ตอนที่ 27“ ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้จะออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ "
“ ครับ " ผมพยักหน้าให้กับหมอเซฟที่เดินเข้ามาถาม รอยยิ้มของหมอที่เดินเข้ามาใกล้เตียงนั้น เขานั่งลงข้างๆ
“ แล้วเราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกมั๊ยละ "
“ ได้เจอสิครับ ทำไมจะไม่ได้เจอละ " ผมตอบออกไปตามมารยาททั้งๆที่ในความเป็นจริงก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันจริงๆหรือเปล่า เพราะตั้งแต่วันนั้นที่ผมให้หมอเซฟและทุกคนออกไปจากห้อง ก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะรู้ว่าหมอเซฟแอบจีบผู้ชายห้องนี้อยู่ พยาบาลหลายคนที่เข้ามาดูแล คอยแต่แซวเรื่องของคุณหมอชินดนัยแบบไม่หยุดปาก .. พี่ไฟท์ก็ด้วย
“ แต่ดูเหมือนวาดไม่ค่อยอยากจะเจอหมอเลยนะ "
“ ใครว่าละครับ " ผมไม่ได้หันไปมองอีกคนทำได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง " อ้อ ถ้าหมออยากเจอผมไปกินกาแฟที่ร้านอาหารที่ทองหล่อสิครับ ผมเป็นบาริสต้าอยู่ที่นั่น "
“ แล้วตอนช่วงที่พักฟื้นนี้ละ ถ้าอยากจะติดต่อต้องทำไง "
“ หมอกำลังขอเบอร์โทรศัพท์ของผมอยู่เหรอครับ " หันไปหาอีกคนที่กำลังนั่งเท้าคางมองผมอยู่
“ ใช่ จะให้ได้มั๊ยละ รับรองว่าจะโทรหาบ่อยกว่าใครๆเลย "
“ แต่ว่าผมก็ไม่ได้ใช้โทรศัพท์หรอกนะครับ มีหลายครั้งที่ลืมชาร์ต "
“ พูดแบบนี้แสดงว่าไม่อยากให้ " เสียงหมอเซฟพูที่พูดออกมาเบาๆ ตอนที่มือของผมยื่นออกไปตรงหน้า " อะไร "
“ ไม่ใช่สักหน่อย ผมหมายความว่า ถึงโทรไปแล้วจะไม่มีใครรับก็ไม่ต้องตกใจหรอกนะครับ แค่ช่วยโทรกลับมาอีกครั้งก็พอ เอามือถือของหมอมาสิครับ " ยื่นมือถือมาให้ผมกดเบอร์ก่อนจะส่งกลับคืน " ช่วยบันทึกชื่อด้วยครับ "
“ เขียนว่า วาดไว้ แล้วกัน "
“ หมออย่าลืมคิดว่าเบอร์ผมเป็นช่างทาสีแล้วกัน "
“ ไม่ลืมหรอกน่า เพราะจะติดอีโมรูปด้วยใจไว้ด้านหลังด้วย " บอกแบบนั้นก่อนจะกดมือถือยิกๆ ผมยิ้มให้หมอก่อนจะก้มลงมองมือตัวเอง " นี่ วาด..”
“ ครับ "
“ ไม่ต้องฝืนทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากจะทำหรอกนะ " หมอเซฟลูบหัวของผมเค้ายิ้ม " เอาความรู้สึกจริงๆออกมาเวลาที่อยู่ต่อหน้าพี่นะ วาดคงไม่ใช่คนที่ใจร้ายแบบนั้นถูกมั๊ย "
“ ครับ ก็แค่ถ้าเป็นพี่ชายไปก่อนก็ได้ใช่มั๊ย "
“ เดี๋ยวจีบไปนานๆความสัมพันธ์มันก็เปลี่ยนเองละ แบบพวกพี่น้องท้องชนกันอะนะ " คำพูดทะลึ่งของคุณหมอทำเอาผมถอนหายใจ ตั้งแต่มาอยู่โรงพยาบาลทำให้ผมปลงกับคนนี้ไปหลายเรื่องเลยครับ ทั้งขี้แกล้งแถมยังทะลึ่ง แต่ก็อบอุ่นด้วยความเข้าใจแบบแปลกๆ
“ ทะลึ่งแล้วครับ เอาจริงๆ ถ้าผมไม่เจอหมอที่โรงพยาบาล ไม่เห็นใส่เสื้อกราวด์ คงคิดว่า..”
“ คิดว่าอะไร "
“ ไอ้หื่นที่ไหนหว้า " เอียงหน้ามองอีกคนที่ขมวดคิ้วแล้วยิ้ม หมอเซฟยืนขึ้นตรงหน้า สองมือที่ยกขึ้นบีบแก้มผมจนปากจู๋
“ เห็นนิ่งๆปากร้ายเหมือนกันนี่หว่า "
“ อื้ออ ผมเจ็บนะครับ " ดึงหน้าตัวเองหมอเซฟก็เอาแต่หัวเราะ
“ แต่ก็ดีนะ พี่นะ ชอบคนปากร้าย "
“ แต่ผมไม่ชอบคนหื่นหรอกครับ "
“ นานๆไปก็ชอบเอง ของแบบนี้มันต้องลอง "
“ หมอหื่น " ผมบอกแค่นั้นก่อนจะดึงหน้าตัวเองออกจากมืออีกคน หมอเซฟยกมือขึ้นขยี้หัว
ก๊อก ก๊อก เสียงประตูโดนเคาะผมหันไปมอง หมอเซฟเองก็ด้วย คนเข้ามาใหม่เดินเข้ามาด้วยสายตายิ้มๆ พี่ไฟท์ล้วงมือเข้าไปในกางเกงตอนที่หมอเซฟก้มหน้าให้
“ ผมเข้ามากวนเวลาสวีทรึเปล่าครับเนี้ย "
“ ไม่หรอกครับ ผมกำลังจะไปทำงานพอดี " หมอเซฟว่าแค่นั้นก่อนจะหันมาลูบหัวผม " งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ ไว้เดี๋ยวเลิกงานจะแว๊บมาอีกที " พยักหน้าให้อีกคนที่เดินออกไปพี่ไฟท์เดินตรงเข้ามาหาผม
“ เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่าพรุ่งนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว "
“ เบื่อจะแย่แล้วครับ พรุ่งนี้จะออกไปดูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอดเลย พรุ่งนี้วาดจะไปเที่ยวกับพ่อแล้วก็แม่ครับ จะไปซื้อของกัน "
“ ดีแล้วละ ไปเที่ยวบ้าง " พี่ไฟท์นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆเตียง
“ แล้วทำไมพี่ไฟท์ มาอยู่โรงพยาบาลได้ละครับ "
“ อลันไม่สบายนะ เป็นไวรัสลงกระเพาะ "
“ อย่างงั้นเหรอครับ " พยักหน้าให้ผมก่อนจะถอนหายใจออกมา " ตอนนี้กำลังหลับอยู่นะ พี่ว่างไม่มีอะไรทำเลยเดินมาหาเรา "
“ งั้นผมถามได้มั๊ยครับ "
“ ถามอะไรละ "
“ เรื่องความรักกับคนคนนั้น เป็นยังไงบ้างครับ "
“ พี่ปล่อยเค้าไปแล้วละ " ผมเงยหน้ามองพี่ไฟท์ตอนที่อีกคนพูดคำนั้นออกมา คนที่มีท่าทางยิ้มๆเค้านั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆตัวผม " อินมีความสุขที่ได้อยู่กับโรมมากว่า ที่จะอยู่กับพี่ พี่ให้มันในสิ่งที่มันต้องการไม่ได้หรอก "
“ สิ่งที่พี่อินต้องการเหรอครับ "
“ ยิ่งพี่ยื้อมันไปมากเท่าไหร่มันก็ไม่เลือกใครสักที คนที่จับปลาสองมืออย่างมันถ้าพี่ไม่ออกมา ต่อไปมันอาจจะพลาดทั้งสองมือก็ได้ อย่าให้มันต้องเป็นแบบนั้นเลย "
“ แบบนั้นมันจะดีเหรอครับ การโกหกใจตัวเองนะ "
“ ไม่ดีตอนนี้แต่คงดีในอนาคต เพราะถ้าพี่ยิ่งยื้อมันไปมากเท่าไหร่พี่ก็ดูเห็นแก่ตัวเท่านั้น มันเหมือนว่าเค้าอยากได้บางอย่างแต่เราให้เค้าไม่ได้ ในเมื่อเราให้เค้าไม่ได้ เราก็ควรปล่อยเค้าไป ให้เค้าไปอยู่กับคนที่ให้เค้าได้มากกว่า มันจะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างมารั้งพี่ด้วย "
“ แล้วพี่ไฟท์ไม่เจ็บเหรอ ทำแบบนั้นเหรอ "
“ คนเห็นแก่ตัวมีสิทธิ์เจ็บด้วยเหรอ "
“ พี่ไฟท์ งั้นแล้วถ้าพี่อินเจ็บละครับ "
“ อินนะ ไม่รู้จักแม้กระทั้งความรักด้วยซ้ำไป อินรู้จักแค่การเอาชนะเท่านั้นละ "
“ แต่พี่อินรักผม " ผมเชื่อแบบนั้นมาตลอด พี่อินรักและหวังดีกับผมยิ่งกว่าใคร
“ ก็วาดเป็นครอบครัวของมันนี่ " ถึงจะยิ้มแต่ก็รู้ว่าอีกคนไม่ได้ดีใจ พี่ไฟท์เสียใจแต่แค่ไม่แสดงออกมา เค้ากำลังรู้สึกอ้างว้างเพราะในตาของเค้ามันว่างเปล่า
พี่ไฟท์ที่ผมรู้จักมักเป็นคนที่สุดยอดเสมอ ตั้งแต่เด็กจนโตพี่อินจะเล่าให้ฟังถึงชีวิตของพี่ไฟท์ที่ไม่เคยมีอะไรผิดพลาด ทั้งเรียนเก่ง หน้าตาดี กีฬาก็ไม่เป็นรองใคร สอบได้ลำดับต้นๆของห้อง พี่ไฟท์เป็นคนมีความฝัน ก็ไม่แปลกที่เค้าจะเกลียดความผิดพลาดของชีวิต เกลียดชีวิตของตัวเองที่ล้มเหลว เกลียดที่ฝันตัวเองต้องล้มลง
“ พี่ไฟท์ ทำงานที่มหาลัยเป็นยังไงบ้างครับ "
“ ก็เฉยๆ ค่อนไปทางดี ชีวิตเรื่อยๆดี ตอนนี้ก็เพื่อนคนนึงละ " พี่ไฟท์ยิ้มตอนที่กำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ คงเป็นเพื่อนคนนั้น " ทำไมละ "
“ เปล่าครับ ผมแค่ถามดูเฉยๆ " บอกอีกคนแบบนั้น พี่ไฟท์ยิ้มขึ้นมา
“ คงกำลังคิดว่าพี่เบื่อชีวิตมากเลยใช่มั๊ย " ผมพยักหน้ายอมรับแบบเสียไม่ได้ ก็มันดูพี่ไฟท์เบื่อๆจริงๆ เหมือนคนเบื่อทุกอย่างในชีวิต
“ ก็เบื่ออยู่หรอกนะ มันไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ อีกอย่างนักศึกษาสาวๆ ชวนปวดหัว "
“ ก็อาจารย์หล่อมันเป็นธรรมดาที่นักศึกษาจะต้องตามกรี๊ด "
“ พี่หล่อเหรอ " เหล่มองผมที่นิ่งไปสักพัก ผมไม่เคยเห็นสายตาล้อเล่นเจ้าเล่ห์ของพี่ไฟท์แบบนี้มาก่อนเลยครับ
“ ก็หล่อสิครับ " หัวใจเต้นแรงของผมได้แต่กลืนน้ำลายคงลอไปเรื่อย
“ ครั้งแรกเลยนะ ที่วาดชมพี่ว่าหล่อ " เอามือถูกไปตามคางของตัวเอง " ท่าจะหล่อจริงๆ ฮ่าๆ โอเค ไม่แกล้งละ "
“ แล้วพี่ไฟท์จะมาเฝ้าน้องอลันทุกวันเลยเหรอครับ "
“ ก็คงงั้น แต่ถ้ามีสอนคงให้แม่บ้านมาดู "
“ ให้ผมมาเฝ้าให้มั๊ยละครับ " ผมบอก มันคงดีถ้าผมช่วยแบ่งเบาอะไรพี่ไฟท์ได้บ้าง
“ ไปพักผ่อนเถอะน่า ลูกพี่ พี่ดูแลได้ "
“ แต่ว่าดูแลอลันมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร อีกอย่างผมก็เบื่อที่ต้องอยู่แต่ที่คอนโดเฉยๆ ที่บ้านพ่อกับแม่ก็ไม่อยากให้กลับ เพราะกลับไปต้องทำงานหนัก ให้ผมทำอะไรบ้างเถอะครับ นะ พี่ไฟท์ " ผมมองหน้าอีกคนพี่ไฟท์มีเหล่ ก็แค่อยากจะทำอะไรก็ได้ที่ช่วยเค้าได้บ้าง เล็กน้อยก็ยังดี
“ ถามจริงว่า อยากทำงานหรืออยากมาหาแฟนตัวเองกันแน่ "
“ แฟน " ผมทวนคำที่อีกคนพูด ตอนนี้ก็คิดได้แค่คนเดียวหรอกครับ " ไม่ใช่สักหน่อย "
“ แล้วดูเขิน "
“ ผมไม่ได้เขิน " เบือนหน้าไปทางอื่น พี่ไฟท์ก็เอาแต่หัวเราะ มือข้างนึงยื่นมาขยี้หัวผม
“ เขินแบบนี้สิ ค่อยดูเป็นเด็กหน่อย เด็กน้อย " จบด้วยการจับปลายจมูกส่ายไปมา ผมนิ่งอยู่แบบนั้น
“ แค่พี่ชายครับ แค่พี่ชาย "
“ แรกๆก็บอกแบบนี้ทุกคนละ "
“ ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้วพี่ไฟท์ก็รู้ " เงยหน้าบอกอีกคนที่ไฟท์หยุดมือที่กำลังลูบหัวผม
“ รักคนที่เค้ารักเราเถอะ อย่าเสียเวลากับคนที่เค้าไม่ได้รักเราเลย คนที่วาดรัก เค้าไม่เคยมองเห็นวาดเลยไม่ใช่เหรอไง แบบนั้นทำไมไม่ลองมองคนที่เค้ารักวาดละ มีความสุขบ้างเถอะ อย่ามีความทุกข์ให้มากนักเลยนะ "
“ แต่มีความรัก แล้วมันจะมีความสุขจริงๆเหรอครับ "
“ พี่ว่า นั่นมันก็แล้วแต่บุคคลนะ ถ้าเค้าคือคนใช่ ความรักก็คือความสุขเองนั่นละ " พูดแค่นั้น พี่ไฟท์ลุกขึ้นตอนที่ยิ้มให้ผม " งั้นเราก็พักผ่อนเถอะ พี่ไม่กลัวละ "
“ แล้วเรื่องอลันละครับจะอนุญาติให้ผมมาเฝ้าให้รึเปล่า "
“ เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะพี่ต้องให้วาดช่วยอยู่แล้ว ก็เรานะ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของพี่นี่ " รอยยิ้มที่เดินออกไปผมทำได้แต่ยิ้มตามก่อนจะเอียงตัวลงนอนกับเตียง ถึงใครจะมองว่าแค่นี้ และเรื่องที่กำลังทำให้ยิ้มอยู่นี้คนที่พูดก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็นั่นมันความสุขของผม แค่นี้ก็พอแล้ว
...........................................................
“ อย่างงั้นก็ดีนะ แม่เห็นด้วยที่ว่าเราจะได้ไม่เครียด " ผมพยักหน้าให้แม่ที่กำลังยืนทำอาหารอยู่หน้าเตาในคอนโดของผม เมื่อคืนแม่กับพ่อเข้าเวรดึก ท่านทั้งคู่ก็เลยมาค้างที่นี่เมื่อคืน
“ หอมจังเลย วันนี้ทำอะไรเหรอคุณ "
“ ข้าวแกงกระหรี่ เห็นวาดบอกว่าทำง่ายแล้วก็อร่อย " จริงๆก็มีแบบเป็นก้อนสำเร็จที่ซื้อมาแล้วครับใส่ผักลงไปต้มก็กินได้เลย
“ แล้วนั่นวาดทำอะไรอยู่ " พ่อหันมาถามก่อนจะนั่งลงตรงหน้า
“ กำลังทำขนมจีบครับ จะทำไปฝากเด็กป่วย " เพราะว่าอลันชอบกินขนมจีบ แล้ววันนี้เป็นวันแรกที่ผมต้องไปเฝ้าอลันที่โรงพยาบาล
“ วาดเค้าจะไปเฝ้าอลันให้ตาไฟท์นะ เพราะวันนี้ตาไฟท์มีสอนแต่ไม่มีใครมาเฝ้าลูกให้ "
“ จริงๆที่บ้านพี่ไฟท์ก็มีครับ แต่ผมอาสาเอง ก็อยู่บ้านเฉยๆมันเบื่อ "
“ จริงๆเลยนะ " พ่อขยี้หัวผมจนยุ่ง ท่านยิ้ม " แต่ก็คงจริง งั้นก็จะอนุโลมให้ทำงานเบาๆละกัน แต่ต้องมาขอก่อนนะว่าจะทำงานอะไร "
“ ครับผม พ่อของวาดใจดีที่สุดเลย " ยิ้มให้อีกคนที่ส่ายหน้า
“ แล้วขนมจีบนี่ทำไมทำไว้ซะเยอะ อลันเก่งขนมจีบเก่งขนาดนี้เลยเหรอ "
“ ก็เปล่าหรอกครับ " ผมว่ามือก็ยังทำขนมจีบไปเรื่อยๆ ตอนนี้ที่เห็นเกือบจะเจ็ดสิบลูกแล้วด้วยซ้ำ เยอะเอามากๆ " ก็วาดทำไปฝากพี่ติน พี่อิน พ่อ แล้วก็แม่ "
“ พวกเรากินขนมจีบเยอะขนาดนี้เลยเหรอ " แม่แซว มือที่ทำอาหารของผมเริ่มร็วขึ้นเพราะความเขิน เหมือนเลือดทั้งร่างไหลมารวมกันที่หน้า
“ จริงๆ ผมก็ทำฝากหมอเซฟด้วยครับ "
“ แล้วทำไมพอพูดถึงหมอเซฟแล้วต้องหน้าแดง "
“ ผมไม่ได้หน้าสักหน่อย " เถียงออกไปแบบนั้น พ่อก็ยิ้มเหล่ๆ
“ วางใจไม่ได้แล้ว ไอ้หมอเซฟเนี้ย บังอาจมาทำให้ลูกชายพ่อหน้าแดงแบบนี้ได้ไง ต้องจัดการ "
“ โธ่ พ่อครับ "
“ อย่าแซวน่า ลูกหน้าแดงหมดแล้ว " มีความสุขกันอยู่สองคนไม่ได้เห็นใจคนโดนล้ออย่างผมเลย ผมเริ่มนึ่งขนมจีบทั้งหมดของตัวเอง คิดว่าคงทันเวลาแพ็คพอดีครับ
จัดการทุกอย่างเสร็จทันเวลา เรากินข้าวด้วยกันก่อนจะออกมาโรงพยาบาลพร้อมๆกัน ผมให้ขนมจีบพ่อกับแม่ไปคนละแพ็ค ก่อนจะเดินเอาไปให้พี่อินแล้วก็พี่ติน
“ มองหาใครนะ " พี่ตินทักตอนที่ผมพยายามชะเงอหาคนบางคนตอนที่เอาขนมจีบมาให้พี่ตินที่แผนก
“ เปล่าสักหน่อย วาดมองพี่ตินอยู่นั่นเหละ "
“ โกหก นิสัยไม่ดี " โดนบีบปลายจมูกไปทีนึง พี่ตินยิ้ม " ไอ้เซฟมีผ่าตัด อีกครึ่งชั่วโมงคงออก "
“ อย่างงั้นเหรอครับ " ผมพยักหน้า พี่ตินเลยดึงเข้าไปกอดคอ
“ แล้ววันนี้มาทำไม อย่าบอกนะว่าแค่มาส่งขนมจีบ "
“ เปล่า วาดมาเฝ้าอลันให้พี่ไฟท์ "
“ ขยันทำงานอีกแล้ว "
“ ก็อยู่บ้านว่างๆมันเบื่อ จะกลับบ้านก็ไม่ให้กลับ วาดก็ไม่รู้จะทำอะไร "
“ ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนละ " ผมส่ายหน้า เอาจริงๆ ไม่ได้เที่ยวกับเพื่อนนานจนแทบจะลืมความรู้สึกนั้นไปแล้วด้วยซ้ำ
“ พี่ตินไปเที่ยวกับวาด วาดคงจะสนุกกว่า "
“ ลองชวนหมอเซฟสิ พรุ่งนี้ไอ้หมอว่าง " พี่ตินกระซิบผมส่ายหน้าไปให้ คิ้วเข้มนั้นขมวดลง
“ แบบนั้นต้องขอพี่กับพ่อก่อน พี่ชายผมหวง "
“ ฮ่าๆ น่ารักซะจริงๆ " โดนแก้มไปเต็มฟอดพยาบาลที่อยู่แถวนั้น ต่างแอบยิ้มกับการกระทำของเรา
“ งั้นวาดไปหาน้องอลันก่อนนะ "
“ เดี๋ยวพี่ว่างแล้วจะแวะไปหา "
“ ครับผม "
พาตัวเองเดินทาตามทางเดินของโรงพยาบาล ส่วนของห้องพิเศษเด็กผมเคาะประตูก่อนจะพบว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองกำลังเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายในเรื่องอะไรสักอย่าง
“ พ่อ ไม่เข้าใจอลัน ก็อลันไม่อยากดู "
“ วันๆดูแต่การ์ตูน แบบนั้นมันก็ไม่ได้นะ "
“ สวัสดีครับ กำลังเถียงอะไรอยู่ " ผมถามทั้งสองคนที่หันมามอง อลันที่กำลังยืนยกมือสองข้างเรียกผมให้เข้าไปกอดแกไว้
“ อาวาด อาวาดจัดการพ่อให้อลันเลย " สองแขนที่กอดขี้ไปที่อีกคนก่อนจะซบ
“ อาวาดก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก "
“ มีอะไรกันเหรอครับ " ผมถามพี่ไฟท์ถอนหายใจ
“ ไอ้ตัวดีเอาแต่ดูการ์ตูนทั้งวัน ไม่ยอมดูอย่างอื่นเลย ให้ทำการบ้านก็ไม่ทำ "
“ ก็หนูกำลังป่วย หนูกำลังอ่อนแอ หนูต้องการกำลังใจจากการ์ตูน อาวาด หนูอ่อนแอ "
“ ดูมัน " ชี้ไปที่ลูกตัวเอง ผมเผลอยิ้มกับคำเถียงน่ารักๆแบบนั้น
“ ก็อลันกำลังอ่อนแอจริงๆนะครับ " ผมบอกอีกคนก็กอดผมแน่น
“ ไม่ใช่เรื่องแล้วละ ทำการบ้านเลย " แบบฝึกหัดเลขถูกโยนมาให้ ก็แค่เล่มเดียวแต่ถ้าให้เทียบสามคนพี่น้อง อลันคนนี้ละครับที่ขี้เกียจที่สุด ขี้เกียจแต่ก็หัวดี
“ เดี๋ยวผมจัดการเองครับ พี่ไฟท์ไปทำงานเถอะ " บอกอีกคนแค่นั้นพี่ไฟท์ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อลัน แล้วก็หอมแก้ม
“ งั้นเดี๋ยวพ่อมานะ "
“ ครับ บ๊ายบาย " ข้อมือเล็กบอกมือลาอีกคน พี่ไฟท์หันมามองผม
“ งั้นพี่ฝากด้วยนะ "
“ ครับ ตั้งใจทำงานนะครับ อ้อ พี่ไฟท์ " ผมดึงตัวเองออกจากอลันก่อนจะเดินไปหยิบกล่องขนมจีบให้อีกคน " นี่ครับ ผมทำมาเผื่อ "
“ ขนมจีบเหรอ น่ากินเชียว ขอบคุณนะ "
“ ไม่เป็นไรครับ "
ประตูที่ปิดลงผมมองอลันที่นั่งลงบนเตียง สองแขนยังคงยื่นมากอดเอวผม คนขี้อ้อนไก้แต่ส่ายหน้าไปมา " อาวาด อลันจะดูการ์ตูน "
“ อาวาดให้ดูก็ได้ แต่ว่า พอดูการ์ตูนตอนนี้จบ อลันจะต้องปิดทีวีแล้วมาทำการบ้านให้เสร็จ "
“ ไม่อยากทำเลย ไม่อยากคิดอะ "
“ แต่ว่า ถ้าทำตอนนี้เสร็จ ก็ไม่ต้องทำอีกเลยนะ ก็อลันมีการบ้านอย่างเดียวเอง ถ้าทำวันนี้เสร็จ พรุ่งนี้แล้วก็มะรืนนี้ก็ไม่ต้องทำเลย ได้ดูการ์ตูนทั้งวัน ไม่ดีกว่าเหรอครับ ตั้งใจทำให้เสร็จไปเลย " หว่านล้อมอีกคนแบบนั้น อลันทำท่าคิดก่อนจะพยักหน้า
“ ก็ได้ อลันทำก็ได้ อลันจะทำเลย เดี๋ยวทำเสร็จอลันจะได้ดูการ์ตูน "
“ เอางั้นก็ได้ " ผมหยิบหนังสือเลขพร้อมกับโต๊ะให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนเตียง ท่าทางตั้งใจเต็มที่นั้นดูท่าว่าการหว่านล้อมของผมน่าจะได้ผม " งั้นทำการบ้านเสร็จค่อยกินขนมจีบนะครับ "
“ อาวาดทำขนมจีบมาให้อลันด้วยเหรอ "
“ ใช่แล้ว ของโปรดอลันไง "
“ เย้!! หนูจะทำการบ้านให้เสร็จเร็วๆเลย จะได้กินขนมจีบแล้วก็ดูการ์ตูน "
“ แบบนั้นละครับเด็กดี " ลูบหัวอีกคนที่กำลังเปิดหนังสือทำการบ้าน ผมค้นพบว่าพี่ไฟท์คงไม่มีจิตวิทยาให้การเลี้ยงเด็กๆหรอกครับ
ครึ่งชั่วโมงที่อลันทำการบ้าน ผมตรวจการบ้านทั้งหมด เมื่อรู้ว่าถูกหมดก็เปิดทีวีให้อีกคนดูได้ ขนมจีบถูกตั้งไว้ข้างหน้า อลันชอบกินขนมจีบมากครับ เหมือนจะชอบกว่าอาหารชนิดไหน ครึ่งนึงที่เคยพาเด็กๆไปเซเว่นผมพบว่าอลันเป็นคนเดียวที่เอาซื้อขนมจีบมากินเยอะแยะแทนที่จะเป็นขนม
“ อาวาด ดู มันตลก " ชี้ไปที่หน้าจอทีวี มันเป็นการ์ตูนที่ขำดีครับ แมวกับหนูที่กำลังไล่จับกันอลันเอาแต่หัวเราะ
ก๊อก ก๊อก เสีงเคาะประตูทำเอาผมหันไปดู คนที่เดินเข้ามาท่าทางที่อิดโรยนั้นยิ้มให้ผม " วาดไว้ อยู่นี่จริงๆด้วย "
“ หมอเซฟ ผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอครับ "
“ อื้ม เพิ่งเสร็จเมื่อกี้แล้วก็วิ่งออกมาเลย " คนที่ว่าแบบนั้นนั่งลงตรงโซฟาตรงหน้าผม " หมอตินบอกว่า วาดอยู่ห้องนี้ ตอนแรกก็คิดว่าโกหกกัน "
“ ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ "
“ ไม่รู้สิ " พูดแบบนั้นอีกคนก็พิงหลังตัวเองกับโซฟา ก่อนจะชี้มาที่อลันที่ยังนั่งสนใจการ์ตูนอยู่ " แล้วนี่ "
“ ลูกชายของเพื่อนพี่อินนะครับ พอดีเค้าไปทำงานแล้วผมก็อาสามาเฝ้าให้ "
“ ใจดีจัง " รอยยิ้มที่ยิ้มมาให้ ผมมองไปทางอื่น
“ ก็ว่างอยู่ ไม่มีอะไรทำ ผมก็ควรทำตัวเองให้มีประโยชน์สิครับ "
“ พูดซะพี่ดูหมดประโยชน์เลย "
“ อลัน อลันครับ สวัสดีคุณหมอก่อนนะ คุณหมอเซฟครับ " สะกิดบอกอีกคนที่หันมาไหว้ อลันแนะนำตัวเอง
“ ผมชื่ออลันครับ คุณหมอ "
“ สวัสดีครับ อลันเป็นอะไรทำไมถึงเข้าโรงพยาบาลครับ " หมอเซฟลุกขึ้นมาลูบหัวอีกคน
“ อลันไม่สบาย อลันป่วยครับ "
“ งั้นก็หายไวๆนะครับ คนเก่ง " พยักหน้าให้หมอเซฟที่ก็หันมายิ้มให้ผมก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม " ทำไมในห้องนี้หอมๆ เหมือนมีกลิ่นอะไร "
“ กลิ่นขนมจีบมั้งครับ "
“ ขนมจีบเหรอ "
“ วันนี้ผมทำขนมจีบมาให้อลันกินนะครับ " พี่เซฟมองหน้าผม เขาเหล่ไปที่กล่องขนมจีบที่วางอยู่แถวๆนั้น กล่องขนมจีบที่เหลืออยู่อีกกล่อง
“ ได้กลิ่นแล้วหิวขึ้นมาเลย งั้นพี่ไปกินข้าวก่อนนะ "
“ ยังไม่ได้กินข้าวเหรอครับ "
“ ก็นี่ไงเวลาพัก " หมอเซฟลุกขึ้น แต่ผมจับมืออีกคนไว้ทัน
“ ชอบกินขนมจีบมั๊ยครับ ผมทำมาฝากหมอกล่องนึง "
“ ชอบสิ ก็คนน่ารักทำมาฝากทั้งทีทำไมจะไม่ชอบ " หันไปมางตาคนที่พูดคำนั้น เผลอเม้มปากตัวเองตอนที่หัวใจเต้นแรงอยู่ตอนนี้ผมรีบเดินไปหยิบกล่องขนมจีบมาให้
“ เป็นขนมจีบหมูกับขนมจีบกุ้งนะครับ "
“ หน้าตาดูดี เหมือนก้อนเนื้อเล็กๆตอนผ่าตัดเลย "
“ หมอ ไหวปะเนี้ย มองขนมจีบเป็นก้อนเนื้อ สติยังครบอยู่นะ " ผมจับแขนอีกคนหมอเซฟก็ขำตัวเอง เค้านวดสมองสองสามที ก่อนจะเปิดกล่องขนมจีบออก
“ หืื้ม หอมจัง หอมๆแบบนี้ อีกเดี๋ยวสติคงกลับมาครบ "
“ รสชาติเป็นไงบอกด้วยนะครับ " อีกคนพยักหน้าก่อนจะเริ่มกินขนมจีบ เคี้ยวอยู่สองสามทีพี่เซฟมองหน้าผม " เป็นไงครับ "
“ อร่อยใช้ได้เลยนี่ อื้ม โอเคเลยละ ท่าทางเราจะทำอาหารเก่งนะ "
“ แน่นอนครับ เรื่องอาหารหรือว่าทำทำงานบ้าน ผมนะมือหนึ่ง "
“ อวดเลยนะ " หมอเซฟเหล่ผม
“ ก็ผมมั่นใจ "
“ มั่นใจแบบนี้ ที่คอนโดพี่รับสมัครพ่อครัวกับคนทำงานที่บ้านให้อยู่นะ "
“ แค่พ่อครัวกับคนทำงานบ้านเหรอครับ " หันไปตามอีกคนพี่เซฟเคี้ยวขนมจีบแต่สายตาที่มองมาเหมือนไม่ใช่แบบนั้น
“ พ่วงด้วยตำแหน่งดูแลเจ้าของคอนโด เงินเดือนดีนะ สวัสดิการพร้อมด้วย "
“ สวัสดิการอะไรครับ "
“ อยากรู้ก็ต้องมาพิสูจน์นะ "
“ ไม่ดีกว่า หมอดูเจ้าเล่ห์แล้วก็หื่น พ่อเคยสอนว่าไม่ควรเข้าใกล้ อย่าเข้าใกล้คนหื่น "
“ ลองได้อยู่ใกล้ๆ คนหื่น วาดอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ " ยักคิ้วให้ผมที่ส่ายหน้าให้อีกคน หมอเซฟกินขนมจีบจนหมด
“ ผมไปหยิบน้ำให้นะครับ แปปนึง "
“ ลงไปกินน้ำอร่อยๆข้างล่างด้วยกันอีกมั๊ย " คำถามที่ถามตอนที่กำลังเปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นมารินให้อีกคนที่รอฟังคำตอบ มองดูอลันที่กำลังดูการ์ตูนแน่นอนว่าถ้าพาออกไปด้วยอีกคนต้องงอแงแน่ๆ ท่าทางที่ไม่สนใจอะไร อลันติดการ์ตูนเรื่องนี้มาก
“ ผมไปไม่ได้หรอกครับ ไปแล้วใครจะดูอลันละครับ "
“ นั่นนะสินะ " รับแก้วน้ำไปจากมือผม หมอเซฟยิ้มตอนที่ผมนั่งลงข้างๆ มือคู่นั้นขยี้ลงบนหัวผม " ไม่เป็นไรหรอก "
ส่วนตัวผมอยากไปครับ ผมคิดว่าตัวเองตอนนี้ก็อยากจะเปิดใจให้ใครสักคนเหมือนกัน คนที่ไม่ใช่คนในครอบครัว คนที่ไม่ใช่คนที่ชอบมาตั้งแต่เด็ก
“ ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะครับ "
“ โอกาสหน้าขอเป็นพรุ่งนี้เลยได้มั๊ยละ " หันมองหน้าอีกคนที่มองผม รอยยิ้มของหมอเซฟที่ส่งมาให้ " พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของพี่ ไปเที่ยวกันสักวันมั๊ยละ "
“ พรุ่งนี้..”
“ ไม่ว่างเหรอ "
“ ว่างครับ " ตอบออกไปหมอเซฟขมวดคิ้ว
“ แล้วก็คิดซะนาน "
“ กำลังคิดว่าหมอจะพาผมไปไหน จะล่อลวงผมไปขายรึเปล่า หมอท่าทางน่ากลัว ไม่น่าไว้วางใจ "
“ หน้าตาแบบนี้ไม่พาไปขายหรอก ขายไม่ออกหรอก พี่เก็บไว้ดีกว่า "
“ บางทีผมว่าหมอทำงานหนักจนเพ้อนิดหน่อยนะครับ "
“ แล้วเวลาเราเขินชอบพูดออกนอกเรื่องแบบนี้ประจำเลยเหรอ " เหล่มองผมด้วยสายตาแซว " โอเคๆ ไม่แซวละ เดี๋ยวจะโดนเด็กงอน งั้นพรุ่งนี้เจอกันบ่ายโมงนะ ขอพี่นอนแปปตื่นบุ๊ปจะออกไปรับเลย "
“ รับที่ไหนครับ "
“ ที่คอนโดเราไง "
“ งั้นห้ามสายห้ามเลทนะครับ "
“ ถ้าเลทหนึ่งนาทีจะให้หอมแก้มทำโทษแล้วกัน "
“ หมอนี่คิดอะไร ถึงเนื้อถึงตัวผมตลอดเลยนะ " ว่าออกไปเล่นๆ เล่นก็ยักไหล่ ไม่ใส่ใจ
“ หน้าตาเด็กที่จีบมันชวนให้หื่นเข้าหาที่หว่า ช่วยไม่ได้หรอก "
“ ผมชักไม่กล้าไปไหนกับหมอแล้วครับเนี้ย " ถอยร่อนออกห่างอีกคน หมอเซฟจับมือผมไว้
“ หนีตอนนี้ไม่ทันแล้วละ คุณไม่ได้สิทธินั้นแล้ว " ยึดมือผมไว้ เสียงหัวเราะของเราหมอเซฟยืนขึ้น " อีกสิบนาทีต้องเข้าเวรต่อแล้วละ "
“ งั้นก็ตั้งใจทำงานนะครับ " ผมยืนขึ้นตรงหน้าเข้า หมอเซฟที่กำลังเดินออกไปจากห้อง
“ อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ " หมอเซฟหันมาบอกแบบนั้นเค้าก้มหน้าลง " นานแล้วที่พี่ไม่ได้ชวนใครไปเดท "
“ ต้องแต่งตัวหล่อๆนะครับ "
“ หล่ออยู่แล้ว แต่งอะไรมากมาย "
“ มั่นหน้าจังนะหมอ "
“ ปากนี่นะ..” โดนจับคางส่ายไปมาอยู่หลายที ผมยิ้มตอนที่หมอเซฟขยี้หัวผมจนยุ่งอีกครั้ง " พรุ่งนี้เดี๋ยวไปรับ แต่งตัวน่ารักๆละกัน "
“ แน่นอนอยู่แล้ว "
“ ใครกันที่มั่นหน้า "
“ เจอกันครับ " โบกมือลาอีกคน หมอเซฟพยักหน้าแต่ยังยืนอยู่ตรงนั้น " ไปทำงานสิครับ "
“ ก็ปิดประตูสิ "
“ หมอก็ไปสิครับ " โบกมือไล่อีกคนหมอเซฟเดินถอยหลังออกไปจากประตูของห้อง ห่างออกไปจนกลับหลังหันไปเดินตามปกติ ผมปิดประตูลง ก่อนจะยิ้มออกมา มันมีความสุขดีนะครับ เวลาที่เราเปิดใจ
“ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ คุณหมอ "
..................................................
คนที่เรารัก กับ คนที่เรากำลังเปิดใจ
ความรู้สึกที่เรามอบให้เลเวลมันต่างกัน
แต่สักวัน มันก็ต้องถึงวันที่ต้องเลือกละนะ
ก็มัน #รักที่ต้องเลือก นี่น่า
น่าจะหวานกว่าตอนอื่นๆนะพอให้มีอะไรที่ยิ้มได้บ้าง
หนมฝากแท็ก #choiceต้องเลือก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า