ตอนที่ 10.1
“จะกินจะเล่นก็เอาดีๆ ขนมมันหกใส่คีย์บอร์ด เดี๋ยวมดก็ขึ้น”
“เออน่า แปปๆ เวลจะอัพแล้วลุง”
ผมล่ะเพลียกับไอ้ตูบใส่กางเกงบ็อกเซอร์ของผมตัวเดียว หัวพันผ้าจนกลายเป็นเห็ด สองมือรัวบนแผงคีย์บอร์ดโน๊ตบุค สักพักก็ยื่นมือขวาไปหยิบเลย์ที่มันแอบซื้อมาเองเข้าปาก จากนั้นก็ดูดนิ้วมันๆเล่นแล้วรัวนิ้วบนคีย์บอร์ดต่อ! คนอยู่วงการหมอแบบผมรับไม่ได้จริงๆ สกปรกที่สุดเลยโว้ย หัวก็ยังไม่แห้งดันเอาผ้าเช็ดตัวไปหมก เดี๋ยวก็ราขึ้นเป็นสังคะตัง!
“ลุก ! หรือจะให้ถีบ”
“อะไรเล่าลุง แปปปปปปปปปป จะอัพแล้วๆ”
ไอ้เด็กบ้านี้มันมาใช้วิชามารทำตาแป๋วเกาะแขนผมขอโหลดเกมส์ออนไลน์ใส่โน๊ตบุคผม! ผมก็ดันใจอ่อน! สุดท้ายเลยต้องมายืนว่ามัน ขัดใจโว้ย
“หนึ่ง ..”
“อีกนิดๆๆๆๆ 95% แล้ว จะอัพแล้ววววววว”
ผมแอบขำใบหน้าจริงจังของมันมาก ปากบางมันแผล็บเม้มแน่น… อย่ามองดิไอ้กร!
“สอง ….”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก อย่าพึ่งงงงงงงง อีกนิดจริงๆนะนะนะ”
“สาม !”
ผมใช้มาตรการจักจี้จัดการเอวบางๆของมันทันที ตัวมันทั้งขาวทั้งแบนทั้งบางขี้ก้างชะมัด กินยังกับปอบลงร่างกายนี่อย่างกับถูกส่งไปเป็นเชลย
“ก๊ากกก ลุง โอ้ย โอ้ยยย ยอมๆๆๆ ก๊ากกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอแล้ว พอออออ”
“ไปเอาผ้ามาเช็ดเศษขนมด้วย เต็มโต๊ะไปหมด”
“โอเคค้าบบบ ปิดเกมก่อน เฮ้ย ตาย ! ลุงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง มันลดไปตั้งห้าเปอร์ กว่าจะขึ้นได้แต่ละเปอร์
ไม่ใช่ง่ายๆนะลุงงงงงงงงงง”
มันทำหน้าเหมือนโลกแตก ส่วนผมหลุดขำเหมือนคนบ้า โอ้ยแค่เกมส์จะจริงจังอะไรนักหนาวะเนี่ย
“ไม่ขำนะลุง นี่เก็บเลเวลมาตั้งเป็นอาทิตย์ ! ลุงแม่ง งอนว่ะ”
“เออ งอนไปเลย มาเช็ดโต๊ะด้วย”
“รู้แล้วน่า ฮึ่ยย”
“ทำหน้าบูดอดกินไอติม รสช็อคโกแลตชิพหนึ่งถัง …..”
“โอเคเลยลุง ลงไปเปิดไอติมรอผมเลย เดี๋ยววววว ทำความสะอาดแบบพาวเวอร์เมจิคคลีนเสร็จแล้วจะลงไปนะครับ รับรองลุงมาเห็นอีกที อื้อหือสะอาดเหมือนได้โน๊ตบุคใหม่ !”
“ไอ้เห็นแก่กิน !”
“อยู่เพื่อกินไม่ได้กินเพื่ออยู่ ! ฮ่าๆๆๆๆ”
สุดท้ายทั้งคืนก็เลยนั่งดูบอลคู่แดงเดือด ซึ่งผมกับมันเชียร์ทีมเดียวกันหมดปัญหาเตะต่อยกันระหว่างผู้เชียร์ มีไอติมช็อคโกแลตชิพจากเซเว่นกับช้อนคนละคัน โต๊ะกระจกถูกยกออกไป ปรับโซฟาให้เป็นเตียง มันก็นั่งกอดถังไอติมเกยตัวผม จะกินก็ลำบาก ผมเลยต้องโอบเอวมันเพื่อนสอดแขนไปตักไอติมกิน
“ลุงตัวอุ่น พิงสบ๊ายสบาย”
“ชั่วโมงละห้าร้อยค่าพิง”
“แปะโป้งไว้ก่อน”
“แล้วเมื่อไหร่จะมาจ่าย”
“เมื่อนั้นแหละ”
“โถ่ไอ้ตูบเอ้ย”
“เอ๊ะ ทำไมผมเป็นตูบ ไม่ใช่หมานะลุง !”
“เหมือนจะตาย หึหึ”
“เหมือนยังไงฟระ ลุงแม่ง …”
มันก็บ่นกระง้องกระแง้งไป หึหึ ผมเลยเนียน สูดหายใจดมกลิ่นแชมพูจากกลุ่มผมนิ่มของมันเล่นๆ แชมพูก็กลิ่นเดียวกันทำไมของมันหอมกว่านะ …
ผมกระพริบตาตื่นช้าๆรู้ได้ทันทีว่าเจ็ดโมง ปกติผมจะตื่นเจ็ดโมงเหมือนมีนาฬิกาชีวิตปลุกตัวเอง แขนขวาชาจนขยับไม่ได้ เพราะ ‘ไอ้ตูบ’ ตัวใหญ่มันนอนหนุนอยู่ ขาข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกก็ก่ายมาบนตัวผม ส่วนแขนผมก็โอบเอวมันหลวมๆอีกที … เออดี
“ตื่น”
“ฮื่ออออออ แจ้บ …”
ไอ้ตูบขี้เซา !
“เบียร์ตื่นเร็ว”
“อย่าปลุกน่า …”
“ตื่นโว้ย !”
“โอ้ยยย เอะอะอะไรเล่า คนจะนอนอ้ะ”
มันขยับตัวกอดเอวผมพร้อมยกตัวขึ้นมาซุกหน้าเกยอกผมทันที! หัวใจผมเต้นรัวเหมือนมีคนมาตีกลองสะบัดชัย ใบหน้าขาวเนียนมีรอยสิวบ้างประปรายของมันในระยะประชิด.. จมูกที่ไม่ได้โด่งอะไรมาก กับแพขนตาสั้นๆประสาผู้ชาย มันทำตื่นเต้นได้ยังไงวะเนี่ย
“เฮ้อ … ”
ปลุกก็ไม่ตื่น วันนี้ผมก็เข้าเวรบ่ายเหมือนเดิม มันก็ไม่รู้มีเรียนรึเปล่า ไหนๆก็สองวันสุดท้ายแล้วขอคืนกำไรให้ตัวเองหน่อยแล้วกัน …
แอร์เย็นๆในห้องรับแขกกับการมีร่างอุ่นๆให้กอดทำให้ผมนอนหลับไปอีกครั้งง่ายๆ รู้สึกเหมือนจะฝันดี…
ตาเรียวกระพริบปริบๆก่อนจะขยับตัวช้าๆเงยหน้ามองหมอนกิตติมศักดิ์ที่ดูเหมือนเพิ่งจะหลับไปอีกครั้ง เบียร์ยิ้มออกมาจนแก้มตุ่ย ลุงก็ไม่ได้ใจร้ายนี่หว่า นึกว่าจะโดนถีบกระเด็น
ขอหน่อยนะ ขอแค่สองวันสุดท้ายขอทำตามใจตัวเองหน่อย … เขาไม่ได้คิดเยอะหรอกว่าตัวเองรู้สึกกับลุงแบบไหน แค่ตอนนี้อยากอยู่ด้วยนานๆแบบนี้แค่นั้นเอง
- - - - ---------------------------------------------------- - - -
มาแบบสั้นๆเนาะ T^T