[Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!  (อ่าน 3264 ครั้ง)

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


The Bridge

ผมไม่เคยคิดมานั่งทบทวนเลย ว่าเรื่องของผมกับมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเพราะอะไร ผมกับมันต้องมานั่งอยู่ริมสะพานพุทธตอนตีหนึ่งครึ่ง นั่งมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ กับความเงียบสงัดของคืนวันจันทร์ คืนที่ไม่มีตลาดนัดสะพานพุทธให้วุ่นวายทั่วท้องถนน
ตอนนี้ไอ้โฟล์ค เท้าแขนนิ่งไปกับสะพาน สายตาจ้องมองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยดวงตาแข็งกร้าว มันไม่ได้พูดอะไรกับผมมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว เสียงสุดท้ายที่ได้ยินจากมัน ดังแว่วมาจากโทรศัพท์ของผมเองตอนมันโทรมาหา

“มาหาหน่อยดิ มีเรื่องจะบอก ตอนนี้อยู่สะพาน เพิ่งออกจากโรงเรียน”

ผมเองยังไม่ทันจะได้ตอบรับประโยคนั้น มันก็ด่วนตัดสายไปซะก่อน อีกไม่กี่นาทีต่อมา ผมเดินเตร็ดเตร่ออกจากบ้านย่านฝั่งธนที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนัก เดินขึ้นมาตามสะพานพุทธ ไอ้โฟล์ค มันก็ช่างยืนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะ ผมเห็นมันได้ทันทีจากกลางสะพาน สองเท้าพาร่างของผมเดินไปยืนอยู่ข้างๆ มันและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นในอีกหลายนาทีต่อมา

ผมไม่เคยคิดมานั่งทบทวนเลย ว่าเรื่องของผมมันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่

-----------------------------------------------------------------------------------

“โอ๊ยยยย เจ็บ เบาๆหน่อยดิวะ” เสียงนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนร้องโอดโอย หลังจากที่ถูกหามเข้ามาในห้องพัก เพื่อให้หน่วยปฐมพยาบาลได้จัดการดูแล หลังจากการแบคสปินอย่างไม่ระมัดระวังของ โฟล์ค หนุ่มนักกีฬาม.5 ตัวเก่งของโรงเรียน ที่กำลังเป็นที่จับตามองทั้งในเรื่องความสามารถในการกีฬาที่กำลังโดดเด่นในแบบที่โรงเรียนไม่ได้เห็นมานานหลายรุ่นแล้ว โดยไม่ได้นับรวมหน้าตาที่หล่อเหลาเกินกว่าจะเป็นนักบาสของโรงเรียนทั่วไป แต่โฟล์คคือขวัญใจของสาวๆต่างโรงเรียนหลายคน
โชคร้ายก็ตรงที่ในควอเตอร์ที่สามขณะที่แต้มกำลังสูสี อุบัติเหตุนี้ทำให้เจ้าตัวข้อเท้าพลิก จนต้องถูกหามเข้ามาในนี้ และทิ้งให้ลูกทีมที่เหลือรับชะตากรรมต่อไปในควอเตอร์สุดท้าย
หลังจากความวุ่นวายของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เข้ามารุมตัวโฟล์คเริ่มทยอยหายไปแล้ว ห้องพักนี้เหลือเพียงผมกับมันสองคน ผมที่ทำหน้าที่สวัสดิการในการมาแข่งขันบาสเกตบอลในนามของโรงเรียนวันนี้ ถูกอาจารย์เอาลูกประคบน้ำแข็งยัดใส่มือและทำหน้าที่ดูแลข้อเท้าพ่อพระเอกคนนี้ ในขณะที่เจ้าตัวขอไปลุ้นในสิบนาทีสุดท้ายของการแข่งที่เหลือ

“ทำอะไรไม่ระวัง” ผมตอบ ขณะที่ประคบมันต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ “จังหวะเมื่อกี้ไม่เห็นต้องโชว์เหนือ ส่งต่อให้ไอ้เปี๊ยกก็จบละ”
“รู้ดี” มันบ่นใส่ “ไอ้เปี๊ยกอ่ะนะจะอันเดอร์ขึ้นไปได้ โดนไอ้ตัวสูงบล็อคชัวร์ แม่งเอ้ย จะเป็นไงบ้างวะเนี่ย”
“ช่างมันเหอะ เอาตัวเองให้รอดก่อน” ผมตอบมัน
“แล้วมานี่ถึงยังไงวะต่อ” มันถามผม
“มากับอาจารย์วิด” ผมตอบ “เค้าให้มาช่วย”
“โอ๊ย โอ็ย โอ๊ย” มันร้อง “เห้ย เดี๋ยวเราทำเองก็ได้ นายไปดูควอเตอร์นี้เหอะ น่าจะมันส์”
“ไม่อ่ะ” ผมตอบ “เดี๋ยวไอ้กอล์ฟก็มาเล่าละเอียดเองอ่ะ เหมือนได้ดูอีกทีอยู่ดี อีกอย่างถ้ากัปตันทีมเป็นอะไรไป เดือดร้อนผมต้องนั่งจดแลกเชอร์ให้เวลาใครบางคนไปนอนสบายในโรงบาลอีก”
“เราไม่ใช่คนเริ่มขอนายไปลอกซะหน่อยเหอะ” มันโวย
“แต่สมุดผมก็ไปถึงคุณอยู่ดี” ผมว่าต่อ “แล้วหลังๆมานี่ไอ้กอล์ฟก็บอกเองว่าคุณอ่านของผมรู้เรื่องอยู่เล่มเดียว”
“ไม่อึดอัดเหรอวะ” มันถามผม
“เรื่อง?”
“เวลาพูดคุณ ผม” มันว่า
“ไม่อ่ะ” ผมตอบมัน ผมพูดอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแล้ว จะว่าไปการพูดจาของผมกับโฟล์คคงเข้ากันยาก เราสองคนถึงจะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ผมกับมันก็ใช่ว่าจะตัวติดกัน ผมเป็นคนติดเรียนพอควร คือก็ไม่ได้เรียนเก่ง แต่ก็ไม่เคยขาด ในขณะที่โฟล์คติดไปทำงานกีฬาอยู่เรื่อยๆ แล้วก็เฮฮาอยู่กับเดอะแกงค์ของมัน สมุดผมก็มักจะไปถึงมันผ่านไอ้กอล์ฟอยู่ทุกที
“แต่เราโคตรอึดอัดเลยว่ะคับ” โฟล์คว่า “อยู่กับเพื่อนกับฝูงไม่ต้องพูดคุณผมก็ได้มั้งวะ”
“ก็พูดมาตั้งนานมัแล้วนี่หว่า มันชิน...” ผมว่า “อีกอย่างพูดแบบไหนกับเพื่อนมันก็เหมือนกันหมดแหละ”
“เหมือนยังไงวะ” โฟล์คว่า “เพื่อนกันเชื่อใจกัน ไม่ต้องมาสุภาพอะไรให้มากหรอกไอ้ต่อ”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพูดปกติแล้ว จะแปลว่าเพื่อนคนนั้นไว้ใจได้” ผมเลิกคิ้วถามมัน
“ก็......” โฟล์คเงียบไป “มันก็สบายใจว่าเจอคนพูดคุณผมละกันละวะ แม่งเลี่ยนจะตาย บางทีมันเหมือนเป็นคนอื่นไง จะพูดเรื่องอะไรมันก็ไม่สะดวกปาก”
“เห้ยโฟล์คไม่เกี่ยวเหอะ ยังไงผมก็เป็นเพื่อนคุณนะเห้ย มีอะไรก็พูดกับผมก็ได้เหมือนกันแหละคุณ” ผมตอบมัน “ผมอ่ะ พูดแฟร์ๆตรงๆได้ทุกเรื่องหมดแหละ”
มันมองหน้าผมทันทีพลางเหล่ตา
“งั้นอ่อ?” มันว่า “พูดตรงๆได้ทุกเรื่องใช่มั้ย”
“อ่าหะ” ผมตอบ
“งั้นเรื่องที่พี่ไอซ์ ม.6/5 เค้าแอบชอบนายเป็นเรื่องจริงใช่ป่าว” มันถามผมทันที “โอ๊ยยยยยย เชี่ย”
รู้ตัวอีกทีผมทำลูกประคบน้ำแข็งร่วงใส่ข้อเท้ามันเข้าอย่างจัง....
ไอ้โฟล์ค นี่ไม่ได้เรียกตรง นี่เรียกเร็วครับ.....

   -----------------------------------------------------------------------------------

   “ถ้าคุณยังไม่พูดอะไร ผมจะกลับไปนอนแล้วนะโฟล์ค” ผมพูดกับมันหลังจากที่รู้สึกว่าร่างกายเริ่มง่วง และท้องถนนมีรถวิ่งผ่านน้อยลงทุกที
   “เมื่อไหร่นายจะเลิกพูดคุณผมกับเราซะทีวะต่อ” โฟล์คว่า พลางหันมามองหน้าผม “ไม่อึดอัดบ้างรึไงวะ”
   ผมยังคงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็พอจะรู้อยู่แล้ว ว่าที่โฟล์คเรียกผมออกมาก็น่าจะพูดเรื่องอะไรประมาณนี้ แต่ในเมื่อมันเป็นคนบอกว่า “มีเรื่องอยากจะบอก” มันก็ต้องเป็นคนบอกผมเอง
   มันยังคงมองหน้าผมนิ่ง
   “นายยังโกรธหรือเปล่าวะ” โฟล์คถาม ผมยังคงมองหน้ามันนิ่งเหมือนเดิม
   “เห้ย ไหนว่าเราพูดกันตรงๆได้ไม่ใช่?” โฟล์คพูด “จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น นายคิดว่ายังไงอ่ะต่อ”
   ผมถอนหายใจไปครั้งหนึ่ง ผมเองไม่ได้เตรียมคำพูดอะไรจะมาคุยกับโฟล์คนัก จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นผมเองก็ตื้อไปหมด มันเกิดขึ้นรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว
   โฟล์คหันมามองผมอย่างเต็มตัว ผมมองใบหน้าหล่อเหลาของมันอยู่อย่างนั้น บางทีผมก็อาจจะไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจังก็ได้ เพราะอะไรผมถึงไม่ได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจังขึ้นมาล่ะ
   ก็เพราะผมไม่รู้ว่า เรื่องของมันที่รู้สึกกับผมมันเกิดขึ้นตอนไหน

   -----------------------------------------------------------------------------------

   เสียงพูดคุยกันจอแจดังขึ้นหลังจากหมดคาบสุดท้าย ผมง่วนอยู่กับการรีบจดเลกเชอร์ที่เหลืออยู่ให้ไวที่สุด เพราะผมล่ะเบื่อสายตาไอ้กอล์ฟ ไอ้วิน ไอ้นัท ที่มาห้อมล้อมโต๊ะผมกับเอกเพื่อจะขอเอาแลกเชอร์ไปลอก
   “พวกคุณนี่ก็เชื่อผมเนอะ ไอ้ที่ผมกับไอ้เอกจดก็ใช่ว่าจะถูกเป๊ะทั้งหมดนา” ผมพูดติดตลก
   “จริง” เอกพูดเสริม “ถ้าพวกนายแน่จริง ก็ไปขอโน่นเลย ไอ้แว่นโน่นเด่ะ”
   “โอ่ยยยย รายนั้นให้เค้าไปดีเถอะ” ไอ้กอล์ฟพูดถึงคุณแว่นหัวกะทิของห้องเรา เอาเป็นว่าถ้าปีนี้คะแนนของคณะอะไรคืออันดับหนึ่งตอนแอดมิชชั่นล่ะก็ ผมว่าคุณแว่นของพวกเราทำข้อสอบได้คะแนนเกินแน่ๆ ขณะเดียวกันมันก็จดทุกอย่างอย่างเร่งรีบจากสมุดของผม
   “แล้วก็ไม่ต้องมาถ่อมตัวเลยไอ้ต่อ” กอล์ฟว่า “นายเองก็เชี่ยวบทนี้อยู่แล้วเหอะ”
   “เห้ยกอล์ฟ ทำไมวันนี้มานั่งลอกวะ” ผมถามมัน เพราะปกติมันชอบดอยสมุดผมกลับบ้านไปมากกว่า
   “อ่อ วันนี้พวกเราต้องทบทวนกันทั้งแกงค์เลยว่ะ ไม่งั้นตกเจ๊ดาแน่” มันว่า “ไอ้ต้อมแม่งก็เสือกไม่ทำแบบฝึกมาเป็นชาติ ส่วนไอ้โฟล์คแม่งก็ติดซ้อมอีก จะว่างกันคืนวันศุกร์นี้ ก็เลยว่าจะติวกันยาว”
   “ลอกไปได้แต่ตัวหนังสือแหละพวกนายอ่ะ” ไอ้เอกว่า “เรียนก็มัวแต่หลับ แล้วจะเอาที่ไหนไปติวกันวะ”
   “เออว่ะ” กอล์ฟพูดกับตัวเองพลางวางปากกาลง
ผมส่ายหน้าให้กับไอ้กอล์ฟทันที
“ไอ้คุณกอล์ฟครับ จะลอกก็รีบลอก ผมต้องกลับบ้านมั้ยอะไรมั้ย คิดนิดนึง” ผมว่าพลางเริ่มเก็บข้าวของ ขณะที่กอล์ฟปิดสมุดผมลงเสียงดัง ผมกับไอ้เอกสะดุ้งเบาๆ เช่นเดียวกับไอ้วินไอ้นัท
“เป็นเชี่ยไรเนี่ย” ไอ้วินว่าพลางตบกระโหลกไอ้กอล์ฟไปหนึ่งที
“นายสองคนไง” มันว่าพลางชี้นิ้วมาที่ผมและเอก
“อะไรวะ” เอกถาม
“นายสองคนไง คนไปติว” กอล์ฟว่า
“เออใช่” วินกับนัทขานรับกอล์ฟเป็นลูกคู่ทันที ผมส่ายหน้าใส่พวกมัน
“โอ่ยยยย ผมก็ไม่ได้แม่นขนาดน้าน” ผมออกตัวก่อน “ไปขอไอ้แว่นดิค้าบ”
“ช่าย อีกอย่าง ไอ้ต่อมันไม่ว่างหรอก” ไอ้เอกเริ่มพูดเสียงไม่น่าไว้ใจ แต่ไม่ทันที่ผมจะได้หันไปห้ามมัน ความปากไวของมันก็โพล่งออกมาซะก่อนแล้ว “เพราะพี่ไอซ์เค้าชวนมึงไปช่วยเลือกหนังสือสอบตอนเย็นใช่ป่ะว้าาาาา”
“ฮิ้ววววววววววววววววววว”
และก็เช่นเคยที่ไอ้กอล์ฟ ไอ้วิน ไอ้นัท จะหอนรับกันเป็นลูกคู่กันยกใหญ่ ผมเองก็ไม่ได้จะใส่ใจแล้ว สองอาทิตย์หลังจากที่ไอ้โฟล์คยิงคำถามเข้าตรงประเด็นที่มันขุ่นมัวมานานใส่ผมในห้องพักนักกีฬา วันแข่งขันบาสเกตบอลระดับเขต เรื่องของผมกับพี่ไอซ์ ก็ดูจะปิดยากโคตรๆกับเพื่อน ม.5 ห้องนี้แล้ว พี่ไอซ์ออกตัวชนิดล้อฟรี จนผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง ทุกๆเย็นน้ำเปล่าหนึ่งขวดพร้อมกับขนมอะไรซักอย่าง จะถูกส่งมาให้ผมในรูปแบบต่างๆ ทั้งการผ่านน้องม.ต้น ผ่านเด็กชมรมหุ่นยนต์ หนักสุดคือวางไว้บนโต๊ะหลังจากผมกลับมาจาก รด. อันนี้โหดสุด
หลังจากนั้นพี่ไอซ์ก็เข้าหาผมจริงๆจัง แต่ก็ไม่ได้ทำตัวให้เป็นที่น่าจับตาอะไรขนาดนั้น เค้าทำตัวเหมือนรุ่นพี่ที่ดูแลน้องเทคอะไรประมาณนั้นมากกว่า
“เงียบเลยพวกคุณ” ผมพูดปัด ไม่ใช่เพราะเรื่องเขินอายอะไรขนาดนั้น แต่บางทีก็เยอะเกินไปป่ะวะ “คือผมต้องไปเอาหนังสือที่คิโนะอยู่แล้ว ก็เลยจะไปด้วยกันเฉยๆ ไม่ได้เป็นนัดอะไรมากมายขนาดนั้น”
“อ่อหราาาาา” ไอ้เอกเริ่มอีกแล้ว “งั้นก็หมายความว่านายไปติวให้พวกมันได้แล้วดิ”
“หยุดเลยคุณ” ผมชี้หน้าไอ้เอกมัน “ไม่ต้องเลย คุณอ่ะแหละ ไปดิ”
“ไม่ นายอ่ะแหละไป” เสียงไอ้โฟล์คดังขึ้นจากหลังห้อง
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ M2M_Jill

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #1 เมื่อ24-10-2014 11:45:59 »

พวกผมทุกคนหันไปมองหน้ามัน ไอ้โฟล์คหัวหน้าห้องของเรา กัปตันทีมบาส และตำแหน่งอะไรอีกสารพัดของมัน อยู่ในชุดเล่นบาสสีน้ำเงิน เนื้อตัวชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อจากการซ้อมกีฬา มันคงเพิ่งมาจากโรงยิม จงใจมองมาหาผมทันทีหลังจากพูดจบประโยค
“อ้าวไอ้โฟล์ค ซ้อมเสร็จแล้วช้ะ?” กอล์ฟกล่าวทักก่อน “มาก็ดีและ เนี่ย กำลังชวนเอกกับต่อไปติวให้เดอะแกงค์อยู่”
“เออๆ เราไปให้ก็ได้” เอกพูดก่อน พลางมองหน้าผม “แล้วต่อนายจะไปกับพี่ไอซ์ใช่ป้ะ ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เราไปเอง”
มันยังครองตำแหน่งเพื่อนซี้ผมเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ใช่แล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ก็เพราะไอ้โฟล์คนี่แหละ ขนาดตัวอยู่โรงยิม ปากแม่งยังพ่นได้ไกลเกือบจะทั้งระดับ ม.5 ละ และนั่นเป็นสาเหตุที่ผมยังไม่อยากจะเสวนาอะไรกับมันนัก หลังจากวันแข่ง เอกรู้เรื่องพวกนี้ดี
ผมส่ายหน้าแล้วเก็บสมุดของผม โดยไม่สนใจสีหน้าของไอ้โฟล์ค เพื่อนๆคนอื่นไม่ได้รู้เรื่องอะไร ก็คิดว่าการนัดหมายได้จบสิ้นลงแล้ว
“งั้นโอเคเลย จัดไป” กอล์ฟว่า “เห้ยไอ้โฟล์ค เดี๋ยวพวกกูไปรอหน้าโรงเรียน นายจะไปสยามป้ะวะ เรานัดแก้มไว้”
“เออ... ไปหาไรกินด้วย พวกเราน่าจะ....”
ผมปล่อยบทสนทนาของเดอะแกงค์ที่เหลือให้ผ่านหูไป เอกตบไหล่ผมทีนึงพลางยิ้มให้
โอเค....เป็นอันว่ารู้กัน
ผมเดินออกจากห้องไปตามระเบียงทางเดิน ในใจตอนนี้นึกถึงน้ำเย็นๆซักแก้ว กับของอร่อยๆ กลับบ้านไปแม่น่าจะเหลืออะไรไว้รอเขาบ้าง การเจอฟิสิกส์เจ๊ดา กับเคมีสุชาติติดกันคาบบ่าย ทำเอาอ้วกแทบแตก ถ้ากลับถึงบ้านแล้วหลังจากทำอะไรเรียบร้อย ก็คงต้องมานั่งทบทวนอีกซักหน่อย ไม่งั้นกลางภาคเทอมนี้มีปัญหาแน่ๆ และก็คงต้องเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จก่อนเย็นวันศุกร์ เพราะเขาจะได้ออกไปเอาหนังสือกับพี่....
“เห้ย.....เป็นไรเนี่ย” ผมโดนกระชากแขนกลับ ความคิดที่กำลังโลดแล่นถูกกระชากไปไกล แล้วกลับสู่โลกแห่งความจริง ไอ้คนตรงหน้าผมไม่ใช่ใครที่ไหน กลินเหงื่อลอยมาปะทะจมูก เช่นเดียวกับไอร้อนจากร่างกายคนเล่นกีฬาจัดๆ ทำเอาผมแทบอยากจะเมินหน้าหนี
“อะไร” ผมถามมันห้วนๆ
“ก็ที่เดินออกมาเนี่ย เป็นไร” โฟล์คว่า
“เปล่า” ผมตอบ
“ถ้าเปล่า แล้วทำไมไม่ไปติวด้วยกัน” มันถามผมอีก
“ก็ไม่ว่าง” ผมตอบ
“กับพี่ไอซ์ใช่ป้ะ” มันถามผมอีก
“ช่วยถามว่าจะไปไหน หรือทำอะไรก่อนก็ได้ป้ะวะ” ผมตอบมันทันที
“ทำไมวะ กับเพื่อนกับฝูงเดี๋ยวนี้ไม่ว่างแล้ว?” มันเริ่มพูด ผมถอนหายใจอย่างด้วยความเซ็งจิต
“ตลกแดกคุณ ครั้งสุดท้ายที่ผมไปติวกับคุณมันเมื่อไหร่วะคับ” ผมกวนมัน แน่ล่ะ ผมกับมันเคยติวหนังสือด้วยกันที่ไหน “เพราะงั้นใครมันจะติวให้ ก็ไม่ต่างกันหรอก ถ้าไปลากแว่นมาติวให้ ดิ นั่นก็อาจจะมีความต่าง”
มันฟึดฟัดอยู่สองสามทีก่อนจะหันซ้ายหันขวา แล้วลากผมไปชิดกับกำแพง ถึงตรงนี้ผมเริ่มแตะฟีลที่เรียกว่าโมโหละ มันเป็นอะไรของมันวะคับ
“อะไรวะ” ผมถามทันที
“แล้วไปรู้จักกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” มันถามต่อ
“ใคร” ผมถาม
“อย่ามาทำมึน” มันว่าอีก
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางมองหน้ามัน โดยไม่พูดอะไรซักคำ
“เที่ยวไปไหนมาไหนกับมัน ยังไม่ทันจะรู้จักดีเลย ใจง่ายเนอะนายน่ะ” โฟล์คว่า
ผมอ้าปากเพื่อจะหาคำพูดอะไรสักอย่างใส่หน้ามันจนกระทั่ง
“อ้าวน้องต่อ” เสียงพี่ไอซ์ดังขึ้น ขณะเดินลงบันไดมาเห็นผมกับมันอยู่พอดี พี่ไอซ์มองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง โฟล์คมองหน้าพี่ไอซ์กลับโดยไม่ได้พูดอะไร
“มีอะไรกันหรือเปล่าเนี่ย” พี่ไอซ์มองไปมาระหว่างผมกับมัน
“ไม่ครับพี่” ผมพูดก่อน “พี่หาผมเหรอ”
มันหันกลับมามองหน้าผมทันที
“ก็....อ่าหะ” พี่ไอซ์ตอนพลางเกาจมูกตัวเอง
“งั้นไปกันเหอะพี่ ผมหิวน้ำอ่ะ อยากกินอะไรเย็นๆ” ผมผละตัวออกจากไอ้โฟล์คเพลางเดินไปหาพี่ไอซ์
“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร” พี่ไอซ์ถามอีก
ผมหันกลับไปหามันที่กำลังมองผมและพี่ไอซ์สายตาที่แทบจะลุกเป็นไฟ
“ไม่....”
“พี่ไอซ์วันศุกร์พวกผมจะติวหนังสือกัน” ไอ้โฟล์คพูดตัดผมขึ้นมา ผมจ้องหน้ามันทันที “ผมขอตัวแฟนพี่ได้ป้ะ”
   “อ้าว ไม่ว่างแล้วทำไมไม่บอกล่ะครับหึ” พี่ไอซ์ลูบหัวผมเบาๆ “เอาดิ พี่ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยไปวันอื่นก็ได้ ต่อไปกับเพื่อนเหอะ”
   “ไปกันเหอะพี่” ผมพูดกับพี่ไอซ์ ก่อนจะออกตัวเดินออกไปก่อนและจงใจกระแทกไหล่ใส่มันอย่างแรง
   ช่วยไม่ได้ ก็ที่ตรงนี้มันแคบ
   โอเค ตอนนี้ถึงตรงนี้ ฟีลลิ่งผมแตะเกินคำว่าโมโหละ
   
-----------------------------------------------------------------------------------

“คือเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงเว่ยต่อ เราแม่งโคตรอึดอัดเลยว่ะ ที่ผ่านมาสองสามเดือนเนี่ย” โฟล์คมองผมด้วยสายตาเบิกกว้าง คำพูดของมันก้องสะท้อนไปกับความเงียบที่เริ่มเปลี่ยวขึ้นทุกที อากาศก็เริ่มเย็นลงฮวบห้าบ ผมเริ่มกังวลการเดินทางกลับบ้านของผมขึ้นมาบ้างละ คำพูดของโฟล์คตอนตีหนึ่งยี่สิบห้าเริ่มไม่ค่อยเข้าหู
“เราพยายามจะบอกนายหลายครั้งแล้ว แต่นายไม่ฟังเราอ่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายรู้เองด้วยวิธีนั้นนะเว่ย” โฟล์คพยายามอธิบาย “เราไม่รู้ว่านายเกินเลยไปถึงไหนกับมันแล้ว แล้วนายรักมันมากขนาดไหน แล้วนายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่”
ผมยังคงมองหน้ามันนิ่ง ขณะที่มันสาธยายทุกอย่างออกมา
“เราไม่มีสมาธิทำเชี่ยไรเลยซักอย่าง จะแข่งอยู่สามวันละด้วย เรื่องฝึกก็เจ๊ง เจ๊ดาคะแนนก็ต่ำ ยังจะมาเรื่องนี้อีก” โฟล์คว่า “นี่นายเข้าใจกันบ้างป่ะวะเนี่ย”
 “ก่อนจะได้คำตอบจากคนอื่น คุณก็ควรตอบคำถามผมก่อนป่ะคับ” ผมว่า “สรุปเรื่องที่เรียกออกมาอยากจะบอกคือ?”
“ได้....” มันหันหน้ามาหาผม “ต่อ......”
ผมพ่นลมออกมาเบาๆ ผมไม่อยากจะทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเท่าไหร่นัก ว่ามันเริ่มต้นขึ้นมาตรงไหน


-----------------------------------------------------------------------------------

“เข้าใจกันมั่งป่ะวะเนี่ย มันจะต้องมีเรื่องคลื่นในเส้นเชือกก่อน พวกนายต้องแม่นเรื่องนี้ก่อน ไม่งั้นจะไม่เข้าใจเรื่องคลื่นน้ำไง” ไอ้เอกเริ่มสาธยาย ในขณะที่ผมเริ่มจดในกระดานใหม่ พวกไอ้กอล์ฟที่ช้าเรื่องนี้กันมาก่อน ก็เลยบ่นอิดออดที่ต้องติวย้อนหลัง “การหาค่าของเรื่องคลื่น มันจะมีสูตรว่า.....”
พวกผมอยู่กันที่บ้านไอ้กอล์ฟ บ้านมันเป็นห้องแถวขนาดสามชั้นซึ่งเป็นของป๊ามัน ชั้นล่างให้เช่าเปิดเป็นร้านขายของ อีกสองชั้นให้มันครอง ซึ่งมันเองก็มีหน้าที่ดูแลบ้านหลังนี้ไปด้วย ประโยชน์สิ่งเดียวของที่นี่ในสายตาผม ก็คือการมีกระดานไวท์บอร์ดและห้องที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ ซึ่งดูจากสภาพแล้วไอ้กอล์ฟไม่ได้ใช้บ่อยๆแน่ และคงเป็นแหล่งปาร์ตี้ของพวกมันมากกว่า สังเกตุได้จากขวดสีเข้มที่เพิ่งเก็บแบบลวกๆอยู่มุมหนึ่งของบ้าน
อีกอย่างเมื่อพวกผมมาถึง พวกไอ้วิน ไอ้นัท รวมถึงไอ้โฟล์คตัวดี ก็ดูรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนของบ้านดีกว่าผมกับไอ้เอก ก็แสดงว่าพวกมันสี่จตุรเทพ ก็มาที่นี่กันบ่อย
“อ่ะ มันจะมีแบบฝึกอยู่พวกนายลองทำ” เอกว่า “ไอ้วินไอ้นัท นายดูจากสมุดเรา ส่วนไอ้โฟล์คไอ้กอล์ฟ นายดูจากของไอ้ต่อนะ ต่อ ต่อ เอาของนายไปให้มันนะ”
ผมหยิบสมุดตัวเองออกมา และยื่นให้กอล์ฟ ที่รับไปเปิดตรงกลางระหว่างมันกับวิน
“เออไอ้ต่อ ไหนว่าวันนี้ไปกับพี่ไอซ์ไม่ใช่เหรอวะ” ไอ้กอล์ฟถามขึ้น หลังจากทำแบบฝึกอยู่ไปได้พักนึง
“โหย ไอ้กอล์ฟ ไม่นึกออกซะพรุ่งนี้เลยวะ” ไอ้วินแซวข้ามมา “ตรงนี้ได้เท่านี้ก่อน แล้วเอาไปเข้าสูตรนี้ใช่ป่ะเอก อ่า เก็ทละ.......แต่เออ ทำไมติวได้อ่ะ”
ผมไม่รู้จะตอบยังไงดีเหมือนกัน กำลังประมวลผลหาคำตอบที่เหมาะสมจนกระทั่ง....
“มันมาติวให้แล้วก็ดีแล้วนี่ มันก็เลื่อนนัดของมันไปไง พวกนายนี่เยอะสิ่งว่ะ” โฟล์คว่า “คิดเด่ะคิด”
“ใช่คิดดิ” ผมว่าพลางชี้ไปที่สมุดมัน “มันได้เท่านี้ซะเมื่อไหร่ เมื่อกี้ได้ฟังไอ้เอกป่ะเนี่ยคุณ”
โฟล์คมองหน้าผมแว้บนึง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำต่อไป
“เออไอ้โฟล์ค นายต้องเร่งหน่อยนะ นายช้ากว่าคนอื่นไปเยอะนะเว่ย” เอกพูดเสริม
“เออรู้” โฟล์คว่าพลางเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม “เรามันก็...ช้าไปตลอดอ่ะ”
ผมมองหน้ามันกลับ พยายามคิดว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องสอนมันอีก แต่ก็เหมือนกับคำพูดเมื่อกี้ จะทำให้เนื้อหาเรื่องคลื่นหายไปจากหัวผมหมด
ล่วงเลยเวลาไปหลายชั่วโมง หลังจากที่พวกผมนั่งติวกันเสร็จ ผมนั่งทำการบ้านเคมีอยู่เงียบๆที่มุมหนึ่งของห้อง มันก็ดึกมากแล้ว ผมและเอก ก็เลยคิดว่านอนค้างบ้านกอล์ฟไปเลยก็ดีเหมือนกัน พวกมันเสนอจะเลี้ยงมื้อดึกผมสองคนเป็นการตอบแทน ผมกับเอกมองหน้ากันอย่างรู้ดีว่า “มื้อดึก” ของพวกมันนี่ ต้องไม่พ้นลงขวดแน่ ผมโทรบอกที่บ้านเป็นการเรียบร้อย ผิดกับเอกที่ต้องงัดเหตุผลร้อยแปดไปงัดกับที่บ้านอยู่หลายนาทีกว่าจะยอมปล่อยให้มันนอนบ้านเพื่อน
พอพวกไอ้กอล์ฟหอบเอาของกินจากชั้นล่างขึ้นมาได้เท่านั้น ผมเดาได้เลยว่าไอ้เนื้อหาที่สอนๆไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำคงละลายลงขวดกันเช่นเคย ผมน่ะหรือมีเทคนิคหนึ่งที่ทำให้ผมเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้มาตลอด ให้เราถือขวดเบียร์ไว้หนึ่งขวดติดตัว เมื่อของร้อนเข้าไปหนึ่งแก้ว ก็กระดกขวดเบียร์ตามเลยทันที แล้วเราก็บ้วนเอาของร้อนลงขวดเบียร์นั้นซะ เพียงเท่านี้ผมก็จะไม่มีทางเมาแน่นอน
ล่วงเลยเวลาไปเกือบตีหนึ่ง กว่าเสียงเฮฮาจะหมดลง สภาพที่แย่ที่สุดก็คือไอ้เอก มันเคยออกจากบ้านมากินเหล้าเสียเมื่อไหร่ ผมเลยได้แต่แบกมันให้นอนบนโซฟาให้เรียบร้อย ขณะที่ตัวเองก็ช่วยไอ้กอล์ฟจัดการเก็บจานชามทั้งหมดไปล้าง เกรงใจเจ้าบ้านมันน่ะครับ ไอ้วินไอ้นัทไม่ต้องพูดถึง หลับเป็นตาย ส่วนไอ้โฟล์ค บอกขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก มันเป็นอีกคนที่ไม่เมา ซึ่งผมเองก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน ว่ามันรอดพ้นจากแก้วลอยฟ้าของไอ้กอล์ฟได้ยังไง
ผมเอาจานล้างน้ำสะอาดอยู่ได้พักนึง ไอ้กอล์ฟก็ออกจากครัวไปเอาจานอีกล็อตนึงมาล้างต่อ ผ่านเวลาไปซักครู่ก็รู้สึกว่าทำไมไอ้กอล์ฟมันออกไปนานผิดปกติ ผมก็เลยเดินตามออกไป ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังอยู่ชั้นล่าง เสียงอันดังนั้นดูเป็นเสียงที่คุ้นหูดี ก็เลยเดินตามลงไปดูทันที
ร้านขายของปิดแล้ว แต่ประตูเหล็กที่เปิดอยู่ เบื้องหน้าของผมคือไอ้กอล์ฟ ที่พยายามยื้อร่างของไอ้โฟล์คไว้สุดกำลัง และผู้ชายที่สภาพเหมือนโดนโฟล์คแลกหมัดไปเมื่อครู่ผมก็นึกว่าเป็นใครที่ไหน โธ่เอ้ย พี่ไอซ์นั่นเอง
เห้ย.....พี่ไอซ์
ผมออกตัววิ่งไปยังหน้าบ้านแต่ก็ชะงักด้วยคำพูดอันดังของไอ้โฟล์ค
“ที่พี่เข้าหามัน ก็เพราะจะให้มันช่วยเรื่องหุ่นยนต์ใช่ป่ะล่ะ” ไอ้โฟล์คว่า “น้องชมรมพี่มันเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว แล้วก็ไม่ต้องไปถามต่อเลยว่าเป็นใคร ถ้าพี่ไปทำอะไรน้องคนนั้นล่ะก็ ผมจะไปบอกอาจารย์ ว่าไอ้โปรแกรมที่พี่โค้ดลงหุ่นยนต์ตอนแข่งรอบที่แล้ว พี่ไม่ได้เขียนเอง”
ถึงตรงนี้ผมแอบเข้าหลังชั้นวางของทันที โฟล์คกำลังพูดถึงเรื่องอะไรของมันวะ
“เห้ย พูดเรื่องอะไร อย่ามามั่ว” ไอซ์ตะคอกใส่โฟล์คทันที
“ไอ้คนที่โค้ดให้พี่ เป็นเด็กโรงเรียนอื่น ผมมีหลักฐาน” โฟล์คว่า “ผมไปแข่งมาหลายโรงเรียนเพื่อนผมมีเยอะ เส้นสายผมก็มี เรื่องอะไรที่พี่ทำไว้ อย่านึกว่าคนอื่นเค้าจะไม่รู้”
“เห้ยไอ้โฟล์คใจเย็น” กอล์ฟรีบห้ามปราม
“พี่หลอกใช้มัน เพราะรู้ว่าไอ้ต่อมันเก่งฟิสิกส์ แข่งหุ่นยนต์ปีนี้นี้ชมรมพี่ไม่เหลือตัวเก็งแล้ว” โฟล์คว่า “พี่จะเอามันไปก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่พี่ตอบผมมาก่อนว่าเรื่องนี้พี่ไม่ได้พูด”
มันหยิบมือถือมันออกมาแล้วกดเปิดไฟล์เสียงทันที

“จริงๆ กูไปดูคะแนนเจ๊ดามาแล้ว น้องต่อม.5 แม่งตัวเก็งว่ะ”
เสียงของพี่ไอซ์ดังชัดเจน ชนิดที่ว่าหลับตาฟังก็ฟังออก
“มึงไปให้มันมาเขียนอัลกอรึทึ่มเลย ไม่งั้นปีนี้อดถ้วยแน่”
“ยังไงวะ แม่งอยู่ห้องไอ้เชี่ยโฟล์คด้วย กลุ่มนี้แม่งเข้าถึงยากจะตายห่า”
“น้องต่อที่ติ๋มๆหน่อยป่ะวะ แม่งเป็นเกย์เชื่อกู มึงอ่ะเข้าไปจีบแม่งดิ”
“เห้ย จะดีเหรอวะ”
“จะเอาป่ะล่ะถ้วยอ่ะ”
“เชี่ย....”
เสียงเงียบไปพักนึง
“เออ เออ......ลองหน่อย ก็ไม่มีไรเสียหายนี่หว่า อย่าให้เมียกูรู้ก็แล้วกันนะมึง”

อืมมมม.....
ผมยอมรับว่าขนลุกไปทั้งตัวเหมือนกัน ไอ้โฟล์คไปได้เสียงนี่มายังไงกัน ที่แน่ๆ พี่ไอซ์ทำผิดอยู่สามเรื่องเท่าที่ผมจะนึกออก
เรื่องแรก ผมไม่ได้เก่งอัลการิทึ่ม คะแนนนั้นฟลุ๊คโคตรๆ ความรู้ตอนนั้นผมส่งคืนเจ๊ดาไปพร้อมข้อสอบแล้ว
เรื่องที่สอง พี่ไอซ์ทำลายความเชื่อใจของผมลงไปเยอะทีเดียว เป็นอันว่าคำพูดดีดี เรื่องดีดี มีเบื้องหลังสินะ
และเรื่องที่สาม นี่เขาคิดว่ามาทำดีกับผมหน่อย ผมจะยอมเขียนโค้ดยากๆให้เค้าเลยเหรอวะคับ
ทึ่งความคิดเด็ก ม.6 ไปพักนึงทีเดียว

“ห้องน้ำโรงยิม ก่อนวันที่ผมจะไปแข่งระดับเขต” ไอ้โฟล์คพูด “จะพูดอะไร ก็หัดคิดว่าจะมีใครอยู่โรงยิมดึกๆบ้าง”
ไอซ์มองหน้าโฟล์คอย่างโกรธขึ้ง เขาขำน้อยๆก่อนจะหัวเราะ
“อ่อ...อย่างนี้นี่เอง” พี่ไอซ์แค่นเสียงหัวเราะ “มึงสองคนเป็นแฟนกันสินะ”
ยังไม่ทันจบประโยคดีโฟล์คก็ถลาเข้าหาพี่ไอซ์อีก แต่กอล์ฟคว้าไว้ทัน
“เห้ยไอ้โฟล์คพอ ไม่คุ้มหรอก” กอล์ฟว่า โพล์คเย็นลงได้บ้างเท่าที่ผมมองเห็น “พี่อ่ะกลับไปเลย พวกผมไม่พูด พี่ก็คงไม่พูดใช่ป่ะ”
พี่ไอซ์มองหน้ากอล์ฟพักนึง
“งั้นก็ดูแลเพื่อนมึงให้ดีละกัน” พี่ไอซ์ว่า “เสียเวลาชิบ”
เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินหายไปจากหน้าบ้าน โฟล์คเป็นคนเรียกเขามานี่เอง
“เชี่ยโฟล์ค ทำไรไม่บอกวะ” กอล์ฟว่า “มิน่าล่ะ พวกเราดื่มกันไม่ดื่ม โทรไปเรียกเค้ามาต่อยถึงบ้าน เจริญละบ้านเรา”
“ก็ดูมันทำดิกอล์ฟ” โฟล์คว่า
“นี่ถ้าเป็นเราโดนไม่ใช่ไอ้ต่อโดน นายจะห่วงเราอย่างนี้ ปกป้องเราขนาดนี้ป่ะวะ” กอล์ฟว่า โฟล์คถึงกับเงียบทันที พลางมองหน้าเพื่อนสนิท “ไอ้โฟล์คดูหัวเรา เราไม่ได้มีเขามีลูกตาด้วยคับสองข้าง ไม่ใช่ดูไม่ออก”
ซวยละ นี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมแน่ๆ มันต้องไม่ใช่อย่างนั้นนะเห้ย
“ตอบมาสั้นๆเลยโฟล์ค ใช่หรือไม่ใช่” กอล์ฟว่า “นายชอบไอ้ต่อใช่ป่าว”
และแล้วก็เข้าสู่ความเงียบ เงียบจนผมได้ยินเสียงกุกกักอยู่ในซอกตู้ มันต้องเป็นหนูแน่ๆ ไอ้กอล์ฟ บ้านคุณมีปัญหาเรื่องสุขอนามัยชัวร์
ซวยแล้ว!!!
“ถ้าบอก แล้วนายจะเป็นเพื่อนเราเหมือนเดิมป้ะ” โฟล์คว่า
ซวยจริงๆแล้ว!!!
“ตั้งแต่ม.4” โฟล์คตอบ
เคล้ง!!!!
ผมรู้ตัวอีกที ก็ทำเอาโหลฮาร์ทบีทจากชั้นวางของร่วงลงพื้นไปแล้ว ทั้งโฟล์คและกอล์ฟหันมามองผมทันที ไอ้กอล์ฟหน้าซีดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่โฟล์คมองผมเหมือนไม่เคยมองผมมาก่อน ผมไม่เคยเห็นแววตาแบบนั้นจากเพื่อนคนไหนมาก่อนเลย
หรือเว้นเสียแต่ว่าสายตาแบบนั้น ไม่ใช่แบบเพื่อนจะมองกัน
“สำหรับคำถามนายเมื่อกี้ คำตอบคือยังไงเราก็เพื่อนกันอยู่แล้ว” กอล์ฟพูดแม้ว่าตาแทบถลน “แต่เราเดาว่านายยังไม่ต้องการเราตอนนี้ชัวร์.....ไปล้างจานต่อก่อนล่ะ”
ก็ใช่ว่าการหลบฉากไปของไอ้กอล์ฟจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ผมมองหน้าโฟล์คอย่างไม่มีอะไรจะพูดกับมันอีก ผมไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

-----------------------------------------------------------------------------------

ซวยแล้วนี่ตีสอง รถหมดแบบสมบูรณ์ ถนนโล่งชนิดที่เรียกว่าไปเดินกลางสะพานได้เลย
“นายฟังอยู่หรือเปล่า” โฟล์คถามผม
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ โทษ” ผมยอมรับว่าผมได้ยินสิ่งที่มันพูดไปเมื่อกี้ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมไม่มีคำตอบให้
มันหลบตาลง
“เราถามว่า นายยังจะคบกับพี่ไอซ์อยู่มั้ย” โฟล์คถามอีกครั้ง
ถึงตรงนี้ สงสัยผมต้องชัดเจน แล้วเลิกทำให้มันฟุ้งซ่านกับเรื่องที่มันก็คงอึดอัดมาหลายอาทิตย์
เรื่องของผม.....
ผมมองหน้ามันพลางเอื้อมมือไปวางบนไหล่มันทันที
“โฟล์ค เอาจริงๆป้ะ” ผมพูดเสียงจริงจัง “สำหรับคำถามแรกเลยว่าผมยังโกรธคุณอยู่มั้ย ผมไม่ได้โกรธคุณ และไม่เคยคิดจะโกรธด้วย ที่ผมไม่ได้พูดอะไรกับคุณเลย ก็เพราะว่าผมไม่รู้จะพูดอะไร เรื่องพี่ไอซ์ก็เหมือนกัน”
มันมองหน้าผมแล้วฟังอย่างตั้งใจ
“ตอนแรกที่คุณถามผมวันแข่ง ว่าพี่ไอซ์เค้าชอบผมหรือเปล่า ที่ผมตอบไม่ได้ ก็เพราะผมไม่ใช่พี่ไอซ์ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเค้ามาตีสนิทผมเพราะชอบผม หรือว่าอะไร คุณเล่นถามผมเรื่องของความคิดคนอื่น ผมจะไปรู้ได้ไง แล้วคุณก็ตีสรุปคำตอบเอาเองว่าผมเป็นแฟนเค้า ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลยซักกะนิด” ผมว่าต่อ “ถ้าผมจะโกรธ ก็คงมีแค่ที่คุณเที่ยวบอกพวกไอ้วิน กับไอ้นัทหลังจากวันแข่ง ว่าผมกับเค้าเป็นแฟนกัน และที่ผมโกรธคุณมากขึ้นไปอีก ก็ตอนที่คุณบอกว่าผมเป็นแฟนเค้าต่อหน้าเค้าเย็นวันนั้น ตอนนั้นผมโคตรโกรธเลย เพราะอะไรรู้ป้ะ”
โฟล์คส่ายหน้า
“มันมีเหตุผลนะเว่ย ว่าทำไมสมุดผมถึงไปถึงคุณตลอด เวลาคุณไปแข่ง” ผมพูดอย่างชัดเจน “คุณไม่แปลกใจเลยอ่อ ว่าทำไมคุณถึงอ่านรู้เรื่องเฉพาะกับสมุดของผม”
โฟล์คมองหน้าผมด้วยสายตาเบิกกว้าง
“แล้วมันก็เหตุผลที่ผมไปดูคุณแข่งทุกนัด และทำสวัสดิการทุกนัด” ผมว่า “คิดไม่ออกเลยเหรอไง”
“ต่อ” มันพูดเสียงสั่น
“ใครมันจะยอมออกมาหา มายืนฟังคนฟุ้งซ่านพ่นเชี่ยอะไรก็ไม่รู้เป็นชั่วโมงตอนตีหนึ่งวันจันทร์มั่งวะ” ผมว่า “เป็นไอ้กอล์ฟมันจะทำป่ะล่ะคุณ”
รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นบนหน้าของไอ้นักบาสตัวแสบ
“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น บอกตรงๆก็.....ไม่รู้จะพูดยังไง” ผมว่าต่อ “ก็ถ้าคุณเคยชอบใครซักคน แล้วคิดมาตลอดว่าแม่งคงไม่มีหวัง แต่อยู่ดีดีวันนึง ก็ได้เห็นว่าเค้ากำลังทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคุณอยู่ แล้วก็บอกว่าชอบคุณมานานแล้วพอกันอีก คุณคิดว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะทำหน้ายังไงล่ะครับคุณโฟล์ค”
“ก....ก...ก็คงทำหน้าเหมือนผมตอนนี้มั้ง” โฟล์คกระพริบตาถี่ๆพลางอมยิ้ม
อืมมมม....มันไม่ได้โง่สินะ
“เมื่อกี้คุณพูดว่า ผม เหรอ” ผมถามมัน ผมเองก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน ว่าพูดอะไรออกไป
“ทำไมอ่ะ” มันถามกลับ
“เห้ย พูดแบบปกติที่คุณเคยพูดเหอะ อยู่ดีดีมาเปลี่ยนเพื่อ” ผมว่า “มันไม่น่าไว้ใจน่า”
“แล้วคุณรู้ได้ยังไง ว่าพูดปกติแล้วจะแปลว่าไว้ใจได้” มันยิ้มเจ้าเล่ห์ “เราสองคนไว้ใจกันได้ซะทีเหอะต่อ ผมว่าเราเสียเวลากันมากพอแล้วมั้ง”
มันพูดก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดทันที
ถึงตรงนี้ ผมคิดว่า ผมได้ชัดเจนในสิ่งที่ต้องชัดเจนแล้วล่ะ
อ่ะใช่....ผมดีใจที่มาถึงจุดนี้จนได้ ตรงกลางสะพานพุทธตอนตีสองเนี่ยแหละ
“งั้นเราจะพูดแบบนี้กับนายคนเดียวก็แล้วกัน” ผมพูดเบากระซิบข้างหูมัน รับรู้ได้ทันทีว่าผมถูกกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ขอบใจนะต่อ ขอบใจมากนะ” โฟล์คพูดเสียงสั่น
ผมไม่ได้นึกภาพว่านี่จะเป็นบทสรุปที่โรแมนติกอะไรขนาดนั้น เพราะผมไม่รู้ว่าเรื่องของผมกับมันเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และผมก็ยังเชื่อว่า เรื่องงงงวย แบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ก็คงดำเนินต่อไป
เรื่องของผมกับมัน.....
ผละออกจากกันหลังจากกอดกันอยู่นาน มันทำทีเขินเล้กน้อย เช่นเดียวกับผมที่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“มีอะไรจะพูดอีกป่ะ ถ้าไม่มี...ร....เรากลับล่ะ” ผมพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปอีกด้านหนึ่งของสะพาน
“เห้ย นั่นฝั่งโรงเรียน บ้านคุณอ่ะฝั่งธนเห้ย” มันกระชากแขนผมกลับ “ทำไม อยากไปอยู่ดูผมซ้อมเหรอค้าบ”
“พอเลย จะกลับไปนอน” ผมว่า พลางเดินก้มหน้าหลบความแดงก่ำไปอีกด้านนึงของสะพาน ซวยละ ผมไม่น่าชัดเจนเลย สติเริ่มไม่อยู่กับตัวละ พรุ่งนี้มีเคมี กับแมทต้องแลคเชอร์ คราวนี้คงต้องละเอียดหน่อย เพราะใครบางคนจะติดซ้อม และยังวิชา....
“ต่อ....” มันตะโกนเรียกผมอีกครั้ง “แล้วถ้าผมถามอะไรอีกอย่าง นายจะตอบป่ะล่ะ”
“อะไร” ผมตะโกนถามมันอีก
“คบกันมั้ย” เสียงของมันดังเข้ามาถึงหัวใจผม ผมยิ้มให้มันครั้งนึง ซึ่งคงไกลเกินกว่ามันจะเห็นแล้ว
“แข่งวันศุกร์ เราคงไปดูไม่ได้นะโฟล์ค” ผมตะโกนตอบมัน มันเงียบไปทันที “ตัวแสบบางตัว แม่งคะแนนวิชาเลขตก ต้องนั่งทำแลกเชอร์ให้เพิ่มอ่ะ ไม่โกรธกันนะ”
“งั้นผมขอ 4 บทเลยน้าาาา” มันว่าพลางวิ่งกลับไปที่โรงเรียนทันที “รักนะเว่ยยยยยยยย”
เสียงของมันหายไปกับสะพานทันที
จะว่าไปพี่ไอซ์ก็พูดถูกแล้วอย่างนึง
เราสองคนเป็นแฟนกัน.......

-----------------------------------------------------------------------------------

END.

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #2 เมื่อ17-12-2014 00:36:51 »

ชอบเรื่องนี้ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #3 เมื่อ21-12-2014 21:51:17 »

ไม่หวือหวา แต่น่าสนใจจริงๆ
ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ Kalamae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #4 เมื่อ21-12-2014 22:39:14 »

น่ารักมากๆค่ะ
เรียบๆกินใจ อะไรจะสุขเท่ารู้ว่าใจเราตรงกัน
^^ ชอบเรื่องนี้

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #5 เมื่อ22-12-2014 12:36:11 »

เรื่องนี้น่ารักมาก ชอบตอนท้าย อ่านแล้วอบอุ่น  :-[ :-[

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #6 เมื่อ22-12-2014 15:42:16 »

อบอุ่นมากค่ะ เนื้อเรื่องเขียนได้เคลียร์ ไม่งง ชอบมากๆค่ะ
อ่านไปยิ้มไป ><

ออฟไลน์ DZiik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #7 เมื่อ26-12-2014 18:27:27 »

น่ารักจังเรื่องนี้

ออฟไลน์ stormphoenix

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-3
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #8 เมื่อ27-12-2014 03:52:30 »

แอร้ยยยย กรี้ดดดดดน่าร้ากกกเว่ออๆๆ❤️❤️❤️❤️

ออฟไลน์ ไม้เลื้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #9 เมื่อ10-01-2015 20:36:22 »

น่ารักม๊วกๆๆ  อุ่นหัวใจเลย

 :o8: :o8: :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
« ตอบ #9 เมื่อ: 10-01-2015 20:36:22 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #10 เมื่อ18-01-2015 04:24:33 »

น่ารักมากๆเลยค่ะ ไม่หวือหวา เรียบง่าย

แต่ไหลลื่นมากๆ เหมือนมีอารมณ์ความรู้สึกแทรกอยู่ในทุกบรรทัด

ดีใจที่ได้อ่านนะคะ

ติดตามผลงานชิ้นต่อๆไปค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ tawanchai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #11 เมื่อ18-01-2015 19:31:32 »

So cute ..please special part :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: [Short Story] The Bridge ตีสองวันจันทร์!!!!!
«ตอบ #12 เมื่อ12-04-2015 19:07:21 »

น่ารัก ....

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด