{ _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}  (อ่าน 444935 ครั้ง)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ นิราศนี้มีรัก แบบเกรียนๆซะด้วย :laugh:
จูเนียร์ ถ้าเธออยากให้ทฤษฎีเธอเป็นจริง เธอลองอ่อยซองโจดูสิ จะได้รู้กันไปเลย ทางนี้ลุ้นใจแทบขาดว่าซองโจจะกัดเธอตรงไหนเพื่อลงโทษอีก :haun4:
ตอนต่อไป เมื่อไหร่จะมาน้าาาาา รอนะคะ :impress2:

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ย๊าาาา
พระเอกไมน่ารักงี้ ฮรืออออ
ถ้าเราเป็นจูเนียร์ก็คงด่าตัวมันในอดีตเหมือนกันนน
รอตอนต่อไปค่าา
 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
สนุกมากกกกกก  นังจู(?)น่ารักน่าฟัดน่าเอ็นดูมาก ฮ่าๆๆๆๆ  พระเอกของเราก็เท่มากเช่นกัน

ออฟไลน์ Chocobear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นั่งอ่านเรื่องนี้เหมือนกำลังดูซีรีย์เกาหลีย้อนยุคอยู่จริงๆนะ คำบรรยายกับภาพในหัวตอนดูซีรีย์นี่มาเลย
โอยย... ยิ่งคำพูดคำจานี่มันใช่ เลอค่ามากจริงๆ
รอตอนต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ Perry_Pie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-3
ตัวจ๋าาาา เค้ารอตัวมาต่อทุกวันเลยนะะะะ
เมื่อไหร่ตัวจะมาาาาา  :mew2: :ling3: :ruready

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
แวะมาเวิ่นเว้อ อิอิ
คิดถุงหนูจู

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
คิดถึงจังเลยครับอยากอ่านต่อแล้วนะครับ

ออฟไลน์ MunashiiSora

  • ♥ ฮุนฮาน ft.520
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 443
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-2
จงมาต่อ จงมาต่อ จงมาต่อ ~  :call:

ออฟไลน์ mishiyosan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมรู้สึกชองโจพูดมาก  :hao7:
ยองวอนป๊อดจริงๆแหละ 55555 ชอบจูเนียร์ นางฮามาก :katai5:
เริ่มมีใจให้เขาแล้วล่ะสิ :hao7:
 :o8: :-[ :impress2: :hao3:

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :katai5: :katai5:  เค้ามารอตะเองทุกวันเลยนะ  :katai5: :katai5:

คิดถึงอาลีแล้วเนี่ย  :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BaZkon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :z13: :z13: :z13: แวะมาจิ้มๆๆ

ออฟไลน์ naiRydaL

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 
 :-[ :-[

อ่านแล้วเขินนน

น่าร๊ากกกกกกก

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 6








   วันนี้วันศุกร์!
   กูรอคอยวันนี้มานานมากเหลือเกิน อยากจะร้องไห้ให้น้ำตาไหลเป็นสายน้ำ ผมเรียนในซองกยุนกวานมาได้หนึ่งอาทิตย์พอดีเด๊ะ บอกเลยว่าช้ำเลือดช้ำหนองมากครับ ไม่ใช่ร่างกายนะครับ สมองผมอ่ะ ยอมรับตามตรงเลยว่าผมตามไม่ทันไอ้พวกเชี่ยที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันเลยแม้แต่น้อย(อารมณ์เสียล้วน ๆ) แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของผมเสียทีเดียวนะ หนึ่งคือเนื้อหามันยาก(เรียนอะไรก็ไม่รู้เกิดมากูก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ) และสองคือนักเรียนปีหนึ่งซองกยุนกวานคือหัวกระทิที่เกิดมาเพื่อที่จะเป็นขุนนางในราชสำนักทั้งนั้น
   เพราะฉะนั้นถ้าคะแนนของผมเชี่ยสุดละก็ได้โปรดอย่าสงสัย ผมพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วครับ เพราะผมมาจากประเทศไทยผมต้องคำนึงถึงชื่อเสียงและหน้าตาของประเทศเอาไว้(เดี๋ยว...มึง...) เมื่อถึงวันศุกร์เฉกเช่นวันนี้ อารมณ์ผมก็เลยหลั่นหล้าเป็นพิเศษ หลั่นล้าแต่เช้ายันสายยันบ่ายยันเย็น
   “เจ้าเป็นบ้าเหรอ” ซองโจที่ไม่คุยอะไรกับผมมาทั้งวัน เพิ่งจะมาคุยเอาเดินสวนกันตอนคาบเรียนสุดท้ายเลิก ตอนนี้ผมกับมันกำลังใส่รองเท้าอยู่ครับ “เจ้ายิ้มเหมือนคนไม่มีสติ”
   “เจ้ามายุ่งอะไรกับข้าล่ะ”
   “ก็แค่อยากรู้ เด็กอย่างเจ้ามีอะไรให้อภิรมย์จิตใจนักหนา”
   “ข้ามีของข้าละกันน่า”


   “ข้าได้ยินที่พยองอันพูด”


   “…”


   “สวดมนต์ไหว้พระขอพร คือกิจกรรมที่เจ้าชอบทำใช่หรือไม่”


   ผมชะงักเหมือนมีคนมาสตัฟฟ์ร่างกายเอาไว้ สวดมนต์ไหว้พระ กูเนี่ยนะ? ใช่เหรอวะ แม้จะชาติที่แล้ว ชาติหน้าหรือชาติไหนก็ตาม ผมไม่น่าจะมีสันดานเป็นคนธรรมะธรรโม
   “พยองอันชวนชิลไปกับพวกเจ้าด้วย แต่ชิลแล้วแต่ข้า ถ้ามาถามข้า ข้าก็ไม่ไป”
   หลัง ๆ ไอ้ซองโจมันชักจะพูดเยอะแถมกวนตีนมากขึ้นด้วยนะ ตกลงมันเป็นคนยังไงกันแน่
   “วันนี้ข้าต้องไปกับพยองอันอย่างนั้นหรือ” กูมีนัดทำไมกูไม่รู้ล่ะเห้ย
   “เจ้าก็ไปคุยกันเองสิ” ซองโจเดินหนี เผยให้เห็นพยองอันที่อยู่ด้านหลัง(บังมิดเชียวนะมึง) พยองอันยิ้มให้ผม พร้อม ๆ กับเอ่ยว่า...
   “คนของที่บ้านข้ามารอรับพวกเราที่นอกรั้วแล้ว วันศุกร์ตอนเย็นย่ำที่วัดไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา เจ้าน่าจะทำสมาธิได้มาก”


   กูจะเป็นลม...วันศุกร์ที่ปกติได้ไปตื๊ดกับไอ้เชี่ยกล้วยที่อาร์ซีเอรัชดาซอยสี่ไม่ก็ทองหล่อเอกมัย ทำไม้ทำไมมาอยู่ในชาตินี้ถึงได้ไป...สวดมนต์ ขออภัยคนที่มีศรัทธาอย่างแรงกล้าด้วยนะครับ คือมันไม่ใช่สำหรับผมอ่ะ มันโคตรไม่ใช่

   “คือว่า...ข้าชอบสวดมนต์เหรอ”

   พยองอันขำอีกแล้ว “เจ้าเล่นเกมเป็นคนความจำเสื่อมอีกแล้วสินะ” มันน่ารักตรงนี้แหละครับ “เจ้าเป็นคนชอบสวดมนต์ ชอบเข้าวัด ใจบุญสุนทาน บริจาคหลายสิ่งอย่างให้กับผู้ยากไร้และวัดที่อยู่่ห่างไกลด้วย”
   
   คุณพ่อคุณแม่ คุณพระคุณเจ้า...ลียองวอน เอ็งเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ยยยยยย

   “ข้าก็เลยคิดว่าเพราะเจ้ามีบุญญาธิการสูงชีวิตเจ้าก็เลยได้พบเจอแต่เรื่องดี ๆ ยังไงล่ะยองวอน”

   ผมนึกไปถึงที่ยองวอนมันอธิษฐานเรื่องหากชาติหน้ามีจริงขอให้เจอซองโจอีก...ทีนี้เป็นไงล่ะ ไอ้คนดี ไอ้บุญเยอะ ความซวยตกมาอยู่ที่กูเลยเนี่ย ไม่ต้องไปรอชาติหน้าให้เสียเวล่ำเวลา คนข้างบนเขาให้กูย้อนกลับมาเป็นมึงให้แก้ไขสิ่งที่มึงอยากทำ แล้วใครซวย กูไงครับ กูเนี่ยยยย ไม่ใช่มึง ฟายยยย T_T

   “เจ้า...เป็นอะไรรึเปล่า ทำหน้าเหมือนท้องอืด” กูเซ็งไงเพื่อน ไม่ใช่ขี้ไม่ออก
   “วันนี้ข้าไม่ไปสวดมนต์ได้หรือเปล่า” ผมบอกตามตรง “ช่วงนี้ข้ายังไม่อยากสวดมนต์เท่าไหร่ ข้าอยากไปเที่ยวนอกโรงเรียนบ้าง เจ้าช่วยพาข้าไปได้หรือไม่”
   “คนอย่างเจ้าเนี่ยนะ ไม่อยากไปสวดมนต์ตอนที่มีโอกาส” พยองอันทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
   นี่คือตัวจริงกูเลยเว้ยพยองอัน ตัวจริงของจูเนียร์นะ ไม่ใช่ยองวอน
   “น่าสนใจดีนะ ข้ามัวแต่เตรียมสอบ นอกโรงเรียนในเมืองหลวงข้าก็ยังไม่เคยได้เที่ยว เพราะฉะนั้น...คืนนี้เราไปเที่ยวกันเถอะ”

   เยสสสสสสสส!!!!! ไปแดนซ์กันครับ ไปแดนซ์กัน!

   “ข้าขอไปร้านที่มีดีเจเปิดเพลงได้หรือเปล่า?!”

   …พยองอันทำหน้าไม่เข้าใจใส่ผม วินเทจมาอีกคนแล้วหนึ่งอัตรา “ดีเจ๊?” จะว่าไปในยุคนี้มันจะมีที่ไหนกันล่ะผับเผิบบาร์เบอร์ ที่แน่ ๆ ผมนึกถึงหอนางโลมออกอยู่นะครับ

   “เอ่อ ช่างเถอะ ขอที่ไหนก็ได้ ที่มีสาว ๆ เยอะหน่อย” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์

   “เกิดอะไรขึ้นกับลียองวอน ข้าว่าเจ้าต้องหกล้มหัวฟาดหินมาแน่ ๆ ปกติเจ้าไม่สนใจนารีคนไหนเลยไม่ใช่เหรอ” เพราะยองวอนมันชอบผู้ชายไงเล่า มันเป็นเกย์เว้ย ไม่เหมือนผม...

   ทำไมคิดแบบนี้แล้วผมเริ่มขัดตัวเองแปลก ๆ ปลายหางตาของผมเหลือบไปเห็นสามยักษ์ที่ยืนคุยกันท่าทางมีสาระอยู่ด้านโน้น ผมรีบตวัดปลายหางตาของผมให้กลับมาหาพยองอัน

   “แต่ก็เอาเถอะ เจ้าเครียดมาทั้งสัปดาห์แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปละกันนะ”










   ตื่นเต้น...ชิบหาย!!!!
   ผมรีบกลับหอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ไม่มีอารมณ์เซ็งอะไรเลยครับมีแต่อารมณ์คึกล้วน ๆ แม้จะมีซองโจทำหน้าเย็นชาอยู่ในห้องก็หาได้ทำให้ผมรู้สึกหมดสนุกลงได้ ผมอึ้งเล็กน้อยกับชุดที่ซองโจใส่แทนชุดนักเรียน มันใส่ผ้าไหมราคาแพงอีกแล้ว แม่งทำให้ชุดเหลืองอ่อนของผมด้อยค่าลงมาถึงแม้ว่ามันจะแพงแล้วก็ตาม
   ไฮโซแล้ว ยังมีไฮโซกว่า...
   ผมเบะปากใส่ลับหลังซองโจ ไม่รู้ว่าสุดสัปดาห์นี้มันจะอยู่ไหนทำอะไร แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องกลับมานอนที่หอพักของโรงเรียนอยู่ดี
   หรือคืนนี้จะได้นอนข้างนอกนะ...เผื่อหิ้วสาวแล้วสาวติดไปด้วยอะไรแบบนี้น่ะครับ
   คุณกำลังเบะปากใส่ผมอยู่สินะ แหม่ ผมไม่ทำหรอก ผมมันบื้อเรื่องนี้จะตายไป
   “นี่คือหน้าตาของคนที่กำลังจะไปสวดมนต์งั้นหรือ” ทันทีที่ซองโจเอ่ยปาก ความสนุกของผมก็เริ่มติด ๆ ขัด ๆ
   “ข้าไม่ได้จะไปสวดมนต์”
   “แล้วคนอย่างเจ้าจะไปไหน”
   แหม...อยากรู้อยากเห็นใช้ได้เหมือนกันนะมึง “เจ้าถามข้าทำไม เจ้าจะตามมาหรือไง” ถ้าตามมา มึงคือบักขี้ก็อปขนานแท้ กูพูดเลย
   “ข้าไม่อยากตามคนไร้สาระอย่างเจ้าไปไหน”
   แรง... “ดี งั้นข้าจะไม่บอกเจ้าว่าข้าจะไปไหน” หว่าย...เสือกครับ แต่เสือกได้ไม่สุดเพราะผมไม่บอก กร๊าก มันต้องเป็นความรู้สึกเหมือนฉี่ไม่สุดหรืออึไม่สุดแน่ ๆ (ใครทานอะไรอยู่ขออภัยด้วย) “ข้าไปล่ะ”
   “เจ้าสวมใส่เสื้อผ้าไปแค่นั้นเจ้าจะไหวเหรอ อากาศคืนนี้จะหนาวนะ”
   “เจ้าดูแลตัวเองเถอะ ไม่ต้องมาสนใจข้าหรอก”
   ผมเดินออกมาจากห้อง โดยไม่ได้สนใจถามไถ่ว่าอีกคนในห้องนั้นมันจะไปที่อื่นหรือจะอยู่ต่อ แต่คนอย่างมันนั้นไม่น่าจะอยู่เฉย ๆ ได้หรอกครับ มีโอกาสมันก็คงไปป้วน ๆ เปี้ยน ๆ แถววังนั่นแหละ











   ทันทีที่ก้าวออกมาจากโรงเรียน ผมก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับความเจริญในยุคนี้ที่อยู่หน้าโรงเรียนของผมมาก ขายกันตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบและก็คึกคักกันสุด ๆ เหมือนตลาดนัดคลองถมที่มีลูกค้าเดินเข้าเดินออกกันสนั่นหวั่นไหว แม่ค้าพ่อค้าหญิงสาวชาวบ้านดูจะแอบกรี๊ดนักเรียนซองกยุนกวานอยู่เหมือนกัน ทันทีที่ผมก้าวเท้าออกไปและมีผู้หญิงมองมา ผมก็จะแอบอดยืดอกอย่างภาคภูมิใจในสถาบันไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วผมไม่ได้เรียนที่นี่ก็ตามที

   “นี่ไง คุณชายลียองวอน! บุตรชายของท่านเสนาบดีซ้าย!”
   “งดงามเป็นที่สุด”
   “ข้าอยากได้รูปหน้าแบบนั้น คิ้วแบบนั้น ริมฝีปากแบบนั้น”
   “ถ้าข้ามีหน้าตาแบบเขา ข้าต้องเป็นสตรีที่สวยที่สุดแน่”

   
   เชี่ยไรฟะ อุตส่าห์ฟิน...หมดกัน ผมส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนที่จะขยับหมวกสูงมาปิดบังไม่ได้(ซึ่งปิดไม่ได้) เลิกสนใจหญิงสาวเหล่านั้นต่อไปในขณะเที่ยวไปเรื่อย มีเสียงพยองอันเจื้อยแจ้วข้าง ๆ ผม
   “นั่นเป็นร้านหนังสือที่ดีที่สุด เป็นศูนย์รวมของหนังสือที่เราจะต้องอ่านภายในสามปีนี้ นั่นก็เป็นร้านปากกาขนนกนำโชค ใครเอาไปใช้สอบมักจะสอบผ่านเสมอแหละ”
   ทำไมมีแต่สาระทั้งนั้นเลยฟะ ขออันที่ไม่ใช่สาระหน่อยดิ
   “โอ๊ะ ร้านขนมนี้อร่อยมาก ข้าขอแวะสักหน่อยได้หรือไม่”
   นั่นแหละพยองอัน ต้องอย่างนี้สิ... “เอาสิ ข้าขอชิมด้วยนะ” ผมรีบพูด พยองอันรับคำก่อนที่จะเดินไปสั่งขนมโบราณที่อยู่ข้างทาง
   ผมมองบรรยากาศรอบ ๆ แล้วอยากจะยกกล้องมาถ่ายรูปเสียจริง ๆ ไม่ว่ากล้องจะมัวหรือจะถ่ายแย่หรือไม่ก็ตามแต่ความจริงของภาพมันต้องทำให้ยอดไลค์ของผมพุ่งกระฉูดแน่ ๆ (สุดท้ายก็ไม่มีสาระเหมือนเดิม) น่าเสียดายที่สมัยนี้ยังไม่มีอุปกรณ์เหล่านั้นชะมัด
   หันซ้ายหันขวาส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในเมืองหลวง และก็นักเรียนซองกยุนกวานนอกเครื่องแบบนักเรียน ผมเห็นรุ่นพี่บ้าง รุ่นเดียวกันบ้าง และส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นเดียวกันนี่แหละครับที่ตื่นเต้นกับอะไรที่อยู่ติดโรงเรียนแบบนี้
   ผมมองไปเรื่อย ๆ จนเริ่มสงสัยในตัวเองว่าเมื่อไหร่ผมจะเลิกมอง นี่ผมกำลังหาอะไรหรือใครอยู่รึเปล่า

   “พยองอัน” ผมค่อย ๆ เขยิบไปกระซิบถามพยองอันที่ก้ม ๆ เงย ๆ สั่งขนมอยู่
   “หืม?”
   “เจ้าได้คุยกับไอ้ยักษ์รูมเมททึของเจ้าบ้างหรือเปล่าว่าเขาจะไปไหน” ใครจะไปถามถึงซองโจล่ะครับ ถามถึงไอ้ยักษ์ชิวบริวารของมันน่าจะง่ายกว่า ดูตามติดนายจ้างเสียเหลือเกิน
   “เขาไม่เคยพูดกับข้า เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไร” พยองอันตอบ
   “เดี๋ยว นี่เจ้าอยู่กับเขามาทั้งสัปดาห์ เขายังไม่เคยพูดกับเจ้าเลยอย่างนั้นหรือ”

   พยองอันทำหน้าเซ็งนิดหน่อย “ใช่ ส่วนใหญ่ข้ามักจะถามคำถามเขาก่อน ถ้าเป็นคำถามใช่หรือไม่เขามักจะพยักหน้าหรือส่ายหน้า แต่ถ้าเป็นคำถามที่เขาต้องอธิบาย เขาจะไม่พูดอะไรเลย”

   มึงเป็นคนประเภทไหนกันแน่วะ...ผมเกาหัวแกรก ๆ ขณะรับขนมมาจากพยองอัน เราสองคนนั่งแทะมันไปและก็เดินไปเรื่อย แวะดูโน่นดูนี่บ้าง จนได้ซื้ออะไรติดมือมาหลายอย่าง เช่นหยกประดับ มีดพกสลักลายมังกร และก็แจกันตกแต่งห้อง

   “คืนนี้เจ้าจะพาข้าไปหาที่ ๆ มีสตรีอยู่มากใช่หรือไม่” ผมถามพยองอัน
   อีกฝ่ายหัวเราะร่วน “ได้ ข้าจะพาเจ้าไป แต่ก่อนไปข้าขอแวะทานของขึ้นชื่อนี่หน่อยก็แล้วกัน”

   คำจำกัดความของร้านนี้ผมจะเอ่ยให้คุณ ๆ นึกออกนั่นคือร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งผมไม่รู้ว่าสมัยนั้นเขาพากันเรียกว่าอะไร รสชาติอย่าให้พูดเลยครับ จืดอย่าบอกใคร ผมนี่นึกถึงน้ำปลา น้ำตาล พริกแถวบ้านเลย อยากจะเอามาเหยาะ ๆ ใส่ให้มันจัดจ้านกว่านี้ การกินของผมจะได้มีความสุขมากขึ้นกว่านี้ ไม่เหมือนไอ้พยองอัน รายนี้คงจะชอบกินเส้นมาก เห็นซู๊ดเอา ๆ อย่างเอร็ดอร่อย

   “ท่านคือลียองวอนใช่หรือไม่”

   หญิงงาม...ผมยืนขึ้นทันทีอย่างตื่นตกใจ(เกิดมาเพิ่งเคยมีผู้หญิงสวยพร็อบเต็มหัวมาทัก) ดูไปดูมาหน้าคุณเธอโคตรคุ้น...ผมโค้งให้เธออย่างงง ๆ พยองอันก็โค้งด้วย

   “ข้าชื่อยุนนารา บุตรสาวเสนาบดีฝ่ายขวา ท่านจำข้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ”

   ลูกสาวใครผมจำไม่ค่อยได้หรอก ที่แน่ ๆ ผู้หญิงคนนี้คือคู่หมั้นของซองโจ สาวหยาดฟ้ามาดินแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกขัด ๆ ที่จะมองหน้าเธอ

   “ไม่เป็นไร เราไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่” เธอยิ้มให้ผมเบา ๆ “ข้าได้ยินมาว่าท่านเป็นเพื่อนร่วมห้องกับคู่หมัั้นคู่หมายของข้าใช่หรือไม่”
   “...ขอรับ” ผมรับคำ
   “เขาอาจจะเย็นชาไปสักหน่อย แต่เชื่อข้าเถอะว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถและก็เป็นคนดี ท่านอย่าถือสาเขานักเลยนะ” พ่อง ฝากฝังอย่างกับคนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน ผมนี่เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษยุนนาราแทนยองวอนมันเลยครับ

   เดี๋ยว ๆ ทำไมผมต้องกำมือแน่นด้วย นี่ผมกำลังอินในบทบาทการเป็นลียองวอนอยู่อย่างนั้นหรือ
   อินเกินไปมั้ง...
   ไม่รู้ทำไมสวยขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถทำให้ผมใจสั่นได้

   “ข้าขอฝากให้ท่านดูแลเขาด้วย และข้าจะตอบแทนท่านเป็นอย่างดี”

   ยุนนารายิ้มให้ผม ผมโค้งให้เล็กน้อยก่อนที่จะมองเธอเดินเฉิดฉายออกไปด้านนอก พร้อมกับแม่เลี้ยงหนึ่งคนทหารอารักขาหนึ่งคน...

   “คู่หมั้นซองโจ” พยองอันทำตาโต “ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้” พูดจบพยองอันก็นั่งทานต่อ “แต่ถ้าจับเจ้าแต่งตัวเป็นสตรี เจ้าคงจะงดงามกว่านาง”
   “อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ”
   “เป็นอะไรไป เจ้าดูหงุดหงิด” พยองอันมองหน้าผม
   “ข้าเปล่าสักหน่อย”
   “หรือเพราะเจ้าเป็นบุตรเสนาบดีซ้าย เจ้าเลยไม่ถูกกับนางที่เป็นบุตรีเสนาบดีขวา” อืม กูไม่ต้องหาอะไรมาแถเลยเว้ย
   “อืม คงอย่างนั้นแหละ”
   “พ่อข้ามักบอกเสมอว่าพ่อของเจ้ากับพ่อของนางไม่ค่อยลงรอยกัน”
   “…”
   “หรือเจ้าจะไม่ลงรอยกับนางไปอีกคน”
   “ข้าจะไม่ลงรอยกับนางไปเพื่ออะไรกันล่ะ”
   “เจ้าไม่สบตานางสักเท่าไหร่ แถมยังดูโกรธเคืองนางดูมาก ๆ” พยองอันตั้งข้อสังเกต “หากเจ้าเป็นสตรี ข้าคงคิดว่าเจ้ามีใจให้ซองโจ ฮ่าๆๆ”

   มันช่างสันนิษฐานได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวและก็มั่วมาก ๆ ใครมันจะไปมีใจให้ไอ้บ้านั่นกัน...
   ไอ้บ้าที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ในเวลาที่เป็นอิสระแบบนี้...
   หรือว่ายุนนาราอาจจะแวบไปหาซองโจในวังหลวงเหมือนเช่นวันอื่น ๆ ในขณะที่ซองโจเองก็รอเธออยู่เหมือนกันที่อีกฟากฝั่งหนึ่งของกำแพงวัง
   ไหนมึงบอกไม่อยากแต่งไงฟายซองโจ...

   “เจ้าโกรธข้ารึ ข้าไม่ได้ตั้งใจ!” พยองอันร้อง
   “หา”
   “เจ้าแทบจะล้มโต๊ะอยู่แล้ว ข้าขอโทษ ข้าก็แค่พูดไปเรื่อย” ผมดูโกรธขนาดนั้นเลยหรือยังไง “เผื่ออารมณ์เจ้าจะดีขึ้น ข้าจะพาเจ้าไปหอนางโลมเดี๋ยวนี้ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าข้าไม่เชี่ยวชาญสถานที่พวกนี้ ข้าเพียงแต่พาเจ้าไปเท่านั้น”

   ตอนนี้ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอารมณ์ของผมมันเป็นประมาณไหน ที่แน่ ๆ เหมือนผมล่องลอยยังไงชอบกล ผมเพิ่งได้เห็นรูปโฉมของคู่หมั้นซองโจเต็ม ๆ เป็นครั้งแรก และผมก็ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมคนป๊อดอย่างลียองวอนจากที่ป๊อดมากอยู่แล้วถึงทวีความป๊อดมากขึ้นไปอีก ถ้าจะให้พูดภาษาบ้าน ๆ ก็คือแฟนซองโจมันสวยขนาดนี้จะไปทำอะไรได้ยังไง
   ไปบอกรักตรง ๆ ดีไม่ดีอาจโดนขวานจามหน้า รักคนมีเจ้าของไม่พอยังมารักคนเพศเดียวกันในยุคแบบนี้อีก

   “เจ้าพร้อมจะไปหรือยัง”
   “ข้าพร้อม ข้าอยากดื่ม”
   “อารมณ์ของเจ้าคุกรุ่นขึ้นหลังจากที่เจอคุณหนูยุนนารา”
   พยองอันเป็นคนฉลาด ถ้าผมเถียงออกไปมันก็คงจะเท่านั้นยังไงก็ฟังไม่ขึ้น

   “หากมีอะไรในใจ เจ้าบอกข้าได้เสมอนะยองวอน เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนกุมความลับเก่ง”

   “หึ ขอบใจนะ” ผมยิ้มให้มัน ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันผมคงแนะนำพยองอันให้ไอ้กล้วยมันจีบ ผู้ชายอะไร น่ารักชิบหาย
   “แม้แต่ความลับที่อยู่ลึกที่สุดในใจเจ้า เมื่อเจ้าบอกข้า แม้ตายข้าก็ไม่ยอมปริปากบอกคนอื่น”

   พยองอันพูดยิ้ม ๆ เหมือนพูดเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่ความหนักแน่นนั้นมีอยู่สูงจนผมสัมผัสได้ว่าผมพูดความจริง ยองวอนถึงแม้จะอับโชคเรื่องความรัก แต่เรื่องมิตรภาพล่ะก็ ผมคิดว่ามันโคตรจะโชคดี
   ว่าง ๆ ผมอาจจะไปสวดมนต์ทำบุญแบบลียองวอน เผื่อโชคจะเข้าข้างผมบ้าง
   












   [ มีต่อนะคะ ]










ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12





        หอนางโลมจันทร์ครึ่งเสี้ยว
   เป็นหอนางโลมที่รวมโฉมงามเอาไว้เชียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เอาไว้เยอะมาก(ถ้าบอกว่าเชียร์เบียร์ยุคนี้ก็ไม่มี บอกว่าเชียร์เหล้าหมักก็ฟังดูประหลาด...) ตอนแรกผมตื่นตาตื่นใจกับโฉมงามทั้งหลายเอามาก ๆ แต่เหมือนผมมีนิสัยของลียองวอนอยู่ครึ่งหนึ่ง แม่งไม่สนใจผู้หญิงเลยเว้ยครับ ทันทีที่ได้โต๊ะผมก็สั่งเหล้ามาและก็อาหารอีกนิดหน่อย โดยที่พยองอันก็ถามแล้วว่าต้องการผู้หญิงมารินเหล้าให้หรือเปล่า ผมส่ายหน้าอย่างเดียว
   ไหนผมบอกว่าผมต้องการผู้หญิงไง ท้ายที่สุดผมก็ไม่ได้ต้องการจริง ๆ อยู่ดี
   “เจ้าเครียดอะไรขนาดนั้นหรือยองวอน”
   พยองอันคงจะมองผมอยู่นานก็เลยถามออกมาอย่างสงสัย ไม่ใช่อยากเสือกหรอกครับ(มันคงนิสัยไม่เหมือนผม) คงจะเป็นห่วงผมน่ะ

   “ข้ามีเรื่องกังวลใจนิดหน่อย”
   “เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้นะ”

   ผมถอนหายใจดังพรืด เล่าความจริงให้มันฟังทั้งหมดมันคงหาว่าผมเป็นบ้า

   “หรือเจ้าเครียดเรื่อง...ข่าว...”

   พยองอันดูอึก ๆ อัก ๆ ข่าวอะไรวะ กูจะรู้ไหม เน็ตก็ไม่มี ทีวีก็ไม่มี

   “ข่าว?”
   “ต้องใช่แน่ ๆ” พยองอันหลับตาปี๋ ยกแก้วขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็ว
   “อะไรของเจ้า”
   “ข้าไม่น่าพูดเลย”
   “ข่าวอะไรบอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ” ผมเอ่ยเสียงกร้าว พยองอันกลืนน้ำลายก่อนที่จะค่อย ๆ พูดออกมา
   “พอดีมันเป็นเรื่องที่เขาเพิ่งจะเปิดเผยกันน่ะ คือว่า...เขาว่าเจ้าเป็นหม้ายขันหมาก”

   เดี๋ยว ๆ อะไรวะ กูเป็นอะไรนะ “หา?”

   “เดิมทีเจ้าเป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายรอง พระโอรสองค์ที่สองในพระสนมเยบินของพระราชาซูจง ”



   
   ห่าเหวอะไรอีกเนี่ยยยยยยยยยยยยย





   “แต่เพราะเจ้าเป็นบุรุษ ข้อตกลงนี้ก็เลยถูกยกเลิกไป และองค์ชายรองก็ได้ไปหมั้นกับคนอื่นแทน” พยองอันเล่าให้ฟังก่อนที่จะคีบอาหารบนโต๊ะทาน “ข่าวลือนี้ก็เพิ่งจะออกมาเมื่อวันสองวันก่อนนี่เอง พวกนักเรียนคนอื่นนินทาเจ้าลับหลังอย่างสนุกปาก แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องตลกชั่วครู่เท่านั้น ยังไงบุรุษกับบุรุษก็แต่งงานกันไม่ได้อยู่แล้ว เดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอา”

   แล้วไอ้องค์ชายรองนี่คือใครกันฟะ...ผมปวดเศียรเวียนเกล้ากับผู้ชายที่ยองวอนมันข้องเกี่ยวเสียจริง ๆ ดีที่ข้อตกลงยกเลิกไป(ซึ่งใครตกลงกับใครกูก็ยังไม่รู้เลย) เพราะถ้ามันยังอยู่ล่ะก็ ผมอาจจะได้แต่งงานกับผู้ชายจริง ๆ ก็ได้ ในเมื่อบางทีผมอาจจะติดอยู่ร่างเดิมของตัวเองในชาติที่แล้วไปทั้งชาติอยู่แล้ว...

   แค่คิดก็ขนลุกซู่...ยกแก้วขึ้นมาดื่มจนหมด พยองอันเห็นก็เติมให้ผมอีก


   
   “เจ้าไม่ต้องไปถือสาว่าความอะไรหรอก ใครมันจะกล้าว่าบุตรของท่านเสนาบดีคนโปรดของพระราชา”



   “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เจ้าว่าคนอย่างข้าไม่เสียเกียรติหรอกหรือ ที่ได้ไปหมั้นไปหมายกับบุรุษที่เป็นเพศเดียวกัน!”





   พลั่วะ!!!






   ผมได้ยินเสียงไม้อะไรสักอย่างหักพังอยู่ทางด้านล่าง เนื่องจากศาลาที่ผมนั่งมันสูงประมาณตึกสองชั้น ผมกับพยองอันตกใจเลยพากันส่องลงไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

   ยักษ์มาเยือน...และฝีมือคนที่ทำขั้นบันไดของชาวบ้านหักพักก็คือซองโจ เพราะไม้ผุ ๆ นั่น(ที่ผมเดินขึ้นมาแบบเสียวๆเพราะแม่งจะพังแหล่ไม่พังแหล่)กระจายเต็มอยู่รอบเท้าของเขา

   ซองโจเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมด้วยแววตาเย็นชาสุดชีวิต ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก ไม่รู้พี่ท่านไปโกรธใครที่ไหนมาทำไมต้องมองหน้าผมแบบนั้นด้วย

   “ข้าว่าเจ้าต้องเลี้ยงกระยาหารข้าแล้วล่ะ กระต่ายซน”

   เชี่ยไรฟะ อยากแดกฟรีไหงมาสั่งให้คนอื่นไปจ่ายให้ ง่ายไปไหม?

   “ทำไมข้าต้องจ่ายให้เจ้าด้วยล่ะ” ผมร้องตอบไป พยองอันเอามือจุ๊ปากตัวเองราวกับบอกให้ผมอย่าไปยั่วโมโหซองโจ อ้าว มันไปกินรังแตนที่ไหนมากูยังไม่รู้เลย เพราะฉะนั้นไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะต้องมาทำให้มันอารมณ์เย็นลงนะ

   ซองโจกอดอก เงยหน้ามองผมพลางเลิกคิ้วขึ้นมา

   “ถ้าข้าเดินขึ้นไปหา แล้วเจ้ายังยืนยันคำเดิม ข้าไม่สัญญาว่าข้าจะไม่กัดเจ้าอีก”

   ห่าน เวรตะไล พ่องตาย คนอยู่ไม่รู้กี่แสนต่อกี่แสนมึงยังพูดออกมาได้!!!!! (จริง ๆ แล้วผมเวอร์ ไม่ถึงร้อยคนหรอก)

   “กัด?” พยองอันมองผมอย่างงง ๆ ผมจิ๊ปากด้วยความเซ็ง มองไปอีกทีร่างสูง ๆ ของคนสามคนก็เดินขึ้นมาและก็มานั่งร่วมโต๊ะของผมกับพยองอันเป็นที่เรียบร้อย

   ซองโจยังคงดูโกรธนิด ๆ ชิลทำหน้านิ่ง และคนที่กลั้นขำอย่างที่สุดเห็นจะเป็นขงเบ้ง

   “ถ้าเจ้าหลุดยิ้มออกมาอีกล่ะก็...ข้าจะสั่งเจ้าไปกระโดดน้ำ”

   สิ้นเสียงซองโจ ขงเบ้งก็ยังไม่หยุดยิ้มอยู่ดี และดูเหมือนซองโจจะทำอะไรเขาไม่ได้ จึงได้แต่ทำหน้าหงุดหงิดต่อไป

   “เจ้าเป็นอะไร” ผมถามซองโจ “เป็นบ้าเหรอ”
   “ข้าไม่ได้เป็นบ้า”
   “แล้วเจ้าไปโกรธอะไรใครเขามา”
   “ข้า...” ซองโจอ้าปากจะพูด แต่เมื่อมองหน้าผมเขาก็หุบปากฉับและก็หันไปทางอื่น “ช่างเถอะ สั่งอาหารมาเพิ่ม ข้ารู้สึกหิว”
 
   ชิลพยักหน้า โบกมือเพียงหนึ่งครั้ง โฉมงามในหอจันทร์ครึ่งเสี้ยวก็แห่แหนกันมาต้อนอกต้อนรับกลุ่มนักเรียนชายที่หน้าตาดีที่สุดในซองกยุนกวาน

   เอ่อ...รวมผมด้วยได้ป่ะ(เรื่องหน้าตาขอเกาะพวกแม่งนิดหนึ่ง เพราะสู้ยังไงก็สู้ไม่ไหวอ่ะครับ ยอม หล่อแบบไม่ศัลยกรรมนี่มันเดอะเบสจริง ๆ นะ ผมขอชื่นชม)

   ซองโจไม่ได้สั่งอาหารอะไร แต่ขงเบ้งเป็นคนสั่งอาหารและก็สั่งมาเยอะราวกับจะเลี้ยงคนทั้งร้าน เดี๋ยวนะมึง คุ้น ๆ ว่าใครต้องเป็นคนจ่ายนะ ไม่ใช่ผมหรอกเหรอ

   “ข้าต้องจ่ายให้พวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ”
   “ใช่” ซองโจตอบ
   “เพราะอะไร!” เรื่องเงินกูขอโวยวาย

   “เพราะข้าสั่ง”

   หมั่นไส้...ถ้าไม่ติดว่าอีกฝั่งหนึ่งเป็นลูกน้องสองคนที่ตัวใหญ่กว่าผมคนละสองเท่าล่ะก็ ผมนี่ซัดมันหน้าหงายไปแล้ว(จริงเหรอ...)

   “ข้าไม่เห็นเหตุอันใดที่ข้าต้องทำตามคำสั่งของเจ้า”
   “เจ้าขัดคำสั่งข้าไม่ได้”
   “ทำไม”

   “เพราะถ้าเจ้าขัดคำสั่งข้า ชิลจะเอาดาบของเขามาขู่ที่คอของเจ้า”

   แม่งเล่นพวก เล่นพวกไม่พอ พวกมีอาวุธด้วย กูยอมก็ได้ กูยอม กูแพ้มึงก็ได้ จ่ายก็จ่ายโว้ย

   ดีนะที่ยังพอมีอันจะกินอยู่ ที่โรงเรียนอยู่ฟรีกินฟรีเลยไม่ได้เสียตังค์อะไรมากมาย แถมที่บ้านยังส่งเงินมาให้เป็นหาบ...

   …นึกสงสัยว่าอะไรทำให้ซองโจมันเป็นคนบ้าอำนาจขนาดนี้ แต่ถ้าผมถามตอนนี้ ตอนที่อารมณ์มันเหมือนโดนผึ้งต่อยทั้งปาก ดีไม่ดีผมอาจจะโดนมันต่อยกลับมาแทน...ได้แต่งงต่อไปว่าแม่งเป็นอะไร และก็ดูใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาแม้จะบูดบึ้งมากก็ตามที






   ฉึก ฉึก ฉึก!






   เหี้ยไรอีกกกกกกกกกกกก

   คราวนี้ไม่ใช่บันไดพัง แต่เป็นลูกธนู! เหตุการณ์วุ่นวายคล้ายกับยุคปัจจุบันเวลามีเสียงปืนดัง รอบข้างมีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงและก็เสียงคนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น ซองโจดึงตัวผมไปด้านหลัง ไวกว่าชิลและขงเบ้งที่ดึงพยองอันมาไว้ข้างหลังเหมือนกัน และสองคนนั้นก็เป็นเกราะบังหน้าให้ซองโจอีกที

   “เกิดอะไรขึ้น!” ผมร้องจ๊าก กลัวแบบฉี่จะไหลราดหลั่งริน ยุคสมัยที่ผมอยู่ขณะนี้คนตายอย่างกับผักกับปลา
   “คุ้มครองนายน้อย!” ชิลร้องลั่น พาตัวซองโจ ผมและก็พยองอันค่อย ๆ เขยิบหาที่กำบัง ระหว่างที่ลูกธนูระลอกใหม่ถูกยิงเข้ามาอย่างไม่เกรงใจคนบนนี้บ้างเลย

   ผมกลัวตัวสั่น เคยฝึกที่เขาชนไก่มาก็จริงแต่ก็รู้ว่าตัวเองจะไม่ตายแน่ ๆ นี่มันไม่ใช่เขาชนไก่ นี่มันของแท้ โดนยิงจริงคือเจ็บปางตายเลือดไหลซิบ ๆ ไม่ใช่มีสีติดเหมือนเกมบีบีกัน!
   พยองอันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ซองโจมองซ้ายมองขวาราวกับต้องการมองหาอาวุธ ซึ่งไม่น่าจะมีให้มันใช้ ที่นี่คือหอจันทร์ครึ่งเสี้ยวถ้าจะมีอะไรก็มีแค่เหล้าหลายโอ่งเท่านั้นแหละ

   “เรากำลังจะถูกปิดล้อม” ขงเบ้งเอ่ย มองหน้าซองโจด้วยนัยน์ตาตื่นตระหนก “ข้าจะล่อพวกมันไปอีกทางให้ท่านนะขอรับ”

   “พวกมันล่าซองโจเหรอ” ผมร้อง

   ซองโจตวัดสายตามองผมและก็ไม่ตอบอะไร ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรบางอย่างออกมา “พวกเจ้าต้องไม่เจ็บเพราะข้า”




   ฉึก!




   ลูกธนูแล่นมาเสียบอยู่ผนัง ผ่านหน้าผมไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด

   ไอ้ชิบหายยยยย ผมเกือบโดนเสียบหน้าแล้วเมื่อตะกี้นี้

   “จะไม่มีใครต้องมาเจ็บเพราะข้าทั้งนั้น”

   ชิ้ง...ซองโจแย่งดาบจากชิลมาถือ พร้อมกับก้าวเท้าออกไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญและประกาศเสียงดังกร้าว



   “หากพวกเจ้ายิงธนูโดนข้า อย่าคิดเลยว่าจะมีแม้แต่การเจรจาและต่อรอง!”    



   กริบ...

   เงียบเป็นเป่าสาก

   มันล่าซองโจจริง ๆ ด้วย เจ้าตัวหันมาหาพวกผมสี่คนที่เหลือแล้วพยักเพยิดให้หนีไปทางอื่น ชิลทำหน้าเหมือนจะตายเสียให้ได้ เขาอยากจะพุ่งออกไปหาซองโจเพื่อป้องกันตัวเขาแต่ขงเบ้งดึงแขนเขาไว้ก่อน

   “เจ้าสองคน...หาทางหนีได้แล้ว” ขงเบ้งกระซิบบอกผมกับพยองอัน
   “แล้วเขาล่ะ” ผมถาม
   “พวกข้าจะอยู่กับเขาเอง”
   “ข้าไม่ไปหรอก ข้าจะอยู่” ผมตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด บริวารร่างยักษ์ของซองโจหันมามองหน้าผมด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
   “มันอันตรายถึงชีวิตเจ้า”
   “มันก็อันตรายถึงชีวิตพวกเจ้าเช่นเดียวกัน”
   
   ขงเบ้งหันไปหาซองโจที่หันกลับมาอย่างขอความเห็น

   “เจ้ากระต่าย เจ้ากระโดดหนีไปได้แล้ว!” ซองโจตะโกนบอกผม
   “ทำไมเจ้าชอบสั่งข้านัก ข้าไม่ทำโว้ย!” ผมร้องตอบ

   “ยองวอน!”
   


   ซองโจดูหมดความอดทนกับผม และในที่สุดเหมือนเขากับขงเบ้งจะส่งสัญญาณให้กัน หลังจากนั้นซองโจก็กลับเข้ามาดึงมือผม และทุกคนก็พากันหลบหนีหัวซุกหัวซุนกับลูกธนูระลอกใหม่

   ไม่มีเวลาแม้แต่จะถามว่าพวกห่าไหนที่ยิงเข้ามา ไม่มีเวลาแม้แต่จะถามว่ามีใครสักคนโดนลูกหลงจากธนูหลายสิบลูกนั่นรึเปล่า ทุกคนวิ่งหนี วิ่งหนีพร้อมกับโฉมงามและลูกค้าคนอื่น ๆ ของหอจันทร์ครึ่งเสี้ยว มุ่งหน้าเข้าไปในป่าหลังหออย่างพร้อมเพรียงกันโดยอาศัยความคิดที่ว่ายิ่งมืดอาจจะยิ่งปลอดภัย

   “ข้าอยากส่งข่าวให้ทางการขอรับนายน้อย” ชิลตะโกนบอกมาจากด้านหลัง “เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปเกินกว่าที่ข้ากับจีซูจะจัดการได้” ขงเบ้งที่อยู่ใกล้ ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของชิลแบบสุด ๆ

   “ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วเมื่อไหร่พ่อข้าจะเชื่อว่าข้าจะดูแลตัวเองได้!” ยิ่งพูดใส่อารมณ์ มือที่บีบมือผมของซองโจก็ยิ่งบีบแน่นขึ้น ซ้ำยังพาผมวิ่งเร็วขึ้นโดยที่ขายาว ๆ นั้นไม่เกรงอกเกรงใจขาสั้น ๆ ที่เท้าแทบจะลอยตามแรงดึงและแรงวิ่งของมันอยู่แล้ว

   “นายน้อยท่านอย่าดื้ออีกเลย” ขงเบ้งพูด “อย่างน้อยมันจะก็น่าจะช่วยหยุดคนพวกนั้นให้เลิกตามล่าพวกเราได้”


   “…”


   “ท่านอย่าลืมนะ ว่าไม่ได้มีแต่ข้ากับซองชิลที่มากับท่าน”



   ซองโจชะงักไปเล็กน้อย สายตาของเขาตวัดมาที่ผมและก็พยองอันที่หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ซองโจใช้เวลาคิดไม่นานเขาก็พยักหน้าให้ชิล หลังจากนั้นไม่นานพลุสีแดงก็ถูกจุดขึ้นฟ้าโดยฝีมือของชิล

   เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธนูติดไฟถูกยิงแสกกลางพวกเรามาให้แตกออกเป็นสองฝั่ง

   ไฟติดไวมากเนื่องจากหญ้าในแถบนี้แห้งสนิท ผมกับซองโจถูกตัดขาดจากโลกของยักษ์บริวารของเขาทันทีและห่างไปทุกทีเพราะไฟยังคงติดเรื่อย ๆ อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย



   “ยองวอน!”

   “นายน้อย!”

   “ข้าจะไปช่วยท่าน!”




   “ไม่ต้องเข้ามาใกล้ไฟ ข้าไม่เป็นไร!” ซองโจร้องตอบ “พวกเจ้าต้องหนีไป ข้าก็จะหนีไปเช่นกัน เจอกันพรุ่งนี้ยามรุ่งสางที่ซองกยุนกวาน!”



   “นายน้อย!!!!!”



   เสียงชิลดังกว่าดวงไฟที่ยังคงปะทุ ไม่มีเวลาให้กล่าวอะไรมากความเพราะศัตรูก็ยังคงตามหลังมาติด ๆ ผมนับถือซองโจมากที่เขายังคงดูมีสติครบถ้วนและไม่ตื่นกลัวเอาเสียเลย ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ผมคงไม่ปักใจเชื่อในตัวเขาและก็วิ่งตามเขามาจนถึงขนาดนี้ และจะยังคงวิ่งตามเขาต่อไป

   อยากจะส่งสาส์นไปถึงยองวอนตัวจริงที่ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ในดินแดนใดหรือภพไหนว่า...มึงมีบู๊ด้วยทำไมมึงไม่บอกกู T_T กูจะได้เตรียมจิตเตรียมใจเตรียมอาวุธเตรียมปืนใหญ่มาด้วย ไอ้สาดดดด
   


   “ข้าไม่รู้ว่าวันนี้พวกมันจะเคลื่อนไหว ข้าขอโทษด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ!” ซองโจพูดไปวิ่งไป “อภัยให้ข้าที่พาเจ้ากับเพื่อนต้องมาเสี่ยงชีวิต”



   อยากจะอัดเสียงไว้เหลือเกินเรื่องที่ซองโจเอ่ยขอโทษ แต่ไม่ใช่เวลาที่จะมากวนตีนอะไรเท่าไหร่



   “ทำไมพวกนั้นต้องการตัวเจ้า”

   “ต่อรอง”

   “ต่อรอง? กับใครหรือ?”

   ซองโจมองหน้าผม ถอนหายใจยาว และพาผมเดินเร็วขึ้นโขดหินทั้งหลายแหล่ต่อไป



   “พระราชา”




   ผมถึงกับไอออกมาเลยทีเดียว เรื่องนี้กูไม่อยากยุ่ง โคตรจะไม่อยากยุ่ง มันดูใหญ่เกินตัวผมมากเป็นร้อยเท่าพันเท่าหรือดีไม่ดีอาจจะล้านเท่า ต่อรองกับพระราชา แม่งต้องเกี่ยวกับผู้ก่อการกบฏ ผู้ก่อการร้าย อะไรก็ไม่รู้แหละแต่ที่แน่ ๆ ต้องใหญ่มากแน่ ๆ

   คนที่ดึงมือผมอยู่คงจะยิ่งใหญ่และดึงดูดความสนใจของพระราชาได้มากพอ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ไอ้คนร้ายพวกนั้นมันคงไม่เล่นใหญ่อย่างนี้หรอก

   “ข้า...ข้าขอพักได้หรือไม่”

   สังขารของผมไปไกลกว่านี้ไม่ได้แน่ ๆ ผมหอบหนักยิ่งกว่าการหอบครั้งใด ๆ บนโลกมนุษย์นี้ ซองโจดูตกใจมากที่ผมดูทรมานมากกว่าที่เป็น

   ผมนั่งลงบนโขดหิน สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้ซองโจผู้ที่ไม่รู้ว่าทิ้งห่างศัตรูเอาไว้มากแค่ไหน หากน้อยไป...เขาจะได้รับอันตราย

   “เจ้าไหวหรือไม่”

   “ข้า...แฮ่ก...ข้า...ข้าไหว” แต่ขอพักอีกสักสิบนาที...ถุย...ทำได้แบบนั้นก็คงโดนจับพอดี

   “ขี่หลังข้า” ซองโจนั่งยอง ๆ หันหลังลงตรงหน้าผม

   “อะไรนะ”

   “ขี่หลังข้าหากเจ้าไม่อยากตาย”

   “คือว่า...” กูเดินไหวนะ กูไม่ใช่เด็ก

   “ถ้าพวกนั้นไล่ตามทัน มันจะจับตัวข้า และมันจะฆ่าเจ้า”

   โอเค...ผมขี่หลังมันทันทีอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ซองโจดูไม่มีท่าทีว่าเขาหนักหรืออะไรเลย เขาพาผมเดินลัดเลาะหลบหลีกอย่างรวดเร็ว ทำเหมือนกับตัวเองคุ้นเส้นทางเป็นอย่างดี ใช้เวลาไม่นานหลังจากที่ผมโดนกิ่งไม้เกี่ยวบ้างหรือซองโจต้องแหวกพงหญ้าสูงออกบ้าง ในที่สุดเขาก็หาที่ซ่อนเจอ

   เป็นถ้ำขนาดเล็กที่มีโพรงกว้างพอให้หลบซ่อน ซองโจวางผมลง ก่อนที่จะลุกขึ้นหนีไปส่องมองหาศัตรูทันที

   ผมเอามือกุมหัวใจตัวเอง ตอนนี้สับสนหนักว่าที่มันเต้นแรงเป็นเพราะผมเหนื่อยหรือเป็นเพราะแผ่นหลังคนเมื่อสักครู่กันแน่...
   
   “ตรงนี้น่าจะปลอดภัยได้สักพัก ไม่ต้องห่วง ข้าจะส่องมองดูทางเข้าตลอดทั้งคืน” ซองโจพูดราวกับให้ผมสบายใจ “เจ้าดีขึ้นหรือยัง”

   ผมยังคงจับหัวใจตัวเองอยู่...

   “คนอย่างเจ้านี่มันไม่เหมาะกับเรื่องพรรค์นี้จริง ๆ” ซองโจส่ายหน้าเบา ๆ จะให้เหมาะยังไงล่ะวะมึง คนที่เหมาะก็อาร์โนลด์นู่นมั้ย จา พนมก็ได้ หรือไม่ก็ออพติมัสไพรม์!
   
   “หวังว่าเจ้าจะไม่ถือโทษโกรธข้า” เขาทิ้งตัวนั่งลงบนปากถ้ำ ยื่นขวายาว ๆ ออกไปข้างหนึ่ง ชันเข่าข้างหนึ่ง ดึงดาบเอาไว้มาอยู่ข้างตัว

   เท่สัด ๆ... ผมสะบัดหัวไล่ความคิดนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว “อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็ไม่เป็นไร”

   “เจอเจ้ายามกลางคืนทีไร เป็นเรื่องทุกที”

   “ก็ใครใช้ให้เจ้าออกมาเดินท่อม ๆ กลางเมืองล่ะ หากเป็นคนที่คนร้ายต้องการตัวแบบนี้” ขออนุญาตสั่งสอนสักครู่ นั่งหล่อ ๆ อ่านหนังสืออยู่หอเหมือนที่มันทำปกติทุกอย่างก็จบแล้ว และมันจะออกมาทำไมให้ตัวเองมีอันตราย

   ท่าทางซองโจจะเป็นพวกไม่เคยชินกับการถูกตำหนิอย่างรุนแรง “มันเป็นสิทธิ์ของข้า ข้าจะไปไหนก็ได้ที่ข้าพอใจอยากจะไป”

   “หากเจ้ารู้ว่าเจ้าน่าจะมีภยันอันตราย เจ้าไม่ควรออกมาข้างนอกซองกยุนกวานนะ”

   “กระต่ายอย่างเจ้า...คิดเป็นห่วงคนอื่นเป็นด้วยอย่างนั้นหรือ”

   ผมกลืนน้ำลาย หลบสายตาคมที่จ้องมองมา พลางหันไปมองสิ่งอื่น ซึ่งแม่งก็มีอะไรให้มองมากเสียเหลือเกิน มืดทึบไปหมด...

   “ข้าเผลอแอบไปได้ยินสิ่งที่เจ้าพูดกับเพื่อนของเจ้านิดหน่อย เจ้าเกือบจะได้เป็นพระคู่หมั้นขององค์ชายรองอย่างนั้นหรือ” ซองโจทำหน้ายิ้มเยาะราวกับต้องการล้อเลียนผม

   ผมเบ้ปาก “ทำไม...เจ้ามีปัญหาหรืออย่างไร” แม่งรู้สึกแพ้ ข้อตกลงบ้า ๆ นี่ใครคิดกันฟะ

   “ก็แค่...ลองนึกภาพเจ้าแต่งกายเป็นสตรีดู มันก็...ตลกดี”

   “เอ๊ะนี่เจ้า!” ผมร้อง “หากว่างมากนัก ทำไมเจ้าไม่ไปต่อสู้กับศัตรูของเจ้า”

   “เจ้าไม่เสียดายหรืออย่างไร ตระกูลของเจ้าเกือบได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับพระราชาเชียวนะ”

   “ข้าไม่เสียดายหรอก”

   “…”

   “ข้าจะแต่งงานกับใครก็ได้ที่ข้าต้องการ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ใครก็ไม่รู้จัดหามาให้” ผมพูดง่าย ๆ ผมคิดว่ายองวอนเองมันก็คิดแบบผมเช่นเดียวกัน

   “หึ” ซองโจส่งเสียง “เจ้าเคยเห็นองค์ชายรองแล้วอย่างนั้นหรือ ทำไมถึงปฏิเสธเขานัก”

   “องค์ชายรองลูกพี่ลูกน้องเจ้าคงไม่ต่างอะไรกับเจ้า” ผมพูด “ถ้าเป็นเช่นนั้นหากข้าเป็นสตรี ข้าก็จะไม่แต่งงานกับเขา เพราะเขาก็คงจะเหมือน ๆ กับเจ้านั้นแหละ”

   “ย้า ยองวอนนา!” ซองโจดูจะโกรธนิด ๆ

   ดูหล่อเลือกได้มั้ยล่ะผม...จริง ๆ แล้วผมแกล้งซองโจมันต่างหาก แม่งตัวเองก็อวย ญาติมันก็อวย อวยอยู่นั่นแหละ จะมีดีอะไรวะ แค่หล่อ มีเชื้อสายของพระราชาแค่นั้นเอง(?)
   
   ผมที่ทำอะไรยึกยักอยู่ในมุมมืด ไม่ได้ยินเสียงซองโจรำพึงอะไรบางอย่างอยู่ที่ปากถ้ำ





   “โชคดีที่เจ้าเป็นคนบื้อ...เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำ...”






   “…”








   “ว่าองค์ชายรองผู้นั้น...มีนามว่าองค์ชายซองโจ”









TBC*







Talk : ญาติเยิดอะไรกัน...เป็นลูกเลย 5555555555
ให้ทุกท่านได้รู้ถึงความจริงในข้อนี้นะคะ
ส่วนนังน้องจู ให้ซื่อบื้อต่อไปและด่าองค์ชายคนนี้ต่อไป ระวังให้ดีเถอะะะะะ...อาจจะโดนกัด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-06-2015 13:22:45 โดย chiffon_cake »

ออฟไลน์ Rosezalen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-2
 :L2: :L2: :L2:
>/////<

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
อยู่ดีๆก็คิดถึงนุงกล้วยเพื่อนนุงเนียร์ สงสารนาง(เนียร์)เบาๆ ที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ทามกลางสิ่งที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอไกลจากถิ่นที่คุ้นเคย แล้วไหนยังต้องเอาสังขานที่พร้อมจะเจ็บออดๆแอดๆได้ทุกเมืรอมาด้วยอีก ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ อย่างน้อยก็อยากให้มีคนรู้จักอยู่ด้วยจะได้มพลังกายพลังใจเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่ที่ต้องพบเจอยามที่ตัวเองอยู่ต่างยุค

อืมมมมม เป็นลูกพระราชานี่เอง ดีใจด้วย แล้วก็สมน้ำหน้าที่โดนนุงเนียร์พูดใส่หน้าแบบนั้น  :laugh: :laugh: รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก รู้เเค่ว่าโคตรหมั่นไส้เลยว่ะ คนอะไรจะเพรียบพร้อมได้ขนาดนี้ อีกเหตุผลนึง คือ....เพราะยกเลิดหมั้นของยองวอนนั้นแหละ เชอะ!!!!!!! พ่วงด้วยว่าที่คู่หมั่นด้วย อะไรจะขนาดนั้น เเสดงออกถึงความ... :katai3: :katai3:

นุงเนียร์ไม่เป็นไรนะ เค้าอยู่นี่แล้ว :man1: :man1: :oo1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 01:37:50 โดย wikawee »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องจูคนซื่อ(บื้อ? :laugh: ) น่ารักสุดๆ ไปเลยค่าา~ >\\< ฮ่าๆ อยากจะไปตื๊ดขนาดนั้นเลยเหรอคะเนี่ย พยองอันก็น่าเอ็นดูเหลือเกินค่ะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ค่อยสันทัดเรื่องสถานที่เที่ยวอย่างหอนางโลมเท่าไรก็ยังใจดีพาน้องจูไปตามคำขอเสียด้วยน้าา~ :-[

เห็นด้วยกับความคิดของน้องจูที่ว่า ถ้าอยู่ในยุคปัจจุบันจะแนะนำพยองอันให้กับเพื่อนกล้วยได้รู้จักมากเลยค่ะ คงจะดีไม่หยอกเลยเน้อ~ แต่ป่านนี้ไม่รู้ว่ากล้วยจะนอนร้องไห้กระซิกๆ อยู่หรือเปล่านะคะเนี่ย ที่ตัวเองได้ออกมาโลดแล่นบนหน้าจอแค่เพียงตอนเดียวเท่าน้านน ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 09:17:40 โดย Mouse2U »

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แม่เจ้าโว้ยยย!
เป็นถึงองค์ชายเลยเหรอเพคะ เราโดนตุ๋นซะเปื่อย -0-" ยองวอนแม่มพลาดแล้ววว เกือบได้หมั้นแล้วนะแก
ขำจูเนียร์อ่ะ 555555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2015 01:29:13 โดย boboman »

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1


อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก    ซองโจ  ยองวอน  มาสวีทกันแล้ว  มี ขี่หลังกันด้วย   >3

“กระต่ายอย่างเจ้า...คิดเป็นห่วงคนอื่นเป็นด้วยอย่างนั้นหรือ”

ฟังประโยคนี้ แล้ว ละลายเลยอ่ะ   

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven


 ปล. ที่แท้  เจ้าชายหรอกเหรอเนี่ย  ..คนเขียน หลอกจนเปื่อยย :ruready


 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
 

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: กรี๊ดดดดดดดดด ด ด ด อร๊ายยยยย โอ้ยยยยย
ไม่รู้จะเม้นยังไง องค์ชายเพคะะะะ ชอบยองวอนไปแล้วก็พูดออกมาาาา
คือแบบ แสดงว่าซองโจก็ชอบยองวอนมานานแล้วนะ คือตามรู้เรื่องตลอดอ่ะ
งื้อออ  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
ซองโจแอบชอบยองวอนป่ะเนี่ยยย

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
นี่ถ้าจูเนียร์มันรู้คงด่ายองวอนอีกแน่
ว่าโคตรรรเล่นของสูงเลยยยยยยยยยยยย
รอตอนต่อไปปปป !!!
 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ chibi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือเริ่มชอบยองวอนแล้วชิแม้ะ กรี้ด

ออฟไลน์ cho_co_late

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่านนนนนน อ่านมาแล้วก็ตะหงิดๆมาสักพักแล้ว ว่าองค์ชายรองนี้ซองโจป่ะแว้
เพราะถ้าเป็นพระญาติเฉยๆ พระราชาไม่น่าจะเอ็นดูหรือว่าต้องมาโดนคนมาดักลักพาตัวขนาดนี้
เล่นของสูงเว่อร์ๆเลยนะยองวอน 555555555555
น้องจูก็จับให้อยู่หมัดล่ะกันนะ องค์ชายเลยนะเฟ้ย :hao7:

ออฟไลน์ Aladin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เมื่อไหร่น้องจูเราจะโดนกัดอีก ฮ่าฮ่าฮ่า :katai3:
ว่าแต่ ซองโจเป็นองค์ชายรองเร๊อะเนี่ย ไม่ใช่แค่ญาติพระราชาแล้วว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตาเถร ตบอกปุปุ ด้วยความเสียดาย

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ซองโจเป็นองค์ชายเชียว แถมเป็นอดีตคู่หมั้นด้วย
อยู่ด้วยกันสองต่อสองมันต้องมีไรบ้างน่ะ :hao7:

ออฟไลน์ QGisuz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เจ้าชายซองโจ เป็นถึงเจ้าชายเลยนะจูเนียร์
สนใจหน่อยดิ อย่าแกล้งเยอะเดี๋ยวอดได้ 555555555
ฉากนี้บู๊มากค่ะจริงๆ หลบหลีกเฟี้ยวฟ้าว พระเอกเราก็เท่เกินมีการให้นายเอกขี่หลัง ฟินเบาๆ :hao7:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
องค์ชายรองงง เดี๋ยนพร้อมถวายตัวเพคะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ก็ว่าอยู่ พระญาติอะไร พระราชาถึงได้เอ็นดูขนาดนั้น
ที่แท้ก็ลูกชาย
ยองวอนเป็นอดีตคู่หมั้น นี่มันพรหมลิขิตชัดๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด