รู้สึกของตัวเองต่อเขา คนที่ไม่ว่าเขาพยายามคิดทบทวนมากแค่ไหนก็ยากที่จะตัดสินใจได้ คนที่เขาคิดว่าถ้าหากตัดเขาออกไป

แล้วจริงตัวเขาเองนั้นจะเป็นเช่นไร จะทำได้จริงๆหรือไหมเพราะทุกครั้งที่บอกว่าได้ภายในจิตใจมันก็จะย้อนแย้งกันเสมอว่าไม่ใช่

จนวันนี้เองที่เขาไม่อยากจะปล่อยในความคิดอันย้องแย้งต้องมทาทำให้เขาสับสนอยู่แบบนี้ เขาจึงตัดสินใจมายืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้

ควีนยืนไปได้สักพักเสียงเจี้ยวจ้าวของเหล่าบรรดานักศึกษาที่เพิ่งออกจากห้องสอบมาในสภาพเดียวกันที่กลุ่มเพื่อนๆของควีนเอง

ก็เป็น ก่อนที่ใครบางคนของควีนจะปรากฏตัวขึ้นสู่สายตาของเขา ใบหน้าของร่างกายแกร่งนั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้นจนในที่สุดเขาก็

รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสายตาของใครอีกคน ควีนไม่ได้เดินเข้าหาเพียงแค่อยู่จุดเดิม ร่างกายแกร่งยังยืนพูดคุยและห้อมล้อมไปด้วย

เพื่อนๆแต่สายตาของเขากลับกำลังมองมาที่ควีนเช่นกัน ดูเหมือนทั้งสองคนจะเพียงแค่ยืนมองหน้ากันๆปอีกสักพักใหญ่ถ้าหาก

เพียงแต่ควีนไม่ส่งยิ้มไปให้ นั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะปฏิเสธคำเชิยชวนของเพื่อนที่จะไปฉลองกันหลังสอบเสร็จและเดินตรงมา

หาควีน


“เฮ้ย ไอ้คิงทำไมทำงี่วะ”


“เฮ้ย จะไปไหนวะ คิง! กลับมาก่อน”

“แม่ง รีบไปตายที่ไหนวะไอ้คิง” เสียงตะโกนแสดงความไม่พอใจและงงงวยของเหล่าเพื่อนๆตามร่างแกร่งมาไม่ขาดสายแต่คิง
เองหาได้สนใจมั้ง

“ไหน” คิงหยุดอยู่ที่ตรงหน้าควีนไม่ไกลนัก

“อะไร” ควีนตอบ

“คำขอโทษ”

“ไม่มี”

“ฮึ” คิงแค่นหัวเราะกับคำตอบที่ได้

“ไปกันเถอะ” ควีนหาได้สนใจกับปฏิกิริยาของชายตรงหน้าไหมเขาเพียงแค่เดินไปจับมือให้ร่างแกร่งเดินตามก็เท่านั้น จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดยืนที่หน้าคณะแพทยศาสตร์ คิงเลิกคิ้วใส่ควีนด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาที่นี่

“ขอโทรศัพท์หน่อย” คิงไม่ได้ตอบอะไรแค่หยิบโทรศัพท์อกมาจากกระเป๋ากางเกงให้ควีน จากนั้นร่างโปร่งก็กดโทรหาใครบ้าง
คน

“พี่พากย์ ขอยืมรถหน่อยได้ไหม........อืม............อยู่หน้าคณะ.....ไปกับคิง...........อื้อ ขอบคุณครับ” เมื่อคุยเสร็จเขาก็วางสาย

แล้วยื่นโทรศัพท์คืนคิง

“ไปไหน” คิงถามและเปลี่ยนจะโดนจับมือมาเป็นกุมมือควีนเอาไว้ ควีนแค่ยิ้มบอกผ่านความรู้สึกส่งผ่านไปให้คิงเท่านั้นไม่ได้พูด
อะไร เขารอจนกระทั่งพากย์เดินลงมาจากตึกคณะ

“อะ ขอให้ฟ้าเหลือง” พากย์โยนกุญแจรถให้ควีนจากนั้นก็ยักคิ้วให้คิงทีก่อนจะเดินกลับขึ้นตึกไปโดยที่ไม่ได้ทักทายหรืออะไรทั้ง
คู่เลย มีเพียงแค่ประโยคเดียวที่ก็ทำเอาคิงหลุดขำออกมาได้เล็กน้อย

“จะขับ?” คิงถามเมื่อเห็นควีนเก็บกุญแจไว้ที่ตน

“อือ”

“ขับเป็น?”

“อือ ถามมาเถอะ วันนี้พี่จะพาแว้นเอง” ควีนพูดติดตลกก่อนจะเดินนำร่างแกร่งไปยังลานจอดรถและขึ้นคร่อมด้วยท่าทาง
คล่องแคล่วก่อนจะพยักหน้าให้คิงมาซ้อนท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะสตาร์ทรถวิ่งออกไปสู่ถนนใหญ่ภายใต้มือหน้าที่กอบกุมมือตัวเองไว้ที่หน้าท้องของควีน




คิงไม่รู้เลยว่าร่างโปร่งที่เขาโอบกอดอยู่ตอนนี้จะพาขาไปไหน แต่ไม่ว่าควีนจะพาเขาไปสถานที่ใดเขาก็ไม่ปฏิเสธหรอกเพราะว่า

ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาก็รอควีนมาหาอยู่แล้ว ได้แต่กอดร่างโปร่งให้แน่นขึ้นทดแทนความรู้สึกที่ไม่ได้เจอกันส่งผ่านไปให้

เขานึกถึงบทสนทาเมื่อครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนคุยกันอันเป็นต้นเหตุให้พวกเขาหายไปจากวงโคจรชีวิตของกันและกัน

‘พี่คิง’ ควีนจ้องหน้าคิงในขณะที่ทั้งสองนั่งเล่นกันที่ห้องโดยทั้งควีนเบียดคิงแทบจะเป็นนั่งตักได้

‘หืม’ คิงคานรับและยิ้มบางๆให้

‘หยุดเจอกันสักสองอาทิตย์ได้ไหม จากนี้ไปจนถึงสอบเสร็จ’


‘ทำไม’

‘ถือว่าขอ’

‘……..’ คิงได้แต่จ้องควีนด้วความไม่แน่ใจแต่เจ้าตัวก็สงบนิ่งเกินกว่าที่เขาจะคาดเดาได้เองว่าทำไมจนเวลาผ่านไปนานหลาย
นาทีเขาถึงตอบกลับ ‘อืม’

บทสนทนาสั้นๆที่คิงเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแต่เหมือนอะไรก็เป็นใจให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำขอของควีน คิงเองไม่ได้จะ

พยายามหลบหลีกหรืออีกฝ่ายจะพยายามหลบหน้า ทั้งสองใช้ชีวิตปกติแต่ด้วยเนื่องว่าอยู่ในช่วงสอบต่างคนก็ต่างยุ่งเกินกว่าจะมี

เวลามาสนใจซึ่งกันและกัน แม้ว่าทั้งสองจะกลับมาที่หอแต่ก็ไม่ยักจะกลับมาตรงกันสักครั้งและส่วนมากควีนก็จะไปติวที่ห้องของ

เทย์หรือ ไม่คิงก็ไปนอนที่หอเพื่อน เวลาไปมหาลัยก็ไม่ได้เจอหรือเดินผ่านกันโดยบังเอิญสักครั้งเดียว นั่นจึงอะไรที่เขาทั้งสองก็

อดจะแปลกใจไม่ได้แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับควีนแต่อาจจะเป็นเรื่องที่คันหัวใจของใครที่ต้องรออย่างคิงนิดหน่อย ถนนเล็กสู่

ถนนใหญ่บรรยากาศสองข้างทางเริ่มเป็นที่ๆคุ้นเคยสำหรับคิง ต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีที่แอบมาซ่อนหลบอยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุง

อันแสนวุ่นวาย ก่อนที่สถานที่ที่คิงคุ้นเคยเป็นอย่างจะโผล่พ้นขอบอุโมงค์เผยให้เห็นสวรรค์เล็กๆอีกมุมหนึ่งที่ทั้งสองเคยมาด้วย

กันเมื่อครั้งก่อน  คิงมองคนด้านหน้าก่อนจะกระชับก่อนเอวบางพร้อมกับระบายยิ้มหน่อยๆให้กับความน่ารักของคนตรงหน้าจนทั้ง

สองเลี้ยวเข้ามาจอดตรงต้นไม้ใหญ่หน้าทางเข้าบ้านพักเพราะไม่มีกุญแจเข้าเขตตัวบ้าน


“ทำไมไม่บอกก่อนละ จะเอากุญแจมาด้วย” คิงหันไปถามควีนพร้อมกับยื่นรับหมวกกันน้อคของควีนวางไว้บนตัวรถ

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้จะเข้าไปในนั้นแค่อยากพามาดูดอกไม้”

“ฮึ” คิงยกยิ้มน้อยๆด้วยความขันก่อนจะหันไปมองวิวตรงหน้าที่ยังคงสวยงามไม่ว่าฤดูไหน  ธรรมชาติไม่ว่าจะเขียวขจีไปด้วยไม้

ผลิใบหรือดอกไม้หลากสีในยามหน้าหนาว ก็ทำให้จิตใจคนเราสงบได้เสมอ สายลมเย็นเบาๆพัดผ่านผมของทั้งสองปลิวไหวเบาๆ

พอๆกับการที่มันทำให้ความรู้สึกของคิงปลิวไหวตามไปด้วย เขาสูดลมหายใจเข้าเบาๆด้วยความสบายใจ ก่อนจะรับรู้ได้แรง

สัมผัสทางด้านหลังและมือที่สวมกอดเขาไว้

“คิดถึงจัง” คำพูดเบาๆแต่หนักแน่นของควีนทำให้คิงได้แต่ระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เขาจะกุมมือของอีกฝ่ายที่สวมกอดเขาอยู่

“อืม” 

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันหลายนาทีเหมือนต้องการที่จะซึมซับความรู้สึกระหว่างกันและกัน ให้ความรู้สึกนั้นสื่อสารกันภายใน

โดยที่ทั้งสองไม่ได้พูดอะไร เพราะความรู้สึกที่คิดถึงอีกฝ่ายมันถูกเก็บไว้ในใจมานาน ปล่อยให้มันได้สื่อสารกันเองจะดีกว่า

“ไหน” คิงหันหน้ากลับไปมองควีนเล็กน้อยก่อนจะถามควีน

“อะไร”

“คำขอโทษ”

“ถ้าบอกว่าไม่มีละ” ควีนถามเหมือนยั่งเชิงแต่คิงกับหันกลับไปไม่มองหน้าควีนอีก  “ขอโทษ”ควีนเอ่ยเบาๆก่อนจูบลงบนไหล่

กว้างเบาๆด้วยความรู้สึกจากใจจริง ขอโทษในทุกสิ่งที่เขาทำตัวงี่เง่า

“อืม” เป็นอีกครั้งที่คิงไปกลับแค่สั้นๆ

“แค่นี้เหรอ” ควีนถามด้วยความแปลกใจพร้อมทั้งชะโงกหน้าไปมองคิง

“อื้ม” คิงพยักหน้า

“จะไม่ถามอะไรเหรอ”

“ไม่อะ” คิงหันหน้ากลับมาตอบพร้อมยิ้มให้ควีน “แต่จะรอฟังอยู่เสมอ”

“น่ารักนะเรา” ควีนยิ้มตอบอย่างมีความสุข เขารู้สึกเหมือนกำแพงที่สร้างไว้มันพังทลายไม่มีชิ้นดีเลย คนตรงหน้าเขาคนนี้ทำได้

ยังไงกันนะ  ความกลัวที่เขากลัวมาตลอดมันหายจนหมดสิ้นเลย ในใจเขามันรู้สึกอบอุ่นชะมัด

คิงปล่อยมือที่กุมไว้ออกก่อนจะดึงในควีนมาอยู่ในอ้อมแขนแทน

“คิดถึงเหมือนกัน” เขาจูบหน้าผากควีนเบาๆ แทนความรู้สึกทั้งหมด ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนจะหันไปมองภาพบรรยากาศตรงหน้า

สวนดอกไม้อันแสนสวยความทรงจำเมื่อครั้งที่ทั้งสองได้มาด้วยกันฉายทับซ้อนอยู่บนสถานที่แห่งนี้ ภาพที่ทั้งสองนั่งมอง

ธรรมชาติด้วยความรู้สึกอันอบอุ่น ความรู้สึกดีๆที่อีกฝ่ายมีให้กันและเริ่มแสดงออกมาชัดเจนผ่านสัมผัสทางจิตใจของทั้งสอง แต่ก็

คงจะไม่ชัดเจนเท่าครั้งไหนๆเหมือนครั้งนี้  ความรู้สึกที่มีให้กันและกันมันกำลังประสานเชื่อมโยงเข้าด้วยกันแล้ว พวกเขารับรู้ได้

โดยไม่ต้องพูดอะไรมากมายแค่สายตาที่อีกฝ่ายมีกันและกันอยู่ในนั้น คำพูดสั้นๆคงเพียงพอแล้ว


“อืม”























หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
เริ่มหัวข้อโดย: windowbroken ที่ 22-05-2017 02:07:15
ในที่สุดก็จบ!!!!!!!  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เย้ๆๆๆๆ ขอบคุณที่ติดตามผลงานเรามากๆนะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่งานเขียนที่ดีอะไร แต่ก็อยากขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ ขอบคุณค้อมเม้นทุกคนด้วยคะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าแม้เราจะไม่มีพรสรรค์ด้านนี้เลยแต่อย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านมันอยู่ ดีใจมากๆเลย แ]tขอบคุณที่อดทนอ่านนิยายเรื่องนี้แม้ว่ามันจะใช้เวลาเป็นปีๆกับตัวหหนังสือแค่ไม่กี่บทก็เถอะ55555555 ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะไม่จบด้วยซ้ำไป ด้วยความที่นักเขียนอยากเขียนอะไรก็เขียนเนื้อเรื่องมันก็เลยดูสะเปะสะปะไปหมด บางอย่างอาจจะไม่ดูสมเหตสมผลเท่าไหร่แต่ก็อยากให้ทุกคนรู้ไว้นะคะว่า เออ มันไม่มีเหตุผลจริงๆ55555 อาจจะจบแบบตัดบท แบบดิ้อๆก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราอยากทำให้มันจบจริงๆ จะได้รู้สึกว่าอย่างน้อยกูก็เขียนนิยายจบเป็นเรื่องละวะ 5555 แต่สำหรับเราความรู้สึกของตัวละครมันสามารถบอกได้นะว่ามันดำเนินมายาวนานมากขนาดไหนอย่างน้อยก็ในใจของนักเขียนเอง มันนานมากพอที่จะบอกว่ามันเียนจบได้แล้วจริงๆ สุดท้ายนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากถ้าฟ้าเบื้องบนเป็นใจ เราก็คงได้พบกันใหม่ละเนอะ รักนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
นิยายเราจบแล้วนะ  ขอย้ำอีกรอบ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
กูเขียนจบแล้วโว้ยยย   :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-01-2018 10:58:20
 :pig4: :pig4: