เจ้าเด็กประถมกับพี่มัธยม
อย่า
อย่านะ อย่าเดินออกไป
ผมพูดเงียบๆอยู่ในใจ มองดูเจ้าลูกแมวตัวหนึ่ง ตามตัวของมันเป็นลายเสือ สะดุดตาดีจัง ดวงตาของมันเป็นสีฟ้าอมเขียว มันกำลังใช้อุ้งเท้าน้อยๆของมันพาตัวเองเดินออกจากริมถนนไปสู่กลางถนนใหญ่ที่มีรถยนต์มากมายเร่งรถด้วยความเร็ว ผมในตอนนั้นเป็นแค่เด็กประถมที่มีแม่จูงมือรอข้ามถนนอยู่
“แม่ครับ” ผมเขย่ามือเรียกแม่ที่จับมือผมไว้แน่นเพราะกลัวว่าผมจะวิ่งออกไปที่นอกถนนนั่น แม่ผมไม่ได้ยินเสียงของผมเลย เพราะแม่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ ผมหันไปมองที่แมวเสือตัวนั้น มันหันหน้ามาเอียงคอมองผม เหมือนมันจ้องตาผมเลยนะ ผมสบตากับมัน ขยับปากบอกมันเหมือนกับว่าเราจะสื่อกันรู้เรื่อง อย่าข้ามไปนะ แมวตัวนั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพยานยามจะบอกมัน มันกลับใช้อุ้งเท้าของมันปัดจมูกมันเล้กน้อย ยังก้าวเท้าจะเดินออกไปอยู่ดี ผมหันไปมองรอบๆตัว ที่ป้ายรถเมล์มีคนยืนรอรถอยู่เต็มไปหมด ทุกคนดูเร่งรีบไม่สนใจใคร และไม่สนใจแมวตัวนั้นเช่นกัน ผมกระตุกมือผมอีกครั้ง
“แม่ครับ แม่” ผมเรียกแม่ แต่แม่ก็ไม่ตอบอะไรผมเลย นอกจากส่งสายตาดุมาให้แทน ผมมองแมวตัวนั้นอีกครั้ง ถ้าไม่มีใครไปช่วยมัน มันจะตายนะ รถแล่นมาเร็วขนาดนี้ แมวตัวนั้นต้องไม่รอดแน่ ผมคิดภาพตามแล้วก็ต้องส่ายหัวไล่ความคิด แมวตัวนั้นมันก้าวเข้าไปเรื่อยแล้ว และในขณะนั้นเองรถยนต์สีแดงที่แล่นมาด้วยความเร็วกำลังแล่นมาในเลนที่แมวน้อยกำลังเดินอยู่ ไม่รอดแน่ๆ ผมรีบยกมือมาปิดตา
เอี๊ยดดดดด
เสียงล้อเสียดสีกับถนนอย่างแรง เสียงผู้คนเริ่มโวยวาย ผมค่อยๆเปิดตาออก ก่อนที่จะต้องเบิกตาโพลง ภาพที่เห็นกับภาพที่คิดไว้ มันไม่ตรงกัน ตรงหน้าผมที่ถนนมเด็กผู้ชายคนนึงที่ใส่ชุดนักเรียนมัธยมยืนกางมือออกเพื่อหยุดรถสีแดงคันนั้นไว้ก่อนที่จะก้มลงอุ้มลูกแมวตัวนั้นขึ้นมา
“ไอ้เด็กบ้า ทำอะไรของแกเนี่ย ถ้าชนขึ้นมาจะทำไง” เสียงของคนขับรถสีแดงโวยวายขึ้น เมื่อคิดว่าถ้าตัวเองเบรคไม่ทันต้อง
ชนเด็กหนุ่มคนนี้เป็นแน่
“ผมแค่มาช่วยชีวิตลูกแมวครับ มันกำลังจะข้ามถนน” เด็กคนนั้นตอบกลับไปเสียงดังชัดเจน
“แค่ลูกแมวตัวนึงเนี่ยนะ ประสาทแล้ว ไอ้เด็กบ้า” ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถสีแดงลงมาต่อว่าเด็กคนนั้นด้วยอีกแรง ผมมองรอบตัวที่ตอนแรกมีคนมามุงดู แต่ตอนนี้กลับแยกย้ายกันออกไป ไม่มีใครช่วยเด็กผู้ชายคนนั้นเลยสักคน ผมสะบัดมืออกจากแม่สุดแรงก่อนที่จะวิ่งไปยืนข้างๆพี่มัธยมคนนั้น
“น้องแมวกำลังข้ามถนนครับ ถ้าพี่คนนี้เค้าไม่ช่วยไว้ คุณลุงต้องชนแมวตัวนี้แน่ๆ” ผมช่วยพี่เค้าพูดออกไป
“กะอีแค่แมวตัวเดียว” ผู้ชายคนขับรถพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินไปเปิดประตูขึ้นรถ พี่มัธยมดึงแขนผมเข้ามาริมถนนเพิ่อหลีกให้รถสีแดงขับออกไป
“ชีวิตทุกชีวิตมันมีค่านะ รู้ป่ะ แมวนี่มันก็อยากโตมาเหมือนเราเหมือนกัน” พี่มัธยมยิ้มบอกผม ก่อนที่แม่ของผมจะเข้ามาดึงตัวผมผละออกไป
“เมื่อกี้ทำอะไรน่ะลูก แม่ตกใจหมด ปะ เราไปกันได้แล้ว” แม่จูงมือผมเดินออกมา ผมค่อยๆหันกลับไปมองพี่มัธยมอีกครั้ง พี่เค้ายิ้มให้ผมก่อนที่จะเดินหันหลังไปเช่นกัน
“ทอยลูก ไปเก็บผ้าให้แม่หน่อย” ผมที่เผลอหลับไปสะดุ้งตื่นขึ้น แล้วนึกถึงเรื่องสมัยเด็กอีกแล้วหรอเรา ผมฝันถึงคนๆนึงที่ผมเคยเจอตอนเด็กๆภาพของเค้าคนนั้นยังคงติดอยู่ในใจผม รอยยิ้มนั้น ความอ่อนโยน เห้ออ ถ้าหากได้เจออีกครั้งคงดีไม่น้อยเลย
“ครับแม่” ผมขานตอบแม่กลับไป ก่อนจะขยี้ตา ตอนนี้ผมอยู่ม.ปลายแล้วล่ะครับ คนๆนั้นป่านนี้ก็น่าจะอยู่มหาวิทยาลัยแล้วมั้งหรือไม่ก็คงทำงานไปแล้วล่ะ
“วันนี้ลมแรงจังนะ” ผมพูดกับตัวเองลอยๆ รีบเก็บเสื้อผ้าที่ปลิวไปตามแรงลม เหมือนฝนจะตกเลยแฮะ ผมมองบ้านหลังข้างๆที่ยังไม่มีคนมาซื้อต่อจากเจ้าของบ้านคนก่อน ผมยิ้มให้กับดอกไม้ริมรั้วที่ลุงเจ้าของบ้านคนก่อนทิ้งเอาไว้ต้อนรับคนมาซื้อบ้านใหม่ และหลังจากที่ลุงแกออกไป ผมก็เป็นคนดูแลมันต่อ
“โตไวๆนะ”
“ไปรดน้ำดอกไม้มาอีกแล้วหรอเรา” ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในบ้าน แม่ที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนก็ทักขึ้น ผมยิ้มให้แม่ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอด
“ทอยก็รดน้ำให้มันทุกวันหนิ่ครับ มันจะได้โตไวๆเหมือนทอยไง” แม่หยิกแก้มผมเบาๆ
“จ้า แต่แม่เห็นมันเหลืออยู่แค่ดอกเดียวแล้วนี่” จึ้กเลย มันเป็นเรื่องจริงครับ ตอนแรกมันก็มีหลายดอก แต่ผมก็ไม่รู้ทำไมมันลดเหลืออยู่แค่ดอกเดียว
“ทุกชีวิตมันก็อยากอยู่รอดแหล่ะครับแม่”
“แต่แกจะไม่รอด ผ้าของแม่อยู่ไหน” แม่ผมพูดเสียงเขียว อ้ะ ลืมไปเลย ว่าเคยไปเก็บผ้า
“อ้า ทอยลืม เดี๋ยวไปเอาก่อนนะครับ” ผมบอกแม่เสร็จก็รีบวิ่งออกจากบ้าน ไปที่หลังบ้านอีกครั้ง หยิบตะกร้าผ่าที่ตัวเองเก็บมาแล้วกอดไว้กับอกก่อนจะวิ่งจู๊ดเข้าไปในบ้าน
คืนนั้นผมฝันว่าตัวเองได้เจอกับลูกแมวเสือตัวนั้นอีกครั้ง มันกำลังวิ่งมาหาผม ผมรีบคว้ามันไว้ก่อนจะอุ้มมันเอามาแนบกับอก อุ่นดีจัง แต่จู่ๆขณะที่ผมถูแก้มไปมากับขนนุ่มนิ่มของมัน มันก็กระโดดออกจากผมไป และนั่นก็ทำให้ผมสะดุ้งตื่น พร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก
“อ้าว ตื่นแล้วหรอลูก” ผมเดินลงมาจากห้องนอนก็เจอกับแม่ที่ยืนเอาขนมที่เพิ่งอบเสร็จมาใส่ในโหลแก้ว
“ตื่นแล้วครับ” ผมตอบก่อนจะหยิบขนมที่แม่เอาใส่โหลแล้วมาเอาเข้าปาก
“เรานี่นะ ไปหยิบจากในครัวมาเลย อันนี้แม่จะเอาให้พี่ข้างบ้านเค้า” แม่บ่นผม ผมขมวดคิ้ว ข้างบ้านหรอ
“มีคนมาอยู่แล้วหรอครับ” ผมถามแม่ก่อนที่จะพาร่างตัวเองเดินไปหยิบขนมในครัวออกมา
“มีแล้วสิ พี่เขาเรียนอยู่มหาลัยใกล้ๆกับหมู่บ้านเรานี่ล่ะ” แม่พูดก่อนจะผูกโบว์ที่โหลแก้วอย่างปรานีต
“อ๋อครับ” ผมตอบรับเฉยๆ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างข้างบ้านที่สามารถมองไปเห็นข้างบ้านได้ รภขนของจอดอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน มีผู้ชายตัวสูงๆคนนึงเดินขนของเข้าบ้านอยู่
“ทอย เดี๋ยวเอาขนมไปให้พี่เขาด้วยนะ” แม่พูดก่อนที่จะเดินหายไปในครัว ผมเดินไปหยิบโหลแก้วมาอุ้มไว้ในมือก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน ไปยืนข้างรั้วบ้านที่ๆมีดอกไม้ของผมอยู่ แต่กลับกลายเป็นว่า
“เฮ้ย เจ้าเหมียว แกนอนตรงนี้ไม่ได้นะ ไปนอนที่อื่นเลย แกกำลังทับดอกไม้ของฉันอยู่” ผมมองแมวน้อยตัวนึงที่มันมานอนทับดอกไม้ของผมอยู่
เอ๊ะ
แมวตัวนี้มัน
ลายเสือ
ภาพของลูกแมวและพี่มัธยมคนนั้นลอยเข้ามาในหัวผมทันที จะเป็นไปได้ไหม มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมวางโหลแก้วไว้ที่พื้นข้างตัวก่อนจะก้มลงไปอุ้มลูกแมวตัวนั้นขึ้นมา ใจผมเต้นช้าๆ ราวกับว่ามันกำลังลุ้นให้เจออะไรสักอย่าง ถ้าแมวตัวนี้ตาสีฟ้าอมเขียว มันจะใช่ตัวเดียวกันไหม คนที่เลี้ยงมันไว้คือพี่คนนั้นใช่ไหม ผมค่อยมองตาลูกแมวที่อยู่ในอก ละก็หัวใจหล่นวูบ แมวตัวนี้ตาสีฟ้า
“ไลออน อยู่ไหนน่ะ ไลออน” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นมาจากบ้านข้างบ้านผม ลูกแมวตัวนี้กระโดดออกจากอกผมเหมือนที่ฝันเอาไว้ มันวิ่งไปตามเสียงของคนที่เรียกมัน ร่างของผู้ชายตัวสูงที่ใส่ชุดนักศึกษาเดินเข้ามาใกล้ผม ก่อนที่จะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
ผมราวกับถูกสะกดกับรอยยิ้มนั้น เหมือน ทำไมมันเหมือนกับรอยยิ้มของพี่มัธยมคนนั้น หรือว่าจะใช่เขา
“มีอะไรรึเปล่าครับ” พี่นักศึกษาถามขึ้นเมื่อเห็นผมมองหน้าแต่ไม่พูดอะไร
“อะ อ๋อ ผมอยู่ข้างบ้านพี่น่ะครับ แม่ผมฝากขนมมาให้” ผมพุดก่อนจะหยิบโหลแก้วขึ้นมาให้พี่เขา พี่เขายิ้มให้อีกครั้ง และรอยยิ้มนั้นมันก็ทับซ้อนกับรอยยิ้มของพี่มัธยมคนนั้นมาก ผมสะบัดหัวไล่ความคิด จะบ้ารึไง ถ้าเป็นพี่มัธยมจริง แมวตัวนั้นก็ควรอยู่กับเขาไม่ใช่หรอ ผมยิ้มเจื่อนๆ
“โอ้ ขอบคุณมากนะ เอ่อ เราชื่อไร”
“ห๊ะ อ๋ออ ผมชื่อทอย” ผมตอบพี่เขาไปก่อนจะยิ้มให้
“พี่ชื่อ อัพ นะ” พี่เค้าบอกชื่อก่อนจะยิ้มตอบผม ผมก้มลงมองดอกไม้ที่ตอนนี้มันเหมือนจะตาย เพราะโดนเจ้าลูกแมวที่ชื่อไลออนนั่นนอนทับ
“เอ่อ พี่ขอโทษแทนไลออนมันด้วยนะ” พี่อัพที่เห็นผมยืนมองดอกไม้แบนแต๊ดพูดด้วยเสียงที่เสียใจ
“ไม่เป็นไรครับพี่”
“ไม่ได้หรอก ต้องขอโทษสิ ทุกชีวิตมันมีค่านะ” ประโยครั้งท้ายของพี่เค้าทำให้ผมต้องเงยหน้ามอง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหม
แต่เหมือนพี่อัพจะเน้นประโยคนี้ มันเป็นประโยคของพี่มัธยมคนนั้นนะ หรือว่าพี่อัพ คือพี่มัธยมคนนั้น เห้ออ ไม่ใช่หรอก
“ใช่แล้วแหล่ะครับ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไรนะครับ ไลออนไม่ได้ตั้งใจหรอก ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับพี่อัพ” ผมพูดขอตัวกลับบ้าน น้ำตาผมแทบจะไหลออกมา ผมแค่หวังว่าพี่อัพจะคือพี่มัธยมคนนั้น แต่เจ้าไลออนมันไม่ใช่ลูกแมวคราวนั้น
“เมี๊ยววว” เสียงแมวร้องดังขึ้น ผมยังคงเดินต่อไป คงเป็นเสียงเจ้าไลออนนั่นแหล่ะ
“น้องทอยครับ” เสียงพี่อัพเรียกชื่อผมดังขึ้นข้างหลัง ผมหันหลังกลับไป ก็เห็นพี่อัพอุ้มแมวตัวนึงไว้ในมือ มันตัวใหญ่เกินกว่าจะเป็นลูกแมวแล้วล่ะ ผมมองไลออนที่ตอนนี้มันกลับไปนอนทับดอกไม้ของผมอีกแล้ว นี่จะซ้ำเติมไปไหนเนี่ย
“ว่าไงครับพี่”
“น้องทอยว่างไหมครับ” พี่อัพยิ้มบางๆก่อนจะถามผม
“เอ่ออ ก็ว่างครับ มีอะไรรึเปล่า” ผมพูดก่อนจะเดินกลับเข้าไปหาพี่เค้าให้ใกล้กันกว่านี้
“ช่วยพี่ตั้งชื่อแมวตัวนี้ทีสิครับ มันเป็นแม่ของไลออนน่ะ พี่ยังไม่เคยตั้งชื่อให้มันเลย” พอพี่อัพพูดจบผมก็มองแม่แมวที่อยู่ในอกพี่อัพ ลายเสือเหมือนกับไลออน ผมค่อยๆจับหน้าของแม่แมวให้เงยหน้าขึ้น
“อ๊ะ นี่มัน” แมวตัวนั้น ลูกแมวเสือ แมวเสือ ตาสีฟ้าอมเขียวที่ดูจะโตกว่าเดิมจ้องมองผม ก่อนจะใช้อุ้งเท้าของมันปัดจมูก เหมือนที่มันเคยทำในตอนนั้น หรือว่า
“พี่ดีใจนะครับ ที่ได้เจน้องอีก” พี่อัพพูดเสียงแผ่ว แต่มันกลับดังมาก ดังจนมันสะท้อนก้องไปทั้งใจผม
“พี่อย่าบอกนะ ว่าพี่คือเด็กมัธยมคนนั้น” ผมชี้มือค้าง น้ำตาที่เหมือนจะไหลเมื่อกี้ตอนนี้มันไหลลงมาอาบแก้มของผมแล้ว พี่อัพเองตอนนี้ตาก็เริ่มแดงไปด้วย
“ถ้าตอบว่าไม่ใช่ทอยจะเสียใจไหม” พี่อัพพูดก่อนที่จะจาม พี่อัพปล่อยแมวตัวนั้นลงกับพื้น มันเดินไปหาไลออนลูกของมันก่อนจะนอนข้างกัน
“เสียใจสิ ใช่พี่รึเปล่า”
“พี่ไม่ชอบทำใครเสียใจซะด้วยสิ ฮัดเช่ย” ผมมองหน้าพี่อัพ ที่แดงระเรื่อ พี่อัพสูดน้ำมูกก
“เหลือเชื่อ ดีใจจังนะได้เจอกันอีกครั้ง” ผมปาดน้ำตาของตัวเองทิ้งก่อนจะก้มลงไปลูบเจ้าแม่แมวเสือ
“ดีใจที่ได้เจอคนหรือแมวครับ ฮัดเช่ย โอ้ยย” พี่อัพนั่งยองๆมองหน้าผม ก่อนจะเช็ดน้ำมูก
“คนสิครับ” ผมตอบก่อนจะรีบก้มหน้าหนี
“ฮ่าๆๆ ฮัดเช่ยๆ”
“เอ่อ พี่ไม่สบายรึเปล่า” ผมถามคนตัวโตที่นั่งถูจมูกจนแดงไปหมด
“เปล่าหรอก พี่แพ้ขนสัตว์น่ะ” พี่อัพตอบก่อนจะหยิบหน้ากากอนามัยมาใส่
“เห้ย บ้าหรอ พี่แพ้แล้วพี่เลี้ยงแมวทำไม” ผมมองคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“ก็ไม่อยากให้คนอื่นเอาไปเลี้ยงหนิ”
“ทำไมล่ะครับ”
“ก็เดี๋ยวเจ้าเด็กประถมที่มีขี้แมงวันใต้ตาข้างซ้ายนั่นจะจำพี่ไม่ได้น่ะสิ” ผมตาโตมองพี่อัพที่ตอนนี้เอื้อมมือเข้ามาดึงตัวผมจะไป
กอด
“เอ่อ พี่อัพครับ”
“ครับ ว่าไงครับ”
“คือเราจะกอดกันผมก็ไม่ขัดหรอกนะ แต่ว่ากอดตรงนี้มันแปลกๆนะครับ” ผมยื้อตัวออกจากพี่อัพ พี่จะกอดไปได้ยังไงครับถึงพี่จะสูงเลยรั้วไปมากโข แต่ผมเลยมาแค่หัวเองนะครับพี่
“มันติดรั้ว” ผมพูดคำตอบให้
“ฮ่าๆๆ ไม่เห็นยากเลย ฮึ้บ” พอพี่อัพพูดจบก็กระโดดข้ามรั้วมาที่บ้านผม
“อ๊ะ” ผมตกใจที่พอพี่แกกระโดดมาถึงก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดเลย
“ทีนี้ก็กอดกันได้สบาย หื่อ” พี่อัพพูดก่อนที่จะถูจมูกกับไหล่ผม
“นี่พี่แอบชอบผมป่ะเนี่ย” ผมพูดแซวพี่อัพไป ถ้าพี่ตอบว่าใช่ ผมจะเป็นแฟนพี่ได้เลยนะ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็ไม่เคยชอบใคร เพราะผมมีแต่พี่อยู่ในใจเนี่ย
“ทำขนาดนี้แล้วไม่รู้รึไง” พี่อัพคลายกอดออกก่อนจะมองหน้าผม
“ไม่คิดว่าจะได้เจอเลยนะ” ผมยิ้มตอบพี่เค้า
“ชอบนะเด็กประถม” พี่อัพพูดก่อนจะยักคิ้วกวนๆมาให้
“เด็กมัธยมก็หล่อดี” ผมตอบกลับพี่อัพไปบ้าง พี่อัพค่อยโน้มตัวลงมาใกล้ๆหน้าผม ใกล้ขึ้นอีก ใจผมมันเต้นดังแต่มันกลับรู้สึกอุ่นใจ มับวาบหวามไปหมด ได้เจอแล้ว เด็กมัธยมคนนั้น ผมหลับตาลง ภาพของเด็กมัธยมที่อุ้มแมวแล้วส่งยิ้มมาให้ผม กลับกลายเป็นคนตรงหน้า คือพี่อัพนั่นเอง ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รดอยู่ตรงแก้ม นี่จะเป็นจูบแรกรึเปล่านะ
“ฮัดเช่ย เห้ย พี่ขอโทษ” เอิ่บ ผมลืมตาขึ้น ละก็เห็นพถี่อัพที่หน้าแดงด้วยความอาย พยายามหาผ้ามาเช็ดหน้าให้ผม
“โอ้โห เต็มหน้าเลย” ผมพูดก่อนจะยืนนิ่งๆให้พี่อัพเช็ดหน้าให้
“แล้วสรุปเราจะตั้งชื่อเจ้าแมวนั่นว่าอะไร” พี่อัพที่ตั้งใจเช็ดหน้าให้ผมถามขึ้น
“นั่นสินะ ถ้าลูกชื่อไลออน ก็ให้แม่ชื่อไทเกอร์ไปเลยสิครับ” ผมตอบแบบไม่ได้ใช้ความคิดอะไรมากมาย
“ไทเกอร์หรอ ฮ่าๆๆ เหมาะกับมันดีนะ” พี่อัพหัวเราะร่า
“แล้วทำไมพี่ไม่ตั้งชื่อมันตั้งแต่แรกล่ะครับ”
“ก็อยากให้คนที่เป็นรักแรกตั้งให้นี่นา เด็กประถมคนนั้นน่ะ” พี่อัพพูดก่อนจะส่งวิงค์ให้ผม ผมรู้สึกร้อนที่หน้าเล็กน้อย
“’งั้นผมขอเปลี่ยนชื่อนะ”
“หืออ ได้สิ ชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อ ประถม ครับ” พอผมพูดจบพี่อัพก็ระเบิดหัวเราะทันที
“ดีจัง พอเรียกชื่อแมวปุ๊บ ก็เหมือนนึกถึงเมียเลย อุ้ย” และพี่อัพก็ทำให้ผมร้อนไปทั้งหน้ามากขึ้นอีกครั้ง
และเรื่องราวต่อจากนั้นก็คือแม่ผมงงครับว่าทำไมผมสนิทกับพี่ข้างบ้านเหลือเกิน บางทีก็ถึงขั้นขนเสื้อผ้ามานอนบ้านพี่เค้า พี่อัพก็เลยบอกแม่ไปว่าติวหนังสือให้ผม แต่ผมก็สงสัยนะทำไมติวหนังสือนี่มาจบที่เตียงตลอดเลยล่ะ และผมก็เจ็บร้าวที่สะโพกทุกที ฮ่าๆๆๆ
[/font][/size][/color]
Talks: สวัสดีค่าา เราเอาเรื่องสั้นมาฝากให้ทุกคนช่วยพิจารณาด้วยน้า เพิ่งแต่งเรื่องสั้นครั้งแรกเหมือนกัน ก็ยังไงติชมกันได้เลยน้า เราอ่านทุกคอมเมนท์เลย ถ้าใครชอบก็กดบวกเป้ดให้ด้วยนะคับ ขอบคุณมากเลยค่ะที่หลงเข้ามาอ่าน แฮ่ๆ ฝันดีน้าคะ