นักเลงคีย์บอร์ดที่
WRONGพื้นผิดเบอร์
ตีป้อมโดนใคร หัวใจโดนเธอ
หลงรักเธอแบบเบลอๆ เผลอๆก็ได้เธอเป็นแฟน
( かわいい )
- 05 -
“อ้าว แบร์รี่...มานี่ได้ยังไง?” [/i]
มันขาว... ขาวผิดปกติและลอยตัดกับคอดำๆมาก ทั้งยังขับให้ริมฝีปากของพี่ปิ๊บแดงอิ่มจนเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษอีกต่างหาก
เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายผิวแทนของเขา..........................
“ไอ้หญ้า กลับไปก่อน เรื่องนั้นน่ะไม่ต้องแล้ว”
“อะ อ้าว” ถึงจะดูงงๆแต่ญาหญ้าก็รู้ตัวว่าเธอไม่ควรโพล่งถาม
เรื่องนั้นออกมาในตอนนี้ ในเมื่อพี่แบร์รี่ออกตัวมาเองแถมยังยัดเงินใส่มือเธอขนาดนี้แล้ว ญาหญ้าก็คิดว่าเธอควรจะโทรนัดแฟนหนุ่มมากินไอศกรีมแล้วก็ช็อปปิ้งในอีทูดี้สักหน่อยคงจะดีกว่า ถึงได้ยอมเดินออกจากร้านไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้งอะไรนัก
ตอนนี้เหลือเพียงผู้ชายสองคนที่ยังคงมองหน้ากันแบบทำอะไรไม่ถูกก็เท่านั้น นเดชยังคงกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น เขาไม่สนใจจะเปิดดูแมสเสจด้วยซ้ำแม้ว่าหน้าจอจะโชว์แจ้งเตือนเด่นหนาแค่ไหน
หน้าของพี่ปิ๊บมันทั้งขาวและหนาเตอะจนแบร์รี่รู้สึกอึดอัดหัวใจเป็นอย่างมาก บางทีก่อนที่จะได้เริ่มบอกความจริงอย่างเป็นจริงเป็นจังเขาควรจะบอกพี่ปิ๊บก่อนว่าเจ้าตัวรองพื้นมาผิดเบอร์ แล้วลิปนั่นก็ทำให้พี่ปิ๊บดูเหมือนตุ๊ดเด็กอะไรเทือกๆนั้นไม่มีผิด
ในฐานะคนแอบรักแล้วนเดชรู้สึกอย่างจริงจังว่าเขาควรแนะนำทางสว่างให้พี่ปิ๊บด้วยการพูดเรื่องนี้ซะ
แต่ว่า....
แต่ว่า....
แต่ว่า....เขาไม่กล้าพอ
มีความในใจอยากบอก เวลาที่ได้เจอ...
เป็นความจริงใจที่ไม่กล้า แต่ต้องบอกเธอ
.
.
ก็เพราะเธอน่ารัก และฉันอยากจะบอกว่ารัก
ฉันรักอย่างที่เธอเป็นอยู่…
ไม่ต้องทำอะไรมากมายให้มันดูลำบากนัก
“เฮ้ย แบร์รี่”
หลุดจากภวังค์สีขาวผ่องและปากสีแดงอิ่มเอิบนั้นด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคย นเดชรู้สึกอายตัวเองที่เขาเผลอมองอีกฝ่ายแบบเสียมารยาทอย่างนั้น เขาควรจะเดินหนีไปเลยดีไหม หรืออย่างน้อยๆก็ควรได้บอกเรื่องรองพื้นผิดเบอร์ของพี่ปิ๊บก่อน
“เอ่อ... พี่ปิ๊บครับ”
“นัดสาวไว้แถวนี้เหรอนาย เฮ้ย เออ มานั่งด้วยกันก่อนก็ได้นะ” ไหนๆมิแรนด้าก็ยังไม่มาแล้วก็อุตส่าห์เจอเพื่อนร่วมงานถึงที่นี่แล้ว ปราณต์คิดว่าจะไม่ทักไม่ทายกันเลยมันก็คงจะดูใจร้ายไปหน่อย อย่างน้อยๆเขากับหมอนี่ก็เคยคุยกันตั้งครั้งหนึ่งแล้วด้วย
แต่ไอ้แบร์รี่ก็ยังทำท่าทางเก้ๆกังๆระหว่างการจะเดินออกไปกับนั่งลงตามคำชวนของเขา นั่นทำให้ร่างโปร่งจำต้องเอื้อมตัวไปคว้าท่อนแขนนั่นมานั่งลงยังฝั่งตรงข้ามเป็นการตัดสินใจให้
“ดื่มไรป่ะ?”
เห็นหน้าขาวๆนั่นกำลังมองเขาแล้วนเดชก็รู้สึกเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก คุณเคยรู้สึกเหมือนเวลาเห็นขนจมูกแต่ดึงในที่สาธารณะไม่ได้ไหม นั่นแหละเขากำลังเป็นแบบนั้นเด๊ะเลย “ไม่เป็นไรครับ”
เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของคนตัวสูงแล้วก็เลยคิดว่าไม่ควรจะขัดอะไรมันดีกว่า อยากไปก็ไปเถอะ ว่าแต่นี่มันนานแล้วนะทำไมมิแรนด้าไม่มาถึงสักที แมสเสจไปก็ไม่ตอบ เป็นห่วงขึ้นมาจับใจว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงตัวเล็กๆที่จะมาเป็นว่าที่แฟนในอนาคต
แบร์รี่ก็ทำท่าจะลุกไปแล้ว ปราณต์จึงตัดสินใจกดโทรออกหาหญิงสาวที่เขารออยู่นานสองนาน เสียงของเธอคงดูอายๆน่าจั๊กกะเดียมแน่ๆเลย
Rrrrหากแต่เสียงโทรศัพท์ในมือของคนตรงหน้ากลับดังขึ้นจนทำเอาปราณต์สะดุ้ง เจ้าของมันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทำเป็นยกหูขึ้นคุยเสียงเข้มในขณะที่เสียงตื๊ดในสายของปราณต์เงียบไป
“ฮัลโหล จะถึงแล้วล่ะ”
นเดชคุยลมกับปลายสายที่ไม่มีอยู่จริง เขาแอบตัดสายพี่ปิ๊บทิ้งไปแล้ว และตอนนี้ร่างสูงก็รู้แก่ใจว่าควรรีบลุกออกไปจากที่นี่ก่อนที่ความเหมาะเจาะทุกอย่างจะจับโกหกเขาไว้ได้ พี่ปิ๊บคงยังไม่ทันเอะใจอะไรนัก
“ครับผม แล้วเราจะกิ--”
Rrrrต้องสะดุ้งโหยงอีกครั้งเมื่อโทรศัพท์ที่แนบอยู่ตรงหูส่งเสียงดังขึ้นมาลั่นร้านอย่างก่อนหน้านี้ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นได้เลยหาว่าเขากำลังคุยกับใครสักคนในสายอยู่จริงๆ นเดชเหลียวหลังกลับไปมองเจ้าของเบอร์โทรเข้าซึ่งอยู่ในท่าเอาโทรศัพท์แนบหูเหมือนกันไม่มีผิด ดวงตาสีดำขลับนั้นเบิกโพลง ยิ่งทำให้เขารีบเร่งฝีเท้าออกไปจากร้านทันที
เขาถูกจับโกหกได้อย่างจัง
“..บ...แบร์รี่! ดะ เดี๋ยว...!”
ปราณต์รีบถลาลุกออกจากที่นั่งทันทีที่พอจะเรียบเรียงอะไรในหัวได้แล้ว ครั้งแรกที่แมสเสจของแบร์รี่ดังแต่หมอนั่นไม่ยอมเปิดดูเขาก็ไม่เอะใจอะไรนัก แต่มันจะบังเอิญสักแค่ไหนเชียวที่โทรศัพท์นั่นดังขึ้นพอดิบพอดีกับที่เสียงตื๊ดแรกในสายของเขาดังบอกว่าโทรติดแล้ว ก็ไม่ได้เอะใจหรืออะไรหรอกนะ แต่พอเขากดโทรไปอีกรอบ ทุกอย่างก็ชัดเจนจนในหัวนี่ตื้อไปหมด
“คุณคะ!”
ผมนี่ยืนขึ้นเลยครับ ปราณต์ทำท่าจะเปิดประตูร้านออกไปหากแต่กลับต้องหมุนกลับมาวืดหล่อๆเมื่อถูกพนักงานในร้านร้องเรียกอย่างจัง อะไรอีก ลืมขอเบอร์ก็บอก รู้ตัวนะว่าวันนี้หล่อมากแต่นี่ไม่ใช่เวลาป่ะครับน้อง
“พี่ลืมจ่ายค่ากาแฟค่ะ”
“....”
รีบควักกระเป๋าตังค์ขึ้นมาควักเงินให้แบบเสียหน้า ขาก็อยู่ไม่สุขสักที มันรังแต่จะซอยเท้าวิ่งตามไอ้หล่อนั่นไปเต็มแก่ อยากจะยัดๆใส่มือพนักงานแล้วพูดหล่อๆว่าไม่ต้องทอนแบบพระเอกซีรีย์อยู่หรอก แต่เงินเดือนยังไม่ออกไง เขาถึงต้องยืนรอตังค์ทอนอยู่แบบนี้
ได้ตังค์ทอนแล้วก็ถลาวิ่งออกจากร้านไป หากแต่ก็ต้องถูกชนด้วยฝูงชนที่เดินขวักไขว่ไปมาจนมองไม่เห็นผู้ชายสูงยาวเข่าดีใส่เสื้อสีฟ้าแพลมเข้ามาให้เห็นในสายตา แต่โบราณว่าขวาร้ายซ้ายดี เพราะอย่างนั้นปราณต์ก็ขอไหลไปตามคนทางด้านขวามือก็แล้วกัน
หายไปไหนวะ... บ้าเอ๊ย!.
ในหัวเขามีแต่เรื่องมิแรนด้าสลับกับหน้าหมอนั่นเต็มไปหมด ถึงจะเป็นคนโง่ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะโง่จนปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกทั้งที่มันคาหนังคาเขาขนาดนี้แล้ว หมายความว่าไงวะ ไอ้แบร์รี่แกล้งเขามาตลอดสามสี่เดือนนี่หรือไงกัน ทำทีเป็นผู้หญิงชื่อมิแรนด้าแล้วก็เข้ามาทำความรู้จัก คุยกันถูกคอ ชอบอะไรเหมือนๆกัน แล้วลับหลังก็คงแอบขำจะเป็นจะตายอย่างนั้นใช่ไหม
เอาสิ ถ้าหนีได้ก็หนีไป!
ก็อยากจะรู้นักว่าถ้าเจอกันจัง ๆ ที่ทำงานหมอนั่นจะทำไง
----------------------------------------------------------------------------
มาต่อสั้น ๆ ก่อนนะคะ ยังไงก็ฝากเรื่องสั้นอีกสองเรื่องที่ลงในห้องเรื่องสั้นด้วยนะคะ
ปล. อิมเมจพี่ปิ๊บ คือ จงอิน ส่วนมิแรนด้าคือ เซฮุน จริงๆค่ะ ทายถูกด้วย ขอบคุณนะคะที่ชอบ (เรื่องนี้ต้นฉบับเป็นเซไคค่ะ)