ตอนที่ 52 โต๊ะม้าอินอ่อนหน้าคณะ ที่ผมกำลังนั่งนิ่งๆแล้วจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ แค่ไม่มีอะไรจะทำก็เลยหยิบมันมากดเล่นไปเรื่อยเปื่อยเหมือนฆ่าเวลาว่างๆให้จบไป
“ กินอะไรหน่อยมั้ยมึง " ไอ้ไทที่ยื่นขนมปังมาให้ ผมส่ายหน้ามันก็ถอนหายใจ " แดกเข้าไปหน่อยเถอะน่า "
“ กูไม่อยากกินเลยวะ "
“ ไม่อยากกินก็ต้องกิน มึงไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแล้ว " ผมมองขนมปังตรงหน้าด้วยสายตาเลี่ยนอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากจะกินอะไรเลย อย่าว่าแต่กิน ตอนนี้แม้จะเคลื่อนตัวยังไม่อยากจะทำอะไรสักอย่าง อยากจะแค่นอน นอนนิ่งๆให้หมดวันไปเรื่อยๆ มันเบื่อ แล้วมันก็เซ็ง
“ มึงเอง ก็ไล่มันไปเอง มึงจะมานั่งเสียใจไม่ได้นะเว้ย ถ้าบอกว่า ขอห่างกันสักพักเพื่อทบทวน มึงก็ต้องทบทวนจริงๆไม่ใช่มานั่งเศร้าเหมมือนจะตายแบบนี้ ไหนมึงบอกไง ว่าไม่ได้เลิกแค่ห่างกัน ถ้าจะมานั่งเศร้าขนาดนี้มึงพูดแบบนั้นทำร้ายตัวเองไปทำไมวะ ทบทวนสิความสัมพันธของมึงทั้งคู่น่ะ " ฝนบอก ผมก็ถอนหายใจ
“ กูไม่รู้ว่าจะทบทวนอะไร “ ในสมองที่เอาแต่คิดถึงมัน ไม่รู้เลยว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องทำ เก่งแต่ปากแยยนี้ตลอดเลย
“ การห่างกันสักพัก คือการที่เราจะได้ลองมาใช้ชีวิตคนเดียวอีกครั้ง แล้วคิดว่าเวลาที่ไม่มีกันและกันอยู่ข้างๆ เราจะคิดถึงกันมั้ย จะยังต้องการกันมั้ย หรือจริงๆ สบายใจมากกว่าที่จะอยู่คนเดียว ที่กูเข้าใจมันคือแบบนั้นไม่ใช่เหรอ " ไทถาม ผมก็พยักหน้า ใช่ มันเป็นแบบนั้น แล้วตอนนี้ผมก็กำลังเหมือนคนกำลังตรอมใจที่ได้แต่คิดถึงมัน
" มึงอยากทบทวนจริงๆ หรือเพราะ ที่พูดไปเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับเสือเฉยๆกันแน่วะ"
ผมหลบสายตาที่จ้องมองมาของฝน ไม่รู้จะตอบอะไร ไม่มีคำพูดไหนที่จะพูดออกมา ราวกับว่าผมรู้สึกว่าตัวผมเป็นแบบนั้น เหมือนไม่พร้อมที่จะเผชิญกับคนตรงหน้า มันไม่ใช่ความผิดของเสือทั้งหมด เสือไม่ผิดที่จะรู้สึกกับผมแบบนั้น ไม่ผิดที่จะไม่เชื่อ เพราะถ้าผมเป็นมัน ผมก็ไม่เชื่อ หลักฐานมัดแน่นยังกับเชือกเส้นหนา ทั้งภาพ ทั้งเรื่องที่ผมปิดบัง ต่อให้คนดีแค่ไหนก็ต้องช่างใจอยู่แล้ว ในความคิดของผมถ้าตอนนั้นผมบอกมัน ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้ แค่ผมเอ่ยบอกมัน เรื่องจะไม่เกิดขึ้น แต่ผมก็ไม่ทำ..
“ เฮ้ย ปิง " เสียงของไทเรียกผมตอนที่หันไปมองมัน ไทก็เชิดหน้าไปทางประตูทางเข้ามหาลัย ผู้ชายคุ้นตาที่เดินเข้ามาทุกสายตาต่างมองไปที่เค้า ไม่ใช่เพียงเพราะหน้าตาหล่อเหลาที่ดูนิ่งเท่ห์ แต่เพราะดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ในมือที่ถือติดเข้ามาด้วย
“ เสือ " ฝนที่เอ่ยเรียกมันราวกับสิ่งตรงหน้าคือภาพที่เหมือนไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในความจริง ร่างสูงที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมนั้น เรามองตากันแล้วเสือก็ยิ้มให้ผม
หัวใจที่กำลังเต้นแรงผมเงยหน้ามองมันให้ชัดไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่านี่คือ เสือ คนที่กล้าเดินถือดอกไม้สวยๆช่อนี้แล้วตรงเข้ามาหาผม สายตาที่สบกันของเรามันเม้มปากก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ
“ เอา.. เอามาให้ "
“ ขอบคุณนะ " รับดอกไม้ช่อนั้นมาไว้ในมือ ท่าทางและเสียงที่ดูตื่นเต้นของมันตอนที่พูดออกมานั้น ทำเอาผมหลุดยิ้มก่อนจะก้มหน้า ไอ้ไท ไอ้ฝนรู้หน้าที่มันลุกออกจากโต๊ะเพื่อให้ผมกับเสือได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง" ทำไมอยู่ๆถึงนึกจะเอาดอกไม้มาให้กูละ "
“ ก็คิดว่าน่าจะชอบ " มันว่าพลางยกมือขึ้น จัดผมที่ตกลงมาบดบังสายตาของผมให้ขึ้นไปทัดหู " ชอบมั้ย "
“ ชอบ " เสือยิ้ม ตอนที่ผมกระชับช่อดอกไม้นั้นไว้ในอ้อมแขน " เสือ "
“ ครับผม " ผมเงียบตอนที่มันตอบกลับผมมาแบบนั้น สายตาที่หันมามองมีแววตาสงสัย " มีอะไรเหรอ "
“ มึงแปลกไปนะ "
“ แปลกยังไง " เสือถาม
“ ก็ปกติมึงไม่ใช่คนแบบนี้นิ นี่กำลังง้อกูเหรอ ถึงซื้อดอกไม้มาให้ พูดจาเพราะๆด้วยแบบนี้ กูบอกว่าขอห่างกันสักพักไง ไม่ได้ฟังคำขอกันเลยใช่มั้ย " ผมถาม คำถามที่แม้ตัวเองถามออกไปเองแท้ๆ แต่ตอนที่มองหน้ามันน้ำตามันก็ไหลออกมา ไม่ได้อยากจะห่างจากมันหรอก ไม่ได้ต้องการแบบนั้นเลย แต่เพราะกูเองก็ผิด รู้สึกผิดในความงี่เง่าของตัวเองจะไม่กล้าแม้จะเผชิญหน้ากับมึง หาข้ออ้างต่างๆนานา เพื่อให้มึงถอยออกไปก่อน ทั้งๆที่จริงๆ อยากให้มึงกอดกูเอาไว้ แล้วฟังคำที่กูจะพูดอีกครั้ง แต่เพราะกลัวทุกอย่างไปต่างๆนานา ก็เลยบอกว่าให้ห่างกันไปก่อน คิดแค่ว่าถ้าเรื่องมันเงียบหายไปอะไรๆก็คงดีขึ้นเอง " เสือ กูขอโทษ " ผมเอียงตัวเข้าซบมันตอนที่พูดคำนั้นออกมา
ทุกอย่างที่ระเบิดออกมาจากใจ ผมทำได้แต่ร้องไห้ น้ำตาที่ไหลลงมาอย่างหนัก สะอึกสะอื้นเสียงดังแต่กลับไม่มีเสียงบ่นว่ามันแม้แต่น้อย เสือทำแค่ลูบหลังผม มันกอดผมไว้แน่น ก่อนจะพูดคำพูดที่ทำให้ตัวผมยิ่งกอดมันแน่น
“ ขอโทษ ขอโทษนะ แต่อย่าห่างกันเลยได้มั้ย กูไม่ชอบอะไรแบบนี้ กูสัญญาว่ากูจะปรับ กูจะปรับจริงๆ แต่ว่า อย่าให้กูต้องห่างจากมึงเลยนะ มันเหมือนว่ากูเลิกกับมึงไปแล้ว เหมือนกูไม่มีมึงแล้ว ที่ข้างๆกู ไม่มีมึงแล้ว " คำพูดที่ทำให้ผมยิ่งร้องไห้ออกมา ได้แต่พยักหน้า ตอนที่ยื่นมือไปกอดเสือไว้ดอกไม้สวยช่อใหญ่ที่ตั้งบนตักก็ถูกบีบอัดเข้าไปด้วยกัน " จะโกรธกูก็ได้ จะด่ากูก็ไม่เป็นไร ไม่อยากพูดกับกูก็ได้ แต่อย่าห่างกันเลยได้มั้ย "
“ ไม่ห่างแล้ว ไม่ห่างกัน " ผมบอก บอกมันซ้ำๆอยู่แบบนั้น เราที่กอดกันอยู่ในความรู้สึกของผมราวกับกำแพงสูงที่ตัวเองสร้างขึ้นเพื่อกั้นมันไว้ ตอนนี้ถล่มลงมาหมดไป ไม่เหลืออีกแล้ว ไม่มีอะไรเหลือเลย เกลียดหัวใจตัวเองจริงๆ ทำไมพอเป็นมันแล้ว ต่อให้ตั้งใจเอาไว้มากแค่ไหน สุดท้ายก็ทำไม่ได้สักที
ทั้งๆที่ก็คิดมาตลอดว่า คนเรามักมีวงกลมสามชั้น ไว้ให้อภัยคนที่เรารักได้เสมอ เหมือนสามครั้งที่ทำผิดและให้อภัยกันได้ แต่สำหรับผมแล้ว เพราะมันคือคนที่รัก ไม่มีวงกลมแบบนั้นหรอก สำหรับเสือ ผมก็เหมือนคนที่เจ็บแล้วไม่เคยจำ เพราะไม่ว่ายังไงก็ให้อภัยมันได้เสมอ
อาจจะจริงที่ใครบอกไว้ คนเราชนะได้ทุกอย่าง ยกเว้นความรัก
“ เลิกร้องไห้ได้แล้ว " มันที่ดึงผมออกจากไหล่หนาที่กำลังซบอยู่ในตอนนั้นด้วยความเบามือ ก่อนจะย้ายฝ่ามืออุ่นคู่นั้นขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผม " ไม่น่ารักเลย "
“ ห๊ะ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ " ผมหัวเราะ ตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น เสือยิ้มก่อนจะบีบปลายจมูกของผมเบาๆ
“ บอกว่า เลิกร้องไห้ได้แล้ว ไม่น่ารักเลย " ย้ำคำพูดอีกที เพื่อบอกว่าเมื่อกี้ที่ได้ยินผมไม่ได้หูฝาด
“ ทำไมอยู่ๆถึงพูดอะไรแปลกๆแบบนั้นวะ " ผมถามออกไปเพราะความไม่ปกติของมัน เมื่อก่อนถ้าผมร้องไห้มันจะแค่เช็ดน้ำตาแบบลวกๆแล้วก็พูดด้วยเสียงเซ็งๆแค่ว่า ' หยุดร้องไห้ได้แล้ว โตเป็นควายแล้วยังจะร้องไห้อีก ' หรือไม่ก็ ' มึงไม่อายคนอื่นเค้ารึไง แต่กูอายเว้ย หยุดร้อง ' ปากร้ายๆที่มักด่าให้หยุดร้องแต่ก็กอดผมไว้ แต่ตอนนี้มันกลับเปลี่ยนไปแล้ว ผมได้ทั้งอ้อมกอดอุ่นๆและเสียงหวานๆที่กอดปลอบกันไว้
“ หิวมั้ย กินอะไรรึยัง วันนั้นบ่นอยากกินซูชิ ยังไม่ได้กินเลยนิ " เสือที่ชวนเปลี่ยนเรื่องผมเองก็พยักหน้ารับ " งั้นไปกินข้าวกันดีกว่า " มันยกนาฬิกาขึ้นมาดูก่อนจะเปลี่ยนมาลูบหัวผม " มึงไม่มีเรียนแล้ว ไปกินซูชิกันมั้ย "
“ ก็ได้ไปสิ " ผมพยักหน้ารับ แม้มันจะรู้สึกแปลกแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรอีกคน หันไปมองรอบๆ ผมมองหาไอ้ไทกับไอ้ฝน " แต่ไม่รู้ว่าไอ้ไท ไอ้ฝนมันอยู่ไหนนะสิ "
“ โทรไปบอกมันมั้ย " เสือว่า ก่อนจะลุกขึ้นหยิบหนังสือของผมกับกระเป๋ามาถือไว้ให้ ผมเหลือบตามองมันที่ไม่เคยใส่ใจใครพูดแบบนั้น ปกติก็แค่ลากผมออกไปโดยไม่ใส่ใจคนอื่นแต่หนนี้กลับหยุดรออย่างใจเย็น ผมหันไปมองทางอื่นด้วยความงุนงงมือก็กดมือถือโทรออกไปหาพวกมัน เสียงรอสายที่รอสักพักก่อนจะอีกฝ่ายจะรับแล้วแล้วส่งเสียงผ่านสายมา
“ ดีกับผัวแล้วใช่มั้ย อีดอก "
“ ก็นะ " ผมตอบไอ้ฝน " มึงกูจะกลับบ้านแล้วนะ เดี๋ยวจะออกไปหาอะไรกิน พวกมึงอยู่ไหน "
“ ยืนเสือกอยู่ใต้ตึกนี่แหละ พวกมึงไปเถอะ เดี๋ยวมึงออกไป พวกกูค่อยเดินไปที่โต๊ะ " ฝนบอก ผมก็พยักหน้า
“ งั้นกูกลับก่อนนะ "
“ อย่าทะเลาะกันอีกละคุยกันดีๆ " มันเตือน
“ อื้ม " วางสายโทรศัพท์ลงผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะพยักหน้า " ไปกันเถอะ มันอยู่แถวๆนี้แหละ "
“ งั้นก็ไปกัน " มือที่เอื้อมมากุมมือของผม เสือสะพายกระเป๋าผมไว้บนไหล่ตัวเอง มันเดินจูงมือผมออกไป หลายสายตาที่หันมามองเรา ผมเร่งฝีเท้าให้ตัวเองเข้าไปใกล้มันมือที่กำลังกุมกัน ผมเปลี่ยนมากอดแขนมันไว้ เสือหันมายิ้ม ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงด่าไปแล้วกับท่าทางหวงมันที่ผมแสดงออก ' แรดจังเลยนะ ' มันพูดประจำจนผมจำขึ้นใจ ทั้งๆที่อยากจะพูดว่า ' ก็พี่เสือของน้อง ' แต่วันนี้คงไม่ได้พูดออกไปแล้ว
“ เสือ "
“ หื้ม ? มีอะไรครับผม "
“ เปล่า " เจอมันตอบแบบนี้ก็ทำได้แค่ ส่ายหน้าไปให้ก็แค่นั้น
ผมว่า มันแปลก รู้สึกแปลกกับคนข้างๆ จนเหมือนว่ามันไม่ใช่คนเดิม เหมือนไม่ใช่คนที่ผมเคยรู้จัก
รถที่แล่นออกไปบนถนนที่กำลังติดขัด ผมเผลอคิดถึงความเปลี่ยนแปลงไปแบบสุดโต่งของคนข้างๆ เพลงที่เปิดคลอไปเรื่อยไม่ได้เข้าหูเท่าไหร่นัก มีแต่ความคิดที่คิดถึงมันในแบบเมื่อก่อนนี้เท่านั้น ผู้ชายปากแรงๆที่ชอบด่าผม หวนคิดที่มันบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเองเมื่อครู่ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ' ดีแล้วเหรอ ที่จะให้เป็นแบบนั้น ' เสือที่เห็นผมนิ่งแล้วเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างมันก็หันมาถาม
“ คิดอะไรอยู่ " ว่าแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมไปกุมไว้
“ เปล่า " ผมตอบ ก่อนจะมองหน้ามัน คนข้างๆก็คนเดิม มือที่จับกันก็ยังคงอุ่นเหมือนเดิม แต่น่าแปลก ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย อยู่ๆก็คิดถึงผู้ชายปากร้ายคนนั้นขึ้นมา คนที่หน้าตาเหมือนคนตรงหน้าแต่การกระทำที่อบอุ่นนี้บอกกับผมว่า ' มันคงไม่ใช่ '
“ ตอบว่าเปล่า แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น " มันเขี่ยปลายจมูกผมก่อนจะยิ้ม " มีอะไรไหนบอกกูหน่อยสิ "
“ มึงเป็นอะไร "
“ เป็นอะไรล่ะ หื้ม ? " มันเอียงหน้าถามผม
“ อยู่ๆมาพูดจาดีๆกับกู ทำดีกับกู เป็นอะไร " ผมถามด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ทว่าคนตรงหน้าก็แค่ยิ้ม มันยิ้มอย่างใจเย็น ไม่ได้หงุดหงิดหรือแม้ชักสีหน้ากังวลอะไร " มึงเป็นอะไรวะเสือ กูงง วันนี้มึงหอบเอาดอกไม้ที่กูชอบมาให้ พูดดีๆกับกู ทำตัวดีกับกู ทั้งๆที่คนแบบมึงไม่ชอบทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่คนแบบมึงเกลียดอะไรแบบนี้ แล้วทำไม มึงถึงทำวะ มึงทำไปทำไม "
“ เพราะกูรักมึงไง " คำตอบสั้นๆที่เอ่ยออกมา ไม่ต้องยืดยาว ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เป็นแค่คำอธิบายคำเดียวที่ตอบแทนได้ทุกคำถาม " กูอยากเป็นคนที่มึงชอบ มึงชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ กูจะพยายามเป็นคนที่มึงชอบนะ เป็นในแบบที่มึงชอบ "
“ แต่มึง.. “ ผมที่พยายามเถียง คนตรงหน้าก็ส่ายหน้า ราวกับรู้ว่าผมจะพูดอะไร
“ คนที่รักกัน มันต้องปรับเข้าหากันไม่ใช่เหรอวะ จะให้มึงมาปรับหรือยอมเปลี่ยนเพื่อกูคนเดียวได้ไง " ผมอยากเถียง แต่นี่มันมากไป ผมอยากจะบอกมันแบบนั้นแต่เสือก็ดึงผมเข้าไปกอดเสียแล้ว ไม่ได้ให้โอกาสพูดอะไรสักอย่าง ผมไม่รู้ว่าผมต้องรู้สึกยังไง มันก็ดี แต่มันก็ไม่ใช่ แบบนี้เหมือนมันมากเกินไป มากเกินกว่าสิ่งที่ผมต้องการ จนกลายเป็นว่า เราเหมือนไม่ใช่คนที่รู้จักกันด้วยซ้ำ เหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ นี่ กลับไปทำอะไรกินกันที่คอนโดมั้ย "
“ ไม่อยากไปกินซูชิแล้วเหรอ " ผมพยักหน้า
" ก็มันไม่อยากกินแล้วอะ ความอยากกินมันจบไปแล้ว "
“ แล้วก็ไม่บอกนะคนเรา " มันบ่นแค่นั้นแต่ก็ยอมเลี้ยวรถกลับอย่างว่าง่าย ต่างจากทุกทีที่จะต้องเอ่ยปากด่าผม
“ หรือว่ามึงอยากกิน " ผมถาม เสือก็ส่ายหน้า
“ เปล่าหรอก กูกินอะไรก็ได้แล้วแต่มึงเลย "
“ ตามใจกันจังเลยน้า พี่เสือน่ารักจัง " แม้จะเอ่ยชมมันเหมือนก่อนแต่ก็ยังรู้สึกแปลกๆ ผมเอียงตัวเข้าไปกอดแขนมัน เสือที่กำลังขับรถทำได้แค่เอียงหน้าเข้ามาหาผม มันหอมแก้มก่อนจะตั้งใจขับรถไปยังทางข้างหน้า
อบอุ่นดีนะ แต่แปลก แปลกไปจนทำให้รู้สึกคิดถึง ใครคนเดิมคนนั้น
" วันนี้ป้าเข้ามาทำความสะอาดแล้วเหรอ ห้องสะอาดจัง " ผมถามตอนที่มาถึงห้องแล้วมองไปรอบๆ ห้องมันสะอาดราวกับห้องใหม่ ถังขยะที่ไม่มีแม้ขยะสักชิ้น ผมวางช่อดอกไม้ลงตรงเค้าเตอร์ครัว เสือเองก็เดินไปที่โต๊ะหน้าทีวี มันวางกระเป๋าของผมลงพร้อมทั้งของของมันก่อนจะเดินมาหาผม
“ แล้ววันนี้จะทำอะไร " มือที่เอื้อมมากอดจากด้านหลังก่อนใบหน้าคมใช้คางซบลงตรงไหล่ หัวใจที่เต้นแรงทำได้แค่ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ยามที่มันหอมแก้มแล้วส่ายตัวเอียงไปมา " จะทำอะไรให้กูกินเหรอ "
“ มึงอยากกินอะไรละ เดี๋ยวกูจะทำให้กิน "
“ อะไรก็ได้ "
“ ไม่มีนะสิ เมนูแบบนั้นน่ะ " ผมหันไปหามัน ก่อนเสือจะยกตัวผมขึ้นนั่งบนเค้าเตอร์ ขาที่เกี่ยวมันให้เข้ามาใกล้ เสือใช้มือสองข้างค้ำอยู่ข้างตัวผมราวกับจะกั้นไม่ให้หายไปไหน
“ แล้วอะไรที่มึงทำอร่อย "
“ จากประสบการณ์ที่ทำให้มึงกินมา กูพบว่ามันไม่มี จำได้มั้ยทอดไข่คราวก่อนยังไหม้เลย "
“ จำได้ครับ " มันยื่นมือมาบีบจมูก " แล้วใครก็ไม่รู้บอกว่าจะกินของที่ไหม้เอง ใครจะยอมให้ทำแบบนั้นกัน "
“ เสือ " ท่าทางและคำพูดที่ทำให้ผมนิ่งไปอีกครั้ง อีกคนก็พูดขึ้น
“ งั้นกูทำให้กินมั้ยละ " คำพูดที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยิน ผมตวัดสายตามองมันงงๆ
“ มึงทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ " ผมถามออกไปเสือก็พยักหน้า
“ ไม่อยากจะบอกว่า มันอร่อยจนมึงต้องร้องขอชีวิตเลยละ "
" เว่อร์ อะไรจะขนาดนั้น "
" คอยดูแล้วกัน " มันบอกแบบนั้นก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็นแต่ก็พบว่าในนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย ไม่มีของที่สามารถทำกินเป็นอาหารได้ " แต่มันไม่มีของที่กูจะทำอาหารได้เลยวะ งั้นเดี๋ยวกูออกไปซื้อก่อนแล้วกัน จะไปด้วยกันมั้ย "
“ ไปสิ อยากกินขนมด้วย "
“ งั้นก็ไปกัน " มันคว้ามือผมมาจับไว้ ก่อนจะดึงเบาๆให้ลงจากเค้าเตอร์
“ แล้วมึงจะทำอะไรให้กูกินเหรอ "
“ อยากกินอะไรละ "
“ อื้มมมมมม " ทำท่าคิดก่อนจะกอดเอวมันไว้ เสือยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวผม " มีเมนูแนะนำมั้ย "
“ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า กับ สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมูสับ อยากจะกินอะไรมากกว่ากัน "
“ อื้ม ซอสมะเขือเทศดีกว่า " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้า
“ โอเคครับได้เลย "
คำพูดเพราะๆที่ตอบรับ ยังไงก็ไม่ใช่เสือเลยสักนิด ผมเลื่อนตัวจากที่กอดมันเปลี่ยนมาเป็นเดินข้างๆกัน ขาที่ก้าวเดินออกไปจากห้อง มือของผมโดนอีกคนดึงมากุมไว้ ตอนที่หันมองหน้ามัน เสือก็ถาม
“ ไม่ชอบเหรอ "
“ เปล่า ชอบสิทำไมจะไม่ชอบละ " ผมตอบ แต่ก็ชอบมึงแบบเดิมมากกว่า จะว่ายังดีละ แบบนี้ก็ดี แต่ว่ามันคงจะดีกว่าถ้ามันยังคงความเป็นตัวเองไว้ ไม่ปากหมาสุดๆแบบที่มันเป็นแล้วเพิ่มความใส่ใจในตัวผมไปอีกนิด อยากให้มันปรับตัวนะ แต่ก็อยากให้มันยังคงเป็นตัวของตัวเอง
ห้างเล็กๆใกล้คอนโดของเรา เป็นห้างแบบญี่ปุ่นที่รวมของใช้ที่จำเป็นเอาไว้อยู่เยอะพอสมควรผมคว้ารถเข็นมาถือไว้ก่อนจะโดนคนที่ยืนข้างๆดึงไปเข็นเอง
“ เดี๋ยวกูเข็นให้นะ "
“ อื้ม " ผมพยักหน้าเราที่เดินเข้าไปด้านใน เสือเลือกอุปกรณ์ในการทำอาหารของตัวเอง ส่วนผมก็เลือกขนมไปเรื่อยเปื่อย พอหันมาอีกทีขนมที่เลือกเอาไว้ก็เหมือนจะเต็มรถเข็นไปหมด " กูเลือกเยอะไปมั้ยวะ "
“ ไม่เป็นไรหรอก ก็มึงชอบกินเลือกไปเถอะอยากได้อะไรก็ซื้อไปเลย " ปกติมันต้องบอกว่า ถ้าแดกไม่หมดมึงตายแน่ไม่ใช่เหรอวะ ผมมองหน้ามันนิ่งๆก่อนจะยิ้ม
“ กูกลัวถือกลับไม่หมดวะ "
“ ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูถือกลับให้เอง " ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าคนข้างๆไม่ใช่แฟนผม มันห่างเหินเสียจนรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ธรรมชาติในแบบที่มันเป็น ผมไม่มีอารมณ์จะหยิบอะไรอีกแล้ว ได้แต่มองดูอีกคนซื้อของทำครัวไปเรื่อย " แล้วพรุ่งนี้จะกินอะไร "
“ พรุ่งนี้เหรอ จะตื่นมาทำให้กูกินเหรอ "
“ อื้ม อยากจะกินอะไรละ "
“ เสือ " ผมที่อยากจะพูดกับมัน แต่อีกคนที่รู้ตัวว่าผมจะพูดอะไรก็ขัดขึ้นมาก่อน
“ เอาเป็นข้าวผัดมั้ย ไข่ดาว แล้วก็ไส้กรอก หรือมึงไม่อยากกิน หรือว่าจะเป็น ขนมปังปิ้งกับแยม กูว่าทำแซนวิชก็ดีนะ "
“ แล้วแต่อะไรก็ได้ เอาที่มึงอยากจะกินน่ะ "
“ งั้นแซนวิชนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำให้กิน " ผมพยักหน้าเสือก็หันมายิ้มให้ก่อนจะคว้ามือผมเอาไว้แล้วเข็นรถเข็นออกไป น่าแปลก มือคู่เดิมแต่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีก ยืนอยู่ข้างกันแท้ๆ แต่เหมือนอยู่ห่างกันไกลมาก
เราเดินกันกลับเข้าห้องโดยที่ผมไม่พูดอะไรกับมันสักคำ เดินอยู่บนทางเดินเงียบๆ สองมือที่เรากุมกันเสือเป็นคนหิ้วถุงทั้งหมดคนเดียว มันที่ไม่ปริปากบ่นอะไรได้แต่ยิ้มเสมอตอนที่ผมหันไปมองแล้วถามว่า ' ช่วยมั้ย ' แต่อีกคนก็แค่ส่ายหน้าปฎิเสธ
“ นั่งรอแปปนึงนะ เดี๋ยวกูทำให้กิน แปปเดียว " มันที่หันมาบอกตอนที่วางของกินไว้บนเค้าเตอร์ " เอาขนมไปกินรองท้องก่อนมั้ย หิวรึยัง "
“ เสือ "
“ ไปนั่งดูทีวีก่อนไป เดี๋ยวเสร็จแล้วกูจะเรียกให้มาชิมฝีมือนะ "
“ นี่มึง "
“ หรือว่าจะเอาอะไร " มันถามเหมือนจะเลี่ยงตอบในสิ่งที่มันรู้อยู่แล้วในสิ่งที่ผมจะถาม " อยากให้กูแกะขนมให้กินมั้ย "
“ เสือ ไม่ใช่ฟังกูก่อน "
“ อยากให้กู " สองแขนที่กำลังจะกอดผมสะบัดมันออกก่อนจะตะโกนใส่หน้ามัน
“ เสือ!! หยุดแล้วฟังกูเดี๋ยวนี้ " ทุกอย่างมันจบแล้ว ผมรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว พอกันทีกับความอึดอัดแบบนี้ พอกันทีกับคนแปลกหน้าคนนี้ พอกันที กับการที่มันจะต้องไม่เป็นแตัวเอง " นี่มัน ไม่ใช่แฟนกู นี่มันไม่ใช่เสือแฟนกู อึก เสือแฟนกูไม่ใช่คนคนนี้ อึก ฮือๆ ไม่ใช่ มึงไม่ใช่แฟนของกู "
“ ปิง "
“ กูไม่ได้อยากได้คนแสนดีแบบนี้ กูไม่ได้อยากได้คนเพอร์เฟ็ค คนที่กูอยากได้ คือแฟนของกู เสือของกู ได้โปรด คืนเสือแฟนกูมาเถอะนะ ได้โปรดคืนแฟนคนนั้นกลับมาให้กูเถอะ อึก อึก " ผมสะอื้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดกับมันแบบนั้น แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าคนตรงหน้าเหมือนไม่ใช่แฟนของผม มันไม่ใช่ " แฟนกู คนที่เค้าต้องด่ากูเวลาที่ซื้อขนมเยอะๆแล้วกินไม่หมด คนที่ทนกินอาหารของกูทั้งๆที่มันไม่อร่อย คนที่บอกตรงๆว่ามันไม่อร่อยแต่ก็ยังกิน คนที่จะทำอะไรต่างจากใจที่อยากจะพูด คนที่คอยด่ากูแต่ก็กอดกูเพราะรักกู มึงเอาแฟนกูกลับมาเถอะนะ เอาแฟนกูกลับมาเถอะ กูไม่เอาอะ กูไม่เอาคนนี้ " ผมผลักมันให้ออกห่างจากผม เสือที่ยืนนิ่งมันร้องไห้ออกมาเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแล้วนั่นก็ยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักขึ้น
“ ขอโทษ กูขอโทษ " มันบอก " แต่กูแค่อยากเป็นคนที่มึงชอบ กูแค่อยากเป็นคนแสนดีของมึง กูอยากเป็นคนในแบบที่มึงชอบ กูไม่รู้ว่า กูต้องทำแบบไหนให้มึงชอบ ที่กูคิดออก มันก็มีเท่านี้ กูต้องตามใจ ใส่ใจ แล้วก็แสนดีมากๆ กูคิดออกเท่านี้ กูขอโทษ ที่มันคงไม่ธรรมชาติ เพราะกูไม่ใช่คนแบบนั้น แต่กู แค่อยากได้มึงคืนมาจริงๆนะเว้ย อยากให้มึง มีความสุขจริงๆนะ เพราะกูรู้ว่า ถ้ากูเป็นแบบเดิม ยังไงมึงก็ไม่กลับมาอยู่แล้ว ถ้ากูเป็นแบบเดิม มึงจะไม่มีความสุข "
“ มึงรู้ได้ไงว่ากูไม่มีความสุข " ผมถาม " กูเลือกที่จะรักมึงเพราะกูชอบในแบบที่มึงเป็นมึง ใช่ มันอาจมีบ้างที่กูไม่ชอบ แต่ไม่ใช่ว่าทั้งหมดนี่ ไม่ใช่มึงต้องเปลี่ยนแบบนี้ ไม่เอาดิเสือ ไม่เอา กูไม่เอาแบบนี้ มึงฝืนตัวเอง มึงกำลังไม่เป็นตัวเอง มึงไม่ทรมานเหรอ ที่ต้องทำตัวเหมือนไม่เป็นตัวเองแบบนี้ "
“ ทรมาน แต่มันก็น้อยกว่าตอนที่ไม่มีมึงอยู่ " มันเว้นเสียงก่อนจะเดินเข้ามากอดผมไว้ อ้อมกอดที่รัดแน่น น้ำตาที่ไหลลงตรงไหล่ เสือนิ่งไปสักพักก่อนจะพูด " สำหรับกูตอนนี้ กูอยากได้มึงคืนมา จะทำยังไงก็ได้ ไม่อยากพูดกับกูก็ไม่เป็นไร จะเกลียดกูก็ได้ ะไม่รักกูก็ได้ แต่อย่าหายไปไหน อย่าหายไปจากกู อยู่กับกู อยู่ให้กูรัก "
น้ำตาที่ไหลลงอาบสองแก้มของผม แทบจะทรุดลงตรงนั้น มันที่กอดผมไว้แน่น ทำได้แต่ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ' เพราะรัก ' นั่นคือเหตุผลที่เราต้องทำทุกอย่าง
“ กูจะอยู่นะ กูจะอยู่ในมึงรัก แต่กูขอ ขอแฟนคนเดิมของกูกลับมานะ เสือคนเดิมของกู " ผมดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของมัน มือที่ยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ " แฟนกูไม่ใช่คนขี้แย แฟนกูไม่ยอมให้กูเห็นน้ำตาของมันหรอก ปากก็หมาถึงจะหน้าตาหล่อก็เถอะ "
“ มึงเงียบปากไปเลยไป " เสือส่ายหน้าหนีผม มันอายจนต้องดึงผมไปกอดไว้ " พูดเหี้ยอะไรวะ ไม่รู้เรื่องเลย "
“ นี่ไง พี่เสือ พี่เสือของน้อง " ไม่มีเสียงตอบรับแต่ผมรู้ว่าใครบางคนกำลังยิ้ม แล้วนั่นก็ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ " ไม่ต้องเปลี่ยนไปมากหรอก เปลี่ยนแค่นิดๆหน่อยๆก็พอ ยังไงคนที่กูรักก็คือมึงที่เป็นแบบนี้นะเสือ "
รักคนนี้ คนที่ไม่ได้แสนดี แต่ยังไงก็รักอยู่ดี
......................................................
อ่านมีความเห็นยังไงคะ
ระหว่างพี่เสือคนนั้น กับ พี่เสือคนนี้
พี่เสือควรเป็นแบบไหนดี ..
เลือกคนไหน เม้นท์ได้นะคะ ใครเม้นท์ไม่ได้แท็ก #เสือปิง ในทวิตกับเฟสได้นะคะ
แต่สำหรับหนม พี่เสือก็คือพี่เสือ มีเสน่ห์ในแบบของเค้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ
