☼ โอบตะวัน ☼ ตอนพิเศษ 02 (01/08/15) p.64 **แจ้งข่าว**
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนพิเศษ 02 (01/08/15) p.64 **แจ้งข่าว**  (อ่าน 551112 ครั้ง)

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #60 เมื่อ29-03-2015 10:36:50 »

นายน้อยขี้เหวี่ยง

ขี้วีน แต่ น่ารัก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #61 เมื่อ29-03-2015 10:41:33 »

ตลกดี ชอบตอนต่อล้อต่อเถียงอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #62 เมื่อ29-03-2015 11:05:10 »

นี่ขนาดยังไม่ตรงใจ น้องกฤชก็ชมพี่หนึ่งในใจไปแล้วว่าน่ารักเหมือนแมวขู่ฟ่อ
น้องกฤชคงจะอยากเล่นกับแมว กิ้วๆๆๆ

นายเอกรวยกว่าแถมแก่กว่าด้วย
แหวกจากเรื่องก่อนๆหลายอย่างเลยนะคะ
นี่ไม่นับรวมโลเคชั่นที่เป็นไร่องุ่นอีก
เรื่องก่อนๆอยู่ในเมืองกรุงทั้งนั้นเลย
ถือเป็นผลงานแนวใหม่สุดๆไปเลยค่ะ
รอติดตาม พ่อแง่แม่งอนคู่นี้ว่าจะลงเอยกันได้ยังไง
 
:hao7:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #63 เมื่อ29-03-2015 11:58:20 »

ฟัดกันนัว ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยทีเดียว >o<

ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 843
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #64 เมื่อ29-03-2015 12:22:10 »

เรารุ้สึกได้ว่าคุณกฤษต้องเด็ดแน่ๆ  :ling1:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #65 เมื่อ29-03-2015 12:49:54 »

เปิดเรื่องมาก็ต่อปากต่อคำกันเลย o18

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #66 เมื่อ29-03-2015 12:50:47 »

ชอบบบ นายน้อยอายุมากกว่าแต่นิสัยเด็กมากอ่ะ555
น่ารักดีๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #67 เมื่อ29-03-2015 12:51:56 »

เขาต้องกุ๊กกิ๊กกันตอนขี่ม้าแน่เลย /มโนไว้ก่อน :hao7:

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #68 เมื่อ29-03-2015 14:27:36 »

ทะเลาะกันบ่อยๆ เค้าว่าจะลูกดก
แบบนี้น้องกฤชกับพี่หนึ่งได้มีลูกหัวปีท้ายปีแน่นแน่

ก๊ากกกกกกกกก

 :laugh:

นายน้อยเด็กมากค่ะ เอาแต่ใจแบบน่าจับฟาด
คุณกฤชสู้เค้านะคะ โบกป้ายไฟเชียร์อยู่ค่ะ รอตอนหน้า ฮรี่ >_<

ออฟไลน์ M_April

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #69 เมื่อ29-03-2015 15:19:03 »

พี่หนึ่งเหวี่ยงมาก น้องกฤชจัดเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
« ตอบ #69 เมื่อ: 29-03-2015 15:19:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #70 เมื่อ29-03-2015 15:53:26 »

แน่ใจว่าน้องกฤชกับพี่หนึ่ง ไม่ใช่พี่กฤชกับน้องหนึ่งนะ 555555

เกรงว่าพี่ เอ้ย น้องกฤชคงต้องเหนื่อยแน่ๆ กับการสอนงานให้พี่หนึ่ง

น้องกฤชสู้ๆ นะคะ ลูกแมวอยากมากก็แค่ข่วนเน๊อะ ดื้อมากๆ ก็ต้องปราบกันสักหน่อย

ออฟไลน์ april@tbl

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #71 เมื่อ29-03-2015 18:01:11 »

พี่หนึ่งจะออกฤทธิ์ออกเดช ให้น้องกฤชปวดหัวขนาดไหนน๊า
น่ารักน่าลุ้น ^^

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #72 เมื่อ29-03-2015 19:48:18 »

นายน้อยถึงจะดื้อ แต่ก็ดูไม่เกเร

กัดกันแบบนี้ สนุกคนอ่านล่ะ


รอตอนหน้าค่ะ ^^

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #73 เมื่อ29-03-2015 21:20:00 »

ทะเลาะกันเข้าไป เดี๋ยวอีกหน่อยก็ฟรุ้งฟริ้งสปริงบนเตียงแล้ว กิ้ว~

ออฟไลน์ pemiko2012

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #74 เมื่อ29-03-2015 22:06:43 »

เดี๊ยวพี่หนึ่งจะโดนน้องกฤชปราบพยศแน่ๆ
 :mew3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #75 เมื่อ29-03-2015 22:16:45 »

ทะเลาะขยับความสัมพันธ์

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #76 เมื่อ29-03-2015 22:55:24 »

 :a5: นี่เค้าต้องรอตั้งอาทิตย์เลยเเหรอ  ลงแดงพอดี

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #77 เมื่อ29-03-2015 23:29:01 »

เราเห็นความน่ารักอยู่ในเรื่องนี้  :hao7:

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #78 เมื่อ30-03-2015 08:43:58 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #79 เมื่อ30-03-2015 13:26:00 »

ทะเลาะกันหนัก ๆ แล้วรักกันมาก ๆ นะจ๊ะพี่หนึ่ง น้องกฤช

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
« ตอบ #79 เมื่อ: 30-03-2015 13:26:00 »





ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #80 เมื่อ30-03-2015 21:23:04 »

หอมกลิ่นหญ้าอ่อนนนนนนนนนนนนนน  :hao6:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #81 เมื่อ30-03-2015 21:28:37 »

พี่หนึ่งงเด็กน้อยมากกก

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #82 เมื่อ30-03-2015 22:05:24 »

น่าสนุก
รอติดตามนะค่ะ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #83 เมื่อ31-03-2015 18:48:10 »

เจอกันก็ทะเลาะกันซะแล้ว นายน้อยช่างเอาแต่ใจจริงๆ กฤชได้ปวดหัวหนักแน่เลย

 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 01 (29/03/15)
«ตอบ #84 เมื่อ31-03-2015 22:51:05 »

แค่นี้ก็น่าสนุกแล้ว ดูซิว่านายน้อยจะหมดท่ายังไง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 02 (05/04/15)
«ตอบ #85 เมื่อ05-04-2015 00:13:34 »

ตอนที่ 02


อากาศเย็นลงในช่วงเช้าตรู่ ไอ้โต้งจากบ้านละแวกนี้ก็พร้อมกันโก่งคอขันคุยกันรับอรุณ ผมออกมาทำความสะอาดคอกม้าในช่วงที่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า แล้วกลับมาอีกครั้งเมื่อแสงแรงของวันมาเยือน

เสียงอุปกรณ์ทำครัวดังกระทบกันสะท้อนออกมายังหลังบ้าน แม่ครัวเริ่มลงมือเตรียมอาหารให้นายและนายน้อยกันแล้ว แม่ผมก็คงอยู่ในครัวเช่นเดียวกับป้าแวว ผมเดินลัดเลาะทางที่ถูกปูด้วยอิฐรูปตัวหนอนมายังบ้านพัก จัดการอาบน้ำให้เหงื่อไคลที่ไหลย้อยย้อนแย้งกับอุณหภูมิยามรุ่งสางจนสะอาดเอี่ยม แล้วค่อยเดินกลับเข้าไปในบ้านใหญ่ของคุณชนินทร์อีกครั้งในช่วงสาย

“ออกไปคอกม้ามาหรือ”

คุณชนินทร์กล่าวยิ้ม ๆ ในมือถือแก้วกาแฟ ส่วนตรงหน้ามีถ้วยข้าวต้มหมูสับวางอยู่ โรยด้วยพริกไทยลอยเคล้ากันกับผักชีหั่นฝอย “ช่วงนี้ไม่มีโอกาสขี่เล่นเสียที ถ้าเราว่างก็พอเจ้าสองตัวนั้นออกวิ่งบ้างสิ”

“ครับ” ผมรับคำในลำคอ ปกติก็พาเจ้าสองตัวนั่นวิ่งวนรอบไร่สลับกันวันละรอบ เย็นบ้าง เช้าบ้าง แล้วแต่เวลาจะอำนวย แต่ช่วงนี้แสงฟ้าดูเหมือนจะเสียดท้อง ผมไม่อยากพาออกมาข้างนอกเท่าไร

“ทานข้าวก่อนสิ แล้วค่อยขึ้นไปปลุกพี่หนึ่ง ขืนขึ้นไปตอนนี้ได้ถูกงอแงใส่แน่”

“ครับ ว่าแต่วันนี้คุณชนินทร์มีธุระหรือครับ”

“อืม นัดคุณสมพงษ์ไว้น่ะ จะฝากวางไวน์ในพลาซ่าของเขา ช่วงสิบโมงนี่ล่ะ แล้วจะเข้าไปกรุงเทพฯ ต่อเลย ยังไงฝากพี่หนึ่งด้วยแล้วกัน”

“เขาโอเคแล้วหรือครับ”

“ก็ไม่น่ามีปัญหาแล้วนะ เมื่อคืนดึก ๆ ฉันขึ้นไปปะเหลาะมาอีกที ดูอ่อนลงกว่าตอนเย็นแล้ว” คุณชนินทร์ตอบโดยมีรอยยิ้มจุดที่มุมปากเช่นเดิม ท่าทางไม่ทุกข์ร้อน ผมพยักหน้ารับรู้พลางถามต่อ

“แล้วนายจะเข้ามาอีกทีเมื่อไรครับ”

ชายวัยกลางคนส่ายหน้า วางกาแฟลง เปลี่ยนมาจับช้อนสั้น คนข้าวต้มในถ้วยจนผักชีเคล้ากับเม็ดข้าวแฉะ ๆ ด้วยกันก่อนตอบ “ยังไม่แน่ ช่วงนี้ไร่จรัสก็เร่งตีตลาดอยู่ งานหนักหน่อยล่ะช่วงนี้”

“แล้วทางนี้จะไม่เป็นอะไรแน่หรือครับ”

เจ้าของไร่ตะวันฉายถอนใจแล้ววางช้อนที่เพิ่งตักข้าวต้มเข้าปากลง แม่ผมเดินมาพร้อมอาหารเช้าในรูปแบบเดียวกันแต่เห็นได้ชัดว่าเยอะกว่าคุณชนินทร์มาก ส่วนมากตอนเช้านายจะทานอาหารเบา ๆ น้อย ๆ ผิดกับคนใช้แรงงานอย่างผมที่กินจุและเน้นหนักเพราะต้องใช้กำลังทั้งวัน

“ฉันก็อยากจะฝึกเขาในหลาย ๆ เรื่อง ตั้งแต่รุ้งตายก็ไม่มีเวลาดูแลเจ้าหนึ่ง โชคดีอย่างที่นิสัยพื้นเพเขาเป็นคนเรียบร้อย ถึงจะดื้อเงียบก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่กำราบยากเย็น อยากจะสอนอะไรเขามากไปหมด แต่เราก็รู้ ตอนที่รุ้งเสียเพราะฉันมีเงินไม่มากพอที่จะรักษา ฉันจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับเจ้าหนึ่งเป็นอันขาด เพราะฉะนั้นกฤชอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ฉันฝากตาหนึ่งได้ไหม”

ช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ดี ผมจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แม่มักบอกเสมอ ๆ ว่าใช้เงินให้ประหยัดกว่าเดิมแม้ว่าก่อนหน้านี้เงินค่าขนมแต่ละเดือนจะน้อยเต็มกลืน นายหญิงเองก็เริ่มเจ็บออด ๆ แอด ๆ ส่วนนายก็ดูหงุดหงิดใจไปเสียทุกเรื่อง สถานการณ์ของไร่ตะวันฉายกำลังวุ่นวาย มีการวางเพลิงเผาที่ท้ายไร่จนต้องดูแลกันอย่างเข้มงวด ตอนนั้นพ่อกับแม่ก็ไม่มีเวลาให้ผม เราต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ แม้เดิมนายหญิงกับนายน้อยจะอยู่กรุงเทพฯแต่ก็แวะเวียนมาที่ไร่บ่อยครั้ง จนช่วงหลัง ๆ ก็เว้นระยะห่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

นายน้อยไม่ชอบที่นี่ ผมรู้ ภาพสุดท้ายที่ผมเจอเขายังชัดเจนอยู่ในหัวทุกทีที่เอ่ยถึงอดีต นับเป็นโชคร้ายของนายน้อยที่นายหญิงเสีย แต่ก็นับเป็นโชคดีพร้อม ๆ กันที่เขาถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำและไม่ได้กลับมาที่ไร่ตะวันฉายสมใจปรารถนา
ดังนั้นการกลับมาอีกครั้ง คงทำให้อึดอัดใจน่าดู

“คุณชนินทร์เองก็พักบ้างเถอะครับ ผมว่านายน้อยอยากใช้เวลากับคุณพ่อมากกว่า”

“พักแล้วใครจะทำต่อล่ะ กฤชเอาไหม ฉันยกไร่ให้”

“ไม่ล่ะครับ” ผมส่ายหน้ายิ้ม ๆ คุณชนินทร์ชอบพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้เสมอ

“ฉันรู้ เพราะกฤชก็มีความฝันของกฤช จะให้ฉันใช้เราดูแลที่นี่ตลอดไปก็ไม่ได้ ยังไงเสียก็ช่วยสอนไอ้ลูกชายฉันหน่อยแล้วกัน เป็นการเป็นงานขึ้นมาบ้างเราจะได้ไปใช้ความรู้ที่เรียนมาทำงานที่ชอบได้เสียที ไม่ต้องรับภาระอะไร”

“ผมช่วยคุณชนินทร์ไปได้เรื่อย ๆ ครับ ไม่ได้คิดว่าเป็นภาระ”

“งั้นช่วยฉันอีกเรื่องเถอะ” เขาพูดพลางยิ้มให้ด้วยความเมตตา “ดูแลพี่หนึ่งที ฉันวานล่ะ พี่หนึ่งเขาจบนอก แถมยังถูกเอาใจมาตลอด เป็นคนอีโก้สูง เหมือนจะแข็ง แต่พูดไม่ยากนักหรอก”

ผมหลบตาลง คนถ้วยข้าวต้มให้ควันหอมกรุ่นลอยขึ้นมาในอากาศ

นายพูดถึงขนาดนี้นั่นหมายถึงผมหมดโอกาสที่จะปฏิเสธโดยสิ้นเชิง
   



เสียงเครื่องยนต์ของรถซีอาร์วีแล่นออกห่างไปเรื่อย ๆ จนไร่ตะวันฉายกลับสู่ความเงียบงัน ผมช่วยแม่เก็บจานล้างแล้วค่อยขึ้นมาปลุกคนที่ยังนอนอุตุอยู่ในห้อง เจ้าของหน้าขาวใสเมื่อวานขาวซีดยามตื่นนอน ผมเผ้าสีน้ำตาลเข้มยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ทำหน้ามุ่ยลงเหมือนเด็ก ๆ

“มีอะไร”

“ผมมาปลุก”

“ตั้งแต่แปดโมงเช้า?”

“สายแล้วครับ” ประตูไม้สักเคลือบเงาแลคเกอร์จนวาววับเหวี่ยงกลับมาแทบจะในทันที โชคดีที่ผมใช้มือยันเอาไว้ได้มันจึงไม่ปิดปึง เจ้าของห้องจิ๊ปากหงุดหงิด เดินกลับมาที่เตียงสี่เสา สะบัดมุ้งเพื่อเข้าไปนอนในพื้นที่แคบ ๆ ของตัวเองต่อ

ผมเดินตามเข้ามาในห้องอย่างเหนื่อยหน่าย จับชายมุ้งสะบัดขึ้นพาดด้านบนคานทีละฝั่ง ก่อนเดินไปเปิดผ้าม่านสีขาวม้วนพับให้แสงส่องเข้ามาด้านใน คนนอนตื่นสายตะวันโด่งพลิกตัวหนีไปอีกด้าน ใช้หมอนหนุนสีเดียวกับผ้าปูที่นอนบังดวงตาออกจากแสง

“นายน้อย ตื่นเถอะครับ”

“อย่ายุ่งน่า”

“ถ้าออกไปไร่ตอนเที่ยงแดดจะร้อนนะครับ ออกไปตอนนี้แล้วสักสิบโมงครึ่งกลับเข้ามาดีกว่า”

“ไว้พรุ่งนี้” เขาพูดเสียงอู้อี้ “เมื่อวานฉันนั่งรถมาจากกรุงเทพฯตั้ง4ชั่วโมง”

“อย่าผลัดวันประกันพรุ่งสิครับ” ว่าพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวพลาง คนขี้เซายังคงยื้อเอาไว้ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยแต่สุดท้ายก็ต้านแรงของผมไม่ไหว แขนเขาเล็กนิดเดียว ข้อมือขาวนั่นรวบได้ด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวของผมเลยด้วยซ้ำ

“อะไรนักหนา บอกว่าจะนอนไง!”

“ทำตัวเป็นเด็กเลยนะครับ จะสามสิบอยู่ปีหน้าแล้ว”

“นายว่าใคร!” คราวนี้คนบนเตียงเด้งตัวลุกขึ้นมาเถียงตอเป็นเอ็น ตากลมไม่เจือความง่วงงัวเงียเหลืออยู่ มีเพียงความชิงชังที่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น

“ผมไม่กล้าว่าหรอกครับ”

“เมื่อกี้นายพูด”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตื่นไปอาบน้ำสิครับ เดี๋ยวผมลงไปเตรียมมื้อเช้าไว้ให้ จะได้ออกไปทำงานแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน”

นายน้อยของไร่ตะวันฉายขบฟันจนกระดูกบนสันกรามโปนขึ้นชัด เหวี่ยงขาลงจากเตียงเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไป ผมจัดการพับผ้าห่ม เก็บมุ้งและหมอนให้ จากนั้นก็ลงมาเตรียมข้าวต้มอุ่น ๆ ให้คุณหนูตามที่บอกไว้แต่แรก



พระอาทิตย์วันนี้ดูไม่เป็นใจกับชาวไร่มือใหม่เอาเสียเลย แดดที่ส่องผ่านม่านหลังคาไม้เลื้อยและแว่นตาเรย์แบรนด์ขับเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ให้ซึมออกมาตามไรผม แก้มขาวแดงปลั่ง เห็นทีน่าจะแสบผิวแต่ริมฝีปากเชิดนั่นก็ไม่แม้แต่จะปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว
ภาพที่ปรากฏในสายตาคนงานคือคุณหนูตัวเล็กเดินตามหัวหน้าคนงานต้อย ๆ ใช้หลังมือปาดเช็ดเหงื่อบนหน้าผากบ้างแล้วก้มหน้าก้มตาจดความรู้ทั่วไปของไร่องุ่นลงบนสมุดโน้ตเล่มเล็ก ๆ

“ที่บอกไปว่าองุ่นมีหลายพันธุ์ แบ่งตามโซนที่ปลูกในฝรั่งเศส เอาเข้าจริง ๆ เราก็รับมาปลูกแค่ 2 สายพันธุ์ พันธุ์ชีราสกับชนิน บลองก์ ชีราสเนี่ยไว้ทำไวน์แดง จะให้กลิ่นคล้ายดอกไม้ รสชาติหอมหวานเหมือนผลไม้”

พูดพลางเด็ดลูกที่สุกงอมเต็มที่ให้นายน้อย เขารับไว้แล้วโยนเล่นในมือข้างที่ถือปากกาไว้ “ไร่เราจะปลูกพันธุ์นี้ไว้ 80% แบ่งเป็นทั้งขายสดและทำไวน์ ไว้วันหลังผมจะพาเข้าไปดูในโรงบ่มไวน์”

“แล้วที่เหลือเป็นพันธุ์ชนินเหรอ”

“ครับ อีก 20% เป็นพันธุ์ชนิน บลองก์ ไว้ทำไวน์ขาว ซึ่งรสชาติของไวน์ขาวจากองุ่นชนิดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเก็บเกี่ยวผลผลิต ถ้าเก็บตอนสุกเต็มที่ไวน์ที่ได้จะเบา แต่ถ้ารอให้มันงอมจะใช้ทำไวน์หวานซึ่งเก็บไว้ได้นาน ที่เราปลูกน้อยกว่าเพราะตลาดต้องการไวน์แดงมากกว่า คนไทยชอบดื่มไวน์แดงเพราะเข้ากับอาหารไทยได้ดีกว่า อีกอย่างไวน์แดงไม่ค่อยมีปัญหาตอนออกซิเดชั่นกับส่วนผสมอื่น ๆ ด้วย”

ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ เดินตามมาเรื่อย ๆ เอามือเด็ดใบองุ่นเล่นบ้าง ฉีกทิ้งบ้างแก้เบื่อ ผมเองก็ไม่ได้ท้วง การที่พามาเดินได้จนเกือบสิบเอ็ดโมงก็ถือว่าอีกฝ่ายอึดเต็มทน

“คุณจะพักก่อนไหม เย็น ๆ ค่อยมาเดินใหม่ พระอาทิตย์ตรงหัวแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

“คนอื่นยังอยู่ได้ ทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้”

หนึ่งตะวันถามเสียงกร้าว ผมไม่เห็นสายตาภายใต้แว่นดำของเขาแต่พอจะเดาออก “งั้นผมต่อเลยนะ จุดได้เปรียบของการเอาองุ่นพันธุ์ฝรั่งมาปลูกในเมืองไทยคือจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึงปีละ 2 ครั้ง ฝั่งยุโรปปลูกได้ปีละครั้งเพราะอากาศหนาว”

“องุ่นไม่ชอบอากาศหนาวเหรอ”

“ไม่ครับ องุ่นต้องปลูกในสภาพอากาศอบอุ่น ในเมืองนอกวงจรชีวิตขององุ่นจะเริ่มตั้งแต่หิมะละลาย ใช้เวลา5-6เดือนถึงจะเก็บเกี่ยวได้ หลังจากนั้นก็จะวนมาถึงหน้าหนาวอีกที ไม่เหมือนบ้านเราจะเก็บได้ราว ๆ เดือนกุมภาถึงมีนา กับเดือนตุลา แต่ช่วงต้นปีองุ่นจะมีคุณภาพดีกว่าเพราะเป็นหน้าแล้ง อากาศก็ดีกว่า ไม่มีน้ำในดินมาก ไม่มีศัตรูพืชมาก ถ้าเป็นตุลาจะเสี่ยงกับมรสุมมากกว่า”

หนึ่งตะวันพยักหน้า จะเอื้อมมือไปบิองุ่นเล่นอีก ท้ายที่สุดผมก็ต้องรีบปรามไว้บ้าง “อยู่นิ่ง ๆ สิครับ”

“นิด ๆ หน่อย ๆ ได้ไหม เดินฟังอะไรแบบนี้เฉย ๆ น่าเบื่อจะตาย”

“คุณต้องเบื่อแบบนี้ไปอีกนาน ถ้าทนไม่ไหวจนต้องทำลายข้าวของแบบนี้ผมว่าองุ่นคงเสียไปครึ่งไร่” ผมตอบเสียงเรียบ ขณะที่อีกคนมุ่ยหน้าลง

“เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมหยุมหยิมแถมยังขี้บ่นนัก”

“ผมไม่ได้ขี้บ่นหรอกครับ แต่นายน้อยหันกลับไปมองสิ ทางที่เดินผ่านมาลูกองุ่นถูกเด็ดทิ้งเด็ดขว้างไปแล้วเท่าไร” ว่าพลางพยักพเยิดกลับไปด้านหลัง คู่สนทนาไหวไหล่ไม่สนใจแต่ก็ยอมรามือแต่โดยดี “หิวหรือยังครับ กลับไปทานข้าวกลางวันกันไหม”

“แล้วคนงานล่ะ”

“เขาห่อกันมาครับ เดี๋ยวหิวก็ไปนั่งหลบร่มไม้แกะกินกันเอง บางคนก็กลับบ้าน อยู่ทางฝั่งโน้น” ชี้นิ้วประกอบเพื่อเป็นข้อมูลให้เจ้าของไร่ หนึ่งตะวันมองเพียงครู่เดียวแล้วก็ละสายตาหันหน้ากลับมา

“บ่ายเราจะมาเดินกันอีกใช่ไหม”

“วันนี้พอแค่นี้ครับ ตอนบ่ายแดดร้อนมาก นายน้อยพักที่บ้านดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

“ถ้านายออกมาฉันก็จะมาด้วย” น้ำเสียงนั่นขึงขังเป็นจริงเป็นจัง ริมฝีปากบางบดเข้าหากันแล้วพูดต่อ “เดี๋ยวคนแถวนี้จะหาว่าทำตัวเป็นเด็ก”

“ผมไม่ว่าแล้วครับ” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะฝังใจกับประโยคนั้น ถึงแม้ไม่ได้สบตากัน แต่ผมก็รู้สึกถึงความชิงชังผ่านน้ำเสียง “พรุ่งนี้ค่อยออกมาใหม่นะครับ”

“ฉัน จะ ออก มา พร้อม นาย”

เขาเน้นทุกคำชัดเจน จนผมต้องถอนหายใจหน่าย ไหนว่าคุณชนินทร์บอกว่านายน้อยว่าง่าย ไม่เห็นจะจริงอย่างที่แนะนำในทีแรกเอาเสียเลย




“เป็นยังไงบ้างจ๊ะ หนุ่ม ๆ ไปเที่ยวเล่นในไร่กันสนุกไหม”

ทันทีที่กลับถึงบ้านป้าแวว แม่บ้านคนเก่าคนแก่ก็ทักก่อนโวยวายเมื่อเห็นหน้าขาว ๆ ของนายน้อยแดงก่ำ บริเวณแก้มและจมูกเห็นชัดกว่าที่อื่น นอกจากนั้นก็ยังเป็นบริเวณหน้าผากที่แดงจัดไม่ต่างกัน “ตายแล้วนายน้อย ทำไมหน้าแดงแบบนั้นล่ะคะ พรุ่งนี้ต้องไหม้แน่เลยค่ะ”

“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ” เขาตอบเสียงเรียบ ดึงแว่นตาราคาแพงออกมาเหน็บที่คอเสื้อแล้วปรายตามองมาทางผม “กฤชยังไม่เห็นเป็นอะไร”

“เทียบได้ที่ไหนล่ะคะ ตากฤชน่ะหน้าทนแดดทนฝนจะแย่ เอาไปถูกับพื้นยางมะตอยยังไม่เป็นไรเลย ทูนหัวของแวว แสบไหมคะลูก”

“ไม่ครับ” แก้วตาของป้าแววยังคงตอบเหมือนทองไม่รู้ร้อน แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าโกหก  ผมเลือกที่จะไม่พูดอะไร รับน้ำเย็น ๆ จากแม่แล้วยื่นให้นายน้อยอีกต่อ

“น้ำครับ”

“นายกินก่อนเลย”

“นายน้อยดื่มเถอะครับ แม่เอามาให้”

“ฉันเป็นพี่” เขาพูด “เสียสละให้น้องได้”

เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วนึกขัน ดูนายน้อยหนึ่งตะวันจะพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะแสดงว่าตัวเองโตมากพอที่จะไม่ให้ใครคอยประคบประหงม ในฐานะผู้ชาย ผมเข้าใจเขาดี เหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ ที่อยากเป็นเสาหลักของครอบครัวเมื่อเติบโตขึ้น ถึงแม้สภาพสังคมที่เราเกิดและถูกเลี้ยงดูไม่ต่างกัน แต่ผมก็รู้ว่าลึก ๆ แล้วเขามีความรู้สึกเป็นผู้นำแบบนั้นซึ่งมันฉายชัดออกมาทางแววตา

“ดื่มเถอะครับ ผมมีขวดของตัวเองอยู่ในครัว ไม่ต้องห่วง”

“ใครห่วง” ริมฝีปากบางเหยียดออกมาในทิศทางที่ไม่น่ามอง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยอมรับไปดื่ม ผมมองลูกกระเดือกเล็ก ๆ บนลำคอขาวขยับขึ้นลงไปมาก็รู้ว่าอีกฝ่ายกระหายมากแค่ไหน
ฟอร์มเยอะไม่มีใครเกิน
ดูไปดูมา ถ้าตัดว่าเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ปวดหัวเขาก็น่ารักดี

“มองอะไร” หนึ่งตะวันถามเสียงเข้ม ผมไหวไหล่ไม่ตอบก่อนเดินกลับเข้ามาในครัวปล่อยให้เขาอยู่กับป้าแววตามลำพัง




“กฤชก็ไปกวนโมโหนายน้อย”

ผมรู้อยู่แล้วว่าแม่ต้องว่าเรื่องนี้ หญิงวัยกลางคนหน้าตาเกลี้ยงเกลาไม่รู้จักเติมแต่งประทินโฉมเอ่ยพลางถอนหายใจ มือขาวคดข้าวไรซ์เบอรี่สีน้ำตาลแดงออกจากหม้อแต่พอดี บรรจงวางใส่จานแล้วยกทั้งจานใส่ถาดที่มีแกงจืดกับไก่ผัดเม็ดมะม่วงวางอยู่ก่อน ผมช่วยแม่หยิบช้อนส้อม รู้ดีว่านั่นเป็นของคุณหนูคนดีของไร่ตะวันฉาย

“นายน้อยโมโหฟึดฟัดใหญ่เลย”

“ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

“เล่นไปมองกวนโอ๊ยเขาแบบนั้นเดี๋ยวจะโดนดี” นางสายใจกล่าวระอา ไม่วายหันมามองค้อนผมอีกต่อ “นายฝากเราดูแลพี่เขา ไม่ใช่ให้ชวนทะเลาะ”

“ผมยังไม่ได้ชวนทะเลาะเลย มองเฉย ๆ ก็โมโหแล้ว เขาต่างหากที่ขี้หงุดหงิด เจ้าอารมณ์”

“ยังจะเถียงอีก ยกถาดไปเสิร์ฟเลยนะ เป็นการไถ่โทษ” ผมถูกหยิกเบา ๆ ที่แขนก่อนแม่จะหันไปจัดการกับถาดกับข้าวของผู้เป็นนายแล้วหันกลับมาบ่นต่อ “แล้วก็นะ ทีหลังจะพานายน้อยเขาเข้าสวนก็หัดหาหมวกหาร่มให้บ้าง สงสารจริงเชียว”

“ผมให้แล้วนะ เขาไม่เอาเอง”

“เขาเหม็นสาบเหงื่อเราน่ะสิ เจ้าลูกคนนี้” ผมรับถาดมาจากแม่และเลิกต่อล้อต่อเถียง เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นเด็กฝึกงานจอมซนนอนหลับคอพับคออ่อนบนโซฟาตัวยาวก็อมยิ้ม วางถาดใส่จานลงบนโต๊ะทานข้าวที่อยู่ห่างออกมาแล้วเดินเข้าไปปลุก

“นายน้อย”

ดวงตาเล็กปรือเปิดขึ้น ท่าทางงัวเงียคงเพลียแดดเต็มทน ยังจะกล้ารั้นออกไปด้วยตอนบ่าย พรุ่งนี้มีหวังนอนป่วยซมเป็นแน่ “ทานข้าวเสียหน่อยแล้วขึ้นไปอาบน้ำนอนพักเถอะครับ วันนี้ผมจะไม่ออกไปข้างนอกแล้ว”

นายน้อยหนึ่งตะวันลุกขึ้นนั่ง พยักหน้ารับแล้วเอนตัวลงไปใหม่  ผมยิ้ม แตะข้อศอกเขาแล้วเขย่าเบา ๆ คนตัวเล็กอายุมากกว่าครางในลำคอ ท่าทางไม่ค่อยชอบใจที่ถูกกวนเวลานอน

“ทานข้าวก่อนเถอะครับ เมื่อเช้าทานข้าวต้มไปนิดเดียว ไม่อยู่ท้องหรอก ฝืนใจลุกขึ้นมาหน่อยนะครับ”

หนึ่งตะวันถอนใจหน่ายแต่ท้ายที่สุดก็ยอมลุกขึ้นตามคำแนะนำ เดินโซซัดโซเซไปที่โต๊ะอาหารเงียบ ๆ แล้วมองหน้าผม

“ของนายล่ะ”

“เดี๋ยวผมค่อยจัดการครับ”

“ฉันไม่กินข้าวคนเดียวหรอกนะ” ไม่พูดเปล่า มือขาวเลื่อนจานออกห่างตัวแล้วยกขึ้นกอดอก ใบหน้าหล่อเหลาผินหนีไปทางอื่น “วันนั้นนายก็กินพร้อมพ่อนี่”

“ครับ” ผมถูกบังคับให้ร่วมโต๊ะอาหารกับนายตั้งแต่เล็กจนเคยชิน แต่ไม่ได้คิดว่านายน้อยจะอยากให้ร่วมโต๊ะด้วย และไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายปั้นปึ่งใส่แทนที่จะเอ่ยชวนกันดี ๆ

“เดี๋ยวผมมาทานด้วยครับ”

“ฉันไม่ได้ขอ”

“นายน้อยทานเป็นเพื่อนผมหน่อยเถอะครับ ผมก็ไม่ชินกับการทานข้าวคนเดียวเหมือนกัน” คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าแบบขอไปที เขาเลื่อนจานกลับมาตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง

“รีบ ๆ ไปสิ ให้ผู้ใหญ่รอนาน ๆ มันไม่ดีไม่รู้หรือไง”

ผมเดินผ่าน’ผู้ใหญ่’ไปด้านหลัง อมยิ้มกับพฤติกรรมของผู้เป็นนายแล้วสบตากับแม่ที่ยืนมองอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่น “ปะเหลาะพี่เขาก็เป็นเหมือนกันนี่เรา”

“ไม่งั้นไม่ไหวหรอกครับแม่ รับมือยากจริง ๆ”




TBC



ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 02 (05/04/15)
«ตอบ #86 เมื่อ05-04-2015 00:19:54 »

นายน้อยนี่น่ารักดีจัง ปากแข็งไปหน่อยนึง... อย่าลืมทากันแดดน้าพี่ตะวันนนน ไม่งั้นเกรียมแน่ๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 02 (05/04/15)
«ตอบ #87 เมื่อ05-04-2015 00:34:50 »

เด็กน้อยมากนิสัย ต้องมีการปะเลาะ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 02 (05/04/15)
«ตอบ #88 เมื่อ05-04-2015 00:35:20 »

สงสารกฤช รู้สึกเหมือนตกเป็นเบี้ยล่างอย่างบอกไม่ถูก 555555555555
เอาน่า ปะเหลาะนายน้อยเข้าไว้ ตายใจเมื่อไหร่จับฟาดเลยนะคะคุณหมอ  :o8:

อ่านเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกว่านายน้อยนี่บางก็น่าหมั่นเขี้ยว บางทีก็น่าเอ็นดู

ชอบตอนที่ย้ำว่าตัวเองเป็นพี่แล้วกฤชเป็นน้องมากๆ
อ่านแล้วแบบ โอ้ยยย เอ็นดู นายน้อยจะสามสิบจริงหรอคะ?
ยังดูเหมือนเด็กเก้าขวบอยู่เลย ก๊ากกกก น่ารักกกกกกกกกกกก >_<

สู้นะคะนายน้อย หนทางที่ไร่ยังอีกยาวไกลค่ะ
เอาใจช่วยกฤชด้วยเพราะนายน้อยต้องแสบน่าดู ต้องรับหน้าที่ดูแลทั้งขึ้นทั้งล่องเลยพ่อคุณเอ้ยยย

มาค่ะ ขอกอดให้กำลังใจพระเอกรัวๆ ก๊ากกก รอตอนหน้า  :กอด1:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 02 (05/04/15)
«ตอบ #89 เมื่อ05-04-2015 01:58:39 »

ทำไมรู้สึกเหมือนสั้นๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด