Chapter 57
เสียงนกร้องในเช้าวันใหม่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงรุ่งอรุณที่กำลังย่างเข้ามาเรื่อยๆ นารินทร์ที่กำลังหลับตาเพื่อพักสายตาจากการที่ตะลุยอ่านหนังสือมาตลอดคืน ก็ถูกปลุกด้วยการขโมยจูบจากใครอีกคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน
“อื้อ พี่วายุ อย่ากวนสิ”
“ลุกได้แล้วคนดี วันนี้นามีเรียนเช้านะ” นารินทร์กระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงไฟ
“เขยิบออกไปสิ นาจะไปอาบน้ำแต่งตัว”
“ไม่เอา” วายุปฎิเสธอย่างเอาแต่ใจพร้อมกับซุกหน้าลงกับซอกคอขาวๆของนารินทร์อย่างฉวยโอกาส
“ฮ่าๆๆๆ อย่า มันจั๊กจี้นะ ฮิฮิ”
“โอเค พี่ยอมก็ได้ ว่าแต่วันนี้จะไปหาพี่รินทร์ตอนไหนครับ” วายุหยุดแกล้งนารินทร์ชั่วคราวและถามถึงเวลาที่นารินทร์ต้องการไปหาพี่และหลานที่บ้านใหญ่วายุเทพ
“อืม…วันนี้นาเลิกเที่ยง แต่ช่วงบ่ายมีนัดกับพวกสากับไมย์…พี่จะไปกับนาไหม”
“วันนี้พี่เลิกบ่ายสามคงไปด้วยไม่ได้ เอาไว้พี่เลิกเรียนแล้วจะโทรหานะครับ”
“เอางั้นก็ได้…จุ๊บ” เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว นารินทร์ก็ไปจัดการตัวเองเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในช่วงเช้าทันที ส่วนวายุมีเรียนในช่วงบ่าย แต่ต้องออกไปส่งนารินทร์ตั้งแต่เช้า จึงถือโอกาสเข้าคณะตั้งแต่ช่วงเช้าเสียเลย เพราะตอนนี้วายุใกล้จะจบมหาวิทยาลัยแล้ว เหลือแต่โปรเจกต์ที่ต้องจัดการให้เสร็จ…จนกระทั่งเที่ยงนารินทร์ก็เดินออกจากห้องเรียนและตรงไปยังจุดนัดพบกับเพื่อนๆทันที
“รอกันนานหรือเปล่า”
“รากจะงอกละคะคุณนารินทร์ขา” ไมย์ตอบอย่างประชดประชัน
“โทษทีนะ งั้นเราไปกันเลยก็ได้ แต่เดี๋ยวเราส่งไลน์บอกพี่วายุก่อน” พูดจบนารินทร์ก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับพิมพ์ข้อความบอกวายุทันทีว่านารินทร์และเพื่อนๆจะมุ่งหน้าไปบ้านใหญ่ก่อน
“เออนา แล้วเรื่องที่แกบอกฉันสองคนว่ามีเรื่องจะบอกอ่ะเรื่องอะไรหรอ”
“เออใช่ ฉันก็ลืมถามแกซะสนิทเลย” สาสมทบทันทีที่ไมย์พูดจบ
“คุยบนรถละกันนะ” ทั้งสองคนพยักหน้าพร้อมกับเดินไปที่รถโดยในครั้งนี้มีไมย์เป็นสารถีพาทุกคนมุ่งหน้าไปบ้านวายุเทพ
“เอาล่ะเราจะบอกว่า %#*@+#*$^(#+!)#(%$@^$*$(@” นารินทร์เล่าเรื่องที่วารินทร์มีลูกให้ทั้งสองคนฟังแต่ไม่ได้บอกว่าพวกเค้ามีอำนาจพิเศษ พร้อมกับขอร้องให้ทั้งสองสาวปิดเป็นความลับ
“มหัศจรรย์จริงๆเลยแก ฉันตื่นเต้นจนอยากไปเจอหลานเร็วๆแล้วนะ…นี่ไมย์แกขับให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม”
“เดี๋ยวสิยะ ฉันก็เหยียบแทบมิดแล้วนะ แกคิดว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าหลานหรือไง” สองสาวเถียงกันอย่างไม่จริงจังนัก ในที่สุดรถของไมย์ก็เคลื่อนเข้ามาจอดในบ้านวายุเทพพร้อมกับการลงรถอย่างรวดเร็วของทั้งสามคน
“พี่รินทร์!!! น้องราช!!! น้านามาหาแล้วลูก”
“น้องนา น้องราชอยู่กับคุณวารินทร์บนห้องค่ะ” ชื่นที่ได้ยินเสียงของนารินทร์ก็ละงานที่ทำอยู่เพื่อเดินมาบอกนารินทร์
“ขอบคุณนะครับพี่ชื่น”
“เดี๋ยวพี่ยกน้ำกับขนมตามขึ้นไปให้นะคะ”
“อุ้ย ไม่เป็นไรคะพี่ เดี๋ยวพวกหนูจัดการตัวเองดีกว่าค่ะ ขอบคุณพี่มากๆนะคะ” สาพูดขึ้น ชื่นก็พยักหน้ายิ้มๆแล้วเดินกลับไปทำงานต่อ ส่วนพวกนารินทร์ก็เดินตรงขึ้นไปหาวารินทร์ที่ห้องทันที
“แอ๊ดดดดด…พี่รินทร์”
“เข้ามาก่อนสินา ไมย์ สา” สองสาวเดินตามเข้ามาติดๆก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปหาเด็กทารกตัวน้อยที่นั่งเล่นอยู่บนตักของวารินทร์
“สวัสดีค่ะพี่รินทร์ สานึกว่านามันล้อสาเล่นนะเนี่ยที่มีลูกได้อ่ะ” ครุฑราชหยุดกิจกรรมของตัวเองก่อนจะหันมามองผู้มาเยือนใหม่ตาใสแป๋ว
“อ๊ายยยยยย น่าหยิกจริงๆเลย ขอน้าอุ้มหน่อยได้ไหมลูก”
“ว่าไงลูก ให้น้าสากับน้าไมย์อุ้มได้ไหมครับคนเก่ง” เด็กน้อยไม่ได้ส่งเสียงตอบอะไร แต่ปีนลงจากตักของวารินทร์ผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงอนุญาต
“มามะ ขอน้าอุ้มหน่อยนะลูก…เอ๋~ เอ๋~ เอ๋~” จากนั้นสองสาวก็มะรุมมะตุ้มอยู่กับเด็กทารกอย่างหมันเขี้ยว ส่วนนาก็แยกตัวออกมาคุยกับวารินทร์
“พี่รินทร์ นาอยากขอพาหลานไปกินไอศกรีมที่ห้างน่ะ พี่จะว่าอะไรไหม”
“หืม…นึกยังไงถึงอยากพาหลานไป” วารินทร์ถามกลับทันทีเมื่อได้ยินคำขอของน้องชายตัวเอง
“ก็อยากพาหลานเที่ยวอ่ะ…นะ นะ พี่รินทร์ ให้นาพาหลานไปนะ” วารินทร์ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอนุญาตให้นารินทร์พาหลานออกจากบ้าน
“เย้!!! ขอบคุณนะครับ พี่รินทร์ใจดีที่สุดในโลกเลย” นารินทร์กระโดดเข้ากอดพี่ชายพร้อมกับเอาหัวถูไปมากับอกของวารินทร์ คนถูกกอดก็คลี่ยิ้มกับท่าทางดีใจเหมือนเด็กถูกตามใจก่อนจะลูบหัวนารินทร์เบาๆ
“เดี๋ยวพี่ไปเตรียมของให้ นาพาหลานกับเพื่อนลงไปรอพี่ที่ห้องโถงใหญ่เลย” นารินทร์พยักหน้ารัวๆก่อนจะไปชวนเพื่อนๆลงไปรอวารินทร์ข้างล่าง จากนั้นวารินทร์ก็เริ่มเก็บของที่จำเป็นสำหรับครุฑราชลงกระเป๋าก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างเพื่อส่งสัมภาระให้กับนารินทร์
“ไปกันเถอะ พี่รินทร์ลงมาแล้ว”
“พี่ฝากดูหลานหน่อยนะ ไมย์ สา คุณน้านาเค้านึกอยากจะพาหลานไปเที่ยวน่ะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะพี่รินทร์ จะไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาเลย เด็กอะไรน่าตีจริงเชียว” ไมย์ที่พูดจบก็ถูกครุฑราชตะปบหน้าทันที แต่ไม่ได้รุนแรงมากนัก
“นี่ไงล่ะ หลานฟังออกนะว่าแกพูดอะไร หลานเลยชิงตบแกก่อนน่ะ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะร่ากับคำพูดของสา ซึ่งจริงๆแล้วนารินทร์กับวารินทร์รู้ดีว่าเด็กทารกคนนี้ฟังการสนทนารู้เรื่องจริงๆ เพียงแค่ยังโต้ตอบกลับไม่คล่องเท่านั้นบวกกับนิสัยส่วนตัวที่เป็นเด็กไม่ค่อยพูดอยู่แล้วถ้าใช่กับวารินทร์หรือพายุ ทำให้น้อยคนจะรู้ว่าครุฑราชพูดรู้เรื่องบ้างแล้ว
“น้องราชไปเที่ยวแบบนี้เหงาแย่เลยนะคะ” ชื่นที่มายืนส่งคุณหนูของบ้านเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
“เค้าไปกันไม่กี่ชั่วโมงหรอก เดี๋ยวคุณหนูของชื่นเค้าก็กลับมาป่วนที่บ้านเหมือนเดิมแล้ว” ในจังหวะที่วารินทร์หันตัวกลับจะเข้าบ้าน ความรู้สึกในอกของวารินทร์ก็กระวนกระวายขึ้นมาฉับพลันอย่างน่าประหลาด วารินทร์หันกลับไปมองรถที่กำลังแล่นออกไปจากบ้านอีกครั้งอย่างห่วงๆ แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรเพราะเห็นว่ามีนารินทร์ก็ไปด้วย
“เข้าบ้านกันเถอะค่ะ คุณวารินทร์”
“อืม…ชื่นเดี๋ยวเตรียมของที่ฉันบอกหน่อยนะ ฉันจะเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็น”
“ได้เลยค่ะ” จากนั้นทั้งสองคนก็เดินกลับเข้าบ้านไปด้วยกันพร้อมกับคุยกันไปตลอดทาง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ทางด้านของนารินทร์เมื่อพากันมาถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว สาก็ทำหน้าที่อุ้มเด็กน้อยน่ารัก ไมย์ก็คอยนัวเนียเล่นกับน้องราช ส่วนนารินทร์ก็ถือกระเป๋าสัมภาระของน้องราชเดินตามหลัง
“อ้าวนา เดินตามมาเร็วๆสิ” ไมย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นนารินทร์หยุดเดินแล้วหันหลังไปมองบางอย่าง
“อืมๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ” นารินทร์หันกลับไปข้างหลังอีกทีอย่างเอะใจ เพราะรู้สึกได้เหมือนมีใครคอยจับตามองกลุ่มของตนเองอยู่ตลอดเวลา
“เอาล่ะ น้องราชอยากทานไอศกรีมแบบไหนลูก” สาเปิดเมนูกางออกเพื่อให้ครุฑราชดู ซึ่งเด็กน้อยก็ชี้ไปที่รูปไอศกรีมที่ถูกจัดให้เหมือนหนู
“โอเคค่ะ…รบกวน %#^*($%&#%#%@&###$!(“ ทุกคนสั่งสิ่งที่ตัวเองอยากกินจนครบทุกคน หลังจากนั้นก็นั่งเล่นกับครุฑราชไปเรื่อยๆเพื่อฆ่าเวลา จนกระทั่งไอศกรีมมาเสิร์ฟทุกคนก็ลงมือทานของตัวเอง โดยที่นารินทร์แย่งครุฑราชมาจากสาเพราะต้องการป้อนไอศกรีมให้หลานกินด้วยตัวเอง
“อ๊า~ อิ่มจัง เออนาแกดูหนังสือกับฉันหน่อยสิ”
“งั้นเดี๋ยวฉันพาหลานไปเดินถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนหน้าห้างนะ”
“จะดีหรอสา เดี๋ยวเราค่อยไปพร้อมกันดีกว่าไหม”
“เฮ้ย ไม่ต้องห่วง แค่แปปเดียวเอง ฉันเอาอยู่แกพายายไมย์ไปดูหนังสือเถอะ” นารินทร์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลง
“งั้นฝากด้วยนะ พอเสร็จแล้วก็มาเจอกันที่ร้านหนังสือด้านหลังเลยละกัน”
“โอเค…ไปลูกน้องราช เดี๋ยวน้าสาคนสวยจะพาหนูไม่เก็บภาพกับตัวการ์ตูนน่ารักๆข้างหน้านะลูก” หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปโดยที่นารินทร์รู้สึกไม่ชอบมาพากลในใจแต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากและหันไปช่วยไมย์เลือกหนังสืออย่างตั้งใจ
“น้องราชยิ้มนะลูก หนึ่ง…สอง…สาม แชะ…น่ารักมากลูก” ในขณะที่สากำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปอยู่นั้น ไอศกรีมที่น้องราชกินเข้าไปก็เริ่มแสดงอาการ เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนคล้อยลงเรื่อยๆ จนในที่สุดครุฑราชก็หลับไปในอ้อมแขนของสา
“อ้าว หลับซะละ เลี้ยงง่ายจริงๆ ไม่ร้องงอแงเลยสักแอ่ะ” สาอุ้มครุฑราชเดินอ้อมมาข้างๆด้านนอกตัวห้างเพราะด้านในคนเริ่มเยอะมากขึ้นแล้ว แต่แล้วก็มีรถตู้คันหนึ่งมาจอดเทียบข้างๆกับสาก่อนที่ประตูจะเปิดออกพร้อมกับมีชายฉกรรจ์สามคนวิ่งลงมาจากรถแล้วพุ่งเข้ามาหาสาทันที
“ว๊ายยยยย อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ เอากระเป๋าหนูไปเลยค่ะ อย่าทำอะไรหนูนะคะ ยอมแล้ว” สาพูดด้วยความตกใจพร้อมยื่นกระเป๋าไปข้างหน้า หากในเวลาปกติก็คงพอจะเอาตัวรอดได้ แต่ติดที่ตอนนี้มีเด็กน้อยหลับอยู่ด้วยนี่สิ
“ส่งเด็กมาซะดีๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
“อะ…อะไร นะคะ”
“กูบอกให้ส่งเด็กมาไง!!!” ชายฉกรรจ์เริ่มอารมณ์เสียเพราะความไม่ได้ดั่งใจของสา แต่สาก็ไม่ยอมส่งเด็กให้แต่โดยดี
“ไม่ได้นะคะ พี่จะเอาเด็กไปทำอะ…เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!!” สาหน้าหันไปตามแรงตบอย่างแรงทั้งๆที่ยังพูดไม่จบทำให้มึนงงไปชั่วขณะ กลุ่มคนร้ายจึงถือโอกาสนี้แกะตัวครุฑราชออกจากอ้อมกอดของสาแล้วอุ้มออกไป
“อย่า…อย่าเอาเด็กไป”
“น่ารำคาญจริงอีนี่ เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!!” สาถูกตบอีกสองทีจนล้มลงกับพื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งรถตู้คันดังกล่าวก็เคลื่อนที่ออกไปอย่างรวดเร็ว
“น้องราช!!! น้องราช!!! ช่วยด้วยค่ะ!!! รถตู้ขโมยเด็ก!!! ช่วยด้วย!!!” สาวิ่งตามรถอย่างเสียสติแม้ว่าจะเจ็บระบมไปทั่วใบหน้าก็ตาม
“เราว่าเล่มนี้ก็ตรงจุดดีนะ ถ้าไมย์อยากได้แบบนั้นน่ะ…นี่พี่…เค้าบอกมีรถตู้จับเด็กที่ห้างเราด้วยแหละ” นารินทร์หยุดพูดทันทีที่ได้ยินพนักงานร้านหนังสือคุยกัน
“จริงหรอ!!! ตอนไหนวะ!!!”
“เมื่อสักครู่นี่แหละพี่ เห็นเค้าว่าเป็นนักศึกษาอุ้มเด็กเดินอยู่ข้างๆห้าง อยู่ดีๆก็มีรถตู้มารุมเอาเด็กไป น้องเค้าโดนตบจนหน้าบวมไปหมดเลย แต่ก็วิ่งตามรถตู้ไป…” นารินทร์ไม่อยู่ฟังต่อจนจบ รีบวางหนังสือแล้ววิ่งออกจากร้านหนังสือไปด้านหน้าห้างทันทีโดยมีไมย์วิ่งตามหลังมาติดๆ
“ขอโทษนะครับขอทางหน่อย…ฮือๆ นา!!! นา!!! นา!!! ฉันขอโทษ แต่พวกมันเอาน้องราชไปแล้ว!!!” นารินทร์ตัวชาวาบก่อนจะรีบปลอบเพื่อนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่งให้ไมย์ปลอบสาต่อ
ทางด้านของวารินทร์ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นว่าเมฆฝนกำลังมา ลมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆจนต้นไม้ด้านนอกเอนไปตามกระแสลม งูมากมายเลื้อยเข้ามาในบ้าน นกบินไปมารอบบ้านอย่างกระวนกระวาย
“คุณวารินทร์คะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ยทำไมงูเลื้อยไปมาเยอะแบบนี้” ถึงทุกคนจะกลัวงูยังไงก็ไม่มีใครตีงูสักคนเพราะถูกวารินทร์สั่งห้ามไว้ โดยบอกว่าเค้าเหล่านั้นเป็นบริวารคอยปกปักรักษาบ้านหลังนี้อยู่ ดังนั้นงูเหล่านี้จะไม่ทำอันตรายคนในบ้าน
“คุณรินทร์คะ โทรศัพท์จากคุณนารินทร์ค่ะ เห็นบอกว่ามีเรื่องด่วน” สาวใช้คนดังกล่าววิ่งหน้าตื่นมาหาวารินทร์ทันทีหลังจากรับสายโทรศัพท์บ้านที่ดังขึ้น วารินทร์พยายามทำใจให้เย็นก่อนจะรับสายคุยกับนารินทร์
“พี่รินทร์แย่แล้ว!!! มีคนจับตัวน้องราชไป #%$&($$^#$*)$)#^#_=(#^” นารินทร์เล่าเรื่องทั้งหมดให้วารินทร์ฟังอย่างรวบรัดตัดตอนเมื่อฟังจบ วารินทร์ก็วางโทรศัพท์แล้ววิ่งออกจากบ้านไปด้วยความรวดเร็ว
“คุณวารินทร์เกิดอะไรขึ้นคะ!!! เดี๋ยวก่อนค่ะ!!!”
“ชื่นโทรบอกคุณพายุด้วยนะ ว่าน้องราชถูกคนจับตัวไป รีบโทรไปบอกเค้าเดี๋ยวนี้เลย!!!” วารินทร์สั่งเสียงดุพร้อมกับนัยน์ตาที่เปล่งประกายออกมาเป็นสีแดงอย่างโกรธเกรี้ยวที่สุดในชีวิต
“อะไรนะคะ!!! น้องราชของป้า” ยายทมเป็นลมทันทีที่ได้ยิน ส่วนคนที่เหลือต่างก็ตกใจพร้อมกับช่วยกันประคองยายทมไปด้วย
“ไปสิชื่น!!! รออะไรอยู่!!!” ชื่นรีบวิ่งไปต่อสายหาพายุทันที ในขณะที่ถือสายรออยู่นั้น วารินทร์ก็หายออกไปจากบ้านแล้ว…
“ขอบคุณทางบริษัทคุณนพมากนะครับที่ไว้วางใจบริษัทเรา…กริ๊งๆๆๆ”
“แหม บริษัทของคุณพายุใครๆก็อยากร่วมงานด้วยครับ กริ๊งๆๆๆ” พายุก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้ชายตรงหน้า
“โทษทีนะครับ ที่บ้านโทรมาสงสัยจะมีเรื่องด่วน ขออนุญาตสักครู่นะครับ…ฮัลโหล” พายุรับสายได้ไม่นานรอยยิ้มเมื่อครู่ก็หายไปอย่างฉับพลันและแทนที่ด้วยใบหน้าที่โมโหสุดขีดถึงขนาดที่ทำให้คู่ค้าตรงหน้าเสียวสันหลัง
“ว่าไงนะ!!!...ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ แล้ววารินทร์ล่ะ” เมื่อฟังทุกอย่างจนหมดสิ้นแล้วพายุก็วางโทรศัพท์แล้วมีท่าทีร้อนรนขึ้นมาทันที
“ขอโทษทีนะครับคุณนพผมมีธุระด่วนจริงๆ” พูดจบพายุก็พรวดพราดออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนเสียงค้านของใครรอบข้างทั้งสิ้น พายุมุ่งตรงไปที่รถของตัวเองแล้วสตาร์ทเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว
“ใครมันกล้าแตะต้องลูกกู มันต้องตายสถานเดียว!!!”