ตอนที่ 13
ไม่พอใจ!! (ครึ่งหลัง)
ขวับ!!
เฮือก...
พนักงานขายคนนั้นสะดุ้งเฮือกด้วยความกลัว เมื่ออัคนีหันมามองตนด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสุดๆ แต่ก็ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่คาดคิดว่าคนร้ายกาจจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย
มีหวังตกงานแน่ๆ
“โกรธฉันหรือ!” ถามห้วนๆ
แต่แค่นี้ก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกแล้ว เพราะหลายคนก็รู้จักชื่อเสียงของอัคนีดี ถ้าได้ทำอะไรลงไปแล้ว จะไม่มีทางถามความรู้สึกภายหลังแน่
และที่สำคัญ ร้านนี้คงจะเละไม่เป็นท่าไปแล้ว
แต่ทำไมปลายฝันถึงทำให้อัคนีอ่อนลงได้ขนาดนี้ นับได้ว่าเป็นคู่หมั้นที่เอาอัคนีอยู่เลยทีเดียว
“ม่ะ...ไม่ครับ”
“เห็นไหม เขาไม่ได้โกรธฉันสักนิด”
“ครับ! พี่เขาไม่โกรธ แต่ช่วยมองหน้าพี่เขาดีๆ สิครับ กล้ำกลืนขนาดไหน”
“จะเอาไงฮะ!”
“ผมบอกไปแล้ว และจะไม่พูดอีก”
อัคนีพ่นลมหายใจแรงๆ ออกมา ก่อนจะหันไปมองหน้าพนักงานนิ่งๆ
“ขอโทษ” พูดขึ้นห้วนๆ
“ม่ะ ไม่เป็นไรครับคุณอัคนี ม่ะ ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ” พนักงานยิ่งสั่นเมื่ออัคนียอมขอโทษตน เลยทำได้แต่ส่ายศีรษะ โบกมือเชิงว่าไม่เป็นไรไปมา
หวังไว้ในใจว่าคงจะไม่มาไล่ออกทีหลัง
“พอใจยัง” หันมาถามคนตัวเล็ก
“ครับ!” ตอบสั้นๆ “พี่ไม่ต้องกลัวนะครับ ถ้าพี่ไม่มีงานทำ หรือใครไล่ออกให้ติดต่อมาทางผมได้เลย”
ติดต่อยังไงล่ะครับ!
ที่จริงแล้วปลายฝันก็แค่ทำเหมือนขู่อัคนีไปแบบนั้นแหละ ไม่มีการให้ที่ติดต่ออะไรทั้งสิ้น ซึ่งอัคนีก็รู้ แต่ถ้ามันจบไปแล้วก็คือจบ
เขาไม่ตามมาเอาเรื่องใครไร้สาระหรอก...
“รีบจัดการสิ เอาบัตรของฉันนั่นแหละ” หันไปพูดกับพนักงานการเงิน ซึ่งเธอก็พยายามที่จะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำให้
“เชิญเซ็นค่ะท่าน”
อัคนีเดินไปเซ็นนิ่งๆ ก่อนจะหยิบบัตรตัวเองมาแล้วจัดการลากข้อมือเล็กให้เดินตามตนออกมา ก็พบกับปฐพีที่มองหน้าฝาแฝดยิ้มๆ
“ยิ้มอะไร”
“กูเปล่า”
“เออ ช่างแม่งมึงลองมาโดนยืนว่ากูกลางฝูงชนดิ น่าอายขนาดไหน ไปเถอะ หงุดหงิดชิบหาย” ปล่อยข้อมือเล็กๆ แล้วเดินนำออกไปด้วยความหงุดหงิด
“หึ!”
“หัวเราะอะไรคุณดิน” คนตัวเล็กหันมาถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง
“ฉันหัวเราะนี่ก็ผิดอีกนะ แต่ว่านะ ฉันล่ะทึ่งเธอจริงๆ ที่ทำให้ไอ้เพลิงมันขอโทษคนอื่นได้ ปกติมันเป็นคนที่ไม่ยอมใครด้วย เมื่อกี้ฉันบอกตรงๆ นะว่า คงต้องได้จ่ายค่าเสียหายให้กับร้านนี่แล้ว แต่ก็ผิดคาด” ปฐพีพูดไปเดินไปตามให้ทันคนตัวเล็กที่เดินจ้ำอ้าวออกจากร้าน
“ครับๆ ผมล่ะภูมิใจเหลือเกิ๊น”
“ทำไมต้องประชด”
“เปล่านี่ครับ จริงสิ! แล้วผมควรจะภูมิใจด้วยไหมที่ทำให้คุณดินพูดประโยคยาวๆ ได้ น่ะ” หันมาถามกวนๆ
“นั่นก็แปลก” ยักไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ยอมรับมาตั้งนานแล้วล่ะว่า...เวลาที่อยู่ตามลำพังกับปลายฝันตนจะพูดเยอะผิดปกติ
“ผมล่ะเชื่อพวกคุณเลย ผมไม่เข้าใจว่าพี่พนักงานคนเมื่อกี้ทำอะไรผิด คุณเพลิงถึงได้ขู่เขาไปแบบนั้น”
“ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ก็ปกติของมันล่ะนะ”
“ปกติ!!”
“ใช่! ทำไม” คนที่เดินหายไปตอนนี้มายืนอยู่ด้านหลังคนตัวเล็กเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ถามอย่างเอาเรื่อง
“นี่คุณไม่เคยคิดจะเตือนเขาเลยหรือครับ ว่าทำแบบนี้มันทำให้เขาดูไม่น่าเคารพ ใช่! พวกเขากลัว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเคารพนะครับ กลัวกับเคารพมันคนละความหมายกันนะ”
“ก็ขอโทษไปแล้วไงวะ พูดมากจริง เฮอะ!”
“ผมก็แค่บอกด้วยความหวังดี ถ้าคุณไม่อยากได้ความหวังดีนี้ ผมก็จะไม่พูดอะไรกับคุณอีกเลย ไม่เตือน ปล่อยให้คุณทำอะไรผิดๆ ต่อไปก็แล้วกัน เบื่อคนแบบนี้แล้ว” กระทืบเท้าเดินหนี
“ไงมึง กูโดนไปด้วยเลยเนี่ย”
“เออ! กูผิดตลอด จะหัวเราะเยาะยังไงก็เชิญมึงเลย หงุดหงิดเป็นบ้า” ขยี้ผมตัวเองแรงๆ
“อย่ามาทำเป็นหงุดหงิด ทำตัวเองแท้ๆ เป็นไงล่ะ อยากให้เขาเห็นว่าเท่ห์ ว่าเจ๋ง มีอำนาจ เจอด่าเข้าให้ทีหนึ่งนี่ไปไม่เป็น มึงก็น่าจะรู้นิสัยของเด็กนั่นได้แล้ว ว่าเป็นคนดีขนาดไหน” ปฐพีเอ่ยเหมือนรู้ทัน แต่คำตอบที่ได้ไม่ใช่สิ่งที่ปฐพีคิดเลยสักรนิด
“กูไม่ได้ตั้งใจแบบนั้นเว้ย ก็แม่ง มันเล่นมองเด็กดรีมด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มแบบนั้น มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้นี่หว่า ชิ! ยิ่งคิดยิ่งโมโห!”
“ทำไมมึงไม่บอกกูวะ!!” ปฐพีเริ่มขึ้นเสียงเมื่อรู้สาเหตุ
“มึงจะทำไม”
“กูก็จะให้ผู้จัดการไล่ออกไง” ตอบเสียงเรียบเย็น
“มึงทำหนักกว่ากูอีก คิดหรือไงว่าเด็กนั่นจะยอม” พาดพิงถึงคนตัวเล็กที่เดินหายไปไหนก็ไม่รู้
“เออ! ช่างแม่งไง อย่าให้รู้ก็พอแล้ว แต่ช่างเถอะ คนมันไม่รู้ จะไปไล่ออกก็ดูใจร้าย”
“นี่มึงเห็นใจใครเป็นด้วย?” อัคนีถามด้วยความแปลกใจ
“เออ! ก็ตั้งแต่มีเด็กนั่นมาอยู่ด้วยนี่แหละ ไม่รู้จะมาเป็นเมียหรือเป็นแม่คนที่สองกันแน่ ขี้บ่นชิบหาย” ปฐพีบ่นบ้าง
“แต่มึงก็เต็มใจที่ฟังเขาบ่นไม่ใช่หรือไง” อัคนีแซว เพราะปฐพีเปลี่ยนไปมากจริงๆ
จากที่ไม่เคยที่ต้องให้ใครมาสอน มาว่า มาสั่ง หรือมาบ่นเวลาที่ตนจะทำอะไรที่มันผิดก็ตาม
แต่กลับยอมให้ปลายฝันได้ทำสิ่งเหล่านั้น
“มึงก็เหมือนกันอย่ามาว่าแต่กู ทำให้คนอย่างมึงขอโทษคนอื่นได้นี่ เด็กนั่นคงจะสำคัญมากเลยสินะ”
“เออ สำคัญมาก แล้วกูก็ไม่ยกให้ใครด้วย”
อัคนีเป็นคนที่ซื่อตรงกับหัวใจและความคิดเสมอ
ห่วงก็บอกว่าห่วง
หวงก็บอกว่าหวง
หึงก็บอกว่าหึง
“หึ! มึงคิดว่ากูจะยกให้ใครหรือไง ตราบใดที่กูยังชอบอยู่ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์” ปฐพีพูดอย่างหนักแน่น
“มึงหวงมึงก็ยอมรับสิวะ จะอมพะนำไว้ทำไม” อัคนีส่ายหัวให้กับทิฐิของปฐพี
“เออ!! กูหวง พอใจไหม”
แค่ไม่รู้ว่าหวงแบบไหนเท่านั้นเอง
ไม่ทันที่อัคนีจะตอบอะไรกลับไปเมื่อปฐพียอมรับว่าตัวเองนั้นหวงปลายฝันไม่น้อยไปกว่าอัคนีเท่าไหร่ เสียงหวานของปลายฝันก็ดังขึ้น
“พวกคุณจะยืนอยู่ตรงนี้นานไหมครับ”
“ไปไหนมา!!” สองเสียงถาม
“ก็ไปร้านอาหารญี่ปุ่นมาสิครับ แต่เห็นพวกคุณไม่ตามมาเสียทีก็เลยมาตาม ตอนนี้พี่พัฒน์กับพี่ธีร์รออยู่ที่นั่นแล้วนะครับ”
“อืม...ทีหลังก็ให้รอกันหน่อย” ปฐพีบอก
“พวกคุณนั่นแหละที่ผิด เดินตามมาแค่นี้จะไปยากเย็นอะไร จะอยู่ตรงนี้อีกนานไหมครับ”
“ก็เปล่า แค่ไม่เห็นเธอเลยไม่รู้ว่าจะเดินไปตรงไหน” อัคนีบอก
“งั้นก็ตามผมมาได้แล้วครับ” คนตัวเล็กออกเดินนำอีกครั้ง
“หึ!”
ร่างสูงทั้งสองคนก้าวขายาวเดินตามปลายฝันไป มองตามแผ่นหลังบางด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่แล้ว
แต่คนที่สบายใจและโล่งใจสุดๆ ก็คืออัคนี
ร้านอาหารญี่ปุ่น
“เต็มที่เลยๆ นานๆ จะได้กินอาหารที่คุณดินเลี้ยง กินเงินคุณเพลิงจนเบื่อแล้ว” ธีรไนยพูดติดตลกตามฉบับคนขี้เล่น
“เออ คราวหลังก็ไม่ต้องกินของฉันก็แล้วกัน”
“โอ้ยๆ ไม่ได้นะครับนาย ผมแค่พูดเล่น”
ธีรไนยเรียกเสียงหัวเราะจากปลายฝันได้เป็นอย่างดี
“หัวเราะเยาะพี่เหรอดรีม” หันมาเอาเรื่องอย่างไม่จริงจังนัก
“ดรีมเปล่า ฮะๆ” ปฏิเสธออกไปทั้งๆ ที่ยังหัวเราะอยู่
“เปล่าก็เปล่า เอ้า! กินเยอะๆ นะครับจะได้มีแรง ได้ข่าวมาว่าใช้พลังไปเยอะเหรอเรา” พูดพลางคีบซูชิมาให้ปลายฝันที่นั่งตรงข้ามกับตน
“พี่ธีร์รู้ได้ไง” ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความสงสัย
“เขาพูดกันน่ะ พี่นั่งรอไอ้พัฒน์ตัดผมอยู่ได้ยินเขาพูดกัน”
ปลายฝันพยักหน้าแบบเข้าใจ ในใจก็คิดว่า...
ไม่น่าเลยเรา ยิ่งรู้ว่าเขาดังๆ แล้วยังจะไปทำให้เขาดังเพิ่มอีก
แต่ก็สะใจไปอีกแบบ...
“ยิ้มอะไร ถูกใจล่ะสิ” ปฐพีถาม
“อะไรล่ะครับ”
“ก็ที่พวกฉันถูกพูดถึงไง” อัคนีตอบ
ร่างบางไม่ตอบ สนใจกินอาหารญี่ปุ่นตรงหน้าต่อทันที เล่นเอาสองร่างสูงถึงกับยกยิ้มด้วยความชอบใจ เพราะอะไรน่ะเหรอ ถึงหน้าจะเป็นปกติ แต่หูน่ะ แดงแจ๋เลยล่ะ
“เอากินเยอะๆ ผอมลงนะมึงน่ะ” พีรพัฒน์ที่นั่งเงียบอยู่นานคีบอาหารมาใส่ที่จานของธีรไนย
“มึงรู้ได้ไงว่ากูผอมลง”
“ทำไมจะไม่รู้วะ ก็กู ‘กอด’ อยู่ทุกวัน” พีรพัฒน์ตอบนิ่งๆ
“มึงเงียบไปเลย!” ธีรไนยสั่งคนตัวใหญ่ข้างๆ อย่างอายๆ
มาพูดต่อหน้าเจ้านายแล้วก็ว่าที่เมียเจ้านายนี่นะ อายบ้างเถอะ
ปลายฝันก็มาสังเกตเห็นถึงความเป็นคนรักกันของพีรพัฒน์กับธีรไนยแล้วล่ะ ถ้าไม่ตีความหมายดีๆ จะนึกว่าพี่เขาทะเลาะกันก็ได้
“พี่พัฒน์กับพี่ธีร์นี่น่ารักจังเลย” ปลายฝันพูดขึ้นยิ้มๆ สองแฝดถึงกับขมวดคิ้วแน่นทันที
“แหมๆ อย่าพูดแบบนี้สิดรีม เดี๋ยวพี่ตกงานหน่า” ปากก็พูดอยู่กับร่างบางแต่สายตานี่มองเจ้านายตัวเองที่ส่งสายตาตาไม่พอใจสุดๆ มาให้ตน
“ทำไมฮะ ชมพี่ธีร์แล้วคุณเพลิงเขาจะไล่ออกหรือ” ถามกวนๆ
“ก็ไม่เชิงหรอครับ เนอะเจ้านาย” อัคนีมองแบบคาดโทษเอาไว้
“เออ!!”
“พูดดีๆ หน่อยครับคุณเพลิง” คนตัวเล็กหันมาต่อว่าคนข้างๆ
“คร้าบบบ...”
ปลายฝันถึงกับหลุดหัวเราะเมื่ออัคนีประชดเสียงยาว
“แบบนี้สิครับถึงจะดูน่ารัก คุณดินเองก็ต้องพูดเพราะๆ กับลูกน้องด้วยนะครับ ไม่ใช่เอาแต่เก๊ก วางมาดเงียบขรึม” แล้วก็หันมาบอกอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตนเช่นกัน
ซึ่งปฐพีก็แค่พยักหน้าและรับคำในลำคอสั้นๆ จนปลายฝันส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยใจ
“อืม”
คนนี้แหละที่มนุษย์สัมพันธ์ตายด้านสุดๆ
แต่ก็รู้สึกว่า เท่ห์จนแทบละลาย ส่วนอัคนีเองก็ร้ายๆ ให้ความรู้สึกวูบวาบ ในความรู้สึกของคนอื่นปลายฝันไม่รู้ว่าคิดยังไง แต่กับตัวเขาแล้ว ปฐพีกับอัคนีที่เป็นแบบนี้มันลงตัวที่สุด
“คุณดินดูไม่ค่อยกินเลยนะครับ ไม่อร่อยหรือ” คนตัวเล็กหันมาถามเมื่อเห็นว่าปฐพีแตะอาหารน้อยมาก
“เปล่า ฉันไม่ชอบอาหารญี่ปุ่นเท่าไหร่ แต่ก็กินได้”
“อ้าว? แล้วทำไมไม่บอกล่ะครับ จะได้กินอย่างอื่น”
“ไม่เป็นไร เธอยังไม่เคยกินนี่ ฉันเลยพามากิน กินให้เต็มที่เลย”
“ขอบคุณนะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวกลับบ้านไป ผมจะทำของโปรดของคุณให้”
“อืม ตามนั้นล่ะ ฉันรอกินเย็นๆ เลยก็ได้”
“คุณรอได้แน่นะ” ถามอย่างไม่แน่ใจ
“ได้ กินไปเถอะ”
ปฐพีรู้สึกดี และรู้สึกอบอุ่น ที่มีคนเอาใจใส่เขาขนาดนี้ เพราะตั้งแต่เกิดมา นอกจากแม่ของตนแล้ว ไม่เคยมีใครสังเกตรายละเอียดเกี่ยวกับเขาได้แบบนี้หรอก
ฉันจะไม่ปล่อยเธอให้ใคร...แม้ว่าเธออยากจะไปก็ตาม
“แล้วคุณเพลิงจะนั่งนิ่งอีกนานไหมครับ เห็นบ่นอยากกินๆ ทีตอนนี้ทำไมไม่กินล่ะครับ” หันมาถามคนที่บ่นอยากกินทันที
“ตักให้หน่อย” คิ้วสวยขมวดแน่นสงสัย
“วันนี้คุณก่อเรื่องไว้เยอะนะครับ ยังจะเอาอะไรมากมายอีก”
“ก็ขอโทษไปแล้วไง ตักๆ มาเถอะน่า ฉันจะกิน”
“เฮ้อ...มือก็มีทำไมไม่ยอมทำเองนะ เป็นเด็กหรือไง” ถึงปากจะบ่นแต่มือบางก็คีบอาหารไปใส่จานของอัคนีอยู่ดี
“ขอบใจ”
อัคนีรู้สึกดีทุกครั้งที่ปลายฝันบ่น แต่ก็ยังเอาใจใส่ไม่ห่าง คอยว่า คอยตักเตือนในสิ่งที่มันผิด แต่เขาคิดว่ามันถูก และก็พร้อมที่จะปรับปรุงเพื่อปลายฝัน
แม้ถึงวันที่ปลายฝันต้องการอิสระ...เขาจะเป็นเอากรงมาขังร่างบางเอง
เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเราขนาดนี้แล้ว...
คิดถึงวันที่ไม่มีแล้ว ใจหาย ในอกร้อนวูบวาบอย่างจะขาดใจ
‘นี่แค่คิดนะ ยังเป็นได้ขนาดนี้’
‘ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาพวกฉันเองก็คงจะ...’
‘อยู่บนโลกใบนี้ลำบาก!’
100%

เมื่อวานต้องขอทาด้วยที่ยูกิตัดมันกะทันหัน จนทำให้นักอ่านค้างกัน พอดีว่าสำนวนมันแปลกๆ เลยยังไม่ลงขออภัยด้วย ยังไงก็เอาพี่เพลิงส่อแววกลัวเมียมาให้อ่านกัน
แต่ว่านะคะพี่เพลิงไม่ได้กลัวเสียหน่อย พี่เพลิงแค่เกรงใจเท่านั้นเอง
สอบถาม ติดต่อ พูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki