ต้นสาย : อ่านคอมเม้นท์แล้วฮาครับ ฮ่าๆๆ แต่ผมไม่โดนตอนหรอก แต๊บเอาไว้ในซอกขาทัน คริคริ
happy_icekung69 : เป็นไปขนาดนั้นล่ะครับ
naumi : กายเป็นแค่เดือนภาคครับ ไม่หล่อขนาดเดือนคณะหรือมหาลัยอ่ะ แต่สำหรับผมแล้ว กายน่ารักที่สุดเลย
tawada_j : ช่ายครับ แต่จะเป็นจอมยุทธคนไหนเดี๋ยวต้องดูกันต่อไป
Tsukasa999 : ตอนนี้เป็นรับทั้งคู่ครับ ฮ่าๆๆ จะลงเลยกันยังไงเนี่ย
iGiG : ผมก็ขำกับเม้นท์นั้นเหมือนกันฮะ
kdds : ขอบคุณคร้าบ
nooww : มาต่อแว้วครับ
KriT_SuN : โอ้โห งั้นเดี๋ยวผมต้องไปฝึกวิชาตัวเบากับน้องกายสักหน่อยแล้ว
เอ่อ เรื่องนั้นมะต้องแฉก็ได้ครับ กระซิก ๆ
แต่ตัวละครในเรื่องนี้ อืมก็มีตัวจริงทุกตัวอ่ะครับ เหอเหอ
nana : ง่ะ ยอมไม่ได้ครับ เสียศักดิ์ศรีเกย์ควีนขั้นเทพหมด
anston :
ดีใจที่ชอบครับ มาต่อแล้วงับ
wan : ง่ะไม่มีทางเด็ดขาดครับ ผมเป็นรับคร้าบ รุกไม่ได้
ส่วนน้องกาย โฮะๆๆ ต้องรอดูต่อไปครับ
sarin : เกือบจะตั้งวงมโหรีฉิ่งฉาบใส่กันบนเตียงครับ ถ้าผมกะไอ้ทีมสาวกันสักหน่อยคงแข่งกันกรี๊ดใส่หน้า ฮ่าๆๆ
pongsj : ค่อนข้างบ่อยครับ เดี๋ยวคุณ pongsj ก็จะทราบครับว่าเราคุ้นเคยกันแค่ไหน อิอิ
mist : พูดถูกใจมากครับ ต้องเก็บไว้กินเอง ฮ่าๆๆ
MeowY : ไม่น่ารอดครับ หุหุ
gift_deb : โห สาวเสียบเหรอครับ ให้เจสซี่ใส่ชุดนั้นแทนน่าจะเฉียวกว่ากันเยอะ อิอิ
Turn_righT : ฮ่าๆๆ ทำได้จริงซะที่ไหนล่ะครับ ไอ้แทนมันมั่วไปเรื่อย เอาตัวรอดไปวัน ๆ ยังกะอุ้ยเสี่ยวป้อ
εïзPaIMhiNgεïз : แง้ว..ถ้าทำได้ ผมจัดการเปลี่ยนไอ้พวกน่ารัก ๆ แถว ๆ ม. มาเป็นกิ๊กหมดแล้วครับ โฮ่ๆๆ
ก ร ะ ต๊ อ บ ™ : ถูกต้องแล้วครับกระต๊อบ ต้องจับหงายซ่าอ้าขาไว้ แล้วหย่อนตัวนั่งซวบลงไปเลย ขโยกอีกหน่อยขี้คร้านจะเปลี่ยนใจอยากเป็นรุก
uknowvry : ไม่หื่นจริงอ่ะครับ
งั้นมาวัดพลังความหื่นกันสองต่อสองกับผมดีกว่า
kdds : ตามความประสงค์ครับ
----------
บ่ายแก่ ๆ ไอ้เจสซี่โทรมาครับ มันบอกว่านัดไอ้ท็อปกะไอ้แบดไว้แล้ว ที่ร้านไอติมหลังมอตอนหกโมงเย็น ผมก็เลยไปเรียกไอ้ทีม
ไอ้ทีมเปิดประตูให้ผม มันนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนหนึ่ง อวดกล้ามบึ้ก ๆ ผิวเข้ม ๆ เหมือนกาแฟใส่นม ผมกลืนน้ำลายอึกเมื่อกระหวัดนึกถึงร่างล่ำนี้ที่เคลื่อนไหวอยู่บนตัวผมเมื่อคืน
“มีไรพี่”
“ไอ้เจสมันนัดมาแล้ว มึงจะไปป่ะ”
มันกลอกตา ก่อนตอบ “ไปก็ได้”
“ไอ้หัวจรวย งานนี้ของมึงนะเว้ยอย่ามาทำเป็นเล่นตัว กูเซ็ง”
“เออ ๆ แต่งตัวก่อน เข้ามานั่งก่อนดิ”
ผมเข้าห้องมันไป รูมเมทมันคนหนึ่งกำลังเกากีต้าร์อยู่ หมอนี่ชื่ออดัม อยู่วิศวะ ใส่แว่นแต่หน่วยก้านใช้ได้ หน้าตาออกไปทางแขกขาว หล่อเหมือนซันนี่ที่แสดงเรื่องสายลับจับบ้านเล็ก มันเห็นผมมันก็ยกมือไหว้ สงสัยโซตัสของคณะมันคงจะแรงน่าดู
“อ้าวหวัดดีพี่”
“อือ..” ผมยกมือรับไหว้มัน เดี๋ยวมันแอบด่าในใจว่าไม่มีมารยาทเลย “เล่นเพลงอะไรอยู่อ่ะ”
“เล่นไปเรื่อย ๆ อ่ะพี่ ไม่มีไรทำ” อดัมตอบ แล้วดีดคอร์ดสั้น ๆ คอร์ดหนึ่งเป็นทำนองเหงา ๆ
“ไม่มีไรทำหรือไม่อยากทำอะไร”
หนุ่มหน้าแขกนิ่งไป ไอ้ทีมซึ่งใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็เข้ามาบอกผมใกล้ ๆ ด้วยเสียงกระซิบ
“พี่อย่าพูดอย่างนั้นเดะ ไอ้ดำมันเพิ่งอกหักมา”
“อ๋อเหรอ ไม่รู้ว่ะ”
ผมหันไปมองไอ้อดัมอีกทีอย่างสังเกต เออว่ะ มันดูลอย ๆ เหม่อ ๆ สักพักไอ้ทีมก็เร่งผม
“ไปกันเหอะพี่”
“หึ อยากเจอว่าที่กิ๊กมึงแล้วสิเนี่ย”
ไอ้ทีมไม่พูด มันทำหน้าบึ้งแล้วเดินนำออกไปจากห้อง ผมปิดประตูเดินตามหลังมันไป
เรามาถึงร้านไอติมที่ว่า ร้านนี้ค่อนข้างหรูเมื่อเทียบกะร้านนมปั่นข้าง ๆ ในร้านจัดแบบมีสไตล์โต๊ะเรียงไว้หลายแบบหลายมุมติดแอร์เย็นเฉียบ ใครอยากกินอะไรก็เรียกเจ้าของร้านมารับออเดอร์ได้หรือจะเดินไปสั่งที่เคาเตอร์เลยเพื่อความสะดวกก็ตามแต่ใจจะไขว่คว้า
ผมกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อหาผู้ชายหน้าเถื่อนถ่อยที่นั่งด้วยกันสองคนในร้าน แต่ว่าทั้งร้านก็เห็นอยู่คนเดียว เขานั่งหันหลังให้ ดูจากรูปร่างส่วนสูง และผิวสีขาวละเอียดที่ต้นคอ ผมก็เดาว่าหมอนี่อาจจะเป็นนักกีฬาในร่ม อาจจะบาสหรือแบดมินตันหรือไม่ก็ว่ายน้ำ แต่ไม่เข้าขั้นเถื่อนและบึ้กอย่างที่ไอ้ทีมชอบ อาจจะเป็นชายหนุ่มที่มารอแฟนเขามาทานไอติมด้วย
ผมบ่นกับไอ้ทีมทันที
“สงสัยกูโดนอีเจสซี่หลอกแล้วว่ะ”
สิ้นเสียงผม ผู้ชายคนนั้นหันมาทันที เรามองตากัน ผมอึ้ง ทึ่ง ตะลึง และเครียด
ไม่ได้อึ้งเพราะความหล่อโคตร ๆ ของไอ้เหี้ยหน้าใสนั่น ไม่ได้ทึ่งเพราะความดังที่มันเคยเป็นเดือนมหาลัยเมื่อสามปีก่อน ไม่ได้ตะลึงเพราะเหตุที่มันเนื้อหอมโคตร ๆ แต่..เครียดที่มันบังเอิญชื่อแบดนี่สิ
“เฮ้ย มึง!”
ผมชี้หน้ามันอุทานอย่างตกใจ ไอ้ทีมมองพวกผมสลับกันไปมาอย่างงง ๆ
“หึหึ” ไอ้หน้าหล่อหัวเราะกวน ๆ ตามสไตล์ของมัน “เห็นบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ไม่นึกว่าน้องแทนจะเป็นเกย์”
“กูอายุมากกว่ามึงเว้ย ไม่ต้องมาเรียกกูว่าน้องเลยไอ้ห่า”
ผมเกือบจะเต้นผาง ไอ้เหี้ยแบดนี่เคยมีกรณีกับผมตอนงานรับน้องรวมของมหาลัย มันเป็นพี่ว้ากที่โหดเถื่อนถ่อยแบบสุด ๆ ขณะที่ผมก็ถ่อยพอ ๆ กันและต่อต้านระบบโซตัสสุดฤทธิ์ เราปะทะกันเป็นระยะ มันอาศัยพวกมากบังคับให้ผมทำอะไรพิเรนทร์ ๆ และสุดท้ายตอนกล่าวความรู้สึกในงานปิดต่อหน้าคณาจารย์ ผมใช้อำนาจมืดออกไปเป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณรุ่นพี่ ซึ่งผมก็จวกระบบโซตัสกะไอ้พวกพี่ว้ากเหี้ย ๆ อย่างไม่เลี้ยง จนดังก้องมหาลัยในชั่วค่ำคืนเดียว
“มานั่งกินไอติมเย็น ๆ ก่อนดีกว่ามั้ย จะได้พูดคุยกันถนัด”
“มึงเลี้ยงมั้ยล่ะ” เวรล่ะกู เห็นแก่กินอีกแล้ว - -*
ไอ้ทีมทำหน้าไม่ชอบใจ เหมือนหมาเจ้าถิ่นที่เห็นหมาตัวอื่นเข้ามามันจะขู่แฮ่ ๆ แล้วทำขนพองฟ่อ ๆ (นั่นมันแมวแล้วโว้ย)
“เลี้ยงสิ ไหน ๆ พี่ก็เป็นคนนัดเดททั้งที”
ผมเดินมานั่งกระแทกตัวลงบนเก้าอี้อย่างไม่ชอบใจ
“กูบอกว่ากูอายุมากกว่า มึงนี่หูหนวกหรือไง”
ไอ้แบดยิ้มเย็น “ตามระบบซีเนียริตี้ครับ น้องจะมาจากไหนซิ่วมากี่ปีก็ไม่สำคัญ เมื่อเข้ามาเรียนที่นี่ทีหลังก็ต้องเป็นรุ่นน้องอยู่วันยังค่ำ”
ไอ้ทีมผงกหัวรับ นี่มึงไม่เข้าข้างกูเลยใช่ไหมวะ
“สรุปว่ามึงคือคนที่เจสซี่ส่งมาใช่ไหม”
“ใช่”
“แล้วนายท็อปอะไรนั่นล่ะ”
ไอ้หน้าหล่อส่ายหัว “สงสัยไม่มาแล้วมั้ง แล้วนี่จะกินอะไรก็สั่งดิน้อง”
ผมหยิบเมนูมาส่งให้ไอ้ทีม แล้วเอียงไปกระซิบข้างหูมัน “เอาที่แพงที่สุด สั่งมาเยอะ ๆ เอาแม่งให้หมดตัวไปเลย”
ไอ้ทีมผงกหัวเห็นด้วย แล้วจัดการตามคำสั่ง
“นี่เพื่อนกู ชื่อทีม” ผมแนะนำให้ไอ้แบดรู้จัก “มันอยากรู้จักมึงอ่ะ”
“อ้อ..” ไอ้แบดร้องคำเดียว มองไอ้หน้าเถื่อนแว่บหนึ่งก่อนจะหมดความสนใจ “แล้วน้องแทนล่ะครับ”
“มาเป็นเพื่อนเฉย ๆ” ผมบอกแล้วนั่งกอดอกแต่ยังไม่คลายสายตาที่จ้องหน้ามันไว้ เหม็นขี้หน้าไอ้ขี้เก๊กชิบหายเลยว่ะ ชอบอมยิ้มแบบเหมือนจะมีความลับ แล้วก็มองผมด้วยดวงตาพูดได้
เรานั่งกันเงียบ ๆ อยู่พักใหญ่ ไอ้ทีมไม่พูดอะไรสักคำ มันแอบอ้าปากหาวด้วยผมเห็น จนกระทั่งพนักงานเอาไอติมมาเสิร์ฟนั่นแหละ ไอ้แบดถึงทำตาโต
“นี่จะสั่งมาเลี้ยงช้างกันเหรอวะ”
ผมหัวเราะ “ฮ่าๆๆ พอดีวันนี้กูหิวจัดว่ะ โทษทีเว้ย”
ไอติมถูกเอามาวางแค่พอควร แต่มันก็ยังเยอะอยู่ดี ชะรอยเจ้าของร้านคงจะรู้สึกว่าปริมาณที่สั่งมันมากเกินไป..แม่งเซ็งเลย
“โอเค กินให้หมดนะ ถ้าไม่หมด” ไอ้แบดส่งสายตาวาวข่มขวัญ “กูจะเอาละเลงหัวมึง”
นั่นไงลายมันออกแล้ว พูดครับ ๆ ผม ๆ ไม่ได้นานร้อก ไอ้เหี้ยพญามารพี่ว้ากจอมโหดแห่งคณะวิศวะมันเก็บหางไว้ไม่อยู่กูบอกแล้ว
ผมไม่เสียว มีของฟรีผมก็กิน ไอ้ทีมก็ก้มหน้าก้มตากิน มันเสือกไม่ยอมพูดคุยกะไอ้แบด อย่างเงี้ยงานก็ล่มสิวะ
“มึงคุยกะไอ้แบดหน่อยสิ”
“จะให้คุยไรล่ะ” ไอ้ทีมถามกลับ
“ก็ถามชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์อีเมล์ชื่อนามสกุลบิดามารดาจำนวนญาติพี่น้องและโรคประจำตัวที่มี มึงหาเอาสักอย่างในหัวข้อพวกนี้ก็ได้ อย่าควายนักดิโว้ย”
“ทีมไม่รู้จะคุยไรนิ อีกอย่างพี่แบดไม่ได้สนใจทีมสักหน่อย”
คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามยิ้ม เหมือนจะเยาะหยันผมที่มานั่งเซ่อเป็นไก่ตาแตก จับคู่เดทระหว่างชายหูหนวกกับหญิงใบ้เนี่ย
“งั้นกูกลับล่ะ เซ็ง”
ผมลุกขึ้นกำลังจะเดินไปพ้นโต๊ะ ไอ้เหี้ยแบดก็คว้ามือไว้
“เดี๋ยว มึงยังกินไม่หมด”
“มึงจะเอาไรกะกู มากขนาดนี้หมาที่ไหนจะยัดห่าหมดวะ” ผมตอกกลับทันที ไอ้พี่แบดลุกขึ้น มันผลักโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ ไอ้ทีมยกถ้วยเอิร์ธเควกของมันขึ้นพ้นธรณีพิบัติทัน ก่อนที่เสียงถ้วยแก้วและอุปกรณ์บนโต๊ะจะหกตกลงพื้นดังเปรื่องปร่าง ผู้หญิงในร้านร้องว้ายอย่างตกใจ ทุกคนหันมามองเราเป็นสายตาเดียวกัน
“มึงเป็นคนสั่งมามึงก็ต้องกินให้หมด”
“ไอ้หน้าส้นตีนนี่ ก็มึงทำตกพื้นหมดแล้ว”
“มึงก้มลงไปแล้วเลียเอาจากพื้นนั่นแหละ”
ผมสุดจะทนดึงแขนออกจากการกุมของมันแล้วผลักอก
“มึงหาเรื่องเหรอวะ อย่านึกว่าเป็นรุ่นพี่แล้วกูไม่กล้าทำอะไรนะ”
สองตาวาว ๆ ของมันโรจน์ขึ้นมาทันที เหมือนพญานาคยามที่ถูกตีตรงขนดหาง แขนแกร่ง ๆ ของไอ้หน้าหล่อกระชากคอเสื้อผมแล้วดึงเข้ามาใกล้ๆ จนผมตั้งตัวไม่ติด
“กูจะนับหนึ่งถึงสาม มึงก้มลงไปเลียไอติมให้หมดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นมึงได้ชิมตีนกูแทนแน่”
ขณะที่ผมกำลังเริ่มรู้สึกกลัวคนตรงหน้า ไอ้ทีมก็เข้ามา ปลดมือของไอ้แบดออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
“อย่ามีเรื่องกันเลยพี่ ผมขอโทษแทนพี่แทนล่ะกัน”
“มึงไม่ต้องมาขอโทษแทนกูไอ้ทีม กูไม่มีทางก้มหัวให้ไอ้พวกรุ่นพี่งี่เง่าเป็นอันขาด”
“หึ” เดือนมหาลัยจอมโหดผลักอกผม แล้วเขม้นมองด้วยสายตาที่ทำให้ผมหนาว ๆ ร้อน ๆ “แล้วกูจะคอยดูว่ามึงจะไม่ก้มหัวให้กูไปได้อีกกี่น้ำ”
ร่างสูงแบบนักกีฬานั้นหันกลับไปที่เคาเตอร์และพูดกับเจ้าของร้านที่กำลังตะลึง
“นี่เบอร์ผม ค่าเสียหายคิดเท่าไหร่บอกได้ ผมจ่ายสองเท่า”
เจ้าของร้านผงกหัวแล้วรับนามบัตรของมันอย่างงง ๆ มันกระตุกยิ้มนิดหนึ่งเมื่อมองมาทางผม แล้วเดินออกไปจากร้านอย่างยโส
“โว้ย..! กูเกลียดไอ้พวกรูปหล่อพ่อรวยแล้วทำหยิ่งมองไม่เห็นหัวชาวบ้านว่ะ”
ไอ้ทีมสะกิด “ทำไมพี่แทนไม่ด่าตอนที่เขายังอยู่ล่ะ”
ผมถอนหายใจเฮือก ใครจะไปกล้าแหย่รังแตนอีก ขอให้ได้ตะโกนระบายความอัดอั้นตันใจก็พอแล้ววะ