นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>  (อ่าน 542260 ครั้ง)

jurassic

  • บุคคลทั่วไป
...พี่ทีน่ารักซะอย่างนี้....ไม่รักไม่ได้แล้วใช่ไม๊ค่ะเอ...((เริ่มไขว้เขว่ซะแล้วเรา))

อ่านเรื่องของเออย่างนี้แล้ว ทำให้อยากไปเชียงใหม่จัง

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ :L2:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
แหม...

ก็เห็นใจเหมือนกันครับ...

แต่ความสงสารพี่นิคมันมากกว่าก็เท่านั้นเอง ฮ่าๆ (อย่าน้อยจายนะ)

ตอนนี้พี่หมอทีก็น่ารักมากมายเลย  :m1:   :m1:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

Bm_Boy

  • บุคคลทั่วไป

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
เอ เหมือนทำร้ายหมอทีทางอ้อมเลยนะ ทั้ง ๆ ที่รู้อะไรคือะไร ?? ให้ความหวังหมอที ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ขนาดพี่คิมเตือนแล้วนะ

รอดูตอนที่ปฏิเสธหมอที กับ พี่เก่ง แล้วคบกับพี่นิค  :m4: :oni1:

three

  • บุคคลทั่วไป
พี่เอสู้ๆนะครับเป็นกำลังใจให้แต่ก็นะครับเดินตามหัวใจแล้วกันนะ"พี่รักด้วยหัวใจแต่ใช้สองคิดนะครับ"เอามาจากข้อคิดของนิยายในบอร์ดอ่ะครับยืมเขามาอ่ะ :a1:

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
แฟนคลับเอ..แต่เชียร์  DJ นิค :a1:

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อวานไม่ได้เข้า แต่จะขอตอบความคิดเห็นที่ถามทิ้งไว้
ขอบอกว่าไม่เบื่อที่จะอ่านเรื่องนี้หรอก เพราะเอ บรรยายและพรรณาได้ดีมากๆ ทั้งเรื่องรอบๆ ตัวและความรู้สึกส่วนตัว  รวมถึงมิตรภาพต่างๆ

พาร์ทนี้ ถึงแม้ว่าจะอ่อนไหวไปกับความอ่อนโยนของพี่หมอที แต่คาดว่า เมื่อเราได้รับความรู้สึกและการปฏิบัติดีๆ จากคนที่เรารู้สึกดีด้วย ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก้อตาม คนเราก้อต้องอ่อนไหวเป็นธรรมดา ก้อของเค้าดีจริงๆ นี่นา o13

ออฟไลน์ Joobperman

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
 :m29:
ฮึ...น้องเอ(ขอเรียกแบบนี้น้าเพราะยังไงก็เป็นน้องของพี่เสมอ)
ไปเที่ยวแล้วไม่คิดถึงพี่นิคเลยสักกะนิด....น้อยใจแทนจัง  :o12: :o12:

ออฟไลน์ ~@มาวินฮับ@~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
เอค้นหาใจตัวเองให้เจอนะก่อนที่มันจะสายไป ยังงัยก้อเชียพี่นิค ฝากถึงพี่นิคอย่ายอมแพ้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
เห็นใจคนรอบข้างเอ   

เอ อ่ะใจร้ายชะมัด

ล่าหัวใจหนุ่ม ๆ หมดเลย  ใช่มั้ยคะเอ   o13

คริ คริ 

มาม๊ะ เดี๋ยวเสียสมดุลแย่เลย ขอสาวคนกอดหน่อยนะคะ  :กอด1:
 

pupper

  • บุคคลทั่วไป
 :m15: สงสารพี่หมอทีจังครับ รักเอ แต่เอไม่รัก เอนะทำไมไปให้ความหวังพี่หมอทีจังละครับ แล้วสุดท้ายพี่หมอทีจะไม่เจ็บแย่เหรอครับ แล้วสองละครับเมื่อไหร่จะออก ผมว่าคนคนนี้น่าจะมีอะไรดีๆที่น่าสนใจไม่น้อยนะครับ เป็นกำลังใจให้คุณเอนะครับ ผมตามอ่านแทบทุกวัน แต่ไม่ค่อยไม้เม้นต์อะครับ

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ความรักน้า.......เลือกลำบากจริงๆๆๆ

ทำใจเถอะคับ o7

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
หมอทีเทคแคร์ดีจริง รู้สึกเป็นคนอบอุ่น อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ปลอดภัย เหมาะกับบุคลิกคนเป็นหมอมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  55555

แต่เรื่องของหัวใจมันก็อีกอย่างนิ  ตั้งแต่อ่านมารู้สึกว่าเอมีโอกาสได้เจอหรืออยู่กับนิคน้อยมากๆๆๆ  แต่... มาน้อยแต่มาแรงอะป่าว 5555 มาถึงก็คว้าหัวใจไปเลย 5555

P_love

  • บุคคลทั่วไป
ยังรอพี่นิคค่า ยังงัยเอก้อต้องคูกับพี่นิคน่ะ  :serius2:

ให้พี่หมอทีเป็นพี่ชายที่แสนดีน่ะดีแล้ว  o7 o7

ปล. พี่นิค สู้ สู้  :a2: :a2:

๐DoNuT๐

  • บุคคลทั่วไป
อืมมมดีใจกลับมาจาก รร รีบมาเปิดดู อัพด้วยแหะ ฮาๆ
ตอนแรกอ่านๆไปคิดว่า เด๋วพี่นิคมันต้องโผล่มาสักตอน 555แห้วเลย
รีบๆมาต่ออีกนะครับ เอาให้เคลียร์ๆลย หึหึๆๆ

sarin

  • บุคคลทั่วไป
 :m12:...พี่หมอทีน่าร้ากกก.อ่ะ...
ยิ่งอ่านยิ่งหวั่นไหว..เฮ้อแอบเทจายให้พี่หมอด้วย..กิ้ว :o8:
แล้วพี่ริชหายปายหนายเนี่ย...
คิดถุง. :กอด1:
เอค้าบ.. :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
น้องเอทำไมเป็นแบบนี้

แล้วพี่นิคล่ะ

 :angry2: :angry2: :angry2:

delufy.monkey

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเพลินดีครับ.... เรื่องราวชวนติดตาม... เป็นกำลังใจให้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 มาคอยลุ้นดีกว่าว่า น้องเอจะแก้ปัญหา พี่หมอทียังไง  :m12:

ถ้าให้เดา น้องเอก็คงใช้วิธี การพูดกับพี่หมอทีแบบพี่น้อง  แต่คงไม่ใช่ตอนอยู่ที่เชียงใหม่

คงเป็นตอนกลับมา ขอนแก่นแล้ว เอามาดูกันต่อไปดีกว่า พ่อเสน่ห์แรง แบบไม่ตั้งใจ  :m20:

จะจัดการกับปัญหา ... นี้อย่างไร เป็นกำลังใจให้นะครับ น้องเอ + พี่นิคด้วย  :bye2:

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  ค้างงง อ่ะ

มาต่อไวไวน๊า :laugh:

numtannaka

  • บุคคลทั่วไป
ก็ๆอะไรค่ะ :m13: แหมไม่ได้เข้ามาสะนาน จะเปลี่ยนพระเอกแล้ว แต่หนับหนุนค่ะ :m4: :mc4: :m1:

ชอบหมอที :กอด1:

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
                              บทที่ยี่สิบสาม --- ยาใจ

“งั้นคืนนี้เอขอนอนกอด ซบอกพี่ชายที่แสนดีของเอได้ไหมครับ”ผมถาม

พี่หมอทีไม่ตอบแต่จับศรีษะผมยกขึ้นอย่างเบาๆช้าๆ ค่อยๆสอดแขนข้างขวาเข้ามาให้ผมหนุนแทนหมอน ผมเองก็นอนหันหน้าไปทางพี่เขาแล้วก็เอาหน้าซบลงตรงอกของพี่หมอที กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆออกมาจากแผงอกที่แข็งแก่ง ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นหมอนให้ผมไปแล้ว ผมเอื้อมมืออีกข้างไปกอดไปพี่หมอทีอย่างเบาๆ ลมหายใจของพี่หมอทีกระทบถึงหัวผม ผมได้ยินเสียงเต้นของหัวใจพี่หมอที มันยังคงเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ซึ่งต่างจากหัวใจผมที่เต้นไม่เป็นจังหวะเอาซะเลย

ผมต้องพยายามควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติไม่อยากนั้นพี่หมอทีคงจับได้แน่ นอกจากนั้นผมยังต้องควบคุมอารมณ์และอะไรหลายๆอย่างให้ตัวผมให้มันเรียบร้อย ไม่งั้นขายหน้าพี่หมอทีแน่ แต่ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรไปมากกว่านี้

ผมก็นึกถึงคำพูดของพี่คิมที่พูดในห้องน้ำกับผมว่า “แต่พี่ว่าหมอทีไม่ได้คิดแค่นั้นแน่ สำหรับเอ พี่ไม่รู้ว่าคิดยังไง แล้วเอเคยบอกหมอทีหรือยังว่าคิดกับเขาแค่พี่น้อง” แล้วอยู่ดีๆในหัวผมก็มีภาพสายตาดวงหนึ่งขึ้นมา เป็นสายที่มองผมด้วยความไม่พอใจและเสียใจระคนอยู่ในตัว สายตาที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของผมเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก สายตาของพี่นิค

“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวพี่ทีปวดแขน”ผมบอกแล้วค่อยๆขยับตัวออกมานอนเป็นปกติ

“ไม่ปวดหรอกครับ เอมานอนอย่างนี้พี่ยิ่งสบาย”พี่หมอทีบอก

“อืม......ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่ทีติดหวัด”ผมอ้างโรคหวัดทั้งๆที่ไม่ได้เป็น ตอนนี้ให้หัวของผมเริ่มสับสนและคิดอะไรหลายๆอย่างทั้งคำพูดของพี่คิม ทั้งภาพสายตาของพี่นิคที่อยู่ดีๆก็ปรากฏขึ้นหลายวันมานี้ผมแทบไม่คิดถึงพี่นิคเลย มันมาได้ยังไง หรือว่ามันเป็นความเรียกร้องของหัวใจของพี่นิค(และของผม)ที่มันมาตามกัน

“พรุ่งนี้ก่อนไปส่งเอที่อาเขต พี่จะพาขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พระธาตุนะครับ ตื่นเช้าหน่อย แต่ถ้าเอตื่นไม่ไหวก็ไม่เป็นไรครับ”พี่หมอทีบอก

“นึกว่าจะไม่พาไปซะแล้ว”ผมบอก

“ตอนแรกว่าจะพาไปวันนี้ แต่มาคิดดูอีกที พี่ว่าไปไหว้พระธาตุขึ้นดอยตอนเช้าๆจะได้บรรยากาศมากกว่าครับ”พี่หมอทีบอก

“ขอบคุณครับพี่ที ขอบคุณที่พี่ทำดีกับผมทุกๆเรื่อง ฝันดีนะครับ”พี่บอกพร้อมเอามือของผมค่อยๆเอื้อมไปจับมือของพี่หมอทีที่วางอยู่ข้างๆตัว แต่การจับครั้งนี้ผมจับด้วยความไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเองเหมือนเมื่อตอนกลางวัน

“ก็เอเป็นน้องชายของพี่นี่ครับ พี่ชายก็ต้องดูแลน้องให้ดีเป็นธรรมดา ฝันดีเหมือนกันนะครับ”พี่หมอทีตอบกลับมา มือที่ผมจับมือพี่เขาอยู่ ผมค่อยๆปล่อยมันออกอย่างช้าๆ เหมือนปล่อยใจไปตามความคิด

ใช่ซินะพี่ที่ดีต้องดูแลน้องให้ดี เราเองก็มีน้องต้องให้ดูแล แล้วเรามามั่วทำอะไรอยู่ล่ะนี่ มั่วแต่มาเที่ยวเล่นสนุกปล่อยตัวปล่อยใจอยู่ได้ เนี่ยะเหรอคนที่จะเป็นหลักให้ครอบครัว เนี่ยะเหรอคนที่คุณพ่อคุณแม่ฝากความหวัง เนี่ยะเหรอคนที่จะเป็นพี่ชายที่ดีของน้อง เอ...เอ๊ย....แค่หน้าที่กับหัวใจของตัวเองยังแยกกันไม่ออกเลย แล้วชาตินี้จะทำอะไรได้ไหมนี่ ผมนอนคิดว่าตัวเองในใจจนหลับไป

...

ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาเพื่อควานหาผ้าห่มที่ตกลงไปกองอยู่ที่พื้น(ที่จริงผมไม่ใช่คนนอนดิ้นอะไรนะ แล้วมันตกลงไปได้ยังไงหว่า) เพราะอากาศค่อนข้างหนาวผิดปกติแล้วก็เหลือบไปมองนาฬิกาบอกเวลาตีห้าครึ่ง (เช้ามืดนี่เองถึงว่าทำไหมหนาวขึ้น) ผมมองไปข้างตัวก็ไม่เห็นพี่หมอทีนอนอยู่แล้ว ไม่สนล่ะ ผมเอี่ยวตัวไปหยิบผ้าห่มแล้วนอนต่อ

“เอครับๆ เอ เป็นยังไงบ้างครับ ตื่นไหวหรือเปล่า”พี่หมอทีมาปลุกผมอีกทีตอนหกโมงครึ่ง

“อืมๆ”ผมตอบแบบงัวเงียค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นพี่หมอทีที่แต่งตัวในชุดใหม่ที่ไม่ใช่ชุดนอนแล้ว

“พี่เตรียมของไว้ให้เอใส่บาตรแล้ว ให้เวลาสิบห้านาทีในการทำภารกิจส่วนตัว พี่ลงไปคอยที่หน้าบ้านตรงเฮือนคำนะครับ”พี่หมอทีบอก

“รับทราบครับ”ผมตอบพร้อมทำท่าตะเบ๊ะทั้งๆที่ยังนอนอยู่

...

ผมทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็รีบเดินมาหาพี่หมอที ที่หน้าบ้านของเฮือนคำมีโต๊ะไม้สำหรับวางของสำหรับใส่บาตร ของทุกอย่างถูกจัดอย่างประณีต ข้าวสีข้าวอยู่ในขันเงินใบงามมีไอที่แสดงถึงความร้อนระเหยขึ้นมา ดอกบัวถูกพับบรรจงเรียงกลีบอย่างงามเป็นระเบียบ ถุงกับข้าวสองสามชนิดที่ถูกมัดรวมกันเป็นชุดๆ ของทั้งหมดนี้วางอยู่ในขันโตกบนโต๊ะอีกที

“อากาศดีจังเลยครับ อยู่ที่บ้านพี่หมอทีตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวันเลยเหรอครับ”ผมถามพร้อมยกมือขึ้นสูดอากาศเข้าเต็มปอด

“ครับ บางครั้งก็ใส่กับคุณแม่บาง คุณพ่อบ้าง กับพี่ว่านบ้าง คนเดียวบ้าง หรือบางทีก็มาใส่พร้อมกันหมด แล้วแต่วันกับความสะดวกของแต่ละคนน่ะครับ”พี่หมอทีบอก (พี่ว่านคือพี่ชายของพี่หมอที)

“ดีจังครับ คงอบอุ่นน่าดู พ่อแม่ลูกตักบาตรด้วยกัน”ผมพูดพร้อมคิดถึงที่บ้าน ที่ปกติเราก้จะใส่บาตรด้วยกันแทบทุกเช้า โดยมีคุณแม่กับผมเป็นตัวยืนพื้นเป็นประจำ ส่วนคุณพ่อกับเจ้าโอ๊ตนี่แล้วแต่โอกาส โดยเฉพาะเจ้าโอ๊ตที่ชอบตื่นสายต้องไปปลุกเป็นประจำ

“พระมาแล้วครับ”พี่หมอทีบอกผม

บรรยากาศยามเช้าที่เมืองเชียงใหม่ ช่างดูมีกลิ่นไอแห่งอารยธรรมล้านนา มีความสงบสุขุมลุ่มลึกแต่ไม่ล้าหลัง เป็นความคลาสสิกที่ลงตัว ภาพของผู้ชายสองคนที่กำลังบรรจงตักบาตรร่วมกันด้วยความตั้งใจใบหน้าและแววตาทั้งสองบ่งบอกถึงความสุขเป็นอย่างมาก ด้านหลังของชายสองคนนั้นเป็นบ้านเรือนไทยล้านนาหลังใหญ่สวยงาม ถ้าใครมองมาเห็น แล้วถ้าชายคนใดคนหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง คงไม่พ้นที่จะถูกมองว่าเป็นสามีภรรยากันแน่นนอน

...

หลังจากตักบาตรเสร็จ ผมกับพี่หมอทีก็เดินขึ้นไปที่เฮือนคำ เพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้ากับคุณพ่อคุณแม่ของพี่หมอที คุณพ่อคุณแม่ของพี่หมอทีเป็นคนที่น่ารักและอบอุ่นมากๆ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี แค่เห็นหน้าหรืออยู่ใกล้ๆก็มีความสุขแล้ว ยิ่งถ้าได้พูดคุยด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยรับรองว่าหลงเสน่ห์ความรักความเมตตาและความอบอุ่นของท่านทั้งสองคนที่มีมาให่แน่ๆ ผมไม่แปลกใจเลยที่ทำไมพี่หมอทีถึงเป็นคนดีอย่างนี้ ก็ดูจากครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ก็น่าจะรู้ได้แล้ว หลักจากแนะนำตัวทักทายพูดคุยกันได้ซักหน่อยแล้ว (ส่วยใหญ่คุณแม่กับพี่หมอทีจะอู้คำเมืองกัน คุณพ่อคงกลัวผมเก้อเลยพูดภาษากลางเป็นเพื่อนมั้ง) ป้าเอื้องก็ยกโจ๊กร้อนๆออกมา พร้อมเครื่องเคียง (ป้าเอื้อง ป้าอ้อย สองพี่น้องที่เลยวัยกลางคนเป็นแม่บ้านของพี่หมอที พี่หมอทีบอกว่าป้าทั้งสองคนอยู่มาตั้งแต่สมัยคุณยายแล้ว)

“มาครับป้า เดี๋ยวผมตักเอง”พี่หมอทีลุกขึ้นพร้อมรับเอาชามกระเบื้องลายครามสังคโลกมาตักทีละชาม โดยมีป้าเอื้องคอยช่วยอยู่ข้างๆ

“ของคุณพ่อต้องใส่ไข่ลวก กระเทียมเจียวกับพริกไทยเยอะๆ ต้นหอมผักชีกับขิงนิดหน่อย”พี่หมอทีพูดพร้อมตักโจ๊กและเครื่องเคียงใส่เสร็จแล้วก็ส่งให้คุณพ่อที่นั่งอมยิ้มอยู่

“ของคุณแม่ไม่ใส่ไข่ กระเทียมเจียวแบบไม่เอาน้ำมัน ต้นหอมผักชีพอประมาณ ขิงกับพริกไทยน้อยหน่อย”พี่หมอทีตักเสร็จแล้วส่งให้คุณแม่

“ฮู้ใจ๋แม่เป็นที่สุด ตาทีนี่”คุณแม่พูดเป็นคำเมือง พร้อมหอมที่แก้มพี่หมอทีหนึ่งที พี่หมอทีหลับตายิ้มดูมีความสุขมาก

“คุณหนูเล็กเปิ้นตื่นแต่ไก่โห่ ไปกาดเช้าซื้อของ มายะครัวเองเลยเจ้า”ป้าเอื้องรายงานเป็นภาษาคำเมืองที่คุ้นเคย (คุณหนูเล็ก เธอตื่นแต่เช้ามืด ไปตลาดตอนเช้าเพื่อซื้อของมาทำครัวเองเลยค่ะ)
(ป้าเอื้องเรียกพี่หมอทีว่าคุณหนูเล็ก เรียกพี่ว่านพี่ชายของพี่หมอทีว่าคุณหนูใหญ่)

“ของเอ นี่เลยไข่สุกๆ กระเทียมเจียวต้นหอมผักชีน้อยๆ ขิงเยอะๆ พริกไทยนิดหนึ่ง”พี่หมอทีจำรายละเอียดการกินของผมได้ด้วย แล้วพี่หมอทีก็ส่งโจ๊กมาให้ ผมไม่ลืมกล่าวขอบคุณก่อนจะรับโจ๊กมาทาน แล้วพี่หมอทีก็ตักของตัวเองมานั่งทาน

“อร่อยจังครับ อย่างนี้สงสัยต้องมีชามที่สอง”ผมพูดขึ้นหลังจากทานคำแรก พี่หมอทีอมยิ้ม

“คุณหนูเล็ก เปิ้นยะอะหยั๋งก็รำขนาด เอาใจ๋ก็เก่ง ใครได้เป๋นคู่คงดีแต๊ๆเจ้า”ป้าเอื้องเสริมผม (คุณหนูเล็ก เธอทำอะไรก็อร่อยมากๆ เอาใจก็เก่ง ใครได้เป็นแฟนคงดีแท้ๆค่ะ) พี่หมอทียิ้มแก้มแดง

“มีแฟนก็ดีนะซิ นี่ยังบ่เคยเห็นพามาแนะนำเลย ทั้งตาว่านตาที ต้องถามลูกเอ ลูกเคยเห็นตาทีของแม่ควงแม่ญิ๋งบ้างก่อ”คุณแม่ถาม

“สงสัยพี่ทีกำลังเลือกอยู่มั้งครับว่าจะเอาใครมาแนะนำดี”ผมแซวพีหมอที พี่หมอทีทำตาโตเหมือนตกใจใส่ผม

“ลูกเออู้จะอี้ แสดงว่าตาทีมีหลายเน้อ”คุณแม่พูดแล้วหัวเราะ คุณพ่อก็หัวเราะตาม พี่หมอทีอายจนหน้าแดง

“บ่ไจ๋กั๊บ ทียังบ่มี ทีสนใจ๋เฮื่องเฮียน ยังบ่อยากวุ่นเฮื่องฮักกั๊บ”พี่หมอทีปฏิเสธพัลวัน ทำเอาผมหัวเราะแทบสำลักโจ๊ก

“สนบ้างก็ได้นะลูก”คุณพ่อแอบแซวต่อ พี่หมอทีอายม้วนเลย

“เออ่ะ ชอบแกล้งพี่”พี่หมอทีหายเรื่องโบ้ยแก้เขินมาทางผม

“อ้าวโทษกันอีก ก็พูดเรื่องจริง”ผมบอกแล้วหัวเราะ

เราทั้งสี่คนทานโจ๊กไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน รู้สึกว่าพี่หมอทีจะโดนรุมจากรอบด้าน จากนั้นผมก็ลาคุณพ่อคุณแม่ เพราะพี่หมอทีจะพาผมไปไหว้พระธาตุบนดอยสุเทพก่อนที่จะไปส่งผมที่อาเขตท่านทั้งสองบอกว่าเที่ยวจากเชียงรายเสร็จ ถ้ามาเชียงใหม่ให้พาคุณแม่กับน้องผมมาพักที่นี่ก็ได้

...

ผมนั่งคุกเข่าพนมมือ เงยขึ้นมองดูพระธาตุสีเหลืองทองอร่ามที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าบนดอยแห่งนี้ พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุที่เป็นศูนย์รวมขวัญกำลังใจ แรงเคารพรักแรงศรัทธาของชาวเชียงใหม่ แสงอรุณอ่อนๆยามเช้าส่องมากระทบกับองค์พระธาตุทำให้สีเหลืองทองยิ่งงามอร่ามมากกว่าเก่า หมอกยามเช้าที่ค่อยๆสลายตัวในตอนสายๆอย่างนี้ สายลมที่เหมือนมีไอน้ำรวมอยู่ด้วยพัดผ่านร่างกายทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งเย็นสบาย สายตาของผมจดจ่ออยู่แต่ที่องค์พระธาตุจนแทบไม่กระพริบ ร่างกายและรอบข้างเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆให้รู้สึก แม้แต่ลมหายใจของตัวเองก็แทบจะไม่รู้สึก อารมณ์และความคิดต่างๆหยุดลง จิตใจของผมตอนนี้ดื่มด่ำกับความสุขสงบเป็นอย่างมาก

“เอขอพรอะไรจากพระธาตุครับ พี่เห็นนั่งอธิฐานอยู่นานเลย”พี่หมอทีถามผม ตอนที่นั่งอยู่บนรถหลังจากที่เราสองคนไหว้พระธาตุและร่วมทำบุญแล้วเดินชมทิวทัศน์บริเวณรอบๆ

“ก็อธิษฐานให้คุณแม่ เอ โอ๊ต แล้วก็คนที่เอรักทุกๆคนมีความสุข สมหวังในทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง
มีสุขภาพที่แข็งแรง ขอให้บุญที่เอได้มาไหว้พระธาตุในครั้งนี้ส่งถึงดวงวิญญาณคุณพ่อด้วย แล้วพี่ทีล่ะครับ อธิษฐานขออะไร”ผมถามคืน

“ก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่ พี่ว่าน เอ ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนที่พระท่านบอกว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”พี่หมอทีบอก

“อ้าวถ้าทุกคนแข็งแรงไม่ป่วย พี่ทีก็ตกงานดิ่ แล้วขอให้แต่คนอื่นไม่ขอให้ตัวเองบ้างเหรอครับ”ผมถาม พี่หมอทีถึงกับหยุดรถเข้าข้างทาง

“ของตัวเองก็ขอครับ พี่ขอให้พี่เจอยาที่ใช้รักษาโรคใจครับ เพราะโรคทางกายหมอทั่วๆไปคงหายาให้ได้ แต่ยาที่ใช้รักษาโรคใจนี่คงหายาก เอครับ........เอมาเป็นยารักษาโรคใจให้พี่ได้ไหมครับ”พี่หมอทีพูดพร้อมหันหน้ามาหน้าผม

ผมรู้และเข้าใจความหมายของคำว่ายาทางใจของพี่หมอทีดีว่ามันคืออะไร มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่จะขอผมเป็นแฟนนั่นเอง 

ผมอึ้งเป็นอย่างมาก ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากตอนที่พี่นิคขอเป็นแฟน ทั้งๆที่พอจะรู้อยู่ว่าพี่หมอทีแอบชอบผม แต่ก็ไม่คิดว่าพี่หมอทีจะกล้าพูดออกมาตรงๆและเร็วขนาดนี้  อีกอย่างผมยังไม่ทันได้เตรียมตั้งรับกับเหตุการณ์นี้เลย  จะว่าไม่เตรียมก็ไม่เชิง เพราะที่จริงเมื่อคืนผมนอนคิดอย่างหนักกับคำพูดของพี่คิม ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องสถานการคบกันของผมกับพี่หมอทีว่าเป็นแบบพี่น้อง หลังจากกลับไปที่มอพ้นช่วงปีใหม่ไปแล้ว แต่คิดว่าตอนนี้มันคงช้าไปซะแล้ว เพราะพี่หมอทีดันมาขอคบกับผมก่อน

ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่หมอทีที่วางอยู่บนพวงมาลัยก่อนที่จะพูดออกไปว่า “คือ......เอ........เอคงเป็นยารักษาโรคทางใจให้พี่ทีได้ไม่ดีนัก เพราะ...เอ....เป็น...แค่.......น้องชายของพี่  ตัวยาบางอย่างอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรักษาโรคให้หายได้”ผมพูดเสร็จก็เหลือบมองหน้าพี่หมอที แววตาของพี่หมอทีที่สดใสเป็นประกายกลับดูเศร้าผิดหวังและหดหู่อย่างเห็นได้ชัด แล้วผมก็รีบก้มหน้านีแต่ยังจับมือพี่หมอทีอยู่

คำพูดที่ผมบอกออกไปถึงแม้มันจะเป็นการบอกอ้อมๆ แต่คนที่ฉลาดอย่างพี่หมอทีเข้าใจดีว่ามันคือการไม่ตอบรับนั่นเอง ตอนนี้ผมรู้สึกวุ่นวายในใจ หัวผมมันคิดหลายเรื่อง แต่ผมไม่รู้ซักเรื่องเลยว่ามันคิดอะไร ผมอยากหนีจากที่ตรงนี้ สถานการณ์แบบนี้ไปให้พ้นๆ แต่คำพูดของพี่คิมก็ดังขึ้นมาในหัวผมว่า “ถ้าคิดจะหนีเราคงต้องหนีมันทั้งชีวิต สู้เลือกที่จะเผชิญมันแล้วตามหาความจริงไม่ดีกว่าเหรอ” ผมเลยสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆหนึ่งที ก่อนที่จะหันหน้า(ฝืน)ยิ้มไปคุยกับพี่หมอที

“พี่...ที ..เอ่อ...พี่หมอทีครับ ผมว่าพี่คงหายาใจได้ดีกว่าผมแน่ๆครับ”ผมเปลี่ยนจากที่เรียกว่าพี่ที มาเป็นพี่หมอทีเหมือนเดิม

“เอเป็นยาใจให้คนอื่นแล้วใช่ไหมครับ ........... คนๆนั้นใช่.....นิค หรือเปล่าครับ”พี่หมอทีถามออกมาทำเอาผมแทบหยุดหายใจ แต่ผมยังคงไม่ตอบอะไร ในใจตอนนี้ว้าวุ่นน่าดู หัวสมองก็คิดใหญ่ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ทำยังไงสถานการณ์มันถึงจะคลี่คลายไปในทางที่ดี เพราะผมเองก็ไม่อยากเสียพี่ชายที่ดีๆอย่างพี่หมอทีไป

“พี่ดีใจนะ อย่างน้อยพี่ก็รู้ว่าเอเป็นยาใจให้นิคได้ พี่สังเกตเวลาที่นิคมองเอ เวลาที่นิคทำอะไรเพื่อเอ นิคเขาจะมีความตั้งใจเอาใจใส่เป็นพิเศษ ไม่ซีเรียสจริงจังมาก เป็นเหมือนนิคคนเดิม”พี่หมอทีบอกแล้วยิ้มน้อยๆบางๆมาให้ผม

คำพูดที่ว่าเป็นเหมือนนิคคนเดิมมันสะกิดหูและสะกิดใจผมเป็นอย่างมาก แล้วมันก็ทำให้ผมคิดถึงเรื่องที่ไอ้อ๊อฟเคยบอกว่าพี่หมอทีกับพี่นิคเป็นแฟนกันขึ้นมา

“พี่นิคคนเดิม หมายความว่าอะไรครับ แล้วที่เขาว่ากันว่าพี่หมอทีกับพี่นิค........”ผมถามพร้อมเอามือออกจากมือพี่หมอที

“มันเป็นแค่อดีตไปแล้วแหละครับ ตอนนี้พี่กับนิคเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เหมือนกับที่เอกับกำลังจะให้พี่เป็นนี่ไงครับ”พี่หมอทีพูดมันเจ็บแปล็บเข้าที่ใจผมอย่างแรง ทำเอาผมน้ำตาคลอเบ้าเพราะสงสารพี่หมอทีขึ้นมาจับใจ แต่ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้

จากคำพูดพี่หมอทีแสดงว่าพี่หมอทีต้องเคยคบกับพี่นิคและต้องโดนพี่นิคปฏิเสธเหมือนกับผมที่กำลังปฏิเสธพี่เขาอยู่ในตอนนี้ ใจจริงผมอยากจะถามไปให้รู้แล้วรู้รอดว่าแล้วทำไมพี่สองคนถึงเลิกกัน แต่ดูว่าถ้าถามตอนนี้คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่

“ออกรถเถอะครับพี่หมอที เดี๋ยวไปไม่ทัน ผมขอฟังเพลงนะครับ”ผมตัดบทเพราะไม่อยากอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้นานๆ แล้วผมก็เอื้อมมือไปเปิดเพลงฟัง แต่เพลงเจ้ากรรมดันเป็นเพลงที่เข้ากับอารมณ์ของพี่หมอทีตอนนี้ซะอีกได้
(http://www.imeem.com/people/H0fbiA6/music/R8vFvLwB/boyd_pod/ --- ฟังเพลงช่วงที่ดีที่สุด ของBoyd Pod)

...........เดินจับมือกันทุกข์สุขด้วยกันหัวเราะร้องไห้ด้วยกันมานานเท่าไหร่ฉันไม่เคยลืมจากใจ
วันที่เรายิ้มวันที่ทะเลาะภาพวันและคืนเหล่านั้นจะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป
ยังคงเป็นดังเหมือนเมื่อวานอยู่ในส่วนลึกความทรงจำแตกต่างกันแค่เพียงในตอนนี้
ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆเหมือนวันที่เราเคยเดินข้ามผ่านทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมาด้วยกัน
นับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดแม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆที่ (และก็) เคยเกิดขึ้นกับฉัน เพราะเธอ…

พอผมฟังไปตอนช่วงที่ว่า แตกต่างกันแค่เพียงในตอนนี้ ฉันนั้นไม่ได้มีเธออยู่ข้างๆผมจะเอื้อมไปปิด เพราะผมว่าเพลงมันโดนกับความรู้สึกพี่หมอทีมากเกินไป

“ไม่ต้องปิดหรอกเอ ........  เอครับ พี่ขอกอดเอ ในฐานะพี่ชายกอดน้องชายได้ไหมครับ”พี่หมอทีพูดออกมา ผมไม่ตอบแต่คว้าตัวพี่หมอทีมากอดอย่างแน่นแล้วก็ปล่อยโฮออกมาเสียเอง

เพลงก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ผมร้องไห้ซบอกพี่หมอทีจนเสื้อพี่หมอทีเปียก พี่หมอทีเพียงแค่กอดผมเบาๆด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็ลูบผมเหมือนเป็นการปลอบใจ ความรู้สึกนี้ผมรู้ดีว่ามันเป็นความรู้สึกที่พี่ชายมีให้น้องชายจริงๆไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้แล้ว

..........เพลงและของขวัญตัวจากตรงนั้นจดหมายก็ส่งให้กันในวันที่ห่างฉันนั้นยังคงเก็บไว้
วันที่เหนื่อยล้าถ้อยคำที่ปลอบใจภาพวันและคืนเหล่านั้นจะยังงดงามไม่เคยเปลี่ยนไป
ไม่รู้ว่าเธอไม่รู้ว่าจะได้ยินเพลงนี้หรือยังอยากจะให้เธอช่วยรับฟังว่าฉันนั้นคิดถึง นะ…
ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้ผ่านมาด้วยกันนับเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดแม้เป็นแค่เพียงเวลาสั้นๆ
และก็ เคยเกิดขึ้นกับฉัน เพราะเธอ...............…
“ขอบคุณครับน้องเอ มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเลยครับ”พี่หมอทีพูดขึ้นมาเปลี่ยนจากที่เรียกผมว่าเอ มาเป็นน้องเอเหมือนเดิม  ผมกอดพี่หมอทีอยู่นานจนเพลงจบ

“พี่หมอทีลอกเพลงมาพูดนี่นา”ผมพูดพร้อมสะอื้นแล้วออกจากอกพี่หมอที

“เอ้า ก็เพลงเขาดีจริง เลิกขี้แยได้แล้ว น้องชายพี่ไม่มีคนขี้แยนะครับ”พี่หมอทีบอกพร้อมเอาผ้าเช็ดหน้ามาช่วยผมเช็ดน้ำตา

“ครับ ผมจะเป็นน้องชายที่ดีครับ”ผมตอบ

“เห้อ....ว่าแต่ทำไมน้องชายที่ดี ให้ยาใจเม็ดแรกกับพี่ชายก็เป็นยาขมซะแล้ว”พี่หมอทีบอกพร้อมเอามือมาขยี้ที่หัวผมเบาเป็นการพูดที่หยอกล้อมากกว่าประชดประชัน แล้วพี่หมอทีก็ขับรถไปส่งผมที่อาเขต

...

ระหว่างทางผมนั่งเงียบแทบไม่พูดอะไรเลย มีแต่พี่หมอทีที่ยังวางตัวปกติ ชวนผมคุยนั่นคุยนี่ แต่ผมแอบสังเกตแววตาที่ไม่ปกติคู่นั้นของพี่หมอทีได้ แววตาที่ไม่สดใสเป็นประกาย แววตาที่เศร้าดูห่อเหี่ยว ผมคิดในใจว่าถ้าเราได้บอกพี่หมอทีก่อน หรือบอกเร็วกว่านี้ เราหรือพี่หมอทีคงไม่ต้องเจ็บกันมากขนาดนี้ นี่แหละเพราะเราไม่เด็ดขาดพอ มั่วแต่ห่วงนั่นห่วงนี่ คอยแต่ให้ถึงเวลานั้นเวลานี้ แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ เจ็บทั้งคู่ ดีนะที่ไม่เสียพี่หมอทีไป

ไม่ได้การแล้ว เราจะไม่คอยไม่ห่วงอะไรอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ที่น่าห่วงคือใจของเราและใจของใครอีกคนที่เราไปทำให้เขาเจ็บไว้มาก ต้องไปตามหาเอากลับคืนมาให้ได้  ต่อไปนี้เราจะไม่ให้ใครเจ็บเพราะเราอีกแล้ว ถ้าจะเจ็บเราขอเป็นคนเจ็บเองดีกว่า

“อ้าว น้องเอจะไปไหนครับ เดี๋ยวก็ถึงคิวแล้ว”พี่หมอทีเรียกผมทันทีที่เห็นผมเดินออกจากช่องที่จะจองตั๋วเพื่อเดินทางไปเชียงราย

“ผมจะไปตามหาหัวใจครับ ผมทำให้ใจของใครหลายคนเจ็บช้ำมาเพราะผมมากเกินไปแล้วครับ”ผมบอกแล้วเงยหน้ามองหาช่องขายตั๋วที่ต้องการจะไป

“ถ้าไปจะหนองคาย ช่องจองตั๋วอยู่ทางนี้ครับ”พี่หมอทีบอกเหมือนรู้ใจผม

“ขอบคุณครับ ขอบคุณจริงๆครับพี่หมอที .................แต่ผมมีเรื่องให้พี่หมอทีช่วยอีกเรื่องครับ พี่หมอทีช่วยโทรไปยืนยันกับคุณแม่ผมให้ทีซิครับว่าผมติดธุระสำคัญเรื่องเรียนต้องกลับขอนแก่นด่วน แล้วผมฝากให้พี่ดูแลคุณแม่กับโอ๊ตตอนที่มาถึงเชียงใหม่ด้วยนะครับ”ผมบอกพร้อมรีบเดินเพื่อจะไปจองตั๋ว

“แหม...ตั้งแต่เป็นน้องชายที่แสนดี รู้สึกว่าจะใช้พี่เก่งเหลือเกินนะครับ เรื่องดูแลคุณแม่กับโอ๊ตนะไม่มีปัญหาครับ แต่จะให้พี่โกหกคุณแม่ของน้องเอนี่คง........”พี่หมอทีทำหน้ายิ้มทะเล้นแบบเจ้าเล่ห์

ผมต้องอ้อนพี่หมอทีอยู่นานจนพี่หมอทียอมโทรไปบอกให้ ก่อนที่คุณแม่จะโทรมาเทศน์ผมกัณฑ์ใหญ่ ผมขอโทษจริงๆครับคุณแม่ แต่ตอนนี้ผมขอวางหน้าที่ลูกที่ดี หน้าที่พี่ชายที่ดี หน้าที่ทุกอย่างเอาไว้ก่อน เพราะผมมีหน้าที่อีกอย่างที่ลืมทำและต้องรีบทำคือทำตามหัวใจตัวเอง

+++ จบบทที่ยี่สิบสาม +++

*** ข้อคิดคำคมประจำบท ***
-   แค่หน้าที่กับหัวใจของตัวเองยังแยกกันไม่ออกเลย แล้วชาตินี้จะทำอะไรได้ไหมนี่
-   โรคทางกายหมอทั่วๆไปคงหายาให้ได้ แต่ยาที่ใช้รักษาโรคใจนี่คงหายาก
-   มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
-   ผมมีหน้าที่อีกอย่างที่ลืมทำและต้องรีบทำ คือทำตามหัวใจตัวเอง

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
นู๋เอ ตามหาหัวใจของนิคให้เจอนะคะ
จิ้มค่ะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ตอนนี้เห็นใจหมอทีเเฮะ  :m15:
หุ หุ หุ รอพี่นิคตอนหน้า  :a1:

Pztor

  • บุคคลทั่วไป
 :o

ลุ้นจ้าลุ้น จะได้เจอพี่นิคแล้ว

a22a

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้คุณ เอ ตามหาหัวใจให้เจอนะคับ :oni1: :oni1:

meawmeaw

  • บุคคลทั่วไป

BABY_CHICK

  • บุคคลทั่วไป
 :m4:คืนนี้ มีความสุขจริงๆ เอหาคำตอบของหัวใจได้

ส่วนผมก็สะจาย ที่น้องโด้พาทีม ชนะ 3-1 555555 (เกี่ยวกันป่าวเนี่ย)

เป็นกำลังใจต่อไปครับ :L2: :L2:

ปล. เออเนาะ ท่าจะจริง ความรักมันไม่มีตัวตนนี่นา เราสร้างมันมาเอง

แสดงว่าเรา.... o2 o2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด