ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นที่ให้กำลังใจมาตลอดค่ะ
มีความสุขมากๆเลย จนถึงตอนสุดท้ายที่เรื่องราวของหลี่ ชานกับไพเรสแล้ว
และก็สำหรับการเขียน nc. อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
ไว้พบกันใหญ่นะค่ะ
เอ๋... รายต่อไปของเรื่อง 'รัก' เอาใครดีหว่า
ฟังดีไหม... แต่ว่าจะเป็นเคะหรือเมะดีอ่ะ 555
//ได้ข่าวว่าไม่มีแรงคิดเรื่องสั้นแล้ว(?)
เอาเถอะ..
ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน และเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีในเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของนิยายในเล้าเป็ดที่แสนดีแบบนี้ด้วยนะค่ะ
ื “พี่ขอโทษ”ประโยดแรกที่เมฆเอ่ยออกมา เมื่อเดินเข้ามาให้ห้องของน้องชายต่างแม่ ไพเรสไม่แม้แต่จะหันมามองเขา ทำให้เมฆใจเสียไม่น้อย เขาเหลือบมองอรุณที่ยืนให้กำลังใจอยู่หน้าประตู ก่อนจะตัดสินใจกอดน้องชายร่างสูงโปร่งของตนไว้
“ตอนนั้นพี่หวงเรามากเกินไปจริงๆ.. พี่ไม่อยากจะให้น้องชายที่พี่รักไปสนิทกับใครเลย แม้แต่รุ่นพี่ชาน”
“....”
“มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของวัยรุ่น เหมือนอย่างที่เราต่อยพี่เมื่อกี้”เมฆพูดอธิบาย พร้อมดึงมือนุ่มของคนที่นั่งมาแตะแก้มเขา แม้คำพูดของเขาดูเหมือนการพูดบรรยายดินฟ้าอากาศไม่มีเสียเศร้าเจือปน มีแต่ความอ่อนโยน กับใจเย็นเท่านั้นที่ไพเรสสัมผัสได้ แต่พอใบหน้าสวยหันไปมองพี่ชาย หัวใจดวงน้อยก็หล่นวูบ
เมฆกำลังมองเขาด้วยความรู้สึกผิดสื่อออกมาอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าของเมฆดูบอบช้ำจากหมัดน้อยๆของเขา ไพเรสลูบใบหน้าพี่ชายอย่างเบามือ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อออกมา
“น้องขอโทษ..”
ใบหน้าของเมฆดูไม่โกรธเคืองเขาเลยแม้แต่น้อย อรุณเองก็เช่นกัน ยังคงมองเขาอย่างเป็นห่วงเมื่อกับที่ผ่านมา
“ไม่เป็นไร แค่นี้ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ กับการกระทำที่ผิดพลาดของพี่”เมฆส่งยิ้มใบร่างบาง ก่อนจะจูบหน้าผากอย่างอ่อนโยน
“เช็ดน้ำตาแล้วก็ยิ้มให้พี่หน่อย ได้ไหม ไพเรส พี่จะได้รู้ว่าเราหายโกรธพี่แล้ว”
ไพเรสส่งยิ้มหวานให้กับเมฆทั้งน้ำตา จนเมฆหัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยี้หัวน้องรักอย่างหมั่นเขี้ยว
“เด็กขี้แยเอ๊ย”
“ไม่ได้ขี้แยซักหน่อย”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ”
“แน่เหรอ?”
“แน่สิ.. เอ๊ะ นี้พี่เมฆเล่นมุขเฉยๆนี้ใส่น้องอีกแล้วนะ”ไพเรสว่าพร้อมทำแก้มป่องอย่างน่ารัก
อรุณ ที่มองดูสองพี่น้องกำลังหยอกล้อกัน ก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ตอนแรกเขากังวลแทบตาย ว่าเมฆกับไพเรสจะเป็นยังไงต่อไป แต่ดูเหมือนสองคนนี้จะรักกันมากกว่าที่คนนอกอย่างเขาจะคาดการณ์ได้ พอต่อยหมัดระบายอารมณ์ไปสองสามหมัดก็กลับมาพูดคุยกันแบบเดิม นี้สินะ.. มิตรภาพของผู้ชายที่ผู้หญิงไม่ค่อยมีกัน
“อ๊ะ.. อื้อ”อรุณเปิดตากว้าง ทั้งยังหน้าแดงแจ๋ เมื่อคนเป็นน้องมายืนอยู่ตรงหน้าเขา พร้อมดึงเขามาจูบปาก แล้วเลียริมฝีปากเขาเบาๆ
“ไพเรส!! ออกห่างจากที่รักพี่เดียวนี้นะ”เมฆโวยลั่นทันที แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรน้องตัวเองมากนัก เพราะรู้ว่าตัวเองยังมีความผิดอยู่
...ที่รักพี่?
อรุณทวนคำพูดนั้นในใจ พร้อมกับยิ่งอายม้วนมากกว่าเดิม จนของพึ่งพิงคนที่สูงกว่าของไพเรสไว้ ทำให้เมฆเริ่มหงุดหงิด
“ที่รักพี่เมฆ ปากหวานๆ~”ไพเรสว่าเสียงใส พร้อมเลียริมฝีปากตัวเองต่อหน้าพี่ชาย ในขณะที่อรุณเอาหน้าซบอกเขาอยู่ ถึงไพเรสจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ขอแกล้งหน่อยแล้วกัน
“อ๊ะ!”อรุณส่งเสียงครางออกมา เมื่อโดนไพเรสงับที่หูเขา ซึ่งเป็นจุดอ่อน
“อรุณ พี่นับหนึ่งถึงสิบ ถ้าเราไม่ปล่อย คืนนี้เราไม่ได้พบรุ่นพี่ชานแน่”
เหมือนกับได้ยินเสียงหูแมวกระดิกไปมา และหางแมวที่โผล่ส่ายไปมาพร้อมกับเจ้าของร่างที่หันไปมองพี่ชายตัวเองทันที
“คืนนี้เลยเหรอ!”
“ใช้ แล้วก็ถอยห่างมาจากอรุณของพี่ด้วย”
....อรุณของพี่..
การโจมตีแรก อรุณว่าเขาไม่ไหวแล้วนะ แต่นี้มีรอบสอง ..เป็นที่หมาน้อยที่รอเจ้านายมาเป็นหลายปีตัวนี้คงต้องของจรลี คิดพลาง ก็เดินออกไปจากห้องสองพี่น้องที่กำลังคุยกับเรื่องแผนการเซอร์ไพรหลี่ ชานคนนี้อย่างเนียนๆ พร้อมกับปิดประตูให้
นี้ถ้าเป็นผู้หญิง เขาคงกรี๊ดไปนานแล้ว แต่เขาเป็นผู้ชาย เลยทำได้นั่งลงจับหัวใจที่เต้นแรงของเขา
หนึ่งอาทิตย์ที่เหมือนความฝัน การที่คนที่เขารักบอกรักเขาตอบ ได้อยู่ใกล้ชิดเมฆมากกว่าที่เคย เขาเป็นของเมฆ แล้วเมฆก็เป็นของเขา
///////
แค่นี้ก็นอนตายตาหลับแล้วละ
นี้สินะ.. ความรู้สึกของคนแอบชอบที่สมหวังในความรัก
>//////<
[Part: หลี่ ชาน]
อยู่ดีๆผมก็ถูกเมฆกับอรุณนัดพบในตอนค่ำ ที่ชั้นบนของโรงแรม(ที่ๆอรุณกับเมฆเจอกันครั้งแรก) บางครั้งผมเริ่มจะเอื้อมกับการใช้เงินของเมฆจริงๆ นัดพบกันแต่ละครั้งถึงขั้นเหมาตึกโรงแรมหรูทั้งชั้น แต่ผมจะไม่ว่าอะไรเขาได้ละนะ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงเจ้าของโรมแรมดังหลายสาขา
“สวัสดีครับ หัวหน้า”อรุณเดินเข้ามาทักทายผม ก่อนจะนำผมไปที่โต๊ะ มันเป็นโต๊ะยาวนั้นมีไวน์แดงพันปีตั้งตระหง่านอยู่ กับแก้วไวน์สองแก้ว ทันทีผมนั่งลง ไฟของทั้งชั้นก็ปิดหมด จนผมตกใจ แต่ก็นั่งเงียบไว้อย่างวางท่า
...อยากจะรู้ซะจริงๆ ว่าอีกฝ่ายมาแนวไหนกันแน่
อรุณเดินเข้ามาจุดเทียนไฟที่อยู่อีกด้านหนึ่งของที่นั่งผม มันมีตรงสระว่ายน้ำคั้นกลางอยู่ เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งผมรู้ได้ทันทีเลยว่า ข้อความนี้เป็นของเมฆ
....ขอให้...
....มีความสุข...
...กับค่ำคืนนี้....
ผมชักจะส่งสารอรุณซะแล้วสิ เพราะเทียนแต่ละตัวอักษรมันน้อยซะที่ไหน แต่ดูเหมือนเจ้าคนที่ฝากข้อความไว้ก็เหมือนกัน เมื่อมีคนใส่ชุดดำร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามาแทนทีเขา พร้อมกับโชว์เต้นรำที่ดูอ่อนช้อย แต่ทว่าแข็งแรง และหนักแน่นให้ผมดู โดยไร้ซึ่งเสียงเพลง
ผมพยายามทำหน้านิ่งเข้าไว้ แม้ในใจอยากจะยิ้มให้กับของขวัญแปลกๆของรุ่นน้องในคืนนี้ก็ตาม
“ขออนุญาตนะครับ หัวหน้า”อรุณเดินเข้ามาด้านหลังผม
“แล้วเมฆละ?”
“....”ไม่มีคำตอบอะไรจากปากอรุณ เขาเอาผ้าสีดำมาปิดตาผมอย่างไว้ พอผมจะเอื้อมมือไปดึงออก ก็มีมือนุ่มๆของใครบางคนจับผมไว้ซะก่อน พร้อมกับกลิ่นหอมที่ผมคุ่นเคย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ผมนั่งนิ่งงันอย่างกับต้องมนต์สะกด เมื่อกลิ่นกายที่คุ่นเคยขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
[Part: ไพเรส]
ผมยืนหน้าเข้าไปจูบเขา ก่อนจะใช้ลิ้นเลียปากด้านล่างของชานให้เปิดออก ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเขา พร้อมกับดูดมันเบาๆ ชานเอือมมือมากอดเอวผมไว้ พร้อมกับจูบตอบ เราแลกเปลี่ยนน้ำลายกันจากที่มันจืดชืดกลายเป็นน้ำหวานกันล่ำเลิศยิ่งกว่าอะไรดีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไวน์แดงพันปีของแพงที่สุดที่ถึงขั้นชื่อคฤหาสได้ทั้งหลัง มันเป็นของขวัญจากพี่เมฆ ผมยกมันขึ้นมาอมไว้ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตักของหลี่ ชาน และป้อนไวน์เลิศรสที่หาได้ยากนี้ใส่ปากเขา ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าโดยที่หลี่ ชานรับมันไว้อย่างเต็มใจ
ผมเอียงคอให้ปากแนบชิดกับชานมากขึ้น ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวตวัดเล่นกับลิ้นของเขา มือของผมสอดเข้าไปใต้เรือนผมสีดำ ในขณะที่เขาโอบเอวผมให้แนบชิดยิ่งขึ้น
ลมหายใจเขาผมเริ่มเปลี่ยนจังหวะ ทำให้จูบของเรายาวนานยิ่งขึ้น
ผมผละออกมาจากเขาเพื่อพักหายใจ ก่อนจะแนบริมฝีปากเข้าไปใหม่โดยทันที
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ที่ผมสอดมือเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังกว้าง ที่ทั้งแข็งแกร่งและกำยำ ในขณะที่เขาทั้งลูบทั้งบีบบั้นท้ายของผม
หลี่ ชานขยี้ริมฝีปากลงมาหาอย่างหนักหน่วง เขาเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาอย่างรู้แนว ผมดูดริมฝีปากทั้งบนและล่างของผมอย่างหลงใหลจนทำให้ละลายลงบนอ้อมกอดของเขา แก่นกายของเราสัมผัสผ่านกันไปมาโดยมีเนื้อผ้าบางๆกั้นอยู่ แต่ก็ไม่อาจห้ามแรงราคะและความร้อนแผ่วที่ส่งผ่านกันไปได้ ยิ่งนานมันก็ยิ่งเลยเถิด
“เดี๋ยว..” ผมผละตัวออกจากเขา พร้อมกับแกะผ้าปิดตาออก เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำของคนที่ผมหลงรัก หลี่ ชานส่งยิ้มกว้างให้กับผม เขารวบตัวผมมากอดไว้แน่นให้หายคิดถึง
ใบหน้าของผมที่เกยไหล่เขาอยู่ ยื่นขึ้นไปขมเม้มติ้งหูของเขา
“ให้ฉันทำให้นายนะ?”ผมพูด ดูก็รู้ว่าเขาเข้าใจความหมายของมัน
หลี่ ชานไม่ได้ตอบรับหรือพูด หากแต่ยืนเงียบๆให้ผมคุกเข่าลงจ้องมองหลี่ ชานน้อยของเขาที่กำลังขยายตัว
ผมปลดซิบกางเกงเขาด้วยปาก ก่อนจะดึงมันออกมาจ่อหน้าผม ชานน้อยปรากฏออกมาตรงหน้าผม มันทั้งยาวทั้งใหญ่เกินขนาดของชายเอเชียทั่วไป
“อึก...”ผมกลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จ้องมองมัน ได้ยินเสียงหลี่ ชานหัวเราะหึๆออกมา จนผมต้องเงยหน้าขึ้นส่งค้อนเขาวงใหญ่ให้เขา
“ไหวเหรอ?”เขาพูด คนขี้แกล้งก็ยังขี้แกล้งวันยังค่ำ แม้จะไม่ได้คุยกันนานก็ตาม
ผมไม่ตอบกลับอะไรเขา แต่จับชานน้อยรูดเข้ารูดลงช้าๆ ในขณะที่ปลายนิ้วหมุนรอบส่วนปลาย จนมันขยายใหญ่ขึ้น ผมจับผมของตัวเองทัดใบหูไว้เพื่อไม่ให้มันเกะกะ ก่อนจะให้ลิ้มเลียมันจากโคนจรดปลาย ผมได้ยินเสียงชานครางต่ำในลำคอ
“ไหวไม่ไหวก็ทำให้นายติดใจได้ละกัน”ผมว่าเสียงใส และเลียมันขึ้นลงไปมาอย่างช้าๆแต่ก็สร้างความเสียวซ่านให้อีกฝ่ายไม่น้อย มือของหลี่ ชานขย่ำเส้นผมของผมเพื่อระบายอารมณ์
....นั้นแหละที่ผมต้องการ ใบหน้าที่แสนความสุข และท่าทางเซ็กซี่ของเขาที่มีแค่ผมเท่านั้นที่เห็นมัน
ราวกับกำลังกินไอศกรีมแท่งโตที่อยู่ตรงหน้า ผมอ้าปากกลืนกินแท่งของมันเข้าไปทั้งอัน แม้ว่าตอนนี้น้ำตาของผมจะคลอเคลียเบ้าตา น้ำลายไหลลงมาจากมุมปาก แต่เพื่อความรู้สึกของคนตรงหน้าแล้ว ผมทำได้
ผมทั้งดูด ดึง ขม เม้มมัน และขยับใบหน้าเข้าออก แต่หลี่ ชานทนไม่ไหวซะก่อน เขาจับเรือนผมของผมเอาไว้แน่นพร้อมกับดึงเข้าดึงออกด้วยตัวเอง
พรวด!
ในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งเข้ามาในปากของผมจนผมสำลัก แต่ก็กลืนมันจนหมด พร้อมกับเลียคราบที่เละอยู่บนปากผม
หลี่ ชานดึงตัวผมให้ลุกขึ้น เขาเอาผ้าสีดำที่ปิดตาเขาก่อนหน้านี้ มามัดข้อมือผมไว้ แล้วดึงมันยกขึ้นไปโอบรอบคอของเขาไว้
“จะทำ... อ๊ะ”ผมกำลังจะถามเขา แต่ชานก็ไม่ยอมให้ผมเปิดปาก เขาประกบจูบผมทันทีที่ได้โอกาส ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไป แลกเปลี่ยนน้ำหวานซึ่งกันอีกครั้ง และอีกครั้ง มือของชานปลดกระดุมเสื้อผมออก และคล้ำคลึงหน้าอกของผมจนผมรู้สึกวาบหวิว เด้งตัวขึ้นไปหามัน ขาทั้งสองข้างเกี่ยวรอบเอวเข้าไว้โดยทันที ชานยกตัวผมขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ
ปากของชานเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จากคาง ลงมาถึงต้นคอ เขาขบเม้มมันเบาๆ และกัดจนเป็นรอยแดง และผละออก ก่อนจะตรงดิ่งมาเล่นงานหน้าอกผมแทน มันเลียขึ้นลงรั่วๆ พร้อมมืออีกข้างของเขาที่ขย่ำหน้าอกอีกข้าง
“ชาน.. เบาๆ.. อ๊ะ... ฮา... มัน... อึก.. ฮา มัน..เสียวไป”
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ฟังคำพูดผมเลยซักนิด เมื่อมืออีกข้างที่ว่างลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผมอย่างช้าๆ ทุกจุดที่เขาลากผ่าน ทุกจุดที่เขาจูบ เลีย และเน้นย่ำ ล้วนร้อนวูบวาบไปหมด
“ฮึก... อ๊ะ.. อ๊ะ..”
สัมผัสที่หายหายกับไปนาน มันแทบทำให้ผมบ้าคลั่ง และรู้สึกเร็วมากกว่าที่คิดไว้
หลี่ ชานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของผมด้วยแววตาที่หื่นกระหายราวกับสัตว์ป่าที่อดอยากมาแรมปี หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเมื่อสบกับตาคู่หนึ่งของเขา ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มลงไปเพิ่มแรงจูบมากยิ่งขึ้นจนผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างแล่นวูบมาจนถึงจุดศูนย์กลาง
ผมขยุ่มเรือนผมสีดำ พลางส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด ชานกดนิ้วลงไปกลางช่องแคบของผม ก่อนจะขยับมันเข้าออกช้าๆ จากหนึ่ง เพิ่มมาเป็นสอง จากสองเพิ่มมาเป็นสาม ผมรีบจับมือห้ามเข้าไว้ ก่อนที่จะนานไปมากกว่า
ผมบรือตามองเขา พร้อมพูดด้วยเสียงแห่บพร่า “เข้ามาเถอะ.. ฉันอยากได้นาย ชาน” เหมือนเขาเองก็ทนไม่ไหว หลี่ ชานกระชากกางเกงของเขาออกรวดเดียว ก่อนจะจ่อชานน้อยมาถูไถกับช่องทางของผม
“แฮ่ก.. ฮา... เข้ามา... อ่า... ชาน...”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำกำลังรอคอยให้ผมพูดออกมา ประโยคพูดที่เขาอยากให้ผมพูดทุกครั้งที่ทนไม่ไหว
“อ๊ะ.. อ่า... ชาน.. เอาไพเรสแรงๆทีเถอะ... อ๊า... ฮา... ไพเรส.. จะไม่ไหว.. แล้วนะ”
ทันทีที่คำพูดน่าอายออกมาจากปากผม ชานก็ยกยิ้ม พร้อมจ่อชานน้อยเข้ามาในช่องรักของผมช้าๆ หากแต่หนักแน่น
ผมกัดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ร้องออกมา
....ก็แน่ละ เขาเข้าเล็กซะทีไหน
ชานปล่อยชานน้อยให้นอนนิ่งอยู่ในตัวผมซักพัก ก่อนจะขยับมันออก และใส่เข้ามาใหม่
“อ่า....ลึกจัง”ผมพึมพำ
หลี่ ชานขยับตัวเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นเป็นจังหวะ
“อ๊ะ...อ๊ะ..อ๊า!”ผมครางรับกับจังหวะของเขา ในขณะที่สะโพกของผมยกขึ้นทุกครั้งที่เขาสอดใส่เข้ามา ยิ่งผมครางเสียงดังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสติหลุดมากขึ้นเท่านั้น
“ชาน.. แรงอีก.. เอาไพ.. อึก เอาฉันให้แรงๆอีก อ๊า.. อ๊ะ! อ๊ะ!!”
หลี่ ชานกระแทกสะโพกเข้าหาผมตามคำขอ ผมยกสะโพกขึ้นมาสอดรับกับของของเขาอย่างไม่ลดละ เมื่อใกล้จะถึงขีดสุดของปลายทาง
“อ๊า!!”
พรวด!
น้ำสีขุ่นพุ่งเข้ามาในตัวของผม มันอุ่นวาบไปหมด แต่ก่อนที่ผมจะล้มฟุบลงไปอย่างหมดแรง หลี่ ชานก็พูดขึ้นมาว่า “อีกรอบ” พร้อมขยับชานน้อยเข้ามาให้ผมอ้าขารับอีกครั้ง แต่คราวนี้ชานยกตัวผมขึ้นมานั่งบนตักเขา พร้อมกับจับสะโพกผมไว้
“พอ... พอเถอะ อ๊ะ!”
ชานจับเอวผมยกขึ้น ก่อนจะกดลงมาอย่างเร็ว
“อื้อ.. อึก..”
ให้ได้อย่างนี้สิ.. ไม่เจอกันตั้งนานทำไมไม่เห็นใจกันบ้างเลย ลองมาเป็นฝ่ายรับดูบ้างสิ!
ผมแอบโวยวายในใจ แต่ความจริงไม่มีแรงที่จะต่อว่าชานแล้วละครับ ผมขยับสะโพกขึ้นลงตามที่เขาสั่งอย่างรู้หน้านี้
“อ๊า... อ๊ะ... อ๊ะ...อึก... อื้อ!!”ผมครางออกมา ก่อนจะนั่งนิ่งลงไปอีกครั้งอย่างหมดแรง แต่ดูเหมือนชานจะทนไม่ไหวเองครับ เขาพลิกตัวผมให้นอนราบบนโต๊ะตัวยาว ก่อนจะกระแทกเข้ามาอย่างไม่ลดละ
“อ๊ะ อ๊า.. ชาน อึก.. เร็วอีก ฮ้า... เร็วอีก...”ผมขอร้องเขา ในขณะชานก็กระหน่ำเข้ามาแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฟั่บๆๆๆ
เสียงของร่างกายเราตอบกลับกันอีกครั้ง และอีกครั้ง ราวกับไม่มีวันจบสิ้น
ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นยังไง ไม่ว่าเราจะชนชาติใด หรืออยู่ที่ไหน แต่พรหมลิขิตก็นำพาให้เรามาพบกัน มารักกันจนได้
“อ๊ะ...อ๊ะ... ชาน...ฮา.. ฉันรัก..อ๊ะ! นายนะ!!”
.
.
.
.
.
“อ๊า!!!!”
.
.
.
.
.
.
.
“ผมก็รักคุณนะ แสงสว่างเพียงดวงเดียวของผม..”
End