“ทีม มึงไม่ด่ากูเหรอ” ผมถามมันเบา ๆ เมื่อเขาปั่นจักรยานเลียบบึงกว้างในม.
“ด่าไปพี่แทนก็ไม่รู้สึก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไอ้แบดเป็นอย่างนั้นพี่แทนก็ยังเสือกจะไปยุ่งกับมันอีก โง่หรือบ้ากันแน่เนี่ย”
ผมยิ้ม “นี่ขนาดไม่ด่านะ”
“โอ้ยพี่ แค่นี้ยังน้อยไป แต่ทีมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้แบดมันรสนิยมวิปริต”
“ที่มันมีอะไรกับผู้ชายอ่ะเหรอ”
ไอ้ทีมหันกลับมาเหล่ผมนิดหนึ่งก่อนตอบ “เปล่า ที่มันมีอะไรกับพี่ต่างหากล่ะ”
ผมตบหัวมันทีหนึ่ง “ไอ้น้องเวร กูออกจะดีเลิศประเสริฐศรี ใครก็รักใครก็หลงกันทั้งนั้น”
“ลักไปฆ่ากับหลงผิดอ่ะเหรอ”
“แม๊ เดี๋ยวนี้ปากคอเราะร้ายนะมึง”
ไอ้หน้าเถื่อนหัวเราะเบา ๆ ในคอ
“คิดจะอยู่กะพี่แทนมันต้องร้าย พี่ชอบคนร้าย ๆ ไม่ใช่เหรอ”
“อือ..” ผมตอบเบา ๆ แล้วเสมองทิวทัศน์
แบดหงุดหงิด เขาบอกไม่ถูกว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร...
หนุ่มหล่อเดือนมหาลัยขวัญใจสาว ๆ เลี้ยวรถคันหรูของเขาเข้ามาในมหาลัย ตรงใกล้ ๆ เซเว่นปากทาง หญิงสาวคนหนึ่งโบกมือเรียกให้รถของเขาจอด
กระจกเลื่อนเปิด ใบหน้าจิ้มลิ้มชะโงกมาคุย
“พี่แบดคะ ขอมดเข้าไปนั่งด้วยได้ไหม”
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ และปล่อยให้หล่อนเปิดประตูรถเข้ามาเอง
“มีธุระอะไรล่ะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบระหว่างที่ขับรถไปเรื่อย ๆ ตามถนนในมอ
“แหม มดคิดถึงพี่ต้องมีธุระด้วยเหรอคะ”
“อย่างนั้นเดี๋ยวจอดให้ลงตรงนี้เลยล่ะกัน” แบดทำท่าจะเลี้ยวรถเข้าเทียบข้างฟุตบาท หญิงสาวรีบโอดทันที
“มดจะมาทวงสัญญาไง พี่แบดลืมแล้วหรือคะ”
หนุ่มหล่อเลิกคิ้วน้อย ๆ เข้าประเด็นเลยก็ดี เขาเบื่อคนยืดยาดน่ารำคาญ
“จำได้ ไปเดี๋ยวนี้เลยไหม”
หล่อนทำเอียงอายตามจริตสาว “ก็แล้วแต่พี่แบดค่ะ”
มดเดินตามแบดขึ้นไปบนแมนชั่น เขาเปิดประตูและเบี่ยงตัวหลบให้สาวร่างบางเข้ามาในห้อง
“ว้าว นี่ห้องพี่แบดเหรอคะ”
“เปิดไว้ แต่ไม่ค่อยได้มาอยู่”
หล่อนโผไปทางโน้นทางนี้ราวนกน้อย ดูท่าทางจะชื่นชมต่อเฟอนิเจอร์มีรสนิยมหลายชิ้นในห้อง แบดเรียกอย่างรำคาญ
“จะทำอะไรก็รีบทำ ผมมีเวลาน้อยนะ”
มดฉีกยิ้มหวาน เดินยั่วเข้ามาใกล้พลางลูบไล้สาบเสื้อของเขา ชายหนุ่มมองหล่อนด้วยดวงตาสีสนิมเหล็กดุ ๆ มดใช้มืออีกข้างลูบตามไรหนวดที่ขึ้นมาบาง ๆ เสริมให้ใบหน้านั้นเข้มขึ้น หล่อนค่อย ๆ ไล้มือไปข้างแก้มสอดนิ้วเข้าตีนผมตรงท้ายทอยและดึงโน้มต้นคอของร่างสูงให้ก้มลงมาจูบปาก
แบดจูบเก่ง แม้ว่าดวงตาจะไม่แสดงอารมณ์ใดใด แต่หล่อนไม่รู้สึกผิดหวังกับรสจูบของเขา กระดุมของแบดถูกปลดออก เห็นผิวขาวเนียนและกล้ามอกเป็นมัดที่ซ่อนอยู่ภายใต้ หล่อนใช้มือที่มีเล็บเคลือบน้ำยาเป็นประกายระยิบระยับลูบไล้บนแผงอก และสะกิดปลายยอดด้วยปลายเล็บ
“ชำนาญจังนะ” หางเสียงของแบดประชดเล็กน้อย
มดแค่ยิ้ม หล่อนผลักเขาลงบนเตียงซึ่งอีกฝ่ายก็นั่งลงและถอดเสื้อของตนออก พวกเขาจูบกันอีกรอบ ก่อนที่มดจะกดให้ชายหนุ่มเอนตัวลงไป แบดยกแขนขวาขึ้นมาหนุนระหว่างหัวกับหมอนอีกทีระหว่างที่สาวสวยปลดเข็มขัดและรูดซิบกางเกงของเขา
“ใหญ่จัง ขนาดยังไม่ตื่นเลยนะนี่” หล่อนอุทานอย่างแปลกใจระหว่างที่มือเรียวก็จับก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นเต็มอุ้งมือผ่านกางเกงในของเขา หล่อนลูบไล้มันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปัดผมสยายไปข้างหลังด้วยท่าทางยั่วยวน ร่างของหล่อนนั่งคร่อมต้นขาของเขาอยู่ แล้วเริ่มต้นปลดกระดุมเสื้อรัด ๆ ของตัวเองบ้าง
หล่อนขยับเลื่อนร่างไปนั่งทับส่วนกลางลำตัวของแบด แล้วนำหน้าอกที่ยังอยู่ในบราไปถูไถกับปลายคางและใบหน้าของเขา โดยไม่ต้องเชิญ แบดยกมือข้างซ้ายอ้อมหลังหล่อนและกระตุกบราเซียร์ออกมาในพริบตาอย่างน่ามหัศจรรย์ เนื้อเต้าทะลักล้นหลุดออกมา ติ่งสีแดงอมชมพูชูชันแข็ง บ่งว่าหล่อนกำลังมีอารมณ์สุด ๆ
แบดจับปลายติ่งนั้นเล่น “ไม่ยักกะดำแฮะ ใช้ยาทาหรือไง”
มดตีเขาดังเพี๊ยะ “จะดำได้ไงล่ะคะ มดไม่ได้มีอะไรกับใครบ่อย ๆ สักหน่อย”
แบดยิ้มแบบที่บอกว่าไม่เชื่อ ก่อนจะช้อนเต้านั้นให้เข้ามาใกล้ปากเขาแล้วเริ่มดูดดุนเล่น หญิงสาวครางซี๊ด บดบั้นสะโพกเบียดอัดเข้ากับกลางตัวของแบด ชายหนุ่มสลับซ้ายขวาส่งเสียงจ๊วบจ๊าบ ปลายลิ้นชำนาญของเขาทำเอาหล่อนตัวสั่นหอบฮัก
มือของหล่อนควานลงไปจนถึงส่วนนั้นของเขาและขยำเบา ๆ
“ทำไมมันยังไม่แข็งเลยคะ”
แบดเลิกคิ้วเล็กน้อย “มันคงรอให้มดปลุกมั้ง”
“อืม..” หญิงสาวครางในลำคอ ก่อนเลื่อนตัวลงไปนั่งบนท่อนปลายขาของเขา ดึงกางเกงแสลคและกางเกงในของอีกฝ่ายออกพร้อม ๆ กับ แบดยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยให้ดึงออกง่าย ๆ
หล่อนก้มหัวลง ใช้ปากกับท่อนเนื้อปวกเปียก พยายามใช้ลีลาเท่าที่มี กลเม็ดเด็ดพรายทุกอย่างงัดมาใช้สิ้น แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย
หล่อนพยายามอยู่ครู่ใหญ่จนทนไม่ไหว ก็เงยหน้ามองหนุ่มรุ่นพี่ด้วยสายตาไม่พอใจพร้อมกับกรีดเสียง
“พี่แบดเล่นกลอะไรกับมดหรือเปล่าคะ!”
แบดก็มองของตนที่คออ่อนคอพับอย่างงุนงง “เปล่านี่ งั้นมดนอนไป เดี๋ยวผมทำเอง”
มดลุดขึ้นถอดเสื้อผ้าออกหมดทุกชิ้น แล้วพลิกกับไปนอนข้าง ๆ เขา แบดขยับลุกขึ้นมาคุกเข่าข้าง ๆ เขาหลับตาและสาวมือกำท่อนของตนรูดขึ้นลง มันค่อย ๆ ขยายตัวช้า ๆ จนกระทั่งผงาดเต็มขนาด หญิงสาวตาโตเมื่อเห็นความใหญ่ยาวของมัน
“อยากโดนเลยมั้ย”
“มีถุงหรือเปล่าคะ”
แบดพยักหน้านิดหนึ่ง ก่อนจะเดินโทง ๆ ไปหยิบถุงยางที่เขาเก็บไว้บนหลังตู้มา เขาฉีกซองแล้วใส่มันลงไป ขนาด 52 มิลค่อนข้างคับสำหรับเขา จึงใช้เวลาสักครู่กว่าจะใส่ได้หมด
มดเบือนหน้าหนีด้วยความเอียงอายเมื่อเขาทิ้งเข่าลงบนเตียง และค่อย ๆ ช้อนขาขาวเพรียวของหล่อนขึ้น เขาจ่อมันเข้ากับช่องทางฉ่ำเยิ้ม แล้วกดหัวลงไปเบา ๆ
หญิงสาวร่างสะท้าน เม้มปากครางด้วยความเสียวปนจุกแน่น แบดเอามันเข้าไปจนสุดลำแล้วเริ่มขยับ
ทว่า..
“พี่แบดเป็นอะไรอีก ทำไมมันอ่อนอีกแล้ว!”
ชายหนุ่มถอนออกมา และพบว่าจริงอย่างที่หล่อนพูด เขานิ่วหน้าด้วยความเครียด ขณะที่มดลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
“จะไปไหน”
หญิงสาวทำหน้างอ “หมดอารมณ์แล้วค่ะ ก็พี่แบดเล่นทำตัวเป็นนกกระจอกแบบนี้ใครมันจะอยากทำอะไรด้วยล่ะคะ”
“ผมไม่เคยเป็นแบบนี้นะ”
“งั้นตอนนี้ก็เป็นแล้วล่ะคะ มดไปล่ะ ไม่ต้องส่งนะ มดนั่งมอไซค์เข้าไปเองได้”
หล่อนก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องและปิดประตูตามค่อนข้างดัง แบดนั่งลงกับเตียงเขาเอาข้อศอกวางกับต้นขาก้มหน้าลงให้นิ้วกดคลึงขมับอย่างหงุดหงิด
ผมเห็นชื่อคนโทรเข้าแล้วล่ะ และก็พยายามฝืนใจไม่ให้รับโทรศัพท์ของเขา แต่ว่าบางอย่างในตัวผมมันพ่ายแพ้ และผมก็หยิบมือถือขึ้นมากดรับแนบไว้กับหูเฉย ๆ
“คืนนี้ว่างมั้ยแทน”
“ไม่ว่าง” ผมตอบห้วน ๆ
“ไม่เอาน่า มึงยังโกรธกูอยู่ใช่มั้ยเนี่ย เมื่อบ่ายกูก็แค่หยอกมึงเล่น แค่นี้ทำซีเรียส”
ผมเม้มปาก พยายามสะกดกลั้นความเสียใจ ผมก็เป็นแค่ของเล่นของมันจริง ๆ ด้วยสินะ
“กูไม่ได้โกรธมึง กูแค่ไม่อยากเห็นหน้ามึงหรือได้ยินเสียงมึงอีกแล้ว อย่ามายุ่งกูอีกได้ไหม กูขอร้อง..”
เงียบไปอึดใจใหญ่ ผมรู้ว่าผมควรจะตัดใจวางสายปิดเครื่องทันที แต่ผมก็อยากฟังคำตอบ ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังคาดหวังคำตอบแบบไหน
“ไม่ได้ว่ะ ถ้ามึงไม่อยากให้กูยุ่งกับมึง มึงก็ไปหาปืนจากไหนก็ได้ มายิงกูให้ตาย นั่นแหละกูถึงจะเลิก”
ผมยิ้มทั้งที่รู้สึกเศร้าโคตร ๆ ถ้ามึงไม่ได้ชอบกู ก็อย่าทำให้กูหวั่นไหวได้ไหม
“คืนนี้ว่างมั้ย” เขาถามย้ำประโยคเดิมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและอ้อนนิด ๆ
ผมหลับตาและตอบแบบคนใจง่าย “อืม ว่างก็ได้..”
ผมวางมือถือลงกับโต๊ะหลังจากที่อีกฝ่ายนัดหมายเวลาแล้ว ผมคงจะเป็นแบบที่ไอ้ทีมว่า คือไอ้หน้าโง่ที่เจ็บไม่รู้จักจำ รู้ว่าไฟมันร้อนก็ยังเล่นกับมัน แต่ว่าในมุมหนึ่งของเปลวไฟ ก็มีความอบอุ่น..ความอบอุ่นที่ชวนหลงใหลให้ก้าวเข้าสู่การมอดไหม้เป็นจุล
ผมเปิดประตูห้องเมื่อได้ยินเสียงเคาะ แบดยืนยิ้มหล่ออยู่ข้างหน้า ผมของเขาเซ็ตเป็นทรงอย่างดี เสื้อเชิ้ตปกตั้งเปิดกระดุมสองเม็ดโชว์สร้อยรูปเขี้ยวเสือสีเงินที่ห้อยอยู่ระหว่างอกแกร่ง
มันคว้าคอผมทันทีแล้วดึงโน้มเข้าไปใกล้ แก้มเราแนบกัน ปากของเขาอยู่ที่ริมหูผม เสียงของคนใจร้ายถามผมใกล้ ๆ
“ไปกันได้หรือยัง”
ผมค่อย ๆ ผลักเขาออก กลิ่นของเขาหอมสะกิดอารมณ์ใคร่จนผมรู้สึกเสียดาย แต่ก็นั่นแหละ เชื้อเชิญกันขนาดนี้เด็กอมมือมันยังรู้เลยว่าคืนนี้จะต้องร้อนแรงแน่ ๆ
“ไปไหนล่ะ ไม่เอาที่นี่เลยเหรอวะ”
แบดมองไปรอบ ๆ ห้องผม มันเบ้หน้า “กูไม่ชอบซ้ำรอยใคร ตอนนี้มึงเป็นของกู เข้าใจไว้ด้วย”
ผมยิ้มเล็กน้อย “กูไม่ใช่ของมึง แต่กูเงี่ยน พอดีว่ามึงช่วยบำบัดเงี่ยนให้กูได้ ขอบใจมึงล่ะกันนะ”
“เหอะ” มันพูดคำเดียวแล้วสะบัดหน้าไป ผมปิดประตูห้องล็อกตามมันลงไปจากหอ น้องกายเดินสวนมาพอดี
“เรียนถามตั่วเฮีย ท่านจะไปยังที่ใด”
ผมหลบตา “เอ่อ..กูไปเล่นเกมน่ะ” ไอ้แบดที่เดินลงบันไดล่วงหน้าไปห้าหกขั้นหันกลับมามองผมอย่างเยาะ ๆ คิ้วเข้มนั้นเลิกน้อย ๆ เหมือนกับนึกอยากทำอะไรร้าย ๆ สักอย่าง ผมไม่มองหน้าน้องกายอีกแล้วรีบลงบันไดไป ไอ้แบดเดินเข้าประชิดตัวผม มันจับมือผม สอดนิ้วเข้าประสานกัน ผมสะดุ้ง
“เป็นเหี้ยอะไรอีก” ผมถามมัน น้องกายขึ้นชั้นสามไปแล้ว
มันดึงมือออก แล้วลงบันไดทีละสองขั้น ผมถอนหายใจยาวเดินตามมันไป
เดือนมหาลัยปีสามจอดรถเข้าที่ลานจอดรถของแมนชั่น ผมขมวดคิ้ว
“นี่ใจคอมึงจะไม่เลี้ยงของกินกูหน่อยเหรอวะ”
แบดยิ้มนิดนึง “ถ้ากูเลี้ยงไอติม มึงจะให้อะไรกูล่ะ”
ผมพยายามไม่ดีใจมาก ถึงแม้จะทึ่งที่เขาจำได้ว่าผมชอบทานไอศกรีม
“มึงอยากเลี้ยงก็เรื่องของมึงดิ คำว่าเลี้ยงก็แปลว่าให้เปล่าอยู่แล้ว ถ้ามีของแลกเปลี่ยนก็เรียกว่าซื้อสิวะ”
“แล้วมึงขายมั้ยล่ะ”
ผมเชิดหน้าขึ้นก่อนจะตอบ “กูไม่ขายหรอก กูชอบให้เปล่า โดยเฉพาะให้สุนัขรับประทานนี่รู้สึกอิ่มบุญดีชิบหาย”
มันแค่นหัวเราะ ผมถอนใจเฮือกเมื่อเห็นดวงตาวาว ๆ นี่กูเล่นแรงไปหรือเปล่าวะเนี่ย มันเอื้อมมือมาจับมือผม ผมพยายามจะดึงออก มันหัวเราะอีก
“กลัวอะไร ทีเมื่อกี้ยังทำปากเก่ง” ผมเลยปล่อยให้มันดึงมือไป และไอ้แบดก็เอามือผมไปวางตรงเป้ามัน “นี่ไง ไอติมแท่งที่กูจะให้มึงกิน”
“ไอ้สาด” ผมด่าทั้งที่หน้าแดงสดใส ก็เห็นหน้าตัวเองในกระจกรถอ่ะ
ผมดึงมือกลับไปแล้วแกล้งถูมืออย่างขยะแขยง (ทั้งที่จริงกะว่าจะไม่ล้างมือไปอีกสามวัน วะฮ่าๆๆๆ) แบดเห็นแล้วก็ยิ้ม ผมแอบมองรอยยิ้มของเขาเพลินเลย หมอนี่ตอนยิ้มดูดีกว่าทำหน้าบูดเยอะ แต่ทำไมเขาถึงไม่ค่อยแสดงความรู้สึกแบบนี้มากนักนะ
มันเปิดประตูรถออก เดินลงไป แล้วชะโงกหน้ากลับเข้ามา
“กูคงไม่ต้องเดินอ้อมไปเปิดประตูให้มึงหรอกนะ”
ผมฉุน แค่ชักช้านิดเดียวเป็นเจอแขวะ เลยรีบเปิดประตูออกมารับอากาศภายนอกบ้าง ข้างนอกท้องฟ้ามืด แต่ย่านนี้เต็มไปด้วยแสงไฟ รัศมีไฟประดิษฐ์พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวเพลิงกองใหญ่ ผมรู้สึกถึงน้ำหนักแขนข้างหนึ่งพาดมาบนบ่า แบดยืนอยู่ข้าง ๆ และกำลังมองท้องฟ้าราตรีอยู่เช่นกัน ผมมองใบหน้าด้านข้างของเขา ตอนนี้ผมรู้สึกกับเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนที่สนิทมาก น่าแปลกนะ ทั้ง ๆ ที่เราแทบจะฆ่ากัน แต่วันนี้กลับยืนดื่มด่ำบรรยากาศด้วยกันเสียได้
สงสัยแบดคงจะรู้สึกตัวว่าปล่อยให้ผมหายใจคล่องนานเกินไปแล้ว เขาปล่อยมือจากตัวผม และมองหน้าพร้อมรอยยิ้มร้าย
“มึงจะยืนบื้ออีกนานมั้ย กูไม่ได้มีเวลาทั้งคืนหรอกนะ”
ผมสบถระหว่างที่เดินตามมันไป แม่งอุตส่าห์มีอารมณ์โรแมนติก ทำมู้ดกูเสียหมดเลย
ผมไตร่ตรองระหว่างที่เราทั้งคู่ผ่านทางเดินเงียบ ๆ ปูสักหลาดหยาบสีเขียวระหว่างห้องพัก ผมกำลังสงสัยว่าผมมาที่นี่ทำไม ผมตามมันมาทำไม ทำไมผมต้องเชื่อมันด้วย ผมกำลังตกหลุมพรางหรือเปล่า ผมโคตรโง่เลยใช่มั้ย
แต่ไม่หรอก ผมมีคำตอบให้ตัวเอง เรื่องพวกนี้เป็นเซ็กส์ล้วน ๆ เป็นอารมณ์และความใคร่ ผมไม่ได้รักไอ้แบด ผมแค่รู้สึกว่าเรือนร่างของมันเหมาะแก่การมีเพศสัมพันธ์ด้วยก็เท่านั้น
ความคิดของผมชะงักเมื่ออีกฝ่ายไขประตูห้องเปิดเข้าไป แสงไฟสว่าง ผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดเรียบตึง ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่บ้าง แต่ก็เรียบง่าย ดูจริงใจและอบอุ่น เหมือนกับเป็นห้องของท็อปมากกว่า
แบดยืนตรงกลางห้อง แสงไฟจากโคมสีส้มส่องอยู่บนหัวของเขา ผมชะงักอยู่ที่ประตู ตัวของแบดเองนั่นแหละ คือสิ่งที่ผิดแปลกไปจากห้องนี้ เหมือนเขายืนอยู่คนละโลกที่สุดโต่ง แต่ก็นำให้บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างประหลาด
แบดยืนนิ่งอยู่ที่กลางห้อง เขาหันหน้ามาทางผม ด้วยสีหน้าของผู้ที่เหนือกว่า ผมเดาว่าเขาคงต้องการให้ผมก้มลงคลานเข่าเข้าไปหา และคุกเข่าปรนนิบัติเขาเยี่ยงราชา..แต่เขาไม่มีวันได้รับแน่ ผมสาบานไว้ว่าอย่างนั้น
ผมงับประตูเบา ๆ แล้วเดินเลียบข้างห้อง มีตู้เสื้อผ้าแบบเตี้ยที่หลังตู้ใช้เป็นโต๊ะขนาดยาวชิดขอบผนังสองมุม ที่มุมนั้นมีเก้าอี้ไม้เบาะสีน้ำตาลอ่อน ผมลากมันออกมา แล้วนั่งลงไขว่ห้างกอดอกมองเจ้าของห้อง
แบดหรี่ตามองผมเดินเข้ามา เขาเท้าแขนลงกับหลังตู้ ใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้ผมใจระทึกอยู่ห่างจากผมไปนิดเดียว เราเริ่มต้นจูบกันอย่างดุเดือด เสียงเก้าอี้แล่นเอี๊ยดอ๊าดเมื่อแบดโถมน้ำหนักตัวเข้าใส่ผม เก้าอี้ลั่นกระแทกกับตู้ข้างหลังส่งเสียงกึงกราว และเขาก็ปลดปล่อยผมให้เป็นอิสระจากจุมพิต
แบดยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นผมหอบหายใจ เขาเดินถอยออกมาและกระดิกนิ้วเรียก ผมแทบไม่มีสติสัมปชัญญะเหลืออยู่ เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เขาทิ้งตัวนอนลงบนเตียง มีหมอนสองใบหนุนให้เขาชันช่วงอกขึ้นมา เขาเรียกผมด้วยสายตา ให้ผมคลานขึ้นเตียงไปยังร่างที่นอนอ้าขาน้อย ๆ โชว์เป้าตุง ๆ ในกางเกงยีนส์
ผมปลดกระดุมยีนส์ออกทุกเม็ด และลูบไล้ส่วนนั้นของเขาจากภายนอกกางเกงใน มันแข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโผล่ออกมาจากขอบบนกางเกงเกือบครึ่งท่อน
“กูมีอารมณ์กับมึงจริง ๆ ด้วย” เขาอุทาน
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาที่ดูเหมือนจะว้าวุ่นปนวิตก
“ก็มึงเป็นไบไง เลยมีอารมณ์ได้กับผู้หญิงผู้ชาย ป่านนี้มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”
เขาปัดมือผมออก แล้วกลับมานั่งขัดตะหมาด กลัดกระดุมกางเกงคืน
“อะไรของมึงอีก” ผมถามอย่างแปลกใจ
“กลับกันดีกว่า เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไอ้สัด มึงเรียกกูมาแค่เนี้ยเหรอวะ”
ไอ้แบดไม่ตอบ มันลุกขึ้น ผมรีบกระโจนตระครุบตัวมันให้กลิ้งลงไปกับเตียงพร้อม ๆ กัน คราวนี้ผมเสนอจูบมันเอง มันพยายามขัดขืน แต่ไม่นานก็เผยอปากตอบสนอง ทั้งยังโต้กลับอย่างดุดันพอ ๆ กัน ผมผลักมันออก แล้วมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายของมัน ตรงเป้าที่ชนกับเป้าผมก็ตุงโด่ ฟ้องว่าเจ้าของกำลังอยู่ในอารมณ์ใคร่
ผมยักคิ้วทวนคำพูดเดิมที่มันเคยปรามาสผมไว้ “มึงถามตัวมึงเองดีกว่า ว่ามึงปฏิเสธกูได้ไหม”

ใจร้ายจังเลย ตัดจบแค่นี้ กระซิก ๆ
แหมไม่ได้ใจร้ายหรอกก็มันมีแค่นี้นี่นา เดี๋ยวขอปั่นส่วนต่อไปสักสองชั่วโมงนะครับแล้วจะมาต่อ