นักเลงคีย์บอร์ดที่
WRONGพื้นผิดเบอร์
ตีป้อมโดนใคร หัวใจโดนเธอ
หลงรักเธอแบบเบลอๆ เผลอๆก็ได้เธอเป็นแฟน
( かわいい )
- 02 -
นเดชเช็ดผมหมาดๆของตัวเองพลางเปิดโน้ตบุ๊คสเปคสูงลิบของตัวเองก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้นวมอย่างดี พอหน้าเดสก์ท็อปปรากฏก็จัดการ กดคลิกไปที่ไอคอนคุ้นตาโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
USER : MirandaKerr
PASSWORD : ******** ว่าแล้วก็สมเพชตัวเองชะมัด นี่เป็นครั้งที่ล้านแล้วมั้งกับการถามตัวเองว่ากำลังทำบ้าอะไรอยู่ อวาตาร์รูปตัวละครผู้หญิงหวานๆปรากฏที่มุมหนึ่งของจอพร้อมทั้งตารางให้เลือกเซิร์ฟเวอร์สำหรับเข้าเล่น
แต่นเดชไม่จำเป็นต้องกดเลือกอะไรทั้งนั้น เขามองนาฬิกาบนผนังแล้วก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมากดดูผ่านๆเพื่อฆ่าเวลา ไม่ถึงห้านาทีเสียงแจ้งเตือนก็ดังพร้อมกับหน้าต่างใหม่ที่เด้งขึ้นมา
PIBPIB : เป็นไง เล่นไปกี่เกมแล้ว
MirandaKerr : รออยู่ พิมพ์มือเดียวในขณะที่อีกมือก็สไลด์ปิดแอปพลิเคชั่นไปด้วย สุดท้ายแล้วสมาร์ทโฟนก็ถูกโยนไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียง โดยที่เจ้าของมันนั่งฝังตัวอยู่ในเก้าอี้นวม พูดก็พูดเถอะ เขาน่ะเบื่อไอ้เกมบ้านี่จะตายชักอยู่แล้ว ที่เล่นก็แค่เพราะอยากจะได้คุยกับใครคนหนึ่งเท่านั้นแหละ
PIBPIB: รอเราอะดิ มาๆเดี๋ยวพาชนะ
MirandaKerr : ขี้อวด 
PIBPIB : อวดแล้วรักป้ะล่ะ... วันนี้พี่ปิ๊บเล่นเขาไปกี่ดอกแล้ววะ....................
นเดชไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียวว่าพี่ปิ๊บไปกักเก็บความเสี่ยวมาจากไหน นี่เพราะเป็นเขาหรอกนะถึงได้มองว่ารุ่นพี่ที่ทำงานคนนี้ทำอะไรก็ดูน่ารัก ถึงแม้คนอื่นจะชอบหาว่าพี่ปิ๊บเป็นผู้ชายผิวคล้ำ ๆ ไม่ขาวตามเทรนด์ หน้าตา ส่วนสูงดูเป็นมนุษย์ธรรมดาตามแบบฉบับแบบชายไทยก็เถอะ แล้วก็ถ้าไม่ใช่มิแรนด้าคนนี้เอามุขแบบนี้ไปจีบสาวที่ไหนก็ไม่ติดหรอกรับรอง…
ร่างสูงถอนหายใจแล้วพิมพ์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
MirandaKerr : ไม่รัก เดี๋ยวมานะ ถึงรู้ว่าพี่ปิ๊บจะตอบกลับมาภายในครึ่งนาทีนี้แต่ชายหนุ่มก็คว้าเอาซองบุหรี่แล้วลุกขึ้นเดินไปตรงระเบียง เดี๋ยวพี่ปิ๊บตอบกลับมาแล้วจะเอาแต่คุยเพลิน เขาเลื่อนบานประตูกระจกออกแล้วเดินออกไปรับลมบนพื้นระเบียง วิวทิวทัศน์ของอโศกในยามค่ำคืนก็เป็นอีกอย่างที่เห็นจนเบื่อ เขามักจะมองไปที่ตึกก่อสร้างใกล้ๆเพื่อดูว่ามันคืบหน้าถึงไหนแล้วในตอนที่ปล่อยควันออกจากปากอึกแล้วอึกเล่า
จะเป็นยังไงนะ ถ้าจริงๆแล้วมิแรนด้า
สูบบุหรี่ -----------------------------------------------------------
งัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพราะต้องไปทำงาน ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงนเดชก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จพร้อมออกไปทำงาน หยิบกระเป๋าเป้บนเก้าอี้ขึ้นมาสะพายไว้ด้วยไหล่ข้างเดียวก่อนจะแกะขนมปังโฮลวีทหลังตู้เย็นมาคาบไว้กับปากแผ่นหนึ่งรองท้อง เดินยังไม่ทันถึงลิฟท์ดีมันก็ลงไปย่อยอยู่ในท้องเขาแล้วเรียบร้อย ไม่ลืมที่จะแวะแฟมิลี่มาร์ทใต้คอนโดเพื่อชงกาแฟซองสำเร็จรูปแล้วก็เดินออกจากที่พักในระดับความเร็วที่ไม่เร่งรีบนัก
เพราะว่าแยกจากครอบครัวมาอยู่คอนโดมิเนียมคนเดียว บวกลบคูณหารค่าใช้จ่ายแล้วถึงคิดว่าอยู่ที่พักใกล้ๆออฟฟิศนี่แหละดี ใช้เวลาเดินไม่ถึงสิบนาทีเขาก็ถึงบริษัทแบบที่ยังไม่ทันเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ ถังขยะหน้าตึกก็มักจะเป็นที่ทิ้งแก้วกาแฟของเขาอยู่ทุกเช้าๆ
ชีวิตประจำวันของนเดชเรียบง่าย แต่มันค่อนข้างจะมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งก็ตรงที่เขามักจะเป็นเป้าสายตาของสาวๆทั้งที่รู้จักแล้วก็แปลกหน้านั่นแหละ ทั้งที่จริงเขาจะยืนรอลิฟท์ตัวต่อไปก็ได้ แต่สาวเจ้าก็เอาแต่กดเปิดซ้ำๆรอจนเขาเดินเข้าไปเบียด จัดว่าเป็นเรื่องน่าอึดอัดระดับต้นๆก็ว่าได้
แต่ร่างสูงก็ยอมอดทนอย่างนี้ทุกๆเช้าเพียงเพราะว่าในอีกไม่ถึงสามนาทีข้างหน้าเรื่องดีๆประจำวันก็จะเริ่มทำงาน ใบหน้าหล่อเดินออกจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นที่ทำงานพลางยิ้มทักทายยามหน้าออฟฟิศ นับถอยหลังอีกแค่ไม่กี่ก้าว แล้วก็นั่นไง...
พี่ปิ๊บกำลังยืนหาวหวอดอยู่หน้าโต๊ะชงกาแฟในโซนครัวพอดี!
นเดชรีบวางกระเป๋ายังโต๊ะประจำตัว เขาลอบอมยิ้มเล็กๆในตอนที่มองไปยังโต๊ะทำงานของอีกคน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็เก่งนักเรื่องเก็บอาการ เขาแสร้งเดินไปยังโซนครัวด้วยสีหน้าที่ง่วงนอนเต็มแก่ (ซึ่งมันจะไม่เกิดขึ้นสำหรับคนที่ได้รับคาเฟอีนไปแล้วหรอก) แต่สุดท้ายตัดสินใจที่จะดื่มมันเป็นแก้วที่สอง เพราะอย่างน้อยๆเขาจะได้มีโอกาสอยู่กับพี่ปิ๊บสองต่อสองแม้จะไม่ได้พูดอะไรกันเลยก็เถอะ
อืม... เขาชอบพี่ปิ๊บจริงๆนะชอบในตอนที่อีกคนทำหน้าง่วงๆ ชอบที่พี่ปิ๊บใส่เสือยืดสีขาวตัดกับผิวแทนๆแบบนั้น ชอบแม้กระทั่งรองเท้าแตะรุ่นพ่อ แล้วก็ชอบสีหน้าหลากอารมณ์ในตอนที่ตักเกลือใส่แก้วกาแฟด้วย
“เหี้ยเอ๊ย...”
ได้ยินเสียงอีกคนสบถดังชัดเต็มสองหู สงสัยจะยังไม่ตื่นดีจริงๆ ร่างโปร่งหันมาเห็นเขาหลุดหัวเราะแต่ก็ดูไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ก็ไม่ได้รู้จักกันมากจนถึงขั้นมีผลกระทบอะไรในชีวิตนี่นะ
พูดแล้วก็เศร้าชะมัด มันคงจะดีถ้าเราได้รู้จักกันมากกว่าที่เป็นอยู่
-----------------------------------------------------------
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมง มองซ้ายมองขวาว่าไม่มีใครแล้วนเดชก็ล็อกเอาท์ออกจากล็อกอินเดิมก่อนจะพิมพ์ชื่อมิแรนด้าลงไป ไม่นานนักหน้าจอดเกมก็ปรากฏแก่สายตา รวมถึงแชทเดี่ยวที่แจ้งเตือนขึ้นมาทางด้านล่างของหน้าจอด้วย
PIBPIB : มาเร็วจัง
MirandaKerr : ออนรอเราเหรอ
PIBPIB : หลงตัวเองนะเราอ่ะ ร่างสูงเบ้หน้าหล่อๆก่อนจะลงมือพิมพ์ตอบกลับไป แต่พิมพ์ไปได้แค่ครึ่งประโยคข้อความของอีกฝ่ายก็แสดงขึ้นมาอีก
PIBPIB : ก็มาออนรออะดิ อยากคุยด้วย นเดชลอบมองพี่ปิ๊บผ่านทางช่องว่างที่มีก่อนจะเห็นว่าร่างโปร่งนั่งอมยิ้มกอดหมอนอิงเอาไว้ราวกับรอลุ้นคำตอบของมิแรนด้าเต็มที เห็นอย่างนั้นก็กลอกตาขึ้นมองเพดานอยู่ครู่หนึ่งเพื่อสรรหาคำพูดดีๆ (หรือจะเรียกว่าตอแหลก็ได้) ตอบกลับไปให้อีกคนทุรนทุราย
MirandaKerr : ทำไมปากหวานจัง
PIBPIB : เคยชิมเหรอหืมหืมหืม
MirandaKerr : ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเป็นกระสือ
หลุดหัวเราะน้อยๆกับคำพูดคำจาของมิแรนด้าที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ ผู้หญิงอะไรขี้อ่อยจัง (เบ้ปากเป็นเส้นตรงประกอบการหมั่นไส้ตัวเอง)
PIBPIB : ดูฟิฟตี้เชดยัง -..-
MirandaKerr : ยังเลย
PIBPIB : เราว่าจะไปดูพรุ่งนี้
MirandaKerr : หื่นอะ พี่ปิ๊บเงียบไปแล้ว นเดชขมวดคิ้วก่อนจะชะโงกไปแอบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ทั้งยังกำลังทำหน้าเครียดจนเขารู้สึกกลัวขึ้นมาดื้อๆ รีบหันซ้ายหันขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินผ่านมาทางนี้ แน่ล่ะ เขากลัวอย่างกับอะไรดีว่าจะมีใครรู้ความลับเรื่องมิแรนด้าเข้า
หากแต่เสียงแจ้งเตือนก็ทำเอานเดชเสียหลักเกือบไถลตกเก้าอี้หลังจากปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในภวังค์อยู่สองนาน
พี่ปิ๊บตอบมาแล้ว! PIBPIB : จะไม่มาเจอกันจริงๆเหรอ “.....”
ยกมือขึ้นป้องปากเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิด นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะที่พี่ปิ๊บขอนัดเจอมิแรนด้า รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ถึงเอาแต่ปฏิเสธกลับไปทุกครั้ง
ร่างสูงเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พลางเหยียดตัวตรงก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปช้าๆแต่แล้วก็ลบทิ้ง เป็นอย่างนี้อยู่ถึงสองสามครั้ง
MirandaKerr : อ่า
PIBPIB : เฮ้ยขอโทษๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอลำบากใจ MirandaKerr is typing…‘ อยากเจอเหมือนกั-- ’ MirandaKerr : ไม่เป็นไร อยากจะทึ้งหัวตัวเองแรงๆชะมัด ทำไมมันน่าอึดอัดแบบนี้นะ ทำไมจะไม่อยากเจอ ทำไมจะไม่อยากไปเที่ยวด้วย ทำไมจะไม่อยาก— เออนั่นแหละ (ทั้งที่อีกฝ่ายชวนเขาดูฟิฟตี้เชดออฟเกรย์นะ!!!) เขาน่ะอยากสานสัมพันธ์กับพี่ปิ๊บอย่างกับอะไรดี แต่ไอ้แบร์มันไม่มีความกล้ามากพอจะทำแบบนั้น
PIBPIB : แค่อยากจะชวนไปดูหนังด้วยกัน
PIBPIB : เราอยากเจอเธอจริงๆนะ
PIBPIB : เราไม่ได้อยากเอาแต่ใจ แต่อยากให้เธอเห็นใจ :[[ กึงเก้าอี้นวมตัวใหญ่เลื่อนถอยไปข้างหลังเมื่อร่างสูงของใครบางคนยืนขึ้น ปรานต์ละสายตาจากหน้าจอไปมองฝั่งตรงข้ามแล้วก็เห็นไอ้น้องแบร์รี่กำลังพาตัวเอาเดินสวนเขาไปพร้อมกับบุหรี่ในมือ ครั้นพอหันกลับมามองหน้าจอคิ้วเรียวก็ต้องขมวดมุ่นจนผูกเป็นปม
MirandaKerr offline.-----------------------------------------------------------
อุ้ย เดาถูกกันถ้วนหน้าเลย 