.
.
พอกลับถึงบ้าน คุณหมอก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำ หลังจากนั้นเขาก็อาบต่อ คงกะว่าจะคิดบัญชีกับผมก่อนนอนทีเดียวล่ะมั้ง
ฮื่มมม ผมแทบจะรอเขาออกจากห้องน้ำไม่ไหวแล้วล่ะ
ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก ผมก็กระเด้งตัวจากเตียงลุกขึ้นไปนั่งมองเขาตาแป๋ว ถ้ามีหูกับหางแบบหมาผมว่าหูผมคงตั้งหางก็คงกระดิกรอเจ้าของอย่างเขาแล้วล่ะ แต่เผอิญว่าผมเป็นคน ก็เลยมีอย่างอื่น(?)ตั้งท่ารอเขาแทน...
“หน้าตาตื่นเชียวนะคุณ”
คุณหมอเอ่ยขึ้น แล้วก็เดินมานั่งลงที่ขอบเตียงด้วยชุดคลุมอาบน้ำลายหมี เขายกมือซับผ้าขนหนูไปที่ผมเปียกๆอย่างเนิบช้า มันช้าจนผมทนไม่ไหวต้องรีบไปช่วยเขาเช็ดผมให้แห้งไวๆทันที...
“เห้อ... ง่วงแล้วนอนดีกว่า เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย”
พอเช็ดผมให้เสร็จเขาก็ตีตั๋วนอนซะงั้น อะไรกัน ไหนว่าจะคิดบัญชีกับผมไงครับ ผมไม่ยอมจริงๆด้วยถ้าคุณหมอจะเบี้ยวผมอ่ะ
“คุณหมอ... ผมก็นอนไม่หลับเหมือนกันนะครับ ยิ่งถ้าคืนนี้คุณหมอไม่รีบคิดบัญชีกับผม ผมคงนอนไม่หลับอีกคืนแน่ๆ”
ผมรีบยื่นหน้าเข้าไปซุกที่ซอกคอหอมๆ ออกแรงดูดเม้มหน่อยๆเพื่อกระตุ้นให้เขาตื่น เผื่อว่าจะเปลี่ยนใจหายง่วงขึ้นมาบ้าง
“ไม่รู้เหรอว่าผมเหนื่อยจะตาย เมื่อคืนนอนไม่หลับ แล้วตอนเช้าก็ยังต้องไปหาคุณให้ควักอีก ผมไปหาที่คอนโดก็ไม่เจอ หายไปไหนมาห้ะ”
“ผมไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่มาครับ ถ้าคุณหมอหยุด เราไปด้วยกันอีกนะ ผมอยากพาคุณไปทะเลด้วยกันด้วย แต่ว่าคืนนี้ เรามา.........”
ผมส่งสายตาปริบๆไปให้คุณหมอ ถ้าให้รออีกเกินสิบวิ ผมจะขาดใจตายให้ดูบนเตียงนี่แหล่ะ
ไม่ใช่สิ ผมจะทำให้เขาขาดใจตายบนเตียงต่างหาก...
“ก็ได้ๆ”
สุดท้ายคุณหมอก็ยอมใจอ่อน ใช้มือกดผมให้นอนลงกับเตียงแล้วขึ้นมานั่งทับเอวผมไว้ ก่อนจะถอดชุดคลุมลายหมีออก ในที่สุดร่างกายเราทั้งคู่ก็ไม่มีสิ่งใดปิดกั้นอีกต่อไป
ลืมบอกไปครับ พอผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็มานั่งรอเขาบนเตียงตัวเปล่าๆ แบบว่าไม่อยากเสียเวลาถอดเสื้อผ้าอีกน่ะครับ คิกๆ
.
.
ค่ำคืนผ่านไปอย่างมีความสุข แล้วคุณหมอที่เพลียจนทิ้งตัวลงด้านข้างก็เอ่ยเสียงอ่อน
“ขอโทษที่โกหกคุณ ชาย”
เขายกฝ่ามือขึ้นมาลูบใบหน้าผมช้าๆ ก่อนจะเข้ามาซุกอกผมไว้ ผมกอดและลูบหลังเขาไปเบาๆ
“ช่างมันเถอะ เพราะต่อให้คุณจะไปกับใครอีกยังไง ผมก็เลิกรักคุณไม่ได้อยู่ดี”
ที่ผมเคยทำอะไรให้เขามาตั้งแต่ตื่นขึ้น มันเทียบไม่ได้กับที่เขาเคยช่วยผมไว้เลยสักนิด ผมผิดเองที่เอาแต่ใจกับเขามากไป ผมน่าจะเป็นฝ่ายที่คิดถึงความสุขของเขามากกว่านี้ต่างหาก
“ไม่หรอกคุณชาย ผมละเลยคุณไปจริงๆ... ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา ผมคง...”
คุณหมอเริ่มนิ่งเงียบ เขากัดริมฝีปากตัวเองและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีอิทธิพลกับคนใจแข็งอย่างเขาได้ขนาดนี้มาก่อน ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วกอดเขาไว้แน่น
“คุณหมอ แค่นี้ผมก็รักคุณจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ถ้าคุณหันมาใส่ใจผมมากกว่านี้ละก็ คุณไม่มีทางได้เป็นอิสระอีกแน่ๆชั่วชีวิตนี้”
“ฮึ อย่างกับว่าถ้าไม่สนใจแล้วคุณจะปล่อยผมเป็นอิสระงั้นแหล่ะ ขี้โม้ชะมัด”
เขาเอ่ยพลางยกมือขึ้นมาบิดจมูกผมเบาๆ คิกๆ ที่เขาพูดมันก็ถูก จะปล่อยไปได้ยังไงในเมื่อเขาน่ารักออกขนาดนี้ ขืนปล่อยก็โง่สิ จริงไหมครับ
“รักนะครับคุณหมอ”
“งึมๆ”
ว่าแล้วว่าเขาต้องทำเป็นสลึมสลือไม่รู้เรื่องเหมือนเคย แต่เอาเถอะครับ ก็รักเขาไปแล้วนี้นะ คุณหมอจะทำเป็นใจร้ายยังไงก็สลัดผมไม่หลุดหรอก
.
.
บทส่งท้าย “ชาย ตื่นได้แล้ว”
วันนี้ผมเป็นฝ่ายรีบตื่นก่อนคุณชายครับ ก็อยากจะแก้ตัวที่ใจร้ายกับเขามากไปหน่อย เมื่อวันก่อนที่ทิมโทรศัพท์มาทำเหมือนว่าไอ้หมีที่นอนอืดอยู่นี่เกิดอุบัติเหตุ พูดตามตรงว่าผมนี่ใจหายแทบตาย แบบว่าปากสั่นใจสั่นจนเกือบช๊อคเลยทีเดียว
แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมา อย่างแรกผมคงเสียใจไปชั่วชีวิตที่ทำตัวไม่ดีกับเขาไว้เยอะ ก็ผมกลัววิญญานเขาตามมาหลอกหลอนน่ะครับ
ล้อเล่นครับ ผมคงจะเสียใจเอามากๆ เพราะเวลาที่เขาอยู่ ผมก็ไม่เคยทำดีกับเขาให้ถึงที่สุดเลยต่างหาก ผมกลัวว่าผมจะรู้ตัวสายเกินไปแล้วเสียอีกว่าที่แท้แล้วคุณชายเป็นคนสำคัญที่สุดของผม แต่ผมก็ไม่เคยทำตัวดีๆกับเขาเลยตั้งแต่เขาตื่นมา
และพอรู้ว่าทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไอ้ทิมจัดฉากปุ๊บ ผมก็รู้สึกโล่งอกมากกว่าโมโห ก็ต้องขอบคุณหมอนั่นอยู่เหมือนกันที่มีส่วนทำให้ผมคิดได้(แต่เจอคราวหน้าเมื่อไหร่มันตายแน่) จนกลับเนื้อกลับตัวหันมาทำดีกับคุณแฟนบ้าง
เพราะงั้นวันนี้ผมก็เลยรีบตื่นขึ้นมาทำอาหารให้เขาทาน แทนที่จะปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายทำโน่นทำนี่ให้ผมเหมือนทุกที
“คุณหมอทำให้ผมทานเหรอครับ!”
ดูสิครับ พอเห็นว่าผมทำให้เขาปุ๊บ หน้าง่วงๆก็ตื่นทันที แล้วเขาก็ยิ้มร่า ดีอกดีใจออกนอกหน้าขนาดนี้เดี๋ยวทำให้บ่อยๆก็ได้เอ้า! แต่อร่อยรึเปล่ามันอีกเรื่องนะ หึหึหึ
“ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาทานนะคุณ”
“ตกลงคับ”
ว่าแล้วคุณชายก็รีบแจ้นเข้าห้องน้ำ แล้วก็ออกมาฟาดอาหารเรียบไม่มีเหลือ เอาจริงๆ ผมว่ารสชาติมันก็ไม่ได้ดีอะไรเลย ออกจะจืดๆตามประสาอาหารสุขภาพ แต่เขาก็เอ่ยปากชมผมใหญ่ ท่าทางจะดีใจมากจริงๆ ผมว่าการเป็นฝ่ายทำอะไรให้อีกฝ่ายดีใจบ้างมันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
“ทานเสร็จก็มาถ่ายรูปคู่กันแล้วกันเนอะ เราไม่มีรูปคู่กันสักรูปเลยนี่นา”
เอ่ยต่อพลางหยิบกล้องโพรารอยด์ตัวเก่งออกมาเตรียมไว้ เขารีบเอาจานชามไปเก็บแล้วยื่นหน้าเข้ามาชิดกับหน้าผมใหญ่ สงสัยคงกลัวหลุดกรอบ ผมปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายถือกล้องแล้วก็ชูสองนิ้วแทน
“คุณชาย คุณนับด้วยนะตอนจะถ่ายอ่ะ”
“ได้เลยครับ เอาล่ะนะ หนึ่ง... สอง...”
และพอคุณชายนับถึงสาม...
ผมก็หันไปหอมแก้มเขาหนึ่งฟอดใหญ่ๆพอดีกับที่เขากดชัตเตอร์ดัง แชะ!
ไม่รอให้รูปออกมาจากกล้อง ผมก็จัดการรีบผละตัววิ่งไปหยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องทันที ไอ้คุณชายจอมเอ๋อทำหน้าตกใจแล้วก็รีบตามผมออกมาใหญ่ แต่กว่าจะตั้งสติได้ผมก็วิ่งออกมาไกลแล้วล่ะครับ
เห้อ... มีแฟนก่งก๊งนี่กลุ้มใจเนอะคุณว่าไหม?
“คุณหมอ รอด้วยสิครับ! นี่อย่าให้ผมจับตัวได้นะ!”
คุณแฟนตะโกนไล่หลังผมและเริ่มออกวิ่งตามมาติดๆ นี่เขาวิ่งเร็วเหมือนกันนะเนี่ย อีกนิดเดียวก็จะจับผมได้อยู่แล้วเชียว
“อ้ะ!”
และแล้วผมก็โดนมือยาวๆค ว้าคอเสื้อเอาไว้เหมือนเดิมอีกจนได้...
คุณชายเข้ามากอดผมจากทางด้านหลังเสียแน่น ก่อนจะกระซิบข้างหูผมเบาๆ
“จับได้แล้ว คุณหนีผมไม่พ้นหรอกครับ”
“......”
นี่เขาเคยรู้หรือเปล่าว่าที่จับผมได้ทุกครั้งเนี่ย เพราะผมยอมให้จับหรอกนะ ฮึ!
.
.
- จบบริบูรณ์ -____
TALK: สวัสดีค่าคนอ่านทุกคน >< ในที่สุดเรื่องราวของคุณหมอและคุณชายก็จบลงแล้ว หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้คนอ่านมีความสุขในการอ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ^^ ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นต์ ทุกคอมเม้นต์ของคนอ่านเป็นกำลังใจให้โยมากเลยค่ะ ^_^
ตอนแรกๆ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนอ่าน มาตอนหลังๆ ก็ไม่ค่อยมีอยู่ดี ฮา แต่นั่นไม่สำคัญ ขอแค่คนอ่านที่ติดตามหมอจิ๊บกับคุณชาย แม้ไม่มาก แต่อ่านแล้วรู้สึกดีไปกับนิยายเรื่องนี้ก็พอแล้วค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลงจนจบในเล้าเป็ด และโยก็หวังนิดๆ ว่าคนอ่านจะติดตามเรื่องอื่นๆ ของโยด้วยนะคะ *ยิ้ม
อย่างที่เคยบอกว่าเรื่องนี้โยเอาฟิคในกรุของตัวเองมาปรับปรุงเขียนใหม่ จนได้เป็นคุณหมอกับคุณชายรั่วๆ บ้าๆ บอๆ แต่ด้วยไสตล์การเขียนของโยก็เป็นได้ ที่เรื่องขำๆ บางทีมันก็ออกจะแป้ก T-T ที่ผ่านมาโยถนัดแนวอึมครึมค่ะ 5555 ดังนั้นแนวโรแมนติกคอเมดี้นี่ไม่ถนัดเลยจริงๆ แต่พอเขียนออกมาได้ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่โยชอบมากที่สุดเรื่องนึง ท้าทายความสามารถตัวเองมากค่ะ 5555 แต่ยังไงนิยายช่วงหลังของโยก็ห่างไกลจากคำว่าดราม่าอึมครึมนัก เพราะแต่งทีไรไม่มีคนยอมอ่าน ฮา...
สุดท้าย โยเป็นนักเขียนมือใหม่ เป็นนักหัดเขียน หากนิยายเรื่องนี้มีข้อผิดพลาด ก็ต้องขอโทษคนอ่านทุกคนด้วยนะคะ หากมีโอกาส ก็เจอกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆ บวกเป็ด ทุกๆ คอมเม้นต์ และทุกๆ กำลังใจอีกครั้ง
ขอบคุณมากค่ะ
ปล. รูปที่เห็น เป็นรูปตัวอย่างที่จะอยู่ในรวมเล่มนิยายด้วยค่ะ สิ้นเดือนนี้ก็จะปิดจองแล้ว ยังไงคนอ่านที่สนใจรับคุณหมอกับคุณชายไปเก็บไว้ ไปแวะดูที่เพจ onederwhy ได้นะคะ โยออกหนังสือกับที่นั่นค่ะ ^_^ ในเล่มก็มีตอนพิเศษเพิ่มด้วยค่ะ โยได้เห็นรูปประกอบแล้ว สวยงามน่ารักมากด้วย (งานขายต้องมาค่ะ ฮ่าๆๆ)
ปล2. ฝากติดตามนิยายเรื่องอื่นของโยด้วยนะคะ (งานโปรโมตต้องมาอีก อิอิ)
เรื่อง ดวงใจรัตติกาล : เรื่องนี้เป็นแนวย้อนยุค แต่ไม่ไกลมากค่ะ ไปช่วง 2475- สงครามโลกครั้งที่สอง พระเอกเป็นคนยุคปัจจุบันที่ย้อนไปในอดีต แล้วเจอกับนายเอก ที่หน้าเหมือนคนที่พระเอกรัก แล้วเรื่องป่วนๆ ก็เกิดขึ้น เรื่องนี้ขำขันโรแมนติกค่ะ ออกแนวประวัติศาสตร์เมคเองหน่อยๆ ด้วย พระเอกเกรียน หื่น ส่วนนายเอกน่าร๊ากกกก นิ่งๆ ใจเย็น น่ากด (ผิด) ฝากติดตามด้วยนะคะ
เรื่อง ลิขิตเหนือภพ : สัตตบรรณหลงฟ้า เรื่องนี้ย้อนยุคอีกแล้วค่ะ แต่เป็นย้อนยุคจีน เรื่องนี้ลงจบภาคแรกแล้วค่ะ แต่พอดีหันมาแต่งไอ้รัตกับคุณหลวง ภาคต่อเลยยังดองไว้ แหะๆๆๆๆๆๆ ใครสนใจก็ไปจิ้มอ่านได้นะคะ อย่าคิดว่าดราม่าเลยค่ะ มันเป็นแค่ไสตล์คนเขียนจริงๆ เหมือนการบรรยายมันพาไปให้คิดว่าจะดราม่า แต่พล๊อตมันไม่เลยนะ (เหรอออ) เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ตั้งใจเขียนมาก ลองกดอ่านกันได้นะคะ ^^
ขอฝากไว้สองเรื่องก่อน แล้วจะมาเพิ่มใหม่นะคะ แฮร่
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ