ข้างล่างคือถนนที่รถราวิ่งกันขวักไขว่ ส่วนรอบข้างเราผู้คนก็เดินสวนกันไปมาอย่างเร่งร้อน ขอทานตัวดำเหนี่ยงแอบเหลือบมองพวกเราจากที่ของแก คงจะเพราะเห็นฉากประกบจูบเมื่อครู่
ทีมมองผมอย่างจับผิด
“ทีมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหรือเปล่า”
“เฮ้ย รีบไปเหอะ เดี๋ยวเขารอ”
“เขาน่ะใคร ไปรู้จักกับพี่ทีมได้ยังไง เนี่ยล่ะเรื่องแรกที่ทีมอยากรู้”
ผมกลืนน้ำลายเอื้อก พลางเหลียวมองไปข้างหลัง น้องกายรู้ทัน รีบไปยืนขวางทางหนีผมไว้
“เขาก็คือเขาอ่ะเดะ หรือว่าเขาจะเป็นใคร ก็ต้องเป็นเขานั่นแหละ เอ้อ..”
“อย่ามาทำตัวปัญญาอ่อนพี่ ผมไม่ขำ”
“ก็ไม่ได้ให้ขำ” ผมบ่นอุบอิบ
“งั้นตอบมา”
ผมเกาหัวแกรก “กูจะพูดไงดีวะ ก็แบบว่าเป็นคนรู้จักที่รู้จักผ่านคนรู้จักของคนรู้จักอ่ะ”
“ไม่เคลียร์พี่ ขอชัด ๆ ไม่งั้น..” ไอ้ทีมยิ้มเหี้ยม หักนิ้วดังกร๊อบ ๆ
“แม่ง มึงจะรู้ให้ได้ใช่มั้ย คนที่กูพูดถึงน่ะ เป็นเสี่ยที่หาเด็ก ๆ ผ่านทางนังเจสซี่มาอีกที เคลียร์มั้ย” ผมโพล่งออกไปรัวติดกันเป็นพรืด
“แล้วพี่แทนจะพาไอ้กายกับทีมมาให้เสี่ยเนี่ยนะ เลวมาก”
ผมทำเสียงน้อยใจ “นี่มึงเห็นกูเป็นคนอย่างนั้นเหรอ”
น้องกายกับไอ้ทีมพยักหน้าพร้อมกัน
“เออ..ดี กูเสียใจนะ กูอุตส่าห์ชวนพวกมึงมาเล่นแบดคอร์ทดี ๆ ด้วยกัน” ผมพูดต่อไม่ไหว ก้อนแข็ง ๆ มันเคลื่อนขึ้นมาถึงคอ
“เล่นกับเสี่ยที่จ้องจะงาบเด็กเนี่ยนะ เด็กอมมือยังรู้เลยว่าพี่แทนคิดจะทำอะไร”
“ใช่กูคิด กูอยากมีเสี่ยเลี้ยง มีตังใช้ มีอาหารมื้อหรู ๆ มีของดี ๆ แพง ๆ พวกมึงรู้แล้วจะเลิกมองว่ากูจะหลอกพวกมึงได้หรือยัง”
ผลัวะ!
“ไอ้ทีม! ทำอะไรวะ!” น้องกายร้องเมื่อเห็นผมโดนชกจนล้มลงไปจ้ำเบ้ากับพื้น
ผมเจ็บ เจ็บตรงมุมปาก ตรงแนวกราม และข้างแก้มที่กระแทกเข้ากับฟันข้างใน ลิ้นที่ดุ้นไล้กระพุ้งแก้มสัมผัสรสคาวเค็มของเลือดที่ออกในปากได้ ผมจ้องหน้าไอ้ทีมที่ยืนจังก้าอยู่เหนือตัวผม มันทิ้งหมัดลงข้างตัวด้วยกริยาคล้ายหมดเรี่ยวแรง ผมค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น สายตายังจับจ้องเขาอยู่
“ไม่เจ็บเลยว่ะ มึงทำได้ดีกว่านี้ไม่ใช่เหรอ” พร้อมกับคำเย้ยมุมปากผมกระตุกรอยยิ้มเยาะ คนตรงหน้ามองผมด้วยแววตาที่เจือระหว่างความเสียใจกับความสมเพช
“เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้สักที”
“ทำแบบไหน”
“ทำตัวงี่เง่าปัญญาอ่อน ตั้งแต่เรื่องไอ้ดำมาแล้ว พี่แทนมีความสุขนักหรือไงถึงทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
ผมแสยะยิ้ม “ใช่ กูสุข สุขแทบจะตาย กูบ้าเซ็กส์มึงก็รู้นี่ ใครตอบสนองกูได้กูก็ไป”
“ฮึ้ย..”
ไอ้กายรีบมารั้งไอ้ทีมไว้
“พอเถอะทีม กลับกันเถอะ”
“อ้าว ไม่อยากไปดูหน้าเสี่ยของพี่แล้วเหรอกาย”
น้องกายมองผมด้วยสายตาเครียด “ผมรู้เรื่องของพี่มามากพอแล้ว อย่าได้ทำลายภาพของพี่ในใจผมมากไปกว่านี้เลย”
ผมรู้สึกชาไปทั้งหน้า แว่บหนึ่งนั้น ผมอยากให้พื้นที่ผมยืนกลายเป็นเหวไร้บึ้ง แต่ในครู่เดียวผมก็กลับมาสู่ความเป็นตัวของตัวเอง ผมส่งรอยยิ้มอย่างที่พี่ชายจะพึงมีให้กับน้องให้แก่เจ้ากาย
“พี่ขอโทษที่พากายมาที่นี่ กายกับทีมกลับไปก่อนเถอะนะ พี่คงต้องไปตามนัด พี่ไม่อยากผิดคำพูดกับใคร”
กายไม่ตอบ ทีมมองผมอยู่นาน ก่อนจะพากันเดินไปจากที่นั่น ผมเกาะราวสะพานลอยมองไปเบื้องล่างที่ซึ่งแสงสนธยาเริ่มแต่งแต้มสีสันตามป่าคอนกรีต
ป๋าไฮด์ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นสภาพผม ผมลูบมุมปากตรงที่ช้ำเบา ๆ แล้วพูดออกตัว
“โดนเพื่อนต่อยมาน่ะครับ”
“นายแบ่ดอะไรนั่นหรือเปล่า”
“ไม่ใช่ครับ” ผมรีบปฏิเสธ ถึงไอ้แบดจะร้าย แต่ก็มันก็ไม่เคยทำผมแบบนี้ “แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมควรโดนแล้ว นี่พี่ไฮด์รอผมนานหรือยังครับ”
“ไม่นานหรอก เพิ่งครึ่งชั่วโมงเอง” เขาพูดยิ้ม ๆ ระหว่างที่เสยผมด้วยท่วงท่าหล่อกระชากใจ ที่หน้าผากของเขามีผ้าคาดรอบหัวแบบที่นักกีฬาชอบใช้เพื่อเก็บผม ป๋าไฮด์อยู่ในชุดสบาย ๆ เสื้อยืดผ้าร่มของโยเน็กกับกางเกงกีฬาขาสั้นเห็นต้นขามีกล้ามสวยสีขาวผ่องราวงาช้าง
“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอนาน”
“เฮ้ย อย่าซีเรียส แล้วเรากินอะไรมาหรือยัง ทานอะไรก่อนมั้ย เดี๋ยวไปเล่นแล้วจะไม่มีแรง”
“ยังครับ”
ป๋าไฮด์ยิ้มนิด ๆ “งั้นไปหาอะไรทานที่ฟิวเจอร์ก่อนล่ะกัน” เขาตบหลังผมเบา ๆ แล้วโอบบ่าเดินไปด้วยกัน
เราทานบะหมี่เป็ดที่ร้านหนึ่งในห้าง ป๋าไฮด์นั่งฝั่งตรงข้ามมองผมซึ่งกำลังเขี่ยนิ้วเล่นบนโต๊ะอย่างพินิจ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ค่อยพูด”
ผมช้อนตาขึ้นมองเขา รอยยิ้มใจดีอยู่บนดวงหน้าคมสัน เค้าหน้าที่ทำให้ผมนึกถึงใครบางคน คนที่มองผมด้วยสายตาเศร้าสร้อยในวันนี้
“ผมพูดไม่เก่ง”
“นึกว่าไม่ชอบพี่ซะอีก”
ผมยิ้มนิด ๆ “ถ้าไม่ชอบผมจะมาหาเหรอครับ ผมต่างหากกลัวว่าพี่ไฮด์จะไม่ชอบผม ก็พี่ไฮด์น่ะ..”
“พี่อะไรเหรอ” เขาคาดคั้นด้วยรอยยิ้มชวนระทึก
“ก็หล่ออ่ะครับ ผมต่างหากที่ดูธรรมดาบ้าน ๆ”
“ไฮ้ พี่ไม่ได้ชอบใครที่หน้าตาซะหน่อย พี่ชอบเราก็ตรงที่เราเป็นเรา จะคิดมากไปทำไม”
“พี่ชอบผมเหรอครับ” ผมถามด้วยเสียงเบาหวิว พี่ไฮด์พยักหน้าหล่อ ๆ ผมเผยอยิ้มบางแล้วพูดต่อ
“ขอเตือน ผมเจ้าชู้นะ”
“รู้อยู่แล้วน่า” พี่ไฮด์ตอบยิ้ม ๆ “เห็นตอนเข้าห้างมาเดินผ่านคนหล่อ ๆ เป็นไม่ได้ เรามองตามหมด นี่ขนาดพี่เดินอยู่ด้วยนะนี่”
“แหะแหะ เห็นด้วยเหรอครับ”
“เห็นสิ ชักไม่ไว้ใจเราแล้วนะเนี่ย” พี่ไฮด์พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก เราหัวเราะด้วยกัน
หลังจากทานบะหมี่ ผมก็ตามพี่ไฮด์ไปที่รถ ยังคงขับเฟอรารี่สีส้มเปรี้ยวจี๊ดมาตามเคย ดีนะไม่ใช่หน้าฝน ไม่งั้นนั่งน้ำนองกันอยู่ในรถนี่แหละ
----แต่งสดตอนเย็นครับหลังจากเรียนคาบสุดท้ายตอนห้าโมงเย็น สั้นไปหน่อยว่ามะ แต่เพราะเย็นนี้ผมมีนัด เดี๋ยวคงต้องรีบไป เมื่อเช้าก็โดดเรียนไปวิชาหนึ่ง เล่นตื่นเอาซะเที่ยง ตอนนี้ผมกำลังมีความคิดที่จะปรับพฤติกรรมอยู่ครับ แต่ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ ปลายเดือนนี้ก็ใกล้จะสอบกลางภาคแต่ความรู้ยังไม่เข้าหัวเลย (ไม่ขวนขวายเองด้วยแหละ) สงสัยรอบนี้คะแนนตกแน่ ๆ T^T ----