เรื่องนี้เป็น ภาคต่อของผู้กองที่รักนะคะ
อาจจะมีเนื้อหาบางตอนและตัวละครที่ ต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว
ถ้าอยาก เข้าใจมากขึ้น พิตแนะนำให้อ่านภาค แรกด้วยนะคะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.0...
ผู้กองที่รัก ภาค อนาคต….
ปังๆๆๆ เสียงดังสะสั่นของอาวุธขนาดเล็กแต่กลับสามารถฆ่าคนได้แม้แค่ปลายนิ้วสัมผัส ดังลั่น กระสุนทุกนัดตรงเข้าเป้าหมายได้
อย่างแม่นยำราวกับจับวาง ทำให้คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ยกยิ้มอย่างพอใจ
“เป็นไงบ้างครับพ่อ” เด็กนุ่มหน้าตาคมคายเอ่ยถามกับคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“เยี่ยม สิครับลูกชาย แหม สมแล้วที่เป็น ลูกพ่อ” คนเป็นพ่อยิ้มกว้างก่อนจะตบไหล่ลูกชายอย่างถูกใจ
“งั้น ปีนี้ผมก็สอบ เตรียมทหารได้แล้วสิครับ” เด็กหนุ่มบอกด้วยรอยยิ้ม
“ยังหรอก”
“ทำไมล่ะครับ ในเมื่อตอนนี้ผมก็พร้อมหมดแล้ว แล้วทั้งพ่อ ทั้งปู่ก็อยากให้ผม รับราชการนิครับ” เด็กหนุ่มบอก
“เพราะลูกยังเด็กเกินไป เอาไว้สักปีหน้าดีกว่านะ ซัน” คนเป็นพ่อบอก พลางมองลูกชายจอมดื้อที่กำลังออกอาการงอน อย่าง
ปลงๆ เอาแต่ใจเหมือนป๊ามันไม่มีผิด
“พี่ซัน คุณพ่อ น้องซายน์กับป๊ามาแล้วค่า” เสียงใสๆของเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนมัธยมปลายวิ่งเข้ามาในสนามซ้อมก่อนที่เด็กสาวจะโผเข้ากอดคนที่ถูกเรียกว่าพ่อเต็มรัก
“คิดถึงคุณพ่อจังเลย”
“เหอะ ย่ามาอ้อนหน่อยเลย หนีไปออกค่ายตั้งสามวัน ไหนอ่ะของฝาก” คนเป็นพี่บ่นก่อนจะแบมือขอของฝากจากน้องสาว
“อะไรกัน ซายน์อ้อนคุณพ่อหรอกไม่ได้อ้อนตัวซะหน่อย” เด็กสาวบอกก่อนจะหันไปกอดคุณพ่อต่อ
“อะไรกันครับเนี่ยไม่มีใคร คิดจะอ้อนป๊าบ้างเหรอ น้อยใจนะครับ” คนที่เรียกตัวเองว่า ป๊า เอ่ยขึ้น พลางเชิดหน้าอย่างงอนๆ
“โอ๋ๆๆ ป๊าอย่างอนน้องซายน์น๊า ก้น้องซายน์คิดถึงคุณพ่อนินา ป๊าก็ให้พี่ซันอ้อนสิ”
“เรื่องอะไร พี่เป็นผู้ชายนะ ทำไมต้องอ้อนด้วย มันไม่แมนเว้ย!!”
“ตาซัน ทำไมพูดไม่เพราะอีกแล้วเนี่ย” คนป็นแม่ เอ้ย พ่อ แหวลั่นก่อนจะบิดพุงเจ้าลูกชายจอมแสบจนร้องลั่น
“พ่ออ่า เจ็บๆๆๆ ก็มันติดมาจากโรงเรียนนิ ไม่พูดแล้ว ซันไม่พูดแล้วครับ” เจ้าตัวแสบร้องลั่น พลางวิ่งหลบเป็นพัลวัน
“ฮ่าๆๆๆ” เด็กสาวคนเดียวในกลุ่มหัวเราะร่วน อย่างถูกใจ ก็นะ เวลาที่พี่ชายของเธออ้อนน่ะ มันน่ารักจะตาย แต่ทำไมคนเป็นพี่ถึง
ไม่รู้ตัวสักนิดนะเนี่ย
“พอได้แล้วน่ากัน ลูกแค่พูดเว้ยคำเดียวเอง อย่าดุลูกสิ” คนที่เงียบมานานเอ่ยห้ามทัพ ก่อนจะลากคนรักของตัวเองมากอดไว้แน่น
“ป๊าจับไว้แน่นๆเลยนะ อย่าปล่อยเลย” ซันบอกพลางลูบพุงป้อยๆ
“เจ้าซัน เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ”
“เอาน่ากัน อย่าดุลูกนักสิ วัยรุ่นมันก็ต้องเอะอะวะโว้ย เป็นธรรมดา ไปๆกลับบ้านกันได้แล้ว”
“เซ้นส์ก็เข้าข้างลูกทุกที”
“หึๆ งอนเหรอคุณพ่อ ระวังจะโดนง้อทั้งคืนนะ” อีกคนกระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า
“ไอ้บ้าเซ้นส์ ไอ้หื่น!!!”
กันตวาดลั่นก่อนจะลากลูกสองคนให้ไปพ้นๆไอ้คนหื่นที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีความหื่นก็ยังไม่เคยลดลงสักทีด้วยความหงุดหงิด
“ง่า พ่อเขินเหรอ น่าแดงเลย” เจ้าเด็กแสบเอ่ยขึ้น
“อะไร พูดมากน่าซัน ไปๆพาน้องกลับบ้านได้แล้ว” คนเป็นพ่อบอกทำเอาสองพี่น้องต้องลอบยิ้มมุมปากอย่างช่วยไม่ได้ ก็พ่อกัน
ของพวกเขาน่ะ ปากแข็งที่หนึ่งเลย นะสิ
“ไปเข้าค่ายมาเป็นไงบ้าง” พี่ชายเป็นฝ่ายเปิดปากถามหลังจากที่เข้ามานั่งในรถ
“ก็ดี พี่ซันน่าจะไปด้วยนะ ซายน์อ่ะคิดถึ๊ง คิดถึง” เด็กสาวอ้อนก่อนจะสวมกอดพี่ชายแน่น
“ยัยเด็กแสบที่คิดถึงเนี่ยเพราะไม่มีใครให้แกล้งล่ะสิ”
“ใครบอกเล่า เค้าออกจารักตัวเองขนาดนี้ จะไปแกล้งลงได้ไงเล่า”
“เหอะ” เด็กหนุ่มได้แต่แค่นเสียงในลำคอ ไอ้ที่ไม่แกล้งๆเนี่ยน้อยไปสิ ตั้งแต่เด็กจนโตเขาโดนยัยเด็กแสบนี่แกล้งตั้งไม่รู้กี่ครั้ง เด็กผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ชอบเล่นอะไรแผลงๆอยู่เรื่อย
“แล้วมีคนเข้ามาจีบหรือเปล่า” พี่ชายเอ่ยถามขึ้นทำเอาน้องสาวคนสวยถึงกับหน้าแดง
“เฮ้ยๆๆ แบบนี้ก็แปลว่ามีดิ ”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“เซ้นส์เบรกทำไมเนี่ย!!!” พ่อกันแหวลั่นก่อนจะหันไปมองคนขับด้วยสายตาคาดโทษ
“เมื่อกี้ มันหมายความว่ายังไงห่ะ หนูซายน์ ใครมันบังอาจมาจีบนางฟ้าของป๊านะ” เสียงต่ำๆอย่างสะกดกลั้นเอ่ยถามก่อนที่คนทั้ง
รถจะมองตากัน ตายๆ ลืมไปเลยว่า ป๊าน่ะ เขาหวงลูกสาวขนาดไหน
“ใช่ที่ไหนเล่าป๊า พี่ซันก็มั่วไปเรื่อย ใครจะมาจีบหนูไม่มีๆๆ” เด็กสาวส่ายหน้ารัวๆ จะบอกได้ไงเล่าว่าอยู่ที่ค่ายก็โดนม่อไปเยอะ
ถ้าพ่อกับป๊ารู้ มีหวัง รุ่นพี่พวกนั้นได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่
“บอกมานะซายน์ ว่าตกลงมีคนมาจีบหรือเปล่า” พี่ชายเอ่ยคาดคั้นหลังจากที่ทั้งคู่กลับมาถึงห้อง
“แหม มันก็ต้องมีบ้างล่ะน่า น้องสาวพี่ไม่ได้ขี้เหร่ซะหน่อย”
“เหอะ หลงตัวเองชะมัด”
“ไอ้พี่ซัน อย่ามาว่าน้องนะ ซายน์จะฟ้องคุณป๊า ว่าพี่ซันว่าซายน์”
“นี่ยัยเด็กแสบ บอกควาจริงมาซะดีๆว่า ใครมาจีบ ห่ะ”
“ทำไม หวงเขาเหรอตัวเอง” น้องสาวเอ่ยล้อ
“ก็เออดิ ซายน์เป็นน้องสาวคนเดียวของพี่นะ ในฐานะพี่ชายพี่ก็ต้องปกป้องน้องให้ถึงที่สุดสิ” พี่ชายบอกอย่างมุ่งมั่นทำเอาน้องสาวถึงกลับหลุดขำ
“ปกปเองเหรอ ได้ข่าวว่า แข่งยิงปืนครั้งที่แล้ว ซายน์ชนะพี่ซันขาดลอยเลยนะ แล้วแบบนี้ใครกันแน่ที่ต้องปกป้องใคร ”
“อันนั้นมันคราวที่แล้ว คราวหน้ามาแข่งกันใหม่ดิ พี่จะชนะให้ดู”
“จร้าๆๆ”
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“พี่ซัน รับให้หน่อยสิ” ซายส์บอกก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือให้พี่ชาย
“ใครเหรอ”
“ไอ้พวกรุ่นพี่หน้าภาชนะหุงต้มทั้งหลายน่ะแหล่ะ รำคาญ รับๆให้หน่อย ด่าไปเลยยิ่งดีนะ”
“สวัสดีครับ” เด็กหนุ่มรับสาย
“อ้าวเอ้ย ไอ้เชี่ยเอก น้องซายน์ของมึงนี่ ผู้ชายเหรอว่ะ” คนในสายไม่ตอบกลับมาแต่กลับตะโกนไปถามเพื่อนแทน
“ผู้ชายไร น้องซายน์ของกูเป็นผู้หญิงโว้ย”
“แต่นี่มันเสียงผู้ชาย”
“แล้วไอ้ห่า ไหนมันรับโทรศัพท์ ว่าที่แฟนกูว่ะ”
เสียงปลายสายยังเถียงกันทำเอาคนรับถึงกับกำหมัดแน่น ไอ้พวกนี้ จะโทรมาเถียงกันให้เขาฟังเพื่อ
“นี่คุณครับ ถ้าไม่คิดจะโทรมาแล้วคุยก็วางไปเถอะครับเสียดายตัง”
“เฮ้ เดี๋ยวสิไอ้น้อง พี่โทรมาหาน้องซายน์น่ะ รู้จักไหม” คนในสายตอบกลับมา
“รู้จัก แต่ไม่ให้คุย มีอะไรไหมครับ ไอ้พี่”
“อ้าว กวนตีนเหรอ ไอ้เด็กนี่”
“ไม่ได้กวน แต่อยากจะเตือนว่า อย่ามายุ่งกับน้องสาวผม นะครับ ”
ติ๊ด!!!
บอกเสร็จพลางวางสายไปทันที ไอ้พวกนี้นะเหรอที่บังอาจมาจีบน้องสาวเขา หึ ฝันไปเถอะพวกแก ไม่มีมารยาทขนาดนี้มีรับเว้ย
“ไงพี่ซัน”
“ครบสูตรเลย ปากห มา หน้าม่อ ซายน์อย่าไปยุ่งกะพวกมันนะ ถ้ามันโทรมาเมื่อไหร่เดี๋ยวพี่ด่าให้เอง”
“จ้าๆๆ คุณพี่ชายคนเก่ง ไปเถอะ ซายน์หิวข้าวแล้วป่านนี้กับข้าวเสร็จแล้วมั้ง” น้องสาวบอกพลางลากพี่ชายให้ลงมาชั้นล่างที่ตอน
นี้คุณพ่อคนเก่งทำกับข้าวไว้เต็มโต๊ะ
“โห พ่อ นี่บ้านเราจัดงานเลี้ยงเหรอ ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะครับ” เจ้าเด็กแสบถาม
“เงียบๆไปเลย ซันมีหน้าที่กินก็กินไปเถอะ อย่าพูดมาก”
“พ่ออะไรใจร้าย จะทำอันตรายลูกตัวเองตลอด”
“คุณลูกครับ กรุณานั่งลงแล้วกินข้าวเงียบๆก่อนที่พ่อจะโมโหนะครับ” คนเป็นพ่อบอกเสียงลอดไรฟัน
“อะไรกันครับ สองพ่อลูก เสียงดังไปถึงปากซอย”
ฟอด
คนเจ้าเล่ห์เอ่ยก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนรักอย่างเอาแต่ใจ ท่ามกลางสายตาของลูกๆที่ได้แต่ส่ายหน้าปลงๆ ชินแล้ว พ่อกับป๊าชอบหวานกันไม่แคร์สื่อแบบนี้แหล่ะ
“ไอ้บ้าเซ้นส์ ทำอะไรดูบ้างลูกนั่งอยู่นะ”
“งั้นแปลว่าถ้าลูกไม่นั่งอยู่ตรงนี้ ก็ทำได้นะสิ”
“ไอ้ ไปโน่นเลยไปนั่งแล้วกินข้าวเงียบๆเลยนะ” คุณพ่อกันแหวลั่น ทำเอาคุณสามีและลูกๆหัวเราะร่วน
“เหอะ หัวเราะกันเข้าไป”
“โอ๋ๆ งอนเหรอครับ รักดอกจึงหยอกเล่น เนาะเด็กๆ ”
“ช่ายคร้าบ/ช่ายคร่า”
“พอกันเลย ทั้งป๊าทั้งลูก ไปกินข้าวได้แล้ว เร็วๆเลย”
เสียงหัวเราะของความสุขดังออกมาจากครับครัวเล็กๆที่อาจจะแตกต่างจากครอบครัวทั่วไป แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ ความรักและความจริงใจที่มี คำว่าครอบครัวในนิยามของคุณอาจหมายถึง พ่อ แม่ ลูก แต่ในนิยามของพวกเขาคือ การมีกันและกันอย่างนี้ ตลอดไป ….
ผู้กองที่รัก ภาค อนาคต…. 2
“อะโหลๆ มีใครอยู่ไหมคร้าบ” เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นที่หน้าบ้าน ก่อนที่ผู้กองไม่ใช่สิ ทุกวันนี้เป็นผู้การ ไปแล้วจะเดินออกมา
เปิดประตูอย่างเซ็งๆ ถามว่าทำไมถึงเซ็งนะเหรอ เพราะเสียงนี้มันมีอยู่คนเดียว คนเดียวที่มันจะมาก่อกวน เขากับครอบครัวทุกวันหยุด เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “ไอ้โอ๋”
“ ออกมารับแขกเนี่ย ทำหน้าทำตาให้มันดีๆหน่อยสิพี่” ไอ้โอ๋ ก็ยังคงเป็นไอ้โอ๋ แม้ว่าวันนี้หน้าที่การงานจะก้าวหน้าจนเป็นผู้กำกับแล้ว แต่มันก็ยังขยันมาก่อกวนเขาได้ทุกวี่ทุกวัน จะดีหน่อยก็ตรงที่มันยังพาน้องตองมาด้วยให้ได้ชุ่มชื่นหัวใจ เด็กคนนี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยัง สุภาพ พูดน้อย น่ารักไม่เคยเปลี่ยน
“พี่ มองเมียคนอื่นตาเยิ้มแบบนั้นระวังสามีมาเห็นนะ ” ลูกน้องจอมแสบขู่
“แล้วแกมาทำไมว่ะ วันหยุดนี่ ทำไมไม่ชวนตองออกไปเที่ยวบ้างห่ะ” เจ้าของบ้านบ่นอุบ 16 ปีผ่านไป ไอ้โอ๋มันยังคงความ
สม่ำเสมอได้อย่างน่าชื่นชม วันหยุดปุ๊บมันโผล่ปั๊บ มันเห็นบ้านเขาเป็นสวนสาธารณหรือไงกัน
“หลีกๆ ผมจะเข้าไปหาหลานผม น้องซัน น้องซายส์ อาโอ๋ กับอาตองมาแล้วคร้าบ” รุ่นพี่ได้แต่ส่ายหน้ากับความติงต๊องก่อนจะหันกลับไปชวนร่างบางของอีกคนเข้าบ้าน
“เข้าบ้านเถอะตอง พี่กำลังจะทำข้าวกลางวันอยู่พอดี ไปช่วยพี่ในครัวแล้วกัน”
“ได้ครับ พี่กัน” คนถูกชวนยิ้มหวานพาลเอาคนมองอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ เสียดายจริงๆที่คนน่ารักๆ อย่างน้องตอง ตกเป็นของคน
ติงต๊องไม่เต็มเต็งอย่าไอ้โอ๋
“อาโอ๋ น้องซายน์คิดถึงจุงเบย ” เด็กสาววิ่งเข้ามาหารุ่นน้องของพ่อกอย่างร่าเริง
“ครับๆ อาโอ๋ก็คิดถึงน้องซายน์ฝุดๆ เลยครับ”
“โห อาเรา ทันสมัยซะด้วย” เด็กสาวยิ้มร่า
“แล้วนี่พี่ชายกับป๊าเราไปไหนล่ะ”
“ปลูกต้นไม้อยู่หลังบ้านค่ะเดี๋ยวคงมา”
“อ้าวพี่โอ๋ มาแล้วเหรอครับ” ร่างสูงเอ่ยทักแขกประจำของบ้าน
“อืม แล้วนี่ ไปเป็นคนสวนกันมาเหรอ” คนเป็นแขกเอ่ยถาม
“ใช่พี่ ช่วงก่อนงานยุ่งไม่มีเวลาดูต้นไม้ตายเกือบหมด เพราะไอ้สองแสบเนี่ยไม่ยอมช่วยรดน้ำต้นเลย” ร่างสูงตัดพ้อก่อนที่
ลูกสาวคนดีจะเข้ามากอดเอวที่เริ่มหนานิดหน่อยแน่น
“ก็ช่วงนี้น้องซายน์ต้องเรียนพิเศษนิคะ ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน พี่ซันน่ะ น่าจะช่วยป๊ารดน้ำต้นไม้บ้างนะ”
“ยัยแสบ ตัวเองก็ว่างเหมือนกัน อย่ามาโบ้ยสิ” พี่ชายแหวลั่น 16 ปีที่ผ่านมาเขาตกเป็นเบี้ยล่างของยัยน้องสาวคนนี้มาตลอด เขา
จะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว
“พี่ซัน อ่า เค้าไม่ได้โบ้ยตัวซะหน่อย แต่ว่าตัวเองอ่ะดูแลได้ดีกว่าเขานี่นา เขากลัวว่าจะทำต้นไม้ที่ป๊ากับตัวเองปลูกตายนิ” น้อง
สาวบอกเสียงแผ่ว
“เออๆ พี่ดูเองก็ได้” คนเป็นพี่รับปาก ทำไมนะพอเห็นน้องอ้อนทีไรแล้วมันใจอ่อนทุกที นี่เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างยัยซายน์ไปถึง
เมื่อไหร่เนี่ย
“คุยอะไรกันอยู่กับข้าวเสร็จแล้วนะ ไปทานกันได้เลย” ผู้การที่อายุล่วงเลยเข้าสู่วัยกลางคนเอ่ยเรียก
“มีอะไรกินบ้างอ่ะพี่” เสียงของรุ่นน้องคนสนิทเอ่ยถาม
“ไอ้โอ๋ แทนที่แกจะยืนชะเง้อเป็นยีราฟแบบนี้ไปช่วยตองจัดโต๊ะดีกว่าไหม มากินข้าวบ้านคนอื่นยังให้เจ้าของบ้านเขาลำบากอีก”
“บ่น บ่นจริ๊ง พี่รู้ตัวป่ะ ว่าตัวเองเหมือนพวกป้าแก่ๆวัยทองเข้าทุกวันแล้วนะ” แขกกิตติมศักดิ์เอ่ยล้อก่อนจะวิ่งเข้าไปช่วยคนรักจัด
จานทันที
“ไอ้โอ๋ ไอ้น้องเวร !!!” ร่างเพรียวตะโกนลั่น ก่อนที่คนเป็นสามีจะเข้าไปห้าม ขืนไม่ห้ามสิ สงสัยวันนี้ที่บ้านเขาเกิดการฆาตกรรมแน่
หลังจากที่ทานข้าวเคล้าสงครามน้ำลายของรุ่นพี่รุ่นน้องนายตำรวจเหมือนปกติทุกวันหยุด น้องสาวตัวแสบก็ลากพี่ชาออกมาคุยที่สวนหลังบ้านทันที
“พี่ซัน” เสีงหวานเอ่ยเรียก
“อ้อนแบบนี้จะเอาอะไรอีกห่ะ” คนเป็นพี่ถามก่อนจะบิดจมูกน้องด้วยความเอ็นดู ??
“คือว่า คืนนี้ เป็นงานวันเกิดเพื่อนเค้าน่ะ”
“แล้ว..”
“ตัวเองไปเป็นเพื่อนเค้าหน่อยสิ ถ้าตัวเองไม่ไปด้วย ป๊าต้องไม่ยอมให้เขาไปแน่ๆ นะๆๆ ไปเป็นเพื่อนเค้าหน่อยนะ” คนเป็นพี่มอง
น้องสาวอย่างชั่งใจ ไม่ใช่ว่าอยากขัดใจ แต่เพราะมันเป็นงานวันเกิดของเพื่อนน้องเนี่ยแหล่ะเขาถึงไม่อยากไป ก็ในเมื่อน้องเขาเรียนโรงเรียนหญิงล้วนเพราะฉะนั้นเพื่อนของน้องมันก็ต้องมีแต่ผู้หญิงนะสิ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบนะ สาวๆน่ะ แต่ว่าจะให้ชายหนุ่มอย่างเขาไปอยู่ในที่ๆมีแต่ผู้หญิงแบบนั้น มันน่าอึดอัดนี่นา คราวก่อนที่เขาออกไปกินข้าวกับเพื่อนน้องนี่แทบตายเถอะ พวกคุณเธอทั้งหลายทำอย่างกับเขาเป็นทาส ให้ไปเจอสถานการณ์แบบนั้นอีก มันก็ไม่ไหวนะ
“เค้ารู้ว่าตัวเองไม่ชอบ แต่ว่าครั้งนี้เป็นงานวันเกิดมันต้องมีผู้ชายบ้างล่ะน่า รับรองว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวเหมือนคราวที่แล้วแน่นอน น๊า ช่วยเขาหน่อยนะๆๆๆ” เสียงหวานอ้อนพลางถูแก้มกับแขนของพี่ชาย ไปด้วย
“เฮ้อ ได้แต่ว่าต้องกลับก่อนเที่ยงคืนนะ”
“เค้าไม่ใช่ นางซินนะ ทำไมต้องกลับก่อนเที่ยงคืนด้วย” ร่างบางบอกพลางยู่หน้าอย่างขัดใจ
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะไปอู้ดึกๆได้ยังไง ไม่รู้ล่ะพี่ให้แค่เที่ยงคืนไม่งั้นก็ไม่ต้องไป”
“ง่ะ เค้าไม่ใช่เด็กนะ อายุเท่ากันเหอะ ” ร่างบางบ่นอุบ
“ซายน์”พี่ชายเอ่ยเสียงเข้ม
“ก็ได้ แต่ตัวเองต้องไปกับเขานะ”
“พี่ไม่ปล่อยให้น้องสาวสุดน่ารักของพี่ไปคนเดียวหรอกน่า”
“ขอบคุณนะคะ พี่ชาย” น้องสาวบอกพลางยิ้มกว้าง แต่รอยยิ้มของน้องกลับทำให้ ซันสังหรณ์ใจแปลกๆ ช่างเถอะเขาคงคิดมาก
ไปเอง
เสียงจอแจของคนในงานกำลังทำให้ร่างโปร่งเบ้หน้า ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวในงาน แต่ก็เหมือนมีคนเดียวนั่นแหล่ะเพราะทั้งงานมีผู้ชายไม่ถึง 20 คน 1ใน3 ก็เป็นนักดนตรีไปหมด เหลือผู้ชายที่เดินในงานถึงสิบคนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วเขาจะไปคุยกับใครว่ะเนี่ย
พลั๊ก !!
ร่างสูงของใครบางคนเดินชนเขาจนเกือบล้มแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวคนชนจะไม่สนใจสักนิด ว่ากำลังทำสิ่งที่ไร้มารยาท
“นี่คุณ ชนแล้วไม่คิดจะขอโทษ ไงครับ” ร่างโปร่งเอ่ยถามพลางรั้งชายเสื้อคนตรงหน้าไว้
“โทษทีน้อง พอดีพี่ไม่เห็น” คนชนบอกแบบขอไปที ก่อนจะเดินหาไปในงาน
“คนอะไรว่ะ หน้าตาก็ดี แต่แมร่ง มารยาทแย่” ร่างโปร่งบ่นๆ พลางทำหน้ายุ่ง บรรยากาศที่เหมือนจะน่าเบื่อในตอนแรกกลายเป็น
ไม่น่าอยู่ไปทันที ไม่ใช่ว่าเป็นคนพาลอะไรหรอกนะ แต่แค่ไม่พอใจที่เห็นคนทำผิดแล้วเดินหนีหน้าตาเฉย
“อ้าว พี่ซันมินหน้าบึ้งอยู่นี่เอง มานี่หน่อยสิ ซายน์จะแนะนำให้รู้จักเจ้าของงาน” น้องสาวตัวแสบลากพี่ชายเข้ามาในงานก่อนที่จะ
พาไปแนะนำให้รู้จักกับเด็กสาวท่าทางน่ารักคนหนึ่ง
“มีนา นี่พี่ซันจ๊ะ พี่ชายเราเอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ซายน์ชอบพูดถึงพี่ชายฝาแฝดให้ฟังอยู่บ่อยๆ วันนี้ได้เจอตัวจริงสักที ” เจ้าของงานบอก ก่อนที่แก้มใสจะขึ้น
สีชมพูจางๆ ร่างโปร่งได้แต่เหล่ตามอง น้องสาวตัวแสบอย่างเอือมระอา ถึงว่าทำไมอยากให้เขามาด้วยนัก กะจะเอาเขามาเร่ขายเพื่อนตัวเองนี่เอง
“มีนา จะได้เวลาเป่าเทียนแล้วนะ ” ร่างสูงเอ่ยเรียกเด็กสาวเจ้าของาน
“ค่ะพี่ ธารณ์ ออ จริงสิ ซายน์นี่พี่ธารณ์ นะ ลูกพี่ลูกน้องเราเอง ส่วนนี่ ซัน กับซายน์ค่ะ เพื่อนมีนา” เด็กสาวแนะนำ ก่อนที่คน
อายุน้อยกว่าจะยกมือไหว้ แม้ว่าในใจบางคนจะไม่อยากไหว้ให้เสียมือ
คนไร้มารยาทแบบนั้น ไหวไปก็เสียมือ
งานวันเกิดที่เหมือนจะคึกคัก แต่สำหรับเด็กหนุ่มแล้วมันช่างน่าเบื่อจนแทบอยากจะลากน้องสาวกลับบ้าน ติดอยู่ที่สัญญาไปแล้วว่าจะอยู่ถึงเที่ยงคืน นะสิ เฮ้อ
“งานไม่สนุกเหรอ ทำหน้าอย่างกับโดนบังคับมา” เสียงหนึ่งเอ่ยถาม ก่อนที่ร่างสูงของ ไอ้คนไร้มารยาท จะเดินเข้ามา
“คงงั้นมั้ง” ตอบเสียงห้วนก่อนจะเดินหนี แน่ละ ก็คนมันไม่อยากเสวนากับคนที่ไม่ถูกชะตาด้วยสักเท่าไหร่หรอกนะ
“นี่ พูดกับผู้ใหญ่ ให้มันมีหางเสียงหน่อยไม่ได้หรือไง”
“กับผู้ใหญ่ที่ไม่มีมารยาท ก็ไม่จำเป็นต้องมีมารยาท นิครับ”
ทั้งคู่จ้องตากันอย่างหมายมาด หากว่านี่เป็นการ์ตูน คงมีสายฟ้าออกมาจากตาของทั้งคู่แน่ๆ
“หึ น้องสาวน่ะ น่ารักนะ” จู่ๆคนอายุมากกว่าก็พูดขึ้น
“ต้องการจะพูดอะไร”
“ก็ ไม่อะไร คนน่ารัก ใครๆก็อยากคุยด้วย ไม่ใช่เหรอ” อีกฝ่ายบอกอย่างยียวน แววตาเจ้าเล่ห์นั่นยิ่งมองยิ่งไม่สบอารมณ์ ไม่ได้
เด็ดขาดเขาจะให้น้องสาวสุดที่รัก รู้จักกับไอ้นี่ไม่ได้เด็ดขาด
“อย่า ยุ่ง กับ ซายน์ ” คนเป็นพี่ชายบอกเสียงเข้ม
“ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะกันท่า ได้สักกี่น้ำ ของแบบนี้ มันห้ามกันยากนะครับ น้องซัน”
คนอายุมากกว่าบอกก่อนจะเดินหลบออกไป ทิ้งให้อีกคนได้แต่กำหมัดแน่น
อย่าให้เจออีกนะเว้ย จะซัดปาก หะมาๆ นั่นให้เลือดกลบเลย อ๊ากกกกก
.............................TBC....................................
จริงๆแล้วมันก็คือตอนเก่า ที่ลงไปแล้ว ในส่วนของ ตอนพิเศษภาคแรก
แต่เพื่อความสมบรูณ์ของเนื้อหา พิต เลยต้องลงซ้ำอีกรอบไม่ว่ากันนะคะ

คิดถึงทุกคนมากๆ