-1-
-สองปีก่อน-
ออดดดดดดด ออดดดดดด ออดดดดด
เสียงกดออดทำให้ผมต้องขุดตัวเองออกมาจากเตียงนุ่มๆ หันไปมองข้างตัวไม่มี
ไอ้คนตัวโตที่นอนอยู่เมื่อคืนสงสัยจะไปเรียนแต่เช้า
"ครับ?"
"เอาจดหมายมาส่งค่ะพี่กวาง ของพี่วา^^" น้องรินสาวน้อยน่ารักประชาสัมพันธ์ของคอนโดยิ้มให้ผม
"ที่จริงพี่ลงไปเอาเองก็ได้"ผมว่าแล้วรับจดหมายมา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะแล้วนี่พี่วาไม่อยู่เหรอค่ะ"น้องรินถามอย่าสนใจ
"ไปเรียนจ่ะ"
"งั้นรินไม่กวนแล้ว บ๊ายบายค่ะพี่กวาง"
"จ่ะ"ผมยิ้มให้น้องรินแล้วปิดประตูลง ทุกคนในคอนโดนี้ต่างรู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับวา
แต่ก็ไม่มีใครแสดงอาการรังเกียจใส่พวกผม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะในสังคมไทยถึงแม้จะค่อยๆเปิดรับ
แต่มันก็ยังไม่เปิดกว้างแบบในต่างประเทศ
"เอ๊ะ!นี่มัน"ผมมองซองจดหมายสีขาวในมือ แล้วยืนนิ่ง 'จดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย'
ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าวาอยากจะไปเรียนต่อโทด้านออกแบบที่ฝรั่งเศสและผมก็เป็นคนยุ
ให้เขาลองสมัครดูแต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
"ฝรั่งเศส"ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วบึ่งไปบ้านของวาทันที ตอนนี้มันสับสนไปหมด สิ่งที่เรียกว่าความรักกับความฝัน
มันกำลังเดินสวนทางกัน...
ผมมานั่งรอแม่ของวาอยู่ที่ห้องรับแขก ไม่ว่าจะมาบ้านหลังนี้กี่ครั้งก็ยังรู้สึกอบอุ่น สบายใจ เหมือนเดิม
"ลูกกวาง"น้ำเสียงแห่งความเอ็นดูแผ่มาถึงผม ทำให้ใจที่กำลังห่อเหี่ยวของผม กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง
"แม่ฮะ"ผมเข้าไปกอดแม่ของวา
"เป็นอะไรไปเรา พี่วารังแกหรือเปล่า? หืม?"แม่วาถามด้วยความเป็นห่วง ท่านรู้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับวา
ไม่ใช่แค่เพื่อนกันทั่วๆไป และท่านก็รับได้ ในความสัมพันธ์ของเรา
"เปล่าครับ..."
"แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น"แม่พาผมมานั่งแล้วลูบหัวผมอย่างเอ็นดู
"แม่...วา...ได้ทุนเรียนที่ฝรั่งเศส"ผมยื่น จดหมายสีขาวให้แม่ของวา
"กวาง..."แม่มองมาที่ผมอย่างเห็นใจ
"ผมไม่อยากทำลายอนาคตวา..." ผมกอดแม่แน่นขึ้นท่านได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
"เราทำแบบนี้ เราเองจะเสียใจน่ะกวาง"
"ผมยอมฮะแม่ ยอมให้วามีอนาคต แต่นี้ผมก็ทำให้เขากับแม่ลำบากใจแล้ว"
"กวาง...แม่ไม่เคยลำบากใจน่ะที่วารักลูก ดีซะอีกที่เป็นกวางที่รักวาอย่างสุดหัวใจ แม่ไม่คิดว่าการเป็นครอบครัว
ที่สมบูรณ์คือการที่ญิงชายแต่งงานกัน ความรักมันไม่เลือกคน ไม่เลือกที่ ไม่เลือกเวลาน่ะลูกแม่ไม่เคยรังเกียจกวาง
อย่าพูดว่าทำให้พ่อแม่กับวาลำบากใจ.."
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักความเห็นใจทำให้ผมถึงกับน้ำตาไหล ความอบอุ่นนี้ ไม่ได้รับมันมานานเท่าไหร่แล้วน่ะ
"แม่ครับ...นี่มันเป็นความฝันของวา กวางไม่อยากทำลายความฝันของวา"
"แม่รู้...แลวกวางจะทำยังไง?"
"แม่...กวางขอ แม่อย่าบอกวาน่ะว่ากวาง รู้เรื่องนี้แล้ว กวางอยากให้เค้าไปทำ ตามความฝัน กวางรู้ว่าเค้าไม่ยอมแน่
แต่สิ้งที่กวางกำลังทำ กวางคิดดีแล้วครับแม่..."
"กวางจะเลิกกะบพี่วาเหรอลูก..."
"กวาง...กวางจะทำให้วาเสียใจน้อยที่ สุดครับ"
"กวาง...แม่ขอน่ะ อย่าทำอะไรฝืนใจตัว เอง กวางก็รู้ว่าพี่วารักกวางแค่ไหน"
"กวางรักแม่น่ะครับ กวางรักพี่วามากด้วย แต่กวางไม่อยากให้เค้าทิ้งความฝัน เพราะกวาง...กวางขอโทษน่ะครับ"
ผมซุกหน้าร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่คนที่สอง คนที่รักและดูแลผมมาตลอดสองปี
แม่ครับ..แม่ของกวางอยู่บนนั้นสบายดีมั้ย กวางเจ็บปวดเพราะความรัก แต่กวางก็ยังรัก แม่ครับเพราะความรัก
ใช่มั้ยครับที่ทำให้แม่ต้องทนอยู่กับพ่อ เพราะความรักใช่มั้ยครับที่ทำให้แม่ต้องจากกวางไป แม่ครับ..แล้วถ้ากวาง
ปล่อยมือจากความรัก กวางจะมีความสุขมั้ยครับแม่...
เช้าวันเสาร์ที่แสนอบอุ่นผมยังนอนซุกอยู่บนเตียงกับผ้าห่มผืนใหญ่ เมื่อคืนคงจะเป็นความอบอุ่นและ
ความรักครั้งสุดท้ายที่ผมจะมอบให้กับวา
"ว่าไงไอ้ตัวดี ตื่นแล้วเหรอ"ไม่ว่ากี่ครั้ง เขาก็ยังเหมือนเดิม ดีกับผม ยิ้มให้ผม และรักผม
"ยังไม่ตื่น"ผมตอบเสียงอู้อี้แล้วได้ยินเสียงหัวเราะกลับมาเบาๆ
"นี่ถ้าจะยั่วกันตั้งแต่เช้าน่ะกวางไม่ได้ลุกจากเตียงแน่รู้มั้ยไอ้ตัวแสบ"ผมดีดตัวลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ขืนยังนอนอยู่มีหวังผมไม่ได้ออกไปไหนแน่นอน
"วันนี้วาจะออกไปธุระข้างนอก กวางอยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย?"น้ำเสียงที่ถามด้วยความห่วงใยทำให้ผมต้องกลั้น
ก้อนสะอื้นแล้วพยักหน้ารับ ธุระของวา คงหนีไม่พ้นเรื่องไปฝรั่งเศส
"งั้นกวางออกไปเที่ยวกับพวกไอ้ดิมน่ะ"
"ไปเที่ยวหรือกินเหล้า"
"มีบ้างเหอะ"
"งั้นดื่มได้ แต่ห้ามดื่มเยอะน่ะ วาเป็นห่วง ฝากบอกพวกมันด้วยว่า ไว้โอกาสหน้าไปด้วยกัน"โอกาสหน้าคงเป็นตอนที่
วาเรียนจบแล้วหล่ะ ทั้งๆที่ต้องเดินทางพรุ่งนี้ แต่วากลับไม่บอกผมสักคำ ไม่มีเลย
หลังจากที่วาออกไปทำธุระผมก็จัดการกับตัวเองเป้หนึ่งใบ กระเป๋าตังส์ โทรศัพท์
ผมจึงโทรไปบอกไอ้ดิมไว้ก่อน
"ไอ้ดิม"
[ว่าไงไอ้กวาง]
"กูไปต่างจังหวัดน่ะ มึงไม่ต้องโทรหา ไม่ต้องตามหา ไม่ต้องอยากรู้ว่ากูไปไหน แค่โทรมาบอกก่อนจะได้ไม่ตกใจ
กูพร้อมเมื่อไหร่จะเล่าให้ฟัง..."
[เฮ้ยเดี๋ยว!เหี้ยกวาง อะไรของมึงเนี่ย]
"ไว้กูกลับมาเล่าให้ฟัง ในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนกู กูขออะไรอย่าง นึงได้มั้ย?"ผมรอคำตอบจากไอ้ดิม
[....สำหรับมึง หลายอย่างก็ได้] ผมยิ้มให้กับการแสดงความจริงกับเพื่อนแบบเถื่อนๆของมัน
"ไม่ว่าใครไปถามหากูไม่ต้องบอกว่ากูโทรหามึง แค่บอกว่าไม่รู้ก็พอ"
[แม้แต่...ไอ้วา?]
"อืม...ห้ามบอกใคร"
[เฮ้ออออ ไอ้เหรี้ยกวาง ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยพร้อมเมื่อไหร่ก็กลับมาเล่าให้กูฟังหล่ะ]
"เออ ขอบใจเว้ย" ผมวางสายจากไอ้ดิมแล้วโบกแท็กซี่ไปสนามบินทันที ผมไม่ได้หนี
ผมแค่อยากเปิดโอกาสให้คนที่ผมรักได้ไปทำตามความฝัน เหอะ!พระเอกใช่มั้ยหล่ะ
คุณอาจจะคิดว่ามันเพ้อเจ้อหรือไม่ก็น้ำเน่าชิบหาย แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นผม ผมเชื่อว่าคุณก็เลือกที่จะทำเหมือนผม
...หนึ่งชั่วโมงต่อมาเครื่องบินลงจอดที่ สนามบินหาดใหญ่ ผมรีบเก็บสัมภาระแล้ว เดินออกมาข้างนอกสนามบิน
ผมจัดการนั่งรถตู้ไปยังจังหวัดตรัง เพื่อหวังให้การนั่งรถหลายต่อทำให้ตามหาตัวยากขึ้นกว่าเดิม
ผมเช็กอินในรีสอร์ทหลังเล็กๆริมหาด แล้วนอนมองเพดานห้อง พาลนึกถึงไอ้คน
ที่กำลังจะขึ้นเครื่องไปเรียนที่ฝรั่งเศสคืนนี้ หวังว่าเค้าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ
หวังว่าเค้าจะให้อภัยกับความคิดโง่ๆของผม
ยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหล รักมากจนอยาก จะเห็นแก่ตัว แค่ผมบอกว่าไม่อยากให้ไป
วาก็พร้อมที่จะยืนอยู่ข้างผมแต่ผมทำไม่ได้ผมไม่อยากทำร้ายรอยยิ้มแห่งความสุขของวาที่ได้วาดภาพและถ่ายรูป
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่มันดีหรือเปล่าแต่ผมรู้ว่ามันจะดีสำหรับอนาคตของวา
ต่อให้ผมต้องเจ็บจนหายใจไม่ออกแล้วก็เถอะ ทุกวัน ทุกช่วงเวลา ช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ตอนเช้าก็ลุกขึ้นมาทานข้าวเช้าแล้วเดินไปริมหาดมองดูผู้คนที่มีอยู่ประปราย
ตกเย็นก็มานั่งดื่มเบียร์เงียบๆที่ระเบียงห้องมองดูดาวกับพระจันทร์บนท้องฟ้า
เหมือนผมกับวาที่ต่อให้ผมเอื้อมมือจนสุดแขนก็ยังคว้ามาไม่ได้ อากาศหนาว
บวกกับความเหงาทำให้ผมร้องไห้ทุกคืน สุดท้ายแล้วเป็นเหมือนที่แม่วาบอกไว้
คนที่เสียใจที่สุดคือผม...คนที่ก้าวออกมา
วันสุดท้ายที่ผมอยู่ที่ตรังก็หาซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆไปให้ไอ้ดิมกับเดอะแก๊งค์สักหน่อย
หนีมาแบบนี้กลับไปไม่มีอะไรไปฝากโดนด่ายันลูกบวชแน่
ผมเดินทางถึงกรุงเทพตอนบ่ายๆ แล้วจึงเอาของไปเก็บที่คอนโดตัวเองที่แม่ซื้อไว้ให้
ก่อนที่ผมจะย้ายออกไปหลังจากที่คบกับวาแล้วย้ายไปอยู่คอนโดวาก็ไม่ค่อยได้กลับมาแต่ผมให้แม่บ้าน
มาทำความสะอาดทุกอาทิตย์
หลังจากที่จัดการกับตัวเองเรียบร้อยก็เปิดโทรศัพท์จากที่ปิดมันมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆมีทั้งข้อความ ไลน์ แชทเฟสบุ๊ค
ทวิตเตอร์เด้งขึ้นมาจนน่ากลัวว่าโทรศัพท์ผมมันจะแปลงร่างเป็นทรานฟอร์เมอร์มาเดินเล่นในคอนโด
ดูจากข้อความแล้ววาโทรหาผมหนึ่งร้อยห้าสิบสายภายในวันเดียว และอีกห้าสิบกว่าสายในวันถัดๆมา
ส่วนไอ้ดิมก็มีห้าสาย แม่ของวาก็ยี่สิบสาย เพื่อนคนอื่นๆอีกรวมๆกันประมาณห้าสิบสาย
'ไอ้กวางที่มึงหนีไปเพราะไอ้วาจะไปฝรั่งเศสงั้นเหรอ?'...ข้อความจากไอ้ดิม
'อีกวางมึงรีบกลับมาเลยน่ะ มึงทิ้งวาได้ไง'...อีเกษม
'กวางลูก...แม่รู้ว่าลูกได้ทำในสิ่งที่ลูก คิดว่าดีที่สุดแล้ว...แม่ยกโทษให้ลูกเสมอ'...แม่ของวา
ผมกดปิดข้อความพยายามกลั้นน้ำตาที่มันเตรียมจะไหลออกมาแล้วไปเปิดดูไลน์ที่เด้งมาไม่หยุดหย่อน
'กวางอยู่ไหน'
'กวางอย่าเล่นแบบนี้'
'กวางกลับมาหาวาน่ะ'
'วาทำอะไรผิด'
'กวาง'
'เปิดอ่านแล้วโทรหาวาหน่อย'
'วาจะบ้าตายอยู่แล้ว'
'หนีวาไปแบบนี้หมายความว่าไง'
'วาขอโทษ'
'วาไม่รู้ว่ากวางโกรธอะไร'
'แต่กวางกลับมาหาวาเถอะ'
'วาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีกวาง'
'กวางกลับมาน่ะ แล้วไปฝรั่งเศสด้วยกัน'
'วารักกวางน่ะ'
ผมมองประโยคสุดท้ายด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างทั้งรัก ทั้งเสียใจ ทั้งเกลียดตัวเอง สิ่งที่ผมคิดว่าดีสำหรับวา
กลับกลายเป็นว่ามันทำร้ายวา น้ำตาที่คิดว่ากลั้นไว้กลับไหลออกมาทั้งๆที่คิดไว้แล้วว่าจะไม่เสียใจกับการกระทำ
ของตัวเองแต่ก็ยังร้องไห้อยู่ดี พยายามทำให้ตัวเองเข้มแข็งเพื่อรับมือกับความเจ็บปวด
แต่สุดท้ายก็ยังเจ็บเจียนตาย เพราะรักและคิดถึงเขาอยู่ดี... สุดท้ายแล้วคนที่ผมรักมากที่สุดก็คงมีแค่
คนที่จากผมไปอีกซีกโลก ไม่รู้ว่านานแค่ไหนกว่าจะได้เจอ ไม่รู้ว่าการรอคอยมันจะนานแค่ไหน
ไม่รู้ว่าเค้าจะยกโทษกับการกระทำโง่ๆของผมหรือเปล่า
แต่ผมก็ยังยืนยันที่จะรอ เพื่อบอกเค้าว่า
...ผมก็รักวา ...เช่นกัน
..........................................................................................
ตอนสองมาช้าหน่อยน่ะ
ตอนหน้าก็จบแล้ว
มีอะไรก็ติชมกันน่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน่ะ