{{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]  (อ่าน 164165 ครั้ง)

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
.
.


ผมมาอยู่ที่คลับดังแถวมหาวิทยาลัยในยามค่ำคืน
   

แสงไฟละลานตาสาดวิ่งวนไปทั่วทั้งไนท์คลับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจต้านทานความมืดมิดภายนอกไปได้ แม้จะเป็นเวลาดึกดื่นมืดค่ำ แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ผู้คนนับไม่ถ้วนกลับมารวมตัวกัน ณ สถานที่แห่งนี้ ราวกับยามราตรีไม่เคยได้หลับใหล และคนด้านในก็ไม่รับรู้ว่าภายนอกจะเป็นอย่างไร


   ผมเองก็เหมือนกัน ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ถึงได้เข้ามาในนี้ เพื่อหนีจากโลกด้านนอกชั่วครู่


   เสียงอึกทึกของดนตรีจังหวะหนักทำให้ประสาทแถวขมับเต้นตุบ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ที่กลืนลงคอ ก็เร่งจังหวะการเต้นของหัวใจให้เร็วและแรงขึ้น จำไม่ได้ว่านี่คือแก้วที่เท่าไหร่ เพราะผมนั่งนิ่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์มานานพอดู


   ..แต่นับไปก็เท่านั้น..


   คิดได้ดังนั้นก็ยกแก้วความขมแตะยังริมฝีปาก กระดกดื่มน้ำเมาสีอำพันลงคอจนกระทั่งหยดสุดท้าย ก่อนจะยกมือเรียกบาร์เทนเดอร์มาเพื่อสั่งเพิ่ม


   สายตามองประกายสะท้อนของของเหลวอาบน้ำแข็งล้อเล่นกับแสงไฟในไนท์คลับ บาร์เทนเดอร์หนุ่มรินเหล้าจากขวดลงสู่แก้วใส จมูกไม่รับรู้ถึงกลิ่นฉุนกึกของแอลกอฮอล์อีกต่อไปแล้ว คงเพราะทั้งร่างคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแบบเดียวกัน


   นี่คงเป็นความเคยชิน ที่ทำให้เราไม่รู้สึกรู้สาทั้งความสุข หรือความทุกข์


   ยิ่งนานวันเข้า ก็กลายร่างเป็น ความด้านชา


   ชินชาเสียจนบางครั้งก็ไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง


   เวลาเที่ยงคืนตรง ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่นัดกันไว้


   หากเป็นเวลาปกติ อิฏฐ์ไม่ใช่คนที่จะผิดนัดกันง่ายๆ ทั้งที่อีกฝ่ายรับปากว่าจะมาตั้งแต่สี่ทุ่ม แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่ว่าจะติดต่อมา คงจะผิดนัดเสียล่ะมั้ง


   หรือจะกลับเลยดี?


   ตั้งใจว่าจะส่งข้อความบอกอิฏฐ์ว่าจะไม่อยู่รอต่อ แต่สายเรียกเข้าจากหนุ่มรุ่นน้องก็ดังขึ้นเสียก่อน ผมจึงกดรับสายที่เรียกเข้ามา


   “ว่าไง”


   [วา ขอโทษทีนะ]


   คำขอโทษกลายเป็นคำทักทายแรก ผมไม่ได้รู้สึกโมโหหรืออยากต่อว่า เพราะถ้าไม่เกิดเหตุสุดวิสัย เขาคงไม่ผิดนัดกันง่ายๆ แบบนี้


   “อืม เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”


   เอ่ยถามไปที่ปลายสาย มือพลางป้องไว้กับโทรศัพท์เพื่อให้เสียงดังฟังชัดขึ้น ความอึกทึกจากภายในไนท์คลับทำให้เสียงการติดต่อสื่อสารขาดๆ หายๆ หรือบางครั้งก็ไม่ได้ยินไปเสียดื้อๆ


   [เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ผมพึ่งจะเคลียร์กับประกันเสร็จเมื่อครู่]


   เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ โชคดีที่อีกฝ่ายปลอดภัย และสามารถโทรศัพท์กลับมาบอกข่าว


   “อ้อ แล้วนายไม่เป็นไรนะ?”


   [ไม่เป็นไร แต่ต้องเอารถเข้าอู่ วาเถอะ จู่ๆ ก็ชวนดื่ม เป็นอะไรหรือเปล่า?]


   ผมนิ่งไปครู่ ก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรือ่ง


   “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าไม่ได้เจอกันสักพักนึงเท่านั้นเอง แล้วนีขับรถเร็วรึเปล่า? ระวังหน่อยก็ดีนะ”


   ผมรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหนุ่มเลือดร้อน บางทีก็อาจคึกคะนองไปโดยไม่ทันระวัง จึงเอ่ยทักให้ระวังตัวไว้หน่อย แล้วก็รู้สึกผิด ที่ชวนอีกฝ่ายมาทั้งๆ ที่ฝนตกหนักด้านนอก


   [ผมขับระวังแล้วนะ แต่รถคันหน้าน่ะ ผิดเต็มๆ เลย]


   แล้วหนุ่มรุ่นน้องก็สาธยายเหตุการณ์มายืดยาว ฟังได้ความบ้างไม่ได้ความบ้างเพราะเสียงเพลงดังสนั่นภายในไนท์คลับ ขณะที่ฟังก็นึกขันอยู่ในใจ รอจนอีกฝ่ายพูดจนพอใจ จึงค่อยเอ่ยต่อ


   “ฉันเข้าใจ งั้นกลับบ้านดีๆ นะอิฏฐ์ รถเสียแล้วก็อย่าไปเถลไถลที่ไหนล่ะ”


   [วาด้วย จะว่าไป ผมนั่งแท็กซี่ไปรับวาที่คลับดีไหม อย่าบอกนะว่าเมาแอ๋แล้วน่ะ]


   “ถ้าเมาคงคุยกับนายไม่รู้เรื่อง ฮะๆ”


   [ถ้ายังไหวงั้นเดี๋ยวผมไปหา รอก่อน..] ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็เอ่ยตัด


   “ไม่ต้องหรอก ฉันจะกลับแล้วล่ะ ไว้คราวหน้า”


   ไม่รู้สึกอยากดื่มกับใครแล้วเพราะดื่มเองไปเยอะ อีกอย่างอิฏฐ์ก็เพิ่งเจอปัญหาเรื่องรถ จะชวนมาดื่มจนดึกดื่นอีกก็ดูจะรบกวนมากเกินไป


   ผมกดวางสายเมื่ออิฏฐ์ตอบตกลง เส้นประสาทแถวขมับกลับมาเต้นตุบอีกครั้งเมื่อความสนใจถูกเบี่ยงกลับมาที่เสียงอึกทึก และแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


   ผมยกดื่มเครื่องดื่มที่เหลือเพียงครึ่งรวดเดียวหมด ก่อนจะวางเงินไว้ข้างใต้แก้วที่รวมทิปให้กับบาร์เทนเดอร์ สายตาไม่สนใจภาพสะท้อนของใครคนหนึ่งอีก หากแต่กวาดมองไปยังไฟหมุนที่สาดสว่างไปทั่วพื้นผนัง เพดานและผู้คน


   ยิ่งมองแสงสีก็ยิ่งรู้สึกวุ่นวายสับสน จนต้องหลับตาลงชั่วครู่ สักพักถึงดันตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง ทว่าทันใดนั้นผมก็รู้สึกตัวว่าแทบไม่สามารถควบคุมศีรษะให้ตั้งตรงไว้ได้ไหว จึงต้องเท้ามือยันกับขอบเคาน์เตอร์บาร์ไว้ก่อน


   สองขาหยุดยืนนิ่งเพื่อรวบรวมสติ พยายามสะบัดศีรษะให้สร่างจากความมึนเมา ค่อยๆ หันหลังออกก้าวเดิน


   ดูเหมือนว่าการดื่มเหล้ารอใครสักคนไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหากเวลาที่ต้องรอนั้นนานมากเกินไป เพราะระยะเวลาที่ยิ่งนาน จำนวนแก้วเหล้าที่ดื่มก็ยิ่งมาก อย่างวันนี้ผมนับจำนวนไม่ได้ด้วยซ้ำว่าดื่มไปมากเท่าไหร่


   ขณะที่กำลังโซซัดโซเซจนเกือบชนผู้คนที่เคลื่อนไหวขวักไขว่ไปมา คนแปลกหน้าคนหนึ่งก็ถือวิสาสะเข้ามาจับท่อนแขนผมไว้


   “ไหวรึเปล่า ให้ผมไปส่งไหม?”


   รีบสะบัดแขนออกจากบุคคลที่ไม่รู้จักทันที ไม่เคยรู้สึกดีใจที่มักเป็นจุดสนใจของคนอื่นง่ายๆ ไม่เคยตื่นเต้นหรือแม้แต่ภาคภูมิใจ ออกจะลำบากใจเสียมากกว่า ผมก้าวเดินต่อไปให้ถึงประตูห้องน้ำ ขืนไม่เอาสารพิษออกจากร่างกายบ้าง คืนนี้คงกลับไม่ถึงห้องของตัวเอง


   เดินเกือบจะถึงจุดหมาย ก็ถูกคนแปลกหน้าคนเดิมดึงแขนเอาไว้เสียก่อน


   “นี่... ให้ผมไปส่งดีกว่า”


   ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ผมจึงพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมเหนี่ยวรั้งอีกครั้ง ครั้งนี้ผมพยายามพาตัวเองให้ห่างออกจากห้องน้ำทั้งที่อยากจะอาเจียนแอลกอฮอล์ออกมาเต็มแก่ และหลบเลี่ยงเพื่อไปทางฟากอื่นของคลับ เดินผ่านคนที่เต้นกันขวักไขว่ และเพราะทรงตัวไม่ค่อยอยู่ จึงทำให้ถูกผลักถูกดันจนต้องใช้เวลานานกว่าจะฝ่ากลุ่มคนออกมาอยู่อีกด้านได้


   ผมยืนเอนหลังพิงกำแพงโดยที่สายตามองไปที่กลุ่มคนตรงฟลอร์เต้น เหล่าหญิงชายบางคู่ก็พลอดรักกันอยู่ตรงนั้น เห็นแล้วก็ตระหนักได้ว่าที่จริงผมไม่ควรมาที่นี่เลย ต่อให้อยากหนีโลกข้างนอกยังไง ข้างในนี้ก็ไม่เหมาะกับผมอยู่ดี


   ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเมื่อตั้งใจจะเดินออกจากไนท์คลับ คนคนเดิมก็เข้ามาอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ เขากลับมากับกลุ่มเพื่อนด้วย


   “นี่นายดูไม่สบายจริงๆ นะ...เดี๋ยวพวกผมช่วยทำให้สบายตัวมั้ย”



.
.


TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2015 22:58:34 โดย yochan »

ออฟไลน์ Nongying2012

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ tararatart

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
 :sad4:  ถ้ามันเม้นต์ซ้ำๆกันได้อยากเม้นต์ซักพันครั้งต่อชั่วโมงจะได้ดันๆอยู่กระทู้แรกๆแต่เค้าจำกัดอ่ะฮี่ๆ  ชอบเรืีองนี้นะชอบมาก ชอบพลอตอ่ะไม่ค่อยมีนะพระเอกรังเกียจนางเอกอ่ะ สู้ๆนะรอตลอด
ปล.หนูวาจะเป็นยังไงต่อไป :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
จะรอดไหมเนี่ยะ
แอลกอฮอล์ ไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นมานะน้องวา

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
รอๆตอนต่อไป

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เฮ้ยยย วายุจะรอดมั้ยเนี่ย
มาเป็นกลุ่มๆซะด้วยซิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จะรอดมั้ยนั่น...

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
วายุ จริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่
ข่าวลือ ก็เป็นแค่ข่าวลือใช่มั้ย

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มาต่อเถิดคนเขียน คิดถึง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ซวยแล้วน้องวา

ออฟไลน์ sembia

  • Me as me.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอคนเขียนจ้าาาา  ลุ้นๆๆๆ :katai4: :z3:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
รออออ
เริศอะ เเซ่บค่า
วาจะโชว์เปียโนไหม??

ออฟไลน์ Nooneder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มาต่อเร็วๆนา

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 5.2




 
 
   “นี่นายดูไม่สบายจริงๆ นะ...เดี๋ยวพวกผมช่วยทำให้สบายตัวมั้ย”

กลุ่มคนรายล้อมรอบตัวผม ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องการอะไร อาจจะต้องการของมีค่า ผมจึงเอ่ยถามไป


พวกคุณต้องการอะไรจากผม บอกมาตรงๆ เลยดีกว่า”

มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะลองกดโทรศัพท์หาอิฏฐ์ที่เพิ่งวางสายไปก่อนหน้า ทว่าผมก็ได้รู้้ตัวเดี๋ยวนั้นว่าโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ที่ตัวแล้ว

สะเพร่าชะมัด คงจะวางลืมไว้ที่เคาน์เตอร์แน่


ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวนไปข้างนอกด้วยกัน”


“......”

ผมไม่ตอบ ได้แต่มองทอดไปทางอื่น ก่อนจะถอนหายใจออกมา ชั่ววูบนึงคิดว่าคนพวกนี้อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้คิดต่อต้าน และไม่ได้คิดกลัว สมองออกจะว่างเปล่าเสียมากกว่า รู้สึกเพียงว่าไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว

ไม่อยากเชื่อนักว่าแอลกอฮอล์ทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้

ท่ามกลางแสงสีและเสียงอึกทึก ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เป็นเสียงที่ผมคิดว่าคงหูฝาด


วา จะไปกันได้รึยัง”

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เจ้าของเสียงเดินเข้ามาขวางกั้นผมกับกลุ่มคนแปลกหน้าไว้

เพลิงปรากฏอยู่ตรงหน้าผม

ผมคิดว่าตัวเองอาจเกิดภาพหลอน จนต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ความร้อนที่เข้ามากุมอยู่ที่ข้อมือ ทำให้ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา


พวกคุณมีอะไรกับเพื่อนผมหรือเปล่า”

คนร่างสูงเอ่ยขึ้น และคนที่ตามเพลิงมาก็คือรปภ.ของคลับแห่งนี้ เมื่อกลุ่มคนแปลกหน้าเห็นท่าไม่ดี จึงล่าถอยไปอย่างเสียไม่ได้

ร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาขวางยืนหันหลังให้ จากมุมนี้ผมไม่อาจมองเห็นสีหน้าของคนที่ยืนเผชิญหน้ากับชายคนเมื่อครู่ได้ แต่ไม่ต้องคาดเดาก็พอรู้ว่าคงไม่ใช่สีหน้าที่สู้ดีนัก เพราะเมื่อเขาหันกลับมา สายตาเย็นชาก็ทิ่มแทงบาดลึกมองผมมาจนรู้สึกเจ็บแปลบ

ผมไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้ยังไง ไม่รู้ว่าเพลิงมีโทรศัพท์ผมได้ยังไงด้วย เพราะจู่ๆ อีกฝ่ายก็ยื่นเครื่องมือสื่อสารที่ผมหาอยู่เมื่อครู่มาให้


ออกจากที่นี่กันได้หรือยัง”

เขาส่งเสียงก้องแข่งกับเสียงเพลงดังสนั่น มือแกร่งกึ่งบีบกึ่งลากท่อนแขนผมไปทางทางออก แต่ผมยื้อแรงไว้เพราะพะอืดพะอมจนอยากอาเจียนออกมาเต็มที


เข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม”

เพลิงทำท่าจะลากผมออกไปเหมือนเดิม ทว่าเมื่อผมยื้อแรงมากๆ เขาก็เป็นฝ่ายลากผมไปที่ห้องน้ำของไนท์คลับเสียเอง



.
.

เสียงเพลงอึกทึกแผ่วลงเมื่อเข้ามาถึงภายในห้องน้ำ ร่างสูงกว่าเหวี่ยงปล่อยมือผมออก แม้จะรู้สึกแย่ที่ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเพียงแค่สิ่งของ ผมก็เลือกที่จะเงียบและมุ่งตรงไปยังอ่างล้างมือ มือปัดป่ายหน้าเซนเซอร์จับความร้อนเพื่อให้สายน้ำฉ่ำเย็นไหลรินออกมา แล้ววักน้ำชโลมใบหน้าเรียกสติ

แค่จะหยัดยืนตรงยังแทบไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินไปยังชักโครกห้องที่อยู่ใกล้ ก่อนจะทำอย่างที่เคยทำเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเมา

ล้วงคอให้อาเจียนออกมาให้หมด

ความขมเขื่อนเคลื่อนไหวผ่านลำคอสู่ปลายลิ้น โดยมีความแสบร้อนของน้ำย่อยในกระเพาะพ่วงมาด้วย ทรมานนิดหน่อย หากแต่ก็ยังพอทำให้รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม ศีรษะจากที่เคยหนักอึ้งค่อยโล่งขึ้น ผมสามารถประคับประคองร่างออกมาจากตรงนั้นโดยไม่ชนสิ่งของหรือล้มลงได้ โดยที่ดวงตาของร่างสูงใหญ่ยังจ้องมองไม่หยุด

เดินไปวักน้ำรสชาติจืดชืดเข้าปาก ล้างปากล้างคอที่อ่างล้างหน้าอีกครั้ง สายตาเพ่งมองคนที่กำลังยืนกอดอกผ่านทางกระจกไปด้วย เพลิงเองก็กำลังมองผมมาด้วยท่าทีราวกับรังเกียจ เห็นแล้วก็อดสร้างความรู้สึกขัดแย้งในใจให้เกิดขึ้นไม่ได้

ก่อนที่จะได้หันไปเอ่ยอะไรออกไป เจ้าของแววตาเหยียดหยามก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชันออกมา



(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-07-2015 22:48:36 โดย yochan »

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
  .
.


เสียเงินค่าเหล้า เพื่อมาล้วงคอออกทีหลังเนี่ยนะ?”


“......”

อย่างเขาคงพูดเป็นแค่คำประชดเสียดสี แต่ในคำเสียดสีก็ทำให้บางสิ่งที่ขัดแย้งกันเอง ชัดเจน ยิ่งขึ้นกว่าเดิม


นายนี่แปลกนะ ปากบอกว่าเกลียด แต่ตามฉันมาถึงนี่?” ผมยอกย้อนด้วยคำพูดแทงใจดำ

เพลิงทำหน้าราวกับกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นเฉียบ คมเขี้ยวกัดลงที่ริมฝีปากอย่างเก็บอารมณ์ ถึงอย่างนั้นหัวคิ้วก็ยังขมวดเข้าหากันจนดูออกว่าไม่พอใจ ฝ่ามือทั้งสองข้างก็กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมาให้เห็น

หากแต่ทันทีที่ร่างสูงเหมือนจะตั้งสติได้ เขาก็สาดคำพูดที่เย็นเยียบยิ่งกว่ากลับมา


จะบอกว่าฉันสนใจนายงั้นสิ?” น้ำเสียงแดกดันหลุดรอดจากฟันที่กัดกันกรอด “ถ้าจะสนใจ ก็คงเป็นความ หลงตัวเอง อย่างน่าเหลือเชื่อของนายมากกว่า”


“......”


ฉันจะกลับแล้ว ถ้าอยากจะอยู่เล่นกับไอ้พวกข้างนอกนั่นต่อก็เชิญ นี่ฉันคงเข้าไปขัดจังหวะอีกแล้วล่ะสิ” เขาเอ่ยต่ออย่างประชดประชัน


“......”

ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายหลุบสายตาลงต่ำ

ที่จริงต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่มาช่วยไว้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดยั่วอารมณ์อีกฝ่ายไปอย่างนั้น

พอความเงียบครอบคลุมนานเข้า อีกฝ่ายจึงยืนกอดอกเอ่ยต่อ


ที่เงียบหมายความว่ายอมรับใช่ไหม”


ฉันนัดกับเพื่อนไว้ ไม่ได้มากับพวกนั้น ไม่รู้จักด้วยซ้ำ”


แล้วไหนเพื่อนนายล่ะ”


“......” ผมไม่ได้ตอบ สายตายังมองไปที่เท้า


ถ้าอยากมามั่ว ไม่เห็นต้องโกหก”

ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อปากต่อคำ ยังไงเพลิงก็ไม่เคยมองผมในแง่ดี ผมเลือกเดินเลี่ยงร่างสูงกว่าออกไปด้านนอกด้วยอาการยังไม่สู้ดีนัก คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บางส่วนได้ซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเต้นแรง จนกระทั่งบั่นทอนความสามารถในการควบคุมสติให้ลดน้อยลง

ชายหนุ่มใบหน้าบึ้งเดินตามผมมาถึงนอกคลับ ถ้ารังเกียจกันนักก็น่าจะอยู่ห่างๆ ผมจึงรีบสาวเท้าให้เร็วกว่าเดิม และนั่นก็ทำให้เกือบล้มทรุดเมื่อทรงตัวไม่อยู่หากมือแกร่งไม่เข้าโอบรั้งร่างไว้เสียก่อน


ทั้งสูบบุหรี่จัด ทั้งขี้เหล้า”

แว่วเสียงประชดแข็งกร้าว ร่างสูงจับประคองให้ผมยืนทรงตัว แผ่นอกกว้างไหวอยู่ตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมเจือกลิ่นกายของร่างที่เป็นที่ให้ยึดเหนี่ยวลอยมาเตะจมูก ความร้อนจากกายอีกฝ่ายก็ร้อนรุ่มยิ่งกว่าความร้อนจากภายในร่างของตนเอง จนทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด


ปล่อย...”

ส่งเสียงแผ่วพลางผลักเจ้าของแผงอกกำยำออกไป ทว่าก็เหมือนออกแรงผลักกำแพงที่ไม่มีวันพังทลายลงง่ายๆ เพราะเขาไม่เขยื้อนไหวติงสักนิด


จะกลับหอด้วยกัน หรือจะไปต่อกับพวกนั้น”

เพลิงเหมือนยื่นคำขาดให้เลือก ผมได้แต่บอกเสียงอ่อนว่า “กลับหอ” หัวใจได้แต่เต้นแรงอย่างหยุดไม่ได้ และยิ่งเต้นแรง ก็ยิ่งเจ็บ

หลังจากนั้นเข้าก็ลากผมออกไปนอกคลับ เจ้าของผิวสีเข้มยกมือหนึ่งขึ้นโบกแท็กซี่ไปด้วย ส่วนอีกมือก็โอบเอวผมและกระชับไว้กับข้างลำตัว แม้ไม่ได้บีบรัดรุนแรง หากแต่ก็แนบแน่นมากพอที่จะประคองไม่ให้ผมล้มลงไปกอง

แนบแน่นมากพอที่ความร้อนจากกายอีกฝ่ายจะซึมผ่านเนื้อผ้ามาให้รู้สึกได้

ศีรษะเอนเข้าหาไหล่กว้าง อาจเพราะความอ่อนล้า ทำให้ผมรู้สึกไปเองว่าแรงวงแขนเขากระชับแน่นขึ้น เป็นเวลาเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่ได้ยืนพิงพักกับความอบอุ่น

เพียงแค่ชั่วครู่เดียว ก่อนที่แท็กซี่จะมาจอดตรงหน้า กลิ่นกายและความร้อนผ่าวที่ได้สัมผัสก็ทำให้หัวใจผมเต้นดังรุนแรงได้มากกว่าที่เคยได้รับสารกระตุ้นใด ๆ


..ได้แต่ภาวนา..

ว่าเพลิงจะไม่มีวันได้ยินมัน
.
.




TBC




___




TALK: มาต่อแล้วค่ะ >< ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้มากเลยนะคะ ;_; ฝากเป็นกำลังใจให้วากันต่อด้วยนะคะ ><


เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ






 

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อร้ายยย เหมือนตอนต่อไปจะดีอ่ะ

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คนเขียนมาต่อเร็วน้าาา
โดนคนเขียนเตะ :z6:: ตรูพึ่งจะมาต่อ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โล่งอกโล่งใจที่วาปลอดภัย
แถมได้จิ้นต่อเมื่อคนที่ช่วยคือเพลิง

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
ลุ้นไปกับวา :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เรามารอทุกวันเลย ><

ออฟไลน์ Nooneder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
โฮ จะเป็นไงต่อไปนะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เพลิง ซึน ปากจัด
วา พูดน้อย ช่างประชด
กว่าจะเข้าใจกัน คงยังอีกนาน

ออฟไลน์ PIang-gel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดีที่เพลิงมาช่วย แล้วจะเปนยังไงต่อล่ะ อยากให้ลงเอยกันจัง

ออฟไลน์ SUPERMUAY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai1:

ปากแข็งและซึนทั้งคู่
ถูกใจป้าคร่าาาา 555

ออฟไลน์ yochan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-3
ตอนที่ 6




“หาเรื่องจริงๆ”


   ส่งเสียงบ่นใส่คนด้านข้างที่แทบจะทรงตัวยืนด้วยตัวเองไม่ได้ เรือนผมสีอ่อนแนบพิงที่ปลายหัวไหล่ หากปล่อยมือที่กระชับร่างไม่ได้สติออก เขาก็คงล้มลงไปนอนกองกับพื้นคอนกรีต ผมจึงต้องออกแรงกระชับให้แน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

   ใจนึงก็ออกจะสมเพชจนอยากทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่ อีกใจก็รู้สึกว่าปล่อยไว้ไม่ได้

   ทั้งๆ ที่ไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรด้วยแท้ๆ เมื่อครู่ก็รู้สึกโมโหอีกฝ่ายจนเลือดขึ้นหน้า ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดใจที่ต้องอยู่ใกล้ๆ ทว่าสายตากลับเล่นตลก ไม่ยอมละออกห่างจากเขา ร่างกายก็กลับเดินเข้าหาทั้งที่ปากบอกว่าไม่ต้องการ ยิ่งได้สัมผัสความอ่อนแอที่แฝงอยู่กับความร้อนรุ่มที่แนบชิดกันอยู่ ยิ่งทำให้ไม่อยากปล่อยมือ

   “วายุ! ตั้งสติหน่อย!”

   ส่งเสียงออกไปอีกครั้ง หากแต่ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยตอบรับ แท็กซี่ที่โบกมือเรียกก็จอดรออยู่ตรงหน้าได้ครู่หนึ่งแล้ว

   ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเปิดประตูรถด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ทั้งผลักทั้งดึงคนด้านข้างให้เข้าไปนั่งอยู่ในตัวรถ วายุหลับตาราวกับไม่อยากรับรู้อะไรอีก

   ผมขึ้นรถตามไปนั่งลงด้านข้าง ผ่อนลมหายใจออกมาอีกเฮือก แล้วเอ่ยปากบอกจุดหมายปลายทางไปที่หอพัก

   เมื่อประตูปิดและรถออกตัว วายุก็เอนศีรษะพิงลงกับไหล่ ผมไม่ได้ผลักไสอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ ได้แต่ปล่อยไว้อย่างเลยตามเลย พยายามคิดเสียว่าอย่าถือสาคนเมาไม่ได้สติ

   ท่ามกลางความมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากนอกตัวรถและไฟจากหน้าจอจีพีอาร์เอสให้เห็นเพียงรำไร ใบหน้าซีดเผือดกลับส่องสว่าง แพขนตายาวทอดอยู่บนเปลือกตาที่ปิดสนิท จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ ความมีเสน่ห์ระคนด้วยความน่าหลงใหล ไม่น่าแปลกที่ใครต่อใครต่างรุมตอมไม่หยุดหย่อน

   กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศอบอวลในรถ ทำให้เจ้าของร่างข้างกายทำท่าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอาเจียน คนขับแสดงสีหน้าหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนผมก็พาลกังวลไปด้วย จนต้องเอ่ยปากขอเปิดกระจกเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทบ้าง มือจับช้อนปลายคางใบหน้าซีดให้เงยขึ้นรับลม สีหน้าเขาจึงดีขึ้น

   ไม่นานนักรถแท็กซี่มาจอดลงตรงหน้าตึก ผมแบกวายุขึ้นหลังไปยังห้องพักอย่างทุลักทุเล ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องถึงมาลงเอยแบบนี้ได้ อาจเพราะความใจอ่อนงี่เง่าไม่เข้าท่า เลยหาเรื่องยุ่งยากมาใส่ตัว ถ้าหากไม่เกิดปัญหาตามมาก็คงดี

   สองวงแขนที่พาดมาด้านหน้าแทบไม่เหลือพละกำลังออกแรงกระชับ หากไม่จับเอาไว้ให้ดี วายุก็คงพลัดตกลงจากแผ่นหลัง เมื่อมาถึงห้อง ผมก็วางร่างหมดสภาพลงไปกับเตียงนอน สายตาทอดมองร่างที่ปิดเปลือกตาสนิทอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงตามไปที่นั่น แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยให้ล้มกองอยู่หน้าคลับนั่นตั้งแต่แรก
   
   ย้อนกลับไปตอนที่กลับมาที่หอพอไม่เห็นว่าวาอยู่ในห้อง แรกเริ่มผมก็ไม่คิดจะใส่ใจอะไร หมอนั่นไม่อยู่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ?

   ทว่าความคิดชั่วแวบหนึ่งก็บอกผมว่าที่หมอนั่นไม่อยู่ อาจเพราะเห็นน้ำหวานอยู่ในห้องรอหลบฝน

   หากว่าเป็นผมเห็นหมอนั่นพาคนเข้าห้อง ต่อให้หลบฝนหรือเพราะอย่างอื่น ผมก็คงกระอักกระอ่วนที่จะอยู่เช่นกัน แล้วหลังจากไปส่งน้ำหวาน เธอก็โทรมาพอดีเรื่องงานซ้อมบายเนียร์ บอกว่าอยากให้ถามวาว่าจะช่วยเล่นเปียโนให้ได้ไหม

   ที่จริงผมไม่คิดจะเป็นคนติดต่อให้ แต่สุดท้ายก็โทรออกไปยังเบอร์ของวา แต่คนที่รับกลับไม่ใช่เขา

   เสียงจากปลายสายดังอึกทึก ฟังดูก็รู้ว่าเป็นในไนท์คลับ บาร์เทนเดอร์บอกว่าเจ้าของเครื่องลืมโทรศัพท์ไว้ แล้วก็บอกสถานที่มาให้เสร็จศัพท์ ไนท์คลับนั่นก็อยู่ไม่ไกลจากหอพักนัก ผมก็ไม่รู้คิดยังไงถึงได้จะไปรับเอาโทรศัพท์ให้เหมือนกัน หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ

   ไม่อยากจะคิดอะไรมากอีก ผมตัดสินใจเดินไปชำระล้างร่างกายร้อนระอุให้เย็นลง

   หลังจากกลับออกมาอีกที ก็พบว่าวายุกำลังหยัดร่างนั่งก้มหน้าอยู่ที่เตียง ไม่ได้นอนไร้สติอย่างที่ควร

   ผมเดินเข้าไปใกล้ มือพลางจับผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนบ่าเปลือยเปล่าขึ้นมาซับเรือนผมเปียกของตัวเอง ช่วงล่างผมสวมเพียงกางเกงนอนขาสั้น

   “รู้สึกตัวแล้วรึไง”

   เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย สายตามองอีกฝ่ายที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองกลับ ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

   แสงไฟที่เปิดส่องสว่าง ทำให้สามารถเพ่งมองคนตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น อุณหภูมิห้องที่อุ่นกว่าด้านนอกทำให้สองข้างแก้มที่เคยซีดเผือดขึ้นสีเลือดฝาด วายุสะบัดศีรษะราวกับพยายามเรียกสติ หากแต่สุดท้ายก็คงไม่รู้สึกดีขึ้น มือเรียวจึงบีบจับอยู่ที่ขมับ อาจจะกำลังรู้สึกปวดหัวตุบ ผมจึงเอ่ยอย่างเสียไม่ได้

   “สภาพ น่าสมเพช ชะมัด” ถ้าผมไปที่นั่นไม่ทัน หมอนี่คงมีสภาพน่าสมเพชกว่านี้อีก

   “......”

   เขาไม่ตอบ ผมจึงไม่ทู่ซี้เอ่ยอะไรต่อ หันหลังเดินจากที่ตรงนั้นเพื่อไปหยิบเสื้อนอนมาสวมใส่ เดินไปได้ไม่กี่ก้าว คนที่นิ่งเงียบก็ยอมปริปากออกมา

   “นายน่ะ... การกระทำนี่ขัดกับคำพูดจังนะ”

   “......”

   “ทำเป็นคนดีอย่างนี้ จริงๆ ก็ คาดหวัง อะไรใช่มั้ยล่ะ?”

   สองขาหยุดก้าวเดิน สายตาหันขวับไปทางต้นเสียง เพียงแค่เห็นสีหน้าท่าทางของวายุ ความเดือดดาลก็ก่อตัว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเยาะแบบนั้น ทำให้อารมณ์โกรธขึ้งที่เคยทุเลาปะทุขึ้น

   คาดหวังงั้นหรือ?

   ช่างเลือกคำที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนอื่นได้ดีจริง ๆ

   “ตามฉันไปถึงที่นั่น หวังอะไรงั้นสิ?”

   ผมกัดฟันกรอด สองเท้าเดินกระแทกย่ำกลับไปทางเตียงนอน

   “พวกนอนกับใครไม่เลือกหน้าอย่างนาย คิดว่าฉันคาดหวังอะไรด้วยรึไง?”

   มือคว้าดึงคอเสื้อเจ้าของรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้น หากแต่อีกฝ่ายยังทำท่าไม่รู้สึกรู้สา

   “ถ้าไม่ใช่ งั้นจะบอกว่าที่ทำไปเพราะนายเป็นคนดี?”

   สีหน้าไม่ยี่หระ ไม่หวั่นไหว ไม่ต่างจากรูปปั้นไร้เลือดเนื้อและจิตใจ แม้ภายนอกจะสวยงามแค่ไหน หากแต่เพียงเท่านี้ ก็พอทำให้ผมล่วงรู้ถึงธาตุแท้ภายในของเขาที่ฟอนเฟะได้

   “มีสติพูดจาเหลวไหลได้ขนาดนี้ คืนนี้ก็ไปนอนที่คลับนั่นแล้วกัน!”

   ผมขึ้นเสียงตวาด ออกแรงลากคอเสื้อคนที่นั่งอยู่ให้ลุกออกมาจากเตียง ทั้งดึงทั้งเหวี่ยงเพื่อให้เจ้าของรอยยิ้มยั่วอารมณ์ออกไปให้พ้นๆ หน้า ทว่าเขากลับยื้อแรงไว้ แม้จะกระชากให้ลุกขึ้นมาได้ คนตรงหน้าก็ยังฝืนพยายามยื้อให้ยืนอยู่กับที่ จนผมต้องออกแรงดึงมากกว่าเดิม

   คอเสื้อเชิ้ตดูมีราคารั้งผิวขาวจนเกิดรอยแดง เนื้อผ้าแทบจะขาดแหล่มิขาดแหล่ ขณะที่กำลังยื้อแรงกันไปมา ทันใดนั้นวายุก็เลิกฝืนเอาเสียดื้อๆ ส่งผลให้ผมที่ออกแรงกระชากอยู่ฝ่ายเดียวเป็นฝ่ายเซถอยหลัง และล้มลงเมื่อเขาออกแรงผลักเสริมแรง

   ตึง!!

   ผมล้มลงหงายหลังลงไปกับพื้น มือที่ยังจับรั้งคอเสื้อทำให้ร่างที่ฝืนแรงเมื่อครู่ล้มทับลงมาด้วย วายุยิ้มอย่างรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น มือเรียวทาบกดอยู่บนแผ่นอกเปลือยเปล่า ส่วนหน้าท้องผมก็ถูกเข่าเขากดทับไว้

   คาดเดาไม่ออกว่าเจ้าของสายตาที่ทอดมองมากำลังรู้สึกอย่างไร ผมรู้เพียงแค่รอยยิ้มที่เห็นอยู่นี้กำลัง เย้ยหยัน อยู่กลาย ๆ

   เพียงแค่เห็น ก็ทำให้ความโมโหพลุ่งพล่านจนหน้ามืด

   “ไปซะ! ถ้าอยากมากนักก็กลับไปหาคนที่คลับโน่น ลุกออกไปได้แล้ว!”

   ผมตะคอก มือปัดท่อนแขนที่ทาบทับหน้าอกออก พอกำลังจะดันตัวลุกขึ้น ก็ถูกสองมือผลักดันที่ไหล่ทั้งสองข้างให้นอนติดอยู่กับพื้นห้องอีกครั้ง

   “นายน่ะ เวลาไม่พูดนี่น่ารักกว่าเวลาพูดจาแย่ๆ ออกมาเยอะเลยรู้ไหม?”

   ทันทีที่เอ่ยจบ ริมฝีปากอิ่มก็เข้าแนบประทับกับริมฝีปากผม เขาใช้แนวฟันกดทับกัดฝังลงที่เนื้อปาก เจ็บจนร่างกระตุกวูบ หากแต่ไม่นานความชาก็เข้ามาแทนที่ เมื่ออีกฝ่ายค่อยๆ ดูดเม้มที่รอยแผล

   รสชาติแอลกอฮอล์เฝื่อนขมคละเคล้ากลิ่นเลือดแผ่กระจายจากปลายลิ้นสู่ปลายลิ้น อุณหภูมิร่างที่เคยเย็นกลับร้อนระอุ ไม่อยากยอมรับว่าไม่ใช่เพราะสารกระตุ้นใดที่ทำให้ไม่อาจตอบโต้ แต่เป็นวายุ ที่ทำให้การตอบสนองของร่างกายผมไม่อาจทำได้ดั่งใจหวัง

   แม้วายุจะผละริมฝีปากออก เรียวลิ้นชื้นก็ยังลากไปตามสันคาง ลมหายใจอุ่นรินรดอยู่บนผิว ผิดกับสัมผัสเย็นวาบของริมฝีปากภายนอกเมื่อครู่

   ลากไล้จากแนวคาง คืบเคลื่อนขึ้นมายังกกหู

   “ถ้าเกลียดที่จะเห็นกันนัก ก็หลับตาซะสิ”

   เขากระซิบ มือวางทาบปิดเปลือกตากั้นผมออกจากการมองเห็น ถึงอย่างนั้นประสาทสัมผัสส่วนอื่นยังสามารถรับรู้ได้อย่างดี ร่างกายช่วงบนที่เปล่าเปลือยรับรู้ถึงแรงเสียดสีของเนื้อผ้ายามที่เขาขยับไปมา กระทั่งส่วนครึ่งล่างของร่างกาย ก็รับรู้ว่ากำลังถูกปลุกเร้าให้อารมณ์คุกรุ่น

   นิ้วมือเย็นเฉียบกอบกุมที่แก่นกาย ขยับรูดขึ้นลงจนความเย็นแปรเปลี่ยนเป็นร้อน มืออีกข้างของเขาที่เคยบดบังดวงตาเลื่อนมาวางนาบยังหน้าท้อง ฉับพลันความมืดก็สว่างจ้าด้วยแสงไฟนีออน ทำให้มองเห็นใบหน้าเจ้าของร่างที่กำลังนั่งทับบนต้นขาพร่าเลือน ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าได้รูปกลับเด่นชัด

   รู้สึกราวกับเลือดในกายทั้งหมดวิ่งพล่านอย่างคลุ้มคลั่ง จนมาหยุดรวมกัน ณ ส่วนของร่างกายซึ่งไม่สามารถปฏิเสธความต้องการตามธรรมชาติได้

   ความรุ่มร้อนกระจุกรวมตัวอยู่ที่กึ่งกลางร่าง ส่วนอ่อนไหวที่ถูกเร้าด้วยสัมผัสตื่นตัวภายใต้เรียวนิ้วที่จับต้อง ความพึงพอใจฉายออกทางสีหน้าวายุ เขาปลดเปลื้องกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองลง เผยให้เห็นผิวขาวผ่องที่พาดไปด้วยรอยแดงจากการดึงรั้งเมื่อก่อนหน้า 

   “ทำไมไม่หลับตาล่ะ เกลียดไม่ใช่หรือไง”

   มือผมถูกดึงเข้าสัมผัสกับร่างขาวเนียน ร่างที่คิดว่าเย็นชืดไร้หัวใจกลับร้อนผ่าว แรงเต้นจากภายในส่งผ่านทางปลายนิ้วที่สัมผัสถูก จังหวะของหัวใจรูปปั้นทำให้ปั่นป่วนหวั่นไหว ความสับสนเข้ารุมเร้าขณะที่เขาใช้มืออีกข้างที่เคยสัมผัสกับแก่นกายแข็งขืนมาปลดเข็มขัดของตัวเอง

   วายุดันตัวขึ้นด้วยเข่า ร่นกางเกงสแลคไปกองที่ต้นขา แม้จะมองเห็นไม่ถนัด ผมก็รู้ดีว่าเขาคิดจะทำอะไร

   ผมกัดฟันกรอด พยายามตั้งสติอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังถูกคนที่ เกลียด ปั่นหัวเข้าอย่างจัง รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลัง กดทับร่างกายลงมา รู้ทุกการกระทำ แต่ทำไมผมถึงห้ามไว้ไม่ได้

   ทำไมถึงห้ามตัวเองไม่ได้?

   สะโพกคนตรงหน้ากดลงครอบคลุมกับส่วนร้อนเร่า เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อขยับลงได้เพียงครึ่ง เปลือกตาช้ำปิดลงพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่น ร่างบางหยุดชั่วขณะ ปล่อยให้ทุกอย่างยังคงค้างคา เม็ดเหงื่อเม็ดเล็กพราวผุดที่ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ

   เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง บางอย่างที่แฝงอยู่ในแววตาก็ให้ความรู้สึก ขัดแย้ง กับรอยยิ้มที่ฉายเด่น มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าวายุกำลังยิ้มอย่างที่กำลังทำอยู่ หากแต่เป็นสิ่งที่ ตรงกันข้าม

   ทว่าก็เพียงแค่ชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น ที่ประกายความวูบไหวนั้นคงอยู่ให้เห็น

   “ไม่คิดจะปฏิเสธคนที่นาย เกลียด บ้างหรือเพลิง”

   “......”

   ความเดือดพล่านกลับมาเคลื่อนไหว เขาพูดถูก มันน่าเจ็บใจที่ปากผมบอกว่าเกลียด ร่างกายกลับไม่ทำอะไรนอกจากปล่อยให้ตัวเองถูกปั่นหัวอยู่ฝ่ายเดียว

   ไม่อยากยอมเป็นฝ่ายเดินตามเกมเขาอย่างเดียวอีกต่อไป จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายพลิกร่างขึ้น เหวี่ยงร่างขาวนวลให้นอนแนบแผ่นหลังลงกับพื้นจนเกิดเสียงกระแทกดัง ฝ่ามือกดทับยังกึ่งกลางอกที่แต่งแต้มไปด้วยริ้วรอยแดงจากการฉุดทึ้ง

   "ถ้าคิดว่าฉันจะยอมให้นายเป็นฝ่ายคุมเกมล่ะก็ นายคิดผิดแล้ว"

   ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่จำเป็นต้องเหนี่ยวรั้งตัวเองกับคนอย่างเขาอีกต่อไป จัดการผลักไสร่างกายที่ยังคั่งค้างกับอีกฝ่ายเข้าไปจนสุด วายุสะดุ้ง หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน เจ้าของริมฝีปากอิ่มกัดฟันอย่างอดทนอดกลั้น หากแต่เขาก็ไม่ส่งเสียงใดๆ ให้เล็ดลอดออกมา

   “รู้ใช่ไหมว่าฉันเกลียดนาย”

   โน้มใบหน้าลงส่งเสียงข้างใบหู ลมหายใจร้อนรินรดที่ข้างแก้มฝาดเลือด

   มือดึงกางเกงสแลคที่ค้างคาออกไปให้พ้นทาง ก่อนจับแยกเรียวขาให้ตระกองไปรอบเอว ร่างกายเบื้องล่างโถมเข้าหาเจ้าของเรือนผมสีอ่อนจนกายเคลื่อนไหวไปตามแรงที่เหนี่ยวนำ ทั้งรุนแรงทั้งไร้ความอ่อนโยน เสมือนแค่ต้องการระบายอารมณ์ใส่ตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจให้เสร็จสิ้นไปให้จบๆ

   “เกลียด...”

   ได้แต่เอ่ยย้ำออกไปซ้ำๆ ตอกย้ำให้ทั้งผมและเขาได้รู้ว่า เกลียด

   เกลียดท่าทีที่เหมือนไม่แยแสอะไรสักอย่าง เกลียดการกระทำที่ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น เกลียดที่เขาทำเหมือนสัมพันธ์ผิวเผินนี่ก็แค่เพื่อความสนุกความสะใจส่วนตัว เกลียดจนกระทั่งอยากจะทำลายเปลือกรูปปั้นที่ใครต่อใครว่าสวยงามไร้ที่ติให้แหลกสลายลงต่อหน้า

   ให้เนื้อแท้ปรากฏจนผมสามารถเกลียดเขา

   ได้มากกว่าที่เกลียดตัวเอง


.
.

TBC

____


TALK: หายไปนานเลยค่ะ ไม่รู้ว่าคนอ่านลืมเพลิงกับวาไปรึยังหนอ ;_; หวังว่าจะยังไม่ลืมกันนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนต่อไปด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณมากค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2015 19:44:22 โดย yochan »

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จริงๆทั้งคู่ก็คิดอะไรกันอยู่

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :hao7:  :hao7: อร๊ายยยย มาแล้วววว

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แล้วเขาก็ได้กัน
ทีนี้ใครจะยอมอ่อนให้ก่อนล่ะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ทำซะรุนแรง น้องวาช้ำแย่เลย
เพลิงเอ๊ยหลงเสน่ห์เขาแล้วยังไม่รู้ตัวอีก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด