นักเลงคีย์บอร์ดที่
WRONGพื้นผิดเบอร์
ตีป้อมโดนใคร หัวใจโดนเธอ
หลงรักเธอแบบเบลอๆ เผลอๆก็ได้เธอเป็นแฟน
( かわいい )
- 06 -
วันจันทร์มาถึงเร็วชะมัดเลยว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยปรานต์ขอพูดตรงนี้เลยว่าเขายังนึกไม่ออกว่าถ้าเจอแบร์รี่แล้วจะต้องทำหน้าแบบไหน ถูกเพื่อนร่วมงานที่แทบไม่เคยคุยกันมาแบบนั้นใส่ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องยิ่งกว่าช็อก แต่นี่เขามาทำงานและทำตัวเป็นปกติได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
เพล้งเสียงแก้วตกแตกทำเอาปรานต์อกอี้แป้นร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม ครั้นพอหันไปมองก็เห็นพนักงานสาวร่วมออฟฟิศมองเขาตาค้างโดยไม่สนใจจะก้มลงไปเก็บเศษแก้วพวกนั้น แม้แต่ตอนที่เดินผ่านเจ๊ศรี หล่อนก็ทำแฟ้มเอกสารตกพลางจ้องเขาตาค้างเหมือนกับคนอื่นๆในตึก
มันจะอะไรนักหนาวะ
แต่ก็... เออ... นั่นแหละ ก็ไม่ปกติหน่อยนึงตรงที่เขายังไม่ยอมคืนเครื่องสำอางพี่สาวนั่นแหละ มันก็ความรู้สึกประมาณว่าต้องไปสู้ศึกกับคนที่หล่อกว่าไง คือจะให้มาทำงานด้วยสภาพกรังๆก็ไม่ได้แล้วไหม กูก็ควรหล่อสักหน่อยเปล่า
“อุ้ยเหี้ย!”
แม้แต่พี่โจ้ก็ยังสำลักโค้กตอนที่หันมาเจอความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนร่วมงาน ความหล่อนี่มันเปิดโอกาสให้ชีวิตจริงๆครับ (ซึ้ง)
“อะไร” แสร้งตีหน้าเฉยเมยตอบกลับไปแบบไว้ท่าที ปรานต์เตรียมคำตอบมาแล้ว ถ้าใครถามว่าทำไมหล่อขึ้นผิดหูผิดตาก็กะจะตอบว่าเริ่มหันมาดูแลตัวเองนิดหน่อยไม่มีอะไรเป็นพิเศษ คือนี่กำลังรอให้คนถามอยู่
“ไปทำอะไรมาวะ” คนตัวเล็กถามหลังจากตั้งหลักได้ หยิบโค้กขึ้นดูดอึกใหญ่ๆย้อมใจพลางมองคนที่แปลกไปอย่างผิดหูผิดตา
“แปลกยังไง ก็เหมือนเดิม” ทำไขสือแต่ก็ปัดไรผมน้อยๆ เหล่ไปทางโต๊ะฝั่งตรงข้ามก็เห็นว่าไอ้แบร์รี่ยังไม่มาทำงาน... ดีแล้ว ขอเวลาให้ตั้งตัวก่อน
แล้วมึงจะต้องอึ้ง ที่ทำแบบนั้นกับคนหล่ออย่างกู
“ก็มึงแบบ... แบบว่า... ขาวขึ้น..........”
“ฮะฮะฮะ พี่ว่าอย่างนั้นเหรอวะ” ปรานต์ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมพลางกระชับปกคอเสื้อเชิ้ตของตัวเองและไม่ลืมที่จะทิ้งกาแฟกระป๋องลงทั้งขยะแทนที่จะวางรกไว้บนโต๊ะเฉยๆ “กูก็แค่หันมาดูแลตัวเองนิดหน่อย แต่กูว่าหน้ากูก็ยังโทรมอยู่เลยอ่ะ”
“โทรมที่หน้า” พี่โจ้โพล่งออกมาก่อนจะรู้ตัวว่าเผลอทำเสียงดัง “เอ่อ... คือ... กูหมายความว่า.... โทรมบ้าโทรมบอเหี้ยไร ไม่หรอก ขาวเชียว”
กลั้นขำแบบให้มีพิรุธน้อยที่สุดแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเข้าโหมดกล้อง แชะใส่เพื่อนรุ่นน้องข้างๆสักทีสองทีจนไอ้ปิ๊บต้องหันมาขมวดคิ้วใส่ “ถ่ายไรวะ”
“คือกูนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ซื้อมือถือมายังไม่เคยมีรูปเพื่อนสักที้สักที~ ไหนๆวันนี้มึงก็ขาวหล่อดูดีมีสไตล์ขนาดนี้ กูเลยขอถ่ายไง”
เป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นเป็นอย่างมาก เขาเห็นพี่โจ้มันกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นกึกๆแล้วก็ส่ายหน้าระอา
แม่งเพี้ยนหรือเพี้ยนพี่โจ้รีบกดเข้าไลน์แล้วทักหาเฟบเวอริทของตัวเองทันที กดส่งไฟล์รูปให้แล้วก็ก้มหน้าก้มตาแอบพิมพ์รัวๆอยู่หลังพนักเก้าอี้สูงๆที่หันใส่ไอ้ปิ๊บ
โจโจ้ เชี่ยอาร์ท มึงดูนี่ๆ
เชี่ยเอ๊ย ขำน้ำหูน้ำตาไหลแล้ว
55555555555555555555555555555555555555555555
ARTIS หือ
….
เกิดไรขึ้น
โจโจ้ เชี่ยปิ๊บแม่ง
รองพื้นผิดเบอร์
555555555555555555555555555555555555555
ขาวจั๊วะแบบเสี่ยวเหล่งนึ่งยังอาย
_________________________________________________
นี่ปาเข้าไปบ่ายสองโมงแล้วแต่ไอ้แบร์รี่ก็ยังไม่มาทำงาน วันนี้เขายอมแต่งตัวแต่งหน้านานกว่าปกติก็เพราะหมอนี่เลยนะ นี่ใจคอจะหนีทหารไม่มาพูดมาเคลียร์อะไรหน่อยเหรอวะ
จนปาเข้าไปวันที่สองวันที่สาม ปรานต์ก็ยิ่งหงุดหงิดตัวเองที่ปลุกตัวเองตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อเสริมหล่อ ขอร้องอ้อนวอนพี่สาวไม่ให้ยึดเครื่องสำอางคืน แต่ก็ต้องมาพบความแป้วที่ว่าไอ้แบร์รี่ไม่ยอมมาทำงานเลยสักวันเดียว
แถมคนในบริษัทก็ชอบส่งยิ้มให้เขาแปลกๆ เขาใจไอ้หล่อก็วันนี้ว่าความหล่อไม่เข้าใครออกใครนี่แม่งน่าอึดอัดใจจริงๆ
กูจะรอมึงถึงแค่วันพรุ่งนี้นะหมี กูอึดอัดใจกับความหล่อขาวเกาหลีแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
____________________________________________________
วันนี้วันศุกร์...ไอ้แบร์รี่หยุดงานไปแล้วสี่วัน และไอ้ปิ๊บก็ปฏิญาณตัวเองไว้แล้วว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายจริงๆแล้วสำหรับการมาทำงานในสภาพเวิ่นเว้อแบบนี้ เขาจะไม่ยอมเอาไอ้ห่านั่นมาแลกกับสิวบนหน้าแล้วก็การถูกพี่สาวด่าอีก
มีที่ไหนวะ โกหกกู ทำแบบนั้นกับกูแล้วก็หายไปจากชีวิตทั้งอย่างนั้น คิดว่าตัวเองหล่อมากไหมหืมหืมหืมมิแรนด้า
“อุ๊ย!”
หันไปเจอพนักงานสาวร่วมออฟฟิศสองคนที่ทำหน้าทำตาตกใจตอนที่เขาหันไปมอง เออช่างแม่งเหอะ เขาควรหันมาให้ความสนใจกับการกดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟ จะได้ไม่ตามด้วยการหยิบกระปุกเกลือผิดแทนน้ำตาลอีก
“นี่ ได้ยินข่าวหรือเปล่าเรื่องน้องแบร์รี่ที่อยู่แผนกพัฒนาเกมน่ะ”
หือ...“ฉันว่าเขาไม่กลับมาแล้วแหละแก เป็นฉันก็ไปจ้ะ”
เมื่อกี้เขาไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม สองคนนี้พูดเรื่องไอ้แบร์รี่ไปไหน อะไรยังไง? มีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้หรือเปล่า
พอเดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานถึงได้เอื้อมมือไปสะกิดคนข้างๆ วันนี้พี่โจ้ก็หันมาเห็นเขาแล้วขำพรืดอีกตามเคย ชีวิตมีความสุขมากไปไหมอาทิตย์นี้
“ว่าไงปิ๊บ”
ชั่งใจนิดหน่อยว่าจะเอ่ยปากถามออกไปดีหรือเปล่า จะดูขี้เสือกไปไหม ลำพังเขาเองก็ไม่เคยคุยกับไอ้แบร์เท่าไรนักในสายตาคนอื่น แต่แม่งมาพีคเอาตอนที่เขารู้ว่ามันเป็นสาวที่เขาหลงรักนี่แหละชีวิตของปรานต์ถึงได้เปลี่ยนไป “พี่โจ้...พี่รู้เรื่องแบร์รี่ป่ะวะ”
“ไอ้แบร์อะหรอ... ทำไมอ่ะ?” พี่โจ้ทำท่าเหมือนรู้ และนั่นทำให้คนถามต้องรักษาท่าทีก่อนพูดไปพอสมควรเพื่อไม่ให้คนอื่นจับพิรุธได้
“ก็ไม่เห็นมันมาทำงาน ประสาเพื่อนร่วมงานก็เลยสงสัย” เหตุผลใช้ได้
“อ๋อ...เห็นว่าการีเน่เขาอยากดึงตัวมันไปทำงานนานแล้ว เงินเดือนก็สูงกว่า สวัสดิการก็เสนอให้อย่างดี เขาก็เลยลือกันว่าคงไปแล้วล่ะงวดนี้”
การีเน่ที่ว่าก็คือชื่อบริษัทเกมคู่แข่งของบริษัทไอซ์ฟัคที่เขาทำงานอยู่นั่นเอง เป็นบริษัทใหม่ไฟแรง ทำเกมเล่นง่ายกว่า เข้าใจง่ายกว่า โดยรวมคือแม่งโคตรรถูกใจวัยรุ่นแถมยังฮิตติดตลาดเร็วจนน่าตกใจ แต่ไอ้ปิ๊บไม่ยักรู้มาก่อนว่าแม่งดึงตัวกันดื้อๆงี้
“แบร์รี่มันเก่งมากเหลยเหรอวะ ทำไมดึงแต่มันอ่ะ”
พี่โจ้ฟังแล้วจึงยิ้มแบบผู้รู้ “เอ้า มึงไม่รู้เหรอวะว่าแบร์แม่งเทพสัด กูเคยเล่นกับแม่งอยู่สองสามครั้ง อื้อหืม... ถ้าไม่ติดว่าทำอยู่บริษัทเกมซะเองแม่งคงไปแข่งทัวร์นาเมนท์ได้สบายๆ”
โอ้โห... ยิ่งฟังก็ยิ่งได้รู้ว่ามิแรนด้านี่คือแม่งคงเอาเศษเล็บมาเล่นเพราะไม่อยากหักหน้าเขาสินะ ความภูมิใจที่เคยมีอัดแน่นในตัวปิ๊บปิ๊บสลายหายไปทันตา กูก็ขี้อวดไปซะเยอะ หารู้ไม่ว่าคริสตัลไมเดนนั่นแม่งร่างจำลองเทพชัดๆ (ยิ้มทั้งน้ำตา)
แต่เดี๋ยว...ถ้าเรื่องราวมาเป็นอิหรอบนี้
ก็เท่ากับว่าเขาจะไม่ได้เจอแบร์รี่อีกแล้วดิ___________________________________
หายไปนานเลย คิดถึงเสมอนะคะ