https://www.youtube.com/v/eOG2mDpRyrY “มีอะไร..” เอสกรอกเสียงลงไป เขากดเปิดลำโพงแล้วโยนไวที่ตักเลย บลูทูธไม่ได้เอามา ได้ยินชัดเจนกันทั้งรถ
(มึงกลับถึงห้องรึยังเนี่ย..) เสียงเมี่ยงดังมาก เอสกดลดเสียงลงเล็กน้อย
“กำลัง” เขาตอบ
(กูจะโทรมาบอกว่าไอ้บุ้งมันพากูกับไอ้ชิพมานั่งชิลกันอยู่ที่ร้านประจำพวกเราอ่ะ กินเหล้าปั่นกัน อากาศดีนะมึง ลมเย็นเลยล่ะ มาป่ะ)
“อือ แล้วยังไงอีก มีธุระอะไรต่ออีกไหมหรือว่าโทรมาคุยเรื่องไรสาระแค่นี้”
(ไอ้เอสแม่งใจร้ายกับกูอีกแล้วสัส มึงมันเย็นชาจริงๆกูก็แค่อยากโทรมาชวนเหอะ)
“เมาแล้ว?”
(เมาที่ไหน กูชิลมาก แต่แค่คิดถึงมึง)
“........”
(กูคิดถึงมึงจริงนะเว้ย อยากให้มาด้วยกันครบทีมพวกเรา แต่มึงไม่ว่าง ไม่มีเวลาให้กูเลยเหอะ)
“ไว้วันหลังเดี๋ยวค่อยไปด้วยกัน”
(มึงสัญญาแล้วนะ)
“อือ”
(ถ้ามึงคืนคำกูจะไม่ยกโทษให้มึงอีกเลย)
“กูไม่ทำอย่างนั้นหรอกน่า”
(คึคึ มึงน่ารักที่สุดเลยไอ้เอส กูคุยแค่นี้ก็ได้ มึงขับรถอยู่ใช่ไหมล่ะ กูจำเสียงเพลงในรถมึงได้นะ แผ่นนี้กูซื้อเองกับมือเพลงโปรดกูเลยนี่หว่าฟังแล้วอย่ามาคิดถึงกูล่ะ)
“กูว่ามึงเมาแล้วไอ้เมี่ยง แค่นี้นะ”
เอสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสายทิ้ง ก่อนวางคืนไว้ที่ช่องหน้ารถแล้วเหลือบมองแคปซึ่งนั่งหันหน้าไปอีกทาง เขาขับต่อไปอีกสักพักในที่สุดชะลอตัวจอดติดไฟแดง และสิ่งที่เขาคาดคิดไม่ถึงกลับเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆแคปเปิดผั๊วะประตูแล้ววิ่งลงไปเลย เอสตะโกนเรียกอย่างตกใจ
“บ้าฉิบ!” เขาสบถ เปิดสัญญาณไฟขอแทรกเลนเข้าจอดริมฟุตบาต เห็นหลังแคปไวๆเรียกแท็กซี่ขึ้นไปแล้ว เขาขับตามทันที
.
.
“จอดตรงนี้ครับ” สองชั่วโมงผ่านไป แท็กซี่ที่ถูกจ้างวานให้ขับวนไปรอบเมือง มาจอดตัวลงที่หน้าคอนโดสูงแห่งหนึ่ง แน่นอนที่แคปต้องมั่นใจแล้วว่า เอสหลุดจากการขับตามพวกเขาไปนานแล้ว ทิ้งเวลานั่งชิลเล่นบนรถเพื่อเสียเงินฟรีๆอีกเกือบสองชั่วโมงกับความคิดหลายๆเรื่องในหัว เขาอยากจะใช้เวลาเพื่อทำแบบนั้น พอลงมาจากรถได้แคปก้มลงถอดรองเท้าสตั๊ดออกเพราะว่าอึดอัด รองเท้าแตะเขาถูกถอดทิ้งไว้บนรถของปอเพราะงั้นในตอนที่โดนลากขึ้นรถเอสเขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น แคปถือรองเท้าถุงเท้าเดินเท้าเปล่าๆนั่นแหละเข้าไป ดึกป่านนี้เอสมันต้องคิดว่าเขาไปค้างที่อื่นแล้วแน่ๆ เขาเดินเลี้ยวเข้าไปด้านในเกือบจะถึงหน้าลิฟต์อยู่แล้วแต่มือปริศนาของใครสักคนที่ออกมาจากหลังเสาต้นใหญ่กระชากแขนเขาไว้แรงมาก
“เฮ้ย...มึงมาอยู่ที่นี่ได้ไง!” แคปตกใจหน้าตื่น
“อย่ามาดูถูกความพยายามของกู จู่ๆหนีมาแบบนี้คิดว่ากูหมดปัญญาตามมึงหรือไงห๊ะ!” ยิ่งแคปจะกระชากแขนตัวเองออกจากการกอบกุม เอสยิ่งเพิ่มน้ำหนักในการบีบแขนเล็กให้แน่นขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เขาไล่สายตาคมกริบสำรวจตัวแคปดีๆอีกครั้ง พอเห็นข้อเท้าเปลือยเปล่าสีขาวนั่นเขายิ่งโมโหหนักขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“มึงมันบ้าจริงๆไอ้แคป..” เอสกัดฟันกรอด ยื่นมือมาดึงรองเท้าถุงเท้าไปถือไว้ให้เอง จากนั้นกระชากแขนแคปให้เดินตามไปที่ลิฟต์
“ไอ้สัส มึงจะทำแรงไปไหนห๊ะ” แคปก้าวตามแทบไม่ทัน เอสทำแรงมากจริง ๆ พอลิฟต์เปิดออกเขาผลักแคปเข้าไปอย่างแรง
“โกรธเหี้ยอะไรกู…” เสียงทุ้มเย็นเฉียบถามสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอดตั้งแต่แคปวิ่งลงจากรถนั่น ทะเลาะกันมาตีกันมาเป็นเดือน ไม่ว่ายังไงบนรถแคปก็ไม่เคยพรวดพราดลงไปแบบนั้น เอสจ้องหน้ารอคำตอบ
“กูไม่อนุญาตให้มึงเข้าห้องนะบอกไว้ก่อน” แคปตอบไม่ตรงคำถาม พอประตูลิฟต์เปิดออก เอสยื่นมือเข้ามากระชากคนที่ตัวเล็กกว่าให้เดินตามทั้งๆอย่างนั้น แคปทั้งเดินทั้งด่าสาวเท้าตามไอ้บ้านี่แทบไม่ทัน
“ไอ้สัส! กูบอกว่ากูไม่ให้มึงเข้าห้องกูไง มึงไม่ได้ยินเหรอห๊ะ!”แคปขู่ฟ่อเสียงดัง พยายามจะดึงแขนตัวเองออกแต่เจอเอสบิดไว้อีก ไอ้แผลเดิมแม่งก็เหี้ยทำให้เขาเจ็บขึ้นอีกเป็นเท่าตัวเลย เอสที่มีคีย์การ์ดและกุญแจสำรองตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองก็ไม่รู้ มันเปิดแล้วผลักเจ้าของห้องอย่างเขาเข้าไปแล้วเหวี่ยงลงที่โซฟาแบบไม่ต้องรอ แคปเซถลาลงหน้าตื่น คนตัวใหญ่โยนข้าวของทุกอย่างแล้วตามมาขึ้นคร่อมร่างเล็กของแคปไว้ทันที
“ไอ้สัส กูหนัก!” แคปตะโกนด้วยความยากลำบาก ดันไหล่หนาออกแต่หนักเหี้ยๆเลย จนเขาต้องเบ้หน้า “กูหนัก ไอ้เหี้ย กูบอกว่ากูหนัก!!” มือเล็กทั้งฟาดทั้งชก สองคนสู้กันเข้าจนได้เอสรวบสองมือของคนใต้ร่างกดลงที่เบาะนุ่มได้สำเร็จ
“โกรธเรื่องอะไรไหนบอกกูซิ..” เอสจ้องหน้าถาม
“กูไม่บอก!” แคปตะคอกเสียงใส่
“แคป!”
“กูไม่บอก กูไม่อยากบอก มึงฆ่ากูให้ตายกูก็ไม่บอก!” เสียงเล็กยังตะคอกลั่นต่อไม่หยุด เขาดิ้นจนไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้น สู้กับไอ้ตัวอันตรายที่ไม่เคยถนอมเขาเลยแม้แต่นิดเดียวมันน่าน้อยใจนัก แคปเจ็บตามเนื้อตามตัวเพราะว่าเจอเข้ากับแผลเดิมจนหน้านิ่ว เอสเห็นแบบนั้นก็รู้เลยว่าจุดที่แคปมีแผลฟกช้ำคือที่ไหนบ้าง มือหนาละออกมาแล้วจัดการถกเสื้อกีฬาแคปออกทันที
“ทำเหี้ยอะไรห๊ะ! อย่ามายุ่งกับกูนะ อื้อออ..” แคปดิ้นต่อต้าน เสื้อเขากำลังจะถูกถอดออกทางหัว ใครมันจะไปเฉยอยู่ได้ ยิ่งสายตาหื่นมหาหื่นของไอ้คนด้านบนที่จ้องหน้าอกเขาอยู่
“นิ่งๆ แคป” เอสกดเสียงต่ำ ความอดทนใกล้จะสิ้นสุด เพราะว่าแคปต่อต้านมากมายเหลือเกิน เขาไม่ได้คิดจะทำอะไรอย่างที่มันกลัวด้วยซ้ำ แค่จะดูแผลว่าฟกช้ำมากน้อยแค่ไหน
“อย่ามายุ่ง! ไม่เอา!” แคปดิ้นต่อ แต่เสื้อหลุดออกมาแล้ว เอสเหวี่ยงทิ้งอย่างไม่ไยดีอะไรเลย
“ไอ้สัส! อย่ามองกูแบบนั้น มึงอยากตายไหมห๊ะ! กูจะควักลูกตามึงออกมาเลย อย่าให้กูหลุดไปได้นะมึง อื้ออ ปล่อยกูสิโว๊ยยยยย” เพราะสายตาของคนด้านบนที่กวาดมองไปทั่วหน้าอกเขาลามเลียลงมาจนถึงช่วงเอวและสะโพก
“นิ่งๆสิวะ บ้าเอ๊ย”
“กูไม่นิ่ง! มึงลุกออกจากตัวกูเดี๋ยวนี้ไอ้เหี้ยเอส”
“เขียวอื๋อเลยนะมึง”
“อะไรเขียวไอ้สัส!” แคปตะคอกถาม ยกคอผงกขึ้นมองเนื้อตัวของตัวเอง เขาเห็นรอยเขียวอยู่แถวเอวแล้ว ใหญ่พอประมาณ ก็เพราะว่าตอนแลกเข่าแลกตีนกับไอ้เด็กคณะวิทย์นั่น
“ยานวดอยู่ที่ไหน” เอสถาม
“ไม่มี! ลุกออกไปไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกู!” แคปปฏิเสธเสียงดัง ผลักไหล่แกร่งดังผั๊วะๆๆ คราวนี้เอสหมดความอดทนรวบคางเล็กแล้วบีบเข้าด้วยมือแข็งแรงของเขา
“อื้อออออ อูเอ็บบบบบบบ” แคปร้องไม่เป็นศัพท์
“ยาอยู่ที่ไหน! มึงยอมบอกง่ายๆก็จบแล้วไหม”
“อยู่ตรงนั้นโว๊ย!” แคปใช้สายตาบอก เขาเจ็บปากจนเหมือนจะตาย เจ็บยิ่งกว่าแผลฟกช้ำที่มันบอกจะทายาให้อีก จ้องมองไอ้คนที่ไร้ความปราณีที่คร่อมอยู่ด้านบนด้วยความน้อยใจ ถ้อยคำที่เอสคุยกับเมี่ยงทุกคำทุกประโยคตอนที่อยู่บนรถถูกกรอกลับมาคิดขึ้นในสมองน้อยๆของเขาอีกหน ขณะที่เอสลุกออกไปหยิบกล่องยาแคปลุกจะวิ่งหนี เจอกระชากดึงตัวกลับไว้อีก
“ทำกับกูให้เบากว่านี้ได้ไหมไอ้เหี้ย!” แคปแว๊ดใส่
“จะไปทาในห้องใช่ไหม”
“กูจัดการเอง เอามานี่!” แคปจะดึงเอากล่องยามาถือไว้เอง แต่เอสเอาหลบออกแล้วส่ายหน้าบอกว่าไม่
“งั้นไปทาในห้องก็ได้” เอสดึงแคปจะให้เดินตามไป แต่ถูกรั้งไว้อีก
“กูจะทาเอง มึงไม่ต้อง”
“ทำไมดื้อนักวะแคป ดื้อจริงไรจริงเมียกูนี่”
“กูไม่ใช่เมียมึงบอกเป็นร้อยทีแล้วไอ้สัส!” แคปสวนขึ้น เอสมองหน้าแล้วส่ายหัว หลังจากนั้นเขาไม่พูดอะไรต่ออีกแล้วแม้ว่าอีกคนจะทั้งดิ้นทั้งต่อต้านยังไงแค่ไหน เขาจับมันนั่งแล้วทายาให้ ไม่ใช่เขียวแค่ที่เอวด้วย ที่หัวไหล่ ต้นแขน มือนี่แตกไปสองรอย
“ทีหลังมึงก็เอาให้เจ็บหนักๆกว่านี้ กูจะพาส่งโรงพยาบาลเลย” พอทำแผลเสร็จเขาดีดหน้าผากเล็กเบา ๆ
“..........” แคปมองตาเขียว ขยับตัวออกหยิบเสื้อจะมาสวมกลับ แต่เอสดึงคืนไว้
“กูยังข้องใจอยู่ มึงหนีลงมาจากรถทำไม โกรธกูเรื่องอะไร”
“........” แคปหันไปมองหน้าไอ้คนถาม เขาแค่นั่งนิ่ง ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไรออกมา
“แคป..” เอสเรียกขึ้นอีก
“กูไม่อยากตอบ กูโกรธมึงแล้วกูเลยไม่อยากพูดกับมึง”
“หึ มึงเป็นเด็กสามขวบเหรอวะแคป” เอสพูดปนหัวเราะ แคปมันทำหน้าตาตลกมากจริง
“เรื่องของกูเหอะ” ถ้ามึงมันโง่คิดไม่ได้ว่ากูโกรธมึงเรื่องอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก
“กูคิดว่ากูรู้นะว่ามึงโกรธกูเรื่องอะไร”
“เรื่องอะไร! มึงรู้จริงดิ..” แคปหันขวับมาถาม ขณะที่เอสหรี่ตามองแล้วยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น ทำหน้าคล้ายคนรู้ทันไปเสียทุกอย่าง
“หึหึ ขำว่ะ..” เสียงทุ้มกวนประสาทดังขึ้นอีก
“เรื่องของกู กูพอใจโกรธมึงจะทำไมล่ะ”
“งั้นเรอะ...” เอสลุกแล้วแล้วขยับเข้ามาหา เขาคร่อมลงบนตัวคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวแล้วดันบ่าแคปให้เอนลงเบา ๆจากนั้นคนตัวหนักก็ทับลง
“ทำเหี้ยอะไรของมึง” แคปขยับจะถอยแต่ไม่ได้แล้ว เอสมันนอนทับลงมาทั้งตัว
“ไหนรางวัลของกูล่ะ กูแข่งบาสชนะทำแต้มสุดท้ายให้กับทีมเลยนะ ขอรางวัลหน่อยครับเมีย..”
“มึงฝันเอาสิไอ้สัส! กูไม่ใช่เมียมึงแล้วก็ไม่มีรางวัลเหี้ยไรทั้งนั้นด้วย”
“แต่กูมีนะ รางวัลสำหรับคนที่ยิงประตูเข้าอย่างสวยงาม ลูกนั้นของมึงเจ๋งจริงๆเลยว่ะ”
“รางวัลอะไร มึงพูดเรื่องอะไร..” แคปดันบ่าแกร่งของคนที่โน้มตัวทับลงที่ตัวเขาจนเต็มร่าง ขณะที่เอสจ้องตาแล้วส่งรอยยิ้มกวนๆยั่ว
“มึงอยากได้อะไรกูให้มึงหมด รวมถึงตัวกูด้วย กูยังยืนยันคำเดิม” ปลายจมูกโด่งกดลงไปหยอกล้อที่พวงแก้มนิ่ม แคปถึงกับเกือบจะเคลิ้มไปกับคำพูดโง่ๆและรอยยิ้มแบบนั้นของมัน ฟันกระต่ายขาวน่ารักที่พ้นออกมาจากริมฝีปากสวยทำให้คนมองหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าๆตัว
“ไอ้สัส! คำพูดปัญญาอ่อนเก็บเอาไว้ใช้กับเมียมึงเหอะ”
“หึหึ” เอสถึงกับกลั้นขำแทบไม่อยู่ แคปถลึงตาใส่ แต่มือหนาเริ่มซุกซนสอดเข้าไปที่ขอบกางเกงบอลแคปรีบเอามือตะปบไว้
“มึงเลิกกับแฟนคนล่าสุดนานแค่ไหนแล้ววะแคป”
“เรื่องของกู ถามทำไม” มือไอ้ตัวอันตรายแม่งซุกซนมาก มันไม่ยอมดึงออกกระทั่งตอนนี้ดูเหมือนมันจะล้วงลงไปได้ลึกไปอีก
“แล้วมึงทำยังไงเวลามึงอยาก..” เอสถามต่อ
“กูต้องบอกมึงหรือไง เอามือออกไปได้แล้วไอ้เหี้ย โรคจิตเอ๊ย..” แคปกัดฟันกรอดๆ ขณะที่เอสมองคนดื้อแบบยิ้ม ๆ เขาชอบมากเวลาที่ทำให้แคปโมโห ยิ่งแหย่ยิ่งขึ้น มันน่าแกล้งดีจริง ๆ
“ลุกออกจากตัวกูสักที หนักเหี้ยๆ อะ..มือมึง!” แคปร้องตาโต เมื่อมือหนาทะลุทะลวงเข้าไปแล้วจริง ๆ
“ตั้งแต่กูเริ่มมีแฟนคนแรก เวลาที่กูอยาก กูไม่เคยทำเองเลยมึงรู้ไหม”
“แล้วมึงมาบอกกูทำไมห๊ะ! ใครถามมึงไอ้สัส! เอามือมึงออก!!”
“ลิมิตเวลากูมีแค่หนึ่งเดือน..” เอสยังว่าต่อเสียงเรียบ แคปนี่ดิ้นขลัก
“แล้วยังไงล่ะวะห๊ะ! มึงลุกสักทีสิโว๊ยยยยย..” เหี้ยเอ๊ย แคปเหมือนกับเห็นวี่แววอันตรายที่มาพร้อมกับคำพูดของมัน เขาพยายามดันคนตัวใหญ่ออกจากร่างแต่น่าเสียดายที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อมือใหญ่ที่ล้วงสอดเข้ามาถึงด่านด้านในได้สำเร็จขยับและที่สำคัญคือไอ้ลูกชายตัวดีของเขาตอบรับสัมผัสจากมันอย่างช่วยอะไรไม่ได้
“อ่ะ...ไอ้เหี้ย ไม่อย่าขยับนะ!” แคปร้องลั่น
“กูจะให้มึงเลือก จะให้กูทำให้หรือมึงจะทำให้กู หรือเราจะทำไปพร้อม ๆ กัน”
“กู-ไม่-เลือก-อะ-ไร-ทั้ง-นั้น!” แคปขึ้นเสียงแบบเน้นๆย้ำให้ได้ยินชัดๆหูแตกกันไปเลย เขาใช้สองมือเล็กดันไหล่หนาของอีกฝ่ายออก ทั้งจิกทั้งข่วน กระทั่งหมัดรุนๆกำลังจะเหวี่ยงเข้ากระทบใบหน้าคม เอสคว้าจับเอาไว้ได้ก่อน
“อ้อ มึงเลือกข้อสุดท้าย งั้นมาทำกันเลยแคป กูพร้อมแล้ว”
“แต่กูไม่พร้อม! กูไม่ทำ!! มึงพูดเหี้ยอะไร!!” แคปร้องแบบงงๆ เขาบอกว่าเขาไม่เลือกแบบไหนทั้งนั้นแต่มันสรุปเองเออเองว่าจะทำกันไปเลย บอกตัวเองพร้อมแล้ว ไอ้คนเห็นแก่ตัว แบบนี้เขาขาดทุนยับเยิน ทำไมเขาต้องเสียเปรียบมันตลอด ไอ้สัส ไอ้ตัวอันตราย ไอ้มารสังคม มึงมันไอ้โรคจิต แคปหน้าแดงตาแดงเพราะความโกรธ เขาแทบจะร้องไห้ออกมาเลยจริง ๆ เอสที่กำลังจะก้มลงดูดที่มุมปากเล็กเห็นแบบนั้นแล้วเขาถึงกับต้องหยุด
“กูสัญญา กูไม่ทำให้มึงเจ็บ” เอสปลอบ
“ไม่ใช่แบบนั้นไอ้สัส! กูไม่ได้กลัวเจ็บห่าเหี้ยอะไรเลย แต่กูไม่อยากเอากับมึง มึงเข้าใจกูบ้างไหมห๊ะ! กูเป็นผู้ชายนะ ทำไมกูต้องถูกมึงเอาด้วยล่ะ มึงให้กูเอาสิแบบนั้นค่อยเข้าท่าหน่อย”
“..............” เอสชะงักกึกเลย เขาค่อยๆถอย ยกตัวเองออกจากแคป ลุกขึ้นยืนแบบไม่ต้องรอให้ไล่ ขณะที่ดวงตาคมกริบจ้องแคปไปด้วย
“.............” แคปมองคนที่ยืนนิ่งอย่างไม่วางใจ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งดี ๆ คว้าเอาเสื้อที่ถูกทอดทิ้งๆขว้าง ๆ ขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว เหลือบมองเอสอย่างหงุดหงิดไม่เข้าใจในตัวมัน เขายังไม่รู้ในใจมันคิดเรื่องอะไรแต่ที่แน่ ๆ คำพูดรัวและเร็วที่เขาพูดไปทั้งหมดเมื่อกี้ต้องไปจี้ถูกจุดในใจของมันแน่ ๆ ไม่ตรงใดก็ตรงหนึ่ง แต่เขากำลังคิดว่า มันน่าจะเป็นไอ้ตรงประโยคสุดท้ายนั่น
‘มึงให้กูเอาสิ แบบนั้นค่อยเข้าท่าหน่อย’ตายๆๆๆๆ ถ้าหากมันกำลังชั่งใจแล้วยอมให้เขาเอามันจริง ๆ เขาไม่ตายห่าไปเลยหรือไง พูดมั่วๆออกไปแบบนั้น อย่านะมึงอย่าบอกนะว่ามึงจะให้กูเอา เกิดมากูยังไม่เคยเอาผู้ชายเลยเหอะ แล้วตัวมันสูงใหญ่แบบนั้น เขาจะเข้าอิท่าไหนถึงจะกระหน่ำเสียบมันได้ ที่สำคัญถ้าหากเอามันแล้ว มันก็ต้องกลายเป็นเมียเขาใช่ไหม? โอ๊ยยยยยตายห่า ตายๆๆๆๆแบบนั้นยิ่งแล้วใหญ่ไอ้แคปเอ๊ยยย มึงพูดเห้อะไรออกป๊ายยยยย แค่ตัวเองไปเป็นเมียมันก็กลุ้มใจจะตายห่าแล้วโดนตามจนไม่รู้จะทำยังไง ขืนให้มันมาเป็นเมียเขาอีก มึงเอ๊ยยยยกูคงถูกตามทุกวินาทีแม้แต่เวลาขี้มันคงนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำแน่ ๆ
แคปหน้าเสียแทบอยากจะร้องไห้ ขณะที่เอสก้าวเข้าหาทำท่าจะโน้มตัวลงมาอีกครั้ง หน้าตามันเหมือนคนที่ตัดสินใจอะไรได้แล้ว แคปขยับหลบอย่างหวาดกลัว และตอนนั้นเองที่เอสคว้าหมับเข้าที่แขนเล็กก่อนกระชากลากคนที่ตัวเล็กกว่าเข้าห้อง
“มึงคิดดีแล้วเหรอวะ ไอ้สัส!” แคปร้องถามเสียงสั่นๆตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู เขาคว้ากรอบประตูค้างไว้ ต้องถามมันให้แน่ใจ แต่มือใหญ่กลับดีดเข้าที่หน้าผากเล็กอย่างแรงจนเสียงดังป๊อก!
“เรียกใครสัส”
“อย่ามาตลก กูยังไม่อยากได้มึงเป็นเมียหรอกนะ บอกให้รู้ไว้ก่อน..” แคปว่าจริงจังจนเอสถึงกับพ่นขำเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นทั้งประโยค เขาเลิกคิ้วสูง จ้องคนที่ยืนกอดกรอบประตูแน่น
“หึ กูไม่จำเป็นต้องคิดหรอกแคป เพราะมึงไม่มีวันได้เอากูอยู่แล้ว..” เขาว่าจบดึงแคปออกมาแล้วเหวี่ยงคนตัวเล็กกว่าถลาขึ้นไปกองอยู่บนเตียง ขณะที่ตัวเองถอดเสื้อออกโยนทิ้งแล้วเดินเข้าหา ยิ่งยั่วให้แคปสติแตกยิ่งขึ้น
“ไอ้สัส มึงอย่าเข้ามานะ ถอดเสื้อทำไมวะห๊ะ อึ๊บ! กูหนักบ้าฉิบ ทับลงมาหาพ่องมึงเหรอห๊า!!”
“แสบเอาไม่อยู่”
“ไอ้เหี้ยเอส ไอ้ควาย อย่าทำนะโว๊ย คอยดูนะกูหลุดไปได้กูจะฆ่ามึง!!!”
“เหอะน่า...”
“อ่ะ....”
เสียงบานประตูถูกลมตีกลับปิดดังปัง! หลังจากนั้นเกิดเสียงดังตุบตับๆลอดออกมาจากด้านใน จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้สักพักปอที่เมานิดๆไขกุญแจเดินโซซัดโซเซร้องเพลงกลับเข้าห้อง เขาชะงักนิดหน่อยเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆที่ดังลอดออกมาจากห้องนอนของเพื่อน
“ไอ้สัส กูเกลียดมึงที่สุด!”
“..................”
“อย่ามาตลก มึงเสร็จคนเดียวก็จะนอน กูล่ะ!? แล้วกูล่ะไอ้เหี้ย!!”
“..............”
“กูไม่ให้มึงนอน! ลุกขึ้นมาให้กูด่าต่อเลยไอ้บ้าเอส มึงแม่งที่สุดของความชั่ว! ชั่วๆๆๆๆ สารเลวโลกลืม กูเกลียดมึงที่สุด ไอ้สัสเอส! ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
“..............”
“อย่ามามองกูแบบนั้นนะ! กูบอกว่าอย่ามองไง! กูจะควักลูกตามึงออกมาเลยคอยดู!!”
“...............”
“อ่ะ ไอ้สัส.....”
“เงียบเถอะ กูรู้มึงอยาก..”
“อื้ออออออออออออออออออออออ ”
จากนั้นเสียงสู้เสียงด่าก็ขาดหายไป ปอยืนนิ่งก่อนส่ายหัวอย่างเซ็ง ๆ ใจจริงเขาก็อยากจะเดินเอาหูไปแนบฟังอยู่หรอกว่าข้างในนั้นมันทำอะไรแบบไหนต่อกันบ้าง เพราะว่าเสียงสุดท้ายที่ได้ยินนั่นมันเป็นเสียงคนปากดีโดนทำให้หุบปากด้วยริมฝีปากแบบชัดๆเน้นๆ
“ขอให้มึงขึ้นถึงสวรรค์นะเว้ยแคป อย่าตกลงมากลางทางเชียวละมึง ปัง!” ปอพึมๆพำๆปิดประตูเข้าห้องแล้วพุ่งตัวลงที่เตียง นอนหลับไปทั้งๆอย่างนั้น
แถมๆ
-หลังประตูบานนั้น-“กูบอกว่าอย่าทำ มึงพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหมห๊ะ!”
“กูไม่ทำ งั้นมึงทำให้กูไหมล่ะ”
“มึงฝันเอาสิไอ้เหี้ย”
“แต่เราคบกันแล้ว เคยเอากันแล้ว กูเสียบมึงจนมิดด้ามก็เคยแล้ว กูขอให้มึงทำให้กูแค่นี้มันจะยากตรงไหนวะ เราคบกันเวลาที่กูอยากมึงจะให้กูไปขอคนอื่นเอาลงหรือไงแคป แบบนั้นเรียกว่านอกใจนะ”
“นั่นมันเรื่องของมึงไอ้คนเห็นแก่ตัว มึงหยุดพูดนะ! ไม่ทำมันจะตายไหมล่ะห๊ะ!!”
“เป็นไปไม่ได้ กูเคยทำ”
“นั่นมันเรื่องของมึง ไม่รู้จักหักห้ามใจเองก็เรื่องของมึง!”
“ทำให้กูแคป”
“กูไม่ทำ!”
“ไม่ทำงั้นกูทำให้มึง”
“แบบนั้นกูก็ไม่ให้มึงทำเหมือนกัน!”
“มึงไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ เอากันเถอะว่ะง่ายดี”
“ไม่เอา! ปล่อยกู!! ไอ้คนเห็นแก่ตัวมึงพูดเอาแต่ได้”
“ร้องเข้าไปเถอะ เดี๋ยวดูกันว่าใครที่ต้องอ้าขา”
“ไอ้สัส มึงมันโรคจิต อื้อออออ”แคปสู้ไม่ได้แล้ว มือใหญ่ของเอสกับริมฝีปากมันกำลังบดขยี้ลุกล้ำเข้ามา
“ไอ้บ้าเอ๊ย คนชั่ว!” ยิ่งแคปหันหน้าหนีเอสยิ่งซุกลงที่ลำคอระดมจูบอย่างเดียวเลย แคปทั้งดิ้นทั้งแถกจนหมดเรี่ยวหมดแรง
“โอเคๆกูทำ! มึงหยุดทุกอย่างเลยเหี้ย!! กูทำเอง!!!” ในที่สุดแคปตะคอกลั่นออกมา
“แค่นั้นก็จบ” เอสเงยหน้าขึ้นทันที เหมือนกับเขารู้อยู่แล้วว่าแคปจะต้องเลือกทางนี้
“ไอ้สัสแม่งเอ๊ย!!”
“มึงว่าอะไรนะ”
“ให้กูตั้งสติก่อนมึงอย่าเร่ง กูต้องเตรีมใจไม่ใช่ว่านึกจะทำก็ทำได้เลยเหมือนกับมึง”
“เตรียมใจทำไมลูกชายกูพร้อมแล้ว เอาแค่มือมึงมา”
“ไอ้สัส กูหลุดไปได้วันนี้มึงอย่าหวังว่าจะได้อยู่ดี กูจะฆ่ามึงควักลูกตามึง หักมือหักขามึง กูจะ...โว๊ยยยยย” แคปขยี้หัวตัวเองจนยุ่ง
“จะทำไม่ทำ มึงช้ากูยัดเข้าปากเดี๋ยวจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่”
“มึงลองสิไอ้เหี้ย กูจะกัดให้ขาดคาปากกูเลยเอาดิ ตายเป็นตายแลกกันเลยถ้ามึงจะลอง”
“ก็มึงดุแบบนี้อ่ะดิ กูเลยขอใช้แค่มือ เข้าใจกูยังเนี่ย มึงเป็นแฟนกูนะ กูยอมมึงถึงขนาดนี้เลยนะเมีย”
“กูไม่ใช่เมียมึง! ไม่ใช่แฟนมึง! ไม่ต้องมาอ้างมั่วซั่ว!”
“อะไรของมึงวะ เดี๋ยวไม่ใช่เมีย เดี๋ยวไม่ใช่แฟน เดี๋ยวกูจะตอกย้ำความทรงจำมึงใหม่อีกทีซะเลย คราวนี้จะให้มึงจำได้แม่นๆเลยดีไหมวะ ว่าใครเป็นเมียใคร ผัวใคร แฟนใคร”
“ไอ้สัส !อย่ามาพูดมาก มึงหลับตาลงห้ามมองกู”
“เรื่องอะไรจะหลับ” เอสสวนขึ้นทันที
“งั้นกูจะควักลูกตามึงออกมาก่อนแล้วค่อยทำ”
“ถ้ามึงอายมึงก็หลับตาเอาเอง”
“ไอ้สัสกูหลับแน่อยู่แล้ว แค่จะบอกว่ามึงเองก็ต้องหลับด้วย”
“มึงคิดว่ามึงสั่งใคร”
“มึงจะหลับไม่หลับล่ะ ไม่หลับกูไม่ทำกูบอกแล้ว”
“เออก็ได้ กูจะหลับ”
“...........”
“...........”
“ไอ้เหี้ย กูรู้ว่ามึงโกหก” แคปแว๊ดขึ้นมา
“หึหึหึ” เอสยิ้มขำ แน่นอนอยู่แล้วเขาโกหก
“ไอ้สัสเอส!”
“เอาให้สุดฝีมือเลยนะมึง เอาแบบชนิดกูติดใจไม่มองใครหน้าไหนอีกแล้วน่ะ”
“มึงทนให้ได้ถึงสามสิบวิเถอะไอ้เหี้ย!”
“....หึ....” เขาว่าจะไม่หัวเราะแล้วนะ แต่ท่าทางแคปเวลาด่าเขาแต่ล่ะทีแม่งโคตรของความน่ารักเลย มันด่าคนหรือว่ามันทำให้เขายิ่งถลำลึกไปกับตัวมันกันวะ แค่นี้ก็หลงจะตายห่าอยู่แล้ว
“หัวเราะทำเชี่ยมึงเหรอห๊ะ!” แคปแหกตาโตๆใส่ไอ้คนที่นั่งอมยิ้มไปอีก เอสส่ายหน้าบอกไม่อยากจะฟังแล้วนะไอ้คำด่าน่ะ
“รีบทำเหอะแคป”
“......โว๊ยยยยย......” แคปสบถหงุดหงิด ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไปโดยคนทำนั่งหลับตาปี๋ ไม่มีความสนใจจะมองไอ้ตัวอันตรายตรงหน้าที่นั่งจ้องเขาแล้วก็ยิ้มเลยสักนิด
“............”
“.............”
“............”
“............”
“............”
“.............”
“............”
“.............”
“............”
“............”
“............”
“มึงแอบมองทำไมวะแคป อยากดูก็ลืมตาขึ้นมาเหอะ”
“ก็แล้วมึงครางทำเชี่ยเหรอไอ้สัส! กูไม่อยากจะมองตอนมึงเสร็จหรอกไอ้เหี้ย!”
“ไม่อยากมอง แต่หรี่ตาแอบดูกูเนี่ยนะ”
“อย่ามาพูดมาก”
“กูเป็นของมึงทั้งตัวอยู่แล้ว อยากดูตรงไหนก็บอก แอบมองทำไมวะ”
“มึงเงียบปากอย่าพูดมากได้ไหมห๊ะ! รีบๆเสร็จสักที กูเมื่อยมือไปหมดแล้วเหี้ย อึดแม่งไรนักหนา มึงจะไปแข่งขันเอาโล่หรือไง”
“จะเอาเร็วๆดิ?”
“เออสิวะ!!!” แคปกระแทกเสียงใส่ดังลั่น เขานั่งหลับตาแล้วปั่นให้มันต่อไป ขณะที่เอสส่ายหัวแล้วนึกขำ เวลาแบบนี้เขากับมันก็ยังจะทะเลาะกันได้ สองคนเบรกการปะทะฝีปากไว้ชั่วครู่
“............”
“.............”
“............”
“............”
“............”
“............”
“............”
“............”
“............”
“............”
จนกระทั่งเวลาผ่านไป นานน่าดูเหมือนกัน
“ตายห่าไหมทีนี้!” แคปกัดฟันกรอด ถือทิชชู่ใช้แล้วไว้ในมือ เหนียวเหนอะไปหมด แม่งไปตายอดตายอยากเก็บมาจากไหน เยอะเหี้ยๆเลย
“กูนอนก่อนนะ สบายตัวแล้วว่ะ”
“ไอ้สัส กูเกลียดมึงที่สุด!”
“คร่อกกกกกกกกกกก” เอสแกล้งทำเสียงกรนยาว เขาลอบอมยิ้ม หรี่ตามองคนที่นั่งหน้าตาบอกบุญไม่รับหงุดหงิดอยู่คนเดียว
“อย่ามาตลก มึงเสร็จคนเดียวก็จะนอน กูล่ะ! แล้วกูล่ะไอ้เหี้ย!!”
“..............”
“กูไม่ให้มึงนอน! ลุกขึ้นมาให้กูด่าต่อเลยไอ้บ้าเอส มึงแม่งที่สุดของความชั่ว! ชั่วๆๆๆๆ สารเลวโลกลืม กูเกลียดมึงที่สุด ไอ้สัสเอส! ลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
“..............”
“อย่ามามองกูแบบนั้นนะ! กูบอกว่าอย่ามองไง! กูจะควักลูกตามึงออกมาเลยคอยดู!!”
“...............”
“อ่ะ ไอ้สัส.....”
“เงียบเถอะ กูรู้มึงอยาก...”
“อื้ออออออออออออออออออออออ ”
Tbc.
ยาวๆสะใจไปเลย มินมาแล้วค่า ขอบคุณมากๆที่รออ่านกันอยู่ คือคนอ่านทำไมถึงน่ารัก มินแจ้งว่าจะมาช้าก็มาให้กำลังใจบอกจะรอ ซึ้งเลย โฮรรรรร มาคราวนี้จัดให้แบบยาวมากที่สุดเลยค่ะ แล้วมินก็จะหายหัวไปอีกนะค่ะ อ่านกันให้เบื่อไปเลยนะ คิดถึงเมื่อไหร่ค่อยมาทวง ถึงตอนนั้นคงเขียนตอนใหม่เสร็จพอดีล่ะ
มีหลายคอมเม้นท์ที่อ่านแล้วโดนใจมาก มินอาจจะไม่เคยได้ตอบ..แต่อยากบอกว่าอ่านทุกข้อความค่ะ รักนักอ่านทุกท่านมากนะ
ขอบคุณรูปภาพตัวละครที่ตั้งใจลงให้ด้วยค่ะ จริงๆแล้วเอสกับแคปก็แล้วแต่จะจินตนาการเลย ตามสบายมโนได้ตามใจ เพราะเรื่องหน้าตาแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันเนาะ ขอบคุณมากๆที่ลงรูปไว้ให้เพื่อนคนอื่นๆได้ดูนะคะ
ขอบคุณสารบัญด้วยค่ะ ยังไม่มีเวลาทำเป็นเรื่องเป็นราว มีคนทำให้แล้วขอบคุณมากมายจริง ๆ ดีใจ(โค้งงามๆ และมินขออนุญาตก๊อปไปวางไว้ที่หน้าแรกได้ไหมคะ) ขอบคุณมากๆรู้ว่าคิดถึงค่ะ มินจัดมาให้แบบยาวๆเลย อ่านให้เบื่อไปเลยเด้อออ
ปล.1 ไปเที่ยวสนุกมาก แต่รถเยอะมากๆเช่นกัน มินเที่ยวเผื่อแล้วนะคะ #กลับมาก็เตรียมสอบไปอีกสิ
ปล.2 ขอบคุณมากๆอีกครั้งทุกกำลังใจที่ทิ้งไว้ให้ ช่วยเอ็นดูเอสแคปต่อไปด้วยค่ะ
ปล.3 แนะนำว่าให้อ่านหนึ่งรีฯ ต่อ สองวันกำลังพอดีเลยค่ะ ><
ปล.4 ตอนที่อ่านทวนถึงได้รู้ว่าคำว่าสัส ถูกใช้ไปเยอะมากในตอนนี้ เดี๋ยวตอนหน้าแก้ตัวใหม่นะคะ บทนี้ๆทนๆไปก่อน
และปล.5 ตกลงตอนนี้เขาได้กันป่าวอ่ะ??