ตอนที่22
หลังจากที่หนีพ่อแม่พี่ทอสขึ้นมาพี่ทอสก็ลากผมเข้ามาในห้องนอนทันที
“ไม่เป็นไรนะครับ”ผมนั่งลงข้างๆพี่ทอสบนเตียง พี่ทอสเงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่งๆก่อนจะยกตัวผมขึ้นและเปลี่ยนให้นั่งหว่างขาของพี่ทอสแทน โดยที่ลำแขนยาวจะโอบรัดรอบตัวผมอีกครั้ง พร้อมๆกับใบหน้าที่ซบลงที่ซอกคอ และสัมผัสเปียกชื่นก็ตามมาในเวลาไม่นาน
“พี่ทอส”ผมยกมือขึ้นกุมมือที่โอบรัดเอวผมพร้อมบีบๆเบาเพื่อให้เขารู้ว่าผมยังอยู่ตรงนี้ ถึงเมื่อกี้จะเข้มแข็งแค่ไหน แต่ก็คงไม่มีคนดีๆที่ไหนทะเลอะกับพ่อแม่และสบายใจหรอก จริงไหม
“ทำไม ทำไมถึงไม่เกิดมาเป็นลูกของคนอื่น จะจนก็ได้ จะไม่มีอะไรก็ได้ ขอแค่พ่อแม่ที่เหมือนคนอื่น”พี่ทอสพยายามพูดเสียงนิ่งๆแต่ผมก็ยังรู้สึกถึงเสียงสั้นๆได้
“ตั้งแต่เด็ก ไม่ซิ ตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยจะกอดเลยสักครั้ง”พี่ทอสพูดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดผมมากขึ้น เพื่อตอกย้ำว่าเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้จริงๆ
“หน้าขำไหม ทั้งๆที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง ไม่มีของอะไรที่เคยอยากได้แล้วไม่เคยได้เลยสักครั้ง ยกเว้นเรื่องนี้ พ่อแม่ที่รัก แค่เรื่องนี้ที่ต่อให้อธิฐานแค่ไหน ก็ไม่เคยเป็นจริง”น้ำเสียงของพี่ทอสฟังดูเจ็บปวดไม่น้อย
ผมไม่เคยคิดเลยว่าท่าทางเย็นชา และดูเหมือนไร้หัวใจ จะได้มากจากคนที่ควรจะรักเขามากกว่าใครทั้งหมดบนโลก
“ชีวิตเกิดมาเหมือนลูกไก่ในมือ จะตายจะอยู่ก็ขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด ไม่เคยถามสักครั้งว่าต้องการอะไร ทุกวันที่กลับมาจากโรงเรียนก็ต้องเจอกับบ้านหลังใหญ่ที่เหมือนเอาคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วยกัน วันทั้งวัน แทบไม่มีประโยคพูดคุย ทุกครั้งที่ได้ของใช้ดีๆหรือของแพงๆ เพื่อนที่โรงเรียนก็ต่างพากันบอกว่า โชคดี และอยากเกิดเป็นลูกบ้านนี้ หึ แต่พี่กลับคิดว่าเขาตังหากที่โชคดี ถึงจะเรียนไม่เก่งถึงจะทำอะไรไม่เคยได้เรื่อง พ่อกับแม่ก็ทำแค่หัวเราะหรือไม่ก็แกล้งทำเสียงดังใส่ แต่ไม่เคยว่าอะไรจริงจังเลยสักครั้ง ผิดกับพี่แค่สอบได้ที่สองครั้งเดียว ก็ถูกว่าว่า คนอย่างแกไม่สมควรเกิดมา ส่วนแม่ก็ทำแค่ยืนมองนิ่งๆ แค่มองเท่านั้น เขาทำแค่นั้นจริงๆ”ผมเผลอบีบมือพี่ทอสแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัวจะมีอะไรหน้ากลัวไปกว่าการกับมาบ้านแล้วเจอคนในครอบครัว ไม่สนใจราวกับเป็นคนแปลกหน้า ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาที่เราต้องการใครสักคนปกป้อง แต่เขากับทำแค่ยืนมองเฉยๆ
“แต่ก็ไม่เคยโกรธ เพราะทุกครั้งที่ปิดเทอม คุณปู่คุณย่าจะมารับไปอยู่ด้วย ทุกวันนี้ยังจำได้ ทุกครั้งที่ย่าเห็นหน้าพี่ก็จะร้องไห้ออกมาพร้อมกับคำขอโทษที่พูดมาไม่ขาดสาย ขอโทษที่เลี้ยงพ่อของพี่ให้ไร้หัวใจ ขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเจอสภาพครอบครัวแบบนี้ พอเรียนจบก็เข้ามาบริหารโรงแรม แต่แค่3เดือนที่ผลกำไรน้อยลงเขาก็เอาโรงแรมที่ปู่เป็นคนก่อตั้งมาขายทอดตลาด โชคดีที่คุณปู่คุณย่าทิ้งเงินไว้มากพอที่จะซื้อมาในชื่อของพี่ บางครั้งพี่ก็กลัว กลัวว่าจะเหมือนคนๆนั้นจริงๆ กลัวว่าจะทำให้ลูกต้องมีชะตาชีวิตที่เหมือนกับพี่”
“พี่ทอสไม่เหมือน และน้องจีจะไม่มีวันรู้สึกแบบนั้น พี่รู้ไหมตั้งแต่ที่น้องจีมีพี่ ลูกไม่เคยนั่งเมอ ไม่เคยแม้กระทั่งฝันร้าย เพราะชีวิตจริงน้องจีมีความสุข จนในฝันก็มีแต่ความสุขไม่ต่างกัน”ผมรีบชิงพูดก่อนจะเบี่ยงตัวหันไปมองหน้าพี่ทอสที่ตอนนี้มีเพียงแค่ดวงตาที่แดงก่ำ
“พี่ไม่เหมือน และทุกวันจนตอนนี้พี่พิสูจน์แล้ว มาพี่จะไม่มีวันเหมือน และน้องจี รวมทั้งน้องของเขาจะไม่มีวันทุกข์เพราะไม่ได้รับความรักจากพี่ เชื่อผมนะ เพราะผมจะอยู่ข้างๆพี่ เพื่อตอกย้ำเรื่องนี้ให้พี่ฟังตลอดไป”ผมพูดจบก็เงยหน้าขึ้นจูบพี่ทอสและในทันทีแขนที่โอบรอบเอวของผมก็แปลเปลี่ยนมาจับยึดที่ท้ายทอย ก่อนที่ผมจะใช้ทั้งหัวใจและร่างกายยืนยัน ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือแม้กระทั่งผมต้องตาย ผมจะไม่มีวันเลิกรักผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
พอตกเย็นผมก็ลงมาเตรียมอาหารเย็น
“เดินไหวหรอ”คำพูดที่ทั้งห่วงและล้อเรียนถามผมในขนาดที่ผมกำลังพาร่างกายที่เอ่อ นั้นแหละครับ เดินลงมาทำอาหาร
“แม่ฮะ!”ยังไม่ทันได้หันกลับไปต่อว่าคนถามไถ่ น้องจีที่เพิ่งตื่นนอนก็วิ่งมาหาผมในสภาพผมยุ่งจนหน้าขำ
“อ๊ะ”เพราะน้องจีวิ่งเข้าใส่เต็มแรงเหมือนทุกครั้งและตัวผมที่เพิ่งผ่านศึกบนเตียงมานั้นร่างกายก็เลยยังไม่พร้อม จนเซเกือบล้ม โชคดีที่พี่ทอสมายืนอยู่ด้านหลังจึงรับผมไว้ได้ทัน จากนั้นก็ย่อตัวอุ้มน้องจีขึ้น
“แม่เป็นไรฮะ”น้องจีถามทำหน้ายุ่ง
“เอ่อ”จะให้ตอบลูกชายว่าไงดีครับ
“คุณแม่มีน้อง อยู่ในนี้ ถ้าลูกวิ่งชนแบบเมื่อกี้ น้องจะเจ็บนะรู้ไหม”พี่ทอสตอบพร้อมกับชี้มาที่พุงของผม
“น้องๆๆๆๆ เย่เย้ น้องจีจะมีน้อง”น้องจีตบมือพร้อมกรี๊ดเสียงแหลมอย่างดีใจ เล่นเอาผมตกใจเลยครับ
“แล้วทำไมน้องอยู่ในนั้น”น้องจีหยุดเสียงร้องกะทันหันเหมือนเพิ่งคิดขึ้นได้
“เอ่อ น้องยังไม่โตครับ เลยต้องอยู่ในนี้ ให้น้องโตก่อนน้องจะได้ออกมาเหมือนน้องจีไง”ผมรีบอธิบาย
“จีเคยอยู่ในนี้หรอ”น้องจีชี้มาที่พุงของผม
“ครับ อยู่นานด้วย”ผมตอบขำๆพี่ทอสเองก็เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว ได้ข่าวว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงยังนั่งตาแดงอยู่เลย
“แล้วน้องจีเข้าไปได้ยังไง น้องจีอยากเข้าไปอีกแม่ จีจะเล่นกับน้อง”พอน้องจีพูดประโยคนี้ พี่ทอสก็หัวเราะเบาๆขึ้นมาเลยครับ ส่วนผมหรอครับ อายจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
“น้องจี แม่ว่าเราออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า วันนี้แม่จะพาไปกินข้าวข้างนอก”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วยืนมือไปรับน้องจีมาอุ้มแทน
“พ่อล่ะฮะ”น้องจีหันมาถามทันทีที่ผมเดินลงบันได้มาได้
“ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ต้องกิน!”ผมว่าเสียงกระแทกแล้วเดินลงมาด้านล่าง ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ผมก็ดีใจที่พี่ทอสกลับมายิ้มได้อีกครั้ง การที่พ่อแม่ลูกทะเลอะกัน มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ผมหมั่นใจว่ามันจะต้องดีขึ้นกว่านี้ในวันข้างหน้า เพียงแค่ให้ใครสักคนรู้จักรัก เพื่อที่เขาจะได้แบ่งปันความรักไปให้อีกคนที่ไม่เคยรัก ไม่ใช่ให้คนที่ไม่เคยมีรักทั้งสองคนมารักกัน เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรกับสอนหมูให้บินเป็น
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ ผมไม่ได้เจอพ่อแม่พี่ทอสอีกเลย ได้ข่าวว่า บินกลับอังกฤษไปเพราะมีธุระด่วน แต่ก็ไม่วายทิ้งจดหมาย ที่จ่าหน้าซองถึงผม พร้อมเช็คราคาหลายสิบล้าน พร้อมประโยคสั้นๆว่า ถ้ายอมออกไปจากพี่ทอส เช็คใบนี้จะสามารถขึ้นเงินได้ทันที เรื่องนี้ผมไม่ได้บอกพี่ทอสหรอกครับ เพราะแค่นี้พี่ทอสคงเหนื่อยมาก ผมไปที่โรงแรม เลขาพี่ทอสเล่าให้ฟังว่า จู่ๆโรงแรมที่เหมือนเป็นโรงแรมแม่ที่อังกฤษ ก็ถอดรายชื่อโรงแรมนี้ออกจากเครือ ทำให้ผู้ที่กำลังถือหุ้นและกำลังจะลงทุนพากันถอนการลงทุ่นและขายหุ้นคืนเกือบทั้งหมด ทำให้พี่ทอสต้องขายโรงแรมที่เพิ่งเปิดที่ภูเก็ตเพื่อเอาเงินมาซื้อหุ้นเอง และโครงการใหม่ที่กระบี่ ก็ต้องหยุดชะงักอย่างไม่มีกำหนดการ
ตอนนี้พี่ทอสจึงทำงานอาทิตย์ละเจ็ดวัน เพื่อสร้างความเชื่อหมั่นและเสนอโครงการให้กับผู้สนใจลงทุนแทบทั้งอาทิตย์ จนน้องจีเริ่มบ่นเหงา แต่พอบอกว่าคุณพ่อทำงาน เจ้าตัวก็พยักหน้าเข้าใจ แต่ก็มาตามเฝ้าคุณพ่อที่ทำงานทุกวัน จนพนักงานทั้งหมดต่างพากันรู้จัก แรกๆผมก็คิดว่าอาจจะถูกนิทาเรื่องที่ผมเป็นผู้ชายแล้วมีลูกได้ จนเกิดเรื่องซะอีก แต่ทุกคนกลับนิ่งจนผิดปกติ ไม่มีใครสงสัยหรือถามเลยสักคนว่าผมคลอดน้องจีออกมาจริงๆหรอ
“คุณพ่อเมื่อไหร่จะมา”ตอนนี้ผมนั่งรอพี่ทอสเพื่อจะกลับบ้านกันที่ห้องทำงานของพี่ทอสที่อยู่ชั้น3ของตัวโรงแรม ชั้นนี้ทั้งชั้นถูกทำเป็นออฟฟิตไม่ต่างอะไรกับชั้นที่สอง วันนี้พี่ทอสบอกจะพาไปซื้อของเข้าบ้านด้วยพรุ่งนี้เป็นวันพุธและเป็นวันแรกที่พี่ทอสหยุดและตั้งใจจะอยู่เล่นกับน้องจีทั้งวัน
“น้องจีกินนมก่อนมา เดี๋ยวคุณพ่อก็มาครับ”ผมบอกลูกพร้อมกับรื้อหาขวดนมน้องจีในกระเป๋าก่อนจะหยิบขึ้นมาส่งให้ น้องจีเดินมารับอย่างว่าง่ายดูดไม่กี่ทีก็กัดจุกนมเล่น
“น้องจี อย่ากัดครับ”ผมว่าก่อนจะเดินไปแย่งขวดนมออกจากปาก แต่น้องจีกลับส่ายหัวแล้ววิ่งหนี ผมก็เลยได้แต่ถอนหายใจ พักนี้น้องจีแทบไม่ฟังผมเลย ฟังแต่พี่ทอสจนผมเริ่มอ่อนใจแล้ว
“พ่อฮะ”น้องจีวิ่งเข่าไปหาหาพี่ทอสทันทีที่พี่ทอสเปิดประตูเข้ามา
“อุก!”ถึงจะแค่เบาๆแต่ผมก็ได้ยินเสียงร้องพี่ทอส เพราะน้องจีวิ่งเข้าใส่เต็มแรก เรียกได้ว่าคนตัวใหญ่อย่างพี่ทอสถึงกับเซอะครับ
“น้องจี”ผมรีบเดินเข้าไปดูพี่ทอส หน้าตาดูเหนื่อยๆเหมือนเคย
“เหนื่อยไหมครับ”ผมถามพร้อมกับจัดปกเสื้อพี่ทอสไปด้วย
“นิดหน่อย”พี่ทอสว่าก่อนจะก้มลงมาจูบแก้มผมเบาๆ
“หอมจีด้วย”น้องจีโวยวายขึ้นทันที ที่เห็นจนพี่ทอสต้องก้มลงไปอุ้มน้องจีขึ้นมาพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่สองครั้งเจ้าตัวถึงกับยิ้มหน้าบานจากนั้นก็โผล่เข้าหาผม
“น้องจีหิวแล้ว ไปกันน๊า”น้องจีโยกตัวไปมาเชิงเร่งให้รีบไปซื้อของกัน
“ครับๆ”ผมตอบรับและเดินตามพี่ทอสออกมาจากห้องทำงาน
ไม่นานพวกเราก็มาถึงห้าง พี่ทอสยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่กลางวันเพราะประชุมตั้งแต่10โมงจนบ่ายสาม ผมเลยตัดสินใจว่าเราควรจะหาอะไรกินก่อนหลังจากนั้นก็ค่อยไปซื้อของกัน
“น้องจีอยากกินอะไรครับ”ผมก้มลงถามน้องจีที่ตอนนี้มีผมกับพี่ทอสจับมือเดินคนละข้าง
“แล้วน้องจะกินอะไรฮะ”น้องจีทำหน้ายุ่งพร้อมมองมาที่ท้องผม
“น้องอยากกินสุกี้”ผมบอกแต่ที่จริงคือผมอยากกินอะไรร้อนๆมากกว่าช่วงนี้อาการแพ้ท้องเริ่มมีมา ทำให้ผมพะอืดพะอมบ่อยๆเลยอยากกินอะไรร้อนๆ
“งั้นจีตามใจน้องที”น้องจีตั้งชื่อน้องว่าน้องทีพอถามก็บอกว่าชื่อเหมือนพ่อทอส สรุปก็คือน้องจีเอาพยัญชนะตัวแรกของชื่อพี่ทอสในภาษาอังกฤษมาตั้งชื่อน้อง เพราะเขียนง่ายและชื่อเหมือนพ่อของตัวเอง ถึงจะไม่รู้ว่าน้องที จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เถอะ ผมก็แอบตกใจไม่น้อยที่น้องจีเริ่มรู้จักคิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆได้มากทั้งๆที่ไม่ได้ไปโรงเรียน ตอนนี้น้องจีท่องก-ฮได้แล้ว แล้วก็ท่องa-zได้ด้วย นับว่าเป็นพัฒนาการที่ดีจนคุณหมอนนต์และน้องเชนยังชม ต้องขอบคุณครูสอนพิเศษ ส่วนตัวอย่างน้องกันต์นะครับ
TBC.
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
สั้นไปนิดขออภัย
เพราะตอนหน้าจัดเต็มชามอีก
จบเรื่องอีพี่ทอสกับน้องเอฟ แล้วไปต่อที่น้องจีกับน้องกันต์ดีไหม หืม? เรตติ้งดีจริงอะไรจริง