ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดาราพรรณราย (---Wedding Lovers Project---) ตอนที่ ๗ [30/12/2013] pg.4 NEW!  (อ่าน 35578 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4
น่าสนุกมากเลยค่ะ

รอติดตาม มาต่อเร็วๆนะคะ คึคึ
คิดถึงพี่วายุกะน้องเอื้องผึ้ง~~

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ว้าวๆๆๆๆๆๆ    รอติดตาม  :katai4:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
 :hao7: :hao7:

พี่น้องบ้านนี้น่ารัก 5555

Alphas

  • บุคคลทั่วไป
น่าติดตาม สนุกดี

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
เจอน้องผึ้งแค่ครั้งสองครั้งเองก็ทำท่าหึงเขาแล้วเหรอวายุ :laugh:

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๔


             เช้าวันต่อมาเวลาเก้าโมงสิบนาที เอื้องผึ้งก็เข้าไปนั่งอยู่ในห้องประชุมของสำนักงานตำรวจเรียบร้อย แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ คนที่กำลังยืนค้ำอยู่ที่หัวโต๊ะ และกำลังเล่าถึงเบาะแสของคดีให้ทราบก็คือ นายตำรวจวายุ จอมโจรโรคจิตที่เจอหน้ากันสองวันติดนั่นเอง

           เอื้องผึ้งแอบทำปากขมุบขมิบล้อเลียนท่าทางยามร่างสูงยืนพูดอยู่หน้าโต๊ะด้วยความมั่นใจ (จนน่าหมั่นไส้ในความคิดตัวเอง) แต่ดูเหมือนคนพูดจะไม่ได้แคร์ท่าทางเขาเลย รู้ว่ามองกันตั้งแต่ตอนเขาเดินเข้ามาแล้ว แต่ท่าทาทางไม่ยี่หระต่อเขาเลยนี่มันก็ทำให้เอื้องผึ้งรู้สึกฉุนเล็กๆอยู่เหมือนกันนะ

“...จากสิ่งที่ผมได้ยินมา ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่เราจะส่งสายสืบเข้าไปในบ้านหลังนั้น ในฐานะของแม่บ้านและคนทำสวนเพื่อหาเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด...เราจะได้ถอนรากขุดโคนพวกค้ามนุษย์ข้ามชาตินี่ให้ได้เสียที” วายุจบประโยคด้วยแววตาแน่วแน่

“ถ้างั้นเราก็ต้องการสายสืบสองคน ผู้หญิงหนึ่งคนปลอมตัวไปเป็นแม่บ้าน และผู้ชายหนึ่งคนปลอมตัวไปเป็นคนสวนใช่มั้ยครับ...” นายตำรวจร่างบึกผิวคล้ำที่นั่งถัดจากวายุไปทางซ้ายเป็นคนเสนอขึ้น

“แล้วสายสืบทั้งสองคนจะต้องเก่งด้านเทคโนโลยีมากๆด้วย เพราะงานนี้เราจะใช้คนเยอะไม่ได้เด็ดขาด พวกมันระวังตัวแจ ผมกลัวว่าความแตกแล้วเราจะพลาดอีก...” นายตำรวจผิวขาว ร่างผอมโย่งที่นั่งถัดจากตำรวจผิวคล้ำเอ่ยบ้าง

“แล้วตอนนี้...เรามีใครที่พอจะใช้งานได้บ้างรึเปล่า” ผู้กำกับในชุดทำงานเต็มยศซึ่งนั่งถัดจากวายุที่ยืนหัวโต๊ะไปทางขวาเอ่ยขึ้นเป็นการขอข้อมูล

“จ่า...” วายุเอ่ย นายตำรวจที่ยืนคุมเครื่องโปรเจกเตอร์ตะเบ๊ะรับคำเรียก ก่อนจะรีบดึงข้อมูลของสายสืบขึ้นโชว์บนหน้าจอโปรเจกเตอร์สีขาวขนาดใหญ่ ที่ห้อยลงมาจากเพดานด้านหลังวายุอย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้ที่ว่างอยู่ มีผู้หญิงแค่สาม ส่วนผู้ชายหก...” วายุพึมพำเบาๆ ก่อนจะอ่านรายละเอียดของแต่ละคนคร่าวๆ “...แต่ไม่มีใครที่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์เลยงั้นเหรอ ทุกคนเก่งแต่เรื่องใช้กำลัง ยิงปืน กับปลอมตัวเนี่ยนะ...”

“แบบนี้ก็ไม่มีใครที่ใช้งานได้เลยสิครับผู้กำกับ” ตำรวจวัยกลางคนที่เริ่มลงพุงนิดๆและนั่งถัดจากท่านผู้กำกับเป็นคนเอ่ยบ้าง แว่นที่คาอยู่ตรงจมูกถูงดึงขึ้นให้ไปตั้งอยู่ตรงที่ของมันให้เรียบร้อย

“...จะจับมาเทรนด์เรื่องเทคโนโลยีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วย เอายังไงดี...” ตำรวจหนุ่มผิวคล้ำกล่าวขึ้นอีกรอบ เอื้อมมือออกไปหยิบรีโมทเลื่อนดูประวัติของแต่ละคนซ้ำไปมา

“เอ่อ...ถ้าเรื่องคนสวน ให้ผึ้งช่วยมั้ยครับ” จู่ๆในช่วงเวลาที่ทั้งห้องเงียบกริบ เสียงทุ้มหวานๆของเด็กหนุ่มที่นั่งตัวลีบอยู่เกือบปลายสุดโต๊ะก็เอ่ยขึ้นพร้อมมือที่ชูขึ้นไม่พ้นศีรษะ แต่นั่นก็เรียกสายตาทุกคนให้ไปกองรวมกันที่เขาได้ทันที

“หนูผึ้ง!! / ไอ้ผึ้ง!!” นานาจิตตังชื่อเขาที่ทุกคนจะเรียก เอื้องผึ้งยิ้มแหยๆให้กับพวกคุณตำรวจที่ตบมือกันฉาดๆแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกันเป็นทิวแถว จะยกเว้นก็แต่คนเดียว หนุ่มร่างสูงในเสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำที่ยืนอยู่หัวโต๊ะค้ำหัวผู้กำกับอยู่นั่นแหละ...จ้องเสียอย่างกับเขากำลังเปิดยัติที่ประชุมใหม่ แล้วเป็นหัวข้อร้ายแรงระดับชาติซึ่งชายหนุ่มจะเป็นตัวตั้งตัวตีเป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน เพื่อยับยั้งยัติของเขาไม่ให้ผ่านที่ประชุมเสียอย่างนั้นล่ะ
 
“...คุณมีปัญหาอะไรไม่ทราบครับ ผู้กองวายุ...” นี่ก็อีกเรื่องที่ทำให้เอื้องผึ้งอึ้งเป็นคำรบสอง หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้วเห็นนายตำรวจจอมกวนโทสะกำลังยืนสุมหัวอยู่กับพวกตำรวจยศสูงนั่นก็ทีหนึ่งแล้ว เขายังได้รับการแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการกับคุณพี่ท่านซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงผู้กอง...ร้อยตำรวจเอกวายุ รวิสุต...โดยท่านผู้กำกับสน.อานนท์โดยตรงอีกต่างหาก

“ไม่ทราบว่าก่อนออกจากบ้านทุกครั้งนี่เคยมองตัวเองแก้ผ้าในกระจกบ้างรึเปล่าครับ คุณดารินทร์ บุศวรรณ”

            บอกให้เขาดูตัวเองแก้ผ้า ยังไม่โกรธเท่าโดนเล่นชื่อจริง...!

“คุณ...นี่โรคจิตถึงขนาดไปเจาะชื่อจริงผมมาเลยเหรอ...”

“อ้าวๆ ว่าผมโรคจิตแบบนี้ก็สวยสิครับคุณ...” วายุวางปึกกระดาษในมือลงบนโต๊ะดังปึ้ง เอื้องผึ้งเห็นอีกฝ่ายส่งเสียดังแบบนั้นก็ลุกขึ้นเท้าสะเอวฉับแบบไม่ยอมพอกัน

“ผมสวยอยู่แล้วรู้ตัวครับคุณ...!” เด็กหนุ่มขึ้นเสียงบ้าง

              ตำรวจที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเกิดอาการเหวอขึ้นชั่วคราว เมื่อเห็นคนสองคนที่ไม่น่าจะรู้จักกันขึ้นเสียงใส่กันด้วยเรื่องไร้สาระ ส่วนผู้กำกับอานนท์ที่เป็นคนทำให้สองคนนี้รู้จักกันเห็นท่าจะไม่ดีเลยรีบเป็นกรรมการห้ามมวยแยกทั้งสองฝ่ายให้ใจเย็นๆลงเสียก่อน แล้วถือโอกาสแจกแจงงานต่ออย่างใจเย็น

“จะตีกันหรืออะไรผมไม่ว่า แต่ขอให้ออกจากห้องประชุมไปก่อน...มาแตกสามัคคีกันเองแบบนี้แล้วจะได้งานกันมั้ยครับ” ชายสูงประสบการณ์เอานิ้วเคาะโต๊ะสองสามที วายุกับเอื้องผึ้งถึงได้ยอมต่างคนต่างอยู่ แล้วทรุดนั่งลงที่ใครที่มันตามเดิม

           ผู้กำกับอานนท์ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ยกมือเสยผมที่มีอยู่น้อยนิดบนศีรษะให้เปิดเหม่งขึ้นตามสภาพวัยแบบไม่สนใจรักษาภาพพจน์ หุ่นที่ยังดีของท่านทำให้ทุกคนรู้ว่า ถึงแม้ผมบนศีรษะจะโบกมือลาเกษียณอายุออกไปตามวัย แต่กล้ามแขนและหน้าท้องของท่านก็ยังทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ พร้อมลงภาคสนามวิ่งตามตำรวจหนุ่มๆออกไปจับโจรได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งบุคลิกภาพที่เป็นกันเองกับลูกน้อง เลยทำให้ตำรวจทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าให้ความเคารพผู้กำกับท่านนี้อยู่ไม่น้อย

           ดวงตาคมติดดุเล็กๆเหลือบมองไปพิจารณาคนที่ถูกเขาเรียกตัวเข้ามาช่วยงาน และอาสาเป็นคนช่วยงานได้อย่างน่าชื่นชม ในสมองคิดไตร่ตรองสถานการณ์เพื่อหาข้อสรุปในการทำภารกิจนี้ให้ออกมาดีที่สุดก่อนจะเอ่ยออกมาว่า

“เอาเป็นว่าตอนนี้ เอื้องผึ้งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา...เรื่องฝีมือคอมพิวเตอร์และพวกเทคโนโลยีนี่ไม่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว...แต่ผึ้ง ลุงว่างานนี้รูปร่างอย่างผึ้งคงจะปลอมตัวไปเป็นคนสวนไม่ไหวหรอก ทั้งขาวทั้งผอมขนาดนี้...แต่ถ้าเป็นแม่บ้านก็อาจจะพอไหว...”

             ท่านผู้กำกับพูดเองก็ดีดนิ้วดังเปาะเอง สายตาตวัดมองรูปร่างเอื้องผึ้งตั้งแต่ช่วงตัวที่เห็นผ่านโต๊ะและข้างใต้โต๊ะที่พอเดารูปร่างออก แล้วหรี่ตามองอีกคนอย่าครุ่นคิด

“ถ้าให้เจ้าผึ้งมันปลอมตัวเป็นผู้หญิงนี่คงจะเนี๊ยบจนแยกไม่ออกแน่ๆ แต่ว่ามันจะอันตรายเกินไป...เพราะรูปร่างหน้าตาแบบนี้แทนที่จะได้ไปเป็นแม่บ้าน อาจโดนลากไปเป็นเนื้อสดให้พวกมันส่งขายเอาแทนแน่ๆ...” สิ้นคำท่านผู้กำกับ ตำรวจที่นั่งอยู่รายล้อมก็พยักหน้าเห็นด้วยกันเป็นแถว “...ที่สำคัญ เจ้าเต้คงไม่ยอมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าฉันใช้งานรุ่นน้องมันให้ไปทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้...”

             จู่ๆคนที่ยืนค้ำอยู่หัวโต๊ะก็ยืนยืดตัวตรงพร้อมมองไปข้างหน้า ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน จนเอื้องผึ้งเริ่มมองเห็นรัศมีการตำรวจของนายจอมโจรโรคจิตขึ้นมานิดๆ

“ท่านครับ...ถ้างั้นผมขออนุญาต ปลอมตัวเข้าไปเป็นคนสวนเองครับ...ส่วนเอื้องผึ้ง ก็ให้ปลอมตัวไปเป็นแม่บ้านเหมือนอย่างที่ท่านว่า...ส่วนวิธีที่จะทำให้เอื้องผึ้งไม่ตกไปเป็นเป้าให้พวกมันล่อลวงเอาไปขายก็ง่ายๆครับ...แค่ให้เราสองคนปลอมตัวไปเป็นผัวเมีย ที่สำคัญให้เมียผมท้องด้วย...แค่นี้เราก็รอดแล้วครับ...”

             สิ้นคำวายุ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สองสามคนมีแววตาราวเพิ่งค้นพบแสงสว่าง ส่วนนายตำรวจชั้นผู้น้อยอีกสี่ห้าคนที่อยู่ในห้องนั้นถึงกับยืนขึ้นปรบมือ มีเอื้องผึ้งผู้โดนโยงเข้าไปเอี่ยวแบบไร้สิทธิ์ไร้เสียงเพียงคนเดียวที่อ้าปากค้าง อึ้งกับแผนการณ์ที่จอมโจรโรคจิตคิดขึ้น

             ...ไม่ทราบว่าคุณใช้ดัชนีหัวแม่เท้าของคุณคิดหรืออย่างไรกันครับนี่!!!...

             ถ้าไม่เกรงใจศีรษะที่เริ่มล้านของท่านผู้กำกับอานนท์นะ เขาคงกระโดดถีบขาคู่ด้วยระยะไกลแต่มั่นใจว่าแม่นยำไปแล้วนะเนี่ย...

“ดะ...ดะเดี๋ยวก่อนครับ ไม่มีท่านไหนคิดจะถามความสมัครใจจากผึ้งก่อนเลยเหรอครับเนี่ย...ผมถูกเรียกให้มาช่วยสืบราชการนะครับ! ไม่ได้ถูกเรียกให้มาเป็นเมียไอ้หมอนี่นะ...!!”

“เอาน่าไอ้ผึ้ง...ถือเสียว่าลุงขอร้อง งานนี้ถ้าเราทำสำเร็จได้เราจะกวาดพวกคนใหญ่คนโตให้ตกเก้าอี้กันได้เป็นแถวเลยนา...บุญใหญ่นะไอ้ผึ้ง...”

“แต่...!” จะค้านก็ไม่ทัน แรงผึ้งงานตัวน้อยๆจะไปสู้กับแรงผึ้งหลวงยกรังได้ยังไง

          ผลสรุปสุดท้ายก่อนออกจากห้องประชุมจึงเป็นวันและเวลาที่เขาจะต้องเริ่มออกทำงานเสียอย่างนั้น

           ระหว่างที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งสี่ห้านายเดินออกจากห้องประชุมไปหมดแล้ว เอื้องผึ้งก็เดินลงส้นเข้าไปคว้าแขนนายตำรวจใหญ่เจ้าแผนการณ์ที่หาเรื่องมาให้เขาไม่ได้หยุดได้หย่อนให้หันมาเผชิญหน้ากัน พออีกฝ่ายหันมาเด็กหนุ่มก็ซัดคำถามเปรี้ยงเข้าให้

“...คุณต้องการอะไร งานนี้...ผมทำเองคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาช่วยวางแผนบ้าๆอะไรแบบนี้หรอก...” ถามออกไปตาขุ่น มือก็หยากหยิกให้อีกฝ่ายเลิกทำสีหน้าอมยิ้มนิดๆแกมเจ้าเล่ห์นั่นเสียที

“บ่นอะไรของคุณ...ฮึ ที่รัก...” คนร่างสูงเอานิ้วมาปาดคางคนเตี้ยกว่าให้เงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ก่อนจะยิ้มใส่ตาอีกคนตาหยี

“ทะ...ที่รัก...เหรอ สมองผู้กองนี่...เพี๊ยนไปแล้วเหรอฮะ” เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนี ทันเหลือบเห็นคุณตำรวจสองสามนายที่กำลังเก็บจอโปรเจกเตอร์แต่ยังไม่เรียบร้อยดีหันมองพวกเขาแล้วขำกันเป็นแถว

             ...จะหน้าหนาไปถึงไหนเนี่ยไอ้ตำรวจบ้านี่.!..

“ไม่ได้เพี๊ยน พี่แค่ซ้อมเอาไว้เฉยๆไงจ๊ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็ต้องทำลูก...เอ๊ย มีลูกด้วยกันแล้วด้วย ถ้าไม่ซ้อมเอาไว้บ่อยๆเดี๋ยวความแตกแล้วมันจะยุ่งนะ...ที่รัก”

“ไอ้...!!!” เอื้องผึ้งกำมือยกขึ้นเหนือศีรษะ อยากปล่อยหมัดออกไปตรงข้างแก้มสากนั่นแรงๆซักที ถ้าไม่ติดว่านี่ยังอยู่ในสน.แล้วตำรวจก็เดินกันยั้วเยี้ยนะ คงได้มีช้าง(ผึ้ง)กระทืบโรง(พัก)กันมั้งล่ะ!

“อ๊ะๆ อย่านะที่รัก ทำร้ายสามีแบบนี้ผิดกฎหมายครอบครัวนะครับ...อีกอย่าง อย่าขยับแรงนักสิ เดี๋ยวแท้งลูกขึ้นมาแล้วมันจะยุ่งนะคุณ ผมยิ่งไม่มีเวลาทำลูกคนใหม่กับคุณแล้วเสียด้วยสิ...ที่รัก...”

“ที่รัก...ที่รักงั้นเหรอ...ก็ได้ อยากให้เป็นนักก็จะเป็นให้...ที่รักขา...” พร้อมกับที่พูดเข่าของเอื้องผึ้งก็รู้สึกคันขึ้นมายิบๆ เด็กหนุ่มวาดแขนขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายแล้วดึงรั้งลงมาใกล้อย่างกล้าหาญชาญชัย ก่อนจะสวมวิญญาณนักแสดงมือโปรโปรยยิ้มหยดย้อยที่สอยพวกตาแก้หนังเหี่ยวลงพุงให้ยอมคายความลับมาได้นักต่อนักแล้ว ให้มันรู้ไปสิว่าไอ้หมอนี่มันจะไม่ยอมหลงเขาอีกคน

“เขาไม่อยากเรียกตัวเองว่าที่รักเลยอ่ะ...ขอซ้อมเรียกว่า...ผัวขา...เอาไว้ก่อนได้มั้ยคะ ผัวขา...”

              พลั่ก!

“โอ๊ย!!!”

“ผัวขาๆ...ชอบไม่ใช่เหรอฮ๊ะ ไอ้ตำรวจบ้ากาม โรคจิต...!”

“นี่เธอ!!! ไอ้เด็กบ้า!! แทงเข่ามาได้...ลูกชายฉันมีเนื้อมีหนังนะโว้ย ไม่ใช่สากกระเบือ!!!”

“ผัวขา...ไม่เอานะไม่บ่น เมียจ๋าไม่ชอบผัวขี้บ่นนะคะ...ส่วนลูกชายจอมดื้อของผัวขาเนี่ย เดี๋ยวเมียค่อยปลอบใจให้วันหลังนะ...วันนี้เมียต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ เดี๋ยวลูกเราไม่แข็งแรง เมียไปก่อนนะ...” เอื้องผึ้งเอ่ยประโยคข้างต้นด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน ก่อนจะจบท้ายด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่ตั้งใจให้ได้ยินกันแค่สองคน (ทว่าคนอื่นๆที่ยืนอยู่ไม่ไกลกลับได้ยินชัดเต็มสองหูเลยทีเดียว)

             วายุเอามือกุมเป้ายืนตัวงอ บรรดานายตำรวจชั้นประทวนยืนกลั้นขำเจ้านายกันเป็นทิวแถวแต่ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาให้นายตำรวจยศใหญ่ต้องเสียหน้ามากไปกว่านี้

“ผู้กองครับ ไปแกล้งหนูผึ้งเขาแบบนั้นเดี๋ยวเขาไม่ช่วยงานเราขึ้นมานี่ จะยุ่งนะครับ...รายนั้นน่ะมือหนึ่งด้านคอมพิวเตอร์เลยนา บางครั้งระบบคอมสน.เราล่มหนูผึ้งก็มาช่วยซ่อมให้เลยนะครับ...แล้วยัง...”

“พอๆจ่า...ไม่ต้องมาพล่ามเรื่องไอ้เด็กบ้านั่นให้ผมฟังอีก นี่จ่าเป็นตำรวจเหมือนผมนะ ทำไมไม่เข้าข้างผมเนี่ย นี่ผมเกือบต้องกลายเป็นหมันก็เพราะเด็กนั่นนะจ่า...”

“เอาน่าผู้กอง ผู้กองก็ไม่น่าไปแกล้งเขาอย่างนั้นก่อนเลยนะครับ”

“ผมไม่ได้แกล้ง ผมแค่ต้องการซ้อมบทก่อนลงสนามจริงก็เท่านั้นเอง”

“แหม่ผู้กอง...แถได้แถไปนะครับ” คนยศจ่าแต่ไม่เกรงอำนาจคนยศผู้กองยังมีการหัวเราะแถมเข้าให้ วายุได้แต่ชี้หน้าคนเป็นจ่าด้วยสายตา ก่อนจะฝากรอยแค้นไปทางประตูที่ร่างขาวๆบางๆเพิ่งเดินหัวเราะออกไปก่อนหน้านี้

“เป็นแค่ผึ้ง แต่คิดจะต่อกรกับราชสีห์งั้นเหรอ หึหึ...คอยดูเถอะ พ่อจะถอนเหล็กไนออกให้หมดทั้งตัวเลยคอยดู” ทิ้งคำอาฆาตเอาไว้แต่ก็ได้ยินอยู่แค่คนเดียวนั่นเอง

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2013 08:08:05 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์


               เอื้องผึ้งแจ้งเรื่องทุกอย่างและภารกิจใหม่ให้แก่พี่ๆทุกคนทราบ แน่นอนว่าทุกคนมีแต่คำคัดค้าน แต่ก็แค่ในตอนแรกเท่านั้น เพราะสุดท้ายเอื้องผึ้งก็อาศัยลูกดื้อผสมลูกอ้อนเอาชนะคำคัดค้านทั้งหมดมาได้ แต่ก็ไม่วายที่ทุกคนจะเจ้ากี้เจ้าการแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้า ทั้งบังคับให้เขาติดเครื่องดักฟังที่ตัวเองแล้วส่งสัญญาณให้พี่ๆทราบตลอดเวลา ทั้งการเตรียมความพร้อมที่ต้องผ่านการเทสต์จากพี่ๆเสียก่อน และยังอื่นๆอีกมากมายที่เอื้องผึ้งเหนื่อยจะสาธยายและจดจำข้อกำหนดทั้งหมด เพื่อให้ผ่านการอนุญาตในการทำภารกิจในครั้งนี้

               เอื้องผึ้งมีเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อนจะเริ่มงานจริง ซึ่งนั่นถือเป็นช่วงหฤโหดยิ่งกว่าการฝึกรด.เสียอีก ซันเซ็ตรับหน้าที่เป็นคนจัดการเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม นมปลอม ท้องปลอมและไฝปลอมให้

             ส่วนเตยหอมเป็นคนช่วยฝึกฝีมือด้านการทำอาหารให้เอื้องผึ้ง เด็กหนุ่มต้องเรียนรู้วิธีการทำอาหารทั้งคาวหวาน อาหารเอเชียและขนมจากต่างประเทศ โชคดีที่เอื้องผึ้งเองพอมีเซนส์ด้านรสอาหารอยู่บ้างเพราะเคยทำอาหารง่ายๆทานเองมาก่อน ด่านนี้เลยไม่ค่อยเป็นอุปสรรคซักเท่าไหร่

             ส่วนเรื่องสำคัญอย่างการทำงานบ้าน จัดดอกไม้ เทคนิคการซักผ้าและอื่นๆที่ตำแหน่งแม่บ้านสมควรเรียนรู้ก็เป็นหน้าที่ของดอกรัก ซึ่งนี่ก็เป็นอีกด่านที่เอื้องผึ้งยอมรับว่ามันหนักหนาเอาการอยู่พอสมควร เพราะรายละเอียดการทำงานบ้านเช่นการซักผ้า เพราะการจำวิธีขจัดคราบต่างๆบนเสื้อผ้านี่ มันช่างหนักหนายิ่งกว่าการท่องจำตารางธาตุเสียอีก

             ส่วนฉัตรฟ้าก็เป็นคนที่คอยตัดสินว่าเอื้องผึ้งผ่านการเตรียมตัวในแต่ละด่านอย่างสมบูรณ์แบบเพอร์เฟคร้อยเปอเซนต์หรือไม่

              นอกจากนี้แล้ว บริษัท Forever Love Wedding Studio ก็ยังได้ต้อนรับแขกแปลกหน้าอีกหนึ่งหนุ่มที่มาร่วมเรียนรู้ภารกิจเตรียมตัวต่างๆกับเอื้องผึ้งด้วย แน่นอนว่าเขาคือร้อยตำรวจเอกวายุ

            ชายหนุ่มถูกแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่ได้รับภารกิจ แน่นอนว่าสี่หนุ่มที่เหลือแห่งบริษัทรับจัดงานแต่งมีอาการไม่ไว้วางใจและไม่ค่อยเป็นมิตรกับวายุซักเท่าไหร่ ไม่สิ...ต้องบอกว่าทั้งห้าหนุ่มมากกว่า เพราะเอื้องผึ้งเป็นอีกคนที่ไม่ไว้วางใจและเกลียดขี้หน้าวายุอย่างกับอะไรดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเอื้องผึ้งไม่รู้ว่าวายุไปใช้มนต์มหาเสน่ห์ของสำนักไหนมาพรมใส่พวกพี่ๆของเขา เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วัน วายุก็เนียนทำตัวเป็นหนึ่งในสมาชิกของบริษัทเขาไปได้เรียบร้อยโรงเรียนนายตำรวจวายุ พี่ๆทั้งสี่คนมีอาการเปลี่ยนไป ทั้งเข้าข้างและไว้ใจนายวายุขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ วันสุดท้ายก่อนที่เขาจะลงมือเริ่มทำภารกิจ พี่ฉัตรและพี่ซันมีการจัดพิธีอวยชัยให้พร ส่วนเตยหอมและดอกรักก็มีการผูกข้อไม้ข้อมือแถมให้ตะกรุดอย่างดียัดใส่ฝ่ามือเขาและนายตำรวจวายุมาคนละอันอีกต่างหาก นี่ถ้ามีการส่งตัวเข้าหอด้วยก็จะครบสูตรบริบูรณ์งานแต่งเลยทีเดียว...

                 คิดบ้าอะไรของแกวะไอ้ผึ้ง!! นี่มันงานเว้ยงาน...ท่องไว้ๆ ทำงานๆ...ไม่ใช่งานแต่ง...ไม่ใช่ๆ

                เอื้องผึ้งเอามือทุบหัวตัวเองจนเตยหอมที่นั่งรถมาข้างกันหันมองเขาแปลกๆ เด็กหนุ่มหันไปยิ้มแหยๆให้ก่อนจะกลับมานั่งเจี๋ยมเจี้ยมตามเดิม

              วันนี้คือวันที่เขากับนายคุณตำรวจนั่นวางแผนจะเข้าไปสมัครงานที่บ้านนั้นด้วยกัน เขาต้องตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่เช้า เมื่อคืนก็นอนไม่พอเพราะโดนซันเซ็ตซ้อมทวนขั้นตอนการปลอมตัวจนถึงตีสาม ให้ตายเถอะ! นี่วันเวรกรรมอะไรของเขาเนี่ย...

              ฉัตรฟ้าเป็นคนขับรถพาทุกคนในบริษัทมาส่งเอื้องผึ้งตรงจุดนัดพบที่บริเวณซอยถัดจากบ้านเป้าหมายมาหนึ่งซอย โดยที่ใต้ต้นมะพร้าวตรงข้ามร้านชำ มีร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดมอซอกับกางเกงยีนส์ขาดๆเก่าๆยืนเต๊ะจุ๊ยอยู่ข้างรถบิ๊กไบค์คันที่เอื้องผึ้งเคยซ้อน ดูท่าทางมันช่างขัดกันอย่างน่าสงสัยเป็นที่สุด แต่ดีนะที่คนที่อยู่รายรอบตอนนี้ส่วนใหญ่มีแต่สายตำรวจ ทั้งพ่อค้าขายฝรั่งดอง คนกวาดถนน หรือแม้แต่คนที่นั่งดื่มกาแฟโบราณอยู่ในร้านของชำกึ่งร้านอาหารเช้านั่นก็ใช่

“คุณวายุ มานานแล้วเหรอครับ...” ฉัตรฟ้าที่ลงมาจากรถก่อน เอ่ยปากทักทายชายหนุ่มร่างสูง ซึ่งเขาเริ่มคุ้นเคยเพราะเจอที่บริษัทแทบทุกวันในระยะหลังอย่างสนิทสนม

“ไม่หรอกครับ ผมก็เพิ่งมา...” คนพูดเอ่ยปากตอบฉัตรฟ้า แต่สายตานั้นมองเลยเข้าไปในรถ ซึ่งแน่นอนว่าคู่สนทนาก็จับสังเกตอาการนั้นได้เป็นอย่างดี ก็เลยเอ่ยทักประโยคต่อมาอย่างรู้ใจ

“...ปล่อยให้คุณเมียเขาได้ท้องซักพักหนึ่งเถอะครับ เดี๋ยวท้องเบี้ยวขึ้นมานี่อันตรายนะ...” คนพูดเอ่ยจบก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย วายุหันมองคนพูดแล้วเอามือเกาท้ายทอยแก้เขิน ปกปิดอาการอายที่ถูกรู้ทันว่าเขานั้นกำลังรอคอยการมาของผู้ร่วมภารกิจอย่างใจจดใจจ่อ

“เอ่อ...แล้วอุปกรณ์...” วายุทำเป็นเสเปลี่ยนเรื่อง ถามหาอุปกรณ์ที่เขาต้องถือเอาติดตัวเข้าไปในบ้าน ซึ่งฉัตรฟ้ายังส่งสายตารู้ทันให้เขาอยู่ดีแต่ก็หันไปกวักมือเรียกเตยหอมและดอกรักให้ขนของลงมาให้

            ซึ่งสองหนุ่มต่อมาที่ลงจากรถมีกระเป๋าเป้สีดำเก่าๆพร้อมกระเป๋าเดินทางทำด้วยผ้าสองใบหิ้วติดมือมาให้ แต่ดูเหมือนกระเป๋าเดินทางทั้งสองใบนั้นจะค่อนข้างหนักอยู่พอสมควร วายุเลยเห็นทั้งเตยหอมและดอกรักช่วยกันหิ้วมาด้วยกัน

“เสื้อผ้าแล้วก็อุปกรณ์ปลอมตัวต่างๆอยู่ในกระเป๋าเป้นี้นะครับ ส่วนกระเป๋าสองใบนี้ เป็นอุปกรณ์ต่างๆของเจ้าผึ้งมัน พวกผมเอาพวกผ้าขาวม้าแล้วก็ผ้าถุงคลุมๆข้างนอกเอาไว้ ถ้าเขาค้นแบบผ่านๆรับรองว่าไม่มีทางเห็น...” ฉัตรฟ้าเอ่ยอธิบายระหว่างที่เห็นวายุลองยกถือกระเป๋าทั้งหมดแล้วทำหน้ายุ่ง

“มันมีพวกคอมพิวเตอร์แล้วก็อุปกรณ์กล้องวงจรปิดอะไรพวกนี้ของเขาน่ะครับ พวกผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ของเขานักหรอก ก็ช่วยเขาเท่าที่ทำได้...” เตยหอมอธิบายเพิ่มเติม นัยน์ตาฉายแววกังวลปิดไม่มิด ซึ่งวายุก็รับรู้ถึงความเป็นห่วงของพี่น้องร่วมบริษัทนี้ได้ดีตั้งแต่ที่ได้แอบเข้าไปตีสนิทกับทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มจึงเอากระเป๋าเป้ขึ้นพาดบ่า หิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบไว้ได้ในมือเดียว ก่อนจะส่งยิ้มมั่นใจให้กับทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“อย่างที่ผมเคยบอกพวกคุณไว้...ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงผมกับเขาจะเพิ่งเจอกันได้ไม่นาน แต่รับรองว่าผมจะปกป้องและดูแลเขาอย่างดีที่สุด ทั้งในฐานะตำรวจและเพื่อนมนุษย์ด้วยกันพึงกระทำ”

“มากกว่านั้นก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ...แต่เอาเถอะ ยังไงก็ฝากเจ้าผึ้งเขาด้วยนะครับ ถึงจะปากไวไปหน่อย แต่ก็เป็นคนดี พวกผมคิดหนักมากนะครับที่ปล่อยให้เขามาทำงานนี้ แต่เพราะผู้กองยอมรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดีพวกเราเลยยอมให้มา...แต่อย่างที่บอก เรามีเวลาให้ผึ้งทำงานนี้ได้แค่เดือนเดียว เกินจากนั้นเราจะมารับน้องเรากลับทันทีนะครับ...” ดอกรักกำชับซ้ำอีกครั้ง จนเมื่อได้เห็นวายุพยักหน้ารับคำหนักแน่นจึงค่อยวางใจลงได้บ้าง

              ระหว่างนั้นทั้งสามคนยังมีการฝากฝังเอื้องผึ้งอยู่อีกหลายประโยค จนเมื่อมีเสียงบานประตูรถตู้ที่จอดนิ่งอยู่ดังขึ้น ทุกคู่สายตาจึงจดจ่อไปที่ผู้มาใหม่ซึ่งกำลังลงมาจากรถ

            คนที่ลงมาก่อนเป็นซันเซ็ต ในมือยังถือตลับแป้งและหวีสางผมเอาไว้ ชายหนุ่มลงมายืนที่พื้นเรียบร้อยก็ส่งมือให้คนในรถได้จับเพื่อช่วยประคองตัวเองลงมา ร่างน้อยดูอุ้ยอ้ายขึ้นมานิดๆ เมื่อตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในชุดคลุมท้องสีฟ้าหม่น และแน่นอนว่าบริเวณท้องมีกองผ้าที่ซันเซ็ตเย็บให้คล้ายถุงปลอกหมอนเพื่อให้สะดวกในการถอดและใส่เพียงแค่รูดซิปด้านหลังติดอยู่ เขาทำแค่ให้พอดูนูนๆเหมือนคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ประมาณสี่ห้าเดือนเท่านั้น ผิวขาวๆของเอื้องผึ้งถูกทาด้วยครีมกันแดดผสมครีมรองพื้นเบอร์ผิด เพื่อให้ได้สีผิวที่คล้ำกว่าความเป็นจริง ที่สำคัญเพื่อให้ความสวยสดงดงามยามแต่งหญิงของเอื้องผึ้งไม่ไปเตะตาคนในบ้านเป้าหมายมากนัก ไฝเม็ดเบ่อเริ่มจึงถูกนำมาติดเพิ่มที่ข้างแก้ม ทำให้เอื้องผึ้งในตอนนี้แลดูเป็นสาวบ้านนอกท่าทางจนๆ เมื่อบวกกับผมยาวจากวิกและการแสดงขั้นเทพที่เจ้าตัวถนัด ก็ทำให้วายุลืมเจ้าผึ้งคนเก่าที่เคยเห็นทั้งตอนแรกที่ปลอมเป็นเด็กโคโยตี้ คนคุมเครื่องเสียงงานแต่งงาน และเจ้าผึ้งที่เคยซ้อมด้วยกันเมื่อสี่ห้าวันก่อนไปเลย

“อึ้งเลยล่ะสิผู้กอง...เอาเมียมาให้ อ่ะ...ประคองดีๆนะเมียท้องอยู่ เดี๋ยวลูกหลุด” ซันเซ็ตยังไม่วายตบท้ายด้วยมุขแซวเอาขำ แต่กระนั้นมุขเขาก็ไม่ขำเท่าใบหน้าคุณตำรวจที่นิ่งอึ้ง มองหน้าเอื้องผึ้งได้แบบเหวอมาก ดวงตาคมหลุบลงสำรวจร่างรุ่นน้องเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วไปจบที่ท้องป่องๆที่เจ้าตัวกำลังยกมือประคองเอาไว้ข้าง ส่วนอีกข้างก็ยกประคองเอวตัวเอง

             ...มันน่าส่งเข้าวงการจริงๆ สวมจิตวิญญาณเสียเหมือนเป๊ะ นี่ขนาดยังไม่ทันได้เริ่มงานเลยนะเนี่ย...

“นี่ไอ้ผัวเฮงซวย...จะยืนมองอีกนานมั้ยเนี่ย ฮ๊ะ...ทำไมยังไม่เข้ามาประคองอีก เกิดหกล้มหกลุกไปจะว่ายังไง...มีผัวผิดนี่คิดจนตัวตายจริงๆเล้ยอีผึ้ง!!”

               ทว่าประโยคแรกที่ออกมาจากปากของคนเจ้าบทบาทกลับทำให้คนรอบข้างสะดุ้งเฮื้อกสุดตัวกันเป็นแถว พ่อเจ้าประคุณเล่นเลียนแบบคำพูดแม่ค้าปากตลาดมาอย่างกับเคยมีประสบการณ์มาก่อน ขนาดคนที่เคยซ้อมรับบทเป็น ‘ผัว’ มาก่อนยังเผลอออกอาการเหวอแตกกับการเล่นเสียสมจริงของเจ้าตัวเลย แล้วแบบนี้มันจะไม่เผลอหลุดพิรุธให้คนเขาจับได้ว่าเป็นสามีภรรยากำมะลอกันหรือ

“เอ่อะ...เอ้อ จ้า...เมียจ๋า ผัวขอโทษนะ เอ้าเดินๆดีสิเดี๋ยวกระเทือนลูกในท้อง ผัวเสกเด็กเข้าไปใหม่ก็ไม่ได้คนเดิมแล้วนะจ๊ะเมียจ๋า โอ๋...” คนพูดรีบกลับเข้าสวมบทบาท ‘ผัว’ ที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทันควันเหมือนกัน ชายหนุ่มพูดพลางรีบเดินเข้าไปประคองร่างเอื้องผึ้ง ทำประจบแล้วลูบมือไปมาบนหน้าท้องนูนน้อยๆของเด็กหนุ่มอย่างคนเป็นผัวที่ดีอกดีใจเพราะเมียท้อง

              ตายๆ...ใครจะคิดว่าผู้กองวายุเองก็ใช่ย่อย เล่นเข้าถึงบทบาทเข้าขากับเจ้าผึ้งมันเนียนกริบเสียขนาดนี้ ซันเซ็ตเหลือบมองฉัตรฟ้าและน้องๆ ก็เจอสายตาออกแนวเกือบปลงในแบบเดียวกัน...

“ก็ดีแล้วล่ะ เป็นอย่างนี้จะได้มั่นใจหน่อยว่าสองคนนี้จะเล่นละครตบตาพวกมันได้สนิท” ดอกรักหันไปมองสมาชิกที่เหลือ

            ไม่ต้องร่ำลาพูดพร่ำทำเพลงให้มากความ เอื้องผึ้งหันมามองสบตากับทุกคนแล้วส่งสายตาประมาณว่า...เขาจะเริ่มทำงานแล้วนะ ฝากที่เหลือด้วย...ซึ่งทั้งสี่หนุ่มที่เหลือแห่งบริษัท Forever Love ก็เข้าใจ เลยได้แต่พากันโบกมือลาน้อยๆแล้วเดินกลับเข้าไปประจำที่นั่งในรถเพื่อเตรียมแยกย้ายกลับถิ่นฐาน ทว่ายังไม่ทันที่ฉัตรฟ้าจะได้ถอยรถกลับ ก็มีรถสัญชาติยุโรปสีเทาดำขับเข้ามาจ่อท้าย จนทำให้เขาถอยรถกลับออกไปไม่ได้ พอชะโงกหน้าออกไปตั้งใจจะด่า ก็พบใบหน้าหล่อคมที่ทำให้สาวแท้สาวเทียมหลงกันหัวปักหัวปำโผล่ออกมาจากที่นั่งคนขับ แล้วตามด้วยรูปร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองที่ก้าวขาลงมาจากรถด้วยท่าทางเร่งรีบ

“คุณเต้...” ฉัตรฟ้าพึมพำ น้องๆเพื่อนๆอีกสามคนที่นั่งมาด้วยกันเลยจ่อหน้ามามองเจ้าของชื่อกันใหญ่ แต่กระนั้นคนชื่อเต้ผู้มาใหม่กลับเดินผ่านรถของฉัตรฟ้า ตรงแน่วไปที่เอื้องผึ้งซึ่งมีผู้กองวายุประคองอยู่บริเวณเลยต้นมะพร้าวไปหน่อยนั่นแทน ฉัตรฟ้าก็เกาหัวแกรกเพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มาเจอรุ่นพี่ของรุ่นน้องตัวเองเอาที่นี่

               ส่วนนาวาอากาศเอกทินภัทร์ซึ่งรีบบึ่งรถออกมาจากบ้านทันทีที่ได้ทราบจากบิดา ว่ารุ่นน้องกำลังจะเริ่มภารกิจใหญ่วันนี้ก็ตรงเข้าไปหาเอื้องผึ้งทันทีแบบไม่มีอาการลังเล การปลอมตัวของเอื้องผึ้งถูกมองออกได้ไม่ยากเพราะเขาจำวิกอันนั้นที่เจ้าตัวใช้ประจำได้ หนุ่มนักบินร่างใหญ่จึงคว้ามือเอื้องผึ้งที่ถูกประคองโดยวายุก่อนหน้านี้มาจับแล้วพร่ำคำพูดราวก๊อกแตกออกมาทันทีไม่มีการทักทาย

“ผึ้ง...พอพี่รู้จากพ่อว่าผึ้งจะเข้าไปบ้านนั้นวันนี้พี่ก็รีบมาเลย ระวังตัวขั้นสูงสุดเลยนะผึ้ง เอาโทรศัพท์ติดตัวเข้าไปรึเปล่า ช่วงนี้พี่พักอยู่ ถ้ามีอะไรรีบโทรบอกพี่ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเข้าใจรึเปล่า ห้ามทำอะไรเสี่ยงๆ แล้วก็ห้ามทำอะไรเกินกำลังของตัวเอง แล้วก็ห้าม...”   

“มะ...หม่อมพ่อ หยุดก่อนเถิดขอรับ กระผมจดจำสิ่งที่หม่อมสั่งมาไม่หมดหรอก เอาเป็นว่า...ขอบคุณมากที่มาส่ง แล้วกระผมจะดูแลตัวเองให้อย่างดีที่สุด โอเคมั้ยขอรับ...” น้ำผึ้งยกนิ้วทำมือโอเค แต่ก็ได้แค่แป๊บเดียว เมื่อวายุที่ยืนอยู่ใกล้กันรีบเอามือมาจับมือเขาข้างนั้นไปถือไว้ แล้วดึงคนตัวเล็กกว่าให้มาหลบอยู่ด้านหลังตัวเองแทน

“งานนี้มีผมทำด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ เพราะยังไงผมก็ต้องดูแลเมียตัวเองอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว...” วายุพูดออกมาในแนวก้ำกึ่ง ไม่ว่าคนฟังจะคิดไปอย่างไรเขาก็พอใจทั้งนั้น ไม่ว่าจะหมายถึงเมียในบทบาทละครที่เขากำลังแสดง หรือหมายถึงเมียในบทบาทของชีวิตจริงที่มันยังไม่เป็นจริง

“วายุ ผมรู้ว่าคุณเป็นตำรวจที่เก่ง มีคนอย่างคุณคอยประกบเจ้าผึ้งของผมเอาไว้ผมก็เบาใจ แต่ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ข้างนอกทันทีเลยนะครับ” นักบินหนุ่มนามทินภัทร์ยังไม่วายออกอาการกังวลอย่างออกนอกหน้า โดยไม่มีทีท่าจะสะดุดใจกับคำว่าเมียที่วายุเพิ่งพูดออกไปเลยซักนิดเดียว

“ครับ...ทีนี้พวกผมไปทำงานได้แล้วนะครับ” วายุรีบเอ่ยตัดบท เห็นอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของเจ้าผึ้งเข่าหนักนี่แล้วอยากเอาปากเขาไปหุบยิ้มปากเล็กนั่นซะ ทีกับลูกชายผู้กำกับล่ะยิ้มหวานให้ ทีกับเขาล่ะขู่เอาๆอย่างกับตัวเองเป็นเมียปากตลาดของเขาจริงๆ แบบนี้มันน่านัก...น่าสั่งสอนด้วย...ด้วย...

“ครับ...ผึ้ง ดูแลตัวเองดีๆนะ พี่เป็นห่วง...”

              หืม...เป็นห่วงแต่ผึ้ง แล้วเขาที่ก็ทำภารกิจเดียวกันกับเอื้องผึ้งล่ะ ไม่เห็นมีใครมาออกปากว่าเป็นห่วงและให้ดูแลตัวเองบ้างเลย...ไม่ใช่อิจฉาเจ้าผึ้งหรอกนะ ไม่เลยซักนิด นิดเดียวก็ไม่มีจริงๆ...เอ่อ ยอมรับว่ามีนิดหนึ่งก็ได้ แต่ก็แค่นั้นเองนะ...เอ่อ...อันที่จริงเขายอมรับก็ได้ ว่าเขาแค่ไม่พอใจที่มีคนมาให้ความสนใจกับเจ้าผึ้งของเขามากกว่า...ออกนอกหน้ามากไปแล้วไอ้คุณลูกผู้กำกับ

“งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ...เมีย! ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นแบบนั้นอีกเข้าใจมั้ย...ผัวหึง...รับทราบ!” อาการเปลี่ยนโหมดกะทันหันของวายุทำเอาเอื้องผึ้งงงงันรับมุขไม่ทัน แต่กระนั้นก็ขัดขืนอะไรไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายพูดพลางก็โอบเอวเขาพาเดินพลางเรียบร้อยแล้ว

               เด็กหนุ่มได้แต่ส่งสายอาทรไปที่คนมาส่งรายสุดท้าย ไปจนลับหัวมุมถนนแล้วถึงค่อยได้หันมาสนใจคุณผัวที่แลดูเหมือนจะเล่นได้สมบทบาทจนเกินเหตุไปนิดหนึ่ง...

“นี่คุณ! ทำแบบเมื่อกี๊นี่เสียมารยาทมากเลยนะ เห็นมั้ยว่าผมยังคุยไม่เสร็จ”

“เมีย! ผัวบอกแล้วใช่มั้ยว่าผัวหึง! อย่าทำให้โมโหไปมากกว่านี้ด้วยการสนใจผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัวอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าผัวไม่เตือน...”

“ทำไม...ถ้าสนใจแล้วจะทำไม...” เอื้องผึ้งยังมีลอยหน้าลอยตา

“ก็ไม่ทำไม ผัวแค่อาจจะเสกเด็กเข้าท้องเพิ่มไปเป็นเพื่อนกับลูกคนแรก เมียจะได้ไม่ต้องลำบากเบ่งลูกสองครั้ง เอาครั้งเดียวสองคนไปเลยเป็นไง”

“ไอ้!! ไอ้ผัวเฮงซวย...!! ไอ้บ้ากาม !! ไอ้ตัณหาจัด !!...ไอ้โรคจิต...! ไอ้!!!”

“ไอ้...ไอ้อะไร...ด่าผัวออกมาอีกคำเดียว รับรองเมียได้โดนผัวบดปากโชว์แผงผักนี่แน่ เอายังไง...จะหยุดไม่หยุด”

“...ฮื้อ!!!” เอื้องผึ้งส่งเสียงในลำคอออกมาอย่างขัดใจเป็นที่สุด อย่าให้ถึงทีเขาบ้างนะไอ้ตำรวจบ้า! จะเอาให้ระบมแพ้น็อคเขาเลยคอยดู!! 

                    เอื้องผึ้งก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ...แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเดินจับท้องแล้วลงส้นตรงไปยังประตูรั้วอัลลอยน์ที่อยู่ห่างไปอีกไม่มากนั้นแทน

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :hao6: :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2013 08:06:00 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ Minnie~Moo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
กรีีดจนแทบสลบ เห็นน้องผึ้งอัพแล้วดีใจมว๊ากกก  :mc4:

แหมๆ :-[ คุณตำรวจได้ทีเอาใหญ่เลยน๊า ให้ดีทำให้เป็นเมียจริงๆไปเลย :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
ขอบคุณคนแต่ง ดีใจที่มาต่อให้ อิอิ :o8: :o8:

ตอนนี้แค่ซ้อมๆไว้ก่อนอีกไม่นานคงเป็นจริงใช่ไหมคุณตำรวจ :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ขนาดแค่ซ้อม 555555
ผึ้งสุดยอดจริงๆ
อยากรู้ว่าเข้าไปในบ้านนั้นจะฮาขนาดไหน
รอตอนต่อไปค่ะ  สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มันส์ แน่ๆงานนี้ ติดตามจ้า 555+

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
คู่กัด คู่กัน มันส์แน่ๆสองคนนี้ :laugh:

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :hao5: :hao6: :hao6: :hao6: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai5: :katai5: :ling1: :ling1:


อยากอ่านต่อ เอาใจช่วยคนแต่งนะ อย่าหายไปนาน คิดถึง

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
เอาแล้ว ๆ ๆ  :hao7:  คู่ผัวเมียกำมะลอ แสบสันทั้งคู่ เก่งทั้งคู่ ไม่มีใครยอมใครเลยจริง ๆ
จากฉะกันไปมา เดี๋ยวต้องไปเป็นที่รักกันเนี่ย จะเป็นยังไงน้า ฮุฮุ  :hao6: แค่คิดก็มันส์ล่ะ
แต่คุณผู้กองวายุ เริ่มหลงเสน่ห์ หนูผึ้งของเรารึเปล่าจ้ะ แหม รีบเสนอตัวเองเป็นคุณสามีเชียว
มีแอบหึงพี่เต้เบา ๆ แบบไม่รู้ตัวนะพี่วายุ แต่พี่เต้แสนดี ก็น่าสงสารจังเลยอ่ะ ใครจะมาดามใจให้พี่เต้บ้างน้อ 
รอความมันส์ตอนต่อไปจ้า ชอบจังเลยอ่ะ  ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
สนุกมากจ้าา ติดตามจ้า

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น่าสนุกจังค่ะ

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๕


“แล้วท้องโย้อยู่แบบเนี้ยจะทำงานไหวเหรอ...”

“โอ๊ย ไหวจ่ะไหว...ลูกฉันมันแข็งแรงเหมือนพ่อมันนั่นแหละจ่ะ...นี่ก็เพิ่งสามสี่เดือนเอง ฉันยังทำงานไหวสบายมากเลยจ่ะคุณแว๋ว” เอื้องผึ้งจีบปากจีบคอเอ่ยกับสาวใช้นามแว๋ว ผู้ที่กำลังเดินนำเขากับผู้กองวายุไปที่ห้องพัก หลังจากเพิ่งผ่านการสัมภาษณ์งานจากคุณแม่บ้านใหญ่มาอย่างสดๆร้อนๆ

“วุ้ย! มาคงมาคุณอะไร เดี๋ยวฉันก็อายุสั้นกันพอดี...เรียกพี่แว๋วก็ได้ ท่าทางเราน่าจะอายุอ่อนกว่าฉันอยู่นะ เอ้อ...แล้วชื่ออะไรล่ะ ฉันจะได้เรียกถูก” สาวใช้นามแว๋วอยู่ในชุดแม่บ้านสีขาวดำที่เคยเห็นตามทีวี ดูจากวงหน้าแล้วเอื้องผึ้งคะเนว่า แม่บ้านแว๋วคนนี้คงจะเพิ่งอายุได้ยี่สิบต้นๆเท่านั้น แต่ท่าทางแก่งานคล่องแคล่วว่องไวดี นอกจากนี้แล้วเอื้องผึ้งก็ยังไม่เห็นคนที่ท่าทางจะเป็นแม่บ้านคนอื่นอีกนอกจากคุณแม่บ้านใหญ่ ที่เป็นคนสัมภาษณ์เขาเมื่อกี๊นี่เอง

“ฉันชื่อผึ้งจ่ะ จะเรียกอีผึ้ง ไอ้ผึ้งก็แล้วแต่พี่แว๋วจะเรียกเถอะ...ส่วนนี่ผัวฉัน...เรียกไอ้ลมก็ได้จ่ะ” เอื้องผึ้งต่อบทสนทนาอย่างคล่องแคล่ว วายุเหลือบมองคนคล่องการแสดงอย่างพวกมืออาชีพข้างๆตัวแล้วแอบทึ่ง เริ่มนึกสงสัยขึ้นมาจริงจัง ว่าถ้าเล่นละครเก่งขนาดนี้ทำไมเจ้าตัวไม่ไปสอบเข้าคณะนิเทศน์หรืออะไรพวกนั้นแทน(ว่ะ) ทั้งที่ก็น่าจะรู้ตัวเองดีนะว่ามีพรสวรรค์ด้านนี้ติดตัวมาไม่ใช่น้อย

“อ่อ...ผึ้งกับลม เออเรียกง่ายดี...” แม่บ้านสาวนามแว๋วพยักหน้าเออออ ก่อนจะหยุดลงที่หน้าห้องพักคนงานห้องหนึ่งที่มีป้ายสีน้ำเงินแก่ๆเขียนด้วยปากกาเมจิกตัวโย้เย้แต่พออ่านออกว่า ‘ว่าง’ หญิงสาวรูปร่างท้วมนิดๆล้วงหยิบกุญแจจากกระเป๋ากางเกงออกมาไขล็อกแม่กุญแจหน้าห้อง ก่อนจะยื่นพวงกุญแจพวกเล็กอีกพวงที่มีลูกกุญแจห้อยไว้สองดอกกับเอื้องผึ้ง

“เอ้านี่ กุญแจห้อง...เป็นผัวเมียกันก็อยู่ห้องเดียวกันไปแล้วกัน เมียเอ็งก็ท้องอยู่ เอ็งจะได้ดูแลเมียได้ง่ายๆ” แว๋วบอกก่อนจะเอาพวงกุญแจอันใหญ่มาใส่กระเป๋าไว้ตามเดิม

“จ่ะ ขอบใจมากนะจ๊ะพี่แว๋ว” วายุรับพวงกุญแจมาจากเอื้องผึ้งอีกทีก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมแจกยิ้มให้บางๆ ทว่าแค่นั้นก็ทำเอาสาวร่างท้วมถึงกับหน้าแดงออกได้เหมือนกัน ถึงในบ้านนี้จะมีบอดี้การ์ดหุ่นล่ำๆแมนๆเดินเข้าเดินออกกันเป็นว่าเล่น แต่ไอ้ที่มายืนส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว่หล่อนแบบนี้นี่เพิ่งครั้งแรก ใจสาวเลยหวั่นไหวเป็นธรรมดาแบบช่วยไม่ได้

   ...พ่อจ๋าแม่จ๋า ตั้งแต่เกิดมายี่สิบเอ็ดปี อีแว๋วก็เพิ่งมีผู้ชายหุ่นล่ำๆมายืนส่งยิ้มให้ก็วันนี้แหละ!! เห็นตอนแรกยืนหงิมติ๋มๆไม่ค่อยพูด แต่อย่ามาเผลอยิ้มให้เห็นเชียวนะ แหม่! มันน่าดูชมน้อยเสียเมื่อไหร่ เสียดายที่มีเมียซะแล้ว...เชอะ คนอย่างอีแว๋วถึงจะชอบแค่ไหนก็ไม่ขอเป็นมือที่สามใครอย่างเด็ดขาด

“อะแฮ่ม!” เอื้องผึ้งแสร้งทำเสียงกลั้วคอ เรียกสติของแม่บ้านแว๋วที่ยืนตาลอยมองหน้าผู้กองวายุที่ยืนเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ

   แว๋วรีบกระพริบตาปริบๆสองสามทีเพื่อเรียกสติตัวเองกลับคืน โอ๊ยอีแว๋ว เมียมันก็ยืนคุมอยู่ตรงหน้า ไปเคลิ้มใส่ผัวคนอื่นเขาได้ยังไง ไม่ดีนะไม่ดี...ไม่ ไม่

“แต่ว่าเขาหล่อ...เอ้อ! จะว่าไปแล้วนี่ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเอ็งมีประวัติดี เคยทำงานกับเสี่ยบุญชัยมาก่อน คุณป้าแม่บ้านใหญ่เขาไม่รับเข้าทำงานหรอกนะรู้มั้ย” ประโยคแรกขึ้นมาอย่างตงิดๆ แต่ดีที่เจ้าตัววกกลับหาเรื่องอื่นมาบังหน้าแทนได้อย่างทันควัน เอื้องผึ้งเลยมองหน้าคุณแม่บ้านแว๋วแล้วยิ้มไร้เดียงสาให้เหมือนเดิมเหมือนเมื่อครู่นี้แม่บ้านแว๋วไม่ได้หลุดอะไรออกมาเลยสักจิ๊ดเดียว

“อ๋อจ่ะ แต่ว่าพวกฉันก็โดนไล่ออกมาเพราะฉันท้องเนี่ยแหละจ่ะพี่แว๋ว...” เอื้องผึ้งแสดงอาการเสียใจนิดๆแบบมีจริตไม่เกินงามอย่างแนบเนียน สาวเท้าเดินตามสามีเข้ามาในห้อง แล้วเอามือจับเอวค่อยๆทรุดนั่งลงบนเตียงที่อยู่กลางห้องอย่างช้าๆ

“อ้าว...แค่เอ็งท้องนี่ถึงกับต้องไล่ออกกันเลยเหรอ ทำไมเสี่ยบุญชัยมันถึงโหดจังวะ”  แว๋วเดินตามคู่สองสามีภรรยาเข้ามาในห้อง ก่อนจะยืนเท้าเอวมองอย่างสงสัยพลางออกปากชวนเอื้องผึ้งคุยต่อ ซึ่งเอื้องผึ้งก็ยินดีที่จะตอบ เผื่อว่าจะแอบได้ข้อมูลอะไรออกมาบ้างจากการอาการเผลอหลุดของแม่บ้านแว๋วคนนี้

“อันที่จริงเสี่ยเขาก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอกจ่ะพี่แว๋ว พวกฉันทำผิดกฎของบ้านนั้นน่ะ ที่นั่นเขาห้ามพวกคนงานเอากันเอง แต่ฉันชอบอีผึ้งมันจนทนไม่ไหว ไปดักปล้ำมันที่คูน้ำหลังบ้านเสี่ยเขา...ใครจะไปรู้ว่าน้ำยาฉันดี ทับทีเดียวก็ติดลูก...ฉันกับผึ้งก็เลยต้องออกมาหางานใหม่ทำเนี่ยแหละจ่ะ” พ่อเจ้าประคุณวายุเอ่ยเล่าแบบคล่องปาก ทำเอาคนร่วมเหตุการณ์โดนปล้ำที่คูน้ำหลังบ้านงงเต็ก เผลออ้าปากค้างไปชั่วขณะ ว่าไอ้ที่เตี๊ยมกันมามันไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า...แล้วไอ้คูน้ำหลังบ้านนี่มาจากไหนว่ะ หรือพ่อเจ้าประคุณเธอจะลืมบท! แต่จะให้เอื้องผึ้งกลับไปแก้ไขตอนนี้ก็คงไม่ทัน ต้องเลยตามน้ำอย่างเดียวแล้วล่ะวะไอ้ผึ้ง...

“เอ้อ...จ่ะ ก็อย่างที่ไอ้ผัวเฮงซวยของฉันมันเล่านั่นแหละพี่แว๋ว เพราะมันคนเดียวเลยที่ทำให้ฉันต้องมาตกระกำลำบาก หอบลูกหอบผ่อนมาหางานใหม่ทำเนี่ย ดีนะที่บุญฉันยังมี คุณป้าแม่บ้านเลยเมตตาสงสารยอมให้ฉันกับผัวได้ทำงานที่นี่ด้วยกัน...” เอื้องผึ้งเอาชายแขนเสื้อมาซับน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง เพียงแต่เล่นให้สมบทบาทชีวิตเมียผู้รันทดก็เท่านั้นเอง

“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปล่ะ...จริงๆแล้วที่ป้าแม่บ้านเขารับพวกเธอสองคนเข้ามา ก็เพราะพวกเธอมีประสบการณ์ทำงานกับเสี่ยบุญชัยมาก่อนต่างหาก...เคยทำงานกับเสี่ยมา รู้ใช่มั้ยว่าบ้านเสี่ยเขาทำอะไร”

“...ขายยากับอาวุธเถื่อนจ่ะพี่แว๋ว บ้านที่พวกฉันเคยทำงานให้เคยเป็นแหล่งพักของก่อนส่งออกชายแดนของเสี่ยเขา” เอื้องผึ้งแอบแย็บข้อมูลฝั่งตัวเองออกไปหนึ่งดอก ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลเพราะแม่บ้านแว๋วทำตาหลุกหลิกมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเดินไปปิดประตูแล้วลงล็อกจากข้างในเสร็จสรรพ

“บ้านนี้ก็ทำไม่ต่างจากของเสี่ยบุญชัยเขาหรอก ที่นี่น่ะเป็นแหล่งพักเนื้อสด ก่อนจะส่งออกไปขายเมืองนอกโน่นแน่ะ...นี่ฉันก็บอกไว้ก่อน จะได้ไม่ปากโป้งเที่ยวสงสัยแล้วไปถามใครต่อใครให้โดนไล่ออกไปเหมือนพวกคนใช้ก่อนหน้านี้อีก...” แว๋วเอ่ยเล่าเสียงเบาทั้งที่ก็อยู่กันแค่สามคนในห้องทึบๆพร้อมหน้าต่างแค่บานเดียวเท่านั้น

   วายุและเอื้องผึ้งได้ฟังก็แสดงท่าทางตกใจออกมาอย่างแนบเนียน วายุรีบเข้าไปนั่งข้างภรรยากำมะลอก่อนจะวางมือไปบนหน้าท้องนูนๆของเอื้องผึ้งแล้วเอามืออีกข้างมาโอบเอวเหมือนกอดไว้อย่างหวงแหน

“ถ้าอย่างนั้นก็แย่น่ะสิพี่แว๋ว เมียฉันยิ่งหุ่นดีๆอยู่ด้วย แบบนี้ไม่โดนจ้องเอาไปขายด้วยเรอะ” วายุเอ่ยปากถามน้ำเสียงกังวลปิดไม่มิด แว๋วที่เชื่อการแสดงของสองคนบนเตียงอย่างหมดใจก็ลงไปนั่งข้างเอื้องผึ้งก่อนจะวางมือลงบนไหล่บอบบางของเด็กหนุ่มแล้วแสดงท่าทางเห็นอกเห็นใจออกมา

“ถ้าเมียเอ็งเขาไม่ท้องโย้จนเห็นชัดขนาดนี้กับไม่มีไฝบนหน้าล่ะก็...ฉันก็จะไม่รับประกันเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้นะ ของล็อตที่แล้วมีผู้หญิงท้องอ่อนๆติดมาคน มันพาเอาทำแท้งเสร็จแล้วถึงค่อยส่งไปขายต่อ...ฉันล่ะสงส๊านสงสาร แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง...หลงมาทำงานกับป้าเขาไปแล้วทั้งตัว จะถอนตัวตอนนี้ก็ไม่ทัน เอาตัวเองก็ไม่รอด...เฮ้อ ฉันก็รู้นะว่ามันบาปที่ยังทำงานให้กับคนพวกนี้ แต่จะให้ทำยังไงได้วะ...” แว๋วเล่าไปถอนหายใจเฮือกๆไป

ส่วนเอื้องผึ้งฟังเรื่องที่เล่าแล้วก็พาให้หดหู่ในใจอยู่ไม่น้อย ก่อนจะเริ่มมีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาอีกโข เมื่อคิดได้ว่าถ้าเขาทำคดีสำเร็จจะมีผู้หญิงที่รอดออกไปจากนรกขุมนี้ได้อีกหลายสิบคนแน่ๆ

“เอาน่าพี่ ฉันเข้าใจ...ก็ปากก็ท้องของเราเหมือนกันนี่เนอะ ถ้าไม่ทำเราก็อดตาย...เอ้อพี่แว๋ว พี่พูดอย่างนี้แล้วถ้าวันหนึ่งมีตำรวจเข้ามาช่วยผู้หญิงพวกนั้น พี่จะยอมร่วมมือกับพวกตำรวจเขารึเปล่า...” พูดจบเอื้องผึ้งก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ข้างสะโพก เหลือบมองมาทางคนที่นั่งซ้อนหลังก็เห็นตีหน้ายักษ์รออยู่แล้ว...นี่กล้าหาญชาญชัยขนาดทำร้ายเมียสุดที่รักตอนกำลังท้องได้ลงคอเชียวเหรอวะ ไอ้ผัวเฮงซวย...!!! เดี๋ยวนะเดี๋ยว...รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวเจอฤทธิ์ไอ้ผึ้งแน่!

“วุ้ย! พูดอะไรของเอ็งก็ไม่รู้ไอ้ผึ้ง ฉันจะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยพวกตำรวจเขา ถ้าตำรวจบุกเข้ามาฉันก็ซวยโดนจับไปด้วยอย่างเดียวล่ะ...ไม่เอาละ ฉันรีบไปทำงานอย่างอื่นก่อนแล้วกัน...จำไว้นะพวกเอ็ง ทำงานที่นี่มีกฎอยู่ข้อเดียว คือห้ามเอาเรื่องที่รู้ที่เห็นภายในบ้านนี้ไปพูดนอกบ้านเด็ดขาด...ไม่งั้นพวกเอ็งโดนไล่ออกด้วยลูกปืนแน่ๆ...ฉันเตือนด้วยความหวังดีแล้วนะ...จัดของเสร็จแล้วก็ตามไปที่ครัวด้วยล่ะ จะได้แบ่งงานกัน...” แม่บ้านแว๋วเอ่ยพลางลุกขึ้นยืนปัดขากางเกงเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมคำสั่งแรกที่ทิ้งไว้ให้เอื้องผึ้งกับวายุพยักหน้ารับคำ

   ประตูห้องพักคนงานปิดลงไปได้ไม่ถึงนาทีดี ฝ่ามือเล็กแต่หนักของคนมีท้องกำมะลอก็กำเข้าแล้วปล่อยหมัดฮุกขวาเข้าสันกรามนายตำรวจใหญ่ได้พอดิบพอดีเป๊ะ...ดีที่เขานั้นหนังหน้าหนาพอ และซ้อมระบบกระชับผิวหน้าเตรียมพร้อมรอให้เอื้องผึ้งตบอยู่ตลอดเวลา เผื่อต้องมีฉากดราม่าน้ำตาตกทะเลาะตบตีกันเหมือนพวกผัวเมียใจแตกทั่วไปชอบกระทำกัน แต่ถึงกระนั้นแรงที่อีกฝ่ายประเคนมาก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำเอานายตำรวจต้องกุมแก้มร้องโอ๊ยออกมาหน่อยพอเป็นพิธี

“เมีย! ต่อยผัวทำไมเนี่ย!” วายุออกปากถามเสียเข้ม

“ก็มาหยิกเอวเขาทำไมเล่า” เอื้องผึ้งลุกขึ้นยืนกอดอกมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเคืองขุ่นไม่แพ้กัน

“ก็คุณไปเผลอหลุดปากถามเรื่องตำรวจขึ้นมาทำไม เกิดแม่แว๋วอะไรนั่นจับได้ขึ้นมาก็ซวยกันทั้งก๊กหรอก”

“ฮื้อ...ไม่หรอกน่า มือชั้นนี้แล้ว...ว่าแต่...เจ็บมากเลยเหรอคุณหรือแค่สำออย” เอื้องผึ้งพูดพลางพิจารณาท่าทางกุมแก้มตัวเองของอีกฝ่ายแล้วก็นึกสงสัย ว่าเขาก็ยั้งแรงแล้วแท้ๆนา อีกฝ่ายก็ตั้งท่ารับให้เขาต่อยแต่โดยดี จะมาโอดโอยตอนนี้ก็ดูจะตอแหลเกินไปแล้ว

“เจ็บจริงสิคุณ! ผมเตรียมหน้ามาสำหรับโดนตบนะไม่ใช่โดนต่อย...หนังคนนะโว้ยไม่ใช่หนังหมู ไอ้เด็กบ้า...” ท้ายประโยควายุแอบด่าอีกฝ่ายเบาๆให้ตัวเองได้ยินคนเดียว เอื้องผึ้งเงยมองหน้าเขาแบบขอโทษขอโพย ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือศีรษะแล้วออกปากเอ่ย

“งั้นผึ้งขอโทษก็ได้...มา ขอแก้ตัว...หันอีกข้างมาผู้กอง เดี๋ยวผึ้งตบให้ใหม่จะได้เจ็บเท่ากัน...”

   ไอ้เด็กผึ้งเอ่ยออกมาตาใส ไอ้เด็กคนนี้มันเป็นเด็กบ้าจริงๆด้วย เบื้องหน้าก็แอบโชว์วงแหวนเทวดาบนหัวกับปีกนางฟ้าน้อยๆที่หลัง แต่ที่ก้นกลับเก็บซ่อนหางปีศาจเอาไว้ได้อย่างมิดชิด

คอยดูนะ...ซักวันพ่อจะล่อดึงทั้งเหล็กไนทั้งหางปีศาจออกมาให้หมดทั้งยวงเลยคอยดู!

แล้วผู้กองวายุก็ได้แต่ตั้งมั่นอยู่ในใจคนเดียวเป็นครั้งที่สอง

------------------------------   - -  -  ---  -         --            -     -         --       -           -

to be continue... 

ปิดเดือนนึงแล้วล่ะที่รักกกก >_< d  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2013 00:45:08 โดย dek-zaal3 »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
5555 ผัวเมียคู่นี้จะรอดไหมเนี่ย

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
สนุกๆๆ ชอบคุณภรรยา น่ารักน่าถีบดีจริงๆ กวนตรีนมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
แล้วเมื่อไรจะเป็นผัวเมียกันจริงๆล่ะคะ? 5555555555555555555555

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ขอตัวไปอ่านก่อนนะ
จองที่ก่อน
5555

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ลุ้นๆๆๆ ขอให้งานราบรื่น ><

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

อย่าเผลอแอ๊บหลุดล่ะทั้งคู่

+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ 7th SensE

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอาใจช่วยเอื้องผึ้งกับผู้กองวายุค่ะ ชอบอ่ะบทผัวเมีย อิอิ

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
บทผัวเมียน่ารักมากครับ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เล่นละครไปมา อีกไม่นานผึ้งไม่สถานะเมียจริงแน่ ๆ

555

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
รับเรื่องใหม่อีกหนึ่ง
สนุก น่าติดตาม
+1

ออฟไลน์ Vavaviz

  • oONaMMOo
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-4
โอย ฮาาา~

จะไปกันรอดไหมผัวเมียคู่นี้ 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด