Short Story: ฟ้าไร้เมฆ : ตอนที่ 3 Date: 13/11/2014 (จบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Short Story: ฟ้าไร้เมฆ : ตอนที่ 3 Date: 13/11/2014 (จบ)  (อ่าน 12305 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เป็นเรื่องสั้นไม่ใช่เรื่องยาวนะคะ ไม่เกินสิบตอนก็จบค่า
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2014 01:43:56 โดย Snufflehp »

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #1 เมื่อ11-11-2014 09:22:18 »

Short Story: ตอนที่ 1

เสียงกรีดร้องที่บ่งบอกถึงความทรมานของมนุษย์จะสามารถดังไปถึงสวรรค์หรือไม่ แล้วถ้าหากควักหัวใจที่มีแต่ความโสมมออกมา...จะเจือจางความโกรธแค้นชิงชังที่มีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจได้หรือเปล่า... มันยังคงเป็นคำถามที่เขาเฝ้าสงสัย

“พระเจ้า...ได้โปรด...ช่วยลูกด้วย ได้โปรด...” เสียงแหบพร่าที่น่าสะอิดสะเอียนของมันกำลังวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่คนชั่วช้า...จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ... คำร้องขอของมันน่ะ...เปล่าประโยชน์

เพราะที่นี่...ในตึกร้างที่ปราศจากผู้คน สกปรกโสโครกไม่แพ้จิตใจของมัน...มีแต่เขาเท่านั้นที่จะประกาศคำพิพากษา...มีแต่เขาเท่านั้นที่จะตัดสินว่ามัน...ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือตายลงที่นี่

พลันรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า แล้วคำพิพากษาเพียงบทเดียวของซาตานก็ปลิดชีวิตของชายนิรนามลงอย่างเชื่องช้า มีดแหลมคมเล่มยาวในมือขาวซีดถูกกรีดลึกลงบนต้นคอของเหยื่อ กดย้ำให้เลือดสีแดงฉานไหลทะลึก เสียงกรีดร้องโหยหวนหายไปพร้อมกับที่เจ้าของร่างทิ้งกายลงกับพื้น ชักกระตุกเพียงไม่กี่ครั้งก็หมดลม

เขาคลี่ยิ้ม ใช้แก้วทรงสูงรองเลือดที่ไหลจากต้นคอของมัน ก่อนจะชูขึ้นเหนือหัว ให้พระจันทร์ที่มองเห็นจากหน้าต่างผุพังเป็นพยานว่าวันนี้ ที่นี่... เขาได้กำจัดปีศาจในคราบมนุษย์ไปอีกตน

“แด่เวลา...อันเป็นนิรันดร์”

แก้วทรงสูงที่บรรจุของเหลวสีแดงถูกชูขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเทรดลงบนใบหน้าของร่างไร้วิญญาณที่ยังคงเบิกตาโพลงท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องลอดเข้ามา

สายลมโชยอ่อนทำให้กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เป็นกลิ่นที่เขาโปรดปรานยิ่งนัก เขาสูดลมหายใจเล็กน้อยเช็ดมีดด้วยผ้าสีขาวสะอาด แล้วหันหลังเดินจากมา ทิ้งศพของชายผู้น่าสงสารไว้เบื้องหลัง...

.
.
.

“วันนี้...เหมือนเดิมไหมครับคุณสารวัตร ^^”

“อืม ขอเหมือนเดิม”

แค่เห็นรอยยิ้มของเขา ผมก็รู้แล้วว่าเหมือนเดิมที่เขาชอบสั่งประจำคือเมนูไหน และหนึ่งในเมนูที่เขาชอบก็คือ...จูบของผม

“อยากชิมมากกว่านี้...ได้ไหม” เขามักจะถามแบบนี้หลังจากที่เราจูบกันโดยที่ผมยกเมนูขึ้นบังไว้เพื่อกันไม่ให้ลูกค้าโต๊ะอื่นเห็น แม้ว่ามุมที่เขาชอบนั่งจะเป็นมุมค่อนข้างส่วนตัวเพราะมีตู้หนังสือคั่นไว้แยกจากโต๊ะอื่นๆ ในร้านก็ตามที

“งั้นคืนนี้ก็มาที่ห้องผมสิครับ”

“ได้เหรอ”

“ได้ คืนนี้ผมจะปิดร้านให้เร็วหน่อย ดีไหมครับ”

“อืม งั้นผมจะรอ เราจะได้กลับห้องพร้อมกัน”

“ตกลงครับ”

ดีใจจัง...ผมรอให้เขาว่างมานานแล้ว เพราะแฟนผมที่เพิ่งคบกันเมื่อหนึ่งเดือนก่อนคนนี้ค่อนข้างยุ่ง เขาเป็นตำรวจอยู่ สน. ใกล้ๆ ร้านกาแฟของผม เป็นลูกค้าที่ค่อนข้างโดดเด่นแต่ก็ไม่ใช่ขาประจำ บ่อยครั้งที่ลูกน้องของเขาจะเป็นคนมาซื้อกาแฟให้ นานๆ ทีเขาถึงจะมานั่งที่ร้าน แต่ไอ้นานๆ ทีนั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมแอบสนใจเขาอยู่เหมือนกัน

“เม ผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลย ขอข้าวไข่เจียวสักจานก็ดีนะครับ”

“เกือบบ่ายโมงแล้ว ทำไมคุณยังไม่กินอะไรอีก ไม่ดูแลตัวเองอย่างนี้ ผมเป็นห่วงนะครับ”

“ผมไปธุระเสร็จก็แวะมาหาคุณ ก็เลย...”

“ธุระเรื่องคดีนั้นน่ะเหรอ”

“อืม”

“ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้อีกเหรอครับ”

“ยัง...แต่อีกไม่นานก็คงเจอ และผมก็หวังว่าจะเจอก่อนที่จะมีผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มขึ้น”

“ผมเอาใจช่วยนะครับ แต่ยังไงก็อย่าหักโหมมากนะ ดูแลตัวเองด้วย”

เขาตามคดีนี้มาได้เดือนกว่าๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้า...

“ครับ”

มันคงจะดีนะครับ...ถ้าคดีที่เขาตามอยู่มันจบลงซะที เพราะเขาจะได้มีเวลาให้ผม...เวลา...ที่พวกเราจะอยู่ด้วยกันสองคนอย่างมีความสุข

เวลา...อันเป็นนิรันดร์ของเรา

.
.
.

“ฟราน... ฟราน...” แค่เรียกชื่อก็รู้สึกถึงตัวตนของเขา ยิ่งกอดรัดไว้แน่นก็ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นจนแทบทนไม่ไหว ผมกำลังถูกหลอมละลายด้วยความร้อนจากแรงอารมณ์ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราเติมเต็มให้กัน...แต่มันก็ไม่เคยรู้สึกถึงคำว่าพอ

“เหงื่อท่วมเลย ผมอุ้มไปอาบน้ำนะ”

ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะชักนำผมไปทางไหน ผมก็พร้อมจะไปทั้งนั้น ฟรานตัวสูงกว่าผม ตามลำตัวเต็มไปด้วยมัดกล้าม นั่นทำให้เขาอุ้มผมไปที่ห้องน้ำได้สบาย และแม้ว่าในขณะที่กำลังเดิน ตัวตนของเขาก็ยังเต้นตุบๆ อยู่ในช่องทางด้านหลังของผมอยู่อย่างนั้น มันทำให้ผมต้องกอดรัดตัวเขาแน่นขึ้นเพื่อลดความรู้สึกที่กำลังคลั่งเพราะต้องการเขา

ฟรานวางผมลงในอ่างอาบน้ำ ก่อนที่ตัวเขาจะตามลงมานั่งซ้อนข้างหลัง เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อผมเอนหลังไปพิงกับแผ่นอกเขา แล้วจับมือเขามาคลึงเล่นอยู่ที่ยอดอกของตัวเอง

“เม” เขาเรียกชื่อผมเบาๆ ในขณะที่ริมฝีปากก็ซุกไซ้ไปตามแผ่นหลัง ลิ้นร้อนของเขาลากเลียอยู่บริเวณที่ผมจำได้ดีว่ามันเป็นรอยสัก

“ผมไม่ชอบรอยสักนี้เลย” ฟรานไม่เคยชอบรอยสักรูปเทวทูตปีกหักของผม เขาบอกว่ามันให้ความรู้สึกไม่ดี แต่ผมก็ไม่ได้ไปลบออกตามใจเขา เพราะมัน...เป็นความชอบส่วนตัว

“ผมรู้ แต่ผมก็บอกคุณแล้วว่าต่อให้คุณไม่ชอบยังไง...ผมก็จะไม่ลบมัน”

“เมไม่ตามใจผมเลย”

“ก็ถ้าผมไม่ตามใจ...จะทำยังไงกับผมล่ะคุณสารวัตร”

“ก็...”

ผมรู้อยู่แล้วว่าเขาจะทำยังไง...แต่เกมนี้ ผมขอควบคุมมันเองดีกว่า

“อึดอัดจัง” ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ขึ้นนั่งตักของเขาแล้วครอบครองสิ่งอันตรายไว้ในตัวอย่างนี้ แม้ฟรานจะมีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนเหมือนผม แต่เขาก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว

“อดทนอยู่เหรอฟราน... ถ้าผมรัดแน่นอย่างนี้ อยากรู้จังว่าฟรานจะทนได้ขนาดไหน”

การไม่ยอมให้เขาขยับและผมยังคงวนสะโพกอยู่อย่างนี้ก็ไม่ได้มีแค่เขาหรอกที่ทรมาน ผมก็ทรมานเหมือนกัน แต่ยิ่งกว่าความทรมานนั้น...กลับรู้สึกดีจนแทบแตะสวรรค์ได้เลยทีเดียว

“เม อย่าทรมานผม...”

คำวิงวอนของเขาทำให้การกระทำของผมหยุดชะงักไปโดยฉับพลัน

สีหน้าแบบนี้...น้ำเสียงแบบนี้...มันทำให้ผมรู้สึกดีเป็นบ้า

นั่นแหละฟราน ที่ผมต้องการก็แค่ให้คุณ...วิงวอนต่อผม วิงวอนให้ผมพาคุณไปจนสุดปลายทางของสวรรค์

สวรรค์...ที่ไม่มีเทวทูต

มีแต่เพียงผมเท่านั้น...ที่จะกำหนดความเป็นไป

“ที่รัก...ได้โปรด”

ผมยิ้มให้กับเขาก่อนจะเริ่มขยับตัวขึ้นลงในขณะที่เขากระแทกกายสวนขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง ความสุขปนใคร่หมุนวนอยู่ระหว่างเรา แต่ถึงอย่างนั้น...ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ เพราะมันก็แค่ความสุขสมที่เรือนร่างของเราสองคนต่างก็มอบให้กันได้...

เนิ่นนานกว่ากิจกรรมรักของผมกับเขาจะจบลง ฟรานดูพออกพอใจเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่มีทีท่าเพลียเลยสักนิด กลับเป็นผมเองที่แทบไม่มีแรงเดิน จนต้องให้เขาอุ้มมานอนที่เตียง

“พรุ่งนี้ผมว่าง เราไปเที่ยวกันดีไหม คุณปิดร้านสักหนึ่งวันนะเม”

“ได้ ว่าแต่คุณจะไปที่ไหนล่ะ”

“ผมอยากไป...บ้านของคุณ”

ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้าของฟรานที่นอนอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เพราะบนใบหน้าดูดีนั้นไม่มีรอยยิ้มแม้เพียงนิด

“บ้านของผมไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว”

“ผมแค่อยากไปไหว้พ่อกับแม่ของคุณ แค่อยากแนะนำตัวแล้วบอกพวกท่านว่าเรากำลังคบกันอยู่ ได้หรือเปล่าเม?”

แม้ว่าผมจะไม่เห็นความจำเป็นอะไรในเรื่องนี้ แต่ก็ยังตอบตกลงให้เขาไป คงเป็นตรรกะง่ายๆ ของคนคบกันที่ก็อยากไปรู้จักพ่อแม่ของอีกฝ่าย

“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้เม อยากรู้...ในทุกๆ อย่างที่เป็นคุณ”

แน่นอนว่าความต้องการของเขา ผมไม่คัดค้านอยู่แล้ว ฟรานจะได้ในสิ่งที่เขาร้องขอจากผม จะได้ทุกอย่างที่เขาปรารถนา...
เพื่อแลกกับความเชื่อใจที่ผมจะได้จากเขา...


....................................................To be continue.................................................

 :กอด1: ด้วยรักและห่วงใย

ออฟไลน์ ์NRNAAM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #2 เมื่อ11-11-2014 09:41:10 »

เม้นคนแรก ดีใจจัง  :impress2:

เราว่าเมเป็นคนนั้นแน่เลย  o18

ออฟไลน์ tkaekaa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #3 เมื่อ11-11-2014 10:02:50 »

ว้าวๆๆ เรื่องนี้ต้องเกาะติดมากมาย :katai2-1:

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #4 เมื่อ11-11-2014 10:29:48 »

ลึกลับดีแท้ๆ

ออฟไลน์ Vanillaเปรี้ยว

  • รักเด็กอายุยืนยาว กินเด็กชีวิตเป็นอมตะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #5 เมื่อ11-11-2014 10:32:31 »

ว๊าววววแนวน่าติดตามมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #6 เมื่อ11-11-2014 11:49:19 »

เข้ามาเพราะชื่อคนเขียนเลย แบบเจ็บปวดลึกลับซับซ้อน

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #7 เมื่อ11-11-2014 14:38:53 »

แววมาม่ามาแต่ไกล  :katai1:

แต่เห็นชื่อคนเขียนนี่ไม่คลิกไม่ได้

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #8 เมื่อ11-11-2014 16:09:23 »

เห็นชื่อคนแต่งแล้ว
ว้าวๆๆๆๆๆ
คลิกเข้ามาโดยไว
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :mew1:

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #9 เมื่อ11-11-2014 19:03:26 »

หรือเมจะคือคนนั้น ด้วยคำพูดในความคิดน่ะนะ
แต่ฟรานก็ทำคดีนี้อยู่นี่นา แล้วไงถึงจะปิดคดีได้
เริ่มงงเล็กๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-11-2014 19:03:26 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #10 เมื่อ11-11-2014 19:16:34 »

มาติดตามค่า ><

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: Short Story : ตอนที่ 1 Date: 11/11/2014
«ตอบ #11 เมื่อ11-11-2014 20:54:24 »

ลึกลับน่าค้นหา น่าติดตาม

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: Short Story : ตอนที่ 2 Date: 11/11/2014
«ตอบ #12 เมื่อ11-11-2014 22:34:20 »

เรื่องสั้น : ตอนที่ 2

ครืดดดดดด ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด

ผมเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าเขายังหลับสนิท ถึงได้เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมา แต่เบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ผมต้องหาผ้ามาพันรอบเอวไว้แล้วเดินออกมาที่ระเบียงเพื่อรับสาย

“ว่าไงกันต์ โทรหาพี่มีอะไร”

(จะโทรหาแฟนตัวเอง กันต์ต้องมีธุระอะไรด้วยเหรอเม)

เสียงตัดพ้อของปลายสายทำให้ผมต้องปรับอารมณ์หงุดหงิดที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ใช้พลังงานไปมากโข แค่เพราะคนที่โทรมาคือผู้ชายที่คบกับผมก่อนหน้าที่ผมจะมีฟราน กันต์ยังคงเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เป็นนิสิตปีสาม คณะสหเวชฯ เราคบกันในช่วงที่กันต์มาทำพาร์ทไทม์ที่ร้านของผม เขาเป็นเด็กขยัน และจิตใจดี เป็นคนที่...น่าสนใจไม่แพ้ฟรานเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเด็กกว่าผม แถมในบางครั้งก็ให้ในสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ ตรงกันข้ามกับฟรานที่ให้ผมได้ทุกอย่าง แค่เพียงผมเอ่ยปากขอ

“ก็แค่ถาม เผื่อว่ากันต์จะบอกว่าคิดถึงพี่ ว่าไง คิดถึงไหม”

(คิดถึงครับ คิดถึงมากด้วย อยากเจอเมเร็วๆ แต่กันต์ยังสอบไม่เสร็จเลย ติวกับเพื่อนทุกวันจนสมองจะระเบิดอยู่แล้ว)

“ขนาดนั้นเลยเหรอ หึหึ งั้นถ้าเกรดไม่ดีพี่จะทำโทษ แต่ถ้าดี...พี่ก็มีรางวัลจะให้”

(กันต์อยากได้รางวัล แต่ก็ขี้เกียจอ่านแล้ว อยากเจอเม อยากอยู่กับเม อยากกอด อยาก...)

“เด็กทะลึ่ง”

(ใครกันแน่ที่ทะลึ่ง เจอทีไร...เมไม่ยอมปล่อยให้กันต์นอนเลย)

“ก็อยากน่ากินทำไมล่ะ”

(โอ้ยย ยิ่งพูดอย่างนี้ก็ยิ่งอยากเจอ งั้นเย็นนี้กันต์ไปหาได้ไหม แป๊บเดียวนะ จะแวะไปหาเมก่อนไปติวหนังสือกับเพื่อน)

เย็นนี้เหรอ... เย็นนี้ผมคงยังไม่กลับ เพราะวันนี้สัญญากับฟรานแล้วว่าจะพาเขาไปที่บ้าน

“ไม่ได้หรอก พี่มีธุระ ไว้เจอกันวันเสาร์ดีไหม...จะอยู่ด้วยทั้งคืนเลย”

(เอางั้นก็ได้ งั้นแค่นี้นะครับเม กันต์ต้องไปมอแล้ว)

“โอเค”

(รักเมนะครับ)

“อืม”

ผมวางสายจากกันต์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีสวยในยามเช้าตรู่แบบนี้ แต่เสียงเลื่อนบานกระจกที่ดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้ต้องหันกลับไปมอง ฟรานที่สวมแค่บ็อกเซอร์เพียงตัวเดียวกำลังเดินหน้าง่วงเข้ามาหา

“ตื่นนานรึยัง”

“อืม สักพักแล้ว”

“เมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใคร”

คำถามของฟรานทำให้ผมคลี่ยิ้มแล้วขยับเข้าไปใกล้ตัวเขา ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบรอบต้นคอเขาไว้

“ต้องรายงานด้วยเหรอว่าคุยกับใคร”

“ไม่ใช่การรายงาน แต่เป็นการตอบคำถาม”

“ไม่ตอบได้ไหม”

“เหตุผล?”

“ไม่มี”

“เอาแต่ใจว่ะ” ฟรานดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่ออีก

ผมไม่ชอบโกหก แต่ก็ไม่ชอบพูดความจริงเช่นกัน เพราะฉะนั้นผมถึงเลือกที่จะไม่ตอบ ผมยังไม่ต้องการให้ทุกอย่างพัง ฟรานยังมีประโยชน์กับผม และกันต์ก็ยังให้ความสุขกับผมได้ ผมจึงไม่อยากปล่อยใครไป

มันน่ารังเกียจ...ในสายตาคนอื่น ผมรู้ดี แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่ได้คิดว่ามันผิดอะไร ผมแค่ทำตามสิ่งที่ผมต้องการเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรผิดเลย... คนที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่างน่ะ ไม่มีวันเข้าใจผมหรอก

สำหรับเด็กที่ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่คลอดผมออกมา แล้วต้องถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ได้รับโอกาสเรียนก็แค่ถึงตอนจบมัธยมปลาย หลังจากนั้นก็ต้องออกมาหางานทำ หาห้องเช่าอยู่เอง ในแต่ละวันต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อให้มีชีวิตรอด เงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผมมากในตอนนั้น และเพื่อมัน...ผมถึงต้องทำทุกวิถีทาง...แม้กระทั่งขายเรือนร่างของตัวเอง

ผู้ชายคนแรกที่ซื้อผม...เป็นชายวัยกลางคนที่ชอบใช้ความรุนแรง คนต่อมาเป็นผู้หญิงโสดอายุเฉียดเลขสี่ที่ชอบมัดผมไว้กับเตียงแล้วข่วนตัวผมทุกครั้งเวลาเธอถึงสวรรค์ ผมจำได้แค่นั้น...เพราะเป็นความทรงจำที่น่าสะอิดสะเอียน ผมขายความสุขเพื่อแลกกับเงินอยู่ไม่กี่เดือน ก็มีคนที่จะเลี้ยงผม หากว่าผมมอบความสุขให้เขาได้อย่างที่เขาต้องการ ผมอยู่กับคนๆ นั้น...ทุกวันที่เหมือนอยู่ในขุมนรก อดทนกับความป่าเถื่อนเพื่อแลกกับเงินที่จะสร้างความฝันของผม ความฝันที่อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง...

จนเมื่อความฝันของผมเป็นจริง ไอ้ปีศาจนั่น...ก็ไม่มีประโยชน์สำหรับผม กำจัดมันทิ้งคือสิ่งแรกที่ผมคิดจะทำ เพราะการที่ยังมีมันอยู่ ผมก็คงจะยังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันตื่น มันต้องหายไปเท่านั้น...ชีวิตผมถึงจะมีความสุข

และถ้าขืนยังมีใครกล้าขุดคุ้ยเรื่องโสมมนั่นขึ้นมาอีก...ผมก็พร้อมจะกำจัดทิ้งเหมือนอย่างไอ้หน้าโง่จอมแสที่กล้าเอามาขู่ผม มันบอกว่ามันเห็นทุกอย่างที่ผมทำ เห็นตอนที่ผมใช้มีดเสียบคอไอ้ปีศาจตัณหากลับ...และถ้าผมไม่โอนเงินให้มันทุกเดือน เดือนละหนึ่งแสน มันจะไปแจ้งตำรวจ มันบอกว่ามันถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แถมยังรู้อีกว่าผมกำจัดศพด้วยวิธีไหน มันบอกว่ามันรู้...แต่มันก็ยังโง่กว่าผม แค่เพราะตัณหาที่มันมี...ความมัวเมาในรสสวาททำให้มันไม่ทันคิดว่าจะถูกผมวางยา แล้วเรื่องหลังจากนั้นมันก็ง่ายแสนง่ายที่จะพาตัวมันไปให้ไกลจากผู้คน อ่า...จริงสินะ ผมยังจำได้ดีทีเดียวกับสีหน้าที่มีแต่ความหวาดกลัวของมัน เพราะมันคงรู้ว่าอีกไม่นาน มีดที่ผมเคยใช้เสียบคอไอ้ปีศาจตัวแรก จะกรีดลึกลงบนต้นคอของมัน...

ให้อดีตวนเวียนอยู่ในห้วงเวลาที่ไม่มีวันจบสิ้น...ห้วงเวลาแห่งความตาย

“เม กำลังคิดอะไรอยู่ ดูมีความสุขเชียว” เสียงของฟรานทำให้ผมหลุดจากภวังค์ เหลือบมองก็เห็นว่าเขากำลังจ้องหน้าผมอยู่

“คิดถึงเรื่องเมื่อคืน...ตอนที่ฟรานยังอยู่ข้างใน...มันรู้สึกร้อนไปหมด” ผมว่าพลางส่งยิ้มไปให้ ในขณะที่ฟรานกำลังก้มหน้าลงมา ผมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อจะได้ตอบรับจูบจากเขาได้ถนัด

“ผมหลงคุณจะแย่อยู่แล้วเม คุณทำเสน่ห์ใส่ผมใช่ไหม สารภาพมาซะดีๆ”

“อืม ทำ เพราะอยากให้ฟรานหลง...หลงจนโงหัวไม่ขึ้น”

“ร้าย”

ผมทำเพียงแค่นยิ้ม แล้วจูงมือฟรานเข้ามาในห้อง ถ้าหากวันนี้เขาตั้งใจจะไปหาพ่อแม่ของผม พวกเราก็ควรอาบน้ำแต่งตัวกันเสียที เพราะสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ผมโตมามันไม่ได้อยู่ในตัวเมือง ยังต้องขับรถกันไปอีกหลายกิโลเมตร

.
.
.

“ที่นี่เหรอ...บ้านของคุณ”

“อืม”

“แล้วพ่อแม่ของคุณ...”

“โอนเนอร์ของที่นี่และก็ป้าแม่บ้านที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็ก ผมนับถือพวกเขาเหมือนพ่อแม่แท้ๆ เพราะพ่อแม่ที่ให้กำเนิดผมมา...พวกเขาไม่ต้องการผม”

ฟรานไม่พูดอะไร แต่จับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ

“ขอบคุณที่พวกเขาดูแลคุณมาอย่างดี...จนทำให้วันนี้ ผมมีคุณอยู่ข้างๆ”

ผมแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่กับคำว่า ‘ดูแลมาอย่างดี’ ของฟราน ผู้ชายบ้านรวยที่ไม่เคยเจอสังคมที่โหดร้ายมักจะมองโลกได้สดใสเสมอ

ฟรานจูงมือผมไปที่ประตูทางเข้า เขามองไปรอบๆ อย่างสนใจ ในขณะที่ผมไม่ได้รู้สึกอยากเข้าไปสักเท่าไหร่ เพราะแม้ว่าผมจะโตที่นี่ แต่ก็ไม่ได้มีความผูกพันธ์หรือความทรงจำดีๆ ให้นึกถึง คงมีแต่เรื่องอับอายที่ทำให้ผมไม่อยากหวนกลับมาอีก

ตอนนั้น...อายุเท่าไหร่ผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ที่จำได้ไม่ลืมก็คือใบหน้าของเด็กผู้ชายที่นอนห้องเดียวกัน เล่นด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ทำอะไรหลายๆ อย่างร่วมกัน เด็กผู้ชายที่ผมแอบรัก ผมรู้เลยว่าตอนนั้นผมสนใจผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และแอบรักเพื่อนของตัวเอง แต่พอเด็กคนนั้นรู้ เขาก็ตีตัวออกห่างจากผม แถมยังทำให้เด็กคนอื่นๆ มองผมเหมือนตัวประหลาด หาว่าผมเป็นบ้า ผิดปกติ เป็นตัวเชื้อโรคที่ไม่น่าเข้าใกล้ แล้วจากนั้นเขาก็ถูกครอบครัวมหาเศรษฐีรับไปเลี้ยง ผมไม่เคยได้เจอเขาอีกเลยมาจนถึงทุกวันนี้

“พี่ครับ ป้าแอนอยู่ไหมครับวันนี้” ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ตะโกนถามออกไป เพราะตอนที่เดินผ่านห้องรับรองแขกเมื่อกี้ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ ปกติป้าจะอยู่ที่นั่น นั่งถักอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างที่ป้าชอบทำ

“ป้าแอนเหรอคะ เอ...เมื่อเช้ามีตำรวจมาพบป้าน่ะค่ะ เห็นคุยกันเสร็จก็พากันออกไป จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับเข้ามาเลยค่ะ”

“ตำรวจเหรอครับ? เขามาพบป้าเรื่องอะไร พี่พอจะรู้ไหม”

“เรื่องนี้พี่ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าแต่น้องมีธุระอะไรกับป้าแอนรึเปล่าคะ พี่จะได้บอกแกให้ตอนแกกลับมา”

“อ๋อ ก็ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอกครับ ถ้างั้นฝากบอกป้าแอนด้วยนะครับว่าเมฆามาหา”

“ได้จ้า”

โอเค ถือว่ามาเสียเที่ยว แต่สงสัยจริงๆ ว่าตำรวจมาพบป้าเรื่องอะไร เอาไว้ค่อยโทรมาถามทีหลัง ตอนนี้ผมต้องหาตัวฟรานให้เจอก่อน ไม่รู้ว่าเขาเดินไปไหนแล้ว ผมเผลอคิดอะไรเรื่อยเปื่อย รู้ตัวอีกทีก็ยืนเคว้งอยู่คนเดียวแล้ว

ผมเดินอ้อมหลังตึก ตรงไปยังโรงอาหารที่ตอนนี้มีเด็กวิ่งเล่นกันอยู่สามสี่คน เห็นฟรานกำลังนั่งคุยกับเด็กคนหนึ่งอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปหา

“มาอยู่นี่เองเหรอ เดินหาซะทั่วเลย”

“อ้าว เมหาผมอยู่เหรอ ก็เมื่อกี้ผมบอกแล้วนี่นาว่าจะมาที่โรงอาหาร”

“บอกตอนไหน ไม่ได้ยินเลย”

“ก็มัวแต่เหม่อ”

“ไม่ได้เหม่อ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

“ดีจริงๆ อยู่ด้วยกันดันไม่สนใจ กลับไปคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ นิสัยไม่ดีว่ะ” ฟรานว่าทีเล่นทีจริงก่อนจะยื่นมือมาผลักหน้าผากผมเบาๆ

“ขอโทษ แต่ตอนนี้กลับกันเถอะนะ ป้าแอนไม่อยู่ โอนเนอร์ปกติก็ไม่อยู่ที่นี่ด้วย นานๆ มาที เรามาเสียเที่ยวแล้วล่ะ” คนที่ผมอยากให้ฟรานเจอก็คือป้าแอนมากกว่า ถึงผมจะนับถือโอนเนอร์เป็นพ่อ แต่เด็กทุกคนที่นี่ก็คิดเหมือนกันทั้งนั้น ในขณะที่ป้าแอนนั้นต่างออกไป ป้ารักผมเหมือนกับลูกหลานของตัวเอง คอยช่วยเหลือผมตลอด ตอนที่ผมถูกเด็กทุกคนคว่ำบาตร ก็มีป้าที่คอยปลอบใจ...

ป้าแอนใจดีกับผมมาก แม้เงินเดือนของแม่บ้านจะน้อยนิด แต่ก็ยังอยากจะส่งเสียเลี้ยงดูผม ถึงอย่างนั้น...ความต้องการกับฐานะการเงินมันก็สวนทางกัน ป้าแอนก็มีครอบครัวที่ป้าต้องดูแล มีลูกๆ ที่ไม่ชอบขี้หน้าผมเพราะคิดว่าผมแย่งความรักจากแม่พวกเขาไป มันก็น่าตลกดีเหมือนกัน ที่ผมถูกอิจฉา ในเมื่อต่อให้ป้ารักผมมากยังไง ผมก็ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของป้าอยู่ดี มันจึงไม่มีทางที่ผมจะสำคัญมากไปกว่าลูกของป้าอยู่แล้ว เพราะอย่างนั้น...ผมถึงได้ไม่กล้ารบกวนป้าแอนอีก ยกเว้น...เรื่องที่ผมทำตามลำพังไม่ได้จริงๆ

“งั้นกลับกันเถอะ ดูวันนี้ใจคุณไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่เลย คุณคงจะเหนื่อย เรากลับไปพักผ่อนกันเถอะนะ”

“อืม แล้วคืนนี้ฟรานจะอยู่กับผมใช่ไหม”

“คืนนี้...ผมไม่ว่าง ผมต้องไปทำธุระสำคัญ คุณเข้าใจผมนะ”

มันเป็นประโยคขอร้องที่มาพร้อมกับสีหน้ากังวลใจ เพราะฉะนั้นผมเลยต้องพยักหน้าตอบเขาไป

“อืม เข้าใจ”

ผมรู้ว่าแม้ผมจะต้องการเขามากแค่ไหน...เราก็ไม่มีวันจะอยู่ด้วยกันได้อยู่ดี

แต่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ นี้...ให้ผมได้อยู่กับเขา ได้ใช้ประโยชน์จากเขา มันก็พอแล้ว...

........................................................To be continue.........................................................

มันจะจบยังไง ติดตามได้....ที่นี่ เร็วๆ นี้ #เดี๋ยวๆพากย์หนังเหรอออ

ไม่ซับซ้อน ไม่ซ่อนเงื่อน ฆ่าก็บอกว่าฆ่า ไม่ต้องอำพรางคดี ประเทศนี้ไม่มีโคนัน  :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: Short Story : ตอนที่ 2 Date: 11/11/2014
«ตอบ #13 เมื่อ11-11-2014 22:47:54 »

เมน่าสงสารอะ

ออฟไลน์ Cinnamon Roll!!!

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ที่ฟรานมาเป็นแฟนกับเม มันคือการที่เข้ามาสืบคดีลับๆ ใช่ไหม  :ruready :ruready



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
บาดจิต

ออฟไลน์ YoK_mehok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลุ้นมากๆ อ่ะ  :katai1: :katai1:

นายเอกเป็นฆาตกรหรอนี่ แล้วพระเอกใช่เด็กผู้ชายคนนั้นมั้ย  :mew2: :katai1:

โอ้ยๆ อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว...

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ฟรานต้องเป็นเด็กผู้ชายตอนนั้นแน่

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
หน่วง

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
เรื่องสั้น : ตอนที่ 3 (จบ)

เช้าวันนี้อากาศไม่ดีเลย ฝนตกหนัก ฟ้าครึ้มมีแต่เมฆสีดำทะมึน มองลงไปยังถนนเบื้องล่างก็เห็นรถติดกันเป็นแถวยาว ทุกสิ่งรอบตัวผมอึมครึมราวกับมีเรื่องร้ายกำลังจะมาเยือน หรือมันจะเริ่มอึมครึมตั้งแต่ที่ผมได้รับการติดต่อกลับจากป้าแอนเมื่อคืน

‘วันนี้ตำรวจมาพบป้า เอารูปของผู้ชายคนนั้นมาให้ดู แล้วถามป้าว่ารู้จักไหม แต่ป้าตอบไปแล้วว่าไม่รู้จัก และก็ไม่เคยเห็นมาก่อน’

ก็คงยื้อเวลาได้อีกไม่นานนัก เพราะอีกไม่นานตำรวจก็คงจะสาวมาถึงตัวผมได้ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมหวั่นใจสักเท่าไหร่ แต่ที่ผมรู้สึกไม่สบายใจก็เห็นจะเป็นป้าแอนมากกว่า ผมไม่อยากให้ป้าโดนข้อหาในฐานะที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นผมเองไปขอร้องให้ป้าช่วยจัดการศพของไอ้แก่นั่นให้ เพราะการลงมือฆ่าคนครั้งแรก ผมทั้งลนลานและตื่นกลัว ผมอาเจียนเพราะกลิ่นคาวเลือด แต่พร้อมกันนั้นก็รู้สึกดีใจที่ในที่สุดไอ้ปีศาจที่ทรมานผมมาหลายปีก็หายไปจากโลกใบนี้

“เม เห็นแผ่นหนังที่กันต์ซื้อมาเมื่ออาทิตย์ก่อนรึเปล่า” เสียงของกันต์ทำให้ผมละสายตาจากการจราจรเบื้องล่าง แล้วหันกลับไปมองเขาที่กำลังตรวจดูตามลิ้นชักเพื่อหาของที่ต้องการ

เขามาหาผมตั้งแต่เช้ามืด ดีที่เมื่อวานฟรานมีธุระสำคัญต้องไปทำ ไม่งั้นคงได้มีรถไฟชนกันเกิดขึ้นในห้องของผมแน่

“ไม่รู้สิ กันต์เอาไว้ที่ไหนล่ะ จำได้รึเปล่า”

“จำไม่ได้ เมช่วยหาหน่อย”

“โอเค เดี๋ยวพี่ไปดูที่ห้องนั่งเล่นให้ก็แล้วกัน”

ผมเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เริ่มหาจากชั้นวางทีวีที่มีแผ่นหนังและซีดีเพลงที่ฟรานชอบวางอยู่เต็ม แล้วเพราะจำนวนมันมากขนาดนั้น ผมถึงต้องใช้เวลาค้นหาพอสมควร แต่ก็หาไม่เจอ กำลังจะกลับเข้าห้องนอนเพื่อไปบอกกันต์ว่าที่ห้องนั่งเล่นไม่น่ามี ก็ได้ยินเสียงทีวีดังขึ้นจากในห้องนอน

“กันต์! หาเจอแล้วเหรอ”

ไร้เสียงตอบรับ แต่เสียงของลำโพงทีวีก็ยังคงดังอยู่อย่างนั้น แต่มันไม่ใช่เสียงเพลงจากหนังเรื่องไหนๆ กลับเป็นเสียงร้องโหยหวนที่ฟังแล้วขนลุกซู่ ผมรีบเดินไปที่ห้องนอน พอไปถึงก็เห็นกันต์เบิกตากว้างจ้องมองภาพในทีวีอยู่ ใบหน้าของเขาซีดเผือด และพอเห็นหน้าผม เขาก็รีบก้าวถอยหลังไปหลายก้าว

“เม...นี่มัน...อะไร” เสียงของกันต์ขาดห้วง ใบหน้าไร้สีเลือดราวกับคนเพิ่งอาเจียนไปแล้วหลายต่อหลายรอบ

ผมมองไปที่หน้าจอทีวี หลักฐานชิ้นสำคัญที่ไอ้หน้าโง่คนหนึ่งเอามาขู่ผมกำลังหมุนวนอยู่ในเครื่องเล่นซีดี มันถ่ายไว้ได้ชัดอย่างที่มันบอกผมจริงๆ

“ไม่มีอะไร” ผมตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจกับอาการประหวั่นพรั่นพรึงของคนตรงหน้า ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆ เขาที่ก็ถอยร่นหนีผมไปจนชิดผนัง “นี่...เป็นอะไรไป”

“ถอยไป”

ผมคลี่ยิ้ม ไล้นิ้วไปตามแก้มของกันต์ เขาหลับตาลงพลางเบนหน้าหลบ

“กลัวพี่เหรอ”

“ถอยไป...ผมจะกลับ!”

“ให้กลับ...ไม่ได้หรอก”

“พี่ปล่อยผมนะ! ถ้าไม่ปล่อยผมจะแจ้งตำรวจ จะบอกให้หมดเลยว่าพี่ทำอะไรไว้บ้าง ผมไม่รู้หรอกนะว่าเขาเป็นใคร แต่พี่ฆ่าเขา พี่ต้องติดคุก!”

ผมยกมือบีบคางของกันต์ เขาพยายามดิ้นหนี แววตาที่มองผมเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ไหนบอกว่ารักพี่ อยากอยู่กับพี่ ตอนนี้...ดิ้นหนีทำไม”

“พี่เม...อย่าทำผม ผมเจ็บ...”

น้ำตาของกันต์ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลย ทั้งๆ ที่เขาเป็นเด็กดีของผมมาตลอด แต่ตอนนี้แววตาที่เขามองผม มันเปลี่ยนไปแล้ว

“พี่เม...ไม่...อย่านะ ผมไม่... อ้ะ... อย่าทำกับผมแบบนี้ ปล่อยผม!”

ผมจะปล่อยแน่ๆ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้... เรือนร่างของกันต์ยังคงให้ความสุขกับผมได้ และตราบจนนาทีสุดท้ายผมก็อยากจะได้ความสุขนั้นมาครอบครอง

“ฮืออออ ใครก็ได้...ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย...”

ไม่มีใครมาช่วยได้หรอก...ต่อให้ร้องตะโกนดังขนาดไหน ก็คงไม่มีใครได้ยิน...

ติ๊งต่อง! ติ๊งต่อง!

เสียงออดจากหน้าประตูทำให้ผมหยุดขยับเอวไปเพียงครู่ แก่นกายยังคงถูกบีบรัดอยู่ในช่องทางคับแคบของคนที่นอนน้ำตานองหน้าอยู่ข้างใต้ เลือดสีสดไหลซึมเพราะการฉีกขาด กันต์มองหน้าผมอย่างวิงวอน นัยน์ตาแดงก่ำพบเจอแต่คำขอร้อง ขอให้ผมปล่อยเขาไป

ติ๊งต่องๆๆๆๆๆๆๆ!

คราวนี้ดังรัวยิ่งกว่าเดิม และตามมาด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของผม หยิบขึ้นมาดูก็ต้องตกใจเล็กน้อยเมื่อเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอคือเบอร์ของฟราน

ผมยกมือข้างหนึ่งปิดปากของกันต์ไว้ โน้มตัวลงไปเพื่อที่จะดันแก่นกายของตัวเองเข้าไปให้ลึกขึ้น ผมกดรับสาย เปิดลำโพงแล้ววางมือถือไว้ข้างตัว เพื่อที่ว่ามืออีกข้างจะได้จับรวมแขนทั้งสองข้างของกันต์ไว้ได้ ไม่งั้นไอ้เด็กนี่ข่วนผมแน่

(เม อยู่รึเปล่า ออกมาเปิดประตูให้ผมหน่อย)

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่อยากเจอฟรานตั้งแต่ที่เราเริ่มคบกันมา

“ตอนนี้ผมมีแขก คุณกลับไปก่อน”

(แขกที่ว่าน่ะใคร แล้วทำไมผมถึงอยู่ด้วยไม่ได้)

“แล้วผมจะโทรหา”

(เม! อย่าเพิ่งวางนะ! คุณอยู่กับใคร บอกผมมาเดี๋ยวนี้)

น่าหงุดหงิดจริงๆ ทำไมถึงได้ทำตัวน่ารำคาญขนาดนี้ แล้วไอ้เด็กนี่มันจะดิ้นไปถึงเมื่อไหร่ ตอนนี้ล่ะฤทธิ์เยอะนัก เมื่อก่อนยังร่านอ้าขารับผมอยู่เลย เวลาของโลกนี้ทำให้คนเปลี่ยนไปจริงๆ คงมีแต่ความตายเท่านั้นล่ะมั้งที่จะไม่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป...

(เม!)

ผมกดตัดสายทิ้งก่อนจะเริ่มดำเนินกิจกรรมรักของตัวเองต่อไป ลำคอขาวๆ ของกันต์ก็ถูกผมขบเม้มจนเป็นรอยจ้ำไปทั่ว

“ร้องไห้ทำไม...พี่กำลังจะพาขึ้นสวรรค์ ไม่มีความสุขเลยเหรอครับ” ผมกระซิบข้างๆ ใบหูเล็กเบาๆ ก่อนจะแลบลิ้นเลีย ลากตั้งแต่ใบหูไปจนถึงข้างแก้มที่เปรอะไปด้วยน้ำตา

“ปากก็บอกว่าไม่ต้องการพี่ แต่ก็รัดพี่แน่นเชียว”

“ผมจะแจ้งตำรวจ พี่มันชั่ว! สารเลว อึก! อ๊า!”

ผมสวนกายกระแทกเข้าไปแรงๆ ใบหน้าเหยเกของกันต์ทำให้ผมหัวเราะออกมาอย่างสะใจ กันต์กรีดร้องเสียงลั่น พร้อมๆ  กับที่โทรศัพท์มือถือของผมก็สั่นเตือนว่ามีคนโทรเข้ามาอีกรอบ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้...ผมต้องส่งเด็กคนนี้ขึ้นสวรรค์เสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น...เด็กนี่จะส่งผมไปลงนรกแทน...นรกที่มีชื่อว่า ‘คุก’

.
.
.

“คุณนอกใจผม! สวมเขาให้ผม! คุณทำอย่างนี้กับผมได้ยังไงเม!”

ผมยืนนิ่ง ปล่อยให้ฟรานตะโกนใส่ผมได้ตามต้องการ เพราะยังไง...ผมก็ไม่ยอมรับข้อกล่าวหานี้อยู่แล้ว

“คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้มีใคร”

“ไม่มีใครงั้นเหรอ! แล้วเมื่อวานทำไมไม่มาเปิดประตูให้ผม”

“คุณคิดมากไปเองนะฟราน ผมไม่มีใครจริงๆ”

“ผมไม่ได้โง่นะเม คุณคิดว่าผมจะไม่ได้ยินเสียงครางของชู้คุณอย่างงั้นเหรอ!”

“น่าอายจัง คุณได้ยินมันด้วยเหรอ” ผมคลี่ยิ้มสบายๆ ก่อนจะจับมือของฟรานมาแนบที่แก้ม “มันเป็นเสียงจากหนังที่ผมกำลังดู ผมก็แค่คิดถึงคุณแล้วไม่รู้จะระบายยังไง...แล้วผมก็แค่...”

“แต่คุณบอกว่าคุณมีแขก”

“ผมโกหก” ใช่...ผมโกหก เรื่องที่บอกคุณวันนี้นั่นแหละที่โกหก เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากจะโกหกเลยจริงๆ แต่มันจำเป็น

“คุณทำให้ผมคลั่งจนแทบบ้า แล้วก็มาบอกแค่ว่าคุณโกหก คุณไม่คิดบ้างเลยเหรอว่าผมจะรู้สึกยังไง”

“ผมขอโทษ ฟรานอย่าโกรธผมนะ เราไม่ทะเลาะกันแล้วได้ไหม ผมไม่ชอบเลยเวลาที่คุณโมโหอย่างนี้”

“...”

“แล้วผมก็ไม่ชอบเวลาที่คุณเมาด้วย มันเหมือนหมาบ้าเลยรู้ไหม”

ตอนนี้เขาสร่างเมาแล้วก็เลยคุยกันได้รู้เรื่องหน่อย แต่ตอนที่มายืนหน้าห้องผมเมื่อตอนตีห้าน่ะ แทบจะคลานสี่ขาเข้ามาเลย ไม่รู้ว่ากลับมาที่ห้องผมถูกได้ยังไง

“ผมบ้าก็เพราะคุณ ยังไม่รู้ตัวอีก นิสัยเสียว่ะเม”

“ขอโทษครับขอโทษ”

“ผมมึนหัว อยากนอนแล้ว”

“คุณจะนอนที่นี่เหรอ”

“ไม่ได้รึไง”

ผมอยากจะบอกว่าไม่ได้อยู่หรอกนะ เพราะการที่เขาโผล่หน้ามาในเช้ามืดที่ผมกำลังจะจัดการลบทุกอย่างทิ้ง มันทำให้ผิดแผนไปหมด ผมถึงต้องเอา ‘บางอย่าง’ ที่ต้องทิ้ง ใส่กลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้าตามเดิม

“ได้สิ”

ถ้าผมบอกว่าไม่ได้ มันคงจะมีปัญหาตามมาทีหลัง แต่การให้เขาอยู่ที่นี่ มันก็คงจะเกิดปัญหาขึ้นไม่ช้าก็เร็ว อ่า...นั่นไง เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้ว

“คุณล็อคไว้เหรอ”

“อืม แต่ผมทำกุญแจหาย วันนี้ว่าจะตามช่างมางัดเปิดให้เหมือนกัน”

“แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ เสื้อผ้าผมอยู่ข้างในนั้น ผมอยากอาบน้ำ ก่อนจะนอน”

“ก็ไปอาบสิ เสื้อผ้าน่ะไม่ต้องใส่ก็ได้ เพราะฟรานก็รู้ว่าผมชอบเวลาที่ฟรานไม่ใส่อะไรเลยมากกว่า”

ต่อให้ฟรานจะบอกว่าเขาไม่โง่ แต่คำพูดของคนที่เขากำลังหลงอย่างผม ก็ทำให้เขาโง่ได้เหมือนกัน...

.
.
.

แต่คนที่ผมคิดว่าเขาโง่...กลับไม่เคยปล่อยให้ผมอยู่ตามลำพังเลย เขาตามติดผมมาสามวันเต็มๆ เราอยู่ด้วยกันแทบทุกเวลา กินข้าว ดูทีวี พูดคุยกันบ้างและจบลงด้วยการทำรักจนถึงเช้าทั้งสามวัน จนตอนนี้ผมเริ่มกังวลใจเพราะบางอย่างในตู้เสื้อผ้าเริ่มส่ง กลิ่นแปลกๆ ออกมา

“ฟราน ไปเที่ยวกันนะ ผมเบื่อที่จะอยู่ที่ห้องเต็มทีแล้ว ฟรานพาผมไปทะเลนะฟราน ไปอาทิตย์หนึ่งเลยเป็นไง” เป็นครั้งที่ร้อยแล้วล่ะมั้งที่ผมพยายามชวนเขาออกไปเที่ยว แต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้ง

“ผมไม่อยากไป ขี้เกียจขับรถ ผมอยากพัก”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ จะที่ไหนก็เหมือนกัน”

“ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง คุณไม่อยาก...ลองทำกับผมบนหาดทรายชื้นๆ หรือไง”

ฟรานยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองผมอย่างจริงจัง “อยาก...งั้นเดี๋ยวผมช่วยคุณจัดกระเป๋า ว่าแต่ช่างที่คุณบอกจะให้มาเปิดตู้เสื้อผ้า เขาบอกว่าจะมาวันไหนเหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน เขาผิดนัดมาหลายครั้งแล้ว คงงานยุ่งจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยอยากกวน คอนโดนี้มีช่างอยู่คนเดียวก็ต้องทำใจหน่อย เพราะไม่ได้มีแค่ห้องเราที่พักอยู่ที่นี่” จะไม่มีใครมาหรอก เพราะผมไม่ได้ตามใครมาเลย

“งั้นผมจะเปิดให้เอง”

“คุณจะทำตู้เสื้อผ้าผมพังรึไง”

“ผมก็งัดเป็น เพราะก่อนเป็นตำรวจ ผมเคยเป็นขโมยมาก่อน”

“คุณล้อเล่นใช่ไหม”

“คุณคิดว่าไงล่ะ”

ไม่ได้มีแววล้อเล่นอยู่บนใบหน้าดูดีของเขาเลยสักนิด นั่นทำให้ผมลำบากใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คิดว่ายังไงเวลาแบบนี้ก็ต้องมาถึง

“ความจริง...ผมอยากจะอยู่กับคุณให้นานกว่านี้นะฟราน” เพราะผมก็คิดว่าตัวเองก็ให้ความสำคัญกับคุณอยู่มากเหมือนกัน แต่เป็นคุณเองที่กำลังจะทำให้ทุกอย่างมันพัง

“ผมก็เหมือนกัน” ยิ้มของฟรานทำให้ผมต้องยิ้มตาม เป็นรอยยิ้มที่ราวกับเคยเห็นเมื่อนานมากแล้ว เขาเดินนำเข้าไปในห้องนอน ไปยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ในขณะที่ผมเลี่ยงมายืนชิดผนังอยู่อีกฝั่ง

กริ๊ง!

เสียงตกกระทบกันของกุญแจดังขึ้นเมื่อผมโยนมันลงบนพื้น ฟรานหันมามองหน้าผม แล้วก้มลงเก็บมันขึ้นมา

“ผมรู้หรอกว่าถ้าไม่ยอมเปิดตู้ คุณก็จะไม่ยอมให้ผมไปไหน”

“ใช่...ผมไม่ยอมให้ไปหรอก คุณจะไปไหนไม่ได้อีกแล้วเม”

“...”

“แม่บ้านที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถูกจับแล้วเมื่อสองวันก่อน แต่เธอก็คงติดคุกแค่ไม่กี่ปีเพราะข้อหาสมรู้ร่วมคิดโทษก็ไม่ได้หนักเท่าไหร่”

“คดีที่คุณตามอยู่น่ะเหรอ รู้ตัวคนร้ายแล้วใช่ไหม”

“ก็ไม่เชิง”

“ผมดีใจด้วยนะ ปิดคดีได้แบบนี้ คุณคงมีเวลาว่างให้ผมมากขึ้นใช่ไหม”

“อืม...คงใช่ แต่ผมเกรงว่า...คุณจะไม่ว่างแล้วล่ะ”

น้ำคำที่ไม่ยินดียินร้ายของฟรานจบลงพร้อมกับที่ประตูตู้เสื้อผ้าเปิดออก ภาพที่ไม่น่ามองฉายชัดเข้ามาในดวงตาของผม ร่างเปลือยของศพที่ตาเบิกโพลงจนเห็นนัยน์ตาขาวชัดกำลังจ้องมองมา ทั้งเลือดและน้ำเหลืองไหลซึมออกตามผิวหนังที่มีหนอนเริ่มชอนไช

“คุณใจร้ายมากนะที่ปล่อยเขาไว้อย่างนี้” ฟรานหันมาพูดกับผม ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจแม้แต่น้อย ราวกับเขารู้อยู่แล้วว่าเมื่อเปิดประตูจะต้องเจอกับอะไร

“ผมก็ไม่อยากทำอย่างนี้นักหรอก เขาเป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง เอาการเอางาน และก็คงรักผมมากด้วย”

“เขาตายได้ยังไง”

“ผมพลั้งมือไปหน่อย เพราะตอนที่สุขสุดๆ ก็เผลอบีบคอเขา มันก็แค่นั้น”

“ชีวิตคนทั้งชีวิต คุณจะใช้คำว่า แค่นั้น ไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ไม่ใช่สิ่งไร้ค่า”

“คนที่มีพร้อมทุกอย่างอย่างคุณน่ะ ไม่เข้าใจความโหดร้ายของโลกใบนี้หรอก”

ฟรานมองหน้าผม เนิ่นนานราวกับกำลังค้นหาคำตอบอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าเศร้าสร้อยของเขาก็คงบอกกับผมได้เพียงว่า เขาไม่พบคำตอบที่ต้องการ

เขาเดินไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง เปิดลิ้นชักเพื่อหยิบกุญแจมือออกมา ก่อนจะเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมที่ยื่นแขนทั้งสองข้างออกไป

ผมเตรียมใจไว้แล้ว เพราะรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง ...คนทำผิดกฎ ย่อมถูกลงโทษ เป็นเรื่องธรรมดา

กลิ๊ก!

กุญแจมือถูกคล้องเข้าที่มือทั้งสองข้าง ฟรานมองมันนิ่งนานก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วพูดว่า

“ผมรู้ว่าโลกมันโหดร้าย แต่ผมก็ไม่เคยคิดฆ่าใครเหมือนคุณ”

คำพูดของฟรานทำให้ผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ ตลกจริงๆ กับความคิดของเขา

“นั่นเพราะว่าคุณไม่เคยเจอเหมือนที่ผมเจอ”

“...”

“ผมสนุกมากจริงๆ เวลาที่ได้อยู่กับคุณ ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นละครฉากหนึ่งของคุณก็ตาม”

ผมไม่ใช่ไม่รู้เจตนาของเขาที่เข้ามาใกล้ผม แต่ผมมีความสุขนะที่ได้อยู่กับเขา

“ได้เวลาไปสถานีตำรวจแล้วครับคุณเมฆา” ฟรานทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูด ท่าทางเย็นชาของเขากับน้ำเสียงเรียบนิ่งที่ใช้ ทำให้รู้สึกคิดถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมามากเหลือเกิน...

.
.
.

“วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกัน”

“อืม”

“มาลาผมเหรอ”

“อืม”

“ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะแต่งงาน”

“อืม”

“งั้นผมอวยพรให้คุณมีความสุขนะ คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ สารวัตรเวหา เพื่อนเก่าของผม”

เพื่อนเก่า... ใช่... เราน่ะเป็นเพื่อนเก่ากัน เขาไม่คิดว่าเมฆาจะยังจำเขาได้ ในเมื่อใบหน้าของเขาผ่านการศัลยกรรมมาแล้วครั้งหนึ่งเพราะเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้มีรอยแผลเป็นรอยใหญ่บนใบหน้า

“เม...ตอนนั้น...ผมขอโทษ” ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจนจบประโยค เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาในห้อง

“หมดเวลาเยี่ยมแล้วครับ”

รอยยิ้มของคนตรงหน้าคงจะได้เห็นเป็นครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะฉะนั้นเขาก็อยากจะมองให้นาน แต่สถานการณ์ก็ไม่เอื้อเลยสักนิด นักโทษประหารที่มีกำหนดการประหารในวันพรุ่งนี้ถูกคุมตัวไปอย่างรวดเร็วเมื่อหมดเวลา...

เมฆาถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน แต่เขาก็ไม่เห็นเจ้าตัวเดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด เอาเข้าจริงๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่าคนๆ นั้นคิดอะไร ไม่เคยมองออกเลยสักครั้ง เพราะใบหน้าเปื้อนยิ้มนั่นมักจะกลบเกลื่อนเรื่องทุกข์ใจไว้จนหมด เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว...

‘เพราะมีเวหา เมฆาถึงอยู่ได้’

‘พูดอะไรเลี่ยนชะมัด’ จำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกรำคาญไอ้รอยยิ้มจืดๆ ของมันมาก

‘ก็จริงนี่นา ถ้าไม่มีท้องฟ้า ก้อนเมฆจะอยู่ได้ยังไงล่ะ’

‘แต่ท้องฟ้า ไม่มีเมฆก็อยู่ได้ เพราะฉะนั้นไปไกลๆ เลย แกมันน่ารำคาญ’

‘ว้า...โดนโกรธอีกแล้ว’

‘ไม่ได้โกรธเว้ย เกลียดขี้หน้า ไปเลยไป ไปให้ไกลๆ เลย แกมันตัวประหลาด ชอบมาเกาะติด รู้ว่าคนเขารำคาญก็มาใกล้อยู่ได้’

‘ใจร้ายจังเลย แต่เมไม่ไปหรอกนะ อยากอยู่ด้วย’

แม้เขาจะเตะต่อยมันยังไง ก็ไม่ยอมออกห่างเขาสักที ตามติดเขาเกือบตลอด ตามติดไปแทบทุกที่ เวลาเขาหกล้มก็หายามาใส่ให้ อดทนกินของที่เขาไม่ชอบแทนเขา และก็อีกหลายๆ อย่างที่มันทำให้... เขาไม่เคยลืม

ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังทำร้ายมัน...แค่ความคิดของเด็กผู้ชายที่ไม่อยากโดนมองเป็นตัวประหลาด โดนล้อว่าชอบเพศเดียวกัน ก็เลยทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยลงไป

“บ้าเอ้ย!! คงไม่มีใครแต่งงาน ในวันที่เพื่อนกำลังจะตายหรอก...ผมก็แค่โกหกคุณเท่านั้นเอง!!”

‘เว...ดูสิ ท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆน่ะ...สวยจริงๆ เลยนะ’



................................................................The End................................................................

จบแล้วค่า เรื่องสั้น อยากลองแต่งแนวนี้ดูบ้าง  :กอด1: ขอบคุณมากๆ เลยค่าที่แวะกันเข้ามาอ่าน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

แอร๊ยยย ถึงรู้ว่าผิด แต่ก้ออยากให้ฟรานช่วยเมนะ  :hao5:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เสียใจตอนนี้สายไปมั้ยเวหา

ออฟไลน์ Kissa_O

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
มันก็เป็นไปตามกรรมที่ทำไว้นะเม :hao5:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
แหม นึกเมจะฆ่าฟรานอีกคนซะแล้ว

ในเรื่องนี่....เราว่าฟรานน่าโดนฆ่าที่สุดแระ คริๆ

ออฟไลน์ YoK_mehok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
มันโหดร้ายไปนะกับน้องเมของเรา... :katai1: :katai1:

ที่ต้องมาถูกสั่งประหารชีวิต ถึงแม้มีความผิด  :hao5:

แต่เค้าน่าสงสารอ่า :mew6: :mew4:

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
สนุกมากกกกกกจ้า
ลุ้นดี
เมนางโหดอ่ะ
แต่ก็น่าสงสาร

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


อยากจะบอกว่า.....

มันหักมุมอ่ะ

โอยยยยยย

จบแต่เจ็บจริงๆ


ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เศร้าจริง น้ำตาจิไหล
เมฆารักเวหามากสินะ น่าจะจำได้แต่แรกด้วยซ้ำ เลยฆ่าไม่ลงใช่รึเปล่า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ  :o12:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
ก็สงสารอยู่นะ เรายังไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วเวหารักเมฆหรือเปล่า ที่ทำไปทุกอย่างเป็นแค่เพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้นเหรอ
ใจร้ายจังนะ เวหาเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด