[เรื่องสั้น]Into The Pine Trees:เรื่องเล่าในป่าสน จบ+ตอนพิเศษ(-4/5/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]Into The Pine Trees:เรื่องเล่าในป่าสน จบ+ตอนพิเศษ(-4/5/15)  (อ่าน 5232 ครั้ง)

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

สวัสดีค่า ลงเรื่องครั้งแรก

เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งทั้งหมดนะคะ เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรก แต่เป็นการแต่งเรื่องครั้งที่2ของเราค่ะ เรื่องแรกของเราเป็นฟิคชั่นเกมค่ะ /ฮา

เรื่องนี้เราแต่งก็นานแล้วซักประมาณ6ปีก่อนได้ค่ะ เราเพิ่งได้มาเล้าเป็ด เลยว่าเอามาลงที่นี่ด้วยค่ะ แย๊บๆ XD

 * เหตุกการณ์ในเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติขึ้นนะคะ ไม่มีการเกี่ยวข้องใดๆกับ บุคคล สถานที่*

หากมีข้อติชมได้ขอน้อมรับทุกกรณีค่ะ ยินดีพูดคุยนะคะ ><!

-----------------------------------------------------------------------------------------------


  ผมชื่อ รัชวิณย์ เรียกผมว่า รัช  ก็ได้นะครับ และตอนนี้ผมที่อายุ15ปี กำลังนั่งท้าวคางมองเหล่าเพื่อนๆจากทางระเบียง แล้วผมก็ถอนใจออกมา

   วันนี้เป็นวันสุดท้ายของวันสอบ เพื่อนส่วนใหญ่กลับกันไปหมดแล้ว เหลือแต่ผม ที่ยังนั่งมองเพื่อนๆผู้ชายที่เล่นบอลกันบ้าง เล่นบาสกันบ้าง

   ผมจัดได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดี ถึงดีมากตรงตามกระแสนักร้องวัยรุ่นชาวต่างชาติโซนเอเชีย จากที่เด็กผู้หญิงเขาบอกกล่าวกันมา

แต่ผมไม่ค่อยจะชอบนักหรอก ผอมแห้งแรงน้อยไม่มีกล้ามอย่างเพื่อนๆ ผิวก็ขาวซีดดูขี้โรค  ตัวค่อนข้างจะเตี้ยด้วย! ผมสูงแค่ 169 cm เองอ่ะ…

เส้นผมของผมมีสีน้ำตาลเข้มพอโดนแดดจะเห็นชัดมาก เคยโดนลากไปห้องปกครองเพราะถูกอาจารย์เข้าใจผิดว่าไปย้อมผมมาด้วยแต่ก็รอดมาได้ด้วยหน้าตาอันสุดแสนจะใสซื่อโคตรๆของผม

   ถึงเด็กผู้หญิงน่ารักๆจะมากรี๊ดมันจะน่าดีใจมากก็เหอะ แต่ผมไม่ได้ชอบเด็กผู้หญิงซักหน่อย...

   ครับ ผมเป็นเกย์ครับ แต่ผมไม่เคยถูกชายใดล่วงเกินมาก่อนนะ ฮ่าๆ

ก็สงสัยผมจะเข้าตาเฉพาะเด็กผู้หญิงล่ะมั้ง ไม่เคยมีเด็กผู้ชายซักคนมาตามจีบผมเลยเชื่อป่ะ? ไม่เชื่อก็เชื่อเถอะครับ

   เสียดายหน่อยๆที่จะไม่ได้นั่งมองเพื่อนหล่อๆเล่นกันนัวเนียกันแบบเด็กผู้ชายจากทางระเบียงหน้าห้องเรียนที่ชั้นสามเป็นเวลาถึงเกือบสามเดือนแน่ะ

ฮา…อย่าคิดว่าผมแรด ไปซะก่อนล่ะครับ ผมน่ะ อย่างมากก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละให้ไปนั่งจ้องตรงๆก็ไม่กล้าหรอก อย่างตอนนี้ก็แสร้งทำเป็นดูวิวแต่ที่จริงน้ำลายย้อยไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ ว่าไปนั่น

อันที่จริงตั้งแต่พรุ่งนี้ผมก็โดนคุณพ่อ คุณแม่ ที่เคารพรัก อัปเปหิไปอยู่กับญาติที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในป่าลึกของภาคเหนือแน่ะครับ เป็นเวลาเกือบ2เดือนด้วย

แต่เพราะพวกท่านต้องทำงาน ผมก็เลยจะงอแงเอาแต่ใจไม่ได้ แต่ปกติผมก็ไม่ค่อยจะได้ยุ่งกับพวกท่านอยู่แล้วล่ะครับก็เลยไม่ได้อะไรมากเท่าไหร่

   เผลอแวบเดียวก็เดินทางมาถึงตัวเมืองเชียงรายแล้ว พอผมหลับต่ออีกงีบ ตื่นมาก็โผล่ที่บ้านคุณอาแล้วล่ะครับ

พูดเหมือนจะไม่ลำบากอะไร แต่จริงๆแล้วโคตรเมื่อยได้อีก นอนแล้วนอนอีก ดีที่เมื่อคืนนอนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่สนิทที่สุดเพียงคนเดียวของผมจนเกือบถึงเวลาออกเดินทางนั่นแหละ ตอนนั่งรถผมถึงได้หลับเป็นตาย

   ที่หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่มีไฟฟ้าเข้ามาถึงนะครับ ตามคำบอกของคุณอา แฮะๆ…พอผมทานข้าวเย็นเสร็จ สามทุ่มเศษผมก็ขอตัวไปอาบน้ำ

   น้ำเย็นได้อีกฮะ…รู้งี้อาบตั้งแต่มาถึงแล้วก็ดีหรอก

บ่นไปก็เท่านั้น ผมรีบตักน้ำในโอ่งปั้นดินเผาใบเขื่องราดตัวฟอกสบู่แล้วไปที่ห้องนอน สงสัยเพราะนั่งรถนาน ตอนนี้ผมก็เลยง่วงมาก ถึงได้ข่าวว่าเพิ่งนอนมาตลอดทาง แต่ผมก็ไม่สนครับ มันคนละเรื่องกัน แฮ่…

   ตอนเช้าผมถูกปลุกด้วยเสียงไก่…อย่าครับ ไม่ใช่ไก่ขันครับ เสียงไก่ที่แหกปากร้องดังลั่น คงจะถูกเชือดอยู่ใกล้ๆห้องนอนผมเนี่ยแหละครับ และไม่ใช่ตัวเดียว ซักสองถึงสามตัวเห็นจะได้ เสียงดังจนผมต้องลุกตื่นขึ้นมาด้วยความหนวกหู

ผ้านวมผืนใหญ่มันหนาและหนัก แต่ไม่ร้อนเลย เพราะอากาศตอนกลางคืนเย็นมากครับ ผมที่งัวเงียก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ พอทานข้าวเช้าที่เป็นศพไก่ที่เพิ่งจะแหกปากร้องเมื่อกี้ไปเสียส่วนหนึ่งเสร็จก็ขอคุณอาผู้หญิงออกไปเดินเล่นในหมูบ้าน

   พอออกมาเดินก็รู้สึกเสียดายเล็กๆที่ไม่ได้พกกล้องติดตัวมาด้วย บรรยากาศที่นี่สวยกว่าที่คิด บ้านทุกหลังสร้างด้วยไม้ทั้งหมดยกเว้นแค่บ้านของคุณอาผมเท่านั้นครับที่สร้างด้วยปูน

ทั้งตัวหมู่บ้านถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ผู้คนทุกคนต่างมีรอยยิ้มให้แก่กัน ไม่มีร้านสะดวกซื้ออย่างมินิมาร์ทเลยครับ ที่เห็นก็มีแค่ร้านโชว์ห่วย เหมือนในหนังที่เคยได้ดูตอนเด็กๆไม่มีผิดครับ หรือว่าควรจะเรียกว่าร้านของชำกันนะ??

   ตกตอนบ่ายพอผมหาของว่างรองท้องเสร็จก็เที่ยวต่อครับ

อากาศมันเย็นเลยทำให้ผมคึกและร่าเริงมาก คราวนี้ผมเดินย้อนกลับไปทางบ้านคุณอา เลยไปเรื่อยๆก็เห็นสะพานไม้ดูแข็งแรง แต่ไม่ยักจะมีคน แต่ผมไม่สนใจฮะ เดินต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็สายตาก็ไปสะดุดกับทางเลี้ยวเล็กๆเส้นหนึ่งเข้าไปในป่าสน


   ดูหน่อยคงไม่เสียหายล่ะมั้ง?


ไวเท่าความคิด ขาผมก็ก้าวฉับๆเข้าไปข้างในทันที เลี้ยวไปเลี้ยวมาไม่ไกลเท่าไหร่ก็ถึงที่โล่งที่มีต้นสนล้อมแทบจะเป็นวงกลม ผมเบิกตากว้าง แถมอ้าปากหวอให้นิดนึงด้วยเลยเอ้า เพราะมันสวยมาก สวยมากจริงๆ

น้ำในบึงไหลเอื่อยๆและใสชัด พื้นดินมีต้นมอส ปกคลุมและรอบตัวก็ล้อมด้วยต้นสนสูงใหญ่เป็นรูปครึ่งวงกลม อากาศก็เย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าว เงยหน้าขึ้นก็เห็นเมฆค่อยๆลอยผ่านไปอย่างเชื่องช้า

สวยมาก!

ผมติดใจที่นี่ทันทีเลยล่ะครับ เพราะอย่างนั้น หลังจากที่ได้แช่เท้าในน้ำเย็นๆและนอนกลิ้งไปเรื่อยๆอย่างสบายใจมากมาย ผมก็กลับบ้านคุณอาตอนก่อนเวลาพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน

วันต่อมา และต่อๆมาผมก็ไปที่ป่าสนทุกเย็นไม่ขาด จนผ่านมาได้จะครบสองอาทิตย์ที่ผมมาอยู่ที่นี่

   วันที่11 ในตอนบ่ายผมก็เดินออกจากบ้านจะไปที่ป่าสนเหมือนปกติ แต่วันนี้แตกต่างแค่ตรงที่...


มีเด็กหนุ่มชาวบ้านอยู่คนหนึ่ง เดินตามหลังผมอยู่ครับ


   ผมจะถูกฉุดไปฆ่าข่มขืนทิ้งที่กลางป่ามั้ยวะครับเนี่ยโว้ยยย!?


-------------------------

มาสั้นๆค่ะ เผลอแว๊บเดียวจบค่ะสัญญา อิอิ พรุ่งนี้...อาจจะเจอกัน...ไม่สัญญานะคะ *ฮา

edit -4/5/15 - จบเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-05-2015 14:50:31 โดย Storm_Dragon »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao5: สงสารน้องไก่

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่อฮะต่อออออ  :katai4:

--------------------------------------------------------------------

ผมจะถูกฉุดไปฆ่าข่มขืนทิ้งที่กลางป่ามั้ยครับ…


ไม่ คนที่นี่เป็นมิตรมาก เท่าที่คุณอาบอก แต่…อย่าไว้ใจใครจะดีที่สุด ใช่มั้ยครับ เพราะงั้น เพื่อความปลอดภัยของผม (และความบริสุทธิ์ของผม ฮ่าๆๆ) ผมก็เลยหยุดเมื่อเดินมาถึงตรงสะพานไม้ และหันไปมองคนที่เดินตามหลังผมมา เขาหยุดชะงักและสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะส่งยิ้มเขินอายมาให้ผม


   แม่เจ้า…โคตรหล่อตรงสเปคเลยครับ


ผิวคร้ามแดดดูแข็งแรง (อย่างที่ผมไม่มี) กล้ามเนื้อที่ดูตึงแน่นแม้จะมีเนื้อผ้าบดบังอยู่ (กล้ามแบบนั้นผมก็ไม่มีอีกแหละ) ตัวสูงกว่าผมเกือบหนึ่งหัวเห็นจะได้ (ผมเตี้ยครับ…) ผมสีดำตัดสั้นรองทรง ดวงตาสองชั้นสีดำสดใส (เหมือนลูกหมาเลยครับ! สีตาของผมน้ำตาลเข้มกว่าสีผมหน่อยนึง) รอยยิ้มซื่อๆและดูจริงใจ (ไม่เหมือนรอยยิ้มหว่านเสน่ห์ของผม…เอ๊ะ??….)


ละลายใจโคตรครับ!!



   แต่ไม่ได้ เขาน่าจะไม่ได้เป็นเหมือนผม เพราะงั้น...ต้องอดใจไว้ครับ


   “มีอะไรเหรอครับ ถึงได้ตามผมมา”เมื่อเขาวิ่งเหยาะๆเข้ามาใกล้ ผมถึงได้กลิ่นไอแดดจากตัวเขา ผมยิ้มอย่างเป็นมิตรเต็มที่…เอ็งคงไม่มาฉุดฉันหรอกใช่ไหม! ใช่ไหม!!


   “เอ่อ…ผมอยู่บ้านใกล้ๆคุณ อยากคุยด้วยนานแล้วแต่ไม่กล้า…แต่วันนี้อยากรู้จักมากๆ ก็เลยตามมา”เขาพยายามพูดสำเนียงคนกรุงเทพ แต่มันค่อนข้างจะติดเหน่อๆหน่อยๆ เขาคงจะรู้ว่าผมฟังภาษาพื้นเมืองไม่ออกเลยล่ะมั้ง?


    แต่ อยากรู้จักวันนี้? ผมมาอยู่ที่นี่จะครึ่งเดือนแล้วนะครับ ทำไมใช้เวลาผลักดันตัวเองนานจังวะ แต่ก็ดี ที่อยากเป็นเพื่อน ไม่ได้อยากปล้ำผมทำเมีย (ถึงจริงๆจะแอบเสียดายก็เถอะ…ล้อเล่นนะ)


   “เรียก รัช ก็ได้ ถ้าไม่รังเกียจ ก็มาเล่นด้วยกันมั้ยล่ะ”ผมยิ้มให้เขา ซึ่งเขาก็ยิ้มกว้างกลับมาอย่างดีใจ เหมือนหมายักษ์แถวบ้านผมจริงๆ…


เราเป็นเพื่อนกันได้ดีอย่างที่คิดไว้ เขาชื่อคารม อาศัยอยู่ที่ชานเมืองเชียงราย แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ที่บ้านทำกิจการที่ต้องออกกลางแจ้ง และเขาก็ไปช่วยงานที่บ้านอยู่ประจำเพราะอย่างนั้นตัวของเขาก็เลยมีกลิ่นแดดอยู่เสมอ ตอนนี้ที่บ้านเขาจ้างคนงานเพิ่มเขาก็เลยไม่ต้องไปช่วยงานอีก...นานๆทีถึงจะค่อยไปช่วยบ้าง


   ตอนกลางวัน เขาจะพาผมเที่ยวหมู่บ้าน ส่วนตอนเย็นผมจะพาเขาเข้าไปนั่งเล่นในป่าสน


เราเที่ยวเล่นและคุยกันได้เรื่อยๆมากเลยสนิทกันเร็ว ผมเล่าให้เขาฟังเรื่องทะเล และโรงเรียนเอกชนที่ผมเรียนอยู่ ส่วนเขาก็จะเล่าเรื่องของที่บ้านให้ผมฟัง และก็มีสอนคำเมืองบ้างนิดหน่อย เขาเริ่มพูดภาษากลางได้คล่องปากในเวลาอันรวดเร็วมาก


เวลาผ่านไปจนเหลือเพียงอีกสามวันที่ผมจะได้อยู่ที่นี่ ช่วงหลังๆผมเริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงจากคารม เวลาที่ผมเผลอ หรือเดินนำเขา เขาจะจ้องผม จ้อง…จนแทบจะทะลุ ลามเลียจากต้นคอของผมแล้วก็ค่อยๆต่ำลงไปยังลาดไหล่ แผ่นหลัง เอว สะโพก และลงมาถึงท่อนขา


 ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นไม่รู้สึกหรอกนะ แต่หันกลับไปเจอเขาก็แค่ส่งยิ้มกว้างๆซื่อๆมาให้แบบไม่มีอะไรเลย ผมก็เลยได้แต่บอกตัวเอง ว่าคิดมากไปเองล่ะมั้ง? แต่มันอึดอัดและรู้สึกแปลกๆมากเลยครับ ที่ถูกเพื่อนมาจ้องมองอย่างร้อนแรงมากๆจนรู้สึกร้อนวูบๆแล้วก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากคิดซะว่า ผมคิดมากไปเอง มันไม่ได้เป็นเกย์ ไม่มีทางมาคิดชอบผมได้หรอก...



   เหลืออีกวันเดียวผมก็ต้องกลับบ้านที่กรุงเทพแล้ว วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนผมก็เลยใส่เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นเต่อแบบที่เด็กผู้หญิงชอบใส่เดินเที่ยวสยามกัน ครับ…ไซส์ผมมันใส่ได้แต่ของผู้หญิง ไซส์Sผู้ชายมันหลวมมากอ่ะ แต่ของผู้หญิงผมต้องไซส์L


   ถึงตอนบ่ายผมก็ไปยืนรอเขาที่ตรงสะพานไม้ เมื่อเขามองเห็นผม เขาก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาช้าๆ


   “นายเดินนำไปได้ป่ะวะรัช วันนี้เรารู้สึกไม่ค่อยดีว่ะ เดี๋ยวตามหลังไป”ผมยักไหล่แล้วออกเดินนำ แต่แวบเดียวก็เริ่มรู้สึกถึงสายตาที่จ้องตรงมาจากทางด้านหลัง


อีกแล้วเรอะ!?!... นี่เขากำลังมองต้นคอกับเรียวขาของผมสลับกันไปมาอยู่ แต่ช่างมันก่อนแล้วกัน ผมแน่ใจมากๆว่ามันมองผมอยู่ แต่มันมีปัญหาอะไรวะ มองอยู่ได้ ไม่ถามซักที ผมยู่ปากน้อยๆแล้วก็ออกเดินต่อ


   ที่บึงในป่าสนผมเดินไปนั่งพิงต้นไม้แล้วนั่งคิด ทำไมคารมต้องมองผมขนาดนั้นด้วย หรือเขาจะเริ่มมีใจให้ผมแล้วหว่า…เหยยย บ้าน่ะ ผมไม่อยากสำคัญตัวผิดขนาดนั้นหรอกนะครับ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก ว่านอกจากว่า มันจะชอบผม แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรอย่างอื่นอีก


   ตูม!


   ผมสะดุ้งเฮือกรีบหันมองหาต้นตอของเสียง…คารมมันคิดอะไรของมันอยู่ไม่รู้ครับ อยู่ๆก็โดดลงน้ำเฉยเลย มันดำลงไปอยู่พักนึงก็โผล่ขึ้นมาด้วยใบหน้าสดใสและรอยยิ้มกว้าง



   …ไหนว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายไงวะ แล้วไหงโดดลงน้ำเย็นๆ ตูมเอาเงี้ย…


   ผมเลยเปลี่ยนที่ เดินมานั่งใกล้ๆขอบบึงหย่อนขาลงแกว่งเล่น


   “ไม่เย็นเหรอวะ”ผมตะโกนถามมันที่ว่ายไกลออกไป มันหันมาแล้วว่ายกลับเข้ามาหาผม


   “เย็น แต่สบาย ลงมาเล่นด้วยกันดิรัช”มันพุ้ยน้ำทรงตัวอยู่ตรงหน้าผม เออเอ็งมันแข็งแรงนี่ ทำอะไรก็ป่วยยากตายยาก ไม่เหมือนกูวววว…. สาดดดด....


ผมยิ้มและส่ายหัวให้มัน จริงๆไม่ได้กลัวเป็นหวัดหรอกครับ แค่ขี้เกียจ ไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยน ไม่อยากเดินกลับบ้านทั้งๆที่ตัวเปียก


   “ไว้พรุ่งนี้ละกัน ไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนอ่ะ เดี๋ยวเป็นตะคริวด้วย”มันพยักหน้าหงึกๆแล้วว่ายกลับไปใหม่ ผมก็เลยแหงนคอมองท้องฟ้าเรื่อยเปื่อยอย่างไม่ทันได้คิดว่า....


-------------------------------------

ต่อพรุ่งนี้นะเคอะ   :katai5:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตัดแบบนี้.... ฮือออออ~

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อแล้วก่ะ ตัดน่าเกลียดไปหน่อย /ไม่น่าหน่อยสินะคะ 555555 แออออ   :z10:

-------------------------------------------------


“ไว้พรุ่งนี้ละกัน ไม่ได้เอาเสื้อมาเปลี่ยนอ่ะ เดี๋ยวเป็นตะคริวด้วย”มันพยักหน้าหงึกๆแล้วว่ายกลับไปใหม่ ผมก็เลยแหงนคอมองท้องฟ้าเรื่อยเปื่อยอย่างไม่ทันได้คิดว่า


   ตูม!


   มันจะลากผมลงน้ำได้ครับ พอผมเผลอมันก็เข้ามากอดเอวแล้วดึงผมลงไป พอรู้สึกถึงน้ำเย็นๆมาปะทะเข้ากับตัวผมก็รีบตะเกียกตะกายโผล่ขึ้นผิวน้ำทันที ไอ้คารมไม่ใช่แค่ดึงผมลงครับ มันลากผมลงไปในน้ำด้วย


   “ไอ้บ้า เล่นอะไรเนี่ยยย!! เอ็งตายย!”ผมก็ไม่ได้คิดมากอะไรจริงจัง แค่อยากแก้แค้นมันเล็กน้อย ก็เลยสาดน้ำใส่มันที่ทำหน้าเหรอหราเต็มแรง มันคงไม่คิดว่าผมจะเล่นด้วยมั้งครับ แต่มันคิดผิดแล้วล่ะ ผมซนออกจะตายไป ฮ่าๆ ผมกับมันก็เลยเล่นกันต่อจนเหนื่อยนั่นแหละ ถึงได้ปีนขึ้นฝั่ง


   “ไอ้เลว นายยังได้ถอดเสื้อทิ้งไว้ เรานี่ไม่มีอะไรจะใส่”ผมบ่นให้มันได้ยิน ตอนที่ขึ้นน้ำมาถึงได้นึกขึ้นได้ว่าผมไม่ได้ถอดเสื้อทิ้งไว้เหมือนไอ้คารม ขึ้นจากน้ำเย็นมาเจออากาศเย็นๆที่พัดมาก็สั่นสิครับ ปากผมเริ่มสั่นกระทบกันแล้ว ต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำ สระผมแล้วกินยากันไว้ก่อน คารมที่ยืนถือเสื้อของมันยืนนิ่งเลยครับ มันทำหน้าแบบไมรู้จะทำยังไงต่อไปดี


   “ล้อเล่นน่า รีบกลับเหอะ หนาวว่ะ”ผมผุดลุกขึ้นแล้วเรียกมันที่ยังยืนถือเสื้อยืดอยู่ไม่ไกล มันเดินตรงเข้ามาหาผมด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่ตามันมองไปที่ไหน มันไม่ได้มองบนหน้าผมครับแต่… ผมมองตามมันดู…มันมองหน้าอกผมครับ!?!


อ้าคค!! บังอาจลวนลามกูทางสายตาเรอะ!?


เสื้อที่ผมใส่มันเป็นเสื้อพอดีตัวสีขาวครับ และโดนลากลงน้ำทั้งๆอย่างนั้น มันก็เลยแนบเนื้อ แล้วไงเหรอครับ ก็กลายเป็นเสื้อ ซีทรู ไปแล้วไงล่ะ!


หน้าผมร้อนวูบขึ้นเล็กน้อย ผมแสร้งเอามือดึงเสื้อออกมาบิดน้ำ คารมมันเดินเข้ามาถึงตัวผมแล้วมันก็จับแขนผมไว้ครับ


   “มีอะไรวะ”มือใหญ่หยาบกร้านของเขามันร้อนต่างจากผิวเนื้อของผมที่เย็นชืด ผมเงยหน้าขึ้นมองมันด้วยความสงสัย แต่มันก็เงียบไม่ยอมพูด ใบหน้ามันเครียดขึ้นเรื่อยๆ…เอ็งอย่าบอกนะ ว่าเห็นหน่มน้มกูแล้วเกิดอยากปล้ำขึ้นมา


ล้อเล่นน่ามึง….. พูดดิว่าไม่ใช่...


ผมสะบัดมือมันออกแล้วหันหลังจะเดินออกจากป่าสน แต่มันก็ยื่นมือพรวดมาจับไหล่ผมให้หันหลังกลับไปหามัน ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน


   “อะไรของนายวะคารม.... มันหนาวนะเว้ย รีบกลับกันเหอะ เร็วๆ”ผมขึ้นเสียงเล็กน้อยเพราะเริ่มไม่พอใจแต่มันก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี นัยน์ตาสีดำขลับคมนั้นไหวระริกเหมือนกำลังคิดหนักอยู่ ระหว่างที่มันเงียบ ผมที่โดนยึดไหล่ไว้ก็ได้แต่ยืนรอให้มันพูดและ....ตัวสั่นพั่บๆ...


   มันไม่พูดซักทีผมเลยรำคาญ ดึงตัวออกมาแล้วเดินจ้ำออกไปคนเดียว


   “เดี๋ยวก่อนรัช!”มันวิ่งกลับมาลากผมกลับไปเป็นรอบที่สาม คราวนี้มันจับมือผมไว้แน่นเลย สงสัยกลัวผมสะบัดทิ้งอีกละมั้ง แต่ผมก็จะทำอย่างที่มันกลัวนั่นแหละครับ คนเขาหนาวจะตายอยู่แล้ว ยังยืนอ้ำอึ้งอะไรอยู่ได้!?!


   “ร…รัช คิงมาเป๋นของฮาเน้อ”ในที่สุดมันก็พูดออกมาครับ แต่ ขอโทษที…ผมว่าผมเคยบอกไว้ใช่ไหมครับ ว่าผมฟังคำเมืองไม่ออก!?! มันแพร่มอะไรออกมา เครื่องหมายคำถามโผล่กระแทกหน้าเลย เป็นไงล่ะ อึ้งดิมึง.....


   “พูดอะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่อง”มันชะงัก แล้วก็ทำหน้าเครียด เหมือนกับว่า ผมไม่เข้าใจตรงไหน (ไม่เข้าใจทั้งหมดที่มึงพูดนั่นล่ะ! ยกเว้นชื่ออย่างเดียว) มันค่อยๆพูดออกมาด้วยประโยคเดิมแต่ช้าๆชัดๆทีละคำ...เอ่อ ก็บอกว่าฟังไม่ออก ทำไมไม่คิดมั่งวะห๊ะ?


... ผมยิ้มแหยๆออกไป...


   “ไม่รู้เรื่อง ไอ้คารมครับ ปล่อยผมเหอะ หนาวจะตายอยู่แล้ว”ผมสั่นหงึกๆจนจะเหมือนคนเป็นโรคชักกะตุกอยู่แล้วเนี่ย มันทำหน้าเหรอหราตอนที่ผมสะบัดมือออกอีกรอบ แต่มันก็ตามมาดึงผมกลับไปอยู่ดีนั่นล่ะ


...นี่ไม่ทราบว่าเรากำลังจะเล่นหนังอินเดียกันเหรอครับ?


   คารมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วรวมตัวผมเข้าไปกอด


เอ๊ะ...ห๊ะ เขากอดผม!?! อ้อมแขนแข็งแรงนั่นกำลังโอบรอบตัวผม ไออุ่นจากแผ่นอกของเขาแผ่ซ่านมาถึงผม เมื่อรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร หน้าผมก็ร้อนวูบขึ้น ผมยันมือขึ้นรีบผลักมันออกไปไกลๆ แต่...มันไม่ขยับครับ


อ้ากกกก!! เกิดมาจนอายุ15ปี ยังไม่เคยมีผู้ชายมากอดกูแนบแน่นขนาดนี้เลยนะว้อยยย!! (พ่อยังไม่กอดแน่นขนาดนี้เลยนะครับ) เขินได้อีกครับ...


   “เรา...ชอบ...นาย...ว่ะ...รัช”


   ...ห๊ะ อะไรนะครับ ได้ยินไม่ชัด ไหนพูดใหม่อีกทีซิ...


   “เราชอบนาย...”



--------------

เฮื้ออออ ตัดค่ะตัด ตอนหน้ายาวๆค่ะ ฉากเซ็กซี่ด้วยนะ /ขยิบตาปริ๊ง   :oo1:  :oo1:

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ่อ...เมื่อวานกะผิดค่ะ ครั้งหน้าถึงจะใช่ OTL   :z10:  :z10:  :z10:

--------------------------------------------------------------------------------------------

“เรา...ชอบ...นาย...ว่ะ...รัช”


   ...ห๊ะ อะไรนะครับ ได้ยินไม่ชัด ไหนพูดใหม่อีกทีซิ...


   “เราชอบนาย...”

   ...


   เสียงดนตรีบางอย่างดังขึ้นวิ้งๆในหัวผม


‘เธอจะมีใจหรือเปล่า เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป (กลัวรับมันไม่ไหว) ’



   เพื่อน...กูรักมึงว่ะ



   อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!



   ม่ายยยยยยย!!! ไม่ได้กลัวรับไม่ไหวครับ!! แต่กระผมไม่อยากรับบบบ!!!


   ผมหน้าร้อนวาบๆไม่ไหวแล้วครับ มันพูดอะไรออกมา มันเข้าใจรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา!?! ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ผลักมันออกครับ ตอนนี้ไม่รู้สึกหนาวแล้ว แต่ร้อน ร้อนจนหน้าจะไหม้อยู่แล้ว!


ผมไม่ได้รังเกียจอะไรมันหรอกนะครับ แต่...แต่ผมยังไม่คิดอะไรกับมันเลย มันก็หล่อดีอยู่หรอก...


แต่...แต่ แต่ผมไม่ได้ชอบมันแบบนั้นอ่ะ!! คือตัดใจตั้งแต่คิดว่ามันไม่ได้เป็นแบบเดียวกัน ท่องไว้ตลอดว่าเพื่อน คือเพื่อน...ผมแบ่งแยกชัดเจนนะระหว่างเพื่อนกับ...


ความชอบ...


   “อย่ามาตลก เล่นบ้าอะไรวะ! ไม่ขำเลยนะ เรากลับล่ะ!”หัวผมโล่งหมดเลยครับ มีคิดอย่างเดียวคือ จะกลับบ้าน ตอนนี้ต้องกลับบ้านครับ ผมรีบเดินกึ่งวิ่งหนีมันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้แต่...ขอโทษครับ อยากร้องไห้จริงๆ เพราะขามันยาวกว่าผม มันเลยก้าวแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงผมแล้วอ่ะ


   ฮือ...อยากกลับบ้าน ไปอาบน้ำ ปล่อยกูซักทีเถ้อออ.... ผมก็ได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจแค่นั้นล่ะครับ หน้ามันโหดมากเลยอ่ะ...ผมอยากร้องไห้จริงๆนะ....


   “เราไม่ได้พูดเล่นนะ”มันบอกเสียงห้วนและกระชากอย่างหงุดหงิด



อ้าก...น่ากลัวมาก คารมลากผมเดินเข้าไปข้างใน พอถึงต้นสนต้นใหญ่ต้นนึงเขาก็ผลักผมและกดไหล่ผมเอาไว้กับต้นไม้ไม่ให้หนีไปได้อีก ดวงตาสีดำนั้นทอประกายอะไรบางอย่างออกมา มันทำให้ผมขนลุกซู่...


เราจ้องตากันอยู่ซักพัก หัวใจผมเต้นระรัวเลยครับ คารมเขาเป็นอะไร? วันนี้มาแปลกมากๆ...


ใบหน้าหล่อคมนั้นค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผมก็เลยหลับตาปี๋ มันจะทำอะไร? เอ่อ อันที่จริงก็ไม่น่าโง่ครับ มันจูบผม!! อ้ากกกก...ริมฝีปากนุ่มๆนั่นเลื่อนลงมาทาบทับกับปากบางๆของผม รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆของคารมที่เป่ารดอยู่ข้างแก้มเลย...


   “อุ!?! อื้ออ…!”แต่มันไม่ใช่แค่จูบอย่างผิวเผินน่ะสิครับ ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาค่อยๆบดขยี้ลงมาที่ปากของผมซึ่งหนีไปไหนก็ไม่ได้...โอ้ว...ไม่นะ ผมยังไม่ได้อยากเสียเวอร์จิ้นตอนนี้นะ!!


แต่...ผมไม่ปฏิเสธนะครับว่าผมเริ่มรู้สึกดี และหยุดการขัดขืนลงไปเรื่อยๆ เขาดูดริมฝีปากผมจนเกิดเป็นเสียงดังจุ๊บ เบาๆ แล้วเขาก็ผละออกไป ผมที่กำลังยืนมึนก็เงยหน้ามองเขาเหม่อๆ ริมฝีปากค่อนข้างหนานั้นเม้มเข้าหากัน แววตาที่เมื่อครู่ยังแข็งกร้าวนั้นก็กลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด...เขากำลังตื่นเต้นครับ


   อ้ากกก! กูต่างหากที่เป็นฝ่ายที่ควรจะตื่นเต้น!


ปากผมยังชาๆอยู่เลย มันเอานิ้วสากนั้นมาลูบปากผมเบาๆ...


   “ผมไม่ได้พูดเล่นครับ คุณรัชวิณย์”


   “...แม่ง...คิดบ้าอะไรอยู่วะ...”ผมสบถเบาๆแล้วแลบลิ้นออกมาเลียปากที่ยังเปียกชื้นอยู่


   “คิดว่าอยากได้นายเป็นแฟน”…หน้าด้าน ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าไอ้นี่มันจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ครับ!?! อ้ากกก นอกจากจะหน้าด้านแล้วยังเสี่ยวแตกด้วย! พระเจ้า...เด็กชาวบ้านทำไมหน้าด้านกว่าเด็กกรุงอย่างผมได้อีกครับ! (ไม่ได้จะดูถูกนะฮะ แต่ไอ้นี่...ทั้งๆที่มันดูซื่อๆบื้อๆแต่มันกลับ...)


แต่ตรรกะผมนี่ป่วยไปไหม?? ป่วยไปหรือเปล่า?? ไม่รู้แล้วโว้ย!?!


   “ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้ล้อเล่นครับ ไอ้คุณคารม แต่คุณมึงครับ....ช่วยปล่อยกูกลับบ้านซักทีได้รึยัง หวัดจะแดกตายห่าแล้วครับ!”


   ฮัด...ชิ้วว!


   ไม่พูดเปล่าครับผม จามโชว์เลยทีเดียว พอทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว ผมถึงได้กลับมาหนาวใหม่อีกรอบ ลมมันก็พัดเอาๆ ถึงจะไม่แรงก็เหอะ แต่ก็ยังเย็นอยู่ดี


   “ไม่...ผมไม่ให้คุณรัชวิณย์กลับครับ”มันยิ้มร่า แต่ผมอ้าปากค้างครับ   


   “จะเอาอะไรอีกวะครับ!!”มันยังคงยิ้มอยู่จนผมชักหงุดหงิด มันจะเอาอะไรกับผมนักหนา จูบก็จูบไปแล้ว เออ ชอบผมก็แล้วไง มันก็ตรงสเปคผมอยู่หรอกนะ แต่ยังไม่ถึงขนาดอยากจะเสียความบริสุทธิ์ทางก้นที่อุส่าห์เก็บรักษามายาวนานถึง15ปีให้มันง่ายๆนี่ครับ!


   “ก็รัชหนาว เราก็เลยจะขอไถ่โทษที่รั้งตัวไว้ตั้งนาน”เออ...คุณคารม มึงเพิ่งจะตรัสรู้ได้เหรอครับ กูจะกลับบ้านเป็นล้านรอบแล้วถ้าไม่ติดว่ามึงไม่ปล่อยตัวกูกลับเนี่ย


   “เฮ้ย! คารม! จะทำอะไร!?!”มันโน้มตัวลงมากอดผม ตัวมันอุ่นกว่าผมมาก มันกอดผมไว้นิ่งๆแล้วไม่ทำอะไรต่อ ผมก็ไม่อยากเล่นตัวให้มากความ ขออยู่อุ่นๆแบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน มันรอจนผมหายสั่น ถึงได้คลายกอดลง ผมก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เลยยกมือขึ้นเกาหัวแบบแก้เขิน


   “เออ...ขอบใจ แล้วจะปล่อยเรากลับบ้านได้ยัง”


   “ยัง”อ้าว...ไอ้หอยนี่ กวนแล้วมั้ยล่ะ ผมขมวดคิ้วแล้วมองหน้ามันอย่างเคืองๆ


   “ก็...นายอ่ะ รัช เดี๋ยวนายก็กลับแล้ว...แล้วก็ไม่รู้ ว่าจะกลับมาที่นี่อีกรึเปล่า...”มันทำหน้าละห้อยใส่ผมครับ เอ่อ...ที่มันพูดมันก็จริง ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรอย่างคราวนี้ ผมคงไม่กลับมาหรอกครับ แต่...มันทำหน้าแบบนี้ ใจผมอ่อนยวบเลยอ่ะ...


   “อย่างน้อยเราก็อยากจะอยู่กับแกนานๆ ถ้าแกไม่กลับมาแล้ว...ก็จะได้ตัดใจ”ก๊อด...มันทำเสียงน่าสงสารมาก! จนผมก็ชักจะเห็นใจ...เอาไงดีวะ....


   “แล้ว...จะให้ทำไง”ผมถอนใจ จ้องหน้ามัน


   “นั่ง อยู่กับเราเนี่ยแหละ ขอซักพัก...”มันจับมือผม แล้วเราก็นั่งลง ต่างคนต่างก็เงียบ มันไม่พูดอะไรออกมาซักคำ แค่จับมือผมนิ่งๆ แต่...ผมเริ่มหนาวอีกแล้วครับ ก็เสื้อผมยังไม่แห้งเลยอ่ะ!


   “คารม”ผมส่งเสียงเรียกมัน ที่กำลังนั่งหายใจนิ่งๆ มันหันมามองผมที่เริ่มสั่นหงึกๆเป็นรอบที่ล้านแปด


   “เราหนาว...”มันหัวเราะออกมาเบาๆ ...น่าขำตรงไหนวะ...


มันให้ผมเปลี่ยนที่ นั่งซ้อนกัน มันเอาหลังพิงกับต้นสน แล้วให้ผมนั่งข้างหน้าชิดๆมัน พอหลังผมพิงลงกับแผ่นอก ความอบอุ่นก็เริ่มแผ่เข้ามา มันกอดผมไว้นิ่งๆ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันก็เลยนั่งเงียบๆ ผมสมควรจะอายรึเปล่าครับ... ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตัวคารมมันอุ่นดีผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่พอมันเอาคางมาเกยกับไหล่ผมเท่านั้นแหละ...ผมก็เริ่มจะรู้สึกประหลาดๆขึ้นมา


   “เอ่อ...เอาคางออกไปดิ๊”


   “ทำไมอ่ะ...”มันพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ข้างหู ทำเอาผมขนลุกซู่ ต้องบิดคอหนี


   “มันจั๊กจี๊”มันขยับหน้าเข้ามาแถวๆต้นคอผมครับ มันไม่จั๊กจี๊แล้ว…แต่มันเสียว! คารมมันเหมือนจะรู้ครับว่าผมโกหก ก็เลยเอาจมูกซุกไซร้กับซอกคอ ทำเอาผมสะดุ้งโหยงรีบกระเถิบหนี แต่ก็อีกนั่นล่ะ มันคงจะคิดไว้ก่อนแล้วว่าผมจะหนี มันก็เลยใช้มือยึดผมไว้ เสียงสูดลมหายใจลึกๆดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง


   “หอมว่ะ...”


   “หอมบ้าไรล่ะ มีแต่เหงื่อ”อันที่จริงเหงื่อผมก็ยังไม่ออกหรอกครับ แต่ก็คงเป็นกลิ่นตัวนั่นแหละ


   “เออ นั่นแหละ เหงื่อแกหอมดี”ว่าแล้วมันก็เอาจมูกกดกับลำคอผมเบาๆแล้วสูดดมกลิ่นของผม มันจั๊กจี๊ปนเสียวๆ แต่อย่างหลังมีเยอะกว่า


ผมหลับตาขบฟันแน่น กลัวจะหลุดเสียงครางออกไป ผมลอบถอนใจเฮือกเมื่อใบหน้าที่ซุกไซร้อยู่ผละออกไป แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเมื่อมือใหญ่ร้อนของมันล้วงขึ้นมาจับหน้าอกของผม


   อ้ากกกกกกก! มันจะปล้ำผมแล้วววว!!



-------------------------------------------------------------------------

พรุ่งนี้เจอกันค่ะ ตอนหน้าจบภาคแรกแล้วค่า  :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2015 14:44:52 โดย Storm_Dragon »

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ก็ต่อให้ไม่สั้นนะครับ... แต่ทำไม๊ทำไม "อารมณ์" ค้างทู้กกกที 5555+

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบภาคแรกค่ะ อีก3-4วันเจอกันใหม่นะคะ พอดีพรุ่งนี้ต้องส่งThesisให้อ.ตรวจค่ะ T_T

------------------------------------------

อ้ากกกกกกก! มันจะปล้ำผมแล้วววว!!



ผมอยากหนีแต่...แต่ผมก็อยากรู้ หัวใจผมเต้นโครมครามดังมาก มันต้องรู้แน่ๆ มันต้องรู้แน่ๆเลย! ว่าผมตื่นเต้นมากๆ! อ้ากกกกก…


   หน้าของผมร้อนฉ่าและเริ่มหายใจถี่ขึ้นเพราะตื่นเต้น มือร้อนๆของคารมบีบเคล้นหน้าอกที่แบนราบของผม


   “ตัวเย็นจังรัช”


   “ค...ใครไม่ยอมปล่อยเรากลับบ้านล่ะ อึก...”มือมันพลิ้วมาก! ไอ้คราบความใสซื่อ(บื้อ)ไร้พิษภัยตอนแรกของมึงมันหายไปไหนหมดวะครับไอ้คุณคารม!


   “น..นาย. อา...อือ นาย...ทำไมนาย”อ้ากกกกก! ลิ้นแข็งแล้ววว ผมพูดตะกุกตะกัก ผมอยากถามมันว่าทำไมมันเก่งจัง แต่ก็พูดออกไปไม่ได้



มันต้องเคยทำกับใครมาแล้วแน่ๆ!



มือร้อนๆของมันยังคงนวดคลึงแผ่นอกของผมต่อไป แล้วก็เริ่มลามไปยังยอดอกของผม พอถึงตอนนั้นผมก็งอตัวลงเพราะไม่อยากให้มันจับต่อ แต่มันก็ไม่สนใจครับ...



ฮือ...มึงใจร้ายมากครับ คุณคารม มึงต้องเป็นโจรหื่นกามปลอมตัวมาแน่ๆ!! เอาเพื่อนผมคนเก่าคืนม๊าาา! แงงงงง.....


   “กับผู้ชาย..นายเป็นคนแรกนะรัช”...แสดงว่ากับผู้หญิงแกเคยมาเยอะแล้วล่ะสิ!?! อ้ากกก ขนาดมันที่ดูซื่อๆยังเคยทำกับผู้หญิงในขณะที่ผมมีปัญญาแค่ศึกษาเอาจากหนังAVที่ยืมมาจากเพื่อน เพื่อกลบเกลื่อนว่าผมเป็นเกย์! น่าเศร้าใจมาก...


แต่ผมไม่มีแรงไปด่ามันแล้วครับ สติสตังผมหายไปจดจ่ออยู่กับมือของมันเรียบร้อยแล้ว

 
ปลายเล็บที่ตัดสั้นจิกลงที่ตุ่มไตเล็กๆที่ชูชันจากน้ำมือมันเบาๆ ทำเอาผมสะดุ้ง ที่ท้องน้อยผมเริ่มร้อนวูบๆ แต่เพราะไม่อยากให้มันรู้ว่าผมกำลังมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยหนีบขาเข้าหากัน โดยหวังแต่เพียงว่ามันจะไม่เห็น ซึ่งก็เป็นโชคดีเล็กๆของผมที่มันไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่เอาหน้าซุกไซร้กับซอกคอของผมอยู่


   “อะ...อือ”ผมครางแผ่วๆเมื่อมันแลบปลายลิ้นออกมาเลียคอของผม มือทั้งสองข้างของมันที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าอกของผมก็ยังไม่เลิกเล่น จนแผ่นอกผมที่เมื่อตอนแรกยังเย็นชืดชักจะอุ่นร้อนขึ้น


แย่แล้ว...ความร้อนที่ท้องน้อยมันเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผมพรูลมหายใจร้อนผ่าวออกมาสั่นๆ


   “โอ๊ย!?!”ความเจ็บแปลบแล่นขึ้นตรงลำคอ ที่เมื่อกี้คารมมันเพิ่งจะเลียไป ผมลืมตาขึ้นแล้วพยายามบิดคอไปมองมัน...มันกัดผมเหรอ? อ้ากกกก! ไอ้ชั่ววว!


   “กัดทำไมวะ!?”ผมถามเสียงสั่น แต่มันหัวเราะเบาๆกลับมาแล้วพรมจูบที่ลำคอผมโดยที่ไม่ตอบอะไรออกมา ...


หรือ...หรือว่า มันจะทำคิสมาร์คบนคอผมไปแล้ว...อ้ากกกก ฮือ...มึงแกล้งกู...


   คารมตลบเสื้อผมออกอย่างรวดเร็วแล้วโยนออกไปข้างๆ ก่อนที่ผมจะได้โวยวาย เขาก็จรดริมฝีปากลงที่ต้นคอด้านหลังผมแล้ว ผมซึ่งสะดุ้งเฮือกขึ้นอีกครั้งโน้มตัวหนีไปข้างหน้าเรื่อยๆ แต่เขาซึ่งตัวสูงกว่าตัวยาวกว่าผมก็ตามมาพรมจูบที่แผ่นหลังผมได้ไม่ยาก


   ที่หลังผมเสียวกว่าที่หน้าอกอีกครับ...ผมสะดุ้งและสั่นน้อยๆทุกครั้งที่ริมฝีปากนุ่มร้อนของร่างสูงใหญ่ข้างหลังผมนั้นลากเบาๆและขบเม้มไปทั่ว


   แต่...ที่ตอนนี้ผมกำลังสงสัยคือ...มันมีอะไรดุ้นๆแข็งๆร้อนๆทิ่มหลังผมอยู่...คงไม่ใช่ไอ้นั่นของมันหรอกใช่ไหม..แต่มันร้อนมากและกระตุกแนบชิดอยู่ด้านหลังผม ก็คงจะคิดเป็นอื่นไม่ได้แล้วล่ะครับ...


ผมเอง พอถูกเลีย พรมจูบที่หลังและถูกหยอกล้อแผ่นอกมากๆเข้า ไอ้นั่นของผมก็เต้นตุบอยู่ใต้กางเกงยีนส์ตัวสั้นที่ชุ่มน้ำเหมือนกัน ผมพรูลมหายใจออกมาก่อนจะเอนหลังพิงแผ่นอกมันอีกรอบ ลมหายใจหอบถี่ หน้าก็ร้อนวาบๆ เหมือนตอนเมาเหล้าเลย


   คารมใช้มือบิดหน้าของผมให้หันไปรับจูบของมัน ผมหลับตาลงปล่อยให้ทำตามใจ ริมฝีปากของเราประกบกัน เขาค่อยๆดูดและบดปากผมเบาๆชวนให้เคลิ้มตามไปได้ไม่ยาก พอผมเผยอปากขึ้นเรียวลิ้นร้อนๆก็สอดแทรกเข้ามาควานวนภายใน กระหวัดรัดพันกับลิ้นของผม เขาค่อยๆจูบหนักขึ้น ไล้เลียเพดานปากและถอยออกมาให้ผมพักหายใจ ก่อนจะประกบจูบใหม่


ผมครางเครือในลำคอ รู้สึกปวดหนึบที่ส่วนกลางลำตัว อยากรีบปลดปล่อยอารมณ์ออกมาเร็วๆ จึงแยกขาที่ตอนแรกหนีบเข้าหากันออกเล็กน้อย เลื่อนมือลงไปปลดกระดุมและซิปลงเพียงนิดเดียว


ตอนที่ผมจะล้วงมือเข้าไปใต้กางเกงในที่ชื้นแชะของผม มือใหญ่ก็รีบตะครุบให้ผมหยุด ผมสะดุ้งก่อนจะผละหน้าออกมามองเขาด้วยความงุนงง


เด็กหนุ่มด้านหลังผมไม่พูดอะไร แต่ดึงมือผมให้เกาะแขนเขาไว้แล้วจึงเลื่อนมือลงมาสัมผัสตรงเป้ากางเกงของผมที่พองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


เขาสัมผัสผมผ่านเนื้อผ้า นิ้วมือกดลากแผ่วเบาผ่านลำตัวของผมที่ไม่อาจโผล่ออกมาเป็นอิสระได้ ผมบิดตัวอย่างอึดอัดและขัดใจ...อยากให้...เขา...ช่วยทำเร็วๆกว่านี้อีกนิด


   ผมสูดปากและกดนิ้วที่เกาะท่อนแขนของเขาลงแรงๆเมื่อเขาเหมือนจะรู้ใจ กดลูบน้องชายของผมหนักๆ ผมรู้สึกได้ถึงชีพจรของตัวเองที่เต้นตุบๆอยู่ใต้ชั้นในที่ยังไม่แห้ง


   คารมค่อยๆปลดกางเกงยีนส์ของผมออกจากตัว เมื่อผิวได้สัมผัสกับอากาศเย็นๆผมก็ขนลุกซู่ มันเขิน...และอายจนไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง เขาเห็น...เห็นส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของผมซะแล้ว


ใจผมเต้นตึกตัก นิ้วจิกลงที่แขนของเขาแรงกว่าเก่า ค่อยๆปรือตาขึ้นมองภาพตรงหน้าด้วยความอยากรู้ แล้วก็ต้องหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นของๆตัวเองนั้นตั้งชันและเปียกด้วยหยาดน้ำใสที่กำลังสำลักออกมา ส่วนปลายที่ยังไม่ขลิบหนังหุ้มก็แดงเรื่อ


ผมเห็นแค่นั้นก็ต้องหลับตาลงอีกครั้ง... แต่เขาที่อยู่ข้างหลังที่นิ่งเงียบมานานกลับกระซิบคำที่ทำให้ผมต้องหน้าแดงหนักกว่าเก่าที่ข้างหู


   “น่าดูดมากอ่ะ...สีเหมือนไอติมเลย”


   เมื่ออุ้งมืออุ่นร้อนนั้นค่อยๆนวดเบาๆบนแก่นกายที่แข็งขืนผมก็สั่นน้อยๆ ไม่ได้หนาวนะครับ แต่เสียว...


   ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ ปรือตาขึ้นมองอีกครั้ง ก็เห็นภาพที่ต่างออกไปจากครั้งแรก มือแข็งแกร่งกำลังช่วยผม ปลายนิ้วไล้ไปตามความยาว วนอยู่ตรงส่วนปลาย จับรูดให้หัวของผมโผล่ขึ้น ภาพที่เห็นยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของผมให้กระเจิดกระเจิงเข้าไปอีก
 

เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นตามไรผมที่เปียกชื้น และไหลหยดลงมาตามแนวใบหน้า ไม่น่าเชื่อว่าทั้งๆที่เมื่อกี้ยังหนาวจนสั่น ตอนนี้กลับร้อนระอุจนเหงื่อหยด ของๆผมขยายตัวขึ้นอีกในอุ้งมือร้อนๆของเขา สะโพกผมสั่นไหวเมื่อเขาเริ่มเพิ่มน้ำหนักมือมากขึ้น ผมสำลักหยาดน้ำใสๆออกมาจากส่วนปลาย


   “...ค คารม...เร็วๆ...”ผมกระซิบบอกความต้องการให้เขาฟังด้วยเสียงสั่นพร่า เขายิ้มออกมากว้างๆแล้วสาวมือเร็วขึ้น ๆเป็นจังหวะ


   “จ...จะออกแล้ว อ๊ะ!...อึก อ...อ๊าา!”ผมแหงนหน้าครางลั่น เขาสาวมือถี่ๆ ราวจะรีดเคล้นทุกอย่างให้ออกมาให้หมด หูผมอื้อ สมองขาวโพลนไปหมด ลมหายใจหอบกระชั้น


สะโพกผมแอ่นสวนมือที่กระแทกลงมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งหยาดน้ำขุ่นข้นพุ่งพรวดออกมา ผมเกร็งตัว กัดฟันคราง มือของเขายังคงรูดส่วนที่ยังไม่อ่อนตัวลงของผมให้คายของเหลวขาวขุ่นออกมาอีก


ผมหอบหายใจ เอนหลังพิงเขาอย่างแบบหมดแรง และมองภาพตรงหน้าอย่างเหม่อๆ...มือเขาเลอะหมดเลย มันกระเซ็นขึ้นมาถึงหน้าท้องผมด้วย ก็นะครับ...ไม่ได้ช่วยตัวเองตั้งนาน


   ผมเสร็จกิจไปเรียบร้อย แต่สิ่งที่ยังทิ่มหลังผมก็ยังคงทิ่มต่อไปและดูจะร้อนขึ้นกว่าเดิมด้วย  ผมก็เลยหันหน้าไปมองคารม ที่ส่งยิ้มมาให้ผม ผมพลิกตัวกลับ หันหน้าเข้าประจันกับเขา สายตามองจ้องยังเบื้องล่าง ที่กางเกงผ้า กำลังโป่งพองอยู่...เหมือนของผม


   “เดี๋ยว..ทำให้...บ้าง...”ผมพูดแค่นั้น แล้วก็ดึงกางเกงของเขาลง สิ่งที่โป่งพองนั้นดีดผึงออกมาเป็นอิสระ ผมนิ่งอึ้ง...ของเขาที่ขลิบส่วนปลายแล้วเปียกชุ่มและสั่นระริก เส้นเลือดโป่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขนาดใหญ่กว่าผมด้วย...


ผมค่อยๆใช้นิ้วลากแผ่วๆตามความยาว เรื่อยลงไปถึงถุงกลมที่ด้านล่าง ได้ยินเสียงกลั้นลมหายใจของเขาที่ดังอยู่เหนือหัว


 อารมณ์ของผมก็เริ่มกระเจิงอีกหน ผมจดจ้องอยู่ที่ส่วนนั้นของเขา ค่อยๆโอบกำตัวตนของเขาด้วยอุ้งมือของผม มันร้อน และรู้สึกได้ถึงชีพจรที่เต้นตุบ ค่อยๆชักขยับขึ้น และลง


ส่วนปลายนั้นคายเมือกใสออกมาอีก ผมเลยใช้ปลายนิ้วขยี้ที่ส่วนปลาย เขาสบถออกมาสั้นๆ ได้ยินเสียงลมหายใจที่เริ่มหอบถี่ๆอีกครั้ง ทั้งของเขา...และตัวผมเอง   


 “ร...รัช”เขาเรียกชื่อผมราวจะเร่ง ผมหน้าร้อนวูบ เงยหน้าขึ้นจ้องเขา ที่หลับตากัดฟันแน่น เหงื่อผุดพรายตามใบหน้าหล่อคม ผมสาวมือเร็วขึ้น ตาก็จ้องหน้าเขาไปด้วย มือของเขาเลื่อนมาจับมือผมที่ยังคงรูดรั้งท่อนเนื้อของเขาไม่หยุด


   “อึ๊ก!”เขาคำรามสั้นๆ สะโพกกระตุกเกร็งอยู่ซักพัก แล้วเขาก็ปลดปล่อยของเหลวขาวขุ่นออกมาเปรอะมือผม ดวงตาสองชั้นสีดำค่อยๆปรือขึ้นมอง ลมหายใจเขาหอบถี่ ใบหน้าระเรื่อสีเลือด หยาดเหงื่อค่อยๆไหลลงมาตามแนวกราม


ผมปล่อยมือออก ดูของๆเขาที่ค่อยๆสงบตัวลงแล้ว...แต่...ของผมสิครับ ตอนที่ช่วยเขา ชิ้นเนื้อของผมก็เริ่มตื่นตัวขึ้นอีก ตอนนี้มันแข็งเกร็งขึ้นอีกแล้ว


   คารมเอื้อมมือมารั้งสะโพกผมให้เขยิบเข้าไปใกล้ และจัดท่าทางของเราใหม่ ให้ขาซ้อนกันจนส่วนที่อ่อนไหวของผมอยู่ใกล้ๆสิ่งที่สงบนิ่งไปแล้วของเขา


มือใหญ่โอบผลักแผ่นหลังผมเข้าไป ให้รับจูบร้อนแรงกับเขา ปลายนิ้วแข็งแรงเริ่มไต่ไล้วนกับแผ่นอกของผมอีกครั้ง


   “อื้ม...อ อื้อ...”ผมขมวดคิ้วครางเมื่อเขาขยี้และจิกนิ้วลงที่ยอดอกของผม แต่ส่งเสียงออกไปไม่ได้เพราะลิ้นของเด็กหนุ่มตรงหน้ากำลังแทรกอยู่ในปากของผม ผมเอียงหน้าเปลี่ยนองศาให้เขาจูบได้สะดวกขึ้น จนเริ่มอึดอัดหายใจไม่ออกนั่นแหละ เราถึงได้ผละหน้าออกจากกัน


ผมซบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อลงกับลาดไหล่หนาของเขา สูดลมหายใจเข้าลึก ในหัวชาจนแทบคิดอะไรไม่ออก แต่ตอนนี้ มือของเขาเลื่อนลงมาเบื้องล่าง ค่อยๆจับเรารวบไว้ด้วยกัน


   “อา...อือ”ผมครางสยิวเมื่อคารมลากปลายนิ้วผ่านแผ่นหลังผมช้าๆ สะโพกผมขยับไหว บดเบียดส่วนล่างที่ตั้งชันเข้ากับเขา


   คารมดึงมือผมที่เกาะเกี่ยวไหล่เขาลงมาแตะส่วนล่างของเขา ส่วนเขาก็เลื่อนมือมาสัมผัสของผม เราต่างยืมมือซึ่งกันและกัน ผมยิ่งกดหน้าผากเข้ากับไหล่ของเขา เมื่อปลายนิ้วนั้นจิกลงบนส่วนหัวที่ปริ่มน้ำของผม ผมลองทำตามเขาดู ซึ่งเขาก็สะดุ้งเล็กๆเหมือนกัน


เราต่างทำกันเงียบๆท่ามกลางเสียงหอบคราง ไร้สิ้นซึ่งคำพูด ลืมหมดทุกอย่าง ลืมว่าผมกำลังอยู่ที่ไหน จดจ่ออยู่เพียงแค่ตรงนี้ ที่ที่ผมอยู่ ไม่นานนักผมและเขาต่างก็ถะถั่งของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเป็นรอบที่สอง


ผมถึงจุดก่อนเขา แต่เราก็เสร็จด้วยกันทั้งคู่ และเพียงเพราะผมไม่ได้ออกกำลังกายแม้แต่น้อยเลยทำให้รู้สึกเหนื่อยและหมดแรงมาก ก็เลยยังคงพิงซบไหล่เขาไม่ขยับ ต่างจากเขาที่ใช้เวลาไม่นานก็ปรับลมหายใจให้กลับเป็นปกติได้ เขาโอบไหล่ผมไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว รอจนผมเริ่มหายเหนื่อย เขาถึงได้ลดมือลง


   “...เลอะหมดแบบนี้ จะทำยังไงดีล่ะ”ผมที่เพิ่งจะดึงสติกลับคืนมาได้ก็ถึงได้มานึก มองตัวเองแล้วก็อาย มองเขาที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าก็อาย...เราสองคนต่างก็เลอะของอีกฝ่ายเหมือนกัน แต่ไหนๆเสื้อผมก็ยังไม่แห้ง ผมก็เลยให้เขาไปจุ่มน้ำแล้วเอามาเช็ดคราบอะไรต่อมิอะไรที่เปรอะเลอะออก


กว่าเราสองคนจะได้ออกจากป่าสน ท้องฟ้าก็มืดแล้ว แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่เขาไม่ได้ทำอะไรกับผมเกินเลยไปมากกว่าที่เพิ่งจะทำไป ไม่งั้นคงได้กลับค่ำกว่านี้มาก...


   ผมโดนคุณอาดุเล็กน้อยที่มัวแต่เล่นไม่ดูเวลาจนมืดค่ำ แต่คุณอาก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากเพราะมีคารมเดินมาส่งเป็นเพื่อน


ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเขา เขาก็คงไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน เราก็เลยล่ำลากันง่ายๆ ด้วยถ้อยคำธรรมดาแล้วผมก็เดินกลับเข้าบ้านส่วนเขาก็เดินเลยต่อไปยังบ้านตัวเอง


   รุ่งเช้าผมก็แทบลุกจากเตียงไม่ได้ เพราะเล่นน้ำแล้วไม่ได้ทำตัวให้แห้งเลยทันที ก็เลยมีไข้ขึ้น ทั้งวันผมก็ได้แต่นอนอยู่บนเตียงและกินยาลดไข้ ยังดีที่ไม่ได้อะไรมาก พอตกเย็นผมก็เลยพอลุกไหว


พรุ่งนี้เช้าผมต้องออกเดินทางตั้งแต่ตี4กว่าๆ ผมคงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว อย่างน้อยได้ล่ำลากันหน่อยก็คงจะดี ผมก็เลยเดินไปรอที่สะพานไม้ เหมือนเมื่อวาน...


คารมเดินเข้ามาเห็นผม เขาส่งยิ้มเก้อๆให้แล้วเราก็เดินไปพร้อมกัน ระหว่างทางผมกับเขาไม่ได้พูดอะไรกัน จนกระทั่งถึงป่าสนและนั่งลงที่ขอบบึง ผมแอบมองเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ...ในหัวเผลอคิดไปถึงเรื่องเมื่อวาน หน้าก็ร้อนวูบขึ้นมา


   “รัช...”เขาส่งเสียงเรียกผมเบาๆ ผมหันไปมองตามเสียงเรียกด้วยความตื่นเต้นหน่อยๆ


   “เมื่อวาน...ขอโทษนะ”เขาพูดกับผมด้วยเสียงอ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ถอนหายใจออกมาเบาๆ


   “นายทำเราเป็นไข้”ผมหันไปบอกมันด้วยน้ำเสียงไม่คิดอะไร แล้วส่งยิ้มให้ มันก็ยิ้มตอบกลับมา แล้วเราก็เงียบ ผมไม่ค่อยจะชอบความรู้สึกอึดอัดอย่างนี้เท่าไหร่เลยแฮะ


   “จริงๆเราต้องนอนอยู่เฉยๆ...แต่เพราะพรุ่งนี้ก็จะกลับกรุงเทพแล้ว ก็เลยอยากมาลา”พอผมพูดถึงคำว่า ‘กลับกรุงเทพ’ คนข้างๆก็หน้าสลดลง ผมเกาหัวแก้เก้อ แล้วยื่นมือไปพาดไหล่ดึงตัวมันเข้ามา


   “เออน่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก วันสุดท้ายทั้งที เราจะนั่งอยู่กับนายตรงนี้ล่ะ บอกคุณอาไว้แล้วว่าจะกลับดึกหน่อย”


   “...ขอบใจ”ผมส่งเสียงรับในลำคอ เราสองคนไม่ได้คุยอะไรออกไปอีก สุดท้ายก็นั่งกอดคอกันเงียบๆ เหม่อมองต้นสน และน้ำใสๆในบึง จนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ผมก็เอียงหัวซบไหล่มัน


   “ตัวร้อนนะรัช”


   “ก็เป็นไข้หนิ จะให้เย็นเหมือนเมื่อวานคงไม่ได้หรอกนะ”ผมขำหน่อยๆ สงสัยยาลดไข้ที่กินไปเมื่อตอนบ่ายคงจะเริ่มหมดฤทธิ์ ผมเลยรู้สึกมึนๆขึ้นมาเล็กน้อย


   “กลับไปนอนเหอะ”มันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่ผมไม่ขยับหัว ไม่สนใจ


   “กลับไปโน่นยังมีเวลาให้พักอยู่น่า ตอนนี้เราอยากนั่งกับนาย แค่นั้นแหละ”ผมขยับหัวพิงมันแล้วถอนใจ มันก็เป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึง แต่ทำไมนะ...ผมก็รู้ว่ามันชอบผม แต่ผมไม่ได้รู้สึกชอบมันแบบนั้นขึ้นมาเลย...


ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น พอเหตุการณ์เมื่อวานมันเกิดขึ้น ผมก็ดันรู้สึก...ใจเต้นแปลกๆ แต่ก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด.... คุยไปได้ไม่เท่าไหร่ เราก็เงียบกันอีก


   “แล้วรัชรู้สึกยังไงกับเราวะ...เมื่อวาน เราบอกว่าชอบ แต่รัชไม่เห็นตอบอะไรกลับมาเลย...”มันพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆเอื่อยๆ ผมกระพริบตาปริบๆ นั่งคิดอะไรอยู่สักพัก


   “เราก็ชอบนายนะเว้ย...แค่ชอบในแบบที่ไม่เหมือนกันกับคารมอ่ะ...นายเป็นเพื่อนที่ดีนะ”มันส่งเสียงรับในคอเบาๆ แล้วเราก็ไม่มีอะไรจะพูดกันอีก ได้แต่นั่งมอง...มองน้ำใสๆในบึงที่ไหลเอื่อยๆ...มองเห็นปลาเล็กๆกำลังว่ายอยู่ด้านล่าง


...คงดีกว่าที่ผมพูดออกไปแบบนั้น...อนาคตอาจจะไม่ได้เจอกันอีก เวลาหนึ่งเดือนมันแสนสั้น...รีบตัดใจ จะได้ไม่เจ็บมากนัก... ครู่ใหญ่ๆผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอขึ้นมา


   “ถ้าเรากลับไปแล้ว นายจะทำไรต่อวะ”


   “…ไม่รู้ว่ะ ก็คง...จีบสาว แล้วก็ไปช่วยพ่อแม่ทำงานเหมือนเดิมล่ะมั้ง แล้วรัชอ่ะ?”


   “ก็...คงอยู่บ้าน...นั่งเล่นเกมล่ะมั้ง”แล้วเขากับผมก็เงียบกันอีกครั้ง เรานั่งนิ่งๆไปเรื่อยๆ จนแสงของวันลับหายไป เราถึงได้ลุกขึ้นและเดินกลับบ้านกัน


   “...รัช ปิดเทอมหน้า ถ้าว่าง...ก็กลับมาหาเราบ้างนะ”ผมพูดกับผมตอนที่กำลังจะเดินข้ามสะพานไม้ ผมส่งเสียงตอบรับคำไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าวันนั้นคงไม่มาถึง แต่อะไรก็เป็นไปได้เสมอ เราไม่มีทางกำหนดชะตาชีวิตล่วงหน้าได้หรอกครับ


เพียงแค่ ผมตั้งใจว่าคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่เหมือนอะไรซักอย่างมันแวบเข้ามาในหัวผม ซึ่งมันทำให้ผมหยุดเดินและจับมือใหญ่ของเขาไว้แน่นขึ้น ผมยิ้มบางๆแล้วยืดตัวขึ้นไปจูบเขา แผ่วเบาแล้วผละออกมากอดคนที่ตัวใหญ่กว่าผม ซึ่งเขาเองก็กอดผมแน่นๆตอบกลับมา


   “อย่าลืมเราไปก่อนซะล่ะ”ผมพูดออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงเขาหัวเราะ มันทำให้ผมหัวเราะออกมาบ้าง พอผมคลายกอดออก เขาก็จับมือผมไว้ และพาเดินไปส่งที่บ้านคุณอา เรากอดกันแน่นๆแทนคำล่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะเดินกลับบ้านและผมก็เดินขึ้นห้องนอน


   ผมอดจะรู้สึกเศร้านิดๆไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอคนคนนี้อีก แต่ก็ไม่เป็นไร วันไหนซักวันเราคงได้เจอกันอีกถ้าจะได้พบกันจริงๆก็คงไม่มีทางจะคลาดกัน...


ผมรู้สึกขอบคุณจุดเริ่มต้นที่มาจากป่าสนแห่งนั้นที่ทำให้เราได้ไปเล่นอยู่ด้วยกัน...



---------------------------------

ไม่เกินอาทิตย์หน้าจะมาต่อภาคต่อค่ะ เป็นการดำเนินเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ - วันอาทิตย์

แต่พรุ่งนี้อาจจะมาลงตอนพิเศษให้ก่อนค่ะถ้ามีเวลา T_T เป็นการดำเนินเรื่องในมุมมองของคารมค่ะ

แล้วพบกันใหม่นะคะ  :n1:

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนพิเศษค่ะ ตอนพิเศษษ

------------------------------------

ตอนพิเศษ : คารม was falling in love!?!


คารม



   สวัสดีครับ...ผม...เอ่อ นาย คารม อายุ 16ปี ย่าง17ปีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้วครับ พื้นเพผมเป็นคนที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย แต่ตอนนี้ เพราะการงานของที่บ้าน ก็เลยต้องย้ายมาอยู่ที่กลางหุบเขาในหมู่บ้านที่ห่างไกลแบบนี้


ผม...ค่อนข้างเป็นคนขี้อาย ติดจะพูดน้อย และชอบลงมือทำให้เห็นมากกว่าพูดให้รู้เรื่อง มีแต่คนบอกว่านิสัยไม่เข้ากับหน้าตา...แต่ มันเป็นสิ่งที่อยู่กับผมมาตั้งแต่เกิดนี่ครับ จะเปลี่ยนยังไงได้


เมื่อสองวันก่อน ผม...เพิ่งจะทำสิ่งที่ขัดกับนิสัยพื้นฐานของผมไปครับ...คือ...ผมเข้าไปทักคนแปลกหน้าก่อน


ได้ยินป้าในร้านกาแฟบอกเหมือนกันว่า มีหลานชายของคุณเรืองชัยมาที่หมู่บ้าน  อันที่จริงก็ไม่เหมือนไปทักก่อนเท่าไหร่หรอกครับ แค่เขารู้ตัวแล้วผมก็เลยวิ่งเข้าไปหาเอง


   เขาช่างต่างกับที่ผมคิดไว้มากเหลือเกิน เห็นครั้งแรกนึกว่าเด็กผู้หญิงในตัวเมืองมาเดินเล่นลำพังซะอีก... แต่พอเขาหันกลับมา และเมื่อได้พูดคุยกัน ผมก็รู้ว่าเขาไม่ใช่เด็กผู้หญิงครับ


   เขาชื่อ รัช อายุน้อยกว่าผมประมาณ1ปี เขาเป็นคนกรุงเทพ และนิสัยดีมาก...ยิ้มสวย ร่าเริง และมนุษยสัมพันธ์ดี  รู้สึกว่า เวลาผมอยู่กับรัช ผมจะพูดมากเป็นประวัติกาลเลยครับ ฮะๆ...ก็เขาคุยสนุกดี....


   วันหลังๆผมถึงเพิ่งมารู้ตัวว่าชอบจ้องมองเขา แม้จะจากทางด้านหลังก็ตาม แต่เขาก็เหมือนไม่รู้ หันมาเห็นผม ก็ยิ้มให้...เวลาผมเห็นรอยยิ้มของรัช...ใจผมจะกระตุกวูบเหมือนโดนฉุดวูบลงไปอยู่ในหุบเหว


   ผมเป็นอะไร... รัชเป็นเด็กผู้ชายเหมือนผมไม่ใช่เหรอ...ทำไมผมถึงมีอาการเหมือนตกหลุมรักเด็กผู้หญิงไปได้กันนะ....


   ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่โซฟาในบ้าน นั่งกุมหัวนิ่ง จนน้องชายที่เพิ่งกลับมาจากเล่นฟุตบอลกับเพื่อนเข้ามาถีบผมดังอั่ก แล้วนั่งลงข้างๆ


   “เป็นไรวะ”มันชื่อคมคาย เป็นน้องผมเกือบ3ปี หน้าตาคล้ายไปทางแม่มากกว่าผมที่เบนไปทางพ่อ รูปร่างค่อนข้างจะผอมบางแต่ไม่ถึงขนาดรัช แขนขายาวเก้งก้าง ผมและตาสีดำขลับเหมือนกันกับผม ตัวมันเล็กกว่าผมเกือบสามช่วงหัวแต่ก็ยังมีเวลาโตอีกเดี๋ยวก็คงจะไล่ผมทันในอีกไม่ช้านี้


เราค่อนข้างรักกันดีไม่ค่อยตีกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะมันเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็ว และผมเป็นประเภทที่จะไม่ลงมือจริงๆถ้าทนไม่ไหว


มันยกแก้วน้ำเย็น...ซึ่งผมยกมา ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด แล้วเอนหลังพิงโซฟาอย่างสบายอารมณ์ ผมลดมือที่กุมหัวลงแล้วหันไปมองหน้ามัน


   “เรื่องหลานคุณเรืองชัยอ่ะดิ”มันพูดขึ้นแล้วเติมน้ำเย็นลงแก้วแล้วยกขึ้นกระดก ผมเบิกตาขึ้นเล็กน้อยอย่างฉงน มันรู้เรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่ด้วย....


   “ทำหน้างี้ ใช่ชัวร์ ไมวะ? มึงเป็นเพื่อนเขาไม่ใช่ไง ทะเลาะไรกันมา?”


   “เปล่า...ไม่ได้ทะเลาะ”


   “ชื่อรัชใช่ป่ะ เพื่อนกูพูดถึงตลอดเลย ว่าถ้าไม่เป็นหลานคุณเรืองชัย ป่านนี้คงเข้าไปจีบล่ะ”ไอ้คมคายมันพูดอย่างไม่แยแส แต่มันทำให้ผมขมวดคิ้ว


   “มันเป็นผู้ชาย...”


   “แต่สวย....ขาว เอวงี้ ก้นงี้...น่าเอากว่าผู้หญิงอีก กูก็ว่างั้นเหมือนกันแต่ก็เฉยๆว่ะ เดี๋ยวแฟนหึง ว่าแต่มึงเหอะ...ไม่คิดงั้นรึไง”มันทำหน้าสงสัยใส่ผมที่ยิ่งขมวดคิ้วแน่นเข้าไปอีก มันเอื้อมมือไปหยิบกล่องกล้วยอบน้ำผึ้งมาเปิดกิน...ที่ไอ้คมคายมันพูดก็ทำให้ผมถึงกับสะอึก...ไม่เคยมีความคิดอย่างงั้นในหัวผมมาก่อนเลยแฮะ....


   “มึงคิดว่าแปลกป่ะวะ...เวลาเขายิ้มให้กู...ใจกระตุกเลยว่ะ...”ผมพูดขึ้นเบาๆ แต่ก็ทำให้มันวางกล่องขนมลง อันที่จริง...ผมไม่พูดมันก็คงจะวางเหมือนกัน เพราะมันล่อซะหมดกล่องเรียบร้อยแล้ว มันหันมองหน้าผม แล้วเลิกคิ้ว


   “อย่าบอกป๊ากะม๊าล่ะ แฟนกูก็ไอ้นาคไง”ผมทำหน้างงใส่มัน...นาคไหนวะ


   “นาคินไง เคยเจอแล้วไม่ใช่เรอะ ที่ตัวสูงพอๆกะมึง ผอมๆหน่อย ที่ช่วงนึงตัวติดกะกูหยั่งกะตังเมอ่ะ”มันลุกขึ้นยืนหยิบแก้วขึ้นมาถือ ผมอ้าปากค้างเงยหน้ามองมันอย่างกับเห็นผี


   “ตกใจไรนักหนาวะ มันก็เหมือนคบกับผู้หญิงแหละ ดีอีก...ไม่ต้องกลัวท้องด้วย ละถ้ามึงชอบคุณรัชนะ ก็บอกเขาไปตรงๆ หรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้ กูรู้ว่ามึงไม่ชอบพูด แต่อย่าฝืนใจถ้าเขาไม่ชอบ ถ้ากูเห็นหรือรู้อะไรนะ กูจะเป็นคนแรกที่กระทืบมึง”มันชี้หน้าข่มขู่ผม แล้วสะบัดตัวเดินเอาแก้ว เหยือกน้ำกับกล่องขนมไปเก็บ ปล่อยให้ผมนั่งมึนลำดับความคิดอยู่คนเดียว คมคายมันเป็นผู้ใหญ่กว่าผมที่เป็นพี่มันเยอะกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก


   ผมนั่งคิดโน่นคิดนี่จนรู้ตัวอีกทีก็อยู่บนฟูกในห้องนอนแล้ว ไอ้ผมก็มีเตียงนอนอยู่หรอกครับ แต่ติดนอนพื้นมากกว่า มันไม่นุ่มนิ่มยวบยาบเหมือนเตียง


ผมผันหน้าออกไปยังหน้าต่างที่ปิดไว้เพียงมุ้งลวด เห็นดาวสว่างกระจายเต็มฟ้ายามราตรี ยิ่งตอนนี้เป็นเวลาใกล้เที่ยงคืน ดาวยิ่งสว่าง ส่องประกาย บางดวงก็กระพริบ เหมือนอัญมณีล้ำค่าแห่งค่ำคืน


   ไม่รู้ว่าที่กรุงเทพจะมีดาวเหมือนที่นี่รึเปล่านะ...


   ผมนอนไม่หลับ เพราะคิดอะไรมากมายอยู่เต็มหัว ถ้า...รัชเห็นดาว เขาจะส่งยิ้มให้ผมอีกรึเปล่านะ...ยิ้มสดใส จริงใจ ยิ้มกว้างๆ...อย่างร่าเริง...


   ใจผมกระตุกอีกแล้ว และหวิวจนต้องเอามือขึ้นกดหน้าอกเอาไว้ ผมดึงตัวเองออกมาให้หันหลังให้หน้าต่าง สักพักผมลุกไปปิดไฟ แล้วก็กลับมาล้มตัวลงนอนใหม่ พรูลมหายใจออกมาแรงๆ    


 แต่ถึงจะหันหลังให้ดวงดาว แต่ในหัวผมยังมีใบหน้าของรัชลอยวนเวียนอยู่ แม้จะหลับตาหรือลืมตาก็ไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย


ถึงแม้ว่าผมจะพยายามข่มตาให้หลับ แต่ผ่านไปผ่านมาร่วมชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลยครับ ในห้องมืดแต่ไม่สนิทนัก ผมหันหน้ากลับไปยังบานหน้าต่างอีกครั้ง ดวงดาวยังคงกระจายสว่างไสวอยู่เต็มฟ้าสีเข้ม เสียงใบไม้ในป่ากรีดไหวเมื่อลมพัดวูบ ทั้งเสียงแมลงก็ดังเคล้าคลอแสงจันทร์เป็นระยะ


   รัชเขาจะหลับหรือยังก็ไม่รู้นะ...จะใส่อะไรนอนบ้าง...จะนอนท่าไหนกัน นอนดิ้น นอนก่ายรึเปล่า...


   ...เขาจะฝันถึงผมบ้างไหมนะ...


   ถ้าริมฝีปากบางๆสีสดนั่นจะเรียกชื่อผมไปตลอดได้ ก็คงจะดี...


ถ้า...ท่อนแขนเรียวสวยนั้นจะโอบกอดผม...


ถ้า...นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนั่น...จะมองผมอย่างลึกซึ้ง มันจะรู้สึกยังไงกันนะ...


   ในหัวผม เริ่มถลำลึกลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ จินตนาการเริ่มเลยเถิด เปรียบเทียบเขากับผู้หญิงที่ผมเคยคบๆมาก่อนหน้า


...ยามร่างขาวๆนั้นเปลือยกายและเอียงอายต่อหน้าผม คิดแล้วท้องน้อยก็ร้อนวูบขึ้นมา จนผมสะดุดลมหายใจตัวเอง


   ผมเม้มริมฝีปาก หลับตาลงแล้วค่อยเลื่อนมือสอดเข้าไปใต้กางเกงนอน


   ...แย่ล่ะสิ...


   เอ่อ...เอาเป็นว่า...ผมตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะบอกความรู้สึกของผมให้รัชได้รับรู้


แต่ว่าตอนนี้...ขอตัวไปเข้าห้องน้ำกลางดึกก่อนแล้วกันนะครับ...



-----------------------

ผู้ชายหน้ามึน 55555 ไว้พบกันใหม่นะคะ  :oni1:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mintny14891

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai5:

มาต่อภาคต่อให้ค่ะ เป็นการดำเนินเรื่องตั้งแต่วันจันทร์-วันอาทิตย์ ก็จะลงตามวันให้ จะพยายามไม่ให้ขาดนะคะ

 :katai4:

--------------------------------------

วันจันทร์


   “คุณรัชขา...มีจดหมายส่งมาหาค่า”เสียงเรียกของแม่บ้านตะโกนดังขึ้นมาจากชั้นล่างทำให้ผมต้องเดินลงไป จดหมายอะไรส่งมาหากันนะ

   โอ้ว...สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่รักทั้งหลาย ลืมสุดหล่อคนนี้กันไปรึยัง อุวะ ฮ่าๆๆ กระผม นายรัชวิณย์ เรียกผมว่าน้องรัชสุดหล่อแล้วกันนะครับ ฮ่าๆๆ ปิดเทอมวนมาถึงอีกรอบแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่กับบ้าน เล่นเกม ไม่งั้นก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง จนมันมามีเหตุการณ์ปิดบ้านปิดเมือง ปิดสยาม!!! ทำให้ผมไม่มีที่เที่ยว ต้องนั่งแกร่วอยู่บ้านเนี่ยแหละครับ


ตอนนี้ผมอายุ18แล้ว เป็นหนุ่มน้อยหน้าใสวัยทีนเหมือนเดิมครับ ฮ่าๆ ที่ไม่ต่างก็คือ ผมไม่สูงขึ้น ไม่ล่ำขึ้นเลยอ่ะ!! รัชเศร้า...รัชอยากแมนบ้าง อะไรบ้าง...


เอ้อ แต่ช่างมันเหอะครับ ตอนนี้ผมกำลังยืนอ่านจ่าหน้าซองของจดหมายอยู่...นาย คารม... หือ...ชื่อคุ้นๆ...นาย...คารม อ๋อ ปิดเทอมเมื่อ3ปีที่แล้วที่เชียงรายน่ะเอง ว่าแต่ มันรู้ที่อยู่บ้านผมได้ยังไงหว่า ไม่รอช้า นั่งแงะซองเปิดอ่านทันทีครับ ข้างในมีรูปเล็กๆอยู่สามสี่ใบ เป็นอันที่ผมหยิบขึ้นมาดูเป็นสิ่งแรก


ใบหน้าหล่อคมตรงสเปค...อือม มันช่วยฟื้นความจำของผมได้ดีมากมาย มันก็หล่อ ล่ำแล้วก็นิสัยดี มันชอบผม แต่ผมไม่ได้ชอบมัน แต่ก็จากกันมาด้วยดีอ่ะนะ ในรูปมันกำลังยิ้มกว้างสดใส และจริงใจให้กล้อง ส่วนอีกรูป เป็นรูปของมันกับหมาไทยหลังอาน สงสัยของที่บ้านล่ะมั้ง ผมดูรูปแล้วก็ขำหน่อยๆ นึกถึงตอนที่อยู่ที่นั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ


ผมดึงกระดาษข้างในออกมาอ่าน


----28 เมษายน 53


ถึงรัช เป็นไงบ้าง ลืมเราไปรึยัง หวังว่าคงยังไม่ลืมนะ ถ้าลืมเราก็ส่งรูปมาเตือนความจำให้แล้ว ถ้าลืมชื่อด้วยก็พลิกกลับไปอ่านจ่าหน้าซองนะ ขอโทษด้วยที่ไม่เคยติดต่อกลับมาเลย

ปิดเทอมนี้เป็นยังไงบ้าง ได้ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า ส่วนเราก็ไม่มีอะไรทำเลย เพราะที่บ้านบอกว่าไม่ต้องไปช่วยงานแล้ว ให้ไปเที่ยว เพราะตอนนี้กิจการที่บ้านไปได้ดีมาก แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี นึกถึงรัชขึ้นมา เลยอยากไปเที่ยวกรุงเทพดู วันที่2 พฤษภาคม 53 เราจะลงไปนะ ไปพร้อมกับคุณอานั่นแหละ อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ก็กลับ ถ้าไปถึงแล้วอยากให้รัชพาเที่ยวจะรังเกียจรึเปล่า

ตอนนี้เราพูดภาษากลางคล่องแล้ว ไม่เหน่อแล้วด้วยนะ ถ้าเจอกันจะคุยโชว์ให้ดู แล้วก็สอนเราเล่นเกมส์ด้วยนะ เราอยากรู้ว่าสิ่งที่รัชชอบทำมันเป็นยังไง

สุดท้ายนี้เราก็หวังว่ารัชจะสบายดีและมีความสุข

                                                   ด้วยรัก   
                                        คารม


ปล.เราไม่รู้จะเขียนอะไรคุย แต่ถ้าเจอกันแล้ว นายก็ชวนเราคุยแล้วกันนะ


   ระหว่างที่อ่านไปผมก็ยิ้มไป มันน่ารักดีแฮะ ลายมือก็เป็นระเบียบดี ว่าแต่...ลงมาวันที่ 2...วันนี้วันอะไรวะ...ห๊ะ!?! วันที่สองเรอะ!! เอ้อ แต่...มันคงนั่งรถอยู่กับคุณอามั้ง ถ้าโทรไปคุยตอนนี้คงทันอยู่ คิดได้อย่างงั้นผมก็ตรงไปที่โทรศัพท์บ้านแล้วกดเบอร์มือถือคุณอาด้วยความรวดเร็ว ไม่นานนักคุณอาก็รับสาย


   ‘ว่าไงรัช อากำลังจะลงไปทำธุระที่กรุงเทพพอดี ได้จดหมายจากคารมรึยัง’น้ำเสียงของคุณอาทำให้ผมเบิกบานมากผมเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วก็เอนหลังพิงเบาะ


   ‘ได้แล้วครับ อาเป็นไงบ้าง สบายดีป่ะครับ เมื่อสองสามวันก่อนคุณแม่เพิ่งบ่นคิดถึง อยากให้อาพาเที่ยวอยู่เลย’


   ‘ฮ่าๆๆ คงต้องรอให้ว่างทั้งคู่ล่ะนะถึงจะพาเที่ยวได้’คุณอาหัวเราะออกมาอยากสดใส มันทำให้ผมอารมณ์ดียิ้มกว้างไปด้วย


   ‘ฮ่าๆ ครับ แล้วจะถึงกรุงเทพกี่โมงอ่ะครับอา’


   ‘หือม คงเย็นๆหน่อยแหละ เพราะนี่...ด่านตรวจรถใหญ่เพียบเลย เค้ากลัวจะขนคนเข้ากรุงเทพแน่ะ รถก็เลยมีติดๆบ้าง แต่ผ่านมาได้ก็ฉิวนะ รัชอยากคุยกับเพื่อนรึเปล่าล่ะ’คุณอาครับ ผมรักอา ช่างรู้ใจหลานจริงๆพอผมส่งเสียงรับออกไป ปลายสายก็เปลี่ยนคน


   ‘เอ่อ...ฮัลโหล’ อ้ากกกกกกกกก!!! เสียงเขา! เสียงที่ผมลืมไปแล้วนั้นกรอกลงมา ทำไมผมถึงรู้สึกโคตรเขินเลยวะครับ....เสียงของคารม ทุ้มต่ำหล่อมาก มันทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวต้องหยิบหมอนข้างๆเข้ามาซุกกอด


   ‘เออ...หวัดดี เป็นไงมั่ง สบายดีปะ’


   ‘อื้อ ลืมเราไปยังอ่ะเนี่ย’


   ‘เหอะ...เพิ่งอ่านจดหมายจบไปเมื่อเกี้ย เลยโทรมาหานี่ล่ะ พอดีจดหมายเพิ่งจะส่งมาถึงอ่ะ’ผมตื่นเต้นมากเลย...จนต้องเม้มปากเข้าหากัน


   ‘มีที่นอนยัง’ ผมเอ่ยปากถามก่อน


   ‘หือม...ยัง ก็กะจะรบกวนคุณอารัชอ่ะแหละ เพราะคุณอาก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร’เสียงทุ้มๆของเขาส่งผ่านมาถึงผม น้ำเสียงสบายๆ ฟังแล้วค่อยๆหายตื่นเต้นไปทีละน้อย


   ‘งั้น มานอนบ้านเราดิ จะได้พาเที่ยวง่ายๆ เอาป่ะ’เป็นการไถ่โทษที่ผมลืมมันไปละกัน อีกอย่าง จะได้พาเที่ยวได้สะดวกๆด้วย พอมันตกลงผมก็คุยต่ออีกแปป แล้วก็วางสายลง แต่ว่าตอนนี้ไปอาบน้ำดีกว่า...


   ขณะที่ผมทั่งทานข้าวเที่ยงอยู่ที่ด้านล่าง ตาก็มองจอโทรทัศน์ไปด้วย คิ้วของผมเริ่มขมวดเข้าหากันเรื่อยๆ เมื่อเห็นรายงานข่าว....


ไม่เอาล่ะ ดูไปก็ปวดหัว โกรธไปก็เสียแรงเปล่า ผมผุดลุกไปหยิบหนังDVDจากเคาท์เตอร์ใกล้ๆทีวีมาเลือกดูแล้วก็กลับมานั่งทานข้าวต่อ


   งี้แหละครับ ชีวิตประจำวันผมตอนปิดเทอม ตื่นมา เปิดคอม เช็คเมลล์ อาบน้ำ เล่นเกม ลงมากินข้าวเที่ยงดูหนังไปด้วย ไม่ก็ดูทีวี แล้วก็ขึ้นไปเล่นเกมต่อ ลงไปกินข้าวเย็น ขึ้นไปเล่นเกม ปิดคอม อาบน้ำ ขึ้นนอน นอกนั้นก็มีไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนบ้าง


   พอเย็นๆเสียงบีบแตรก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน คุณอามาถึงแล้ว ผมเชิญเข้ามาทานน้ำให้หายเหนื่อยก่อน คารมยิ้มอย่างสดใสเมื่อเห็นผม...ตัวมันโตกว่าที่ผมจำได้อีกอ่ะ...


   “นายตัวสูงขึ้นป่ะวะ คราวที่แล้วยังพอเลี่ยๆกันอยู่เลย”ผมเหลียวไปถามคารมในขณะที่ช่วยคุณอายกของฝากจากเชียงรายเข้าไปวางไว้ในห้องครัว


   “เหรอ...เนี่ย ผมก็คิดอยู่ ว่าไมรัชถึงตัวเล็กลงกว่าเดิม...สงสัยว่าผมจะสูงขึ้นจริงๆ”…เอ่อ คุณเพื่อนครับ ไม่ต้องพูดก็ได้นะ รู้แล้วว้อย ว่าเตี้ย!! ผมหันไปหัวเราะแหะๆให้มัน แล้วก็ยืดตัวขึ้นพอวางกล่องผลไม้ลงเสร็จ...ปวดหลังเลยแฮะ สงสัยต้องออกกำลังกายบ้างแล้วอ่ะ แวบเดียวคุณอาก็ขอตัวกลับ ผมก็เลยอยู่ตามลำพังกับคารม


   “แล้ว…เรื่องที่นอน จะให้ผมนอนไหน??”


   “เอ้อ...นอนห้องเดียวกะเราเนี่ยแหละ นอนเตียงป่ะ....แล้วก็ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้”ผมมองไปยังกระเป๋าเป้ของคารม แล้วก็นึก ยังไม่ได้ปูที่นอนเลยแฮะ...


   “ไม่ล่ะ ไม่ชิน นอนพื้นดีกว่า นายนอนเตียงไปเถอะ”ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินนำขึ้นไปข้างบน ก็เป็นอันว่า ผ่านไปแล้วหนึ่งวัน ผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับคารมมากมายนัก สงสัยยังเขินกันอยู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้คงดีขึ้นเองแหละ นึกไปถึงตอนที่เจอกันครั้งแรก กว่าเขาจะกล้าเข้ามาทักผมก็ใช้เวลาไปตั้งเกือบหนึ่งเดือนนี่นะ


---------------------------------

 :katai5:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อส่วนของวันอังคารค่ะ

ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม แสดงตัวก็ดี ไม่แสดงตัวก็ดี

ขอบคุณคุณ ดำดีสี่ไม่ตก ด้วยนะคะ เม้นแทบทุกตอนเลย ยังดีพอมีกำลังใจ T_T

สนุกก็ดีไม่สนุกก็ช่าง ลงแล้วจะลงให้จบค่ะ  :z3:

-------------------------------



วันอังคาร
   
รุ่งเช้าของวันถัดมา ผมพาคารมออกไปที่ห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน พอดีเมื่อคืนก่อนโทรไปคุยกับเพื่อนแล้วก็ว่าจะไปเที่ยวซาฟารีเวิร์ลกัน วันนี้ก็มาเจอกันก่อนเพราะเพื่อนคนนึงจะให้ที่บ้านขับรถไปส่งให้ ผมพาเขาไปนั่งรออยู่แมค นั่งกินเฟรนด์ฟรายไปคุยอะไรเรื่อยเปื่อยไปซักพักเพื่อนของผมก็ค่อยๆทยอยกันมาทีล่ะคน


   “นี่ที่เคยเล่าให้ฟังป่ะรัช หล่อกว่าที่คิดนะเนี่ย หวัดดี กูชื่อวา”ไอ้วายิ้มแฉ่งแล้วก็ส่งยิ้มแปลกๆให้ผมที่ตีหน้านิ่งแล้วก็จับเฟรนด์ฟรายยัดใส่ปากมันเป็นการแก้แค้นเล็กๆ ที่บังอาจแฉว่าผมเคยคุยอะไรไว้เกี่ยวกับเพื่อนจากเชียงรายคนนี้ให้มันฟังไว้บ้าง


   “ไม่ต้องไปสนใจไอ้วามันหรอกนะ ทางนี้เตย นั่นภาคิน แล้วก็พวกมึง นี่คารม มาจากเชียงราย เค้ามาเที่ยวกรุงเทพ มาอยู่บ้านกูอาทิตย์นึง”หลังจากแกล้งเพื่อนเล็กๆน้อยๆพอเป็นกระสัย ผมก็ค่อยๆแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน เตยยิ้มกว้างๆให้ ส่วนภาคินก็ยิ้มแล้วก็มองดูผมกับวาเล่นยัดเฟรนด์ฟรายกัน


   “เฮ้ย ไปยังวะ เดี๋ยวคนเยอะ รถติด”วาที่นั่งเคี้ยวเฟรนด์ฟรายตุ้ยๆลุกขึ้นแล้วชี้ที่นาฬิกาเหล็กบนข้อมืออันผอมแห้งของมัน พวกเราทุกคนก็เลยลุกขึ้นแล้วก็ออกเดินทางกันหลังจากโอ้เอ้กันอยู่พอสมควร ในรถตู้โตโยต้า อัลฟาร์ดสุดหรูของไอ้วามัน ผมนั่งคู่กับคารม เตยนั่งกับภาคินติดกับไอ้วา เรานั่งคุยกันบ้างหยอกกันบ้าง แต่ระยะทางมันก็ไกลพอควร เลยนั่งจนเริ่มเปื่อยก็ยังไม่ถึง


   “เฮ้ย มาเล่นเกมกัน ใครแพ้ ซื้อตั๋วเลี้ยง”เสียงสดใสของวาดังขึ้น ผมฉีกยิ้มออกกว้าง งี้สิ ถึงไม่น่าเบื่อ เพื่อนๆผมทุกคนยกเว้นคารมก็ปรับขยับตัวอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาสีดำของคารมมองพวกเราอย่างเหวอๆ เหอๆ ไม่คิดล่ะซี่ ว่าน้องรัชที่หน้าตาหล่อขนาดนี้จะโคตรซนไม่อยู่นิ่ง


   “เอาดิ แล้วว่าไงวะ”ผมทำเป็นไม่สนใจสายตาสงสัยที่ส่งมาจากคนข้างๆแล้วส่งเสียงขึ้นไป วาหันมายิ้มกว้างให้ผมแล้วกวักมือเรียก ผมก็เลยสลับที่นั่งกับเตย ให้เตยไปนั่งคุยกับคารมที่หันกลับไปมองวิวผ่านกระจกรถเงียบๆ


   “จะหาเรื่องช่วยไอ้ภาคินกับเตยมัน เกมนี้กั๊กเอา มึงกะกูหารค่าตั๋วกัน โอมะ”มันยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม ผมกับวาเรียกได้ว่าบ้านมีฐานะมาก แต่เพื่อนอีกสองคนของเราก็ลำบากอยู่ใช้ทุนเรียน ผมซึ่งเป็นคนต้นคิดลากพวกมันมาก็ต้องรับผิดชอบ วาก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน เลยจะหาเรื่องเลี้ยงค่าเข้าชมซึ่งก็แพงพอควรอยู่ก็ดีที่หารสองกัน แต่...จะกั๊กยังไงล่ะวะ...


   “เออน่า ไหวป่ะล่ะ ถ้าไม่เดี๋ยวก็เล่นกันสองคน แพ้รับเละนะว้อย”มันพูดดังขึ้นอีกหน่อยเป็นเชิงข่มขู่ผม โคตรจะน่ากลัวเลยดิ...ไอ้คุณหนูวา


   “รู้แล้ว ว่าไงว่ามา ได้หมดแหละ”แล้วคุณชายวา ผู้เป็นเซียนแห่งการโกงก็เริ่มต้นโกงเพื่อนตัวเอง เพื่อให้พวกมันชนะกัน ด้วยเกมหลายๆเกม ทั้งจับไม้สั้นไม้ยาว สุ่มเลขไพ่ และอื่นๆเท่าที่มันพอจะนึกออกและโกงได้ผลเนียนไร้จุดบกพร่อง


   ในที่สุดก็ถึงซาฟารีเวิร์ล ผมที่แพ้มากเกมที่สุดก็ต้องเป็นคนวิ่งไปจ่ายเงินค่าตั๋ว โดยที่ไอ้วาแสร้งบอกคนอื่นว่าจะตามมาคุมแต่จริงๆแล้วคือจะได้หารเงินกันได้ ส่วนพวกที่เหลือก็ยืนรออยู่ปากทางเข้า วันนี้โชคดีนิดหน่อยที่มีทัวร์ลงแค่สองกรุ๊ป คนก็เลยน้อย เดินสบายๆ


   แต่กลุ่มผมก็เรียกเสียงกรี๊ดจากเด็กผู้หญิงได้พอสมควรครับ ก็กลุ่มรวมคนหน้าตาดีนี่หว่า วะฮ่าๆๆๆ มีคนมากรี๊ดกร๊าดนี่รู้สึกดีนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่สนใจผู้หญิงก็ตาม เหอๆๆ


   เดินไปที่ไหนก็มีแต่สายตามองตลอด แต่พวกผมซึ่งชินแล้วก็เดินเที่ยวได้อย่างไม่ลำบาก แต่ไอ้คารมสิครับ มันนี่ทำหน้าเหรอหราได้อีก ผมเลยเดินจะไปกอดคอมัน เผื่อจะให้รู้สึกดีขึ้น แต่...ไม่ถึง...อ้ากกกก!! ตัวสูงไปไหนวะ ผมพาดแขนไปคล้องคอคารมไม่ถึง!?! มันสูงขนาดนั้นเลยเหรอ!!


   “รัช เตี้ยว่ะ คารมมานี่มา เดี๋ยววาปลอบให้เองนะครับ ฮ่าๆๆ”ไอ้วา....ไอ้เลว มันหัวเราะเยาะเย้ยผมแล้วลากคอคารมไปเดินกับมันอย่างรื่นเริง ในขณะที่พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปดูโชว์ต่อไป ผมวิ่งไปยีหัวมันแล้วหนีไปคล้องคอภาคินกับเตยแทน จนเกือบเย็น เราก็ขึ้นไปนั่งรถเพื่อจะนั่งรถวนดูสวนสัตว์กัน


   ไอ้วาหยิบสเปรย์ปรับอากาศขึ้นมาฉีด กลิ่นของเด็กหนุ่มๆยามที่เหงื่อไหลโทรม หอมน่าดูสิครับ เหอๆ ผมสะบัดเสื้อไล่ร้อนออก


   “รัช อย่าดิวะ กลิ่นมันฟุ้งนะเนี่ย”ไอ้ภาคินที่เงียบมานานพูดแซวผม ผมฉีกยิ้มกว้าง บังอาจว่าท่านรัชเหม็นเหรอครับ คุณเพื่อน ได้โอกาสแกล้งคนอีกแล้วสิ แฮ่...


   “อะไรวะ เหงื่อน้องรัชเหม็นมากเลยเหรอครับที่รัก มามะ มาให้น้องรัชสุดหล่อคนนี้แกล้ง... เอ้ย ให้ความรักหน่อย ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะร่าพร้อมกับเข้าไปกอดภาคินที่พยายามดันผมออกไป เสียงหัวเราะดังขึ้นภายในรถตู้ที่เร่งแอร์จนสุด วาส่งผ้าเย็นให้ทุกคน พอผมรับผ้าเย็นก็รีบปล่อยตัวภาคินแล้วรีบแกะห่อผ้าออกเช็ดหน้า...อา....เย็นดีแท้


   ตัวรถเคลื่อนไปเรื่อยๆ เราทุกคนก็โวยวายชี้สัตว์ตัวนั้นตัวนี้อย่างสนุกสนาน จนมาถึงโซนเสือ ผมมองป้ายสีแดงที่ถูกหญ้ารกขึ้นบดบัง


   ‘ห้ามเปิดกระจก และประตูรถเด็ดขาด หากมีปัญหาให้บีบแตรเรียกเจ้าหน้าที่’


ใครจะกล้าเปิดล่ะครับ...มีหวังโดนเขมือบแหงมๆ


   “เตย อยากลงไปเล่นกับเสือป่ะ”ผมพูดหยอกคนที่ตัวเล็กที่สุด ตัวเล็กกว่าผมอีก ฮ่าๆๆ ภูมิใจมากที่ไม่เตี้ยที่สุด มันหันมายิ้มแหยๆให้ผมแล้วหันไปเกาะกระจกรถดูเสือนอนเปิดพุงต่อ เพราะตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าๆ อากาศไม่ค่อยร้อนแล้ว พวกเสือจึงลุกขึ้นเดินกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ยังนอนหมอบอยู่ที่พื้น


   วนครบรอบแล้วเราก็มุ่งหน้าไปร้านอาหารแล้วก็ไปส่งเตยกับภาคินถึงบ้านครับ แล้วทีนี้ก็เหลือแค่เราสามคน พอรถจอดถึงหน้าบ้านผม วาก็รั้งตัวผมไว้ ผมก็เลยให้คารมมันลงไปคนเดียวก่อน


   “ไมวะ”


   “มึงไม่ชอบมันจริงๆเหรอวะ...”วาลงมาจากรถ แล้วดึงตัวผมเข้าไปคุยใกล้ๆ...หา ชอบใคร อะไรวะ...


   “ไอ้คารมไง”มันทำหน้าเซ็งแล้วบอกชื่อของคนๆนั้นออกมา ทำให้ผมอ้าปากค้าง...ว่ายังไงนะ!?! มันยึดบ่าผมเอาไว้ด้วยสองมือแล้วก้มหน้าลงมา


   “เออ...มั้ง ก็...ไม่ได้อะไรเป็นพิเศษนี่หว่า...ถามไมวะ?”ผมอ้อมแอ้มตอบมันไป หลุบสายตาลงต่ำ


   “เปล่า แค่มันมองมึงแบบแปลกๆ ก็เลยถามเฉยๆนี่แหละ ไปก่อนนะ เดี๋ยวนัดวันเที่ยวดรีมเวิร์ลมาด้วยล่ะ”วาตบบ่าผมดังปับ แล้วเดินขึ้นรถไป ผมโบกมือลาแล้วเดินกลับเข้าบ้าน ในหัวไม่ได้คิดถึงคำของเพื่อนเป็นพิเศษ แค่สงสัยอยู่นิดหน่อย ว่ามองแบบแปลกๆ คือยังไง... แต่ผมก็ไล่ความคิดนั้นออกจากหัวเรียบร้อยตอนกำลังจะหลับ



------------------------------

 :katai5:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
คร้าาาบบบ สู้ๆ ครับ

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z2:

ต่อค่ะ อีก4ตอนจบแล้วววว วันพุธแล้วจะต่อของวันพฤหัสช่างเช้าเพิ่มให้นะคะ เพราะวันพุธสั้น

 :katai2-1:
----------------------------



วันพุธ


   วันนี้ผมกับคารมเราไม่ได้ออกไปไหนกันเลย นั่งเล่นเกมตากแอร์เย็นๆกันทั้งวัน จนถึงเย็นผมลงมานั่งเล่นPs3ที่ชั้นล่างหลังจากอาบน้ำเสร็จ ส่วนคารมมันก็ไปอาบน้ำอยู่ เดี๋ยวก็ตามลงมาเล่นด้วย


คราวนี้ผมเลือกเกมTAKEN5มาเล่น เล่นโหมดเนื้อเรื่องไปได้ไม่เท่าไหร่ คนตัวใหญ่ก็มานั่งลงข้างๆผม กลิ่นสบู่อ่อนๆลอยเข้ามาทำให้ผมต้องหยุดเกมไว้แล้วหันไปหาเขา


   “เกมไรอ่ะ เล่นยากป่ะ”มันถามผมแล้วหันไปมองหน้าจอ ผมลุกขึ้นไปหยิบจอยสติ๊กมายัดใส่มือใหญ่ๆของมันแล้วก็กดให้ดู


   “ก็ง่ายๆ ปุ่มสี่ปุ่มจะเป็นเตะ ต่อย ถีบ แล้วถ้ากดสองหรือสามปุ่มให้ถูก ก็จะเป็นท่าอื่นที่แรงกว่า เห็นแถบข้างบนป่ะ หมดก่อนแพ้ ส่วนปุ่มนี้เป็นกดหยุดชั่วคราว คล้ายๆเกมก่อนๆที่เล่นมาอ่ะแหละ จะลองดูมะล่ะ”ผมอธิบายช้าๆ คร่าวๆแล้วก็เลือกโหมดเนื้อเรื่องใหม่ แล้วเลือกตัวที่ค่อนข้างจะบังคับง่าย และไม่อ่อนจนเกินไปขึ้นมาให้มันเล่น


   “อ่าว รัช จะไปไหนอ่ะ”คารมหันมาถามเมื่อเห็นผมลุกขึ้นยืน


   “ไปเอาน้ำ กับขนม เดี๋ยวมา”แล้วผมก็ตรงไปที่ห้องครัว คุ้ยหาขนมแล้วก็แบกน้ำอัดลมพร้อมน้ำแข็งกับแก้วสองใบกลับไปนั่ง ผมเหลือบมองที่หน้าจอทีวี แล้วก็ต้องเลิกคิ้ว เห...ก็เล่นเก่งนี่หว่า พอผมวางขวดน้ำลงกับโต๊ะแล้วยืนดู มันก็กดหยุดเกมแล้วลุกขึ้นยืนบ้าง


   “ไมอ่ะ ไม่หนุกเหรอ”


   “แบบนั้นเราก็ทำได้”มันยื่นมือมาหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะแก้วจากข้างตัวผม เห...แบบนั้น เตะ ต่อย เหรอ ผมไหวไหล่ คนขี้อายเรียบร้อยอย่างมันจะต่อยตีเป็นเหรอ...อันที่จริง ก็คงจะเป็นมากกว่าผมล่ะนะ


ไม่ต้องเลยครับ หยุดเลย ต่อยตีไม่เป็นก็หล่อได้น่า...ผมเป็นประเภทเด็กเนิร์ดต่างหาก เชื่อมั้ยล่ะ ฮา...


   “ไหนลอง”ผมยิ้มยั่ว แล้วก็ขยับตัวเข้าไปใกล้มันอีกหน่อย คารมเลิกคิ้วขึ้น แล้ววางแก้วน้ำกลับลงบนโต๊ะ


   “เหวอ!?!”ผมอุทานออกมา มันจับแขนผม เกี่ยวขาปัด แล้วผมก็รู้สึกวูบจนเผลอหลับตาลง เสียงตุ้บดังขึ้นเบาๆ ผมลืมตาแบบกล้าๆกลัวเมื่อไม่มีอะไรตามมาทีหลัง แต่ว่านะครับ...


   อ้ากกกกกกกกกกกกก!!! หน้าคารมมันห่างกับหน้าผมไม่ถึงเซนต์แล้ว!!


   หน้าผมร้อนผ่าว สภาพผมคือถูกขึ้นคร่อมครับ...มือมันโอบหลังผม ส่วนอีกข้างก็ยันตัวเองเอาไว้ นัยน์ตาสองชั้นสีดำของเขาที่จ้องตรงมานั้นไหวระริก ผมจ้องตาของเขากลับแล้วก็กลั้นลมหายใจผลักมันออกเบาๆ


   “เฮ้ย...เปลี่ยนเกมละกัน”ผมลุกหนีแสร้งไปเปลี่ยนเกม หัวใจผมเต้นตึกๆ...เราคุยเล่นกันเหมือนปกติ แต่หัวใจผมกับเต้นดังไม่ยอมสงบซักที สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เราเล่นกันต่อไปหลายเกมมาก แต่ผมก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับเกมเลยแม้แต่น้อย พอรู้ตัวอีกทีก็อยู่บนที่นอนเรียบร้อยแล้ว กว่าจะหลับลง...เล่นเอาเกือบเช้าแน่ะครับ


-------------------------

ต่อโพสล่างค่ะ

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่อ พฤหัสเช้าค่ะ

----------------------





วันพฤหัสบดี

ช่วงเช้า



เผลอแวบเดียวก็ผ่านเข้าวันที่สี่แล้ว และเป็นวันนัดที่ผม วา เตย แล้วก็คารมจะไปดรีมเวิร์ลกัน ภาคินมันติดธุระต้องทำงานพิเศษก็เลยมาเที่ยวกับพวกผมไม่ได้ เช่นเคยครับ เราเดินทางไปด้วยรถของบ้านวาเหมือนเดิม ที่แตกต่างจากคราวที่แล้วก็แต่ล่ะคนมีกระเป๋าเป้ใบเล็กๆใส่ผ้าเช็ดตัวมาคนละผืนกับชุดไว้เปลี่ยนคนละชุด แล้วก็มีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาคมเข้มนามพี่อานนท์มาช่วยดูของอีกหนึ่งคน


   พวกเราซื้อบัตรวีซ่ากัน คราวนี้ต่างคนต่างจ่าย ส่วนเรื่องค่าข้าวเที่ยงก็รอดไปเพราะพี่อานนท์จะเป็นคนเลี้ยงครับ ดีเหมือนกัน ผมจะได้กินให้เต็มคราบ...หึหึ เพราะถ้าถึงเวลาเที่ยงพวกเราคงหิวซ่กกันแน่ๆ


   “พี่อานนท์เค้าเป็นใครวะวา”ผมยื่นหน้าไปกระซิบถาม เมื่อเห็นเตยเดินรั้งท้ายอยู่กับพี่ชายรูปหล่อร่างสูงที่มาช่วยดูของที่ด้านหลัง


   “แฟนเตย”


   “ห๊ะ!?!”ผมอุทานออกมาเสียงค่อนข้าง...ไม่ล่ะ ดังมากจนวาแทบจะเอามืออุดปากผมแทบไม่ทัน ผมกอดคอมันแล้วเดินต่อ


   “เล่าดิ๊”


   “จะอะไรเล่า ก็แฟนกัน แค่นั้นเอง ไมนักหนาวะ”


   “อ่าว กูก็อยากรู้ จะได้มีเรื่องไปแกล้งมัน ฮ่าๆๆๆ”ผมเงยหน้าหัวเราะ แต่ไอ้วาไม่ขำด้วย มันยกเท้าขึ้นถีบผมจนเซไปชนคารมที่เดินเยื้องอยู่ข้างหน้านิดหน่อย แฮ่... ผมกอดคารมหมับ แล้วเอาหัวซบบ่ากว้างๆที่แข็งแรงนั่น


   “คารม วามันถีบรัชอ่ะครับ รัชเจ็บจังเลย ฮึกๆ”มันหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผมแบบงงๆปนตกใจ...ช่างไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย...


   “อุบาวท์ว่ะรัช ไปๆเดินๆ อยากเล่นเฮอร์ริเคนเร็วๆ”วาหัวเราะแล้วเดินมายีหัวผมจนยุ่ง เฮอะ... แล้วก็ตามบัญชาคุณหนูแสนงาม เรามุ่งหน้าไปที่เฮอร์ริเคนกันเป็นที่แรก ในขณะที่ยืนต่อแถว ก็อีกแล้วครับ เด็กๆผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดพวกผมกันมากมาย ฮ่าๆๆ ช่วยไม่ได้ คนมันหน้าตาดีนี่หว่า


เตยที่ไม่อยากเล่นก็ไปนั่งจู๋จี๋กับแฟนอยู่ไม่ไกล ผมยืนพิงรั้วรอแถวขยับ เห็นดีเจเดินมาเปิดโซ่รั้วออกแล้วก็เข้าประจำที่ห้องควบคุม


   “โย่วๆๆ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย ดีเจตั้มประจำการแล้วว เรามาเปิดความสนุกรอบแรกกันเลยนะคร้าบ!”ดีเจตั้มสวมเฮดโฟนแล้วพูดเสียงดังใส่ไมค์ มือก็เปิดเพลงมันส์ๆดังสนั่น เรียกความคึกคักขึ้นทันที เด็กสาวๆที่อยู่ข้างหน้ารีบขึ้นไปจับจองที่นั่ง ซึ่งโชคดีมากที่ตัดพวกผมสามคนเข้าไปเป็นกลุ่มสุดท้าย


   “โหวๆๆ ว้าวๆ สาวๆครับ ส่งเสียงกรี๊ดกันหน่อย สามหนุ่มสุดหล่อของเราขยับเข้ามาแล้วคร้าบบบ”สิ้นเสียงดีเจเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นขึ้น คารมที่กำลังจะเดินขึ้นไปนั่งที่แถวแรกหน้าสุดก็ชะงักกึก ผมขำแล้วก็รุนหลังมันให้เดิน พอนั่งลงก็บอกให้มันล๊อคเซฟตัวเอง ใจผมเต้นตึกๆ ไม่ได้เล่นนานแล้ว แต่ยังจำความรู้สึกได้ดีว่าเสียวไส้ขนาดไหน


   “แหมๆ มีหนุ่มหล่อๆมาเล่นด้วย ประเดิมรอบแรกของวันกันอย่างนี้ ดีเจตั้มจะให้สุดเหวี่ยงไปเล๊ยยย เอ้า...เล็ททท โก้วส์~”สิ้นเสียงดีเจเครื่องยนต์ก็ค่อยๆทำงาน เคลื่อนที่ขึ้นช้าๆพร้อมเสียงเพลงประกอบที่ดังสนั่นขี้หูดิ้นกระจาย


   “คารม นายชอบอะไรหวาดเสียวๆป่ะวะ”ผมหันไปถาม มันก็พยักหน้ารับน้อยๆพร้อมรอยยิ้ม...หล่อว่ะ พอหันไปอีกข้าง ในขณะที่เครื่องกำลังดันให้เราสูงขึ้นเรื่อยๆ ไอ้วาที่เป็นคนอยากเล่นกลับคอยชะเง้อมองด้านล่าง นิ้วมันเกาะที่ล๊อคคอแน่นซะจนขึ้นข้อซีดขาว...ทางนี้ก็น่ารักจนอยากแกล้งมัน แต่ติดตัวล๊อคทำให้ขยับไปไหนไม่ค่อยได้


   “วา มึงไหวเหรอวะ”


   “เออน่า ไหวอยู่แล้ว...อ้าคคคคคคคคคคคคคค!”


   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~!!”


   “เฮ้~~~!”เสียงสุดท้ายนั่นของผมเองครับ ฮา... ตัวเครื่องเริ่มเหวี่ยงลงด้วยความเร็ว ไอ้วาเบิกตากว้างแหกปากสุดเสียง ผมขำไปด้วยร้องไปด้วย เสียวไส้ดีจริงๆ! พับผ่าสิ ฮ่าๆๆ! ส่วนคารมก็มีอุทานออกมาบ้าง เราถูกจับเหวี่ยงหมุนไปหมุนมา ตีลังกาบ้าง เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงบ้าง


   “รอบสุดท้ายแล้วนะคร้าบบ พร้อมรึยาง...ไป~~เล้ยย!!!”ดีเจตั้มผู้ซาดิสม์กดปุ่มแล้วเครื่องเล่นก็เหวี่ยงขึ้น ทั้งหมุนตีลังกาและเหวี่ยงลงเร็วๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู่เล่น ในที่สุด เครื่องยนต์ก็ส่งเสียงฟู่ขึ้น แล้วเครื่องก็ค่อยๆเหวี่ยงช้าลง ก่อนจะหยุดนิ่งสนิทในที่สุด ผมเงยหน้าหัวเราะอย่างสะใจ เครื่องล๊อคปลดออกแล้วผู้คนก็ค่อยๆทยอยกันออก ผมกับคารมต้องพยุงไอ้วาที่หน้าซีดเผือดลงไปหาเตยกับพี่อานนท์


   “ไงล่ะ ไหนว่าอยากเล่นไม่ใช่เหรอ หน้าซีดเป็นไก่ต้มเชียวนะมึง”ผมแซวมันทีทำท่าจะเป็นจะตายอยู่ตรงม้านั่ง ซึ่งก็ได้ค้อนวงใหญ่กลับมาเต็มๆ


วานั่งซบไหล่เตยแล้วก็ดมยาดม ผมกับคารมยืนดูแผนที่กัน ว่าต่อไปจะไปเล่นอะไรกันดี พวกเรา5คนตะลอนเที่ยวไปเรื่อยๆ เดินวนไปวนมา ไอ้วาที่หายซีดแล้วก็กลับมาซ่าต่อ


   “ไปเล่นอะไรเปียกๆกันเหอะ ร้อน”คุณหนูวาพูดแล้วก็เดินนำลิ่ว เริ่มจากไปเล่นแกรนด์แคนย่อนกันก่อน เล่นซักสาม สี่รอบพอเปียกนิดๆหน่อยๆเราก็พากันไปทางเมืองหิมะ พอเห็นซูเปอร์สแปลชที่กำลังดิ่งลงมากระแทกน้ำแตกกระจายก็มีอาการต่างๆกันไป ผมกับวา แน่นอนครับว่าตื่นเต้น อยากไปเล่นเร็วๆ เตยก็ยืนนิ่งๆแอบกลัวนิดหน่อย


คารมมันก็ยืนทำหน้าแบบ โอ้...มันอะไรกันนี่ เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อนเลย ส่วนพี่อานนท์ก็ไม่ว่าอะไร เดินไปหาที่นั่งใกล้ๆเพื่อที่จะรอพวกเรา พร้อมกับสัมภารกที่แต่ละคนพากันแบกมา ฮ่าๆ เพราะเราเล่นกันแค่สี่คนแต่ที่นั่งมันนั่งได้สามคน เราก็เลยแบ่งเป็นสองกลุ่มครับ ผมนั่งกับวาที่ด้านหน้าสุด เสียวสุดสนุกสุดครับ คารมนั่งกับเตยที่แถวสอง



   “จะเล่นนี่กี่รอบวะ”ผมหันไปถามวา ที่คอยยืดตัวไปมองข้างๆว่ากำลังไต่ขึ้นสูงขนาดไหนแล้ว มันหันกลับมามองผมโบ้ยหน้าให้ไปถามคนข้างหลังก่อนจะหันไปตื่นเต้นกับความสูงต่อ


   “เตย คารม อยากเล่นนี่กี่รอบอ่ะ”สายตาสองคู่กระพริบปริบๆส่งมาให้ผม


   “อ่า...เดี๋ยวขอดูก่อนได้มั้ยอ่ะ”


   “ละรัชอยากเล่นกี่รอบอ่ะ เรายังไงก็ได้”เป็นคำตอบที่น่าหงุดหงิดมากแต่ก็เอาเหอะ ผมพยักหน้าหงึกๆแล้วหันกลับมา ในหัวก็คิดว่าจะเอาไงต่อดี ไม่ได้สนเลยว่าตัวเครื่องเล่นกำลังจะดิ่งลงกระแทกน้ำแล้ว อันที่จริงตัวผมก็อยากเล่นซักสี่ห้ารอบนะ แต่เดี๋ยวเล่นรอบแรกเสร็จแล้วค่อยคิดอีกทีอย่างที่เตยว่าก็ได้ล่ะมั้ง


แล้วระหว่างที่ผมกำลังคิดไม่ได้สนใจสถานการณ์ตรงหน้า เครื่องก็ดิ่งลงจากความสูงเทียบเท่าตึกหกชั้นด้วยความรวดเร็ว ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็สะดุ้งโหยง แหกปากลั่นสิครับ...


ตอนเรือกระแทกน้ำผมก็ได้ยินเสียง


กรึ๊บ...


แล้วน้ำก็สาดกลับเข้ามาทำเอาเปียกโชกไปทั้งตัว ผมที่อุตส่าห์เซตมาอย่างดีก็เปียกลู่หมดหัว อยากเปียกแต่ยังห่วงหล่ออยู่อ่ะครับ แฮ่...


   ในปากผมเจ็บระบมขึ้นมา จนต้องยกมือขึ้นแตะๆดู ไอ้วาที่หัวเราะอย่างสะใจหันมาหาผมแล้วก็ดึงไหล่เรียก


   “เฮ้ย เป็นไรวะ”พอผมหันหน้าไปหามันเท่านั้นแหละ มันก็โวยวายขึ้นมา ผมก็งงสิครับ อะไรของมันวะ...


   “รัช เลือด...”มันชี้นิ้วที่สั่นพั่บๆของมันมาทางผมครับ ผมก็ตกใจรีบก้มลงมอง เลือด...เลือดเป็นทางผสมน้ำเลอะเต็มเสื้อผมเลย ผมรีบบ้วนน้ำลายออกมาใส่มือ...ชัดเลยครับ ไอ้เสียงกรึ๊บเมื่อกี้ผมกัดลิ้นตัวเองแหละ...ทำไงดีวะ...ลิ้นผมชาไปหมดแล้วครับ ไม่เจ็บ แต่ตกใจที่เลือดออกเยอะมากกว่า


ผมจะตายมั้ยอ่ะ...ฮือ...ผมยังไม่อยากตาย ผมยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยน้าา!


ผมตกใจจนนิ่งแข็ง เงยหน้าขึ้นขอความช่วยเหลือจากไอ้วา...ที่มันกลัวเลือดกว่าอะไร มันเป็นห่วงผมแต่มันก็กลัวจนจะเป็นลม มันเอามือที่สั่นพั่บๆของมันแตะไหล่ผมเบาๆ คารมกับเตยที่อยู่ข้างหลังก็ตกใจแต่ลุกขึ้นดูไม่ได้ ทำได้เพียงโน้มตัวเข้ามาดูอย่างเป็นห่วง


   “เตย เดี๋ยวอยู่กับวานะ เดี๋ยวผมจะพารัชไปหาพี่แทน”โคตรพระเอกเลยหว่ะเพื่อนผม...พอเครื่องเข้ามาจอดแล้ว คนก็ลุกไปที่ทางออก แต่ส่วนใหญ่เดินมาดูผมมากกว่าว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ฮือ...ซึ้งใจน้ำใจคนไทยจริงครับ แต่ตอนนั้นผมที่ในหัวว่างเปล่าเพราะกำลังตกใจก็ไม่ได้หืออือกับอะไรจนเพื่อนจากเชียงรายผู้หล่อล่ำของผมมาฉุดแขนดึงให้ลุกขึ้นนั่นแหละ คนที่มุงอยู่ถึงค่อยๆเดินออกไป เตยก็พาวาเดินนำไปหาพี่อานนท์ก่อนแล้ว


   “เจ็บมากเปล่า กัดโดนอะไรอ่ะ ปากแตกเหรอ”มันที่ประคองผมเดินไปหาผู้ใหญ่เพียงคนเดียวเลียบๆเคียงๆถาม ผมเงยหน้าขึ้นมองมัน


   “กัดโดนลิ้น...เจ็บอ่ะ...”ผมทำท่าจะร้องไห้ กลิ่นเลือดคลุ้งเต็มปาก แถมยังเปรอะเต็มเสื้อยืดสีขาวตัวโปรดของผมซะหยั่งกับมีคนมาไล่ฟัน


   “นิดเดียวเอง ไกลหัวใจ เดี๋ยวก็หาย ไม่เจ็บหรอก”...เหรอ...เอ็งก็ลองมากัดลิ้นตัวเองจนเลือดสาดแบบข้าดูสิว้อยย!!! มันเจ็บมากนะ...ฮือ... ผมอยากจะด่ามันจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเลือดกลบปากอยู่ล่ะก็...


แต่พอมันเห็นว่าผมเงียบไป ก็เข้ามากอดไหล่ผมแน่นขึ้นกว่าเดิม...เออ อย่างน้อยก็ยังรู้จักให้กำลังใจเพื่อนเป็นนี่หว่า เพราะงั้น ให้อภัย


พอผมนั่งลงพี่อานนท์ก็สั่งให้อ้าปากขึ้น จะได้ดูแผลว่าหนักขนาดไหน...พี่ครับ เลือดสาดเต็มเสื้อผมแบบนี้มันคงเป็นรูเท่าผึ้งต่อยหรอกมั้ง แต่ผมก็อ้าปากขึ้นดีๆ พี่เขาจับคางผมบิดไปบิดมา แล้วก็ทำหน้าเครียด...พี่อย่าทำหน้าเครียดเด้! ผมก็กลัวเหมือนกันนะครับ!!


   “พี่ว่าไปที่ห้องพยาบาลเหอะ คารมอยู่เฝ้าของนะเดี๋ยวพี่พารัชไปทำแผลก่อน”มันหนักหนาขนาดนั้นเลยเหรออ! ผมจะร้องไห้จริงๆนะ...ฮึกๆ...


   “พี่นั่งเถอะครับ เดี๋ยวผมพารัชไปเองดีกว่า”


   “เอางั้นก็ได้ แล้วจะเล่นต่ออีกมั้ยล่ะ”สภาพหยั่งงี้จะให้ผมเล่นต่ออีกเหรอครับ พี่ใช้ไส้ติ่งคิดรึเปล่าเนี่ยยย!!!


   “ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวไปเล่นอย่างอื่นแล้วกัน”คารมตอบแทนผมที่นั่งเงียบไปแล้ว อา...มึงนี่เป็นคนดีจริงๆ คิดไม่ผิดที่ผมคบมันเป็นเพื่อน


   “งั้นเอาชุดไปเปลี่ยนด้วยเลย เดี๋ยวพวกพี่รออยู่ตรงนี้แหละ มีอะไรก็โทรมาบอกแล้วกันนะ”พูดเสร็จพี่อานนท์ก็เอากระเป้าเป้สองใบมาให้พวกผม แล้วก็หันไปเอากระเป้าอีกสองใบส่งให้วากับเตยเหมือนกัน ผมกับคารมก็เลยเดินไปหาห้องพยาบาล ตอนนี้ผมไม่ค่อยตกใจแล้ว แต่เจ็บมากกว่า ถึงอย่างงั้นก็เดินเองได้ แต่มือใหญ่ๆของคารมก็ยังประคองไหล่ของผมไม่ปล่อย


   “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องประคองหรอกน่า เราเจ็บลิ้นไม่ได้เจ็บขา”อีกอย่างเพราะผมเขินครับ...มีแต่คนจ้องจนผมวางตัวไม่ถูก ถ้ามันเป็นการจ้องแบบกรี๊ดกร๊าดว่าผมหล่อล่ะก็จะไม่ว่าอะไรเลย แต่เขาจ้องกันแบบ ดูดิ มีประคองไหล่กันด้วย ต้องมีอะไรในกอไผ่แน่เลย อ่ะ! แบบนี้ไม่เอานะครับ!!


 แต่จริงๆแล้วผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ เขาคงมองแบบ ไอ้นี่ไปทำอะไรมา ทำไมเลือดสาดเต็มเสื้อ มึงไปวิ่งไล่ฟันคนมาเหรอ แบบนั้นมากกว่ามั้งครับ


   “ไม่เอาอ่ะ เราเป็นห่วง”มันพูดได้อย่างหน้าตาเฉย แต่ผมอายแทนหว่ะ... เอาวะ เอาไงเอากัน ก็ปล่อยให้มันเดินโอบไหล่ผมที่อยู่ในสภาพตัวเปียกเลือดท่วมไปจนถึงห้องพยาบาลนั่นแหละครับ ในระหว่างที่เขากำลังทำแผลมันก็ยืนรออยู่ข้างๆปล่อยให้ผมขยำขยี้แขนและเสื้อมันเฉยๆอย่างไม่ว่าอะไรเลยครับ


พยาบาลโคตรโหดอ่ะ มีถามด้วยว่าจะเย็บรึเปล่า คำแรกที่ถามผมตอนเห็นแผลที่ลิ้นผมก็แทบอยากเป็นลม พอส่ายหน้าพั่บๆ เจ๊ก็ยังมีมาทำหน้าเสียดายอีก พี่อยากเย็บลิ้นผมมากเลยใช่ป่ะครับ!!!


เหนืออื่นใด พี่พยาบาลมือโคตรหนัก ป้ายขี้ผึ้งลงมาแต่ละทีผมนี่สะดุ้งโหยงจิกเล็บลงเสื้อไอ้คารมแทบขาด น้ำตานี่ร่วงพรากๆเรียบร้อยแล้วครับ กว่าทำจะแผลเสร็จ ลิ้นผมนี่ชาทั้งลิ้น  หายเจ็บกันเลยทีเดียว ส่วนเสื้อกับแขนไอ้คารมเหรอครับ หึหึ ไม่เหลือ...เสื้อที่ถูกผมทึ้งนี่ย้วยอย่างเห็นได้ชัดมาก ส่วนท่อนแขนมันก็เต็มไปด้วยรอยเล็บของผมเอง...


   “ขอโทษ...เจ็บมากป่ะ”รู้สึกผิดว่ะครับ...มันยกมือขึ้นมาลูบหัวผม


   “นิดหน่อย ไกลหัวใจ เราว่ารัชเจ็บกว่าเยอะว่ะ...ไปเปลี่ยนชุดกันเหอะ”มันยีหัวผมแล้วยกกระเป้าเป้ทั้งสองใบขึ้นสะพาย ก่อนดึงมือผมให้เดินไปหาห้องน้ำเปลี่ยนชุดที่เปียกชื้น หยั่งกะ...แฟนกัน... อ้ากกก! ไม่! ผมคิดอะไรเนี่ยยยยยยยยย!!


   “โอ้ย!?!”ผมอุทาน คารมรีบหันกลับมาดูอย่างเป็นห่วง...ให้ตายสิ หัวใจผมเต้นแรงอีกแล้ว! คารม แกโปรยยาเสน่ห์ใส่ชั้นเหรอวะ!!!


   “เฮ้ยเป็นไร อ้าปากดิ๊”มันร้อนรนจับหน้าผมให้เงยขึ้น ผมก็อ้าปากขึ้นให้มันดู อันที่จริงคือตอนผมกำลังโวยวายกับตัวเอง ผมดันกัดซ้ำแผลเก่าอีกรอบอ่ะครับ เจ็บได้อีก...


   “เดี๋ยวไปหาน้ำแข็งมาอมละกัน เลือดจะได้หยุดเร็วๆ ไปเปลี่ยนเสื้อกันก่อนเหอะ”คราวนี้ผมก็ตามมันไปเงียบๆไม่ว่าอะไร พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็เดินไปหาพวกพี่อานนท์ที่KFCที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่


ผมนั่งอมน้ำแข็งไปเรื่อยๆในขณะที่ต้องมองเพื่อนๆกับพี่นั่งกินไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อย ผมอยากกินบ้างงงงง!! ฮึกๆ...



-----------------

วันพฤหัสช่วงบ่ายต่ออีกตอนนะคะ  :katai5:

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่อค่ะะะ  :katai2-1:

-------------------------------------------



ช่วงบ่าย

   “อ่ะ กินดิ เคี้ยวข้างที่ไม่เป็นแผลละกัน”วาเพื่อนรัก ช่างรู้ใจกันจริงๆ ไม่เคยรู้สึกอยากจับแกมาจูบซักร้อยรอบแบบนี้มาก่อนเลย วาที่นั่งอยู่ข้างๆคงเห็นถึงสายตาอันน่าสงสารของผม มันก็เลยจัดการฉีกไก่เป็นชิ้นเล็กๆให้ก่อนจะเอามาให้ผมกิน พอน้ำแข็งหมดปากผมก็เริ่มลงมือซัดไก่ตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว


   “ต่อไปเล่นไรอ่ะ”เตยที่กินเสร็จแล้วนั่งพิงพนักพิงเอ่ยขึ้นมากลางวง ทุกคนต่างทำหน้าคิด เล่นเครื่องเล่นจนเกือบหมดสวนสนุกแล้วนะเนี่ย ทุกคนมองหน้ากันเพราะนึกไม่ออก


   “ไปเล่นบ้านผีสิงกัน เราอยากเล่น นะ”เตยทำตาปิ๊งๆ แต่ผมกับคุณหนูวากลับทำหน้าสยองสุดขีด เรื่องหวาดเสียวอะไรผมไม่กลัว แต่ที่ผมกลัวอย่างหนึ่งล่ะคือผี...ตั้งแต่เล็กจนโตผมแตะหนังผียังไม่ถึง3เรื่องเลยรู้มั้ยครับ! ส่วนไอ้คุณหนูวานอกจากเลือดแล้วมันก็กลัวผีนี่ล่ะครับ... แต่นานๆที คนเยอะด้วย คงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ ก็เลยเป็นอันว่า สถานที่ต่อไปที่พวกผมจะไปเยือนก็คือบ้านผีสิงครับ


ที่บ้านผีสิงมีคนเล่นน้อยมาก รอบนั้นมีแค่กลุ่มพวกผม5คนที่เข้าไปเล่นกัน แค่เห็นที่มืดๆพร้อมเสียงกรีดร้องจากข้างในดังออกมาตรงหน้า ผมก็จะเป็นลมอยู่แล้วครับ! พี่อานนท์อยู่หน้าสุด ตามด้วยคารม ผม วาและเตยปิดท้าย เพราะเป็นตายร้ายดียังไงผมกับไอ้วาไม่ขอรั้งท้ายแล้วก็อยู่หน้าสุดเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่!


   ตลอดทางเดินมีสิ่งหนึ่งที่ผมจำได้ดีครับ คือ...พื้นมืดๆ เดินไปก็เกาะไหล่หนาๆของไอ้คารมที่อยู่ข้างหน้าไป มีตอนนึงผมลองทำใจกล้า เงยหน้าขึ้นมอง เห็นผีอยู่ดีๆก็โผล่มานี่ผมร้องเสียงหลงกระโดดกอดไอ้คารมแทบไม่ทัน แล้วผมก็ไม่เงยหน้าขึ้นอีกตลอดทางเลยครับ! ตอนออกมาได้ที่ทางออกนี่โล่งใจเป็นที่สุด หาไหนเลยจะเปรียบได้ ฮา...


   “ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่เลยเน๊อะ”เสียงใสๆของเตยพูดขึ้นในขณะที่นั่งพักกันข้างนอก ผมแทบจะสำลักน้ำแข็งออกมาให้รู้แล้วรู้รอด หน้าน่ารักๆตัวเล็กๆอย่างเตยที่ท่าทางจะกลัวผีมากที่สุด กลับเป็นคนที่ชอบเรื่องสยองขวัญที่สุดและเป็นคนใจกล้าที่สุดในกลุ่มครับ ผมสู้ได้แต่ความหล่อและส่วนสูง ฮา...


   “อืม นั่นสิ ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่”ไอ้วาพูดขึ้นมาบ้าง แต่ผมก็หันไปมองมันที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไอ้วาแหละครับ! ขวัญอ่อนที่สุดในกลุ่ม!


   “จะน่ากลัวได้ไง ก็มึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยเหอะ”พอผมพูดหน้ามันก็แดงแปร้ดในเวลาไม่ถึงวิเลยครับ น่าแกล้งจริงๆ


   “อย่ามาฮง มาเหอะเลยไอ้รัช มึงเองก็เอาหัวซุกหลังคารมตลอดเหมือนกันล่ะวะ!”มันว้ากขึ้นมาบ้างทำเอาผมต้องหยิบน้ำแข็งในแก้วน้ำขึ้นไปปามันแก้เขิน ไอ้บ้านี่ เสือกจับได้ซะงั้น อย่างว่าล่ะครับ ผมกับมันกลัวผีขึ้นสมองไม่ต่างกันเท่าไหร่นักหรอก ฮา... ไอ้ที่ซุกแผ่นหลังกว้างๆของคารมก็กำไรเล็กๆน้อยๆ... ล้อเล่นหรอกน่า!!!


   “มีเวลาเล่นได้อีกสองชั่วโมงกว่าๆ ว่าไงพวกเรา จะเล่นอะไรกันต่อ”พี่อานนท์ที่เงียบอยู่นานพลิกข้อมือดูเวลาแล้วเงยหน้าถามพวกผมที่กำลังเล่นปาน้ำแข็งกันอย่างจริงจัง เฉพาะผมกับไอ้วาครับ อีกสองคนนั่งมองอย่างเดียว ผมปาน้ำแข็งใส่ไอ้วาแล้วหยิบเข้าปากอีกก้อน ก่อนจะชูมือขึ้นโบกกลางอากาศหยอยๆ


   “ผมอยากเล่นรถบั๊ม!”รีเควสผมเองครับ เด็กเหรอ... อะไรอ่ะ! ทำไมอ่ะ! ก็ผมอยากเล่นนี่ เป็นวัยรุ่นก็เล่นได้เหมือนกันนะ! เล่นเสร็จผมจะได้เล่นไวกิ้งต่อไง!!


   “ผมอยากเล่นเมืองหิมะอ่ะ”เตยพูดแล้วแอบหันไปส่งสายตาปิ๊งๆให้พี่อานนท์... ชะหนอยแน่! หวานกันเกินหน้าเกินตามากไปแล้วนะ! น้องรัชอิจฉาว้อยยย!! …คนมีคู่ไม่รู้หรอก... เชอะ...


   “งั้นแยกกันไปเล่นละกัน เดี๋ยวเล่นเสร็จไปเจอกันที่เมืองเทพนิยายนะครับ จะได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน”คุณหนูวารีบพูดตัดบทก่อนที่ผมจะแหกปากแกล้งคู่รักเพียงคู่เดียวซะก่อน อิโด่... ไม่สนุกเลย แต่เอาเหอะ วันนี้ทั้งวันพี่เขาก็ตามใจพวกผมมามากล่ะ คิดได้งั้นผมเลยลากคอไอ้วากับรุนหลังไอ้คารมไปที่เครื่องเล่นเร็วๆ ระหว่างทางก็มีแวะเล่นอย่างอื่นบ้างอย่าง แรพเตอร์ กับรถไฟเหาะ พอเล่นรถบั๊มที่ผมอยากเล่นเสร็จไปสี่รอบก็ต่อด้วยไวกิ้งอีกรอบนึง น้อยเหรอครับ...


ก็ไอ้คุณหนูวามันหน้าซีดจะเป็นลมตอนเล่นเสร็จหนึ่งรอบพอดีน่ะสิครับ! ผมกับคารมก็เลยต้องนั่งพยาบาลมันก่อนจะเดินกลับ ท่าทางมันจะแพ้ของเล่นหวาดเสียวเพิ่มอีกอย่างแล้วครับ แต่พวกรถไฟเหาะก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนิ เอาเถอะ ผมให้มันนั่งซบไหล่แห้งๆของผมแล้วก็ยกกระดาษแผนที่ขึ้นพัดให้ ส่วนคารมวิ่งไปหาซื้อผ้าเย็นกับยาดมยังไม่กลับมาเลย


“มึงน่าจะปลาบปลื้มปิติยินดีนะไอ้วา อุส่าห์ได้ซบไหล่คนหล่อๆอย่างน้องรัชคนนี้”ผมเงยหน้าหัวเราะลั่น แหม่...ไม่ค่อยจะยกหางตัวเองเลยนะผม ไอ้วาที่พอจะมีแรงขึ้นบ้างก็โงหัวขึ้นมาจ้องหน้าผมนิ่งๆ


“หล่อตายอ่ะมึง ถ้าอย่างมึงเรียกว่าหล่อนะรัช วารุณคนนี้คงเป็น คีอานู รีฟ แล้วเหอะ”น่าน...จะเป็นลมแล้วยังไม่วายนะไอ้นี่ ผมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเบาๆอย่างขัดใจ พอดีกับที่คารมกลับมาพอดี ผมเลยแกะยาดมให้ไอ้วาถือ ส่วนคารมก็คลี่ผ้าเย็นแล้วเช็ดหน้าซีดๆของไอ้วาให้อย่างเบามือ


ทำไมอยู่ดีๆผมถึงรู้สึกฉุนกึกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุวะครับ... เห็นภาพไอ้คารมค่อยๆบรรจงเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าเพื่อนผมแล้วรู้สึกอย่างถีบมันขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเอามากๆ...ถ้าคนที่เป็นลมเป็นผมไม่ใช่ไอ้วา คารมมันจะเช็ดหน้าให้แบบนี้รึเปล่านะ...เอ้ยยยยย! ผมคิดอะไรอยู่วะครับเนี่ยยย!!


“วา มึงไหวป่ะวะ”ผมถามไอ้วาด้วยเสียงที่ขุ่นกว่าปกติ 5% ออกไป ร่างผอมสูงค่อยๆลุกขึ้น พอได้ยาดมหน้าที่ซีดเผือดของมันก็ค่อยมีสีเลือดขึ้นมาบ้าง ผมประคองวาให้เดินตรงๆไปเรื่อยๆ จนพอใกล้ถึง ไอ้วาที่หายซีดแล้วก็ดันวิ่งนำไปซะอย่างงั้น ทิ้งให้ผมกับคารมเดินตามอย่างเอื่อยเฉื่อย


   “วันนี้สนุกไหม”ผมอ้อมแอ้มถามเขา ที่เดินอยู่ข้างๆไม่ไกลกันเท่าไหร่ ทำไมผมถึงตื่นเต้นจังวะครับ! แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ทำใจดีสู้เสือครับ เงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้าหล่อๆของคารมที่ส่งยิ้มมาให้ผมชนิดที่ว่าถ้าผู้หญิงมาเห็นคงจะตกลงปลงใจในทันทีว่าจะให้มาเป็นพ่อของลูกในอนาคตเลยทีเดียว


แต่ผมก็ปั้นหน้านิ่งครับ ทั้งๆที่หัวใจเต้นดังมาก...แล้วอยู่ๆก็ดันรู้สึกเขินขึ้นมาจนต้องดึงสายตาออกจากใบหน้าหล่อๆนั่น แสร้งมองคนที่เดินสวนไปมาบ้าง ดูวิวบ้าง


   “อือ...สนุก เวลามันผ่านไปเร็วจังนะ”


ผมครางรับในคอเบาๆ และตาก็สะดุดกับไอ้วา ที่กวักมือเรียกผมอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ลิบๆ ไม่ทันได้คิดผมก็ดึงมือใหญ่ของคารมให้วิ่งไปหามันที่รออยู่อีกฟาก


   พอรู้ตัวผมก็อายสิครับ ปล่อยมือเขาแทบไม่ทัน... แต่ก็ทำเนียน เดินถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึกใจของเหล่าสาวๆต่อครับ ฮ่าๆ แต่ล่ะท่า เซอร์วิสสาวน้อยมากๆ คิดดูครับหนุ่มๆหล่อๆ5คนมายืนถ่ายรูปทำท่าเท่ๆ แอ๊บแบ๊วบ้าง เซะกุซี่บ้าง สาวที่ไหนมาเห็นก็คงอดใจไม่ไหวหรอกครับ ฮ่าๆๆ ถ่ายอย่างมันส์มือ ทั้งกล้องผม กล้องพี่อานนท์ ฝากคนนั้นถ่ายบ้างคนนี้ถ่ายบ้าง แต่ผมพยายามไม่เข้าไปถ่ายคู่ หรือยืนข้างๆคารม เพราะตอนนี้ แค่เห็นหน้าหล่อๆของมัน ผมก็ตื่นเต้นขึ้นมาซะอย่างงั้น...


   “เฮ้ย ยังไม่มีรูปคู่มึงสองคนเลยนี่หว่า ไปยืนตรงนั้นดิ๊”คุณหนูวาชี้มือสั่งให้ผมลงไปยืนอยู่ในปากของรูปปั้นยักษ์กับไอ้คารมหลังจากที่มันยืนดูรูปในกล้องของผม เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกไปใช่มั้ยครับ...ว่าผมไม่ค่อยอยากยืนอยู่ใกล้มัน พอคารมหันหน้ามาเห็นผมเท่านั้นแหละ ยิ้มกว้างรับเชียว...เอ้อ...ผมไม่เคยรู้สึกอยากวิ่งหนีใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต! แต่ ด้วยสปิริทที่มีอยู่ ผมจะต้องไม่เผยอาการอะไรออกไปให้มันเห็น! เพราะงั้นผมก็เลยส่งยิ้มกลับไป แล้วก็เข้าไปยืนข้างๆคนตัวสูงใหญ่ที่ยังยิ้มร่าไม่กลัวเหงือกแห้งอยู่ในปากยักษ์


   “ขยับชิดๆกันหน่อยสิวะ”อ่ะเหรอ...สงสัยผมเว้นระยะห่างเยอะไป กระดึ๊บเขยิบเข้าไปหนึ่งก้าว แขนผมก็ชิดกับเขา


   “เข้าไปอีก”…ห๊ะ ยังชิดไม่พออีกเหรอวะ ผมขมวดคิ้วแต่ก็ขยับเข้าไปอีกนิดนึง คราวนี้ผมก็เบียดเข้ากับคารมมากกว่าเดิม


   “อีกก!”


   “โว้ยย! ไอ้วา ชิดกว่านี้ไม่ให้กูขี่คารมแม่งเลยล่ะ!”ผมส่งเสียงด่ากลับไป แต่มันดันขำกลับมา ถึงอย่างงั้นผมก็ขยับขึ้นไปยืนเยื้องๆข้างหน้าคนที่ตัวสูงกว่านิดหน่อย แล้วก็ขยับเข้าไปให้ตัวซ้อนกัน คารมพาดแขนมันเข้ากับไหล่ของผมแล้วก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ๆ จนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่ข้างแก้ม ผมชะงักเล็กน้อย เอิ่ม...ถ้าผมหนีเขาจะหาว่าผมรังเกียจเขามั้ยอ่ะ...ยอมอยู่เฉยๆสักพักก็ได้มั้ง


   “เฮ้ย เสร็จแล้ว กลับบ้านกันเหอะ”ในที่สุด... ผมตั้งท่าจะวิ่งไปหาไอ้วา อย่างแรกเพราะไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้เพื่อนจากเชียงรายคนนี้เท่าไหร่ และอย่างที่สองจะได้ไปเอากล้องของผมด้วย แต่มือใหญ่ๆของคนข้างหลังกลับดึงรั้งมือผมเอาไว้ ฉากนี้มันคุ้นๆนะว่ามั้ย เหมือนผมจะเคยเจอมาก่อนรึเปล่าหว่า...


   “มีไร”ผมถามออกไปอย่างค่อนข้างจะตื่นเต้น อยากวิ่งหนีมันใจจะขาด แต่จะสะบัดมือมันทิ้งก็ไม่ได้ ใครก็ได้ ซักคนครับ ช่วยผมที...ฮืออ....


   “เปล่าๆ...โทษที”มันหัวเราะแห้งๆแล้วปล่อยมือผม ในที่สุด!! ผมก็วิ่งไปเกาะหนึบกับไอ้วาจนได้ และตลอดทางขากลับไปถึงบ้าน ผมหลบสายตาของคารมตลอด และหนีไปนั่งง้องแง้งทำเป็นดูรูปกับไอ้วาแทน


   พอถึงบ้านผมก็รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำเป็นคนแรก แต่จริงๆก็แค่อยากขังตัวเองให้อยู่เงียบๆเท่านั้นล่ะครับ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกโคตรๆแล้วยกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเอง หัวใจผมเต้นตุบๆ...ตุบๆ แรงมาก


หรืออันที่จริงตอนที่ผมบอกว่าผมไม่ได้ชอบมัน ไม่ได้คิดอะไรกับมัน ผมแค่หลอกตัวเองเพราะไม่อยากเจอปัญหาที่ตามมาข้างหลัง... นึกถึงหน้ามันแล้วมันหวั่นไหวจังครับ


อ้ากกกกกกกกกกกกกก!!!


แล้ว ผมจะทำยังไงต่อไปดีเนี่ยยยยย!?!



------------------------------------------------

พรุ่งนี้เจอกันค่ะ อีก3ตอน+ตอนพิเศษ1ตอน

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai5:


----------------------

วันศุกร์

   เมื่อคืนไอ้วาโทรมาบอกผมว่าวันนี้มันจะมาเล่นที่บ้านตอนสายๆหน่อย ผมก็ยินดีครับ ดีซะอีก ผมล่ะอยากวิ่งหนีคารมทุกครั้งที่มันเอาหน้าหล่อๆของมันยื่นเข้ามาใกล้ๆ หรือไม่ว่าเวลามันยิ้มให้ผม ไม่ว่ามันจะนั่งอยู่ใกล้ๆเฉยๆ ไม่ว่ามันจะพูดด้วย! ผมจะรู้สึกโคตรเขินจนอยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหันไปเล่นเกมแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งน้านน ไม่มีอะไรเล้ยยย!


น้องรัชสุดหล่ออยากจะบ้าาา ทำไมผมถึงมีอาการเหมือนสาวน้อยแรกแย้มในการ์ตูนเล่มล่ะสามสิบห้าบาทไปได้ อ้ากกก คิดแล้วปวดหัว! กลิ้งดีกว่า...กลิ้ง กุหลุก กุหลุก กุหลุก...


   “รัช...ทำไรอยู่อ่ะ”ชะ...เสียงนั่น ผมหยุดกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟาตัวโปรด แล้วมองมันตาปริบๆ มันก็มองผมตาปริบๆ ผมค่อยๆเลื่อนหมอนขึ้นมาปิดใบหน้าที่คงจะแดงเถือกแน่ๆของผม ในเมื่อผมไม่เห็นมัน มันคงไม่เห็นผมเหมือนกัน! เอาเป็นว่า...ผมไม่เห็นมันก็พอแล้วละกัน


   ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อน้ำหนักเบาะตรงปลายเท้ายวบลง และก็กระตุกเฮือก เมื่อมือใหญ่ๆของมันวางลงบนท่อนขาของผม
   “เล่นอะไรอยู่วะ”เสียงมันดังขึ้นใกล้ๆ ผมจำเป็นต้องกลั้นใจเลื่อนหมอนที่ยกขึ้นปิดหน้าลง...อย่างช้าๆ...แต่...


   อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ผมกรีดร้องโหยหวน แต่แค่ในใจนะครับ ออกมาดังลั่น ทำไมต้องเอาหน้าของแกเข้ามาใกล้ๆชั้นด้วยวะ!?!


   “เล่น...เล่นซ่อนตาดำ!”ผมส่งเสียงอู้อี้เพราะหมอนบังปากอยู่แล้วก็เลื่อนหมอนขึ้นมาปิดหน้าใหม่อีกครั้งอย่างไม่ต้องคิดเลย ได้ยินเสียงทุ้มๆนั่นหัวเราะเบาๆแล้วอยากลุกขึ้นไปถีบมันจังครับ...ถ้าไม่ติดว่าผมเห็นหน้ามันแล้วจะเกิดอาการอยากวิ่งมาราธอนขึ้นมากะทันหันล่ะก็นะ...


   “เอาดีๆดิ เล่นอะไรอยู่”


   “ก็บอกว่าเล่นซ่อนตาดำอยู่! คารมไม่ซ่อน นายแพ้ เราเล่นต่อล่ะนะ”ผมโวยวายด้วยเสียงอู้อี้ๆบอกมันออกไป ไม่ยอมลดหมอนที่บังหน้าลง แต่ได้ยินเสียงมันถอนลมหายใจผมก็รู้สึกมืออ่อนขึ้นมาซะอย่างนั้น


   “เป็นไรอ่ะรัช มาคุยกันดีๆดิ”มันพูดแล้วก็ค่อยๆยื่นมือเข้ามาดึงหมอนที่ผมยกขึ้นมาปิดหน้าลง น่าแปลกที่ผมก็ยอมให้มันดึงลงง่ายๆ พอมันเห็นหน้าผมก็ทำหน้าหล่อใส่อีก ไอ้นี่ ก็บอกว่า!...ยังไม่ได้บอก แต่ชั้นเขินหน้าแกว้อย...


พอถูกมองเงียบๆในระยะประชิดแบบนี้ ผมก็ไม่กล้าขยับสิครับ ได้แต่กลั้นใจมองหน้าคารมที่ยื่นเข้ามาใกล้ และจ้องมองผมนิ่งๆ ผมที่หัวใจเต้นตึกตักๆก็ได้แต่ตัวแข็ง จ้องตอบเข้าไปในดวงตาสองชั้นสีดำขลับที่ส่งตรงมาหาผม


   “รัช....เรา.......”มันพึมพำขึ้นมาเบาๆในขณะที่ค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมก็สติแตกสิครับ แต่ขยับตัวไปไหนก็ไม่ได้ จะหลับตาหนีก็ไม่กล้า อีกฝั่งก็ไม่กระพริบตาเลย


   กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง....!!


   ตอนที่ปลายจมูกเราแตะกัน เสียงออดบ้านผมก็แหกปากลั่นขึ้นมา ผมสะดุ้งแล้วรีบเบี่ยงตัวออกไปดู ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ผมรู้สึกโคตรจะขอบพระคุณคนๆนั้นมากมายเลยครับ...เกือบไปแล้วมั้ยล่ะไอ้รัช พอเดินไปถึงประตูหน้าบ้านก็รู้ว่าคนๆนั้นที่มากดกริ่งช่วยชีวิตผมก็คือไอ้วาเองครับ


   “รัช ไมมึงหน้าแดงจังวะ...”ผมงับประตูบ้านปิดไว้ แต่ไม่ได้ลงล๊อคเหมือนตอนแรก แล้วพามันเดินเข้าไปในบ้าน พอมันเห็นหน้าผมชัดๆก็ดึงไหล่ผมเอาไว้แล้วจับโน่นจับนี่


   “เหรอ...แดงมากปะวะ”ผมรู้สึกลอยๆมากเลยครับ พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกี้แล้ว... หน้าหล่อๆคมๆค่อยๆโน้มลงมาหาผม สายตาของเราประสานกัน ไม่กล้าแม้จะกระพริบตาแบบนั้น


   “เออ แดง เป็นไข้ปะวะ ไหนดูแผลหน่อยดิ๊”วาจับหน้าผมให้เงยขึ้นผมก็อ้าปากแลบลิ้นออกมาให้มันดู จริงๆก็ยังระบมอยู่นิดหน่อย แต่ไม่เจ็บเท่าเมื่อวานแล้ว มันทำหน้าแหยเมื่อเห็นแผลที่ลิ้นของผม


   “อ่าว วา หวัดดี”คารมยื่นหน้าออกมาจากประตูบ้านแล้วถาม เรียกความสนใจของผมสองคนให้หันกลับไปมอง มันส่งยิ้มให้วาที่ยักไหล่แทนคำตอบ แต่สายตามันกลับมองมาที่ผม แบบ...เย็นๆ... แล้วมันก็เดินเข้ามา เชยคางผมให้เงยขึ้นแล้วยื่นหน้าเข้ามา


   “วันนี้ยังไม่ได้ทายาให้เลย ดูแผลหน่อยรัช”คารมพูดด้วยเสียงทุ้มๆแล้วก็ส่งยิ้มหวานให้ผมที่สติแตกอีกรอบ คราวนี้ผมไม่ยักกะตัวแข็ง ผมหลบสายตาที่จ้องตรงมาแล้วค่อยๆกระเถิบหนี แต่มันก็รู้ทัน เอามือโอบหลังผมไว้หลวมๆ...ไอ้บ้าเอ้ย! อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!  ผมทนไม่ไหวแล้วครับ!!


   “วา...เดี๋ยวกูออกไปซื้อขนมก่อน มึง...มึงอยู่กับมันไปก่อนนะ”ผมบิดตัวออกแล้ววิ่งออกนอกบ้านทันที แต่ก็ไม่ลืมตะโกนบอกไอ้วาด้วย เดี๋ยวมันจะงง


   อ้ากกกกก! ว้ากกกกกกก! ไม่ไหวแล้วว้อยย! ไอ้บ้าเอ้ยยย! เอาหน้าเข้ามาใกล้ๆทำไมวะ!



คนมัน...



คนมันอายนะโว้ยยยย!!



   ผมแหกปากโวยวายในความคิดของตัวเองแล้วออกวิ่งเต็มแรงไปไม่หยุด พอคิดว่ามาไกลได้พอสมควรก็เดินเข้าไปในสวนสาธารณะแถวบ้าน นั่งลงบนม้านั่งไม้ตัวยาว แล้วหอบหายใจ แฮ่กๆ หยั่งกะหมาหอบแดด ผมหันมองซ้าย แลขวา ไม่มีคนซักคน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงถึงแดดจะเปรี้ยงๆแต่ในสวนนี้ต้นไม้ก็เยอะพอจะให้ร่มเงาและกันแดดไม่ให้ตกลงมาถึงพื้นลาดยางอย่างน้อยตรงที่ผมนั่งอยู่แดดมันก็ตกลงมาไม่ถึงอ่ะนะ


   ผมที่เหนื่อยหอบยกมือขึ้นปาดเหงื่อออกลวกๆแล้วก็จับหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองดู คารมมันต้องเห็นผมหน้าแดงแน่ๆ มันถึงได้แกล้งผม! เอ๊ะ...แต่ ผมต่างหากทำไมสองวันมานี้ถึงได้ตื่นเต้น เขิน อายเพื่อนตัวเองจนทำอะไรแปลกๆออกไปก็ไม่รู้แฮะ...


มันแหละผิด! ไอ้คารมแหละผิด! ผิดที่มันใจดีเกินไป! อ่อนโยนเกินไป! หล่อเกินไป! ตรงสเปคผมเกินไป! เป็นคนที่ผมชอบเกินไป...


   ผมยอมรับแล้วก็ได้ว่าผมชอบมัน! ให้ตายเถอะครับ...ไม่งั้นผมคงไม่อายจนวิ่งออกมาอย่างนี้หรอก เมื่อก่อนจำได้ ว่าตอนมีเด็กผู้หญิงมาจีบ แรกๆผมจะอาย แล้วผมจะวิ่งหนีไปเลย วิ่งไปเรื่อยๆ หาที่ๆเงียบๆแล้วก็นั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองแบบนี้ แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ผมก็ไม่วิ่งหนีเด็กผู้หญิงที่มาสารภาพรักกับผมอีกเลยนะ


   เอ้อ มีตอนที่ผมเคยแอบชอบรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง...ผมก็วิ่งหนีเหมือนตอนนี้แหละครับ ถ้าพี่เขายิ้มให้ หรือมองมาทางผม อาจจะไม่ได้ยิ้มไม่ได้มองผมก็ได้ แต่ผมเหมาว่าเป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน พอเห็นสายตาที่มองมาของรุ่นพี่ และรอยยิ้ม กับหน้าตาที่ผมก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าเป็นยังไงทำไมผมถึงชอบ จำได้แต่ผมจะหันกลับหลังแล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ไปซ่อนที่...ห้องน้ำชาย เยี่ยมไปเลยล่ะสิท่า วิ่งหนีคนที่แอบชอบไปซ่อนในห้องน้ำชาย เหอๆ


   ผมยกเท้าขึ้นมาชันเข่าแล้วเอาคางเกย ถอนหายใจคนเดียวเงียบๆ นึกถึงหน้าหล่อๆของคารม กับรอยยิ้มอ่อนโยนของมัน ใจผมก็หวั่นไหว อ้าา...เหลือเวลาอีกตั้งสองวันกว่ามันจะกลับ แล้วอีแบบนี้ผมจะมีหน้าไปมองหน้ามันได้ยังไงล่ะครับ ทนมองหน้ามันได้อย่างมากก็ไม่เกินห้านาทีเท่านั้นแหละ ไม่งั้นผมคงจะหัวใจวายตาย ไม่ก็ขาดออกซิเจนตายก่อนแน่ๆ เพราะเวลามันยื่นหน้าเข้ามา หรือเข้ามาใกล้ๆผมจะเผลอกลั้นหายใจเอาซะทุกทีเลยอ่ะ


ถ้าอยู่ที่บ้านด้วยกันคงจะอึดอัดแย่ เพราะผมค่อนข้างจะแน่ใจนะ ว่าคารมมันไม่ได้เป็นเหมือนผม ที่มันทำดีด้วยก็คงเพราะนิสัยที่มีแต่เดิม ผมต่างหากที่บ้า ดันตกหลุมรักมันเพราะความอ่อนโยน ใจดีนั่น 


แล้วผมก็ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมชอบมัน เดี๋ยวมันจะรังเกียจผม เหมือนตอนม.ต้นที่เพื่อนสนิทที่สุดของผมรู้ แล้วมันก็ตีตัวออกห่างจากผม ยังด่าผมว่า ‘ไอ้ตุ๊ด’ ด้วย ตอนนั้นกว่าจะเรียนผ่านมาได้ทรมานแทบตาย พอขึ้นม.ปลายย้ายโรงเรียนใหม่ ผมก็ไม่เคยทำพิรุจออกไปให้ใครรู้อีกเลย


ยกเว้นเพื่อนที่ถึงจะรู้ว่าผมเป็นยังไงก็ไม่รังเกียจกัน เหมือนเตย วา กับภาคิน


ไอ้คุณหนูวาก็โคตรเพล์บอย เป็นBisexual ด้วยเลยไม่คิดมาก ไอ้ภาคินจนบัดนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามันยังไงกันแน่ แต่คงเป็นเพราะมันต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง และต้องเรียนหนักเพราะใช้ทุน เลยไม่มีเวลามาสนใจเรื่องความรักเท่าไหร่ ส่วนเตยเป็นคนดีมาก และเป็นเพื่อนกับวามาก่อนหน้าผมอยู่แล้ว ก็เลยค่อนข้างไว้ใจ


แต่ผมก็ไม่ได้ประกาศตัวเองออกไปให้พวกมันรู้หรอกนะครับ แค่ตอนที่พวกมันถามว่าทำไมถึงไม่รับรักเด็กผู้หญิงเลยสักคน ผมก็แค่บอกมันไปว่า ผมไม่ชอบเด็กผู้หญิง พวกมันก็ไม่ว่าอะไร


ผมคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยเป็นตุเป็นตะมาก แต่ในที่สุดก็วกกลับมาเรื่องเก่า ว่าผมจะทำยังไงกับคารมมันดี เดี๋ยวคืนนี้ลองโทรถามไอ้วาดูดีกว่า ตอนนี้มันก็อยู่ด้วยกัน คงได้คุยอะไรกันเยอะอยู่แหล่ะ ผมเองก็จะพยายามทำตัวเหมือนเดิมกับคารมมันก็แล้วกัน คุยเล่นไม่คิดอะไร แค่พยายามไม่ต้องสนใจรอยยิ้มกับสายตาของมัน และก็ระวังเรื่องระยะห่างก็คงจะพอถูไถไปได้ แต่งี้ความรักของผมก็จบลงอย่างรวดเร็วอีกแล้วสิ อกหักแล้วสิครับ รวดเร็วจริงๆเลย...ฮะๆๆ......


เฮ้อ...ผมหายสติแตกแล้วแหละ คิดว่าถ้าเจอหน้าคารมตอนนี้คงไม่วิ่งหนีออกมาอีกแล้วล่ะมั้ง ถึงจะอยากวิ่งก็ต้องอดทน จะว่าไปแล้วผมบอกไอ้วาว่าจะออกมาซื้อของใช่มั้ยครับ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวอยู่ซักสลึงเดียว คงต้องกลับไปมือเปล่าแล้วล่ะ ผมถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นออกจากกางเกงขาสั้น ก่อนจะค่อยๆเดินมุ่งหน้ากลับบ้านพร้อมกับความตั้งใจที่จะไม่บอกหรือแสดงอาการอะไรให้เพื่อนผมได้รับรู้ว่าผมชอบเขา


พอถึงหน้าบ้านผมก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆแล้วก็เดินเข้าบ้านไปแบบไม่มีอาการแตกตื่นอะไร


“กลับมาแล้วเหรอวะ ละขนมอ่ะ”เสียงไอ้วาดังมาเป็นคนแรก พวกมันสองคนกำลังอยู่ที่หน้าจอทีวีกำลังเล่นเกมกันอยู่ ผมเดินไปหยิบแก้วน้ำเย็นแล้วไปนั่งบนโซฟาตัวยาวคนละฟากกับคารม ไอ้วามันชอบนั่งกับพื้นพรมกำลังสนใจกับตัวละครที่มันเลือกเล่นในจอแก้วอย่างจริงจัง


“ลืมหยิบกระเป๋าตังไปด้วยว่ะ โทษที ละอยากกินไรปะล่ะ เดี๋ยวออกไปซื้อให้ใหม่”


“เฮ้ย ไม่ต้องหรอก แดดร้อนจะตายห่า อยู่ห้องแอร์เย็นๆงี้แหละ ดีแล้ว”วาพูดโดยไม่ละสายตาไปจากจอทีวีเลยแม้แต่น้อย ผมนั่งมองมันสองคนเล่นเกมวิ่งแข่งอย่างเงียบๆ


“แล้วทำไมไปนานจังอ่ะ ร้านอยู่ไกลมากเหรอ”ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคารมถาม ผมหัวเราะเบาๆแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม


“เปล่าๆ ร้านอยู่ไม่ไกลหรอก แต่ไปเดินเล่นมา”ผมตอบแบบเกร็งๆ พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติไม่สั่น ไม่มีพิรุจผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนมากอดไว้ แย่จริง... ทั้งๆที่คิดว่าจะทำเป็นปกติได้ แต่คงยากเกินไป แค่ได้ยินเสียงเขาผมก็ใจเต้นแล้ว


“เออ แล้วยาอยู่ไหนอ่ะ”ผมลุกขึ้นยืนพร้อมแก้วน้ำที่ว่างเปล่า พอกินน้ำเข้าไปแล้วมันเจ็บแผลจี๊ดๆ ก็นึกได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้โปะขี้ผึ้ง คนที่เอาไปเก็บคือคารม เพราะงั้น ผมเลยต้องถามมันว่าอยู่ที่ไหน


“รอแปปนึงนะรัช เดี๋ยวทาให้”


“เฮ้ย อย่าเลย เล่นไปเหอะ ทาเองได้”ตลกสิครับ ขืนให้มันทาให้มีหวังผมได้วิ่งรอบหมู่บ้านเล่นอีกซักรอบแหงมๆ แล้วความตั้งใจของผมก็คงจะสูญเปล่า เพราะอยู่ดีๆผมวิ่งหนีมันอย่างงั้น มันก็คงรู้แล้วว่าผมต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ


“งั้นเหรอ ถ้างั้นยาก็อยู่ในตู้เย็นอ่ะ ข้างฝา”ผมส่งเสียงรับนิดหน่อยแล้วเดินไปที่ตู้เย็น พอหายาเจอก็ไปที่หน้ากระจก แต่...มันไม่ได้อยู่ในจุดที่ผมจะทาเองได้อ่ะดิ แผลอยู่ไหนวะ! มองไม่เห็น!!!


“ทำไรอยู่วะรัช ยังทายาไม่เสร็จอีกเหรอ”เสียงไอ้วาครับ สวรรค์โปรด ผมยืนแลบลิ้นตัวเองมาเกือบสิบนาทีจนเหมือนคนเป็นง่อยไม่มีกรามแล้วเนี่ย!


“บอกแล้วไม่เชื่อ มา เดี๋ยวเราทาให้”คารมเดินมาจากข้างหลังวามาหยุดอยู่ข้างๆผม


“เฮ้ย...อย่าเลย เชี่ยวา มึงมาทาให้กูทีดิ๊”เอ่อ...ตายโหงแล้ว ผมมีพิรุจมากไปเปล่าวะ ปฏิเสธแบบทันทีทันควันเลย ผมยื่นยาให้ไอ้วาที่ทำหน้าขำๆประหลาดๆแล้วหันกลับมาฉีกยิ้ม ที่ผมมั่นใจว่าโคตรหวานให้คารม


“ก็มือนายใหญ่อ่ะ เดี๋ยวปากเราแหก”ผมหัวเราะให้มัน แต่อันที่จริง เมื่อคืนมันก็เป็นคนทายาให้ผมแหละครับ...โคตรมีพิรุจ ตายแน่ไอ้รัชวิณย์เอ้ย แต่ผมก็ทำเนียนกลบเกลื่อน ไล่ไอ้วาไปล้างมือแล้วมานั่งรอที่โซฟา พร้อมคอยหลบสายตาจับผิดของคารมด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ...ผมจะเก็บความลับไว้ได้นานจนถึงวันที่มันกลับบ้านได้มั้ยล่ะครับเนี่ยย!?!



--------------------------

 :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เกือบจะลืมไปแล้วนะคะเนี่ย OTL

----------------------------------

วันเสาร์


   เช้านี้ผมทำเป็นตื่นสายกว่าปกติ จะได้ไม่ต้องไปเจอหน้าคารมมันเร็วๆ ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงหลายชั่วโมงมาก หลับแล้วหลับอีกจนจะเที่ยงอยู่แล้ว ก็เลยจำใจ ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปหาข้าวเที่ยงกินข้างล่าง วันนี้ผมไม่มีแพลนอะไรทั้งสิ้น พรุ่งนี้เป็นวันที่มันจะอยู่เป็นวันสุดท้ายเดี๋ยววันจันทร์ คารมมันก็กลับแล้ว ภาวนาอย่าให้ความแตกก่อนเลยครับ สาาาธุ!


   “ตื่นแล้วเหรอ ทำไมตื่นสายจังอ่ะวันนี้”งามไส้....คารมมันนั่งกินข้าวอยู่พอดี ผมฉีกยิ้มให้มันแล้วนั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ ห่างๆแหละดี


   “ไม่รู้ดิ อยู่ๆก็รู้สึกขี้เกียจขึ้นมาก็เลยไม่อยากลุกจากเตียงอ่ะ”ผมก้มลงมองข้าวมันไก่ในจาน เขี่ยไปเขี่ยมาก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากิน ไม่เงยหน้ามอง อย่าเงยหน้ามอง คารมมันต้องมองผมอยู่แน่ๆ เพราะงั้น รีบกิน รีบขึ้นไปเล่นคอมดีกว่า ผมบอกตัวเองแล้วก็ก้มหน้ากินข้าว ไม่เงยหน้ามองมัน แต่รู้มั้ยครับ การทำแบบนั้นมันโคตรเมื่อยคออ่ะ


   “รัช มาทายาก่อนดิ”ตอนที่ผมกินเสร็จแล้วจะลุกขึ้นเอาจานไปวางที่อ่างล้างคารมก็พูดดักขึ้นมา จริงสิ แผลที่ลิ้นผมยังไม่ได้โปะขี้ผึ้งเลยวันนี้ เฮ้อ... เอาวะ เอาไงเอากัน ผมหันกลับไปนั่งรออย่างเจี๋ยมเจี้ยมมาก มองหน้ามันที่ส่งยิ้มมาให้ก็ยิ้มแหะๆตอบให้มัน แล้วก็นั่งมองนั่นมองนี่ไปเรื่อย รอคารมกินข้าวเสร็จก่อน อันที่จริงถ้าผมทาเองได้คงไม่ต้องพึ่งมันหรอกครับ แต่ช่วยไม่ได้นี่นะ...


   “อ้าปากสิ”สายตามันช่างเคลือบแคลงใจในตัวกระผมยิ่งนัก ว้อยย! ถ้าทำได้ชั้นก็ไม่อยากมีพิรุจออกไปให้แกเห็นหรอก! ผมยู่ปากนิดนึงแล้วเงยหน้าอ้าปากแลบลิ้นให้มัน โห่ย ผมงี้ไม่รู้จะเอาสายตาไปไว้ตรงไหนเลยหลับตาลง


   “อีกสองสามวันก็หายแล้วมั้ง”คารมพึมพำเบาๆแล้วจับหน้าผมเอียงนิดนึง แล้วนิ้วมันก็ป้ายยาลงมา...แรงมาก ผมงี้สะดุ้งโหยงเลยทีเดียว


   “เจ็บ!!”ผมยู่หน้า มองไอ้หน้าหล่อๆที่เหรอหราของมันอย่างแค้นเคืองใจ


   “ขอโทษๆ หนักมือไปหน่อย มาดูหน่อย เป็นไรมากเปล่า”ไม่หน่อยแล้วเอ็ง น้ำตาเล็ดเลยนะ แต่ถึงงั้นผมก็อ้าปากให้มันดูดีๆ เสร็จแล้วก็วิ่งฉิวหนีขึ้นห้องไปเล่นคอม ทิ้งให้มันอยู่ข้างล่าง มันคงไม่ขึ้นมาตามผมหรอกนะ


   “รัช...คุยอะไรด้วยหน่อยดิ”แต่มันตามผมมาครับ อะไรหนักหนาวะ คนเค้าอุส่าห์หลบ ยังจะตามมาอีก ผมลอบถอนหายใจเบาๆ หันหลังกลับไปฉีกยิ้มให้มัน แล้วหมุนตัวกลับเข้าหาคอมต่อ แสร้งเปิดเวปโน่นเวปนี่ไปเรื่อยๆ แต่มีมือจากข้างหลังมาหมุนเก้าอี้ผมกลับซะงั้น ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แล้วตีหน้าบึ้ง


   “มีไรว่ามา”


   “ทำไมช่วงนี้ทำตัวแปลกๆอ่ะ”น่าน...จับไต๋ผมได้แล้วชัวร์เลย ไม่นะ...


   “แปลกไงอ่ะ ก็เหมือนเดิม ปกติ”


   “ไม่อ่ะ ปกติเวลาคุยกันนายจะไม่หลบตา แล้วปกติไม่ได้ทำท่าไม่อยากคุยกับเราเหมือนตอนนี้ เป็นไรวะ เราทำอะไรไม่ดี ให้นายไม่พอใจรึเปล่า”เอ่อ...มันจับได้แล้วแหละครับ แต่ผมทำตัวไม่เนียนขนาดนั้นเลยเหรออ่ะ...นัยน์ตาสีดำที่จ้องตรงมาที่ผมนั้นออกจะเศร้าสร้อยอยู่ในที ทำเอาหัวใจผมกระตุกวูบจนต้องดึงสายตาออกจากหน้าของเขา แล้วหลุบลงต่ำ


   “เปล่า...”


   “งั้นทำไมวะ รึว่าอยู่ๆก็เกิดรังเกียจคนบ้านนอกอย่างเราขึ้นมา”น้ำเสียงที่กล่าวโทษตัวเอง เสียดสีและประชดประชันนั่นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นพรวดพร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่น


   “ไม่ใช่!”ผมกระแทกเสียงใส่คารม ไม่ชอบเลย ที่เห็นเขามาดูถูกตัวเอง เพราะผม...


   “งั้นอะไร! ทำไม! ก็บอกมาสิ!”เสียงทุ้มกระชากห้วน จนเกือบเหมือนตวาด นั่นทำให้ผมฉุนขึ้นมา ทำไมต้องอยากรู้อะไรขนาดนั้น! ไม่รู้ซักเรื่องมันจะเป็นอะไรวะ!


   “แล้วทำไมต้องบอกด้วยวะ! มึงอยากรู้จริงๆใช่ป่ะ ตอนนี้กูไม่อยากเห็นหน้ามึง ออกไปได้แล้ว!!”ผมตะโกนใส่หน้าเขา ทั้งๆที่ปวดใจมาก แล้วลุกพรวดขึ้น ผลักแผ่นอกหนาๆเต็มแรงด้วยความขุ่นเคือง จนเขาร่นถอยไปถึงหน้าประตู


   “...รัช เดี๋ยวก่อน...คือ เราไม่ได้ตั้งใจ ฟังก่อนสิ!”เขาพยายามยื้อจะผลักประตูเขามา แต่ผมไวกว่า ใช้แรงทั้งหมดที่มี กระแทกประตูปิดลงแล้วล๊อคกลอน เสียงประตูกระแทกปิดดังสนั่นก้องอยู่ในหัวผม อยู่ๆเรี่ยวแรงก็หายไปหมดเฉยๆ ผมหอบหายใจน้อยๆ ก็เมื่อกี้ใช้แรงไปเกือบทั้งหมดที่มีนี่นะ ผมค่อยๆไถลตัวเองลงนั่งกับพื้น ลมหายสั่นสะท้านพรั่งพรูออกมา


   ผมกำลังสะอื้น...ผมกำลังร้องไห้ ให้กับความงี่เง่าของตัวผมเอง โพรงจมูกแสบร้อนไปหมด แล้วแก้มผมก็รู้สึกได้ถึง หยาดน้ำอุ่นๆ ค่อยๆหยดลงมาจนอาบหน้า ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ในอกปวดไปหมด เจ็บ เจ็บกว่าตอนที่กัดลิ้นตัวเองจนเลือดสาดซะอีก ทำไมผมต้องชอบคารม เขาเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดีแท้ๆ


   “โว้ยยย!”ผมกัดฟันคำรามลั่นก่อนจะกำหมัดแน่นแล้วต่อยไปที่ประตูสุดแรง ความเจ็บแปลบสะท้อนกลับเข้ามาในทันที แต่มันเทียบกับในใจผมไม่ได้เลย ไม่ได้แม้แต่น้อย ผมไม่ได้อยากทะเลาะกับเขาแท้ๆ เขาต้องรังเกียจผมแล้วเลิกคบผมเป็นเพื่อนแน่ๆ ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้นะ....ผมเจ็บมากเหลือเกิน...ถ้ามีวิธีไหน จะทำให้ผมตัดใจได้ ผมจะทำอย่างที่ไม่ต้องคิดเลย ขอแค่ผมกับเขากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม


   ขอแค่...เขาไม่รังเกียจผม...ที่ผมเป็นแบบนี้ แค่นั้น อย่างเดียวที่ผมต้องการเพียงเท่านี้เอง ผมไม่อยากหวังให้เขามารัก เพราะรู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ แต่...อย่างน้อย ผมจะลองบอกความรู้สึกของผมให้เขาได้รู้ ทั้งเขาและผมจะได้ไม่คาใจ แต่ตอนนี้ ผมขอทำใจก่อนแล้วกัน


   ทุกคืนคารมจะนอนห้องผมแต่คืนนี้ ตอนนี้ไม่ว่ายังไงผมก็ยังไม่อยากเห็นหน้าเขา เพราะถ้าเห็นผมคงร้องไห้ออกไปอีก หรือไม่ก็ต้องหลบหน้าเขา เพราะงั้น หลังจากที่ผมเงี่ยหูฟังที่ประตูจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอก ผมก็ขนหมอนกับผ้าห่มหนาๆออกไปวางไว้หน้าห้องให้เขา พร้อมโน้ตสั้นๆแปะไว้ด้านบนว่าผมขอโทษ


   แล้วผมก็กลับเข้ามาในห้อง นอนไม่หลับเพราะความกังวลใจคิดไปเองต่างๆนาๆว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากผมสารภาพความในใจออกไป บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไรไม่ว่าอะไรเหมือนตอนที่พวกไอ้วารู้ว่าผมไม่ได้ชอบเด็กผู้หญิงก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีเหมือนกันนะ....


----------------------------

เดี๋ยวต่อวันอาทิตย์ช่วงเช้าให้ด้วยเลยนะคะ เพราะของวันเสาร์มันสั้น  :o8:

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

วันอาทิตย์

ตอนเช้า

   เช้าแล้วแต่ผมก็ได้เพียงแค่หลับๆตื่นๆ ตอนนี้ผมนอนปวดหัวอยู่บนเตียง คงเพราะเมื่อคืนร้องไห้หนักไปหน่อย ตาผมคงบวมตุ่ยแน่เลย ผมถอนหายใจเฮือกพลิกตัวหันหลังให้กับประตูแล้วหลับตาลงอีกครั้ง


   เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมเสียงทุ้มที่เรียกชื่อผมไม่ดังนัก


   “รัช...ตื่นอยู่รึเปล่า”เขาส่งเสียงถามผมเข้ามาแต่ผมก็เงียบ วันนี้แล้วที่เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะอยู่กับผม พรุ่งนี้เขาก็ต้องกลับไปที่บ้านที่เชียงรายแล้วสินะ ได้ยินเสียงครืดเบาๆกับประตู เขาคงนั่งลงพิงประตูที่หน้าห้องนอนผม


   “...หนังสือทุกเล่มที่ดู อ่านแล้วทำตามมันไป...ก็ยังอย่างเก่า ปรึกษาคนที่ว่ารู้...กี่คนก็ดูไม่มีความหมาย...ได้แต่คาใจ เหมือนเคย…”เสียงทุ้มของคารมครวญเพลงขึ้นมาเบาๆ แต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจน พอได้ยินเนื้อเพลงผมก็ขมวดคิ้วแล้วผุดลุกขึ้นมองไปยังบานประตูไม้ที่อีกฝั่งนึง มีร่างสูงใหญ่ของคนที่ผมชอบนั่งอยู่ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน...


   “จะต้องทำยังไง ให้เธอมารัก...ถามเธอจริงๆ ช่วยตอบได้ไหม ยิ้มให้เธอไป จนเหนื่อยใจแล้ว ก็ยังโดนเมินอย่างนี้...หาทางออกไม่เจอ เห็นใจเถอะนะ...รบกวนเธอมา...แนะนำวิธี จะยากเท่าไร ชั้นยินดีทำให้เธอ ให้ยากเท่าไร ก็เต็มใจ...ทำเพื่อเธอ”พอเขาร้องจนจบผมก็ค่อนข้างจะตกใจมาก จนรู้ตัวอีกทีผมก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้ว มือยื่นไปจับลูกบิดที่เย็นเยียบ ผมจะเปิดมันออกดีไหม...


   “...ร้องเพลงนี้ออกมา หมายความว่าไง”ในที่สุดผมก็เปิดล๊อกแล้วบิดลูกบิดประตูเปิดออกไป คารมที่นั่งพิงกำแพงครึ่งนึง ประตูห้องผมครึ่งนึงก็ค่อยๆหันหน้ากลับมาส่งยิ้มแห้งๆให้ผม เขาลุกขึ้นยืนทำให้ผมต้องแหงนหน้าขึ้นไปเล็กน้อย เออ...ผมมันเตี้ย


   “ก็หมายความตามเพลง...รัชจะให้เราทำยังไง ถึงจะยอมหันมามองเราบ้างวะ”เขามองจ้องมาที่ผมแล้วพูดขึ้นมา ที่ใบหน้าคมเข้มผิวสีแทนนั้นแดงเรื่อขึ้นมานิดหน่อย นี่ผมหูฝาดไปเหรอครับ... ผมกระพริบตาที่บวมฉึ่งของผมอยู่นาน มือใหญ่ที่อุ่นร้อนของเขายื่นเข้ามาดึงมือผมไปกุมไว้


   “จะต้องทำยังไง ให้เธอมารัก ถามเธอจริงๆ ช่วยตอบได้ไหม...ยิ้มให้เธอไป จนเหนื่อยใจแล้ว ก็ยังโดนเมินอย่างนี้...”ผมผงะทันทีเมื่ออยู่ๆเขาก็ร้องเพลงออกมาอีกครั้ง หน้าผมร้อนวูบขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วผมก็รีบยื่นมือไปอุดปากคารม ไม่ให้มันร้องเพลงต่อ


   “ไอ้เชี่ย หน้าไม่อาย”ผมเงยหน้าที่ร้อนฉ่ามองเขาแบบโกรธๆนิดหน่อย แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังยิ้ม ยิ้มออกมาจนปวดแก้ม ให้ตายสิ! เมื่อกี้ผมยังรู้สึกเศร้าอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงได้ดีใจขนาดนี้ล่ะ!!


   มือร้อนๆของเขายื่นขึ้นมาดึงมือผมที่ปิดปากเขาเอาไว้ออก แล้วก็ยิ้มกว้างมาให้ผมที่ยืนกระพริบตาปริบๆพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ
   “เป็นไอ้บ้า หน้าไม่อายยังไงก็ได้ ถ้ารัชจะชอบ เราก็ทำให้ได้ทุกอย่าง”คำพูดของเขาทำให้ผมเม้มปากแน่น โคตรอายเลยครับ แต่ จะวิ่งหนีก็ไม่ได้อ่ะ...


   “แต่นายจะชอบเราได้ไงวะ ในเมื่อนาย...ไม่ได้เป็น...”แล้วผมก็สะดุดขึ้นมา รอยยิ้มผมก็ค่อยๆหุบลง แต่ผมไม่อยากหลบตาเขา เลยจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีดำขลับที่มองมาที่ผมเช่นกัน


   “เออ ไม่ได้เป็นเกย์ แล้วทำไมจะชอบไม่ได้วะ ถ้าเราต้องเป็นเกย์ก่อนถึงจะชอบรัชได้ งั้นเราจะเป็นเกย์ตั้งแต่ตอนนี้เลยละกัน”มันมองผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ผมก็หลุดขำออกมาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก


   “แต่กูเป็นเกย์ว่ะ...”


“...รัชคงลืมตอนนั้นไปแล้วสินะ”คารมพูดด้วยใบหน้าที่นิ่งมาก แล้วดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น หน้าผมชิดอยู่กับแผ่นอกของเขา ความรู้สึกอุ่นวาบไหลเข้ามาในใจของผม ตอนนี้...มีความสุขจังครับ ว่าแต่ ใคร ลืมอะไร ยังไง ผมผละตัวออกมาแล้วจ้องมองใบหน้าคมอย่างงุนงง


   “ลืมอะไร?”


   “ก็3ปีที่แล้ว ในป่าสน ข้างบึง ที่เราลากรัชลงน้ำไง…”คารมมีท่าทีเอียงอายหลังจากพูดคำว่า บึง ออกมา ทำไมวะ…บึงมันมีอะไร ผมขมวดคิ้วนึก...หรือมันจะโดนปลิงในบึงเกาะตูด...


   “ไม่น่าจะลืมได้นะ…”แต่กูลืมไปแล้วหว่ะขอโทษที


   “มันเป็นวันก่อนที่รัชจะกลับบ้าน แล้วเราก็บอกว่าเราชอบรัช อยากได้มาเป็นแฟน…”พอเสียงทุ้มต่ำค่อยๆพูดอธิบายไปเรื่อยๆช้าๆ ความทรงจำบางอย่างที่หายขาดไปของผมก็เริ่มตีกลับเข้ามาในสมอง ใช่…วันนั้นผมใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้น แล้วอยู่ๆคารมมันก็ทำตัวแปลกๆ แล้วอยู่ดีๆมันก็ลากผมลงน้ำ แล้ว…แล้วมันก็บอกว่าชอบผม แต่ผมปฏิเสธมัน เพราะตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับมัน รวมถึงคิดว่ามันพูดล้อเล่นด้วย


ถึงแม้ว่ามันจะบอกว่าไม่ได้ล้อเล่น แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของมันที่ไม่เคยเจอเด็กผู้ชายแบบผมด้วย…มันไม่ยอมปล่อยผมกลับบ้าน แล้วผมก็หนาวมาก…แล้วมือของมันก็เริ่มเลื้อยเข้ามาในเสื้อที่เปียกแนบเนื้อของผม….


   อ้ากกกกกกกกกกก!! จำได้แล้ว!!!


   “แล้วจากนั้น เราสองคนก็เลยทำ…”


   “อ้ากกกกกกกกกกกก! เงียบเดี๋ยวนี้!!!!”ผมหน้าร้อนฉ่ายื่นมือทั้งสองข้างขึ้นไปอุดปากมัน ถ้ามันหลุดอะไรออกมาอีกคำเดียวผมจะวิ่งรอบหมู่บ้านอีกหนึ่งรอบโชว์มันเดี๋ยวนี้แหละ!!!


   “คือตอนนั้น….เราคิดว่านายก็แค่อยากรู้อยากลองหว่ะ…ก็เลยลืมไปแล้ว เอ่อ…”ผมพูดออกมาด้วยเสียงตะกุกตะกัก ให้ตายสิ อายเป็นบ้า! ทำไมมันยังจำได้อยู่วะ!!


   “แล้วก็ไอ้ที่ว่าชอบ…เราก็คิด…ว่ามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เพราะหน้ากูมันเป็นอย่างเงี้ย ผิวก็ขาวอย่างเนี้ย…กูก็เลยคิดว่ามึง…แค่ เข้าใจผิดไปเองว่ะ…”ผมพูดแล้วก็ถอนหายใจเฮือก เพราะผมคิดอย่างงั้นผมก็เลยลืมไปหมดแล้วน่ะสิครับ!


   “แล้วเรื่องนั้นล่ะ…มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะลืมได้เลยไม่ใช่เหรอ”เขาพูดแล้วส่งยิ้มแปลกๆมาให้ผม อ้ากกก! ไอ้คนบ้าหน้าไม่อาย หน้าด้าน!! หน้าผมยิ่งร้อนหนักกว่าเก่า หูก็ร้อน หน้าก็ร้อน ทอดไข่คงสุกแล้วมั้งเนี่ย!!


   “ร…เรื่องนั้น ร…เราคิดว่า แค่ทำให้กัน เหมือนที่ทำกับเพื่อน…ร เราคิดว่า มัน…เป็นเรื่อง…ธรรมดา”ยิ่งพูดผมก็ยิ่งอาย ก้มหน้าหนีจนคางจะติดอกอยู่แล้วเนี่ย!


   “เรื่องธรรมดา!?!”เสียงเขาที่พูดออกมาดูจะประหลาดใจมาก เออ ชั้นก็ประหลาดใจว้อย…


   “เออ! กูมันไอ้งี่เง่าที่คิดไปเองว่ามันคงเป็นเรื่องธรรมดา!! กูก็รู้ว่ามันดูปัญญาอ่อน…แต่…มันช่วยไม่ได้นี่หว่า”ฮือ…อายจนอยากจะร้องไห้ ผมตะโกนออกไปด้วยความอายจัด แต่เสียงผมก็ค่อยๆเบาลงจนกลายเป็นงึมงำ…ง้องแง้ง…ในโพรงจมูกผมแสบร้อนขึ้นมานิดหน่อย รู้สึกว่าน้ำตามันรื้นขึ้นมาเอ่อเต็มคลอนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของผม ใช่สิ...ผมมันเป็นไอ้บ้า ซื่อบื้อ งี่เง่า ไปคิดว่าเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องธรรมดาได้ยังไงกันวะ…


   “อา อย่าร้องไห้สิ ขอโทษๆ แต่จะบอกให้มึงฟังอีกครั้งดี มึงถึงจะยอมเชื่อว่ากูไม่ได้ล้อเล่น จริงจังมากๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ยิ่งพอมาเจอก็ยิ่งชอบมากกว่าเดิม ที่ผ่านมาหนึ่งปีก็ไม่เคยลืม แต่มึงต่างหาก…ที่เป็นคนลืม ทั้งๆที่เป็นคนบอกว่าไม่ให้ลืมเองแท้ๆ…”ทำไมมันต้องพูดเหมือนว่าผมด้วยอ่ะ พอโดนพูดแบบนั้นใส่ น้ำตาผมที่ตอนแรกมันแค่คลอๆตอนนี้กลับไหลพรากลงมาเป็นสาย


   “เฮ้ย!! รัช ร้องไห้ทำไมวะ อย่าร้องดิ เราไม่ได้ดุซักหน่อย แค่บอกความจริงให้ฟังไง หยุดร้องไห้เถอะนะ”สายไปแล้วล่ะไอ้บ้า พอมันบอกให้หยุดร้องไห้ด้วยน้ำเสียงแตกตื่นผมก็เริ่มสะอื้นฮักๆ จนมันเริ่มกระวนกระวายดึงผมเข้าไปกอดแน่น แล้วใช้มือใหญ่ๆนั้นลูบหัวลูบหลังผมอย่างกับปลอบเด็กที่ร้องไห้โยเย ไอ้บ้าเอ้ย…กูก็ไม่ได้อยากร้องไห้ให้มึงเห็นซักหน่อยนึง!


   “คนเก่ง อย่าร้องไห้นะครับ โอ๋ๆ”ไอ้อุบาวท์!! ชั้นไม่ใช่เด็กหกขวบนะว้อย ถึงปลอบอย่างงี้คิดเรอะว่าชั้นจะหยุดร้องไห้น่ะ!! ผมที่สะอื้นอยู่กับอกของคารมกำเสื้อยืดสีเทาของเขาไว้แน่น จริงๆแล้วแค่โดนมันดุอย่างเดียวผมไม่ร้องไห้หรอกครับ แต่เหมือนอะไรๆที่มันอัดอั้นตันใจมาตั้งแต่เมื่อวานได้ถูกปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว รวมถึงโล่งใจที่มันไม่ได้รังเกียจผมอย่างที่ผมคิดไว้ในตอนแรกก็ได้มั้งครับ ก็เลยทำให้ผมร้องไห้ออกมาอีก ทั้งๆที่เมื่อคืนก็ร้องไปจนตาบวมฉึ่งแล้วแท้ๆ…


   “…ขอโทษ”ผมงึมงำขึ้นท่ามกลางเสียงสะอื้นและสูดจมูกของตัวผมเอง แล้วมือใหญ่ๆที่อบอุ่นของคารมก็ลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายมากจริงๆ จนในไม่ช้าผมก็หยุดร้องไห้ได้ในที่สุด แม้ว่ายังจะมีลูกสะอื้นหลงเหลืออยู่นิดหน่อยก็เถอะ ผมไม่ได้ร้องไห้จนสะอื้นฮักๆเป็นเด็กๆแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ขนาดเมื่อคืนว่าร้องไห้หนักแล้วยังไม่เท่าตอนนี้เลยครับ


   “…กู…ค เคยถูกเพื่อนสนิทที่สุดรังเกียจ เพราะกูเป็นอย่างนี้ ม…มันด่ากูว่า ไอ้ตุ๊ด แล้วเพื่อนๆทุกคนก็รังเกียจ…ขยะแขยง หาว่ากูเป็น…ไอ้วิปริต โรคจิต… ฮ ฮึก กู…ช…ชอบมึง แต่กูไม่มั่นใจ…ก…กลัวมึงจะเหยียดหยามกูเหมือนคนนั้น ฮึกๆ ก…กลัว…มึง…จะรังเกียจ กลัว…กลัว...จะรับ…ม…ไม่ได้…ฮืออ”ผมที่รวบรวมคำพูดค่อยๆพูดออกไปทีละคำสองคำท่ามกลางอาการสะอื้นฮักๆนั้นปล่อยโฮออกมาอีกครั้งเมื่อพูดจนจบ คารมที่ไม่รู้จะทำยังไง จะปลอบยังไงก็ได้แต่โอบกอดผมไว้แล้วลูบหลังผมอย่างแผ่วเบา


   “ไม่เอาน่า รัช ก็บอกอยู่นี่ไง ว่าชอบ แล้วจะรังเกียจลงได้ยังไง รัชไม่ต้องไปสนใจไอ้บ้านั่น ไม่ว่ามันจะพูดยังไง เราก็ชอบอยู่ดี มันเป็นเพื่อนนายแท้ๆ คนอย่างนั้นน่ะ ไม่คบเป็นเพื่อนแหละดีแล้ว มันเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี เข้าใจรึเปล่า”มันพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อพูดถึงเพื่อนคนนั้นที่ด่าผม แล้วคารมที่ย้ำว่าเขาชอบผมนะ ก็กอดผมแน่นเข้าไปอีก มือใหญ่ที่ลูบหลังก็เลื่อนขึ้นมาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน ผมที่ร้องไห้อีกรอบก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยักหน้าหงึกๆในอ้อมอกของเขา


   “แล้วอีกอย่าง น้องเราก็เป็นเหมือนกัน เพราะอย่างนั้นก็เลยไม่คิดอะไร…อันที่จริง ตอนที่รู้ก็ตกใจนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ หรือ ขยะแขยง หรืออะไรนะ”


   “น้องชายคารมเป็นเกย์เหรอ!?!”ผมเงยหน้าพรวดเมื่อได้ยินเรื่องของเขา คารมมองมาที่ผมด้วยใบหน้าอ่อนโยนที่ผมหลงใหล และรอยยิ้มอย่างจริงใจพร้อมการพยักหน้าเล็กๆ


   “อืม…มันมาบอกเอง แล้วมันก็เป็นคนบอกด้วย ว่าเราน่ะชอบรัชเข้าให้แล้ว เราก็เลยรู้ตัวไง”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างร่าเริง เขายื่นมือเข้ามาปาดน้ำตาที่แก้มผมออกให้อย่างเบามือ


   “เพราะงั้นไม่ต้องคิดมาก แล้วก็หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ ดูสิ…ตาช้ำหมดเลย เดี๋ยวไม่น่ารักนะ”ผมที่สงบใจได้แล้วต้องมาขมวดคิ้วให้กับคำพูดของเขา


   “ใครน่ารัก! เราหล่อต่างหาก ต้องพูดว่าหมดหล่อสิ ถึงจะถูกน่ะ!”แม้จะมีสะอื้นเล็กๆอยู่บ้างแต่ผมก็พูดออกไปด้วยเสียงอันดัง และใบหน้าที่จริงจัง ผมไม่ยอมให้ใครมาบอกว่าผมน่ารักหรอกครับ มันเป็นปมด้อยอย่างนึงของผมเลยนะ! ผมหล่อต่างหาก ถึงผมจะเป็นเกย์แต่ก็เป็นผู้ชายนะ เพราะต้องบอกว่าผมหล่อแหละถูกแล้ว! พอผมพูดออกไปคารมก็หลุดขำออกมาเบาๆแล้วก็ลูบปัดไรผมของผมที่เกะกะออกให้พ้นหน้า


   “ครับๆ คุณรัชวิณย์สุดหล่อ หยุดร้องไห้นะครับ เดี๋ยวตาบวมกว่านี้จะหมดหล่อไปหลายวันนะ”คารมลูบแก้มผมเบาๆแล้วส่งยิ้มหวานให้ ทำให้ผมยิ้มออกมาบางๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วเข้าไปเอาหน้าซบกับไหล่กว้าหนาของเขา


   “คารม...”ผมส่งเสียงเรียกเขาเบาๆ เขาก็ครางรับเสียงเรียกของผม


   “...ปวดหัวอ่ะ”พอร้องไห้เสร็จในหัวผมก็เหมือนมีใครมาบีบเลยครับ ปวดตึ๊บๆ ตาก็บวมจนจากตาสองชั้นคงกลายมาเป็นตาชั้นเดียวแล้วมั้งเนี่ย มือใหญ่จับแขนผมไว้แล้วดึงออกมาดู นิ้วเรียวยาวแข็งแรงของเขาลูบตาที่บวมเป่งของผมอย่างเบามือ


   “ไปนั่งที่โซฟากัน จะให้อุ้มมั้ยครับ”เขาจูงมือผมแล้วหันมาล้อ ผมก็เขินสิครับ วิ่งนำแนบไม่ทัน ใครจะยอมให้อุ้มเหมือนผู้หญิงล่ะ น่าอายจะตายไป พอผมลงมานั่งจุ้มปุ๊กรออยู่ที่โซฟาพร้อมกอดหมอนใบโปรดไว้ เขาก็หายเข้าไปในครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมถ้วยใส่น้ำแข็ง และผ้าขนหนูสะอาดๆหนึ่งผืน


   “มา เดี๋ยวประคบให้ จะได้หายบวม”ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ๆเขากว่าเดิมแล้วนั่งมอง มือใหญ่ๆของคารมที่ไม่น่าจะหยิบจะจับอะไรได้ขยับนักกลับเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วมาก


   “มองไรอยู่อ่ะ ลงมานอนตักดิ”เฮ้ย...เอางั้นเลยเหรอวะ เอิ่ม ก็ไม่อยากจะเล่นตัวอะไรให้มากความอ่ะนะ เพราะงั้นผมก็เลยค่อยๆพลิกตัวแล้วลงนอนบนตักของเขา กระพริบตาปริบๆมองหน้าเขาที่หันไปอีกด้านเอาน้ำแข็งใส่ในผ้าขนหนู พอคารมหันกลับมาเห็นผมจ้องหน้าเขาอยู่ก็ส่งยิ้มให้ ให้ตายเหอะ...ผมเห็นรอยยิ้มของเขาทีไรต้องเขินทุกที ตอนนี้หมอนที่ผมกอดอยู่ก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นๆมาจนปิดหน้าผมมิดแล้วครับ


   “เฮ้ย รัช เอาหมอนลง อย่างนี้จะประคบให้ยังไงล่ะ”เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นเบาๆที่เหนือหัวผม แล้วหมอนที่ปิดหน้าผมอยู่ก็ค่อยๆถูกดึงลง ผมที่ยังไงต้องยอมอย่างเดียวก็เลยลดหมอนลง ให้ปิดแค่ปาก ผมหลับตาลงตอนที่เขาเอาผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งมาวางลงบนตาผมอย่างเบามือ ความเย็นจากก้อนน้ำแข็งแผ่เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ตาผมที่ตอนแรกมันร้อนเพราะบวมค่อยๆเย็นขึ้นเรื่อยๆ


ผมขยับหัวเข้าไปพิงกับพุงของคนตัวใหญ่แล้วก็เริ่มเคลิ้ม...เมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอนเลยนี่ครับ เพราะงั้น ตอนที่คารมประคบน้ำแข็งให้ ผมก็ค่อยๆหลับไปอย่างง่ายดาย


-----------------

พรุ่งนี้ต่อ ตอนสุดท้ายค่ะ เหลือตอนพิเศษอีก1

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบแย้วววววว

เหลือตอนพิเศษอีก1ตอนนะคะ

--------------------------------------------------

ตอนเย็น
   
   “รัช...เย็นแล้วนะ ตื่นได้แล้ว”


   “หือ...”


   “ตื่นมาแปรงฟันกินข้าวกัน รัช”เสียงทุ้มๆกระซิบเข้ามาที่ข้างหูผม พร้อมมือใหญ่ที่เขย่าตัวผมไม่แรงนัก ผมยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย เพราะงั้นเลยขมวดคิ้วแล้วพลิกตัวหันเข้าไปกอดเอวหนาๆของคนที่ผมนอนตักต่างหมอนไว้แล้วหลับต่อ


   “รัช ตื่นเร็ว เดี๋ยวปวดหัวนะ”เสียงนั่นแทรกเข้ามาอีกแต่ผมซึ่งยังไม่ตื่นดีก็ส่งเสียงงึมงำๆออกไปแล้วนอนต่อ อย่างไม่สนใจ ผมที่กึ่งกลับกึ่งตื่นนั้นก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างค่อยๆลากผ่านแผ่นหลังของผมเบาๆ ผมส่งเสียงครางอย่างไม่ค่อยชอบใจ เพราะที่หลังมันเป็นจุดอ่อนอย่างนึงของผม ผมก็เลยกระเถิบตัวหนีเบียดซุกหน้าเข้ากับท้องของคารมเข้าไปอีก


   “ตื่นเร็วๆ ไม่งั้นจะแกล้งแล้วนะ”เสียงทุ้มนั้นเอ่ยอย่างไม่จริงจังนักผมก็เลยไม่สนใจ รวมทั้งสมองผมยังไม่ตื่นเต้มที่ด้วยก็เลยจับใจความที่เขาพูดมาไม่ค่อยได้นัก นิ้วแข็งๆเรียวยาวนั้นค่อยๆล้วงเข้าไปใต้เสื้อของผม แล้วลูบไล้แผ่นหลังผมด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบา ทำอย่างนั้นผมก็กระตุกเฮือกเด้งลุกขึ้นมาเลยสิครับ


   “เล่นอะไรวะ...”ผมงึมงำด่าคนที่ยิ้มแป้นตรงหน้าเบาๆ สัมผัสเมื่อกี้ทำเอาผมตื่นเต็มตาเลย ให้ตายสิ


   “ก็นายไม่ยอมตื่นไง ก็เลยต้องทำแบบนี้ ก็เรายังจำได้ ว่าจุดอ่อนของรัชอยู่ตรงไหน เมื่อตอนนั้นก็ยังสะดุ้งเฮือกๆใหญ่เลย...”


   “ไอ้บ้า! หุบปากไปเลยนะ!”ผมที่หน้าร้อนวาบถึงหูแผดเสียงใส่เขาที่หัวเราะร่าอย่างพึงพอใจ หงุดหงิดจริงๆครับ ผมคว้าหมอนที่อยู่ใกล้ๆไปอุดปากมันที่กำลังหัวเราะผมอยู่ ผมที่หน้าแดงไปถึงหูรีบหนีมันขึ้นไปข้างบนเพื่อไปแปรงฟันแล้วก็อาบน้ำ พอลงมาที่ห้องอาหาร ก็เห็นคารมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


   “ไปนั่งทำไมไกลๆอ่ะ มานั่งใกล้ๆกันสิ”เสียงทุ้มทักผมที่จะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ห่างจากเขาไปสองตัว คนมันเขินนี่หว่า ผมหันหน้าหนีก่อนจะย้ายตัวเองเข้าไปอีกสองเก้าอี้แล้วนั่งลง ตั้งหน้าตั้งตากินข้าว มันมองผมแล้วยิ้มอยู่นั่นแหละ ยิ้มอะไรอยู่ได้วะ! ผมพยายามกลืนข้าวลงกระเพาะท่ามกลางรอยยิ้มของไอ้คารม แต่ผมก็แกล้งไม่สนใจแล้วตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อจนหมด


   แวบเดียวก็ถึงเวลานอนแล้ว ผมที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย นอนไม่หลับคงเพราะเมื่อตอนกลางวันผมหลับไปนานมากล่ะมั้ง ผมพรูลมหายใจออกมาดังเฮือก แย่ไปหน่อยที่ผมกับคารมอุส่าห์ใจตรงกัน แต่พรุ่งนี้เขาก็ต้องกลับเชียงรายแล้ว ผมก็อดรู้สึกหวิวๆในอกไม่ได้


   “คารม…หลับยังวะ”ผมลองส่งเสียงเรียกเขาดูท่ามกลางความมืดและความเงียบ มีเพียงเสียงของแอร์ที่ทำงานอยู่เบาๆ


   “ยัง…มีไรเปล่า”


   “อ่า...ขึ้นมานอนด้วยกัน…ป่ะ”ผมลองถามเขาเสียงเบา ไม่ได้เชิญชวนนะ!! แต่...แต่เขาจะกลับแล้วอ่ะ อย่างน้อยผมก็อยากใกล้ชิดกับคนที่ชอบบ้าง นิดนึง...


   “ได้เหรอ”เสียงทุ้มที่ส่งขึ้นมาดูจะประหลาดใจระคนตื่นเต้นมาก ผมส่งเสียงรับเบาๆแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง ผมกระพริบตาที่เริ่มชินกับความมืด ใจเต้นตึกๆ แล้วร่างสูงใหญ่ของคารมก็ลุกขึ้นมา


ผมอายจังว่ะครับ... ท่ามกลางความเงียบผมก็กระเถิบตัวไปอีกฝั่งของเตียงที่ติดกับกำแพงแล้วนอนหันหลังให้เขา เตียงผมยวบลงเล็กน้อยด้วยน้ำหนักตัวของอีกฝ่าย แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากคนข้างๆ หัวใจผมเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะยิ่งกว่าเดิมอีก ตาสว่างเลยผม ตอนแรกยังง่วงๆแต่ไม่หลับตอนนี้กลับตื่นเต้นจนหลับไม่ลงอ่ะครับ พอได้ยินเสียงเขาพลิกตัวพร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ามาที่หลังคอผมแผ่วเบาผมก็แทบกลั้นหายใจ


   “รัช...กอดหน่อยได้ป่ะ...”อ่า...กอด...กอดผมเนี่ยนะ!?!


   “อ...อือ...ตามสบาย”ผมตอบรับไปด้วยเสียงที่อย่างกับแมวคราง อ้ากกก! เขินมาก!!! แทบจะในทันทีที่ผมตอบรับกลับไป ท่อนแขนหนาใหญ่ก็วางพาดลงบนเอวผม เขาดึงตัวผมเข้าไปกอดด้วยมือข้างเดียว ทั้งๆที่แอร์เย็นช่ำแต่แผ่นหลังผมที่ชิดกับแผ่นอกของคารมกลับชื้นไปด้วยเหงื่อ ผมนอนหายใจนิ่งๆ พอหลังผมชิดกับอกของเขาแน่นขนาดนี้ผมก็รู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจ ที่เต้นรัวเร็ว


   “คารม...ตื่นเต้นเหรอ”ผมลองถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะผมเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกที่ถูกกอดไว้อย่างนี้ด้วย


   “อืม…ธรรมดานี่ ได้กอดคนที่ชอบแนบแน่นขนาดนี้เชียวนะ”ถึงผมจะมองไม่เห็น แต่ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าตอนนี้มันต้องยิ้มแฉ่งอยู่แน่ๆ! ทำไมมันถึงกล้าพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกมาได้เฉยๆเลยวะ ผมงี้ ถ้าต้องให้พูดแบบมันนะ ต้องขอเวลาเตรียมใจก่อนซักสามคืนล่ะครับ


   “ท ทำอะไร!?!”ผมสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆเขาก็ใช้มือสอดเข้ามาใต้ตัวผม มันทำให้เขากอดผมได้เต็มสองมือ แล้วยิ่งทำให้แผ่นหลังผมเบียดชิดเข้ากับแผ่นอกกว้างเข้าไปอีก


   “อยากกอดแน่นๆน่ะ…ชอบนะ”ขี้โกงนี่หว่า! เล่นมากระซิบด้วยน้ำเสียงอ้อนๆอย่างนั้นที่ข้างหู ผมก็ต่อต้านไม่ออกสิครับ!!


   “อืม…ชอบ...”ผมอ้อมแอ้มตอบกลับไปด้วยเสียงที่คิดว่าเบาที่สุดแล้วแล้วก็ผ่อนลมหายใจออก ก่อนจะหลับตาลง ณ ช่วงเวลานี้เป็นอะไรที่สบายใจมากเลยครับ ถึงแม้จะมีเขินอายอยู่บ้างเพราะคารมมันเล่นถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าที่คิด อันที่จริงก็เพราะผมชวนมันให้ขึ้นมานอนด้วยกันด้วยแหละนะ


   “เฮ้ย! ล เล่นอะไรเนี่ย!?!...อ๊ะ…”ผมโวยวายลั่นทั้งๆที่เพิ่งผ่อนคลายใกล้จะหลับ ก็มือของไอ้คนข้างหลังมันล้วงเข้ามาใต้เสื้อนอนของผมแล้วลูบหน้าท้องผมเล่นแล้วน่ะสิครับ!!


   “ก็อยากพูดอะไรน่ารักทำไมอ่ะ อุส่าห์อดใจไว้แท้ๆ”


   “อ ไอ้…บ้า…อือ”ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะนิ้วที่เรียวยาวของเขาไต่ไล้ขึ้นมาถึงแผ่นอกแบนราบของผม ลมหายใจผมเริ่มสะดุด เมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นวางนาบเข้าที่เหนือจุดชีพจรของผม ที่เหนืออกข้างซ้าย


   “นี่…เงียบๆแล้วลองฟังดูสิรัช หัวใจของเรา เต้นเร็วเหมือนกันเลยนะ”ผมเม้มปากแล้วเงียบฟัง ที่แผ่นหลังของผม รู้สึกได้ถึงหัวใจของเขา กำลังเต้น ตุบๆ ตุบๆรัวเร็ว เหมือนกันกับผม


   “อืม…”


อ้ากกกก!


ไม่น่าเชื่อว่ามันจะแพร่มอะไรโคตรเลี่ยนแบบนี้ออกมาได้! ให้ตายเหอะ!!! ผมเขินจนหน้าร้อนวาบๆเลยนะเนี่ย!


   พอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากทางด้านหลัง ปลายนิ้วมนก็เริ่มไล้แผ่นอกเนียนเรียบของผมต่อ จนผมที่ใจเต้นระส่ำกับหน้าที่เริ่มร้อนต้องห่อไหล่เข้าหากัน


   “ท…ทำแบบนี้…จะดีเหรอ”ผมบิดตัว ในใจนึงก็อยากจะหนีปลายนิ้วที่ลูบผมอยู่แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้าหนีจะต้องเสียอะไรที่สำคัญไปแน่ๆ ลมหายใจผมเริ่มสะดุดขาดห้วงมากขึ้นเรื่อยๆ


   “ดีสิ ไม่ดีไม่ทำหรอก ระวังไว้เหอะรัช พูดจาน่ารักๆมากๆเข้า เดี๋ยวเราจะทนไม่ไหวเอานะ”


   “ว่าไงนะ อ๊ะ ดะ…เดี๋ยว ที่นั่นมัน…อื้ออ”ผมสะดุ้งเฮือกทันทีที่หลังคอรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเขา ตัวผมเกร็งเยือกขึ้นเมื่อคารมเริ่มพรมจูบลงบนต้นคอของผม


   “หลังคอก็เป็นสินะ น่าแกล้งจริงๆ”เสียงทุ้มนั้นเอ่ยขึ้นมาพร้อมการกลั้วหัวเราะ


   “จะมาแกล้งอะไรเราวะ!”


   “ก็สนุกดีอ่ะ น่ารักดี”


   “น่ารักบ้าอะ...ไรเล่า อื้อ อ๊ะ...อ เอามือออก...”ผมบิดตัวหนีเมื่อมืออุ่นร้อนของคารมไล่ลงมาที่หน้าท้องแล้วสอดมือเข้าไปใต้กางเกงนอนพร้อมกับกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมที่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเอาไว้ในอุ้งมือนั้น


   “อยากให้เอาออกจริงอ่ะ?”เสียงทุ้มกระซิบยั่วเย้าแผ่วเบาที่ข้างหูผม ในขณะที่นิ้วก็ขยับนวดคลึงอย่างคล่องแคล่วจนผมเริ่มร้อนขึ้นมา


   “อ ไอ้ทุเรศ...อึก ขี้แกล้ง อา”ผมที่หอบหายใจน้อยๆก่นด่าคนข้างหลังอย่างไม่จริงจังนักเพราะสติของผมหนีไปจดจ่ออยู่ที่อุ้งมือร้อนที่กอบกุมผมไว้ก่อนแล้ว ส่วนนั้นของผมเริ่มแข็งขืนและร้อนระอุมากขึ้น แต่คารมก็ไม่ได้สนใจที่ผมว่ามันไปเลยแม้แต่นิดเดียว มือทั้งสองข้างของมันรวมถึงริมฝีปากร้อนนุ่มนั่นก็ยังคงสาละวนกับการปลุกปั่นร่างกายของผมต่อไป


อยู่ๆคารมก็ค่อยๆดึงมือทั้งสองข้างของเขาออกจากกางเกงนอนและเสื้อนอนของผม แล้วก็จับผมให้พลิกตัวหันหน้าเข้าไปหาเขา ทำให้หน้าผมชิดกับแผ่นอกกว้าง ผมกระพริบตาท่ามกลางความมืดอย่างงุนงงแล้วก็เงยหน้าขึ้น ถึงจะมองไม่เห็นก็เถอะ ผมตานกนี่ครับ! ตอนกลางคืนมืดๆนี่มองอะไรแทบไม่เห็น


“อยู่อย่างงี้แหละ...ถนัดมือ”เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นที่เหนือหัว ถนัดมืออะไรวะ แต่ผมก็ได้รับคำตอบกลับมาอย่างรวดเร็วมาก มือใหญ่ที่สากด้านนั้นล้วงเข้ามาใต้เสื้อของผมอีกครั้ง แล้วสัมผัสกับแผ่นหลังที่ชื้นเหงื่อของผม ทำเอาต้องกลั้นลมหายใจเลยทีเดียว มือนั้นล้วงขึ้นไปถึงบ่าที่ค่อนข้างเล็กทั้งสองข้างของผมซึ่งห่อลงเล็กน้อยจากรสสัมผัสของเขา


“หลังเล็กจัง ดูกระดูกหน่อยนะ...” ในขณะที่พูด ฝ่ามือและเรียวนิ้วนั้นก็ค่อยๆลูบกดที่แผ่นหลังของผมไปเรื่อยๆ มันจะมาคลำกระดูกสันหลังเรียนกายวิภาคเอาอะไรกันตอนนี้วะครับเนี่ยย


“นี่ เค้าเรียกว่าปีกเทวดารู้รึเปล่า ตรงนี้…”ปลายนิ้วแข็งๆไล้เรื่อยลงมาวนอยู่ที่ส่วนปีกหลัง...ปีกเทวดางั้นเหรอ ผมที่พยายามไม่ให้ตัวสั่นเพราะความเสียวซ่านก็ได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ เสียงทุ้มๆวนเวียนก้องสะท้อนอยู่ในหัวซึ่งผมแทบจะจับความหมายอะไรไม่ได้แล้ว


“กระดูกสันหลังของรัชมีทั้งหมดกี่ชิ้นนะ นี่ชิ้นที่หนึ่ง…ชิ้นที่สอง…”คารมพูดเมื่อกดนิ้วไล่จากหลังคอลงไปตามแนวสันหลังอย่างแผ่วเบา และเชื่องช้า นั่นทำให้ผมแทบจะกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่


“ชิ้นที่หก…ชิ้นที่เจ็ด…”ปลายนิ้วนั้นเริ่มไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆจนลงมาถึงแถวๆปีกเทวดาที่เขาบอก ลมหายใจผมหอบสะท้านเมื่อเขานับกระดูกสันหลังไปได้เก้าชิ้น ปลายนิ้วมนแทบจะทั้งสิบนิ้วนั้นก็ยังนับกระดูกของผมต่อไปอย่างเชื่องช้าเหมือนกำลังแกล้งกันอยู่ไม่มีผิด! ทั้งๆที่รู้ว่าแผ่นหลังของผมมันรับความรู้สึกได้ไวกว่าส่วนอื่นๆก็ยังจะ…


“อ อึก…”ปลายนิ้วที่สั่นระริกของผมแทบจะปิดปากตัวเองไม่ให้ร้องออกไปไม่ได้แล้ว ผมควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นกระตุกทุกครั้งที่ปลายนิ้วมนนั่นไล่ลงมาตามแนวสันหลังไม่ได้เลย


“ชิ้นที่สิบเอ็ด…ชิ้นที่สิบสอง…ชิ้นที่สิบสาม”


“ฮึก! อะ…”ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วไล่ลงมาจนใกล้กลางแผ่นหลัง สติสตังผมเตลิดหายไปหมดแล้ว จดจ่ออยู่แค่ที่มืออุ่นร้อนซึ่งยังคงนับกระดูกสันหลังของผมต่อเรื่อยๆ ส่วนนั้นของผมตื่นตัวจนดันกางเกงนอนขึ้นมา และรู้สึกได้ว่าผมกำลังคายหยาดน้ำใสๆออกมาจนเปียกชุ่มกางเกง


“ชิ้นที่ยี่สิบสาม…ชิ้นที่ยี่สิบสี่”ปลายนิ้วไถลลงไปเลยกลางหลังจนใกล้กับกระดูกก้นกบ ผมยิ่งกดเสียงครางอย่างรู้สึกดีเอาไว้ไม่ได้ หัวใจเต้นรัวเร็วจนรู้สึกแปลก ข้างล่างที่มันตื่นตัวเต็มที่ก็ปวดหนึบ ความอึดอัดอยากปลดปล่อยเริ่มถาโถมเข้ามาใส่ผมที่หอบหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ


“ชิ้นที่ยี่สิบห้า…อ๊ะ ชิ้นสุดท้ายล่ะ ชิ้นที่ยี่สิบหก…”


“อ๊า!”ผมกระตุกเฮือกหลุดร้องเสียงสูงออกมาเมื่ออยู่ดีๆคารมก็กดนิ้วลงตรงส่วนเหนือกระดูกก้นกบอย่างแรง ในที่สุดเขาก็นับจนหมด ผมที่นอนหอบหายใจก็กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ แอบโล่งใจอยู่ไม่น้อยเลย


“นี่รัช…แฉะไปหมดแล้วนะ”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างยั่วเย้า ทั้งๆที่ไม่ได้สัมผัสเลยซักนิดแต่ทำไมถึงรู้ได้… ผมหน้าร้อนวาบทันทีที่รู้ว่า สะโพกของผมนั้นเบียดชิดกับต้นขาแข็งแรงอยู่ มันไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ว่าผมกำลังรู้สึกอยู่ แล้วอยู่ดีๆกางเกงนอนของผมก็ค่อยๆถูกมือดีตรงหน้าเกี่ยวดึงลงไปซะเฉยๆ รู้ตัวอีกทีทั้งเสื้อทั้งกางเกงก็ถูกจับถอดแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจเรียบร้อยแล้ว


พอผิวเนื้อถูกอากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศสมองก็เริ่มทำงานอีกครั้ง ใบหน้าร้อนวาบขึ้นมา ทั้งๆที่รู้ว่ามันมืดก็เถอะ แต่ยังไง ผมก็อายอยู่ดีอ่ะ แต่ความอายของผมก็ถูกพัดออกไปด้วยความเสียววูบทันทีที่ฝ่ามือด้านอุ่นร้อนนั้นยื่นเข้ามาโอบรัดส่วนที่เครียดเกร็งของผมเอาไว้ คารมขยับมือช่วย ไม่นานทำนบของผมก็พังทลายลง ลมหายหอบใจถี่ ความเสียวซ่านจากการถึงจุดมันทำให้ผมสั่นน้อยๆ


ผมระบายลมหายใจหนักๆก่อนจะเงยหน้ามองคนที่อยู่ๆก็เงียบไป


“ป…เป็นอะไรรึเปล่า”เมื่อปรับลมหายใจให้ปรกติได้แล้วผมก็ลองถามออกไป


“เปล่า ขอบใจนะ อุส่าต์เป็นห่วงด้วย...แค่กำลังเสียดายอ่ะ อยากเห็นหน้ารัชชัดๆกว่านี้”เอ่อ…ผมไม่น่าเป็นห่วงมันเลยเน๊อะ…ถ้าตอนนี้ขืนทำแบบนั้นทั้งๆที่สว่างอยู่ล่ะก็ ผมคงเปิดแนบแน่ๆ


แต่แค่มันพูดออกมาเฉยๆผมก็อายแล้วครับ มันนั่นแหละผิด เพราะงั้น ผมก็เลยสวนหมัดต่อยเข้าที่หน้าท้องแข็งๆของไอ้บ้าตรงหน้านี่ซะหนึ่งปั๊ก ได้ยินเสียงโอดโอยครางลงมาถึงแม้จะแกล้งก็เหอะ แต่นั่นมันก็ทำให้ผมหายเขินไปได้หน่อยนึงล่ะนะ


“รัช ขอทำได้ป่ะ”


“ทำอะไร??”ผมที่ถามกลับไปก็ไม่ได้คำตอบกลับมา ได้กลับมาแต่มือใหญ่ของคารมที่กำลังมันขยำก้นผมอยู่ ไอ้ผมก็สะดุ้งเฮือกสิครับ…หรือว่า อยากจะสอดเข้ามา…เฮ้ยยยย!! ผมยังไม่เคยทำกับใครเลยนะ ทำไม่เป็น ทำยังไง!?! เรื่องอื่นล่ะโคตรบื้อเลยนะผม ที่แบบนี้เข้าใจโคตรเร็ว ให้ตายสิ


“ร…เราทำไม่เป็น...เอ่อ…กลัว...เจ็บ...”ครับ ก็เคยอ่านอยู่บ้าง แต่เพราะผมยังไม่มีใครมาจีบ และยังไม่ได้คิดมีแฟนจริงจังก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องพรรคนี้เท่าไหร่ ถ้าจะยอม…ผมก็คงยอมให้ไอ้บ้าตรงหน้าผมนี่คนเดียวล่ะครับตอนนี้ แต่ยังไง ผมก็ไม่ชอบอะไรเจ็บๆอ่ะ ขนาดตัวผมกับมันต่างกันตั้งเท่าไหร่ ของๆมันต้องใหญ่แน่ๆ แล้วใส่เข้ามาตรงนั้น มันต้องเจ็บมากแน่ๆ!


“เราก็ไม่เคยทำมาก่อน แต่น้องเราก็สอนมาบ้าง…”สอนมาเหรอ?? ไอ้เรื่องแบบนี้มันสอนกันยังไงวะครับ!?! อย่าบอกนะว่าตัวต่อตัว!!! อ้ากกกกกก ไม่นะ!


“ห…เหรอ”


“เฮ้ย สอนแบบทฤษฏีสิ บ้า คิดอะไรอ่ะ ลามกนะเนี่ย”แล้วทำไมเอ็งไม่พูดให้จบตั้งแต่ประโยคแรกล่ะวะ! ผมที่หน้าขึ้นสีอีกครั้งก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีกครั้ง


“จ…จะทำจริงๆเหรอ”คิดภาพแล้วสยองอ่ะ ใส่เข้ามาไม่ได้หรอก! มันต้องเจ็บ แล้วก็ต้องฉีกแน่ๆเลย อ้ากกกกกกก ไม่เอา!!


“อืม…ก็อยากเป็นหนึ่งเดียวกับรัช”ร่างสูงใหญ่พลิกตัวขึ้นคร่อมผมทันทีที่พูดจบประโยค ไอ้หน้าด้าน! ไอ้หน้าไม่อาย! อ…ไอ้…ไอ้…ฮือ…นึกคำด่าไม่ออก ทำไมต้องมาพูดด้วยเสียงอ้อนอย่างงั้นด้วยวะ!! คนมันใจอ่อนง่ายนะเฟ้ยยย

 
“แต่เรากลัวเจ็บอ่ะ” 


“ไม่ต้องกลัว เราฟังมาแล้วแบบละเอียดมากๆ จะไม่ทำให้รัชเจ็บแน่นอน จะไม่หนักมือ จะอ่อนโยน…นะ”แล้วไหนตอนแรกบอกว่า ‘บ้าง’ ไงวะ แล้วไหงตอนนี้เอ็งมาบอกว่าละเอียดมากๆแล้วล่ะว้อยยย!! ยังมีหน้าพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจบวกลูกอ้อนอีก ผมอยากจะบ้า แพ้ทางมันจริงๆหว่ะ


“ม…ไม่เจ็บแน่นะ”ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ครับ ต้องพูดเสียงอ่อยๆออกไป แต่ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้รับคำตอบอีกเช่นเคย คารมโน้มใบหน้าลงมาพรมจูบทั่วใบหน้าผมแผ่วเบา ก่อนจะมาหยุดลงที่ริมฝีปากบางๆ เขาค่อยๆบดริมฝีปากของตัวเองประทับลงมา ทำให้ผมที่ว่ากลัวๆค่อยๆเคลิ้มไป


“อืม…อ่ะ”ผมบิดคอครางขึ้นจมูกเมื่อเรียวลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในปาก พร้อมกันนั้น ฝ่ามือกว้างสากที่อุ่นร้อนก็ลูบลำตัวของผมอย่างสะเปะสะปะ พอมือนั่นลากผ่านขาอ่อนผมก็สะดุ้ง จะผละตัวออก แต่คารมกลับสอดมือที่ค้ำยันตัวเองไว้เข้ามาที่ท้ายทอยของผม ไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน


หลังจากลูบขาอ่อน ต้นขาจนพอใจมือนั้นก็วกกลับมาที่ส่วนกลางลำตัวที่นอนทอดตัวสงบเสงี่ยมไปแล้วของผม ปลายนิ้วที่คล่องแคล่วปลุกปั่นอารมณ์ผมให้กระเจิดกระเจิงอีกครั้ง ความร้อนทั่วทั้งตัวค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจนไม่รู้สึกหนาวเย็นเลยแม้ทั้งร่างจะไม่มีอะไรปกปิดแล้ว


หลังจากเขาผละใบหน้าออกมาผมก็สูดหายใจ แต่ไม่ทันไร ริมฝีปากร้อนนุ่มก็บดเบียดลงมาอีกครั้ง รสจูบเนิ่นนานที่ได้รับมาอย่างเกินพอ มันทำให้ผมล่องลอยและแทบไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้าง กระทั่งแผลที่ลิ้นซึ่งยังไม่หายดี ทั้งๆที่มันควรจะเจ็บจากการถูกจูบอย่างดูดดื่ม แต่ก็กลับไม่รู้สึกอะไรมากมายนัก เพียงแค่ชานิดหน่อยแล้วก็...อยากได้อีก...


ผมยกมือขึ้นคล้องรอบลำคอหนาที่ค่อมอยู่เบื้องบนผมแล้วดึงรั้งเข้าหาตัว ตอนที่รู้สึกว่าเขากำลังจะผละออกไป จนกระทั่งผมรู้สึกชาไปทั้งลิ้นแล้วถึงดึงตัวเองออกมาหอบหายใจ


“โทษนะ พลิกตัวหน่อย”คารมผุดลุกขึ้นแล้วใช้สองมือจับเอวผมยกขึ้น เขาจับให้ผมคว่ำหน้าลง สอดหมอนเข้ามารองข้างใต้ตัวผม แล้วก็จับยกสะโพกขึ้น เอาง่ายๆก็เป็นท่าคลานอ่ะครับ...


ผมที่กำลังลำดับความคิดของตัวเองสะดุ้งโหยง เมื่อมือแข็งแรงของคนด้านหลังจับแยกแหวกเนื้อของผมออกจากกัน ทันใดนั้นก็มีของเหลวบางอย่างรินรนลงมาจนชุ่ม มันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่โดนของที่อุณภูมิต่ำกว่าตัวมารดโดนที่ข้างหลังแบบนี้ ผมก็เลยขยับหนี แต่มือที่ยึดสะโพกของผมกลับไม่ยอมปล่อยให้ผมได้ทำอย่างที่อยากทำ ปลายนิ้วมนสัมผัสเข้ากับช่องทางที่ปิดแน่น แล้วมันก็ค่อยๆดันลึกเข้ามาอย่างง่ายดาย


“อ…อึก”ผมสูดลมหายใจอย่างอึดอัด ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ สงสัยไอ้ที่คารมราดมาตอนแรกมันต้องเป็นอะไรซักอย่างที่ลื่นๆ แต่โดนนิ้วสวนเข้ามามันไม่สนุกเลยนะครับ ไม่เห็นรู้สึกดีเลยสักนิด


“โทษทีนะ”เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบที่ข้างใบหู ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆขยับนิ้วที่อยู่ในร่างผมไปมา ความรู้สึกอึดอัดแปลกๆปนกับความรู้สึกอื่นที่ผมอธิบายไม่ค่อยจะถูกก็เริ่มขึ้น จะว่าเสียวๆมันก็ใช่…เพราะงั้นผมก็เลยค่อนข้างเกร็งมากเอาการอยู่เหมือนกัน ปลายนิ้วแข็งๆค่อยกดไล้อยู่ข้างในตัวผม ถอยออกบ้าง สอดเข้าบ้าง


“อือม….อา”


“ดีสินะ”เสียงทุ้มนั้นแหบต่ำลงเล็กน้อย คารมเคลื่อนไหวนิ้วที่สอดเข้ามาในตัวผมอย่างเชื่องช้าไม่รีบร้อนอยู่พักใหญ่ก็ถอนออก ร่างสูงใหญ่ค่อยๆโน้มต่ำงมา เสียงหอบหายใจกระชั้นดังแผ่วอยู่ข้างหู


“อย่ากลั้นหายใจนะรัช”เสียงทุ้มต่ำกระซิบ ก่อนที่ผมจะประมวลคำพูดนั่นออกมาได้ อะไรบางอย่างก็เริ่มเบียดแทรกเข้ามาในตัว ความเจ็บแปลบเสียดแทงขึ้นมาจากด้านล่างจนต้องขบฟันแน่นพร้อมแผ่นหลังที่เกร็งเยือกขึ้นเมื่อสิ่งนั้น ที่ทั้งร้อนจัดและแข็งตรงยังคงดุนดันเข้ามาในตัวผมอย่างเชื่องช้า


เหมือนรู้สึกว่าคารมจะพูดอะไรซักอย่างด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะเป็นกังวล แต่เมื่อมันไม่ได้เข้าหูเข้าหัวผมแม้แต่น้อย ปลายนิ้วแข็งแรงจึงยื่นตรงเข้ามาลูบเรียวปากและแหวกสอดเข้ามาในปากของผมอย่างนุ่มนวล อาการตื่นเกร็งของแผ่นหลังผมจึงค่อยๆลดลง


“เจ็บมากรึเปล่า ขอโทษนะ จะพอแค่นี้มั้ย…?”สุ้มเสียงที่เป็นห่วงจนปิดไม่มิดดังขึ้นมาไม่ไกลนัก ทำเอาผมถึงกับกลั้นยิ้มไม่อยู่ โชคดีที่มันมืด ไม่งั้นล่ะก็ ผมคงทนอายมากกว่านี้ไม่ไหวแล้วหล่ะ แต่มันท่าทางแย่จริงๆแล้วสิ…การที่มีคนมาคอยเป็นห่วงเป็นใยนี่มัน…ช่าง…


“ไอ้บ้า…อย่างกับจะหยุดได้อย่างงั้นล่ะ จริงๆแล้วมันก็…อ่า…ไม่ถึงกับเลวร้ายซักหน่อย”ผมพรูลมหายใจพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงแหบเครือ หลังจากที่ได้ยินเสียงที่เหมือนกับจะหัวเราะเบาๆด้วยความยินดี คารมก็เริ่มขยับตัวช้าๆให้ผมคุ้นชิน


“อึก…อะ…อื้อ”เสียงครางขาดห้วงที่ตอนแรกยังคงอ่อนระโหยค่อยๆทวีความดังขึ้น เมื่อการสอดประสานรุนแรงขึ้นทีละน้อย ความเจ็บแปลบ และคับแน่นจนอึดอัดหายใจไม่ออกนั้น มาตอนนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอันแปลกประหลาดที่ผมล้วนยินดีไปกับมัน


เสียงเตียงลั่นดังแว่วเข้ามา แต่ก็เหมือนกลับถูกกลบไปด้วยเสียงเนื้อกระทบกันกับเสียงหอบครางที่แยกแยะไม่ออกว่าเป็นของใคร เมื่ออารมณ์ถูกชักนำให้ถึงขีดสุด ทำนบของพวกเราก็พังทลายลง


ของเหลวอุ่นร้อนฉีดพุ่งเข้ามาในท้องของผมจนอุ่นวาบ ในความรู้สึกอันเลือนรางที่แทบจะประคองไว้ไม่อยู่ ร่างอันอ่อนปวกเปียก ไร้สิ้นเรี่ยวแรงใดๆของผมก็ถูกจับพลิกอย่างเบามือ แล้วก็ถูกดึงรั้งเข้าไปกอดอย่างอ่อนโยน เมื่อความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในใจของผม ทุกสิ่งก็ถูกตัดวูบลง


เสียงนกร้องที่นอกหน้าต่างค่อยๆดึงผมให้ฟื้นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ผ้าห่มหนาถูกดึงขึ้นคลุมร่างผมถึงคอ ในหัวที่ยังไม่โล่งดีค่อยๆเค้นนึกลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด


ข้างเตียงผมว่างเปล่า และเย็นชืด คนที่นอนกอดผมมาทั้งคืนคงจะลุกออกไปนานแล้ว อาการปวดตัวและปวดหัวรุมๆทำให้ผมไม่มีใจจะหยัดตัวลุกขึ้นแม้แต่น้อย ผมหลับตาลง ถอนใจเฮือกใหญ่แล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง


   คารมคงจะกลับเชียงรายไปแล้วตั้งแต่ตอนเช้ามืด…ตอนที่ผมยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่


   ผมเหม่อมองที่บานประตูไม้ของห้องนอนผมอย่างว่างเปล่า สักพักก็พลิกหน้ากลับเข้าหากำแพง แล้วหลับตาลงอีกครั้ง


   “รัช…ตื่นรึยัง?”เสียงทุ้มต่ำอันคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมเสียงลั่นของประตูไม้ ทำเอาผมถึงกับลุกพรวดหันไปมอง คนที่เข้ามายิ้มแฉ่งอย่างจริงใจส่งมาให้ผม พร้อมแก้มที่ระเรื่อสีเลือดขึ้น


   “อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”


   อ้าคคคคคคคคคคคค! ไอ้บ้านี่ ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่นะ!?!


แต่ก็เอาเถอะครับ ยังไงผมก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว...ดีซะอีก ที่จะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานขึ้นกว่าเดิมอีกซักหน่อย


-------------------------------ENDING-------------------------------



--------------------------------------------------

จบแบ้วววว ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ

เจอกันตอนพิเศษสุดท้ายพรุ่งนี้ค่ะ

ออฟไลน์ Storm_Dragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนพิเศษค่า

---------------------------------------

   ผมซึ่งร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอนแบบเซมิดับเบิ้ล มีเพียงผ้าห่มผืนหนาปกปิดท่อนล่างที่อ่อนเปลี้ยของตัวเองให้พ้นจากสายตาของเพื่อนตัวสูงใหญ่ตรงหน้า อันที่จริงแล้วสถานะของเราในตอนนี้…มากกว่าเพื่อน ถึงจะถูก


และนายบ้านนอกที่ส่งยิ้มกว้างต่อสายตรงมาที่ผมพร้อมกับอ่างใส่น้ำพร้อมผ้าขนหนูสีขาวสะอาดในมือนั้น เดินมาเพียงแค่สี่ก้าวจากประตูห้องก็มาถึงเตียงที่ผมกำลังนั่งอยู่ได้อย่างง่ายดาย ขาไม่สั้นบ้างให้มันรู้ไปสิ…


รอยยิ้มบางๆที่ระบายอยู่บนใบหน้าคมเข้มนั้นทำให้ผมรู้สึกปะหลักปะเหลื่อยังไงก็ไม่รู้สิ จริงๆแล้วผมกำลังพยายามตีหน้านิ่งอยู่นะ แต่ให้ตายสิ...มันไม่ง่ายเลยซักนิด ทั้งๆที่ผมเกือบคิดไปแล้วว่ามันจะทิ้งผมกลับบ้านเกิดมัน แต่อันที่จริงมันก็กลับมานั่งหน้าสลอนอยู่บนเตียงของผมด้วยใ0บหน้าหล่อๆ...


ทำเอาผมอยากจะต่อยหน้ามันซักหมัดจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าจะปวดตัวปวดเอวแถมยังไม่มีแรงพอจะไปประทุษร้ายใครได้ล่ะก็


“รัช...เดี๋ยวเราเช็ดตัวให้ รัชมีไข้นิดหน่อย”พูดไปมันก็จับแขนผมยกขึ้น ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นถูกเช็ดไปตามตัวของผมอย่างแผ่วเบา คงจะเป็นอย่างที่ไอ้คารมมันว่า ผมคงจะมีไข้อยู่ ถึงได้ทั้งมึนหัวทั้งเมื่อยไม่สบายตัวแบบนี้ เมื่อเช็ดตัวให้ผมเสร็จก็เปลี่ยนชุด...อันที่จริงต้องบอกว่า สวมชุดให้ผม ถึงจะถูก


เมื่อเขาติดกระดุมเม็ดสุดท้ายให้ผมเสร็จก็นั่งลงบนเตียง ไม่ไกลจากผมมากนัก ด้วยใบหน้าระรื่น...เหมือนหมาตัวใหญ่ยักษ์ที่พยายามจะออดอ้อนเจ้าของจริงๆเลย...ให้ตายสิ



“มีอะไร”ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนอีกครั้งจนได้สิครับ พอคารมเห็นผมถามออกไป เขาก็ขยับตัวเข้าเบียดผมอีกหน่อยแล้วก็ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเขินๆ


“คือ...เราว่ารัชคงอยากรู้...จริงๆแล้ววันนี้เราควรจะกลับไปเชียงรายพร้อมคุณอา แต่ก็ไม่ได้กลับ”


“แล้ว...?”เพราะเขาเว้นช่วง ผมจึงชักสงสัยขึ้นมาจริงๆจังๆ นัยน์ตาคมสีดำปลาบจ้องตรงมาที่ผม ริมฝีปากของเขาเม้มเข้าหากัน


“เพราะเราอยากจะอยู่กับรัชต่ออีกหน่อย แล้วก็ตอนนี้เขาปิดเมืองด้วย ก็เลยมีเหตุเยอะแยะที่จะอ้างได้กับคุณอาแล้วก็แม่ เพื่อจะขออยู่ที่นี่ต่อได้น่ะ”ระหว่างที่ฟังเขาอธิบาย ผมก็รู้สึกได้เลยว่าสีหน้าตัวเองเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ความรู้สึกหลายๆอย่างมันผสมกันมั่วไปหมดจนบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจริงๆแล้ว ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกอะไรกันแน่ นอกจากความอึ้งแล้วน่ะนะ จนได้ยินเสียงหงอยๆของคารมถามขึ้นมาว่า ไม่ดีใจเหรอ ผมถึงได้จ้องมองหน้าเขาตรงๆ แต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากผมไปได้อยู่ดี


“เราว่า...เราไม่ได้ดูข่าวมาแค่3วันเองนะ.... เขาปิดเมืองกันแล้วเหรอวะ”ผมถามเขาไปอย่างอึ้งๆ อันที่จริงแล้วไอ้ที่ผมอยากจะพูดมันไม่ใช่อย่างนี้หรอกครับ ผมพูดไปงั้นๆแบบไม่มีความหมายอะไรเลย


“แย่แฮะ...นึกว่าจะพูดอะไรแบบ จริงเหรอ! ดีใจจัง! มากอดทีสิ อะไรเทือกนี้มากกว่านะ”


“ปัญญาอ่อน”ผมเบ้หน้าให้เขาก่อนจะต่อยกลับไปเบาๆ ผมถอนหายใจออกเฮือกใหญ่แล้วเอนตัวไปพิงเขา มือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวของผมอย่างเบามือ


“เออ เรามีอะไรอยากจะบอกอย่าง...”ผมพูดขึ้นโดยที่ไม่เงยหน้า มือที่ลูบหัวผมอยู่ชะงักเล็กน้อย แต่พอเจ้าตัวส่งเสียงตอบรับ เขาก็ลูบผมของผมต่อ


“...โคตรเจ็บตูดเลยว่ะ”จริงๆแล้วผมปวดทั้งตัวนะ แต่ไอ้ที่มันอาการหนักกว่าเพื่อนก็ช่วงสะโพกของผมเนี่ยแหละครับ น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว... ถ้ารู้ว่าจะเจ็บขนาดนี้ผมจะไม่ยอมมันให้โง่หรอกครับ แล้วอีกอย่าง ไอ้ตรงนั้นของผมมันยังรู้สึกขัดๆ ระบมๆอยู่ด้วย จะผิดมั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่า มันเหมือนยังมีอึก้อนใหญ่คาตรูดของผมอยู่อ่ะครับ


คารมดึงผมออกแล้วผลักผมให้ลงนอนกับเตียง ก่อนจะกดไหล่ทั้งสองข้างแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มชวนขนลุก


“มันคงมีอะไรผิดพลาดทางเทคนิคซักอย่าง มาลองกับพี่อีกรอบเถอะน้อง”ว่าแล้วมันก็ล้วงมือเข้ามาในเสื้อนอนของผม... อ้าคคคค! ไอ้ชั่ว ชั้นจะเพิ่งบอกแกไม่ใช่เหรอวะ ว่ามันเจ็บ!?! ผมรีบดึงมือใหญ่ที่กำลังจะเลื้อยขึ้นไปถึงหน้าอกผมให้หยุดทันทีด้วยใบหน้าถอดสี


“จะบ้าเรอะ! ไม่เอาว้อยย!”ฝันไปเหอะ อย่าได้คิดเชียวนะเอ็ง ให้ตายก็ไม่ยอมว้อย เรื่องเจ็บๆนี่ขอบาย ไม่เอาเด็ดๆครับ! ผมแทบจะยกขาขึ้นถีบมันอยู่แล้วครับ ถ้าไม่ติดอยู่ว่าปวดก้นนะ...


“น่า...คราวนี้ไม่พลาดแน่รัช นะ...มาลองกันใหม่...ให้โอกาสเราอีกครั้ง...”ดูมัน ยังไม่ยอมแพ้ครับ มืออีกข้างที่ผมไม่ได้ยึดไว้ก็เลื้อยเข้ามาโอบหลังดึงเอาให้ตัวแนบกัน ใบหน้าคมพรายยิ้มกระเซ้าอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตาสองชั้นสีดำจ้องตรงมาที่ผมซึ่งกำลังหน้าร้อนวูบๆ


“ม...ไม่! ม่ายยยย! อ้าคคคค!!  ไอ้เชี่ย! อย่าลูบนะ!”ผมแหกปากทั้งๆที่เสียงแหบอย่างกับเป็ดด้วยความหวังว่ามันจะหยุดลูบหลังผมซักที แต่เปล่าเลยครับ มันยิ่งจะรั้งกางเกงนอนของผมลงไปอีก! ไอ้คารม แกไปกินยาบ้ามาเหรอวะ!?!


ระหว่างที่สงครามยื้อกางเกงกำลังจะอุบัติขึ้น เสียงกดกริ่งก็ดังขัดจังหวะได้อย่างพอดิบพอดี ไม่ว่าจะใครก็ตาม ผมขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ได้มาช่วยชีวิตและสวัสดิภาพของก้นผมเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ผมรีบยกเท้าขึ้นยันท้องแข็งๆของคนตัวใหญ่ โดยที่มือทั้งสองข้างพยายามกำกางเกงนอนอย่างเอาเป็นเอาตายราวกับว่ามันเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะช่วยให้ผมรอดพ้นจากเงื้อมมือของไอ้ยักษ์ตัวนี้ได้


“ว้า...เสียดายจัง เดี๋ยวมานะรัช แล้วมาต่อกันนะครับที่รัก”อี๋ยย์!! อีประโยคสุดท้ายนั่นทำเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผีบ้าอะไรมาเข้าสิงมันเหรอครับ ผมอยากจะร้องไห้ ทันทีที่คารมปิดประตูลงผมก็แทบจะถอนใจเฮือกด้วยความโล่ง อกออกมา เรี่ยวแรงหายไปแทบหมดกับตอนขัดขืนไอ้บ้านั่นแล้วล่ะครับ ถ้ามันจะมายื้อกางเกงกับผมต่ออีก ผมคงต้องขอลาตายแน่ๆ


แต่พระเจ้ายังเข้าข้างผม เมื่อคารมเดินกลับมาในห้องพร้อมเพื่อนของผมอีกสามคน ไอ้วา เตย แล้วก็ไอ้ดิณ อ๊ะ ทุกคนยังไม่เคยเห็นไอ้ดิณสินะครับ มันชื่อดิณพัชร์ เป็นเพื่อนในกลุ่มผมอีกคน แต่มันไม่ค่อยยอมไปเที่ยวกับพวกผมซักเท่าไหร่ เพราะต้องทำงานหาเงินค่าขนมเองนี่ล่ะครับ ตัวมันก็สูง ใส่แว่น ตัดผมสั้น ผิวออกขาวด้วย นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนผม ผมเองก็คงจะจีบมันไปนานแล้วล่ะครับ...หลอกนะ! จะไปกล้าได้ไงอ่ะ แต่จริงๆนะ หน้าตามันตรงเสป๊ค ผมเลย ฮ่าๆๆ


   “ไปไงมาไงวะเนี่ย”ผมลุกขึ้นนั่งแล้วทักทุกคน ด้วยหัวที่ฟูแถมกระเซอะกระเซิง วาเป็นคนแรกที่วางของแล้วนั่งลงกับพื้นห้อง คนอื่นๆจึงนั่งลงบ้าง คารมมันขอตัวออกไปเอาน้ำมาให้


   “ก็ อยากแวะมาเฉยๆ คุยอะไรด้วยหน่อย แล้วไอ้สองคนนี้มันก็ว่างๆอยู่ เลยชวนมาด้วยกัน”ไอ้วายิ้มแปลกๆมาให้ผมแล้วก็ชี้นิ้วไปด้านข้างที่เตยกับดิณนั่งอยู่ มันเหมือนมีอะไรในรอยยิ้มของไอ้วาซักอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรต่อเพียงแค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น ไม่นานนักคารมก็ขึ้นมา ไอ้วาลุกขึ้นไปคุยอะไรซักอย่างกับมันอยู่แปปนึงแล้วก็กลับมานั่งพิงเตียงของผม


   “รัช เดี๋ยวกูพาเตยลงไปเล่นข้างล่างก่อนนะ”อยู่ๆไอ้ดิณก็ลุกขึ้น แล้วก็เดินนำออกไปก่อน เตยที่ยังนั่งมึนๆอยู่ก็ค่อยๆลุกตามออกไป ตอนนี้ในห้องเหลือแค่สามคน ผม ไอ้วา แล้วก็คารม


   “ไม่คิดจะขอบคุณซักคำเลยเหรอวะ”อยู่ๆไอ้วาก็โพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ดูท่าทางมันจะอารมณ์ดีมาก แต่ผมไปติดค้างอะไรมันเหรอครับ ขอบคุณเรื่องอะไรกันล่ะ?? ผมมองหน้าวากับคารมสลับกันด้วยความงุนงง


   “จะต้องทำยังไง ให้เธอมารัก ถามเธอจริงๆ ช่วยตอบได้ไหม ยิ้มให้เธอไปจนเหนื่อยใจแล้วก็ยังโดนเมินอย่างนี้~”ไอ้วาร้องเพลงออกมา ยิ่งมันร้องไปเรื่อยๆผมก็ยิ่งสะอึก...นี่มันเพลงที่ไอ้คารมร้องเมื่อตอนง้อผมนี่หว่า ทำไมอยู่ๆไอ้วาถึงร้องเพลงนี้ขึ้นมาล่ะ!?!


   “วิธีง้อมึงมีตั้งร้อยแปดพันเก้า อยู่ๆไอ้บื้อนี่มันจะร้องเพลงง้อซึ่งเป็นวิธีขอคืนดีกับมึงได้ง่ายที่สุดได้ไงกันน้า”วาเปรยขึ้นมาลอยๆอีกประโยค ทำเอาผมต้องอ้าปากค้าง มองสลับระหว่างคารมกับไอ้วาอย่างคิดไม่ถึง


   หรือว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นแผนของไอ้วา!?!


   “...อย่าบอกนะ...ว่าไอ้ทั้งหมดนี่มัน...”ผมอยากจะเป็นลมครับ ยาดม...ขอทุ่งสาระแหน่มาให้ผมหน่อย!


   “ไม่นะ! วาแค่แนะนำเฉยๆ ว่าจะขอคืนดียังไง...แล้วก็มีแค่ไอ้นั่นกับไอ้นี่นิดหน่อย...ต แต่ มันไม่มีอะไรจริงๆรัช!”คารมซึ่งดูท่าทางจะร้อนลนอยู่เอาการรีบพูดแก้ต่างเป็นพัลวัน ว่าแต่ว่า...ไอ้นั่นกับไอ้นี่ของเอ็งมันอะไรกันวะ??


   “อะไร ไอ้นั่นกับไอ้นี่...”


   “เอ่อ...”


   “จะเขินไปไย ถ้ามึงไม่กล้าบอกเดี๋ยวกูออกโรงบอกเองก็ได้ครับคุณคารม ไอ้นั่นกับไอ้นี่ที่ว่า ก็คุณมีชัย กับน้องเบบี้ออยส์ไงล่ะครับรัชวิณย์”ไอ้วาโพล่งขึ้นมาด้วยเสียงสดใสผสมกวนส้นนิดๆอย่างเข้ากัน ตอนนี้หน้าของคารมมันเริ่มแดงจนกลายเป็นแดงเถือกแล้วล่ะครับ ไอ้วาหันมามองหน้าผมอย่างคาดหวังอะไรบางอย่าง แต่เมื่อพอเห็นผมทำหน้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควรรอยยิ้มฉีกกว้างก็หุบลง


   “เฮ้อ...เอาหูมาใกล้ๆดิ๊”ไอ้วาที่ทำหน้าเซ็งกวักมือให้ผมเข้าไปใกล้ หลังจากแอบมองใบหน้าที่แดงก่ำของคารมแวบนึงผมจึงตัดสินใจเอียงหูเข้าไปใกล้เพื่อนตัวดีของผม พอมันกระซิบให้ผมฟังได้สองสามคำเท่านั้นแหละครับผมก็เป็นอันต้องอ้าปากค้างพะงาบๆพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว


   ไอ้วาตบเข่าตัวเองเสียงดัง รอยยิ้มค่อยๆฉีกกว้างบวกกับเสียงหัวเราะที่ค่อยๆดังขึ้นจนกลายเป็นการหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแบบเป็นเสตปมาก


   “นี่แหละ! หน้าอย่างงี้แหละที่อยากเห็น! ฮ่าๆๆ”ไอ้วายังคงหัวเราะไม่หยุด ผมมองหน้ามันที่แดงจัดเพราะหายใจไม่ทันแล้วก็หุบปากตัวเองลง มือค่อยๆหยิบคว้าหมอนของตัวเองขึ้นมา


   “ไอ้เพื่อนเหี้ยยยย!! ทั้งหมดนี่แค่อยากแกล้งกูใช่ป่ะ!?! ไอ้ชั่ววววววว”ตายซะเหอะ! แค่คำแรกหลุดออกจากปากผมไปหมอนที่ผมหยิบมาก็ฟาดลงไปบนตัวไอ้เพื่อนรักอย่างไม่ออมแรงเลยซักนิด แต่ไอ้วายังคงหัวเราะอย่างสะใจพร้อมยกมือปัดหมอนที่ผมฟาดไปด้วย ส่วนคารมก็ยืนดูอยู่นิ่งๆพร้อมเริ่มหัวเราะไปด้วยเหมือนกัน ขำไปเหอะ รายต่อไปที่จะโดนลงทัณฑ์จากไอ้รัชก็แกนั่นแหละ!


   “ฮ่าๆๆ หน้ามึงโคตรฮา ฮ่าๆ! ไอ้รัช! หน้า ฮ่าๆๆ หน้ามึง ฮ่าๆ”เอวัง....ผมก็ไม่คิดนะครับว่ามันจะเส้นตื้นอะไรขนาดนี้ แต่ถึงยังไงผมก็ขอบคุณมันอยู่นะ ที่อุส่าห์ทำให้เรื่องมันไปได้ด้วยดี แต่ตอนนี้ ขอฟาดมันให้หนำใจก่อนเถอะครับ!

EnD


--------------------------

จริงๆล่ะจ้า บายยย ไว้เจอกันใหม่เรื่องหน้านะคะ /ถ้าแต่งได้นะคะ T_T

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
รักใสๆน่ารักจังเลยค่าาาาาาาาาาา :-[

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ bloodrain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอบคุณมากค่า //////_/////////////

ออฟไลน์ makone

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด