กลับมาแล้วค่า
เจ้านายกลับแล้ว คิดถึงคนอ่านมากๆจริงค่ะ ไม่ได้อ่านคอมเม้นท์มาหลายวัน เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปเลยค่ะ ตอนนี้กลับมาอัพเหมือนเดิมแล้วนะคะ ดีใจจัง จะพยายามไม่หายไปไหนบ่อยๆอีกแล้วนะคะ ขนาดเราไม่มาอัพยังมีคนอ่านมาเม้นท์ว่าคิดถึงเลย เราก็คิดถึงค่ะ กลับมาแล้ว เย้ อ่านให้สนุกนะคะ ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหนก็ขออภัยด้วยค่า 
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 42
ไว้จะบอก...
กวินและเอยมาถึงบาร์แห่งหนึ่ง เป็นบาร์เดียวกับที่เอยเคยมากับพี่แปงและพี่ขาวเมื่อครั้งนั้น เมื่อจอดรถสนิทแล้ว ทั้งสองจึงเดินเข้าไปยังบาร์นั้นพร้อมกัน
บรรยากาศก็ไม่ต่างจากครั้งนั้นที่เอยมา ดูหรูหรา ไม่วุ่นวายเสียงเพลงสากลเปิดคลอเบาๆ กวินมองทางโต๊ะที่มีคนนั่งเยอะที่สุด เป็นโต๊ะที่ใหญ่ที่สุดในร้าน ตั้งอยู่หัวมุม กวินหันมาดึงมือเอยก่อนที่จะพาไปยังโต๊ะนั้น มีคนนั่งกันอยู่เกือบสิบคนได้ มีทั้งหญิงและชาย แต่ผู้ชายจะเยอะมากกว่า และหนึ่งในนั้นก็คือมินตรา ที่นั่งอยู่ด้วย เมื่อพวกเขาเห็นกวินก็พากันเรียกขึ้น
“ไอ้เพื่อนหน้านิ่งของเรามาแล้ว” เสียงเรียกพร้อมโห่ร้องเบาๆ ทำเอาโต๊ะอื่นๆหันมองมาไม่น้อย เอยไม่ค่อยกล้ามองไปเท่าไหร่นัก จึงได้แต่ก้มมองรองเท้าของตนเอง กวินที่ทำหน้านิ่งๆก็ได้ดึงมือเอยไปนั่งตรงที่ว่าง สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เอย
“กวิน ไม่ได้เจอกันนานเลยว่ะ” แม้เพื่อนๆของกวินจะมองมาที่เอย แต่ปากก็ยังเสียงถามขึ้น กวินก็ได้แต่พยักหน้า
“อืม” กวินพูดแค่นั้น
“ไหนมินบอกว่ากวินไม่ว่าง?” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้นมา พลางมองหน้ามินตรา ที่ดูนิ่งไป เพราะเธอไม่คาดคิดว่ากวินจะกล้าพาเอยมาจริงๆ
“เขา...บอกเราแบบนั้น” มินตราพูด
“ช่างเถอะๆ ไหนๆก็มาแล้ว ว่าแต่นี่ใครวะ?” เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้น พร้อมยิ้มให้กับเอย
“ทุกคน...นี่เอย เอย...นี่เพื่อนๆฉัน เรียนที่อังกฤษด้วยกัน” กวินพูดเชิงแนะนำ
“สะ...สวัสดีครับ” เอยพูดขึ้น
“เอยเป็นเพื่อนกวินเหรอ?” เพื่อนผู้หญิงถามขึ้น
“แฟนฉันเอง....” กวินพูด ราวกับมีปุ่มปิดเสียง ทุกคนพร้อมใจกันเงียบลง พลางมองกวินด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ มินตรานั่นหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้ย...อย่าล้อเล่นสิวะ ถามจริงๆ” เพื่อนอีกคนถาม
“ไม่ได้ล้อเล่น” กวินบอก
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” เพื่อนๆถาม
“สักพักแล้ว” กวินตอบ
“ชื่อเอยเหรอครับ....คิดไงถึงมาคบกับไอ้หน้านิ่งนี่ได้ครับ?” เพื่อนของกวินที่นั่งข้างเอย กระแซะไหล่เอย ก่อนถาม
“เอ่อ...” เอยไอ้แต่อ้ำอึ้ง
“คิดว่ามินจะได้ตำแหน่งนั้นเสียอีก” เพื่อนผู้หญิงที่นั่งข้างมินตราพูดขึ้นมา ประโยคนั้นราวกับตอกหน้ามินตราเข้าอย่างจัง กวินไม่พูดอะไร ก่อนที่จะรับแก้วจากเพื่อนมาดื่ม
“อย่าพูดอะไรให้เสียบรรยากาศน่า” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมา ก่อนที่จะยื่นแก้วให้เอยดื่ม
“ว่าแต่ชื่อเอยเหรอ ผมเคนนะ เพื่อนสุดแสนจะสนิทของกวินเลย” คนที่นั่งข้างเอยแนะนำตัว คนอื่นๆจึงพากันแนะนำตัวบ้าง เอยพยายามจะจำชื่อเท่าที่จะจำได้
“กวิน....นายหาจากไหนวะ หน้าตาน่ารักเป็นบ้า” เพื่อนของกวินที่นั่งคนละฝั่งกับเอยพูดขึ้น
“นั่นสิ คุณเอย มีน้องไหมน้องชายก็ได้ ผมขอจอง” เพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“ผม....เป็นลูกคนเดียวครับ” เอยว่า
“เสียดายจัง...กวิน...ขอคุณเอยเถอะ” เพื่อนของกวินที่นั่งตรงข้ามกับกวินว่าพลางหัวเราะ เพราะกวินส่งสายตาราวกับจะเอาแก้วในมือขว้างข้ามฟากไปให้ได้
“ฝันไปเถอะ” กวินว่า ก่อนที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้น เพื่อนๆจึงพากันโห่ใส่ ยกเว้นมินตราที่นั่งหน้านิ่งก่อนที่จะสะบัดหน้าไปมองทางอื่นแทน
ทุกคนก็ต่างถามนั่นถามนี่เอยเสียมากมาย และยังชวนเอยชนแก้วเสียหลายหน และเหมือนกวินจะพยายามไม่ให้ดื่ม แต่เพื่อนๆก็ไม่ยอม เอยจึงดื่มไปแก้วสองแก้ว
“นี่...ไปเจอกันที่ไหน?” เคนคนเดิมที่ถามเอย
“เอ่อ...” เอยอ้ำอึ้งอีกแล้ว เพราะไม่รู้จะบอกอย่างไรดี
“บอกไปสิคุณเอย...ว่าเจอกันที่ทำงาน คุณเอยเป็นพนักงานในบริษัทของกวิน” มินตราที่นั่งดื่มไวน์เป็นคนตอบแทนเอย กวินหันมองมินตราเพียงนิด ก่อนที่จะหันดื่มต่อ
“เอยทำงานที่บริษัทกวินเหรอ ตำแหน่งอะไร?” แต่ดูเหมือนเคนจะไม่สนใจมินตรา กลับถามเอยต่อ
“แผนกงบประมาณครับ” เอยตอบ
“กวิน นายมีของดีในบริษัทนี่หว่า” เคนหันไปบอกกวินที่ยกยิ้มมุมปาก เมื่อได้ยินคำพูดของเคน
“เขี่ยตัวเต็งออกได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ” เพื่อนผู้หญิงคนเดิมที่นั่งข้างมินตราเป็นคนพูดขึ้นมา มินตรานั่งนิ่งๆ ไม่พูดอะไรออกมา เธอยังคงนั่งจิบไวน์อยู่อย่างนั้น
เพื่อนคนอื่นก็พูดคุยกันไปเรื่อยๆ เอยหยุดดื่มแล้ว เพราะกลัวตนเองจะเมา อีกอย่างกวินส่งสายตาปรามมาอีกทางเอยเลยต้องหยุด แม้คนอื่นๆจะคะยั้นคะยอให้ดื่ม แต่เอยก็ปฏิเสธไป
“คุณกวินครับ” เอยเรียกกวิน
“หืม?”
“ผมขอเข้าห้องน้ำได้ไหมครับ?” เอยบอก
“เดี๋ยวฉันไปด้วย” กวินว่า
“ไม่เป็นไรครับ คุณกวินคุยกับเพื่อนเถอะครับ” เอยว่า
“อย่าช้า” กวินพูดแค่นั้น เอยพยักหน้ารับ ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ
เอยเข้าไปในห้องน้ำ ทำธุระเพียงครู่เดียว ก่อนที่จะออกมา พบว่ามินตรายืนอยู่หน้าห้องน้ำผู้หญิง และมองมาทางเอย เอยทำท่าจะก้าวเดินกลับไปที่โต๊ะ แต่มินตราเดินมาดักหน้าเอยเสียก่อน
“จะรีบไปไหนคะคุณเอย?” มินตราพูดขึ้น พร้อมยิ้มหวาน
“ผม..จะกลับไปนั่งครับ” เอยบอก
“คุณนี่กล้ามากนะคะ ที่มาในคืนนี้” มินตราพูด
“ผม...มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ” เอยว่า
“ยังจะพูดว่าไม่ใช่อีกเหรอคะ? ทั้งๆที่กล้ามาถึงที่นี่แล้วแท้ๆ....มาหักหน้าดิฉันต่อหน้าเพื่อนคนอื่น คงสะใจมากสินะคะ” มินตราพูด เธอเหมือนจะข่มอารมณ์ความโกรธเอาไว้
“ไม่นะครับคุณมินตรา ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด” เอยพยายามจะอธิบาย
“แล้วคุณจะได้เห็นดี ที่กล้าทำแบบนี้กับคนอย่างดิฉัน” มินตราว่า ก่อนที่จะเดินกลับไปยังโต๊ะ เอยถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกแย่ ที่มินตราคิดเช่นนั้น
เอยเดินกลับไปยังโต๊ะ เห็นมินตราจ้องมองมา เอยจึงได้แต่ก้มหน้าลง ไม่อยากให้มินตราเข้าใจผิดไปกว่านี้ ว่าการมาในคืนนี้ไม่ได้มีเจตนาจะหักหน้ามินตราหรืออย่างไร ด้านกวินก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำบ้าง
ตอนนี้เพลงในร้านเริ่มเปิดจังหวะชวนเต้น และดูเหมือนโต๊ะที่เอยนั่งใกล้ๆกันนั้นจะมีบาร์ยืนสำหรับคนที่ยากโยกย้ายเสียด้วย มารอบที่แล้วเอยไม่เห็นมัน หรือไม่ได้ตั้งใจมองหรืออย่างไรไม่ทราบ เพื่อนๆของกวินจึงพากไปยืนที่นั้น พลางโยกตัวไปกับจังหวะเพลงที่เริ่มมีจังหวะสนุกมากขึ้น
จึงเหลือเอยที่นั่งเพียงลำพัง รอกวินกลับมาจากห้องน้ำ เพียงชั่วครู่เพื่อนคนหนึ่งเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ก่อนที่เพื่อนคนนั้นจะพูดประโยคบางอย่างที่เอยถึงกับสะอึก
“นี่คุณเอย...ถามจริงๆ มีอะไรกับกวินรึยัง?” เพื่อนคนนั้นถามขึ้นมา เอยหน้าขึ้นสีทันที
“พูดเรื่องอะไรครับ?” เอยพยายามจะขยับตัวให้ห่าง แต่ดูเหมือนเพื่อนคนนั้นของกวินก็ยังคงขยับตามมา
“ก็แค่อยากรู้...ทำยังไงกวินถึงหลงได้ขนาดนี้?” สิ้นสุดคำถามนั้นเอยหันไปมองหน้าเพื่อนกวินคนนั้นทันที เอยไม่ชอบเลยที่เพื่อนของกวินพูดจากับตนเช่นนี้
“ขอโทษครับ...ผมไม่มีอะไรจะพูด” เอยว่า
“คุณเอยน่ารักนะ...เสียดายถ้าต้องตกไปเป็นของกวิน” เพื่อนคนนั้นยังคงพูดอีก ก่อนที่จะใช้มือเกลี่ยแก้มของเอยเบาๆ เอยสะดุ้ง พยายามที่จะถอยห่าง
“ผม....ผมว่าคุณคงเมาแล้วล่ะครับ” เอยว่า
“เอาน่า มาลองกับผมสักครั้ง ไม่แน่คุณเอยอาจจะติดใจจนลืมกวินก็ได้นะ” พูดไม่พอ เพื่อนคนนั้นของกวินดึงเอยเข้ามากอด ก้มหน้าลงซุกกับซอกคอของเอย เอยผลักอย่างสุดแรง แต่ดูเหมือนจะสู้แรงยาก เคนที่หันมาเห็นเข้าพอดี
“หยุดนะ ทำบ้าอะไรวะ?”
เคนรีบวิ่งเข้ามาและผลักเพื่อนคนนั้นจนกระเด็นออกไป กวินที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของเพื่อนคนนั้นมา ก่อนที่จะซัดหมัดเข้าใบหน้าอย่างจัง เพื่อนๆที่ยืนอยู่ที่บาร์ยืนต่างก็ร้องขึ้นมาอย่างตกใจ เอยพยายามจะห้ามกวิน รั้งแขนของกวินไม่ให้เข้าไปชกเพื่อนคนนั้นอีก ผู้จัดการร้านก็รีบเข้ามาห้าม เคนปรี่เข้าไปดูเพื่อนคนนั้น ที่เลือดกบปาก
“เมาจนบ้ารึไง ได้เลือดเลยเห็นไหม” เคนบ่นออกมา ก่อนที่จะพยุงเพื่อนคนนั้น
“คุณกวินครับ ใจเย็นๆ” เอยพยายามพูดกับกวิน มินตราที่เดินเข้ามาแสดงสีหน้าตกใจไม่น้อยที่เห็นกวินโมโหถึงขนาดนี้ ตั้งแต่รู้จักกับกวินมา เธอไม่เคยเห็นกวินโมโหแบบนี้มาก่อน
“มึงกล้ามาก ที่ทำแบบนี้” กวินชี้หน้าเพื่อนคนนั้น ใบหน้านิ่งก็จริง แต่ขบกรามแน่นอย่างพยามยามยับยั้งอารมณ์อันเกรี้ยวกราดของตนเอง
“กวิน พอเหอะ.... ขอโทษครับ ไม่มีอะไรครับ พวกเราจัดการได้” เคนพูดห้ามกวินอีกครั้ง ก่อนที่จะหันไปบอกผู้จัดการร้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“กลับเถอะ” กวินว่า ก่อนที่จะจูงมือเอยอกจากร้าน เพื่อนคนนั้นที่โดนกวินชก สบถออกมาพลางมองหน้ามินตรา
“เพราะเธอนั่นแหละ สั่งให้เราทำแบบนั้นออกไป เห็นไหม กวินมันโกรธจนชกเราขนาดนี้”
เพื่อนคนนั้นพูด ก่อนที่จะสะบัดมือจากเคนที่พยุงอยู่ และเดินเข้าไปห้องน้ำเพื่อไปล้างเลือดออก เคนหันมองมินตรา ก่อนที่จะส่ายหน้าน้อยๆ
“ฝีมือเธอเหรอมินตรา....ยืมมือคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง?” เคนถาม สายตาของเพื่อนๆทุกคนมองไปที่มินตราพลางส่ายหน้าอย่างระอา
“คือว่า....” มินตราพยายามจะแก้ตัว แต่เคนไม่ฟัง รีบเดินออกไปหากวินและเอย ที่ตอนนี้ออกไปจากร้านแล้ว
“กวิน....” เคนเรียก ตอนนี้กวินและเอยทำท่าจะขึ้นรถพอดี
“มีอะไรอีกเคน?” กวินถาม
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแวะไปหาที่บริษัทนะ” เคนว่า
“ไปทำไม?” กวินถาม
“มีเรื่องจะพูดด้วย แล้วก็....ไปดูของดีๆในบริษัทนายไง เผื่อยังมีเหลือถึงฉันบ้าง” เคนพูดแหย่ หวังจะให้กวินอารมณ์ดีขึ้น
“แล้วแต่นายก็แล้วกัน” กวินว่า ก่อนที่จะขึ้นรถไป
“ผมไปนะครับคุณเคน” เอยบอกพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“เจอกันอีกนะครับคุณเอย” เคนโบกมือให้ ก่อนที่กวินจะขับรถออกไป ส่วนเคนกลับไปเข้าที่บาร์อีกครั้งเพื่อคุยกับเพื่อคนนั้นถึงความจริงทั้งหมด
กวินขับรถออกมาจากบาร์แห่งนั้น ขับมาด้วยความรวดเร็ว ดูก็รู้ว่ากวินกำลังโกรธอยู่ เอยได้แต่เงียบ ระหว่างทางเอยก็ได้แต่นั่งคิดไปเรื่อยๆถึงเรื่องของมินตรา มินตราเธอคงจะไม่ยอมจริงๆ จนป่านนี้แล้วเธอยังคงมองเอยด้วยสายตาเจ็บแค้น โกรธเกรี้ยวเอยอยู่บ่อยครั้ง เอยจะต้องทำอย่างไรมินตราถึงจะยอม และไหนจะคำพูดของเพื่อนของกวินอีก แต่เอยไม่ได้ติดใจมากนัก เพราะเขาอาจจะเมา เลยพูดและทำอะไรแบบไม่คิดหน้าหน้าคิดหลัง คิดไปคิดว่าจนกวินขับมาถึงคอนโดแล้ว
กวินและเอยขึ้นลิฟต์มาถึงห้อง เมื่อเข้าไปในห้อง เอยก็เหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว เอยจึงหันไปมองกวินที่ตอนนี้กำลังเดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหาน้ำดื่มเพื่อสงบสติที่กำลังเดือดพล่าน
“คุณกวินครับ” เอยเรียกกวินที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็นนิ่งๆ
“ขอโทษ...ฉันทิ้งเธอไว้คนเดียว ทั้งๆที่บอกเธอว่าอย่าอยู่ห่างจากฉันแท้ๆ” กวินว่า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเสียหน่อย เพื่อนคุณคงเมา ผมไม่เป็นอะไรจริงๆครับ” เอยบอก กวินดึงเอยเข้ามากอด จูบลงบนผมของเอย
“จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก” กวินว่า
“อย่าคิดมากครับ ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ” เอยบอก
“แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนั้นกับเธอ” กวินว่า ก่อนที่จะลูบคอของเอย ราวกับจะลบล้างสิ่งที่เพื่อนคนนั้นทำ
“คุณกวินครับ...ผมไปอาบน้ำนะครับ” เอยว่า
“อาบพร้อมกัน” กวินบอกอย่างนั้น
“แต่ผมว่า...” เอยทำท่าจะห้าม
“ฉันจะล้างรอยพวกนี้ออก” กวินพูด รีบพาเอยไปยังห้องน้ำ ก่อนที่จะเริ่มถอดเสื้อผ้าและหันมาถอดเสื้อผ้าของเอยด้วยเช่นกัน
กวินพาเอยไปยังใต้ฝักบัว ก่อนที่จะเปิดน้ำรดศีรษะ เอยเลยต้องอาบน้ำกับกวินอย่างอายๆ ไม่ค่อยกล้ามองไปที่ใดนัก นอกจากแผ่นอกของกวิน กวินอาบน้ำไปพลางเอาสบู่ถูตรงคอของเอยทั้งหมด เอยได้แต่ยิ้มออกมา กวินคงจะหวงมากจริงๆและคงไม่พอใจมากๆที่เกิดเรื่องไม่คาดคิดแบบนี้
กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร เอยแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงไปนั่งลงบนเตียง เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว อีกทั้งพรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก เอยจึงถอดแว่น สวดมนต์ก่อนนอน ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน กวินที่แต่งตัวเสร็จแล้วเช่นกัน ก็มาลงมานอนกอดที่จะกอดเอย
นอนลงแล้วก็จริง แต่เอยยังคงลืมตาอยู่เช่นนั้น นอนไม่หลับเลยจริงๆ รู้สึกมีเรื่องให้คิดหลายเรื่องมากจริงๆ ทั้งเรื่องของมินตรา ทั้งเรื่องของเพื่อนกวินที่ทำแบบนั้น คิดไปคิดมา กวินที่ล้มตัวลงนอนข้างๆ ก็วาดแขนมากอดเอยไว้
“คุณกวินครับ...” เอยเรียกขึ้น
“หืม?”
“ผมถามคุณหน่อยได้ไหมครับ....คุณพูดกับที่บ้านของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงเรื่องของผม” เอยถาม แม้รู้อยู่แล้วว่าจากคุณวิดา แต่เอยอยากฟังจากปากของกวิน กวินเงียบไปเพียงครู่ ก่อนที่จะบอกออกมา
“ตอนนั้นฉันอยู่อังกฤษ เรียนใกล้จะจบแล้ว ที่บ้านโทรมาพูดเรื่องจะให้คบกับมินตรา ฉันเลยต้องบินกลับมาไทย เพื่อจะพูดเรื่องนี้กับคุณวิดาและคุณเกริก” กวินว่า
“เราเรียนจบก็แยกย้ายกันไปแล้ว..ทำไมคุณถึงยังยึดติดกับผมขนาดนั้นครับ” เอยถามออกมา กวินกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นก่อนตอบ
“ตั้งแต่วันนั้น วันที่เราเรียนจบ...ฉันคิดที่จะเรียนที่ไทยต่อ แต่ที่บ้านฉันอยากให้กลับไปเรียนที่อังกฤษ ตอนนั้นฉันกลัวจะห่างกับเธอจริงๆ เลยต้องให้กี้ เฝ้ามองเธอแทนฉัน และติดตามเรื่องราวของเธอทุกอย่างส่งมาให้ฉัน”
ในที่สุดกวินก็ยอมเอ่ยปากบอกเอย เอยคิดได้เรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรตอนเรียน จะเห็นกี้มาป้วนเปี้ยนตลอด และเข้ามาคุยกับเอยเสมอแม้จะอยู่กันคนละคณะก็ตาม แต่กี้ก็จะแวะมาคุยด้วยเสมอ
“อย่างนั้นเหรอครับ”
“ใช่ รู้ไหมกี้บอกฉันเสมอว่ายากมากที่ต้องคอยกันคนที่เข้ามาชอบเธอให้ออกห่างจากเธอ เพราะมีหลายคนจ้องจะเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ” กวินบอก
“กี้ทำแบบนั้นเหรอครับ?” เอยถามออกมาอย่างตกใจ
“ใช่ ถึงขั้นไปขู่รุ่นพี่คณะวิทย์ที่จะเข้าไปจีบเธอเลยรู้รึเปล่า” กวินบอก ก่อนที่จะยกยิ้มมุมปาก
“ผมจำได้...ว่ามีรุ่นพี่คณะวิทย์ เข้ามาคุยกับผมช่วงหนึ่ง แต่จู่ๆก็หายไป” เอยว่าพลางนึกถึงตอนนั้น
“ฝีมือกี้ทั้งนั้น” กวินบอก
“กี้ว่าร้ายแล้ว แต่คุณร้ายกว่าอีก” เอยว่า ก่อนที่จะมองกวินพลางยิ้ม
“ต้องหาของตอบแทนวุ่นวายไปหมด กระทั่งไปขออีเมลสาวฝรั่งให้กี้ด้วยรู้ไหม” กวินบอก
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ....แล้ว...ทำไมไม่บอกผมตรงๆละครับ” เอยถามออกมา กวินจ้องตาเอย ก่อนตอบ
“ฉัน...คิดว่าการที่ชอบเธอ มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ไม่ใช่ของจริงหรือสิ่งที่จะยึดติด แต่พอนานวันไป ฉันคิดผิด...ฉันชอบเธอเกินกว่าจะตัดใจได้” กวินว่า
“ผม....ที่ผ่านมาผมไม่มองใครเลย เพราะ....ในหัวของผมมีแต่คุณเท่านั้น” เอยบอก ก่อนที่จะหรุบตาลงอย่างรู้สึกอายๆ ที่บอกความในใจของตนเองออกไป
“ทั้งๆที่ใจเราตรงกันขนาดนี้แท้ๆ...แต่ทำไมถึงปล่อยให้เลยผ่านมาจนถึงป่านนี้” เอยพูดออกมา กวินจับคางของเอยก่อนที่จะก้มลงจูบเบาๆ
“ฉันจะไม่มีวันยอมปล่อยเธอไปไหนอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปฉันจะเฝ้ามองเธอด้วยสายตาของฉันเอง” กวินว่า ก่อนที่จะจูบริมฝีปากของเอยอีกครั้ง
“ว่าแต่....คุณชอบผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” เอยถามคำถามที่บ่อยครั้งถามกวินออกไป
“......” กวินเงียบ
“คุณกวิน...” เอยร้องบอกเบาๆ กวินยกยิ้มมุมปาก
“ไว้จะบอก....” กวินว่า
ทั้งสองจูบกันด้วยความรู้สึกรัก รู้สึกอยากเติมเต็มในช่องว่างที่ปล่อยทิ้งไว้ ช่วงเวลาที่ปล่อยให้เลยผ่านไปมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้มารักกันเสียที แม้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เอยยังไม่รู้ ยังมีบางสิ่งที่กวินไม่เคยบอกออกมา แต่สักวันหนึ่ง...เอยก็จะรู้มันจากปากของกวินเอง...
+++++++++++++++++++++++++++++