ตอนที่28
เข้าวันที่3ที่เอฟหลับอยู่ตลอด หมอบอกเพราะร่างการอ่อนเพลียจากเหตุการณ์เมื่อ2คืนก่อนบวกกับร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วทำให้เขายังไม่ตื่นขึ้นมา ตอนแรกผมค่อนข้างกังวลแต่ทุกครั้งที่หมอเข้ามาตรวจก็จะบอกว่าไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วง ร่างกายค่อยๆฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี และสิ่งเดียวที่ทำให้ผมเชื่อที่หมอพูด ก็คือเสียงครางในลำคอที่หลุดออกมาปล่อยๆทำให้ผมรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็จะตื่นขึ้นมา
น้องทีแข็งแรงดีไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วง ตอนเย็นก็คงจะออกจากตู้อบได้แล้ว และนั้นก็หมายความว่าผมจะอุ้มลูกได้เป็นครั้งแรก ถึงผมจะดูตื่นเต้นจนเกินเหตุแต่ก็ไม่ใช่คนที่เห่อน้องทีที่สุด เพราะลูกชายคนโตของผมเห่อน้องยิ่งกว่าใคร
ตลอดทั้งวันก็เอาแต่ไปยืนมองน้องที่หน้าต่างห้องเด็กมองผ่านกระจกใสและตู้อบอีกที ยืนอยู่นานจนพยาบาลหาเก้าอี้เด็กมาให้นั่งมอง น้องจีจะยิ้มและหัวเราะทุกครั้งที่น้องชายขยับตัวไปมาและเจ้าตัวก็ได้มีโอกาสหลายครั้งในการเข้าไปดูอย่างใกล้ชิดถึงแม้ยังมีกระจกตู้อบขวางกัน แต่น้องจีก็ดีใจทุกครั้งที่ได้เข้าใกล้น้อง ผ่านไปแค่หนึ่งวันพยาบาลรวมถึงหมอในชั้นนี้ทั้งหมดก็รู้จักน้องจีและซื้อขนมนมรวมถึงน้ำผลไม้ต่างๆมาฝากจนล้นโต๊ะ
“ตาทอส มากินข้าวกินปลาก่อน เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาอีกคนหลานแม่จะกำพร้าเอา”แม่ยายผมเดินนำพ่อตาเข้ามาในมือมีปิ่นโตสีชมพูสดขนาดใหญ่ที่เพิ่งซื้อเมื่อวาน
“ครับ”ผมตอบรับก่อนที่จะยกมือไหว้แล้วรับชั้นปิ่นโตมาวางไหว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงและนั่งกินไปพร้อมมองหน้าแม่ของลูกผมไปด้วย จนพ่อตาด่าให้กินก่อนค่อยเฝ้าผมถึงเริ่มกินอย่างรวดเร็ว
“หลานกูไปไหน”พ่อตาถามอย่างไม่มีอะไรจะทำ เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าน้องจีคงไปเฝ้าน้องทีแต่ถึงแบบนั้นก็ยังถาม
“อยู่ที่เดิมครับ”ผมตอบเสร็จ พ่อตาก็ถือชั้นปิ่นโตชั้นหนึ่งที่มีหมูทอดกับผัดผักราดอยู่เดินออกไป ส่วนแม่ยายก็ไปหาซื้อผลไม้ข้างล่าง ผมมองตาหลังพ่อตาไปจนประตูปิดรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็ตอนคนที่ผมเฝ้ามาเกือบ3วันเรียกหา
“พี่ทอส”น้ำเสียงแหบแห้งทำให้ผมรีบใช้หลอดเจาะแก้วน้ำแล้วป้อนทันที กินครั้งเดียวจนหมดแก้ว
“เอาอีกไหม”ผมถามแต่เอฟส่ายหน้าปฏิเสธ ผมรีบกดออดเรียกพยาบาล
“พี่ทอสลูกล่ะครับ”เอฟจับที่ท้องตัวเองก่อนจะเงยหน้าคิดถามด้วยสายตาคาดหวัง
“เดี๋ยวตอนเย็นก็ได้เจอ ไม่ต้องห่วง”ผมใช้ฝ่ามือลืมผมนิ่มไปมาก่อนจะลุกขึ้นจูบซ้ำๆที่หน้าผากมนเพื่อเบาเทาอาการคิดถึงของตัวผมเอง
หลังจากนั้นหมออีกคนที่ร่วมเป็นเจ้าของไข้ก็เข้ามาตรวจเช็คอาการเมื่อทุกอย่างปกติดีก็ออกไปพร้อมบอกว่าอาหารจะตามมาพร้อมยา
“น้องจีล่ะครับ”พอหมออกไปก็ถามหาลูกทันที
“เฝ้าน้องที”พอตอบไปแค่นั้น เอฟก็หัวเราะทันที
“เห่อน่าดู”แม่ยายผมเดินเข้ามาพร้อมผลไม้สดหลายอย่าง แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างทันที
“แม่ฮะ”น้องจีที่ถูกคุณตาจูงมือก็รีบวิ่งเข้ามาที่เตียง
“ว่าไงตอนแม่หลับดื้อไหมครับ”ผมอุ้มน้องจีขึ้นนั่งตักเพื่อให้ลูกชายเห็นหน้าแม่ได้ถนัด
“ไม่ๆ น้องจีเป็นเด็กดี ได้ขนมมาเยอะเลย”ว่าจบก็ชี้ให้ดูถุงขนมมากมายบนโซฟาตัวยาว”พี่พยาบาลให้มา บอกว่าน้องจีรักน้อง น้องจีน่ารัก และน้องจีเป็นเด็กดี แบบนี้ด้วย”เจ้าตัวยุ่งบนตักโม้ยืดยาวจนคนเป็นแม่อดขำไม่ได้
“ครับๆ ดีมาก”เอฟว่าก่อนจะใช้มือลูบหัวน้องจีไปมา
____________________________________________
“เด็กแข็งแรงมากครับ เดี๋ยวจะให้พยาบาลอุ้มมาให้ดู น้องจีไปกับอาหมอไหน”อาหมอหรือคุณหมอไวน์เป็นกุมารแพทย์จบใหม่และเป็นจ้าของไข้ผมอีกคน ถึงจะเพิ่งจบมาได้ไม่นานและความสามารถเรียกได้ว่าเหนือกว่าหมอทีจบมานานหลายคน จนคุณพ่อของหมอนนต์ต้องรีบดึงตัวเข้ามาร่วมทำงานด้วยเรียกได้ว่าจองตัวตั้งแต่เรียนยังไม่จบ
“ไปฮะ”และแน่นนอนหมอไวน์น่าตาน่ารักมากด้วยความที่น่าจะเป็นลูกคนมีฐานนะเรียนหมอและคงใช่ชีวิตอยู่แต่ในร่มซะส่วนใหญ่ผิวจึงขาวมาก ขาวจนดูซีดแต่ก็ยิ่งขับให้ดูมีออร่ามากกว่าเดิม
“ตอนนี้โชคดีที่เด็กค่อนข้างแข็งแรงนะครับแต่มีอีกเรื่องที่แนวโน้มค่อนข้างสูง คือเด็กอาจจะโตช้าและร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงสมวัยนัก ดังนั้นหมอจึงแนะนำให้เข้าคอส คอยดูแลพัฒนาการ ส่วนร่ายละเอียดเดี๋ยวถามอาจารย์นนต์ก็ได้นะครับถ้าผ่านช่วง2ขวบไปเราก็จะดูแลรักษาได้เต็มที และคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเมื่อเห็นอาการผิดปกติอะไรอย่าคิดว่าไม่เป็นไรเพราะน้องคลอดก่อนกำหนดร่างกายจึงไม่สมบรูณ์แน่นอน แต่แค่นี้ก็โชคดีมากแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะตอนตั้งครรภ์ทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลอย่างถูกต้อง ยังไงรายละเอียดหลักๆหมอคงพูดได้แค่นี้นะครับ งั้น น้องจีไปกับอามาไปรับน้องทีออกจากตู้กัน”คุณหมออธิบายอาการต่างของน้องทีให้ฟังเสร็จก็เอ่ยชวนน้องจีพร้อมจูงมือเดินออกไป
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นครับ”พี่ทอสทรุดตัวลงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างหัวเตียงเหมือนเดิมก่อนที่ทำหน้าเครียดจนผมอดแปลกใจไม่ได้
“เรื่องลูก บ้างทีน้องทีอาจจะ....”พี่ทอสหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้ากังวล
“น้องทีต้องแข็งแรงและเติบโตมาเป็นเด็กดีแน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่ทอสจะดูแลลูกอย่างดีที่สุดใช่ไหมครับ”ผมกุมมือพี่ทอสและบีบเบาๆ ยอมรับว่าผมเองก็กังวลและคิดโทษตัวเองที่ร่างกายไม่แข็งแรงพอทั้งน้องจีและน้องทีถึงต้องไม่สบายๆบ่อยๆ แต่ผมก็ตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ดีเท่าที่ผมจะทำได้ จะทุมเททุกอย่างเพื่อให้เขาเติมโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง
“มาแล้วๆ น้องมาแล้ว”น้องจีวิ่งเข้าห้องมาพร้อมตะโกนร้องเสียงดังเพราะตื่นเต้น หลังจากนั้นพยาบาลก็เข้ามาพร้อมห่อผ้าสีขาว
“คุณแม่อุ้มก่อนไหมค่ะ”พยาบาลเดินส่งเด็กมาตรงหน้าผม ผมเอื้อมมือไปรับลูกมาอุ้มถึงแม้จะขยับตัวได้ไม่มากเหมือนที่คิดแต่ผมก็อยากอุ้มลูก
สิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก มีขนาดเล็กจนกลัวที่จะออกแรงในการกระชับกอด น้องทีตัวขาวถึงแม้จะดูเหลืองๆแต่ก็ดูเป็นเด็กที่แข็งแรงขนาดตัวใหญ่กว่าตอนน้องจีเกิดมาก กลุ่มผมสีดำสนิทกับริมฝีปากบางๆเหมือนพี่ทอสแต่จมูกเล็กๆกับตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตนั้นคล้ายผม แววตาบริสุทธิจ้องมองมาที่ผมอย่างสนใจ
“น้องจีจับน้องซิ”น้องจีกำลังนั่งอยู่บนเตียงและมองดูน้องอย่างตื่นเต้นแต่กลับไม่กล้าจับเหมือนกับคนเป็นพ่อที่เว้นระยะห่างจากน้องทีพอสมควรคงเพราะกลัว ซึ่งตอนแรกๆพ่อผมก็เป็น และผมคิดว่าผู้ชายหลายๆคนก็คงเป็น การอุ้มลูกของตัวเองครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะกลัวจะทำเขาหลุดมือ
“จีจับน้องได้หรอฮะ”น้องจีเองก็ดูเหมือนจะเป็นผู้ชายคนนึงเหมือนกัน
“ได้ครับแต่จับเบาๆ น้องจีเห็นไหมน้องตัวเล็กมาก ถ้าจับแรงน้องจะเจ็บ”ผมขำออกมานิดๆ น้องจีพยักหน้าเข้าใจรั่วๆแล้วยื่นมือเล็กๆมาจับมือที่เล็กว่าอย่างแผ่วเบาก่อนจะใช้ปลายนิ้มมือบีบนิ้วเล็กนั้นไล่ไปทีละนิ้วเล่นอย่างเพลิดเพลิน
“เป็นไงครับ”ผมถามน้องจีที่ดูจะเผลิดเพลินกับการสัมผัสผิวนุ่มๆนั้นเป็นอย่างมาก
“นิ่มดี”เจ้าตัวตอบไม่ใส่ใจผมเท่าไหร่นัก ก่อนจะเลื่อนมือไปที่แขนของน้องและเปิดผ้าเพื่อดูเท้า
“น้องน่ารักอันนั้นก็เล็กนิดเดียว”น้องจีใช้ปลายนิ้วก้อยโชว์ให้ดูเพื่ออธิบายว่า ไอ้นั้น หรือก็คืออวัยวะเพศที่มีขนาดเล็กตามอายุของน้องทีนั้นเล็กจริงๆ
“ทำอย่างกับของตัวเองใหญ่นัก”และพ่อผมก็เดินเข้ามาขยี้ผมน้องจีอย่างหมั่นเขี้ยว เพราะผมอุ้มไว้นานแล้วเลยรู้สึกเจ็บแผลที่หน้าท้อ แม่ผมจึงอุ้มแทนและพาไปนั่งทีโซฟากำลังมองหลานอยู่กับพ่อโดยมีน้องจีที่ตามติดน้องไม่ห่าง
ส่วนพี่ทอสที่เอาแต่ถ่ายรูปไม่ยอมจับลูกเลยนั้นก็ทำหน้าเสียดายทันทีที่พยาบาลเดินมารับตัวน้องทีไปผักผ่อนและให้นม
“พ่อฮะน้องตัวห๊อมหอม เหมือนกันต์เลย”เมื่อปีนขึ้นมาบนตักพ่อก็เริ่มอธิบายประสบการณ์ที่คนเป็นพ่อไม่ได้สัมผัส
“...”พี่อทสทำหน้าเสียดายหนักกว่าเดิมก่อนจะกดเลื่อนดูรูปน้องทีที่แอบถ่ายไว้นับร้อยผ่านมือถือ
“น้องทีมานอนกับแม่มา”ผมเรียกให้น้องจีขึ้นมานอนกับผมเพราะเจ้าตัวเล่นวิ่งวุ่นอยู่กับน้องทั้งวันจนไม่ได้นอนกลางวันตอนนี้เกือบทุ่มหนึ่งแล้วน้องจีเลยนั่งเหมือนตาจะปิด
“น้องจี รักน้องไหม”ผมถามพร้อมห่มผ้าให้ลูกชายคนโต
“รักมากกกกกกกกก”ลากเสียงยาวจนดูหน้าหมั่นไส้แต่ผมก็อดยิ้มไม่ได้
“หนูเป็นพี่แล้ว ต้องดูแลน้องดีๆรู้ไหม และต้องรักน้องให้มาก ปกป้องน้องด้วย”ผมว่าพร้อมลูบหัวน้องจีไปด้วย น้องจีไม่ตอบแต่พยักหน้าเข้าใจคงเพราะเริ่มง่วงเต็มที หลังจากนั้นไม่ถึง2นาทีก็หลับสนิทอาจจะเพราะเหนื่อยมากทั้งวัน
“แม่รักลูกนะครับ”ผมจูบที่ผมนิ่มๆแล้วหลับตามบ้าง
อีกด้าน คุณพ่อลูก2นั่งมองภรรยาและลูกชายคนโตที่หลับข้างกันบนเตียงคนไข้มานานร่วมชั่วโมง เขาไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายที่ได้ชื่อว่าแม่ของลูกเขาจะทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ ถ้าหากรู้อนาคตเขาคงลงมือจีบตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยและถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันเขาก็คงไม่แคร์ ร่างสูงยืดตัวตรงก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากบางเข้าที่หน้าผ้ามนของลูกชายและผู้เป็นแม่ก่อนกระซิบถ่อยคำหวานแผ่วเบา
“พ่อรักลูกและแม่ของลูกมากนะ”
อีกด้านหนึ่ง
ภาพถ่ายหลานชายคนใหม่ที่กำลังนอนอยู่ในตู้อบถูกส่งมาตั้งแต่เย็นของเมื่อวานเพื่อรายงานตามคำที่สั่งไว้ รายละเอียดต่างๆที่พอจะมีได้นั้นระบุว่าหลายชายของเขาคลอดก่อนกำหนดทำให้ต้องอยู่ในตู้อบ ความรู้สึกกังวลที่หน้าแปลกประหลาดเกิดขึ้นในอกอย่างหาคำอธิบายไม่ได้
“น่าเกลียดน่าชัง”ผู้เป็นภรรยาพูดขึ้นอย่างลืมตัวด้วยรอยยิ้ม หลานของเธอตัวขาวและผมหนาเหมือนกับพ่อไม่มีผิดความรู้สึกปราบปลื้มเกิดขึ้นในอกแต่เมื่อเงยหน้าสบสายตากับผู้เป็นสามีก็ต้องชะงัก
“โทรไปหาไอ้ทิน”ก่อนจะเอ่ยสั่งให้โทรหาลูกชายคนโตที่ตัวเองไหว้วานให้ไปจัดการกับลูกชายคนเล็ก แต่กลับเงียบหายเข้ากลีบเมฆแม้แต่คนของเขาก็หาตัวไม่เจอ แต่โชคดีที่ยังติดต่อได้แต่ก็แค่ผ่านเสียงเท่านั้น
_________________________________________
หญิงวัยกลางคนลงจากรถหรูอย่างสง่างามตามแบบฉบับคุณหญิงพันล้าน ที่หน้าโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเสื้อผ้าสีฉุดฉาดเข้ากับเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่ใส่โชว์คนทั้งโลก เดินทอดน่องไปยังจุดหมายปลายมาทางที่เธอต้องการ
ห้องของภรรยาลูกชายที่กำลังพักฟื้นหลังคลอดอยู่
วันนี้แหละที่หล่อนตั้งใจจะมาเริ่มสะสางทุกอย่าง
ด้วยความมีมารยาทตามที่ถูกอบรมมาตั้งแต่เกิดเธอจึงเลือกที่จะเคาะประตูก่อนเดินเข้าไป
“เชิญครับ”เสียงใสจากอีกฝากของประร้องบอกเชิงอนุญาต
เมื่อบานประตูเปิดออกคุณแม่ลูกอ่อนก็ถึงกับผงะเมื่อคนที่กำลังเดินเข้ามานั้นคือแม่ของสามีเขา
“สวัสดี ฉันคงไม่ต้องแนะนำตัวใช่ไหม”น้ำเสียงเล็กเอ่ยบอกตามปกติแบบฉบับผู้ถือ พร้อมสายตาที่จ้องมองลูกสะใภ้บนเตียงอย่างไม่วางตา
TBC
มาอย่างไวอ่ะ