รักที่เป็นไปไม่ได้ 7 the end ครืดดดด!
ครืดดดด ครืดดดด!!
สายที่สี่สิบเจ็ดของวัน
“เอาเรื่องเหมือนกันเว้ยเฮ้ย กี่สายแล้วนั่น ร้อยยัง” พี่เดียวละสายตาจากเขียงมองผม ผมส่ายหน้า ล้างผักต่อไปไม่สนใจโทรศัพท์ที่แผดเสียงร้องอีกครั้ง
คนที่โทรมาเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโรม ก็วันนี้วันเกิดเขา โทรมากวนผมตั้งแต่เช้า ผมรับสายเขาสายเดียวก็ไม่ได้รับอีกจนกระทั่งหกโมงเย็น
ผักสลัดพร้อมสำหรับจัดใส่จาน ผมเริ่มทำน้ำสลัดแบบที่ใครบางคนชอบ ผมประชดน่ะ โรมเกลียดผักเข้าไส้ ต้องบังคับถึงจะยอมกิน พี่เดียวอาสาทำสเต็กให้ เห็นว่ามีสูตรเด็ด
กว่าอะไรจะเสร็จเรียบร้อยก็หนึ่งทุ่ม ผมมองผลงานชิ้นเอกด้วยความกังวลใจ คงไม่เป็นหม้ายหรือกลายเป็นสายบัวแต่งตัวรอเก้อหรอกนะ
“จะเอาไงต่อ” พี่เดียวเดินเข้ามาหาผม เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วก็นั่งฝั่งตรงข้าม
“ก็รอ...”
“มันจะรู้เหรอ”
“ไม่รู้สิ”
“ป่านนี้งอนร้องไห้ไปแล้วมั้ง”
“ไม่หรอกครับ”
“แล้วถ้ามันไม่มาล่ะ”
“ก็จบ”
มันก็เหมือนการเสี่ยงดวง โอกาสเป็นไปได้มีสองทางไม่หัวก็ก้อย แล้วผมกำลังหวังให้มันออกอะไรอยู่ ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าผมต้องการที่จะกลับไปคบกับโรมใหม่หรือเปล่า ไม่รู้สิ ผมไม่รู้อะไรเลย ผมก็แค่มนุษย์คนหนึ่งที่สับสนในตัวเอง ความกลัวไม่เคยหายไปจากใจ แต่ถ้าถามว่าผมยังรักเขาไหม...
ผมรักเขา ผมรักโรม
กริ๊งงงง
“ฮัลโหล ว่าไง ได้เรื่องว่าไงบ้าง”
ผมยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแก้กระหายและเพื่อเติมท้องที่กำลังว่าง เสียงท้องร้องเบาๆประท้วงว่าตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้ข้าวลงท้อง มีเพียงแค่น้ำดื่มและขนมปังชิ้นเดียวเท่านั้นที่ได้เข้าสู่ร่างกาย
“จริงดิ! ทำดีมากหนู เดี๋ยวป๋ามีรางวัลให้”
ผมเลิกคิ้วสงสัย มีอะไรให้น่าดีใจถึงขนาดทำให้พี่เดียวใจดีกับน้องวินได้ ปกติทำเสียงแข็งใส่ตลอด
“สายรายงานข่าวมาว่าว่าที่สามีนายกำลังจะมา...แบบลมออกหู”
แบบลมออกหู...โรมนะเหรอ?
แล้วใครเป็นสาย?
“พี่เดียวหมายความว่ายังไง” ผมถาม
แผนของวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน ผมก็แค่จัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์โรมโดยที่ไม่บอกเขาก็แค่นั้น ผมบอกเขาว่าผมจะไม่ไปฉลองด้วย และผมก็ไม่รับสายเขาทั้งวัน และผมรู้ว่าเขาจะต้องรีบแจ้นมาหาผมแน่ๆเมื่อเขาสามารถปลีกตัวได้ และเมื่อเขาหาผมเจอ เราก็จะฉลองงานวันเกิดของเขากัน แบบทุกปีในช่วงที่เรายังคบกันอยู่ ก็ถ้าเขายังจำมันได้ว่าเมื่อก่อนผมมักจะหาข้ออ้างทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เขาเสมอ และเขาก็เออออตามผม ปล่อยให้ผมเตรียมนู่นเตรียมนี่โดยแสร้งทำเป็นไม่รู้ทั้งๆที่เขารู้อยู่เต็มอก
ผมก็แค่หวังว่าเขาจะจำเรื่องของเราได้
“ก็ไม่เห็นมันมาสักที มันน่าจะมาตั้งแต่ทุ่มหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอไง นี่สองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ก็เลยให้วินมันจัดการอะไรนิดหน่อย”
คงไม่หน่อยหรอกมั้ง ถ้าบอกว่าโรมจะมาแบบควันออกหู
บ้านโรมกับบ้านน้องวินอยู่ใกล้ๆกัน เพราะฉะนั้นโรมกับน้องวินเลยรู้จักและสนิทกันในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆโรมก็มักติดสินบนน้องวินให้กันพี่เดียวออกจากผม ทั้งที่ผมกับพี่เดียวเป็นแค่พี่น้องกัน โดยที่โรมไม่รู้ว่าพี่เดียวกับน้องวินเป็นอะไรกันเพราะพี่เดียวสั่งห้ามเอาไว้ไม่ให้น้องวินบอกโรม
ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนที่โรมจะมา ไม่รู้พี่เดียวสั่งน้องวินให้ทำอะไร ถามก็ไม่ยอมเล่า บอกว่าให้รอดูเอาเอง คงไม่ได้ทำอะไรแผลงๆหรอกนะ ชอบนักเรื่องแกล้งคนอื่น
กลับเข้ามาในห้องจัดงานวันเกิด พี่เดียวยืนอยู่ข้างๆโต๊ะ ผมเดินเข้าไปใกล้ แล้วพี่เดียวก็รั้งแขนผมเอาไว้ ก่อนจะประคองหน้าผมด้วยมือทั้งสองมือ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกแทบชนกัน ผมตกใจขยับออกแต่พี่เดียวกระซิบห้าม
“อย่าเพิ่งขยับ อยู่นิ่งๆแบบนี้สักสิบวินาที”
“ทำไม” ผมไม่เข้าใจ
“เอาน่า นี่พี่ยอมเจ็บตัวเพื่อเราเลยนะน้องชาย”
ผมไม่ทันได้สงสัยหรือถามอะไรมากกว่านั้น เพราะไม่ถึงสิบวินาทีอย่างที่พี่เดียวว่า ร่างของโรมก็พุ่งเข้ามาต่อยพี่เดียวจนล้มลงไปกับพื้น ผมตกใจยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก แต่พอเห็นว่าโรมจะเข้าไปซ้ำพี่เดียว ผมเลยรีบเข้าไปห้ามไว้
“อย่านะโรม ทำบ้าอะไรน่ะ!” ผมรั้งแขนเขาไว้ ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงพี่เดียวให้ลุกขึ้น เลือดออกปากด้วย มันเกินไปไหม มาถึงก็ต่อยชาวบ้านจนปากแตกยับ
“ถอยไปนะปลาย โรมจะต่อยปากมัน กล้าดียังไงถึงได้จูบปลาย!” โรมตะคอก ผมอึ้งอ้าปากเตรียมจะพูดปฏิเสธแต่โรมลากตัวผมออกห่างจากพี่เดียว
“อย่านะโรม จูบบ้าอะไร ไม่มีใครทำอะไรแบบที่นายบอกทั้งนั้น” ตั้งสติได้ผมก็ห้ามเขาต่อ พี่เดียวลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับโรม
“คิดว่าโรมตาบอดหรือไงปลาย ทั้งๆที่โรมเห็นว่ามันกับปลายจูบกันนะหรือจะปฏิเสธว่าไมได้ทำ ห๊ะ!!!” เขาสะบัดมือผมที่จับแขนเขาออกอย่างแรง
เพลี๊ยะ!
“ปลาย! ไอ้โรม มึงทำเหี้ยไรเนี่ย เจ็บไหมปลาย” พี่เดียวเข้ามาประคองผม ดันตัวโรมที่จะเข้ามาใกล้ผมออกห่าง ผมดุนลิ้นที่กระพุ้งแก้ม เลือดออกซะด้วย
ผมมองหน้าโรมด้วยความเสียใจ เขาหน้าเสียแต่ก็ยังคงโกรธ
“ฉันไม่ได้ทำอย่างที่นายว่า ละเมอหรือไง หรือเมา กลับไปเลยนะ อย่ามาทำตัวอันธพาลแบบนี้” ผมว่าเข้าให้
“ถามจริงๆนะปลาย ปลายรักโรมบ้างหรือเปล่า” เขาพ่นลมหายใจแรงๆ เหมือนกับเหนื่อยหน่ายในชีวิต
“ถามทำไม”
“ก็ถ้าปลายไม่รักก็อย่ามาให้ความหวังโรมสิ ถ้าปลายอยากจะคบกับไอ้นี่ ก็แค่บอกกันมา มันยากเย็นนักหรือไง ทำไมต้องหลอกโรมเหมือนไอ้หน้าโง่ตัวหนึ่ง สุดท้ายปลายก็ไปรักกับมันอยู่ดี คิดบ้างไหมว่าการกระทำของปลายมันเห็นแก่ตัว”
ผมหน้าชากับคำด่าที่ได้รับ พี่เดียวคงโมโหแทนผมถึงทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องโรม แต่ผมห้ามเอาไว้ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูด ผมอยากถามว่าอะไรทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ แต่...คำต่อว่าต่อขานของเขาทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้ว่านายไปฟังอะไรมา แต่สิ่งที่ฉันรู้ก็คือ...นายไม่เคยคิดจะฟังฉันเลย ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำผิดอะไรโรม แต่ฉันรู้อย่างเดียวเลยตอนนี้ นายเลือกที่จะเชื่อคนอื่นมากกว่าถามความจริงจากปากฉัน และขอบอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า ฉันไม่ได้คบกับพี่เดียว และฉันไม่ได้มีใคร ฉันไม่ได้หลอกให้ความหวังนาย นั่นคือความจริง จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ ฉันถือว่าฉันพูดความจริงทั้งหมดแล้ว”
“...”
“ผมกลับก่อนนะพี่เดียว ขอบคุณที่วันนี้ช่วย แม้ว่าสุดท้ายมันก็ล้มไม่เป็นท่าก็ตาม”
ผมเดินออกจากแกลลอรี่ของพี่เดียว โบกรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายกลับห้อง ผมกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล พี่เดียวส่งข้อความมาบอกว่า เขาให้วินไปบอกโรมว่าผมอยู่กับพี่เดียว เหมือนจะมีฉลองปาร์ตี้อะไรกันสักอย่าง และบางทีพี่เดียวอาจจะขอผมเป็นแฟน เพราะน้องวินบอกว่าโรมว่างตั้งแต่หกโมงเย็นแล้ว แต่ไม่ยอมมาหาผมสักที ทั้งที่ปกติเขามันจะมาวนเวียนอยู่รอบตัวผม ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่างก็ตาม และมันก็ได้ผลเมื่อโรมฟังคำยุจากน้องวินแล้วรีบตรงมาหาผมทันที
และตอนที่พี่เดียวบังคับให้ผมยืนชิดกับเขา พี่เดียวเห็นแล้วว่าโรมมา และต้องการทำให้โรมเข้าใจผิดว่าผมกับพี่เดียวจูบกัน พร้อมกับขอโทษผมที่ทำให้เรื่องมันแย่ แต่เชื่อไหมว่าผมไม่โกรธพี่เดียวเลย ผมรู้ว่าเขามีเจตนาดี อยากจะช่วย ถึงแม้วิธีการจะสิ้นคิดไปหน่อยก็เถอะ
กลับถึงห้องผมอาบน้ำให้หัวโล่ง ต้มบะหมี่ซองประทังความหิวในยามค่ำคืน กินไปก็ซู้ดปากไปเพราะน้ำซุปร้อนโดนแผลจนเจ็บ วันนี้จัดงานวันเกิดให้พ่อตัวดีทั้งวัน สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่า ป่านนี้สเต็กจานโตลงกลายเป็นอาหารของไอ้อ้วนหมาจรจัดตัวผอมเหลือแต่กระดูกแล้วมั้ง เฮ้อ~
กินเสร็จผมก็ล้มตัวนอนบนเตียงกว้าง ผมเป็นคนนอนดิ้น ก่อนหน้านี้นอนเดียงสามฟุต สุดท้ายก็กลิ้งตกเตียงเลือกทุกคืน เลยไปหาซื้อเตียงหกฟุตมาแทน เชื่อไหม ตื่นเช้าขึ้นมา หมอนข้างตุ๊กตาลงไปกองอยู่ที่พื้นหมด
“ฮึกๆๆ”
ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ไงไอ้ปลาย...ก็แค่เขาไม่เคยเชื่อใจแกเลย ชินแล้วไม่ใช่เหรอไง
มันไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วแหละ เชื่อเถอะ...เพราะว่ามันแย่ถึงที่สุดแล้ว
ผมหลับไปทั้งน้ำตาเมื่อนาฬิกาบอกเข้าวันใหม่ คงเป็นเพราะเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ แทบยังร้องไห้เป็นเผาเต่าอีก เลยหลับง่ายโดยที่ไม่รู้ตัว
จุ๊บๆ~~
ฟอดดด
“ที่รัก โรมขอโทษนะ เจ็บไหมคนดี”
จุ๊บ~
“อืม” ผมดิ้นหนีสิ่งที่กำลังรบกวนการนอนของผม แต่ยิ่งขยับยิ่งถูกรัด ปัดมือไล่ก็ไม่หาย ไหนจะถูกบางอย่างรบกวนแถวๆซอกคอและเอว ผมดิ้นจนเริ่มรู้สึกตัว เห็นเงาใครบางคนอยู่บนตัว
“เฮ้ย!!!” ผมอุทานเสียงดัง คิดว่ามีโจรเข้ามาในห้อง ผมดิ้นอย่างแรงแต่คนบนตัวจับมือผมล็อคเอาไว้แน่น
“ชู่ๆ โรมเองโรม...ไม่ต้องกลัวคนดี โรมเองนะ ใจเย็นๆ” ผมหยุดดิ้นเมื่อเขาบอกว่าตัวเองเป็นใคร ไฟหันเตียงสว่างวาบเมื่อโรมเป็นคนเปิด
“ออกไป” ผมพูดเมื่อได้สติ
“โธ่ปลาย ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้น” แบบนั้นของเขาคือหมายถึงผมกำลังทำหน้าโกรธแบบสุดๆ
“บอกให้ออกไป”
“โรมขอโทษปลาย ไอ้พี่เดียวบอกโรมหมดทุกเรื่องแล้ว เรื่องที่ปลายกับมันไม่ได้เป็นอะไรกัน และมันเป็นแฟนกับวิน รวมไปถึงเรื่องเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วย”
“...” ผมเงียบ หันหน้าหนีไปทางอื่น นิ้วมือเย็นแตะตรงตำแหน่งที่ถูกตบ ผมสะดุ้งนิดๆ
“โรมขอโทษที่ไม่ยอมถามปลายก่อน พอโรมกลับไปบ้านก็โดนพ่อกับแม่ด่าจนยับ แถมยังโดนแม่แพ่นกะบาลมาอีก ดูสิ หัวโนเลย” เขาทำเสียงอ้อน แต่ผมไม่อยากมอง ก็สมควรโดน
ผมเจอพ่อกับแม่โรมก่อนหน้านี้แล้วแต่เขาไม่รู้ พ่อกับแม่โรมมาขอโทษผมเรื่องที่สั่งให้โรมเลิกกับผม ทั้งมาขอร้องไห้ผมให้อภัยลูกชายตัวดีของเขา แต่ผมไม่เคยบอกโรม และกะว่าจะบอกวันนี้ เพราะทุกอย่างคงคลี่คลาย ผมขอให้พ่อแม่โรมรั้งตัวลูกชายเอาไว้จนกว่าจะถึงตอนเย็นที่ผมเตรียมฉลองวันเกิดให้เขาเสร็จ สุดท้ายเป็นยังไง...เหอะ
“พ่อกับแม่เล่าเรื่องปลายให้ฟังหมดแล้วนะ โรมโง่เอง ยกโทษให้โรมนะ”
“นายด่าว่าฉันเห็นแก่ตัว นายหาว่าฉันจูบกับพี่เดียว”
“โรมขอโทษ ไม่ผิดเอง”
“ใช่นายผิด!”
ผมผลักโรมออกจากตัวอย่างแรงจนเขาหงายหลังตกเตียง ได้ยินเสียงของแข็งโคลกกับพื้นดังตึ้ง แต่ผมไม่สนใจ ลุกขึ้นนั่งให้เรียบร้อย
“แถมนายยังตบฉันอีก”
“โรมให้ปลายตบคืนก็ได้!”
พลั้ววว!!!
ผมไม่ได้แค่ตบ แต่ต่อยไปเต็มเหนี่ยว เจ็บมือชะมัด หน้าแข็งยังกับหิน
“ถ้านายจะใช้หัวคิดซะบ้างนะโรม สักนิดจริงๆ ที่ผ่านมาฉันทำอะไรที่บ่งบอกว่าฉันไม่เห็นนายสำคัญงั้นเหรอ การที่ฉันยังอยู่ตรงนี้ ไม่เคยไปไหน ไม่เคยมีใคร ไม่ว่าจะมีคนเข้ามาจีบหรือแสดงอย่างชัดเจนว่าสนใจฉัน แต่ฉันก็ยังอยู่ตรงนี้ เพียงแค่นายจะเคารพสิทธิของฉันบ้าง”
“โรม...”
“ไม่ต้องพูด!” ผมสั่งเสียงแข็ง โรมหน้าหงอยหางลู่หางตก นั่งคุกเข่าอยู่ที่ปลายเตียงอย่างสงบเสงี่ยม แก้มเขาขึ้นรอยแดงจนเห็นได้ชัด
“ฉันแค่หวังให้นายเคารพการตัดสินใจของฉันบ้าง มันหนักหนานักเหรอโรม ทั้งๆที่ตอนนายจะไป ฉันไม่เคยว่า เพราะฉันเคารพการตัดสินใจของนาย หรือแม้การที่นายจะกลับมา ฉันก็ไม่เคยห้าม เพียงแต่ถ้านายจะไม่ล้ำเส้นจนเกินไป ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ต้องคอยกังวลว่านายจะรู้สึกยังไง ทั้งที่ความจริงแล้วฉันควรได้ทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่ฉันอยากทำ แม้แต่การมีแฟนใหม่ที่ไม่ใช่นาย”
“...” เขาไม่พูดอะไร และมันเป็นสิ่งที่ผมหวังให้เป็น ผมไม่อยากฟังอะไรจากเขาจนกว่าผมจะพูดจบ
“ฉันถามหน่อย ถ้าตอนที่นายกลับมาฉันมีแฟนอยู่แล้ว และฉันหมดรักนายไปแล้ว นายจะทำยังไงโรม จะด่าฉันไหมที่ฉันรักใครคนอื่น แทนที่จะเป็นคนที่ทิ้งฉันไปอย่างเลือดเย็น คนที่ไม่เคยสนใจเลยว่าฉันจะนอนร้องไห้สักกี่ปีให้สาสมกับการเป็นคนที่ถูกทอดทิ้ง”
“...” เขาร้องไห้เงียบๆ ก้มหน้าต่ำคล้ายจะยอมรับความผิด
“นายน่าจะรู้จักฉันดีกว่าใคร ว่าวันนี้ฉันจะทำอะไร นายเคยรู้ แต่ทำไมวันนี้กลับโง่ล่ะ”
“ฮึก” เขาขยับเข้ามากอดขา ซบหน้าลงกับเข่าแล้วร้องไห้จนตัวโยน ผู้ชายตัวโตกำลังร้องไห้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นะว่าไหม
“นายรักฉันจริงๆเหรอโรม”
“รักสิ..ฉันรักนายมาก เพราะรักมากเลยไม่อยากเสียนายไป”
“แม้ว่าการอยู่กับนายทำให้ฉันเจ็บปวดน่ะเหรอ นายก็ยังจะรั้งฉันไว้ใช่ไหม”
“...” เขาตอบไม่ได้ ทำแค่กอดขาผมแน่นขึ้น หัวเข่าผมเปียกชุ่มเพราะน้ำตาของโรม
“สามปีมันคงไม่พอ...เพิ่งอีกสักสามปีดีไหม”
“ไม่เอานะ พอแล้ว โรมไม่เอาแล้วนะปลาย ยกโทษให้โรมเถอะ โรมจะตายแล้ว” เขาเงยหน้าส่งสายตาเว้าวอนมาให้ผม ทำตัวน่าโมโหแบบนี้น่าปล่อยให้ตายจริงๆ
“เฮ้อ...ฉันจะเอายังไงกับนายดีโรม ฉันควรทำยังไงกับนายดี บอกฉันหน่อยสิ” ผมถอยหายใจอย่างเหนื่อยล้า
“ปลายควรหายโกรธโรม เพราะโรมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ต่อไปนี้จะไม่หึงเวลาปลายอยู่กับไอ้เดียว”
ทำเป็นพูด แน่ล่ะ ก็รู้แล้วนี่ว่าพี่เดียวพี่แฟนแล้ว
“โรมจะไม่ทำตัวงี่เง่า มีอะไรจะถามปลายก่อนทุกเรื่อง จะไม่ตีโพยตีพายไปเอง และ...โรมจะไม่ทำให้ปลายต้องเสียใจอีก!” ประโยคสุดท้ายเขาพูดด้วยแววตาและน้ำเสียงจริงจังจนน่าขนลุก
“งั้นเหรอ”
“จริงนะปลาย โรมกินสเต็กที่ปลายทำหมดทั้งสองจานเลยนะพอรู้เรื่อง อร่อยมากๆ ปลายฝีมือสุดยอดไปเลย”
“ปลายไม่ได้ทำ พี่เดียวทำ” ผมเฉลย โรมถึงกับเบิกตาโต ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงกับผมโดยไม่ถามความเห็นชอบสักคำ
“ปลายจ๋า~”
“อะไร”
“โรมรักปลายนะ...กลับมาเป็นแฟนกันนะ”
ผมควรตอบว่าไงดี
แต่เอาเถอะ...มันก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้วล่ะ
ก็ในเมื่อผมหายโกรธเขาตั้งแต่ที่ได้เห็นน้ำตาของพ่อหมาตัวโต
“สัญญาก่อนว่าถ้าทำให้ปลายเสียใจอีกครั้งเดียว โรมจะยอมให้ปลายเลิกกับโรมทันที” ผมแค่พูดขู่ ไม่ได้กะทำจริงหรอก แต่โรมถึงกลับหน้าซีดเหงื่อตก
ก็ผมรักโรมมากนี้...รักมาตลอดสิบสองปี คงไม่มีอะไรเปลี่ยนความรู้สึกผมได้แล้วล่ะ
“โรมสัญญา...สัญญาจากใจจริงเลยว่าจะไม่ทำให้ปลายเสียใจอีก”
“ก็ดี”
“ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะ” โรมถามเสียงระริกระรี้
“อืม”
“เย้!” อายุยี่สิบเจ็ดเข้าไปแล้วยังจะทำตัวเหมือนเด็กๆไปได้
“กลับไปได้แล้ว ง่วง” ตีสองกว่าเข้าไปแล้ว เสียเวลานอนจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็แทบจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่
“ไม่เอา โรมนอนด้วยนะ ไหนๆก็เป็นแฟนกันแล้ว ขอฉลองหน่อยดิ โรมอยากกอดปลายจนจะขาดใจอยู่แล้ว” ร่างสูงขยับคุกคามผมพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ ผมเตรียมจะประท้วงแต่โรมชิงปิดปากผมด้วยความเร็ว ลิ้นร้อนๆนั้นไล้เลียริมฝีปาก จนผมเผลอเผยอให้มันแทรกลิ้นร้อนให้ผ่านเข้ามาอย่างง่ายดาย
เขาจูบผมช้าๆอย่างแผ่วเบาและพันธนาการผมไว้ด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น จูบที่นิ่มนวลค่อยๆเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของผมเริ่มเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ความต่อต้านในตอนแรกที่คิดไว้ก็ค่อยๆจางหายไปกลายเป็นว่าผมยอมให้เขาชิมความหวานนานเท่านานตามที่เขาต้องการด้วยสัญชาตญาณที่เรียกร้อง
“มะ ไม่เอานะโรม ฉันไม่พร้อม” ผมบอกเสียงกระท่อนกระแท่น
“อืม...แทนตัวเองว่าปลายสิครับ”
“อ๊ะ! ปลายไม่เอาจริงๆนะโรม...ไม่เอานะ” คือผมห่างเรื่องแบบนั้นมาตั้งหลายปี...ผมยังไม่พร้อมจริงๆ ยังจำได้ว่าครั้งแรกมันเจ็บแค่ไหน...และการที่ผมร้างราเรื่องอย่างว่า มันก็คงไม่ต่างจากครั้งแรกนักหรอก
ฟอด!
“ติดไว้ก่อนก็ได้ แค่ปลายยอมยกโทษให้โรมก็ดีถมเถไปล่ะ นอนไปก่อนนะ โรมไปอาบน้ำแปบ แล้วจะมานอนกอดนะที่รัก”
โรมลุกขึ้นจากเตียง แต่ไม่วายจูบผมอีกเกือบสิบนาทีก่อนจะไปอาบน้ำ
หวังว่า...ผมคงตัดสินใจไม่ผิด
กำลังเคลิ้มๆอยู่แท้ๆ กับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
“โรม! ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้านอน!”
บ้าเอ้ย! คิดยังไงถึงได้แก้ผ้ามานอนกอดผม ><’
“อย่าคิดมาก...ทำเป็นไม่เคยไปได้ นอนๆ ฝันดีนะที่รัก จุ๊บ!”
ฮื้อออ นอนอ่อยกันแบบนี้ ผมจับปล้ำขึ้นมาอย่ามาร้องนะ ฮึ่ย!
Happy Ending
………
จบแล้ว ปรบมือ เนื้อเรื่องไม่ค่อยหวือหวา แต่งเพราะฝนตกอารมณ์มันเป็นใจ ฮ่าๆๆ อ่านเอาขำๆแล้วกันเนอะๆ ยังมีตอนพิเศษ แต่ยังไม่แต่ รอไปก่อน ^_^ อยากได้หวานขนาดไหนรีเควสมา เดี๋ยวจัดให้