ผิดตกโปรดอภัยโจ๊กไม่สบายเลยตาลายครับกระผม
~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 28~~ ลอยกระทงกันนะตะเอง ภาคค่ำ“ ตกลงวันนี้เราจะไปลอยกระทงที่ไหนกันดีอ่ะ ” ไอ้ปลาบึกดูจะเป็นคนเดียวที่จิตจดจ่ออยู่กับการไปลอยกระทงจริงๆ ครับ แต่ก็น่าเห็นใจมันเพราะมันคงตั้งหน้าตั้งตารอวันนี้มานานหลังจากที่ผมไปเห็นรอยกากบาทสีแดงๆ บนปฎิทินเหล้ายี่ห้อดังที่ติดอยู่ข้างฝาบ้าน
“ เออพี่โจ๊กวันนี้โมขออนุญาติไปลอยกระทงกับเพื่อนได้ปะ พอดีวันนี้ดันตรงกับวันเกิดมันด้วยอ่ะนะๆ ”
“ อ้าวไหงงั้นอ่ะ พี่นึกว่าเราจะได้ไปลอยกระทงด้วยกันซะอีก ” ไอ้ปลาบึกทำหน้างอนๆ
“ น่านะพี่ปลาบึกโมขอไปแรดซักวัน555+ ”
“ แต่พี่ ”
“ เอาน่าปล่อยน้องมันไปซักสักเถอะ ”
“ ขอคุณครับพี่โจ๊ก^^ ”
“ แต่มีข้อแม้ ”
“ ง่ะ ”
“ ไม่ต้องมาง่ะ ห้ามกลับเกินเที่ยงคืนเด็ดขาดเข้าใจปะ ”
“ โหพี่กว่าพวกผมจะไปลอยกระทง กว่าจะได้ร้านนั่งกินก็คงนาน ”
“ นี่เราไม่ได้คิดที่จะไปค้างบ้านเพื่อนใช่ไหม ”
“ ก็แค่คืนเดียวเองอ่ะพี่โจ๊ก แล้วนี่โมก็เตรียมเสื้อผ้าไว้แล้วด้วยอ่ะ ”
“ นี่เอาจริงอ่ะ ”
“ จริงดิ ”
“ แล้วคิดว่าพี่จะอนุญาติให้โมไปค้างไหม ”
“ แต่โมเก็บของแล้วนะ ”
“ เก็บได้ก็เอาออกได้ ”
“ โหพี่โจ๊กอ่ะ พี่ปลาบึกครับ ” ไอ้โมหันไปร้องขอความเห็นใจจากพี่มันแทน
“ ถ้าถามพี่พี่บอกได้เลยว่าไม่อนุญาติ แต่พี่จะเลื่อนเวลาให้เป็นไม่เกินตีหนึ่งพอไหม ”
“ เซ็งเลย ”
“ เราห่วงเพื่อน แต่พวกพี่ห่วงเรานะโม อีกอย่างไอ้ที่จะไปๆ เนี้ยเราโทรไปบอกพ่อกับแม่เราแล้วเหรอยัง ”
“ แหะๆ ”
“ แหะนี่ยังใช่ไหม งั้นเราก็ไม่ต้องไปและ เดี๋ยวเกิดพ่อกับแม่เราเรียกหาพวกพี่จะซวยกันอีก ”
“ โธ่พี่โจ๊กอ่ะ โมโตแล้วนะ ”
“ คนที่โตแล้วก็น่าจะตัดสินใจอะไรได้ดีกว่านี้สิ นี่เราไม่มีการบอกพี่ล่วงหน้าเลยเล่นมามัดมือชกเอาวันสุดท้าย ทำงี้ได้ไง ”
“ พี่ปลาบบึกครับ ” ไอ้โมเดินเข้าไปอ้อนพี่ชายมัน
“ โมช่วงเทศกาลคนเยอะๆ อย่างนี้พวกมิจฉาชีพมันเยอะนะรู้ไหม เกิดโมไปเข้าตามันเข้าโมจะแย่เอานะ ”
“ โอเคๆ งั้นโมกลับตีหนึ่งก็ได้ โอเคปะ ”
“ แล้วแต่โจ๊กแล้วกัน ” ไอ้ปลาบึกหันมาจ้องหน้าผม
“ ก็ได้ ไม่เกินตีหนึ่งนะ ”
“ ครับ ”
“ มือถือถ้าพี่โทรไปเราต้องรับสายทุกครับ ”
“ ครับ ”
“ ห้ามมีข้ออ้างว่าไม่ได้ยินเสียง แบ๊ตหมด ฝากไว้ในกระเป๋าเพื่อน ”
“ ครับๆๆ ”
“ งั้นก็โอเค ”
“ ขอบคุณครับ ” แล้วไอ้โมก็วิ่งจู๊ดขึ้นบ้านไป
“ ไปเราก็ไปทำงานกันได้แล้ว ”
“ ไม่กินข้าวเช้ากันก่อนเหรอ ”
“ กินในรถก็ได้ เดี๋ยวขอเข้าไปอัดข้าวใส่กล่องก่อนนะโจ๊กออกไปรอเค้าข้างนอกก็ได้ ”
“ เค้าเหรอ ” ผมส่งยิ้มยียวนไปกวนติงมันเล่น
“ ไปๆ วันนี้วันดียังไม่อยากทะเลาะด้วย ”
“ ลอยกระทงนะไม่ใช่ปีใหม่ซะหน่อยอะไรจะเห่อขนาดนั้น ”
“ แล้วถ้าวันนี้งานเข้าเกิดโจ๊กไม่ว่างขึ้นมาบึกจะทำอย่างไง ”
“ เที่ยงคือเราก็จะรอ เสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปลอยกระทงด้วยกัน ”
“ โหขนาดนั้นเชียว ”
“ ไปๆ ออกไปรอข้างนอกเดี๋ยวตามไป ”
สงสัยจะเป็นวันดีสำหรับมันจริงๆ ครับเพราะอาหารเช้ามื้อนี้มีทั้งหมูทอด ไข่เจียวแหนมกับต้มจืดกระดูกอ่อนหมู (หรือกระดูกหมูอ่อนซักอย่างนี่แหละครับ)
“ อะอ้ามมมม ” ไอ้ปลาบึกตักข้าวมาจ่อที่ปากผมส่วนปากมันก็ออกเสียงอ้ามๆ ในทุกคำที่มันตักมาป้อนผม
“ ปลาบึกกินก่อนเถอะเดี๋ยวโจ๊กไปกินที่ทำงานก็ได้ ”
“ ไม่เอาเราจะป้อน โจ๊กก็ขับรถไปดิเดี๋ยวเราป้อนให้กินเอง ”
“ ลำบากเปล่าๆ เดี๋ยวหกเลอะเทอะ ”
“ หกก็เอารถไปล้างดิไม่เห็นจะยาก อย่าเรื่องมากเอ้าอีกคำอ้ามมมมม ” ผมอ้าปากรอ
เช้า-เที่ยงทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีไอ้บึกยังคงเดินเพ่นพ่านเกาะกะเกเรชาวบ้านเค้าไปทั่ว ปากก็คุยนักคุยหนาเที่ยวอวดชาวบ้านเค้าว่ามันจะไปเที่ยวลอยกระทงที่นั่นที่นี่ มันเป็นคนที่ชอบเที่ยวงานเทศกาลพวกนี้ครับถ้าให้เลือกระหว่างเดินห้างแอร์เย็นๆ กับไปเที่ยวงานวัดที่ต้องเบียดฝูงชนนับร้อยๆ แน่นอนครับมันเลือกเที่ยวงานวัดครับ ส่วนผมขอบายผมเป็นคนไม่ชอบเอาซะเลยครับที่ต้องออกไปเบียดเสียดเนื้อตัวถูไถเสียดสีกับชาวบ้าน ไม่ใช่หยิ่งหรอกนะครับแต่ผมจะเป็นลมเพราะตาลายกับผู้คนและอากาศที่ไม่มีให้หายใจมากกว่า
แล้วช่วงเย็นก็มาถึง..
“ เร็วดิโจ๊กเดี๋ยวรถติด ”
“ ออกตอนนี้รถก็ติดอยู่ดี ”
“ ไม่เอาจะออกตอนนี้ ไปเร็ว ” ไอ้บึกเดินเข้ามาหยิบกระเป๋าเป้ผมไปสะพายให้
“ ฉี่ก่อนได้ปะ ”
“ โอ๊ย อืมๆ เร็วๆ นะ ”
" ไหนๆ จะฉี่และเดี๋ยวกูขี้ด้วยเลยแล้วกัน "
" จะบ้าเหรอจะมาปวดอะไรเอาตอนจะกลับบ้านอ่ะ "
" อ้าวนี่เราจะกลับเหรอก็ไม่บอกกันตั้งแต่แรก ไปๆ "
" อ้าไม่เข้าห้องน้ำแล้วเหรอ "
" เดี๋ยวกักเก็บไปเข้าที่บ้านทีเดียวเลยดีกว่า "
" -*- ไม่ เข้านี่แหละ เร้วๆ จะยืนรอ "
" ทำไมอ่ะ "
" เดี๋ยวเกิดออกไปรถติดขี้เกียจจะฟังหมาบ่น "
" ไม่บ่นหรอกสัญญา " ผมยกนิ้วก้อยชูขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจของมัน
" ไม่ต้องมาสัญญา สาบานก้ไม่ต้องเข้าเดี๋ยวนี้เร็วๆ เดี๋ยวสาย "
" เออๆ รอตรงนี้นะ "
" อืม "
15 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก...ปั้ง ปั้ง ปั้ง เสียงเหมือนคนเอาติงกระแทกประตูมากกว่าเอามือเคาะ
" มีคนอยู่ครับ "
" กูเอง "
" อ้าว จะเข้าห้องน้ำเหรอแปปนะ "
" เปล่า "
" อ้าวแล้วเคาะทำไม "
" กูจะฆ่ามึงอ่ะ นี่มึงแกล้งกูใช่ไหมไอ้โจ๊ก "
" โหคนเรามาดีแตกเอาตอนพระอาทิตย์ตกดินซะงั้นนะ "
" มึงไม่อยากพากูไปเที่ยวก็บอกกันดีๆ ก็ได้นี่ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้ "
" โหแปปดิมึงจะรีบไปไหนวะ กว่าเค้าจะลอยก็โน่นสองสามทุ่มโน่นแหนะ "
".............."
" บึก "
".............."
" บึก "
".............."
" ไอ้ปลาบึก "
".............."
" เป็นงี้อีกแระเฮ้อออ กูละเซ็งจิต "
ผมเปิดประตูออกมาก็ไม่เห็นร่างของมันแล้วครับ พอเดินกลับไปที่โต๊ะมันอีกทีก็เห็นมันหอบเอาเอกสารกลับขึ้นมากองบนโตีะทำงานเหมือนเก่า
" อ้าวไม่ไปแล้วเหรอลอยกระทง "
".............."
" ปะกูเสร็จแล้ว "
".............."
" เป็นไรอีกอ่ะมึง "
".............."
" ไปๆ เค้าเก็บของกลับบ้านกันหมดแล้ว "
".............."
" งอนเหรอ "
".............."
" เป็นไร ไอ้บึก "
" มึงกลับไปก่อนเถอะกูจะทำงานต่ออีกแปป "
" แล้วมึงจะกลับอย่างไง "
" รถเมล์เยอะแยะ "
" ไปๆ อย่ามาลีลาเก็บของเดี๋ยวไปสายคนเยอะนะ "
" ไปตอนไหนก็มีค่าเท่ากันจะรีบไปทำไมเค้าลอยกันตั้งสองสามทุ่มไม่ใช่เหรอ "
" เออกูผิด กูขอโทษ ไปๆ กูพร้อมแระ "
" กูไม่อยากไปแล้ว "
" อย่าทำงี้ดิ "
".............."
" บึกมึงแม่งเอาแต่ใจอ่ะ "
".............."
" โอ๋ๆ กูผิดเองกูขอโทษนะ ที่รักนะ " ผมเข้าไปกอดมันจากด้านหลังในขณะที่มันยังตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์งานต่อไป
" กูจะไปนอนกับไอ้หมึกนะคืนนี้ "
" กูไม่ให้มึงไป "
" แต่กูจะไป "
" งั้นกูไปด้วย "
" กูไม่ให้มึงไป "
" แต่กูจะไป "
" แล้วใครจะรอรับไอ้โม " มันเอียงคอหันมาจ้องตาผม
" มึงกับกูไงถามได้ "
" กูบอกแล้วไงว่ากูจะไปนอนบ้านพี่กู "
" พูดงี้กูเคืองนะเนี้ย เดี๋ยวกูไปราชบุรีแม่งเลย "
" ห๊ะ ไปไหนนะ "
" เรื่องของกู " ผมปล่อยไอ้บึกแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองก่อนจะเดินออกไปกดลิฟท์เพื่อนกลับบ้าน
5 นาทีต่อมา ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด
" ทำไม "
" อยู่ไหน "
" ถามว่าอยู่ไหน "
" รถ "
" จะไปรอข้างหน้านะ "
" เออ " สั้นๆ เพราะขี้เกียจจะเถียงกับมันแระ
ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด ผมกดไปหาไอ้โม
" ครับพี่ "
" อยู่ไหนแระ "
" บ้านเพื่อนพี่ "
" ห้ามเกินตีหนึ่งนะ "
" ครับ รู้แล้วครับ พี่ปลาบึกอ่ะพี่ "
" กำลังลงมา "
" พี่โจ๊กจะพาพี่ปลาบึกไปลอยกระทงที่ไหนอ่ะครับ "
" ไม่รู้แล้วแต่มันจะพาไป "
" ครับ พี่เพื่อนเรียกแล้วเดี๋ยวโมจะโทรหาเรื่อยๆ แล้วกันนะ "
" อืม ดูแลตัวเองด้วยล่ะ "
" ครับบบบบ สั่งจัง 555+ บายครับ "
" อืม บาย "
ก๊อกๆ ไอ้ปลาบึกเดินมาเคาะกระจกเรียกหน้างี้เป็นตูดเชียวครับ
" หิวไหม "
" นิดหน่อย "
" จะไปกินที่งานเหรอว่าจะกินอะไรรองม้องกันก่อนไป "
" อยากกินจิ้มจุ่ม "
" อันนั้นต้องนั่งกินนานถึงจะอร่อย "
" อืม งั้นไว้กินตอนกลับดีกว่าเนอะ "
" อืม "
" งั้นกลับไปอาบน้ำที่บ้านก่อนดีกว่า "
" อืม "
" อืมๆ เนี้ยไม่พอใจใช่ปะ "
" มึงอย่าหาเรื่องได้ปะ เดี๋ยวกูขับรถเสยเสาแม่งเลย "
" สาด "
" เชี้ย "
" จวย "
" ของมึงเหรอของกูล่ะ " ผมหันไปมองที่ตักมัน
" ปากดี "
" จะไปเปล่าเนี้ย "
" ไป "
" หอมกูก่อนไม่งั้นไม่ต้องไป " ไอ้บึกหันมามองหน้าผม
" ไม่หอม "
" ไม่หอมก็ไม่ต้องไปเอาซิ "
" จะไป "
" จะไปก็ต้องหอม "
" กูเกลียดมึง "
" เหรอออ ดีกูได้มีเมียใหม่เดี๋ยวจะเอามึงออกประมูลในเล้าหารายได้สมทบทุนหาเมียใหม่ซะเลย " ไอ้บึกหันขวับมากัดปากตัวเองแล้วตามด้วยทำตาเขียวใส่
" เร็วๆ ดีๆ ด้วยนะมึงถ้าแกล้งเอาจมูกกระแทกแก้มกูแรงๆ กูขับเสยเสาไฟข้างหน้าจริงๆ ด้วย "
" ไอ้เชี้ยโจ๊ก "
" ^^ ขอบคุณที่ชม "
" อืม " ไอ้บึกเอียงคอมาหอมแก้มผมหนึ่งที
" โอ๊ะโอว...รถติดไฟแดงพอดี เพราะงั้นอีกข้างเอาแบบเมื่อกี้นะ "
" อืม " ผมหันไปให้มันหอมอีกข้าง มันยอมหอมผมครับแต่พอหอมเสร็จก้กลับไปนั่งทำหน้าเหม็นขี้ต่อทันที
19.45 น. ผมกับไอ้ปลาบึกตัดสินใจที่จะทิ้งราชรถไว้ที่บ้านแล้วโบกสาย 35 ไปภูเขาทอง เพื่อนๆ บางคนอาจจะแปลกใจว่าภูเขาทองมีสาย 35 วิ่งผ่านด้วยเหรอ ที่จริงแล้วมันคือแท๊กซี่นั่นเองครับแต่ไอ้บึกเรียกว่ารถสาย 35
" แค่เอาตูดขึ้นไปนั่งกูยังไม่ทันปิดประตูแม่งกด 35 ใส่หน้ากูเฉยเลยมึงคิดดูแล้วจะไม่ให้กูเรียกมันว่าสาย 35 ได้ไง "
แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดครับ รถเข้าไม่ได้ติดยาวจนผมประสาทจะกิน ส่วนไอ้ปลาบึกผมเห็นมันนั่งตื่นตาตื่นใจไปกับวิวทิวทัศน์รอบข้างเอาซะเหลือเกิน
" ลงเดินเถอะน้องพี่ว่า โน่นอีกนิดก้ถึงแล้ว " พี่แท๊กซี่หันมาบอกพวกผม
" โอเคพี่งั้นพวกผมลงตรงนี้ครับ "
" ขอบคุณครับ ^^ " ไอ้ปลาบึกกล่าวคำขอบคุณก่อนจะก้าวขาลงมาจากรถแล้วหันไปปิดประตูรถให้พี่เค้าอย่างเบามือ
" เดินไหวไหม "
" ไหวดิ ไป " แล้วมันก็ออกเดินนำหน้าผมไปทันทีครับ
ผมสองคนใช้เวลาในการเดินฝ่าขวนรถที่ติดยาวเป็นรถไฟมาถึงที่หมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ตอนนี้ไม่อยากจะพูดเลยครับว่าอาการหน้ามืดกำลังจะมาเยือนผมอีกแล้ว ผมจ้องมองฝูงชนเบื้องหน้าด้วยอาการตะลึงงันก่อนจะคิดในใจว่า (นี่พวกมึงจะมาทำอะไรกันเยอะแยะวะเนี้ย ไม่มีที่อื่นให้ไปลอยกันบ้างเหรอไง) ฝูงชนมหาศาลแห่มาจากทางไหนบ้างก็ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าทุกคนมารวมตัวกันเพื่อนเบียดเสียดยัดเยียดกันเดินไปบนถนนสายเล็กๆ เพื่อขึ้นสู่ภูเขาทอง ผมเตรียมพร้อมโดยการล้วงเอายาดมที่พกมาด้วยขึ้นมาหมุนฝาเตรียมปฐมพยาบาลตัวเองตลอดเส้นทางทันที
ไอ้ปลาบึกเริงร่าเดินยิ้มดูโน่นนี่อย่างไม่สนใจว่าใครจะเบียดมันบ้าง ผมก้าวเท้าเข้าไปยืนซ้อนตัวเบียดมันจากข้างหลังมือขวายกยาดมขึ้นมาปฐมพยาบาลตัวเอง ส่วนมือซ้ายก็ยกขึ้นมาล็อกคอไอ้ปลาบึกไว้ไม่ให้ห่างตัว
" กูว่าเราลอยกระทงข้างนอกก็พอมั้งมึง "
" ไหนๆ ก็มาแล้วจะไม่ขึ้นไปข้างบนหน่อยเหรอ นะๆ กูอยากไหว้พระอ่ะ "
" เอาจริงดิ "
" น่านะ อดทนนิดเดียวเอง "
ผมพยักหน้าตามใจมันก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง เพื่อนๆ คนไหนที่ได้เคยเที่ยวงานภูเขาทองคงรู้ว่างานนี้มันยิ่งใหญ่แค่ไหนนะครับ ภายในงานมีทุกอย่างครับทั้งของกินของใช้หรือการแสดงต่างๆ แน่นอนเมื่อคนเยอะการจราจลย่อมติดขัดเป็นธรรมดา ไอ้เรื่องจะได้เดินเรื่อยเปื่อยชมสองข้างทางอย่างสบายใจนั้นไม่ต้องไปฝันครับว่าจะทำได้ เพราะเอาแค่ขนาดจะเดินเข้าไปชมงานก็ต้องใช้เวลาในการเดินเข้าไปไม่ต่ำกว่า 30 นาทีโดยประมาณนี่ยังไม่ถึงยอดเขาด้านบนนะครับ
ผมหยุดการคุยทุกอย่างเพื่อตั้งมั่นในการเดินจงกลม ปลายเท้าที่ยกและก้าวไปข้างหน้ามันชั่งหาที่วางลงได้ลำบากนักจนผมจนใจต้องเดินแบบลากเท้าจะสะดวกซะกว่า ทางที่เราเดินเข้าไปจะมีคนอีกจำนวนมากที่เดินสวนออกมาและบ่อยครั้งที่เรามาป๊ะกันแหมโดยมิได้นัดหมาย ผมก็ไม่เข้าใจว่าแรกๆ เดินมามีสองเลนแต่ไหงเดินไปเรื่อยๆ มันดันเหลือเลนเดียวได้
" เสื้อตัวนั้นสวยจังโจ๊กดูดิ "
" อืม เสื้อที่มึงใส่อยู่ก็สวยนะ "
" เหรอ "
" ใส่แล้วดูดีออก "
" จริงดิ " ไอ้ปลาบึกก้มมองเสื้อยืดสีขาวของเล้าเป็ดด้วยความภาคภูมิใจ วันนี้มันใส่เสื้อเล้ามาครับ (หลังจากเป่ายี่ฉุบชนะไอ้โมมา)
" หิวไหม "
" หิว กินอันนั้นกัน " มันชี้ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเจ้าดังที่มาเปิดซุ้มขายในงานนี้ด้วย
" อืมปะ "
" โจ๊กอ่ะอยากกินอย่างอื่นหรือเปล่า "
" กินได้หมดแหละ แต่พูดแล้วก็อยากกินไก่ยางจิระพันธ์ไม่รู้งวดนี้มาขายด้วยเหรอเปล่า "
" งั้นเจอเดี๋ยวแวะซื้อกัน "
" อืม "
" อุ๊ยนั่น "
" อะไร " ผมคาดว่ามันคงจะเจอเข้ากับเพื่อนหรือใครซักคนที่มันรู้จัก
" ขนมเบื้อง " มันหันมาทำตาปริบๆ ใส่ผมเหมือนกลัวว่าผมจะด่าที่มันทำให้ผมตกใจ
" ............"
" อยากกิน "
" ก็ซื้อดิ "
" เย้ๆ "
" ไปโต๊ะนั้นว่างแล้วเร็วเดี๋ยวคนแย่ง " ผมผลักหลังไอ้ปลาบึกให้เดินตรงเข้าไปนั่งในร้านที่หมายปอง
แล้วอาหารมือแรกของเราในงานก็เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะเราซัดกันไปเต็มๆ คนละสามชาม
" อ้าาาา อิ่มจัง "
" กินอย่างกะโจรปล้น ทำงานนะอย่างย่อมเบานะมึง "
" ไอ้เวอร์ กูออกจะขยันจะตายไป "
" เหรออออ "
" เออ มึงแหละไอ้โจ๊กไอ้ที่กินเยอะๆ นี่คงไม่ได้เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นหรอกนะ "
" อ๊ะ ก็ไม่แน่ ^^ "
แล้วพวกเราก็กลับเข้าสู่เส้นทางแห่งการเดินจงกลมอีกครั้งครับ ผมเห็นไอ้ปลาบึกเดินยิ้มไปตลอดเส้นทางที่ขึ้นสู่วัดภูเขาทอง หน้าตามันดูมีความสุขมาก...มากซะจนผมแอบสงสัยว่ามันชอบงานวัดเหรอว่ามีอะไรอื่นแอบแฝงอยู่กันแน่
" ยิ้มอะไรนักหนาววะ "
" นานๆ จะได้อยู่ด้วยกันสองคนก็ดีเหมือนกันนะ แต่ก็อดคิดถึงไอ้โมไม่ได้ไม่รู้ป่านนี้มันไปสวีวี่วีอยู่ร้านไหน "
" คิดถึงก็โทรไปหามันดิ "
" แล้วไม่มึงไม่โทรเองล่ะ "
" นานๆ มันจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนมันทีก็เลยรู้สึกเกรงใจมันนะ ไม่อยากให้มันเที่ยวอย่างมีห่วงอีกอย่างก็โตๆ กันแล้วมันน่าจะรู้ว่าอะไรควรเหรอไม่ควร "
" คิดได้อย่างนั้นก็ดี "
" ร้อนเนอะ "
" เดินถึงข้างบนเมื่อไหร่ก็คงอากาศเย็นสบายแล้ว "
" บึก "
" หืม "
" มีนแอบมองเราวะ " ผมกระซิบข้างหูไอ้บึกเบาๆ ให้มองกลุ่มคนที่เดินอยู่ข้างๆ เรา
" คิดมากเปล่า "
" ไม่เชื่อเหรอ "
" เปล่าแค่คิดว่าเค้าคงแปลกใจที่เห็นเราสองคนเดินชิดกันเกินไปมั้ง "
" ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ก็ดูคนดิแม่งเป็นหมื่น "
" ก็อาจจะจริง แต่ว่ากูว่าจริงๆ เค้าก็น่าจะมองพวกเราอยู่หรอกนะ "
" ทำไมวะ เหรอว่ากูหล่อ "
" หึ "
" เอ้าไอ้นี่ "
" กูว่าก่อนที่คนอื่นจะมองเรามากไปกว่านี้มึงช่วยเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อกูก่อนได้ปะ แล้วก็เลือกเบียดกูซักทีคางมึงก็ยกออกจากไหล่กูด้วย หนักชิหายเลย " ผมยกคางออกจากไหล่ไอ้บึกก่อนจะดึงมืออกมาจากกระเป๋าเสื้อกันหนาวมันทั้งสองข้าง
" แล้วก็ไม่เสือกบอกกูแต่แรก " อากาศมันหนาวครับ แหะๆ
ผมว่าน่ารักดีออก...ไม่รู้สิครับผมติดนิสัยนี้ซะแล้ว เวลาไปไหนก็แล้วแต่ถ้าคนเยอะๆ ผมจะชอบเอาสองมือของผมล้วงกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงไม่ไอ้บึกก็ไอ้โมไว้ พอตัวเราติดกันมันอบอุ่นดีออกครับแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงด้วย
" นานๆ จะได้มาเดินเที่ยวด้วยกันใช้ชีวิตด้วยกันข้างนอกบ้างก็ดีนะ "
" อืม " ผมแทรกขึ้นมาเดินข้างไอ้บึกก่อนจะหันหน้าไปยิ้มให้มันน้อยๆ แล้วคว้ามือมันมาจูงเอาไว้
" บ้า กูอายเค้านะ "
" แต่กูไม่อาย "
" ถ้ากูไม่มีโมมึงจะมีความสุขกว่านี้ไหมนะ "
" (มันหันหน้ามามองจ้องผม) โจ๊กความสุขมันไม่ได้ขึ้นอยูกับมีโมหรือไม่มีโมหรอกนะ มันขึ้นอยู่กับมึงมากกว่าจะจะทำให้กูทุกข์หรือสุข "
" แล้วส่วนใหญ่มึงทุกข์เหรอสุขล่ะ "
" ก็สองอย่างรวมๆ กัน แต่กูเลือกที่จะรับความสุขมาเก็บรักษาเอาไว้มากกว่า ส่วนความทุกข์ช่างมันเถอะเมื่อเราเจอแล้วก็ปล่อยวางมันไว้ตรงนั้นอีกไม่นานมันก็จะหายไปเอง "
" คนในเล้ารักมึงกันเยอะนะ "
" เหรอ ฝากขอบคุณให้ด้วยนะ "
" แต่กูสิคนเกลียดเยอะชิหายเลย 555+ ทั้งๆ ที่พระเอกควรจะเป็นคนที่คนดูคนอ่านรักมากพอๆ กับนางเอกซะด้วยซ้ำ "
" งั้นมึงลองคิดอีกอย่างซิ ถ้าเรื่องนี้ไม่มีพระเอกนางเอกก็คงไม่มี แล้วอีกอย่างคนอ่านเค้าก็ทำถูกแล้วที่เกลียดมึง "
" อ้าวเห้ย "
" 555+ ก็เพราะมึงมันไม่เอาไหนเองนี่หน่า เป็นกูถ้ากูเป็นคนอ่านก็คงจะเกลียดมึง (มันเอียงคอมองหน้าผมอีกครั้ง) "
" คงงั้นแหละ "
" นี่ๆ (มันยื่นมือมาเตะหน้าผมให้หันไปจ้องมันอีกครั้ง) แต่พอดีกูไม่ใช่คนอ่านไง กูเป็นนางเอกของเรื่องและมึงก็เป็นพระเอกของเรื่อง คนอ่านเค้าทำถูกแล้วที่เกลียดมึงเพราะคนที่จะชอบและมีสิทธิ์ที่จะรักมึงได้คือกู กูที่เป็นนางเอกของเรื่องเท่านั้น "
" ไอ้บึก "
" พระเอกก็ต้องคู่กับนางเอกสิใช่ไหม กูยังไม่เห็นเรื่องไหนที่เค้าเขียนให้พระเอกคู่กับคนอ่านเลยซักทีนี่หน่า 555+"
" หึ ไอ้ผู้ชายคิดบวก "
" กูยังทำได้เลย เพราะงั้นมึงก็ต้องทำให้ได้ด้วย "
" ทำอะไร "
" ก็คิดบวกไง รับแต่สิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิตส่วนเรื่องแย่ๆ อย่างเช่น คนนั้นเกลียดเรา คนนี้ไม่ชอบเรา มึงก็ไม่ต้องไปจำหรือใส่ใจ จำเอาไว้แค่ว่าชีวิตเป็นของเรา แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งเราตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่...เราค่อยหันไปหาคนที่รักเราให้เค้าช่วยตัดสินใจ โอเค๊ "
" งั้นมึงก็ต้องเตรียมตัวเอาไว้ตลอดนะไอ้บึก "
" หืม "
" เพราะคนที่กูรักและอยากให้ตัดสินใจช่วยกูเวลาที่กูคิดอะไรไม่ออก...ก็คือมึง "
" ^^ อืม กูจะรอ "
" จริงนะ "
" อืมกูจะรออยู่ข้างๆ มึงนี่แหละ เวลามึงร้อนใจจะได้เห็นกูทุกเวลาดีปะ ^^ "
" ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ "
" โจ๊ก "
" หืม "
" กูขออะไรอย่างดิ "
" อะไร "
" เรื่องที่มึงถามเมื่อกี้ "
" เรื่องไหน "
" ถ้ามึงไม่มีโมกูจะมีความสุขกว่านี้ไหมนะ "
" อ๋อ ทำไม "
" อย่าพูดอย่างนี้อีกแล้วก้ห้ามคิดเรื่องนี้ด้วย ถ้าโมมารู้เหรอได้ยินมันคงจะเสียใจมาก "
" กูรู้แล้ว "
" รู้แล้วก็ต้องทำให้ได้ด้วย เรื่องนี้โมไม่ผิด...มึงเองที่ผิด...ผิดที่ดึงเอาโมเข้ามาร่วมรับชะตากรรมที่มันไม่ได้ก่อเอาไว้ด้วย กูอาจจะเป็นคนต้นเรื่องที่ทำให้เหตุการณ์มันเลวร้ายแต่มันจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้ถ้ามึงมีสติและตัดสินใจอะไรด้วยสมองไม่ใช่อารมณ์ "
" งั้นมึงก็หารบาปคนละครึ่งกับกูดิ "
" ไม่ต้องหารหรอก เพราะอีกครึ่งหนึ่งของมึงกูจะเป็นคนรับผิดชอบเอง กูขอแค่ให้มึงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่แค่นี้ก็พอใจแล้ว จริงๆ กูก็เคยลองถามตัวเองนะว่าถ้าไม่มีโมกูจะมีความสุขมากกว่านี้ไหม แล้วกูได้คำตอบว่าไงรู้ไหม " มันหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปมองยอกภูเขาทองตรงหน้า
" ว่าไงล่ะ "
" คำตอบของกูคือ ถ้าไม่มีโมกูก็อาจจะไม่มีความสุขเหมือนอย่างทุกวันนี้ โมก้าวเข้ามาในชีวิตกูเพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักของตัวกูที่มีให้กับคนรักอย่างมึง ถ้าตอนนั้นโมไม่เข้ามา...แล้วต่อให้กูไม่กลับบ้านมึงไม่เข้าใจผิด...กูเชื่อว่าเราก็ยังคงเดินมากันยังไม่ถึงจุดนี้หรอก บางทีตอนนี้เราต่างอาจจะหยั่งเชิงกันอยู่ก็ได้ กูเองก็อาจจะยังไม่มั่นใจที่จะยอมให้มึงกอด มึงเองก็อาจจะเสียใจที่กูไม่ยอมให้กอดซะที จนท้ายที่สุดแล้วเราก็ยังคงต้องเป็นเพื่อนร่วมงานเพื่อนร่วมห้องที่ยังกั๊กๆ กันอยู่ต่อไป แต่พอมีโมเข้ามามันทำให้กูรู้ว่ามึงเริ่มที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาและดูแลกูมากขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก มึงอาจจะทำไปเพราะคิดว่าตอนนี้มึงมีเมียที่ต้องรับผิดชอบถึงสองคนเพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้ดีที่สุด ใช่ไหม "
" ก็อาจจะใช่ "
" โมเป็นคนที่ทำให้เราต่างก็รู้ใจตัวเองซะทีว่าเราคิดเรื่องของกันและกันอย่างไง "
" มั้ง "
" โมทำให้มึงรักกูมากขึ้น "
" มึงก็ทำให้กูรักโมมากขึ้นเหมือนกันไอ้บึก "
" นั่นแหละที่กูต้องการ "
" กูไม่เข้าใจ "
" กูไม่ต้องการได้ยินคำว่ารักใครมากกว่ากันจากปากมึง แต่กูต้องการให้หัวใจมึงรักคนสองคนไม่แตกต่างกันโดยไม่ต้องพูดอะไรออกมา ขอแค่การกระทำแค่นั้นมันก็ทำให้คนที่รักมึงถึงสองคนเข้าใจกันได้แล้ว ^^ "
" อืม กูเข้าใจแล้ว "
" งั้นก็อย่าทำให้กูกับโมต้องเสียใจ โมมันอาจจะเด็กกับเรื่องความรักและการแสดงออกแต่มันจริงใจในทุกครั้งที่มันคิดแต่ตัดสินใจที่จะทำ...เพื่อคนที่มันรัก "
" สมแล้วที่มันรักมึงเหมือนพี่แท้ๆ "
" ^^ "
" บึก " ผมยิ้มให้ไอ้บึก
" โจ๊ก กูก็รักมัน "
" ขอบใจนะ "
" อ๊ะ "
" -*- อะไร "
" โตเกียววววววว ปลาบึกจะกินโตเกียวววววววว "
ถึงซะทีจุดหมายที่รอคอยอาจจะดูไม่ยิ่งใหญ่เท่าภูเขาเอเวอร์เรสแต่ก็เป็นคืนของการปืนสู่เขาที่มันทำให้ผมอิ่มทั้งกายและใจครับ คืนนี้ถึงผมจะไม่ได้ไปลอยกระทงกับคนที่ผมรักครบทุกคน แต่ผมก็ตั้งจิตอธิฐานขอพรให้คนที่รักผมทุกคนรวมไปถึงคนที่ผมรักทุกคนมีแต่ความสุขความสมหวังในสิ่งต่างๆ ตามที่ตั้งใจไว้ครับ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเมื่อมันเลือกที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตคุณแล้วไม่ว่าจะสุขสมหรือเจ็บปวดซักแค่ไหน...แต่อย่าลืมนะครับว่าอย่างน้อยคุณก็ได้มีความรักเข้าให้แล้ว
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ สักคำให้ลึกซึ้ง
ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ
ไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอ
ให้รู้ว่ารักเธอ เท่านั้นพอ
อาจจะเป็นเพราะความกลมๆ ของโลกหรือเปล่า
เราถึงได้มาเจอ โอ้ว โว้ว โอ้ว
อาจจะเป็นเพราะพรมลิขิตขีดไว้นะเออ
เราถึงพบกัน เย้ เย เย้
ก็อาจจะเป็นเพราะเรานั้นเคยเป็นคู่ soul mate
เป็นเนื้อคู่กัน โว้ว โว้ว โอ้ว
หรืออาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ
อย่างเดียวเท่านั้น ก็ว่าไป
ป่วยการจะหาความจริง หาอะไรอ้างอิงวุ่นวาย
สิ่งเดียวที่ฉันจะบอกไป ฉันเป็นสุขใจได้รักเธอ
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ สักคำให้ลึกซึ้ง
ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ
ไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอ
ให้รู้ว่ารักเธอ เท่านั้นพอ
ก็อาจจะเป็นเพราะวันเวลามันช่างเป็นใจ
ดาวก็สวยดี โว้ว โว้ว โอ้ว
หรืออาจจะเป็นเพราะความเหงาใจ
ผลักดันให้มีกันและกัน
บอกเลยไม่รู้จริงๆ รักมันมีเหตุผลของมัน
เมื่อใจสองใจมาเกี่ยวกัน รักและผูกพันทั้งหัวใจ
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ สักคำให้ลึกซึ้ง
ไม่ต้องบรรยายอะไรให้สวยเลิศเลอ
ไม่ว่าอะไรมันคือเหตุผลที่ฉันนั้นรักเธอ
ให้รู้ว่ารักเธอ เท่านั้นพอ
จะต้องไปแคร์อะไร ทำไม ถ้อยคำที่ลึกซึ้ง
สรุปคำเดียวก็คือว่าฉันรักเธอ
ไม่ว่าจะมีใครๆ คนไหนที่สวยและเลิศเลอ
แต่ถ้าไม่ใช่เธอ ไม่ได้ใจ
แต่ฉันก็รักเธอ ทั้งหัวใจขอได้รับคำขอบคุณจากไอ้โจ๊กครับ ^^