ตอนที่ 16
ผิดที่เราเอง (ครึ่งแรก)
ผ่านไป 1 อาทิตย์กว่าๆ แล้ว ที่ปลายฝันอยู่คนเดียวเงียบๆ ในห้องกว้างแห่งนี้ ใช้ชีวิตตามปกติ ไปเรียน กลับบ้าน ทำการบ้าน นอน ซึ่งปฐพีกับอัคนีไม่ยอมกลับบ้านเลย พยายามที่ตัดขาดการติดต่อกับเขาโดยสิ้นเชิง และปลายฝันก็มีทิฐิมากพอที่จะไม่โทรศัพท์หา
ยังทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่รู้ความจริงจากเพื่อนสาวไปแล้วว่าอัคนีไม่ได้ผิดอะไร และใครกันแน่ที่ผิดจริงๆ
ความไว้ใจที่มีต่อก้องภพถูกทำลายลงด้วยตัวของก้องภพเอง ปลายฝันรู้ว่าตัวเองแล้วว่าเชื่อเพื่อนมากเกินไป โดยไม่คิดที่จะเชื่อใจผู้ชายสองคนนั้นเลย
ถึงแม้จะชอบหาเรื่อง แกล้งเราสารพัด แต่เขาก็ไม่เคยแกล้งด้วยการโกหกสักครั้ง ไม่เคยใส่อารมณ์ด้วย ทำไมตอนนั้นเราถึงได้ไม่คิดถึงเรื่องพวกนี้เลย
ปักใจอยู่เสมอว่าปฐพีและอัคนีชอบหาเรื่องตนก่อน ก็คิดว่าจะชอบหาเรื่องไปทั่ว ไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนั้น
เพราะทุกการกระทำมักจะต้องมีเหตุผลประกอบอยู่แล้ว
“แต่เรากลับไม่ยอมถาม ไม่ยอมฟัง เอาแต่คิดว่าความคิดของตัวเองถูก” พึมพำเบาๆ พลางใช้สายตามองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นนี้ ที่ผ่านความทรงจำอะไรด้วยกันมากมาย ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้กับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
ทั้งการทะเลาะ ถกเถียง กลั่นแกล้ง
นั่งเล่น นั่งดูหนัง นั่งคุยกัน
ทุกความทรงจำมันตอกย้ำว่าเพียงเวลาแค่ไม่กี่เดือน...
ปฐพีกับอัคนีก็เข้ามามีอิทธิพลกับหัวใจตนจนเต็มแน่นไปหมด
“ผมเคยคิดนะว่า ถ้าพวกคุณไม่อยู่ ผมจะมีความสุขกว่านี้”
“แต่มันไม่ใช่เลย...มันเหมือนชีวิตขาดหายอะไรบางอย่างไป”
ถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ปลายฝันจะไม่ทำให้มันกลายเป็นเป็นนี้ไปได้ คิดถึงคำสอนของแม่เมื่อยังเด็ก ก็นึกเสียใจที่มันไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้
‘ให้จำเอาไว้นะลูก ว่ามีสองสิ่งที่เราเอากลับคืนมาไม่ได้ก็คือ เวลาและคำพูด ฉะนั้นแล้ว จะทำอะไร จะพูดอะไร ให้คิดดีๆ ก่อนที่จะทำมัน’ “ดรีมอยากจะบอกว่า ดรีมทำมันพลาดแล้วฮะแม่”
“ดรีมโง่เองฮะแม่ ดรีมเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งไปแล้ว ลืมมองดูความถูกผิด ความเป็นจริง”
ปลายฝันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว
ยิ่งคิดกลับไปเมื่อพูดคุยกับญาณินผ่านทางโทรศัพท์เมื่ออาทิตย์ก่อน ก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง โกรธตัวเอง มันใช้คำอื่นมาบรรยายความรู้สึกตัวเองตอนนี้ไม่ได้ นอกจากคำว่า เสียใจ
‘ดรีม เราไม่รู้หรอกนะว่าดรีมจะคิดยังไงถ้าเราจะบอกว่าพี่เพลิงเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย’
‘ทำไมจะไม่ผิดอะไรเลย ทั้งๆ ที่เราก็เห็นกับตาว่าเขากำลังจะต่อยก้อง’
‘ใช่ พี่เขาจะต่อยก้อง แต่นั่นเป็นเพราะว่าก้องไปต่อยพี่เขาก่อน เราเป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนะดรีม จะเชื่อเราหรือว่าเชื่อตาตัวเองก็ตามใจ แต่พี่เขายังไม่ทันได้ต่อยก้องเลยนะ ดรีมเข้ามาเห็นก่อน’
ปลายฝันเงียบไป
‘แล้วทำไมก้องต้องต่อยคุณเพลิงด้วย’ ถามเสียงเบา
‘เรื่องนี้เราคงจะบอกไม่ได้ว่าก้องทำไปเพื่ออะไร เรารอให้ก้องบอกดรีมเองก็แล้วกัน’
ปลายฝันคิดในใจอย่างสับสน ว่าก้องภพทำไปทำไม ต้องการอะไร
‘เราแค่บอกให้ดรีมรู้ว่า พี่เพลิงเขาไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย ถ้าเป็นดรีม เมื่อโดนต่อย ดรีมคงเอาคืนอยู่แล้วใช่ไหม’ ปลายฝันพยักหน้าน้อยๆ
‘เราผิดจริงๆ ใช่ไหมหญิง เราไม่มีเหตุผลอย่างที่เขาว่าจริงๆ เราที่อยู่กับพวกเขา ใกล้ชิดกับพวกเขา กลับตีโพยตีพายโดยที่ไม่ถามเหตุผลเขาเลย’ ปลายฝันเอ่ยเสียงเศร้า
‘ใครๆ ก็ทำผิดกันได้ทั้งนั้นแหละดรีม แต่มันอยู่ที่ว่า เมื่อเราผิดแล้ว เรายอมรับว่าเราผิดไหม เรากล้าที่จะขอโทษหรือเปล่าเมื่อเราทำผิด’
‘ขอบคุณนะหญิง’
‘ยินดีจ้า ยังไงก็แล้วแต่ ดรีมรีบไปขอโทษพี่เพลิงเขาเถอะนะ แล้วก็เคลียร์กับพี่ดินให้รู้เรื่องด้วย จากที่ดรีมเล่าให้ฟังและที่พี่เพลิงพูดเมื่อวาน แน่นอนว่าที่เขาไม่มาง้อดรีม นั่นก็เพราะ ดรีมเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ต้องขอโทษด้วยนะที่เราพูดตรงไป’
‘ไม่เป็นไรหรอกหญิง ที่หญิงพูดมามันถูกทุกอย่างเลยล่ะ’
มันถูกต้องทุกอย่างแล้ว เราสมควรแล้วที่จะต้องเสียใจแบบนี้
ก่อนจะมาอยู่ด้วยกันกับปฐพีและอัคนี ปลายฝันใช้ชีวิตที่ไม่สนใจความคิดของคนรอบข้างเท่าไหร่ เพราะคนพวกนั้นชอบดูถูกความจนของเขา เลยทำให้เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ไป
โดยไม่รู้เลยว่านิสัยแบบนี้ นอกจากจะปกป้องความรู้สึกตัวเองได้แล้ว...
มันก็ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นได้เหมือนกัน
“เฮ้อออ...”
คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเสียงดัง เมื่อคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี ใจหนึ่งก็อยากที่จะไปขอโทษ แต่ก็ละอายใจเกินกว่าที่จะพบหน้า
“คุณดินอยู่ที่ไหน คุณเพลิงเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เราไม่รู้อะไรเลย”
พึมพำด้วยความเหนื่อยใจ...
“คุณดินชอบพูดออกมาตรงกันข้ามกับความคิด ส่วนคุณเพลิงก็ชอบพูดจริงและไม่เคยโกหกใคร นี่แกอยู่กับเขามาหลายเดือนยัง
ไม่รู้จักเขาอีกหรือ” คนตัวเล็กตำหนิตัวเอง
“ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะผิดหวัง”
ปลายฝันพูดออกมาอย่างเลื่อนลอย สายตาก็มองดูแต่ฝั่งทางประตูอย่างมีความหวัง ว่าปฐพีกับอัคนีจะกลับมา
“เราควรโทรหาพวกเขาสินะ” มองโทรศัพท์ของตัวเองอย่างประหม่า ไม่กล้าแม้จะต่อสายหายใคร
ละอายใจเหลือเกิน...
“เอาวะ!! เราผิด เราก็ต้องเป็นฝ่ายขอโทษเขาก่อน”
ปลายฝันทำใจอีกสักพักก็กดโทรออกเบอร์ของปฐพีทันที ซึ่งปฐพีรับสายเร็วมาก โดยที่ร่างบางไม่ได้ตั้งตัว
(...) ปลายสายเงียบเสียจนร่างบางอึดอัด
“คุณดิน” เรียกแบบหยั่งเชิงอารมณ์ของปลายสาย
(อืม...มีอะไร) ปลายสายถามเสียงเย็นชา แต่ก็เป็นเสียงแรกในรอบสัปดาห์ที่ปลายฝันได้ยิน
ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
“จะกลับบ้านหรือเปล่าครับ”
(ฉันไม่กลับ ไอ้เพลิงก็ไม่กลับ เธออยู่ไปเถอะ ไม่ต้องกลัวว่าพวกเราจะไปวุ่นวาย) ปฐพีพูดประโยคยาวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเล็กๆ
“ถ้ามันไม่สะดวกขนาดนั้น ผมจะย้ายออกให้ก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมจะย้ายไปอยู่คอนโดที่คุณพ่อให้ก็ได้ พวกคุณจะได้สบายใจ” ปลายฝันไม่ได้ประชด หากแต่ก็เป็นความจริงที่ออกมาจากใจ
(ทำไมต้องประชด)
“ผมไม่ได้ประชดจริงๆ นะครับ ถ้ามันทำให้คุณสบายใจได้ ผมก็จะออก”
ถ้าจะให้อยู่คนเดียวตอนนี้ มันทำไม่ได้แล้ว
มันเคยชินที่มีสองหนุ่มอยู่ข้างกายไปแล้ว
(อย่าทำ!) ห้ามออกมาเสียงเข้ม
“ผมขอโทษนะครับ ที่งี่เง่าโกรธคุณไป” ร่างบางเอ่ยอย่างสำนึกผิด
(ฉันสิต้องขอโทษเธอ ฉันพูดทำร้ายจิตใจไปจริงๆ) ปฐพีเสียงอ่อนลง
ในเมื่อปลายฝันอ่อนลงแล้ว ก็ไม่ควรที่จะแข็งใส่
ทำตามความรู้สึกของตัวเองบ้างเถอะ...
“ม่ะ...ไม่เป็นไรครับ กลับบ้านเถอะนะครับ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว ฮึก...” ขอร้องพลางสะอื้นเบาๆ แบบกลั้นเต้มที่
ก็แค่ดีใจ...ที่กลับมาคุยกันก็เท่านั้น
ปลายฝันไม่เคยร้องไห้บ่อยขนาดนี้มาก่อน
แต่เมื่อมาอยู่กับสองหนุ่มอันตรายนี้ ก็เหมือนจะกลายเป็นคนอ่อนแอไปเลย
(ฉันจะรีบกลับนะ อย่าร้อง ฉันไม่ชอบน้ำตาของเธอ) บอกด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วรีบสุดๆ สำหรับปลายฝัน แต่มันกลับทำให้หัวใจน้อยกลับมาเต้นแบบมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“ฮึก...ขับรถระวังๆ นะครับคุณดิน” ปลายฝันตัดสายทิ้งไป ก่อนจะใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาออกไป อีกข้างก็จับโทรศัพท์ไว้มั่น
นิ้วเรียวเลื่อนหารายชื่ออัคนีก่อนโทรออกเป็นรายต่อไป
คนนี้คือคนที่ต้องขอโทษมากที่สุด คือคนที่ปลายฝันทำผิดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
(มีอะไร!) เสียงเข้มดังเข้ามาในหู น้ำตาที่แห้งไปไหลอีกครั้ง
โกหกตัวเองต่อไปไม่ไหวจริงๆ ว่าไม่ได้คิดถึงผู้ชายสองคนนี้
“…” ร่างเล็กพูดไม่ออก เมื่อได้ยินเสียงนั้นแล้ว
(ถ้าไม่มีอะไรฉันจะวางแล้ว)
“คุณเพลิง ผมขอโทษ กลับบ้านเถอะนะครับ” รีบพูดออกมาเพราะกลัวว่าจะถูกตัดสายทิ้ง แล้วจะติดต่อไม่ได้อีก เรื่องมันก็จะยืเยื้อไปอีก
ปลายฝันไม่อยากให้มันค้างคาแบบนี้
(ฉันไม่อยากกลับ บอกตรงๆ นะ ว่าฉันยังทำใจไม่ได้ ทั้งๆ ที่ฉันพยายามปรับตัวเข้าหาเธอ เปลี่ยนนิสัยตัวเองเพื่อเข้ากับเธอ แต่แม่งกลับไม่มีความหมาย)
“ฮึก ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมรู้ความจริงหมดแล้วนะครับ ฮึก ผมโง่เอง ให้ทำยังไงเพื่อให้คุณหายโกรธผมก็ยอมทั้งนั้น”
(ถ้าเพื่อนเธอไม่บอกความจริง เธอก็ไม่คิดจะเชื่อสินะ)
ใครว่าอัคนีไม่รู้สึกอะไรที่ต้องมาคุยกับปลายฝันที่กำลังร้องไห้แบบนี้
ถ้าหายตัวได้ เขาก็จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย ให้ตายสิ!
“ผมยอมรับผิดทุกอย่างนะคุณเพลิง ขอโทษที่โง่ ฮึก ขอโทษที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ให้อภัยผมเถอะนะครับ ฮึก ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” ความเงียบเหงาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ปลายฝันอัดอั้นจนต้องระบาย
(ไอ้ดินล่ะ หยุดร้องได้ไหม) อัคนีเสียงอ่อนลง
ในเมื่อปลายฝันลดทิฐิขนาดนี้ แล้วทำไมเขาจะลดบ้างไม่ได้
“คุณดิน ฮึก กำลังกลับครับ”
(ได้ ฉันจะรีบกลับบ้าน หยุดร้องเถอะนะ เสียงร้องของเธอมันทำให้ฉันปวดใจจริงๆ เลยว่ะ)
ใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างยินดีที่อัคนียอมกลับบ้านมาพบหน้าตนแล้ว
แม้ไม่รู้ว่าเมื่อเจอหน้ากันแล้ว จะกล้าคุยกันเหมือนตอนนี้หรือเปล่า
แค่ขอให้หายโกรธกัน และเพียงแค่เห็นหน้ากันก็พอ...
50%

ตอนนี้บรรยายเยอะไปหน่อยก็ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้น้องดรีมดำเนินเรื่องคนเดียว จะให้พูดคนเดียวก็แปลกๆ ค่อนข้างจะน่าเบื่อนะคะ แต่ว่ายูกิจะเปลี่ยนแนวเรื่องก็ไม่น่าเข้า ก็เลยตัดสินใจลงแบบนี้ไปเลย
ถ้าหากสงสัยว่าทำไมดินกับเพลิงยอมกลับง่ายจัง คำตอบก็คือ... น้องดรีมอุตส่าห์ง้อขนาดนี้แล้วทำไมพี่ๆ เขาจะต้องใจแข็งด้วยล่ะ ในเมื่อตัวเองก็รอให้ดรีมมาง้ออยู่ เข้าใจกันเนอะ เดี๋ยวจะรีไรท์ให้ใหม่นะคะ ^_^
ติดตาม พูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki