(ต่อค่ะ)พฤกษ์ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"คุณพฤกษ์คะ ตื่นรึยังคะ วันนี้ไม่ไปทำงานหรือคะสายแล้วนะ"
ผมขยับตัวตื่นขึ้นช้าๆ รู้สึกปวดหัวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนไม่น่าออกไปดื่มเลยให้ตายสิ... กว่าจะกลับเข้ามาก็เข้าสู่วันใหม่ไปแล้ว อีกทั้งยังลืมไปด้วยว่าวันนี้วันจันทร์ เห็นที... คงต้องโดดงานซะแล้ววันนี้
"คุณพฤกษ์คะ..."
เสียงเรียกและเสียงเคาะประตูดังมาอีกรอบ "ครับป้าสาย ผมตื่นแล้ว ป้าครับ... เตรียมชามะนาวให้ผมที" ผมร้องบอกไปพลางยกมือขึ้นนวดขมับไปด้วย
"ค่ะคุณพฤกษ์ อ่อ... แล้วก็ มีเพื่อนมาหาน่ะค่ะ ป้าให้รออยู่ที่ห้องรับแขก รีบลงไปนะคะคุณพฤกษ์"
เสียงของป้าสายเงียบไปแล้ว แต่สติผมยังมาไม่เต็มร้อย เมื่อกี้ป้าพูดว่าอะไรนะ? มีคนมาหาผมอย่างนั้นหรอ ใครกัน... ผมลุกเดินไปล้างหน้าล้างตาให้พอสดชื่นขึ้น ก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่อยู่ตอนนี้เสื้อยืดคอกลมสีขาว กับกางเกงผ้ายืดขาสั้นสีเทา พอลงไปรับแขกได้ละมั้ง คงเป็นเพื่อนในกลุ่มผมมานั่นแหละ เพราะพวกนี้ชอบมาบ้านผมแบบไม่ยอมโทรบอก พอมาไม่เจอก็โวยวาย เฮ้อ... เอาเถอะ
ผมเดินลงไปข้างล่างตรงไปยังห้องรับแขกที่ป้าสายบอกว่าเพื่อนผมกำลังรออยู่
เดี๋ยวนะ ป้าสายบอกว่าเพื่อนผมมา แต่คนตรงหน้า... ผมจำไม่ได้ว่าไปเป็นเพื่อนกับเขาตอนไหน และเขา... รู้จักบ้านผมได้ยังไง
"คุณ! มาได้ยังไง""ขับรถมา"
กวนประสาท! ผมอยากจะต่อยหน้ากวนๆ นั่นสักทีสองที!"อย่ามาตลกคุณหมอชล! คุณมาอยู่บ้านผมได้ยังไง รู้จักบ้านผมได้ยังไง แล้วมาทำไม!"
ใช่แล้วครับ คนที่นั่งส่งยิ้มกว้างมาให้ผมคือหมอชล ตามมาหลอกมาหลอนผมถึงบ้าน!
"ผมจะตอบคุณทุกคำถามเลย คำตอบแรก ผมไม่ใช่ตลกนะคุณ คำตอบที่สองผมก็ขับรถมาไง คำตอบที่สามผมรู้จักบ้านคุณได้ยังไง... ผมถามเจ้าของร้านที่ขายแจกัน คำตอบสุดท้ายผมก็เอาแจกันมาให้คุณไง" ถ้าผมชกคนในบ้านตัวเองไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ
"แล้วคุณเอาแจกันมาทำไม ผมบอกไว้แล้วไงว่าจะเข้าไปเอาวันหลัง" ผมจ้องหน้าคนที่ยังยิ้มหน้าระรื่น
"ไม่ได้สิคุณ ผมจ่ายค่าแจกันไปตั้งเป็นหมื่น ถ้าเกิดคุณนึกอยากแกล้งผมไม่ไปเอาแจกันแล้วให้เจ้าของร้านเอาไปขายผมก็เสียเงินฟรีสิ ผมเลยอาสาเอามาให้เองถึงบ้าน บริการเดลิเวอรี่น่ะคุณรู้จักไหม"
ผมถอนหายใจ "คนอย่างผมไม่แกล้งใครเพราะเรื่องแบบนี้หรอกนะ คุณเอาแจกันมาให้ผมแล้วก็กลับไปได้แล้ว ผมขอตัว"
ผมหันหลังเดินออกจากห้องนั่งเล่นทันที เจอป้าสายที่กำลังยกชามะนาวแก้เมาค้างมาให้ผม ผมเลยรับแล้วถือแก้วขึ้นห้องทันที ผมวางแก้วชามะนาวที่น้ำในแก้วหมดแล้วลงบนโต๊ะหน้าโซฟาในห้องนอนก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ วันนี้ขอเป็นผู้ใหญ่เกเรไม่ไปทำงาน นอนดูหนังทั้งวันสักวันแล้วกันนะครับ
ห้องนอนผมค่อนข้างใหญ่ เพราะผมทุบผนังออก เดิมทีมันเป็นสองห้องแต่ผมก็รวมมันเป็นห้องเดียว ฝั่งหนึ่งคือห้องนอนเดิมของผม ก็มีเตียงนอน ส่วนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เชื่อมกับห้องน้ำ และอีกฝั่งที่เคยเป็นห้องนอนอีกห้องหลังจากที่ผมทุบผนังออกจนเชื่อมกับห้องผมแล้ว ผมก็ทำเป็นส่วนนั่งเล่น มีชุดโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่
"เฮ้ย!" ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อออกมาเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งอยู่ที่ชุดโซฟาในห้องของผม
"คุณ! ทำไมยังอยู่อีก กลับไปได้แล้ว" ผมเอ่ยปากไล่ทันที มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ บุกรุกขึ้นมาถึงห้องส่วนตัวของผมแบบนี้!
"ผมขับรถหลับไม่ไหว ขอนอนหน่อยสิ ตื่นแล้วผมจะกลับ" เขาพูดพร้อมกับหันมา... อ้อน หรอ? อ้อนได้น่าโดนถีบมากๆ เลย
"อย่ามาโกหกหน่อยเลย คุณยังขับรถมาบ้านผมได้เลย อยากนอนก็กลับไปนอนบ้านของคุณนู้น!"
"ผมไม่ได้โกหก ที่จริงผมตั้งใจจะเอาแจกันมาให้คุณตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ดันโดนโทรเรียกตัวเพราะมีเคสผ่าตัดด่วน แล้วยังเจอคนไข้จากอุบัติเหตุอีก กว่าจะเคลียร์งานเคลียร์แฟ้มคนไข้เสร็จก็เช้าแล้ว ผมยังไม่ได้นอนเลยคุณ ผมพูดจริงๆ ไม่ได้กวนประสาทนะ เอาแรงไปกวนประสาทคุณเมื่อกี้จนหมดแรงแล้ว..."
น้ำเสียงเขาดูเหนื่อยจริงๆ ตาก็ทำท่าจะปิดอยู่แล้ว เหนื่อยขนาดนี้ไม่กลับไปนอนล่ะ จะรีบขับรถมาบ้านผมทำไมก็ไม่รู้ เห็นแก่คุณเป็นหมอแล้วไปช่วยคนมา ผมจะยอมก็ได้!
เฮ้อ... ทำไมผมเป็นพวกขี้ใจอ่อนด้วยนะ
ไม่หรอก ถ้าเกิดผมไล่เขากลับบ้าน แล้วถ้าเขาเผลอหลับใน ขับรถชนจนตัวเขาตาย ผมก็มีส่วนผิดน่ะสิ เอาเถอะ ถือว่าทำบุญทำทาน
"นู้น... ไปนอนดีๆ ที่เตียง ผมเห็นแก่ที่คุณเป็นหมอแล้วไปช่วยคนมาหรอกนะ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังเลยว่าผมจะยอม แล้วก็อย่ายุ่งกับของในห้องผมเด็ดขาด!"
"ขอบคุณครับพฤกษ์" เขายิ้ม ไม่ใช่รอยยิ้มกวนประสาทแบบทุกทีก่อนจะเดินโซเซไปนอนที่เตียงของผมแล้วก็ซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่ม
แล้วยังไงล่ะ! จากที่วางแผนจะนอนดูหนังในห้องทั้งวัน ผมก็ต้องย้ายตัวเองลงมาที่ห้องนั่งเล่นแทน ไม่อยากจะรบกวนคนนอนหลับ
ชลอือ... กี่โมงแล้วนะ...จะว่าไปที่นอนนี่นุ่มจัง หอมด้วย นึกแล้วก็ซุกหน้าลงกับหมอนใบที่กำลังหนุนนอนอยู่ มือก็คว้าเอาผ้าห่มมากกกอดไว้แน่น
เตียงนอนไอ้คินมันหอมขนาดนี้เลยหรอวะผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ที่นี่ที่ไหนวะ? จำได้ว่า... หลังจากออกจากโรงพยาบาลแทนที่จะขับรถกลับคอนโดตัวเองหรือคอนโดไอ้คิน ผมเลือกที่จะขับรถมาแถบชานเมืองตามที่อยู่ที่ได้มาจากเจ้าของร้านขายของตกแต่งบ้าน อ่า... ใช่แล้ว บ้านพฤกษ์สินะเนี่ย อย่างนั้นเตียงที่ผมนอนอยู่ก็เป็นเตียงของเขาด้วยละสิเนี่ย หือ... เตียงนี้นอนสบายดีจังแหะ
ผมเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงของคนอื่นอยู่อีกกว่าสิบนาทีจนที่นอนเละไปหมด จะโดนด่าไหมวะ... เอาน่าๆ ไม่หรอก ถึงจะชอบทำหน้าหงุดหงิด รำคาญแต่คุณผู้ดีก็ขี้ใจอ่อนและใจดีกว่าที่เห็นนะ ผมลุกเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ว่าแต่เจ้าของห้องหายไปไหนนะ ผมเดินสำรวจไปเสียทั่วห้องนอนใหญ่นี้แต่ก็ไม่เลยเลือกเดินลงไปชั้นล่าง
บ้านหลังนี้ดูเงียบจังเลยแหะ แล้วตอนนี้กี่โมงแล้วเนี่ย... บรรยากาศแลดูเย็นแล้วเลย ผมหันซ้ายหันขวามองไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงแว่วๆ มาจากในครัวคงมีใครสักคนอยู่ในนั้น เดินไปจนถึงห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงโทรทัศน์ดังลอดออกมา ผมเลยเดินเข้าไปดู
หึหึ
เปิดโทรทัศน์ดู แต่ตอนนี้กลายเป็นโทรทัศน์ดูคนไปซะแล้วละมั้ง... ก็คนที่อยู่ในห้องนี้นะ นั่งพิงผนักโซฟากอดหมอนอิงแล้วก็หลับไปแล้ว ตอนหลับก็ดู... น่ารักดีแหะ แต่พอตื่นแล้วชอบทำหน้านิ่งๆ ไม่ก็ทำหน้าหงุดหงิด หรือเป็นเฉพาะกับผมคนเดียวกันแน่นะ
จึก
จึก จึกจึกแก้มนิ่มดีว่ะ ไม่เห็นเหมือนแก้มผมเลย ผมเอานิ้วจิ้มแก้มเขาก่อนจะจิ้มแก้มตัวเองเพื่อเปรียบเทียบกัน เออเฮ้ย แก้มผมยังสากกว่าเลย แต่แก้มพฤกษ์นี่นิ่มดี
จึก จึกคนที่หลับอยู่ขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ ขนาดตอนหลับก็ยังจะมาทำหน้ารำคาญใส่อีกนะ เดี๋ยวจะโดนๆ อยากทำหน้ารำคาญใส่ผมนักใช่ไหม อย่างนี้ต้องโดน...!
ผมยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มของคนหลับอย่างต่อเนื่อง อะไรนะ? ไม่ควรแกล้งคนนอนหลับ กับ คนที่ให้ที่นอนหรอ? ไม่เป็นไรน่า แกล้งได้ ผมไม่ถือหรอก
"ฮื่อ..." คนหลับส่งเสียงอย่างรำคาญเต็มที่ก่อนที่ดวงตาที่หลับสนิทจะค่อยๆ ปรือขึ้น คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบจะชิด พฤกษ์หันมองผมก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
เฮ้ย! ทำไมมาถอนหายใจใส่ผมแบบนี้ละ
"ตื่นแล้วก็กลับไปสิ จะอยู่ทำไม" ดูสิดู... แทนที่จะทักว่า ตื่นแล้วหรอ หลับสบายไหม กลับมาไล่ให้กลับซะงั้น หึ! คนอย่างไอ้หมอชล ชอบทำตรงข้ามกับอีกฝ่ายต้องการ
"หิวอะคุณ หลังจากมื้อที่ไปกินข้าวกับคุณยังไม่ได้กินไรเลยนอกจากนมหนึ่งขวด" ผมทำตาปริบๆ (?)
"ก็ขับรถไปร้านอาหาร สั่งมา แล้วก็กิน" ไร้น้ำใจ! ชอบทำร้ายจิตใจหมอคนนี้จริงๆ
แต่ไอ้หมอคนนี้สนไหม? แน่นอนว่า... "ไม่มีแรงขับรถอะคุณ ขอกินข้าวเย็นด้วยดิ"
คติประจำใจของไอ้หมอคนนี้คือ
'ด้านได้ อายอด' กับ
'ตื้อเท่านั้น ชนะทุกอย่าง(?)' "คุณพฤกษ์ ป้าเตรียมมื้อเย็นเสร็จแล้ว จะรับเลยไหมคะ" เสียงของผู้หญิง... ที่น่าจะเป็นป้าแม่บ้านของบ้านหลังนี้ดังมาก่อนที่จะเดินมาถึง "อ้าว... ตื่นแล้วหรือคะ อยู่ทานมื้อเย็นก่อนนะคะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว"
ตาวาวถูกใจเลยสิครับงานนี้~ แต่ไม่ๆ อย่าพึ่งดีใจเกินเหตุ ต้องทำตัวให้น่าสงสารเข้าไว้ก่อน "จะดีหรอครับ รบกวนเปล่าๆ ครับ"
คนที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามองผมทันที ถ้าเขาทำหน้าเบ้ใส่ผมได้ เขาคงทำไปแล้วละ
"นั่นสิครับป้าสาย รบกวนกันเปล่าๆ" เฮ้ย! ไม่เห็นใจหมอชลเลยหรอ พฤกษ์ใจร้ายมากอะ...
"ไม่รบกวนหรอกค่ะ มาทานด้วยกันนะคะ หลับไปตั้งนานตื่นมาน่าจะหิวแย่เลย" ป้าสายน่ารักมากเลยครับ
"แต่ดูเหมือนมีคนไม่อยากให้ผมอยู่นะครับ..." ตีหน้าเศร้าเล่าความจริงครับ! ได้ผลชัวร์
"ไม่มีหรอกค่ะ คุณพฤกษ์ให้คุณหมออยู่ทานข้าวเย็นด้วยได้ใช่ไหมคะ" ผมหันมองสีหน้าของพฤกษ์ เขาดูขัดใจแต่ก็ยอมพยักหน้ารับแบบส่งๆ แล้วก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นไปเลย
"มาเถอะค่ะคุณหมอ คุณพฤกษ์น่ะเห็นท่าทางแบบนั้นแต่จริงๆ แล้วใจดีนะคะ วันนี้คุณพฤกษ์มีเพื่อนทานข้าวป้าละดีใจค่ะ" ป้าสายพูดพร้อมกับเรียกให้ผมเดินตามไป
ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย "เขาอยู่คนเดียวหรอครับ?"
"ค่ะ ถ้าไม่รวมป้ากับนายต้องคนสวนอีกคนละก็นะคะ เพื่อนๆ ก็มีมาหาบ้างแต่ส่วนใหญ่คุณพฤกษ์จะชอบกลับมาทานข้าวที่บ้านมากกว่านอกจากงานจำเป็นจริงๆ ก็เลยทานคนเดียวตลอดน่ะค่ะ" ป้าสายพูด เขาคงรักพฤกษ์มาก เพราะตลอดเวลาที่พูดดวงตาของเขามีความสุข แล้วก็ยิ้ม
"ป้าสายดูรักพฤกษ์มากเลยนะครับ"
"รักสิค่ะ คุณพฤกษ์เธอน่าสงสารค่ะ แต่ป้าคงพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าไม่ขอมากเกินไป ป้าอยากให้คุณหมอมาบ้านบ่อยๆ แล้วก็เป็นเพื่อนกับคุณพฤกษ์ไปนานๆ นะคะ"
คนคนนี้นะหรอน่าสงสาร
ผมไม่ได้ไม่เชื่อนะครับ แต่แค่ยังมองไม่เห็นในสิ่งที่ป้าสายพูด หรือว่า... เพราะเป็นคนน่าสงสารเขาเลยปกปิดตัวตนของตัวเองด้วยหน้ากากนั้นกันนะ อื้ม... ไม่ต้องห่วงนะครับป้าสาย ผมจะไม่มีวันเลิกยุ่งกับพฤกษ์แน่นอน ตอนนี้ก็จนกว่า... ไอ้หมอยาขายเค้กเพื่อนของผมได้ตกลงปลงใจกับน้องพัทธ์เสียก่อนนะ ผมจะกั้นท่าพฤกษ์ไม่ให้เข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคนนั้นได้แน่นอน!
ไอ้หมอสัญญา!************************************************
แฮ่! อย่าฆ่าเค้านะะะะะ ให้เวลาคุณมัมอีกนิ๊ดนะ ไม่นานๆ อย่าพึ่งฆ่าเค้า เดี๋ยวไม่มีคนแต่งนิยายเรื่องนี้ต่อน๊า *ทำตาปริบๆ เลียนแบบหมอชล* คือคุณมัมเขาไม่ได้สับสนในความรู้สึกของตัวเอง แต่เขาแค่กลัว กลัวว่าถ้าวันหนึ่งพี่คินไปชอบผู้หญิงขึ้นมาเขาก็อาจจะโดนทิ้งไรงี้ เขาเลยขอเวลาแปบนึง ตอนนี้น้องกันต์ออกน้อยห้ามว่าน๊า เพราะเค้าต้องไปเร่งเรื่องราวฝั่งคู่รอง ถ้าคู่รองความสัมพันธ์ยังไม่คืบหน้า ฝั่งคู่หลักก็อดคบกันอะ นี่บอกเลยๆๆ ฮ่ะๆๆๆๆ
ตอนนี้เอาความฟินไปเท่านี้ก่อน แล้วตอนหน้าเจอกันใหม่ค่า
แวะไปคุยกันในเพจเฟสบุ๊คของฟางกันเยอะๆนะ ไปคุยกันได้นะคะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับคนที่เล่นทวิตเตอร์และอยากพูดคุยถึงนิยายเรื่องนี้ช่วยกันติดแฮชแท็ก #น้องกันต์จัดให้ ด้วยนะคะ มาเล่นกันเยอะๆ เลยนะ