ตอนที่ 9
ยอมรับ (ครึ่งแรก)
หลังจากกลับไปบ้านใหญ่ของอภิหชัยบดินทร์เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา นี่ก็เป็นวันพุธแล้ว ใกล้จะถึงงานหมั้นที่ปลายฝันไม่อยากจะให้มาถึงที่สุด ปฐพีและอัคนีก็กลับบ้านดึกดื่นทุกวัน เพราะต้องเคลียร์งานของวันศุกร์ให้เสร็จ เนื่องจากต้องเข้าพิธีหมั้นที่จะถึง
แต่ปัญหาของเขาไม่ใช่คิวงานที่ยาวเหยียด แต่เป็นของหมั้นที่ต้องหาต่างหาก งานนี้...คนที่ไม่เคยซื้อของให้กับใครถึงกับเครียดกัดกินสมอง
และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ปลายฝันต้องมานั่งทำหน้าเซ็งคั่นกลางระหว่างปฐพีกับอัคนีในห้องนั่งเล่นของคอนโดหรูที่มาอยู่ได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว
“ผมต้องเสียเวลาทำการบ้านเพื่อมานั่งมองคุณสองคนนั่งเงียบๆ แบบนี้หรือครับ” ถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะหงุดหงิด
“ก็มันคิดไม่ออกนี่หว่า” อัคนีพูดขึ้น
“คิดอะไรล่ะครับ ถ้าหากระดับผู้บริหารอย่างพวกคุณคิดไม่ออก เด็กมหาลัยอย่างผมจะไปคิดออกหรือครับ” แอบประชดประชันเล็กน้อย
“ก็ของที่จะเอามาหมั้นเธอนี่แหละ อยากได้แบบไหนบอกมาเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาคิด” ปฐพีพูด
ปลายฝันก็ร้อง อ้อ! ในใจทันที เข้าใจแล้วที่ทั้งคู่มีสีหน้าเครียดๆ แบบนี้เพราะอะไร
“ก็ไม่จำเป็นต้องซีเรียสนี่ครับ เอาแบบถูกๆ ตามข้างทางก็ได้ แบบนั้นคงเหมาะกับผมมากกว่า” ว่าด้วยน้ำเสียงติดตลก
แต่ปฐพีกับอัคนีไม่ตลกด้วย
“ผมบอกไว้เลยนะครับ ถ้าถามว่าผมอยากได้แบบไหน ขอบอกเลยนะครับว่าไม่อยากได้ครับ ของพวกนั้นผมไม่เคยคิดอยากจะได้ แต่ถ้ามีใครสักคนให้มา ผมก็จะเก็บมันไว้อย่างดีเลยล่ะครับ” ตอบจริงจัง
“ก็คือ ถ้าฉันให้เธอเธอก็จะไม่ใส่ใช่ไหม”
“แล้วทำไมผมต้องใส่ล่ะครับคุณดิน”
“ไม่กลัวพ่อแม่สงสัยหรือไง”
“....”
“เห็นไหม เธอต้องใส่มันอยู่ดี เพราะงั้นบอกมาเลยดีกว่าว่าอยากได้แบบไหน” อัคนีเร่ง
ก็คนมันไม่อยากได้ ทำไมต้องบังคับกันด้วยเล่า!
“เถอะน่า พวกฉันเองก็ไม่เคยซื้อของให้ใครด้วย ช่วยกันคิดนี่แหละดีแล้ว ยังไงก็งานหมั้นของเราสามคน” เหตุผลของอัคนีทำให้ร่างบางถึงกับส่ายหน้าหน่ายๆ
“ครับๆ แล้วมันต้องเลือกเป็นคู่ไหมครับ” ร่างบางถาม พลางหยิบแค็ตตาล็อกเครื่องประดับจากร้านหรูชื่อดังของประเทศไทยมาดู ก็เหงื่อแตกกับราคาแต่ละชิ้นที่ปลายฝันทำงานเก็บทั้งชาติคงจะซื้อไม่ได้แน่ๆ
หลักหกขึ้นเลยนะเนี่ย
“ก็ต้องเป็นคู่สิ จะให้เธอใส่คนเดียวหรือไง” ปฐพีตอบ
หนักใจแล้วล่ะปลายฝัน แค่ราคาก็ไม่กล้าเลือกแล้ว นี่ยังต้องเลือกแหวนคู่ สร้อยคู่อีก ถ้าไม่เข้ากับทั้งสองฝ่าย มันก็จะดูไม่ดีไปเลย
ส่วนตัวแล้ว เราไม่อยากได้ของแพง แต่ถ้าไม่แพงก็ไม่เหมาะกับคุณดินคุณเพลิงอีก...
“ดูเหมือนคุณสองคนจะกระตือรือร้นแปลกๆ นะครับ”
“ก็มันคือหน้าที่” อัคนีตอบ
เป็นประโยคที่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าทำให้หัวใจของปลายฝันชาหนึบ
ใช่แล้วปลายฝัน มันก็แค่หน้าที่
หวังคำตอบแบบไหนอยู่กันแน่
พรึ่บ!!!
ร่างบางปิดแค็ตตาล็อกเสียงดัง แล้ววางไว้เหมือนเดิม มองร่างสูงทั้งสองคนไปมา ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ อย่างจนปัญญา
“ผมว่า พวกคุณไปซื้อมาเลยก็ได้ครับ อะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องตั้งใจซื้อขนาดนี้ก็ได้ ยังไงแล้วการหมั้นของเราก็เป็นการหมั้นแบบไม่ได้เต็มใจ เอาไว้ตอนซื้อให้คนที่พวกคุณรักจริงๆ เถอะครับ ค่อยมาเครียดกับมัน ซื้อให้คนอย่างผมก็อย่าใส่ใจเลยครับ เสียเวลาเปล่าๆ”
ฝาแฝดเงียบ
“ของผมยังไงคุณสองคนก็แค่ให้ตามหน้าที่ แบบไหนก็เลือกมาเถอะครับ ผมใส่หมด”
ทำไมถึงพูดเหมือนประชดประชัน
ทำไมต้องพูดเหมือนตัดพ้อ
อย่ารู้สึกอะไรไปมากกว่านี้เลยปลายฝัน เพราะถ้าถึงวันนั้นคนที่เจ็บปวดก็คือ...ตัวเราเอง
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น” ถามเสียงเครียด
เขาไม่อยากได้ยิน...ปลายฝันพูดออกมาแบบนี้
“มันถูกแล้วครับคุณดิน การหมั้นของเรามันเป็นเพียงแค่หน้าที่ รอเวลาที่ต่างคนต่างไปก็เท่านั้น”
มีใครบอกปลายฝันหรือเปล่า...
ว่าพูดแบบนี้ มันทำร้ายจิตใจคนฟังแค่ไหน
แล้วปฐพีกับอัคนีจะรู้หรือเปล่า
ว่าคนตัวเล็กกว่า ก็รู้สึกไม่ต่างกัน...
“เก็บความใส่ใจจอมปลอมของพวกคุณไว้ให้กับคนที่คุณสองคนรักดีกว่านะครับ ทำแบบนี้ไป มันก็ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกอะไรขึ้นมา”
ปลายฝันเดินเข้าห้องไปแล้ว เหลือเพียงสองหนุ่มหน้าเหมือนกันที่นั่งมองหน้ากันนิ่งๆ ราวกับคนไม่มีความรู้สึก
“หึ!” ปฐพีส่งเสียงจากลำคอออกมา
“รู้สึกแปลกๆ ว่ะ” อัคนีสารภาพ
“เหมือนกัน”
“ทำไมกูรู้สึกว่าคำพูดที่เด็กนั่นพูดมันแทงเข้าที่อกกูจนหายใจไม่ออกเลยวะ”
“กูก็ไม่ต่างกับมึงว่ะเพลิง”
“อาจเพราะว่าที่ผ่านมามีแต่คนเข้าหาเราโดยตลอด แต่พอมาเจอคนถอยห่างจากเราอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจก็ได้” อัคนีสันนิฐาน
“มึงคิดแบบนี้จริงๆ หรือกำลังหลอกตัวเองวะ”
“บางที การพูดเพื่อให้จิตใจตัวเองดีขึ้น แม้จะหลอกตัวเอง กูก็ยอมว่ะ”
“เป็นเอามาก”
“มึงเองก็รู้สึกไม่ต่างจากกูไม่ใช่หรือไงวะ” ถามพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง “มึงยอมรับมาเถอะไอ้ดินว่ามึง ‘ชอบ’ เด็กนั่นไปแล้ว”
สิ้นเสียงของอัคนี ปฐพีก็นิ่งเงียบไป คิดเรื่องต่างๆ มากมายที่ผ่านมาของตน
สุดท้ายก็ได้คำตอบที่ตัวเองไม่ค่อยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่ แต่มันคือความจริงที่ว่า ความสนใจ เปลี่ยนไปเป็นคำว่า ‘ชอบ’ เสียแล้ว
อัคนีก็เช่นกัน แต่เขาเป็นคนที่เมื่อรู้สึกอะไร ก็ยอมรับความรู้สึกของตัวเองเสมอ รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไร
โกรธก็คือโกรธ เกลียดก็คือเกลียด ชอบก็คือชอบ รักก็คือรัก
ไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเองเหมือนที่ปฐพีเป็น...
“ถึงเด็กมันจะน่ารัก หรือว่ากูจะชอบ แต่ทำร้ายจิตใจกูเมื่อกี้ กูก็ไม่ยอมเหมือนกันนะเว้ย ถ้าไม่ได้เอาคืนสงสัยจะนอนไม่หลับ”
“นี่มึงคิดจะทำอะไรวะไอ้ดิน”
“หึ! ก็แค่ทำโทษปากนั่นที่กล้าทำร้ายจิตใจของกูดิวะ” ปฐพีตอบพลางลุกขึ้นอย่างหมายมาด
“งั้นกูทำด้วย หมั่นไส้มานานละ ยิ่งเมื่อกี้อีก เสียความรู้สึกชิบหาย” ลุกตามคนเป็นพี่ ส่งยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์
อย่างปลายฝันน่ะ ต้องปล้ำจูบจนบวมเจ่อสิถึงจะสะใจ ต้องทำให้สมกับคำพูดที่พูดทำร้ายจิตใจกันออกมา เอาให้สาแก่ใจไปเลย
สำหรับปฐพีกับอัคนีแล้ว…
‘ชอบ’ แล้ว ไม่ได้แปลว่าต้องยอมทุกอย่าง
เหยี่ยวราตรี และอินทรีเงิน ถ้าทำให้คนที่ชอบมาชอบตอบไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกเขาสองคนด้วยฉายาพวกนี้เลย
นักธุรกิจถ้าพูดจาหว่านล้อมใครไม่เป็น ก็ไม่มีกำไรมหาศาลขนาดนี้ กะอีแค่ทำให้คนที่เราชอบหันมาชอบเราตอบ มันเป็นอะไรแบบใหม่ที่ท้าทายคนอย่างพวกเขาเสียจริง
“พวกคุณ...พรวดพราดเข้าห้องผมแบบนี้ได้ยังไง” ร่างบางถามเมื่อเห็นคนตัวใหญ่สองคนเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู
มองท่าทีรีบร้อนของทั้งคู่อย่างแปลกใจ
ไหนจะหน้าตาดุๆ ที่มองมาที่ปลายฝันอย่างหมายมาด ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกขนลุกแปลกๆ
“ลุกมานี่ซิ!” ปฐพีสั่งเสียงเข้ม
ปลายฝันเริ่มกลัว กำลังคิดว่าตัวเองไปทำอะไรให้ปฐพีกับอัคนีโกรธหรือเปล่า ถึงได้ตามมาเอาเรื่องกันถึงในห้องแบบนี้
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คนตัวเล็กจะสู้ได้ยังไง...
“มีอะไรหรือครับ” ถามแล้วลุกจากเก้าอี้ทำงานมายังแฝดร่างใหญ่ที่ยืนหน้าโหดอยู่กลางห้อง
“ฉันจะมาทำโทษเธอ” อัคนีตอบ
“ผม?” ชี้ตัวเองอย่างงุนงง
ผิดอะไรอีกล่ะเนี่ย...แค่ไม่เลือกแหวนกับสร้อยให้แค่นี้นี่นะ50%

ฟิ้ว...
แอบหลบทันที อย่าว่ายูกิเลยน้า ถ้าตอนนี้มันแปลกๆ เอาไว้รอรีไรท์กันเนาะ ตอนนี้พี่ดินพี่เพลิง ยอมรับแล้วนะคะว่า ชอบน้องดรีม แต่แน่นอนว่ายังไม่บอก ส่วนน้องดรีมก็เอาแต่หนีความรู้สึกลูกเดียวเลย ที่สำคัญ หาเรื่องทำโทษน้องดรีมแบบเด็กๆ ด้วย พี่ดินพี่เพลิงน่าร้ากกก (เหรอ : นักอ่าน)
อย่าถามว่าทำไมมันเร็วจังเลย เอิ่ม ตอบไม่ถูกอ่ะค่ะ แต่งตามความรู้สึก และอารมณ์ มันเลยออกมาอย่างนี้น่ะค่ะ ยังไงก็แล้วแต่ ยูกิยังมือใหม่นะคะ ทุกคำติยูกิจะนำมาแก้ไข ขอบคุณที่ติดตามนิยายยูกินะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki(ยูกิสำรวจผู้ที่อยากได้หนังสือของน้องดรีมอยู่ ใครสนใจเข้าไปไลค์โพสสอบถามได้นะคะ ส่วนใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องไลค์นะ ยูกิจะเอายอด 100 คนก่อน แล้วจะให้พี่นักวาดวาดปกให้ค่ะ เพราะต้องใช้เงินเยอะพอสมควรในการจ้างวาดปก ฉะนั้นแล้ว สนใจเกิน 100 คน จะได้ทำเป็นปกวาด โพสที่ว่ายูกิติดไฮไลต์ เอาไว้นะคะ ไม่ใช่การจองนะคะ แต่สำรวจว่ามีคนเอาแน่ๆ กี่คน)

คลิกด้านล่างเพื่ออ่านตอนต่อไป
ตอนที่ 9.2