Look addict แอบหลงลักษณ์---- [4] UP++28/9/2018 P.1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [4] UP++28/9/2018 P.1  (อ่าน 4553 ครั้ง)

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

คงทำได้แค่แอบหลง 'รัก'

ด้วยเพราะรูป 'ลักษณ์' ที่ต้องเจียมตัวไว้

ก็คงต้อง 'รักษ์' ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน?ต่อไป เพื่อให้ผมได้อยู่ใกล้ๆเขาให้นานที่สุด



แนะนำตัวละคร



เวย์ - วิทยาศาสตร์
ผมอ่ะคบคนที่นิสัย...
นิสัยขาว สวย หุ่นดี ถ้าให้ดีมีรางวัลการันตีได้ขึ้นเพจ cute boy & girl ล่ะก็...พร้อมยกตำแหน่งแฟนให้เลย!

'คนหล่อก็ต้องคู่กับคนสวยสิวะ'




ต่าย (เต่า) - วิทยาศาสตร์ ปี 1
ผมอ่ะแอบรักมัน...
เพื่อนๆอ่ะมักเรียกผมว่าไอ้ดำ ไอ้เหยิน ไอ้แห้ง ไอ้เอ๋อ ส่วนมันอ่ะเรียกผม...ไอ้เต่า
เออ! เบ้าหน้าเห่ยๆอย่างผมนี่แหละแอบรักเดือนมหาลัย!

'ขอโทษนะ ที่ทำให้อับอายที่มีคนควายๆอย่างกูมาหลงรักมึง'




อ้น - วิทยาศาสตร์ ปี 1
ผมอ่ะมีแค้นฝังใจ...
รักแท้มันแพ้เงิน

'นี่ไงกูมีเงินแล้ว แก้ผ้าสิ'



กาแฟ (นมเย็น) - เภสัชศาสตร์ ปี 1
ผมอ่ะสร้างแผลในใจใครบางคนไว้...
ตอนนั้นผมยังเด็ก ผมอยากมีอยากได้เหมือนคนอื่นเขา ผมผิดตรงไหนกัน

'ตอนนี้เรารู้แล้วว่านายคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา'



กัปตัน - วิทยาศาสตร์การกีฬา ปี 1
ผมอ่ะอยากเจอคนที่รับได้ในตัวตน...
ใครๆก็เข้าหาผมเพราะว่ารวย หน้าตาดี มีซิกแพค แต่จะมีสักกี่คนที่รับในตัวตนของผมได้

'หึ น่าสมเพช'





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-09-2018 14:42:42 โดย mod-cup »

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
Re: ----เฟรชชี่ปีเก๋า---- [1] UP++17/10/2014 P.1
«ตอบ #1 เมื่อ17-10-2014 17:32:58 »



บทนำ


“ไปด้วยกันไหม”


ผมเงยหน้ามองบุคคลตัวสูงที่ก้าวมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วส่งยิ้มบางให้อย่างเป็นมิตร ขณะที่ผมก็เลื่อนสายตามองไปยังป้ายสี่เหลี่ยมระดับหน้าอกที่ถูกห้อยแขวนคอเอาไว้ซึ่งมีขนาดและลวดลายเหมือนของผมเป๊ะ จะต่างก็เพียงชื่อบนป้ายเท่านั้น


อ่า... อยู่สาขาเดียวกันนี่หว่า


ผมเม้มปากอย่างชั่งใจแต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปกับเขาตามคำชวน ก็ดีกว่าไปสายเพราะหลงที่หลงทางล่ะวะ


ไอ้คนที่เดินอยู่ข้างๆก็คงต้องเป็นเพื่อนร่วมสาขากันในอนาคต  บุคลิกท่าทางดูดีคล่องแคล่วน่าจะเป็นคนกรุงเทพฯ คงพอจะช่วยเด็กบ้านนอกคอกนากู้เงิน กยศ. มาเรียนในเมืองหลวงอย่างผมได้ไม่มากก็น้อย ดูท่าก็เป็นคนหน้าตาดีมีน้ำใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่เข้ามาทักผมที่ยืนเซ่อเคว้งคว้างอยู่กลางมหาวิทยาลัยหรอก


“ชื่อต่ายเหรอ” มันคงอ่านเอาจากป้ายชื่อคล้องคอผมที่รุ่นพี่เขียนให้ในวันรายงานตัว ผมพยักหน้าแล้วถามมันกลับ


“นายก็ชื่อเวย์” มันพยักหน้ายิ้มๆ ส่วนผมก็รู้สึกขัดปากนิดๆ ตอนอยู่สุพรรณฯไม่เคยหรอกมาเรียกเพื่อนนงนายอะไรแบบนี้ แต่มันก็ไม่เหมาะใช่ไหมล่ะที่จะมาเรียกกูๆมึงๆกับเพื่อนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก “บ้านอยู่กรุงเทพฯเหรอ”


ผมชวนมันคุยก่อนบ้างเพื่อไม่ให้ระหว่างเดินเกิดความเงียบ


“รู้ได้ไง” มันหันมายิ้มทำหน้าสงสัย


“เดา”


“ฮ่าๆ”


แล้วมันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างคนอารมณ์ดี แต่ผมว่ามันบ้ามากกว่า เอ้อ...อะไรจะน่าขำปานนั้นแค่ผมทายถูก ก็บุคลิกท่าทางการแต่งตัวมันให้นี่หว่า


“แล้วต่ายอ่ะ”


“คนสุพรรณฯ”


“อ้อ ถึงว่า ฮ่าๆ”


ขำอีกละ


จะว่าไปหน้าตามันก็ดูขัดกับเสียงหัวเราะบ้าบอมากไปหน่อย ไม่รู้สิ ผมว่าหน้ามันออกแบดๆ ดวงตาเรียวยาวเหมือนลูกคนจีนแต่ไม่ตี่นะออกไปทางคมดุมากกว่า จมูกก็โด่ง ปากเหยียดตรงที่ผมเดาว่าถึงมันจะทำหน้าตาเฉยๆก็มีคนพร้อมจะมีเรื่องกับมันเพราะหน้าตาพร้อมเรื่องมีมาก นี่ถ้าเมื่อกี้ไม่ยิ้มเดินเข้ามาหาผมก็คงคิดว่าโดนหาเรื่องเป็นแน่แท้


ส่วนผิวถึงจะขาวเว่อร์เหมือนอัดคอลลาเจนไปสักสิบกระปุกแต่รูปร่างกำยำเหมือนนักกีฬากับส่วนสูงที่น่าจะเกินร้อยแปดสิบก็ทำให้ดูเป็นผู้ชายสปอร์ตแมนเสียมากกว่า  จะมีก็แค่ทรงผมที่มันเรียกว่าทรงอะไรนะ ไอ้รุ่งเพื่อนสมัยมัธยมฯเคยบอกไว้แต่มันติดอยู่ที่ปาก ที่มันไถข้างไล่ขึ้นมาแล้วปล่อยยาวๆไว้กลางศีรษะ อืม อันเดอร์แวร์ ไม่ใช่สินั่นมันกางเกงในแล้ว อ้อ อันเดอร์คัต!!


แต่มันไม่เซ็ตผมนะปล่อยตามธรรมชาติ ผมสีดำเลยลงมาปรกหน้าผากคล้ายๆหน้าม้าซอย เออ มาเดินคู่กับมันหมาเลยสิกู


ก็ไอ้ผมมันคนภาคกลาง อย่าๆ อย่ามาเล่นมุกเป็นคนทุกที่กับผมนะ มันเก่าไปแล้ว จำได้ว่าเล่นมุกนี้มาตั้งแต่ ป.1 เพราะงั้นผมหวังว่าพวกคุณจะไม่เอามุกเก่าเต่าล้านปีมาเล่นอีกเพราะนอกจากมันจะไม่ฮาแล้วยังแป้กบรรลัยโลกอีกด้วย


กลับเข้าเรื่องเถอะก่อนที่มันจะออกอ่าวมะนาวทะลุเข้าอ่าวไข่ เฮ้อ ถึงไหนแล้วนะ อ้อ ผมมันคนสุพรรณฯ ทำงานตากแดดทั้งวันจนตัวฉันนั้นมันดำปิดปี๋...ดำจริงคัรบ ไม่ใช่แค่เล่นมุกร้องเพลง คือถ้าเอาแถบวัดสีผิวบนซองครีมบำรุงมาวัดล่ะก็...ไอ้เวย์เพื่อนใหม่ผมอยู่เบอร์หนึ่ง ส่วนผมนี่ไม่มีแม้แต่แถบจะให้วัด เวรแต่กรรมยังไม่หมดบวกกับไอ้หุ่นขี้ก้างของผมที่ไม่รู้ว่าได้มาจากกรรมพันธุ์หรือตอนเด็กๆไม่ยอมกินนมแจกฟรีของโรงเรียนกันแน่ มันถึงได้ทั้งแคระทั้งแกรน


ตอนอยู่บ้านนอกก็ไม่รู้สึกนะก็เท่าๆกันกับเพื่อน ร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร แต่พอเข้าย่างกรายเข้ามาในพื้นที่เจริญแล้วเท่านั้นแหละ...ขี้ยาดีๆนี่เองกู


ก็มีคนที่สูงพอๆกับผมนะ แต่เขาก็หุ่นดูดีไง เฮ้อ


 อย่างว่าแหละครอบครัวมีอาชีพทำนาปลูกข้าวหาซื้อเหล้าแดก เห็นแม่ด่าพ่อแบบนี้ แต่ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างที่แม่ว่าสักนิด ขายข้าวได้เงินมาเท่าไหร่พ่อก็ให้แม่หมด จะมียักยอกก็ร้อยสองร้อยไว้ซื้อน้ำตรารวงข้าวจิบวันละกึ๊บสองกึ๊บให้พอร่างกายคนแก่กระชุ่มกระชวยพร้อมรับกับงานหนักตลอดปีบ้างก็เท่านั้น


ส่วนคุณนายนาข้าวก็นั่งนับเงินเป็นฟ่อน ที่พอหักต้นทุนออกแล้วก็เหลือกำไรเท่าหยิบมือ เอาเงินไปฝากธนาคารทีไรไปทำอีท่าไหนไม่ทราบได้สลิปเงินกลับมาเป็นตรงโต๊ดบนล่างทุกที ยิ่งช่วงใกล้วันที่ 1 กับ 16 ของทุกเดือนนะ แม่เจ้าพระคุณเอ๊ย!! โพยยาวเป็นคลองแสนแสบเอาแอบตำรวจแทบไม่ทัน


ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมที่สอบมหาวิทยาลัยติดมาแบบดีใจผสมมึนงง มุ่งมั่นตั้งใจมาร่ำเรียนด้วยสำนึกบุญคุณทุนกู้ยืมเรียน กยศ.ของรัฐบาล จะอาศัยพ่อแม่ส่งเสียอย่างเดียวก็คงจะไม่ไหวเพราะจะต้องส่งพี่สาวผมเรียนพยาบาลอีก ถึงพยาบาลจะมีเงินทุนให้แต่มันก็ไม่พอใช้หรอกครับ ดังนั้นผมกู้ยืมเงินรัฐบาลมาใช้ก่อนค่อยผ่อนคืนทีหลังคงจะดีกว่า


 “อยู่บ้านไร”


“ห๊ะ!!”


“ก็ถึงแล้ว นู่น” แล้วมันก็เพยิดหน้าไปทางรุ่นพี่กลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าตึกสาขาล้อมรอบบรรดารุ่นน้องในชุดนักศึกษา(ก็รุ่นเดียวกับผมนี่แหละ)ที่นั่งเรียงแถวตอนประมาณแปดแถว ผมก็ถึงกับบางอ้อ มัวแต่เดินคุยเดินคิดอะไรเพลินๆเลยไม่สังเกตว่าถึงจุดนัดแล้ว ความจริงผมจำไม่ได้ด้วยแหละว่าตึกนี้ แหะๆ


ส่วนบ้านที่มันว่าคงหมายถึงบ้านที่รุ่นพี่แจ้งไว้ว่าแต่ละคนจะมีเลขบ้านในวันรับน้อง


ใช่ครับ วันนี้วันแรกของการรับน้อง ของการเป็นเฟรชชี่ของผม


เฟรชชี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม


“อร๊ายยยย มีน้องมาเพิ่มอีกสองคน พี่บ้านมารับหน่อยเร๊วววววววว”


“น้องเวย์ชื่อจริงอะไรคะ พี่จะดูให้ว่าอยู่บ้านอะไร” พี่กะเทยสวยเดินผ่านผมโฉบไปหาไอ้เวย์ เอ่อ เลยผมไปเลยนะพี่ ยังไม่มืดสักหน่อย มองไม่เห็นผมเหรอครับ!


“เวทิศครับ”


“น้องต่ายล่ะคะ” ขอบคุณครับที่ผมยังอยู่ในสายตา


“กณิศพลครับ”


พี่กะเทยสวยเปิดกระดาษเอสี่ในมือไล่สายตาไปตามรายชื่อก่อนจะยิ้มกว้าง


“อ้าว พี่บ้านห้ามารับน้องทั้งสองคนหน่อยเร็ววววว”









ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: ----เฟรชชี่ปีเก๋า---- [1] UP++17/10/2014 P.1
«ตอบ #2 เมื่อ17-10-2014 19:08:40 »

เปิดเรื่องมาสนุกน่าติดตามมาก
รอติดตามนะคะ
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ Raiwyn

  • - ไรวิน -
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เวย์จีบเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ต่ายต้องมีดีอะไรสักสองสามอย่างละว่ะ ยังไม่หมดหวัง ตัวดำมาอยู่กรุงเดี๋ยวก็ขาวหนูเอ้ย  :heaven

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เปิดเรื่องมาน่าสนใจมากๆ

ไม่เอาแบบบีบหัวใจตอนใกล้จบอีกนะ :hao4:

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

 :mc4:  :mc4:

มารอเรื่องใหม่จ้าาาา  :กอด1:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
มาติดตามเรื่องใหม่จ้าา
 :L2:

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
ตึงตึงโป๊ะ... งานนี้มันใช่จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ eye_gun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่าสนใจ  น่าติดตาม ทุกเรื่องที่อ่านถือว่ายอดเยี่ยมทุกเรื่อง  รอติดตาม และเป็นกำลังใจนะจ๊ะ :L2:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :pig4: รอติดตามคนดำเจ้าเสน่ห์

ออฟไลน์ M@5teR I[K][K]I

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
เหมือนว่าจะต้องทำป้ายไฟรอนะ   :katai2-1:

คือ คนสูงขาวกับเตี้ยดำ เหมือนจะฉีกนิยามคู่จิ้น(?)เลย   :-[

/ อยากรู้จังคนเขียนนึกชื่อได้ไง อ่านมาหลายเรื่องแล้วชื่อแบบดูไม่โหล
น่าประทับใจจนเอาไปตั้งชื่อลูก   :laugh:

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
Look addict 1


การรับน้องของวันเป็นไปอย่างสนุกสนาน ที่เขาลือๆกันว่าวิดยารับน้องโหดผมไม่เห็นเจอแบบนั้น มีแต่ให้เล่นเกมกระชับความสัมพันธ์ มีพี่ๆสันทนาการเต้นให้ดูหรือไม่ก็ดึงๆพวกเราออกไปเต้นบ้างให้แก้อาย ผมก็โดนดึงออกไปครั้งหนึ่งตอนเล่นเกมส่งต่อกระป๋องแป้งแล้วเพลงมาหยุดที่ผมพอดี ก็ออกไปเต้น...แต่ไอ้ผมมันคนเขินอายจะให้มาเต้นยักย้ายส่ายสะโพกเด้งหน้าเด้งหลังอย่างที่พี่เขาเต้นให้ดูก็หน้าร้อนผ่าวๆ เลยได้แต่ยักเอวเบาๆตามแบบฉบับน้องใหม่

นึกไปถึงตอนแก้ผ้ายืนเรียงแถวกับเพื่อนๆบนสะพานไม้สมัยมัธยมฯ เอวมือสองข้างท้าวเอวแล้วหมุนให้เจ้าหรรษาน้อยกวัดไปแกว่งมาก่อนจะกระโดดตูมลงน้ำคลองเบื้องล่าง ทีอย่างนั้นล่ะไม่เห็นอาย...เฮ้อ...คงแปลกที่แปลกทางสินะ

“เข้าห้องน้ำป่ะ” ไอ้เวย์เพื่อนใหม่หมาดๆในสาขาคนแรกของผมเอาศอกกระทุ้งถาม ผมพยักหน้าเดินตามมันไป ตอนนี้เพิ่งทานข้าวกลางวันเสร็จ พี่ๆเลยให้พักทำธุระส่วนตัวสิบนาทีก่อนจะมารวมตัวกันเพื่อเริ่มกิจกรรมตอนบ่าย

โป๊ก!!

“เฮ้ย”

“โทษๆ” ผมผละตัวออกห่างคนที่เดินชน มัวแต่เดินก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำที่ไอ้เวย์สะบัดเลอะกางเกง เลยไม่เห็นเพื่อนอีกคนที่เดินสวนเข้าห้องน้ำมา

“ไม่เป็นไร แต่คราวหลังระวังหน่อยนะไอ้เตี้ย” อ้าว ปากหมานี่หว่า ขอมองหน้าหน่อยเหอะ

พอผมเงยหน้าขึ้นมันก็ยักคิ้วแสยะยิ้มกวนตีนรออยู่แล้ว เหมือนรู้ว่าผมจะไม่พอใจ อ้าว มึงตั้งใจด่ากูนี่หว่า

ผมโกรธนะแต่รู้เลยว่าสายตากับสีหน้าที่มองมันคงออกแนวหน้ามึนซะมากกว่า เพราะผมเป็นคนเชื่องๆแสดงสีหน้าไม่ค่อยเก่ง ส่วนไอ้คนตรงหน้าออกทั้งสีหน้าแววตาและท่าทางกวนประสาทผมเป็นที่สุด คิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไงวะ...โถ่เอ้ย! ก็แค่สูงชะรูด ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ฟันเรียงสวย ปากสีส้มที่ถึงแม้ริมฝีปากล่างจะหนาหน่อยแต่ก็ไม่ได้ห้อยน่าเกลียดออกจะเข้ากับสันกรามคมกับผิวสีแทนซะด้วยซ้ำ แม่งเอ้ย! ผู้ชายสาขานี้(นอกจากผม)มันกินอะไรกันมาวะ!!

“มีไรวะ” ไอ้เวย์ที่ทำธุระเสร็จแล้วเดินตามมาด้านหลังตบบ่าถาม ผมสะดุ้งละจากการประสานสายตากับคนตรงหน้ากระพริบตาช้าๆสองทีตามประสาคนสมองช้า

กลายเป็นว่าตอนนี้มีผู้ชายสองตัวควายๆกับอีกหนึ่งขี้ก้างยืนอัดกันอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

“หึ” ไอ้คนที่ผมเดินชนมันไม่ตอบอะไรได้แต่ผลักหัวผมเบาๆให้หลบพ้นทางแล้วเดินเลี่ยงสวนเข้าห้องน้ำไป อะไรของมันวะ

“ไอ้อ้น...” ผมไม่รู้จักชื่อมันแต่ก่อนมันจะเดินผ่านไปเมื่อกี้ผมอ่านทันและคิดว่าต่อไปป้ายชื่อคงไม่จำเป็น เพราะผมคงลืมชื่อมันไม่ลงเลยเชียวล่ะ

ไอ้กวนตีน!!

“มึงไปทำอะไรมัน” ไอ้เวย์ถามหลังจากที่เราเดินออกมากันแล้ว

“กูก็แค่เดินชน ไม่คิดว่ามันจะไม่พอใจขนาดนั้น” ผมตอบหน้ามุ่ย

“มันไม่ได้โกรธอะไรมึงหรอกอย่าคิดมาก ดูแล้วมันแค่อยากแกล้งเฉยๆมากกว่า” ไอ้เวย์ตบบ่าปลอบใจ

“เฮ้อ เห็นกูเป็นตัวไรวะ มาอยากแกล้งเนี่ย”

โครม!!

“ฮ่าๆ รู้ยังว่าตัวเองเป็นยังไง ไอ้ซุ่มซ่ามเอ้ย” แล้วมันก็เดินหนีไปเข้ากลุ่มที่พี่เรียกรวมตัวอยู่ เฮ้ย มาช่วยกูเก็บก่อนดิวะ แล้วไอ้ถังขยะบ้านี่มาตั้งขวางอะไรตรงทางที่คนเดินวะ

เอ๊ะ...

ขณะที่กำลังก้มเก็บเศษขยะที่กระจายเกลื่อนกลาดจากฝีเท้าของตัวผมเองก็มีมือหนึ่งที่หยิบยื่นมาให้ความช่วยเหลือกัน ผมกำลังจะฉีกยิ้มกล่าวคำขอบคุณ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็แทบหุบยิ้มไม่ทัน

...ไอ้อ้นที่มันแกล้งผมเมื่อกี้

“หลับตาเดินหรือไงวะ มันตั้งอยู่มุมเสาดีๆมึงเดินมาชนได้”

“ก็กู...” อยากจะเถียงแต่ก็แก้ตัวไม่ออกเลย

“เมื่อกี้ตอนโดนเรียกไปทำโทษก็สะดุดขาเพื่อนล้ม” ก็มันยื่นขามาขวางทางเดินกูนี่หว่า

“...”

“แล้วไหนจะเดินชนกูอีก”

“...” ก็ขอโทษไปแล้ว

“แล้วหยุดเก็บทำไม รุ่นพี่เค้าเรียกรวมแล้ว อยากโดนทำโทษอีกเหรอ ช่วยๆกันดิ” เท่านั้นแหละผมก็รีบก้มหน้างุดเก็บอย่างว่องไว ขยาดจริงเรื่องโดนทำโทษเนี่ย ผมไม่ใช่นักร้องเคป๊อบนะเว้ยที่ออกไปเต้นแล้วจะมีสาวมากรี๊ด หุ่นขี้ก้างดำๆหน้าตามึนๆมีแต่คนหัวเราะเสียมากกว่า!!

“มึง” ผมเรียกมันไว้เมื่อมันเริ่มเดินนำออกไป

มาๆคิดๆดูแล้วที่มันแกล้งผมเมื่อกี้ก็เพราะผมไปเดินชนมันก่อน แล้วเมื่อกี้ที่มันมีน้ำใจมาช่วยผมก็เอาแต่หน้าบึ้งใส่ คนที่นิสัยไม่ดีน่าจะเป็นผมเสียมากกว่า

“หืม…” มันล้วงกระเป๋าหันหน้ากลับมาเลิกคิ้วถาม ขี้เก๊กชะมัด

แต่เอาเถอะ...ผมควรจะมองข้ามความกวนประสาทและเห็นความดีลึกๆในตัวมัน จากที่ผมสัมผัสมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

“ขอบใจนะ”

“เออ”

ให้ตายเถอะ! ยังไงผมก็เกลียดท่าทางกวนตีนของมันจริงๆ!



บ่ายมารุ่นพี่ให้น้องๆขึ้นห้อง มันเป็นห้องโถงที่มีโต๊ะเลกเชอร์วางเรียงแถวเป็นระเบียบ มีเอกสารเย็บมุมวางไว้ พี่สันทนาการบอกว่าจะมีพี่ๆจากฝ่ายวิชาการมาทบทวนความรู้รายวิชาพื้นฐานให้

“น้องๆเลือกที่นั่งได้เลยนะคะ ไม่ต้องนั่งตามบ้านก็ได้ ใครสายตาสั้นก็มานั่งแถวหน้าได้เลยค่า” พี่บ้านตะโกนบอกดังนั้นผมเลยกระโจนเข้าไปนั่งใกล้ไอ้เวย์ทันที โชคดีที่มันอยู่บ้านเดียวกับผม แต่ก็กลัวที่ข้างๆมันจะโดนแย่ง สาวๆยิ่งเล็งกันอยู่ จากประสบการณ์ที่เรียนมาสิบกว่าปีผมโง่แทบทุกวิชา ไม่ตกก็คาบเส้น ที่เข้ามหาวิทยาลัยได้นี่ก็เพราะความพยายามมากๆไม่ใช่เพราะมันสมองไฉไลแต่อย่างใด

เพราะงั้นผมต้องการความช่วยเหลือจากไอ้เวย์เป็นอย่างมาก

“รีบเชียวนะ”

“แฮ่” ผมฉีกยิ้มตาใสใส่ แต่คงเหมือนจิตหน่อยๆเสียมากกว่า ไม่งั้นไอ้เวย์คงไม่แกล้งผมด้วยการกระชากโต๊ะเลกเชอร์เข้าหาอย่างแรงจนผมแทบจะหงายท้องตกเก้าอี้ไป

“มึงเล่นไรวะ กูเกือบตก” รู้สึกได้เลยว่าตัวเองยังอ้าปากเหวออยู่

“อ้าว อยากนั่งใกล้กูไม่ใช่เหรอ นี่ไง ติดเลย แล้วก็หุบปากเก็บฟันได้ละ น้ำลายจะไหลเป็นหมาบ้าเอา” ผมอยากจะขยุ้มคอมันจริงๆ คนหล่อนี่มันกวนตีนแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่าวะ

“น้องๆสวัสดีค่า ยินดีเข้าสู่ภาควิชาชีววิทยาอีกครั้งน้า”

“สวัสดีครับ/สวัสดีค่า”

“พี่ชื่อพี่นุ่มนะคะ ส่วนคนหล่อๆข้างพี่นี่ชื่อพี่ก้าน”

“สวัสดีครับ” กรี๊ดด ถึงจะไม่ได้หวีดร้องจนออกหน้าออกตาแต่ผมก็แอบได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆไปกับรอยยิ้มหวานๆ หน้าตาเกาหลีบอยแบนด์ของพี่ก้าน

“วันนี้และในวันต่อๆไปของการรับน้อง พี่ทั้งสองคนจะมาทบทวนความรู้พื้นฐานให้น้องๆนะคะ ตั้งใจและอย่าหลับกันนะจ๊ะ”

“ค้าบบบบ” ผมตอบรับกับเสียงหวานๆของพี่นุ่ม โอยยย ถ้าจะทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ล่ะก็ ผมจะตั้งใจเรียนเลยค้าบบบบ





ช่วงแรกเป็นพี่นุ่มที่ติวเนื้อหาเกี่ยวกับพืชให้ก่อน ผมก็ว่าตั้งใจเรียนแล้วนะ แต่ทำไมเสียงหวานๆของพี่นุ่มมันถึงไม่เข้าหัวผมเลยล่ะ

“เวย์ๆเมื่อกี้ไลเอมกับโฟเอนมันคืออะไรนะ”

“ไซเลมกับโฟลเอมหรือเปล่า” ไอ้เวย์ไอ้สันดานตอบอย่างเดียวไม่ต้องขำโว้ย พูดผิดนิดเดียวเอง

“เออๆนั่นแหละ”

“ไซเลมหรือเนื้อเยื่อลำเลียงน้ำมีหน้าที่ลำเลียงน้ำจากรากขึ้นไปยอด ส่วนโฟลเอมหรือเนื้อเยื่อลำเลียงอาหารมีหน้าที่ลำเลียงซูโครสจากที่สร้างไปยังที่อื่นๆ”

“อ่อๆแต๊งซะกิ้ว




สิบนาทีผ่านไป

“มึงๆเมื่อกี้กูฟังไม่ทัน วัฏจักรเครบส์ใส่ไข่ใส่ไครีมมันได้กี่ ATP นะ”

“2 ATP”

“อ่อๆ”

“มึงเข้าใจใช่ไหมว่าวัฎจักรเครบส์มันเป็นยังไง”

“ก็พอรู้บ้าง” นิดนึง...คำหลังนี่ทดไว้ในใจ

“อืม”

ห้านาทีต่อมา

“มึงๆ ช่วยอธิบายวัฏจักรบ้าบอนี่อีกครั้งได้ป่ะวะ”

 “ไหนว่าเข้าใจ”

“ก็แรกๆมันก็พอเข้าใจ แต่พอมันเริ่มลงละเอียดจิตกูก็ออกจากร่างทันที” ผมรู้สึกว่าตาเริ่มลอยสมองเริ่มเบลอไปไกลละ

“ฮ่ะๆ มึงนี่น้า เดี๋ยวกูอธิบายให้ฟังทีหลัง ตั้งใจฟังพี่เค้าก่อน มัวแต่อธิบายเรื่องนี้เดี๋ยวตามเรื่องอื่นไม่ทัน”

“อืม ขอบใจนะเว้ย”

“เออ เลี้ยงหนมกูด้วยล่ะ”

“ไอ้งก!!”





“เฮ้อออออ เกือบตาย” ผมบิดขี้เกียจสามร้อยหกสิบองศา ในที่สุดสามชั่งโมงแห่งการติวก็ผ่านไป ไอ้ชอบมันก็โอเคอ่ะนะเพราะผมก็กังวลเรื่องจะเรียนตามคนอื่นไม่ทันด้วย ผมมาจากโรงเรียนบ้านนอกแล้วไหนจะหัวช้าอีก มีคนมาสอนมาปูพื้นฐานให้มันก็ช่วยผมได้อยู่ แต่ให้ตายเหอะ...คนสมาธิสั้นอย่างผมมาเจอบทเรียนอันยาวนานแบบนี้ก็แทบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน

ดีที่ผมยังมีคนข้างๆ...เวย์มันเก่งมากเลยนะ มันตอบผมได้ทุกเรื่องที่ผมถาม แล้วยังใจเย็นช่วยสอนในส่วนที่ผมไม่เข้าใจ บางครั้งต้องมีทวนใหม่สองสามรอบแต่มันก็ยังตั้งใจ ไม่มีแม้แต่จะหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียใส่

“ขอบใจมากนะมึง ที่ช่วยสอนคนโง่ๆอย่างกู”

“กูก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ถ้าขอบคุณอีกรอบ พรุ่งนี้ช่วงเรียนอีกกูจะไม่ช่วยแล้วนะเว้ย” อะไรวะแค่กูขอบคุณเป็นรอบที่เกือบสิบก็ต้องดุกูด้วย นี่ขอบคุณนะเว้ยไม่ได้ด่า ห่านิ

“เออๆ ยังไงก็...”

“ไอ้ต่าย”

“อะไร กูจะบอกว่าให้มึงไปเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนต่างหาก กูปวดฉี่”

“อ้าว งั้นไปดิ”

“เฮ้ย”

พรืดดดด

ตุบ

“โอ้ย”

“เกือบไปแล้วไหมล่ะ” เวย์ดึงผมเข้าหาตัวจนหน้ากระแทกเข้ากับอกแข็งๆจนรู้สึกเจ็บ แต่คงจะเจ็บมากกว่านี้ถ้าไอ้ขาเวรของตัวเองที่อยู่ดีๆก็พลิกจนเกือบล้ม

“ขะขอบใจ...โอยย”

“เมื่อไหร่จะเลิกซุ่มซ่ามวะเต่าเอ้ยยย” มันปล่อยผมยืนเองก่อนยีหัวจนผมยุ่งเหยิงไปหมด

“กูชื่อต่าย เต่าพ่อง” ผมปัดมือมันออก อีกมือจัดผมให้เข้าทรงส่วนอีกมือก็ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ

“กูว่าชื่อเต่าเหมาะกับมึงมากกว่า”

“ทำเรื่องอีกแล้วอ่ะดิ”

ก่อนที่ผมจะกระโดดตบกบาลไอ้เวย์ที่บังอาจมาตั้งชื่อแทนชื่อที่บุพการีประทานให้ ไอ้ปากหมาหน้าหล่ออีกตัวก็เดินล้วงกระเป๋าท่าขี้เก๊กเข้ามาทำหน้าระอาใส่

“เสือกดิ”

ป๊าบ

“โอ๊ย”

“อย่าปากดี”

“ทำไมมึงชอบตบหัวกูวะไอ้อ้น”

“เผื่อมึงจะฉลาดขึ้นมาบ้าง”

“กูด่ากูโง่เหรอ”

มันไม่ตอบแต่ยักไหล่ หมายความว่าไงวะ ฮึ่ย ขอตบกบาลกลับสักทีเหอะ

“ฮ่าๆ เอาดิตบถึงก็เอา เร็วๆ”

“ฮ่าๆ”

ทั้งไอ้เวย์กับไอ้อ้นมันยืนหัวเราะเยาะผมที่ถูกมือไอ้อ้นยันหัวไว้ จนได้แต่ปัดป่ายมือไปมาที่แม้แต่ปลายนิ้วยังไม่โดนตัวมันเลย ไอ้เลววววว คิดว่าตัวเองขายาวแขนยาวแล้วมาแกล้งกูเหรอวะ

กว่าจะได้ไปเข้าห้องน้ำพวกมันก็ทั้งขำทั้งแกล้งจนผมอยากจะร้องไห้ ยังดีที่ตอนสุดท้ายมันพาผมมาเข้าห้องน้ำแล้วยังแบ่งขนมปังที่ได้มาจากเบรกให้ เลยพอทดแทนสิ่งเลวๆที่พวกมันทำไว้ได้

แต่ถึงจะโดนแกล้งจนน่าโมโหยังไงแต่ก็รู้สึกสุขใจลึกๆ

เอาน่า...อย่างน้อยชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยก็ไม่โดดเดี่ยวถ้ามีไอ้ตัวกวนประสาทอย่างมันสองตัว





“ปรบมือให้เพื่อนหน่อยเร้วววว”

แปะๆๆ

โอยยย เสียงปรบมือไม่ได้ช่วยทำให้ผมดีขึ้นสักนิด ฮือ...บัตรวีไอพีก็ไม่ได้ทำ บัตรสมาชิกก็ไม่มี แล้วทำไมผมถึงเป็นขาประจำแห่งการโดนทำโทษของค่ายนี้วะเนี่ย

กูเกลียดดอกลั่นทมโว้ยยยย

ใครบัญญัติเพลงนี้ขึ้นมา แล้วใครถึงคิดท่าทางประกอบเพลงได้จัญไรขนาดนี้

‘โอ้เจ้าดอกลั่นทม ฉันเคยเด็ดดม ฉันเคยเด็ดเล่น’ เอามือขึ้นมาทำจีบตั้งขึ้นเป็นดอกลั่นทม แล้วเอาอีกมือเท่าท่ามาเด็ดดมกับจมูก แล้วเด็ดทิ้งก็ตวัดมือลงพื้น

‘เด็ดเช้า เด็ดเย็น’ โปรยมือขึ้นด้านบนตอนเด็ดเช้า แล้วเอามือโปรยลงล่างท่อนเด็ดเย็น

‘ฉันเคยเด็ดเล่น เด็ดดมๆ’ แล้วก็เด็ดทิ้งล่าง เด็ดขึ้นดม

เหมือนจะธรรมดาใช่ไหมครับ ท่าเบๆใครๆก็ทำได้ แล้วผมก็คือหนึ่งในนั้น ผมแค่สมองช้านะไม่ได้โง่เง่าขนาดนั้น....แต่

ความจัญไรมันไม่ได้เกิดที่ตรงนี้!!

มันเริ่มสร้างปัญหาให้ผมหลังจากนี้ต่างหาก...

“เอาล่ะ เหมือนดอกลั่นทมเวอร์ชั่นออริจินัลจะง่ายเกินไปสำหรับน้องๆของพวกเรา”

“ช่าย”

น้ำเสียงบีบเสียงให้แหลมปรี๊ดกับเสียงตอบรับของพี่สันทนาการไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรในตอนแรก

“พวกพี่ๆมีเวอร์ชั่นดัดแปลงให้น้องๆได้สนุกก่อนทานอาหารเย็น”

“น่ารักที่สุดๆ”

ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้สึกถึงภัยคุกคาม

“เพลงเดิม ท่าเดิม แต่สลับขั้ว เดี๋ยวจะให้พี่สาธิตทำให้ดู น้องๆจำให้ดีนะคะ ใครผิดจะได้รางวัลเป็นการตอบแทน”

แล้วเมื่อพี่สาธิตออกมาร้องมาทำท่าให้ดูผมก็คิดว่า..มันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่

แต่ทำไมตอนถึงเวลาทำจริง มือไม้ผมมันถึงได้พันกันยุ่งเหยิงไปหมด กับอีกแค่ท่อน...

 ‘โอ้เจ้าดอกลั่นทม’
ให้จีบมือจากตั้งขึ้นเป็นคว่ำลง

‘ฉันเคยเด็มดม’
ให้ทำท่าเด็ดทิ้ง

 ‘ฉันเคยเด็ดเล่น’
ให้ทำท่าเด็ดดม

‘เด็ดเช้า’ ให้โปรยลงเหมือนตอนเย็น

‘เด็ดเย็น’
ให้โปรยขึ้นเหมือนตอนเช้า

‘ฉันเคยเด็ดเล่น’ ให้เด็ดดม

‘เด็ดดมๆ’ ทำท่าเด็ดทิ้งๆ

โอยยยยยย แล้วจะสลับท่ากันทำไมว๊า

แล้วไงผลกรรมเลยตกมาที่ผมและก็เพื่อนอีกสามคนที่ต้องออกมายืนด้านหน้าเพื่อนๆอีกกว่าแปดสิบชีวิต ดูไอ้เวย์ดิยกนิ้วโป้งขึ้นก่อนกดเน้นๆกลางอากาศให้กับการโดนเรียกออกไปครั้งที่สามของวันนี้

ส่วนไอ้อ้นแม่งกวนตีนกว่าแทบจะยกเท้าขึ้นมาตบแทนมือ พ่องมึงอ่ะ

สุดท้ายก็เต้นหนอนน้อยไปสองรอบแบบเบาๆเมื่อเทียบกับท่าเด็กชาวเขาเมื่อเช้าที่ผมโดนไป...โชคดีที่พี่ๆเห็นว่าจะกินข้าวแล้วเลยเอาท่าเต้นน่ารักๆมาเรียกน้ำย่อยแค่นั้น...แต่ท่าน่ารักแค่ไหนเมื่อผมเต้นมันก็ดูทุเรศขึ้นมาทันตา อาเมน



เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จก็เป็นเวลาฟรีไทม์ที่พี่ๆปล่อยให้พวกผมไปพักผ่อน แต่ก็ไม่เชิงสักทีเดียวเรียกว่าเป็นเวลาที่ปล่อยให้สมาชิกในกลุ่มของแต่ละบ้านคิดการแสดงสำหรับค่ำคืนนี้ในตรีม ‘แสงและดิน’ ให้ตายเถอะ...บอกผมทีว่ามันคือตรีมการแสดงไม่ใช่มหกรรมแสดงพืชพรรณประจำจังหวัด T^T

ซึ่งสมาชิกในบ้านกบของผมมีอยู่สิบคน ซึ่งผมแทบจะไม่เคยได้คุยกับใครเลยเพราะผูกติดอยู่กับไอ้เวย์คนเดียว ส่วนไอ้อ้นมันอยู่อีกบ้าน นู่น..บ้านสิงโต ผมว่ามันเหมาะกับบ้านหัวหมาซะมากกว่า

“เวย์แสดงเป็นมินโฮได้ไหม” แคทเพื่อนคนหนึ่งในบ้าน คนที่เสนอความคิดว่าอยากจะแสดงล้อเลียนซีรีย์เพื่อนรักพลังพิสดาร ที่สำหรับคนบ้านนอกที่โทรทัศน์ยังเสียบหนวดกุ้งบอกได้เลย...ไม่รู้จัก แต่จากที่เพื่อนๆเล่าถึงมาดามมดและเรื่องราวก็พอจับใจความได้ว่ามันตลก สนุกและน่าสนใจดี

“เอ่อ...เราว่าเราคงไม่เหมาะ” ไอ้เวย์รีบยกมือปฏิเสธทันที

“บทมินโฮเหมาะกับเวย์ที่สุดแล้ว ใช่ไหมพวกเรา” แคทีรบหันไปหาเสียงสนับสนุนจากเพื่อนคนอื่นซึ่งทุกคนที่พยักหน้ารับ ผมก็ยอมรับอ่ะนะว่ามันเหมาะกับบทพระเอก

แต่แคทดูจะอยากให้ไอ้เวย์เป็นพระเอกมากเสียเหลือเกิน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เมื่อกี้แคทเสนอที่จะเล่นเป็นเมษานางเอกของเรื่องเอง ผมว่าแคทคงเลือกคนที่จะเล่นเข้าขากับตัวเองล่ะมั้ง

“แต่เวย์ขอไม่รับบทนี้นะ เราไม่ชอบออกไปแสดง ขอช่วยอยู่เบื้องหลังแล้วกัน” เวย์ตัดบท และถึงแม้จะโดนตื้ออยู่อีกหลายครั้งมันก็ไม่ยอม ได้แต่บอกว่าจะขออยู่เบื้องหลังเป็นคนหาอุปกรณ์ จัดฉาก ซึ่งผมไม่คิดว่าไอ้เวย์จะมีมุมนี้ เห็นมันเข้ากับเพื่อนๆได้ดี แถมไม่เคยปฏิเสธการขอความช่วยเหลือของเพื่อน แต่สำหรับเรื่องนี้มันค้านหัวชนฝาซะจริงๆ

“เอาไอ้เต่า เอ้ย เราหมายถึงต่ายน่ะ เป็นมินโฮดิ”

 อ้าว ไอ้เวย์ไอ้ควาย ทำไมแจ๊คพอตถึงมาแตกที่กูล่ะ

แล้วมึงช่วยดูหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเพื่อนด้วย สีหน้าแบบ...นี่น่ะเหรอมินโฮ โอ้โหหมาในชัดๆ!

“แคทว่า...ไม่ค่อยเหมาะมั้ง”

“แต่เราว่าข้อเสนอเวย์ก็โอเคนะ” ปรางค์ที่เงียบอยู่นานว่าขึ้น เธอเป็นผู้หญิงอวบๆใส่แว่นหนา แต่เป็นคนตลกขบขัน ชอบหัวเราะเสียงดังๆ

“ปรางค์เธอจะบ้าเหรอ มินโฮคือพระเอกนะ พระเอกเกาหลีขาวตี๋หล่อน่ะ” แคทครับ เอามีดมาปักอกผมเลยเถอะ

“แล้วทำไมเราต้องทำให้เหมือนซีรีย์ด้วยล่ะ ทำไมเราไม่ปรับเปลี่ยนให้เป็นในแบบของเรา ให้ดูแปลกใหม่ คิดดูนะแทนที่จะเอาพระนางหล่อๆสวยๆ แต่เอาต่ายมาเล่นเป็นพระเอกที่หน้ามึนๆแต่มาทำท่าเท่ๆ และสุดท้ายแทนที่จะคู่กับเมษาก็ให้คู่กับมาลีไปซะเลย!!” มาลีที่ว่าก็คือมาดามมดนั่นแหละ

และเชื่อไหมว่าบทละครบ้าๆบอๆของปรางค์เพื่อนๆแลชอบกันมาก จนสุดท้าย...ผมก็ได้เป็นพระเอก

ทำไมวะทำไมพอผมค้านแล้วถึงไม่มีใครฟังเหมือนไอ้เวย์บ้าง สุดท้ายผมก็ได้เป็นพระเอกสินะ กูควรดีใจใช่ไหม ฮืออออ

 















ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น่าติดตามค่ะ

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [2] UP++11/9/2018 P.1
«ตอบ #15 เมื่อ11-09-2018 16:21:47 »

LOOK ADDICT 2


“ไอ้เวย์ ไอ้เหี้ย!”

คราวนี้ผมโกรธ ผมจะโกรธมันจริงๆ เพราะมันคนเดียวทำให้ชีวิตผมยับเยิน

“ว่าไงพ่อพระเอกเกาหลี”

ตอนนี้ในสาขาไม่เว้นแต่หมาหน้าภาควิชาไม่มีใครไม่รู้จักผม!!

“เกาหลีบ้านมึงอ่ะ” ผมด่าไอ้อ้นที่เดินเข้ามานั่งแล้วเห่าล้อเลียนทันที ส่วนไอ้เวย์ก็นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ เมื่อกี้มันเพิ่งไปช่วยเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ปวดท้องโรคกระเพาะไปส่งฝ่ายพยาบาล มึงช่วยคนอื่นในค่ายไปทั่วแต่ทำไมมึงถึงได้ทำอย่างนี้กับเพื่อนสนิทของมึงวะ

มึงเสนอบทบาทอะไรให้กู

คืนอัปยศที่ผมไม่เคยลืม เมื่อคืนนี้บ้านผมจับฉลากได้แสดงเป็นกลุ่มสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ เมื่อได้คนเขียนบทคนใหม่อย่างปรางค์ ผู้จัดหาพรอพประกอบการแต่งกายอย่างไอ้เวย์ แล้วมาลีร่างทรงมาดามมดอย่างถิงถิงหรือไอ้ทิงกระเทยควายร่างใหญ่ที่ตอบจบสุดท้ายผมต้องไปหลงรักแทนที่จะเป็นแคทสุดสวย

แล้วมันก็พีคตรงตอบจบที่พระนางต้องจูบกัน ซึ่งตอนซ้อมเอียงหน้าใช้มุมกล้อง แต่ตอนขึ้นแสดงมันจูบจริง!!

ถิงถิงมันจูบบดปากลงมา ยกขาเกี่ยวรัดให้คนตัวแคระๆแกนๆอย่างผมเข้าไปฝังในตัวมัน แล้วผละออกจับไหล่ทั้งสองข้างแหงนหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังๆเหมือนคนโรคจิต ให้พี่ๆเพื่อนๆปรบมือหัวเราะชอบใจกันใหญ่ แน่ล่ะ ตัวนางก็กระเทยควาย ตัวพระก็ดำๆแกนๆ มันก็เลยดูตลกโปกฮา

แต่ผมไม่ขำนะเว้ยยย ผมตกใจ ผมไม่โอเค

ถึงสุดท้ายจะไม่ติดใจอะไรเพราะผมมันพวกโกรธคนไม่ค่อยเป็น แล้วถิงถิงมันก็แค่อยากให้คนดูมีความสุข แต่พอเห็นรูปการแสดงที่ติดอยู่บนบอร์ดในเช้าวันนี้ผมก็อดจะเคืองไอ้เวย์ขึ้นมาไม่ได้ ดูดิ...รอยลิปสติกสีแดงจากปากถิงถิงเปื้อนเลอะปากลามมายันคางกูเลย

“มันยังไม่หายงอนมึงอีกเหรอวะ”

“เออ เมื่อคืนก็นอนคุมโปงไม่พูดไม่จา ฮ่าๆ” ยังมีหน้ามาขำอีก เพราะผมอยู่บ้านเดียวกับมันเลยได้นอนแถวเดียวกันในห้องโถงใหญ่สำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงนอนในห้องประชุมซึ่งเป็นห้องแอร์และสะดวกสบายกว่า และถึงแม้ผมจะเคืองไอ้เวย์แต่ก็หอบหมอนไปนอนข้างมัน ก็ผมไม่รู้จักเพื่อนคนอื่นแล้วนี่หว่า ก็ผมสนิทกับคนยากแล้วไม่กล้าเข้าหาด้วย จะนอนกับไอ้อ้นมันก็ถูกจัดนอนแถวหลังสุดนู่น เดี๋ยวพี่วินัยมาเช็คชื่อแล้วไม่อยู่จะโดนดุเอา  แต่ก็ยังไม่อยากคุยไม่อยากมองหน้าเลยคุมโปงหนีมันซะเลย

“ก็ถ้ามันไม่เสนอแต่แรก กูก็ไม่ต้องขึ้นไปแสดงบ้าๆบอๆ”

“ไม่ต้องโดนจูบด้วย”

“หุบปากเลยสัดอ้น”

“ฮ่าๆ เอาน่าขำๆ”

“...” ผมเงียบ

“มึงจะไม่พูดกับกูจริงๆเหรอ”

“...”

“โกรธกูจริงอ่ะ ว๊า วันนี้นั่งเรียนก็ไม่มีคนมากวนใจแล้วดิวะ”

“...ก..ละ..ก็ได้...”

“อะไรนะ?”

“กูไม่โกรธแล้วก็ได้!!” นี่ห่วงว่าจะไม่มีคนสอนหรอกนะ

ป๊าบ...ป๊าบ

“โอ๊ย พวกมึงสองตัวจะมาตบหัวทำไมเนี่ย!”

“ท่ามาก” ไอ้อ้น

“ความจริงก็หายโกรธกูตั้งนานแล้ว” ไอ้เวย์

“แต่แค่อยากให้เพื่อนง้อ ไอ้ฟายยยยย” ไอ้อ้น

พวกมึงสองคนไม่ต้องทำมารู้ทันกูเลยเหอะ ชิ







“เอาล่ะน้องๆเดี๋ยวพักเบรกสิบนาที ไปรับน้ำกับขนมที่พี่สวัสดิการนะคะ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย บ่ายนี้เราจะเข้าฐานกันนะค๊า”

ผมและเพื่อนๆเดินไปเอาขนมปังกับน้ำผลไม้ตามที่พี่บอก นั่งคุยนั่งด่ากับไอ้เวย์ไอ้อ้นพักเดียว(ก็มันแย่งขนมผม) พี่ๆก็เรียกรวมตัวก่อนแบ่งน้องบ้านออกคละกัน นั่นคือในหนึ่งกลุ่มจะมีน้องรวมอยู่หลายบ้าน

ซึ่งผมไม่ได้อยู่กับไอ้เวย์แล้ว

รู้ตัวเลยว่ามองมันด้วยสายตาละห้อยขนาดไหน ผมต้องไปเดินฐานเข้าป่าอย่างเดียวดายโดยที่ไม่มีไอ้เวย์อยู่ด้วยเหรอเนี่ย ไม่นะ...โอย

ฮ่าๆ เอาจริงๆผมก็ไม่ได้กลัวขนาดนั้นมันเป็นมุก ผมก็ผู้ชายอกสามศอกนะเว้ย ถึงจะแอบเสียดายหน่อยๆที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ผมก็ดีกรีเด็กบ้านนอกโตมากับนากับป่านะครับ ขึ้นเขาออกไปหาหน่อไม้หาเห็ดบ่อยๆ แค่เดินเข้าไปในป่าย่อมๆของมหาวิทยาลัยแค่นี้สบายมาก

“เดี๋ยวพี่จะปล่อยน้องๆแต่ละกลุ่มไปเข้าฐานเวียน มีทั้งหมดหกฐาน โดยจะให้น้องๆในกลุ่มเลือกหัวหน้ากลุ่มกัน คราวนี้ไม่มีพี่คุมนะจ๊ะ”

กลุ่มผมเลือกกัปตันขึ้นเป็นหัวหน้า แค่ชื่อก็ผู้นำล้นปรี่

“แล้วแต่ละฐานน้องๆจะได้ตัวอักษรภาษาอังกฤษพร้อมคำใบ้ เก็บไว้ให้ดีนะ”

แล้วพี่ก็ปล่อยพวกเราออกมากันทีละกลุ่ม โดยหัวหน้ากลุ่มจะมีแผนที่การเดินฐาน เออว่ะ เหมือนย้อนไปสมัย ม.ปลายที่เข้าค่ายลูกเสือ มีเข้าฐาน มีเดินป่า นี่ถ้ากางเต้นท์ก่อเตาทำอาหารนี่ใช่เลย

ผมเดินปิดท้ายสุดของแถวแล้วขณะที่เดินสวนกับกลุ่มของไอ้อ้นมันก็ดึงแขนไว้พร้อมกระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน

“ระวังตัวด้วยนะมึง อย่าซุ่มซ่าม”

“เออน่า กูไม่ใช่เด็กนะ”

“มึงอ่ะยิ่งกว่าเด็กอีก”

อ้าว ไอ้ฟายนิ

กูไม่พูดกับมึงแล้ว เอานิ้วกลางกูไปแดกก็แล้วกัน





เนื่องจากกลุ่มเราเป็นกลุ่มสุดท้ายดังนั้นเราเลยต้องเข้าฐานสุดท้ายก่อน แล้วค่อยไล่ลงมาเป็นฐานห้า สี่ สาม สอง และหนึ่ง เราทั้งสิบสองคนเลยต้องเดินขึ้นไปบนเนินสูงสุดก่อนแล้วค่อยไล่ระดับลงมา

แล้วฐานแรกก็โดนเลย...ทายคำ 4G







หลังจากน่วมอรทัยจากฐานทายคำ 4G ผมก็ต้องมาเจอกับเพลงโทนเดียว เก้าป้ายปริศนา ซึ่งเพียงแค่สามฐานก็ทำเอาผมเละไปทั้งตัว ฐานแรกกน่ะผมเล่น ส่วนสองสามเนี่ยโดนจับเป็นตัวประกัน พอผู้เล่นทายผิดผมก็โดนน่ะสิ ทั้งเอาลิปสติกเขียนหน้า ทั้งลูกโป่งน้ำอัดใส่จนเปียกปอนไปหมด ฐานหน้านี่ถ้ามีแป้งโรยอีกหน่อยล่ะก็พร้อมลงกระทะทอดเลย

แต่ก็สนุกดีนะ ผมชอบ ยิ่งหันไปมองเพื่อนก็ไม่ได้เละเทะน้อยไปกว่าผมสักเท่าไหร่

แต่ขณะที่ผมกำลังเดินจากฐานสี่ไปฐานสามผมก็เกิดปัญหาใหญ่...ผมปวดฉี่ เมื่อกี้ตอนพักเบรกกินน้ำกินขนมปังเสร็จผมยังไม่ได้เข้าไปปลดทุกข์พี่ๆก็เรียกรวมซะก่อน แล้วไอ้ผมก็คนท่อรั่วเข้าห้องน้ำบ่อย หันซ้ายหันขวาก็เจอแต่ต้นไม้กับตึกไกลๆ ไม่มีห้องน้ำแถวนี้เลย

เอาไงดีวะ ปวดจนท้องแข็งไปหมดแล้วเนี่ย ยิ่งตัวเปียกๆปะทะลมเย็นยิ่งพาอั้นแทบไม่อยู่เข้าไปใหญ่

จะสะกิดบอกเพื่อนก็อาย เอาวะ แวบเข้าไปในพุ่มไม้แถวนี้แปบเดียวไม่เป็นไรมั้ง

ว่าแล้วผมก็เนียนๆ กระดึ๊บๆออกจากแถว

อย่าหันมากันนะ เดินกันต่อไป อย่าได้สงสัยหรือล้อเลียน

ผมไปยืนในตำแหน่งที่พุ่มไม้และต้นไม้ใหญ่บังสายตาคนภายนอกได้ก็ปลดกางเกงลงแล้วจัดการยิงกระต่ายทิ้งทันที โอยโล่ง...รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่

เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินกลับไปสมทบกับเพื่อนๆ ป่านนี้เดินไปใกล้ถึงฐานสามแล้วมั้งเนี่ย แล้วผมก็เดินเข้ามาลึกซะด้วย กลัวเพื่อนผู้หญิงผ่านมาเห็นแล้วจะตกใจ เพื่อนผู้ชายจะล้อ

และก่อนจะย่ำเท้ากลับไปทางเดิมผมก็เห็นอีกเส้นทางด้านหลังที่น่าจะช่วยให้ผมกลับไปสมทบกับเพื่อนๆได้เร็วขึ้น ถึงหญ้าจะขึ้นรกร้างไปหน่อยแต่กลับไปเข้ากลุ่มได้เร็วขึ้นก็น่าจะโอเค ลูกชาวนาอย่างผมไม่กลัวหรอกกับหญ้าสูงเท่าเข่า...

“เฮ้ย!!!”

ตุบ

โครม

เสี้ยวนาทีที่ผมตัดสินใจย่ำเท้าลงไปในพงหญ้า แต่กลับรู้สึกวูบโหวงเท้าไม่สัมผัสพื้นดินก่อนร่างกายจะหล่นดิ่งลงไปในหลุมคับแคบที่ผมมองไม่ทันด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร

โป๊ก!!

ความรู้สึกสุดท้ายคือแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงที่ศีรษะเมื่อกระแทกเข้ากับของแข็งบางอย่าง แล้วทุกอย่างก็มืดดับไป...





Aon’s part



แม่งเอ๊ย แสบตาชิบ

กลับมาถึงส่วนกลางหลังจากที่เข้าครบทุกฐานผมก็วิ่งไปที่อ่างล้างหน้า เปิดก๊อกก่อนก้มหน้าลงเอามือรองล้างแป้งฝุ่นออกจากเบ้าตา เล่นบีบลงมาใส่หัวทั้งกระป๋อง ผมทั้งจามทั้งไอ เข้าหูเข้าตาแสบไปหมด มันก็สนุกดีแต่แบบนี้ก็ไม่ไหวนะโว้ยยยย

ล้างพอหายแสบก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนผงะกับภาพสะท้อนในกระจกเบื้องหน้า ไม่ใช่ภาพผมหรอก ไอ้คนข้างหลังต่างหากสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

“ฮ่าๆ หนังหน้ามึงแย่มาก ตกลงมึงชื่อกุ๊ก หรือลูกเจี๊ยบเรืองแสงวะ”

“แหมะ สภาพดีกว่ากูมากนักนี่” ผมเบ้ปากยักไหล่ใส่มันพอดีกับที่มันมายืนข้างๆบีบสบู่เหลวกลิ่นมะกรูดในขวดก่อนเอามาถูหน้าตัวเอง

ฟึ่บๆๆๆ

เหอะ ถ้ามึงจะถูแรงขนาดนี้คงไม่ใช่แค่รอยลิปสติกที่เขียนอยู่บนหน้ามึงหรอก หนังกำพร้ามึงคงหลุดตามมาด้วย

ผมเลิกสนใจมันแล้วเดินออกมาด้านนอก มองสอดส่ายหาไอ้เพื่อนสองตัวที่คาดว่ากลุ่มพวกมันคงกลับมาถึงกันหมดแล้ว หึ ผมล่ะอยากเห็นสภาพไอ้ต่ายมาก หน้ามึนๆเอ๋อๆอย่างมันคงโดนแกล้งไม่ใช่น้อย ขนาดผมยังอยากแกล้งเลย

เอาจริงๆผมเป็นคนขี้แกล้ง แต่ก็จะแกล้งเฉพาะกับคนหน้าตาน่ารักๆกับเพื่อนที่สนิทจริงๆเท่านั้นเพราะภายนอกผมจะดูเป็นคนวางมาดนิ่งนิดๆหน้าหยิ่งหน่อยๆ ไม่ค่อยเผยสันดานกวนตีนให้คนที่เพิ่งรู้จักได้เห็น

แต่กับไอ้ต่ายไม่รู้เป็นไงที่แค่เห็นหน้ามันผมก็คันไม้คันมืออยากจะแกล้งให้มันทำหน้าเอ๋อยิ่งขึ้นไปอีก อาจจะเป็นเพราะผมสนใจท่าทางตื่นๆดูวางตัวไม่ถูกตอนวันสัมภาษณ์ รู้สึกเหมือนหมาวัดที่เดินหลงเข้ามาในเมืองใหญ่ หึ นึกถึงแล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ

แต่ไม่ทันที่ผมจะกวาดสายตาเจอไอ้ต่ายก็เห็นไอ้เวย์เข้าซะก่อน มันสูงเด่นพอๆกับผมไหนจะความขาวออร่าอย่างกับหลอดนีออน

แต่ทำไมท่าทางลุกลี้ลุกลนหน้าตาเป็นกังวลขนาดนั้นวะ

“เฮ้ย ไอ้เวย์ เป็นไรวะ” ผมเดินเข้าไปตบบ่ามันจากด้านหลัง มันหันขวับมาทันที

“ไอ้ต่ายหายไป” น้ำเสียงมันเป็นกังวลมาก

“เฮ้ย มันไปเข้าห้องน้ำเปล่า” ขนาดโดนเบาๆอย่างผมยังต้องไปล้างเนื้อล้างตัวเลย แล้วไอ้คนที่ผมคาดว่าต้องหนักแน่อาจจะแช่ตัวอยู่ในชักโครกก็ได้

“มึงออกมาเห็นมันไหมล่ะ”

“ไม่ อยู่ห้องน้ำชั้นสอง...”

“ไม่มี กูไปดูมาแล้ว”

หน้าผมเคร่งขึ้น ทั้งในใจก็เริ่มร้อนรน ถึงมันจะเป็นผู้ชาย คนนอกอาจจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับคนเอ๋อๆอึนๆอย่างมันแล้ว...ผมสบตากับเวย์...แม่งเอ๊ย ขอเหอะ ขอแค่มันเดินหลงทาง แต่ทางในมหาวิทยาลัยแคบๆจะหลงได้ไงวะ

“เจอไหม” เสียงเข้มดุของไอ้เวย์ดังขึ้นให้ผมหันกลับไปสนใจคู่สนทนา เป็นพี่โอ้พี่วินัยที่เมื่อคืนยังว๊ากดุให้ท่องกฎค่าย แต่ตอนนี้มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน

“ไม่เจอ หาทั่วค่ายแล้ว ทั้งเส้นทางที่เดินเข้าฐานด้วย ตอนนี้พี่สู้กำลังไปดูหลังตึกอยู่”

“แจ้งกองกิจดีไหมครับ เค้าน่าจะช่วยได้” ผมเสนอ

“ไม่ได้!!” พี่โอ้แทรกขึ้น “ถ้ากองกิจฯรู้พวกกูแย่แน่”

“เฮ้ย! มันใช่เวลามาห่วงตัวเองเหรอวะพี่” ผมตะคอกอย่างหงุดหงิด  ใช่ดิ ถ้ากองกิจฯรู้ พวกรุ่นพี่ที่จัดค่ายทั้งหลายก็ต้องโดนสอบสวน แต่แล้วยังไงวะ ความปลอดภัยของน้องต้องมาเป็นที่หนึ่งไม่ใช่เหรอวะ

“ไอ้เวย์ไปกองกิจฯกัน” ถ้าพึ่งรุ่นพี่ห่วยๆพวกนี้ไม่ได้ พวกผมไปกันเอง

“กูว่าให้มันเป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่า พวกพี่เค้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ” ไอ้เวย์ว่าเสียงเคร่ง ผมจะค้านแต่มันก็ว่าต่อ “เราย้อนไปดูตรงเส้นทางเข้าฐานอีกทีเถอะว่ะ”

มันว่าจบก็วิ่งออกไปเลย ผมยึกยักก่อนวิ่งตามมันไป เมื่อกี้ผมเห็นสายตาน่ากลัวของไอ้เวย์ที่กวาดมองรุ่นพี่ทุกคน เรียกบรรยากาศกดดันอึดอัดให้เกิดขึ้น

แต่ช่างหัวแม่งมันเหอะ ตอนนี้ผมพาลโกรธทุกคน ทั้งรุ่นพี่ ทั้งไอ้เพื่อนกลุ่มเดียวกับไอ้ต่าย ฉิบหาย มีกลุ่มละสิบคนไม่รู้เลยหรือไงวะว่ามันหายไป

“เดี๋ยวมึงไปด้านล่าง กูจะไปด้านบนเอง” ผมพยักหน้าตามคำของไอ้เวย์ก่อนจะแยกย้ายกันไป ไอ้ต่ายไอ้ทึ่มเอ๊ย! มึงไปอยู่ไหนวะ!





Whey’s part



ถึงผมจะนิ่ง...

สุขุม...

แต่ไม่ใช่ว่าไม่ร้อนรน...

ผมวิ่งสุดฝีเท้าสลับผ่อนแรง สอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณพลางเปล่งเสียงเรียกหา...ไม่มี...ไม่เจอ...คนติ๊งต๊องอย่างมันจะไปอยู่ไหนได้

มันชื่อไอ้ต่าย...แต่ผมชอบเรียกว่าเต่า...เพราะมันทั้งเบลอ ทั้งเอื่อย ไหนจะท่าทางอึนๆมึนๆนั่นอีก ขนาดกระพริบตายังเชื่องช้าเลย ซ้ำยังซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง...ถังขยะตั้งอยู่มุมเสามันยังเดินเลี้ยวไปเตะได้

ใช่สิ...ความซุ่มซ่ามของมันอาจจะเป็นเหตุอีกก็ได้

ผมหยุดฝีเท้าลงก่อนเปลี่ยนจากวิ่งบนพื้นคอนกรีตลงไปข้างทางที่เป็นแนวต้นไม้ใหญ่ลึกสลับแนวหญ้าสูง

“ต่าย!!” ผมเอามือป้องปากพลางตะโกนเรียก “ไอ้ต่าย!”

“ไอ้ซื้อบื้อเต่า ได้ยินกูไหม!”

“ก...นะ...นี่...”

กึก

ผมหยุดฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ถึงจะแผ่วเบาแต่ผมไม่ได้หูฝาดแน่

“ต่าย! มึงใช่ไหม! มึงอยู่ไหน!”

“ยะอยู่นี่...” เสียงแหบโหยแต่ผมมั่นใจว่าเป็นมัน

ผมหมุนตัวกลับเดินไปทางที่มาของเสียง “ต่าย มึงส่งเสียงไว้นะ”

เสียงมันเงียบไปแล้ว และผมยังไม่เจอมันเลย

“กะกูเจ็บ...”

“ทนหน่อยนะ กูมาช่วยแล้ว แต่มึงแข็งใจพูดกับกูนะ กูกำลังไปหามึง”

“กะกูเจ็บ...ขยับตัวไม่ได้เลย...”

“ดี...ดี ส่งเสียงออกมา มึงเจ็บมากไหม...” ผมชวนมันคุย เท้าย่ำ มือแหวกหญ้า เริ่มได้ยินเสียงมันชัดขึ้น แต่หญ้าสูงแค่ต้นขาไม่ได้สูงมาก ถ้ามันล้มหรือนอนอยู่ทำไมผมไม่เห็นรอยแหว่งของหญ้าเลยวะ

นั่นยิ่งเรียกความเป็นห่วงให้ทวีคูณ ยิ่งเร่งฝีเท้าให้มากขึ้น

“จะเจ็บมาก...ปวดเหมือนกะโหลก...อื้อ...”

“มึงเป็นอะไร”

“กูปวดหัว...”

ฟึ่บ!!

เจอแล้ว! ในที่สุดผมก็เจอ คนตัวดำหุ่นโครงกระดูกนอนตัวหักตัวงออยู่ในท่อระบายน้ำขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัสที่เปิดฝาทิ้งร้างไว้ ที่ขมับข้างขวามีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆจากรอยแตก ผมรีบยื่นมือลงไปดึงตัวมันขึ้นมาแต่เพียงแค่ออกแรงมันก็ร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด

“โอ๊ย”

“เจ็บเหรอ” ผมเผลอปล่อยข้อมือมันอย่างตกใจ

“มาก” สีหน้ามันบิดเบี้ยว ยกแขนอีกข้างที่มีรอยถลอกเป็นทางยาวมาจับแขนอีกข้างที่ผมดึงเมื่อครู่

และผมก็เพิ่งสังเกตเห็นแขนที่ผิดรูปทรงของมัน

“เต่า มึงแขนหัก”

“ห๊ะ!”

“โอ๊ย”

โป๊ก

ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงขำกับท่าทางเซ่อซ่าของมัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมหน้าเคร่งส่งเสียงดุให้มันนอนนิ่งๆ คนบ้าอะไรวะตกใจที่แขนหักแล้วผงกหัวขึ้นมาทำตาโตก่อนจะเจ็บล้มลงไปนอนหงายใหม่แล้วศีรษะก็โขลกเข้ากับผนังปูนหนาด้านหลัง

ไอ้ควาย

“นอนนิ่งๆ เดี๋ยวกูไปตามคนมาช่วย” ผมไม่อยากเคลื่อนย้ายเอง ไม่รู้นอกจากแขนจะมีอะไรหักอีกบ้าง

“มะไม่เอา...มึงอยู่เป็นเพื่อนกูนะ กูกลัว...”

“เดี๋ยวกูมา”

“มะไม่เอา...” ทำไมมันงอแงแบบนี้วะ

ฟุบ

ผมทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิ ขยี้หัวอย่างยุ่งยากใจ ก่อนควักโทรศัพท์ออกมาจะโทรหาไอ้อ้นแต่ก็ลืมไปว่าผมไม่มีเบอร์มัน เลยตัดสินใจโทรหาพี่โอ้พี่วินัยที่ผมเพิ่งด่าด้วยสายตาไปเมื่อครู่

“พี่ครับ ผมเจอเพื่อนแล้ว อยู่แถวๆฐานสี่ในดงหญ้าคา แขนหักหัวแตกส่งหน่วยพยาบาลมารับด้วยครับ”

หลังจากวางสายผมก็หันมาหาไอ้เต่าซื่อบื้อที่นอนเจ็บปวดอยู่ในบ่อ ควักผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงเอื้อมลงไปปิดรอยแตกห้ามเลือดที่ไหลออกมาเรื่อยๆ

“มึงตกลงไปได้ไงวะ” จะว่าพลัดตกจากทางเท้าก็ไม่น่าใช่ เพราะอยู่ลึกเข้ามาพอสมควร

“พากูขึ้นไปที กูอึดอัด หายใจไม่ออก” มันไม่ตอบคำแต่งอแงพาเลไปอีกเรื่อง

“เดี๋ยวรอคนมาช่วย”

“กะกูอึดอัด”

“ทนหน่อยดิวะ ไม่รู้อะไรหักบ้าง” ผมดุ มันก็เลยเงียบ แต่ก็ยังทำหน้าเศร้าตาปริบๆสลับเหยเกด้วยความเจ็บ

“กะก็ได้ แต่ถ้ากูตายเป็นผีเฝ้าบ่อ มึงมาเยี่ยมกูบ้างนะ”

“เพ้อเจ้อ อยู่เงียบๆ” ผมเช็ดเลือดที่จะไหลเข้าตาให้ “แล้วตกลงมึงทำอีท่าไหนถึงตกลงมา”

“กูมาเยี่ยว”

“ห๊ะ!” มันพูดเสียงแผ่วเลยได้ยินไม่ชัดคิดว่าฟังเพี้ยน หรือว่า...

“กูเข้ามาเยี่ยว!!”

แม่งเอ๊ย ชัดเต็มสองรูหูเลย บ้านพ่อบ้านแม่มึงเข้ามาเยี่ยวลึกขนาดนี้ ถ้าทนไม่ไหวต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆก็พอบังได้แล้ว บื้อจนเกิดเรื่อง

“แล้วไง ราดเต็มกางเกงไปแล้วไหม”

“กูเยี่ยวแล้วเหอะ...แล้วค่อยตกลงมา...” ไอ้ประโยคแรกก็เถียงคอเป็นเอ็น แต่ประโยคหลังแผ่วเชียว

“ปล่อยให้ห่างสายตาไม่ได้จริงๆ” ผมบ่นอย่างเอือมระอา ตกลงผมได้เพื่อนหรือได้ลูกวะ

“กูขอโทษนะ ที่ทำให้มึงและทุกๆคนลำบาก...”

เฮ้อ คงเพราะอย่างนี้มั้งผมเลยโกรธมันไม่ลง

“เวย์!!”

“ทางนี้!!”

แล้วก่อนที่ผมจะพูดหรือมันจะพ่นความรู้สึกผิดอะไรออกมาอีกเสียงเรียกและความช่วยเหลือก็มาถึง 

















ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [2] UP++11/9/2018 P.1
«ตอบ #16 เมื่อ11-09-2018 16:46:03 »

น้องต่าย อะไรจะซวยขนาดนี้

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [3] UP++17/9/2018 P.1
«ตอบ #17 เมื่อ17-09-2018 16:18:30 »


Look addict 3



“เป็นไงบ้างวะ”

“ระบมอ่ะดิ ขอบใจมึงมากนะ”

“เออ นอนพักเหอะ รุ่นพี่เรียกกูละ เดี๋ยวมาเยี่ยมใหม่”

ผมพยักหน้าให้ไอ้เวย์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงพยาบาล เตียงพยาบาลจริงๆครับ ตอนนี้กระผมนายต่ายถูกส่งมาที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยโดยมีรุ่นพี่ฝ่ายพยาบาลหนึ่งคน และพี่ผู้ชายหน้าดุที่ผมจำได้ว่าเป็นพี่ว๊ากอีกหนึ่งคน ส่วนอีกสองคนเป็นเพื่อนสนิทที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโคตรโชคดีเลยที่ได้รู้จักพวกมันสองคน

แต่ไอ้เพื่อนคนนึงผมว่าแม่งไม่ค่อยดีแล้วว่ะ

“อ้น มึงจะไม่พูดกับกูหน่อยเหรอ” ผมว่าเสียงอ่อย ไม่ได้ครับต้องค่อยๆพูด กระโตกกระตากผิดเสียงไปนึดนึงมีสิทธิ์โดนกระโดดถีบหน้าได้เลย ดูจากสีหน้าโหดๆของมัน

งือ มึงอย่าขบกรามแน่นแบบนั้นสิวะ กูไม่กลัว แต่สั่นนะเว้ย

“อ้น..มึง...”

“ไอ้โง่!”

เหวอดิ ส่งเสียงออดอ้อนตุ๊ดแตกไปเผลอแปปเดียวเขางอกเลยกู แล้วสะบัดบ๊อบเดินออกไปเลย เฮ้ย ด่ากูแล้วชิ่งเหรอวะ กูเสียใจนะ

“ไม่ต้องคิดมาก มันโกรธก็เพราะมันห่วง” ขอบใจมึงมากไอ้เวย์

“อืม”

“อย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยดิ หน้าตายิ่งทุเรศๆอยู่”

“ไอ้สัด”

“ฮ่าๆ กูไปละ นอนพักซะ เย็นนี้จะได้ไปร่วมกิจกรรมกัน”

ผมพยักหน้า แล้วหลังจากที่ไอ้เวย์เดินออกไป พี่หนิงที่เป็นพี่ฝ่ายพยาบาลก็เดินเข้ามาบอกว่าให้ผมพักผ่อน หมอตรวจร่างกายแล้วไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากแขนข้างขวาที่หัก หัวแตก ส่วนอื่นก็แค่ถลอกและฟกช้ำ ตอนเย็นจะมารับกลับไปนอนพักผ่อนที่หอ แต่ผมบอกพี่ไปแล้วว่าจะไปเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องต่อ พี่หนิงก็แซวๆว่าไม่เข็ดเหรอ เล่นเอาผมหน้าม้านไปเลย

“โหยพี่ อย่าล้อผมดิ”

ไอ้สภาพอย่างนี้ก็เพราะตัวผมที่ซุ่มซ่ามเอง ไม่เกี่ยวกับทางค่ายหรือรุ่นพี่ซักนิด เมื่อกี้ตอนหามกันมาส่งโรงพยาบาลไอ้เวย์เล่าให้ฟังว่าทางองค์การนักศึกษาเข้ามาสอบถามแล้วก็จะให้ยุบค่ายเพราะคิดว่าเป็นความประมาทของรุ่นพี่ ไอ้เวย์เลยเข้ามาขอให้ผมช่วยอธิบายให้ทางองค์การนักศึกษาฟังว่ามันเกิดจากความเลินเล่อเซ่อซ่าของผมเอง

รุ่นพี่ได้ปูทางคอนกรีตสบายเท้าไม่ระคายฝุ่นไว้ให้ เป็นกระผมเองที่บุกป่าฝ่าดงไปเยี่ยว จนตกลงไปในท่อระบายน้ำเก่า

และผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทางนั้นเลยยอมให้จัดค่ายต่อได้

ผมนี่โล่งอกเลย ถ้าค่ายต้องมาหยุดลงเพราะผมเป็นต้นเหตุ มันคงรู้สึกแย่มากๆ

“โอเค งั้นก็พักผ่อนเถอะ พี่กลับค่ายก่อน แล้วถ้าปวดฉี่อีกก็ห้องน้ำอยู่ทางโน้นนะ”

“พี่หนิงอ่า”





พอตกเย็นพี่ฝ่ายพยาบาลผู้ชายก็เป็นคนมารับผมกลับไปยังค่าย พอไปถึงตึกภาควิชาชีววิทยาที่เป็นที่ตั้งของค่ายรับน้องในครั้งนี้ก็เป็นช่วงเวลากำลังปล่อยพักพอดี เพื่อนๆในเอกก็เข้ามารุมถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ผมกังวลมากว่าเพื่อนจะไม่พอใจผมหรือเปล่าที่ทำให้บรรยากาศกร่อยลง แต่พอเห็นทุกคนยังมีท่าทีเป็นมิตรอยู่ผมก็โล่งใจ

ตุบ

“โอ๊ย”

ผมจับแขนข้างที่ใส่เฝือกอยู่ตัวงอด้วยความเจ็บมาก เมื่อผมกำลังจะเดินไปหาไอ้เวย์และไอ้อ้นที่ช่วยพี่สวัสดิการเก็บกล่องข้าวอยู่ แต่ก็มีเพื่อนเดินสวนมาและชนอย่างแรงเข้าซะก่อน พอเงยหน้าขึ้นไปจะขอโทษก็เห็นเขามองผมด้วยสายตา เอ่อ...ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่

ที่ความเซ่อซ่าของผมเป็นเหตุอีกแล้วใช่มั้ย

“ขะขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ” ผมยิ้มสู้ แต่เหมือนจะยิ่งทำให้สายตาคู่นั้นกร้าวขึ้น

“มีอะไรวะ” ไอ้เวย์เดินเข้ามาหา มองไปยังแขนที่ใส่เฝือกไว้ก่อนหันไปหาเพื่อนที่ยังยืนมองผมตาขวาง

“เอ่อ กูเดินชนเค้าว่ะก็เลยขอ...”

“มึงไม่ต้องขอโทษ” เสียงไอ้อ้นดังแทรกขึ้นก่อนที่มันจะมายืนขวางด้านหน้าผมไว้แล้วประชันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม

“เมื่อกี้กูเห็นว่ามึงตั้งใจเดินมาชนเพื่อนกู” ห๊ะ ไอ้อ้นมันบอกว่าเค้าตั้งใจเดินชนผมเหรอ

“อ้น มึงอาจจะเข้าใจผิด เค้าจะมาชนกูทำไม” ผมจับแขนมันไว้ มันก็ยังดันผมให้ยืนอยู่ด้านหลังมันอยู่ดี

“มึนๆอย่างมึงหุบปากไปเหอะ ว่าไงมึงเดินชนมันทำไม” ประโยคแรกมันหันมาดุผม ก่อนจะหันไปเสียงแข็งใส่อีกฝ่าย มีทำท่าจะเดินไปหาเรื่องเค้าด้วยแต่ผมกับไอ้เวย์รั้งไว้ก่อน

“ใจเย็นก่อน” ไอ้เวย์ตบบ่ามันเบาๆ ก่อนจะหันไปถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงปกติ

“มึงตั้งใจชนอย่างที่ไอ้อ้นมันบอกหรือเปล่า หรือถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิด...”

“กูตั้งใจ” เสียงกร้าวเอ่ยแทรกของอีกฝ่ายทำให้ไอ้เวย์เงียบลงและเพิ่มแรงโทสะให้กับไอ้อ้นเป็นอย่างมาก

...ส่วนผม รู้สึกเหมือนทั้งร่างมันชาไปหมด สมองเริ่มคิดว่าไปทำอะไรให้เพื่อนไม่พอใจ ถึงได้ตั้งใจมาชนผม...พอคิดมาถึงตรงนี้ก็ได้แต่จับแขนข้างที่หักเอาไว้ รู้สึกเหมือนมันเจ็บขึ้นมามากๆอย่างกะทันหัน

“ทำไม...”

“กูพอใจ!!” จบแค่นี้มันก็หันมามองผมอย่างแข็งกร้าวก่อนหมุนตัวเดินจากไป ไม่สนใจไอ้อ้นที่จะเข้าไปกระชากมันมาต่อยเลยซักนิด ดีที่ไอ้เวย์ห้ามมันไว้ก่อน ส่วนผมตอนนี้มึนงงจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

สิ่งที่เพื่อนคนนั้นทิ้งไว้ให้ผมมีสิ่งเดียวชื่อตัวอักษรบนป้ายชื่อที่ผมจำได้ติดตา

...กัปตัน...





“มึงไปมีเรื่องกับมันได้ไง” ไอ้อ้นเริ่มซักส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้า

“กูจะไปกล้ามีเรื่องอะไรกับใครเขา”

“แล้วมันมาหาเรื่องมึงทำไม”

“กูจะไปรู้เหรอ”

“อ้าว ไอ้ห่านิ มึงลองคิดดูสิวะ”

“เอาน่ามึงอย่าไปคาดคั้นมัน ปล่อยให้มันกินข้าวก่อน” ไอ้เวย์ที่เดินไปเอาข้าวกล่องกับน้ำเปล่ามาให้ วางข้าวลงตรงหน้าผมก่อนทิ้งตัวนั่งม้านั่งตัวเดียวกัน

ขอบใจมากไอ้เวย์ มึงคือเทวดาตัวน้อยที่มาช่วยชีวิตกูจากยักษา

“ปล่อยเหี้ยไร มึงดูตัวไอ้นั่นใหญ่อย่างกับหมีควาย ถ้ามันมาหาเรื่องอีก ไอ้ซื่อบื้อนี่มันจะรอดไหม” มันมองเหยียดมาที่ผมจนรู้สึกอยากจะเอาตัวเองไปนอนเล่นในถังขยะซะจริงๆ

“ก็กูไม่รู้จริงๆนี่หว่า แล้วกูก็อยู่กับพวกมึงเกือบตลอด กูเคยคุยกับมันที่ไหนมึงก็เห็น ไม่งั้นก็ถามไอ้เวย์ดู” ผมเพยิดไปทางไอ้เวย์ที่ช่วยเปิดข้าวกล่องกับเจาะแก้วน้ำให้ มือขวาข้างถนัดผมหักอยู่..ลำบากชิบ

“อ่ะ แดกซะ” มันดันกล่องข้าวกลับมาให้ ก่อนหันไปคุยกับไอ้อ้น “กูว่าเต่ามันคงไม่รู้ตัวหรอก แต่ให้เดาความซุ่มซ่ามของมันคงเป็นเหตุอีก แต่ทำไปขนาดนั้นแล้วก็คงหายโกรธแล้วล่ะมั้ง”

ขนาดนั้นของไอ้เวย์คือการที่เพื่อนผู้ชายชื่อกัปตันคนนั้นเดินชนผมซะเกือบแขนจะหักอีกรอบ

“แล้วมึงจะเอาไงต่อ” ไอ้อ้นยังเหมือนไม่พอใจอยู่แต่ก็อ่อนลงมาบ้าง

ผมที่ข้าวเต็มปากก็รีบเคี้ยวก่อนบอก

“ก็ไม่ไงถ้าเป็นอย่างที่ไอ้เวย์พูดจริง แสดงว่าที่มันมาทำกูก็มาจากที่กูอาจจะไปทำอะไรมันก่อนแต่ไม่รู้ตัว ก็ถือว่าหายกันไป ยังไงก็เพื่อนกันยังต้องเรียนด้วยกันอีกหลายปี กูโอเคว่ะ”

“ขอให้โอเคจริงๆเหอะ ไอ้พ่อพระ!!”





“น้องต่ายไหวแน่นะคะ”

พี่อ้อยหัวหน้าฝ่ายประสานงานเข้ามาถามย้ำอย่างเป็นห่วงเมื่อผมยืนยันว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงเย็น ซึ่งพี่เอ้หนึ่งในพี่ว๊ากเดินหน้าเข้มเข้ามาบอกแล้วว่าให้ผมคิดดีๆเพราะถ้าเข้าร่วมก็จะไม่มียกเว้นหรือสิทธิพิเศษใดๆทั้งสิ้น ซึ่งผมก็โอเค ผมไหว ดังนั้นผมเลยตอบพี่อ้อยไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมไหวครับ”

“งั้นก็ตามใจค่ะ งั้นเข้าไปนั่งเลย ระวังแขนด้วยนะ”

“ครับ”

ผมรับคำก่อนจะเดินเข้าไปนั่งต่อแถวบ้านกบ รู้สึกใจชื้นที่ไอ้เวย์อยู่บ้านเดียวกันซึ่งเมื่อผมเดินไปถึงกำลังจะนั่งท้ายแถวมันก็ดึงข้อมือข้างที่ไม่เจ็บลากให้มานั่งด้านหน้าที่มันเขยิบที่ว่างไว้ให้ ส่วนมันก็นั่งเป็นคนปิดท้ายแถวเอง

ผมนั่งลงก่อนเอี้ยวหลังไปถามไอ้เวย์เมื่อเห็นรุ่นพี่สามสี่คนมาเดินตามแถวแล้วมองหน้าน้องทีละคน บางคนก็ถูกดึงให้ลุกขึ้น

“พี่เขาทำไรกันวะ” ผมกระซิบ

“คัดคนไปประกวดดาวเดือน”

“อ่อ” ถึงว่าทำไมรุ่นพี่ถึงคัดไปแต่คนสวยๆหล่อๆ

“อย่างนี้กูก็ต้องเตรียมยืนอีกครั้งดิ”

“หึ” มันเหยียดตามองอย่างเย้ยหยัน สัด ด่ากูยังเจ็บน้อยกว่า แต่ก็เอาเถอะผมก็กะจะแค่เล่นมุกอยู่แล้ว กูก็เลยขำๆหัวเราะเอิ๊กอ๊ากใส่แม่งเลย

พรึ่บ!

ผมหยุดกวนไอ้เวย์เมื่อรู้สึกว่าคนข้างตัวลุกขึ้นจากการถูกชี้ตัวจากรุ่นพี่ และนั่นทำให้ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมคือ...กัปตัน คนที่หาเรื่องผมเมื่อตอนเย็น แต่ก็ไม่เชิงนั่งข้างหรอกเยื้องถัดจากผมไปสองคนอยู่อีกบ้านนึง

แค่เห็นหน้าผมก็รู้สึกไม่ดีเลย เหมือนมันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดว่า...เขาไม่พอใจผมเรื่องอะไร

ไอ้เวย์ที่เงยหน้ามองตาม ก่อนจะมองด้วยสายตารู้ทันว่าผมรู้สึกอย่างไร ไม่ต้องพูดอะไรเพียงแค่ฝ่ามือที่ยื่นมาขยี้หัวเบาๆก็ทำให้หัวใจผมเบาบางลงอย่างไม่น่าเชื่อ...ขอบคุณนะมึง

“น้องๆที่ถูกคัดให้เดินไปหาพี่ขวัญด้านหลังเวทีนะคะ”

แต่เอ๊ะ...

“เวย์ ทำไมมึงไม่ถูกเลือกวะ” ขนาดไอ้อ้นยังไม่รอด แล้วทำไมมันรอด เอาจริงนับจากคนที่โดนคัดไปไอ้เวย์แม่งหล่อกว่าตั้งเยอะ

“กูจะไปรู้เหรอ” มันทำหน้าตาย เฮ้ย นี่มันไม่ใช่แล้วนะเว้ย

“หรือมึงเอาแต่นั่งก้มหน้าพี่เขาเลยไม่เห็นมึง” แต่ก็ไม่นะ มันนั่งก้มหน้าตลอดเวลาก็จริง แต่ความสูงใหญ่และขาวอ่อร่าของมันไม่มีทางหรอกที่พี่เขาจะมองข้ามไป โอ้ยยยย

“คิ้วย่นหมดละ อย่างกับตัวสมีกอลเลยมึง” มันเอานิ้วโป้งมาบดๆระหว่างคิ้วให้คลายออก

“กองกอยอะไรของมึง”

“สมีกอลไง แหวนรักของข้าน่ะ”

ผมทำหน้าฉงน เอียงหัวอย่างนึกตามประโยคของมันแต่ผมไม่คุ้นอ่ะ ไม่รู้จัก มันมาจากหนังจีนเหรอ หรือหนังฝรั่ง แต่ขอโทษทีกูดูแต่หนังไทยที่ปีหนึ่งไม่ถึงสองเรื่อง แต่เอ๊ะ...มันไม่ใช่ประเด็น ยิ่งเห็นรอยยิ้มมุมปากของไอ้เวย์นะรู้เลย

“สาดดดดด ตั้งใจพากูออกนอกเรื่องใช่ไหม”



“เฮอะ ไอ้เวย์อ่ะนะ พี่เขาหมั่นไส้มันอ่ะดิ เสือกไปโวยวายเกือบมีเรื่องกับรุ่นพี่ตอนมึงหายไป” ไอ้อ้นที่ถูกรุมทึ้งจับแต่งตัวเซ็ตผมเข้ามาเม้าท์ให้ฟังขณะรอขึ้นแสดงโชว์ประกวดดาวเดือนเอก

เรียกว่ามันหนีความอึดอัดมาเข้าห้องน้ำแล้วผมก็มาเข้าห้องน้ำพอดี (ไอ้เวย์จะตามมาช่วยถอดกางเกงเพราะเห็นว่าแขนขวาผมหัก ผมเลยด่ามันไปชุดใหญ่ ดูก็รู้ว่ามันแกล้งผม)

“แล้วทำไมมึงถึงถูกเลือก” ผมถามอย่างสงสัย ถ้าเรื่องความเยอะสิ่งขี้โวยวายผมเชื่อว่าไอ้อ้นชนะไอ้เวย์ขาดลอยแน่นอน มาบอกว่ามันจะต่อยรุ่นพี่ผมยังเชื่อเลย

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เง้ออออออออออออออออออออ

“ฮ่าๆ อย่าทำหน้าเอ๋อสิวะ ทำท่านี้ปากแม่งโคตรห้อยเลยว่ะ”

“สัด”

“ฮ่าๆ กูไปละ ไปเตรียมโชว์ซะหน่อย ไหนๆก็ถูกคัดมาละไม่อยากขึ้นไปโชว์กากๆให้ขายขี้หน้า”

แล้วมันก็โบกมือบายๆเดินหล่อออกไป ให้ไอ้ผมเข้าไปปลดทุกข์หนักอย่างทุลักทุเลนิดหน่อย

....เอิ่ม....ผมว่ามันไม่ค่อยนิดแล้วล่ะ...มันค่อนข้าง...เกิดปัญหาบางอย่างหลังจากที่ผมจัดการเอาน้องๆหัวเหลืองออกจากลำไส้ใหญ่

...ก็แค่น้ำมันไม่ไหล

...สายฉีดก้นขาด

...แล้ว...ทิชชู่หมด...

ฮืออออ พระเจ้าครับจะกลั่นแกล้งผมไปถึงหน๊ายยยยยยยยยยยยยยยย

จะโทรเรียกไอ้เวย์ให้มาช่วยก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีเบอร์ติดต่อมันเลย ไอ้ต่ายเอ๊ย ทำไมมึงมันเซ่อแบบนี้วะ

จะตะโกนให้คนข้างนอกช่วยก็ดูเหมือนทุกคนจะไปรวมตัวกันเพื่อดูการแสดงของดาวเดือนกันหมดแล้ว

แล้วผมควรจะทำอย่างไรดี

หันซ้ายแลขวาก็ไม่มีอะไรพอที่จะให้ผมนำมาเช็ดก้นทำความสะอาดได้เลย จะเหลือก็เพียงแต่....

ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อสายตาปะทะลงไปที่...กกน.ที่ถูกม้วนลงไปอยู่ตรงข้อเท้าของผมตอนนี้ เอาจริงเหรอวะ ต้องใช้มันจริงๆเหรอ...แต่ก็ดูจะไม่มีทางเลือกอื่น

เอาก็เอาวะ

ไม่ใส่ก็ไม่มีใครรู้มันอยู่ข้างใน เดี๋ยวก็หมดวันแล้ว

โถ...ช้างน้อยของพ่อ มันก็จะเย็นๆแกว่งๆหน่อยนะลูก พ่อขอโทษ พ่อจำเป็น ฮือออ























ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [3] UP++17/9/2018 P.1
«ตอบ #18 เมื่อ17-09-2018 21:54:55 »

น้องต่าย..ยยยยยยยย   :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [3] UP++17/9/2018 P.1
«ตอบ #19 เมื่อ26-09-2018 18:06:20 »

มารออ่านเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [3] UP++17/9/2018 P.1
« ตอบ #19 เมื่อ: 26-09-2018 18:06:20 »





ออฟไลน์ creten

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [3] UP++17/9/2018 P.1
«ตอบ #20 เมื่อ26-09-2018 20:13:01 »

ซวยไรเบอร์นี้ สงสารรรรรรรร

ออฟไลน์ mod-cup

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +348/-5
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [4] UP++28/9/2018 P.1
«ตอบ #21 เมื่อ28-09-2018 14:41:54 »

Look addict 4

แล้วผลประกวดดาวเดือนสาขาก็จบลง เป็นไปตามคาดคือไอ้อ้นได้ตำแหน่งเดือนไป ขณะที่กิ่งผู้หญิงขาวตัวเล็กน่ารักอย่างกับตุ๊กตากระเบื้องได้ตำแหน่งดาวเพื่อเป็นตัวแทนไปประกวดระดับคณะต่อไป

ผมเบ้ปากใส่ไอ้อ้นที่ยักคิ้วยืดอกว่าข้านี่หล่อเหลือเกิน มั่นหน้ามั่นโหนกเข้าไป คนอื่นๆเขาหล่อกว่ามึงตั้งเยอะเว้ย ชนะมาได้เพราะความสามารถในการสีไวโอลินที่ทำเอาทั้งตึกตกอยู่ในภวังค์เท่านั้นแหละ ไอ้เก๊กเอ้ยย

ผมค่อนข้างทึ่งมากเมื่อไอ้อ้นแสดงความสามารถด้วยการเล่นดนตรี ตอนมันบอกผมก็คิดว่าจะมาเล่นกีตาร์ ร้องเพลง อวดสาวอย่างหนุ่มๆทั่วไปชอบทำงี้ แต่พอมันเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมเครื่องดนตรีคู่ใจ ผมไม่รู้ว่ามันไปหาไวโอลินมาจากที่ไหน รู้แค่พอไฟบนเวทีหรี่ลงเป็นแสงสลัวพร้อมกับไอโอลินที่ถูกยกพาดขึ้นบนบ่า ดวงตาคมค่อยๆหลับลงและเสียงเพลงอันไพเราะที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาขับกล่อมเราทุกคน

ไม่เหลือเค้าผู้ชายกวนประสาท ขี้เล่น ปากหมาเหลืออยู่เลย ต้องยอมรับเลยว่ามันคืออีกด้านของไอ้อ้นที่มีเสน่ห์มากจริงๆ อยากจะตะโกนดังๆให้ก้องตึก

นั่นเพื่อนผมโว้ยยยยยย เพื่อนผม

“มึงเข้าไปนั่งกินขี้หรือไงไอ้แห้ง ยุงจะหามกูไปแดกแล้วแม่งง” ลบออกไปให้หมดครับที่ผมชมมันเมื่อกี้ ลืมไปให้สิ้นกับภาพลวงตา

“เสร็จแล้วๆ”

ผมรีบกุลีกุจอเก็บช้างน้อยใส่กางเกง หลังจากประกวดดาวเดือนจบลงก็มีวงดนตรีสดจากพี่ๆให้เราได้โยกและผ่อนคลายตัวเองหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับค่ายมาทั้งวัน ซึ่งในขณะที่กำลังโยกๆอยู่ก็เกิดปวดฉี่ขึ้นกระทันหัน กำลังจะเดินมาห้องน้ำก็ถูกไอ้เวย์ดึงแขนไว้ถามว่าจะไปไหน พอมันรู้ก็จะตามมาด้วยไม่ยอมให้ผมมาคนเดียว แต่ระหว่างนั้นมันก็ถูกรุ่นพี่เรียกตัวไป ไอ้อ้นเลยอาสามาเป็นเพื่อนผมเอง

“´ช้า” เปิดประตูห้องน้ำออกมามันก็บ่นเลย

“กูมีมือเดียวนะเว้ย ให้เวลากูหน่อยสิ”

“เออๆไปๆ อยากเต้นต่อแล้ว เพลงกำลังมันส์” เสียงเพลงที่ดังแว่วมาให้รู้ว่าเป็นจังหวะร็อคมันๆ ไอ้อ้นอยากจะขยับมือไม้เต็มที่

แอ๊ด

จังหวะที่ผมกำลังจะก้าวออกไป ก็มีคนด้านนอกเปิดประตูเข้ามาก่อน ไอ้เวย์นั่นเอง พอไอ้อ้นเห็นว่าเป็นใครมันก็บุ้ยปากมาที่ผมและเดินสวนออกไปข้างนอก เป็นอันรู้กันว่าให้ไอ้เวย์มารับช่วงต่อดูแลผมแทน

“กูดูแลตัวเองได้” ผมว่าออกไปทันทีที่ไอ้เวย์หันมามองหน้าผม รู้ว่ามันห่วงที่ผมแขนหัก ขาเดาะ แต่ผมก็ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ เกรงใจพวกมันที่ต้องมาตามประกบผมตลอดเวลา

ไอ้เวย์แค่ยิ้มมุมปากกับถ้อยคำของผม ก่อนจะเดินจับข้อมือผมจูงกลับเข้าไปตรงซิงค์ล้างหน้า จับมือข้างที่ไม่หักขึ้นมาก่อนเปิดน้ำก๊อกเพื่อล้างมือให้

ผมนิ่งอึ้งกับการกระทำนั้น สมองตื้อไปเสี้ยววินาที ก่อนสติจะกลับมาเมื่อความลื่นของสบู่ที่ถูไถเข้ากับมือทั้งยังกลิ่นหอมอ่อนๆที่แตะโชยปลายจมูก

มากไปกว่านั้นคือสัมผัสของฝ่ามือคู่ใหญ่ที่ประกบหน้าหลังอยู่กับมือของผมให้เห็นเป็นทางคาดขาวดำ ขาว...จากมัน และ ดำ...จากสีผิวผม พร้อมขยับถูไปมาเพื่อทำความสะอาดให้อย่างเบาแรง

“มะมึง...”

“มีอยู่มือเดียวก็ล้างให้สะอาด เข้าห้องน้ำสัมผัสแต่เชื้อโรคเผลอไปจับของกินเดี๋ยวก็ท้องเสียขึ้นมาอีก” เสียงมันไม่ได้นุ่มละมุนเหมือนในพระเอกนิสัย ตรงข้ามกับแข็งกระด้าง แต่ไม่รู้ทำไมใจผมถึงเต้นกับประโยคนั้น

“กะกูลืม อะไอ้อ้นมันเร่ง...” ไม่รู้ทำไมเสียงถึงตะกุกตะกักขนาดนี้

“มึงมันซื้อบื้อต่างหาก” ประโยคที่พร้อมกับน้ำสะอาดที่ถูกเปิดเพื่อล้างคราบสบู่ออก ก่อนที่มันจะเอามือที่ยังเปียกมาขยี้หัวผมเบาๆ

“เอ้ยย หัวกูไม่ใช่ผ้าเช็ดมือนะ” ผมโวยวายออกไปเพื่อขับไล่ความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้น แต่มันยังไม่สงบดี มือคู่เดิมที่ที่จู่โจมความรู้สึกผมเมื่อครู่ก็หยิบทิชชู่มาซับน้ำที่ฝ่ามือให้

“อ่ะ เสร็จละ” มันไม่สนใจคำโวยวายของผม หมุนตัวทิ้งก้อนทิชชู่ใช้แล้วลงถังขยะ ก่อนจะควักขวดอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วฉีดเข้าหาตัวผม

“เฮ้ย อะไรวะ” ผมโวยวายพลางก้าวหนีละอองเย็นๆที่สัมผัสโดนผิว แต่ก็ถูกไอ้เวย์คว้าข้อมือเอาไว้ก่อน

“ทำไมเต่าอย่างมึงถึงชอบโวยวายวะ กูฉีดยากันยุงให้ ข้างนอกยุงเริ่มแห่กันมาแล้ว พวกพิการอย่างมึงโดนกัดขึ้นมามีปัญญาไล่มันเหรอ” ปากมันก็ด่าผมไป อีกมือที่ไม่ได้จับข้อมือผมไว้ก็กดหัวฉีดให้ละอองเย็นๆเหม็นกลิ่นตะไคร้มาบนผิวนอกร่มผ้า ไม่เว้นแม้แต่แขนข้างที่ใส่เฝือกมันก็ฉีดลงไป

อีกแล้ว...ใจผมเหมือนขึ้นไปนั่งเล่นบนม้าโยกอีกแล้ว

“ขะขอบใจนะมึง”

“อืม ถึงเป็นเต่าแต่ก็ซื่อบื้อน้อยๆลงหน่อย” มันยักคิ้วกวนประสาทให้ก่อนจะพาผมออกไปรวมกับเพื่อนด้านนอก

“ช้า?”  ไอ้อ้นเลิกคิ้วกวนๆถาม

“จัดการเต่าซื่อบื้อนิดหน่อย” ไอ้เวย์ยักคิ้วตอบเรียกรอยยิ้มเหยียดจากไอ้อ้นที่ส่งตรงมาหาผมโดยเฉพาะ

เออ กูมันตัวภาระ แต่ช่วยปกปิดความสมเพชที่ฉายออกมาจากตาพวกมึงทีเถอะ ไอ้เพื่อนเลว

“สนุกกันพอหรือยังครับ!” อยู่ๆเสียงดนตรีบนเวทีก็เงียบลงเมื่อมีคนกลุ่มนึงเดินเข้ามาในโถงกลางที่เต็มไปด้วยเด็กปีหนึ่งที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน

ผมตื่นกลัว สะดุ้งตาโตเมื่อคนกลุ่มนั้นในชุดนักศึกษาเต็มยศ ต้นแขนข้างขวามีผ้าสีดำคาดอยู่ ใบหน้านิ่งขรึมดุดันเรียกให้ผมค่อยๆกระเถิบตัวเองไปหลบอยู่ด้านหลังไอ้เวย์

ผมก็พอรู้มาบ้างนะว่าการรับน้องจะต้องเจอกับพี่วินัย แต่มันไม่โหดไปหน่อยเหรอครับ ตะคอกใส่กันทำไม ฮือออ

“ถ้าสนุกกันพอแล้วก็นั่งลง!”

“ผมบอกให้นั่งลงไปไง!” ผมรีบนั่งลงตามคำสั่งอย่างลนลาน มือหนึ่งที่ขยุ้มชายเสื้อไอ้เวย์ไว้ดึงมันลงมานั่งด้วย ซึ่งมันก็นั่งลงแต่โดยดี แอบเห็นไอ้อ้นกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะกระแทกตัวนั่งลงกับพื้น

มึงจะถอนหายใจแรงทำไม เดี๋ยวพี่วินัยได้ยินก็โดนทำโทษหรอกมึง!!

“แล้วความเป็นระเบียบวินัยไม่มีกันเลยใช่ไหม! หรือที่บ้านไม่สั่งสอนมาถึงนั่งกันระเกะระกะแบบนี้!”

“เฮ้ย!” เสียงไอ้อ้นแหวขึ้นมาอย่างโมโห ผมรีบปล่อยมือจากชายเสื้อไอ้เวย์ไปกระตุกแขนมันให้ใจเย็น มึงจะมีเรื่องกับรุ่นพี่ไม่ได้นะโว้ย มึงจะโดนแบน ไม่มีสายรหัส ไม่มีสังคม กีดกันออกจากกิจกรรมต่างๆ กดดันจากทุกสิ่งรอบตัวจนต้องลาออกจากมหาลัย! ผมรู้! ผมอ่านเจอในพันทิป!

“มีปัญหาอะไรครับน้อง!” คงเพราะแสงไฟสลัวที่ถูกหรี่ลงจนเกือบมืดตั้งแต่พี่วินัยเดินเข้ามา ทำให้ไม่รู้ตัวบุคคลของเจ้าของเสียงเมื่อครู่ พี่วินัยหนึ่งในสิบคนจึงทำเพียงกวาดสายตามองมายังตำแหน่งของเสียงเพียงเท่านั้น

และโชคยังดีที่ไอ้อ้นยอมเงียบลงเพราะสายตาอ้อนวอนของผมที่ส่งไป ถึงจะมีท่าทีฮึดฮัดขัดใจอยู่บ้าง

“สมัยไหนแล้ว แม่งยังมีพี่ว๊ากอยู่อีก เพื่ออะไรวะ” เสียงสบถรอดไรฟันของไอ้อ้นเรียกสายตาของไอ้เวย์ให้หันไปปราม คงกลัวเสียงมันจะไปถึงหูพี่วินัยอีกรอบ

และคราวนี้มันคงไม่รอดแน่

“ทุกกิจกรรมมีเหตุผลของมัน” เสียงกระซิบของไอ้เวย์ไม่ได้ทำให้ใบหน้ายุ่งเหยิงของไอ้อ้นคลายลงเลย

“คุยอะไรกันครับ! ความเคารพในตัวรุ่นพี่ไม่มีกันเลยหรือไง!”

“แล้วยังนั่งเฉยกันอยู่อีก จัดแถวสิครับ!! หรือที่พี่ๆทุกคนพร่ำสอนคุณมาลืมไปหมดแล้ว!!”

จากนั้นความโกหาหลก็เกิดขึ้นเมื่อทุกคนรีบลุกและวิ่งกลับเข้าแถวตามบ้านใครบ้านมันอย่างที่รุ่นพี่จัดไว้ให้ตั้งแต่เริ่มค่ายรับน้อง ดีที่ผมกับไอ้เวย์อยู่บ้านเดียวกัน ผมเลยเกาะชายเสื้อมันแจไม่ยอมปล่อย

ผมมันเด็กบ้านนอกนะครับ ไม่ได้เจนโลกอย่างไอ้อ้น ถึงจะไม่กลัวเสียงที่ตะคอกเอา ตะคอกเอา

เฮ้อ นอกจากแขนผมจะหัก หูผมก็คงดับด้วยในไม่ช้า

แปะ

“นั่งเฉยๆ! ใครอนุญาตให้ขยับตัวครับ!”

“ขอโทษครับ ยุงกัด” เสียงนี้ผมจำได้...กัปตัน

ความจริงผมก็เห็นเพื่อนๆหลายคนยุกยิกปัดยุงนะ แต่ไม่ถึงขั้นตบออกมาเป็นเสียงดังอย่างกัปตัน

“แค่นี้พวกคุณอดทนกันไม่ได้หรือไง! ยุงกัดแค่นี้ยังไม่ไหว แล้วในรั้วมหาลัยอีกสี่ปีพวกคุณจะไปรอดกันไหม!”

“เกี่ยวเหี้ยไรกันวะ” ไอ้อ้นมึงกระซิบเบาๆโว้ยยยยย


กว่าพี่วินัยจะยอมกลับไปพวกผมก็โดนตะโกนสั่งสอนเรื่องต่างๆอยู่เกือบร่วมชั่วโมง จนผมที่ตอนแรกสั่นงกๆด้วยความกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลเกี่ยวกับระบบเส้นเสียงของพี่วินัยแทน

ฟิชเชอร์แมนคงไม่ไหว สเตปซิลก็คงเอาไม่อยู่ กำกิกเผียงทั้งแผงยังลำบากเลย


“นี่คือการรับน้องที่สร้างสรรค์แล้วใช่ป่ะวะ ให้คนกลุ่มนึงมายืนตะโกนว๊ากปาวๆ แล้วก็ส่งพี่สันลงมาเอนเตอร์เทนมาเต้นบ้าๆบอๆให้ดู ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ” ไอ้อ้นยังหัวเสียไม่เลิกทั้งที่การรับน้องวันนี้จบลงแล้ว ตอนนี้กำลังต่อแถวเพื่อรอคิวอาบน้ำกันอยู่ครับ

“เอาน่ามึง เปิดใจ ถ้ามึงต่อต้านแบบนี้ อาทิตย์หน้าที่ต้องเข้าห้องเชียร์มึงจะลำบาก”

“กูก็แค่ไม่เข้า จบ”

“ชีวิตมหาลัยสังคมเป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามึงยังทำตัวแบบนี้มึงจะถูกบรรดารุ่นพี่แบน”

“กูมีแค่มึงกับไอ้แห้งนี่ก็พอแล้ว”

ไอ้อ้นที่เถียงอยู่กับไอ้เวย์ดึงคอผมเข้าไปกอด

“มึงทนหน่อยนะ ไม่ถึงเดือนก็หมดห้องเชียร์แล้ว กูขอ กูกลัว” ผมส่งสายตาอ้อนวอนมัน อย่ามีเรื่องเลยกูขอร้อง ผมอยากเข้ามาเป็นเด็กมหาลัยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ฮือออ

“ไอ้เต่าขี้ป๊อดเอ้ยยยย”

และก็เป็นแบบเดิมที่ผมลากหมอนมานอนข้างๆไอ้เวย์ สวดมนต์ก่อนนอน ตบหมอนปุๆก่อนล้มตัวลงนอนดึงผ้าห่มผืนบางที่รุ่นพี่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่เข้าค่ายวันแรกขึ้นมาห่มถึงอกแล้วหลับตาลง

เฮ้อ วันนี้เหนื่อยจัง ขอหลับเอาแรงก่อนที่ตีห้าบรรดาพี่ๆสันทนาการจะมาตะโกนร้องเพลงตีกลองปลุก

ฟึ่บ

ผมพลิกตัวนอนตะแคงไปด้านข้างที่แขนไม่หัก ดวงตาที่หรี่ปรือปรอยนิ่งค้างเมื่อปะทะเข้ากับใบหน้าคมของร่างที่นอนอยู่ข้างๆกัน

ไม่ได้ใกล้จนปลายจมูกสัมผัส...แต่ไม่ไกลเกินไปที่จะสัมผัสถึง...

ใบหน้าคมที่เป็นเงาสลัวอยู่ในความมืด เรียกให้ผมใจเต้นเมื่อถึงว่าคนที่กำลังหลับสบายอยู่นี้ช่วยเหลือผมมามากแค่ไหน...เหมือนฮีโร่ เหมือนเซฟโซน...ที่ผมรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้

มือผมค่อยๆเคลื่อนไปกุมนิ้วน้อยที่วางอยู่บนฟูกของอีกฝ่ายไว้

ไม่กล้าแตะมากไปกว่านี้กลัวมันจะตื่น แต่ก็รู้สึกอบอุ่นให้นอนหลับฝันดีไปตลอดคืน

ถ้าไอ้เวย์มันรู้มันจะรังเกียจผมมั้ยนะ...ผมจะยังเป็นคนที่มันคอยเป็นห่วงอยู่หรือเปล่า...

ถ้ามันรู้ว่า...ไอ้เต่าตัวนี้หวั่นไหวกับเพื่อนตัวเอง...








ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [4] UP++28/9/2018 P.1
«ตอบ #22 เมื่อ28-09-2018 15:18:11 »

น้องเต่าไปไหนคนก็เอ็นดู
ซุ่มซ่ามได้ใจ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: Look addict แอบหลงลักษณ์---- [4] UP++28/9/2018 P.1
«ตอบ #23 เมื่อ28-09-2018 22:35:33 »

3 p ???

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด